หนุ่มเชอร์รี่ ตอนพิเศษ [ จบแล้วค่ะ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มเชอร์รี่ ตอนพิเศษ [ จบแล้วค่ะ ]  (อ่าน 55602 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: หนุ่มเชอร์รี่ # Shing Special - 23 ส.ค. 57 -
«ตอบ #150 เมื่อ24-08-2014 11:58:55 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ MESAAAAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: หนุ่มเชอร์รี่ # Shing Special - 23 ส.ค. 57 -
«ตอบ #151 เมื่อ24-08-2014 20:28:45 »

สิงโตน้อยยยยย โดนเพื่อนยุซินะ 555555555555555

น่ารักจริงจริ๊ง

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
Re: หนุ่มเชอร์รี่ # Shing Special - 23 ส.ค. 57 -
«ตอบ #152 เมื่อ24-08-2014 20:31:54 »

มีเพื่อนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยานี่เอง สิงห์เลยออกอาการ 55555555

หวังว่าเพื่อนจะช่วยยุจนตลอดรอดฝั่งนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: หนุ่มเชอร์รี่ # Shing Special - 23 ส.ค. 57 -
«ตอบ #153 เมื่อ24-08-2014 20:58:58 »

มิน่า สิงห์พัฒนาขึ้นน่าดู
สอนกันอย่างงี้นี่เอง ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
--- ตอนที่ 18 ---

“ สิงห์มึงเชื่อกูไหมว่าถ้ามึงมัวแต่อาย ชาตินี้มึงกับพี่เขาไม่ได้ทำอะไรกันพอดี ! ”
   
“ กูว่า กูก็อ่านไอ้นิยายที่มึงยืมมาแล้วนะ.. แต่ว่ากูต้องทำจริงๆ เหรอวะ ”
   
“ ทำสิสัส ถ้าไม่ทำชาตินี้มึงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”

   “ แต่กูอายว่ะ.. ”

   “ เอาน่า ช่วงแรกๆ มึงก็อายนั่นแหละ หลังๆ ก็ด้านได้อายอดนั่นแหละมึง ”

   “ เออ..  ”

   “ แล้วมึงก็จูบพี่เขาไปเลย ! ”

   “ ไอ้เหี้ยแดดครับ รอบที่แล้วรองเท้ากูคงไม่พอกับหลังมึงใช่ไหม !!!!  ”






   “ พวกมึงรู้ไหม ร้านเราอาจจะมีผีด้วยล่ะ ” หยกพูดขึ้นมาระหว่างเก็บร้าน ซึ่งมันก็ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศมืดๆ ค่ำๆ เลย สำหรับผม

   “ เพ้ออะไรของมึงวะ ไอ้หยก ” ไม้พูดด้วยท่าทางเอือมระอาบนโซฟา

   “ เอ้า มึงกูพูดจริงนะเว้ยย มีผีน่ะมีผี ” หยกยังคงพูดต่อไป ในมือก็ยังเช็ดโต๊ะอยู่
   
“ ร้านแคทมีผีด้วยเหรอครับ ” สิงห์หันมาถามผม
   
“ ไม่รู้สิ ” ผมส่ายหน้าตอบ หลังจากที่สิงห์พูดอะไรแปลกๆ ออกมา ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่ตอบอะไรจนกระทั่งร้านปิดและเก็บร้านโดยมีสิงห์อยู่ช่วย และวันนี้ผมต้องพาสิงห์ไปเลี้ยงอีก.. 

   “ มีไม่มีกูไม่รู้แต่ที่รู้ๆ มึงอ่ะเพ้อครับไอ้หยก ” แมททิวเหน็บบ้าง

   “ พวกมึงจะรุมด่ากูทำไมวะค่ะ ก็ก่อนที่จะมีร้านนี้ไง เมื่อก่อนมันมีเรื่องเล่านะเว้ย ”
   
“ ทำไมกูไม่รู้ล่ะ หยก ” แนทที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของหยกยังถามหยกงงๆ เลย
   
“ โหย อีแนทมึงเพื่อนกูป่ะเนี่ย ” หยกขมวดคิ้วหงุดหงิด “ ก็เมื่อวานอ่ะ ตอนกูกลับจากเซเว่น กูเจอป้ามาขายห่อหมกแถวร้านเราเว้ย    แล้วป้าเขาเห็นกูจะเดินเข้าร้านเรา ป้าแกเลยเรียกกูแล้วเล่าเรื่องประวัติให้ฟังเว้ยยย น่ากลัวสัส ” หยกลูบแขนไปด้วยระหว่างที่พูด

   “ ป้าคนไหนของมึงวะ ”  แมททิวเลิกคิ้วถาม รวมถึงคนอื่นๆ ก็เช่นกัน ทุกคนต่างหยุดมืดจากการทำความสะอาดแล้วมานั่งฟังกัน คงจะขี้เกียจทำกันนั่นแหละรวมถึงผมด้วย

   “ เออ ฟังๆ ไปเหอะค่ะ ก็ป้าแกเล่าว่า เมื่อก่อนที่ตรงนี้อ่ะแม่งเคยมีเรื่องเล่าเว้ย มีผู้ชายประสบอุบัติเหตุตรงต้นไม้ใหญ๋ร้านเราพอดีซึ่งตอนนี้ก็โดนตัดไปแล้ว เราเลยไม่เห็นแล้วป้าก็ยังบอกอีกนะว่าชอบมีคนเจอบ่อยๆ ตรงต้นไม้ด้วยเว้ยย น่ากลัวว ” หยกชี้ไปข้างนอกเมื่อพูดถึงต้นไม้ที่ว่า แต่บริเวณที่ชี้มันไม่มีอะไรเลย

“ จริงเหรอวะ ” แมททิวครางในลำคอ

   “ น่ากลัว.. ” ผมพูด ทำไมต้องมาเล่าตอนดึกๆ ด้วยครับหยก
   
“ กอดผมก็ได้ครับ ” สิงห์ที่ผมลืมไปแล้วว่ายังอยู่กระซิบ

   “ เหอะๆ ” ผมหัวเราะแห้งๆ ไม่ตอบรับอะไร

   “ เพื่อนหยกจะมาเล่าอะไรตอนนี้คะ ” แนทพูดด้วยหน้าเซ็งๆ แต่ผมว่าภายใต้หน้าเซ็งๆ ของแนท แนทก็ต้องกลัวบ้างแหละน่า

   “ ก็มันเพิ่งนึกได้นี่หว่า กูเลยแชร์ความหลอนให้พวกมึงด้วย กูจะได้กลัวน้อยลง ”
   
“ แล้วมึงซื้อห่อหมกป้าแกป่ะ ” ไม้ถามสิ่งที่ขัดกับสิ่งที่หยกเล่า

   “ ซื้อดิ แซ่บเวอร์มาก วันหลังกูจะซื้ออีกเนี่ย ” ดูท่าหยกจะแซ่บเวอร์จนลืมความกลัวเลย

   “ ป้าแกขายห่อหมกให้มึงใช่ไหม หลังจากเล่าจบ ” ไม้ยิงคำถามต่อ
   
“ ใช่แล้วป้าแกก็บอกว่าช่วยป้าแกซื้อหน่อย ”

   “ เฮ้อออออออออออออออออ ” ไม้ถอนหายใจ ซึ่งทำให้คนอื่นๆ ที่ขนลุกอยู่มองไม้อย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่
   
“ หยกเอ้ยวันหลังมึงไปนั่งอ่านมหาสนุกไปเหอะ ” ไม้พูดพร้อมเอามืดกุมขมับ

   “ ทำไมวะ ”
   
“ ก็กูจะบอกว่าไอ้ที่ๆ มึงชี้อ่ะ แม่งไม่ได้เคยมีต้นไม้เหี้ยอะไรเลยครับบ ตอนเด็กๆ กูผ่านแถวนี้กูชมวิวมองต้นไม้มองนกกูยังไม่เคยเห็นเลยครับ ต้นไม้ใหญ่ตรงที่มึงชี้เนี่ยย กูเห็นแต่ถังขยะที่แม่งตั้งไว้ ”

   “ อ้าว ! ป้าแกหลอกให้กูกลัวหรอกเหรอเนี่ย แม่ง ”

   “ กูเซ็งว่ะ ” แมททิวพูดแล้วหันกลับทำธุระที่ทิ้งไว้เมื่อกี้ต่อ

   “ โห เพื่อนหยกมึงไปนั่งมหาสนุกตามที่ไอ้ไม้บอกนี่รุ่งสุดแล้วจริงๆ วะ  ” หน้าที่เคยเซ็งของแนท ยิ่งเซ็งมากขึ้นไปอีก

   “ ... ” ผมว่าผมไม่ซ้ำเติมหยกดีกว่า ผมหันกลับไปเก็บร้านต่อโดยมีคนที่ผมต้องเลี้ยงตามมาต้อยๆ..

   กว่าผมกับเพื่อนจะเก็บร้านเสร็จก็นานโขทำให้ตอนนี้ก็ค่อนข้างดึกเลยทีเดียว หยกกับแนทกลับไปแล้ว ส่วนแมททิวกับไม้ขอตัวไปพบปะเพื่อนเก่าสมัยอนุบาลซึ่งผมพึ่งเข้ามาตอนประถมเลยไม่ได้ไปด้วย อีกอย่างผมมีเวรต้องเฝ้าร้านวันนี้ก็ค้างที่ร้าน ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงผมกับสิงห์   วันนี้ผมต้องเลี้ยงสิงโตหนุ่มมื้อนึง ผมซึ่งนั่งบนโซฟาตัวยาวตัวเดียวกับสิงห์หันไปถามเมนูจะกิน

“ สิงห์กินอะไรล่ะรอบนี้ ” 

   “ เสือ... ร้องไห้ครับ ” สิงห์ยิ้มตอบ
   
“ ผมกินไม่เป็น ผมไม่นับนะสิงห์ ” ผมถอนหายใจหน้าแดงๆ

   “ งั้นสั่งพิซซ่ามาก็ได้ครับ ” 

   “ ก็ดี ” ผมพยักหน้าแล้วควักมือถือออกมาแล้วกดเบอร์ระหว่างที่รอรับสายผมก็หันไปถามเมนูอาหารที่จะสั่งกับสิงโตผู้หิวโหย “ สิงห์กินหน้าอะไร ? ฮาวาเอียน ซีฟู๊ด ”

   “ ฮาวาเอียนถาดกลางก็ได้ครับ ”

   “ งั้นเอาฮาวาเอียนถาดกลางครับแล้วก็ไก่นิวออร์ลีน 12 ชิ้น เป๊ปซี่ขวดครับ ” ผมกรอกเสียงตอบพนักงานที่รับสายแล้ว “
เอาอะไรอีกไหม สปาเกตตี้ ? สลัด ? ”

   “ แค่นั้นก็ได้ครับ ”
   
“ แค่นี้แหละครับ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ ”  ผมเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าที่เดิมแล้วหันหน้าไปสบตากับสิงห์ วันนี้ผมอยากคุยเรื่องที่สิงห์พูดออกมาบ่อยๆ กับพฤติกรรมใหม่ของสิงห์ที่ทำเอาสิงโตขี้อายหายไปไหนไม่รู้  แต่พอผมจ้องหน้าสิงห์ไปนานๆ สิงห์ที่ยิ้มบางๆ อยู่เมื่อกี้กลับหน้าแดง
    ผมหลุดยิ้มกับไอ้ความคิดของผมที่คิดว่าสิงห์ขี้อายนั้นหายไป แต่ว่าตอนนี้ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะคุยกัน

“ สิงห์ ” ผมตีหน้าเคร่งให้เข้ากับเรื่องที่จะพูด

   “ ครับ ”
   
“ สิงห์ชอบเสือเหรอ ”

   “ แค่ก ! คะ ครับ ผมชอบเสือ ” สิงห์ไอออกมาอย่างตกใจ แล้วตอบผมหน้าแดงๆ

   “ เสือเชื่อนะว่าสิงห์ชอบเสือ..  ” ผมหน้าแดงกับประโยคที่ตัวเองพูดอยู่ “ แต่ว่าผมชอบสิงห์ที่ขี้อายมากกว่า ”
   
“ ครับ ”
   
“ แต่ว่าเสือก็ไม่รู้อยู่ดีว่าชอบสิงห์ไหม เอาเป็นว่าผมรู้สึกดีๆ กับสิงห์แล้วกัน ”
   สิงห์ชะงักไปชั่วครู่แล้วหน้าแดง  “ งั้น.. เสือครับถ้าสิงห์ไม่อยู่ที่นี้แล้วเสือจะคิดถึงไหม ? ” แล้วสิงห์ที่หน้าแดงตอนนี้เริ่มดูจริงจัง
   
“ คิดถึงสิ คนเจอกันบ่อยๆ หายไปก็ต้องคิดถึงอยู่แล้ว ”

   “ แล้วถ้าผมมาหาบ่อยๆ จะดีใจไหมครับ ”

   “ ก็ดีใจนะ มีคนคุยด้วยถูกคอ ”

   “ แต่คนๆ นั้นเป็นผู้ชายที่ชอบเสือนะครับ เสือจะให้ผู้ชายคนนั้นได้แต่มองอย่างเดียวเลยเหรอ ”

   “ แต่เสือยังไม่ได้ชอบเขานะ แค่รู้สึกดีด้วยเฉยๆ ”

   “ เสือเคยใจเต้นกับสิงห์ไหมครับ ” สิงห์หน้าแดงเถือกเมื่อถามออกมา
   คำถามที่ตอบยากมาแล้ว

   “ .. เคย ” ผมตอบเสียงเบา เอาเข้าจริงผมไม่อยากตอบเลย
   “ เสือครับ... ถ้าเสือไม่ชอบผมคงไม่ใจเต้นหรอก ถ้างั้นผมจะลองพิสูจน์นะครับ ถ้าเสือไม่ชอบที่ทำให้ต่อยผมก็ได้ แต่อย่าเกลียดผมเลย ”  สิงห์ขยับตัวเข้ามาใกล้ผมระหว่างที่พูด
   จนผมรู้สึกว่าไอ้สิ่งที่สิงห์พูดถึงตอนนี้มันก็เป็นตามที่สิงห์พูดอยู่

   “ นะครับ ” สิงห์กระซิบเสียงเบา ซึ่งตอนนี้หน้าผมกับสิงห์ห่างกันไม่ถึงเซนมีเพียงอากาศบางๆ ที่กั้นไว้ สิงห์อยู่ใกล้ผมมากจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่โดนใบหน้า
   
“ อืม ” ผมพึมพำตอบเสียงเบา
   สิ้นเสียงตอบของผม สิงห์ก็เอามือประคองหน้าผม แล้วผมก็รู้สึกถึงริมฝีปากที่แนบลงมา ให้ตาย.. ผมไม่คิดว่าสิงห์ที่ขี้อายจะกล้าทำขนาดนี้   สิงห์ไล้ลิ้นกับริมฝีปากของผมเบาๆ ทำเอาผมที่ฟุ้งซ่านไปเมื่อกี้ สมองยิ่งโล่งกว่าเดิม ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย

   “ รังเกียจไหม..ครับ ? ” สิงห์ผละออกจากหน้าผมไปตอนไหนไม่รู้ถามผม

   “ ไม่ ไม่เลย ” ผมส่ายหน้า ตอนนี้ทั้งผมทั้งสิงห์หน้าแดงพอๆ กัน
   
“ เสือคนชอบผมบ้างไม่มากก็น้อย ”

   “ อาจจะเป็นอย่างนั้นมั้ง ”

   “ งั้นครั้งหน้าตอนผมมั่นใจแล้วว่าเสือชอบผมมาก ผมจะลองพิสูจน์ดูอีกนะครับ ”
   ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน
   สิ่งที่ผมไม่ได้บอกคือลึกๆ แล้วผมก็รู้สึกดีกับไอ้เมื่อกี้เหมือนกัน

♪ ~
   
มีเสียงกริ่งที่เป็นเพลงคลอเบาๆ ขัดขึ้นมา
   “ พิซซ่าคงมาแล้วแหละครับ ”

   “ อืม งั้นผมไปเอาแปปนึง ” ผมลุกขึ้นจากโซฟา ซึ่งก็ยืนเซเล็กน้อยเพราะสมองยังทำงานไม่เสถียรเท่าไหร่ แล้วผมก็เดินอาดๆ ออกไปเอา ผมหวังว่าความมืดของข้างนอกจะทำให้พนักงานส่งพิซซ่าไม่ทักผมนะว่า ผมจะหน้าแดงทำไมแค่กับการรับพิซซ่า ใช้เวลาไม่นานก็เจอพนักงานส่งพิซซ่าที่ยืนรอหน้าร้าน

   “ เอ่อ.. ผมมารับพิซซ่าครับ ” ผมเรียกสติพนักงานส่งพิซซ่าที่ดูเหม่อๆ ชอบกล

   “ อะ ครับ ! ” พนักงานส่งพิซซ่าสะดุ้งโหยงอย่างตกใจแล้วหยิบบิลในมือขึ้นมาอ่าน “ 540 บาทนะครับ จ่ายเต็มจำนวนนะครับ ”
   
“ ครับ ” ผมพูดพร้อมยื่นเงินให้ซึ่งพนักงานส่งพิซซ่าก็รับไปใส่ในกระเป๋าพร้อมเอ่ยขอบคุณแล้วยื่นถุงพิซซ่าให้ผม

   “ พอดีว่าเมื่อกี้ผมเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆ น่ะครับ เมื่อตอนผมเด็กๆ ผมเหมือนเคยมาแถวนี้แล้วเจอเงารางๆ ของผู้ชายน่ะครับ อ้อ ไร้สาระนะครับ ไม่มีอะไรครับๆ ” ระหว่างที่ผมกำลังจังเดินกลับพนักงานส่งพิซซ่าก็พูดขึ้นมาลอยๆ

   “ เอ่อ.. งั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ ” ผมตอบกลับไปงงๆ แล้วรีบเดินเข้าร้าน อย่างว่าสมองผมยังไม่ค่อยเสถียรประมวลอะไรไม่ทัน
   
ท้องผมตอนนี้น่าจะมีสงครามภายในกันบ้างแล้ว
   
ผมวางถุงลงกับโต๊ะกลางเมื่อมาถึง แทบจะในทันทีที่วางก็มีตัวอะไรบางอย่างกระโดดเหยียบถาดพิซซ่าที่ยังไม่ได้แกะกล่อง

   “ ส้ม เสือหิวนะ หลบหน่อย ” ผมเอามือกวาดเจ้าแมวออกแล้วแกะกล่องพิซซ่า

   “ แง้ว ” ส้มกระดิกหูแล้วกระโจนขึ้นไปนั่งตักสิงห์แทน ทำเอาสิงห์ที่แกะกล่องไก่อยู่ตกใจจนเกือบทำกล่องตก

   “ ส้ม.. ” สิงห์พูดเสียงอ่อนแล้วเอาหลังมือถูหัวมันเบาๆ คาดว่าสิงห์คงขี้เกียจไปล้างมืออีกรอบ สิงห์ลูบมันต่อสักพักแล้วแกะต่อ เมื่อแกะเสร็จสิงห์ก็หยิบเอาพิซซ่าไปกินชิ้นนึง
   ซึ่งการกินของสิงห์นี่คือการจ้องผมไปกินไปดีๆ นี่เอง

   “ อะไรสิงห์ ” ผมถามเสียงขุ่น จ้องมากๆ ผมก็ประหม่านะ การกินพิซซ่าของผมนี่ไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่ ผมเริ่มกินขอบนอกรอบๆ ก่อนแล้วค่อยกินขอบในที่ผมชอบ ทำให้เวลากินเหมือนเป็นรอยแทะของฟันเวลากัด

   “ เปล่าครับ แค่คิดว่าเสือกินแปลกๆ ดี ” สิงห์ส่ายหน้ายิ้มๆ
   ซึ่งหลังจากจนประโยคของสิงห์ ผมกับสิงห์ก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อเนื่องด้วยความหิวที่สั่งสมตั้งแต่บ่ายๆ แต่กินต่อไปได้ไม่นานผมก็จุกแล้ว ตอนนี้ถ้ากลิ้งได้ผมกลิ้งไปแล้ว ส่วนสิงห์ยังกินต่อเรื่อยๆ  ส่วนเจ้าส้มตอนแรกนอนที่ตักสิงห์ก็กระโดดออกไปแล้วเดินไปที่ไหนไม่รู้ โชคดีที่อาหารทำให้สมองผมกลับมาเสถียรเหมือนเดิม

   เมื่อกี้เหมือนว่าพนักงานส่งพิซซ่าพูดว่าอะไรเงาๆ เนี่ยแหละ ผมนั่งนึกไปสักพักก็สะดุ้งในใจ เหมือนเรื่องที่หยกเล่าเลย แล้วตรงที่พนักงานเมื่อกี้เหม่อก็บริเวณที่หยกชี้ด้วย หรือเรื่องที่ป้าห่อหมกจะเป็นเรื่องจริง ?! งั้นตอนนี้ร้านผมก็ต้องมีพลังงานบางอย่างอยู่สิ

   “ สิงห์ รู้ไหมไอ้เรื่องที่หยกเล่าให้ฟังมันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ ”

   “ เรื่องผีนั่นน่ะเหรอครับ  ”

   “ นั่นแหละๆ เมื่อกี้เสือได้ยินคนส่งพิซซ่าเขาบอกว่าเจอเงารางๆ ของผู้ชาย ”
   
“ เขาอาจจะพูดเล่นก็ได้นะครับ ”

   “ ไม่รู้สิ แต่เสือว่าน่ากลัวเหมือนกันแฮะ ”

   “ เสือเคยเจอไหมครับ ? ”

   “ ไม่เคย แต่กลัว ”

   “ กลัวทำไมครับมีผมทั้งคน ” สิงห์พูดเสียงอ้อมแอ้ม
   
“ งั้นผมเลิกกลัวแล้วล่ะ ” ผมส่ายหน้ากับคำตอบของสิงห์ ถึงผมจะกลัวแต่ผมก็กลัวแบบมีขอบเขตบ้างล่ะน่า ถ้าไม่โผล่แบบแฮ่ ผมคงไม่กลัวมากหรอก คิดว่านะ
   
“ สิงห์จะอยู่นั่งย่อยที่นี่ไหม ? หรือจะกลับห้องดี ” ผมถามสิงห์ที่วางมือจากการกินที่ยาวนานมาก
   
“ กลับห้องก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียน ” สิงห์พูดพลางเช็ดมือด้วยกระดาษทิชชู่ เมื่อสิงห์เช็ดเสร็จสิงห์ก็จัดการยัดเศษซากอารายธรรมทั้งหลายเข้าถุงพิซซ่าอันเดิมส่วนผมก็ช่วยยัดอีกแรง

   “ งั้นผมไปส่งแล้วกันนะ ” ผมบอกระหว่างที่มัดปากถุงพิซซ่ากันพวกมดแมลงเข้า

   “ ยินดีครับ ” สิงห์ยิ้มบางๆ แต่หูแดงมาก

   “ ไปตอนนี้เลยเหรอสิงห์ ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ เพราะสิงห์บอกมีเรียนอาจจะรีบกลับห้องไปนอนหรือทำอะไรต่อมิอะไรทำนองนั้น

   “ ครับ พรุ่งนี้มีคาบเช้า ผมไม่ถูกโฉลกกับแสงอาทิตย์เท่าไหร่ ถ้าไม่นอนเยอะๆ ผมคงไม่ตื่นแน่ๆ ”

   “ อืม ” ผมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ส่วนถุงพิซซ่าผมค่อยเก็บแล้วกัน ผมยื่นมือให้สิงห์จับเมื่อสิงห์ไม่ยอมลุกสักที

   “ ขอบคุณครับ ” สิงห์เอ่ยขอบคุณแล้วลุกขึ้นยืนบ้าง “ ส่งผมแค่ตรงนี้ก็ได้ครับ เสือ ผมไม่ถือหรอก ”

   “ หะ ..ตรงนี้ ? โอเค ตรงนี้ก็ตรงนี้ งั้นราตรีสวัสดิ์นะสิงห์ ” ผมตอบงงๆ
   
“ เช่นกันครับ ” สิงห์พยักหน้ารับแล้วค้อมตัวมาใกล้ผม

   จุ๊บ—

   “ ราตรีสวัสดิ์ครับ เสือของสิงห์ ” สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ ซึ่งน่าจะพอไปกันได้กับหน้าที่แดงคล้ายกับลูกกวาดวันคริสต์มาส สิงห์จ้องหน้าผมได้ไม่นานก็ขอตัวเดินฉับๆ ออกไป

   “ ... ” ทิ้งให้ผมนั่งหน้าแดงอยู่คนเดียว

   ผมว่านะ

   ไอ้วันที่ว่าของสิงห์

   มันคงจะไม่นานเท่าไหร่หรอก
   
ผมคิดว่างั้นนะ
   





   “ ซัน.. กูจูบพี่เขาไปแล้วว่ะ ”
   
“ เชี่ยยยย ไม่น่าเชื่อครับพี่น้องชาวเรา น้องสิงห์กินพี่เขาแล้วครับบบ ”

   “ จูบเฉยๆครับ ไอ้-สัส-แดด ”

   “ ฮะ เฮ้ย ใจเย้นนนน ไอ้สิงห์กูไม่เอาตีนมึงงงงง ”

-------------------

มาแล้ว  :katai5:


   
      
   
   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใช้ได้เลยสิงโตน้อย หุหุ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เย้ยยยสิงห์รุกไปอีกคืบแว้วววว :-[

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ตอนที่ 19 --

แว่นตา

ว่ากันว่าเป็นไอเทมพิเศษ ใครใส่แล้วจะมีอะไรเปลี่ยน

บางคนใส่แล้วหน้าเปลี่ยน บางคนใส่แล้วน่ารักกว่าเดิม

แต่ก็มีข้อขัดแย้งเสมอ บางคนใส่แล้วหน้าเอ๋อไปเลย

ซึ่งหวังว่าผมจะไม่ใช่กรณีถัดไปนะ

“ เฮ้ย แคทมึงจะไปจ้องหนังสืออะไรขนาดวะ ” หยกทักผม

“ ก็ถ้ามองปกติเสือมองไม่เห็น มันมัวๆ ” ผมขมวดคิ้วตอบระหว่างที่ผมพยายามอ่านตัวอักษรบนหนังสือพิมพ์

“ แคทหันมาๆ ” แนทตะโกนเรียกผม

“ อะไร ? ” ผมหันไปมองตามเสียงเรียก ในมือแนทมีไวท์บอร์ดที่ไว้เขียนลิสอะไรจิปาถะแต่ตอนนี้กำลังถูกเขียนด้วยคำว่าอะไรสักอย่าง

“ อันนี้อ่านว่าอะไร ” แนทถามพร้อมกับเคาะปากกาไวท์บอร์ดกับคำที่เพิ่งเขียนไป

“ หมา ” ผมตอบ

“ ถูก ” แนทพยักหน้าแล้วลบๆ กระดานให้ว่าง

“ แนทๆ กูขอคิดคำดิ ! ” ไม้ที่โผล่มาตอนไหนไม่รู้กระโดดไปยืนข้างๆ แนท

“ โอเค เอาคำว่า ? ” แนทถามไม้

   ไม้เอามือป้องปากกระซิบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   แนทยิ้มเจ้าเล่ห์รับเช่นกันแล้วก้มลงเขียน
   
เอ่อ.. ผมเริ่มไม่อยากตอบเท่าไหร่แล้วแฮะ
   
“ เสร็จ ! อันนี้อ่านว่าไร ? ” แนทยกกระดานถาม

   “ เอ่อ.. ” ผมขยี้ตาแล้วมอง ผมตัวอักษรเล็กกว่าเดิมเท่าตัว

   “ ธวิชชอบกินกล้วยไข่” ผมอ่านตะกุกตะกักโดยไม่คิดอะไร

   “ สัส ! ใครเรียกชื่อพ่อกู ” แมททิวที่เมื่อกี้นั่งเล่นเกมโทรศัพท์อยู่สะดุ้งตะโกนออกมาเสียงดัง

   “ ไม่มีนี่ แมททิว เอ่อ..หูฝาดรึเปล่า ”  ผมสะดุ้งกับเสียงตะโกน แนทกับไม้เกือบทำผมโดนตบแล้วไหมล่ะ
   
“ งั้นเหรอ.. ช่างแม่งละกัน ” แมททิวพยักหน้าแล้วหันกลับไปสนใจเกมต่อโดยไม่ลืมยัดหูฟังใส่หู

   ผมไม่เข้าใจแฮะได้ยินได้ไงเมื่อกี้ ทั้งๆ ฟังเพลงอยู่แท้ๆ โชคดีที่แมททิวกำลังมันกับเกมเลยไม่ถามไถ่อะไรต่อ

   “ ถูกนะจ๊ะ ” แนทยิ้มขำๆ แล้วลบๆ เขียนใหม่ ส่วนไม้นะเหรอลงไปกลั้นขำกับพื้นแล้ว
   
ผมกรอกตาเซ็งๆ
   
“ คำนี้ล่ะ ? ”

   “ ....ส เสือ ” มันตัวเล็กมากๆ จนผมต้องไล่ทีละคำ “ สระอิ.. ” ผมขยี้ตามอง “ งองู ”  ทำไมคำนี้มันคุ้นๆ ผมหรี่ตามอง “ หอหีบ..การันต์ ”
   
“ อ่านว่า ? ” แนทยิ้มเจ้าเล่ห์
   
“ เสือว่าเสือไปตัดแว่นดีกว่า ” ผมตัดสินใจเลี่ยงคำตอบแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์แทน

   ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมตัดสินใจไปตัดแว่นมาใส่ ที่ผมไม่ใส่คอนแทกเลนส์ ? ผมไม่กล้าใส่ตาตัวเอง มันน่ากลัวเกินไปที่จะลืมตาให้กว้างๆ แล้วแปะใส่ ผมได้แว่นเลนส์ใสกรอบสีน้ำตาลอ่อนมาใส่และมันก็ทำให้พวกหยกสนใจพอสมควรเมื่อผมกลับมาพร้อมกับแว่นอันใหม่

“ เฮ้ย นี่มึงไปตัดแว่นเลยเหรอวะ ” แนทวิ่งเข้ามาถาม

   “ แว่นสวยว่ะ อีแคท ” หยกพูด
   
“ มันมัวๆ ขี้เกียจนั่งจ้อง ”
   
“ ใครว่ะเนี่ย ใส่แล้วกูจำไม่ได้เลยไอ้สัส แคท ” ไม้โผล่หน้าออกมาดู

   “ เอ๋อเหรอ ? ” ผมจะได้ไปเปลี่ยนกรอบใหม่

   “ ไม่โว้ย โคตรฟรุ้งฟริ้งอ่ะ ! ” ไม้พูดพร้อมทำสะบัดมือใกล้ๆ หน้า
   
“ โคตรเหี้ยเลยไม้ ฮ่าๆ ” แนทหลุดขำ

   “ มึงอย่าไปทำอย่างนี้ให้ใครเห็นอีกนะ ” หยกพูดทั้งๆ ที่กลั้นหัวเราะ
   
ส่วนผมขำตั้งแต่ไม้พูดฟรุ้งฟริ้งแล้ว เอาเป็นว่ามันคงไม่ออกมาแย่แหละ เพราะแว่นอันนี้ผมคงต้องใส่ไปตลอดชาติเลยมั้งหรือไม่ก็ถ้าผมทำใจใส่คอนแทกส์เลนส์ได้น่ะนะ
   
“ เออ เกือบลืมวันนี้มึงนั่งเคาน์เตอร์ไปนะ แคท ” หยกบอกผม

   “ อ้าวแล้วหยกล่ะ ? ”

   “ อ้อ ตอนเที่ยงๆ กูต้องไปเป็นผู้ปกครองให้ลูกพี่ลูกน้องกูว่ะ แม่ง ”

   “ หะ มึงแอบไปมีลูกตอนไหนวะ ! ” แมททิวอุทานออกมา

   “ เหี้ย ! ลูกพี่ลูกน้องโว้ย มึงเล่นเกมไป ”

   “ ใครจะไปรู้ล่ะ กูได้ยินแต่ไปเป็นผู้ปกครองให้ลูก ” แมททิวบ่น

   “ เออ หุบปากไป ” หยกพูดเสียงเขียว
   
“ ว่าแต่.. แคทมึงนี่รีบเนอะ กูทักตอนเช้าสายมามึงตัดแว่นเลย ”
   
“ ร้านแว่นตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านเราเองนะ ”
   
“ เออๆ กูผิดเองที่ไม่ได้สังเกต ” แนทถอนหายใจเบาๆ แล้วดันหลังผมไปนั่งเคาน์เตอร์ “ ไปนั่งเคาน์เตอร์ไปมึง ร้านจะเปิดแล้ว ”
   
“ แต่นี่เหลือตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ ” ผมถามงงๆ ให้ผมไปนั่งเฉยๆ คงได้เบื่อตายกันพอดี

   “ แล้วมึงจะทำอะไรล่ะ ”
   
“ เต้นแอโรบิคไหม เดี๋ยวกูนำเอง ” ไม้ตอบกวนๆ
   
“ มึงมารักสุขภาพอะไรตอนนี้คะ คุณไม้มึงไปนั่งเล่นเกมดูทีวีฟังเพลงอะไรก็ได้ดีกว่านะ ” แนทตอกกลับ

   “ ก็กูแนะนำเฉยๆ ”  ไม้บุ้ยปากเซ็งๆ
   “
 พุทโธ่เอ๋ย  เพื่อนไม้ ถ้ามึงอยากออกกำลังกายจริงๆ เดี๋ยวเย็นๆ กูพาไปหาม๊ากูเอง ” แมททิวตบบ่าไม้อย่างเห็นใจ
   
“ ไม่เป็นไรว่ะ กูไม่อยากไปรำไทเก๊กกับม๊ามึงว่ะ ”
   
“ มึงก็พูดไปนะสัส ม๊ากูนี่ระดับปรมาจารย์เลยนะเว้ย ”

   “ ไม่เป็นไรสัส กูยอมเสียสุขภาพ ”

   “ เฮ้ย ไม่ไปจริงๆ เหรอวะ ม๊ากูมีแต่คนให้มาช่วยสอนนะเว้ย ”

   “ ไอ้เหี้ยยยย กูไม่ไปปป ”  ไม้ส่ายหน้ารัวๆ

   “ งั้นเดี๋ยวกูพาม๊ามานี้ก็ได้  ถือว่ามาเที่ยวร้านด้วย ”
   
“ กูโครตเกรงใจเลย ไม่ต้องหรอกครับบ ไอ้สัสแมททิว ”

   “ แล้วมึงจะเสียใจ ” แมททิวส่ายหน้าเซ็งๆ

   “ เออ เดี๋ยววันนี้กูกลับไปร้องไห้เลยอ่ะ ”

   “ โอ๊ย พวกมึงคุยกันจนกูลืมเลยจะพูดอะไร ” หยกแว้กใส่แมททิวกับไม้ “  ช่างมันละกัน เดี๋ยวกูกลับมาตอนเย็นๆ นู่นนะ ไปละบายค่ะเพื่อนๆ ” หยกโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินออกจากร้านไปเลย

   “ หะ.. ” แนทส่งเสียงออกมางงๆ
   
“ งั้นเสือนั่งเคาน์เตอร์รอเฉยๆ ก็ได้แนท ” เอาเป็นว่าผมไปนั่งแต่โดยดีมันน่าจะดีกว่า

“ กูก็ว่างั้น ” แนทยักไหล่แล้วมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ผม
   
“ แง้ว ~ ”
   
มีเสียงเจ้าส้มดังใกล้ๆ ซึ่งมันก็ทำให้ผมกับแนทสะดุ้งเลยทีเดียว ผมมองหาส้มสักพักก็พบว่ามันนอนอยู่ใต้เก้าอี้ผมนี่เอง ผมอุ้มมันขึ้นมาไว้บนตักแล้วลูบหัวเบาๆ เจ้าส้มก็เอาหัวไซร้มืออย่างน่ารัก เจ้าส้มเดี๋ยวนี้ก็โตจนปลอกคอจะใส่ไม่ได้แล้ว นับวันก็อืดเอาๆ ผมว่าเหมือนผมขุนหมูขึ้นมายังไงยังงั้น

   “ มึงไม่คิดจะซื้อปลอกคอใหม่ให้ส้มหน่อยเหรอวะ ” แนทพูดพร้อมยกเจ้าส้มไปเล่นบ้าง

   “ ก็คิดๆ อยู่แต่ชอบลืมว่าต้องซื้อ ”
   
“ กูไม่แปลกใจว่ะ ”  แนทพูดขำๆ

   “ เออ น่าวันไหนเสือจำได้วันไหนปลอกคอใหม่ก็มาเองนั่นแหละ ”

   “ โห่ๆ มึงก็ให้คนที่เดินมาซื้อให้ดิ เชื่อกูวันเดียวได้แน่นอน ”
   
“ ใครละนั่น ” ผมพูดน้ำเสียงเอื่อยๆ แล้วหันไปมอง

   “ อรุณสวัสดิ์ครับ ” สิงห์ยิ้มบางๆ

บางครั้งผมก็สงสัยนะ ทำไมสิงห์ชอบมาประเดิมร้านคนแรกๆ ตลอดเลย

“ อืม อรุณสวัสดิ์ ” ผมยิ้มตอบ

“ มอนิ่งค่ะ มอนิ่ง  ถ้าจะคุยกัน กูไปนั่งเล่นในครัวกับส้มก็ได้ ” แนทพูดยิ้มๆ

“ แนทนั่งนี่ก็ดีแล้วนี่ จะไปนั่งในครัวทำไมล่ะ ”   

“ กูหิวข้าวค่ะ ” แนทว่าจบก็เดินฉับๆ ออกไป

“ โอเค ในครัวก็ในครัว ” แล้วแต่แนทแล้วกัน
   
“ แว่นใส่แล้วน่ารักนะครับ ” สิงห์หน้าแดง
   
“ ขอบคุณ ” ผมพยักหน้ารับ “ เออ แนทบอกว่าน่าจะซื้อปลอกคอใหม่ให้ส้มได้แล้ว ”

   “ ความจริงผมก็กะจะซื้ออยู่ แต่กลัวซื้อมาซ้ำ ”

   “ ซื้อมาเลยๆ ถ้าผมซื้อคงไม่ได้ ”

   “ ทำไมล่ะครับ ? ”

   “ ผมขี้ลืมน่ะ ”
   
“ งั้นไปเย็นนี้ไหมละครับ ”
   
“ หลังเลิกงานก็ได้ล่ะ ”
   
“ โอเคครับตกลง เย็นนี้นะครับ ”
   
“ อืม.. ว่าแต่สิงห์มาทำอะไรที่ร้านแต่เช้าเนี่ย ? ”
   
“ ธุระนิดหน่อยบวกกับคิดถึงครับ ”

   “ ก็ดีๆ ”  ผมคิดว่างั้นนะ แต่มันก็ทำผมหน้าแดง
   
กรุ๊งกริ๊ง

   “ ยินดีต้อนรับครับ  ” เสียงแมททิวเอ่ยต้อนรับลูกค้าซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่า ตอนนี้ร้านเราเริ่มมีลูกค้าเข้าแล้ว
   
“ สิงห์เอาอะไรไหม ร้านเปิดแล้วล่ะ ? ” ผมหันไปถามสิงห์   
   
“ ขอเป็นโกโก้ร้อนสัก 3 แก้วละกันครับ ”  สิงห์พูดพร้อมกับนั่งเก้าอี้ที่ติดกับเคาน์เตอร์ที่มีอยู่ 2-3 ตัว สิงห์วางแผ่นชีทกับกระดาษอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ที่ผมไม่ได้สังเกตเห็นตอนแรก ไว้เก้าอี้ว่างอีกตัวนึง
   
“ 3 แก้วเลย ? ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ มาแค่คนเดียวเองไม่ใช่เหรอ

   “ ครับ พอดีวันนี้ผมนัดเพื่อนมาทำค่ายติวนรกที่ร้านแคทน่ะครับ ”
   
“ ค่ายติวนรก ? ”  ชื่อดูไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่

   “ ก็แค่ติววิชาที่ไม่ค่อยได้กันเฉยๆ น่ะครับ  แต่แค่มีกติกาขำๆ นิดหน่อย ”
   
“ กติกาอะไรล่ะ ที่ทำให้เรียกค่ายติวนรกล่ะ ? ” ถึงปากผมจะถามสิงห์อยู่แต่ในมือผมตอนนี้ก็เริ่มชงโกโก้ร้อนตามที่สิงห์สั่ง นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่หยกให้ผมนั่งเคาน์เตอร์เพราะผมจำพวกสูตรเครื่องดื่มได้หมดส่วนคนอื่นๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แมททิวจำได้แต่ที่ชอบกิน อีกอย่างที่ผมจำได้เพราะผมกับหยกเป็นคนช่วยคิดเมนูน้ำเนี่ยแหละ ส่วนแนทก็พอชงได้
   
“ ใครทำไม่ได้หลังจากที่สอนก็โดนทำโทษอะไรนิดๆ หน่อยๆ น่ะครับ ”

   “ แล้วมันนรกตรงไหน ”
   
“ ถ้าผมได้ทำโทษ ผมจะให้ตอบคำถามครับ คำถามที่เพื่อนพยายามปกปิดอะไรทำนองนั้นซึ่งมันก็ทำเอานรกเหมือนกันกับคนที่โดน  ”

   “ แล้วถ้าสิงห์โดนล่ะ ? ”

   “ ไม่รู้สิครับ พวกนั้นคิดอะไรแปลกๆ นรกๆ แล้วให้ผมทำ มันไม่เหมือนกันสักรอบ ”
   
“ เช่น ? ”
   
“ ถ้าอยู่มหาลัยก็ให้ผมไปเต้นหน้าเซเว่นบ้าง วาดรูปเหมือนคนที่ผ่านไปแล้ววิ่งไปให้เขาบ้าง ซึ่งไม่ว่าอันไหนมันก็ทำให้ผมเหมือนจะลงนรกยังไงยังงั้น ” สิงห์หน้าแดงเมื่อพูดถึงเรื่องที่โดนทำโทษ

   “ อืม ผมเชื่อล่ะ ” ผมยิ้มบางๆ ผมเชื่ออยู่หรอกว่าคงนรกจริงๆ นั่นแหละสำหรับผู้ชายขี้อายมากๆ คนนึงอย่างสิงห์ถึงแม้ตอนนี้จะดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาหน่อยก็เถอะ ผมวางแก้วโกโก้ที่ไอร้อนลอยกรุ่นตรงหน้าสิงห์ “ ผมทำแค่แก้วของสิงห์ก่อนนะ ของเพื่อนสิงห์ถ้าทำตอนนี้มันจะเย็นแล้วไม่อร่อย เดี๋ยวร้านผมจะเสียชื่อเอา ” 
   
“ ครับ คงอีกสักพักนั่นแหละ กว่าเพื่อนผมจะมา ”  สิงห์พยักหน้ารับ
   
แต่คำพูดของสิงห์ก็ต้องเป็นอันผิดไป

และผมก็ต้องชงโกโก้เพิ่มอีก 2 แก้ว

   “ สวัสดีครับพี่ !  ” เพื่อนของสิงห์ที่สิงห์บอกอีกสักพักคงมาตอนนี้โผล่เข้ามาในร้านแล้วไหว้ผม
   
“ ..อืมๆ สวัสดีๆ ” ผมรับไหว้งงๆ รับไหว้คนอื่นเนี่ยทำผมรู้สึกเหมือนเป็นลุงวัยทองยังไงยังงั้น
   
“ สิงห์มึงติวตรงนี้เลยเหรอวะ ” เพื่อนสิงห์คนนึงที่ตัวพอๆ กับผม ย้อมผมสีทองแกมส้มเหมือนพระอาทิตย์หม่นๆ พูดด้วยสีหน้าทะเล้น
   
“ เดี๋ยวย้ายครับ คุณซัน ผมไม่คิดว่าคุณซันจะมาก่อนเวลาขนาดนี้ ” สิงห์หันไปพูดด้วยสีหน้าเหม็นเบื่อ ซึ่งสีหน้านี้ก็แปลกใหม่สำหรับผมพอสมควร เพราะผมส่วนใหญ่เห็นแต่หน้าแดงๆ ซะมากกว่า

   “ กูเนี่ยแหละครับที่ลากแม่งออกจากบ้าน ” เพื่อนสิงห์อีกคนที่ดูหงุดหงิดหน่อยๆ ตอบ
   
“ มึงไม่ต้องมาหงุดหงิดเลยลม มึงสัญญากับกูแล้วว่าจะมาปลุกกูเพราะนาฬิกาปลุกไม่สามารถใช้กับกูได้น่ะ ! ”

   “ โห กว่ากูจะลากมึงออกจากเตียงได้เนี่ย ยิ่งกว่าพรากลูกหมีโคอาล่าจากแม่มันเลยนะโว้ย ”

   “ มึงเปรียบกูได้น่ารักมาก กูให้อภัยมึง ”
   
“ กูเปรียบให้มึงสำนึกผิดครับ ไอ้แดด ”
   
ผมที่มัวแต่มองสิงห์กับเพื่อนคุยกันเลยไม่ได้สังเกตว่าแมททิวโบกบิลหยอยๆ อยู่ข้างหลังสิงห์ จนแมททิวสะกิดเพื่อนสิงห์เพื่อขอทาง “ ขอทางหน่อยครับๆ  ”

   “ ครับๆ ” ทั้งสองคนนั้นหลีกทางให้แมททิวมายื่นบิลให้ผมซึ่งแมททิวก็แว้กผมไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว พรุ่งนี้ผมจะไม่ให้แมททิวกินข้าว “ ไอ้แคทมึงก็อย่ามัวแต่มองเพื่อนว่าที่แฟนมึงสิครับ สนใจกูบ้าง วันนี้กูอุส่าต์ตั้งใจทำงานนะสัส ”
   
“ ร้อยวันพันปีอู้ตลอด วันนี้มาบ่นอะไรครับแมททิว ” ผมขมวดคิ้วตอบและทำเป็นไม่ได้ยินคำแปลกๆ ที่แมททิวพูด

   “ กูก็อยากขยันบ้างไม่ได้รึไง วันนี้กูกินทาร์ตไข่มาเลยตั้งใจทำงาน ” อ้อ แมททิวชอบกินทาร์ตไข่เป็นพิเศษแต่ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความขยันเท่าไหร่นะ   

   “ ไปขยันตรงนู้นไป ลูกค้ามาแล้วนั่น  ” ผมรับบิลมาแล้วสะบัดมือไล่แมททิวเชิงว่า ไปได้แล้ว

   “ เออ !  ” แมททิวกระแทกเสียงตอบแล้วเดินไปเลย
   
แมททิวจะงอนไหมเนี่ย ผมว่าผมคงต้องเปลี่ยนแผนเป็นเลี้ยงข้าวง้อแล้วมั้ง
   
ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วเหลือบมองบิลชั่วครู่เพื่อจดจำเมนู พอผมจำได้ก็เริ่มลงมือชงเครื่องดื่มเพิ่ม ส่วนเพื่อนสิงห์ก็กลับมาคุยเฮฮาเหมือนเดิม

   “ แคทครับๆ ” สิงห์เรียกผม
   
“ ฮะ ” ผมหันไปตามคำเรียกพร้อมกับหยิบอุปกรณ์การชงออกมาชง

   “ คนที่ผมเหลืองๆ อุบาทว์ๆ นี้ชื่อซันครับ ” สิงห์เอามือชี้หน้าซันซึ่งมือสิงห์เกือบจะจิ้มหน้าซัน

   “ เดี๋ยวกูจะกัดนิ้วมึงนะสัส ” ซันพูดพร้อมอ้าปากจะงับ
   
“ ส่วนนี้ชื่อลมครับ ” สิงห์เก็บมืออย่างรวดเร็วแล้วเอามือไปแปะไหล่ลม ซึ่งลมก็ผงกหัวรับกับคำแนะนำตัว
   หลังจากฟังแนะนำเพื่อนจากสิงห์เสร็จ ผมก็ต้องแนะนำตัวเองสินะ
   
“ ผมชื่อ “ เสือ ” แต่เพื่อนชอบเรียกแคทจะเรียกตามก็ได้ผมไม่ว่าเพราะตอนนี้ก็แทบหาคนเรียกเสือไม่ได้แล้ว ” ผมหยุดมือจากการชงแล้วยิ้มบางๆ พร้อมกับแนะนำตัวเอง
   
“ งั้นเดี๋ยวผมเป็นส่วนน้อยเรียกพี่เสือเองครับ ” ลมพูด

   “ ลมไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ก็ได้อายุห่างกันไม่เท่าไหร่เอง ผมจะดูแก่ซะเปล่าๆ ” เพราะผมเคยโดนเรียกว่าลุงด้วย มันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่เลย

   “ ผมเรียกเสือด้วยคนดีกว่าเป็นส่วนน้อยน่าสนุกกว่า ” คนผมเหลืองหม่นพูด
   “
 งั้นแปลว่าผมก็เป็นส่วนมากละสิ ” สิงห์ถอนหายใจ
   
“ เรียกอะไรก็ได้น่า ผมไม่ว่าหรอก ” ถ้าผมว่าผมคงไม่โดนเรียกตั้งแต่สมัยเรียนยันตอนนี้หรอก ผมลงมือชงโกโก้ต่อ ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาก็เอาโกโก้เหมือนกัน วันนี้มันวันอะไรกัน วันโกโก้ ? ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าผมต้องชงซ้ำสองรอบแล้วกัน ชงทีเดียวผมกลัวว่ามันจะรสชาติเพี้ยน

   “ แคทครับ เดี๋ยวผมคงต้องย้ายไปนั่งนู่นก่อนนะครับ ไม่คิดว่าพวกนี้จะมาไวขนาดนี้ ” สิงห์หอบสิ่งที่พึ่งวางไปหมาดๆ

   “ เอ้า กูมาช้าก็ด่ามาไวก็บ่นนะสัส ไอ้ซิมบ้าเอ้ย ! ”
   
“ เวรครับ แดด ” สิงห์ตอกกลับเสียงเย็น
   
“ โอเคๆ เดี๋ยวผมให้เพื่อนผมยกโกโก้ไปให้พร้อมกันเลย ” ผมพยักหน้ารับ ความจริงผมจะหลุดขำกับท่าทางของที่ดูโมโหเกินไปของซันแล้ว ท่าทางของซันเหมือนเด็กที่ซนๆ คนนึง
   
สิงห์พยักหน้ารับแล้วลากเพื่อนทั้งสองคนไปนั่งที่มุมของร้าน ซึ่งก็ เป็นมุมเงียบๆ ของร้านที่สิงห์มักมาจับจองนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับกินเค้กเชอร์รี่อยู่เสมอ
   
ว่าไปช่วงนี้ไม่ค่อยได้กินเค้กเชอร์รี่เลยแฮะ คิดแล้วก็อยากกิน ผมคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยระหว่างที่ชงโกโก้ในมือ ตอนนี้ผมต้องชงถึง 4 แก้ว ระหว่างชงผมก็ลองชิมดูเรื่อยๆ เพราะอยากให้รสชาติใกล้เคียงกับหยกมากที่สุด ส่วนของสิงห์ผมชงสูตรที่ตัวเองชอบกินไปทำให้ไม่ได้ชิมอะไรหลายรอบเท่าไหร่ ใช้เวลาไม่นานโกโก้ทั้ง 4 แก้วก็เสร็จ ผมหยิบเค้กช็อคโกแลตจากตู้มาไว้ในถาดที่จัดไว้ให้ลูกค้าที่เพิ่งมาและอีกถาดเล็กๆ ใส่แก้วโกโก้ของเพื่อนสิงห์ ผมกดกริ่งที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ดังกริ๊งๆ เพื่อเรียกใครสักคนมาเอาไปเสิร์ฟซึ่งผมก็หวังว่าแมททิวจะเลิกงอนผมแล้วมาหยิบไปนะ
   
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าแมททิวจะงอนผมจริงๆ ด้วย เพราะไม้เดินทำหน้าเซ็งมาหาผม
   
“ เฮ้ย แคทมึงไปทำอะไรเพื่อนกูวะ แม่งโยนให้กูมาเอาเนี่ย ” ไม้บ่นงุ้งงิ้งพร้อมกับรับถาดสองถาดที่ผมยื่นให้

   “ ก็แค่แซวนิดหน่อยเอง ” ผมถอนหายใจ “ งั้นไม้ เสือฝากบอกแมททิวว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เสือจะซื้อทาร์ตไข่ให้กินกล่องนึง ” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว 
   
“ 3 กล่อง ” ไม้ตอบเสียงเข้ม

   “ อะไรนะ ? ” ผมถามงงๆ 
   
“ แมททิวฝากมาบอกว่าถ้าจะง้อด้วยทาร์ตไข่เอา 2 กล่องส่วนอีกกล่องนึงกูอยากแดกเฉยๆ ” ไม้ตอบหน้าทะเล้นในประโยคสุดท้าย
   
“ โอเคๆ 3 กล่องก็ 3 กล่อง ” ผมพยักหน้ารับอย่างจำยอม
   
“ เฮ้ย กูพูดเล่นน่า ” ไม้พูดขัดทันที “แค่ 2 กล่องกูก็แย่งมันกินจนจุกตายห่าแล้ว ”
   
“ น่า ซื้อมากี่กล่องก็แบ่งกันกินอยู่ดีนั่นแหละ ”

   “ แต่ถ้า 3 กล่องกูจะแฮปปี้ม้ากมาก เอออันนี้ของโต๊ะไหนมั้งวะ กูจะรีบเอาไปเสิร์ฟมัวแต่คุยกับมึงเนี่ย ” ไม้บ่นงุ้งงิ้งในประโยคท้าย
   
แย่ละ.. ผมก็ลืมอีกโต๊ะที่พึ่งเข้ามามันโต๊ะไหน ผมรีบคว้าบิลที่พึ่งเสียบไปออกมาดู “ โต๊ะ 7 นะอันที่มีเค้ก ส่วนอีกอันโต๊ะสิงห์นะ ” ผมรีบบอกไม้เพราะเกรงว่าถ้าช้าไปกว่านี้ไม้อาจจะวีนใส่
   
“ โอเคครับ กูไปล่ะ ” ไม้ขานรับสั้นๆ แล้วก้าวเท้ายาวๆ ของตัวเองไปทันที

   ถ้าอย่างนั้นผมก็ว่างสิ  ซึ่งมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่กับช่วงเช้าๆ ที่คนเพิ่งตื่นนอน เวลาว่างนี้ผมแอบมองค่ายนรกดีกว่าแต่ไม่น่าเรียกว่าแอบเพราะผมนั่งจ้องเลย  โอเคผมควรเรียกมันว่าการนั่งดูเลยดีกว่า ซึ่งภาพที่ผมเห็นก็ชวนอมยิ้มไม่น้อย ซันกำลังนั่งสอนลมกับสิงห์ที่ทำหน้าฉงนกับสิ่งที่ซันพูด ซันจึงโวยวายใส่สองคนนั้นด้วยท่าทีที่คุกคามซึ่งมันดูเหมือนหมาที่เห่าคนแปลกหน้ายังไงยังงั้น แต่คนแปลกหน้าสองคนที่ว่ากลับดูเฉยเมยไม่ใส่ใจแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้ยินซึ่งมันก็ทำเอาซันกลายเป็นร็อตไวเลอร์หมายจะกระโดดกัดแทน ผมหลุดหัวเราะเบาๆ เมื่อซันโดนลมเอาชีทม้วนๆ แล้วตบป้าปเข้าที่หัวซันจึงยอมสงบลงแต่โดยดีแล้วอธิบายใหม่  ภาพพวกนี้ทำเอาผมนึกถึงสมัยเรียนเลยแฮะ
   
แต่แล้วการนั่งดูของผมก็ต้องหยุดลงเพราะแมททิวมายืนหน้าทะมึนใส่ผมตอนไหนไม่รู้ซึ่งผมที่หันไปเจอพอดีก็สะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ พ่อคุณทาร์ตไข่มายืนทำหน้าเครียดใส่ผมทำไมเนี่ย “ เอ่อ.. มาส่งออเดอร์เหรอแมททิว ” ผมคาดเดาเหตุผลที่แมททิวมายืนหน้าทะมึนใส่
   

   


ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
“ เปล่า กูหิวข้าว ” แมททิวตอบหน้าเครียดพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้เคาน์เตอร์

   “ กินทาร์ตไข่มาแล้วไม่ใช่ ? ” คนอย่างแมททิวไม่ปล่อยให้ท้องหิวหรอก

   “ เออ กินมาแล้วแต่กูยังหิว แต่กูไม่อิ่มเคไหมครับ ”

   “ แล้ว ? ” พ่อกระเพาะหลุมดำต้องการอะไรจากเสือคนนี้ครับ ผมไม่เชื่อหรอกว่าเพราะความหิว
   
“ กูงอนมึงนะ สัส ! ทาร์ตไข่กูพรุ่งนี้ห้ามให้ไม้แม่งแดกนะเว้ย มันแดกของกูทีไรแม่งกูไม่เคยแดกอิ่มอ่ะ ”

   “ คุยกับไม้เองสิ มาบอกเสือทำไม ” ผมขมวดคิ้ว
   
“ มึงเป็นคนซื้อมาก็มีสิทธิห้ามไง  ” แมททิวโวยวาย ดูเหมือนว่าอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องกินแมททิวจะจริงจังมาก

   “ ... โอเคๆ เดี๋ยวคุยให้ หายงอนด้วยแล้วกัน แมททิว ” ผมถอนหายใจ

   แมททิวยิ้มกับคำตอบ “ โอเคครับ กูหายงอนล่ะ เอาคุกกี๊ที่เป็นตัวอักษรมากินหน่อยแก้หิว ” ไม่ว่าเปล่าแบมือขอด้วย
   
“ เปลืองจริงๆ ” ผมยอมเปิดโหลขวดแล้วหยิบให้หยิบกำมือนึง ไม่ต้องกลัวหมดเพราะยังมีตุนอีกเยอะในครัว
   
“ ทำไมมึงไม่เอาเป็นตัวอักษรชื่อกูเนี่ย กูจะได้กินอร่อยขึ้น ” แมททิวบ่นงึมงำแล้วเรียงตัวอักษรเป็นคำๆ ซึ่งคำส่วนใหญ่ก็เป็นคำง่ายๆ อย่างด็อกหมาอะไรทำนองนั้น แมททิวเรียงคำเสร็จก็กินคำเพิ่งเรียงไป ดูว่างจังนะ แมททิว
   
กรุงกริ๊ง
   
ลูกค้าเข้าร้านแล้วมีเสียงไม้พูดต้อนรับแว่วๆ แต่คุณแมททิวดูเพลิดเพลินกับการเรียงคำแล้วกินมากจนไม่สนใจอะไรเลย ถ้าผมเหน็บอีกจะโดนงอนอีกไหมเนี่ย เอาเป็นว่าผมบอกดีๆ ดีกว่า “ แมททิวลูกค้าเข้าร้านแล้วนั่น ไปรับออเดอร์ไป ” 
   
“ เชี่ย ตัว Z มากูจะสะกดอะไรได้วะ สระแม่งก็แดกไปหมดแล้วอีกโว้ย ” แมททิวก็กินตัว Z สิจะได้หมดเรื่อง
   
“ ไปรับออเดอร์ก่อนไปแมททิว ถ้าอยากได้สละค่อยรอหน้าร้อน ” ผมหยิบตัว Z ที่แมททิววางไว้บนกระดาษทิชชู่ที่ใช้เรียงคำใส่ปากแล้วเคี้ยวกรุบๆ อร่อยดีแฮะ
   
“ สละบ้านมึงสิ กูเอาสระที่เป็นเออีไอโอยูครับ ” แมททิวย่นคิ้วใส่ผมพร้อมกับลุกขึ้นยืน แมททิวเดินไปพร้อมบ่นงึมงำอะไรสักอย่างที่ผมไม่ได้ยิน

   เอาเป็นว่า มันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องของกินแล้วกัน เท่าที่ผมเดาจากประสบการณ์การเป็นเพื่อนอันยาวนาน แล้วผมก็ต้องเลิกคิ้วงงๆ เพราะสิงห์เดินมาหาผมที่เคาน์เตอร์ด้วยหน้าที่แดงๆ อย่าบอกนะว่า เป็นไอ้บทลงโทษของค่ายติวนรกละสิ ? ผมเหลือบไปมองโต๊ะที่สิงห์นั่งเห็นซันกับลมกำลังนั่งลุ้นหันมองมาทางนี้แต่เมื่อเห็นผมหันไปมองก็ทำเป็นมองไปทางอื่นซึ่งมันไม่เนียนเอาซะเลย ผมหันมาสนใจสิงห์ที่เดินมาถึงเคาน์เตอร์ด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนชอบกล
   
“ สั่งอะไรเพิ่มเหรอสิงห์ ? ” ผมถามลองเชิงไปเล่นๆ ด้วยสีหน้าปกติ

   “ เปล่าครับ.. เอ่อ แคทครับ ผมขอด่าอะไรหน่อยได้ไหมครับ ? ”
   
เวลาจะด่าต้องขอด้วยเหรอ ? ผมเลิกคิ้วงงๆ
   
“ เอาสิ ”
   
“ เอ่อ.. ไอ้น่ารัก !! ไอ้ชงกาแฟอร่อย ! ไอ้ชอบกินเชอร์รี่ ! ไอ้ไทเกอร์ ! ไอ้ชอบกินน้ำแดง ! เอ่อ.. ไอ้ซัน ! ” สิงห์ตะโกนเสียงดัง

ลั่นเรียกให้คนในร้านหันมามองแต่เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นก็หันไปสนใจสิ่งที่จดจ่อเมื่อกี้ต่อ
   มันเป็นอะไร น่าจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจคนในร้านยกเว้นคนที่รู้เรื่อง สิงห์หน้าแดงเถือกเอ่ยขอโทษเสียงเบา ผมหลุดหัวเราะออกมาเมื่อลองนึกๆ คำด่าที่ว่าเมื่อกี้ “ มันใช่คำด่าซะที่ไหน นอกจากคำว่า ‘ ไอ้ ’ เนี่ย  อีกอย่างว่าผมชอบกินสิงห์ก็ชอบกินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ”
   
“ แต่คำด่าก็มีคำว่า ซัน ด้วยนะครับ ”
   
“ ซันเพื่อนสิงห์น่ะเหรอ ? ”     
   
“ ครับ มันทั้งขี้งกขี้บ่นตื่นสายบ้าปัญญาอ่อน ” สิงห์ร่ายยาว
   
“ แต่ผมไม่ได้ขี้งกขี้บ่นตื่นสายบ้าปัญญาอ่อนซะหน่อย ” ตื่นสายก็แค่บางครั้งแหละน่า

   “ นี่มึงนินทากูเหรอครับ ไอ้ซิมบ้า! ” ซันโผล่พรวดกระโดดรัดคอสิงห์    
   
“ ปะ ปล่อย อ่อก ” สิงห์พยายามแงะมือคนผมสีเหลืองหม่นออก

   “ ไอ้สัสแดด มึงทำอะไรเพื่อนกูครับ ” ลมที่เดินตามมาทีหลังช่วยแงะซันออกจากสิงห์แล้วปล่อยลงบนพื้น
   
“ แต่ที่มึงด่าพี่เขานี่ จากใจจริงเลยเหรอวะ ” ซันที่ยืนมั่นคงแล้วถามด้วยหน้าที่ทะเล้น
   
“ ด่าผมได้เจ็บปวดมาก ” ผมพยายามปั้นหน้านิ่งเรียบทั้งๆ ที่เมื่อกี้เผลอหลุดหัวเราะไปแล้ว สิงห์ดูตกใจและสลดลงเล็กน้อย

   “ สิงห์มึงด่าพี่เสือยังงี้ได้ไงวะ ! เห็นไหมพี่เสือเขาเจ็บปวดเนี่ย ! ” ซันโวยวายใส่สิงห์ซึ่งสิงห์ก็ทำหน้าละเหี่ยใจหลังฟังจบ
   ว่าแต่ซันเรียกผมว่าพี่ด้วย.. แต่ช่างเถอะเรียกก็เรียกไปเถอะ ถือว่าผมบอกแล้วว่าไม่ถือถ้าจะไม่เรียกว่าพี่
   “ มึงไม่ใช่เหรอทำโทษกูครับ กูแค่ตอบไม่ได้ข้อเดียวเองนะครับ ”
   “ เอ้า ! ข้อเดียวมึงก็ผิดอ่ะ มึงไม่ยอมเข้าใจสักทีกูอธิบายออกจะเข้าใจง่าย ดูอย่างลมสิ ฉลาดแสนรู้แค่ฟังกูอธิบายเนี่ย ” ซันเขย่งตัวแล้วลูบหัวลมที่ยืนใกล้ๆ ทำเอาลมคิ้วกระตุกเลยทีเดียว
   
“ ผมขอโทษนะครับแคท ที่เพิ่งด่าไป ” สิงห์เลิกสนใจพวกลมแล้วก้มหัวขอโทษผมเล่นทำเอาผมสะดุ้งเลย
   ไอ้คำด่าเมื่อกี้เนี่ยนะ สิงห์คิดว่าผมคิดมากเรื่องพวกนี่จริงๆ เหรอเนี่ย ผมว่าไอ้เรื่องครั้งก่อนทำผมคิดมากกว่านี้โขเลย
   
“ งั้นให้ผมด่าคืนนะ สิงห์ ? ” ผมถามด้วยสีหน้าเดิม
   
“ ครับ ” สิงห์พยักหน้าด้วยท่าทีที่สลด

   “ ... ” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะแล้วผมจะด่าสิงโตขี้อายตัวนี้ว่าอะไรดี ปกติก็ไม่ค่อยด่าใครอะไรขนาดนั้น งั้นเอาพวกที่ฟังๆ มาจากพวกหยกเวลาเจอเพื่อนมาร้านแล้วกัน “ ไอ้ซกมก ไอ้ตะกละ แปปนะขอผมคิดแปปนึง.. อ้อ ไอ้ชอบมาเนียนกินเค้กฟรี ไอ้ชอบมานั่งตากแอร์ทั้งวัน แค่นี้แหละ ผมคิดไม่ออกแล้ว ” ผมรอดูปฏิกิริยาสิงห์สักพักก็พบว่า สิงห์นิ่งไปสักพักคาดว่าเพราะงุนงงกับคำด่าที่ค่อนข้างไร้สาระของผมซึ่งลมกับซันก็นิ่งไปเหมือนกันแล้วระเบิดหัวเราะออกมา

   “ เชี่ย ฮ่าๆๆๆ มึงมาเพื่อเนียนแดกเค้กฟรีเหรอวะ สิงห์ ” ซันพูดทั้งๆ ที่ยังกลั้วหัวเราะอยู่

   “ เปล่า กูแค่อยากมาหาพี่เขาเฉยๆ ” สิงห์ดูได้สติกลับมาหลังจากสะดุ้งกับเสียงหัวเราะแต่พอสติกลับมากลับพูดอะไรแผลงๆ ออกมาแทน ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามอย่างยิ่งยวดที่หน้าจะไม่แดงแต่มันไปลงที่หูแทน “ ไปๆๆ กลับไปติวต่อ กูก็ทำตามที่ลงโทษแล้วไง ” แล้วสิงห์ก็ลากทั้งสองคนที่ยิ้มทะเล้นออกไปจากที่ตรงนี้
   
โอเค ผมยอมรับก็ได้ ว่าผมก็หน้าแดงเหมือนกัน  แต่เสียงเสียดหูที่ดังขึ้นก็ทำเอาผมสะดุ้งเลยทีเดียว

   กริ๊งๆๆๆ
   
ทำไมมีเสียงกริ่งที่ปกติผมต้องเป็นคนกดละเนี่ย

   “ เช็คบิลโว้ยยยย เช็คบิล ” เป็นไม้นั่นเองที่มากดกริ๊งๆๆๆ เรียกให้ผมกลับไปสนใจ ซึ่งเสียงมันแสบแก้วหูผมมาก
   ผมคว้ากริ่งออกจากมือไม้ไปวางไว้ที่อื่นที่ใกล้มือผม “ โอเค เอาบิลมา ไม้ ”

   “ อ่ะ นี้เอาไป ” ไม้ยื่นให้ผมแต่ก็ยังไม่วายพูดล้อเลียนเรื่องเมื่อกี้ “ นะไอ้น่ารักส์ ” มีส์ด้วยนะนั่น
   
“ อืม ไม้ส์ ” เรื่องอะไรผมจะยอมโดนคนเดียวล่ะ

   “ ชื่อกูจะมี ‘ ส์ ’ ทำบ้ะอะไรครับ ไอ้น่ารักส์ ”  ไม่ว่าเปล่ายังเลิกคิ้วกวนๆ ให้ผมด้วย
   
“ เสืออยากเติมให้เฉยๆ ” ผมขี้เกียจสรรหาเหตุผลมาตอบ ผมตอบไม้พลางทำบิลที่ไม้เอามาให้เพื่อทอนเงินและให้ใบเสร็จ แล้วผมก็นึกถึงเรื่องที่แมททิวเพิ่งมาข่มขู่เอาไว้ได้ ซึ่งผมก็เกือบลืมไปเลย “ ไม้ทาร์ตไข่ ไม้กินแค่กล่องที่เสือซื้อมาแยกนะ แมททิวห้ามไม้กินของแมททิว ”

   “ เอ้า ! กล่องเดียวกูจะอิ่มอะไรล่ะครับบบ เพื่อนกันก็ต้องแบ่งกันกินดิวะ ! ” ไม้โวยวายตามที่ผมคิดไว้
   “
 ไม้ก็ฝากเสือซื้อสิ กล่องไม่เท่าไหร่เอง ” ความจริงไม้ไปซื้อเองยังได้ ผมฉีกกระดาษบิลที่ยื่นออกมาจากเครื่องพร้อมกับหยิบเงินทอนวางบนถาดเล็กๆ ที่ไว้ใส่บิลแล้วยื่นให้ไม้ที่ยืนหน้าบูดกับคำแนะนำของผม

   “ มันไม่อร่อยนี่หว่า ซื้อเองแดกเอง ”  ไม้รับถาดที่ผมยื่นให้
   
“ ห้ามกินแล้วกัน เดี๋ยวแมททิวงอนเสือจะไม่มีใครเคลียของตอนปิดร้านกันพอดี ” เคลียที่ว่าคือการกินพวกขนมทั้งหลายที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งปกติพวกผมก็กินกันนิดๆ หน่อยๆ เพราะกินเกือบทุกวัน ต่างจากแมททิวที่รายนั้นไม่เคยเบื่อซัดโฮกอย่างเดียวเหมือนเครื่องดูดขนมยังไงยั้งงั้น
   
“ โอ้ย ถ้าแม่งงอนเดี๋ยวกูเลี้ยงชาบูแม่งก็หายงอนละ ” ไม้พ่นลมหายใจออกมายาวๆ แล้วเดินไป
   แต่ผมว่าทาร์ตไข่นี่เสียทรัพย์น้อยกว่าชาบูโขเลยนะ ?
   
.
   
.
   .

     เอาเป็นว่าหลังจากนั้นผมก็วุ่นกับการทำงานหั่วปั่นเลยทีเดียว การนั่งเคาน์เตอร์ไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลยจริงๆ ยังดีที่แนทมาช่วยบ้าง ส่วนไม้กับแมททิวก็ไม่ต่างกันเดินกันจนขาลาก พูดไปร้านผมก็ค่อนข้างมีชื่ออยู่นะเพราะอะไรหลายๆ อย่างที่ค่อนข้างลงตัว และเอ่อ.. กลุ่มติวค่ายนรกก็มากวนผมครั้งสองครั้งแต่พอลูกค้าเยอะก็หยุดและติวกันเงียบๆ แทน และตอนนี้ผมก็เก็บกวาดร้านเสร็จสักที ผมบอกกับไม้สั้นๆ ว่าเดี๋ยวไปซื้อของแปปนึงเดี๋ยวมาไม้อือออขานรับทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่โซฟาหลังร้าน ผมเดินอ้อมจากหลังร้านไปที่จอดรถซึ่งก็เจอสิงห์ที่ยืนรอสบายๆ พอดี ลมกับซันกลับไปก่อนแล้วหลังจากแยกย้ายกันไปซึ่งสิงห์ก็ขอตัวเอาของไปเก็บแล้วมายืนรอผมที่นี่
   
ทำไมผมเดินมาหาสิงห์แล้วรู้สึกประหม่าแปลกๆ “ ไปซื้อร้านไหนล่ะสิงห์ ? ”  ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าผมพอจะควบคุมตัวเองให้ปกติได้แล้วนะ

   “ แถวๆ นี้แหละครับ ผมเห็นมีอยู่ร้านนึงน่าเข้าอยู่ ”

   “ ไปด้วย ? ” จักรยานก็ดี รถก็ดี

   “ จักรยานก็ดีครับ ”

   “ สิงห์ขี่เหมือนเดิมนะ ผมซ้อนเอง ” ถึงแม้จะดูเห็นแก่ตัวแต่ผมคงปั่นไม่ไหวถ้ามีสิงโตตัวโตซ้อนหลังอยู่
   
“ โอเคครับ  ” สิงห์พยักหน้าหงึกหงักแล้วคว้าจักรยานแม่บ้านอันเดิมปลดขาตั้งออกแล้วขี่มาข้างๆ ผม “ ชิดในเลยครับ ”
   
“ ชิดไปไหนล่ะ ” ผมตอบยิ้มๆ แล้วขึ้นซ้อนพร้อมเกาะชายเสื้อสิงห์ไว้ จะให้ผมโอบเลยมันก็ยังไงอยู่นะ “ แล้วผมต้องจ่ายเงินไหมเนี่ย ”
   
“ ฟรีครับแต่ถ้าเลี้ยงเค้กจะมีโปรโมชั่นโอบเอวได้ครับ ” สิงห์พูดเสียงเบาในประโยคหลังพร้อมๆ กับการเริ่มถีบจักรยานไปยังจุดหมาย
   
“ ถ้าผมไม่เลี้ยงแล้วโอบล่ะ ? ” ผมปล่อยมือจากชายเสื้อแล้วคว้าหมับเข้าที่เอวของสิงห์ทำเอาสิงห์สะดุ้งตกใจนิดหน่อย

   “ ก็เอาเปรียบผมสิครับแบบนั้น ”

   “ สิงห์ก็มากินบ่อยๆ สิ จะได้ไม่เสียเปรียบผม ” ปกติก็ได้กินฟรีจากผมอยู่แล้ว ว่าแต่แค่ผมโอบนี่เสียเปรียบเลยเหรอ ผมว่าผมเสียเปรียบกว่านะที่ไม่สามารถแก้ปัญหาหน้าแดงๆ ตอนนี้ได้
   
“ ปกติก็มาจนเงินในกระเป๋าผมรั่วหายไปหมดแล้วครับ ” สิงห์หัวเราะแห้งๆ
   
“ กินน้ำเปล่าสิ ผมไม่ว่านะ ”
   
“ มาร้านกาแฟกินน้ำเปล่าเฉยๆ มันก็ดูเซ็งๆ จืดๆ นะครับ สู้ผมเก็บเงินกินกาแฟต่อดีกว่า ”
   กินกาแฟก็อร่อยกว่าน้ำเปล่าอยู่แล้ว สิงห์ถึงได้ดูลงทุนมากมาย ผมพยายามมองหางร้านที่สิงห์จะพาไปเพราะขี่มาได้สักพักแล้ว
   ซึ่งที่ดูสะดุดตาก็ร้านที่มีป้ายหมากับแมวนั่งข้างกันตรงมุมซอยเนี่ยแหละ ทำไมผมไม่เคยเห็นร้านที่ว่าเนี่ย
   
“ ไอ้ร้านป้ายใหญ่ๆ ตรงหัวมุมซอยนั้นรึเปล่าสิงห์ ” ผมยืดตัวไปเกาะหลังสิงห์แล้วชี้ไปทางร้านที่ว่านั้น 

   “ ถูกต้องครับ ร้านนั้นนั่นแหละ ” สิงห์มองตามที่ผมชี้แล้วตอบ

   “ ร้านนี้เปิดนานรึยังสิงห์ ” ผมว่าผมก็อยู่แถวนี้นะและสิงห์ก็อยู่ใกล้ๆ กันด้วยทำไมสิงห์ถึงรู้แล้วผมไม่รู้ล่ะเนี่ย

   “ เพิ่งเปิดสองวันก่อนครับผมเพิ่งรู้เมื่อวานเหมือนกันครับว่ามีร้านสัตว์เลี้ยงมาเปิดแถวนี้ด้วย ”
   
... แล้วก็ชวนผมมาซื้อปลอกคอให้ส้มใหม่เลย สิงห์เอาใจใส่ส้มมากกว่าที่ผมคิดซะอีก
   
ผมหดตัวกลับมานั่งดีๆ แล้วนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
   
ดีไม่ดีผมอาจจะได้ปลอกคอมาใส่ด้วยก็ได้มั้งเนี่ย
   ไ
ปๆ มาๆ ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเหมือนส้มเข้าไปทุกที
   ค
งจะเพราะว่า ผมมีเจ้าของแล้วมั้ง.. ?
   
ไม่ใช่สิ !! ผมคิดอะไรวะเนี่ย

   แล้วผมก็รู้สึกถึงสัมผัสถึงแรงที่เขย่าไหล่ผมเบาๆ ทำเอาสติที่กระจัดกระจายเมื่อกี้กลับลงล็อกอย่างรวดเร็ว “ แคทครับ ? ” สิงห์เขย่าไหล่ผมเบาๆ “ ถึงแล้วนะครับ ไม่สบายเหรอครับหน้าแดงๆ แวะร้านยาไหมครับ ” สิงห์เอามืออังหน้าผากผมประกอบการถามทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ตอบอะไรเลย
   
“ ปะ เปล่า ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกสิงห์ ” ผมตอบแล้วรอให้สิงห์เอามือที่อังหน้าผากอยู่ออกจึงค่อยก้าวลงจากจักรยานที่มาถึงจุดหมายตอนที่ผมคิดอะไรไร้สาระ
   “
 งั้นเข้าร้านกันเลยครับ ” สิงห์พยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินนำผมเข้าร้านไป ผมเดินตามสิงห์พร้อมสอดส่องรอบๆ ร้านซึ่งมีกรงขนาดต่างๆ เบาะนอนเอย ที่ข่วนเล็บแมวเอย วางกองกันให้เลือกเต็มร้าน แต่สิ่งที่แปลกปลอมในร้านสำหรับผมคือกลิ่น กลิ่นห้องแอร์ผสมกับกลิ่นพวกหมาแมวนี่ไม่ไหวจริงๆ กลิ่นฉุนของมันทำเอาผมไม่มีอารมณ์เดินดูต่อ ผมตัดสินใจซื้อแค่ปลอกคอให้ส้มแล้วรีบกลับดีกว่า ไว้วันไหนผมเป็นหวัดค่อยมา ผมรีบก้าวยาวๆ เข้าไปหาสิงห์ที่กำลังเลือกปลอกคออันใหม่ให้ส้ม
   
“ แคทว่าเอาสีส้มดีไหมครับ ? จะได้เหมาะกับชื่อ ” สิงห์ยื่นปลอกคออันที่ว่าให้ผมดู

   “ ก็โอเค เอาอันนี้แหละสิงห์ ” ผมไม่ชอบกลิ่นนี้เลยให้ตาย.. ส่วนพวกเจ้าของกลิ่นก็นอนกองอยู่แถวประตู 2-3 ตัว
   
“ เอาสีนี้เลยเหรอครับ ? ผมว่าสีฟ้าอมเทาก็สวยดีนะ ” ซึ่งอันที่ว่ามันก็อยู่ในมืออีกข้างของสิงห์

   “ งั้นใส่อาทิตย์เว้นอาทิตย์ ซื้อ 2 อันเลยสิงห์ ” 

   “ เหรอครับ.. งั้น 2 อันนะครับ เอาอย่างอื่นด้วยไหมครับ เสื้อ ? อะไรทำนองนั้น ”
   
“ ไม่เป็นไรหรอกสิงห์ ไว้หน้าหนาวผมจะหาผ้ามาให้มันใส่นั่นแหละ ” ผมฉุนจมูกจนอยากจามแล้ว

   “ สายจูงไหมครับ เผื่อเอาไปข้างนอก ” สิงห์ช่างเป็นคนเอาใจใส่อะไรขนาดนี้ ผมซาบซึ้งจนจามใส่หน้าแล้ว ผมเอามือถูจมูกเบาๆ
   
“ เอาสิ เผื่อผมเอาไปเที่ยวด้วย ” ซึ่งนานๆ ทีพวกผมถึงจะไปเที่ยวไกลๆ ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างขี้เกียจไปไกลในที่แปลกถิ่น

   “ แค่นี้นะครับ ” สิงห์หยิบของทั้งหมดใส่ตะกร้าข้างมือ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมดีใจที่จะได้ออกจากร้านสักที แต่สิงห์กลับไม่ยอมก้าวเดิน “ แคทครับ ” สิงห์กระซิบเรียกผม
   
“ หะ ? ” ผมกระซิบตอบบ้าง
   
“ วันนี้แวะค้างห้องผมไหมครับ ? ”
   
“ ห- !!! อื้ออ ” ผมอุทานลั่นแต่สิงห์เอามือมาอุดปากผมทัน ทำให้ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ให้ผมไปค้างห้องสิงห์เหรอ แค่คิดก็หน้าแดงแล้วนะ
   
“ สรุปไปไหมครับ ” สิงห์เอามือออกจากปากผมให้ผมได้ตอบ
   
ฮัดเช้ย !
   
ผมเผลอจามออกมาก่อนที่จะได้ตอบอะไรซึ่งคนที่รับไปเต็มๆ คือสิงห์

   “ โอเค ผมไปๆ ” ผมตอบตกลงและรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เอาอะไรมาเช็ดเสื้อสิงห์

แต่ว่าผมต้องค้างห้องสิงห์นะ
   
งั้นผมก็ต้องนอนห้องเดียวกับสิงห์สิ
   
ให้ตายผมไม่เข้าใจเลยว่าสิงห์คิดอะไรอยู่
   
และไม่เข้าใจด้วยว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงตอบตกลงไป

----------
TBC.

เว้นช่วงนานมาก 555555 ตอนนี้ยอมรับเลยว่ายาวที่สุดเท่าที่แต่งมาเลยเพราะแต่งค่อนข้างนาน น่าจะพอชดเชยที่หายๆ ไป 

:กอด1: ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามค่ะ

--------*

ุถึง คุณ กุ้งเชอรี่

ขอโทษค่ะ เราตั้งใจจะตอบตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วคำถามแต่ลืม  :hao5:

แผนของสิงห์นี่เจ้าตัวนี่น่าจะคิดเองไม่กล้าปรึกษาเพื่อนหรอก  :hao3:

ส่วนเพื่อนๆ ก็ตามเชียร์ถึงร้านเลยตอนนี้  :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หนุ่มเชอร์รี่ ตอนที่ 18 - 19 ก.ย. 57 -
« ตอบ #159 เมื่อ: 16-11-2014 22:59:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
---ตอนที่ 19---
   
ผมเคยค้างบ้านคนอื่นนับครั้งได้
   
ไม่ใช่ว่าผมหวงตัวอะไรหรอกนะ
   
แต่ติดที่ว่าผมนอนดิ้นมากๆ

   ดิ้นถึงขั้นเคยไปค้างบ้านแมททิวแล้วถีบแมททิวลงจากเตียง

   เรื่องนั้นทำแมททิวงอนผมเป็นวันเลย
   
 # ประเด็นคือเตียงแมททิวนี่สูงสัสๆ – แนท –

   เรื่องนั้นผมไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย

   แมททิวบอกกับผมว่าถ้าผมนอนด้วย
   
จะเอาผ้าห่มมามัดผมไว้เป็นแหนม
   
โอเค วางแผงขายที่ตลาดเลยแมททิว
   
.-.-.-

   “ ฮาโหล -- หะ อารายของมึงง ไอ้แคทท ”

   “ มึงจาไปค้างที่ไหนก็ค้างเหอะ.. กูจะนอน ”

   “ ทาร์ตไข่กูอย่าลืม ไอ้สาสส ”
   
นั่น เป็นบทสนทนาของผมกับแมททิว ซึ่งผมโทรไปบอกแมททิวไว้ก่อนว่าค้างที่อื่น ขืนผมบอกว่าที่ไหนก็แย่กันพอดี  ถึงแมททิวจะพอรู้ก็เถอะแต่ผมก็ไม่อยากโดนรู้เรื่องนี้นี่นา ผมยื่นโทรศัพท์ที่ยืมสิงห์มาให้สิงห์เพราะผมไม่คิดว่าจะไปค้างที่อื่นเลยโยนๆ ไว้สักแห่งในครัว
   
“ ขอบคุณนะสิงห์ ”

   “ ครับ ยินดีครับ เอ่อแคทช่วยถือไว้ก่อนนะครับขอผมหากุญแจห้องก่อน ” ไม่ว่าเปล่าสิงห์งัดแงะกระเป๋าเงินอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “ อือ ” ผมตอบรับและมองสิงห์ที่หน้าค่อยๆ ซีดลงเรื่อยๆ 

ผมกับสิงห์ก็ยืนอยู่หน้าห้องสิงห์มาเกือบ 10 นาทีแล้ว ในตอนแรกสิงห์ก็หยิบกุญแจจากกระเป๋าเงินอย่างมั่นใจ แต่พอหาเข้าจริงๆ กลับหายไปไหนไม่รู้ สิงห์เลยหาอย่างเอาเป็นเอาตาย เดินหารอบๆ ที่ยืนบ้าง ตามเนื้อตัวบ้าง ผมเลยยืมโทรศัพท์สิงห์โทรบอกแมททิวก่อน เพราะดูท่ากุญแจคงอยากเล่นซ่อนหากับคนแน่ๆ
ผมแกว่งถุงในมือเล่น ถุงที่ใส่ของที่ซื้อมาแต่ดูเหมือนว่ามันจะหนักแปลกๆ 
ลางสังหรณ์ผมบอกว่า เกมซ่อนหาจบซะที

“ สิงห์ ”

“ ครับ ? ” เสียงของสิงห์ดูร้อนรนแต่มือยังพยายามหากุญแจทั้งๆ ที่ในกระเป๋าเงินนั้นว่างเปล่าแล้ว

“ ผมโป้งแล้วนะ ”

“ อะไรนะครับ ” สิงห์เงยหน้าขึ้นมามองผมงงๆ แม้แต่เสียงก็ยังสูงโดยไม่รู้ตัว

“ ผม-โป้ง-แล้ว-นะ ” ผมเน้นเสียงเน้นคำ

“ โป้ง ? โป้งผมเหรอครับ !? ”  หน้าตาเหรอหราน่าจะเป็นคำตอบของความคิดของสิงห์

“ เปล่า กุญแจน่ะ ” ผมชูกุญแจเจ้าปัญหาพร้อมหัวเราะเบาๆ

“ ... ครับ ”  สิงห์ตอบเสียงอ่อยด้วยสีหน้าที่โล่งอกต่างจากเมื่อกี้ที่แทบจะซีดเป็นกระดาษ “ ผมว่าผมเก็บไว้ในกระเป๋าเงินแล้วนะ

ทำไมมันไปอยู่ที่นั่นกันล่ะเนี่ย ” สิงห์บ่นพึมพำระหว่างที่ไขกุญแจ

“ กุญแจมันบินเข้าไปน่ะสิงห์ ผมเห็น ”

“ ครับ บินก็บิน ยังดีที่มันไม่หายถ้าหายนี่แย่แน่ๆ ” พูดจบประตูก็ถูกเปิดออกมาเผยทัศนียภาพของห้องอพาร์ทเมนท์ที่มีทุกอย่างรวมในห้องเดียว ไม่รอช้าผมเดินเข้าไปทันที 

ผมเคยได้ยินจากเพื่อนว่าพวกสายอาร์ตนี่ห้องรกยังกับอะไร
ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว
กองกระดาษเสก็ตภาพเกลื่อนเต็มพื้นจานสีที่เขลอะสีซึ่งดูแล้วน่าจะล้างไม่ออกเพราะปล่อยทิ้งให้แห้งทั้งแบบนั้น หลอดสีพู่กันกับขวดน้ำเลอะสีวางกองไว้กระจุกนึง และอื่นๆ ที่พรรณนาไม่ไหว
อันนี้แค่ทางเข้าห้องเฉยๆ ก็ทำผมแทบอ้าปากค้างแล้ว

“ เอ่อ..  พอดีผมคืนของให้ซันแล้วมันหาไม่เจอ ก็เลยคุ้ยหานิดหน่อยน่ะครับเลยดูรกๆ ” สิงห์หัวเราะแห้งๆ พร้อมกับปิดประตู

“ อืม เอ่อสิงห์ให้ผมนอนตรงไหนเนี่ย ? ” ผมก้มลงเก็บกระดาษบนพื้นแล้วรวบรวมให้กลายปึก คล้ายกับว่าเป็นนิสัยไปแล้วที่ผมมองอะไรรกๆ แล้วรู้สึกอยากจัดให้เป็นที่เป็นทาง เอ่อ ผมรู้สึกว่ามีกองกล่องมาม่าคัพซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะนะเนี่ยยังดีที่ไม่มีคุณปีเตอร์เล่นจ๊ะเอ๋อยู่แถวนี้
สิงห์นั่งยองๆ ข้างๆผมเก็บกองกระดาษที่ตัวเองสเก็ตขึ้นมา “ นอนบนเตียงผมสิครับ ผมไม่ให้แคทนอนบนพื้นหรอก ” 

“ แล้วสิงห์ล่ะ ? ” ผมวางกองกระดาษที่โกยเสร็จแล้วบนโต๊ะที่ว่างๆ ผมมองไปรอบๆ ห้องสิงห์ ห้องกว้างๆ ที่ประกอบด้วยเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะอาหารที่มีมาม่าซ่อนตัวข้างใต้ โต๊ะทีวีที่มีชั้นไว้เก็บของ แล้วก็เอ่อ.. ? ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นโซฟาละมั้งแต่สภาพค่อนข้างเกินโซฟาไปหน่อย วางอะไรก่ายกองไปหมด

“โซฟาไงครับ ” สิงห์ชี้ไปทางโซฟาตัวที่ว่านั้น

“ แล้วสิงห์ชวนผมมาค้างที่ห้องทำไมเหรอ ? ” ผมมองเตียงที่จะเป็นที่หลับนอนคืนนี้ สภาพค่อนข้างดูดีกว่าบริเวณอื่น เห็นได้ชัดว่าสิงห์รักษาความสะอาดเพราะบริเวณเตียง ซึ่งควรจะนับว่าเป็นข่าวดีไหม ผมคิดอย่างปลงตก

“ เอ่อ— ยังไม่บอกครับ ” สิงห์ชะงักกับคำถามของผมแล้วตอบด้วยหน้าที่ติดจะแดง
และนั่นก็ทำผมเลิกคิ้วงงๆ “ เซอร์ไพรส์สินะ ” ผมพูดพึมพำ

“ ไม่บอกครับ ” สิงห์ตอบด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
ทำไมต้องทำให้ผมยิ่งอยากรู้ล่ะ สิงงงห์
ผมมุ่ยหน้าเซ็งๆ ไปทางอื่น แต่แล้วก็รู้สึกบางอย่างยุกยิกบริเวณที่ท้องแขน สิงห์จะสะกิดผมทำไมกันเนี่ย ผมหันไปมองสิงห์ซึ่งมือสิงห์ก็ยังง่วนกับการเก็บกวาดห้องอยู่ แล้วมันอะไรกันที่บนแขนผม

“ เวรรรรรร ! ” ผมอุทานดังลั่น ไอ้ที่เกาะแขนผมมันก็คือ ไอ้คุณปีเตอร์ขนาดย่อมที่กำลังส่ายหนวดดุ๊กดิ๊กอย่างที่มันคิดว่าน่าเอ็นดู ผมปัดมันออกด้วยความเร็วที่ไวที่สุดของตัวเองจนมันค่อยๆ ลอยละลิ่วไปแปะชีทตรงหน้าสิงห์
สิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นคือ สิงห์ค่อยๆ หยิบหนวดของมันขึ้นมาจนตัวมันลอยเต้นดุ้กดิ้กในอากาศแล้วยัดเข้าขวดน้ำและปิดบิดฝาขวดให้สนิท  สิงห์ไม่มีแม้แต่อาการตกใจคล้ายกับว่านี่คือเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน

“ สงสัยเพราะฝนตกเมื่อวานมันเลยขึ้นมาจากท่อมั้งครับ แคท ” สิงห์หันมาคุยกับผมอย่างปกติโดยไม่สนใจว่าในขวดเจ้าสิ่งที่สิงห์เพิ่งยัดเข้าไปกำลังปีนไปมาในขวดราวกับว่ากำลังหาทางออก
นั่นทำให้ผมตัดสินใจได้อย่างนึง

“ สิงห์เดี๋ยวผมช่วยทำความสะอาดห้องนะ ” อย่างน้อยอันนี้ก็ถือเป็นเหตุผลในการมาค้างได้

“ ทำความสะอาดห้อง !? แคทครับห้องผมรกแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยครับ เดี๋ยวผมค่อยทำเองดีกว่า ”
ถ้านี่เรียกว่าเล็กน้อย ร้านผมคงสะกดคำว่ารกไม่ได้แล้วแหละ

“ ผมเต็มใจน่า ก็แค่เก็บของนิดๆ หน่อยๆ ห้องเล็กแค่นี้แป๊ปเดียวก็เสร็จแล้วล่ะ ” ไม่ว่าเปล่าผมเริ่มรวบรวมกองหลอดสีจานสีรอบๆ ห้อง หลอดแทบทุกหลอดที่ผมเก็บแบนราบเรียบเหมือนกับว่าใช้จนมันหมดจริงๆ

“ โถ่.. แคทครับ ผมชวนค้างห้องผมไม่ได้ให้มาทำความสะอาดซะหน่อย ” สิงห์โอดครวญแล้วโยนไอ้ขวดน่าขนลุกนั้นลงถังขยะที่อยู่ข้างทีวี
ปั่ก
ขวดที่สิงห์โยนชนขอบถังขยะแล้วกองกองแหมะข้างๆ

“ อุ้บ.. สิงห์ผมเข้าใจนะว่ามันค่อนข้างควบคุมทิศทางของขวดยาก ” ผมกลั้นหัวเราะ ถังขยะที่ว่านี่ห่างจากสิงห์ไม่กี่ก้าวเองแต่สิงห์ก็ยังปาไม่ลง หรือผมควรจะให้สิงห์ยืมแว่นดี ?

“ ลมมันพัดเข้าน่ะครับ แคทเลยโยนไม่ลง ” สิงห์แก้ตัวขุ่นๆ ด้วยหน้าที่ติดจะแดง รอบนี้สิงห์ก้าวอาดๆ หยิบขวดที่ว่าใส่เข้าไปในถังขยะดีๆ

“ ลมก็ลม ” ผมตอบยิ้มๆ ผมว่าห้องสิงห์ไม่เปิดหน้าต่างนะ “ สิงห์มีถุงไหม ผมว่าเอาแค่ทำให้ห้องไม่ดูรกก็พอแล้วแหละ ” ผมไม่รู้ว่าอันไหนสิงห์ใช้บ้างก็รวมไว้ในถุงแล้วกัน สิงห์ค่อยมาจัดเอาเอง

“ แคทททครับบ เดี๋ยวผมเก็บห้องก็ได้ แคทเข้าไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ” สิงห์ที่ไม่หาถุงให้ผมกลับดันหลังผมเข้าห้องน้ำไปซึ่งผมไม่ได้อยากอาบน้ำซะหน่อย

“ ให้ผมอาบตั้งแต่หัวค่ำเลยเหรอ ชุดนอนแปรงสีฟันอะไรผมไม่มีเลยนะ ” ผมพยายามยื้อสู้สิงห์ที่ดึงดันจะดันผมเข้าห้องน้ำ

“ ในห้องน้ำมีครบหมดแล้วครับ  ” พูดจบสิงห์ก็ดันผมเข้าห้องน้ำและปิดประตูอัดผมทันที
อาบก็อาบ ผมคิดเงียบๆ พลางกวาดสายตาสำรวจห้องน้ำของสิงห์ ดังที่สิงห์ว่ามีชุดนอนที่พับอยู่บนอ่างล้างหน้า ส่วนแปรงสีฟันก็มีด้ามหนึ่งที่ยังไม่ได้แกะใช้วางไว้ในแก้วเดียวกับแปรงสีฟันด้ามเทาซึ่งน่าจะเป็นของสิงห์ นี่สิงห์เตรียมไว้ให้ผมเลยเหรอ ? คงวางแผนให้ผมมาล่ะสิเนี่ย ถ้าผมไม่มานี่คงเก้อจริงๆ

-----------
 :katai5:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
รออออออ  :ling1:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ตอนที่ 19   *100 %*  ---

“ ใครว่ากินในห้องล่ะครับ ” สิงห์คลี่ยิ้มบางๆ พร้อมเดินไปเปิดผ้าม่านที่เปรอะสีทำให้เห็นระเบียงเล็กๆ พื้นหลังเป็นท้องฟ้าแตะแต้มไปด้วยความมืดมีแสงดาวหม่นๆ มองเห็นได้ยาก ที่ระเบียงมีโต๊ะอาหารตัวเล็กกับเก้าอี้เล็กๆ สองอันที่พอสภาพดูดีผิดกับโซฟาในห้อง ผมเดาว่าคงไม่ได้ใช้สักเท่าไหร่

แล้วระเบียงก็สว่างวาบขึ้นมาพร้อมกับคำพูดของสิงห์

“ ภูมิใจนำเสนอครับ ”

เมื่อกี้ระเบียงจะดูมืดๆ ทึมๆ หน่อยเพราะไม่ได้เปิดไฟ แต่พอสว่างถึงได้มองเห็นว่าบนโต๊ะมีจานเล็กๆ ที่แทบกลืนไปกับโต๊ะถ้าไม่เปิดไฟ ผมใช้เวลาสังเกตสักพักถึงรู้ว่ามันคือคาโบนาร่า เอาเป็นว่าผมค่อนข้างประทับใจกับการลงทุนของสิงห์แล้วกัน “ บรรยากาศใช้ได้เลยสิงห์ ” ผมเอ่ยชมและเผลอยิ้มออกมา

สิงห์หน้าแดงเถือกเมื่อผมชมเสร็จ ขี้อายเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ในสุดซึ่งสิงห์ทรุดตัวลงนั่งบ้างเมื่อเห็นผมนั่ง ผมลองเอาส้อมจิ้มแฮมในคาโบนาร่าขึ้นมาชิม

นี่มันของเซเว่น

ผมอุตสาห์คาดหวังว่าสิงห์จะทำกินเองเป็นนะเนี่ย  แต่เอาเถอะ สิงห์ก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะทำเอง “ อร่อยมากสิงห์ ” ผมบอกสิงห์ไปอย่างนั้น

“ ครับ ฮะๆ ” สิงห์หัวเราะแห้งๆ ดูท่าจะรู้แล้วว่าผมรู้ว่าซื้อของเซเว่นมา “ ทำไงได้ล่ะครับ ผมลองทำดูแล้วออกมาแล้วมันกินไม่ได้ ไข่ดาวก็ไข่ดาวเถอะผมทำเองยังไม่กล้ากินเลย ”

“ งั้นซื้อกินนั่นแหละดีแล้ว ” ผมพูดขำๆ ถ้าจะไม่ถูกโฉลกกับห้องครัวขนาดนั้น

สิงห์พยักหน้าหงึกหงักแล้วก้มหน้าก้มตากินไม่สบตาผม จนผมอดเลิกคิ้วงงๆ ไม่ได้ “ ถึงได้หาคนที่ทำเป็นมาทำให้กินไงครับ ” สิงห์หน้าแดงมากอย่างเห็นได้ชัด

โอเคผมยอมรับก็ได้ว่าผมก็เขินเหมือนกันนั่นแหละ

“ สิงห์ใกล้จบยัง ? ” ผมชวนคุยหลังจากนั่งกินกันเงียบๆ ไปสักพัก สิงห์ที่หน้ายังไม่หายแดงก็ยังคงไม่สบตาผม

“ ใกล้แล้วครับ ”

“ อืม ก็สู้ต่อไป ” ปีหลังๆ มาเนี่ยเหนื่อยนรกแตกมาก กว่าจะจบได้ แค่คิดถึงผมก็เหนื่อยแล้วแต่มันก็สนุกดีเหมือนกัน  ว่าไปพูดถึงเรียนจบก็ต้องพูดถึงเรื่องงาน “ สิงห์เรียนจบจะทำอะไรเหรอ ? ”

“ .. ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ”

“ งั้นมาทำงานร้านผมไหมล่ะ ? ” ผมเอ่ยชวน ช่วงนี้คนก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีคนดังๆ มารีวิวซึ่งก็แอบถ่ายรูปหลุดผมไปลงด้วย โดนล้อมันทั้งวัน แต่ถ้ามีคนสนิทๆ มาช่วยเพิ่มก็น่าจะดีกว่าจ้างคนที่ไม่รู้จัก

“ อยากนะครับแต่คงต้องดูก่อน ”

“ อืมๆ ถ้าสนใจบอกผมแล้วกัน ” ว่าแล้วก็ตักกินอีกคำ
ผมกับสิงห์นั่งจ้วงกินกันต่อโดยคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆ ซึ่งเผลอแป๊ปเดียวก็หมดจานซะอย่างนั้น แต่ผมก็อิ่มนะเพราะดูเหมือนว่าสิงห์จะเอามาอุ่นสี่กล่องแล้วแบ่งผมกับสิงห์คนละครึ่ง ผมเดาจากปริมาณที่มันดูเยอะผิดปกติน่ะ

“ เอ่อ แคทครับผมไปเอาน้ำให้นะครับ ลืมเอามาซะงั้น ” 

“ อือๆ ” จะว่าไปผมก็ไม่ได้กินน้ำเลยนี่หว่า ทั้งๆ ที่ปกติเวลากินอะไรพวกนี่ผมต้องกินน้ำคู่ด้วยแท้ๆ สงสัยจะคุยเพลินไปหน่อยจนลืมนิสัยปกติ ระหว่างที่รอน้ำผมก็นั่งชมวิวข้างล่างเพลินๆ ถึงมันจะเต็มไปด้วยตึกก็เถอะแต่มันก็ยังดูสวยอยู่ดีต่พอมองไปมองมาก็กลัวตกเหมือนกัน ผมจึงเปลี่ยนไปมองท้องฟ้าแทนซึ่งก็ไร้ซึ่งดวงจันทร์กระจ่างเพราะเมฆาได้บดบังรัศมีหมดแล้ว ตอนนี้ท้องฟ้าครึ้มมากเหมือนฝนจะตกยังไงยังงั้น ผมที่นั่งรออยู่เริ่มอยู่ไม่สุขเพราะรู้สึกถึงฝนที่เริ่มเปาะแปะแล้ว ผมโกยของบนโต๊ะมาถือแล้วเข้าไปในห้องของสิงห์ทันทีโดยเอาหลังดันกระจกบานเลื่อนของสิงห์ให้เปิดออกเพราะเมื่อกี้โดนสิงห์ปิด ซึ่งสิงห์จะปิดทำไม
แต่พอหันหน้าก้าขาเข้าไปในห้องก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

ใครใช้ให้มีรูปผมที่ใหญ่พอให้แปะฝาบ้านวางเกยอยู่บนเตียงล่ะ !?
   
เป็นรูปสีน้ำที่ระบายสีได้ดูละมุนละไมอย่างกับว่าคนวาดตั้งใจวาดจนทำให้รูปออกมาตามที่ทำ มันเป็นรูปผมที่กำลังยืนรับออเดอร์อยู่ซึ่งดูแล้วคุ้นๆ อย่างบอกไม่ถูก

   “ แคท !? ” สิงห์ที่กำลังรินน้ำใส่อีกแก้วอยู่ หันมามองอย่างตกใจแกมอายๆ สิงห์หยุดมือจากการรินน้ำทันทีแล้วก้าวฉับๆ มาหาผม “ ทำไมไม่รอข้างนอกล่ะครับ ” สิงห์บ่นอุบอิบด้วยหน้าแดงๆ

“ ก็ฝนมันจะตก ” ผมพยักเพยิดไปด้านหลังให้เห็นท้องฟ้าครึ้มๆ แล้วก็เอาหลังเลื่อนปิดบานเลื่อนให้กันฝนสาด
   
“ ... ฝนมาตกอะไรวันนี้วะเนี่ยยย ” สิงห์แอบสบถเสียงเบาด้วยหน้าที่ดูเซ็งๆ  “ ช่างแม่ง ”

   “ สิงห์เริ่มวาดรูปผมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ” ผมถามสิ่งที่ค้างคาใจด้วยหน้าที่แดงๆ มีคนมาวาดรูปตัวเองผมก็เขินเหมือนกันนะ

   “ ... ” สิงห์ไม่ตอบผมแล้วหยิบจานในมือผมเดินไปวางในซิงก์ล้างจาน
   
“ สิงห์ไม่ตอบผมกลับแล้วนะ ”

   “ .. จำไม่ได้ครับ รู้ตัวอีกทีก็วาดไปแล้ว ” สิงห์หันหลังตอบ “ แต่เริ่มวาดรูปนี้เดือนที่แล้วครับ ”
   
รูปที่วางบนเตียงสินะ มันคุ้นตาผมจริงๆ นะ

   “ แล้วรูปนี้นี่หมายถึงตอนไหนเหรอ ”

   “ ... ” สิงห์นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบ “ ตอนเจอกันครั้งแรกครับ ”
   
“ จำแม่นจัง ฮ่าๆ ” ผมหัวเราะแห้งๆ ให้ตายเหอะ ไม่อยากส่องกระจกตอนนี้เลย มิน่าผมว่าคุ้นๆ วันนั้นรู้สึกคอเสื้อผมจะไม่ได้พับซะด้วยแถมเสื้อก็เลอะกาแฟอีกซึ่งภาพที่สิงห์วาดก็เก็บรายละเอียดที่ว่านั้นหมดเลย ทำเอาคนที่โดนวาดอย่างผมอดทึ่งไม่ได้
   สิงห์หันหน้ามาสบตากับผมอีกครั้ง หน้าที่ดูแดงๆ พูดประโยคที่ผมคาดไม่ถึงออกมา “ แคทครับรูปนี้ผมให้แคทนะครับ ” 
   ทั้งๆ ที่รูปที่ดูละมุนละไมอันนี้ผมนึกว่าสิงห์จะเก็บไว้เองแต่ยิ่งพอรู้ว่าจะให้ผมก็อดหน้าแดงไม่ได้
   
“ แคทครับ.. เป็นแฟนผมไหมครับ ”

   “ ... ” ตอนนี้ผมอึนอยู่ครับเลยไม่ได้ตอบอะไรสิงห์

   “ แคทครับ.. ” สิงห์เรียกผมเสียงอ่อย

   “ อือ ” ผมตอบรับไปสั้นๆ ง่ายๆ
   
สิงห์ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจแล้วดึงตัวผมไปกอดหลวมๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร จนกระทั่งสิงห์โน้มหน้าลงมาบดจูบผมเนี่ยแหละ

!?!

TBC

--------------------------------------------*

หายไปนานพอสมควร  :hao5:  ขอโทษค่ะหายไปนาน พอดีย้ายบ้านด้วย สอบด้วย   :ling2: ปัญหาบานปลาย 555

ดีใจค่ะที่มีคนรอ  :กอด1: 

ปล. คุณกุ้งเชอรี่เปลี่ยนชื่อใช่ไหมค่ะ จำรูปได้  :L2: 

     *  :man1: กอดเลย


    

      


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :กอด1: :กอด1: สวัสดีค้าาาาคุณ Foggy Time สอบกะย้ายบ้านเหรอคะ เหนื่อยแย่เลย (งานหนักนะนั่น) สอบเสร็จยัง?? ทำได้หรือได้ทำคัฟ?(ฮาาา)

คิดถึงหนุ่มเชอร์รี่นะค้าาา

(ในที่สุดสิงห์ก็ขอเป็นแฟนจนได้ นึกว่าจะต้องรอนานกว่านี้ซะแล้ววว ฮิมดูขี้อ๊ายยย ขี้อายอย่างรุนแรง)

นี่แอบสะกิดให้สิงห์รุกหนักทีนึง อยากรู้ว่าแคทอายตัวม้วนจะเป็นยังไง ฮี่ๆ  :hao3:


ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :o8: อ่านรวดเดียวจบ สิงห์น่ารักมากก  ชอบๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ตอนที่ 20 ---

สิงห์คลายมือจากการกอดผมแล้วตั้งใจกับการจูบผมมือข้างนึงประคองตัวผมส่วนอีกข้างกลับแอบเข้ามาในชุดนอนของผม !?
   
ผมก็ไม่ได้ใสจนไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกนะ
   
แต่ว่าเราเพิ่งเป็นตกลงเป็นแฟนกันเองนะสิงห์
   
สิงห์กัดริมฝีปากของผมเบาๆ คล้ายกับว่าขอให้ผมเปิดปากสิงห์ได้รุกรานอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเห็นผมไม่ยอมเปิดให้สักทีสิงห์ก็กัดปากผมจนผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทำให้เผลออุทานออกมาซึ่งนั่นก็เปิดโอกาสให้สิงห์ได้รุกรานเต็มที่
   
จนได้..
   
สิงห์จูบผมจนผมรู้สึกเข่าอ่อนยืนไม่อยู่แต่ในระหว่างที่ผมเข่าอ่อนมืออีกข้างของสิงห์ก็ลากยาวไปตามลำตัวของผมทำให้รู้สึกขนลุกวาบอย่างบอกไม่ถูก
   
“ ผมชอบตอนแคทใส่ชุดของร้านมากกว่า ” สิงห์พูดเมื่อปล่อยให้ผมหอบหายใจอย่างตะกละตะกลาม  น่าแปลกที่สิงห์ตอนนี้ผมว่า โครตจะเหมือนสิงโตเลย.. ทั้งตาที่ปกติจะดูสุภาพตอนนี้กลับดูดุดันอย่างบอกไม่ถูก ส่วนมือสิงห์ผมว่าปลาหมึกซะมากกว่าและตอนนี้ก็เลื้อยไปแถวสะโพกผมแล้วด้วย

   “ ทำไม..ล่ะ ” ผมถามออกไปแต่เสียงดูสั่นจะไปนิด
   
“ เห็นแล้วอยากกระชากเสื้อบางๆ ให้ขาดน่ะครับ ” สิงห์พูดเสียงแตกพร่าแล้วจูบผมอีกครั้งไม่เปิดโอกาสให้ผมทักท้วงเรื่องเสื้อที่ไม่ได้บางอะไรขนาดนั้น ครั้งนี้สิงห์จูบผมจนผมเผลอครางเสียงน่าอายออกมา ใครใช้ให้มือสิงห์อยู่ไม่สุขเล่า ตอนนี้สิงห์กำลังลูบสะโพกผมอยู่
   
“ สะ สิงห์ ” ผมผลักสิงห์ออกแล้วพูดเสียงสั่น “ พรุ่งนี้ผมทำงาน.. นะ ”  ผมรองต่อรองแต่ดูเหมือนมันจะไม่มีผลอะไร
   
“ ผมไปส่งเองครับ ” สิงห์พูดจบก็ประคองผมขึ้นเตียง โดยมือปลาหมึกก็ยุติหน้าที่ชั่วคราวโดยไปขนภาพที่สิงห์วาดออก สิงห์วางลวกๆ เกยกับโต๊ะ เมื่อวางเสร็จสิงโตก็กระโจนขึ้นมาตะครุบเสืออย่างผมต่อ อย่างผมนี่คงเป็นได้แค่แมวลายเสือจริงๆ
สิงห์ที่คร่อมตัวผมอยู่ก้มลงมาจูบผมอีกครั้งส่วนมือที่ตอนแรกแค่เลื้อยตอนนี้คุกคามผมเต็มที่

   “ อื้อออ ” ผมร้องออกมาเมื่อสิงห์สิงห์ได้สอดนิ้วเข้าไปในที่ๆ ที่ไม่เคยมีใครล่วงล้ำ แฟนที่ผมเคยมีล่าสุดก็ตอนมัธยมและไม่มีอะไรเกินเลย สิงห์น่าจะเป็นคนแรกที่ดูท่าจะยิ่งกว่าเกินเลยสำหรับผมตอนนี้
   
“ แคทครับ.. ”  สิงห์ปล่อยจากปากผมอีกครั้งแล้วกระซิบที่ข้างหูผมซึ่งนั้นก็ทำให้รู้สึกขนลุกแปลกๆ “ ผมยังไม่อิ่มเลยครับ ”

   “ ก็ไปเซเว่น..สิ อื้อ ” สิงห์เพิ่มอีกนิ้วแล้ว
   
“ กินแมวดีกว่าครับ ” สิงห์พูดพร้อมงับหูผมเบาๆ “ สิงโตมีหน้าที่คุ้มครองกับรออาหารนะครับ ตอนนี้สิงโตยังไม่อิ่ม ..คนให้อาหารก็นอนไม่ได้ครับ ” สิงห์พูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงทุ้มหวาน

   “ แมวตายกันพอดี ” ผมพูดขำๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ร่างกายผมไม่ขำตามสักเท่าไหร่

   “ สิงโตไม่ฆ่าแมวหรอกครับ มีแต่จะเอ็นดูซะมากกว่า ” สิงห์หัวเราะเบาๆ แต่มือก็ยังคงทำหน้าที่น่าอายของมันต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ทำให้ผมเผลอกำผ้าปูเตียง
   ดูท่าสิงห์จะต้องซื้อผ้าปูเตียงใหม่แล้วมั้ง

   “ พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน ” สิงห์พูดลอยๆ แต่ตาจับจ้องมาที่ผม “ เดี๋ยวผมจะไปนั่งเฝ้านะครับ ”

   เฝ้า ? เฝ้าผมเนี่ยนะ “ เฝ้าผม ? ” ผมเลิกคิ้วถามอย่างลืมตัว
   
“ ครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาการบ้านไปทำด้วย ”
   
“ อือ แล้วแต่ ” ผมตอบงงๆ แล้วก็ต้องเผลอครางออกมาอีกครั้ง สิงห์ชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจผมชัดๆ รู้ตัวอีกที่มือของสิงห์ก็มาอยู่อะไรตรงนั้นของผมวะเนี่ย
   
นึกไม่ถึงว่าวันนึงเสืออย่างผมจะโดนสิงโตจับกิน

   ซึ่งพอสิงห์รุกล้ำทั้งสองที่ก็ทำเอาผมหน้าแดงกว่าเดิมไม่ได้ความจริงผมหน้าแดงตั้งแต่โดนจูบแล้ว ตอนนี้อยากจะมุดเตียงหนีจริงๆ ทั้งๆ ที่ความจริงผมคิดว่าสิงห์จะอายตอนทำเรื่องอะไรพวกนี้ซะอีก ที่ไหนได้สิงห์ตอนนี้นี่ยังกับเปลี่ยนเป็นคนละคน ดูท่าต่อมอายของสิงห์จะหยุดทำงานชั่วคราว แต่ก่อนที่ผมจะคิดอะไรต่อก็ต้องเผลอครางเสียงยาวออกมาอีกครั้ง

   ... รอบนี้ผมอยากมุดเตียงจริงๆ นะ
   
“ แคทครับ !! อย่าทำท่าจะมุดเตียงสิครับ ! ” สิงห์พูดอย่างตื่นตระหนกด้วยหน้าที่แดงก่ำ
   
“ ใครมันจะไปมุดล่ะ สิงห์ ” ผมหัวเราะแห้งๆ
   
“ งั้นผมต่อเลยนะ ” ถึงปากจะถามแต่มือที่ล่วงล้ำอีกรอบนี้คืออะไรครับสิงห์

พร้อมกับเมือกลื่นๆ ด้วย.. 

“ สิงห์ผมขออะไรอย่างสิ ” ผมถามเสียงสั่น

“ ครับ ? ” สิงห์ตอบผมระหว่างที่เริ่มถอดกางเกงตัวเอง
ผมมองภาพตรงหน้าอายๆ แล้วจึงตอบ “ ถ้าพรุ่งนี้ผมไปร้านไม่ไหว ช่วยลากผมไปที อ้อ บอกคนอื่นว่าผมไม่สบายแล้วกัน ”

“ ได้ครับ ผมจะช่วยบอกคนอื่นให้เอง ” สิงห์ยิ้มบางๆ ตอบ

เรื่องต่อจากเมื่อคืนก็ทำนองนั้นนั่นแหละ ผมไม่ต่อให้แล้ว

--*--*--*--*--

ตามที่คาดช่วงเช้าผมหมดแรงที่จะขยับตัวด้วยซ้ำสิงห์เลยจับผมอาบน้ำแต่งตัวทั้งๆ ที่ผมมึนๆ เพลียๆ นั่นแหละ สิงห์ให้ผมใส่เสื้อของสิงห์เพราะผมไม่ได้เอาไปแต่แรกรวมทั้งซื้อทาร์ตไข่ไปฝากไม้ด้วย ผมขี้เกียจจะฟังทั้งไม้ทั้งแมททิวบ่น
สิงห์ลากผมเข้าไปในร้านประมาณช่วงสายๆ ที่มีคนอยู่ประปราย แต่ขอไม่นับเพื่อนผมแล้วกันเพราะวันปกติอยู่ครบทุกคนครับ

“ แคททททท.. ”  แนทที่เห็นผมเป็นคนแรกกระโดดโหยงแล้ววิ่งปรู๊ดเข้ามาหาผม ทำเอาผมสะท้านน้อยๆ ไม่ได้ มาแนวนี้ต้องรู้อะไรมาแน่ๆ

“ แนท เสือซื้อทาร์ตไข่มาฝากให้ไม้ด้วย ” ผมรีบยัดถุงทาร์ตไข่ใส่มือแนทก่อนที่แนทจะอ้าปากพูดอะไร ผมกระซิบให้สิงห์ลากผมไปต่อซึ่งสิงห์ก็ทำตามโดยดีและใช้ประโยชน์จากขายาวๆ ลากผมต่อ

แต่อย่าลืมครับ

ร้าน-ผม-อยู่-กัน-ครบ-ทุก-คน

ทำให้ระหว่างที่จะเข้าหลังร้านพบเจออีกสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ไม้กับแมททิว

“ เออ ไม้ทาร์ตไข่อยู่กับแนทนะ เห็นแนทบอกว่าจะมุบมิบไว้กินคนเดียว ” ผมชิงบอกก่อนอีกครั้งก่อนที่สองคนนี้จะพูดอะไร
และก็เป็นไปตามแผนไม้ลากแมททิวไปหาแนทโดยลืมจุดประสงค์ที่จะคุยกับผมในทันที
   
แล้วสิงห์ก็ลากผมมาถึงที่ห้องนอนจนได้ น่าแปลกที่ผมไม่เจอหยกคงจะไปซื้ออะไรกินมั้ง ? ผมนอนลงกับเตียงอย่างเพลียๆ ที่ผมกลับมาร้านไม่ใช่เหตุผลอะไรเลย วันนี้ผมเป็นเวรเฝ้าร้านผมไม่อยากให้เวรเฝ้าร้านรวน  พูดถึงเรื่องร้านเรื่องขนมถ้าผมไม่อยู่ก็มีหยกกับแนทที่ทำเป็นทำแทนได้ ทำให้ไม่มีปัญหาอะไรที่ผมไม่มาทำ
   
“ หิวไหมครับ ? ” สิงห์ถามผมเสียงนุ่ม

   “ ไม่ล่ะ แค่โจ๊กตอนเช้าก็พอแล้วล่ะ ” ผมไม่ถามสิงห์กลับหรอกว่าหิวไหม ก็เมื่อวานก็กินซะผมกลายเป็นแบบนี้

   “ แคทครับเรื่องรูปจะเอาไว้ไหนก่อนดีครับ ? ”
   
“ ในห้องนี้ก็ได้ ” พูดจบผมก็เผลอหาวหวอดออกมา “ ผมนอนต่อดีกว่า ถ้าให้ผมทำงานตอนนี้ผมคงตายแน่ๆ ”

   “ .. ครับ งั้นฝันถึงผมนะครับ ” สิงห์พูดพร้อมกับจูบหน้าผากผมเบาๆ
   
“ .... ” ผมไม่ตอบแล้วหลับตานอนทันทีและสักพักผมก็เผลอหลับลึกไปเลย
   
ผมตื่นหัวยุ่งขึ้นมาอีกทีตอนเย็นๆ รู้สึกดีขึ้นมากโข หันไปข้างๆ ก็เจอรูปสีน้ำตัวเองแปะอยู่ข้างฝาซะงั้น สิงห์ผมว่าผมบอกวางเฉยๆ นะ แต่ช่างมันเถอะไว้ที่ร้านก็ดีเหมือนกัน ผมเดินออกมานอกห้องเจอเจ้าส้มที่กำลังนั่งข่วนเล็บอยู่ก็คว้ามาเล่นสักพักถึงค่อยปล่อยมันไปนอน แล้วก็เดินไปชะเง้อหน้าดูว่าสิงห์ยังอยู่ในร้านไหมพบว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งอ่านชีทอย่างขะมักขเม้นอยู่

“ แคทจ๋า ~ ” เสียงเรียกหวานเจี๊ยบจนผมอดขนลุกไมได้

“ อะไร แนท ” ผมหันไปสบตาคนเรียกที่ยืนทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ผม

“ เมื่อคืนไปไหนมาจ๊ะ ”

“ ไปหัวหิน ”

“ หัวหินตรงข้ามอพารท์เมนท์เราเหรอจ้ะ ”
ถ้าเห็นขนาดนั้นแล้วคงไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธแล้วมั้ง

“ เออ เมื่อวานเสือไปค้างบ้านสิงห์มา ”

“ ไปทำไมจ๊ะ ? ”

“ ไปค้างบ้านแฟนไม่ได้ไง  ” แย่ละ ผมเผลอหลุดปาก

“ แหม แคทไม่ค่อยเลยอะ ” แนทหัวเราะออกมาอย่างอารมณดีจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้ “ รูปสีน้ำนี้ตอนสิงห์ยกเข้ามาคนโครตฮือฮาอ่ะในร้าน แล้วพอน้องสิงห์อายโครตน่ารักเลยมึง ”

สรุป คือรูปนั้นเห็นกันหมดแล้วสินะ ความจริงผมก็น่าจะทำใจไว้ก่อนเพราะยังไงก็ต้องเอาเข้ามาในร้านอยู่แล้ว แต่ไอ้ที่ชมสิงห์น่ารักดูจะทะแม่งๆ ไปหน่อย

อาเป็นว่าความสัมพันธ์ของผมกับสิงห์ไม่ต้องถามแล้วมั้ง

ก็ตามที่เห็นนั่นแหละ

. . .

:D


-*-*-*-*-*-*-*-

ตอนนี้น่าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้ว  :hao5: กะว่าจะมีตอนพิเศษอีกสักตอนก็ย้ายแล้วค่ะ

ขอบคุณคุณกุ้งเชอรี่ที่ติดตามตั้งแต่เริ่มจนจบนะคะ  :กอด1: รวมถึงคนอื่นๆ ที่ตามอ่านด้วย

ส่วนคุณ imvodka อย่าเพิ่งช็อคค่ะ 555  :man1: เพิ่งตามอ่านรวดเดียวอีกตอนนึงจบซะงั้น

ส่วนเรื่องสอบนี่น่าจะได้ทำค่ะ 55555 แค่เห็นข้อสอบก็  :z13:


   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao5:

ขอบคุณคุณ Foggy Time นะคะ เราชอบเรื่องนี้เอามากๆเลย จากใจจริง

 :กอด1: :กอด1:

รอตอนพิเศษนะค้า^^

(สิงห์หื่นฟร่ะ  :hao7:)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เสร็จสิงห์ซะแล้ว ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ตอนพิเศษ --

หลังจากที่สิงห์เรียนจบก็มาทำงานตามคำชักชวนของผม ซึ่งที่ผิดคาดพอสมควรคือในร้านของผมได้มีมุมเล็กๆ มุมนึงเพิ่มขึ้นมาซึ่งแมททิวเป็นคนเสนอมา เป็นมุมที่ให้สิงห์ได้ทำงานตามสิ่งที่ตัวเองเรียนมาอย่างการวาดภาพคนเหมือนอะไรทำนองนั้นซึ่งก็เป็นที่สนใจพอสมควร ทำเอาลูกค้าเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตา
   
ไม่แน่ใจเพราะสิงห์ที่โดนหยกกับแนทลากไปแต่งตัวใหม่รึเปล่าเพราะผมเจออีกทีนึกว่าคนละคน แถมแนทยังบ่นอีกว่า “ โห น้องสิงห์มีของดีก็เก็บซะมิดเลยนะ ” โอเคผมยอมรับก็ได้ ว่าพอสิงห์โดนจับไปตัดผมก็ดูหล่อขึ้นเยอะรวมกับเสื้อร้านผมแล้วนี่มันพ่อบ้านชัดๆ

   ร้านตอนนี้ก็เหมือนที่ผมได้บรรยายไปคนนี้เต็มร้านทุกมุม ผมทำเป็นโปรโมชั่นกินกาแฟคู่กับสเก็ตภาพทำให้คนนั่งกระจุกตรงสิงห์ซะส่วนใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงและมีผู้ชายบ้างประปราย สิงห์ในตอนแรกดูอายๆ เมื่อต้องเป็นจุดสนใจให้คนอื่น แต่ตอนนี้ดูท่าจะชินแล้วทำให้ดูเฉยๆ อีกทั้งยังมียิ้มบางๆ ตอนวาดด้วย
   
และนั่นก็ยิ่งทำให้คนไปต่อแถวกันเพิ่มขึ้นอีก..

   “ เฮ้ย อีแคททำไมทำหน้างั้นวะ ” แนททักผมที่กำลังยืนเหม่อ

   “ เปล่า แค่คิดว่าลูกค้าเยอะดี ” ผมยักไหล่ตอบ
   
“ อ้อ เหรอหน้ามึงนี่คนละทางเลยจ้า ”

   “ ก็ปกตินี่ ” ผมตอบเซ็งๆ จะให้ผมทำหน้ายังไงล่ะ

   “ จ้า ปกติก็ปกติ ” แนทไหวไหล่แล้วเดินไปเสิร์ฟขนมให้ลูกค้าที่นั่งรอคิวสิงห์อยู่
   
ว่าแต่ ผมทำหน้ายังไงออกไปกันแน่ ?
   
-*-

   “ เฮ้ย สิงห์ ” ฉันทักน้องสิงห์ที่กำลังนั่งจิบมอคค่าอยู่ในช่วงระหว่างพัก
   
“ ครับ ? ” สิงห์เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ซึ่งก็ทำให้รู้สึกภูมิใจไม่ได้ใครจะไปรู้พอจับไปแต่งตัวตัดผมดีๆ น้องสิงห์จะหล่อขนาดนี้ล่ะ ! นี่มันหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะ
   
“ ดูหน้าเพื่อนพี่หน่อยหน้านี่งอเป็นอะไรแล้วเนี่ย ” แค่ทักเมื่อกี้ยังวีนเลย นางนี่ไม่ไหวเลยต้องให้เจ๊ช่วยจัดการอีก
   สิงห์เลิกคิ้วงง ๆแล้วมองหาอีแคทตามที่ฉันบอก  ซึ่งพอสิงห์หันไปเจอตอนที่มันสบตาพอดี มันก็ยังคงทำหน้างออยู่ดีทำเอาน้อง

สิงห์ดูกระวนกระวายเลย
   
โอ๊ย หึงผัวเหรอมึ้งงง

   “ มันหึงเนี่ยสิงห์ ”
   
“ แคทน่ะเหรอครับหึงผม ” สิงห์หน้าแดงซึ่งนั้นก็ทำให้คนมองสิงห์เพิ่มขึ้น อีแคทที่หน้างออยู่แล้วยิ่งงอเข้าไปใหญ่
   
“ ไปถามเอาเองแล้วกัน พี่ไปดูลูกค้าต่อแล้ว ” ฉันยักไหล่อย่างมีเลศนัย

   “ เดี๋ยวครับพี่แนท ”

   สิงห์รั้งไว้ตามแผนเป๊ะ

   “ อะไรจ๊ะ ? ”

   “ ตะ ต้องง้อยังไงเหรอครับ ” 
   
อุ๊ย ตรงประเด็น “ ไอ้แคทถ้าจะง้อมันต้องเรียกชื่อเล่นจริงๆ มัน แล้วก็น้องสิงห์แค่ง้อๆ หน่อยก็หายนอย์ดแล้ว ” ที่เหลือไปต่อยอดเองนะ สิงห์
   
ไอ้แคทมันใจอ่อนจะตายไป

   หลังจากเลิกงานทำความสะอาดอะไรเสร็จผมก็นั่งเล่นกับส้มรอสิงห์ ซึ่งสิงห์กำลังเก็บอุปกรณ์วาดรูปอย่างขะมักเขม้นอยู่และผมก็ไม่ค่อยอยากสนใจเท่าไหร่ตอนนี้

   ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
   
ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ

   ผมนั่งทำหน้าเซ็งใส่ส้มที่ตอนนี้หลับไปแล้ว แล้วผมจะทำอะไรแก้เบื่อกันล่ะเนี่ย ส้มมมม แต่ถึงจะอยากปลุกมันขึ้นมาขนาดไหนก็ตาม ผมก็ไม่ได้ปลุกอยู่ดีใครใช้ให้ส้มเวลาโดนกวนเวลานอนมันจะกางเล็บละ น่ากลัวมาก ไม้เคยโดนข่วนไปรอบ
   ว่าแต่เมื่อไหร่จะเสร็จวะเนี่ย ผมเริ่มหงุดหงิดแล้ว

   “ เสือครับ ”

   “ อะไรสิงห์ ” ผมถามสิงห์เสียงห้วน

   สิงห์ดูกระวนกระวายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแววตาสิงห์ฉายประกายอ้อนอยู่น้อยๆ  ทำให้ผมอ่อนลงมานิดหน่อย
   
“ กลับบ้านกันเถอะ อยากนอนแล้ว ”  ผมอยากกลับไปซุกตัวกับหมอนเต็มทนแล้วเผื่อไอ้อารมณ์ที่หงุดหงิดนี่จะหายๆ ไป
   
“ กลับน่ะกลับแน่ครับ แต่ว่า.. ”

   “ แต่ว่าอะไร ”  คิ้วของผมเริ่มขมวด

   สิงห์รวบตัวผมเข้าไปกอดอย่างกะทันหัน ทำเอาผมเผลอร้องเสียงหลง ตอนนี้หน้าผมจมอยู่กับเสื้อสิงห์ที่มีกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ

   “ ต้องง้อเสือก่อนสิครับ ” สิงห์พูดพร้อมหอมแก้มผมเบาๆ

   ผมหน้าแดงพูดอะไรไม่ออกไปสักพัก “ ง้อทำไมผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ” ใช่ แค่ หงุดหงิดนิดๆ หน่อยๆ เอง

   “ เวลาผมจะวาดรูปใครก็ต้องดูแบบตลอด แต่ก็มีแต่เสือนะครับที่เวลาผมวาดไม่ต้องดูแบบเลย ” สิงห์พูดเสียงแผ่วๆ ด้วยหน้าแดงๆ “ ในหัวของผมมีแต่เสือนะครับ ไม่มีใครเลย ”
   
ผมหน้าแดงกว่าเดิมเมื่อฟังจบ

น่าแปลก ที่อารมณ์หงุดหงิดหายเป็นปลิดทิ้งเลย
   
ผมตบไหล่สิงห์แปะๆ เชิงว่าปล่อยผมได้แล้ว

   “ ปะกลับบ้าน เดี๋ยวผมทำของที่สิงห์ชอบให้กิน ”  ผมยิ้มบางๆ ด้วย  อ้อ บ้านที่ว่านี้เป็นบ้านของผมกับสิงห์ซึ่งก็ยังติดผ่อนอีกยาวๆ อ่านะ ไร้ซึ่งความโรแมนติกสิ้นดี

   “ ครับ ? ” สิงห์ดูงงๆ เอ๋อๆ แต่ก็ยังไม่คลายแขนอยู่ดี

   “ กลับบ้านไง งงอีก ”

   “ หายงอนแล้วเหรอครับ ” ยังไม่วายถามคำถามอีก
   
“ งอนอะไรเล่า กลับบ้านๆ ”
   
สิงห์ยิ้มกว้างออกมาทำให้ดูหล่อมากขึ้นไปอีกและยอมคลายแขนออกแต่โดยดี
   
และผมก็คิดว่าจะได้กลับบ้านซะทีแต่กลับก้มหน้าลงมาจูบผมแทน
   
ทำไมนับวันสิงห์ยิ่งดูรับมือยากขึ้นเรื่อยๆ จนเสืออย่างผมเริ่มจะวิ่งหนีไม่ทัน
   
สักพักนานๆ กว่าสิงห์จะปล่อยผม

   “ แฮ่ก สิงห์นี่มันที่ร้านนะ ! ” ผมโวยวายพร้อมหอบไปด้วย ผมว่าผมควรจะตั้งกฏได้แล้วมั้งเนี่ย
   
“ .. ขอโทษครับ ” สิงห์ดูหงอยลงทันใดเมื่อโดนผมดุ

   “ กลับบ้านเถอะ ผมง่วงแล้ว ” ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตื่นเต็มตาแล้วก็เถอะ
   
“ ครับ เสือแต่ผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ ”

   “ ว่า ? ”
   
“ ทำต่อได้ไหมครับ ”

“ !?! ”

   ดูท่าผมต้องมีมาตราการป้องกันตัวจากสิงโตขี้อายแต่บ้ากามคนนี้ซะแล้ว


------------

มาแล้วตอนพิเศษที่น่าจะบอกเล่าเรื่องเล่าต่อจากนั้นไว้  :z2:

ส่วนตอนพิเศษก็อาจจะมาอีกถ้าคิดถึงน้องสิงห์กับเสือ

รวมๆ แล้วเรื่องนี้แต่งเกือบปีเลยไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ ขอบคุณคุณกุ้งเชอรี่นะค่ะที่ชอบ 55 ( ยังเรียกชื่อเดิมอีก  :beat: )

รวมถึงคุณ lizzii ด้วย ที่ตามตั้งแต่ตอนแรกๆ แต่เห็นน้องสิงห์เงียบๆ แบบนี้ฟาดเรียบนะคะ 5555

ส่วนตอนนี้ก็ซุ่มแต่งเรื่องนึงให้จบอยู่แล้วค่อยลงทีเดียว  :z13: 

   
   
   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ว๊าาา จบแล้ว แอบอยากให้มีต่ออีกเรื่อยๆ
เสือกับสิงห์น่ารักอ่ะ แต่มึนพอกันทั้งคู่
ต้องให้คนมาคอยกระตุ้น ฮ่าๆๆๆๆๆ

เราชอบเรื่องนี้น๊า อ่านได้เรื่อยๆ น่ารักดี รอติดตามเรื่องต่อไปค่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :กอด1:

กอดคุณ Foggy Time นะคะ หลงเสน่ห์น้องแคทอ่ะ น่ารักมาก (ส่วนสิงห์ก็นะ นับวันหื่นขึ้น  :hao3:)

แต่ที่ขาดไม่ได้เลยบรรดาเพื่อนๆของแคท ถ้าไม่มีแก็งค์นี้ เรื่องนี้จะไม่ฮาเลย (เพราะสองคนนั้นหนุงหนิงหวานแหววตลอด)

โค้งงามๆ ขอบคุณนะค้าาาาาาาาา

 :pig4:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ฮิฮิ้ว...เสือหื่นนี่นา

ออฟไลน์ MeganMP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ชอบนะะะะ น่ารักมากอ่ะ -/////- สนุกดี


สิงห์เนี่ยยย จากสิงห์ขี้อาย กลายเป็นสิงห์หื่นซะแล้วว   :hao6: :hao6: :hao6:


ปล. อยากอ่านตอนพิเศษอีกกกกกกกก นะๆ :m15:

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อ่านรวดเลย >< น่ารักกอะๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบบบบบ อ่าน 2 วันจบ :katai2-1:

เป็นคู่ที่รักกันได้มุ้งมิ้งมาก :ling1:

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านวันเดียวจบเลย
สนุกมากมากเลยครับ
น่ารักมากมากเลยครับ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
มาตามอ่านอีกรอบจนถึงตอนพิเศษ ฮ่าๆ
น่ารักๆ

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เขินกันทั้งเรื่อง   มันเลยทำให้เรายิ้มทั้งเรื่องเหมือนกัน :impress2:

ออฟไลน์ whitepinkgirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องของเสือกับสิงห์

อ่านแล้วอมยิ้ม ฟินจิกหมอนจริงๆ  :-[

 :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สิงห์เสือน่ารักอ้ะ คนขี้อายกับคนขี้อาย

เขินเลยค่ะ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด