Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]  (อ่าน 698998 ครั้ง)

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
อิๆๆๆ ดินน่ารักเว่อร์

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เราบ้าคู่นี้มากกก :impress2: อ่านซ้ำๆหลายๆรอบ อ่านเองเขินเองฟินเอง :heaven
ชอบหลายอย่าง จะสังเกตว่าสกายจะปากตรงกับใจ คิดไงบอกงั้น ส่วนพี่ดินปากแข็ง แต่ใจอ่อน คึๆ ชอบแกล้งน้องเค้าแต่เก็บไปฟินเอง  :ruready เราคิดว่าสกายคงชอบพี่ดินแล้วแหละ น้องจะปล่อยหมัดฮุกหมัดตรงใส่พี่ดินตลอด ส่วนนึงก็คงประทับใจความบ้าๆแต่จริงใจเหมือนจ้าว แต่เราว่าสกายแยกออกว่านี่คือพี่ดินนะ ไม่ใช่จ้าว แถมพี่ดินก็เป็นผู้ใหญ่กว่า เป็นผู้นำมากกว่าจ้าว (สถานการณ์ตอนติดลิฟต์ พี่ดินแมนม้ากมาก เรียกสกายว่าน้องด้วยแหละ กรี๊ด) ตอนที่ยิ่งกว่าฟิน (เกือบตายคาคอม) คือตอนนวดเท้า แบบ คือมันใช่ คิดดู เพิ่งรู้จักไม่ได้สนิทกันแต่ยอมแตะเท้า ยอมให้วางบนตัก ยอมนวดให้ ค่อยๆนวด โอ๊ย อิฉัน :jul1: ส่วนพี่ดินกรี๊ดน้องบ่อยขนาดนี้คงยิ่งกว่าหลงแล้วแหละ o18

ขอพนัน สิบสตางค์ ว่าพี่ดินจูบสกายก่อน ฮ่าๆ

เชียร์พี่ดินรุกแหละ :hao6: เชียร์งี้มาแต่แรกเลย อยากให้พี่ดินเป็นรุกที่แรด (เพราะรับที่แรดมีแล้วคือน้องจ้าว อยากรู้ว่าพี่ดินรับเป็นยังไงจิ้นจ้าวแทนได้ -..-)

ไปอ่านต่อ(รอบที่ร้อย)นะคะ

แต๊งกิ้วทั้งคนเขียนและคนโพส  :mew1:

ออฟไลน์ vanvan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดด

ขอกรี๊ดตามอิดิน

ขอฟินตามแพพพพพพพ

ระทวยเลยค่าาาาา คู่นี้
 :jul1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ดินกรี๊ดซะ -_-"

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
อะไรน่ะ น้องสกาย ชวนผู้ชายมาอยู่ด้วย

ออฟไลน์ mukkai

  • a Day dreamer
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กำลังงนึกถึงหน้าพี่ดินคนเเมนกรีดกลั้นฟินไม่อยู่55555555555555555555

แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม

  • บุคคลทั่วไป
 :hao7: พี่เกดโหดมากก ดินแบ๊วได้ใจ :hao7:

ออฟไลน์ Nighttime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :ling1: :impress2: กรี้ดดดดดดดดีดดิ้นชี้แขนชี้ขา พลั้กๆๆ ขอฟินเป็นเพื่อนอีพี่ดอกดินค่าา

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
พี่ดินเนี่ยคือจ้าวเวอร์ชั่นเถื่อนแท้ๆ
ฟินตาม สกายดูแลดีแต่น้องเมะเหรอกรี๊ด

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ดินดูแรดๆเนาะช่วงนี้5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boooob

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
55555+  กรี๊ดดดดด...ด้วยได้ม้ายยยย :-[ :-[

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
กรี๊ดดดดดดด ฟินด้วยคน

ทำไมรังสีเคะมันกระจายฟุ้งๆอยู่ในอากาศแบบนี้  :hao7:

ดินเคะ ดินเคะ ดินเคะ  :call: ดินเคะ ดินเคะ ดินเคะ

 o22 เล่นใช่ไสยศาสตร์  :laugh:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
กรี๊ดดดดดด ขอฟินด้วยค่ะ

เชียร์ให้ดินโดนกด 555  ออร่านางออกอ่ะ 

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
นอนป่วยให้ดูแลกันแค่สองคืนก็ชวนมาอยู่ด้วยกันแล้วเหรอเนี่ย :-[
สนับสนุนเต็มที่ค่ะ พี่ดินต้องการคนดูแลอย่างมาก
สกายเหมาะที่จะเป็นผู้ดูแลใครสักคนอยู่แล้วล่ะ ใส่ใจสุดๆ
ขอให้สกายหลุดพ้นจากสัญญาทาสเร็วๆนะจ๊ะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
สงสารพี่บั๊คจะมีเมียทั้งที เมียดันโคตรเกรียน เข้าใจยากที่สุดในสามโลก 5555+
พี่บั๊คทำเสียเรื่องไปจนได้ เจ้ามันคิดแง่ร้ายไปหล่ะ

ออฟไลน์ Chocolate1134

  • "Late_Cappuccino"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Late_Cappuccino
อร๊ายยยย น่ารักฝุดๆ ปล้ำเลยลูก ปล้ำเลย  :-[

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
อิพี่ดิน แรดนะคะ5555555

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พี่ดินฟินแบบนี้เป็นลางนะพี่ ลางว่าจะโดนกดนะฮ้าาาาา

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ย้ายมาเลย

ย้ายมาอยู่ด้วยกัน,,,

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
อย่ามัวแต่กรี๊ดดดดนะดิน
ตอบตกลงซะ ... ก่อนที่สกายจะเปลี่ยนใจ
ถ้ามีดินอยู่ด้วย สกายจะได้มีสีสันในชีวิตบ้าง ... ไม่งั้นก็หน้านิ่งหน้าเดียวตลอด ^^
ดินสกาย อยู่ด้วยกันจะเป็นยังไงบ้างน๊า!!
ตอนโหดพอนึกออก ปล่อยหมัดตรงเลย 555
แต่ตอนหวาน ๆ อะ คิดไม่ออกเลย......  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ schneesturm_fubuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
รู้สึกดีใจที่ตามไปอ่านเซ็งเป้ดอวร์ดมาจนเจอนิยายเรื่องนี้ อ่านแล้วฮาจนน้ำตาเล็ด หยุดขำไม่ได้...:jul3:

นิยายสนุกมากค่ะ  o13

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
พี่ดินค้นพบทางของตัวเองแล้ว นางเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 55555555555

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3
ตอนแรกเราคิดว่าดินเมะ กายเคะอ่ะ  สงสัยเข้าใจผิดไป

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อื้อ~ ฟินจ้า! ฟินระเบิดระเบ้อ ฟินไม่มีคำบรรยายยยย
พี่ดินมันน่ารักกกก ภาวนาให้พี่ดินมันโดนกด >m<
ชอบคู่นี้!

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อีพี่ดินถึงกับกรี๊ด!!!

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Chapter 21  Devil calls me Daddy (1)





“บางทีความวุ่นวายคงทำให้เหนื่อยจนลืมเรื่องที่เราชอบจำไปหมดสินะ”  สกายเพ้อออกมาลอยๆ  มันเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่ผมก็ได้ยิน

เดี๋ยวนะ!?

มันกำลังคิดว่า ที่มันไม่ต้องคิดถึงคนที่มันชอบคิดถึง กับที่มันไม่ต้องห่มเบบี้แบลงของมันก็เพราะมันเหนื่อยที่ต้องมาดูแลผมงั้นเหรอ

อ่าว คดีพลิก ไอ้สัส

อารมณ์ตอนนี้เหมือนติ่งเกาหลีที่ทุ่มกรี๊ดสุดเสียงแล้วมารู้ในวันต่อมาว่าอ้ปป้าจะแต่งงาน  ไอ้เหี้ย เฟลนะเว้ยย!!

“ทำไมเงียบไปล่ะ”  ยังมีหน้ามาถาม นี่กูไม่ถีบมึงตกเตียงก็บุญเท่าไหร่แล้ว

“กูป่วยเนี่ย มาชวนคุยทำส้นตีนไรนักหนา หุบปากไปเลย! รำคาญ!!”  ผมด่ามันด้วยอารมณ์หงุดหงิดระดับไม่ธรรมดา   ไข้เหี้ยไข้ห่าก็ไม่หายซะที  ไอ้หอกหักนี่ก็มาพูดนั่นนี่กวนใจอยู่ได้ รำคาญๆๆๆๆ

ไอ้หน้านิ่งดูจะช็อคๆ ไปเหมือนกัน เห็นหน้ามันเสียก็รู้สึกผิดนิดๆ จะว่าไปก็คุยกันมาดีดี แต่ทำไมผมถึงได้หงุดหงิดขึ้นปุบปับแบบนี้ก็ไม่รู้

แต่ด้วยความหน้าด้านของกู  กูไม่ง้อมึงหรอก  กูป่วย กูไม่ผิด

หลังจากนั้นมันก็หลับตาลงแล้วเงียบไป  ผมเหลือบมองมันอยู่นานก็ไม่เห็นว่าจะหันมาคุยอะไรอีก นอนนิ่งกอดเบบี้แบลงของมันแน่น เหมือนจะหลับแต่คิ้วขมวดแบบนั้นอาจทำให้ฝันร้ายก็ได้นะเว้ย

ผมเอื้อมมือไปจะแตะมัน ลังเลใจว่าจะง้อดีมั้ย แต่ด้วยความเหี้ยของผม  ก็เลยเบะปากใส่แล้วหันหลังให้ก่อนจะข่มตานอน

...มึงนั่นแหละผิด มาหาว่ากูวุ่นวายก่อนทำไมล่ะ!!





เช้าวันนี้ผมตื่นเพราะเสียงปลุกของสกาย  มันเรียกให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะจะได้ไปเอารถที่มหาวิทยาลัยพร้อมกัน  เห็นหน้ามันนิ่งก็ใจคอไม่ค่อยดี  ถึงมันจะหน้าแบบนี้อยู่แล้วแต่ด้วยความผิดที่ผมไปเหวี่ยงมันเมื่อคืนก็ทำให้รู้สึกแย่..นิดหน่อย



พออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวด้วยชุดเดิมของผมที่ไอ้หน้านิ่งมันชักรีดให้อย่างดี แล้วก็ออกมาหามันที่ห้องครัว  “ไหนมึงบอกว่าจะให้กูมาอยู่ด้วย” 

ไอ้หน้านิ่งที่ยืนทอดแฮมด้วยอาการสงบไร้อารมณ์ใดใดหันมามองนิดหน่อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงธรรมด๊าธรรมดา “เปลี่ยนใจแล้ว” แล้วมันก็หันไปง่วนอยู่กับการทำกับข้าวต่อ  “ผมคงอยู่กับคุณไม่ได้หรอก นิสัยต่างกันสุดขั้ว” 

ทำไมใจแป้วๆ 

“แตกต่างเหมือนกัน มึงไม่เคยดูทโมนวัยหมกมุ่นเหรอ”  ผมเดินไปหยิบไส้กรอกที่มันทอดเสร็จแล้วมากินหน้าตาเฉย

“ฮอร์โมนมั้ง”  เย้ รับมุกด้วย

“ดูด้วยเหรอ”  แกล้งชวนมันคุยแล้วหยิบแฮมมากินอีกชิ้น

“ไม่ได้ดูหรอก แต่เคยได้ยินไอ้..”  อยู่ดีดีก็หยุดพูดไปซะเฉยๆ

“ไอ้อะไรวะ หยุดพูดทำไม”  ผมมองสำรวจอาการของมัน

“เปล่า แค่ทอดเสร็จหมดแล้วก็เลยจะยกไปที่โต๊ะ”  มันยกจานใบใหญ่ที่มีทั้งไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และขนมปังปิ้งไปวางที่โต๊ะ  บนโต๊ะมีจานกับมีดและส้อมวางไว้สองชุดสำหรับมันกับผม  “นั่งสิ  กินเยอะๆ นะจะได้หายป่วยซะที”  ทุกกิริยาอาการไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกผิดปกติ แต่นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา..อีกนิดหน่อย

“เหนื่อยมากเหรอที่ต้องดูแลกู”  ผมทำหน้าหงอยนิดๆ

สกายเงยหน้ามองผมแล้วอึ้งไปเล็กน้อย  “เปล่า”  มันตอบแล้วก้มลงตักไข่ดาวใส่ปาก  “อะไรทำให้คุณคิดว่าผมเหนื่อย”

“ก็มึงบอกว่ากูวุ่นวาย”  ผมจิ้มไส้กรอกมาสองชิ้นแล้วยัดเข้าปากทีเดียวพร้อมกัน  “แล้วยังเปลี่ยนใจไม่อยากให้กูอยู่ด้วยอีก”  ประโยคหลังแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์เพราะอาหารที่เคี้ยวอยู่เต็มปาก  “แค่กๆๆ”  เพราะพูดและกินพร้อมกันจึงทำให้สำลัก ผมรีบวางส้อมลงบนโต๊ะแล้วปิดปากกลั้นอาการสำลักเป็นการใหญ่

สกายทำหน้าตาตื่นแล้วหยิบน้ำหยิบทิชชูลุกมาช่วย “คายออกมาก่อน”  มันวางทิชชูลงบนฝ่ามือแล้วเอามาตวงไว้ใต้คาง  ผมก็เกรงใจมันนะแต่ถ้าไม่คายต้องสำลักตายแน่ๆ  “กินน้ำก่อนเอ้า” มันยื่นน้ำให้แล้วห่อซากอาหารที่ผมคายแล้วทิ้งลงถังขยะใต้โต๊ะ  “ดีขึ้นมั้ย กินน้ำอีกหน่อยดีกว่า” มันป้อนน้ำผมอีกแต่ผมกินไปได้นิดหน่อยก็ไอออกมาทำให้น้ำกระเซ็นเลอะเปื้อนไปทั่ว

สกายรีบดึงทิชชูมาเช็ดปากเช็ดคางให้เป็นการใหญ่แถมยังลูบหลังขึ้นๆ ลงๆ ให้อย่างขมีขมัน พอผมเริ่มดีขึ้นจึงรู้สึกแปลกๆ และยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาอีก..นิดหน่อย

“บอกกูทีว่ามึงไม่ได้รำคาญกู”  ผมจับมือที่กำลังซับน้ำที่คอให้  สกายหยุดนิ่งและมองที่มือก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าผม

“ก็ใครพูดตอนไหนว่ารำคาญ”  เราสบตากันในระยะประชิด  สายตาที่เคยธรรมดาของมันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น 

นิ้วผมขยับคลึงมือมันแผ่วเบา ในตอนนี้ผมแทบไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่  มันก็ได้แต่ยืนมองและปล่อยให้ผมจับคลึงมือมันเล่นอยู่อย่างนั้น สีตาของมันช่างดึงดูดให้อยากเห็นใกล้ๆ ว่าจะสวยได้อีกแค่ไหน ผมค่อยๆ ดึงมือมันเข้ามาหา หน้าสกายเคลื่อนเข้ามาใกล้ทีละน้อย จนกระทั่ง..

เคร้ง!!!

เสียงส้อมที่วางหมิ่นเหม่บนโต๊ะหล่นลงพื้นกระเบื้องเสียงดังปลุกสติของเราทั้งคู่ให้กลับเข้าร่าง  สกายผละออกไปทันทีพร้อมกับผมที่รีบก้มเก็บส้อมอย่างรวดเร็ว

“ส้อมตก ฮ่าๆๆ”  ส้อมตกแล้วกูหัวเราะทำไมวะ

“อ..อืม”  มันรับคำตะกุกตะกักพลางเกาคอแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม 

สกายมันหน้าหวานเหมือนที่พี่เกดว่าเลยแฮะ เมื่อกี้ที่ทำหน้าไม่ถูกยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่

ว่าแต่..

เมื่อกี้เหมือนเรากำลังจะจูบกันรึเปล่าวะ  ช่วงเวลาตอนนั้นมันเร็วและควบคุมตัวเองไม่ได้เลย  แต่นั่นยังไม่หงุดหงิดเท่ากับว่า จำไม่ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร



หลังจากนั้นเราก็นั่งกินอาหารเช้ากันแบบเงียบๆ ต่างคนต่างไม่อยากสบตาและพูดคุยอะไรกันอีก  พอขึ้นรถผมก็รีบเปิดวิทยุฟังเพลงไปเรื่อยๆ  จนถึงที่หมาย

“ขอกุญแจห้องหน่อย”  ก่อนลงจากรถ ผมแบมือไปตรงหน้ามัน

สกายเลิกคิ้วสงสัย  “คุณจะเอาไปทำไม” 

“เดี๋ยวจะเข้าร้านไปเคลียร์งานแล้วจะกลับคอนโดขนของไปเก็บที่คอนโดมึงไง”  หน้าด้านเป็นงานถนัดของกูครับ มึงไม่ต้องทำหน้างง

สกายมองมานิ่งๆ  มันมองเหมือนกำลังสำรวจอารมณ์ของผมและของตัวเองไปพร้อมๆ กัน  ผมไม่พูดต่อ ปล่อยให้มันตัดสินใจของมันเอง  สักพักมันก็ล้วงเอากุญแจในกระเป๋ามาวางไว้ในมือผม  “..ฝากด้วยนะ”  ไม่รู้มันฝากอะไร ฝากกุญแจ ฝากห้อง หรือ..

ไม่น่าใช่ ไอ้หน้านิ่งมันคงไม่ฝาก..เนื้อฝากตัวมันหรอก กูก็คิดมากไปได้

ผมยิ้มอย่างผู้ชนะที่ได้กุญแจมาไว้ในครอบครอง “วันนี้มีถ่ายแบบ กลับเร็วๆ นะเว้ย” ว่าแล้วก็เปิดประตูออกจากรถมันก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองอย่างอารมณ์ดี

...ที่อยากอยู่ด้วยเพราะจะได้หาโอกาสชนะพนันหรอกนะ ไม่ได้คิดอะไรอื่นใดเลย สาบาน!





ผมเข้าร้านแล้วจัดการกับบัญชีรายรับรายจ่ายและตรวจตราดูความเรียบร้อยจนเสร็จ  จากนั้นก็กลับคอนโดและแพ็คกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กะว่าคงไม่กลับมาอีกเป็นเดือน  ผมแจ้งไว้กับคอนโดว่าให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดเป็นปกติเผื่อว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อ 

บ่ายแก่ๆ ก็ขนของมาไว้ที่คอนโดสกาย  ไม่ได้จัดของเข้าที่เพราะไม่รู้เจ้าของห้องมันจะให้เก็บอะไรไว้ไหนบ้าง  ดูท่าทางมันจะเจ้าระเบียบอยู่พอสมควร   ผมอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอเวลาไปถ่ายงานตอนบ่ายสามโมง ซึ่งไอ้หน้านิ่งกลับมาถึงก็บ่ายสองนิดๆ  มันมาถึงก็ทำหน้าเดียวใส่แล้วเข้าไปอาบน้ำออกมาแต่งตัวโดยไม่ทักทายผมซักคำ

“เป็นไรอีกล่ะ  ให้กูเดานะว่าเพื่อนรัก รักเพื่อนของมึงมันต้องแผลงฤทธิ์ใส่อีกแน่ๆ”  ผมเดามั่วๆ แต่คิดว่าไม่น่าพลาด

“คุณนี่ฉลาดนะ ถ้าไม่ติดเรื่องนิสัยก็คงเป็นคนที่น่าคบเลยล่ะ”  เหมือนจะชมแต่ที่จริงมึงด่า

“ไอ้ห่าน”  ผมด่าสวน  “ไม่ต้องมาแอบด่าแอบแซะตอดเล็กตอดน้อย  ถึงมึงด่ากูตรงๆ แรงๆ กูก็ไม่สะเทือนหรอกโว้ย”  ผมทำท่ากวนใส่

“ถ้าด่าจะไม่สะเทือนแต่ถ้าพูดในทำนองว่าคุณวุ่นวายน่ารำคาญ ถึงจะสะเทือนใช่มั้ยล่ะ”  ดูเหมือนว่าการทำให้กูสะอึกได้เป็นความสุขของมึงนะ  จากเมื่อกี้ที่หน้าบูดเป็นตูดเป็ดตอนนี้เริ่มอมยิ้มแบบผู้ชนะซะแล้ว

“ถ้าคิดแบบนั้นแล้วมีความสุข ก็เอาที่มึงสบายใจ”  เบ้ปากใส่แล้วเดินไปนั่งรอที่โซฟา  “ไปยังเนี่ย เดี๋ยวก็สายพอดี” 

“คร้าบคร้าบบ เปลี่ยนเรื่องเนี้ยนเนียน”  ไอ้ห่านี่ทำตัวมุ้งมิ้งก็เป็นวุ้ย  ลากเสียงยานๆ แอบแซะ แถมยังอมยิ้มไปด้วย  มึงจะทำให้กู..

เอ่อ..ทำให้กู  ชอ.. ไม่สิ ไม่หรอก  อย่าบ้าน่า

“อ้าว ไหนบอกกลัวสาย  มัวแต่นั่งงงอยู่นั่นแหละ เร็วๆ สิคุณ”  สกายเรียกอยู่ตรงหน้าประตู ผมจึงสลัดความคิดแปลกๆ แล้วรีบลุกตามไปทันที





งานวันนี้ไม่มีอะไรมาก แค่ถ่ายแบบลงนิตยสาร เป็นแฟชั่นคู่เกย์  ฮ่าฮ่า ที่เรียกแบบนี้เพราะแต่ละชุดแม่งเก๊เกย์  ทั้งลายเสื้อ ลายกางเกง ความเนี๊ยบ ความเว้านั่นโชว์นี่คว้านนู่น  ผมกะจะบอกอีพวกทีมงานไปหลายทีเลยนะว่า ‘มึงให้กูถอดเลยเหอะ’ แล้วยังมีกางเกงโคตรฟิตที่ด้านหลังรัดก้นจนขี้แทบเล็ดด้านหน้ารัดไข่จนเกือบเป็นหมัน  แถมสีสันจัดจ้านบาดตาทุกชุด  ผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะเพราะพี่ดอทมันไลน์มาบอกธีมชุดแล้ว และผมก็ไม่ค่อยวอรี่เรื่องเพศอะไรด้วย  แต่ที่รู้สึกแปลกๆ ก็คือ ท่าที่เค้าให้โพส แม่ย้วย อย่างกะหนังเรทอาร์

“คุณไม่ต้องหายใจแรงได้มั้ยเนี่ย”  ไอ้หน้านิ่งบ่น

“มึงบ้าปะเนี่ย  กูจะหายใจเบาหรือแรงมันไปหนักรูขุมขนรูไหนของมึง ห๊ะ”   ผมด่ามันแบบกระซิบเพราะไม่อยากให้ทีมงานได้ยิน

ตอนนี้ท่าที่เราโพสก็คือ  ผมนั่งอ้าขาบนโซฟาแล้วไอ้หน้านิ่งนั่งอยู่กลางหว่างขา  ผมโอบเอวเกยคางที่ไหล่แล้วเอียงหน้าเข้าซอกคอมัน  เสื้อที่มันใส่เป็นเสื้อคอคว้านลึกที่ถูกดึงให้ไหล่เสื้อตกไปอยู่ที่แขนจึงทำให้ช่วงลำคอจนถึงไหล่มันเปลือยเปล่า  ผิวเนียนละเอียดและกลิ่นหอมสดชื่นของมันทำให้ผมหายใจติดขัดนิดหน่อย ไอ้ลำพังอากาศโดยรอบก็น่าอึดอัดอยู่แล้ว  ไอ้ห่าตากล้องก็ยังให้โอบให้กอดให้รัดกันจนแทบจะรวมร่าง

“ลองเปลี่ยนที่นั่งกันมั้ยล่ะ คุณจะได้รู้ว่าหนักรูไหน”  มียอกมีย้อนนะเดี๋ยวนี้

“มึงก็ไปขอเปลี่ยนกับพี่ตากล้องเองมั้ยล่ะ ก็เค้าให้กูเป็นรุก มันก็ต้องนั่งแบบนี้แหละ”  ไอ้พวกพี่ทีมงานมันสาระแนเลือกบทให้พวกผมเองเสร็จสรรพ  มันบอกว่าหน้าผมเมะหน้าไอ้สกายเคะ เละๆ เอ๊ะๆ อะไรของพวกมันก็ไม่รู้ ผมไม่เข้าใจนักหรอก ก็ได้แค่ทำตามที่พวกมันบอก

“ฮู้”  มันฮุ้ใส่แล้วหันไปมองกล้องประมาณว่าเบื่อจะเถียงด้วย  แต่ผมเดาว่าเมื่อกี้ที่เห็นมันไปแอบกระซิบกับพี่ตากล้องก็น่าจะเป็นเรื่องที่มันอยากทำท่าเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะมั้ง แล้วเค้าคงไม่ยอม พอผมท้าให้ไปถามอีกที ไอ้หน้านิ่งก็เลยหงุดหงิด

มันก็แน่อยู่แล้ว  ถ้ากูจะมีคู่เป็นผู้ชายจริงๆ กูก็ต้องเป็นรุกแหละ หน้าอย่างกูไม่มีทางเป็นฝ่ายรับหรอกโว้ย!

‘ถ้าชาตินี้กูปิ๊งผู้ชายนะ กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลยเอ๊า’ อยู่ๆ คำพูดที่เคยลั่นวาจาไว้กับไอ้บั๊คก็ก้องขึ้นในหัว ไม่เอาน่า มึงอย่าหลอนตัวเองสิไอ้ดิน  ข้อแรกคือ มึงไม่มีทางปิ๊งผู้ชายอยู่แล้ว  และข้อสอง ถึงมึงจะปิ๊งจริง มึงก็ต้องเป็นฝ่ายกด ไม่ใช่โดนกดแน่ๆ  หึหึ แล้วประเด็นสำคัญก็คือไอ้บั๊คมันไม่ได้มานั่งเฝ้าตอนเอากันนี่หว่า แล้วจะไปบอกมันทำไมว่ากูรับหรือรุก เผลอๆ มันอาจลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น.. ไม่มีสัจจะในหมู่คนเหี้ยครับ พูดเลย



แล้วการถ่ายแบบเซ็ตนี้ก็จบลงอย่างเรียบร้อยในเวลาหนึ่งทุ่ม

“พี่ดอทให้ไปหาที่ไหนนะ”  ผมถามไอ้หน้านิ่งตอนขึ้นมาบนรถแล้ว 

วันนี้เอารถผมมาเพราะรถสกายมันเล็ก นั่งแล้วอึดอัดน่ารำคาญ  แต่ผมให้มันขับเพราะขี้เกียจ ฮ่าๆๆ ผมนี่โคตรเป็นคนดี

“ที่ห้องเสื้อ”  มันบอกแล้วออกรถ

“คุยเรื่องไรวะ อย่าบอกว่ารับงานเดี่ยวให้มึงนะ แค่งานคู่ก็โคตรล้นแล้วอะ”  ตอนนี้ที่รับงานก็หกตัวเข้าไปแล้ว  จ่ายหนักๆ ทั้งนั้น แต่ผมคิดว่า มันต้องหนักได้กว่านี้อีก และแผนที่ผมคิดไว้เพื่อช่วยสกายก็ใกล้จะได้ฤกษ์งามยามดีแล้วล่ะ

“ไม่รู้เหมือนกัน”  ไอ้นี่ก็ประหยัดคำพูดไปไหนวะ ถามแค่ไหนก็ตอบแค่นั้น มึงไม่คิดจะเอื้อเฟื้อคำพูดมึงให้เยอะอีกหน่อยหรือไง

“กูไปคุยด้วยได้ปะ”  ผมถาม

สกายเหลือบมองแบบงงๆ “ไม่รู้สิ” 

“ตอบอยู่ได้ ไม่รู้ ไม่รู้  ชีวิตมึงรู้ไรมั่งเนี่ยไอ้หน้าแมว”  ผมผลักหัวมันอย่างหมั่นไส้

“เอ๊า” มันหันมาเหวี่ยงใส่ “ก็ผมไม่รู้จริงๆ พี่ดอทจะคุยเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แล้วคุณจะเข้าไปคุยได้มั้ยผมก็ไม่รู้อีก เพราะผมไม่รู้จะเข้าไปคุยเรื่องอะไร และถ้าคุณจะคุยจริงๆ คุณก็ไปถามพี่ดอทไม่ใช่มาถามผม”  เห็นมันปรี๊ดแตกนี่สวรรค์นะ

ผมทำหน้ากวนตีนใส่แล้วยิ้มกริ่ม “พูดยาวๆ ก็เป็นนี่หว่า” ยักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี  ชอบจริงๆ เวลาทำให้มันมีอารมณ์อื่นๆ นอกเหนือจากอารมณ์นิ่งหยิ่งของมันเนี่ย

“นี่แกล้งผมเหรอ”  มันทำตาดุ

“ก็มันน่ารำคาญ มึงไม่รำคาญตัวเองเหรอ นั่งอมลิ้นอยู่ได้ คายๆ ออกมามั่ง น้ำลายจะได้ไม่เหม็นบูด” 

“ไม่รำคาญนะ ลิ้นก็ลิ้นผม จะอมก็เรื่องของผม  หรือว่าคุณอยากอม”  เฮ้ยๆๆๆ ไอ้สาดดดด มึงมีอารมณ์แนวนี้ด้วยเหรอวะ บร๊ะแล้ว แบบนี้ค่อยเหมือนวัยรุ่นผู้ชายคนอื่นเค้าหน่อย

“ก็อยากอมเหมือนกันแหละ มาสิ”  ผมยิ้มมุมปาก

ไอ้หน้านิ่งหรี่ตามองแบบระแวงครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “สมองคุณนี่ทำงานตลอดเลยสินะ”  มันว่าแล้วหันไปขับรถต่อ “บอกไว้เลยนะว่าสมองผมถึงจะไม่ค่อยได้ใช้แต่เวลาต้องใช้มันก็ยังทำงานได้ดี  ไอ้แผนอ่อยให้จูบของคุณเนี่ย ใช้กับผมไม่ได้หรอกนะ”  สกายมันถูกใจผมก็ตรงที่รู้ทันในหลายๆ เรื่อง แบบนี้มันทำให้ยิ่งฟินเวลาที่แกล้งมันสำเร็จ

“วันพระไม่ได้มีหนเดียวเว้ย มันต้องมีซักวันที่มึงเผลอ แล้วกูก็จะชนะพนัน” 

“ถ้าเผลอก็คงเผลอพร้อมกันแหละ เหมือนเมื่อเช้า”  เหมือนว่ามันตกใจเล็กน้อยที่พูดประโยคนี้ออกมา ผมเดาว่ามันคงเผลอพูดมากกว่าจะตั้งใจ

“เผลอเหี้ยไร เมื่อเข้ากูตั้งใจอ่อยมึงเหอะ”  ไม่รู้ว่าทำไมต้องลนลานรีบตอบ ทั้งที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เกิดเมื่อเช้าผมตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ

สกายทำหน้าตึงขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดลอยๆ “ก็คุณไม่ได้ชอบผู้ชายนี่นะ” 

“ก็ใช่ไง ก็เคยบอกไปแล้วนี่”  ทำไมพูดไม่เต็มปากเต็มคำวะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้สิ่งที่ผมสงสัยมันแรงกล้ากว่าเรื่องของตัวเอง

“แล้วมึงล่ะ มึงชอบผู้ชายเหรอ แต่ถ้าให้กูเดานะ กูว่าเพื่อนที่มึงพูดถึงบ่อยๆ เป็นผู้ชายแหงๆ แล้วมึงก็ต้องแอบรักไอ้เพื่อนคนนี้แน่ เอ้อ ใช่ๆ ชัวร์เลย มึงชอบผู้ชาย เฮ้ย งั้นมึงก็เป็น!!”  ผมถามเอง ตอบเอง ตรวจคำตอบเองและตกใจเองเสร็จสรรพ

“......”  ไอ้สกายไม่ตอบ มันมองถนนนิ่งๆ ไม่ได้ตกอกตกใจกับอาการของผม

“ม..มึง!!”  ผมชี้หน้ามัน 

สกายตบไฟเลี้ยวเข้าซองจอดรถหน้าห้องเสื้อของพี่ดอทก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วหันมาตอบ  “ถ้าการที่ผมรักเพื่อนผู้ชายแสดงว่าผมเป็นเกย์  ผมก็เป็นเกย์นั่นแหละ”  แล้วมันก็ออกจากรถไป ทิ้งให้ผมนั่งเอ๋ออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมันคุยกับพี่ดอทเสร็จแล้ว





ผมตกใจเล็กน้อยตอนมันขึ้นมาบนรถ นั่งตัวเกร็งเหลือบมองมันอย่างระแวง  ไอ้หน้านิ่งหันมามองแล้วย่นคิ้วใส่  “เดี๋ยวคุณก็ขนของกลับไป ก็จบ” 

“ไอ้ห่านี่สู่รู้” ผมด่ามันทันที  “มึงรู้เหรอว่ากูคิดอะไร”  ผมถาม

“พอรู้ว่าผมเป็นเกย์ ก็คงกลัวหรือระแวงผมขึ้นมา ไม่ใช่หรือไง” สกายหันมามองด้วยนัยน์ตาตัดพ้อนิดๆ

ผมถอนหายใจแล้วผ่อนคลายขึ้น “ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไร แต่กูก็ชอบเวลาได้อยู่กับมึง”  นี่เป็นคำพูดดีดีที่มีไม่บ่อยนักในชีวิตผม  สกายหน้าทำหน้าอึ้งเล็กน้อย ผิวแก้มใสๆ ของมันระเรื่อขึ้นจนผมต้องจ้องดูให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด  “แต่ที่กูกำลังกังวล..”  ผมละสายตาออกจากใบหน้าหล่อของมันด้วยความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย 

ผมจะบอกมันได้มั้ยนะ ว่าผมอยากให้มันเลิก..

“อะไรเหรอ”  สกายถาม

“มึงรักเพื่อนมึงมากเลยเหรอ”  ผมถามกลับ 

สกายถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงเบาะอย่างซังกะตาย  มันชะลอความเร็วของรถลงอีกแล้วค่อยๆ เล่าเรื่องของมันออกมา “รักครั้งแรกของผม รักแรกก็รักผู้ชายซะแล้ว บอกตัวเองว่าคิดไปเองแต่นานวันเข้าก็ยิ่งมั่นใจ ผมอดทนรอไม่บอกรักมันเพราะชีวิตผมยังเป็นทาสอยู่ ผมรอเวลาที่สัญญาจะหมด และอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดอยู่แล้ว แต่อยู่ๆ” สกายเว้นช่วงเล็กน้อยแล้วพูดต่อ  “..มันก็มีผัว” 

“อุ๊บส์..”  ผมตะครุบปากตัวเองไม่ให้หลุดหัวเราะ  ก็คำสุดท้ายของมันตลกจริงๆ นี่นา “โทษที ไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะเยาะ แต่มึงใช้คำที่ไม่เข้ากับบุคลิกนี่หว่า” ขอแก้ตัวหน่อยสิ ก็ผมกลัวมันหาว่าหัวเราะเยาะคนกำลังเสียใจ

สกายอมยิ้มนิดๆ “มุกน่ะมุก” 

ผมเลิกคิ้วมองมันด้วยความแปลกใจและหมั่นไส้  “ไอ้เหี้ย”  ด่ามันแบบตลก ซึ่งมันก็คงรู้แหละ

“ผมก็มีนะอารมณ์ขัน แต่ชีวิตผม ไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นมุกกับใครเค้าเท่าไหร่”  ใบหน้าขรึมๆ แบบที่เคยเห็นจนชินตาแต่เวลานี้มันเพิ่มเติมความน้อยเนื้อต่ำใจและความโดดเดี่ยวเอาไว้ในดวงตาสีสวย 

ผมเอื้อมมือไปจับมือมันแล้วบีบหนักๆ  “อยู่กับกู จะเล่นกี่มุกกูรับได้หมด ไม่เชื่อลองจูบกูดิ” 

สกายหลุดหัวเราะออกมาทันที  “ไอ้บ้า เรื่องมุกมันเกี่ยวอะไรกับจูบเล่า!!”  มันหันมาด่าแล้วยิ้มแบบกลั้นไม่อยู่  ยิ้มทั้งหน้าทั้งดวงตา เป็นยิ้มที่ผมคิดว่าเหมาะกับมันมากที่สุด

“นี่กูรุ่นพี่นะ ด่ากูไอ้บ้าได้ไง”  ผมผลักหัวมันเล่นๆ

“คำนี้ใช้ด่าแค่คนที่ผมรัก” หัวใจวูบวาบขึ้นทันทีที่ได้ยินแต่ก็เพียงแค่ไม่นาน “แต่ตอนนี้ขอด่าคนที่เกลียดเพิ่มอีกคนก็แล้วกัน”  หึหึ เล่นได้เล่นใหญ่ แต่ขอโทษเหอะ มุกมึงไม่ฮาว่ะ

“หะหะ ฮ่ะฮ่ะ ฮ้าฮ้าฮ้าฮ้าฮ้า”  ผมแกล้งหัวเราะ  “พอใจยังสัด!”  แยกเขี้ยวใส่แม่งเลย น่ารำคาญ!

“ไม่ขำก็ไม่ขำสิ ไม่เห็นต้องดุเลย”  มันทำหน้างอนิดๆ ทำเอาผมลืมหมดสิ้นทุกอารมณ์ขุ่นเคือง 

แม่งน่ารักว่ะ

“ดุอะไรเล่า กูเป็นผู้ชาย กูก็พูดแบบนี้แหละ มึงนี่คิดมาก”  ขยี้ผมมันเล่นเพื่อให้มันรู้สึกดีขึ้นแต่กลับทำให้มันนิ่งอึ้ง มันแอบกลอกตามองผมแบบประหม่าทำให้ผมรู้สึกประหม่าตามไปด้วย 

เราเงียบกันไปเองโดยไม่ได้นัดหมาย และในที่สุดผมก็ทำลายความเงียบนั้นขึ้น “หิวมั้ย” 

“อืม” สกายตอบรับในลำคอ

“เข้าร้านกูเน๊าะ กินไรกันหน่อย วันนี้เลี้ยงเต็มที่”  ตบไหล่มันเพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ที่เป็นกันเองและผ่อนคลายขึ้น  สกายพยักหน้าแล้วขับรถไปตามทางที่ผมบอก



*************************

ต่อด้านล่าง





ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ร้านผมไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป  ตอนมาถึงร้านพึ่งจะสองทุ่มครึ่ง ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาและ..

“พี่ดินนน”  เสียงหวานๆ ของสาวนางหนึ่งดังขึ้นจนผมและสกายต้องหันไปมอง  “คิวตี้ไงคะ ทำเป็นจำไม่ได้”  นมใหญ่ตัวเล็กสเป็คพี่เลยนะ แต่จำไม่ได้ว่ะว่าเคยสอยไปแล้วรึยัง

“ไม่ได้ทำเป็นค่ะ พี่จำไม่ได้จริงๆ”  ผมหว่านเสน่ห์ใส่ เผื่อว่ายังไม่ได้สอยจะได้ต่อยอดทันท่วงที

“สามวันสามคืนที่บางแสน นี่พี่จำไม่ได้จริงๆ เหรอคะ” เธอค้อนใส่ผมแล้วสะบัดหน้าไปเจอไอ้สกายที่ทำหน้านิ่งเป็นปกติ แต่สำหรับผมที่อยู่กับหน้านิ่งๆ ของมันมาสามวัน ผมเริ่มจับสังเกตใบหน้าที่เหมือนจะนิ่งแต่ไม่นิ่งของมันได้บ้างแล้ว ผมว่าตอนนี้มันดูหงุดหงิดเล็กน้อยถึงปานกลาง “แล้วนี่เพื่อนพี่ดินเหรอคะ หล่อจัง”  อีหนูนี่เปลี่ยนเป้าหมายได้รวดเร็วจริงๆ

“ไม่ใช่เพื่อนหรอก นี่เมีย”  ผมดึงแขนสกายเข้ามาหาแล้วกอดคอมันโชว์สาว  ไม่รู้ทำไมถึงทำแบบนี้   รู้แต่ว่าหมั่นไส้ที่หญิงเต๊าะมัน 

อาจเป็นเพราะผมไม่ชอบให้ใครมาแย่งของก็ได้นะ

สกายทำตาโตแล้วขืนตัวแต่ก็ไม่มาก  มันมองผมเหมือนกับว่าผมขอมันแต่งงานอย่างนั้นแหละ “นี่คุณจะบ้าเหรอ”  มันกระซิบกระซาบ ผมได้แต่ยิ้มขำ ทั้งหน้าสกายและหน้าน้องหนูคิวตี้แทบจะเป็นทรงเดียวกัน

“เฉยๆ เถอะน่า” ผมกระซิบบอกสกายแล้วหันไปคุยกับคู่ขาเก่า “โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ต้องตามให้ทันนะน้องบัวลอย”  แล้วผมก็พาไอ้หน้านิ่งเดินผ่านน้องบัวลอยเข้าไปในร้านด้วยความเบิกบาน



“วิธีชิ่งหญิงของคุณแม่งห่วยแตก”  มันบ่นทันทีที่ผมปล่อยให้มันเป็นอิสระ  ผมพามันเข้ามาในห้องทำงานด้านหลังเค้าน์เตอร์บาร์

ผมหัวเราะหึหึในลำคออย่างพึงพอใจที่เห็นมันเหวี่ยงใส่อีกรอบ “บางทีอาจไม่ใช่วิธีชิ่งแต่เป็นวิธีจีบ”  คะนองปากไปงั้นแหละ  ไม่ได้คิดจริงจังอะไรแต่ดูเหมือนสกายจะอึ้งๆ

“พี่ดินมาแล้วเหรอครับ”  ไอ้อิงค์เปิดประตูเข้ามาทัก ทำให้ผมต้องเปลี่ยนจุดโฟกัสไปอย่างนึกเสียดาย  ก็หน้าสกายเมื่อกี้มันดูเหมือนขึ้นสีนิดๆ ทำหน้าไม่ถูกหน่อยๆ คล้ายจะอยากถามอยากย้อนแต่ก็ไม่กล้า เห็นแล้วน่าเอ็นดู

“ยังไม่มาหรอกมั้ง ที่ยืนหำโด่อยู่นี่เป็นแค่เงา เนี่ยดูสิขนาดเงายังหล่อ”  ผมกวนมันเล่น  ไอ้อิงค์มุ่ยหน้าแล้วดุผมกลับ

“เป็นผู้ใหญ่ก็ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่สิครับ เล่นซะทุกเรื่องแบบนี้ถึงได้ไม่มีใครคบ”  มันย้อนมันย้อน!

“เชี่ยอิงค์! มึงเป็นลูกน้องกูนะ เดี๋ยวพ่อไล่ออกซะนี่”  ผมตบหัวมันสองทีซ้อน

“ตบได้แต่ห้ามไล่ออก เพราะถ้าไล่ออก พี่ดินต้องจ่ายล่วงหน้าให้อิงค์สองปี”  มันทำหน้าอวดดีใส่

“มึงอย่ามาไอ้อิงค์  สัญญาเหี้ยนั่นมึงหลอกให้กูเซ็นตอนเมา ชอบเอามาขู่กูนัก ซักวันเถอะ กูจะเผาทิ้งทั้งห้องมึงนั่นแหละ”  ว่าแล้วก็เงื้อมือจะตบแต่มันรู้ทันก็เลยกระโดดหนี

“เผาสิครับ เผาเลย ห้องผมก็อยู่ในร้านเนี่ย ห้องผมไหม้ ร้านพี่ดินก็ไม่เหลือหรอก เช้อะ” นั่น เช้อะใส่อย่างกับตุ๊ด เฮ้อ ผมไว้ใจฝากร้านให้ไอ้เด็กง้องแง้งนี่ดูแลได้ยังไงวะเนี่ย 

“เออๆ กูไม่เถียงกับมึงแล้ว”  ตั้งแต่เกิดมาก็มีไอ้อิงค์นี่แหละที่ผมต้องยอมแพ้  ไม่ใช่อะไรนะ ก็เวลาผมไม่ยอมลงให้ ซักพักมันก็จะงอน พองอนก็ไปหว่านเสน่ห์กับลูกค้า แล้วเค้าก็เลี้ยงเหล้า พอเมาก็แรด ใครชวนไปไหนก็จะตามเค้าไป ผมก็เลยต้องยอมแพ้มันซะก่อนที่มันจะงอน  “สกายมานี่” ผมเรียกสกายที่ยืนนิ่งอย่างกับรูปปปั้น  ไอ้นี่ตลกดีนะ จับวางไว้ตรงไหนก็ตรงนั้น ไม่หือไม่อือ ไม่ทำตัววุ่นวาย  แต่อย่าให้ได้บ่นหรือปรี๊ดแตก กูเจอมาแล้ว ของแรงใช่เล่นเลยล่ะ  “คนนี้ชื่อสกาย น่าจะอายุเท่ากันแหละ”  ผมแนะนำให้อิงค์รู้จัก

“สวัสดีครับ ผมชื่ออิงค์นะ” อิงค์ไหว้ไอ้หน้านิ่งแล้วมันก็รับไหว้แบบตกใจนิดหน่อย

“ไม่ต้องไหว้หรอก อายุเท่ากัน” สกายยิ้มแหยๆ

“เพื่อนเจ้านายก็เหมือนเจ้านายอีกคน อิงค์ก็ต้องเลียแข้งเลียขาไว้ก่อน เผื่อจะได้มีคนเชียร์ให้เลื่อนตำแหน่ง”  เอากับมันสิไอ้ห่านี่ ล้นซะจริง

“เลื่อนเหี้ยไรอีก” ผมผลักหัวไอ้อิงค์จนหน้าหงาย “ถ้าสูงกว่าผู้จัดการร้านก็เจ้าของร้านแล้วไอ้สัด” 

ไอ้อิงค์ทำหน้าทะเล้นใส่ “ก็นั่นแหละคุณค่าที่อิงค์คู่ควร” 

“หึหึ” ผมจิกตามองมันอย่างคาดโทษ “ปากดีนะมึง เดี๋ยวตัดเงินเดือนแม่ง”  มันรีบเอามือปิดปากสงบปากสงบคำขึ้นทันที  “เอ่อค่อยยังชั่ว  มีไว้ซักอย่างที่มึงจะกลัวก็ยังดี”  ไอ้อิงค์เคยโดนผมหักเงินบ่อย  เวลามันงอนแล้วเมา ผมจะหาเรื่องหักเงินมัน เวลาเมามันก็จำไม่ค่อยได้หรอกว่าทำอะไรผิด ก็เลยต้องยอมให้ผมหักเงินไปอย่างหมดข้อโต้แย้ง

ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะผมจะเอาเปรียบมันนะแต่ผมเป็นห่วง ไม่อยากให้เมาแล้วไปกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย  ไอ้อิงค์มันหน้าหวานรูปร่างอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชาย ร้อยทั้งร้อยต้องบอกว่ามันเป็นทอม   

“หาที่นั่งให้สกายหน่อยปะ”  ผมสั่งอิงค์แล้วหันไปคุยกับไอ้หน้านิ่ง  “มึงจะกินอะไรก็สั่งเลย เดี๋ยวกูเคลียร์งานหน่อยแล้วจะตามไป”  มันพยักหน้าแล้วออกจากห้องตามอิงค์ไป



เมื่อเช้ามาเคลียร์แล้วรอบนึง ตอนนี้ก็เลยไม่มีอะไรมาก ทำแป๊บเดียวก็ตามออกไปนั่งกับไอ้หน้านิ่ง  กินข้าวกินเบียร์คนละขวดก็กลับเพราะพรุ่งนี้วันเสาร์สกายมีงานแต่เช้า  ตอนแรกผมก็งงว่างานอะไร แต่สกายเล่าเรื่องที่พี่ดอทเรียกไปคุยเมื่อหัวค่ำว่าต้องไปเดินแบบให้กับลูกค้าเจ้าประจำ





“แล้วมาอีกนะครับ”  ไอ้อิงค์เสนอหน้ามาบอกลา ซึ่งมันไม่ได้ลาผมแต่มันลาไอ้หน้านิ่ง

“ครับ ถ้ามาจะเอาขนมมาฝากนะ” ไอ้หน้านิ่งก็ยังไงวะ พูดครับกับคนอื่น ทีกับกูไม่เคยมี  แล้วมึงจะยิ้มหวานทำเชี่ยไรนักหนา ปกติไม่เห็นญาติดีกับใคร ทีกับไอ้หน้าแป้นแล้นนี่ทำไมทุกคนต้องไปคอยโอ๋มันด้วยนะ

“พอๆๆ อ้อยให้มันน้อยๆ หน่อย เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้เลยนะอีอิงค์”   ผมแกล้งแหย่

“มันไม่ได้เกี่ยวกับหล่อหรือไม่หล่อหรอกพี่ดิน มันเกี่ยวกับนิสัยดีหรือไม่ดีต่างหาก อย่างพี่ดินเนี่ยถือว่าหล่อมากแต่นิสัยแบบนี้ ให้ตายอิงค์ก็ไม่เอา เห็นแบบนี้อิงค์ก็เลือกนะ”  นี่มึงกล้าด่าเจ้านายขนาดนี้เลยเหรอวะ แต่เดี๋ยวนะ กูข้องใจอะไรบางอย่าง

“อิงค์!”  ผมตวัดสายตาดุๆ มองมัน  ไอ้อิงค์ทำหน้าตกใจที่เห็นท่าทีของผม  “มานี่!” ผมจับแขนอิงค์แน่นแล้วหันไปหาสกาย “มึงไปรอที่รถก่อนนะ”  สกายพยักหน้า ผมจึงลากอิงค์ไปคุยที่ลับตา

“พูดมา” ผมกดเสียงต่ำคุกคามมัน  ไอ้อิงค์ช้อนตามองผมแบบคนกำลังทำผิด

“อิงค์แค่พูดเล่น” มันแก้ตัว  “อิงค์ไม่ได้ชอบผู้ชายนะครับพี่ดิน ก็แค่มุกเฉยๆ เชื่ออิงค์เถอะน่า”  มันก้มหน้างุดๆ มองยังไงก็ไม่น่าเชื่อถือสักนิด

“มึงก็รู้นะว่ากูไม่ชอบคนโกหก”  ผมยังคงใช้น้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง  “ถ้ามึงชอบผู้ชายจริงๆ กูก็ไม่ว่า แค่บอกกูมาว่าชอบหรือไม่ชอบ”  ผมคาดคั้น

อิงค์เงยหน้ามองผมแล้วพยายามรวบรวมความกล้า “อิงค์เปล่าชอบครับ ไม่ได้ชอบจริงๆ หล่อหรือไม่หล่อก็ไม่ชอบทั้งนั้น”  ผมจ้องมันนิ่งเพื่อเช็คว่ามันพูดจริงหรือโกหก แต่ก็นั่นแหละ จับไม่ได้ไล่ไม่ทันซะที ถ้ามันยืนยันจะบอกว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมก็จนปัญญาที่จะง้างปากมันได้

“มึงไม่ใช่คนขี้โกหกกูรู้ดี แต่ทำไมเรื่องนี้กูถึงเชื่อมึงไม่ได้วะอิงค์”  โยกหัวมันอย่างเอ็นดู  อิงค์มันเป็นเด็กดีและมีพื้นเพที่น่าสงสาร ผมรักมันเหมือนน้องชายแท้ๆ ดูแลมันอย่างดีและหวังให้มันมีความสุข  ถ้ามันชอบผู้ชายจริงๆ ผมก็จะได้ดูแลให้ตรงจุด แต่มันก็ปฏิเสธตลอดและผมก็ไม่เคยเชื่อมันตลอดเหมือนกัน  ไม่รู้มีเหตุผลอะไรกันแน่ที่ต้องปิดผม

“เชื่อได้น่า ไปได้แล้วครับ พี่สกายรออยู่ ไปๆๆ”  มันไล่  “งั้นอิงค์เข้าไปดูร้านแล้วนะ”  มันเขย่งขาขึ้นจุ๊บแก้มผมเหมือนที่ทำทุกที “ฝันดีครับ..เจ้านาย” จากนั้นก็ยิ้มแป้นแล้นใส่ 

ผมมองมันอย่างเอ็นดูแล้วก้มลงไปจ้องหน้ามันใกล้ๆ  “กูรักมึงเหมือนน้องในไส้นะอิงค์ มีอะไรก็บอกกูได้ทุกเรื่อง รู้มั้ย”  มันยิ้มเศร้าๆ แล้วพยักหน้า ผมจึงจุ๊บหน้าผากมันแล้วโยกหัวอีกสองสามทีก่อนจะหันหลังเดินไปที่รถ







“เป็นไรวะ แดกขวดเดียวเมา?”  ผมถามเมื่อขึ้นมาบนรถแล้วเห็นสกายนั่งหลับตาพิงเบาะนิ่งๆ  มันติดเครื่องเปิดแอร์ไว้แล้วเพื่อรอออกรถ

“เปล่า” มันลืมตาแล้วเข้าเกียร์ก่อนจะออกตัว “แค่คิดว่าหนีเสือปะจระเข้รึเปล่า”  เอาอีกละ เล่นปริศนาคำใบ้กับกูคนฉลาดอีกแล้ว

“อินดี้อะไรอีกล่ะ มึงนี่เป็นมนุษย์เครียดเน๊าะ”  ขมวดคิ้วมองมันเพื่อสำรวจอาการ

มันหันมามองแว้บเดียวแล้วกลับไปมองทางต่อ  “ใครจะเป็นมนุษย์ลั้ลลาอย่างคุณล่ะ ระเริงจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรซักอย่าง” 

“กูเนี่ยนะไม่รู้เรื่องราว”  ผมโวย  “กูเนี่ยแหละรู้ทุกเรื่อง ฉลาดซ้ำซ้อนมึงเคยได้ยินปะ” 

“เค้ามีแต่พิการซ้ำซ้อน” มันเถียง

“ก็กูไม่พิการไง กูฉลาด”  ยักคิ้วอย่างมั่นอกมั่นใจ  “แล้วตกลง กูไม่รู้อะไรบอกมาดิ” 

ดูเหมือนมันกำลังชั่งใจว่าจะบอกหรือไม่บอก แต่แล้วก็บอกว่า “ร้านคุณจัดไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย”  หืม ใช่เหรอ

“ร้านกูไม่ถูกหลักฮวงจุ้ยแล้วมึงต้องเครียดขนาดนี้เลย”  มันไม่เม็กเซ้นส์เท่าไหร่นะ แล้วไอ้ประโยคที่มันบอกว่าหนีเสือปะจระเข้นั่นอีก “แล้วหน้ามึงนี่จีนจังเลยนะ มาฮวงจ้งฮวงจุ๊ย จีนเตี๊ยะหน่อยดีมั้ย” 

“ฮ่าๆๆ ช่างสรรหาคำมาด่านะ  ปากคุณนี่ที่หนึ่งจริงๆ” มันหัวเราะออกมาแบบมีเสียง ไม่ได้กว้างนักแต่ก็แปลกตาน่ารักดี

“มึงก็ใช่ย่อยที่ไหน ด่าให้เหมือนชมน่ะเก่งนัก”  แล้วมันก็อมยิ้มขำๆ ก่อนจะหันมามอง

“พรุ่งนี้ไปด้วยกันมั้ย”  อยู่ๆ ก็ชวนเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย ถึงจะรู้ว่าโดนชี้นำให้เปลี่ยนประเด็นแต่ผมก็เต็มใจตกหลุมมันแต่โดยดี

“ไปได้เหรอ”  ผมถาม

“ไม่รู้ดิ ถ้าเข้าไม่ได้ก็ไปส่งหน่อยแล้วรอรับกลับด้วย”  ทำไมต่อมฟินกูทำงาน  ทำไมต้องดีใจแทนที่จะโวยวายเพราะแบบนี้ก็เหมือนกับว่าผมเป็นคนขับรถให้ชัดๆ

“ดูก่อน ถ้าขี้เกียจก็ไม่ไป”  เล่นตัวบ้างไรบ้าง

หน้ามันหุบลงเล็กน้อยแล้วหันไปตั้งใจขับรถต่อไป “ตามใจ” 





คืนนี้กว่าจะได้นอน..

“ขนอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะเนี่ยคุณ!”

“ดูสิว่าผมต้องเก็บเป็นชั่วโมงแล้ว!!”

“แล้วนี่อะไร บ๊อกเซอร์ลายเสือ ลายดัลเมเชี่ยน ลายวัว แล้วยังพวกสีรุ้งนี่อีก!!”

“เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวทำไมมันเยอะแบบนี้ห๊ะ! แต่ดูแปรงสีฟัน เยินแบบนี้คุณยังจะใช้อยู่ได้!”

“น้ำหอมเนี่ย ขนมาทำไมเยอะแยะ คุณคิดว่าห้องผมกว้างเท่าสนามฟุตบอลหรือไง จะหอมไปให้ใครดมนักหนา โอ๊ย คืนนี้ผมจะได้นอนมั้ยเนี่ย!!”



“..........”  ผมไม่เถียงอะไรมันเลยแม้แต่คำเดียว 

ไม่รู้ทำไมถึงได้เพลิดเพลินที่เห็นมันบ่น  บ่นแต่ก็ทำ ถึงจะบอกว่าน้ำหอมเยอะ แต่ก็พยายามหาที่ยัดเข้าไปให้ผมจนหมด แถมยังคลี่พวกกางเกงในกับบ๊อกเซอร์แล้วพับให้ใหม่เพราะมันบอกว่าพับแบบนี้ไม่เรียบร้อย  ผมก็ไม่รู้หรอกว่าพับแบบไหนถึงจะเรียบร้อย ไอ้งานพวกนี้ผมจ้างแม่บ้านทำทุกอย่างนั่นแหละ เพราะถ้าต้องทำเองผมก็แค่ยัดไว้ในตะกร้า ไม่เห็นต้องพับให้มันยุ่งยาก ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไรซะหน่อย



“ยิ้มอะไรของคุณ”  มันหันมาวีนใส่

“มึงตลกดี”  ผมนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างสบายอารมณ์

“ตลก??”  สกายปิดกระเป๋าเดินทางของผมแล้วยัดไว้ข้างตู้เสื้อผ้าก่อนจะเดินมาหา “ตลกยังไง”

“รู้ตัวมั้ยว่ามึงพูดมากกว่าที่เคยเป็น”  ไม่รู้ทำไมรู้สึกเอ็นดูมันมากขึ้นและคิดว่าตอนนี้อินเนอร์ผมคงส่งไปตามสายตาแล้วล่ะ

สกายหลบตาทันที มันแกล้งมองไปที่โคมไฟแล้วทำเป็นขยับจัดแจง ทั้งที่มันก็ไม่ได้เกะกะอะไร  “ผมก็แบบนี้แหละ ก็คนมาอยู่ด้วยกัน จะให้เงียบใส่ได้ไง มันต้องพูดคุยตกลงกันจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง” 

ผมทำหน้าล้อเลียน “เท่าที่ฟังมา มึงไม่ได้พูดคุยตกลงเลยนะ แต่มึงบ่น บ่นเหมือนเมียแก่วัยทองเงี้ย”  เป็นอีกครั้งที่เห็นหน้ามันเหวอและขึ้นสีเรื่อๆ  จะเป็นเพราะผิวหน้ามันขาวและใสจนสามารถมองเห็นความรู้สึกผ่านสีหน้าชัดเจนก็ว่าได้  โดยเฉพาะปกติแล้วไม่ค่อยแสดงอารมณ์แต่พอแสดงขึ้นมาก็ทำให้สังเกตได้อย่างง่ายดาย

“พูดเรื่อยเปื่อย”  ว่าแล้วก็เดินหนีเข้าห้องน้ำไปเลย



อย่าว่าแต่มึงที่หน้าขึ้นสี กูเองก็รู้สึกแปลกๆ จนหน้าร้อนเหมือนกันว่ะ


********************
 :pig4:

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
พวกซึนเอ๊ยยยยยยยย ดูเหมือนสกายเอนเอียงแล้วแต่อิพี่ดินไม่มีอะไรให้น่าเชื่อถือไง กร๊ากกกกก

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
บางที........พี่ก็เลือกไม่ถูกเลยค่ะคุณน้องว่าใครจะเมะใครจะเคะ :เฮ้อ:
มีแนวโน้มสลับกันได้ป่ะ  :hao7:  :z6: แอร๊กกก
มาอยู่ด้วยกันละเนาะ เมียแก่วัยทองขี้บ่น
ว่าแต่เมื่อกี้สกายเห็นฉากมุ้งมิ้งพี่น้องแล้วเข้าใจผิดปะเนี่ยยยยย
รอตอนต่อไปปปปปปป

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สกายต้องเห็นช็อตอิงค์จุ๊บดินแน่เลย :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด