Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]  (อ่าน 699054 ครั้ง)

ออฟไลน์ baka_bunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
หมันไส้อ่พี่ดินทำซึ่นนะคะ ชอบเขาแล้วทำเป็นหาข้ออ้างให้ใจตัวเองตลอดดดดด

น้องสกายจ้าาาานู๋หลงอิพี่ดินแล้วใช่ไหมลูก อย่าไปยอมง่ายๆนะเล่นตัวเล่นตัว

ลูกอิ้งค์ขราาาาาาาา ถ้านู๋รักอิพี่ดินก็ตัดใจเถอะนะ เด๋วแม่ไปอ้อนคนแต่งหาคู่ชู้ชื่นให้นู๋นะคะลูก

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี๊ดดดดดดดดดด  ชั้นฟินนนนนน
ชั้นอยากอ่านต่อ  กรี๊ดดดดดดดดด
สนุกมากค่ะ  ฟินทั้งสองคู่
หลากหลายอารมณ์มากกกกก บอกเลยยยยย
อ่านไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว
มาต่อเร็ว ๆ นะคะ   :กอด1:

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
มีพาเข้าร้าน ว่าที่เจ้านางคนใหม่ของร้านสินะ

souphaphet

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยย ติดกับเข้ามาจนได้ ปกติไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน ถ้าอ่านส่วนมากจะอ่านที่จบแล้ว แต่นี้หลงเข้ามาแล้วคิดว่าจะออกไปบ่ได้ง่ายชะแล้ว ฮ่าๆๆๆ อย่าหายไปนานนะๆๆๆๆ มาต่อเร็วๆนะ กราบงามๆสามจุดห้าที

ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ fernfabled

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากให้ข้าวจ้าวรู้ตัวไวๆ
พี่สลัดรอนานละน้าาาา

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 :call:  ดินเคะ​ (ยังคงหวังแม้จะไม่ค่อยมีแวว)   

 :heaven​ ติดตามจ้าา

ออฟไลน์ kdpmvip4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สมัครเป็นแฟนคลับนิยายด้วยคนค่าาา  :mew1:

ออฟไลน์ .hnk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
อั้ยยยย ชอบคู่นี้จัง รอต่อค่ะรอต่อ

 :o8:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
ดินสกาย น่ารักมากกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ fullfeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ งงมากแต่ก่อนเราไปแอบอยู่มุมหลืบไหนของเล้าถึงไม่เคยอ่าน
เรื่องนี้สนุกมากกก และฮามากกกก โอย ขำจนปวดท้อง
บางทีเห็นหน้าข้าวจ้าวกับพี่ดินก็แอบรู้สึกเหนื่อยแทนเมะทั้งสอง เธอๆช่างแสนเกรียน 555//เข้าไปตบบ่าพร้อมเนียนกอด1ที
ถึงน้องจะเกรียนปานใดแต่ออกตัวไว้ก่อนว่าเรื่องนี้เราชอบจ้าวโลก เอ้ย ข้าวเจ้าที่สุดค่ะ
ช่างเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และมีความคิดที่ลึกซึ้งงง :m1:

ปล. อยากจับมือน้องกายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องผ้าห่มเน่านะคะ เพราะเราก็มีเหมือนกัน จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากอดมาตั้งแต่อายุกี่ขวบ แต่ไม่กอดแล้วนอนไม่หลับ จนมันขาดเป็นสองส่วนก็แอบเอาไปเย็บติดกัน 555 แต่เสียดายปีที่แล้วแม่เอาไปทิ้ง แทบจะไปคุ้ยขยะหา ฮืออ แรกๆ เหงามือมาก เปลี่ยนไปกอดอะไรก็ไม่ฟินเหมือนกอดเธอ ตอนนี้ก็ยังคิดถึงอยู่นะ แต่เริ่มชิน :dont2:

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เงียบสงบ แล้วก็รบเป็นพัก ๆ  :)
ดินทำให้ชีวิตสกายมีสีสัน มีชีวิตชีวาขึ้นจริง ๆ น่าสนใจไปอีกแบบ ไม่เลี่ยนไม่เว่อ ดีดี ชอบ ๆ สนุกดี
หนีเสือปะจระเข้คืออะไรอะสกาย    :hao4:


ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ชอบดินกับสกายมากเลยอ่ะ น่ารักพาฟินหลายรอบเลย  :mew3:

ออฟไลน์ Nutsuki.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตามอ่านทันแบ้วววววว โฮฮ อ่านไปขำไปแบบขำไม่หยุดอ่ะค่ะ  :hao7:
ชอบมากสนุกแล้วก็ตลกแบบสุดๆ อ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยฮ่ะ นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ฮ่าา
 
ข้าวจ้าวจะรับมือกับศึกน้องน้ำตาลอย่างไรรอติดตามชมอยู่นะฮ่ะะะ
ส่วนพี่ดิน....รับเถอะค่ะพี่ รับเถอะะ /สะกดจิต  :hao7:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ฮาโหลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากบอกว่าคิดถึงบั๊ค-จ้าว กับดิน-สกายมากๆแล้ว มาต่อเห่อะค่า  :hao5:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ fullfeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ U-Zero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นานๆ มาต่อทีแบบนี้ อยากให้มาพร้อมกันทั้ง 2 คู่เลยอะครับ
แบบว่า พอคู่นี้มา ก็คิดถึงอีกคู่ รออีกนานกว่าจะได้อ่าน
พออีกคู่มา ก็ต้องรอคู่ที่เหลืออีก สลับไปแบบนี้ ….คิดถึงอ่าาา เพราะชอบทั้ง 2 คู่คร๊าบบบบ  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tay028643904

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คู่หลักนี้ จ้าว-บั๊ค เเต่ทำไมเราฟิน ดิน-สกายมากเลย อยากกรี๊ดเป็นตุ๊ดแบบดิน

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เข้ามาดันๆ รอสองเกรียนอิจ้าวกะอิพี่ดิน

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Chapter 22  Devil calls me Dady (2)

 

ราวๆ ยี่สิบนาที ที่สกายอาบน้ำ ระหว่างนี้ผมตัดสินใจจะจัดการเรื่องที่ยังค้างคาให้เรียบร้อยซะที

ผมลงมือจัดเตรียมอุปกรณ์และพื้นที่เอาไว้ดังที่ได้วางแผนคร่าวๆ เอาไว้ในหัว  ยังไงซะคืนนี้ต้องเสร็จ!!

สกายก้าวขาออกจากห้องน้ำด้วยร่างเปลือยพราวพร่างด้วยหยาดน้ำเหมือนทุกครั้ง  “ยังไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้นแหละ นุ่งผ้าเช็ดตัวมาหากูนี่”  ผมบอกโดยไม่ได้หันไปมอง

“อะไรของคุณ”  มันถามเสียงเขียว

ผมหันไปมองตาเขียวบ้าง “คืนนี้เราต้องจัดกันซะที”  หน้ามันเหวอเมื่อเห็นหน้าผมจริงจัง

“จัดอะไร อย่าทำบ้าๆ นะเว้ย!” มันถอยหลังทันทีที่ผมเข้าไปคว้าข้อมือไว้

“ถ่ายคลิปไง ถ่ายคลิปเอากัน” จากที่เหวออยู่แล้วก็เหวอหนักขึ้นไปอีก ผมจึงต้องอธิบายยาวๆ  “ก็คลิปปลอมๆ ที่เคยบอกให้ฟังไง ฮู้! มึงนี่มันโง่ซ้ำซ้อนเกินเยียวยาจริงๆ”  ว่าแล้วก็ถอดเสื้อนอนและกางเกงของตัวเองออกจนเหลือแต่บ๊อกเซอร์  “ต้องเริ่มแล้ว เร็วๆ กว่าข่าวจะสะพัดต้องใช้เวลา”  ลากมันมาที่เตียงแล้วกดตัวมันให้นั่งลง

“เอาจริงดิ” สกายทำหน้าเหยเก  “ไม่บอกก่อน จะได้ทำใจ”

“อย่าทำป๊อด ตอนถ่ายแบบด้วยกันเยอะกว่านี้อีก”  ว่าแล้วก็ไปดูภาพที่โทรศัพท์ ผมตั้งไว้บนโต๊ะหัวเตียง จัดองศาให้เฉียงลงและปรับเอียงเล็กน้อย กะให้เห็นแค่ส่วนหัวไหล่ไปถึงหน้าอกและช่วงล่างรำไร “ถอดๆ ถ้าไม่ถอดเอง เดี๋ยวกูถอดให้นะ”  ทำท่าจะดึงผ้ามันออกแต่สกายยันมือห้ามเอาไว้

“หยุด! ผมถอดเองได้”

“เออ เร็วๆ”  เร่งมันอีกเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

“เฮ้ย ทำไมคุณมีบ็อกเซอร์แต่บอกผมไม่ต้องใส่อะไรเลยวะ”  มันโวยวาย

“ก็มึงอยู่ข้างบน กูกะให้เห็นไฝตรงสะโพกซ้ายของมึง ส่วนไหล่ขวาของกูมีรอยแผลเป็นจางๆ เวลาคนดูคลิปจะได้เดาได้ว่าเป็นกูกับมึงไง” มันทำหน้าเบ้

“ก็ใส่กางเกงในก็ยังดี”  สกายร้องอุธรณ์

“มึงอย่ามา ทีเดินออกจากห้องน้ำโทงๆ ยังไม่เห็นอาย ทีงี้มาทำเป็นบ่ายเบี่ยง”

“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า ตอนอาบน้ำมันลืมเอาผ้าเข้าไป เดินออกมาก็แป๊บเดียว แต่นี่..” มันมองท่อนล่างของตัวเองสลับกับท่อนล่างของผม

“เออน่า กูเป็นชายแท้กูยังไม่เรื่องเยอะเลย มึงเป็นเกย์ ก็คิดซะว่าทดลองงานดิ”  ผมกล่อม

“เป็นเกย์ก็ไม่ใช่อยากจะอะไรกับคนอื่นซะหน่อย” มันบ่นพึมพำ  “กับคนเดียวเท่านั้นแหละที่ผมทำได้”  ทำไมรู้สึกจี๊ดขึ้นสมอง  อารมณ์ดีดีของกูหายวับไปกับตาเพราะเสียงบ่นของมึงเนี่ย

“จะทำไม่ทำ! นี่กูจะช่วยมึงนะ กงการอะไรของกูก็ไม่ใช่ ถ้าเรื่องมากนักก็ไม่ต้องทำเหี้ยไรละ!!” ผมตวาดใส่แล้วลุกจากเตียงแต่ถูกดึงให้ล้มลงไปนอนบนที่นอนอย่างแรง

“เฮ้ย!” ด้วยความตกใจผมจึงคว้าคอไอ้คนที่ดึงเอาไว้ทำให้ร่างมันโถมลงมาคร่อมผมไว้ครึ่งตัวพร้อมกันนั้นผ้าขนหนูสีขาวที่เคยห่อหุ้มท่อนล่างของสกายก็ปลิวว่อนไปตกแหมะอยู่ข้างเตียง

เป็นอันว่า ร่างเปลือยของมันกำลังทับร่างเกือบเปลือยของผมเอาไว้แล้วในตอนนี้

“แค่นี้ต้องโกรธด้วย คุณนี่มันใจร้อนซะจริง”  สายตาอ่อนโยนของสกายทำให้อารมณ์คุกรุ่นในตอนแรกค่อยๆ ลดลงแต่กลับทำให้เลือดในกายอุ่นร้อนขึ้นซะฉิบ  “ผมต้องทำยังไง บอกมาสิ”  ร่างกายสมส่วนของมันโถมลงมาอีกจนผมต้องดันหน้าอกมันไว้

“ม..มึงลุกก่อน” ผมบอกด้วยเสียงขาดหาย ตอนกูทำใจไว้แล้วมึงก็เล่นตัว พอกูคิดจะเลิกก็จู่โจมแบบนี้กูตั้งตัวไม่ทันไอ้ห่า  “กูต้องกดอัดคลิปก่อนเว้ย” กลอกตามองไปทางกล้องที่อยู่หัวเตียง  สกายมองตามแล้วยิ้มมุมปาก

“ผมกดให้”  แทนที่จะลุกไปกดดีดีแต่แม่งดันโถมตัวใส่แล้วไถลตัวบนร่างผมเพื่อยืดตัวไปกดกล้อง

แผงอกแน่นๆ และกล้ามเนื้อหน้าท้องที่สวยงามของมันไถลและบดคลึงอยู่ตรงแก้มเนื่องจากผมเอียงหน้าหลบไปอีกทางเพื่อไม่ให้ปากและจมูกโดนอกมัน  หัวใจเต้นตึกตักไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรือคึกคัก อันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่โคตรจะแน่ใจก็คือ มังกรน้อยของมันลากผ่านกลางตัวผมไปจนถึงหน้าท้อง

ห่าเอ้ย!!! เกิดมาก็พึ่งได้ใกล้ชิดกับดุ้นผู้ชายก็วันนี้แหละ  ไม่รู้จะอารมณ์ไหนกับประสบการณ์แรกดี อารมณ์ปั่นป่วนตีรวนจนต้องแอบหายใจเข้าออกแรงๆ

“เสร็จแล้ว” สกายไถลตัวลงมาแล้วก้มกระซิบข้างหู  “ผมเอาตัวบังกล้องไว้แบบนี้ถูกแล้วใช่ปะ”

“ทีงี้ฉลาดนัก!” ผมแดกดัน ถึงอารมณ์จะไม่ค่อยปกตแต่ก็ต้องพยายามควบคุมตัวเองไว้ จะให้มันรู้ได้ไงว่าผมตื่นเต้น เดี๋ยวมันจะหาว่าอ่อน  “มึงมองที่กล้องซิว่าเห็นรอยแผลกูกับไฝมึงรึเปล่า”

“เห็นๆ แต่เห็นหน้าผมด้วย แต่ไม่เห็นหน้าคุณ”  มันสาธยาย

“กูก็ลืมให้มึงดูก่อนแล้วค่อยกดอัด เอ่อๆ ช่างแม่ง เดี๋ยวค่อยให้ไอ้ทิงตัดต่อ”  บ่นแล้วขยับตัวอย่างอึดอัด ไอ้หน้านิ่งมันทับผมซะเต็มรักเลย หนอนน้อยกูหายใจไม่ออกแล้วไอ้สัด  “มึงเอียงหน้าเข้าฝั่งนี้นะ แล้วซุกหน้าลงไป เอ่อ ล..ละ แล้วๆ..” เสือกมาติดอ่างอะไรตอนนี้วะ “แล้วมึงก็ขย่มๆ”  กระดากปากหน่อยๆ แต่คิดไปคิดมา ทำไมกลายเป็นว่ากูเป็นฝ่ายโดนกดวะเนี่ย!!

สกายยิ้มชั่วร้ายใส่แล้วกระซิบ “ผมได้กดคุณแล้วนะ”  ไอ้สัดนี่!! เก็บกดมาจากงานถ่ายแบบล่ะสิ

“เอ่อๆ เอาที่มึงสบายใจเหอะ” ผมพูดปัด “รีบๆ ทำ จะได้นอนซะทีไอ้สัด”

สกายยิ้มร้ายอีกครั้งแต่แล้วจู่ๆ ก็จ้องผมนิ่ง “ขอบคุณที่ยอมทำขนาดนี้เพื่อช่วยผม”  ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเงียบสนิท ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของเราสองคนที่ต่างฝ่ายต่างพยายามควบคุมไม่ให้มันแรงจนผิดสังเกต  รอยยิ้มร้ายเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น ส่วนอาการขัดเขินของผมก็เปลี่ยนเป็นเอ็นดูขึ้นมาซะอย่างนั้น

“กูอยากเห็นมึงยิ้ม”  ไม่รู้ผีห่าซาตานตัวไหนสั่งให้ผมพูด แต่เมื่อพูดไปแล้วก็จะไม่หลอกตัวเองว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น

ใบหน้าหล่อใสใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สายตาของเราประสานกันนิ่งจนในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายเอียงหน้าไปอีกทางเพื่อให้มันหลบเข้ามาในซอกคอ

“กลัวโดนผมจูบเหรอ”  เสียงกระซิบทุ้มนุ่มที่ข้างหูทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำ

“มึงไม่จูบกูหรอก มึงไม่ได้ชอบกู”  หลับตาลงเพื่อข่มความรู้สึกสีเทาที่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันเกิดจากสาเหตุไหน “ขย่มได้แล้ว กูเมื่อย”

“อืม”  เสียงมันหม่นๆ ไม่ใสเหมือนเดิม  และร่างมันก็เริ่มขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ  พร้อมกับอ้อมแขนที่กระชับกอดผมแน่นขึ้น

ทุกครั้งที่ร่างมันกระทบลงมากับกลางลำตัว ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกระตุ้นให้ลูกชายผมคึกคัก เกือบสิบครั้งที่มันขยับร่างบดคลึงสลับกับการกระทบลงมา ร่างกายผมเริ่มมีปฏิกิริยา อารมณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง  หน้าสกายซุกลงบนหมอนตรงซอกคอผม  มันหายใจแรงขึ้นจนผมทนไม่ไหว

“อื้อ!” ผมล็อคตัวมันแล้วผงกหัวนิดหน่อยก่อนจะฝังเขี้ยวลงบนคอมัน  เสียงร้องของสกายไม่ได้ทำให้ผมคิดจะหยุด  “อ๊ะ ค..คุณ! จ..เจ็บ”   มันร้องเสียงดังขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกตัว

ถึงจะคลายการบดกัดลงแต่ก็ยังงับไว้และดูดแรงๆ  “อื้อ!!!” ผมล็อคตัวสกายไว้แล้วดูดเม้มลงบนลำคอขาวของมันอย่างแรงจากนั้นก็ปล่อยออก

“ทำอะไรของคุณวะเนี่ย!!”  มันลุกขึ้นนั่งแล้วถูคอแรงๆ

“เออๆ ถูเข้าไป เดี๋ยวก็ได้รอยใหญ่กว่าเดิมหรอก”  ผมยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วเอี้ยวตัวหยิบโทรศัพท์ที่อัดคลิปมากดปิด  “ฝากรอยไว้ เผื่อพรุ่งนี้มีใครเห็น ข่าวจะได้กระพือแรงขึ้นอีก”  สกายทำหน้าเหวี่ยงแล้วเอื้อมหยิบผ้าขนหนูมาพันร่าง

“ไม่เห็นบอกกันก่อนว่าจะทำแบบนี้” ดูมันค่อนข้างหัวเสียกับสิ่งที่ผมทำ

“บอกก่อนก็ไม่เสียวดิวะ คิกๆๆ”  หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีที่เห็นมันหงุดหงิด  แต่ความจริง ผมว่าผมอารมณ์ดีเพราะได้ยินเสียงครางของมันมากกว่านะ

เอ๊ะ หรือว่าจะเพราะผมได้แกล้งมัน  เฮ้อ ใช่หรือไม่ใช่ อย่างไหนกันแน่วะ!

“ฝากไว้ก่อนเถอะ” มันถลึงตาใส่แล้วเดินตึงตังเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงเปิดก๊อกก็คิดว่าคงไปล้างน้ำลายผมล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ ฮาดีว่ะ

คนโดนกดแค่กัดคอนิดๆ หน่อยๆ คนกดก็เหวี่ยงซะแล้ว น่ารักชะมัด

 

 

 

ผมเดินไปหยิบชุดนอนมาใส่แล้วขึ้นเตียงเพื่อเช็คคลิป ความยาวเกือบห้านาทีแต่ผมตัดให้เหลือแค่สองนาทีจากนั้นก็กดโทรศัพท์หาเพื่อนเลิฟทันที

((“สัตว์หมาหน้าฮี๋  โคตรเหง้ามึงไม่สั่งสอนเหรอว่าดึกดื่นไม่ให้โทรกวนชาวบ้าน!!”))  เสียงสรรเสริญอันรื่นหูดังผ่านสายโทรศัพท์กระแทกหูผมหนักๆ

“สั่งสอนครับเพื่อนครับ แต่กูไม่จำไม่สำเหนียกเองครับ”  ผมทำเสียงอ่อนเสียงหวาน จะใช้งานมันนี่นะ ก็ต้องอดทนกันหน่อยล่ะ  “ผมมีเรื่องรบกวนพี่ทิงหน่อยครับ มันสำคัญม๊ากมากกกก”  จังหวะนี้สกายก็ออกมาจากห้องน้ำและแต่งชุดนอนก่อนจะมานอนข้างๆ  มันขมวดคิ้วมองผมคงเพราะอยากรู้ว่าโทรคุยกับใคร

((“กูให้สิบวิ ถ้าเรื่องที่มึงจะพูดไม่สำคัญพอ กูจะขุดโคตรพ่อโคตรแม่ตั้งแต่สมัยอโยธยามาด่าให้ผีตระกูลมึงสะดุ้งทั้งแผงเลยไอ้สัด!!”))  ไอ้กระทิงคนโหด  ถึงมันจะโหดแต่ก็นิ่งทุกสถานการณ์  มีอยู่อย่างเดียวที่มันจะไม่นิ่งก็คือถ้ามันนอนหลับไปแล้วและถูกปลุก มันจะกลายเป็นมหาโหดโฉดเถื่อนสะเทือนนรกโลกันต์ทันที

“ปล่อยคลิปลับให้กูหน่อย เอาแบบหาที่มาที่ไปไม่ได้ เอาเนื้อหาแบบแรงๆ จากซ้อนรกหมวยยกล้อของมึงก็ได้”

กระทิงมันมีอาชีพแฮคเกอร์ โปรแกรมเมอร์และ เกมเมอร์ โดยเฉพาะมันเป็นแฮ็คเกอร์ที่เก่งหาตัวจับยากคนนึงเลยล่ะ 

หลังจากบอกคอนเซ็ปและรายละเอียดที่ต้องการปล่อยให้มันฟัง ((“ทำไมกูต้องทำ”)) มันทำเสียงเหนื่อยระอา

“เพราะมึงติดค่าเหล้ากูสองหมื่น”  ไอ้กระทิงเป็นคนเดียวในโลกที่ผมเก็บหนี้มันไม่ได้  กับคนอื่นผมยังได้เก็บดอกจากสาวๆ รอบตัวพวกมันได้ แต่ไอ้เหี้ยทิง แม่งโดดเดี่ยว พ่อเป็นมาเฟียอยู่ฮ่องกงแต่ตัดมันออกจากแก๊งเพราะแม่งไม่ยอมลงให้พ่อตัวเอง  เมียก็ไม่มี แฟนก็ไม่มี กิ๊กเล็กกิ๊กน้อยก็ไม่เคยมีให้เห็น  ไม่รู้แม่งเอาน้ำออกยังไง สงสัยเสียตัวให้มือตัวเองอย่างเดียว

((“ก็ถึงกูไม่ทำ กูก็ไม่จ่ายอยู่แล้วปะ?”))  อื้อหือ กวนส้นตีนและหน้าด้านเกินมนุษย์ที่กวนตีนที่สุดในโลก

“ไม่จ่าย ไม่ทำ ก็แค่ไม่ได้เซ็นเหล้าร้านกูอีกตลอดกาลนานเทอญ”  เรื่องมันเซ็นเหล้ากิน ผมไม่ติดใจเอาคืนกับมันหรอก เพราะอันที่จริง บอร์ดดำดินของผม ก็มีมันนั่นแหละเป็นโปรแกรมเมอร์ คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับระบบ มันเก่งจนผมแทบไม่ต้องห่วงเรื่องอะไรในบอร์ดเลย ให้มันดูแลจัดการเพราะมันก็มีเวลาเฝ้าบอร์ดทุกวี่วัน ถึงแม้จะตอบกระทู้ละหนึ่งรีพลายก็เพราะมันอยากแสดงตัวกับพวกเมมเบอร์ว่า ‘เฮ้ย กูอยู่คุมนะเว้ย อย่าได้ซ่าเกินไป’ ก็แค่นั้น

((“กูอยากไปแย่ล่ะร้านมึงน่ะ”))  ถึงจะบ่นแต่เสียงก็อ่อนลงมานิดหน่อย

“ยังไม่หายโกรธไอ้อิงค์มันอีกเหรอวะ เรื่องตั้งสองเดือนมาแล้วนะเว้ย”  ผมถามไปก็แอบหัวเราะไป  ไอ้กระทิงขาโหดโดนไอ้อิงค์ฟรุ้งฟริ้งหลอกตบเกรียนซะจนมันแค้นจัดไม่ยอมมาร้านผมตั้งเกือบสองเดือนแล้ว

((“กูไม่ได้โกรธ”)) มันขึ้นเสียง  ((“แต่กูเกลียดมัน!!”))  ไอ้ห่านี่ก็ประสาท แม่งไปกวนตีนเค้าก่อน โดนไอ้อิงค์สวนมวยให้ก็สมควรแล้ว สมน้ำหน้ากะลาหัวจอก ก๊ากก

“เอ่อๆ กูเข้าใจ  กูก็จัดการลงโทษมันให้มึงแล้ว ก็เลิกแล้วต่อกันเถอะน่า”  ผมกล่อม

((“ลงโทษเหี้ยไรไอ้สัด! มึงตัดเงินเดือนมันครึ่งเดือน แต่ให้โบนัสมันสองเท่า ทำไมกูจะไม่รู้!”)) มันทำเสียงดัง

“เฮ้ย! มึงรู้ได้ไง”  ผมไม่เคยบอกมันเลยนะเว้ย

((“หึ”))  มันพ่นลมหายใจใส่โทรศัพท์  ((“มันไลน์มาบอกกูด้วยเบอร์ของมึง แถมยังบอกว่าถ้ากูขี้ฟ้องก็เชิญขี่ม้าสามศอกไปฟ้องมึงได้เลย เพราะมันมีวิธีทำให้มึงไม่โกรธอยู่แล้ว  คอยดูนะถ้าเจอหน้าอีกทีกูจะสอยให้ร่วงในหมัดเดียว   มึงก็เหมือนกันไอ้ดิน อย่าคิดว่ามึงตามไอ้อิงค์ทันเหอะ  มันร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ เลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ตัว ระวังไว้ละกัน!”))  ปกติแม่งพูดแทบจะนับคำได้ แต่ถ้าเรื่องไอ้อิงค์เมื่อไหร่ ไอ้ทิงแม่งบ่นน้ำไหลไฟดับแบบนี้ทุกที  จะฮาก็ฮานะแต่หงุดหงิดไปด้วยเพราะคนนึงก็เพื่อนรักอีกคนก็น้องรัก อยากให้มันญาติดีกันซะที

“เออๆ เดี๋ยวกูจะคอยระวัง  เอาเป็นว่า เดี๋ยวกูส่งคลิปลับไปให้  มึงช่วยจัดการให้กูหน่อย อย่าให้เห็นหน้านะเอาแบบดูไม่ออกว่าเป็นกู แต่ให้เห็นไฝฝ้าราคีชัดๆ เนี๊ยบๆ เลยนะเว้ย งานนี้สำคัญมาก”  ผมสำทับไปอีกรอบ

((“ใครหรืออะไรวะที่ทำให้มึงลงทุนลงแรงขนาดนี้วะ  สำคัญขนาดที่มึงต้องลุยเองเลยเหรอเพื่อนรัก”))  ไอ้ทิงทำเสียงล้อ

“เอ่อน่า เรื่องของกูมั่งเหอะ มีหน้าที่ทำก็ทำไป แค่นี้นะ”  แล้วผมก็กดวาง  จะให้พูดเรื่องไอ้สกายให้ไอ้ทิงฟังได้ไง ก็ในเมื่อเจ้าตัวมันนอนเท้าแขนมองผมคุยอยู่ข้างๆ เนี่ย

 

“นอนดิวะ พ่อมึงเป็นนกฮูกเหรอ ไม่หลับไม่นอน” ผมด่าแล้วล้มตัวนอน

“เพื่อนคุณนี่เสียงดังน่าดู”  มันอมยิ้มกรุ้มกริ่ม  “ได้ยินแม้กระทั่งว่า ใครหรืออะไรที่ทำให้คุณต้องลงทุนทำเองเลยเหรอ”  คิ้วกระตุกยิกๆ ไอ้ทิง ไอ้สัด พูดให้มันเบาๆ หน่อยก็ไม่ได้

“อย่าได้สำคัญตัวเองผิด” ผมจิ้มนิ้วเฉดหัวไอ้หน้าหล่อจนมันหงายหลัง “กูลงทุนทำเรื่องนี้เพราะกูอยากแกล้งมึงได้คนเดียว คนอื่นห้าม!”  ดูมันจะตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังแซวกลับมา

“หวงก็บอกหวง ไม่ใช่บอกว่าอยากแกล้งคนเดียว”  ได้ยินแล้วหัวใจเต้นผิดจังหวะ  ผมเผลอจ้องตามันและเข้าสู่ภวังค์ของกันและกันอีกครั้ง

“ถ้ากูแกล้งมึงได้คนเดียว มึงจะยอมมั้ยล่ะ”  ถามไป ใจก็หวิว ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เหมือนกำลังคุยตอนอยู่ในฝัน เหมือนจะรู้ตัวแต่ก็ควบคุมอะไรไม่ได้

“ถ้าคนที่เคยแกล้ง มันไม่มาแกล้งผมแล้ว..”  ตอนแรกก็ดูจะเพ้อๆ แต่แล้วกลับหลุบตาลงแล้วเปลี่ยนนัยน์ตาเป็นเศร้าหม่นลงซะอย่างนั้น

“ช่างเหอะ นอนซะ กูง่วงแล้ว”  ผมพลิกตัวหนีแล้วหลับตาลงอย่างหลากหลายความรู้สึก อยากสงสารแต่ทำไมนึกฉุนอยู่ในที  ถ้าไอ้ห่านั่นของมึงกลับมาแกล้งต่อ กูก็ไม่มีสิทธิ์ได้แกล้งอย่างนั้นสินะ

หึ ไอ้เชี่ย!!

 

 

รุ่งเช้า ผมตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง อาบน้ำ แต่งตัว นั่งเล่นไอแพดรอคนตื่น

ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด

เสียงนาฬิกาปลุกของไอ้หน้านิ่งดังขึ้น  บอกตามตรงว่าไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้เลยนะ แต่ไม่กี่วินาทีให้หลังก็ได้เข้าใจเพราะเสียงดังอยู่แค่สี่ติ๊ด ไอ้เจ้าของก็เอื้อมมือมาปิด 

นี่มึงตื่นง่ายตื่นดายอะไรขนาดนี้วะเนี่ย หูหมาสุดๆ

“อ้าว ทำไมตื่นเช้า”  มันงัวเงียลุกจากที่นอนแล้วถามทันที สงสัยจะแปลกใจที่เห็นผมนั่งหล่ออยู่ที่โต๊ะทำงาน

“รอไปส่งหมา”  ผมบอกแล้วก้มหน้าสไลด์หน้าจอต่อไป

“อ..อืม”  เสียงเบาๆ แทบจะไม่ได้ยิน เดาว่ามันคงแปลกใจนั่นแหละ  แต่ผมไม่งงนะ ก็มันชวนเมื่อวานไง สงสาร ไปส่งซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าใจดำไม่สมกับหน้าหล่อๆ

สกายเดินเข้าห้องน้ำสักพักก็ออกมาแต่งตัว  ผมไม่ได้หันไปมองหรอกเพราะไม่อยากเห็นชีเปลือย  ไอ้ห่านี่แม่งหน้าด้านเรื่องเนื้อหนังมังสาผิดมนุษย์มนา ไม่เคยห่ออะไรออกจากห้องน้ำหรอก โทงเทงอวดกล้ามเนื้อทุกมัดอย่างไม่มีเขินอาย  ถึงผมจะเป็นคนหน้าด้านเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ไหวนะ





“กินข้าวข้างนอกเน๊าะ”  ผมชวน

มันยกนาฬากาขึ้นดู “อืม นัดบรีฟเก้าโมง เหลืออีกเกือบชั่วโมง คงทันแหละ”  แล้วเราก็ออกเดินทาง  สกายขับรถออกจากคอนโดด้วยความเงียบเชียบเหมือนทุกครั้ง ซึ่งผมก็นั่งฟังเพลงไปโดยไม่ได้กวนมัน

วันนี้วันเสาร์ รถราไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราแวะที่ร้านอาหารใกล้ๆ กับสถานที่จัดงาน  สั่งอาหารเช้าง่ายๆ มากิน  ไอ้หน้านิ่งสั่งแพนเค้กกับกาแฟ  ส่วนผมก็กาแฟกับสลัดไข่ต้ม เพิ่มข้าวต้มกุ้งใส่ไข่สองฟองปรุงรสด้วยพริกป่นกับน้ำส้ม แซ่บอย่าบอกใคร และตบท้ายด้วยขนมปังสังขยาอีกหนึ่งชุด

“สาบานได้ว่านี่อาหารเช้า”  สกายมองผมกินอย่างทึ่งๆ

“อาหารเช้าสำคัญที่สุดในมื้ออาหาร มึงก็ควรกินเช้าให้มีประโยชน์กว่านี้สิ อ่ะ กินผักด้วย”  ผมจิ้มบีทรูทชุ่มน้ำสลัดยื่นไปตรงหน้ามัน

สกายถอยหนีเล็กน้อยแต่ผมทำหน้าดุใส่และยื่นมือเข้าไปใกล้อีก มันมองแบบลังเลแต่ก็อ้าปากงับไว้

“อ่ะ ไข่นกกะทาด้วย”  จิ้มไข่ใบเล็กยื่นไปอีกและมันก็งับไปในเวลาไม่นาน

ไอ้หน้านิ่งเคี้ยวแล้วมองผมแบบแปลกๆ ผมเองก็รู้สึกแปลกๆ ด้วยเหมือนกัน

‘ทำไมกูต้องไปยุ่มย่ามวุ่นวายกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้วะ’  นั่งถามและเถียงแก้ต่างให้ตัวเองในใจแต่ก็ถูกเสียงหนึ่งหันเหความสนใจจนต้องหันไปมอง

“พี่ขอนั่งด้วยคนสิสกาย”  ร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างโต๊ะและเปล่งเสียงทุ้มกังวานออกมา

ไอ้หน้านิ่งเรียกชื่อมันทันที “คุณเผ่า”  ใคร เผ่าไหน? เผ่าอะไร? หรือเป็นแค่ชนกลุ่มน้อย แต่ถ้าดูจากรูปร่างที่สูงใหญ่ ใบหน้าคมคาย ผิวสองสี ดูคมเข้ม ถ้ามึงไว้ผมยาวแล้วใส่ขนนกบนหัว มึงก็ชนเผ่าอินเดียนแดงชัวร์ๆ

มันยิ้มแล้วพยักหน้ารับ “ใช่ พี่เอง”  แหม พ่งพี่ซะสนิทเชียวนะไอ้ชนเผ่าบนที่ราบสูง  มึงฟังที่ไอ้หน้านิ่งเรียกมึงบ้างมั้ย มันไม่ได้นับญาติกับมึงซะหน่อย ไม่เหมือนกูเว้ย

เดี๋ยวนะ! กับกูมันก็เรียกคุณนี่หว่า เฮ้ย ไอ้สัดสกาย มึงเรียกกูเหมือนที่เรียกทุกคนได้ไงวะ!!

“ว่าไง พี่นั่งด้วยได้มั้ย”  ไอ้หน้าด้าน เค้าไม่เชิญก็น่าจะรู้แล้วว่าไม่ยินดีให้นั่ง!

สกายมองแบบรำคาญนิดๆ “ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ คุณก็คงจะไม่ไปไหนแล้วยืนคุยค้ำหัวอยู่แบบนี้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ”  อื้อหือ ตรงเป็นสันขวานเลยไอ้หน้านิ่ง  มึงมันน่าเอาชนะก็เพราะเป็นคนแบบนี้แหละ

“หึหึ เย็นชาเหมือนเดิมเลยนะ”  ไอ้ชนเผ่ามันยิ้มเหยียดราวกับคำพูดนั้นทิ่มแทงใจดำมาแล้วบ่อยครั้ง “งั้นพี่ก็เชิญตัวเองนั่งเลยก็แล้วกัน สกายจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”  ว๊ายๆ ไอ้หน้าด้าน เค้าไม่เชิญมึงก็เชิญตัวเอง สาดดดดด

“มีธุระอะไรเรื่องงานรึเปล่าครับ ถ้ามีก็รีบพูดแล้วให้เวลาส่วนตัวกับผมด้วยนะ อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญ ผมไม่อยากกินไปพร้อมกับมลพิษ”  ไอ้สกาย มึงนี่สุดยอดของความไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ แต่กับไอ้ห่านี่ กูให้สี่ผ่านสำหรับออร่าไม่รับแขกของมึงว่ะ

“ฮ่าๆๆ นอกจากเย็นชาแล้วก็ยังใจร้ายเหมือนเดิม เฮ้อ เมื่อไหร่เราจะได้ญาติดีกันซะทีนะ”  ไอ้นี่หน้าด้านกว่ากูอีกนะเนี่ย “อ้าว นี่มันคู่จิ้นของสกายนี่นา”  อยู่ๆ ก็หันมามองผม “ตัวติดกันแบบนี้ มิน่าถึงได้มีข่าวตลอด”  “สวัสดีครับ ผมชื่อเผ่าพงศ์ เป็น CEO บริษัทเครื่องเพชรไทย พอรู้จักมั้ยครับ”  หึหึ ทำไมกูจะไม่รู้จัก บริษัทมึงดีลกับบริษัทป๋าออกจะบ่อย  แล้วไหนจะนิตยสารดังๆ ที่เอามึงลงสัมภาษณ์โคตรจะบ่อย 

“ผมไม่อยากรู้จักคนที่ไม่น่าคบและไม่จำเป็นกับชีวิตน่ะ”  ทำหน้าเฉยเมยใส่มันอย่างไม่อาจห้ามความหมั่นไส้ในจิตใจใสใสดวงนี้ของผมได้ 

“หึหึ” ไอ้ชนเผ่าหัวเราะสองหึหึด้วยใบหน้าไม่สะทกสะท้าน  “เป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนกันเลยนะ มิน่าถึงถูกจิ้นกันได้” 

“ผมว่าคุณบอกธุระมาดีกว่า ผมต้องการเวลาส่วนตัว”  สกายตัดบท หน้ามันนิ่งหยิ่งแบบเพิ่มเลเวลความรำคาญขึ้นมาอีกเท่าตัว

“ก็แค่จะมาบอกว่า..” มันเอื้อมมือไปจับไหล่สกาย  “เดี๋ยวเจอกันนะ” จากนั้นก็ลุกขึ้นก่อนจะหันมามองหน้าผม “หวังว่าจะไม่เจอคุณอีกนะ เพราะงานผมไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงในปากคุณเข้าไป และผมก็ไม่เชิญคนที่ไม่จำเป็นกับชีวิตเหมือนกัน”  มันยิ้มเหยียดๆ แล้วเดินจากไป

พ่องตายไอ้สัด ด่ากูปากหมา Kวย!!



“ใครวะ หน้าตาโคตรยั่วตีน”  ผมถามอย่างมีน้ำโห ส่วนสกายยกกาแฟขึ้นจิบอย่างเหนื่อยหน่าย

“ลูกค้าสำคัญพี่ดอท เจ้าของงานที่ผมต้องเดินคืนนี้”  ตายห่า มิน่ามันถึงบอกว่าไม่เชิญกู  แล้วทำไงถึงจะเข้าไปคุมสกายได้วะเนี่ย ไอ้ห่านั่นดูไม่น่าไว้ใจซักนิด

แต่เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ขอเคลียร์เรื่องสำคัญเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของกูก่อน 

“เรามาเคลียร์เรื่องนี้กันก่อน!” ทำเสียงเข้มจนสกายทำหน้าจริงจังเพื่อรอฟัง “ทำไมมึงเรียกไอ้ชนเผ่านั่นเหมือนที่เรียกกู!” หน้ามันเงิบและเหวออย่างเห็นได้ชัด “เปลี่ยนเลย กูไม่อยากเหมือนคนอื่น”  ผมโวยวายพลางคิดไปด้วยว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไรดี

ในขณะที่กำลังคิดและจ้องมองคนตรงข้ามอย่างหัวเสีย  หน้าหล่อใสก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วทำหน้าตาล้อเลียน “ดินอ้ปป้า” 

!!!!!!

ผมแทบผงะตกเก้าอี้เมื่อหน้าหล่อๆ ของมันดูทะลึ่งทะเล้นในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจเต้นโครมๆ เหมือนกับโดนดีดยาเสน่ห์ใส่

“ไอ้เหี้ย”  ผมหยิบขนมปังปาใส่หน้ามัน  “อ้ปป้าพ่อมึงดิ”  ด่ามันก็จริงแต่ผมก็กลั่นขำแทบไม่ไหว

“ฮ่าๆๆ”  เสียงหัวเราะของมันทำให้ผมยิ้มกว้าง  “อ้ปป้า อ้ปป้า”  เมื่อกี้ยังอารมณ์เสียอยู่เลย พอได้แกล้งกูแล้วอารมณ์ดีเชียวนะ แต่ก็ดีแล้วล่ะ อารมณ์ของมึงจะขึ้นหรือลง กูอยากให้เป็นเพราะกูคนเดียว

“แดกเลยสัด เดี๋ยวสาย”  ผมชี้แพนเค้กครึ่งแผ่นที่ยังเหลือในจานมันเพื่อกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของหัวใจ

“อิ่มแล้ว” มันว่า 

“อิ่มเชี่ยไร แดกให้หมดจะได้มีแรง” เอื้อมมือไปจิ้มแพนเค้กยัดใส่ปากมันจนหมด  เราต่างก็มีท่าทีประดักประเดิดกันเล็กน้อยแต่ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องปกติและไม่พูดถึง







“คุณจะรอที่ไหน ผมต้องซ้อมเดินจนถึงบ่ายสอง ซ้อมรันธรูตอนห้าโมงแล้วเดินจริงตอนทุ่ม”  สกายถามเมื่อออกมาจากร้าน

“เดินเที่ยวแถวนี้ ถ้าเมื่อยก็รอในรถ หรือถ้าเบื่อกูก็ขับรถกลับไปนอนที่คอนโด ถ้ามึงจะกลับก็โทรบอกหรือไม่ก็จับแท็กซี่กลับเอง”  ผมตอบแบบสบายๆ

สกายขมวดคิ้วมองผมอย่างค้นหา “ไม่น่าเป็นไปได้” มันบ่นทำหน้าครุ่นคิดหนัก  “ดื้ออย่างคุณเนี่ยนะจะรอในรถ” 

“อ้าวไอ้นี่! กูดีก็ดีแล้ว มึงจะมาแหย่ให้กูเสียทำไมวะเนี่ย!”  ริมฝีปากสีชมพูซีดของมันเม้มเป็นเส้นตรงเพราะกลั้นขำเอาไว้

“ถ้าจะทำอะไรก็อย่าให้งานผมเสียก็แล้วกัน พี่ดอทกำชับตลอดว่าอย่าทำให้ไอ้คุณเผ่านั่นโกรธ ไม่งั้นโดนพี่ดอทปรับเท่านึงนะครับอ้ปป้า”  หึยย ไอ้ห่า นอกจากจะรู้ทันแล้วยังมาล้อกูอีก

“ไปไกลตีนเลย ไม่งั้นอ้ปป้าจะถีบมึงในเวลาอันใกล้นี้แหละ”  ผมง้างตีนใส่ ส่วนมันก็ยิ่งกลั้นขำมากขึ้นไปอีกก่อนจะเดินแยกไป


********************
ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
เมื่อไอ้นายแบบดังคล้อยหลังไปได้สักพัก ผมก็ยกหูโทรหาผู้มีอุปการคุณทันที

((“ว่าไงไอ้เสือร้าย วันนี้คนกรุงเทพคงเห็นดาวเต็มฟ้าเพราะลูกชายโทรหาป๋า”)) 

“ป๋าก็เวอร์ตลอด” ผมบ่นแล้วแอบยิ้ม “มีเรื่องอยากให้ป๋าช่วยครับ” 

(( “อะไรนะ!” )) ป๋าส่งเสียงแสดงอาการประหลาดใจแบบเวอร์ๆ ออกมา (( “บอกป๋าทีว่าป๋าไม่ได้หูฝาด” )) 

“โธ่ป๋า ล้อกันอยู่ได้”  ผมบ่น

ก็จะไม่ให้ป๋างงได้ยังไง ผมน่ะไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากป๋าเลยแม้แต่ครั้งเดียว

((“เอาล่ะๆ ไม่แกล้งแล้ว อยากให้ช่วยอะไร สั่งมาเลยขอรับเจ้านาย”))  นี่ขนาดไม่แกล้งนะ

“ป๋าหาบัตรวีเข้างานเดินแบบเพชรไทยคืนนี้ให้ผมหน่อย แต่ไม่เอาของป๋านะ เอาแบบไปเป็นตัวแทนของคนที่ใครก็ไม่สามารถไล่ออกจากงานได้ไรเงี้ยครับ”

((“ตั้งแต่เป็นนายแบบดังก็หันมาสนใจวงการเดินแบบจริงจังเลยเหรอเนี่ยลูกชายป๋า อ้อ แล้วยังเรื่องคู่จิ้นกับนายแบบตาน้ำข้าวนั่นอีก อย่าบอกนะว่าจะพาสะใภ้เข้าบ้านน่ะ”))  โอ๊ย วันนี้จะคุยกันจบเรื่องมั้ยเนี่ย

“โหยป๋า อย่าเล่นแบบนี้ดิ ขนลุก”  ผมลูบแขนประกอบคำพูด  “เรื่องคู่จิ้นก็ให้มันเป็นเรื่องจิ้นๆ ส่วนเรื่องงานคืนนี้ ผมแค่อยากเข้าไปทำอะไรบันเทิงๆ เท่านั้นแหละ”

(( “วางแผนอะไรอีกล่ะเรา”)) ป๋าถาม

“แหย่คนเล่นน่ะป๋า ไม่มีไรมาก นะนะ นะครับ  ถ้าได้บัตรแล้วโทรบอกผมนะ บ๊ายบาย”  ผมตัดบทแล้วรีบวางสายทันที  ไม่งั้นป๋าคงชวนคุยอีกยาวแน่ๆ







จากนั้นก็กดโทรหาเพื่อนในวงการร้านอาหารของผมเพื่อติดต่อว่าจ้างอะไรบางอย่าง  รอเวลาจนใกล้เที่ยงก็สั่งอาหารอิสานจากร้านใกล้ๆ   อยู่กับสกายมาสองสามวันก็เริ่มรู้ว่ามันชอบอาหารรสจัดเหมือนผม พากันกินเผ็ดแบบพ่นไฟได้นี่ถือเป็นเรื่องราวดีดีเพียงเรื่องเดียวที่ตรงกันของเราสองคน  เมื่อได้อาหารตามที่สั่งก็ถืออย่างภาคภูมิใจเข้าไปในโรงแรมระดับหกดาวแล้วตรงดิ่งเข้าไปยังสถานที่จัดงาน 

ห้องขนาดใหญ่ของโรงแรมหรู ถูกจัดให้เป็นแคทวอล์คขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป  มีทั้งนายแบบนางแบบและทีงานประมาณเกือบยี่สิบคนและตอนนี้ทุกคนต่างแยกย้ายลงมาจัดการกับอาหารที่ทางโรงแรมจัดให้  ผมกวาดสายตาหาเป้าหมายครู่เดียวก็เจอเพราะแม่งสูงเด่นหน้าหล่อเป็นสง่ากว่าใคร

สายตาหลายคู่เริ่มจ้องมองมาที่ผมเพิ่มมากขึ้นทุกขณะเพราะการมาโดยไม่ได้รับเชิญรวมกับข้าวของที่หอบหิ้วอยู่ในมือ



“กินข้าวยัง”  เมื่อไปถึงเป้าหมาย ผมก็เอ่ยถามทันที  เจ้าตัวไม่ทันรู้ว่าผมมาเพราะมันหันหลังกำลังจะหยิบอุปกรณ์เพื่อตักอาหารของโรงแรม

“อ้าวคุณ!”  สกายหันมาทำหน้าประหลาดใจ “มาทำไม”

“เอ๊า ไอ้นี่ คนอุตส่าห์หาข้าวหาปลามาให้ ถามแบบนี้กูไปก็ได้นะ”  ผมยกอาหารมากมายให้มือให้มันดูพลางทำหน้าเอาเรื่อง

ไอ้หน้านิ่งหรี่ตามองอย่างไม่อยากเชื่อ “มาดูลาดเลาก็บอก”  ไอ้ห่านี่ก็รู้ทันกูตลอด

“สู่รู้จริง”  ผมกระซิบเพราะตอนนี้ทั้งสายตาและเสียงซุบซิบเริ่มหนาหูขึ้น “ไปหาที่นั่งกิน เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน”  ผลักมันไปที่นั่งมุมปลอดคน “อะ กินซะ”  วางถุงไว้บนโต๊ะแต่ไม่ได้แกะให้มันหรอก ซื้อมาให้ก็บุญแล้ว

สกายไม่ได้ว่าอะไร มันแกะอาหารทั้งหมดแล้วจัดแจงอุปกรณ์การกินให้ผมด้วย  “คุณก็กินด้วยสิ ยังไม่ได้กินไม่ใช่เหรอ”

“เออสิ ก็กะมากินกับมึงนั่นแหละ”  แล้วเราสองคนก็กินอาหารกันไปเงียบๆ  ผมแอบสังเกตปฏิกิริยาโดยรอบก็ไม่ผิดจากที่คาดไว้  ทุกคนพยายามแอบมองมาตลอดเวลา บางคนยกมือถือขึ้นถ่ายรูปซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ผมอยากให้เป็นอยู่แล้ว





“อยากกินของพวกนี้ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ”  เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง หันไปมองก็ไม่ผิดจากที่คิดไว้  ไอ้ชนเผ่ากลุ่มน้อย “กินของถูกๆ เดี๋ยวก็เสาะท้องหรอก”  ของถูกไม่ได้สกปรก มันจะเสาะท้องได้ไงไอ้สัด มึงถูกปลูกฝังความคิดผิดๆ แบบนี้มาตั้งแต่ตอนแบ่งเซลล์ในท้องแม่รึไงวะ

“ผมกินอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยวกับถูกหรือแพง มีแค่ไหนก็กินแค่นั้นไม่เห็นต้องแพง ของแพงบางอย่างนั่นแหละที่เป็นพิษเป็นภัยกับร่างกาย” สกายตอกหน้าเข้าให้

“ที่จริงคงกินแพงไม่ได้ก็เลยหาข้ออ้างน่ะสิ  แต่ก็ไม่แปลกเพราะใฝ่ต่ำซะเหลือเกิน คนรวยก็ดันไม่สน ชอบไปเกลือกกลั้วกับพวกขี้ครอกต่ำๆ พวกลูกเมียน้อยไม่มีอนาคต”  ส้นตีนกระตุกกึกทันที ผมกำหมัดกำลังจะลุกขึ้นเพื่อถวายหลังตีนให้มันสักดอกแต่ก็ถูกสกายยึดข้อมือเอาไว้

เรื่องที่ผมเป็นลูกป๋า มันคงรู้จากพี่ดอทนั่นแหละ  แม่ลูกสองคนนั้นก็แปลก ทั้งที่กลัวคนจะรู้ว่าผมเป็นลูกป๋า แต่กับคนที่สนิทกันนี่พร้อมใจกันเล่าประจานกันสนุกปาก

สกายกระตุกข้อมือผมอีกครั้งเมื่อผมพยายามขืนเพื่อจะลุกขึ้นซัดปากมัน “คุณเข้ามาในที่ของเค้า คุณต้องเตรียมใจไว้ก่อนที่จะก้าวเข้ามาแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะโดนแบบนี้  ถ้าจะไม่อดทนก็กลับไป” คำพูดมันนิ่งขรึมดูมีอำนาจจนผมต้องยอมจำนน  สกายมองผมจนแน่ใจว่าจะไม่แผลงฤทธิ์อะไร มันจึงมองไปที่ไอ้ชนเผ่าด้วยสายตารังเกียจขั้นสูงสุด  “อยู่สูงเพื่อมองเห็นได้กว้างไกลกว่า ไม่ใช่เพื่อเหยียดคนอื่นว่าอยู่ต่ำ เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็ยิ่งต่ำกว่าหลายเท่า และผมก็ไม่คิดจะคบค้ากับคนที่ต่ำขนาดนั้นหรอก”  สุดยอดเจ็บลึก ไม่ได้เกรี้ยวกราดตวาดด้วยอารมณ์แต่ใช้สายตาและคำพูดที่มีความหมายรุนแรง

“มันจะมากเกินไปแล้วนะสกาย เห็นพี่ดีด้วยแล้วจะทำเป็นผยองอย่างงั้นเหรอ”  ดูก็รู้ว่าเสียหน้าและโกรธจัดจนกัดกรามแน่น  “อย่าลืมนะว่าตราบใดที่เรายังติดสัญญากับดอท เราก็เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือ” สัญญาพี่ดอทเกี่ยวไรกับไอ้เหี้ยเผ่านี่วะ นี่มันพูดเรื่องอะไรของมันวะ

“ก็ถ้าเล่นตามกติกา ผมก็ยินดีที่จะถูกบีบในงาน แต่ถ้าเล่นนอกเกมเมื่อไหร่ ผมก็ไม่ไว้หน้าไหนทั้งนั้นล่ะครับ”  สกายพูดด้วยอารมณ์นิ่งขรึม ไม่มีทีท่าจะเกรงกลัวคำขู่ของอีกฝ่ายแต่อย่างใด

“ก็อย่าบีบให้พี่ต้องนอกเกมมากเกินไปก็แล้วกัน คนอย่างพี่ไม่ได้เกิดมายอมใครมากนักหรอก!”  แล้วมันก็หันมาหาผม  “ถ้าคืนนี้ผมเห็นหน้าคุณอีกนะ โดนการ์ดลากออกจากงานแน่!!”  แล้วไอ้ชนเผ่าก็เดินจากไปอย่างหัวเสีย 





“มันหมายความว่ายังไงเรื่องสัญญา”  ผมถามทันที

สกายถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “พี่ดอทกับไอ้นายเผ่าเทพเนี่ยมันเป็นหุ้นส่วนกัน  เวลามีงานเพชร มันก็จะมาจ้างนายแบบกับเสื้อผ้าที่โมพี่ดอทไปถ่ายไปเดิน ผมก็หนึ่งในคนที่ถูกเรียก และบ่อยซะจนน่ารำคาญ ซึ่งผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยถ้าเป็นงานถ่ายหรืองานเดิน”  มันถอนหายใจอีกครั้งก่อนพูดต่อ  “ปฏิเสธได้ก็แค่งานขึ้นเตียงอย่างเดียว” ผมเบิกตาโตเมื่อได้ยินและเข้าใจความหมายได้อย่างรวดเร็วทันกัน

“มันจ้างมึงให้นอนด้วยเหรอ” 

“อืม”  สกายไหวไหล่เล็กน้อยเหมือนไม่ยี่หระ  “พี่ดอทถามตลอดว่าถ้าขึ้นเตียงกับไอ้คุณเผ่านั่นจะลดเวลาในสัญญาให้ครั้งละหนึ่งเดือน”  โห ครั้งละหนึ่งเดือนเชียวเหรอวะ คิดง่ายๆ ถ้าสกายมีงานยี่สิบงานในหนึ่งเดือน พี่ดอทก็มีรายได้ไม่ต่ำกว่าสองแสน แสดงว่าที่จะได้จากไอ้ชนเผ่าต้องเกินกว่านั้นและคงเยอะมากแน่ๆ 

แต่ทำแบบนี้กับคนอื่นได้ไงวะ เลวทั้งคู่!!

“ดูแม่งก็ไม่น่าจะชอบผู้ชายนะ” ผมพึมพำ “แล้วมันรู้เหรอว่ามึงชอบผู้ชายหรือผู้หญิง”

“หึ คนอย่างงั้นจะไปแครอะไร ถ้ามันซื้อได้มันก็ซื้อ ถูกใจใครก็ใช้เงินหว่าน” สกายยิ้มเหยียด

ผมคิดตามแล้วเกิดคำถามขึ้นอีก “แล้วมันจะซื้อไปอัดเองหรือซื้อไปโดนอัดวะ”  สกายจ้องผมเขม็ง  มันคงคิดว่าคำถามผมโคตรตรงและน่าอายอยู่หน่อยๆ

“ผมจะไปรู้เหรอ ก็ไม่เคยไป”  มันทำหน้าปุเลี่ยนๆ เมื่อเห็นผมกลั้นขำ  “กินๆ พูดมากคุณน่ะ”  แล้วมันก็ก้มหน้าก้มตากินโดยมีผมมองหน้ามันด้วยสายตาวิบวับ

“เขินอะดิ” แกล้งแซวมัน

สกายกลอกตา “กระดากปากน่ะเคยเป็นมั้ย”  จากนั้นมันกลั้นยิ้ม เหมือนจะเขินผสมกระดากจริงๆ  ผมเองก็รู้สึกแปลกๆ แต่ความหน้าด้านก็มีมากกว่า

“มึงว่า ถ้าเราขึ้นเตียงด้วยกัน ใครจะโดนอัดวะ” ผมถาม

คิ้วหนาเลิกขึ้นแล้วเงยหน้ามองอย่างสงสัย “ถามเพื่อ” 

ผมยักไหล่ “ไม่รู้ดิ ก็แค่อยากรู้”

ใบหน้าหล่อนิ่งมองแบบเคืองๆ “ถ้าแค่นั้นก็ไม่ต้องรู้” แล้วมันก็ก้มหน้าก้มตากินและไม่ตอบอะไรอีก ไม่ว่าผมจะเซ้าซี้ถามคำถามเดิมอีกสักกี่ครั้ง จนในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ลูกเงียบไปโดยปริยาย

อะไรของมันวะ?



หลังจากนั้นผมก็ออกมาจากโรงแรม  ในระหว่างนี้ป๋าก็โทรมาบอกข่าวดีว่าได้บัตรเข้างานของเพื่อนป๋าซึ่งเป็นดีลเลอร์อีกเจ้าของบริษัทเพชรไทย ผมกำชับกับป๋าไม่ให้บอกใครเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็แวะไปเอาบัตรที่ป้อมยามหน้าบริษัทโดยจ่ายค่าปิดปากไปห้าร้อย เพราะกลัวมันปากโป้งไปบอกแม่ใหญ่ว่าผมมาวอแวใกล้ป๋า

เมื่อได้บัตรก็หาร้านแต่งตัวและทำผมนิดหน่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็หล่อเนี้ยบใกล้เคียงพี่ติ๊กเจษ


“พึ่งจะห้าโมง หาไรกินก่อนละกัน”  ว่าแล้วก็แวะกินข้าวใกล้ๆ แถวนั้น โดยนั่งรอเวลาจนถึงหนึ่งทุ่มตรง



ผมแสดงบัตรและขอความร่วมมือบางอย่างกับสองสาวสวยที่โต๊ะลงทะเบียน เมื่อพวกเธอได้ฟังจึงไปเรียกออกาไนซ์เซอร์ที่จัดงานมาให้  ผมนัดแนะแผนการเพื่อเซอร์ไพรส์เจ้าของงานในตอนออกกล่าวสรุปปิดงาน โดยกำชับว่าอันนี้เป็นความลับสุดยอดซึ่งไม่มีทีท่าว่าคุณผู้จัดจะระแวงสงสัยใดใดเพราะผมมาในนามของดีลเลอร์เบอร์ใหญ่ของบริษัท

การเดินแบบเริ่มตอนสามทุ่ม เพราะกว่าจะรอแขกกว่าจะจบพรีเซนเทชั่นแนะนำบริษัท และกว่าไอ้ชนเผ่าจะกล่าวเปิดงานอีกสิบปี พูดห่าเหวอะไรนักหนาก็ไม่รู้ บ้าน้ำลายชะมัดไอ้ห่านี่

และแล้วภาพที่ผมรอคอยก็เริ่มต้นขึ้น นางแบบสวยๆ ขายาวๆ แต่งตัวด้วยคอนเซ็ปเริ่ดหรูอลังการ โชว์เครื่องเพชรหลากหลายดีไซน์ ยอมรับเหมือนกันว่าเพชรบริษัทไอ้ชนเผ่าสวยจริง อลังจริง ถ้าไม่อคติก็ต้องบอกว่าการบริหารงานของมันเข้าขั้นเทพ

ส่วนผมก็ต้องแอบอยู่ตามหลืบมุม หลีกหนีการพบปะผู้คนเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะอยู่ในงานได้ไม่ถึงจบ  ตอนที่มีการแนะนำบริษัทร่วมค้า พอพิธีกรเรียกหาบริษัทที่ผมเป็นตัวแทนผมก็ชิ่งเข้าห้องน้ำซะก่อน ไม่งั้นไอ้เผ่ามันคงสั่งยามโยนออกจากงานแน่ๆ

คู่แล้วคู่เล่าของการเดินแบบผ่านไป  ยังไม่เห็นไอ้สกายโผล่ออกมาซะที  สงสัยจะมาคู่สุดท้าย  ในขณะที่กำลังชะเง้อชะแง้ คู่สุดท้ายของเซตแรกก็ขึ้นมา

ยอมรับเลยว่าคู่อื่นๆ ผมมองแต่ผู้หญิง  ส่วนผู้ชายจะใส่ชุดอะไร หน้าตาแบบไหนก็แทบไม่ผ่านตา  แต่สำหรับคู่นี้ ผมละสายตาไปจากผู้ชายไม่ได้เลย  ชุดทักซิโดสีดำสนิท เดินมาดมั่น ตรงข้อศอกขวามีแขนเล็กๆ ของนางแบบคล้องอยู่  แว้บหนึ่งในความรู้สึก ผมเห็นมีดอีโต้คมๆ ตัดฉับลงไปบนแขนเล็กนั่นจนมันขาดกระเด็นเป็นสองท่อน

“ดูหนังโรคจิตมากไปหรือไงวะกู” พึมพำกับตัวเองอย่างสยดสยองแล้วสลัดภาพงี่เง่าออกจากหัว

การเดินแบบดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  ในเซ็ตที่สอง สกายยังคงดูดีในชุดสูทลำลองสีเทาดำ เซ็ตที่สามดูแปลกตาด้วยโอเวอร์โค้ทสีกรมท่า ดูหล่อ ลึกลับ น่าหลงใหล  และมาถึงชุดฟินาเล่ที่ทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้จนต้องเบือนหน้าหนี  ไอ้ห่าหน้านิ่งเดินกับนางแบบหน้าตาประหลาด ตอนแรกก็ดูสวยนะ แต่ใส่ชุดนี้แล้วผมคิดว่าเธอขี้เหร่ว่ะ

เสียงปรบมือเกรียวกราวเมื่อทั้งสองเดินมาจนสุดแคทวอล์คแล้วหันหน้าเข้าหากัน สกายคุกเข่าลงแล้วเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงสดแล้วหยิบแหวนเพชรเม็ดเท่าไข่ไก่ขึ้นมาสวมให้ยัยนางแบบที่ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องปล่อยชายกระโปรงยาวสยายไปสิบกิโล  จากนั้นก็เดินไปยืนซ้อนด้านหลังสวมสร้อยเพชรระย้าเข้าชุดกับตุ้มหูให้อย่างโรแมนติกแถมยังโอบกอดเอาไว้จากด้านหลัง เจ้าสาวก็เงยหน้ามองจ้องกันราวกับคู่รักที่พึ่งแต่งงานจริงๆ เสียงปรบมือดังกระหึ่มกับภาพประทับใจและความงามของชุดเพชรที่ระยิบระยับสวยงามบาดตา

แต่สำหรับผม ภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้มากกว่าที่บาดลึกเข้ามาทำให้หัวใจเจ็บๆ คันๆ ยุบๆ ยิบๆ จนน่ารำคาญ

“น้อง เอามานี่” ผมเรียกบริกรที่ถือถาดเครื่องดื่มผ่านมาพอดี กวาดตามองบรั่นดี ไวน์ขาว ไวน์แดงอย่างละสองแก้วบนถาดแล้วตัดสินใจหยิบบรั่นดีมาดื่มรวดเดียวหมดแล้วคว้าแก้วที่สองสาดตามลงคอไปในคราวเดียว  บริกรกำลังจะก้าวขาออกไปแต่ผมคว้าไหล่ไว้แล้วหยิบไวน์ขาวและแดงสาดลงคอไปติดๆ จนหมดทุกแก้ว “ไปเอามาอีก  เอาตังค์นี่ไปแล้วมาเสริฟแค่ตรงนี้ ที่เดียว”  ยัดแบงค์สีเทาใส่มือมันก่อนจะสั่งเสียงเฉียบ  ไอ้เด็กผู้ชายอายุพอๆ กับสกายมองผมแบบอึ้งกิมกี่แล้วพยักหน้างงๆ ก่อนจะเดินจากไป

กว่าฉากปัญญาอ่อนจะจบลง ก็หลายนาที ใครเป็นคนคิดธีมฟินาเล่วะ บ้านนอก โบราญ ปัญญาอ่อนสุดๆ เห็นแล้วขัดตาชะมัด



หลังจากนั้นไม่นาน นายแบบนางแบบทั้งหมดก็ออกมายืนเรียงกันบนเวทีและพิธีกรก็กล่าวเชิญไอ้ชนเผ่าขึ้นมา  มันเดินนำตามด้วยคู่ของสกายและคู่อื่นๆ จนมาถึงสุดทาง  เสียงปรบมือดังต่อเนื่องยาวนาน เมื่อทุกคู่มายืนเรียงบนแคทวอล์คจนหมดไอ้ชนเผ่าก็ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดปรบมือ

“ท่านผู้มีเกียรติครับ  ที่จบลงไปก็คือคอเล็กชั่นพิเศษที่บริษัทเพชรไทยสร้างสรรความอลังการขึ้นมาเพื่อให้ท่านได้ทราบว่า บริษัทเพชรไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติเลยทีเดียว  แต่หากท่านกำลังปรารถนาบรรดาเครื่องเพชรที่อยู่บนร่างนางแบบบนเวทีแห่งนี้ ผมคงต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เนื่องจากทั้งหมดนี้ได้ถูกสั่งจองจากลูกค้าในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว”

เสียงบ่นดังอื้ออึงขึ้นทันที  ผมเบ้ปากเป็นรูปตีนไดโนเสาใส่ไอ้ห่าขี้อวดอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้  เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวจะยิ้มไม่ออก

ผมทนฟังไอ้ชนเผ่าพล่ามต่างๆ นาๆ ถึงเพชรของมัน แต่ถ้าไม่อคติจริงๆ ก็คงต้องยกนิ้วให้การขายที่แยบยลไม่ง้อลูกค้า ทำให้สินค้าดูมีคุณค่าเพิ่มขึ้นไปอีก  แทนที่จะขายในงานแต่มันกลับบอกให้สั่งจองพร้อมวางเงินมัดจำครึ่งหนึ่งของราคาขาย  แถมยังเล่นตัวประมาณว่า แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะผลิตได้เท่าไหร่เพราะยอดสั่งจากเจ้าประจำก็ล้นมืออยู่แล้ว ที่มาจัดแสดงในวันนี้เพียงต้องการแสดงศักยภาพของบริษัทและแบ่งปันให้คนไทยได้ดูของสวยๆ งามๆ เท่านั้นเอง 

และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง  เมื่อไอ้ชนเผ่าพูดจบ ไฟก็ปิดมืดลง  พิธีกรบอกแขกทุกคนไม่ให้ตื่นตกใจเพราะจะมีการแสดงเซอร์ไพรเกิดขึ้น 

ผมเห็นจากเงาลางๆ ว่าไอ้ชนเผ่าหันรีหันขวาง มันคงแปลกใจนั่นแหละว่ามีอะไรเกิดขึ้น  ไม่นานนักไฟก็เปิดสว่างพร้อมด้วยร่างของหนุ่มๆ หน้าตาดีในชะกางเกงยีนส์เอี๊ยมขายาวเปลือยท่อนบน  พวกนั้นยืนอยู่ด้านล่างตรงหน้าเจ้าของงานและเต้นเหมือนในบาร์เกย์  เสียงกรี๊ดดังอยู่เรื่อยๆ เพราะพิธีกรบิ้วว่าเป็นการแสดงพิเศษและปรบมือเชียร์ให้คนที่อยู่บนแคทวอล์คเต้นไปด้วย ไอ้ชนเผ่าดูอึกอักแต่ก็ไม่กล้าอาละวาด 

และทันใดนั้น นักเต้นคนหนึ่งก็ฉุดมือไอ้ชนเผ่าลงมาจากแคทวอล์ค มันไม่ได้ตั้งตัวจึงตกลงไปตามแรงฉุด  นักเต้นอีกสองคนรีบเข้าไปรองรับร่างเอาไว้ไม่ให้กระแทกพื้นและคลุกวงในเป็นการใหญ่  ทั้งชวนเต้น นัวเนีย ลูบไล้นิดๆ หน่อยๆ พอไม่อนาจาร 

อาศัยจังหวะที่ไอ้ชนเผ่ายังไม่ทันได้ตั้งตัวและถูกล้อมหน้าล้อมหลังจนขยับแทบไม่ได้   ผมเดินเข้าไปยืนด้านล่างตรงหน้าสกาย  มันมองผมแบบคาดโทษนิดๆ เพราะคงรู้ว่าเป็นฝีมือใคร  เมื่อคนอื่นๆ เริ่มสังเกตว่าผมมายืนตรงหน้าสกายก็เริ่มมีเสียงกรี๊ดและแสดงแฟลชสาดเข้ามาแบบรัวๆ 

“คุณครับ บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเข้าใกล้แคทวอล์คนะครับ”  การ์ดชุดดำหน้าเหี้ยมเข้ามาเตือน 

ผมโชว์บัตรวีไอพีให้มันดูและขอร้องอย่างสุภาพ “ผมขอพูดกับนายแบบแค่คำเดียวครับ”  บอกการ์ดแล้วหันกลับมาเงยหน้ามองสกายอีกครั้งจากนั้นก็พยักหน้าเป็นนัยให้ไอ้หน้าหล่อมันก้มลงมาหา มันเลิกคิ้วนิดหน่อยแต่ก็ค้อมตัวลงมาในที่สุด

“.....”  ผมกระซิบคำที่อยากพูดแล้วหันไปโค้งให้การ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่  “แค่นี้แหละ ขอบคุณครับ”  จากนั้นก็เดินออกจากงานมาเลย


********************

ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ผมออกมารออยู่ตรงล็อบบี้โรงแรมอย่างสบายอกสบายใจ  ไอ้เรื่องแกล้งเจ้าของงานได้ก็พอใจในระดับหนึ่ง  แต่ที่ทำให้ยิ้มอยู่ตอนนี้ก็เพราะใบหน้าหล่อใสของสกายหลังจากได้ยินที่ผมกระซิบเมื่อกี้น่ะสิ

‘มันเขินผม’

ไม่ได้คิดไปเองนะ มันเขิน ผมรู้ และผมก็พอใจมากๆ ที่มันเขิน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หรืออาจจะเป็นเพราะแอลกอล์ฮอล์ในร่างกายเริ่มเกินลิมิตก็เลยเคลิ้ม

อีกสักพักแขกก็ทยอยออกมาและพูดคุยกันเรื่องที่ไอ้ชนเผ่าทนไม่ไหวแล้วไล่ตะเพิดนักเต้นสามคนออกจากงานและด่าออกาไนซ์เซอร์ถึงเรื่องนี้ด้วยคำพูดที่หยาบคาย  ก็ช่วยไม่ได้นะ ที่โดนด่าก็สมควรแล้ว อยากสะเพร่าไม่เช็คให้ดี  แต่ก็นั่นแหละ ถือเป็นคราวซวยด้วยที่มาเจอคนอย่างผม  ก็จะมีตัวแทนบริษัทคู่ค้าที่ไหนเค้าจะแกล้งพังงานแบบนี้ล่ะ  จริงมั้ย

“แทนที่จะรีบกลับแต่มานั่งรอตีนอยู่ปลายจมูกเขาเนี่ยนะ” เสียงสกายดังขึ้นด้านหลัง ผมจึงหันไปมอง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดเดิมที่ใส่เมื่อเช้าแล้ว หน้าก็ล้างเครื่องสำอางออกจนหมดจด มีเพียงแค่ทรงผมเท่านั้นที่ยังแน่นอยู่  ก็..ดูดีไปอีกแบบล่ะนะ

ผมยักคิ้วแล้วยิ้มกวนตีนใส่  “ไม่ได้นั่งรอตีน นั่งรอมึงแหละ” 

“หือ..กลิ่นเหล้าหึ่ง”  มันผงะหน้าหนีทันที  “ยังมีหน้ามายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกนะ ไปเร็วๆ เดี๋ยวนักข่าวตาม”   ผมลุกจากโซฟาตามการเร่ง แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว

“นั่นไงๆ อยู่ด้วยกันจริงๆ ด้วย”  กลุ่มนักข่าวประมาณหกเจ็ดชีวิตวิ่งกรูเข้ามาและประชิดตัวเราสองคนในเวลาอันรวดเร็ว

นี่มันนักข่าวหรือนั่งวิ่งลมกรดกันแน่วะเนี่ย

“ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะน้องดินน้องสกาย”  พี่นักข่าวสาวใหญ่พูดพร้อมกับยื่นเครื่องบันทึกเสียงอันจิ๋วมาตรงหน้า

สกายมองหน้าผมแล้วหันไปยิ้มแห้งๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ แต่ผมน่ะยิ้มกริ่มรอเวลาแบบนี้มานานแล้วล่ะ

“งานในวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่น้องทั้งสองเจอกันใช่มั้ยคะ”

ผมเลิกคิ้วยิ้มอย่างเป็นมิตร “บังเอิญสิครับ พึ่งรู้นี่แหละว่าหมอนี่มางานนี่ด้วย”  ผมว่า

“แต่สายข่าวรายงานว่าเมื่อเช้าก็กินข้าวร้านเดียวกัน ตอนเที่ยงก็หอบหิ้วกับข้าวเข้ามากินด้วยกันไม่ใช่เหรอคะ รูปว่อนเน็ตเลยค่ะ”  รู้ลึกรู้จริงสินะ

“แล้วกันสิ รู้ซะละเอียดเลย”  ผมตอบพลางลูบท้ายทอยทำท่าเหมือนโดนจับได้  “จริงๆ ก็บังเอิญเมื่อเช้าเจอกันหน้าร้านอาหารก็เลยบอกว่าจะเลี้ยงคืนตอนเที่ยงเท่านั้นเองล่ะครับ”  ผมโกหกขาวนะ โกหกเพื่อช่วยสกาย ให้มันหลุดพ้นจากสัญญาทาส เพราะฉะนั้น ไม่บาป คึคึ

“แหม ไม่ค่อยเนียนเลยนะคะ”  พี่นักข่าวยิ้มล้อ  “แล้วตอนที่ไปยืนกระซิบอยู่ข้างแคทวอล์ค พูดอะไรเหรอคะ บอกได้รึเปล่า”

“ใช่ๆ บอกได้มั้ยคะ ว่าเมื่อกี้กระซิบอะไรกับน้องสกาย”  นักข่าวอีกคนผสมโรง

“ให้น้องตอบดีกว่าครับ”  ผมยิ้มแล้วพยักพเยิดไปทางสกาย

“อร้ายยย เรียกว่าน้องด้วยอะ กรี๊ดดดด”  เสียงกรี๊ดเบาๆ ของทุกคนพอรวมกันแล้วก็ดังจนคนที่เดินอยู่แล้วนั้นพากันเข้ามามุงมากขึ้น

ใบหน้าหล่อใสดูตึงขึ้น สีระเรื่อของเลือดฝาดปรากฏชัดจนทุกคนสังเกตเห็น  “น้องเขินแล้วค่ะ อร้ายย ดูสิ หูแดงหน้าแดงด้วย”  ทุกคนพากันฟินกับสิ่งที่ได้เห็น ผมเองก็เช่นกัน ทำไมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

“ไม่ได้เขินหรอกครับ แค่ร้อนนิดหน่อยน่ะ”  สกายพยายามปรับสีหน้าและน้ำเสียง ยังดีที่มันเป็นคนนิ่งๆ จึงมองไม่ค่อยออกว่าเขินจริงหรือบังเอิญกันแน่ 

“ได้ค่ะๆ ร้อนก็ร้อน”  พวกนักข่าวเออออแต่ใบหน้าล้อเลียนนั้นสวนทางอย่างเห็นได้ชัด “แล้วสรุปว่าพี่ดินเค้ากระซิบว่าอะไรเหรอคะ”  ผู้หญิงคนเดิมยังคงไม่ทิ้งประเด็น

สกายเม้มปากเล็กน้อยแล้วทำหน้าเหมือนพูดลำบาก “....ก็แค่บอกว่า.....หล่อน่ะครับ” 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”  คราวนี้ไม่มีเก็บอาการกันเลยซักคน เดี๋ยวนี้นักข่าวเค้าเป็นหนุ่มสาววายกันหมดแล้วหรือไงนะ  “กรี๊ดดด มีแอบกระซิบชมน้องว่าหล่อด้วย โอ้ยตายยย ฉันฟิน แกฉันฟิน” 

กว่าจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติกันได้ก็ใช้เวลาร่วมนาที “แล้วตอนนี้ยังไงคะ รอกลับด้วยกันเหรอ”  สมกับเป็นนักข่าว หูไวตาไวและเฉียบแหลมมาก

“วันนี้น้องไม่ได้เอารถมาน่ะครับ เดี๋ยวผมจะแวะไปส่ง” เสียงงื้อง้าด้วยความฟินดังขึ้นอีกครั้ง  “ถ้างั้นเราขอตัวกลับเลยนะครับ น้องคงอยากพักผ่อนแล้วล่ะ พวกพี่พี่ก็กลับดีดีนะครับ บายยย”  ผมตัดบทแล้วยกมือไหว้ลาก่อนจะสะกิดสกายให้เดินตาม    สกายก็ยกมือไหว้แล้วเดินตามมาติดๆ 



“จากนี้ไปผมจะเชื่ออะไรคุณได้บ้างเนี่ย”  สกายพูดเบาๆ เมื่อเร่งฝีเท้ามาเดินข้างผมแล้ว

“ฮ่าๆ ก็เพื่อใครล่ะ ที่จริงมึงต้องพากูไปสารภาพบาปด้วยซ้ำ” ผมว่า

ตอนนี้เราเดินจนมาถึงประตูทางออกอัตโนมัติเมื่อมันกำลังเปิดออกและเราสองคนก็กำลังจะก้าวข้ามไป

แต่แล้ว...

“เดี๋ยวค่ะ! น้องดินน้องสกาย!!”  เสียงเรียกจากกลุ่มนักข่าวทำให้เราต้องหันกลับไปมอง  ทั้งหมดกำลังมุงดูอะไรบางอย่างบนมือถือของคนที่เรียกเรา 

ผมกับสกายทำหน้าสงสัยแล้วเดินเข้าไปหา “ได้เห็นคลิปนี้รึยังคะ”  นักข่าวทั้งหมดเดินเข้ามาสมทบกับเราแล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ดู

เราสองคนก้มมองดูหน้าจอโทรศัพท์ตรงหน้า “คลิปนี้พึ่งหลุดมาเมื่อชั่วโมงก่อน  คอลัมน์หมวยนรกก็เขียนถึงแล้วเหมือนกัน บอกว่าดูจากรอยตำหนิบนตัวต้องเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการนายแบบแน่ๆ  ตอบหน่อยค่ะว่าเป็นน้องดินกับน้องสกายรึเปล่าคะ”  ทุกคนยื่นอุปกรณ์บันทึกเสียงของตนเข้ามาใกล้ปากเราสองคนมากขึ้นอีก

ผมทำหน้าเหรอหราปฏิเสธกลับไป “โอ้ย ไม่ใช่หรอกครับ” 

“แต่ไฝที่สะโพกด้านหลังของคนนี้มันตรงกับไฝของน้องสกายเลยนะคะ ไม่เชื่อดูรูปเปรียบเทียบที่หมวยนรกทำสิคะ”  เธอจิ้มหน้าจออยู่ครู่หนึ่งแล้วยื่นให้ดู เป็นรูปที่สกายดึงกางเกงในลงตอนวันเดินแบบนาฬิกาของป๋า ส่วนรูปทางด้านขวาก็เป็นรูปที่แคปจากคลิป ซึ่งไฝเม็ดเล็กตรงสะโพกชัดเจนและตำแหน่งก็ตรงกันเป๊ะ  “ยังมีอีกนะคะ” เธอสไลด์หน้าจอสองครั้งก็เห็นรูปเปรียบเทียบอีกรูปซึ่งเป็นรูปที่ผมถ่ายแบบ ตรงหัวไหล่ไปจนถึงท่อนแขนมีรอยแผลเป็นยาวที่เกิดจากการถูกกลั่นแกล้งตอนเด็กๆ

“น่าจะบังเอิญนะครับ รอยของผมมันใหญ่กว่าในคลิปเยอะเลยนะครับ ดูสิ”  ผมถลกแขนเสื้อให้ทุกคนดู  แกล้งพูดเบี่ยงเบนให้ทุกคนคล้อยตาม 

สกายไม่ตอบ มันคงไม่ชอบโกหกตอแหลเท่าไหร่ ไม่เหมือนผม

เอ๊ะ เหมือนกำลังด่าตัวเองยังไงไม่รู้แฮะ

“ผมว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับ เราสองคนไม่ได้มีซัมติงลึกซึ้งอะไรถึงขั้นนั้นหรอก ผมผู้ชายทั้งแท่ง”  ผมออกตัว  “อ้อ แล้วอีกอย่างนะ ถ้าผมจะชอบผู้ชายจริงๆ ผมต้องอยู่ข้างบนสิครับ หรือพี่ๆ ว่าไง”  สาวๆ มองหน้ากันแล้วกรี๊ดแบบไม่มีเสียง 

“แสดงว่ามีเปอร์เซ็นต์จะเป็นไปได้ใช่มั้ยคะ ถ้าน้องดินเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน งั้นต้องเป็นฝ่ายจีบน้องสิ จีบเลยมั้ยคะ หรือจีบไปแล้ว อร้ายยย ต้องใช่แน่ๆ โอ้ยย ฟินตัวแตก”  ชงซะเข้มเลย บ้านพี่ขายกาแฟเหรอครับ  แต่แบบนี้ก็เข้าทางเลยนะ จิ้นกันให้เยอะๆ ลงข่าวกันทุกฉบับ ทุกวันเลยยิ่งดี ค่าตัวผมกับสกายจะได้พุ่งพรวดจนถึงขั้นต่อรองกับพี่ดอทได้

“ผมไม่ได้พูดซะหน่อย พี่ๆ ก็จิ้นกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย ฮ่าๆๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”  ว่าแล้วก็ไหว้ลาอีกครั้ง ส่วนสกายก็ไหว้และตามมาเช่นกัน 

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชื่อว่าคนในคลิปไม่ใช่เราสองคน  แต่มันไม่ใช่ปัญหาหรอกเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการน่ะสิ



เราสองคนเดินมาเรื่อยๆ ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้ว ย่านนี้จะเป็นร้านอาหารและช็อปเสื้อผ้าเล็กๆ เวลาแบบนี้จึงพร้อมใจกันปิดหมดทุกร้านทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ

เมื่อมาถึงรถซึ่งจอดไว้ในซอยที่ผมมากินอาหารเช้ามันค่อนข้างมืดและปลอดคนมากทีเดียว แทนที่จะได้กลับบ้านก็ดันเจอไอ้ชนเผ่ายืนพิงกระโปรงรถรออยู่

“ฝีมือมึงใช่มั้ย!!” เมื่อเห็นหน้าผม มันก็ผรุสวาทใส่ทันที

“เรื่อง?”  ผมทำเป็นไก๋ไม่รู้ไม่ชี้

“อย่ามาทำหน้าโง่ กูไปขอดูกกล้องวงจรปิดหมดแล้ว! เห็นตั้งแต่มึงลงทะเบียน คุยกับอากาไนซ์ และเห็นด้วยว่าอยู่ในงานตลอด!!”  มันตวาด

“อ้าว ใครกันแน่ที่หน้าโง่ ก็มึงรู้แล้วเสือกมาถามอีกทำไมวะ”  ทำหน้ากวนตีนใส่

“คิดว่ามึงแน่นักเหรอ คิดว่ามึงเป็นใครถึงกล้าลองดีกับกู!!”  ไอ้ชนเผ่ากัดกรามแน่น

“ทำไมต้องคิด กูก็เป็นกูเนี่ยแหละ จะคิดให้ปวดหัวทำไม บ้าปะ”  ไอ้ชนเผ่าทำท่าทางฮึดฮัด มันคงรู้สึกอยากอัดส้นตีนใส่หน้าผมวินาทีละหลายสิบครั้งเลยล่ะ 

เมื่อเห็นท่าไม่ดี สกายจึงเข้ามาห้ามทัพ  “ใจเย็นๆ เถอะคุณเผ่า ถ้าคุณมีหลักฐาน ก็ค่อยจัดการตามกฎหมายก็แล้วกัน คืนนี้ผมเหนื่อย อยากกลับไปพักผ่อน”  สกายคงเห็นเหมือนที่ผมเห็น ไอ้ชนเผ่าไม่ได้มาคนเดียว มีคนชุดดำสี่ห้าคนอยู่ตรงมุมตึกฝั่งโน้น  มันก็เลยอยากจบการสนทนาตรงนี้และแยกย้ายให้เร็วที่สุดก่อนจะได้กินยำรวมตีน

“คนแบบนี้ไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตา”  ไอ้ชนเผ่าพูดกับสกายด้วยน้ำเสียงปกติแต่หันมาตวาดใส่ผมด้วยเสียงแข็งกร้าว “กูจะจัดการมึงทั้งศาลเตี้ยศาลสูงนั่นแหละไอ้ลูกเมียน้อย!”  สัตว์นรก! คำนี้อีกแล้วนะมึง ได้ยินแล้วแทบจะพุ่งไปอัดหน้าแต่ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ กล้องวงจรปิดตรงมุมตึกจะเป็นหลักฐานให้ผมโดนอีกกระทงแน่ถ้ามันแจ้งตำรวจจริงๆ

ผมยักไหล่ ดันลิ้นไปตามกระพุ้งแก้มเพื่อเพิ่มความกวนตีนให้ใบหน้า  “มึงรู้มั้ยว่าอะไรที่น่ารำคาญกว่าคนที่น่ารำคาญ”  มันมองถมึงทึงและไม่มีทีท่าว่าจะตอบ ผมจึงเฉลยเอง “ก็คนที่น่ารำคาญมันไม่ฉลาดพอจะรู้ว่ามันน่ารำคาญแล้วยิ่งทำตัวน่ารำคาญมากขึ้จนน่าถีบมากกว่าน่ารำคาญไง ได้แต่เห่าให้รำคาญนี่มันตัวอะไรน้า”  ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้าหาผมทันที หมัดรุ่นๆ ของไอ้ชนเผ่าแหวกอากาศตรงเข้ามาหมายให้โดนใบหน้าผมเต็มแรง แต่ขอโทษเถอะ ความเร็วของมันยังอ่อนชั้นไปหน่อย  ผมหลบและสวนหมัดฮุกเข้าที่ท้องจนมันตัวงอเป็นกุ้งเผา

สกายทำหน้าตื่นตระหนกแล้วรีบมาดึงแขนเมื่อผมถลาเข้าไปจะซ้ำมัน  “นี่คุณ! พอแล้ว ไปกันเถอะ!!” จังหวะเดียวกันนี้ไอ้พวกที่แอบอยู่ฝั่งตรงข้ามก็วิ่งเข้ามาสมทบแล้วเข้ามารุมพร้อมกันโดยคงนัดหมายกันไว้อย่างดีแล้ว  ยังดีว่าพวกมันไม่มีอาวุธ ไม่อย่างนั้นคงรับมือลำบาก

ผมไม่ได้อ่อนด้อยเรื่องเชิงต่อยตีแบบนี้หรอกนะ อยากให้รู้ว่าผมเนี่ยแชมป์แทบจะทุกประเภทกีฬา ทั้งยูโด มวยไทย เทควันโด ปีนเขา เป่ากบ แถมยังฟิตร่างกายเป็นประจำ   แต่ถึงอย่างนั้นก็หืดขึ้นคอทีเดียวเพราะไอ้พวกนี้ก็ไม่ใช่กระจอก คงเป็นการ์ดมืออาชีพที่ถูกจ้างมาด้วยราคาไม่น้อยเลย 

สกายทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่ผมผลักมันออกไป “อย่ามายุ่ง!! ถ้ามึงมีแม้แต่แผลเดียวบนร่างกาย กูจะเพิ่มแผลให้มึงอีกสิบเท่า!!”   รู้ได้เลยว่าสีหน้าและแววตาของผมคงไม่ต่างจากปีศาจร้ายเท่าใดนักเพราะสกายถึงกับตกตะลึงและไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการตะลุมบอนนี้เลย  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกหวงแหนใบหน้าใสใสของมัน กลัวว่าถ้ามีรอยฟกช้ำแม้แต่นิดเดียว ผมเนี่ยแหละที่จะรู้สึกช้ำใจซะเอง



ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่พวกนั้นจะหมอบกระแตและหมดแรงที่จะลุกมาไฝว้ต่อ  ไอ้ชนเผ่าทำท่าเดือดจัดที่คนของมันทำได้เพียงสร้างรอยฟกช้ำเล็กน้อยให้กับใบหน้าและร่างกายของผม จะมีก็แต่มุมปากสองข้างที่มีเลือดไหลซึมลงมาเพียงเล็กน้อย โดยแผลฉกรรจ์ที่สุดก็เป็นหมัดทั้งสองข้างที่แตกจนแสบไปหมด  “เอาไว้ค่อยมาซ้อมมือกันใหม่นะโว้ย”  ผมบอกแล้วลากสกายที่ยืนอึ้งยัดเข้าไปในรถก่อนที่ไอ้ชนเผ่าจะตามพวกมาอีกแล้วจบลงที่ผมนอนจมกองเลือดไปอีกคน

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง รับรองมึงไม่ตายดีแน่!!”  ไอ้ชนกลุ่มน้อยด้อยอารยะ มึงวอนตีนกูจังเลยนะ!

“สู้ไม่ได้เล่นรุม รุมไม่ชนะ ขู่ฆ่าเหรอไอ้สัด!! มึงมันหน้าตัวเมีย!!” ผมตวาดเสียงดัง  เกลียดมากผู้ชายสันดานแบบนี้

ผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นรถแล้วถลันเข้าประชิดตัวมันก่อนจะอัดเปรี้ยงเข้าที่กกหู  ถึงแม้ว่ามันพยายามจะหลบแต่ก็ไม่พ้นจึงโดนเข้าไปแบบเต็มๆ  อันที่จริงมันก็แกร่งพอตัวอยู่นะเพราะถ้าเป็นคนอื่นเจอผมชาร์ตระดับนี้ต้องสลบเหมือดไปแล้วแต่ไอ้นี่แค่เซแล้วเสียหลักล้มลง มันชี้หน้าผมก่อนจะตะโกนใส่ “มึงมันปีศาจ!”

“หึ”  ผมหัวเราะเบาๆ กับความคิดเด็กๆ ของมัน 

และก่อนจะก้าวขาขึ้นไปบนรถผมจึงหันไปพูดกับมันอีกครั้ง  “จะบอกไว้เอาบุญ..ปีศาจตัวที่เหี้ยที่สุดยังเรียกกูว่าพ่อ จำไว้!”


********************

 :pig4:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
พี่ดินเมิงโหดสลัดอ่ะบอกเลย มันฟิน มันจิ้น อ่ะบอกเลย ลุ้นอย่างเดียว
พี่ดินมันจะเป็นรับตามที่เคยพูดไหม งานนี้จะมีคนกลืนน้ำลายตัวเองหรือเปล่า
เราก็จิ้นให้พี่ดินมันเมะนะ เพราะน้องกายโคตรน่ารัก อึน ๆ ติดผ้าเน่าด้วย
ถ้าพี่ดินเป็นรับ ขอบอกมันเป็นรับที่เถื่อนมาก 55555
สนุกอ่ะ อีกคู่ก็้ลุ้น ท่านจ้าวกับพี่บั๊ค

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โอ๊ะโอ่ววว

ดินทุ่มสุดตัวแบบมึนๆ เพื่อน้องสกาย

เราก็ฟินตัวแตกกันไป อร๊างงงงง :laugh:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
พี่ดินพ่อคุณพ่อทูนหัวแม๊นแมนค่ะ
เล่นเอาคนอ่านเคลิ้มไปเลย ทุ่มเทเปหมดหน้าตักกันเลยเชียว พี่ดิน สู้ๆๆๆ
น้องสกายเห็นแล้วควรจะใจอ่อนให้พี่เค้าได้แล้วน้า
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ tou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องจ้าวชั้นหมองไปเลย โดนขโมยซีน อิพี่ดินจัดเต็มๆตอน  :ling1:

ออฟไลน์ DalbitDef

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขนาดนี้แล้ว สกายก็รับๆไปเถอะนะ น้องท่าจะกดปีศาจไม่ไหวแล้วล่ะ 555555  :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด