ปู๊ดดดด!!
เสียงตดดังขึ้นจนทุกคนหันไปมองต้นเสียง พ่อเบ่งหน้าดำหน้าแดง พี่ข้าวสวยปิดปากปิดจมูก แม่จ๋ายืนห่างไปหกเจ็ดเมตรแต่ก็ได้ยินและทำหน้าขยะแขยง พี่บั๊คกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น ส่วนผมก็มองคนนั้นคนนี้และกลับมามองตามร่างเล็กนมโตของผู้หญิงคนข้างๆ หลังจากได้ยินเสียงตด เธอก็รีบเดินโซซัดโซเซไปยังที่อยู่ของแก้วไวน์ กว่าจะถึงก็ใช้เวลาพอสมควรจากนั้นก็กระดกไวน์เข้าปากติดๆ กันสามแก้วรวด
ผมนี่อึ้งไปเลย!
“ปายสิอีจ้าว จายืนให้ปลวกมาแทะหรืองาย” แม่เรียก
ผมได้สติจึงรีบวิ่งไปยังแก้วไวน์แล้วกระดกเข้าปากบ้าง แต่พอถึงแก้วสุดท้ายก็เหลือบไปเห็นแม่จ๋ากำลังเดินเร็วไปอีกฝั่งของสระน้ำเพื่อหนีการไล่ตามของพี่นมโต เพราะความที่โต๊ะกินข้าวมันตั้งขวางทางเข้าบ้านเอาไว้ แม่จ๋าจึงต้องหนีไปด้านในของสระ
“อย่านะหนูน้ำตาล นี่แม่นะ” แม่เดินไปด้วยห้ามไปด้วยแต่พี่นมโตไม่ฟังอะไรอีกแล้ว
“หนูต้องชานะค่าขุ่นแม่” เสียงเธอยานคางมากกว่าเดิมหลายเท่า “จาได้มาเป็นซาใภ้คุณแม่งายค้าา” ว่าแล้วเธอก็วิ่งตามแม่จ๋าอย่างไม่ยอมลดละ
ผมรีบดื่มแก้วที่สามแล้ววิ่งไปดักหน้าแม่จ๋า ส่วนพี่บั๊คก็ตามมาห่างๆ
“นี่!!” แม่จ๋าหยุดเดินหนีแล้วชี้หน้าผม “อย่ามาทำอะไรฉันนะ!!” นางตวาดใส่ผมแล้วหันไปมองพี่บั๊คที่ยืนห่างจากเราทั้งคู่ประมาณสามสี่เมตร “ตาบั๊ค ช่วยแม่สิลูก ทำไมปล่อยให้คนอื่นรังแกแม่แบบนี้ล่ะ” เสียงแม่จ๋าเริ่มสั่นเครือ ในดวงตาเริ่มมีความแวววาวของน้ำเคลือบอยู่จนเห็นชัดว่าใกล้จะร้องไห้เต็มที
พี่บั๊คไม่ได้เดินเข้ามาใกล้กว่านั้น คงอยากให้เกมดำเนินต่อไปแต่ก็จะคอยอยู่ในระยะที่สามารถเข้ามาช่วยได้ทัน “แม่จะไม่เจ็บตัว ผมเชื่ออย่างนั้น”
ในขณะที่แม่จ๋ากับพี่บั๊คคุยกันอยู่ พี่นมโตก็เข้ามาใกล้แม่จ๋าจากทางด้านหลัง ผมเหลือบเห็นแล้วกระโจนเข้าไปหาร่างอวบทันที
แม่จ๋าเห็นดังนั้นจึงตะโกนใส่ผม “อย่านะ!!” นางปิดหน้าไว้เพราะกลัวผมตบแต่กลับโดนอีกคนที่อยู่ด้านหลังกระชากตัวให้หันไปหาก่อนที่เธอจะเงื้อมือขึ้นสุดแล้วฟาดลงมา
เพี๊ยะ!!!
ทุกอย่างหยุดนิ่งลง..
แค่เสี้ยววินาที
“อย่ามายุ่ง!!” ร่างของผมถูกผลักออกอย่างแรงจนกระเด็นเพราะเมื่อครู่ผมเข้าไปดึงแม่จ๋าออกมาแล้วเข้าไปยืนแทนที่จึงโดนตบไปเต็มๆ
แม่จ๋าที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ยืนนิ่งมองผมและพี่นมโตสลับกัน แต่หญิงสาวไม่ได้นิ่งไปด้วยเพราะยังคงเดินหน้าเพื่อชัยชนะอย่างเอาเป็นเอาตาย
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน แต่พี่นมโตกลับเข้าประชิดตัวแม่จ๋าได้อีกครั้งแล้วเงื้อมือ “ขอโตบสามทีเองค่าคูณแม่” ร่างเล็กของเธอดูบอบบางก็จริง แต่แรงเยอะมาก อีกทั้งความกระหายในชัยชนะก็มากมายซะจนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปหมด
เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ผมที่อยู่ใกล้ที่สุดกระโจนเข้าไปหาและแทรกตัวเข้าไปกั้นตรงกลางก่อนจะโอบคร่อมตัวแม่จ๋าเอาไว้มิด
เพี๊ยะๆๆๆๆๆๆ
“ออกปายน้าไอ้บ้า!!!” สองมือบางของเธอตีรัวลงบนร่างกายด้านหลังของผมแบบน็อนสต๊อป พิกัดการตีก็สะเปะสะปะ ตบอะไรได้ก็ตบ โดนทั้งหลังไหล่ท้ายท้อย โดนหัวบ้างก็มี
“หยุดได้แล้วน้ำตาล!!” พี่บั๊คจับมือเล็กที่ตีรัวใส่ผมเอาไว้แล้วตวาดเสียงดัง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่บั๊คโมโหระดับนี้
อันที่จริง ถ้าผมไม่เข้ามากันไว้ พี่บั๊คก็คงเข้ามาช่วยได้ทันเหมือนกันเพราะผมเห็นว่าพี่บั๊คออกตัวแล้วตอนที่เริ่มวิ่ง
“น้ำตาลต้องชานะ น้ำตาลอยากให้พี่บั๊คเป็นของน้ำตาลโคนเดียว” เธอทำท่าจะเข้ามาหาแม่จ๋าอีกครั้งแต่พี่บั๊คดึงไว้แล้วตวาดซ้ำไปอีก
“ตั้งสติหน่อยน้ำตาล!” เสียงพี่บั๊คโทนนี้เร้าอารมณ์ผมดีแฮะ รู้สึกคึกคักอยากโดนแบบนี้บ้างว่ะ “นี่แม่พี่นะ!! อยากชนะจนแยกแยะไม่ออกเลยเหรอว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร!!” ถ้าไม่ติดว่าต้องประคองแม่จ๋าที่กำลังยืนอึ้งดูการสั่งสอนของพี่บั๊คอยู่ข้างๆ ผมคงเข้าไปลากเมียรักขึ้นห้องแล้วล่ะ
แอร๊ยยย เมียกูเท้เท่ ดาร์กละเกินเมียจ๋าาา ผัวอยากโดนเอสใส่แบบนี้บ้างอ่า ทำไงดีวะเนี่ย
“ถ้าได้พี่บั๊คมาเป็นแฟน จาให้น้ำตาลทำอารายก็ด้ายท้างน้านแหละ” เสียงก็ยังยานคางและยืนไม่ตรงอยู่อย่างนั้น พรุ่งนี้ถ้าสร่างเมาจะจำอะไรได้บ้างไหมเนี่ย
“งั้นเกมวันนี้ให้น้ำตาลชนะก็แล้วกัน” แม่จ๋าสรุป เธอแกะมือผมออกจากไหล่และเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าพี่สาวนมโต
“กรี๊ดดด ชานะแล้ว ชานะใสใส กรี๊ดดดดดดด” พี่นมโตกรี๊ดเสียงดังลั่นจนทุกคนต้องปิดหู “แบบนี้หนูก็ได้มาเป็นซาใภ้คูณแม่แล้วซีคะ”
ผมหลับตาข่มใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น คงไม่มีหวังได้เป็นเขยบ้านนี้แล้วสินะ เฮ้อ แพ้ก็ต้องยอมรับว่าแพ้นั่นแหละ ไอ้จ้าวคนแมนๆ ครับ
“น้ำตาลชนะเกม” แม่จ๋าพูดเสียงนิ่ง “แต่ไม่ชนะใจแม่เลย” แล้วเธอก็หันหลังให้ทุกคนจากนั้นก็เดินออกจากบริเวณสระน้ำ “ใครก็ได้ช่วยจัดการหาที่นอนให้หนูน้ำตาลด้วยก็แล้วกัน” เสียงแม่จ๋าถึงจะนิ่งแต่ก็เหมือนขมขื่นอยู่มากทีเดียว
คงผิดหวังเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดชนะแบบไม่สมศักดิ์ศรี ความจริงผมก็ไม่น่าไปขวางทางชนะของพี่นมโตเลย ดูสิ ทำให้แม่จ๋าโกรธซะแล้ว เฮ้อ นี่ขนาดพี่นมโตชนะเกมได้แต่ก็ยังไม่ชนะใจแม่จ๋าแล้วคนแพ้ในเกมอย่างผมจะชนะใจแม่จ๋าได้ยังไงล่ะเนี่ย เฮ้ออออ กลุ่มว่ะ
ในขณะที่กำลังแอบนอยด์อยู่กับความคิดตัวเอง เสงี่ยมศรีก็พูดขึ้นเสียงดังลั่น “พาลำยองปายเก็บทีซิข้าวสวยลูกรัก” พี่สวยหันไปมองแม่เหมือนไม่ค่อยเข้าใจ แม่จึงกระซิบอะไรบางอย่างกับพี่สวยแล้วหัวเราะกันคิกคัก
“อ๊ะๆ ไม่ต้องตามมาค่ะพี่บั๊ค ไม่ต้องห่วงด้วย เดี๋ยวสวยหาที่นอนแบบวีไอพีให้ลำยองเองค่ะ” ว่าแล้วอิพี่สวยก็กึ่งลากกึ่งดึงพี่นมโตออกไปจากบริเวณสระ
“แล้วน้องสวยเค้ารู้ที่รู้ทางในบ้านผมเหรอครับ” สลัดผักหันไปถามพ่อ
“แม่ข้าวจ้าวคงไม่ให้นอนที่นี่หรอกลูกเขย” พ่อตอบได้แค่นั้นก็โดนแม่แทรกขึ้น
“เดี๋ยวลามยองย่องขึ้นห้องไปขัดขวางฉากเลิฟซีนจาทำงาย ยอมหราา?” แม่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่พี่บั๊คจนมันเขินซะหน้าแดง
“โถ่แม่ครับคงไม่มีหรอก ข้าวจ้าวเมามาก เดี๋ยวคงให้นอนแล้วล่ะ” พี่บั๊คเกาท้ายทอยแบบเขินๆ
“นิสัยเสีย!!!” ผมตวาดลั่นแล้วเข้าไปทุบแขนมันอย่างแรง
“อ..อะไรเนี่ย พี่ทำอะไรผิด” ยังมีหน้ามาถาม มึงมันไอ้คนนิสัยเสีย!!
“หักหน้าแม่แบบนี้ได้ไง!” ผมโวยวาย พี่มันทำหน้างงและพยายามคิดตาม แต่ผมรู้ว่ามันคงคิดไม่ออกจึงเฉลยให้มันฟัง “ก็แม่อุตส่าห์มโนเรื่องฉากเลิฟซีนไง ไปปฏิเสธแบบนั้นได้ไง เราต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่สิ ใช่มั้ยแม่” ผมหันไปหาแนวร่วม
“ถั่วต้มลูกรัก ฉลาดได้แม่ไม่มีผิด คืนนี้ถ้าไม่จัดกันนะ แม่จะแช่งให้ฉี่ไม่ออกสามวัน คิกๆๆ” พี่บั๊คกับพ่อทำหน้าปุเลี่ยนๆ เหมือนจะเงิบแต่ก็ขำผสมกับอ่อนอกอ่อนใจกับเราสองคน “กลับกันเถอะพ่อ เดี๋ยวจาเลยฤกษ์เข้าหอของราวว” ว่าแล้วก็คล้องแขนพ่อเดินผ่านผมกับพี่บั๊คไป
“จ๊ะแม่ คืนนี้พ่อตามใจแม่ทู้กอย่างเลยจ้า” พ่อออดอ้อนเอาใจ
“อ้าว แล้วจะกลับยังไงครับ” พี่บั๊คถามตามหลังเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนขามาตัวเองไปรับ
แม่กับพ่อหันมายักคิ้ว “ให้ข้าวสวยไปเรียกแท็กซี่แล้ว” พ่อตอบ
พอเห็นว่าพี่บั๊คลังเลแม่จึงพูดให้เมียผมสบายใจ (?) “ไม่ต้องคิดปายส่ง อยู่จัดหนักไอ้เรื้อนนั่นเถอะ” นี่แม่ผมจริงๆ เหรอ ที่ผมเรื้อนยังไม่ได้ครึ่งแม่เลยเหอะ
“เอ่อ.. ง..งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปส่งหน้าบ้านนะ”
แม่ยกมือห้าม “อย่าได้เสียเวลากับตรงนี้เลยพ่อลูกเขย ดูนั่นๆ” แม่ชี้มาที่ผมที่แอบกระดกไวน์ในขวดกินระหว่างรอ ก็เหตุการณ์ต่างๆ นาๆ เมื่อกี้ทำให้ระดับแอลกอล์ฮอล์มันลดฮวบจนเกือบจะสร่างน่ะสิ ผมก็เลยต้องเพิ่มดีกรีอีกหน่อย
“จ้าวพอแล้ว” พอพี่บั๊คเห็นก็เข้ามาดึงขวดออกจากมือแล้วทำหน้าดุ แต่เสียใจนะเมียรัก จ้าวซัดจนมันหมดเกลี้ยงแล้วล่ะ หุหุหุ
“บ้ายบายแม่ คืนนี้มาแข่งกัน ใครนอนก่อนแสดงว่าแก่” ผมตะโกนท้า
“จัดปายยย พ่อกับแม่จะไม่เลิกจนกว่าจะได้น้องแกแล้วน่านแหละ ใช่ม้ายพ่อ เราทำลูกชายคนใหม่อีกสองสามคนแทนคนเก่าที่มันออกเรือนมีผัวเศรษฐีกานดีกว่า เผื่อจาได้ผัวรวยอีก คิกๆๆๆ” พ่อเออออรับคำแล้วสองคนนั้นก็หัวเราะต่อกระซิกกอดคอกันเดินออกไป
ว่าแต่..
จะทำน้องให้จ้าวอีกตั้งสามคนเลยเหรอ โหยแม่! จะแรงเกินไปแล้วนะ!!
เมื่ออยู่กันตามลำพังสองต่อสอง บรรยากาศก็แสนจะเป็นใจ รอบด้านมืดสลัวแต่บริเวณสระน้ำถูกตกแต่งด้วยไฟสวยงาม ผิวน้ำสีฟ้าใสกระเพื่อมไหวเล็กน้อยตามแรงลม ผมเดินเข้าไปคล้องคอพี่บั๊คที่ก้มมองลงมาด้วยแววตารักใคร่ระคนเอ็นดู
“คิดถึงจัง” ผมอ้อน
สองแขนแกร่งโอบรวบเอวผมไว้อย่างเสน่หา “คิดถึงเหมือนกันครับ คิดถึงขี้เมาที่ขี้อ้อนขี้อ่อยคนนี้” ปลายจมูกโด่งเกลี่ยไปมาบนปลายจมูกผม
“ไม่ต้องเลย” ดันตัวออกเมื่อนึกเรื่องเก่าๆ “ลืมไปว่าเราต้องอยู่ในโหมดเศร้านะ”
“อ้าว เข้ามาอ้อนเองนะ พอนึกได้ก็ผลักเฉยเลย ไอ้เด็กนี่” พี่มันขยี้หัวผมซะจนยุ่งเหยิง
“ไม่รู้ล่ะ งอนตัวเท่าบ้าน” ผมหันหลังให้แล้วกอดอกแน่น
ร่างสูงเข้ามายืนซ้อนด้านหลังแล้วโอบเอว ซุกใบหน้าเข้าซอกคอพลางโยกตัวช้าๆ “งอนเรื่องอะไรล่ะครับบอกจ๋ามาซิ จะได้ง้อถูกเรื่อง”
“เอาเรื่องแรกก่อน” ทำท่าทางเป็นต่อใส่เพราะพี่มันยอมง้อแล้ว “ทำไมไม่รักแม่จ๋า ทำไมยอมให้แม่จ๋าโดนตบล่ะ” ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆ ถ้าพี่มันให้เหตุผลที่ไม่โอเค ผมคงต้องตัดมันออกจากการเป็นเมีย ผมเกลียดคนไม่กตัญญู
“เพราะรักไง ถึงได้ยอม” พี่มันว่า “พี่อยากให้แม่มีความสุขกับคนที่พี่เลือก อยากให้แม่ได้เห็นซะทีว่าคนนี้ของพี่จะทำให้แม่มีความสุขในวันข้างหน้า อยากให้แม่รู้ว่าใครกันแน่ที่รักแม่มาจากจิตใต้สำนึก ไม่ใช่แค่เพียงฉาบฉวย”
“ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้น ถ้ามันพลาดขึ้นมาล่ะ แม่จ๋าไม่เจ็บตัวฟรีเหรอ” ผมยังข้องใจ
“ที่ผ่านมา ที่จ้าวคอยคิดถึงแม่พี่ก่อนเสมอ คอยบอกให้เทคแคร์แม่ก่อนเพื่อลดอคติในใจแม่ พี่ถือว่าจ้าวสอบผ่านในคะแนนที่สูงมาก จ้าวไม่ได้ใช้กำลังเข้างัดกับความแรงของแม่ แต่ใช้พี่เป็นเครื่องมือเพื่อลดการปะทะซึ่งพี่คิดว่าเป็นวิธีที่น่ารักและค่อนข้างได้ผลดี” หูย โดนชมซึ่งหน้าแบบนี้ เขินนะเนี่ย
ว่าแต่..
กูไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ใช้สลัดเป็นเครื่องมืองัดอะไร หรือแม่จ๋าเข้าห้องไม่ได้แล้วกูเป็นคนช่วยงัดประตูให้ หรือยังไง ยิ่งฟังยิ่งงงว่ะ
“อ้อแล้วอีกอย่าง” ห๊ะ ยังมีอีกเรอะ “คนบ้านจ้าวถึงจะสติไม่ดีแต่ทัศนคติและจิตใจดีงาม” ฟังๆ ก็เหมือนชม แต่ตงิดๆ เหมือนจะไม่ใช่ “แม่ของจ้าวถึงจะเมามากแต่พี่เชื่อว่าต้องมีเหตุผลที่คิดกติกาแบบนั้นขึ้นมา เพราะถ้าไม่เจ๋งจริงก็สร้างคนแบบจ้าวไม่ได้หรอก พี่เชื่อในคนที่สร้างจ้าวขึ้นมาว่าต้องมีดีและพี่ก็ได้เห็นว่าแม่จ้าวยิ่งกว่าดีซะอีก” เหงี่ยมจะดีกว่านี้อีกนะ ถ้าไม่ขี้บ่น “และโดยเฉพาะพี่เชื่อใจคนที่พี่รักและเชื่อว่าตัวเองเลือกคนไม่ผิด”
“เลือกไม่ผิดอะไรล่ะ จ้าวแข่งแพ้แบบนี้ แม่จ๋าก็คงยกพี่บั๊คให้คนอื่นแล้วล่ะ” ถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม พึ่งมานึกเสียดายเอาป่านนี้ ตั้งแต่พรุ่งนี้คงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระหว่างเราแล้วล่ะสลัดเอ้ย
พี่มันยิ้มบาง “ถึงแม่จะเจ้าทิฐิและไว้ตัวอยู่สักหน่อยแต่ก็มีหัวใจ พี่เชื่อว่าแม่จะต้องได้เรียนรู้จิตใจคนมากขึ้นแน่” หน้าตาหล่อเหลาของพี่บั๊คดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลเพิ่มขึ้นเมื่อฉายประกายแห่งความเชื่อมั่นเช่นนี้ “การแข่งขันน่ะ คนที่ได้รางวัลแมนออฟเดอะแมทช์ไม่ได้มาจากทีมที่ชนะเสมอไปหรอกนะ” ไม่รู้ว่าเป็นแค่คำปลอบใจหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกดีจังแฮะ ไม่ว่าในโลกนี้ผมจะเป็นขี้ในสายตาใคร แต่ในสายตาพี่บั๊ค ผมรู้สึกเสมอว่าผมเป็นเหมือนเทวดาองค์น้อยๆ ที่พี่บั๊คให้ความรักและศรัทธา ซึ่งมันเป็นอะไรที่มีค่าสำหรับผมมากที่สุด
“แต่..”
“อะไรอีกล่ะ หืม” พี่บั๊คถาม
“ยังมีอีกเรื่องที่จ้าวไม่สบายใจ”
“ว่ามาสิ” พี่บั๊คจับไหล่สองข้างของผมแล้วก้มลงมาใกล้ๆ
“จ้าวไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เรื่องรักสามเส้าของเรา”
“ก็เห็นทำเหมือนไม่แคร์แล้วไม่ใช่เหรอ นึกว่าไม่ได้มีใจซะอีก” พี่มันพูดเหมือนน้อยใจ
ผมรวบมือหนามากุมไว้แล้วเงยขึ้นมองหน้าพี่มันตรงๆ “ไม่แคร์ได้ไงเล่า ก็จ้าวเป็นคนผิดนี่นา”
สลัดผักทำหน้างงแล้วถามกลับทันที “ผิดยังไง”
“ก็จ้าวหลายใจ” ช้อนตามองพี่มันด้วยความสำนึกผิด
สลัดขมวดคิ้วจนเป็นปม “เดี๋ยวนะ พี่ว่าเราไม่น่าจะคุยเรื่องเดียวกัน”
“เรื่องเดียวกันนั่นแหละ เรื่องสามเส้าเราสามคนที่ทำให้เจ็บปวดทุกฝ่าย” ผมลูบแก้มสากเบาๆ เพื่อปลอบประโลม
“สามเส้าที่ว่าน่ะ มีใครบ้าง” พี่มันถาม
“ก็รักสามเส้าระหว่างพี่บั๊ค จ้าว แล้วก็ผีไง”
!!!!!
ผมเบื่ออาการเงิบของสลัดผักจริงๆ ทำไมมันต้องตกตะลึง แปลกใจไปกับคำพูดหรือการกระทำที่แสนปกติธรรมดาของผมทุกทีเลยวะ “งงอะไรเนี่ย ก็เรื่องระหว่างเราสามคนมันยังไม่เคลียร์เลยนี่นา”
“สรุปคือเวลามึงเมากับเวลาปกติ ระบบสมองมึงแยกกันคิดใช่มั้ยเนี่ย!!” ดูมันๆ หลังจากเงิบก็เม้งแตก แบบนี้ทุกทีเลย พี่มันคงเพิ่งนึกได้ก็เลยโกรธ เฮ้อ เมื่อไหร่รักสามเส้าของเรามันจะจบสิ้นซะทีนะ
“แล้วมาเหวี่ยงใส่คือระ!?” ผมวีนกลับ “จ้าวก็รู้ว่าจ้าวผิด แต่ไม่รู้จะทำไงจริงๆ นี่นา พี่บั๊คก็เมีย ผีก็เมีย จะดีจะร้ายจ้าวก็ได้มาทุกคนแล้วอะ จะให้ปัดความรับผิดชอบ จ้าวทำไม่ได้หรอก!” ผมขึ้นเสียง
หน้าพี่มันแดงก่ำ คิ้วขมวดเป็นปม และเหมือนเขี้ยวจะงอกออกมาแล้วด้วย “มานี่เลย!! เพ้อนักใช่มั้ย เรื้อนมากใช่มั้ย!!! ได้!! เดี๋ยวจะรื้อฟื้นให้ดูว่าใครได้ใครกันแน่!!!” ตอนแรกก็ตกใจที่พี่มันดูฉุนเฉียว แต่คิดไปคิดมาก็เข้าทางแล้วนี่หว่า
แอร๊ยยยย พี่บั๊คโหมดดาร์กอย่างที่ใฝ่ฝัน แบบนี้คงต้องเพิ่มเชื้อไฟให้เยอะๆ จะได้ดาร์กกว่านี้
“ปล่อย!!” ผมกระชากมือกลับมาอย่างแรง “ถ้าไม่เข้าใจกันแบบนี้ จ้าวจะไปอยู่กับผีแล้ว!!” ตะคอกใส่พี่มันเสียงดังลั่นแล้วหันหลังวิ่งหนี
“โธ่เอ้ย!!! กูจะบ้าตาย!! หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้จ้าว!!” พี่มันเรียกตามหลังแต่ผมไม่หยุดหรอก จุดมุ่งหมายของผมก็คือศาลาริมน้ำที่เงียบสงบแสนโรแมนติก คึคึคึ
“จ้าวหยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!!” เสียงร้องเรียกให้หยุดยังคงตามมาติดๆ
ท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้นแสดงว่าหึงผีมากสินะ คึคึ แบบนี้คงต้องงัดไม้เด็ดเพื่องานดาร์กขั้นสุดซะแล้วสิ!
*********************