Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Best Couple : คู่จิ้นของผมเป็นผู้ชาย by นิยายหมายเลข9 [ตอนพิเศษ p.70 16/5/58]  (อ่าน 698894 ครั้ง)

ออฟไลน์ Arancia

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
ชอบคู่ดินน่ารัก กำลังจะดีอยู่แล้วเชียวโถ อีจ้าววววว
มึนที่สุดในสามโลก เลิกเลยนะ มาม่าหนะ ถ้าชั้นเป็นพี่บั๊คจะตามไปตบให้เกรียนแตกเลย มีอย่างที่ไหนมโนเองล้วนๆ ไม่ฟังอะไรเล้ยยยยยยย
เลิฟคนเขียน ตอนก่อนหน้าจุใจมว๊ากกกกกกกกก แต่กันจบซะค้างเชียวค่ะ

รออ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao6:  คือแบบ  ชอบคู่ดิน-สกาย มากกว่าคู่ เจ้า-บัค อีกน่ะ  อยากอ่านเรื่องของดิน-สกายเยอะๆ  :hao7: :hao7:

ตอนล่าสุด จัดเต็มมาก ยาวสะใจ หายคิดถึงเลย  ขอบคุณนะค้าบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ยาวสะใจเลย o13

แต่มันก็ยังรู้สึกค้างอยู่ดี  :z3:

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
รู้ใจตัวเองสะทีดิดิน ขนาดนี้แล้ว :impress2:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ห๊ะ!!! คือ!!!!
อ่านตอนจ้าวแล้วเก็ตมุกบ้าง ไม่เก็ตบ้าง
แต่อ่านตอนดินละแบบ เอ่ออออ ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดบางประโยคของดิน หรือความคิดของดิน
(ขนาดเจ้าตัวเค้ายังไม่ค่อยเข้าใจเลย)
ตอนนี้อ่านละฟินกัดหมอนไปกะดินด้วย เหมือนสกายชอบหยอดอ่า อิอิ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เฮีย ด้วยความสะใจ เฮียเล่นเรียกปะป๋าเลยหรอ  :hao7:
ไหนๆก็พาปะป๋ามาแล้ว เฮียบอกป๋าขอลูกสะใภ้ข้างๆเฮียเลยดิ จะได้ไม่เสียเวลา :hao3:

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ทำไมตอนนี้ดินเขาดูแม๊นแมน  :ling2:  วี่แววเคะไม่ออก แต่ฉันยังแช่งให้เธอเคะอยู่นะ!!   :hao6:
แอบคิดเหมือนกันเลยค่ะ โดยเฉพาะซีนนั่งตัก
ไม่ได้นะคะพี่ดิน ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น
ห้ามผิดคำพูด! เธอจงเคะ!!
 o18



ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
กรี๊ดดด ตอนนี้ติดตามคู่สกายและอิงค์อ่ะค่ะ บอกเลย 5555 :z1: :z1:


ปล. จ้าวอย่าเพิ่งเสียใจนะ แต่พอดีตอนนี้ 2 คู่นี้เค้าน่าลุ้นจริงๆ 5555 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เรื่องชักจะยุ่งๆละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sapphire winnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
งื้ออออออ พี่ดินนนนนนน รู้ใจตัวเองได้แล้วนะะะะ
รอดูฉากรักกันอยู่   ชอบฟีลคู่ดินฟ้านี่ ><~
แล้วทิงกับอิงค์นี่ยังไงงงงงง ขอรายละเอียดเบื้องลึกด่วน!

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
มิน่า พี่ดินถึงเข้าสู่ดาร์กโหมด
คู่นี้ดูไม่ออกว่าใครรุก ใครรับนะ รอลุ้นดีกว่า 5555+

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สับสนอลหม่าน กันจริง คู่นี้

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ได้เวลาสนุกแล้วสิ o18
ถึงเวลาสนุกแล้วสิ o3
นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวพี่ดิน

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
คู่จ้าวนี่มหกรรมมาม่าที่ไม่สมควรจะเกิดเลยจริงๆ ให้ตาย
ส่วนดิน น่ารักที่สุดชอบอ่ะ ถึงพี่จะเกรียนแต่พี่พูดรู้เรื่องอ่ะ

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
อ้าว พี่ดิน เคยออกปากว่า ถ้าชอบผู้ชายจะเป็นเคะใช่มะ นี่ลืมไปแล้ว 555


ปล. แอบงงว่าจ้าวมันโกรธทำไมอะ

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ดิน เป็นขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวเองอีกกกก

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ smallbird141511

  • ข้อดีของการไม่ได้ครอบครอง คือเราจะไม่มีวันสูญเสียสิ่งนั้นไป
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรานี่่ลุ้นจนเก็บไปฝันว่าในที่สุด เฮียดินก็อดใจไม่ไหวเผลอจูบสกายของเราไปเต็มๆเลยจ้าาาาา

งานนี้ ยังไงเฮียดินก็ไม่รอดตำแหน่งราชินีเคะแน่นอน 55555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
มารอดูความ มโน ของอินังข้าวจ้าว หนีไปไหนแล้วนั่น  :katai1:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ดินรุกแล้ววววว :hao7:

รอจ้าวอะรออยากให้เครียกับพี่บั๊คแล้ว

ออฟไลน์ smilepengy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5: ไม่รู้จะสงสารใครด  :katai1:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Chapter 27  Kiss me 


ใช้เวลาไม่นานก็ถึงหน้ามหาวิทยาลัย ผมขับผ่านลานจอดรถที่เคยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถไอ้หน้านิ่งแล้วชะลอลงก่อนจะหยุดรถ นึกย้อนไปถึงเรื่องราวระหว่างผมกับมันแล้วสับสนแปลกๆ ทว่าในที่สุดก็หลุดยิ้มร้ายออกมา

“กูก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่ากูชอบหรือไม่ได้ชอบมึงแต่ที่กูรู้ตอนนี้..มึงต้องโดนทำโทษ..ไอ้หน้านิ่ง”

ผมกดโทรศัพท์หาไอ้จ้าวเพื่อถามว่ามันรออยู่จุดไหนแล้วมุ่งตรงไปยังพิกัดที่มันบอก

“ดีพี่”  มันยกมือไหว้ทักทาย “ไปแดกตีนใครมาวะพี่ หน้าแหกเสียหล่อหมดเลยว่ะ”  ปากดีตลอดนะไอ้ห่าเนี่ย

“ไม่ต้องเสือกเรื่องกูหรอก มาว่าเรื่องของเราดีกว่า”

“อุ๊บ”  มันปิดปากตัวเอง

“เป็นเหี้ยไรของมึงเนี่ย”  ผมถามอย่างหมั่นไส้กับท่าทางของมัน

“ก็พี่จะจูบผม”  จำเป็นต้องเรื้อนขนาดนี้ไหมวะมึงน่ะ  แต่ดูท่าจะหลอนจูบของสกายเมื่อกี้ล่ะมั้ง หน้างี้เจื่อนเชียว

ผมชะโงกไปโบกหัวมันหนึ่งทีแก้บ้า จากนั้นก็ถามเรื่องที่ผมกำลังสงสัย “ตอนที่มึงรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง ต้องคอยหาเหตุผลว่าที่มีอาการแปลกๆ เพราะอะไร  มึงเป็นตอนไหนมั่งวะ” พยายามอ้อมๆ เพราะไม่อยากให้ไอ้จ้าวมันจับทางได้ว่าผมหมายถึงอะไรซึ่งมันก็ตอบได้ใจความอยู่เหมือนกัน

“เป็นตอนป่วย  ตอนเมา   ตอนตื่นมาแล้วจำอะไรไม่ได้  แล้วก็..ตอนอยู่กับสลัดว่ะพี่”  มันตอบมาเท่านี้ผมก็พอเดาได้แล้วแต่ก็อยากรู้ให้ลึกขึ้นอีกจึงซักมันเพิ่มซึ่งดูมันจะสับสนและไม่สามารถจะตอบให้ตรงประเด็นได้เลย

“ถ้างั้นเวลาที่มีคนอื่นมายุ่งกับไอ้บั๊ค มึงหึงมันรึเปล่าวะ”  นี่เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังมากว่าคำตอบของไอ้ตัวเรื้อนที่อยู่ตรงหน้าจะทำให้มั่นใจเสียทีว่าผมมีใจให้ไอ้หน้านิ่งหรือไม่

“ไม่หึง! ผมจะไปหึงมันทำไม มันมีเมียอยู่แล้ว”  หึ ก็เหมือนกับที่ไอ้หน้านิ่งมันมีแต่มึงไงจ้าว

แต่ขออีกคำถามเพื่อความแน่ใจก่อนฟันธงก็แล้วกัน “มึงไม่หึง หรือว่าหึงแต่คิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์หึงกันแน่วะไอ้จ้าว”

“ไม่หึงหรอกพี่ ไม่มีสิทธิ์”  คำตอบและท่าทางหม่นหมองของมันทำให้ผมอึ้งไป

มันก็เหมือนผมตอนนี้สินะ ไม่รู้ใจตัวเองว่าแอบชอบเขาแต่ก็หน้าด้านไปหึงและหาข้อแก้ตัวให้กับความรู้สึกของตัวเองไปวันๆ

สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือทำใจยอมรับอย่างนั้นล่ะสิ..

ผมคงนิ่งไปนานจนไอ้จ้าวเอ่ยถามซึ่งผมก็บอกปัดไป แต่อยู่ดีดีแม่งก็บอกว่าคิดวิธีจัดการกับปัญหาของตัวมันเองได้แล้วและขอผมเป็นแฟน ตอนแรกก็ตกใจแต่พอฟังเหตุผลของมันผมก็ตอบรับในทันทีเพราะช่างลงล็อคกับแผนที่ผมวางไว้เกือบทั้งหมด ทั้งเรื่องที่จะช่วยไอ้บั๊คและเรื่องทดสอบเรื่องความเป็นเกย์ของผม



ต่อมาไม่นานเราก็ออกจากร้านนม ผมถามแฝงความกามออกไปว่ามันอยากไปไหนและมันก็ตอบกลับแบบหื่นๆ ไม่แพ้กัน  “แรดกว่ามึงก็แรดสองนอแล้วว่ะจ้าว” อดไม่ได้ที่จะด่ามันเอาฮา

“พี่ก็ไม่น้อยเหอะ ถ้าคืนนี้ผมเสร็จพี่จริงๆ รับผิดชอบเลยนะเว้ย ยิ่งกำลังหาคนรับเป็นพ่อของลูกอยู่”  ได้ยินแล้วคิดเล่นๆ ว่าถ้าผมได้ครอบครองไอ้จ้าวไปซะ ไอ้คนที่แอบรักมันก็คงจะตัดใจได้เสียที

“ก็คงดีมั้ง ใครบางคนจะได้ตัดใจได้” 

“ใครวะ” มันถาม

“ช่างเหอะ...เอ่อ ถามหน่อย”  ผมเบี่ยงประเด็นด้วยคำถาม

“ว่า” 

“มึงมีเพื่อนชื่อสกายปะ”  ดูมันแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นผมถ่ายแบบกับสกายและเป็นข่าวด้วยกัน

ผมมองมันแล้วชั่งใจว่าจะใช้คำถามแบบไหนดี  “กูแค่อยากรู้ว่า ความรู้สึกของมึงที่มีต่อไอ้บั๊ค กับ สกาย มันเหมือนหรือต่างกันยังไง” ถามไปแล้วก็โล่งเพราะดูท่าว่าไอ้จ้าวจะไม่ได้สงสัยอะไรในตัวผม

และมันก็ตอบได้อย่างฉะฉานว่ามันรู้สึกยังไงกับสกายทว่ากลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเมื่อพูดถึงไอ้บั๊ค

“เฮ้อ..ไอ้จ้าวเอ้ย” เห็นอย่างนี้แล้วอดเห็นใจไม่ได้ คนแบบผมกับมันเนี่ยถึงแม้จะฉลาดแต่ไม่ค่อยเฉลียวสักเท่าไหร่หรอก ผมโคลงหัวมันเล่นด้วยความเอ็นดู  “ไม่เกินพรุ่งนี้ กูจะปลดปล่อยมึงจากกะลานะครับแฟน”

“เหอะๆ แฟนผู้ชายคนแรกของกูก็ชั่วไม่น้อยเลย”  มันย้อนประโยคของผมได้เจ็บแสบจนรู้สึกว่าเล่นกับไอ้จ้าวมันน่าสนุกขึ้นเรื่อยๆ



ผ่านไปสามชั่วโมงที่ผมขับรถพาไอ้ตัวเรื้อนเดินทางมายังที่หมาย  ผมจอดข้างทางเพื่อนัดแนะกับแม่ไอ้บั๊คเรื่องบ้านตากอากาศริมทะเลที่เคยไปเที่ยวบ่อยๆ สมัยที่ยังเรียนอยู่ คงต้องให้แม่ช่วยเพราะเรื่องที่เกี่ยวกับไอ้จ้าวดูจะเสี่ยงต่อความล้มเหลวเกินไปถ้าให้ไอ้บั๊คจัดการ

“ถ้ารู้ว่ากูกับเมียเรื้อนของมึงจะต้องอยู่ด้วยกันคืนนี้ มีหวังได้บึ่งมาขวางแผนกูแน่ๆ”  ผมบ่นพลางกระดกเบียร์กระป๋องเข้าปาก

เมื่อกี้แวะซื้อไว้หลังรถตั้งสองถาด กะว่ามอมกันถึงเช้าล่ะ จะว่าไปไอ้จ้าวกับเหล้ามันตราตรึงใจผมตั้งแต่วันงานมีตติ้งแล้วนะ ผมจำได้ติดตาที่มันกับไอ้บั๊คจูบกันบนเวที วันนั้นถ้าไม่ใช่ไอ้บั๊ค ผมว่าคนอื่นก็งาบมันเหมือนกันแหละ เมาแล้วอ้อยซะขนาดนั้น



ไม่นานนักผมก็พามันมาถึงบ้านพักและดำเนินการตามแผนที่วางไว้ มอมเบียร์มอมไวน์แล้วถ่ายคลิปที่มันว้อนท์นักว้อนท์หนาว่าอยากเห็นตัวเองตอนเมาว่าเป็นยังไง  เรื่องถ่ายคลิปนี่ผมก็วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนที่โทรหามันแต่มันไม่รับสายแล้วล่ะ ไม่นึกว่ามันก็คิดแบบเดียวกับผมซึ่งก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่

การจัดการไอ้จ้าวไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมเท่าไหร่นักหรอกเพราะดูเหมือนมันจะเกรงใจผมค่อนข้างมาก ก็อย่างว่าล่ะนะ ไอ้บั๊คตามใจซะขนาดนั้น ไอ้จ้าวมันคงรู้นั่นแหละว่าอ้อนใครได้ อ้อนใครไม่ได้



ภารกิจเรื่องไอ้บั๊คกับไอ้จ้าวเป็นอันว่าคอมพลีต ที่เหลือก็เป็นเรื่องของผมที่จะพิสูจน์ว่าได้เบี่ยงเบนไปมากหรือน้อยแค่ไหนซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยเพราะได้ตัวช่วยเกรดเออย่างไอ้จ้าว  ผมทดลองใกล้ชิดและถึงขึ้นจูบกับมันโดยไม่รู้สึกฝืนอะไรเลย จูบแบบพิศวาสอยากฟาดฟันเสียด้วยซ้ำ ไอ้จ้าวทำให้ผมรู้ว่าทำไมไอ้บั๊คถึงได้หลงมันขนาดนั้น ไม่ใช่แค่น่าเอาแต่มันยังครบเครื่องไปหมด ทั้งความเรื้อน ความอ้อย ความหน้ามึน แต่แม่งเป็นงานไปหมดทุกขณะจิต ขี้ยั่วและน่ารักน่าฟัดให้จมเขี้ยว ถึงบางทีออกจะล้นไปสักนิดแต่ก็ขำๆ ฮาๆ ดี ออกแนวแมวติงต๊องยั่วสวาท  บอกตามตรงว่าถ้าให้อยู่กับมันสองคนจริงๆ มันคงเสร็จผมหลายยกแน่ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ผมแหย่ตีนเข้าสู่ผืนป่าไม้เดียวกันเสียแล้ว



“กับผู้ชายก็ได้สินะกู” พึมพำกับตัวเองบนรถเมื่อตอนนี้ออกมาจากบ้านพักตากอากาศของไอ้บั๊คเรียบร้อยแล้ว   

คงต้องยอมรับความจริงข้อแรกที่ว่า ผมได้เบี่ยงเบนไปแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะไอ้เพื่อนบั๊คที่มันเบี่ยงไปก่อนจนติดมาถึงผมหรือจะเป็นเพราะมึง..ไอ้หน้านิ่ง

ซึ่งจะเป็นเพราะเหตุผลไหนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้ผมเบี่ยงเบนไปหาใครและคำตอบคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้หน้านิ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ขอพิสูจน์อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อความเบี่ยงเบนที่บริบูรณ์ก็แล้วกัน

“กูต้องทำให้มึงจูบกูให้ได้คอยดู!”  ยิงนกนัดเดียวได้ถึงสอง หึหึ  นอกจากจะรู้ว่าผมนั้นชอบสกายเพียงคนเดียวหรือแค่เบี่ยงไปหาผู้ชายเฉยๆ ผมยังจะได้กำไรเป็นการรับใช้จากมันเพราะชนะพนันอีกด้วย  ไม่อยากจะคุยว่าท่านดินแดนนั้นฉลาดปราดเปรื่องเกินมนุษมนามากแค่ไหน





แต่ยังก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้  ผมต้องรอเวลาไปสักระยะ ปล่อยให้มันโดดเดี่ยว เหงา อ้างว้าง วังเวงไปก่อน คนเราจะเห็นความสำคัญของใครคนหนึ่งก็ต่อเมื่อมองไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาอีกแล้ว



ผมขับรถเพื่อมุ่งหน้ากลับคอนโดแต่บอกเลยว่าไม่ค่อยจะสงบสักเท่าไหร่ รู้สึกอยากปลดปล่อยเพราะคั่งค้างจากไอ้ห่าจ้าวขี้เรื้อนตั้งแต่เมื่อคืนจึงตัดสินใจกดโทรหาคู่ขาเก่า นัดเจอกันแล้วนึงสองซั่มกันไปตามระเบียบ

“ผู้หญิงก็ได้เหรอวะกูเนี่ย!”  เมื่อเสร็จภารกิจ ผมบ่นกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ

แบบนี้เขาเรียกอะไรวะ หน้าก็ได้ หลังก็อยากได้ โอ้ยย ไอ้ดินเอ้ยย ฟ้าจะลงโทษมึงมั้ยเนี่ย

!!!!!

พูดถึงฟ้าก็คิดถึงสกาย..

โทรหาแม่งก่อนดีมั้ยวะ

แต่ไม่ได้! กูต้องรอให้มันมาง้อเอง ไม่งั้นมันจะได้ใจกำเริบเสิบสานมาตะคอกใส่กูอีก



ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

ถึงกับผวายิ้มออกมาเมื่อเสียงข้อความไลน์แจ้งเตือน  ผมรีบหยิบมาดูหน้าจอแต่ไม่ได้เปิดอ่านเพราะแผนของผมก็คือหายเงียบไปสักพักแล้วค่อยปรากฎตัวแบบหล่อๆ



sweetyDOTcom :  เข้ามาที่ช้อป คุยงานสองทุ่ม

ห่าเอ้ย ไม่ใช่สกาย!!

ชื่อไลน์ชวนอ้วกเด้งขึ้นมาพร้อมกับข้อความห้วนๆ ไร้ความหวานดังชื่อไลน์แบบฟ้ากับเหว

DumDinDan :  ครับ

ผมตอบแค่นั้นแล้วทุกอย่างก็เงียบไป  ถ้ามันลำบากนักที่จะติดต่องานกับผม ทำไมถึงยังฝืนใจตัวเองแบบนี้นะ  ผมไม่เข้าใจว่าพี่ดอทจะทะเยอทะยานสร้างฐานะไปทำไมในเมื่อแม่ใหญ่ก็ฮุบสมบัติทั้งหมดของป๋าไปหมดแล้ว 

ตั้งแต่ผมจำความได้ สิ่งที่พี่ดอททำได้ดีก็คือเรื่องร้ายๆ กับผมและแม่  แต่ก็ต้องยอมรับว่านอกเหนือจากนั้นพี่แกก็ดิ้นรนทำอะไรต่ออะไรด้วยตัวเองมาตลอด ขนาดตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังรับจ็อบงานดีไซน์และไปเป็นสตาฟงานแฟชั่นโชว์ไม่ได้ขาด

จะว่าไปนางก็เป็นคนที่น่ายกย่องคนหนึ่งถ้าไม่ติดว่าเกลียดผมกับแม่ยิ่งกว่าขี้อะนะ  พี่ดอทแสดงตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่มัธยมต้น ตอนนั้นป๋ากับแม่ใหญ่ช็อคแบบไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว  ตอนนั้นผมยังอยู่ชั้นประถมและเป็นไข้หวัดในวันนั้นพอดี จำได้ขึ้นใจว่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นก็คือ พี่ดอททะเลาะกับป๋าจนโดนตบหน้าและวิ่งร้องไห้ออกมาแต่ดันเจอผมที่แอบดูอยู่ แม่งคงทั้งโกรธและอายก็เลยลากผมไปทางสระบัวหลังบ้านแล้วผลักลงไปในสระ ดีที่ว่าน้ำไม่ได้ลึกมากนักจึงไม่ได้จมน้ำตาย ผมพยายามจะปีนขึ้นแต่ถูกผลักถูกถีบให้ตกลงไปในสระครั้งแล้วครั้งเล่า  เกือบครึ่งชั่วโมงที่อยู่ในน้ำกอปรกับกำลังป่วยจึงทำให้ร่างกายผมไม่อาจทนทานต่อความหนาวเย็นได้

จำได้แม่นยำว่าตอนนั้นผมแค้นมันจนอยากฆ่า ยังดีที่พี่เกดมาเจอแล้ววิ่งไปฟ้องป๋าผมจึงถูกช่วยขึ้นมาได้และช็อคจนสลบไปตอนที่อยู่บนรถพยายาล  เมื่อหายกลับมาผมกลับโดนแม่ใหญ่ตีเพราะแอบดูที่ป๋าทะเลาะกับพี่ดอทแต่ไม่เห็นมีใครพูดเรื่องที่ผมโดนรังแกจนต้องเข้าไอซียู   ป๋าเองก็ได้แต่บอกว่าป๋าลงโทษพี่ดอทไปแล้ว แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่าป๋าจะลงโทษอะไรรุนแรงเพราะผมก็ยังเห็นแม่ลูกคู่นั้นอยู่ในบ้านอย่างปกติสุข

ผมเองด้วยซ้ำที่ต้องหลบหน้าหลบตาเพราะกลัวจะอดใจไม่ไหวพลั้งมือฆ่ามันตายซะก่อน เหมือนเหตุการณ์นี้จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผมแต่แม่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ยอมอโหสิจนในที่สุดเมื่อเป็นคำขอสุดท้ายจากแม่ ผมจึงต้องจำใจให้อภัยทว่าได้สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกได้อีกจึงตั้งใจฝึกฝนวิชาการต่อสู้ทุกแขนงอย่างแข็งขันขยันหมั่นฝึกซ้อมและฝึกมือในสนามจริงอย่างเอาเป็นเอาตาย 

ช่วงมัธยมเป็นช่วงที่พีคมากสำหรับผม  ผมย้ายโรงเรียนใหม่จึงไม่ได้อยู่ที่เดียวกับไอ้บั๊คและได้เจอไอ้ทิงที่ไม่มีใครคบและเราก็มีเรื่องให้ต้องต่อยตีกันจนมาสนิทกันในที่สุด  ไอ้ทิงสุดยอดของความเถื่อน เงียบๆ แต่ตีนหนัก นิ่งๆ แต่เปิดเร็ว ไอ้สัดทิงเปิดก่อนทุกงานแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด  ผมกับมันเก็บแต้มแข่งกันแบบเอาเป็นเอาตาย  หลายครั้งที่ข้ามรุ่นไปไฝว้กับเด็กมหาลัยหรือแม้แต่นักเลงตัวจริงก็ลุยกันมานักต่อนักแล้ว

อันที่พีคสุดคือคู่อริของพ่อไอ้ทิงที่เคยดมกลิ่นมาเจอและพยายามจะเอาตัวไปเป็นข้อต่อรองกับพ่อมันแต่ผมกับไอ้ทิงสู้ยิบตาแบบสองต่อสิบและก็เกือบตายกันในคราวนั้น ดีที่ว่ามีพลเมืองดีแจ้งตำรวจ เราจึงรอดมาได้



นั่นแหละ เรื่องของผม มันดูเหมือนจะรันทดแต่ด้วยความเป็นผมที่ไม่ค่อยยึดติดและปลงเก่งจึงไม่ได้ทำให้กลายเป็นคนเก็บกดหรือเคียดแค้นฝังลึกอะไร  มีอยู่อย่างเดียวที่ติดใจมาตลอดก็คือลูกเมียหลวงนิสัยไม่ดีซึ่งตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป  แต่ไอ้คนที่ทำให้ผมได้คำตอบนั้นกลับชอบหมกมุ่นอยู่กับอดีตจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุข

...เมื่อไหร่มึงจะปลดปล่อยตัวเองออกจากความเศร้าบ้างวะไอ้หน้านิ่ง





“ทำไมถึงจะไม่รับงาน!  ค่าตัวระดับนี้สูงกว่าดาราตัวพ่ออีกนะ!”  พี่ดอทถามด้วยท่าทางฟึดฟัดเมื่อผมปฏิเสธงานช้างที่พี่แกเสนอให้

ผมดันแฟ้มสีแดงคืนไปให้ชายร่างโปร่งบางที่นั่งหน้าง้ำอยู่บนเก้าอี้ทำงานหรูหราสนนราคาเรือนแสน “ช่วงนี้ท้องผูกบ่อยก็เลยหงุดหงิด ไม่อยากเจอหน้าใคร”  ผมแกล้งแคะขี้เล็บทำเป็นไม่สนใจ

“นายต้องการอะไร”

“เปล่านี่!”  ผมทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้

“จิ๊!!” เสียงจิ๊ปากจิ๊คออย่างหงุดหงิดหลุดออกมาอย่างจงใจ “อย่ามาทำฟอร์ม ถ้านายไม่ต้องการข้อแลกเปลี่ยนก็คงปฏิเสธทางไลน์แล้วไม่ใช่เหรอ อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทัน”  ก็เลือดป๋าเหมือนกัน ความฉลาดก็คงไม่หนีกันเท่าไหร่อะนะ

ผมยกยิ้มอย่างพอใจ “ผมขอดูสัญญาของสกายก่อนแล้วจะบอกว่าต้องการอะไร” 

พี่ดอทหน้าตึงขึ้นทันที “จะดูทำไม!” 

“ผมขอดูก่อนแล้วจะบอกข้อต่อรองของผม แต่ถ้าไม่ได้ก็โอเคนะ ผมไม่ได้บังคับ”  ว่าแล้วก็ทำท่าจะลุกจากเก้าอี้จนมือเรียวของอีกฝ่ายตบลงบนโต๊ะ

“เดี๋ยว!” 

ผมหยุดและหันกลับไป พี่ดอทไม่ได้พูดอะไรแต่กัดฟันกำหมัดแน่นก่อนจะลุกไปไขตู้เซฟที่อยู่ด้านหลัง  ไม่นานนักผมก็ได้ดูสัญญาของสกายเต็มสองตา

!!!!!

นี่มันเหี้ยอะไรกันวะ!

“พี่รู้มั้ยว่าสัญญามันไม่เป็นธรรมกับสกาย”  ผมถามตรงๆ

พี่ดอทเบะบางเล็กน้อยก่อนจะสาธยาย  “ไม่เป็นธรรมยังไง นายก็เห็นว่าฉันเขียนไว้อย่างละเอียดว่าจ่ายอะไรยังไงบ้าง” 

“จากรายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไอ้หน้.. เอ่อ สกายไม่ได้แม้แต่บาทเดียวเนี่ยนะ”  ผมซัดสัญญาลงบนโต๊ะ

“ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าฉันจะได้ทั้งหมดซะหน่อย อีกอย่างนายมายุ่งอะไรด้วยล่ะหรือสกายสั่ง” พี่ดอททำตาขวาง

“เปล่า  ผมแค่อยากช่วยมัน”  ผมบอกความจริง

“แล้วจะเอาไง”  ดูท่าว่าพี่ดอทจะอยากได้งานนี้จริงๆ 

แต่ก็อย่างว่าแหละ ค่าตัวที่ผมจะได้ก็สูงลิบลิ่วแถมยังเป็นงานต่อเนื่องซะด้วย พี่ดอทก็น่าจะได้อย่างน้อยๆ เจ็ดหลักจากงานนี้

“พี่เลือกเอาว่าจะแก้สัญญาตรงไหน ระหว่างเพิ่มรายได้ให้สกาย 30% หรือลดเวลาในสัญญาลง”  หน้าพี่ดอทเหมือนเห็นผี  ผิวที่ขาวอยู่แล้วกลับซีดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว 

พี่ดอทเป็นผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า  ผิวดีหน้าตาดีแต่งตัวดีแต่เสียที่ไม่ค่อยยิ้มและดูจริงจังกับทุกอย่างในชีวิต ริมฝีปากบางเฉียบที่มีสีจัดนั้นไม่ได้ถูกเติมแต่งด้วยเฉดสีจากเครื่องสำอางใดแต่มันคือธรรมชาติสร้างสรรค์ ดวงเรียวรีที่ประดับด้วยขนตางอนหนาเป็นแพและขี้แมลงวันตรงเปลือกตาค่อนไปทางหางตาเรียงกันสองจุด เหมือนแต้มแต่งเพื่องานแฟนซี  มันทำให้ดูมีเสน่ห์และแปลกตาสำหรับผู้พบเห็น

ริมฝีปากล่างถูกขบกัดซ้ำๆ เพราะกำลังขบคิดอย่างหนัก  แต่แล้วก็ตัดสินใจได้ในที่สุด “ฉันเพิ่มรายได้ให้สกายไม่ได้เพราะ 50% ของโมฯ มีหุ้นส่วนรับรู้  และอีก 50% ของคุณน้าก็จำเป็นต้องเอาไปรักษาพ่อของสกาย”  ผมคันปากอยากถามซะจริงว่าเขาเอาไปรักษาพ่อของสกายจริงหรือเปล่าเพราะจำนวนเงินมันมากโขอยู่แต่ก็ตัดใจไม่อยากยุ่งเพราะตอนนี้ปลาฮุบเหยื่อแล้วเดี๋ยวจะเสียกระบวน

“งั้นก็ลดเวลา”  ผมบอก

“ลดเท่าไหร่”  ดูว่าพี่ดอทจะตั้งสติได้แล้วจึงปรับสีหน้าให้นิ่งขึ้น

“งานนี้ขอสามเดือน” 

ปัง!!

เสียงตบโต๊ะดังลั่นห้องเมื่อพี่ดอทลุแก่โทสะขึ้นมา

“มันจะมากไปแล้วนะ! นายรู้มั้ยว่าเดือนนึงสกายทำเงินได้มากขนาดไหนน่ะ!”  ร่างบางยืนง้ำค้ำหัวผมอย่างเกรี้ยวกราด

“งั้นพี่จะลดเท่าไหร่ล่ะ”  ผมตอบนิ่งๆ กะไว้อยู่แล้วว่าไม่ได้ แต่พ่อค้ามันก็ต้องบอกผ่านกันแบบนี้แหละ

“เดือนเดียว”  พี่ดอทว่า  “แต่ต้องรับสองงาน”  มือเรียวดันแฟ้มสีน้ำเงินมาให้

ผมเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยเพราะอันนี้ยังไม่ได้คุยกัน แต่พอเปิดดูก็ถึงได้รู้ว่ากำลังคุยเรื่องราคากันอยู่  “ถ้างานนี้ได้เงินสูงกว่างานแรก ผมก็เสียเปรียบสิครับ”  ผมต่อรอง

“ฉันให้ได้เท่าที่ให้ได้ ถ้านายไม่รับ ก็จบ”  เคี้ยวไม่ได้ง่ายๆ เลยนะคุณชนม์แดน แต่ก็เอาเถอะ ผมว่าน่าจะมีงานใหญ่มาอีกหลายงานนะ

“งั้นก็ตามนั้น” ผมตอบรับในที่สุด  “ถ้าร่างสัญญาเพิ่มเติมเสร็จแล้วขอผมดูก่อน ถ้าโอเคแล้วค่อยเซ็นกัน”  ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ผมกลับล่ะ” 

“อ้าว”  พี่ดอททำหน้างง  “แล้วไม่เซ็นสัญญางานห้างฯ นี่ก่อนเหรอ” 

“อะไรกันพี่ดอท  ผมไม่ได้กินหญ้าเป็นอาหารหรอกนะ  ถ้าเซ็นก่อนแล้วพี่ไม่ทำตามที่พูดผมก็แย่เลยสิ”  ผมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหันหลังจะออกเดินแต่แล้วก็ชะงักเท้าเอาไว้ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับไปมองพี่ดอท  “อ้อ! อย่าคิดแผนตุกติกกับผมนะ ถ้าพี่กำลังคิดว่าจะหาทางบีบให้สกายเซ็นสัญญาฉบับใหม่หลังจากที่สัญญาเก่าหมดเวลา พี่ได้เจอผมแน่” 

“นายทำแบบนี้เพื่ออะไร! สกายมันเป็นคู่ขาคนใหม่หรือไง ห้ะ!!”  อารมณ์พี่ดอทขึ้นเร็วลงเร็ว  เมื่อถูกจี้จุดก็จะหลุดอย่างง่ายดาย ตอนนี้หน้าพี่แกแดงก่ำเพราะความโกรธ

“ตอนนี้ยัง”  ผมตอบ  “แต่อีกหน่อย..เป็นแน่”  ว่าแล้วก็สาวเท้าออกจากห้องเสื้อของมันโดยไม่หันกลับไปมองอีก



เห็นหน้าพี่ดอทแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า  ถึงจะอโหสิกรรมให้แล้วแต่การที่ต้องมาวอแวเจอหน้ากันบ่อยๆ ก็ไม่สนุกเอาซะเลย

...กูเสียสละขนาดนี้ มึงควรให้คะแนนกูเยอะๆ นะไอ้หมาหน้านิ่ง





หลังจากนั้นผมก็กลับคอนโดและไปร้านตามปกติ  คืนนี้ไอ้อิงอยู่ร้านทำงานอย่างขยันขันแข็งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าสังเกตให้ดี มันทำงานแบบไร้อารมณ์  ไร้ความรู้สึก เหมือนหุ่นยนต์ที่ทำตามขั้นตอน  ผมพยายามหาช่องเพื่อจะถามเรื่องมันกับไอ้ทิงแต่แม่งนกรู้หาโอกาสเลี่ยงได้ตลอด

วันนี้ไม่เห็นหัวไอ้ทิง โทรหาก็ไม่รับ  ไลน์ไปแม่งก็อ่านนะแต่ไม่ตอบ เป็นเหี้ยอะไรของมัน

“เดี๋ยวปิดร้านเสร็จแล้วเข้าไปหากูในห้องด้วย”  หลังจากส่งเพื่อนกลุ่มนักบอลที่มากินเหล้าเสร็จ ผมก็แวะบอกอิงค์  มันดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อยแต่ในที่สุดก็พยักหน้า



หลังจากเคลียร์บัญชีเสร็จตอนตีหนึ่ง ไอ้อิงค์ก็เข้ามาพอดี “พี่ดินมีอะไรเหรอครับ”  มันยืนอยู่ตรงหน้าประตู

“เข้ามาใกล้ๆ ดิ๊  กูไม่ได้เป็นอีโบล่า มึงไม่ต้องรังเกียจกูขนาดนั้นก็ได้”  ผมว่า

“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย อิงค์แค่ง่วงก็เลยอยากนอนเร็วๆ” 

ผมหรี่ตาจ้องมันอย่างจับผิด “ง่วงเหรอ” 

“ครับ” 

“งั้นดีเลย  ชงกาแฟมาสองแก้วแล้วนั่งแดกเป็นเพื่อนกูอยู่ในนี้แหละ  กูเหงา”  แกล้งมันครับ มึงคิดว่าจะปิดคนอย่างกูไปได้นานแค่ไหนกันวะ

“พี่ดิน! อย่าแกล้งอิงค์สิ เป็นเจ้านายนะเว้ย ไม่ใช่เจ้าชีวิต”  มันโวยวาย

“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่  มึงมาอยู่กับกูก็เหมือนเป็นคนของกู มีอะไรทำไมไม่บอกกู คับข้องใจเรื่องอะไรเกี่ยวกับกูก็บอกสิ ไอ้ทิงมันพูดเหมือนมึงมีอะไรจะพูดกับกู แล้วเรื่องไอ้ทิงอีก มึงจะบอกได้รึยังว่าไปไหนกันมา”  ผมร่ายยาว

อิงค์ถอนหายใจทำหน้าเครียด  “เอาไว้อิงค์ค่อยบอกทีหลังนะ คืนนี้ไม่ไหวแล้วล่ะ คืนก่อนๆ ก็นอนไม่พอ”

“แล้วมัวแต่ทำอะไรกันไม่หลับไม่นอนล่ะ” ผมถามดีดีแต่มันเสือกลนลานตอบรัวจนแทบฟังไม่ทัน

“ไม่ได้ทำอะไรเลยนะพี่ ผมกับไอ้พี่กระทิงควายนั่นน่ะ ให้ตายก็ไม่มีทางลงเอยกันได้หรอก”  แล้วมึงจะร้อนตัวเพื่อ?

“กูยังไม่ได้พูดเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับการลงเอยของมึงกับมันเลยนะอิงค์ มึงจะดิ้นทำไมเนี่ย!”  ผมเกาคางและมองมันอย่างค้นหา  “มึงกับมัน มีเรื่องอะไรก็พูดมา ถ้าไม่พูด มึงก็ยืนอยู่งั้นแหละไม่ต้องไปไหน”

“อ..อิงค์..”  มันอ้ำอึ้งอยู่นาน ผมก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรแค่นั่งมองมันเพื่อรอฟัง  “พี่ไปถามเพื่อนพี่ดูเองเถอะ!”  อยู่ๆ แม่งก็ชิ่งออกจากห้องไปเลย

“เฮ้ย ไอ้อิงค์!!!” ผมตะโกนเรียกแต่ก็ไม่ทันจึงลุกตามมันไปที่ห้อง เคาะประตูจนมือจะหักแม่งก็ไม่ยอมเปิด  “เดี๋ยวกูเผาห้องแม่งเลยสัด!”  น่าโมโหจริง ไอ้อิงค์มันไม่เคยกระด้างกระเดื่องกับผมเลยนะ  เพราะมึงเลยไอ้เหี้ยทิง! อย่าให้กูเจอนะจะตบให้ฟันโยกเลย



เมื่อดูท่าว่าไอ้อิงค์คงไม่เปิดออกมาแน่ผมจึงออกจากร้านเพื่อกลับคอนโด  พยายามบังคับพวงมาลัยอย่างหนักไม่ให้หักเลี้ยวไปยังทิศทางคอนโดไอ้หน้านิ่ง

“ยากขนาดนี้เลยเหรอวะ  หักห้ามใจเนี่ย”  บ่นไปขับไปแล้วก็นึกขึ้นได้   “มีวิธีเดียวที่จะทำให้กูลืมมึงได้ก็คือ..”



แล้วผมก็ตัวเบาสบายไปอีกรอบกับเด็กในสังกัด  คนนี้น่ารักขี้อ้อนและลีลาเด็ดจนอยากจะเบิ้ลแต่ก็ล้มเลิกไปซะก่อนเพราะ..



Dark Sky :  ฝันดี

กรี๊ดดีมั้ย!

กรี๊ดดดดดดดด มันทักมาแล้ว โอยฟิน 

วะฮ่ะฮ่า แต่มีหรือที่ผมจะยอมสงบศึกแค่นี้  เปิดอ่านครับแต่ไม่ตอบ หยิ่งครับ เล่นตัวครับ โฮ่โฮ่โฮ่



วันนี้เป็นวันว่าง รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะหลังจากไอ้ข้อความ ‘ฝันดี’ ก็ไร้ซึ่งวี่แววใดใดอีก  ใจจริงคืออยากตอบกลับใจจะขาด ตอบว่า ‘ฝันดีเช่นกัน’ ตอนนี้จะทันมั้ยวะ  โอ๊ยๆๆๆ เครียดๆๆๆ



นั่งมองหน้าจอเหมือนจะหาเลขเด็ด  นั่งปลดล็อคเล่นจนลายก้นหอยบนปลายนิ้วแทบจะไม่เหลือ นี่กูก็เป็นเอามากนะเนี่ย ทำไมไม่ไปหามันวะ จะมานั่งเล่นสงครามประสาทกับมันทำม้ายยยย!!!



ตกเย็นผมก็ถอดใจ  แม่งคงโกรธไปแล้วล่ะ  คนอย่างมันไม่ง้อใครแล้วประเด็นสำคัญ กูก็ไม่ใช่คนที่มึงรัก ใช่ไหมวะไอ้หน้านิ่ง



ติ๊ด..

เสียงเตือนแต่นิดเดียว ผมก็ตะปบโทรศัพท์มาดูทันที



Dark Sky :  ถ้าจะไม่กลับมาอีก ก็มาขนของไปด้วยนะ มันเกะกะ

กรี๊ดดดดด ไอ้หน้านิ่งมันไลน์มาง้อกูเว้ย! อิเหี้ยอิขี้เก๊ก ทำเป็นอ้างว่าของเกะกะ เชื่อก็ควายเหอะ

ผมยังไม่ตอบ ขอเล่นตัวนิดหน่อยนะ



Dark Sky :  เดี๋ยวผมจะปิดโทรศัพท์นอนนะ วันนี้เหนื่อย

DumDinDan :  เออ เดี๋ยวกูเข้าไปขนของ

เหี้ยเอ้ย ใจหายใจคว่ำหมด เกือบตอบไม่ทันซะแล้ว ดีนะที่มันยังอ่าน

Dark Sky :  อืม



มันตอบมาแค่นั้นส่วนผมจะนอนเน่าอยู่ทำไมล่ะ รีบสิครับ เดี๋ยวจะพลาดนาทีทอง ฮ่า!!



แค่ยี่สิบกว่านาที ผมก็ถึงคอนโดมัน  เปิดประตูเข้าห้องด้วยกุญแจสำรองและคีย์การ์ดที่มันฝากไว้  ผมมองของสองสิ่งในมือแล้วกำเอาไว้แน่นๆ

“สำหรับมึงใครจะใช้ไอ้นี่ก็ได้เหรอวะ”  รำพึงกับตัวเองเบาๆ ระหว่างเดินไปยังห้องนอน



“มาแล้วเหรอ”  มันนอนอยู่แต่ก็คงไม่ได้หลับ

“อืม” ผมตอบแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางบนหลังตู้ลงมา

แอบรอฟังว่ามันจะพูดอะไรแต่แม่งก็เงียบ

พูดสิเฮ้ย ง้อกูสิ รั้งกูไว้!!



ไม่ง้อกูก็ไม่อยู่นะเอ้า กูก็คนจริงคนนึงนะ

...



เมื่อไม่มีมีการเหนี่ยวรั้งใดใด ผมก็ไม่อาจหน้าด้านอยู่ต่อได้ “นี่กุญแจกับคีย์การ์ดนะ”  ผมวางสองสิ่งไว้บนโต๊ะให้เกิดเสียงเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้มันรู้ว่าตอนนี้ผมเก็บของเสร็จแล้ว

“...........”

ยังคงไร้สัญญาณตอบรับและผมก็ไม่อยากแคร์อีกต่อไป ลากกระเป๋าไปที่ประตูแล้วเปิดออกก่อนจะก้าวขา..

“เดี๋ยว!”  สกายเรียก

ผมแอบยิ้มด้วยความลิงโลดแต่แล้วหัวใจก็แทบจะแตกเป็นผุยผง

“เก็บของในห้องน้ำไปด้วย” เสียงมันไม่สดใสเท่าไหร่จนผมต้องหันไปมอง

เรามองตากันในระยะห่างทั้งกายและใจ  ยิ่งอย่างหลังก็คงไกลแบบคนละโลก  แล้วมันก็ค่อยๆ ตะแคงตัวไปอีกทางพร้อมกับเอาเบบี้แบล็งของมันคลุมหน้าไว้  ถึงขนาดนี้แล้วผมคงต้องตัดใจสินะ



“อืม”  ผมตอบออกมาในที่สุด

มันนิ่งได้ ผมก็นิ่งได้เหมือนกัน สงครามประสาทแค่นี้ไอ้ดินรับมือได้สบายๆ

ผมเดินเข้าห้องน้ำแล้วหยิบของใช้ส่วนตัวทุกอย่างมายัดลงกระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องโดยไม่ได้พูดอะไรอีก



ก้าวขาอย่างมั่นคงไปที่ประตูก่อนจะปิดมันลงและจากนี้ผมคงไม่สามารถเข้ามาได้อีก  ไร้เสียงใดใด ไร้วี่แววของไอ้คนหน้านิ่งใจแข็ง  และผมเองก็คงต้องทำใจให้แข็งเช่นกัน!




*******************

ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
วันรุ่งขึ้นพี่ดอทส่งไลน์ร่างสัญญาเพิ่มเติมมาให้  ผมตอบไปว่าโอเคและนัดเซ็นสัญญาตอนบ่ายพร้อมกับสัญญาจ้างงานอันใหม่โดยให้พี่ดอทประสานกับไอ้หน้านิ่งเอง

นึกถึงเมื่อวานแล้วโมโห  ไอ้คนไร้หัวใจ ไอ้คนนิสัยเสีย ไอ้คนหน้านิ่ง!!

แต่วันนี้แหละที่มึงจะต้องรู้สึกผิดมากกว่าผิด  วันนี้ที่มึงจะได้รู้ว่ากูทำเพื่อมึงมากขนาดไหน วันนี้กูจะดูน้ำหน้าว่ามึงจะทำยังไงกับความรู้สึกผิดบาปที่มึงทำกับกู!



เมื่อถึงเวลาผมก็โอ้เอ้อยู่สักพัก กะให้เลทนิดหน่อยเพื่อที่พี่ดอทจะได้สาธยายให้สกายฟังถึงรายละเอียดเสียก่อนที่พระเอกจะเข้าฉาก

แผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง หึหึหึ



พอเข้าไปก็เจอทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพี่ดอทและไอ้หน้านิ่งกำลังอ่านอะไรบางอย่างอยู่ “โทษทีครับ รถมันติด” ผมบอกแค่นั้นแล้วเดินไปนั่งข้างสกาย 

ดวงตาคู่สวยเหลือบมองผมราวกับอยากถามว่านี่เป็นฝีมือผมใช่หรือไม่แต่ผมไม่ตอบสนองใดๆ แค่ปรายตามองมันแว้บเดียวแล้วหันไปมองพี่ดอท  “ขอดูตัวจริงหน่อยครับ”  ผมยื่นมือไปขอสัญญา

พี่ดอทยื่นสัญญาอีกชุดให้ผมแล้วบ่นเบาๆ “คนอย่างฉันไม่เคยโกงใคร”  มึงไม่โกงไงพี่แต่มึงเอาเปรียบ!

ผมอ่านอย่างละเอียดแล้วพยักหน้าตกลงพร้อมกับส่งกลับคืนให้ จากนั้นจึงขอสัญญาจ้างงานชิ้นใหม่ของผม 

“อันนี้ของนาย เซ็นสัญญาสองแผ่นแล้วคืนให้ฉันหนึ่งแผ่น ที่เหลือเอาเก็บไว้เพราะมีรายละเอียดครบหมดแล้ว ถ้าลูกค้าจะเพิ่มเติมอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที”  ผมรับแฟ้มสีดำมาแล้วดึงกระดาษสองแผ่นมาอ่านทวนอีกหนึ่งรอบและเซ็นก่อนจะส่งคืนให้พี่ดอทเพื่อให้มันเซ็นจากนั้นมันก็ยื่นกลับคืนมาและผมก็เก็บเข้าแฟ้ม เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย

ในระหว่างนี้ไอ้หน้านิ่งมันมองผมอยู่ตลอดเหมือนกับอยากจะคุยด้วยแต่ผมไม่ได้สนใจมัน  แววตาที่เคยนิ่งหยิ่งดูหมองหม่นและรู้สึกผิดจนเกือบใจอ่อน..แต่ไม่ได้..จะทำงานใหญ่ใจต้องนิ่ง!

“เซ็นสัญญาฉบับเพิ่มเติมเลยพี่ ผมจะไปแล้ว” ผมบอก

พี่ดอทยื่นกระดาษสองแผ่นให้สกายและมันก็เซ็นแล้วส่งให้พี่ดอทเซ็นอีกที จากนั้นทั้งสองแผ่นก็อยู่มือผมเพื่อจรดปากกาเซ็นเป็นพยานและเมื่อเห็นว่าไอ้หน้านิ่งได้คู่สัญญาไว้ในมือแล้วจึงลุกขึ้นเพื่อลากลับ

“เดี๋ยวสิ เซ็นงานนี้ให้ฉันก่อน”  พี่ดอทดันแฟ้มสีแดงมาให้

ผมเหลือบมองแฟ้มนั้นแล้วยิ้มเหยียด “รายละเอียดยังไม่คอมพลีต ผมยังไม่เซ็น  ไม่ต้องกลัวหรอก ผมก็ไม่เคยโกงใครซึ่งพี่น่าจะรู้ดีกว่าใครในเรื่องนี้”  ว่าแล้วก็ออกมาทันทีโดยไม่ได้มองไอ้หน้านิ่งเลยสักนิด



โอ้ย กูเมื่อยหน้า!! 

ไอ้หน้านิ่งมันทำหน้านิ่งได้ยังไงตั้งเป็นวันๆ วะ  กูทำไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็อยากนวดหน้าแล้วเนี่ย ประสาทจะกินตาย



หลังจากนั้นผมก็ขับรถออกมาหาอะไรกินก่อนถึงคอนโด  ในระหว่างนี้มีไลน์จากไอ้หน้านิ่งเข้ามา



Dark Sky :  ผมขอโทษ



ผมเปิดอ่านแต่ไม่ได้ตอบไปเหมือนเดิม  นั่งจิบเบียร์อย่างสบายอารมณ์แล้วส่องสาวไปพลางๆ  พอออกจากร้านก็ได้รับอีกหนึ่งข้อความ



Dark Sky :  เรื่องสัญญา ขอบคุณนะ



ส่องดูหน้าจอแต่ยังไม่เปิดอ่าน เดี๋ยวดึกๆ ค่อยเปิด คึคึคึ  ผมเนี่ยตอแหลได้ถ้วยมาหลายใบแล้วนะ  ใครคิดว่าแหลกว่าก็มาท้าชิงได้



คืนนี้ผมไปดูแลที่ร้านเหมือนเดิม  ติดต่อไอ้ทิงไม่ได้และไอ้อิงค์ก็ยังเงียบๆ หงอยๆ เหมือนเดิม



“มึงจะไม่บอกกูจริงๆ เหรออิงค์”  ผมถามก่อนที่อิงค์กำลังจะดึงประตูเหล็กเพื่อปิดร้าน 

มันมองผมนิ่งอยู่ครู่ ส่งสายตาเหมือนอยากจะบอกอะไรแต่แล้วมันก็ส่ายหัว “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพี่ดิน”

“เฮ้อ..”  ผมถอนหายใจแล้วมองมันนิ่งก่อนจะโยกหัวมัน  “มึงรู้มั้ยว่าใจมึงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ”  ผมไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ผมรู้ว่าไอ้อิงค์ไม่มีสมาธิและจิตใจไม่สงบตั้งแต่มันกลับมา  “กูให้ลางานสองสามวัน ไปตามหาหัวใจมึงเถอะไป”  ย่อตัวลงแล้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของมันอีกครั้งเพื่อค้นหาความลับ

อิงค์นิ่งอึ้ง ไม่ตอบอะไรแต่ริมฝีปากสั่นระริก

สักพักกลีบปากบางก็พะงาบเหมือนอยากจะพูดบางสิ่ง “อ..อิง.. อิงค์”  มันติดอ่างอยู่นานจนผมสงสารและรวบกอดร่างมันเอาไว้ “....ฮึก.. ฮือ..”  ในที่สุดก็ปล่อยโฮออกมาแล้วซุกเข้ามาในอกผมราวกับอยากจะแทรกตัวเข้ามาหลบภัย

ผมไม่พูดอะไรได้แต่ลูบหัวและกอดปลอบมันอยู่อย่างนั้น  ร่างบางสะอึกสะอื้นอยู่นานและในที่สุดก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ 

“อิงค์ไม่ไปไหน อิงค์..รักพี่ดิน”  ดวงตาผมเบิกกว้างเมื่อใบหน้าหวานเงยมองผมอย่างมุ่งมั่นและเอ่ยคำว่ารัก

ผมไม่อยากแกล้งโง่แล้วถามมันกลับว่าเป็นรักแบบพี่น้องใช่หรือไม่เพราะผมฉลาดกว่านั้น

“รักกูเถอะอิงค์ เพราะใครๆ ก็รักกู” หน้าอิงค์ดูจะเงิบไปเล็กน้อยจนผมเกือบหลุดยิ้ม  “ถ้ารักกูก็ลองคบกับกูไหมถ้ามึงคิดว่าชีวิตยังไม่ห่วยแตกพอ” ผมจ้องมันด้วยแววตารักใครระคนเอ็นดู 

ผมรู้มาตลอดว่าอิงค์มันรักผมและก็มั่นใจด้วยว่ามันรักเหมือนพี่ชายน้องชายนั่นแหละ เพียงแต่มันคงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นความรักเพราะมันกำลังโดดเดี่ยว การที่ผมให้ที่พึ่งพิง ให้ความช่วยเหลือและเป็นหลักให้ชีวิต มันคงรู้สึกหลากหลายในจิตใจและกลายเป็นความสับสน

ต่อเมื่อมันได้รู้จักความรักแท้จริงนั่นแหละ มันถึงได้เริ่มรับรู้ถึงความแตกต่าง

“ถ้าอิงค์จะลองคบดูล่ะ”  ใบหน้าหวานเชิดขึ้นแต่ถึงกระนั้นก็ดูไม่ค่อยมั่นใจ เหมือนมันจะเจ้าทิฐิอยู่ไม่น้อย

“ก็ไม่ใช่ปัญหานี่ กูก็โสด มึงก็โสด ทำไมจะคบไม่ได้ล่ะ แต่กูเตือนมึงไว้ก่อนนะ”  ผมทำหน้าเคร่งเครียดจนดวงตาหวานไหววูบด้วยความประหม่า  “กูเป็นคนขี้หวงแบบอลัง อะไรที่เป็นของกู กูจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาแตะแม้แต่เศษเสี้ยวของความรู้สึก  ถ้าเมื่อไหร่ที่กูรู้ว่ามึงมีคนอื่น แอบไปเจอกับคนอื่นหรือแม้แต่คิดถึงคนอื่น  ถึงวันนั้นกูจะไม่เหลือแม้แต่ความเป็นพี่น้องให้มึง”

ร่างบางนิ่งช็อคเหมือนลืมหายใจไปชั่วขณะ  ดวงตาที่กลอกไปมาช้าๆ ทำให้มันดูน่าเอ็นดูมากขึ้น  ไอ้อิงค์เหมือนตุ๊กตาราพัลเซลที่โดดหั่นผมให้สั้นกุดซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้ความน่ารักหมดไปแต่กลับทำให้ดูสว่างไสวปราดเปรียวและมีเอกลักษณ์ ดวงตากลมโต ขนตาหนา แก้มป่อง ปากนิดจมูกหน่อย ชอบทำหน้าตลกแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่มันกลับชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนที่น่าเกรงขามซึ่งนั่นยิ่งทำให้มันน่ารักน่ามองมากขึ้น

“ว่าไง.. คบไม่คบ”  ผมถามย้ำ

ขาเรียวของมันก้าวถอยหลังพลางยกมือขึ้นกอดอกเมื่อผมมองอย่างคาดคั้น  “อ..อิงค์..ขอคิดอีกที”  ว่าแล้วก็ทำหน้างอใส่เหมือนกำลังโทษว่าผมทำให้มันไขว้เขว 

แต่เมื่อผมหัวเราะในลำคอก็ยิ่งทำให้หน้าที่งออยู่แล้วงอเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้เหมือนปลาทูค้างสต็อก ดูแล้วแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ไม่ตกใจเลยเหรอที่อิงค์บอกรักน่ะ”  มันพูดซัดน้ำเสียงฮึดฮัดเหมือนเด็กถูกขัดใจ  “อุตส่าห์เก็บไว้ตั้งนานไม่กล้าบอก อุตส่าห์กลัวพี่จะเกลียด อุตส่าห์กลัวว่าจะถูกไล่เพราะพี่ไม่ชอบเกย์ อุตส่าห์คิดว่าพี่จะไม่ชอบผู้ชายแต่พี่ก็ดันชอบพี่สกาย อุตส่าห์เสียใจ อุตส่าห์ตัดใจแต่ก็ทำไม่ได้ อุตส่าห์จะเก็บไว้แต่ก็มาทำให้ต้องบอกออกมาจนได้แล้วยังทำเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาอย่างนั้นแหละ พี่ดินใจร้าย ใจร้ายๆๆๆๆ”  มันตะโกนใส่หน้าผมเมื่ออารมณ์ถึงขีดสุด  มือที่กอดอกถูกกดแนบอยู่ที่ลำตัวแล้วกำหมัดแน่นขึ้นจากนั้นก็เขย่าตามแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของตัวเอง

ผมเดินเข้าไปประชิดตัวแต่กลายเป็นโอกาสให้มันได้ทุบหน้าอกได้ถนัดขึ้นแต่ผมก็ปล่อยให้มันทำจนในที่สุดมันก็ค่อยๆ หยุดลงแล้วโผเข้ากอดผม “ไม่รักแล้ว ฮึก..คนแบบนี้ทำให้อิงค์มีความสุขไม่ได้หรอก ฮึก ไม่เห็นจะน่ารักซักนิด ฮึกๆ ฮือๆๆ”  ได้ยินแล้วผมได้แต่หลุดยิ้มออกมา 

“คนอย่างกู ถ้าเป็นแฟนก็ดีแต่จะทำให้มึงเสียใจเท่านั้นแหละอิงค์ แต่ถ้าเป็นพี่ชาย กูจะดีกว่าใคร กูรับรอง” ผมกอดร่างบางที่สะอื้นไห้ด้วยความรักความเอ็นดู

เรากอดกันอยู่แบบนั้น ผมไม่พูดอะไรอีก มันไม่พูดอะไรจนเสียงสะอื้นค่อยๆ คลายลง

“อยากให้กูพาไปหาใครมั้ย”  เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ผมจับไหล่บางแล้วดันออกเล็กน้อยก่อนจะถามอย่างอ่อนโยน

ดวงตากลมไหววูบแล้วหน้าก็เริ่มแดงซ่าน “........”

“ไอ้ทิงเหรอ”  ผมถาม

อิงค์พยักหน้าน้อยๆ แล้วเอียงหน้าหลบสายตา

ตอนนี้ผมเคลียร์ทุกอย่างหมดแล้ว  ที่ผ่านมา เรื่องที่เกี่ยวอิงค์ผมก็แค่ไม่อยากเก็บมาใส่ใจเพราะมันไม่มีอะไรและไม่อยากก้าวก่ายชีวิตอิงค์แต่พอเห็นว่ามันสับสนจนอยู่ไม่เป็นสุขจึงต้องลงมาล้วงลูกด้วยตัวเองแบบนี้

“เคยไปหามันมั้ย”  อิงค์ส่ายหัว   “แล้วอยากไปมั้ย”  มันไม่ยอมตอบ  “งั้นกูจะพาไปปล่อยไว้หน้าบ้านมัน จากนั้นก็แล้วแต่มึงละกันว่าจะทำไง”

ดูอิงค์จะกระอักกระอ่วนแต่ผมไม่ยอมให้มันปฏิเสธ  รีบดึงแขนมันออกจากร้านแล้วปิดล็อคประตูก่อนจะยัดใส่รถแล้วบึ่งไปบ้านไอ้กระทิง

เออดีเหมือนกัน เพื่อนๆ แม่งกลายเป็นชายรักชายกันหมด  แบบนี้จะได้ไม่ต้องมีใครล้อใคร เจ๋งว่ะ


ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงบ้านไอ้ทิง  ที่จริงถ้าใช้มอร์เตอร์ไซค์ลัดเลาะซอยนิดหน่อยแค่สิบนาทีก็ถึง  เพราะแบบนี้ผมจึงชอบไหว้วานฝากร้านไว้กับมัน

“ลงไปสิ ถึงแล้ว”  อิงค์มองผมอย่างอ้อนวอน  มันส่ายหัวแล้วจับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น  “ไฟเปิดอยู่นั่นน่ะ มันอยู่บ้าน ไอ้ทิงมันนอนดึก บางทีก็ไม่นอนยันเช้านู่น มึงเข้าไปเถอะ เคลียร์กันซะ”  ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์หาไอ้เพื่อนเลว

แม่งดอดมาขายขนมจีบเด็กกูแล้วจะทิ้งขว้างได้ไงวะ 



“มาทำเหี้ยไร!”  นี่แหละครับ เสียงหวานๆ ของพี่ทิงในการรับโทรศัพท์ มันคงรู้แล้วว่ามีคนมาจอดรถหน้าบ้าน

“ก็เป็นเหี้ยไรถึงไม่รับสายกูล่ะครับ นางเอกงอน พระเอกก็ต้องมาง้อสิครับ ถ้ามึงไม่ยอมเปิดประตูกูจะรออยู่หน้าบ้านมึงไปจนตายเลยนะครับ” 

“งอนพ่อง!”  มันด่า  “กลับไปเลยปะ ขี้เกียจคุย กูจะนอน” 

“ถ้ากูไปแล้วมึงไม่นอนขอให้หนอนไชตา ขอให้หมาแดกไข่ขอให้ไก่จิกหำ ขอให้พวงโดนขย้ำ ขอให้ขอบตาคล้ำเหมือนแพนด้า ขอให้ไฝฝ้าขึ้นเต็มตัว ขอให้มีผัวยี่สิบคน ขอให้..”

“หยุด!” มันตวาดจนขี้หูเต้นระบำ “มึงจะเอาไงว่ามา!”  ทำเสียงเขียวใส่กูไอ้ห่านี่ ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ เดี๋ยวเหอะมึง เดี๋ยวจะขอบคุณกูแทบไม่ทัน

“เปิดประตู เดี๋ยวจะส่งของเข้าไปให้”  ผมบอก  แม่งคงไม่เห็นหรอกว่ามีใครอยู่ในรถอีกคนเพราะผมไม่ได้เปิดไฟในรถ 

“เออๆ น่ารำคาญสัด!” มันสบถก่อนวางสายไป สักพักประตูรั้วแบบอัตโนมัติก็เลื่อนเปิดช้าๆ

ไอ้ทิงเป็นคนรักสงบหรืออีกนัยหนึ่งคือแม่งไม่มีใครคบและไม่คบใคร ที่ดินบริเวณบ้านมันโคตรจะกว้างแต่มีบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ตรงกลางพื้นที่ มันบอกว่าไม่อยากถูกรบกวนด้วยเสียงเพื่อนบ้านซึ่งโดยรอบก็ไร้ซึ่งบ้านเรือนใดๆ  ด้านหลังติดแม่น้ำ ด้านหน้าติดถนนในซอยที่เป็นซอยตันซึ่งทั้งซอยมีบ้านมันอยู่แค่หลังเดียว ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าหรือไม่ก็บ้านที่ติดป้ายให้เช่า ดูจากสภาพคงไม่มีใครมาเช่าเพราะรอบบริเวณแม่งหลอนสัด ถ้าบอกให้รายการคนอวดหมีมาถ่าย ยัยเจ้ญาณติ๊บคงบอกว่า ‘ดิฉันรู้สึกขนลุกตลอดเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะปวดขี้แต่เป็นเพราะมีพลังงานบางอย่างแออัดสำเริงสำราญกันอยู่ภายในซอยนี้นับเป็นร้อยเป็นพัน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคะ’

เอ๊ะ แล้วนี่กูกำลังลบหลู่อยู่หรือเปล่าวะ  ไม่หรอกน่า อะล้อเล่นขำๆ สะเก็ดดาว!



“ลงไป”  ผมหันมองคนข้างๆ ที่ยังคงนั่งหนีบจนไข่จะเละคาหว่างขามันอยู่แล้ว  “ไปปปปป”  ลากเสียงใส่แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยให้มันจากนั้นก็ชะโงกไปเปิดประตูให้  “ถ้าไม่ลง กูจับปล้ำในรถเนี่ยแหละ”  ว่าแล้วก็ถอดแจ็คเก็ตหนังออกแล้วเหวี่ยงไปยังเบาะหลัง

ไอ้อิงค์ทำตาโตแล้วยู่ปากใส่  “นิสัยแบบนี้ขอให้พี่สกายไม่รัก!”  ผมทำหน้าหื่นใส่แล้วค่อยๆ คุกคามมันเรื่อยๆ อิงค์ถอยร่นไปทีละนิดจนในที่สุดก็ลงไปจากรถ

“ถ้ากูอยากให้ใครรัก มันก็ไม่รอดมือกูหรอกเว้ย”  ผมยักคิ้ว  “ปิดประตูแล้วเดินเข้าไป กูจะได้ไปซะที” ผมสั่ง

“แบร่”  อิงค์แลบลิ้นใส่แล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไอ้ทิงเมื่อผมทำท่าจะลงไปจัดการมัน 



สักพักประตูก็ค่อยๆ ปิดจนสนิทลง  ผมเห็นดังนั้นก็ขับรถจากมา หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นนะ กูประเคนให้ขนาดนี้แล้วถ้ามึงพลาดก็ไปตายให้หนอนแดกเถอะไอ้ทิง



ผมกลับเข้าคอนโดแล้วปิดโทรศัพท์  คาดเดาเอาว่าคืนนี้ใครบางคนคงพยายามติดต่อผมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้มีสายไม่ได้รับเป็นเบอร์ไอ้หน้านิ่งสองสาย

พรุ่งนี้มีงานคู่ไม่ใช่เหรอสกาย ใจเย็นๆ หน่อยสิ เอาไว้ค่อยเจรจากันตอนเสร็จงานก็ยังไม่สายนี่



คืนนี้ผมนอนหลับสนิทดีมากๆ รอเวลาที่จะรุกฆาตไอ้หน้านิ่งด้วยแผนเด็ด..  ‘จูบพี่เถอะน้องรับรองไม่ท้องก่อนแต่ง!!’


สายๆ ของวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาหน้าตาอิ่มเอิบสดใสเพราะได้นอนเต็มที่  “Oh Kiss me  Kiss me BABY!!”   จ้องมองขวดเล็กๆ ในมือแล้วร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี

ขวดนี้ใส่น้ำยาใสๆ ที่มีสรรพคุณปลุกกำหนัดแบบรุนแรง ยานี้ได้มาตั้งแต่คราวก่อนที่วางแผนจะแบล็คเมล์ไอ้ชนเผ่าแต่ก็พลาดไป  “หนึ่งหยด หรือสองหยด หรือหมดขวดดีนะ”  ซ้อมเทยาใส่แก้วน้ำของตัวเองแล้วกะปริมาณความเหมาะสม  “เอาแค่ให้พอคึกแล้วมาขอจูบกูก็พอ วะฮ่ะฮะฮ่าๆๆๆๆๆ”  ผมระเบิดหัวเราะเหมือนตัวร้ายในละครแล้วเก็บยาเข้ากระเป๋าเป้

กูนี่มันชั่วจริงๆ



หลังจากเตรียมการณ์ทุกอย่างแล้วเสร็จก็ออกเดินทางไปยังห้างใหญ่แห่งใหม่ที่กำลังจะแกรนด์โอเพินนิ่งในเดือนหน้าจากนั้นจึงเดินสำรวจตามจุดต่างๆ ที่จะต้องถ่ายงาน 

งานคู่ชิ้นนี้ได้มาเพราะแรงโหมข่าวฉาวเรื่องคลิปหลุดนั่นแหละ จนป่านนี้ยังมีคอลัมน์ซุบซิบจิกไม่ปล่อยคอยลงรูปนั่นนี่ เปรียบเทียบไฝฝ้าราคีของผมกับสกายอยู่เนืองๆ  อีกข่าวก็คือข่าวที่ผมเป็นลูกป๋า เมื่อวันก่อนป๋าก็โทรมาถามเหมือนกันว่าจะให้บอกความจริงไปเลยดีไหมเพราะนักข่าวตามตื๊อไม่ได้ขาด ผมบอกให้ป๋าเบรกไว้ก่อน ให้หลบๆ เลี่ยงๆ ไปอีกสักพัก ขี้เกียจมีปัญหากับแม่ใหญ่และพี่ดอท อันที่จริงเรื่องนี้คงใกล้แดงเต็มทีเพราะมันจะปิดกันยังไงให้มิด ชื่อก็คล้ายกันซะขนาดนี้ หน้าผมกับป๋าก็ไม่ได้ผิดแผกจากกันสักเท่าไหร่ ถึงนักข่าวเปิดโปงไม่ได้ เดี๋ยวนักสืบเว็บพันติ๊บก็สาวไส้ออกมาเป็นฉากๆ ถึงตอนนั้นก็เชิญคนที่รับไม่ได้ไปหาปิ๊บแบรนด์เนมมาคลุมหัวใครหัวมันก็แล้วกัน

มาพูดกันเรื่องงานต่อ  งานนี้ผมกับสกายมีหน้าที่เสนอหน้าไปทั่วทุกจุดของกรุงเทพ ทั้งคัตเอ้าท์ตามแยกใหญ่ๆ  ป้ายโฆษณา โปรเตอร์โปรโมทที่กระจายตัวอยู่ทั่วไป ตั้งแต่รถไฟฟ้า หน้าห้าง ในห้าง  ป้ายรถเมล์ ฯ ไม่เว้นแม้แต่หลังรถตุ๊กๆ  ในสัญญาระบุว่ามีสามงาน คือถ่ายแบบและแฟนชั่นโชว์วันแกรนด์ โดยจะถ่ายทั้งหมดสามโลเกชั่น คือบันไดวนกลางห้างที่เป็นจุดศูนย์กลางความอลังการ  ศูนย์ช็อปแฟชั่นแบรนด์ดัง  และลานไอซ์สเก็ต  อันหลังสุดนี่แหละที่น่าสนใจเพราะผมสำรวจดูแล้วว่ามันมีที่รโหฐานเอาไว้แอบจู๋จี๋กันได้ 

เมื่อถึงเวลาถ่ายเซ็ตแรก ผมก็ไปแต่งหน้าทำผมแต่งตัวตามปกติ  เจอไอ้หน้านิ่งก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ มันเดินมาหาก็เดินหนีหน้าตาเฉย มีเสียงซุบซิบเข้าหูอยู่เหมือนกันว่า ‘คู่จิ้นคู่นี้ไม่กินเส้นกันเหรอแก หรือเขาแค่งอนกันวะ’ 

และในตอนที่ทำงาน ไอ้หน้านิ่งก็มีแอบพูดนิดหน่อยว่า “จะไม่คุยกับผมจริงๆ เหรอ” 

ผมแกล้งตอบแบบจริงจัง “มืออาชีพหน่อย ทำงานๆ”  จากนั้นไอ้หน้านิ่งก็กลับเข้าโหมดการทำงานโดยไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก

เซ็ตแรกนี้จะง่ายหน่อยเพราะแต่งตัวแบบลำลองเสมือนมาเดินเที่ยวห้างกันแต่วุ่นวายตรงที่ต้องเปลี่ยนหลายชุดและวิ่งวนขึ้นลงบันไดกันหลายเที่ยว   ส่วนเซ็ตที่สองจะเป็นแนวแฟชั่นจ๋า แต่งหน้าเซ็ตผม ทำสี ทำไฮไลท์กันแบบจัดเต็ม  ใช้เวลาจนถึงเที่ยงคืนกว่าจะถ่ายเสร็จ



วันนี้ยังไม่มีโอกาสได้เริ่มแผนเมื่อจบงานก็แยกย้ายกันกลับคอนโด ผมเห็นสายตาที่สกายมองตามแล้วอยากวิ่งเข้าไปหา  มันอยากคุยกับผมมากนะแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะใจอ่อน  พรุ่งนี้นะหล่อนะ พรุ่งนี้พี่จะคุยกับน้องทั้งคืนเลยยยย หึหึหึ



ช่วงสายของอีกวันก็เริ่มขั้นตอนของเซ็ตที่สาม เซ็ตนี้ยุ่งยากอยู่สักหน่อยเพราะผมกับสกายไม่เคยเล่นไอซ์สเก็ตมาก่อนก็เลยไม่มีพื้นฐานจึงต้องมีการฝึกหัดกันในช่วงเช้าและบ่ายโดยจะถ่ายภาพกันในช่วงค่ำ ลานสเก็ตถูกตระเตรียมไว้อย่างครบครันเพราะอันที่จริงนั้นยังไม่เปิดแต่ห้างต้องการโปรโมทว่าที่นี่เป็นที่แรกที่ได้มาตรฐานการแข่งขันระดับสากลแถมยังมีห้องฝึกแบบส่วนตัวอีกด้วยก็เลยต้องอัดน้ำแข็งแบบพร้อมเล่นเพื่อภาพออกมาจะได้สวยงามสมจริง



แผนของผมเริ่มขึ้นเมื่อมีทีมงานมาบอกรายละเอียดต่างๆ จึงสบโอกาสหว่านล้อมทีมงานคนนี้ให้มาเป็นแนวร่วมด้วยการยัดเงินไปสองพัน มันเป็นเด็กวัยรุ่นชายอายุประมาณสิบแปดซึ่งทำให้ง่ายแก่การล่อลวงมากขึ้นแค่บอกมันว่าผมกับสกายต้องการเคลียร์ปัญหาเรื่องแย่งสาวกัน มันก็เชื่อสนิทใจ

“ชื่อเอกใช่มั้ย” ผมถามและมันก็พยักหน้า  “พอซ้อมเสร็จแล้วจะมีพักกินข้าวใช่ปะ เอ่อ ตอนนั้นแหละ เอ็งก็ทำเป็นบอกให้ทีมงานไปกินข้าวกันให้หมดแล้วบอกพวกนั้นว่าเอ็งจะดูแลพวกพี่เองจากนั้นก็ปิดประตูแล้วล็อคไว้เลย”  ประตูห้องฝึกจะเป็นแบบปิดล็อคจากด้านนอกจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะก่อคดีในห้องปิดตาย คึคึคึ  “แล้วคอยดูต้นทางอยู่หน้าห้องไว้นะ ระวังอย่าให้ใครเข้ามาจนกว่าพี่จะโทรหา โอเค?” ผมซักซ้อมความเข้าใจอีกรอบ

ดูมันจะลังเลเล็กน้อย “พี่อย่าต่อยกันนะ ไม่งั้นมีแผลแล้วถ่ายไม่ได้ ผมต้องโดนด่าเละแน่เลย”  ทีมงานของผมกำชับ

“ไม่ต่อยหรอกน่า แค่ไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังกว่านี้ก็เท่านั้นแหละ เคลียร์ๆ ซะจะได้จบๆ ผู้หญิงคนเดียวไม่อยากให้ต้องบาดหมางกัน” ผมโกหกคำโต

ไอ้เอกรับคำแล้วแยกตัวไป จากนั้นผมก็ตามไปยังห้องฝึกซ้อม  ภายในห้องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร  ตรงกลางมีราวเกาะเพื่อพยุงตัว  พอเปิดประตูเข้ามาทางด้านขวาจะมีมุมเพื่อใช้พักหรือเปลี่ยนร้องเท้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งถูกกั้นและพลางตาไว้ด้วยกระจกฝ้าสีขุ่น ทำให้ตรงนี้เป็นมุมที่มิดชิดพอสมควร  ส่วนด้านซ้ายของประตูเป็นลานสเก็ตสีขาวโพลน รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็น

ครูฝึกสอนเป็นชายรูปร่างสูงเปรต  ใช่ครับ ไม่ใช่สูงโปร่ง แต่สูงเปรต  สูงฉิบหายวายป่วง ขนาดว่าผมก็ไม่ได้เตี้ยเท่าไหร่ก็ยังสูงแค่กกหูมัน   ซึ่งส่วนสูงนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกแต่ปัญหากลับอยู่ที่ความหม้อของมัน 

ไอ้ครูเปรตมันสอนดีนะ ดีแต่หม้อใส่สกาย ไอ้ห่าจิก!  กูล้มลุกคลุกคลาน ล้มแล้วล้มอีกแม่งไม่เคยมาดูดำดูดี  พอไอ้หน้านิ่งาเซหน่อยเดียวแม่งเข้าโอบเข้ารัด ไอ้สัด!

“ครูๆ มาสอนหน่อยว่าเวลาจะล้มให้ทำไง ผมล้มจนตัวเปียกไปหมดแล้วเนี่ย” ดีนะที่ใส่ชุดวอร์มที่ค่อนข้างหนาและสวมเครื่องป้องกันครบเซ็ต เวลาล้มจึงไม่ค่อยเจ็บสักเท่าไหร่ แต่ล้มทีก็เปียกทีนี่แหละที่น่าเบื่อ

“เก็บคองอเข่าครับ” มันตอบแบบกวนตีนจึงต้องทำหน้าโหดใส่แม่งให้เห็นชัดๆ  “ผมล้อเล่น”  มันยิ้มแห้งๆ ผมจึงทำสายตาเป็นคำว่า ‘ล้อเล่นพ่อง’ จากนั้นมันถึงอธิบายแบบเป็นเรื่องเป็นราว “เวลาจะล้มก็ให้ย่อเข่าลงทั้งสองข้างแล้วก้มตัวนิดๆ   พยายามเดินแบบเราเดินปกติ ยกเท้าอย่าลากเท้า ฝึกการทรงตัวไปเรื่อยๆ ครับ เดี๋ยวจะจับทางได้เองเพราะตอนถ่ายก็แค่ต้องทรงตัวให้อยู่แล้วโพสท่าสวยๆ แค่นี้ก็โอเคแล้ว”  อืม แค่เดินมาบอกใกล้ๆ มันยังไม่มา นี่มึงมาเพื่อฝึกสอนหรือเพื่อฝึกซั่ม ไอ้สัด!

สองสัดละนะ ถ้ามีสามสัด มึงเจอตีนแน่ไอ้ครูเปรต!



เกือบสองชั่วโมงที่ฝึก เอ่อ อย่าพูดว่าฝึกดีกว่า พูดว่ากลิ้งเล่นบนลานน้ำแข็งดีกว่า  ชั่วโมงแรกก็ดีหน่อยได้จับราวเพื่อช่วยประคองแต่พอขึ้นชั่วโมงที่สองไอ้เปรตครูฝึกแม่งคอยตะโกนห้ามตลอดเวลาผมจะจับราว ขอกูหนีตายหน่อยก็ไม่ได้   

ส่วนไอ้หน้านิ่งมันเป็นเร็วกว่าผมเยอะ ดูมันนิ่งและกล้าที่จะลอง หึ ก็ใช่สิ มีครูประกบขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องล้มหรอก แค่เซหน่อยเดียวเปรตก็เข้าชาร์ตแล้ว

ตอนนี้ผมทั้งร้อนทั้งเหนื่อยจนต้องถอดเสื้อวอร์มตัวนอกออก  อย่าคิดนะว่ามาเล่นไอซ์แล้วจะหนาวสั่นจนคางกระทบกัน ขอโทษครับ ร้อนเหี้ยๆ เหงื่อจากข้างในเปียกกว่าน้ำแข็งที่ละลายอีก  แต่ตัวเปียกปอนทั้งข้างในและข้างนอกแบบนี้ทำให้สะท้านอยู่ในอกเบาๆ ลืมนึกไปว่าผมไม่ค่อยถูกกับความหนาวเย็นและความเปียกชื้นแบบนี้ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวก็จะได้พักแล้วล่ะ ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน



ในห้องนี้ก็มีแค่ผม สกาย ไอ้ครูเปรต และไอ้เอกที่นั่งเฝ้ากระเป๋า ส่วนทีมงานคนอื่นก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายเพราะไม่ได้มีหน้าที่อะไรในนี้   เมื่อไอ้ครูเปรตมันเผลอเพราะมัวแต่ต้อนหน้าต้อนหลังไอ้หน้านิ่ง ผมจึงแอบย่องมานั่งพัก  “ออกไปหาโค้กให้หน่อยดิ โคตรเหนื่อยเลยว่ะ”  ผมหยิบตังค์ส่งให้ไอ้เอก  มันรับแบงค์ร้อยแล้วรีบออกไป 

ระหว่างที่นั่งพักก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พอหมาดด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ในกระเป๋าเป้ จากนั้นก็ยัดไว้ที่เดิม  หันซ้ายหันขวาพอเห็นว่าปลอดคน ผมจึงล้วงเอาขวดยาขึ้นมาแล้วเปิดฝาขวดน้ำดื่มของสกายออกก่อนจะค่อยๆ หยดน้ำยาลงไป    “พี่เอาโค้กแคนหรือแบบขวด!” ไอ้เอกทะลึ่งพรวดโผล่หน้าเข้ามาทำให้ผมตกใจทำน้ำยาหกลงไปเกือบครึ่งขวด “พี่ทำไรอะ”  ไอ้เอกคงเห็นว่าผมเลิ่กลั่กจึงเอ่ยถาม

ผมรีบเนียนตอบไป  “โด้ปวิตมินและเกลือแร่ เสียเหงื่อเยอะว่ะ” เก๊กท่าทางเป็นปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ไอ้เอกพยักหน้าร้องอ๋อๆ แล้วถามอีกครั้งว่าผมจะเอาโค้กแบบไหน  “เอาโค้กแคนมาสองกระป๋อง เผื่อสกายด้วย”  พอมันได้ข้อมูลก็ผลุบหัวออกไปจากห้อง

ไอ้เหี้ยเอ้ย เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ!

ผมสบถด่าไอ้เอกในใจจากนั้นก็ออกไปส่องไอ้ครูเปรตกับสกายอีกครั้งกันเหนียว และเมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ได้สนใจอะไรตรงนี้จึงรีบปิดฝาขวดน้ำที่มีน้ำยาหกลงไปแล้วเอายัดใส่ข้างกระเป๋าเป้ของตัวเอง  “ถ้าแดกอันนี้มีคึกถึงเช้าแน่ๆ”  ว่าแล้วก็หยิบขวดน้ำเปล่าอีกขวดมาหยดน้ำยาเข้าไปห้าหกหยด 

“ดื่มให้ชื่นใจนะน้องสกาย คึคึคึ”  ว่าแล้วก็เอาตั้งไว้แทนที่ขวดเดิมจากนั้นก็ไปฝึกต่อ



ผ่านไปสักพักไอ้เอกก็เข้ามาและบอกว่าเอาโค้กไว้ที่โต๊ะให้แล้วและบอกอีกว่าทีมงานข้างนอกไปพักกินข้าวกันหมดแล้วให้พวกเราพักกินข้าวกันได้  ผมแกล้งส่งซิกให้ไอ้เอก “เดี๋ยวขอฝึกต่ออีกแป๊บละกัน ใกล้จะได้แล้ว”  ไอ้เอกพยักหน้ารับรู้

ไอ้ครูเปรตอิดออดอาลัยอาวรณ์อยากแดกข้าวกับสกายอยู่นั่น ดีนะที่ผมผมได้ยินก็เลยบอกให้สกายรอ

“รอกูด้วย เดี๋ยวออกไปกินข้าวพร้อมกัน”  สกายดูจะงงนิดหน่อยเพราะก่อนหน้าผมไม่คุยด้วยแต่ตอนนี้กลับบอกให้มันรอ 

“อ..อืม”  แต่มันก็พยักหน้ารับและเดินไปหยิบขวดน้ำแล้วดื่มไปครึ่งขวด 

เมื่อวางใจแล้วจึงกลับไปฝึกซ้อมต่ออย่างสบายอารมณ์  ได้ยินเสียงไอ้ครูยังชวนคุยต่อแต่สักพักแล้วมันก็ออกไป   หลังจากนั้นก็ได้ยินไอ้เอกคุยอยู่กับไอ้หน้านิ่งสองสามประโยคแล้วจากนั้นเสียงประตูก็ปิดลง



ตอนนี้ก็แค่รอเวลาให้ยากออกฤทธิ์สินะ คึคึคึ  นึกในใจแล้วไถลสเก็ตอย่างอารมณ์ดี



“พอได้แล้วมั้ง เดี๋ยวค่อยมาซ้อมต่อ”  ผ่านไปสักพักสกายก็มาตาม

“มึงหิวเหรอ” ผมแกล้งถาม

“เปล่า แต่กลัวคุณไม่ไหว ดูหน้าสิ ซีดหมดแล้วนะ ตัวเปียกนานไม่ค่อยดีเดี๋ยวจะปวดหัวอีก”  อะแน่ะ เป็นห่วงกูด้วย งุ้ยย ว่าที่เมียกูนี่แสนดีซะจริมๆ

“ขออีกห้านาที นะนะ” ทำเป็นอ้อนนิดหน่อย มันจะได้ใจอ่อน

มันทำหน้าประหลาดใจกับท่าทีของผมแต่แล้วก็ยอมใจอ่อน “งั้นก็ตามใจ”  ว่าแล้วก็กลับเข้าไปนั่งพัก



ผมฝึกไปเรื่อยๆ เพื่อฆ่าเวลา  สักพักไอ้หน้านิ่งก็ตะโกนถาม “น้ำพวกนี้ของคุณรึเปล่า ผมกินได้มั้ย”  ยาคงเริ่มออกฤทธิ์แล้วล่ะ คอแห้งใช่มั้ยล่ะ หึหึ

“กินเหอะ กินให้หมดสองอันเลยก็ได้”  ผมบอก แค่โค้กแคนสำหรับว่าที่แฟน มันน้อยค่ายิ่งนัก วะฮะฮ่ะฮ่า




**********************

ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
และเมื่อได้เวลาพอเหมาะพอดีแล้ว ผมจึงสาวราวกลับไปยังที่นั่งพัก  ภาพที่เห็นคือไอ้หน้านิ่งนั่งกระสับกระส่ายหายใจหอบถี่อยู่ตรงหน้า  มันมองจ้องผมตาเป็นมัน

“เป็นไรอะ ไม่สบายเหรอ”  แกล้งถามมันแต่ก็พึ่งมารู้สึกตัวว่าหัวกูเริ่มปวดตุบๆ  ไอ้คนที่ไม่สบาย คงเป็นกูเนี่ยแหละ

ทนอีกนิดนะไอ้ดิน เดี๋ยวจูบแล้วค่อยออกไปหายาแดก

“เป็นไรไม่รู้ ร้อนเนื้อร้อนตัววูบวาบ คอแห้งเป็นผงเลย”  มันบ่น

ผมแกล้งทำเป็นตกใจแล้วไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะปลอบมัน “เดี๋ยวค่อยไปหายากินข้างนอก”  มันพยักหน้าแล้วเดินเซๆ ไปที่ประตู

“เฮ้ยคุณ! ประตูมันล็อค!”  มันทำหน้าตาตื่น

“อ้าว ล็อคเหรอ”  ผมแกล้งตื่นเต้นตามมันแต่ดันเหลือบเห็นขวดเปล่าสองขวดวางอยู่ที่พื้น

!!!!

“เฮ้ย!!!”  จำได้ว่าเอาวางไว้ให้มันแค่ขวดเดียวนี่หว่า แล้ว!? “เฮ้ย!!!!!”  ผมอุทานออกมาอีกครั้งเพราะกระเป๋าหายไป “กระเป๋ากูไปไหนเนี่ย!” 

สกายเดินหน้าหื่นเข้ามานั่งข้างๆ “ผมให้น้องทีมงานขนออกไปพร้อมของอื่นหมดแล้วล่ะ”

“ห้ะ!!!!!”  ตอนนี้ทำได้แค่อุทานพยางค์เดียวเพราะคิดคำอื่นไม่ออกแต่แล้วพอนึกออกก็แทบช็อค  “โทรศัพท์กูอยู่ในนั้น!!”   ผมบอก

“อ้าวเหรอ ผมนึกว่าอยู่ในเสื้อวอร์มคุณซะอีก” มันอธิบายพลางลูบแขนตัวเองแรงๆ  “นึกว่าไม่ได้ใช้อะไรแล้วก็เลยให้น้องเขาขนไปหมด เก็บไว้แค่น้ำที่อยู่ข้างกระเป๋าแค่นั้นแหละ”  ไอ้เรื่องโทรศัพท์ก็ว่าแย่แล้วนะ พอได้ยินคำว่าน้ำที่อยู่ข้างกระเป๋าก็ยิ่งทำให้ตาแทบจะถลนออกนอกเบ้า

ผมสะบัดหน้าไปมองขวดน้ำที่วางบนพื้นอีกครั้งและมองหน้าสกายสลับไปมาแบบนี้หลายรอบ  “ม..มึง  มึงอย่าบอกนะ ว่าขวดน้ำนั่นเป็นน้ำจากกระเป๋ากู!”  ระหว่างรอคำตอบก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก เหมือนกลืนกาวที่ผสมเศษแก้วเล็กๆ ทั้งหนืดทั้งบาดแสบคอฉิบหายเลยตอนนี้

“ใช่ ก็ผมถามแล้วว่ากินได้มั้ย คุณบอกให้กินสองอันได้เลย ผมก็ซัดหมด ทั้งน้ำทั้งโค้ก ไม่เคยกระหายน้ำขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”  ฉิบหายตายโหง!!!

“กูจะเป็นลม..”  ผมทำท่าจะทรุดกองลงกับพื้น ไอ้หน้านิ่งจึงรีบยื่นมือมาประคองแต่เมื่อผิวหนังเราเสียดสีกันมันก็สะดุ้งเฮือกแล้วผละออกก่อนจะหายใจหอบและกลืนน้ำลายดังเอื้อก

“ผมร้อนไปทั้งตัวเลยคุณ แตะตัวคุณแล้วมัน..”  ดูมันจะงงกับอาการของตัวเองและกระดากอายที่จะบอกออกมาว่ามัน.. เ งี่ ย น

ตายห่าแล้วกู  แดกเข้าไปขนาดนั้นมันต้องเอาออกกี่น้ำวะนั่น  แล้วจะโทรบอกไอ้เอกให้มาเปิดประตูได้ยังไงวะเนี่ย โอ้ยย กูจะบ้าตาย!!!

ผมนิ่งคิดอยู่สักพักก็ลองไปเคาะประตูเรียก  มันเป็นประตูแบบเก็บความเย็นด้วยก็เลยหนากว่าประตูทั่วไปแถมยังมีตัวดูดอากาศที่ดังหวึ่งๆ อีกสามตัว ก็เลยไม่รู้ว่ามันดังไปถึงข้างนอกหรือไม่  ตีไปก็ดังปึ้งๆ ซึ่งถ้ามีคนอยู่ข้างนอกจริงๆ ก็น่าจะได้ยิน  แต่ผมเดาว่าไอ้เอกคงไม่ได้อยู่แถวนี้ 

“ซวยแล้วไอ้ดิน ซวยๆๆๆ”  ผมบ่นกับตัวเอง “ไอ้หน้านิ่งมันจะเสี้ยนตายมั้ยวะเนี่ย แล้วกูจะทำยังไงดี ทำไงๆๆๆ”  ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจนต้องเดินไปนั่งพัก



“อืออ.. ฮืดๆ ฮืดๆ”  เสียงลมหายใจของสกายดังขึ้นเรื่อยๆ มันนั่งถูหน้าขาตัวเองแบบเอาเป็นเอาตาย “ค..คุณ ผ..ผม..ว่า..ผม..ม..ไม่ไหว..แล้ว..ล่ะ” คำพูดแทบจะไม่ประติดประต่อ หน้าตาดูหื่นกระหายแบบถ้าไม่ได้ปลดปล่อยคือต้องตายแน่

ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ กูไม่น่าเล่นแบบนี้เลยเว้ย ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วกูจะทำไงวะเนี่ย!

ด่าตัวเองในใจก็คงไม่ช่วยอะไร คงต้องทำสิ่งที่ต้องทำนั่นแหละ 

ผมตัดสินใจเดินไปคว้าข้อมือของสกายให้เดินไปยังมุมห้องเพราะพวกโต๊ะเก้าอี้จะได้อำพลางไว้อีกชั้นถ้ามีใครทะลึ่งพรวดเข้ามา   ร่างมันผวาเฮือกทันทีเมื่อผมแตะตัว “อือ.. ร..ร้อน เฮือกๆ” ดวงตาที่แดงก่ำ ร่างกายที่สั่นสะท้านและลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้นทุกที 

ไม่ได้การละ ถ้าเป็นแบบนี้นานไปอาจจะช็อคตายไปก่อน  “เดี๋ยวกูช่วย”  ผมบอกออกไปด้วยเสียงที่เบาหวิว  ไอ้ช่วยน่ะมันไม่ยากหรอกเพราะช่วยตัวเองก็ออกบ่อยแถมไอ้คนที่กระสันอยู่นี่ ผมเองก็หวังแอ้มมันอยู่ด้วยซ้ำ  แต่ไอ้ร่างกายที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงเนี่ยสิที่เป็นปัญหา

ไม่ไหวก็ต้องไหวไอ้ดิน!

ผมจับมันนั่งพิงกำแพงแล้วผมก็นั่งลงข้างๆ ตอนนี้มือของมันอยู่ไม่เป็นสุข คอยรุกเลื้อยถูไถไปตามเป้าตัวเองอย่างไร้ความอาย  ถ้ามีสติคงไม่กล้าทำแบบนี้ 

“ช..ช่วย ผ..ผม”  กางเกงลำลองสีดำถูกปลดลงแล้วมือผมก็ถูกคว้าไปโปะอยู่กลางลำกล้องของมัน

ไอ้สัด! ใหญ่พอๆ กับของกูเลยว่ะ!



หัวใจผมเต้นถี่รัว รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนถูกเปิดซิงครั้งแรกกับสาวรุ่นพี่ม.ปลาย 

ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจว่าสั่นสะท้านมากแค่ไหนกับการปฏิบัติกิจของพี่สาวจอมขย่ม 

แต่ตอนนี้.. ผมคงต้องเป็นคนเขย่าสินะ..



“อึก..อาห์ อือ..”  สกายครางกระเส่าแทบจะทุกวินาทีที่มือหนาของผมขยับ 

มันนั่งพิงกำแพงเหยียดขาแหงนหน้าหลับตาครางปร่าอย่างสุขสม ผมนั่งขนาบข้างและเอื้อมมือไปช่วยชักนำลำกล้องใหญ่ด้วยความตื่นเต้น 

ไม่เคยจับของผู้ชายมาก่อนแต่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจแม้แต่นิด  จะว่าไปก็รู้สึกคึกคักตามเสียด้วยซ้ำ  ผมเปลี่ยนท่านั่งเพราะรู้สึกไม่ค่อยถนัด  ดันร่างใหญ่ของสกายให้ขยับออกจากกำแพงแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งแทนตำแหน่งเดิมของมัน จัดให้มันนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาและดึงให้มันเอนมาพิงหน้าอกเพื่อจะได้ขยับมือได้ถนัดถนี่ 

“อ่ะ อ่า อาห์ ซี๊ดด..”  ครางเก่งฉิบหายไอ้ห่านี่  เดี๋ยวกูก็ฟันมึงซะตรงนี้เลย

พูดไปงั้นแหละครับเพราะร่างผมตอนนี้ก็แทบจะไร้สิ้นเรี่ยวแรงแล้ว  ที่ยังขยับมือรัวๆ อยู่ได้เพราะสงสารมันแค่นั้นเอง  กลัวจะช็อคตายไปซะก่อนจะได้เป็นแฟนกัน

ในระหว่างที่ขยับมือเป็นจังหวะอยู่นั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงคลอเคลียซอกคอและกกหูขาวเนียนอย่างลืมตัว  ผิวสกายขาวอมชมพู ถึงจะมีตกกระบ้างประปรายตามประสาคนที่มีเชื้อสายตะวันตกแต่โดยรวมแล้วก็ดึงดูดปลายจมูกและริมฝีปากให้สูดดมได้ไม่น้อยเลย

“มีความสุขมั้ย”  ผมกระซิบชิดใบหูพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกด้วยความหลงใหล 

“อ..อืมม” เสียงครางต่ำอย่างกระสันพร้อมกับใบหน้าหล่อใสที่หันมาจ้องผม  “จ..จูบ..หน่อย”  หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อริมฝีปากสีสวยเผยอออกรอการจุมพิต  ดวงตาฉ่ำปรือและเสียงหายใจกระเส่านั้นทำให้ผมแทบคลั่ง

เกือบหลงไปตามอารมณ์ชั่ววูบเมื่อผมก้มลงไปกะจะจูบตามที่มันขอ

“อยากจูบ มึงก็จูบกูเองสิ”  ผมว่าแล้วขยับมือรัวเร็วกว่าเดิม”

“อ๊ะ อ่ะ อื้อ อือห์ อาห์”  ร่างในอ้อมแขนบิดเกร็งสองสามครั้งแล้วปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือ  “ย..ยัง ม..ไม่”  เสียงมันกระท่อนกระแท่นจนต้องเอียงหูเพื่อฟังให้ชัด

“ว่าไงนะ”  ผมถามพลางหยุดมือแล้วจับท่อนรักของมันเอาไว้เฉยๆ

“ย..ยังไม่..เสร็จ”  ไม่เสร็จเหี้ยไร! น้ำเต็มมือกูเลยสัด “ท..ทำอีก..น..นะ”  มันเอียงหน้าอ้อนแล้วจับข้อมือผมขยับไปมาเพื่อปลุกปั่นลูกชายของมันที่ไม่ได้อ่อนลงเลยทั้งๆ ที่ได้ปลดปล่อยไปแล้วหนึ่งรอบ

“ยาแม่งแรงฉิบหาย” ผมบ่น

“นะ..นะครับ”  แน่ะ มีนะครับซะด้วย  แล้วกูจะขัดใจได้ไงล่ะเนี่ย เฮ้ออ ต่อก็ต่อวะ!

แล้วผมก็เริ่มการชักนำระรอกใหม่ ทุกอย่างยังเป็นเหมือนครั้งแรกแต่คราวนี้ผมเผลอดูดลำคอมันไปสองสามครั้งจนเกิดรอยจางๆ มันพยายามจะจูบแต่ผมคิดว่ายังไม่อยากให้เป็นตอนนี้ อยากให้มีสติดีดีกว่านี้อีกหน่อยจะได้ชัดเจนว่าใครกันแน่ที่เป็นคนแพ้พนัน

“แฮ่กๆ อึก อาห์ อ๊า”  ร่างมันแอ่นขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับขยุ้มหน้าขาผมอย่างแรง 

คราวนี้ของเหลวข้นที่หลั่งออกมาไม่ได้เยอะเท่าครั้งแรกแต่ก็ทำให้เลอะเปื้อนกางเกงเล็กน้อย

“ดีขึ้นยัง”  ผมถาม

ถ้าไม่ดีขึ้นกูก็ไม่ไหวแล้วนะ  ตอนนี้ก็นั่งแทบไม่อยู่ เลื้อยลงไปเรื่อยๆ จนใช้แค่ช่วงไหล่พิงกำแพงแล้วเนี่ย

มันเอียงหน้ามองอีกครั้งแล้วทำหน้าอ้อนเหมือนเดิม  “ข..ขออีก” 

“..กูไม่มีแรงแล้ว”  ผมบอกพร้อมกับหลับตาแน่นเพื่อไล่ความเจ็บปวดในหัวให้หายไป

“นะ..ผม..ขอ..อีกนะ”  ร่างของมันพลิกกลับเข้ามาคร่อมผมเอาไว้ 

ถึงกับต้องลืมตาขึ้นทันทีเมื่อซอกคอถูกจมูกโด่งของมันฝังลงมาอย่างรวดเร็ว “ด..เดี๋ยว!”  พยายามอย่างหนักที่จะดันมันออก แต่เรี่ยวแรงแทบไม่มี 

ไอ้สัด! นี่มันเหี้ยไรกันวะเนี่ย!

‘ถ้าชาตินี้กูปิ๊งผู้ชายนะ กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลยเอ๊า’ เสียงหลอนๆ ที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นในหัว ยิ่งทำให้ผมประสาทแดก

“เดี๋ยวกูช่วยมึงอีกรอบก็ได้”  พยายามดันมันให้พลิกกลับลงไปแต่แรงหื่นของไอ้หน้านิ่งมันมากมายเหลือเกิน

“ผมไม่ใส่ก็ได้  ฮืดฮืดด”  มันพูดไปไซร้ซอกคอไปพร้อมกับพ่นลมหายใจหืดหาดใส่หูผม  “ค..แค่ถูๆ ให้เสร็จ..ก็พอ..นะ”  กูจะเชื่อมึงได้มั้ยเนี่ย แค่จะพูดยังหายใจแทบไม่ทัน

“ไม่เอาโว้ยย ออกไป”  พยายามยกเข่าดันร่างมันออกแต่อยู่ในอาการพิษไข้กำเริบแบบนี้ ผมจนปัญญาจริงๆ

“นะครับ ผมขอ..นะ..อึดอัด..จนร่างจะ..พังอยู่แล้ว” มันพยายามรวบรวมสติเพื่อสื่อสารออกมา

เห็นแล้วก็สงสาร “...ไม่ใส่แน่นะ!” ผมถามพลางดันหน้ามันออก  แค่ดันหน้ายังแทบไม่ไหว แล้วถ้ามันจะเสียบกูจริงๆ จะทำไงวะเนี่ย!

“ครับ..”  แค่ครับยังไม่พอแม่งยังสูดหายใจเข้าจนสุดอยู่ตรงกกหูกูด้วย  ขนอ่อนลุกพรึบพรับแบบไม่ต้องบิ้วใดใด

ผมต้องยอมให้มันปลดกางเกงออกหมดทุกชิ้น  นี่ถ้าใครเปิดประตูเข้ามาเจอมีหวังได้ขึ้นหน้าหนึ่งเป็นเดือนๆ แน่นอน แต่จะทำไงได้ล่ะ แผนก็แผนกูเอง ผิดแผนแบบนี้ก็ต้องยอมรับชะตากรรมล่ะนะ

“ซู้ดดดด ซี๊ดดดด”  ลำคอและใบหูของผมแทบทุกตารางนิ้วถูกสูดดมดูดเม้มไม่ได้ขาด  เสียงซี๊ดซ๊าดของมันก็ดังขึ้นตลอดเวลาจนอยากถีบสักเปรี้ยงให้หายกาม



“อึก!! อ..ไอ้..เหี้..ย เจ็บ!”  ผมเบิกตาโพลงเมื่อด้านหลังถูกบางสิ่งรุกร้ำเข้ามาโดยไม่ทันได้ระวัง  รวบรวมพลังขยับก้นให้หลุดออกจากการโจมตี ยังดีที่ยังพอมีแรงเหลือ “ถ้ามึงใส่มาอีกที กูฆ่ามึงแน่!”  ผมกัดฟันกรอด

“ท..โทษที ลืมตัว”  คือหน้ามึงไม่ได้บ่งบอกว่าลืมตัวซักนิด  สภาพนี้คือลืมแม้กระทั่งชื่อตัวเองแล้วไอ้สัด!

แล้วตัวผมก็ถูกรวบกอดไว้แน่น  มันขยับเอวขึ้นลงถี่รัวแต่ไม่ได้สอดใส่เข้ามาหรอก แค่ผลุบเข้าผลุบออกตรงซอกขาและร่องตูดผมเนี่ย

ไม่นานนักมันก็เกร็งและปล่อยน้ำรักออกมาเฉอะแฉะเต็มพื้น  ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับทิ้งแข้งขาลงอย่างอ่อนแรง 

“หมดทุกข์หมดโศกซะทีไอ้ดิน”  หลับตารำพึงกับตัวเองอย่างเหนื่อยล้า แต่แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะมีบางอย่างกำลังถูไถไปมาหยอกล้อกับลูกชายของผม

“..ขออีก”  มันมองกลับมาเมื่อผมจ้องมัน  แม่งทำหน้าอ้อนเหมือนผู้ชายจะขอซิงจากผู้หญิงอย่างนั้นแหละ โอ้ย กูไม่ไหวแล้วววว!!!

ผมโบกมือหยอยๆ พยายามบอกมันว่า ‘พอเถอะไอ้เหี้ย’  แต่นอกจากมันจะไม่หยุด แม่งยังช้อนข้อพับเข่าผมขึ้นทั้งสองข้างแล้วโถมตัวทับลงมา

ถามว่าตอนนี้รู้สึกอะไรบ้าง..

กูปวดหัวจะระเบิดอยู่แล้ว กล้ามเนื้อทุกส่วนเหมือนเป็นอัมพาต กระดุกกระดิกแทบไม่ได้

“คุณ..น่ารัก” ทุกความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ได้ยินคำหวานของมัน ดวงตาคู่สวยจ้องมองผมราวกับเป็นของที่มันหวงแหน ต่างกับแววตาหื่นกระหายเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา  “ให้ผมนะ.. นะครับ”  เหมือนร่างหลุดลอยไปในบรรยากาศที่ไร้แรงโน้มถ่วง  ร่างกายล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ครู่เดียวจากนั้นก็ถูกดูดเข้าไปในดวงตาของมัน

“อึก..จ..เจ็บ”  ช่องทางด้านหลังถูกบุกรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ม..ไม่ไหว!”  ผมหลับตาปี๋แยกเขี้ยวและกัดกรามน่นพลางดันตัวมันออกเพราะไม่คิดว่าจะทนความเจ็บปวดนี้ได้

กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลย

กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลย

กูจะยอมเป็นฝ่ายรับ

จะยอมเป็นฝ่ายรับ

ยอมเป็นฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ

รับ

รับ

“ม่าย ไม่เอาไม่รับ!! ปล่อยยยยย!!!” ผมรวบรวมพลังดันตัวมันออก

สกายหยุดเคลื่อนไหวและจ้องมองกลับมานิ่งๆ  แววตาที่ห่วงใยระคนสงสาร แววตาที่บ่งบอกว่าสติของมันคืนกลับมาเข้าร่างบ้างแล้ว  ผมเผลอสติหลุดเข้าไปในดวงตาคู่สวยอีกครั้ง จ้องมองภาพใบหน้าอ่อนโยนนั้นอย่างหลงใหล รู้สึกอยากทะนุถนอมผู้ชายคนนี้ไว้ให้นาน อยากเป็นเจ้าของมัน อยากดูแลรักษาเยียวยาหัวใจที่จมอยู่กับความทุกข์ อยากเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของมัน อยากปกป้องดูแลและได้รับสิทธิไล่ตะเพิดใครต่อใครที่เข้าใกล้มันโดยชอบธรรม

นานทีเดียวที่เราสื่อสารกันด้วยสายตา นานจนลืมว่าช่วงล่างถูกเสียดสีไปมาและถูกรุกล้ำเข้ามาทีละนิด  และก่อนที่จะเฉลียวใจร่างผมก็ผวาเฮือก สองมือตะปบท่อนแขนของสกายแล้วบีบแน่น

“อ้ากก กูเจ็บ!!!”  รอบดวงตาแสบร้อน กลางทรวงอกเหมือนมีไต้ฝุ่นลูกใหญ่หมุนวนปั่นคว้านเครื่องในจนละเอียดยิบรวมเป็นเนื้อเดียว

กูขอถอนคำพูด! กูไม่อยากดูแลทะนุถนอมมึงแล้วไอ้สัด กูเกลียดมึงไอ้หน้านิ่ง!!!!

ผมแยกเขี้ยวมองมันตาถลน  ตอนนี้ร่างมันหยุดการเคลื่อนไหวแต่ยังคงคาท่อนรักเอาไว้ในร่างผมเช่นเดิม 

แต่แล้วความโมโหโกรธาของผมก็ค่อยๆ คลายลงทีละน้อยเพราะแววตาอ่อนโยนของมันอีกครั้ง  เหมือนถูกสะกดให้ต้องยอม เหมือนมันกำลังสื่อความหมายให้ผมเข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่มันที่เป็นคนกระทำแต่เป็นผมที่ช่วยปกป้อง  มันทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าได้เอาตัวเองรับคมดาบแทนมัน โดยที่มันก็รับรู้และรู้สึกขอบคุณ

ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตาลปัตรจากความโกรธเกรี้ยวกลายเป็นความภูมิใจ ถ้าไม่ทำแบบนี้ สกายอาจไม่รอดและผมเองจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีมัน

สักพักใบหน้าหล่อของมันค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ ในตอนแรกผมหยุดนิ่งเพื่อรอรับการจุมพิตแต่แล้วก็เอียงหน้าหนีเพราะเรื่องพนันมันค้ำคอ  ที่เสียตัวเนี่ยมันผิดพลาดทางเทคนิคแต่ต้องชนะพนันแบบที่มันก็รู้สติด้วยถึงจะวินวิน 

สกายทาบปลายนิ้วลงมาบนสันกรามของผมแล้วดันให้มองตรงหามัน  “ผมขอจูบคุณได้มั้ย”  น้ำเสียงที่ชัดเจนจนผมมั่นใจว่ามันไม่ได้พูดเพราะฤทธิ์ของยาแต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้ตอบอะไร  “ถ้าจูบคุณแล้วต้องแพ้พนัน ผมก็ยอมแพ้ให้คุณนะ”  มันยิ้มบางๆ แล้วมองผม

เป็นยิ้มที่น่ารักและอ่อนโยนราวกับเด็กน้อยที่ยอมถูกทำโทษเพื่อแลกกับการได้เล่นกับสุนัขตัวโปรด ถึงจะมอมแมมไปด้วยกันจนโดนแม่ตีก็คุ้มที่ได้แลก เห็นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ  ยิ้มนี้ของผมไร้ซึ่งแผนการใดใด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอยากให้โดยที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

ผมบอกแล้วจ้องมองมันด้วยความรู้สึกปรารถนา  “Kiss me..” 

รักมั้ยนะ ผมรักมันใช่มั้ย..

“อืมม”  แล้วริมฝีปากของเราก็บรรจบกัน สกายจูบผมอย่างอ่อนหวานก่อนจะเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นเมื่อผมเป็นฝ่ายใช้ลิ้นแทรกเข้าไปหยอกล้อกับริมฝีปากอุ่นชื้นของมันก่อน

หวาน..

จูบมันหวานจนผมอยากรู้ว่าจะมีอะไรที่หวานมากกว่านี้หรือไม่

เสียดายที่ตอนนี้ไร้เรี่ยวแรง ไม่อย่างนั้นสกายต้องถูกผมกลืนกินจนแทบไม่เหลือซาก  มันดูดี ดูน่ารัก ดูอ่อนโยน และดูเหมือนจะมีใจให้ผม 

ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้ขอมโนเข้าข้างตัวเองแบบนี้ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าเสียตัวฟรี

“อึก..บ..เบา เชี่ย เบา!”  ผมผวาล็อคคอมันแน่นเมื่อท่อนอันโตเริ่มขยับเข้าออก  จะว่าไปมึงโหดมากนะสกาย แทบไม่เบิกทางอะไรให้กูเลยแม้แต่นิด  รู้สึกจะใช้แค่น้ำรักของตัวเองแทนเจลหล่อลื่น  แล้วดูมังกรของมึงสิ ใหญ่ซะขนาดนั้น เฮ้อ ไอ้ดินเอ้ย ครั้งแรกของมึงนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ

ฝากถึงบรรดาฝ่ายรุกทั้งหลายนะครับ ถ้าคุณจะเปิดซิงใคร กรุณาค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ และค่อยๆ มึงค่อยๆ ลำเลียงลำของมึงเข้าไปเพราะกูบอกเลย แม่งเจ็บเหี้ยๆ !!!!



ครั้งแรกของผม ยังดีที่ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็เสร็จกิจ  รู้สึกดีอยู่อย่างก็คือในระหว่างที่มันโยกกายบนร่างผมก็ไม่เคยละอ้อมกอดและริมฝีปากออกไปเลย  หลายครั้งที่มันพยายามควานหามังกรตัวเขื่องของผมเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแต่ผมจับมือมันออกเพราะอยากให้มันจดจ่ออยู่แค่ไอ้จ้อนของตัวเอง ไม่ใช่หวังดีหรือเสียสละแต่ประการใด แต่เพื่อที่มึงจะได้เสร็จเร็วๆ ไอ้เหี้ย!!!



แล้ววิบากกรรมของผมก็ถึงกาลสิ้นสุด  มันถอนร่างออกไปแล้วเอาบ็อกเซอร์มาเช็ดทำความสะอาดให้ผมก่อนจะทำความสะอาดตัวเองและเสื้อผ้ารวมถึงบนพื้นด้วย  จากนั้นก็จัดการแต่งเนื้อแต่งตัวให้ผมและตัวมันเองจนเรียบร้อย

ไม่อยากเชื่อว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่เริ่มกามกันจนถึงตอนนี้ ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ  ไอ้เหี้ยเอ้ย แม่งก็ทำไปได้ สี่น้ำครึ่งชั่วโมง! 

“ลุกไหวมั้ย” ยังมีหน้ามาถาม

“มึงถามว่ากูทำประกันไว้โรงบาลไหนดีกว่าไอ้สัด”  นอนด่ามันเพราะขยับตัวไม่ได้เลย  ในหัวนี่ร้าวระบมจนยกไม่ขึ้น

“สภาพขนาดนี้ยังปากดีอีก”  ว่าแล้วก็มาพยุงผมให้ไปนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิง  แต่ขอโทษนะ มึงปล่อยกูนอนดีกว่ามั้ย  นั่งแบบนี้กดทับบาดแผลฉกรรจ์ของกูเว้ย!!

“ดีขึ้นแล้วเหรอ”  ผมถาม ตอนนี้ดูมันจะสร่างจากอาการหื่นกามไปเยอะแต่หน้าก็ยังซีดและตาแดงอยู่

“มือยังสั่นอยู่นะ หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนมีไข้  ไอ้นี่ก็ยังแข็งๆ อ่อนๆ อยู่ตลอดอะ”  มันบุ้ยปากไปที่หว่างขา

ผมผงกหัวรับรู้ “ออกไปแล้วก็กินน้ำเยอะๆ นอนแช่น้ำอุ่นซักพัก เดี๋ยวก็หาย” 

แทนที่จะขอบคุณที่ผมแนะนำแต่มันกลับทำหน้างอ “นี่แผนคุณใช่มั้ย  ใส่อะไรในน้ำให้ผมกินล่ะสิถึงเป็นแบบนี้น่ะ”  มันใช้เท้าเตะพวกขวดเปล่าให้ล้มระเนระนาด “หมองูตายเพราะงู เห็นมั้ยว่าผลเป็นไง  ผมขอร้องล่ะนะ เลิกเป็นคนเจ้าแผนการซะทีเถอะ ถ้าแผนสำเร็จก็ดีไปแต่ถ้ามันผิดแผนคุณก็จะเป็นแบบ..!!! เฮ้ย!! คุณ!! คุณ!!”  เหมือนโลกมันเอียงมากขึ้นหรือยังไงวะ ผมเริ่มตะแคงลงเรื่อยๆ จนร่างตกลงบนพื้น

“คุณไหวมั้ย  โอ้ย ตัวร้อนจี๋เลย คุณ..คุณ อดทนไว้นะ..”

รู้สึกถึงแรงเขย่า ได้ยินเสียงเรียก รู้สึกถึงไออุ่น รู้สึกว่าถูกพรมจูบไปทั่วใบหน้า รู้สึกถึงความห่วงใยที่มากมาย  จากนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงผู้คนโฉ้งเฉ้งโวยวายกันยกใหญ่แต่ก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้เลย



“ห...หา..พ..พี่..เก..”

“อะไรนะ คุณพูดอะไร พูดอีกทีผมไม่ได้ยิน”

“..หา..พี่..เ..ก..ด”  นี่คือประโยคสุดท้ายที่ผมพูดออกไป  และจากนั้นสติก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย





“อิดอกดินเอ้ย ห้าวซะขนาดนี้เสือกโดนกด แถมคนกดยังหน้าอ่อนกระดูกอ่อนกว่ามึงตั้งไม่รู้กี่เท่า บทจะยอมแม่งก็ยอมง่ายยอมดาย สงสัยรักเขามากล่ะสิ ถ้าไม่รักนะ ถึงมึงใกล้ตายมึงก็ไม่ยอมให้ใครเสียบได้หรอก ตื่นมากูจะล้อยันลูกบวชเลยมึง”  เสียงด่าแบบนี้รู้สึกคุ้นหูว่ะ อบอุ่นใจเหมือนได้อยู่ในที่ปลอดภัย

จากนั้นก็มีเสียงเปิดประตูและมีเสียงตีนหนักๆ เดินเข้ามาหยุดที่ปลายเท้า

“ไอ้นี่ก็เหมือนกัน กดมันได้ก็อย่าลำพองไปล่ะ มันเอาคืนมึงแน่” เสียงพี่เกด..น่าจะใช่  ว่าแต่ มันคุยกับใครวะ

“...ผมน่ะ..ยังไงก็ได้ครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร”  เสียงไอ้หน้านิ่งใช่มั้ยวะ 

กำลังคิดถึงพอดีเลย

“..อือ..ม..มึ..”  ผมพยายามจะสื่อสารออกไปแต่ลำคอแห้งผากจนหายใจติดขัด

“อาราย อะราย!!  เจอทั้งไข้เจอทั้งยากดไว้ขนาดนี้แม่งยังฟื้นได้อีก  มึงนี่มันเดนตายฉิบหายเลยว่ะ  ไหนพูดอีกทีซิ”

“ม..มึง พ..แพ้ พนัน ก..กูแล้ว..นะ”  ผมบอกอย่างกระท่อนกระแทนหวังว่าคนฟังคงจับใจความได้

“มันบอกว่า มึงแพ้พนันกูแล้วนะ พนันไรกันเหรอวะ”

“หึหึ”  อย่ามาหัวเราะหึหึนะไอ้หน้านิ่ง ห้ามโกงกูนะ มึงแพ้มึงก็ต้องเป็นเบ้ให้กูด้วย! “ขอผมไปคุยกับเขาใกล้ๆ ได้ไหมครับ”

“อยากมาก็ไสหัวเข้ามาสิ ไม่ได้กั้นคอกไว้ซะหน่อย”

แล้วทุกอย่างก็เงียบไปสักพัก จากนั้นที่ข้างหูผมจะมีเสียงกระซิบเบาๆ



“ยอมแพ้ให้ก็ได้ครับ..เมีย” 

!!!!!

เมียพ่อง!!!!

 
***************************

 :pig4:

ออฟไลน์ followme

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
เราอยากอ่านข้าวจ้าวมากกว่า  :mew6:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
คู่นี้เขาได้กันแล้ว
แล้วคู่จ้าวละะะ ยังค้างอยู่เลยย

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :ling1:เมีย เค้าได้เสียกันแล้ว
เรื่องไอ้ทิงช่างมันเหอะ น้องอิงมันยอมรับ
แต่อิพี่ดอทสิ เราอยากรู้ ว่านางจะมีผู้ชายเป็นของตัวเองม้ายยยยย

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

แอร๊ยยยย พี่ดิน  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด