@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 753939 ครั้ง)

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
สรุปจูบหัวหน้าเพราะนึกว่าเป็นน้องหมา ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เพ้อเจ้อขึ้นทุกวันเนอะหัวหน้าบุ้ง อิอิ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
หลังแผนกขนส่ง จะต่อด้วยแผนกเลขามั้ยค่ะ?

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

ตอบ คุณ fuku

เรื่องรักเกิดในแผนกเลขาไม่มีครับ

มีแต่เรื่องยาวของ คุณนัท กับ คุณรัชชานนท์  :L1:

เรื่องราวความรัก สุดน่ารัก ของคุณนัท ผู้บริหารโรงงาน ฉายาเป็ดน้อย  กับพี่ฟ้า หรือคุณเลขารัชชานนท์
ที่มีความยาวมากกว่า 41 ตอนครับ ซึ่งแยกออกไปจากเรื่อง รักเกิดในแผนกขนส่ง ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2014 00:15:34 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นิรณา นิรณาเป็นหมาน่ะพี่บุ้ง ที่นี้รู้หรือยังอย่าหึงมั่วซั่ว 5555

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2


รักเกิดในแผนกขนส่ง.....ตอน เรื่องของมีน

“ซานดิเอโก้ โจเซฟ เอสตราด้า ที่ 22”

บุ้งและวิเชียรถึงกับหันมามองหน้ากันด้วยความกลุ้ม

“ขออีกที เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”

พวกพี่ไม่ได้ยินกันเหรอวะ ผมบอกว่า..........

“ซานดิเอโก้ โจเซฟ เอสตราด้า ที่ 22”

มีนย้ำคำพูดตัวเองอีกรอบ แล้วพี่วิเชียรก็เอามือตบหน้าผากตัวเองอย่างแรงด้วยความกลุ้ม

“ชื่อมึงคงเป็นชื่อที่ดีมากนั่นแหละเกาหลี แต่พี่ว่า ให้มันชื่อไอ้ดำเหมือนเดิมเหอะวะ ดูท่าจะง่ายกว่า”

พี่วิเชียรสุดจะทน เพราะมาขอคำแนะนำว่าจะตั้งชื่อลูกหมาที่บ้านยังไง พอดีลูกชายแกอยากได้หมา แกเลยหามาเลี้ยงให้หนึ่งตัว
เป็นหมาไทยพันธุทาง ลูกหมาตัวเล็กสีดำที่ไปขอมาจากข้างบ้าน เลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านกันขโมย ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรเลยมาขอความคิดเห็นจากลูกพี่และเด็กฝึกงาน และชื่อที่ได้มา ก็เกินที่พี่วิเชียรจะสามารถจดจำและเอาไปตั้งชื่อให้หมาได้

“มึงอย่าคิดมากวิเชียร หมาบ้านมัน ยังชื่อ นิรณาได้เลย สงสัยตัวต่อมาคงชื่อ นีรนาถ และนุชอนงค์ล่ะมั้ง”

เป็นการประชดประชันที่มีนได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นและเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“พี่รู้ได้ไงวะ ว่าผมตั้งชื่อหมาที่บ้านตัวอื่น ๆ แบบนั้น”

มึงอย่าบอกนะว่ามึงตั้งตามที่กูบอกจริงๆ โอยยยยย บอกตามตรง ๆ กูจะบ้า

“ห่ามีน อย่าบอกนะว่ามึงตั้งจริง มึงบ้าไปแล้วไอ้มีน”

ใครมันจะไปตั้งชื่อหมาแบบนั้นวะพี่

“พี่ก็คิดได้เนอะ ผมจะไปตั้งชื่อหมาแบบนั้นได้ไงวะ มีใครที่ไหนตั้งชื่อหมาแบบนั้นกัน”

ก็มึงไง
บุ้งอยากจะพูดแบบนั้น แต่ก็ไม่อยากจะพูดมาก ป่วยการจะพูดกับไอ้มีน บทจะมึนแม่งก็มึนเกินไป ดีแล้วที่มึงไม่ตั้งชื่อตามนั้น กูก็ว่าอยู่ มึงคงไม่บ้าขนาดนั้นหรอก แค่ณิรนากับซานดิเอโก้อะไรของมึงนี่กูก็ปวดหัวแล้ว อย่าให้พูดเลยว่าปวดหัวขนาดไหน

“หมาบ้านผมชื่อกิติพงษ์ กิติพัฒน์และศุภชลาศัย ที่ 12 ต่างหากล่ะ”

ไอ้มีนนนนนนนนนนนนนนน

“วิเชียร มึงคุยกับมันต่อไปนะ กูไปแระ ไม่ไหวว่ะ เช้านี้กูเวียนหัว เหมือนจะเป็นลมยังไงก็ไม่รู้”

ไม่ใช่แค่บุ้งคนเดียวที่เวียนหัว แต่พาลรวมไปถึงวิเชียรด้วย ที่คิดว่าคงรับไม่ไหวกับชื่อที่เด็กฝึกงานตั้งให้หมาที่บ้านเหมือนกัน

“แปลกตั้งแต่ณิรนาแล้วล่ะพี่ พอมาเจอศุภชลาศัยที่ 12 ผมปวดหัวแทบอ้วกเลย ไม่ไหวแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะเกาหลี พี่ไปก่อน โอยยยยยยย ซานดิเอโก้ คิดได้ยังไง ชื่อไอ้ดำแบบเดิมนั่นแหละดีแล้ว ไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองเครียดเลยกู ปรึกษาผิดคนจริง ๆ”

ผมรู้นะพี่วิเชียร ว่าพี่วิเชียรบ่นผมอยู่

“ดำ ก็ควรชื่อดำรงสิพี่วิเชียร จะให้ชื่อดำเฉย ๆ ได้ไงพี่ เหมือนไม่ใส่ใจกันเลยนี่หว่า ไม่งั้นก็ชื่อ ดำริ อะไรก็ว่าไป นะ กลับมาก่อนสิพี่ จะรีบไปไหนล่ะ ผมคิดชื่อใหม่ ๆ ออกแล้วจริง ๆ นะพี่”

คิดต่อไปคนเดียวนะเกาหลีนะ

เรียกไปก็ไม่มีใครหันมาสนใจกันบ้าง โดยเฉพาะพี่บุ้งที่เดินส่ายหน้าส่ายหัวออกไปเรียบร้อย และมีนก็ยังนึกประหลาดใจกับพี่วิเชียรและพี่บุ้งที่ไม่รู้จักฟังกันบ้างเลย

“ก็ตั้งชื่อสั่วๆ ส่ง ๆ ไปมันเหมือนไม่ใส่ใจนี่หว่า หมาแมวมันก็คงอยากได้ชื่อดี ๆ เพราะ ๆ บ้าง พวกพี่นี่แม่ง ไม่มีความละเอียดอ่อนกันบ้างเลย”

++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ให้มันชื่อนิรณาสิ ชื่อเพราะดีออก”

มึงบ้าแล้ว ให้หมาโกลเด้นเพศเมีย ตัวใหญ่ยักษ์ชื่อนิรณา คิดได้ไงวะเล้ง

“ไม่เอาล่ะ มึงคิดได้ไงวะ คิดนานมั้ยชื่อนี้”

บ่นใส่หน้าเพื่อน และคนที่ช่วยคิดชื่อให้ก็หัวเราะออกมาเสียงเบา ขำกับสิ่งที่มีนพูด และก็ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้

“ชื่อเจ้กูเอง แต่ไม่ทันได้เจอกันนะ เขาเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ๆ”

แล้วมึงเอามาให้กูตั้งชื่อหมาเนี่ยนะ

“มึงเอาชื่อเจ้มึงที่เสียไป มาตั้งชื่อให้หมากู มึงบ้าแล้วเล้ง ใครจะกล้าเอาชื่อเจ้มึงไปตั้งชื่อหมาวะ”

ไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนคิด และเล้งก็ยิ้มเรื่อย ๆ แต่แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง

“ก็มันเป็นชื่อคนที่กูรักไง ถึงจะจำเรื่องของเจ้ได้แบบเลือนลางก็เถอะนะ แต่กูว่ากูรักเจ้นะ แม้เขาจะอยู่กับกูได้ไม่นานก็เถอะ มึงจะรักหมาตัวนี้มั้ยล่ะ ถ้ามึงจะรักแล้วก็รักมาก ๆ มึงเอาชื่อนี้ไปตั้งสิ กูว่ามันคงดี ที่มึงได้รักชื่อนี้เหมือนที่กูรัก”

มีนกำลังอึ้ง นิ่งอึ้งกับคำอธิบายง่าย ๆ ของเพื่อน..........รัก.............

เล้งเป็นคนแปลก ๆ เป็นคนมีชาติตระกูล ฐานะที่บ้านเข้าขั้นดีมาก แต่ไม่รู้เป็นยังไง เล้งไม่ค่อยพูดถึงเรื่องที่บ้านเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องน้องชายที่เสียไป แล้วก็พูดถึงเรื่องน้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันและอยู่ที่เรือนเล็กหลังบ้านมากกว่า

พูดถึงไม่ขาดปาก พูดถึงทุกวัน และนั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่เล้งมันมีความสุขมาก เวลาที่ต้องอยู่บ้านหลังนั้น เวลาที่ต้องอยู่กับพวกญาติ ๆ ของมัน ที่มีนพอจะรู้ว่า..........แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน จนถึงขนาดถ้าฆ่ากันได้ก็คงทำ

“มึงแน่ใจนะว่าให้กูเอาชื่อนี้ไปตั้งให้หมากูจริง ๆ”

แน่ใจสิ
เล้งหันมาส่งยิ้มให้กับเพื่อนที่มาขอความช่วยเหลือในการตั้งชื่อหมาที่บ้าน

“มึงจะรักหรือเปล่าล่ะ ถ้ามึงจะรักและรักมาก มึงก็เอาชื่อนี้ไป”

มีนได้แต่ฟัง ก่อนจะก้มหน้าลง ก้มลง แล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

รักสิ กูจะรัก ชื่อที่มึงอุตส่าห์ตั้งให้ ชื่อของคนที่มึงรัก กูก็จะรักด้วย กูจะรักหมาตัวนี้มากแน่ ๆ ให้สมกับที่มึงรักชื่อนี้

“นิรณา”

มีนกำลังยิ้มและมองหน้าเพื่อนที่ส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มสุดท้าย ที่มีนไม่เคยลืม ไม่มีวันลืมเลือน
เพราะมันเป็นวันสุดท้าย รอยยิ้มสุดท้ายที่ได้เห็นครั้งสุดท้าย

....................มึงทิ้งกู.............ใครใช้ให้มึงตายวะไอ้เหี้ยเล้ง.....ไอ้เพื่อนเหี้ย........

ใครใช้ให้มึงตาย มึงมันเหี้ยมาก

มึงแม่งทิ้งกู

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2014 00:58:45 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“หลวงพี่ สึกเถอะค่ะ หลวงพี่จะได้มาเรียนหนังสือให้จบ ๆ ทำแบบนี้ ดิฉันไม่สบายใจเลย คุณพ่อก็อยากให้หลวงพี่สึกออกมามากกว่าจะบวชไปแบบนี้เรื่อย ๆ เห็นใจคนที่บ้านบ้างเถอะนะคะ”

ครั้งหนึ่งเมื่อมีนได้เรียนรู้ชีวิตที่เจ็บปวด สิ่งสุดท้ายที่พอจะนึกออก คือหนีหายไปซะ หนีไปบวช บวชเพื่อหนีสงสาร พระพี่เลี้ยงบอกอย่างนั้น และหลวงพี่มีนก็ได้แต่ยิ้มให้กับโยมแม่ รอยยิ้มเรียบเรื่อยแต่ไม่เคยมีคำตอบให้

ไม่เคยมีเลย

และต้องใช้เวลาเนิ่นนานพักใหญ่กว่าจะได้รู้ การที่คิดว่าจะอยู่อย่างสงบมันเป็นการไปทำลายความหวังของโยมพ่อกับโยมแม่ที่ตั้งใจจะให้เรียนรู้ทางโลกและเดินทางอยู่บนทางโลกมากกว่าทางธรรม หลังจากบวชไปได้ไม่นานก็ต้องสึก

จำใจต้องสึก

สึกตามใจโยมแม่ สึกตามใจเพราะโยมแม่มาขอร้องให้สึกทุกวัน ก็เลยต้องยอมออกมา และมีนก็คิดว่า วันหนึ่งในอนาคตจะต้องกลับไปบวชอีกแน่ ๆ ยังไงก็ต้องกลับไปให้ได้ เส้นทางเงียบๆ ที่แสนสงบสุขเส้นนั้น ยังไงมีนก็คิดว่าต้องกลับไป

กลับไปในวันหนึ่งซึ่งไม่เหลืออะไรที่อยู่ทางโลกให้ต้องห่วงหาอาลัยและคิดถึง

วันหนึ่งมีนคิดว่ายังไงซะ.............ก็คงต้องกลับไป

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ขมคอแปลกๆ มีนรู้สึกเหมือนกำลังขม ๆ ในคอ และอาการแสบจมูกก็เริ่มตามมาเล่นงานทีละน้อย

“เป็นอะไรวะ กูได้ยินเสียงมึงจามดังลั่นเลย จะเป็นหวัดป่ะเนี่ย อากาศเปลี่ยนก็ดูแลตัวเองหน่อย มึงไม่อยู่กูลำบากเลยนะมีน ห้ามป่วยเด็ดขาดเลยนะมึง”

โหพี่ นี่คนนะพี่ไม่ใช่เครื่องจักร จะไม่ให้ป่วยเลยได้ยังไงล่ะ ผมก็ต้องมีวันลาป่วยบ้างสิ จะให้แข็งแรงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงสามร้อยหกสิบห้าวันได้ยังไง

“เหมือนจะเป็นไข้เลยว่ะพี่ หนาว ๆ ร้อน ๆ พิกล”

ยกหลังมือขึ้นแตะที่หน้าผากตัวเอง แล้วคนที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นเดินมาหา ลุกขึ้นมา ใช้หลังมือแตะหน้าผากตัวเองและแตะที่หน้าผากของมีนสลับกันไปมาอยู่อย่างนั้นหลายครั้งเพื่อความมั่นใจว่าอุณหภูมิร่างกายต่างกันแน่ ๆ

“ตัวร้อนนะมึงอ่ะ ไหวป่ะ เริ่มมีอาการปวดหัวร่วมด้วยหรือยัง แล้วก็เริ่มไอแล้วก็มีเสมหะมั้ย”

ก็.......เหมือน ๆ จะเริ่มมีแล้วแหละพี่

“กินยาก่อนมั้ย ยาพารา”

ยังไม่ต้องก็ได้มั้งพี่

“รักษาเองตามอาการก่อนดีกว่าพี่ ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยปวดหัว แค่จามแล้วก็เริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแค่นั้นเอง”

เหรอ

“งั้นหรี่แอร์หน่อยดีกว่า เอาเสื้อคลุมใส่หน่อยมั้ย เอาเสื้อพี่ใส่ไปก่อนก็ได้ ใส่เสื้อหลายชั้นหน่อยจะได้อุ่น ๆ นะ”

ไม่พูดเปล่า พี่บุ้งยังจัดการถอดเสื้อพนักงานอีกตัวที่เป็นเสื้อชอร์ปมาคลุมไหล่ให้มีนด้วย แตะมือไปที่หน้าผากมีนอีกสองสามครั้งและก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่ชอบใจ

“กระติกน้ำร้อนมีน้ำป่ะ”

ไม่มีหรอกพี่ สงสัยน้ำจะหมดแล้ว

“ผมยังไม่ได้เอาไปเติมเลย”

เหรอ

“งั้นเดี๋ยวพี่เอาไปเติมน้ำเอง เดี๋ยวพี่มา ต้มน้ำให้ร้อน ๆ กินน้ำอุ่นดีกว่า ไม่ต้องกินโอเลี้ยงแล้วกันนะวันนี้ งดก่อนหนึ่งวัน”

เอางั้นเหรอ เอางั้นก็ได้พี่

“พี่บุ้ง”

หือ

บุ้งหันไปตามเสียงเรียก และมีนก็แนบใบหน้าลงบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ก่อนจะบ่นอะไรพึมพำให้พอได้ยินกันสองคน

“พี่ดูแลเมียพี่ดีขนาดนี้หรือเปล่าเนี่ย ผมล่ะอิจฉาคนที่จะมาเป็นเมียพี่จริง ๆ เลยว่ะ”

อะไรของมึง พูดจาเพ้อเจ้ออีกแล้ว บุ้งขมวดคิ้วมุ่น และส่ายหน้ากับสิ่งที่มีนพูดออกมา

“จะเมียจะน้องจะเพื่อนจะอะไรก็แล้วแต่เถอะ กูก็ดูแลแบบนี้ทุกคนแหละ มึงคิดมากเรื่องอะไรอยู่อีกเนี่ย เพ้อเจ้อตลอดเลยนะ ขนาดกำลังจะไม่สบายมึงยังเพ้อเจ้อได้เลย กูล่ะเชื่อมึงจริง ๆ ไอ้มีน”

เหรอพี่ เพ้อเจ้อเหรอ ผมมันเพ้อเจ้อมากเลยใช่มั้ย
ใคร ๆ สำหรับพี่ก็สำคัญหมดแหละวะ จะหมูหมากาไก่ ขอให้เป็นคนที่อยู่รอบตัวเถอะ พี่ก็ดูแลเขาไปซะหมดแหละ ไม่เว้นแม้กระทั่งผมด้วยใช่มั้ย ผมเองก็คงไม่ใช่คนสำคัญอะไรขนาดนั้น ก็คงเหมือนคนทั่ว ๆ ไปที่อยู่รอบๆ ตัวพี่ทั้งหมดนั่นแหละ

“มีน”

อือ ว่าไงพี่
มีนเหลือบสายตามองหน้าของลูกพี่ ที่กำลังมีสีหน้าลำบากใจเพราะไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนหรือหลังถึงจะดี

“อะไรพี่ เรียกผมทำไม”

เรียกทำไมเหรอ
ก็ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรมากมายหรอกวะ แค่พี่จะบอกว่า........

“กับวิเชียรกูไม่เคยถอดเสื้อชอร์ปให้มันใส่นะ แล้วก็.......ไม่เคยต้มน้ำให้มันกินด้วย.....”

แล้วไงอ่ะพี่ แสดงว่าสิ่งที่พี่ทำอยู่ตอนนี้ พี่ก็ทำกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่วิเชียรก็ได้ว่างั้น..........ใช่เปล่าวะ มีนไม่คิดอยากจะฟังอะไรไปมากกว่านี้ ดวงตาเหม่อลอยมองไปที่บิลกองใหญ่ที่ดูแล้ว คงจะไม่สามารถคีย์ให้แล้วเสร็จภายในสองสามวันนี้ได้

“กู........จะบอกว่า.....ที่ถอดเสื้อให้ใส่ แล้วก็ต้มน้ำให้กินเนี่ย....กูเพิ่งทำกับมึงคนแรก.......และคงทำแบบนี้ให้คนเดียวล่ะมั้ง........”

อะไรนะพี่

จากสายตาที่มองบิลกองใหญ่ ตอนนี้สายตามีนไล่มามองที่ใบหน้าของลูกพี่ตัวเองเรียบร้อยแล้ว พี่บุ้งเป็นอะไรวะ พูดอะไรแปลก ๆ แถมยังทำท่าทางแปลก ๆ ด้วย

“เหรอพี่”

ยังจะมาเหรอ อีกเหรอวะ มึงเข้าใจมั้ยเนี่ย ว่ากูไม่เคยทำให้ใครแล้วก็เพิ่งมาทำให้มึงคนแรกนี่แหละ เสือกจะพูดแค่คำว่าเหรอเนี่ยนะ เดี๋ยวกูตบฟันร่วงเลยนี่ จะขอบคุณซักคำมีมั้ยวะ แม่งมารยาทไม่ได้มีซักนิดเลยใช่มั้ยเนี่ย

บุ้งกำลังบ่นอยู่คนเดียวในใจ และไอ้คนที่สมควรจะได้ยินสิ่งที่บุ้งบ่น ก็มองตรงมาทางนี้แล้ว

มองตรงมา และมีนก็เริ่มอมยิ้ม ในเวลาไม่นานก็กลายเป็นรอยยิ้มของคนป่วยที่ยิ้มกว้างขึ้นและมันช่างสดใสที่สุดในความคิดของบุ้ง ยิ้มห่าอะไรของมึง กำลังจะป่วยกำลังจะไม่สบายไม่ใช่หรือไง แล้วยังมีหน้ามายิ้มอยู่ได้

“มึงยิ้มทำห่าอะไรวะมีน”

ไม่ให้ยิ้มได้ยังไงพี่ มันก็ต้องยิ้มสิวะ ไม่ให้ผมยิ้มได้ยังไง

“ก็ผมดีใจผมก็ยิ้มสิ ผมดีใจผมยิ้มไม่ได้หรือไง”

ดีใจ.... ดีใจเนี่ยนะมึงจะดีใจเรื่องอะไรวะกูไม่เห็นเข้าใจว่ามึงจะดีใจเรื่องอะไร

“มึงดีใจเรื่อง.........”

ก็ดีใจเรื่อง..........

“เรื่องที่ผมเป็นคนแรกของพี่ และพี่ก็เป็นคนแรกของผมไง”

ห๊ะ

ไอ้มีน มึงว่าไงนะ ไหนมึงพูดอีกทีซิ

“มึงนี่ชอบพูดจาสองแง่สองง่ามเรื่อยเลยนะ กูแค่บอกว่ากูเพิ่งต้มน้ำให้มึงแดกคนแรก แล้วก็เอาเสื้อให้มึงใส่คนแรก นี่มึงพูดแบบนี้มึงคิดอะไรอยู่วะ หัวสมองมึงนี่แต่ละอย่างก็คิดได้นะ ป่วยจะตายห่าอยู่แล้ว”

บ่นอีก บ่นผมทำไม บ่นผมอยู่นั่น

“พี่คิดอะไรของพี่ ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย ผมก็หมายความตามที่พี่พูดนั่นแหละ พี่เอาที่ผมพูดไปแปลอะไรวะเนี่ย พี่บุ้งคิดอะไรไม่ดีกับผมหรือเปล่าว๊า.......ผมรู้ทันน๊า”

รู้ทันบ้านมึงสิ ทีเรื่องเหี้ยๆ นี่ฉลาดนักนะ

“นอนตายไปเหอะมึง ขืนยังพูดมาก พูดจากวนตีนอย่างนี้ไม่เลิก กูจะไม่ดูไม่แลไม่มองอีกเลยคอยดู”

ทำไมพี่ใจร้ายจังว๊า

“ผมกำลงจะป่วยนะ พี่พูดกับผมแบบนี้ได้ไงอ่ะ”

ไม่ต้องมาทำเสียงออดอ้อนทำตาเศร้าเลยนะ มึงนี่มันช่างสรรหามาพูดจริง ๆ เลยแต่ละเรื่อง

“น้ำร้อนจะแดกไม่แดก มัวพูดมากอยู่นั่น”

ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับความมึนของเด็กฝึกงานที่ขนาดกำลังจะป่วยมันยังด้นสด หาเรื่องกวนหัวหน้างานให้ประสาทแดกเพราะมันได้ เวลาไม่ป่วยไม่ต้องคิดหรอก อย่าให้พูดเลย สุด ๆ สุดยอดมาก ๆ เลยไอ้เด็กฝึกงานเวรคนนี้

“พี่บุ้ง”

เออ เรียกอยู่นั่นเรียกทำไมวะ เรียกแล้วมาทำหน้าหมาเหงาใส่กูอีก มึงจะเรียกกูทำไม เรียกแล้วก็พูด อย่ามาทำเป็นเงียบ

“อะไรของมึงวะ จะพูดก็ไม่พูด เรียกอยู่นั่น”

ไม่มีอะไรหรอกพี่ ก็แค่...........

“ถ้าผมตายไป พี่จะร้องไห้ให้ผมมั้ย”

ไอ้มีน มึงอย่ามาพูดจาสั่วๆ แบบนี้ใส่กูเด็ดขาดเลยนะ

“หุบปากมึงไปเลย แล้วก็เงียบ ๆ ไปเลยด้วย ไม่สบายเข้าหน่อยทำเป็นเรียกร้องความสนใจ เพ้อเจ้ออีกแล้วนะมึง”

เพ้อเจ้อเหรอพี่ บางทีผมก็คงเพ้อเจ้อล่ะมั้ง บางทีผมก็เพ้อเจ้อ พักนี้ไม่รู้เป็นอะไรฝันเห็นเรื่องราวสมัยก่อน เรื่องหมาที่ตายไป แล้วก็เรื่องเพื่อนที่ตายไปแล้วอยู่บ่อย ๆ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม ถ้าฝันเรื่องน้องแป้งด้วยก็คงครบเลยแหละ

“มีน”

เรียกชื่อของเด็กฝึกงานที่มีท่าทีเศร้าสร้อยลงอย่างเห็นได้ชัดและมีนก็ก้มหน้าลงแนบแก้มกับโต๊ะอีกครั้ง
หลับตาลงอย่างช้า ๆ และอยู่ดี ๆ .............. น้ำตาก็ไหล........
ร้องไห้ทำไมไม่รู้ มีนร้องไห้ทำไมไม่รู้ แต่มันก็มากพอให้บุ้งต้องวางกระติกน้ำร้อนไว้แล้วเดินเข้ามาหา เดินเข้ามายืนใกล้ ๆ และวางมือลงที่ไหล่ของมีนเบา ๆ บีบเบา ๆ ที่ไหล่ที่เริ่มสั่นสะท้านแรงขึ้นเรื่อย ๆ

“ฮืออออ”

มีนร้องไห้ทำไมไม่รู้ แต่ที่รู้คงเป็นเรื่องอะไรบางอย่างที่มันอัดแน่นอยู่ในใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่งั้นอยู่ดี ๆ มีนมันคงไม่บ้าร้องไห้ออกมาทั้งที่ไม่มีเรื่องอะไรให้ร้อง

“มีน”

แตะไหล่ของมีนเบา ๆ และเรียกชื่อของมีนอยู่อย่างนั้นเพื่อให้กำลังใจ มึงเจอเรื่องอะไรมาก่อนพี่ไม่รู้นะ แต่ตอนนี้มึงมาอยู่กับพี่แล้ว ขอให้มึงสบายใจว่าพี่จะไม่ทิ้งมึงไปไหนเด็ดขาด สัญญาจริง ๆ นะมีน พี่สัญญากับมึงจริง ๆ



TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
มันเศร้ามากๆเลย  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

รักเกิดในแผนกขนส่ง.....ตอน เรื่องที่บุ้งไม่เคยรู้

“น้องมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า มันมีผลมาจากยีนส์หรือพันธุกรรม ญาติ ๆ ทางพ่อเขาฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้ามาแล้ว แม่กลัวเขาจะเป็นแบบคนอื่น ยิ่งเขาเจอหลายเรื่องมันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้แสดงอาการเร็วขึ้น แม่ไม่อยากให้เขาไปบวชหรือไปไกลหูไกลตา แม่จะคอยสังเกตเขาว่าช่วงนี้เขาเครียดมั้ย เขาเศร้ามั้ย เขาเริ่มเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกแล้วมั้ย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็น”

บุ้งกำลังนั่งฟังอะไรบางอย่าง เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้ฟัง

เย็นนั้นมีนอาการหนักจนไม่สามารถกลับบ้านเองได้ เป็นเร็วมากจากที่ตอนกลางวันยังดี ๆ อยู่ พอตกเย็นแค่นั้น ทั้งอาเจียน ทั้งตัวร้อน จนบุ้งต้องพามาส่งที่บ้านด้วยตัวเอง

พาขึ้นห้องไปนอนพัก และช่วยแม่ของมีนที่เพิ่งรู้จักกันเช็ดตามเนื้อตามตัวเพื่อคลายความร้อนให้

ตอนนี้มีนหลับไปแล้ว และบุ้งที่กำลังจะลากลับก็เลยได้มีโอกาสคุยกับแม่ของมีน

“ก่อนหน้านี้ เพื่อนรักเขาเพิ่งเสียไป เขาก็เสียใจมาก เลยมาลงที่หมา รักมาก หลงมาก ขนาดนอนยังเอาขึ้นไปนอนด้วย แม่ว่ามันแปลกที่เขาตั้งชื่อหมาว่านิรณา แต่ถามไปถามมา เขาก็บอกว่าชื่อเพราะเขาชอบ แม่ก็ไม่เอะใจ หลัง ๆ เขารักหมาตัวนี้มาก บางทีแม่เห็นนั่งคุยกับหมาไป ร้องไห้ไปก็มี พอหมาเขาตายแค่นั้นแหละ น้องไม่เอาอะไรเลย จะบวชท่าเดียว แม่ก็ห้ามไม่ได้ กลัวเขาอยู่คนเดียวมาก ๆ แล้วเขาจะยิ่งคิดอะไรไปกันใหญ่ ต้องไปเกลี้ยกล่อมให้เขาสึกทุกวัน อ้างนั่นอ้างนี่ไปเรื่อยจนสุดท้ายเขาก็ยอมสึกออกมา”

ไม่คิดว่าจะได้ฟัง ไม่คิดว่าจะได้ฟังเรื่องแบบนี้ บุ้งไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

มีนไม่เล่า  ไม่เคยเล่า มันเป็นเรื่องฉาบฉวยที่บุ้งพอจะได้รู้
คนรอบข้างของมีนทยอยเสียไปเรื่อยๆ .....คนที่มีนรัก.... รวมทั้งหมาที่เลี้ยงเอาไว้หลายปี

“นี่ตอนเขาไปฝึกงานแม่ห่วงเขามาก เขาเหมือนคนไม่มีความสุข ไปแต่ละวันหน้าเหมือนคนแบกโลก เหมือนเขาเครียด เขาเศร้า ที่เขาไปทำ ก็เพราะว่าจำใจต้องตามใจแม่ แม่ห่วงเขามากเลยนะ กลัวเขาจะยิ่งคิดว่าแม่กดดันให้เขาไปเจอเรื่องที่เขาไม่อยากเจอ”

บุ้งคิดว่าตัวเองพอรู้อะไรมาบ้าง แต่ก็ลางเลือนและเล็กน้อยเพราะแม้จะใส่ใจ แต่ก็ไม่คิดจะละลาบละล้วงอยากรู้เรื่องส่วนตัวของเด็กฝึกงาน

มันเป็นการเสียมารยาท แต่พอได้ฟังแบบนี้แล้ว........บุ้งเพิ่งรู้ ตัวเองคิดผิด…..
การอยากรู้เรื่องคนอื่นอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าเป็นมีน ยิ่งควรต้องรู้เรื่องส่วนตัวให้มาก ๆ เพื่อป้องกัน...........การคิดสั้นหรือการพยายามฆ่าตัวตาย

“พักหลังนี่เขาดีขึ้นนะ ทั้งที่ตอนแรก เขาเครียดมาก เขาไม่อยากย้ายลงมาทำงานข้างล่าง แม่ได้ยินเขาเคยพูด ๆ มาบ้าง แต่กลายเป็นว่าหลัง ๆ เขากระตือรือร้น แล้วก็อยากไปทำงานดูเขามีความสุข แม่ก็พลอยหายห่วงไปด้วย แต่อยู่ดี ๆ พอมาพักหลัง ๆ เขาเริ่มเงียบอีกแล้ว ........... เด็กที่เขาชอบเล่นด้วย เพิ่งเสียใช่มั้ยคะหัวหน้างาน”

ใช่ครับ

“น้องเขาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ เสียชีวิตพร้อมครอบครัวครับ ผมก็เสียใจ เพราะเด็กเขาน่ารัก แต่คนที่ดูจะทำใจไม่ค่อยได้เลยก็เป็นมีน..........เผลอเมื่อไหร่ แอบมานั่งร้องไห้ทุกวัน ผมก็ได้เห็นมาอยู่บ้างเหมือนกันครับ”

บอกเล่าเรื่องที่ตัวเองเห็นให้แม่ของมีนฟัง
และแม่ของมีนก็พยักหน้าทำความเข้าใจสิ่งที่บุ้งพูด

“อย่าบอกแกนะคะ ว่าแม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แม่กลัวแกจะอาย แต่แม่ปล่อยแกไม่ได้จริง ๆ ค่ะ แม่กลัว กลัวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย อะไรจะเกิดแม่ทำใจให้เกิดขึ้นไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”

ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี

“ช่วงนี้แกเป็นยังไงบ้างคะ ตั้งแต่แกไปอยู่แผนกของหัวหน้าแกดูมีความสุขมาก เห็นแบบนั้นแม่ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย สงสารแกนะคะ ถ้าลูกแม่ทำอะไรไม่ดีไป แม่ต้องขอโทษหัวหน้าแทนแกด้วย”

กลายเป็นว่าแม่ของเมืองมีนต้องมายกมือไหว้บุ้ง และฝากฝังกันยกใหญ่

“ฝากหัวหน้าดูแกหน่อยนะคะ ผิดพลาดยังไงแม่ก็ขอโทษหัวหน้าด้วยจริง ๆ แกออกจะแปลก ๆ กว่าคนอื่นไปซักหน่อย แต่แม่ก็กล้าพูดได้ว่า ลูกชายแม่เป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร”

ผมรู้ครับ นั่นเป็นสิ่งที่ผมก็พอจะรับรู้มาบ้าง เพราะว่ายิ่งได้อยู่ใกล้ ยิ่งรู้จักกันมากขึ้น...........บุ้งยิ่งเริ่มรู้สึกว่า..........รักและเอ็นดูมีนมากขึ้นทุกวัน เห็นมีนเหมือนน้องชายแท้ ๆ รักเหมือนน้องชายแท้ ๆ ??????????? เหรอวะ

กลายเป็นบุ้งที่อยู่ดี ๆ ก็เริ่มคิดอะไรแปลก ๆ จนต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยในความคิดของตัวเอง

“ยังไงมีอะไรโทรหาผมได้นะครับ ผมเป็นอาสาสมัครมูลนิธิด้วย โซนนี้แม้ผมไม่ได้อยู่ แต่เครือข่ายเรามีเยอะครับ มีอะไรให้ช่วยก็โทรได้เลยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เดี๋ยวผมให้เบอร์คุณแม่ไว้แล้วกันนะครับ”

บุ้งหยิบปากกาออกมาจากเสื้อตัวนอก และแม่ของมีนก็ไปค้นหากระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากลิ้นชักโต๊ะออกมาวางให้บุ้งเขียนหมายเลขโทรศัพท์ลงไปให้

“นี่เบอร์ส่วนตัวผมนะครับคุณแม่ แล้วนี่ก็เบอร์ของมูลนิธิ ส่วนนี่เป็นเบอร์ของเพื่อน ๆ ผมที่อยู่โซนนี้ มีอะไรโทรได้เลยนะครับ ไม่ต้องมาติดเกรงใจกัน”

แม่ของมีนรับเบอร์โทรศัพท์เอาไว้แล้ว และก็ยกมือไหว้ขอบคุณบุ้งอีกครั้ง

“ขอบคุณหัวหน้ามากนะคะ”

ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรจริง ๆ

“ยังไงซะ มันก็เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ผมจะดูแลน้องอย่างดีครับ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง...อยู่ที่ทำงานเขาเป็นเด็กในปกครองของผม รู้อย่างนี้แล้ว ผมคงปล่อยเขาไว้คนเดียวไม่ได้จริง ๆ ครับคุณแม่ ยังไงก็ต้องดูแลกันเต็มที่ต่อไป คุณแม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมสัญญาจะดูแลมีนเป็นอย่างดี”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 22:55:29 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ผมจะโทรมาลาป่วย”

น้ำเสียงแหบแห้งที่ได้ยินจากทางโทรศัพท์บ่งบอกให้รู้ชัดว่าคนที่โทรมาอาการหนักมากจริง ๆ

“พี่รู้แล้วว่ามีนต้องลุกไม่ไหวแน่ ๆ กินข้าวกินยาหรือยัง แม่อยู่บ้านหรือเปล่า ให้พี่พาไปหาหมอมั้ย”

ลูกพี่กูทำไมพูดจาแปลก ๆ แบบนี้วะ ผีเข้าหรือไง พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟังซะขนาดนี้ แกป่วยหรือกูป่วยกันแน่วะเนี่ย

“พี่ไม่สบายเหรอ”

ใครไม่สบาย พี่ไม่ได้ว่าไม่สบาย คนไม่สบายมันคือมีนไม่ใช่เหรอ

“ทำไมล่ะ มีนต่างหากที่ป่วยไม่ใช่พี่”

ไม่จริงอ่ะ ผมว่าพี่ป่วยหนักยิ่งกว่าผมอีก

“ปกติไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า ทุกทีเห็นมีแต่ไอ้มีน ไอ้เหี้ยมีน ไอ้ห่ามีน วันนี้เรียกมีนเฉย ๆ ผมว่ามันแปลก ๆ”

ตกลงชอบแบบฮาร์ดคอร์ไม่ชอบแบบนุ่มนวลอ่อนโยนก็ไม่บอกเนอะคนเรา

“ไอ้ห่ามีน มึงกล้าล้อกูเหรอ เดี๋ยวกูไปลากคอมาทำงานแม่งตั้งแต่วันนี้เลยดีมั้ย บิลกองจะท่วมหัวกูอยู่แล้ว อย่ามาทำสำออยป่วยนาน ๆ เชียวนะมึง”

ค่อยสมเป็นพี่บุ้งหน่อย

มีนกำลังหัวเราะ เสียงหัวเราะที่ดังมาจากปลายสาย เสียงหัวเราะที่แม้จะฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเสียงในลำคอของคนหัวเราะมันฟังดูอู้อี้ จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง

“เจ็บคออ่ะพี่บุ้ง หัวก็หมุน ๆ เมื่อคืนก็ลุกมาอ้วกตั้งหลายที”

มึงกำลังอ้อนอยู่ใช่มั้ยเนี่ย

“แล้วแม่ไม่อยู่เหรอ”

แม่อยู่

“แม่ก็มาเช็ดตัวให้ทั้งคืน จนพลอยไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วย ผม.........สงสารแม่ ถ้าผมแข็งแรงอยู่ คงไม่ต้องมาเป็นภาระให้แม่”

ผู้ป่วยมักโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของตัวเอง

หนึ่งในอาการของโรคซึมเศร้าที่บุ้งเคยอ่านมาบ้าง และชัดเจน...........มีนมีอาการนั้นจริง ๆ

“เขาทำเพราะรักมึงนี่หว่า แม่เขาเต็มใจดูแล จะป่วยหรือไม่ป่วยแม่เขาก็ดูแลมึงตลอดแหละ มึงแค่ไม่ค่อยสนใจจะมองมากกว่า”

เหรอพี่ มันก็จริง

“ผมไม่ค่อยสนใจแม่จริง ๆ ด้วย ต่อไปผมจะสนใจแม่ให้มาก ๆ จะไม่ทำตัวให้แม่หนักใจอีก”

ยังไงล่ะที่ไม่ทำให้แม่หนักใจอีก

“ก็ดื้อบ้างก็ได้มั้ง แม่มึงเขาก็คงไม่ว่าอะไรหรอก เขาก็อยากให้ลูกดื้อบ้าง ซนบ้าง ทำตัวห่วย ๆ บ้าง เหมือนวัยรุ่นคนอื่นทั่วไปเขาทำกัน”

แม่เขาจะชอบแบบนั้นจริง ๆ เหรอพี่

“ก็ดูอย่างที่มึงไปบวชซิ แม่มึงยังไปตามสึกมึงทุกวันไม่ใช่เหรอ มึงอย่าไปคิดอะไรมากซิวะ ทำตัวเหลวไหลบ้างก็ได้ ใครจะไปว่าอะไรมึง พี่เคยว่ามึงป่ะ เวลามึงทำตัวเหลวไหลกับพี่อ่ะ”

อย่าให้พูดเหอะพี่

“พี่ว่าผมประจำแหละ เวลาผมทำตัวเหลวไหลอ่ะ”

เอ่อ...........

“ใจคอมึงจะไม่ให้ใครว่ามึงเลยเหรอ กูก็ต้องด่ามึงเป็นธรรมดาสิวะ เดี๋ยวเขาก็หาว่ากูลำเอียงรักลูกน้องไม่เท่ากัน แต่ใจจริง ๆ กูเคยว่ามึงที่ไหน ไม่มี๊”

แถสดเลยเหรอพี่ พี่นี่ก็แถเก่งใช้ได้เลยนะ

“ปวดหัวแล้ว.....ยาลดน้ำมูกคงเริ่มออกฤทธิ์แล้วด้วยแหละพี่ ตอนนี้นอกจากปวดหัวแล้ว ผมก็ง่วงมากด้วย งั้นผมนอนก่อนนะพี่”

เออนอนไปเถอะ พักผ่อนเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ นะ

“มีน”

เรียกชื่อของมีนออกมาเสียงเบา และคนที่อยู่ปลายสายก็ขานรับ

“ครับ”

เอ่อ.........

“มีอะไรในใจมีนคุยกับพี่นะ อย่าไปคิดอะไรเองคนเดียว อย่าไปคิดว่าพี่เป็นแค่หัวหน้างาน ให้คิดว่าพี่เป็นพี่ชาย เป็นคนในครอบครัว มีอะไรอยากพูดอยากปรึกษามีนก็บอกพี่ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว เข้าใจมั้ย”

จะดีเหรอพี่ แบบนั้นผมว่า.........มันก็........

“นั่นไง กูบอกไม่ทันขาดคำ ว่าอย่ามาก อย่าคิดเองเออเองคนเดียว มีอะไรให้ถามกู บอกกู พูดไม่ทันขาดคำเลย มึงเริ่มคิดอีกแระ”

โหพี่ รู้ทันผมตลอดอ่ะ

“ผมยังไม่ทันคิดเลย พี่คิดให้ผมเรียบร้อยแล้ว โห่ พี่บุ้ง คิดมากไปเปล่าวะ”

ใครคิดมาก กูเนี่ยนะคิดมาก มึงไม่ใช่หรือไงที่คิดมากกว่ากู

“กวนตีนนะมึง นี่ดีนะมึงป่วย ถ้ามึงอยู่ใกล้ ๆ นะกูจะตบให้หัวคะมำเลยมึง”

โหดจังว๊า พี่ไม่ทำผมแบบนั้นจริง ๆ หรอกใช่ม้ายยยยยยย

 “ผัวทำไมใจร้ายกับเมียจัง”

อย่ามาทำเป็นออดอ้อน อย่ามาทำเสียงแบบนั้นหน่อยเลย กูรู้มึงกำลังยิ้มอยู่ไอ้ห่ามีน

“มึงยังไม่เลิกอีกนะ ไอ้เด็กห่านี่”

เลิกได้ไงล่ะพี่ ยังไม่ทันได้เป็นอะไรกันเลย จะให้ผมเลิกกับพี่แล้วเหรอ

“จะเลิกกับผมอ่ะ ได้มาขอผมแต่งหรือยัง ไม่งั้นอย่าคิดว่าจะเลิกกับผมทั้งที่ยังไม่แต่งนะ ผมไม่ยอมจริง ๆ นะพี่ เค้าไม่ย้อมมมมม”

ไอ้มีนนี่ขนาดป่วยใกล้ตายมึงยังเป็นได้ขนาดนี้ ถ้าเวลาปกติมึงคงจะลามปามขึ้นไปขี่หัวกูเลยใช่มั้ยวะ

“นอนไปเลยมึงอ่ะ รีบ ๆ นอน รีบ ๆ กินยานอน ๆ หลับไปซะไป กวนตีนกูอยู่ได้”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใจวันนี้แกล้งให้พี่บุ้งโมโหได้อีกแล้ว

“คร้าบบบบบ นอนแล้วนะคร้าบบบบบบบ ลูกพี่คร้าบบบบ”

เออ นอนไปเลยมึง

“รีบ ๆ เลย เดี๋ยวมึงจะโดน”

ก็รีบอยู่นี่ไง

“บ้ายบายนะก้าบลูกพี่ เมียนอนแล้วนะ จุ๊บ”

จุ๊บบ้านพ่อมึงดิไอ้สัด จุ๊บห่าจุ๊บเหวอะไรของมึ้งงงงง

บุ้งถึงกับส่ายหน้าหลังจากที่ปลายสายวางไปแล้วเรียบร้อย และก็ต้องผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นวิเชียรกำลังถือกระดานตารางเวลาโบกไปมาแทนพัดเพื่อคลายความร้อน

“นี่แน่ใจนะพี่ ว่าพี่คุยกับเกาหลีจริง ๆ”

ทำไมวะ แล้วมึงคิดว่ากูคุยกับใครล่ะวิเชียร

“ทำไมวะ กูก็คุยกับไอ้มีน มันโทรมาลาป่วย แล้วมึงคิดว่ากูคุยกับใครอยู่ล่ะ”

คุยกับใครอยู่เหรอ

“ผมนึกว่าพี่คุยกับแฟน หน้าพี่นี่ยิ้มมมมมมมมมม ตลอดตั้งแต่พูดคำแรก จนคำสุดท้าย นี่ถ้าผมไม่รู้ว่าพี่คุยกับมันนะ ผมคงคิดว่าพี่กำลังจีบสาวอยู่ เห็นยิ้มจังเลยวะ ยิ้มไปเอานิ้วขีดโต๊ะไปด้วย เป็นเอามากจริง ๆ ลูกพี่กู”

มึง.............พูดแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอวะวิเชียร
มึงก็เห็นว่ากูคุยกับไอ้มีนอยู่ เอาอะไรมาคิดวะ

“ไม่ใช่เลยเฮ้ยยยย.....มึงจะมาจับตาดูพฤติกรรมอะไรกูนักหนาวะ ไปทำงานไป นี่มันเวลางานแล้วนะเฮ้ย อย่ามาอู้”

ไปไม่เป็น พูดอะไรไม่ออก เมื่อถูกลูกน้องพูดบางอย่างใส่หน้าจัง ๆ ทั้งที่บุ้งไม่รู้ตัว ว่าเผลอแสดงกิริยาท่าทางแบบนั้นเข้าไปได้ยังไง

“โห ทีตัวเองอู้คุยกับเด็กผมยังไม่ว่าเล้ยยยยยยยย ทีลูกน้องล่ะด่าจางงงงงงงงงง”

ด่าอะไรของมึงวิเชียร กูก็ด่าของกูแบบนี้อยู่ทุกวัน

“ไอ้ห่านี่ มึงอย่ามาเรื่องมากเรื่องเยอะ แซวกูอยู่ได้ งานการไม่มีทำหรือไง”

งานน่ะมีเยอะแยะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก สำคัญแต่พี่แหละ ว่าวันนี้จะทำงานเสร็จหรือเปล่าแค่นั้น เห็นมองไปที่ประตูออฟฟิศขนส่งอยู่ได้ ทั้งที่พี่ก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้มีนมันไม่มาทำงาน ผมก็ยังเห็นว่าพี่ชะเง้อคอรอคอยมันจังวะ

“ไปแล้วพี่ ไปแล้ว........ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาคนกำลังมีความรัก.........หัวหน้าผม แม่งเวลาเขิน ยิ่งด่าแรงกว่าเดิมสิบเท่า บอกตรง ๆ ผมไม่กล้าจะเสี่ยงด้วยเลยจริง ๆ”


TBC.

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
น่าสงสารจังมีนเป็นโรคซึมเศร้า
วันนี้มาอ่านหลายรอบ เซอร์ไพรส์หลายรอบมาก อัพอย่างรวดเร็วสุดๆๆๆ


ขอบคุณมากเลยคะ

ลุ้นน้องมีนพีุ่่บุ้ง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จากที่นอนหัวเราะกับความช่างคิดในการตั้งชื่อให้หมาของมีนไป กลายเป็นว่าตอนนี้มานั่งสงสารมีนต่อ เปลี่ยนอารมณ์แบบคนละขั่วเลย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ไหนๆคุณแม่ก็ฝากฝังแล้ว ก็รับน้องมันมาดูแลเองที่บ้านเลยซี่พี่บุ้ง

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ขำพี่บุ้งที่เผลอแสดงอาการเขินแบบออกนอกหน้าโดยไม่รู้ตัวววว :laugh:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :กอด1:น่ารัก  น่าลุ้น

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
รักน้องให้มากๆนะค่ะพี่บุ้ง อิๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
“พี่ดูแลเมียพี่ดีขนาดนี้หรือเปล่าเนี่ย ผมล่ะอิจฉาคนที่จะมาเป็นเมียพี่จริง ๆ เลยว่ะ”

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด จะอิจฉาตัวเองทำไมน้องมีน ก็น้องไง ว่าที่เมียพี่บุ้ง
 :m3: :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

รักเกิดในแผนกขนส่ง.....ตอน อาการของโรคซึมเศร้า

“อยู่กับน้อง....มีนมันกินข้าวบ้างหรือเปล่า พี่เห็นเมื่อก่อนมีนมันมากินข้าวกับน้องประจำ”

ไอ้มีนเหรอ ไม่ค่อยกินหรอก อยู่กับผมนี่อะไรก็ไม่ค่อยกิน สั่งข้าวมากิน มันก็กินไปคำสองคำ แถมยังยกกับข้าวบางส่วนที่อยู่ในจานให้ผมช่วยกินอีกต่างหาก

“กินบ้างไม่กินบ้างพี่ กินนิด ๆ คำสองคำ มันก็เลิก มันว่ามันปวดท้อง บางทีมันก็ว่ามันไม่หิว มันไม่อยากกินอ้างของมันไปเรื่อย ผมก็ไม่รู้จะว่าอะไรมัน มันอยากมันหิวเดี๋ยวมันก็กินของมันเองแหละ โต ๆ กันแล้ว ให้ผมมาพูดเรื่องมันกินข้าวไม่กินข้าว ผมก็พูดไม่ได้ ปากมัน มันไม่กินพี่จะยัดให้มันกินได้ไงล่ะ มันก็เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะพี่”

บุ้งพยักหน้ารับฟังสิ่งที่เด็กฝึกงานอีกคนที่มาฝึกพร้อมกันกับมีนพูด

“แล้วอยู่กับพี่มันกินบ้างเปล่าพี่ ผมก็เป็นห่วงมันอยู่เหมือนกัน”

อย่าให้พูดเห้อะ

“กินทั้งวัน ทั้งน้ำ ทั้งขนม ทั้งข้าว กินตลอดเวลาก็ว่าได้มั้งนั่น”

เอาจริงดิ

“เหลือเชื่อว่ะพี่”

พากเพียรนึกแปลกใจกับสิ่งที่หัวหน้างานของเพื่อนพูด แต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจอะไรมากนัก

วันนี้ได้ข่าวว่าไอ้มีนไม่สบายก็เลยลาป่วย แต่หัวหน้างานมันยิ่งแปลกกว่า ร้อยวันพันปี ไม่เคยคุยกับกู
อยู่ดี ๆ วันนี้เดินมาคุยด้วยเฉยเลย ที่แปลกกว่านั้นไม่ใช่อะไรนะ มาถามว่าเมื่อก่อนตอนอยู่ด้วยกันกับไอ้มีนมันกินข้าวบ้างหรือเปล่า ก็ตอบไปตามที่เห็น แกก็พยักหน้า แล้วก็ขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ที่พากเพียรไม่เข้าใจ

“ขอบใจมากนะน้องที่บอกพี่”

จะมาขอบใจอะไรล่ะพี่ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่บอกไปตามจริงเท่านั้น หัวหน้าแผนกขนส่งเดินจากไปแล้ว
และพากเพียรก็กินข้าวต่อไปด้วยความงุนงงสงสัย

“เออดีว่ะแผนกนี้ หัวหน้าโคตรจะใส่ใจลูกน้องเลย ขนาดไอ้มีนมาฝึกงานแท้ ๆ ยังใส่ใจขนาดนี้ รู้งี้กูลงมาฝึกแผนกขนส่งตั้งแต่แรกก็ดี ให้ไปอยู่แผนกจัดซื้ออยู่ได้ แม่งให้กูถ่ายแต่เอกสารท้างงงงงงงงวัน”

+++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
บุ้งอ่านกระดาษข้อความที่ปริ้นมาจากอินเตอร์เน็ต และใช้ปากกาขีดลงไปในข้อความที่ปรากฏอยู่

“ถ้าครบห้าข้อ ก็ใช่เลย เป็นโรคซึมเศร้าแน่ ๆ”

บ่นพึมพำกับตัวเอง และกำลังนั่งพิจารณาว่ามีนมีอาการเหมือนข้อไหนบ้าง

“ข้อแรก อารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิด ก้าวร้าว อันนี้มีนไม่เป็น ห่านี่ยิ้มหน้าระรื่นทั้งวัน จะมีหงอย ๆ บ้างถ้ามันอยู่คนเดียว ซึ่งก็ไม่ได้เป็นบ่อย ๆ เป็นช่วงน้องแป้งตายใหม่ ๆ ตอนนี้ก็เหมือนจะไม่ค่อยเป็นแล้ว”

“สอง ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง อันนี้ก็เกือบเข้าอยู่ แต่เวลาสั่งงานมันก็กระตือรือร้นทำจนเสร็จ ไม่มีเกี่ยงงอน แต่บางทีอาจจะช้าหน่อยบางครั้ง เวลาที่มันขี้เกียจ ต้องด่ามันเพื่อเป็นการกระตุ้นมันถึงจะทำ อันนี้มันก็เข้าเค้านิด ๆ แต่ไม่น่าจะใช่”

“สาม สมาธิเสีย คือ ไม่ค่อยมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่างๆ อันนี้มีนไม่เป็น เพราะมันมุ่งมั่นมากว่าจะทำให้กูสมาธิเสียแทนมัน ไม่ใช่มันสมาธิเสีย ใช้ให้เอาบิลไปส่ง มีนทำเรียบร้อย เวลาทำงานตั้งใจทำงานจนสำเร็จภายในเวลา เพราะฉะนั้นข้อนี้มีนไม่เป็น อันนี้ถือว่าผ่าน”

“สี่รู้สึกอ่อนเพลีย อันนี้ก็อาจจะมีบ้าง แต่ไม่ใช่รู้สึกอ่อนเพลียให้เรียกว่าเป็นอาการขี้เกียจดีกว่า ต้องกระตุ้น ไม่งั้นมันจะแกล้งอู้งาน อันนี้ก็ไม่นับว่าไม่ใช่”

“ห้า.....เชื่องช้า ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด ซึ่งไอ้มีนไม่เคยช้า มันทำอะไรคล่องแคล่ว วิ่งไปนู่นมานี่ทั้งวัน ขนาดใช้ให้ไปซื้อโอเลี้ยงมันยังวิ่งไปซื้อมาให้แล้วได้กินโอเลี้ยงเร็วมาก ไม่เหมือนวิเชียรใช้ให้ไปซื้อโอเลี้ยงทีไร หายไปเป็นชาติทุกที”

“หก.....รับประทานอาหารมากขึ้น หรือรับประทานน้อยลง อันนี้ถามแล้ว เข้าเค้าอยู่ แต่มีนมันเคยเป็นโรคกระเพาะด้วย บางทีมันคงปวดท้องเพราะความเครียดที่ต้องมาทำงานมาอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยมันก็เลยอาจจะมีอาการเบื่ออาหารช่วงแรก ๆ แต่ตอนนี้มันหายแล้ว ไถตังค์กูซื้อขนมแดกทั้งวัน”

“เจ็ด....นอนมากขึ้น หรือนอนน้อยลง อันนี้ไม่รู้ ต้องไปถามแม่มัน เพราะไม่เคยเห็นมันนอน เคยเห็นครั้งเดียวตอนมันเมาแล้วไปนอนที่บ้านแล้วมันก็......................”

บุ้งชะงักมือที่กำลังขีดฆ่าข้อความที่ไม่ตรงกับสิ่งที่มีนเป็น ไม่ได้คิดอะไร ไม่เคยคิดอะไรเลยสักนิด แต่อยู่ดี ๆ ทั้งที่เหตุการณ์นั้นผ่านมาหลายวันแล้ว บุ้งถึงเพิ่งเริ่มคิด....................ห่ามีน แม่งมันเคยดูดปากกูด้วยนี่หว่า อะไรไม่เคืองเท่าเสือกเรียกกูว่า ณิรนา สรุป....เห็นกูเป็นหมา แม่งก็เลยจูบเอา จูบเอา ไอ้เด็กเวร.........

รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล แล้วบุ้งก็ขมวดคิ้วมุ่น เมื่อนึกถึงหน้าหงอย ๆ ซึม ๆ ของมีน ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน

..........หน้ามันเหมือนคนแบกโลกทั้งโลกเอาไว้จริง ๆ .......... เพราะเป็นแบบนั้น แม่มันถึงได้ห่วงมาก คนไม่รู้ก็คงนึกว่ามันเกลียดที่นี่ แต่จริง ๆ แล้วคงเป็นเพราะ...........มันปรับตัวไม่ทัน เลยไม่รู้จะปฏิบัติตัวยังไงเวลาที่อยู่ผิดที่ผิดทาง มันคงยังปรับตัวไม่ทันกับสถานที่ ที่มันไม่คุ้นเคยมากกว่า แต่พอมันคุ้นเคยแล้ว ก็อย่างที่เห็น หน้าระรื่นชิบหาย...........มีความสุขที่ได้ยั่วประสาทกูด้วยอีกต่างหาก ไอ้ห่ามีน นึกถึงแล้วก็อมยิ้ม นึกถึงหน้าของมีนแล้วบุ้งก็อมยิ้มอยู่คนเดียว

มันน่ารักจริง ๆ นั่นแหละ........เกาหลีมันน่ารัก.... น่ารักซะจนคิดว่า บางทีถ้ามันเป็นผู้หญิง...............กูอาจเป็นคนแรก ๆ ที่จะลงมือจีบมันอย่างจริงจัง หลังจากเลิกกับแฟนมาได้พักใหญ่ เสียแต่ว่ามันเป็นผู้ชาย................ก็เลย..............

“พี่ทำอะไรวะ รถเข้าแล้ว พี่นี่ชักจะเหมือนเกาหลีช่วงแรก ๆ ที่มันมาอยู่ที่นี่ขึ้นทุกวัน แค่มันไม่มาทำงานวันเดียวพี่ยังเหม่อได้ขนาดนี้ เกิดเกาหลีแม่งไม่มาเลยตลอดชีวิต พี่กูไม่เฉาตายไปเลยหรือไง”

ไอ้..............เชียร

“พูดเรื่องอะไรของมึง เพ้อเจ้อว่ะ ทำงาน ทำงาน”

เออดีเว้ยคนเรา พอทักเข้าหน่อย ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน ถามจริงเหอะพี่ ผมอยู่กับพี่มากี่ปี พี่เป็นอะไรยังไง นิสัยยังไงผมจะไม่รู้เลยเรอะ

“โห้ ยิ่งเขินแรงเวลาโดนทักก็ยิ่งด่าลูกน้องแรงขึ้นเรื่อย ๆ เน้อออออ”

วิเชียรพูดลอย ๆ แต่บุ้งขยำกระดาษในมือและปาหัวของลูกน้องที่เดินหัวเราะไปยิ้มไปและกำลังจะเดินผ่านหน้าไปแล้ว

“มีการขว้างปาสิ่งของด้วยโว้ยยยยยยย เอาแล้ว เอาแล้ว พี่กูอาการหนักแล้ว สงสัยเกาหลีจะได้เป็นเมียพี่กูแน่ ๆ งานนี้ท่าทางจะชัวร์แบบไม่ต้องลุ้นแล้วล่ะว๊า”

ตัวกวนตีนลูกพี่อันดับหนึ่งไม่อยู่ กูไม่ต้องคิดเลยว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบ้าง เพราะไอ้ตัวกวนตีนลูกพี่อันดับสองปฏิบัติหน้าที่แทนไม่มีขาดตกบกพร่อง

“แล้วนี่มันกระดาษอะไรว๊า..............9 สัญญาณอาการของโรคซึมเศร้า”

วิเชียรหยิบกระดาษขึ้นมาคลี่ดู แล้วก็เพ่งอ่านข้อความในกระดาษด้วยความสนใจ

“ใครเป็นโรคซึมเศร้าวะพี่”

ถามด้วยความอยากรู้ แต่ลูกพี่ไม่ตอบ และวิเชียรก็คาดเดาบางอย่างได้ลาง ๆ

“เกาหลีเหรอพี่”

จากไม่สนใจ ตอนนี้วิเชียรเดินมาหาบุ้งที่หน้าเคาร์เตอร์เรียบร้อยแล้ว

“กูก็ไม่รู้หรอก กูแค่อยากเช็คเฉย ๆ ว่ามีนมันเข้าเค้าอาการพวกนี้บ้างหรือเปล่า กูไม่ค่อยไว้ใจ”

เหรอ…….. เออว่ะ

“ผมเคยได้ยินมาว่า พวกที่เป็นโรคซึมเศร้า เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะทำเป็นร่าเริงสนุกสนาน แต่อยู่คนเดียวจะนั่งร้องไห้ พี่ว่าเกาหลีมันเป็นแบบนั้นหรือเปล่าวะ”

ก็..............

“เพราะกูไม่รู้นี่ไง กูถึงมาไล่เช็คอยู่นี่ ว่ามันมีอาการแบบที่ว่ามาหรือเปล่า”

เหรอพี่

“แม่ง........แถวบ้านผมผูกคอตายเลยว่ะ เห็นเขาว่ากันว่าเมียใช้ไปซื้อปลากระป๋องแล้วไม่ยอมไป เมียเลยด่า มันเลยประชดเมียด้วยการผูกคอตาย ผมก็ว่าคนอะไรมันจะฆ่าตัวตายง่าย ๆ กะอีแค่โดนเมียด่าเรื่องไม่ไปซื้อปลากระป๋องวะ ที่ไหนได้ หมอบอกเป็นโรคซึมเศร้า แล้วเกาหลีมันจะฆ่าตัวตายเพราะเราด่ามันหรือเปล่าพี่ ผมชักกลัว ๆ ขึ้นมาแล้วผมด่ามันไว้เยอะด้วย มันจะคิดมากหรือเปล่าวะพี่”

นี่มึงก็ร่วมด่ามันด้วยเหรอวะ กูนึกว่ามีแค่กูที่ด่ามันเช้า สาย บ่าย เย็น อยู่คนเดียว แต่ไม่เห็นว่ามันจะสะทกสะท้าน แถมยิ่งด่าไปแค่ไหน มันยิ่งทำหน้าระรื่นมีความสุขมากเท่านั้น ที่ได้ยั่วโมให้ให้ลูกพี่มันจะเป็นบ้าและประสาทแดกตายเพราะมันได้

“มึงไปด่าอะไรมันวะวิเชียร กูก็เห็นพวกมึงสองคนคุยกันดิบดี นี่มึงไปด่ามันมาด้วยเหรอวะเนี่ย กูเพิ่งรู้ แล้วมึงไปด่าอะไรมัน”

ก็ไม่ได้ด่าอะไรมากมายหรอกพี่

“ผมแค่บอกว่า พี่บุ้งว่ากวนตีนแล้วนะ เมียพี่บุ้งกวนตีนหนักกว่าอีก แต่ก็ไม่เห็นมันสวนกลับนะ แถมยังยิ้มให้ผมอีก ไม่รู้มันชอบหรือไม่ชอบ ผมเลยไม่รู้ว่าด่าแบบนั้นมันจะคิดมากมั้ย”

ว่าไงนะ ไหนมึงพูดใหม่อีกทีซิวิเชียร

“มึงพูดใหม่วิเชียร...........มึงพูดใหม่ดี ๆ”

เอ้ออออออออออออออ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายนี่พี่

“ผมก็แค่พูดว่าเมียพี่บุ้งกวนตีนกว่าพี่บุ้งแค่นั้นเอ้งงงงงงงงงง”

แล้ววิเชียรก็วิ่งหนีจากไปแล้ว เพราะลูกพี่ยกตีนขึ้นมาจะถึงโต๊ะเคาร์เตอร์อยู่แล้ว

ขืนอยู่ต่อก็โดนพี่บุ้งเตะคอหักสิวะ ใครจะโง่ ลาแล้วกู........

“มึงกลับมาก่อนเซ่ ไอ้ห่าเชียร กล้าพูดแล้วก็ต้องกล้ารับสิ่งที่มึงพูดให้ได้ด้วย พอกันทั้งเด็กฝึกงาน ทั้งลูกน้องกูเลย พวกมึงนี่มันขยันกวนโมโหให้กูประสาทแดกจริง จริงเลยโว้ยยยย”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 22:58:29 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“แม่น้องเมืองมีนเหรอครับ นี่ผมหัวหน้ามีนเองครับ พอดีมีเรื่องจะรบกวนคุณแม่ซักเล็กน้อย คุณแม่พอจะมีเวลาคุยกับผมซัก 10 นาทีได้มั้ยครับ”

แม่ของมีนกำลังทำข้าวต้มให้ลูกชายที่ย้ายจากนอนบนห้องลงมานอนข้างล่าง และเวลานี้มีนก็นอนหลับอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ นอนกอดหมอนหลับไปแล้ว เพราะฤทธิ์ยา

“มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าคะ หัวหน้า”

เสียงกระซิบกระซาบที่เอ่ยถามดูเป็นกังวลกับสิ่งที่บุ้งกำลังจะพูด

“ไม่หรอกครับ คืออย่างนี้ผมลองเช็คเรื่องโรคซึมเศร้าน่ะครับคุณแม่ เวลาที่น้องอยู่ที่โรงงานน้องไม่มีอาการอย่างที่ปรากฏว่าจะเป็นสัญญาณของอาการผู้เป็นโรคซึมเศร้านะครับ คือผมค่อนข้างสบายใจได้เปลาะหนึ่งแล้ว เหลือแค่ว่า ผมอยากรู้ข้อสุดท้าย..........น้องเคยคิด หรือพยายามฆ่าตัวตายบ้างหรือเปล่า”

แม่ของมีนนิ่งฟังสิ่งที่หัวหน้างานพูดแล้วก็ถอนหายใจออกมา หลังจากฟังจบแล้ว

“เรื่องนั้นน่ะ แม่ไม่ค่อยแน่ใจหรอกค่ะ แต่หลายปีก่อนหน้านี้ตอนที่เพื่อนเขาเสียใหม่ ๆ แม่เคยเจอยานอนหลับหนึ่งแผงอยู่ในห้องเขา........ไม่แน่ใจว่าเขาหามาได้ยังไง ที่แม่เห็นคือเขาแกะกินไปสองเม็ด แม่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวหรือเปล่า เรื่องที่เขาอยากฆ่าตัวตายหรือไม่อยากฆ่าตัวตายแม่ไม่แน่ใจ เพราะที่แม่เคยเจอ มีแค่นั้น”

ก็...........น่าจะไม่ใช่แล้วล่ะ คงเป็นเพราะ.........เครียดจนนอนไม่หลับมากกว่า ก็เลยหาทางออกด้วยการซื้อยานอนหลับมากิน ให้ได้นอนหลับพักผ่อนบ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องรับรู้อะไร มีนมันคงอยากนอนหลับยาวๆ แต่อย่างน้อยก็คงอยากจะตื่นขึ้นมาบ้าง ไม่งั้นมันคงจะล่อซะหมดแผงจะได้ไม่ต้องตื่นมารับรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอีก

“น้องคงเครียดล่ะครับ ผมว่า ไม่น่าจะมีอะไร”

ก็คิดว่าคงเป็นแบบนั้นค่ะ หัวหน้า

“แล้วทำอะไรอยู่ครับตอนนี้ น้องอาการดีขึ้นหรือยังครับ”

ตอนนี้เหรอคะ

“หลับค่ะ เพิ่งหลับไปได้ซักพัก แม่ก็กำลังทำข้าวต้มให้เขาอยู่ ตื่นมาถ้าเขาหิวจะได้กินข้าวต้มร้อน ๆ แล้วก็จะได้กินยา”

เหรอครับ

“ยังไงฝากบอกน้องด้วยครับ ว่าพี่บุ้งโทรมา แล้วก็บอกด้วยว่าหายเร็ว ๆ นะจะได้รีบ ๆ มาทำงานด้วยกัน พอเขาไม่อยู่แผนกผมเฉาไปเยอะเลยครับ มีนนี่เขาถือว่าเป็นสีสันของแผนกเลยก็ว่าได้”

เหรอคะ ขนาดนั้นเชียว ไอ้เจ้าลูกคนนี้เหรอคะ เป็นสีสันให้กับแผนกได้ด้วย แม่ไม่เห็นเคยรู้เลย

“เขาไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเลยค่ะ แต่ก็ดีใจ ได้ฟังแบบนี้แล้วแม่ก็ค่อยหายห่วงขึ้นมาหน่อย ยังไงฝากหัวหน้าด้วยนะคะ ถ้าทำตัวไม่ดียังไง เอ็ดได้ด่าได้นะคะ แกอาจจะติดเล่นเหมือนเด็กไปซักหน่อย แต่จริง ๆ แกไม่มีอะไร”

ครับ อันนั้นผมรู้อยู่แล้ว ไม่ใช่ติดเล่นมากหรอกครับ แต่แทบจะขึ้นมาขี่หัวกูอยู่แล้วแค่นั้นเอง ไอ้เด็กห่า เล่นเอาคนอื่นเขาเป็นห่วงกันหมด

“งั้นผมรบกวนแค่นี้นะครับ สวัสดีครับ”

บุ้งวางสายไปแล้ว และแม่ของมีนก็มองไปที่ลูกชายที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาแล้วก็ยิ้มออกมาได้

...........มีนโชคดีนะลูก มีหัวหน้างานดี ๆ แบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นแม่ไม่รู้ว่ามีนจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นคนนี้ แม่ก็ค่อยเบาใจหน่อย วางใจได้เลยร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม..............

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 22:59:34 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“คุยกับแม่ยายเสร็จแล้วเหรอพี่”

แม่ยายบ้านพ่อมึงสิ ไอ้ห่านี่ลามปาม

“กูคุยกับแม่ไอ้มีนมัน ถามว่ามันจะหายหรือยัง จะกลับมาทำงานตอนไหนแค่นั้น มึงอย่ามาตีความอะไรแปลก ๆ นะวิเชียร”

ผมได้ไปตีความอะไรแปลก ๆ ตอนไหนวะพี่

“แค่ทักว่าคุยกับแม่ยายนี่ไม่ได้เลยน๊า”

ไม่ได้สิ มันเรื่องจริงจัง จะให้กูมาทำเป็นเล่นเหมือนคุยกับพวกมึงได้ไง

“แล้วเกาหลีเป็นไงบ้างพี่”

ก็.........

“ดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวอีกสองสามวันมันก็มาทำงานได้แล้ว”

เหรอพี่

“ดีแล้วแหละให้เกาหลีหายเร็ว ๆ จะได้รีบมาทำงานไม่งั้นเกิดพี่ให้ผมคีย์บิลน้ำมันเอง ผมคงตายห่าก่อนคนแรก”

ตกลงมึงห่วงมันหรือมึงห่วงตัวเองว่าจะต้องคีย์บิลน้ำมันวะวิเชียร

“มึงห่วงมันจริงหรือเปล่าเนี่ย กูชักสงสัย”

ก็ห่วงสิพี่ ไม่ห่วงได้ไง

“โหพี่ เกาหลีไม่อยู่สองวัน แผนกเราแทบจะเงียบกริบกลายเป็นป่าช้าอยู่แล้ว ขืนหายไปหลายวันกว่านี้ ผมว่าแผนกเราคงได้เงียบเป็นป่าช้าจริง ๆ แน่งานนี้”

ก็ใช่ มีนไม่อยู่ แผนกเราเงียบจริง ๆ นั่นแหละ ต่างคนก็ต่างทำงาน วัน ๆ แทบจะไม่ได้เงยหน้ามาคุยกันด้วยซ้ำ

แรก ๆ ไม่ได้คิดอะไร พอตอนนี้ชักเริ่มคิดแล้ว นี่แค่สองวันยังเงียบขนาดนี้ แล้วถ้าเกิดมันหายไปจริง ๆ สงสัยคงต้องกลับไปเป็นแดนสนธยาที่ไม่มีใครอยากเดินเข้ามาเหมือนแต่ก่อนแน่ ๆ

“กูก็ว่างั้นแหละว่ะ”

ตอบกลับไปแล้ว และบุ้งก็ใช้ปากกาลงผลเวลาโดยรวมของรถที่เข้ามาจนหมดรอบ

“เย็นนี้กูว่าจะไปดูมันที่บ้านหน่อย มึงจะไปด้วยกันมั้ยวิเชียร”

ไปด้วยกันมั้ยเหรอ

“เย็นนี้ผมไม่ว่างสิพี่ ต้องพาลูกไปหาหมอ ไอ้คนเล็กมันเป็นหวัดมีน้ำมูกมาสองสามวันแล้ว แต่ยังไม่มีอาการไข้ นี่ให้แม่มันดูอยู่ เย็นนี้เลยว่าจะพาไปหาหมอดีกว่า ไม่อยากให้ลูกป่วยนาน”

งั้นเหรอ ก็ไม่เป็นไร แล้วแต่มึง อย่างว่าคนมีภาระ ก็ว่ากันไป

“ยังไงฝากเยี่ยมเกาหลีหน่อยแล้วกันพี่ ฝากบอกด้วยว่าบุ้งคิดถึง”

เออได้

“เดี๋ยวกูบอกมันให้”

ไม่ทันได้ฟัง ว่าลูกน้องพูดอะไร บุ้งจดเวลารถเข้าไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่น และเห็นว่าวิเชียร เดินหัวเราะเข้าโซนในไปเรียบร้อยแล้ว

“ฝากบอกว่าบุ้งคิดถึง แล้วทำไมไม่ฝากบอกว่าวิเชียรคิดถึงวะ”

ทบทวนคำพูดของวิเชียร และบุ้งก็ถึงเพิ่งรู้ว่าโดนลูกน้องเล่น งานเข้าให้แล้ว

“ไอ้วิเชียรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร มึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง”

ช้าไปแล้ว บุ้งเพิ่งมาคิดได้ก็ช้าไป เพราะวิเชียรที่ได้ยินเสียงด่าไล่ตามหลัง ไม่กลัวบุ้งจะไล่เตะอีกแล้ว กว่าลูกพี่จะรู้ตัว ก็เดินหนีรัศมีตีนมาไกล จึงถือว่าปลอดภัยแน่นอนหายห่วงร้อยเปอร์เซ็นต์

“มึงขยันชงกันนักนะ เกิดวันไหนกูคิดจริงขึ้นมา แล้วพวกมึงจะหนาวกันทั้งหมดนั่นแหละ ไอ้ห่าเชียร”


TBC.

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อ่านไปขำไป วิเชียรขยันชงจริงๆ
ส่วนมีนน่าสงสารจัง เห้ออออ

ออฟไลน์ ลิงภูเขา

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-4
ตีสองตีสามก็แอบเปิดเข้ามาดู..

หลับแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาส่อง..

อัพไวจริงๆ  :hao7:

แต่ช๊อบชอบนะ .. เดี๋ยวต้องเปิดเข้ามาดูทุกครึ่งชั่วโมง  :laugh:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
พี่บุ้งน้องมีนน่ารัก
วิเชียรก็ชงต่อไปเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากค่ะ. แต่งดีมากๆ. ชอบตัวละครทุกตัวเลย -4-

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด