@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 755214 ครั้ง)

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
นับเป็นโอกาสอันดีไม่ใช่เหรอ ที่ได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้
ห้องพักของโรงแรมเล็ก ๆ ไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ แค่พออาศัยนอนได้หนึ่งคืน และโยธินที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินเช็ดผมที่ยังเปียกชื้นออกมาจากห้องน้ำ

มานั่งอยู่บนเตียงฝั่งตัวเอง และคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงด้วยชุดพนักงานที่ใส่มาตั้งแต่เช้ายังคงไม่ลุกไปไหน เดินเข้ามาด้วยกันยังไง ตอนนี้น้องบัวก็ยังคงอยู่อย่างนั้น

นั่งอยู่ที่เดิม ด้วยท่าเดิม พร้อมกับอาการเหม่อลอยเหมือนเดิม
โยธินตากผ้าขนหนูไว้บนพนักเก้าอี้ และลงไปนั่งที่ปลายเตียงฝั่งของตัวเอง

มองไปที่คนที่นั่งกอดเข่าเงียบ ๆ แล้วก็รู้สึกคล้ายกับว่าเกิดอาการใจหายขึ้นมา

นี่ไม่ใช่แบบที่คิดเอาไว้ อย่างน้อยให้เราทะเลาะกันและโกรธกัน เหมือนก่อนหน้านี้มันคงดีกว่าให้น้องบัวมานั่งเหม่อไม่พูดไม่จาไม่หือไม่อือ ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แบบนี้

โยธินใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ไปที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อเช็คดูข้อความที่ลูกค้ามักจะส่งข้อมูลมาให้

ใช้ระบบโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่ากับราคาของโทรศัพท์ที่ซื้อมาใช้ ระบบต่าง ๆ ของโทรศัพท์ในยุคปัจจุบันทำให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตรวดเร็วทันใจขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ในขณะที่โยธินใช้เทคโนโลยี อย่างคุ้มค่าแต่ใครอีกคนที่หน้าตาไม่น่าจะเป็นคนห่างไกลเทคโนโลยี

ยังคงใช้โทรศัพท์เครื่องเล็ก ๆ ที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรเข้าโทรออก และฟังเพลงได้แถมด้วยฟังชั่นกล้องถ่ายรูปที่ถ่ายแล้วแทบจะมองไม่เห็น

อยากรู้ว่าทำไมน้องบัวมันถึงยังใช้โทรศัพท์รุ่นแบบนี้อยู่ ทั้งที่วัยอย่างนี้ น่าจะอยากวิ่งไล่ตามเทคโนโลยี
แต่ดูท่าทางน้องบัวจะไม่สนใจเรื่องนี้เอาซะเลย เคยอยากรู้เหตุผล แต่ไม่เคยได้คุยกันจริง ๆ จัง ๆ

สิ่งที่โยธินทำได้ในตอนนี้ก็เลยเป็นการพยายามหาเรื่องมาหยอกล้อให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็อาจจะหงุดหงิดขึ้นกว่านี้

แต่ยังไงมันก็คงดีกว่านี้ล่ะน่า คงดีกว่า การที่น้องบัวนั่งเหม่อไม่พูดไม่จา

โยธินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเลือกฟังชั่นกล้องถ่ายรูปเพื่อจะบันทึกภาพของคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ตั้งใจให้ทุกรูปที่ถ่ายมีเสียงให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงอีกฝั่งได้ยิน

และก็เหมือนน้องบัวจะรู้สึกตัว หันหน้ามามองโยธินที่กำลังเล็งกล้องโทรศัพท์

และถึงแม้จะถูกทำแบบนั้นใส่ คนที่นั่งอยู่ก็ไม่ทำอะไรมากไปกว่ามองหน้าโยธินแบบไร้อารมณ์และถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงและไปหยิบผ้าขนหนูมาถือเอาไว้ เดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าสำหรับใช้ผลัดเปลี่ยนออกมา และเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่สนใจโยธินที่ลดมือลงและมองตามคนที่เดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว

แบบนี้ไม่ธรรมดา แบบนี้มันผิดปกติเกินไป อย่างน้อยหันมาด่าหรือต่อว่ากันบ้างก็ยังดี แต่นี่ไม่ใช่เลย แค่เพียงมอง ถอนหายใจ และเดินหนีไป

แล้วจะให้โยธินทำยังไง แบบนี้ควรจะทำยังไงดี
เป็นครั้งแรกที่โยธินคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับคนที่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองคืนนี้

ทำไมถึงรู้สึกคล้ายตัวเองกำลังจนมุมอย่างไม่น่าเชื่อ

เอาน่า มันไม่ใช่เรื่องยากหรอก ถ้าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้ผล ก็ลองใช้วิธีถัดไปสิ วิธีแบบที่เคยใช้ได้ผลมาตลอด
ไม่ว่าจะใช้กี่ครั้งก็ได้ผล และครั้งนี้โยธินก็คิดว่ามันจะยังคงได้ผลเหมือนเดิม เหมือนที่ผ่าน ๆ มา
พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าพี่ทำแบบนี้อีกครั้งแล้วบัวจะทำยังไง

++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ฮัทแขวนผ้าขนหนูไว้ที่พนักเก้าอี้ฝั่งของตัวเอง ไม่สนใจคนที่นั่งอยู่บนเตียงอีกฝั่งและกำลังค้นหาข้อมูลบางอย่างในโทรศัพท์

ต่างคนต่างอยู่แบบนี้แหละดีแล้ว

โปรก็โปรซะให้เนียน

ต่างคนก็ต่างโปร เพราะฉะนั้นคนที่มีความโปรอยู่ในตัวทั้งสองคน จึงใช้วิธีนิ่งเงียบใส่กันและต่างคนต่างอยู่

ฮัทดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมที่ขา และหยิบโทรศัพท์มาตั้งเวลาปลุก

ไม่มองไม่สนใจ ไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับคนที่อยู่บนเตียงอีกฝั่ง

ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอน

และโยธินก็เงยหน้าขึ้นมามอง วางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้บนหัวเตียงและก้าวขาลงจากเตียง

เดินมาหา เดินเข้ามาใกล้ และค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงของคนที่นอนหันหลังให้

“น้อง.........บัว”

แกล้งลากเสียงยาว ๆ หลอน ๆ ใส่ และคนที่นอนอยู่ก็รีบหันมามองทันที

มีอะไร
มานั่งบนเตียงกูทำไม

“.................”

ยังคงไร้คำพูด ไม่มีการพูดจาโต้ตอบใด ๆ ทั้งสิ้นนอกจากสายตาที่มองไปที่ใบหน้าของโยธินอย่างหวาดระแวง

ผุดลุกขึ้นนั่งทันที และคนที่มานั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ทำแบบที่เคยทำ จัดการรวบร่างของคนที่ลุกขึ้นนั่งมากอดเอาไว้

กอดเอาไว้แน่น และกดปลายจมูกหนัก ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่โยธินคาดคะเนเอาไว้แล้วว่าคงจะทั้งดิ้นรนทั้งสะบัดหนี และตะโกนด่าโยธินเหมือนอย่างที่เคย

ยิ้มออกมาน้อย ๆ และยังคงกอดรัดร่างของคนที่อยู่ในอ้อมแขนเอาไว้แน่น

“อ๊า วันนี้ไม่ด่าดั๊วะ เป็นไรกั๊บน้องบัว หื้อออ เป็นไรอ่า หน้าบูดทั้งวันเลย แล้วไม่โกรธพี่โยแล้วเหรอ ทำไมวันนี้ให้กอดง่ายจัง”

กูแม่งไม่รู้เหี้ยอะไรแล้ว ไม่รู้จริง ๆ ว่ะไม่รู้จริง ๆ ว่าควรทำยังไงต่อไป

อะไรมันก็ดูผิดแผกแตกต่างไปจากที่คิดไปซะหมด
เรื่องที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รู้ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วแบบไม่คาดคิด

ที่ผ่านมามันคืออะไรวะ
พวกพี่ ๆ จงใจปิดบังอย่างนั้นเหรอ พวกพี่ ๆ ทำแบบนั้นทำไม

ทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรก ทำไมไม่บอกกันตรง ๆ
แล้วยังเรื่องของโยธินอีก

มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่พวกพี่ ๆ ปล่อยให้โยธินเข้ามาในแผนก

พวกพี่ ๆ........บอกว่าเห็นกูเป็นน้องคนเล็ก

มันจริงเหรอวะ
กูเป็นน้องคนเล็กจริงเหรอวะ

แล้วกูเป็นน้องคนเล็กประสาเหี้ยอะไร ถึงไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย ทั้ง ๆ ที่เราอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่แล้ว

ทั้งที่คิดว่าเชื่อใจกันแล้วแท้ ๆ ทั้งที่คิดว่าเราอยู่ด้วยกันและเหมือนพี่น้องกันแล้วแท้ ๆ

แล้วสิ่งที่หัวหน้าบุ้งพูดคืออะไร

แล้วสิ่งที่เห็นคืออะไร

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคืออะไร

แม่ง กูมันโง่ ที่มีตาแต่ดูไม่ออก กูแม่งโง่ โง่สุด ๆ
โง่จนต้องเรียกตัวเองว่าควาย

กูแม่งควาย
ควายชัด ๆ

สิ่งที่ฮัททำในเวลานี้ คือการเบี่ยงหน้าหลบคนที่ไม่ยอมหยุดอยู่แค่หอมแก้ม แต่ยังพาลกดปลายจมูกลงมาที่ซอกคอด้วย

แล้วนี่มันคืออะไร
นี่คืออะไรวะ

หรือว่าที่ส่งกูมากับโยธินก็เพื่อให้มันทำแบบนี้

สงสัยจะใช่

ท่าทางจะใช่

เรื่องนี้มันใช่ซะยิ่งกว่าใช่อีก

อะไรคือความเชื่อใจ แล้วต้องผิดหวัง แบบนี้ใช่มั้ย ที่เรียกว่าผิดหวังเพราะความเชื่อใจ และสุดท้ายความเชื่อนั้นไม่เคยมีจริง มันยังคงเป็นแค่ความเชื่ออยู่เสมอ

ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ทำไมถึงต้องไล่ต้อนให้จนมุมขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย

มันเจ็บ มันปวด แบบนี้มันทรมาน ทรมานจนเกินจะทนต่อไปไหว

สิ่งที่ฮัททำคือนั่งอยู่นิ่ง ๆ ให้โยธินทำทุกอย่างตามใจ
พอแล้ว ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว อยากได้อะไร อยากทำอะไรก็ทำเลย เอาให้พอใจ เอาให้สาแก่ใจ แล้วพอซะที หยุดซะที

ขอร้อง ได้โปรด จบเรื่องนี้ไปซะ

ไม่ได้อยากร้องไห้ แต่คล้ายน้ำตามันไหลตกอยู่ข้างใน
แสยะยิ้มด้วยความสมเพชตัวเองที่เพิ่งรู้ว่าเป็นคนที่โง่ที่สุดในแผนก

ไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่เพราะแบกรับทุกอย่างมามากเกินไป มากจนเหมือนกำลังจะระเบิดออกมาแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเหม่อลอยและนิ่งเฉย

“...........” ความเงียบมาพร้อมกับท่าทีนิ่งเฉยไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้น

และโยธินก็รู้สึกและสัมผัสได้

ผละใบหน้าออกห่างจากซอกคอขาวที่กำลังซุกไซร้อย่างเอาแต่ใจ

ดวงตาที่มีแต่ความถือดี และไม่ยอมแพ้ อ่อนแสงลงแล้ว เหลือไว้เพียงดวงตาที่เหม่อลอยไร้ความรู้สึก

“.............”

ช่างหัวแม่ง จะเป็นยังไงก็เป็นเหอะ

แม่งอยากจะเป็นยังไงก็ให้มันเป็นไป

ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อยู่แล้ว ไม่อยากจะทำอะไรอีกต่อไปแล้ว อยากจะเอาแต่ใจขนาดไหน อยากจะทำขนาดไหนก็เอาเลยให้พอใจ เอาเลยให้สาแก่ใจ เพราะกูจะไม่อยู่แล้ว

ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง จะไม่สนอีกต่อไปแล้ว

“บัว….”

โยธินเรียกชื่อของคนที่นั่งนิ่งเงียบ ด้วยหัวใจสั่นสะท้าน ภายในอกกำลังไหววูบ ไม่คิดว่าจะเจอภาพแบบนี้แต่เมื่อได้เห็นก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก

รีบผละออกจากร่างที่กำลังกกกอด และแค่ออกห่าง คนที่เหม่อลอยก็ล้มตัวลงนอนและพลิกกายหนีไปอีกทาง ก่อนจะซบใบหน้าลงกับหมอน

นิ่งเงียบไร้คำพูดใด ๆ ทั้งสิ้น
และโยธินก็คล้ายกับไม่รู้จะทำยังไงต่อไป

ถึงกับอึ้งกับปฏิกิริยาที่ไม่เคยเจอของคนที่ไม่ยอมพูดด้วย


“บัว”

เรียกแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีทางหันมา เรียกแค่ไหนและพยายามรั้งร่างของคนที่ซุกซบใบหน้ากับหมอนให้หันมาหาแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าฝ่ายนั้นจะยอมหันมา

“บัว....พี่ขอโทษ บัว...อย่าโกรธเลยนะครับ บัวครับ...น้องบัว”

จะให้ทำยังไงถึงจะพูดกันบ้าง จะให้ทำยังไงถึงจะทำให้น้องบัวเปิดใจให้กันบ้าง

“พี่ขอโทษ บัว พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำอย่างนี้กับบัวอีกแล้ว บัว หันมาเถอะ หันมาคุยกันก่อน อย่าทำแบบนี้เลย บัว”

แม้จะขอร้อง แม้จะอ้อนวอนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งเรียก ยิ่งดึง ยิ่งรั้ง ก็เหมือนอีกฝ่ายจะยิ่งทั้งฝืน และยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ

ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ จากเดิมที่แค่จะแกล้งเล่นให้โกรธให้โมโห แล้วทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้

สิ่งที่โยธินทำได้ในเวลานี้ คือเอนกายลงนอนเคียงข้างคนที่ยังซุกซบใบหน้ากับหมอน และยังคงนิ่งเงียบไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้น

แตะฝ่ามือไปที่ลาดไหล่ของคนที่นิ่งเฉย และจูบเบา ๆ ที่เส้นผมของคนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหันมาพูดคุยกันซักคำ

ฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบไล้เบา ๆ ที่เส้นผมนิ่ม
ไม่รู้จะทำยังไง มีแต่ความอึดอัดใจเกิดขึ้นเต็มไปหมด

ระหว่างเราสองคนมีแต่ความอึดอัดใจ ที่ไร้คำพูด

“บัว....น้องบัวครับ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว พี่สัญญาจะไม่รังแก จะไม่ทำให้บัวโกรธขนาดนี้อีกแล้ว”

พร่ำพูดแต่คำพูดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และโยธินก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความกลัดกลุ้ม

แตะริมฝีปากที่ไหล่ของคนที่นิ่งเฉย และจูบเบา ๆ ที่เส้นผมนิ่มอีกหลายครั้ง

ไม่รู้ว่าทำแบบนี้อีกทำไม
แต่ก็ยังอยากจะทำ และอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะทัดทานหรือห้าม นอกจากความเงียบงันและไร้คำพูด

สอดมือเข้าไปใต้หมอนและดึงให้คนที่ซุกหน้ากับหมอนให้ผละออกมาหา และมาซุกซบใบหน้าอยู่ในอ้อมแขน

กอดเอาไว้
พูดแต่ถ้อยคำหวาน ๆ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบานุ่มนวล

“เมื่อไหร่บัวจะหายโกรธพี่ซักที เมื่อไหร่บัวจะเปิดใจให้พี่ซักที”

โยธินยังคงพร่ำพูดคำพูดเดิม ๆ แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“โกรธพี่ก็ได้ โมโหพี่ก็ได้ แต่อย่านิ่งเฉยกับพี่แบบนี้เลยพี่ขอร้อง”

สิ่งที่ฮัทได้ยินคือน้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนของใครบางคนที่บอกตัวเองว่าไม่อยากให้เข้ามาหา ไม่อยากให้เข้ามาใกล้ ไม่อยากให้เข้ามามีส่วนอะไรในชีวิตอีกต่อไปแล้ว

ไม่เคยคิดว่าจะอ่อนข้อให้

ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องมานอนซุกอยู่กับอกของคนนี่ตัวเองทั้งเกลียด ทั้งอยากทำร้ายเอาคืนให้สาสมใจ

ในหัวมีแต่ความมึนงงสับสน กลับก็ไม่ได้ ไปก็ไม่ถึง
ครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่แบบนี้

“จะให้พี่ทำยังไงบัวถึงจะพอใจ”

กูไม่รู้
เรื่องนั้นกูไม่รู้หรอก แต่ตอนนี้กูทุกข์ใจมาก

ทุกข์เพราะสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับรู้

แต่ตอนนี้คล้าย ๆ กับความอึดอัดในใจมันเบาบางลง

ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คลายความทุกข์ใจลงไปได้บ้าง
ไม่รู้ว่าความอึดอัดกดดันในหัวใจค่อย ๆ คลายลงอย่างช้าๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่คิด
ไม่เคยแม้แต่จะคิด

ไม่เคยคิดเลยซักนิดว่าในวันหนึ่งต้องกลายมาเป็นแบบนี้
ไม่เคยคิดว่าจะได้รับการปลอบโยนจากคนที่เกลียดชังขนาดนี้

ไม่เคยอยากคิด และไม่เคยเชื่อ จนกระทั่งวันนี้

ฮัทรู้สึกว่าภายในหัวใจที่คล้ายมีบางอย่างกดทับหนัก ๆ มาตลอดหลายชั่วโมงตั้งแต่เดินทางค่อย ๆ คลายลงอย่างช้า ๆ

ในสมองยังคงครุ่นคิดเรื่องบางอย่างด้วยความสับสน
แต่ในความมึนงงสับสนกลับมีความอบอุ่นที่เกิดภายในใจทีละเล็กทีละน้อย

นอนกระพริบตาเงียบ ๆ อยู่ในอ้อมแขนของโยธินที่ลูบไล้เส้นผมนิ่มไปมาอย่างแผ่วเบา

เรายังโกรธกันหรือเปล่าก็ไม่รู้
เรายังเกลียดกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่สิ่งที่สัมผัสได้ในเวลานี้คือ รู้สึกอบอุ่นมาก
รู้สึกว่าสบายใจขึ้นบ้างแบบไม่น่าเชื่อ

ไม่น่าเชื่อ.........ว่าความรู้สึกเหล่านั้น จะได้รับจากคนที่ตัวเองเกลียดแสนเกลียดที่ชื่อว่าโยธิน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“บัวลืมอะไรหรือเปล่า”

ไม่ตอบ ไม่มีคำตอบ นอกจากความนิ่งเงียบ และโยธินก็ถือเอาว่านั่นคือคำตอบ
คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าของคนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่บนเตียงขึ้นมาช่วยถือด้วย

“ไม่ต้อง เดี๋ยวหิ้วเอง”

ฮัทรีบลงจากเตียงมาดึงกระเป๋าของตัวเองที่อีกฝ่ายถือเอาไว้ให้ และโยธินก็ยิ้มออกมาได้เมื่อได้ฟังคำพูดแรกของคนที่นิ่งเฉยใส่กันมาตลอดทั้งวันทั้งคืน

“ไม่เป็นไรพี่ถือให้ บัวดูเหมือนคนนอนไม่พอ ดูเครียดๆ ด้วยไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ถือให้ดีกว่า”

บอก และฮัทก็ยอมปล่อยมือจากกระเป๋าของตัวเองง่าย ๆ ก้าวขาเดินตามคนที่หิ้วกระเป๋าลงมาให้และเข้ามาอยู่ในลิฟท์ด้วยกัน

ไม่มีใครพูดอะไรอีก จนกระทั่งคืนคีย์การ์ดและติดต่อกับโรงแรมที่พักเรียบร้อยแล้วฮัทก็เดินตามอีกฝ่ายมาขึ้นรถ

“เมื่อคืนบัวไม่ค่อยได้นอน บัวนอนในรถหลับไปเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่ขับเองแล้วกันนะ”

ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด และก็ยอมเดินตามขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับเงียบๆ
รถค่อย ๆ เคลื่อนออกจากที่พักโดยมีโยธินเป็นคนขับรถให้

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ ระหว่างเรามีเพียงความเงียบงัน และไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาอีก
โยธินไม่รู้ว่าระหว่างเราเรียกว่าอะไร ไม่รู้ว่าตอนนี้เราเป็นอะไรกันหลังความพยายามอย่างยาวนาน


“..................”

“................”

ไร้คำพูด แต่ความสับสนภายในใจยิ่งหยั่งรากลึกลงในใจของฮัทมากขึ้นทุกวัน

“นิลพัทเป็น........เอ่อเป็น....ยังไงบ้าง”

เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ชวนโยธินคุยเป็นครั้งแรก
เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่โยธินต้องหันมามองหน้าของคนที่ชวนคุยแต่ไม่ได้หันมาหาและมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างรถ

เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าหัวใจกำลังพองโตขึ้นอย่างน่าประหลาด และมันกำลังพองโตจนแน่นคับไปทั้งอก

โยธินกำลังยิ้ม ยิ้มกว้าง เพราะคำทักทายคำแรกคำนั้น

“ตอนนี้กำลังพยายามหัดเดินอยู่ พี่ไม่ได้บอกเหรอว่าพานิลพัทไปผ่าขา หมอบอกว่าช่วงระหว่างสะโพกที่ต่อกับขามันมีปัญหา ตอนที่พี่ไม่อยู่ พี่เลยฝากนิลพัทไว้ที่โรงพยาบาล หมอบอกว่ามันอาจจะหายและเดินได้ปกติในเร็ว ๆ นี้ถ้ามันไม่ดื้อไม่ซน เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพพี่ก็จะไปรับนิลพัทที่โรงพยาบาลสัตว์ที่พี่ฝากเอาไว้ ...........บัว....จะไปเยี่ยมนิลพัท....ด้วยกันกับพี่มั้ย”

ไม่รู้นะ ถ้านี่เป็นการเปิดโอกาสให้ โยธินก็คิดว่าควรจะรักษาโอกาสตรงนี้เอาไว้

“ไม่ไป....”

ครับ

เข้าใจแล้ว ไม่ไปก็คือไม่ไป

“........ต้องกลับไปเอาประวัติรักษาคราวก่อนที่โรงพยาบาลเก่าก่อน บางทีถ้าเอาไปให้หมอช่วยดูประกอบกันด้วย คงดีกว่าไม่เอาอะไรไปเลย........ถ้า....ไปแวะโรงพยาบาลเดิม....เพื่อไปเอาประวัติรักษาก่อน ได้มั้ยล่ะ....แล้วค่อยไปเยี่ยมนิลพัท ได้หรือเปล่า”

โอกาส สิ่งที่โยธินได้รับในเวลานี้เรียกว่าโอกาส และเป็นโอกาสที่สดใสมากซะด้วย สดใสมากซะจน ทำให้ยิ้มกว้าง
ยิ้มและรู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่ได้ยินมากที่สุด

“งั้นพี่จะพาบัวไปเอาประวัติรักษาที่โรงพยาบาลเดิมที่เคยเอานิลพัทไปรักษา แล้วเราไปรับนิลพัทที่โรงพยาบาลกัน ตกลงมั้ยครับ”

เอาอย่างนั้นก็ได้........ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็.........

“อือ”

ฮัทตอบกลับไป และโยธินก็ยิ้มกว้างไม่ยอมหุบเมื่อได้ฟังการตอบตอบรับจากอีกฝ่าย

นี่สินะความสุข นี่สินะความสุขของการได้รับโอกาส แบบนี้สินะ ความสุขแห่งการรอคอยและได้รับความหวังกลับมา

โยธินกำลังยิ้มอย่างมีความสุข แต่ฮัทมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับกำมือแน่นและขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดเรื่องบางอย่างในหัวด้วยความรู้สึกสับสน และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้พูดจาแบบนี้ออกไป

ถ้าลั่นวาจาออกไปแล้วว่าโปรพอ ตอนนี้ก็ควรโปรพอ การโปรพอไม่ได้หมายความว่าคุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น
แต่หมายความว่าต้องใส่ใจคนที่เป็นบัดดี้ในเวลานี้ด้วย สิ่งที่ทำก็แค่อยากให้โยธินรู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าโปรพอ
กูแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้ และตอนนี้กูก็แยกมันออกแล้ว มึงเป็นเพื่อนร่วมงานเป็นบัดดี้ที่ดี งั้นกูจะปฏิบัติกับมึงแบบบัดดี้ที่ดีเขาทำกัน ไหน ๆ ก็เลี่ยงไม่ได้ หนีไม่ได้ ก็จะพูดจากับมึงดี ๆ ดู

แต่อย่านึกหรือหวังว่ากูจะคิดอะไรกับมึง

ฮัทคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่อาจเรียกว่าดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อหันไปมองใบหน้าของคนที่กำลังยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ฮัทก็รีบเบือนหน้าหนีไปมองที่นอกหน้าต่างรถอย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกยังไงกันแน่ รู้แค่ว่าในเวลานี้คล้าย ๆ ตัวเองยิ่งสับสนและไร้ทางออกมากขึ้นทุกที
ในขณะที่โยธินยิ้ม ฮัทกลับรู้สึกว่าตัวเองอยากร้องไห้ ช่างหัวแม่งเหอะ จะเป็นยังไงก็ช่าง นี่คงเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่กูจะทำ
กูจะทำมันให้ออกมาดีที่สุด แล้วเมื่อกลับถึงกรุงเทพกูจะได้เขียนใบลาออกแบบไม่รู้สึกผิดอะไร

กูไม่ผิดที่ลาออก

เหตุผลในการลาออกมีมากมาย หนึ่งในเหตุผลที่คิดจะเขียน...........ฮัทคิดเอาไว้แล้ว

..................ถูกทำลายความเชื่อใจจากคนที่รักใคร่และนับถืออย่างรุนแรง.................


TBC.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 คิดไปแบบเข้าใจไปคนละทางถึงไหนแล้วลอย

foolishbeat

  • บุคคลทั่วไป
น้องบัวกำลังเข้าใจพี่ๆผิดนะคะลูก

ออฟไลน์ Scream

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอาแล้วน้องบัวเอ้ยยยยยย  :hao5:
อย่าคิดมากเด้ เอาไงต่อดีพี่ๆ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :m31:   ไม่นะๆ อย่าลาออกสิ  น้องบัวไม่ได้โดนหลอกซะหน่อย แค่น้องดูไม่ออก เอ๊ย แค่น้องซื่อ   เอ๊ย แค่น้องโง่เกินไป  จนมองไม่ออกว่าพี่ๆเค้าเป็นผัวเมียกัน  เท่านั้นเอง   :katai1:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เข้าใจไปคนละทิศละทางแล้วนะน้องบัว  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
คิดมากจริงๆบัวเอ้ย สงสาร เป็นเด็กคิดมากเหรอเนี่ย  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
น้องบัวอย่าเพิ่งลาออกนะ คุยกับพี่ๆก่อน มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
บัวลอยคิดไปไหนต่อไหนแล้วนั่น

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ใครออกหัวคิดบอกความจริงบัวลอยแบบนี้

น้องยังช๊อคไม่หาย ถ้าลาออกไปพวกพี่ในแผนกก็สมควรง้อทั้งหมด

น้องบัวยิ่งคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเค้า ใจแข็ง สุดๆๆ

พี่โย เป็นพระเอกที่น่าสงสารสุด

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ไปกันใหญ่แล้วน้องฮัท คิดไปซะไกล อย่าเพิ่งลาออกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน ตำแหน่งของวิเชียร


สองวันแห่งการเดินทาง จบลงอย่างง่ายดาย โยธินคิดว่าได้พัฒนาความสัมพันธ์ของเราไปอีกขั้นหนึ่ง

ได้กินข้าวด้วยกัน แม้จะเป็นแค่ข้าวกล่องธรรมดา แต่ได้นั่งข้างกัน แล้วกินข้าวด้วยกันแค่นั้นก็นับว่ามากเกินพอแล้ว
ที่แปลกใจมีเพียงเล็กน้อย น้องบัวไม่พูดอะไรเลยตลอดการเดินทาง

ที่สำคัญคืนที่ค้างด้วยกันคืนนั้นน้องบัวยอมให้นอนกอดด้วย แม้จะเป็นการให้กอดแบบแปลกๆ ๆ ก็ตาม

แบบนี้เรียกว่าเป็นการพัฒนาไปไกลแบบสุดกู่หรือเปล่านะ คิดแล้วก็ยิ้ม คิดอย่างมีความสุข
เช้านี้ก็เหมือนทุกวันที่ตื่นแต่เช้าเพื่อทำข้าวใส่ปิ่นโตเพื่อจะไปส่งคนที่เพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

เดินยิ้มมาที่ลานจอดรถ และก็กดรีโมทเปิดประตูรถ แต่ไม่ทันจะก้าวเข้าไปนั่งในรถก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นซะก่อน

“โอ้ยยยยยยยยย เหี้ยเอ้ย ใครวะ”

หันไปมอง และก็ต้องผงะและถอยหนี เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนที่รออยู่ก่อนแล้ว

“อย่ายุ่งเรื่องนี้อีก นี่แค่การสั่งสอน ถ้าไม่หยุด มึงจะเจ็บยิ่งกว่านี้”

เจ็บกว่านี้เหี้ยอะไรล่ะ พวกมึงรุมกระทืบกูอยู่เนี่ย ไอ้สัส เจ็บกว่านี้อะไรล่ะโว้ยยยยยยยยย แค่นี้ก็เจ็บจะตายห่าแล้ว
ไม่ทันร้องให้ใครช่วยและก็รู้ว่าถึงร้องให้คนช่วยก็คงไม่มีใครช่วยได้

สิ่งที่โยธินทำได้ก็มีเพียงแค่ป้องกันตัว และยกแขนขึ้นบังใบหน้าให้มากที่สุด

สัส

นี่มันเครื่องมือทำมาหากินกู กระทืบเหี้ยอะไรที่หน้ากูอยู่ได้

แม่งเอ้ยยยยยยยยย

แล้วดูแม่งทำ ทุบรถกูอีกได้สัด อะไรของพวกมึงวะเนี่ย ตั้งใจให้กูหมดเครื่องมือทำมาหากินจริง ๆ ใช่มั้ยวะ

เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วและเมื่อชายกลุ่มนั้นทำร้ายโยธินจนลงไปนอนจมกองเลือดได้ ก็รีบกรูกันไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว

สิ่งที่โยธินจำได้ก่อนสติจะดับวูบไป คือหมายเลขทะเบียนของรถกระบะคันนั้น

ทฐ-12XX กรุงเทพมหานคร

++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2014 23:35:45 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“เรื่องลาออกของมึงกูขอพักไว้ก่อน ตอนนี้มีเรื่องใหญ่กว่าให้กูต้องไปจัดการ โยธินอยู่โรงพยาบาล รถมันโดนทุบ และตัวมันเองก็โดนรุมกระทืบ ตอนแรกกูนึกว่าโจทก์มัน แต่คนทำมันพลาดไปหน่อยเพราะกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ รถที่พวกมันขนคนมากระทืบโยธิน ทะเบียนเดียวกับที่เป็นของบริษัทเดิมที่ทำสัญญาจ้างกับคนที่กำลังจะมาเป็นลูกค้าเรา”

หัวหน้าบุ้งพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

แต่ภายในดวงตาไม่ได้ราบเรียบเหมือนกับน้ำเสียงที่พูด

“มันเป็นไงบ้าง แล้วจะให้ทำยังไงต่อ ให้ผมบอกเฮียมั้ย”

วิเชียรเดินออกมายืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าหัวหน้าแผนกขนส่งและเอ่ยถามความคืบหน้าของเรื่องที่เกิดขึ้น

“อย่าเพิ่ง ตอนนี้นายรู้เรื่องแล้วและกำลังไปโรงพยาบาล มึงอยู่ทางนี้ก่อน มีอะไรเดี๋ยวกูโทรหา ฝากไอ้แก๊ปกับไอ้พู่ดูความเรียบร้อยวันนี้ด้วย พี่สุรชาติไปข้างนอกยังไม่กลับ กูโทรบอกเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่สุรชาติจะเข้ามา”

สั่งงานเรียบร้อย และวิโรจน์ก็เดินหน้าเครียดเข้ามาอีกคน

“ไปยังหัวหน้า เพื่อนผมทำอยู่ขนส่ง เดี๋ยวให้มันตรวจสอบเพิ่มว่ารถสวมทะเบียนหรือเปล่าแล้วแจ้งจดไว้ที่ไหน ขืนรอตรวจสอบไปแบบตรง ๆ แม่งช้า เล่นนอกรอบแบบนี้แหละเร็วดี”

ไม่มีใครสนใจคนที่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกอย่างฮัทซักคน

มีเรื่องใหญ่กว่านั้นให้ต้องทำจริง ๆ อย่างที่พี่บุ้งว่า

โยธินโดนกระทืบ.......และรถโดนทุบ

“หัวหน้า.......ผม...”

อยากจะขอไปด้วย แต่ก็อ้าปากพูดไม่ทัน เพราะหัวหน้าบุ้งเดินเข้าโซนในไปขึ้นรถพร้อมพี่วิโรจน์แล้ว

ได้แต่ยืนงงอยู่คนเดียว เพราะคนอื่น ๆ กำลังยุ่ง

แล้ว..........กูควรทำยังไงวะเนี่ย

“บัว”

ได้ยินเสียงเรียกและคนที่กำลังทำอะไรไม่ถูกก็เห็นว่ามีนเปิดประตูจากในออฟฟิศออกมาหาและตะโกนเรียก

“มาข้างในออฟฟิศมั้ย วันนี้พี่บุ้งให้บัวหยุดพักไม่ใช่เหรอแล้วบัวมาทำไมไม่นอนพักก่อนล่ะ ไม่เหนื่อยเหรอ”

เหนื่อยเหรอ
เหนื่อยหรือเปล่าเหรอ

ไม่รู้จะตอบออกไปยังไง

และยอมเดินไปหามีนที่ออฟฟิศ เข้าไปแล้วก็ไปนั่งบนโซฟาหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ และมีนก็ไปนั่งที่เก้าอี้ที่ใช้คีย์บิลเป็นประจำ

“เป็นยังไงบ้าง”

แค่คำทักทายแรก ก็ทำให้ฮัทต้องกุมขมับด้วยความเครียด

คำว่าเป็นยังไงบ้างของมีน มันทำให้คนที่แทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ยิ่งอยากร้องไห้

ไม่รู้แล้ว
ไม่รู้อะไรด้วยแล้ว

ไม่รู้........จริง ๆ

“.................”

ภายในใจมีแต่ความสับสนมึงงงไปหมด ทำไมกลายเป็นแบบนี้ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง ทำอะไรก็ไม่ได้

ได้แต่เป็นตัวถ่วงให้พวกพี่ ๆ ปั่นป่วนกันแบบนี้

“บัว”

เงยหน้าตามเสียงเรียกแล้วมีนก็ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ รอยยิ้มที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้เห็น ก็รู้สึกอบอุ่นใจได้อย่างน่าประหลาด มีนเป็นคนแบบนี้ มีนเป็นคนที่ยิ้มให้ใครแล้วจะทำให้โลกที่มืดมนของคน ๆ นั้นสดใสขึ้นได้ทันที

ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่กำลังสับสนและหาทางออกไม่เจอ

“เรื่องอะไรที่ทำให้เครียดก็ปล่อยวางบ้างเถอะ บัวคงรู้เรื่องของพวกผมหมดแล้ว ที่ผมอยากบอกก็คือ.....ผมไม่ได้ชอบพี่บุ้งนะตั้งแต่แรก แล้วพี่บุ้งก็ไม่ได้ชอบผมด้วยเหมือนกัน....ผมโคตรเกลียดเลย แต่ทำยังไงได้มาฝึกที่นี่แล้วก็อยากจะไปให้รอด เพราะพี่บุ้งพูดว่าผมอยู่ได้ไม่เกินสามวัน ยังไงก็ต้องออก.....ผมคิดจะออกจริงๆ นะ แต่พอโดนแบบนั้นเข้าไป แม่ง ดูถูกเรานี่หว่า แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ อยู่แม่งยาวเลย ไล่ก็ไม่ไปแล้วคราวนี้”

มีนเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง เรื่องที่ทำให้คนฟังต้องนิ่งฟังและคิดภาพตาม
คิดออกเลย หัวหน้าบุ้งต้องทั้งตะคอกทั้งตะโกนใส่หน้ามีนแน่ ๆ นึกภาพออกเลยล่ะ แค่คิดก็ขำแล้ว

“พี่บุ้งเป็นคนที่ดี เป็นผู้ชายที่ดี ผมไม่ได้คิดว่าจะไปฝากชีวิตไว้ที่ผู้ชายด้วยกันหรอกนะ แต่ที่ผมคิดคือเราแชร์กันได้ เราคุยกันได้ คุยกันรู้เรื่อง และที่สำคัญ........ผมรักพี่บุ้ง รักแบบงง ๆ เลยล่ะ โดนเขาแกล้งซะขนาดนั้น ก็ยังโง่ไปรักเขานะ บัวว่ามั้ย”

เรื่องนั้น..........มัน....

“แล้วบัวรักโยธินมั้ย”

แค่ได้ฟัง คนฟังก็ถึงกับตาค้าง และเงยหน้ามองหน้าของมีนทันที

ไม่คิดว่าจะโดนถามแบบซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้
ไม่คิด.......และตอบไม่ได้จริง ๆ ว่า รักมั้ย
แต่เรื่องเกลียด มั่นใจว่าเกลียดแน่ ๆ

“ผม.........ไม่ชอบมันตั้งแต่แรก ผมไม่ชอบโยธินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้........ยิ่งไม่.....ช...อ...อึก”

ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่กลืนคำพูดตัวเองลงไปในคอ และก็นั่งก้มหน้านิ่ง ๆ

“บัวคงจะเครียดแล้วก็สับสนมาก มันไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยอมรับได้ง่ายๆ แต่ถ้าเรายอมที่จะทำใจยอมรับมัน.....เราจะได้คนที่รักเราเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ จะให้ทำยังไงก็คนมันรักไปแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม มันก็ไม่ได้แย่นักหรอกที่คนที่มารักเราเป็นผู้ชาย.....จะไปโทษใคร ผิดที่เราหรือผิดที่เค้าเป็นผู้ชายล่ะ มันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ถ้าคนอื่นเขาใช้บรรทัดฐานของเขาตัดสิน แล้วมันเรื่องอะไรที่เราต้องไปใช้บรรทัดฐานของคนอื่น เราก็มีบรรทัดฐานของเรา คนอื่นก็แค่คนอื่น ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจ เฉพาะคนที่สมควรใส่ใจเท่านั้นแหละที่เราควรใส่ใจ พี่บุ้งแล้วก็พี่คนอื่น ๆ เขาบอกผมมาแบบนี้….แล้วถ้าเป็นบัว บัวจะใส่ใจเฉพาะคนที่เราควรใส่ใจมั้ย”

ไม่...........รู้....เรื่องนั้นไม่.....

“ผม....ไม่รู้จริง ๆ มีน”

ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความเครียด และมีนก็ยังคงส่งยิ้มบาง ๆ มาให้คนที่กำลังทำอะไรไม่ถูก

ต้องให้เวลา ต้องใช้เวลาอีกหน่อย แต่ลักษณะแบบนี้ มันแปลได้ว่าอ่อนลงกว่าครึ่งแล้ว

“เป็นห่วงโยธินมั้ย”

คำถามง่าย ๆ และคนที่ยกมือขึ้นกุมขมับก็พยักหน้า ถ้าถามแค่นั้นก็พอจะตอบได้ พอจะ.......ตอบได้........

“โทรหาเค้ามั้ยล่ะ ถ้าเค้าไม่เป็นอะไรเค้าคงรับโทรศัพท์ได้”

โทรหาเหรอ โทรหา........โทรหา...

หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อออกมาตามที่มีนบอก และเพ่งสายตามองไปที่โทรศัพท์ในมือ
ตัดสินใจกดค้นหาหมายเลขของคนที่ไม่เคยคิดอยากจะโทรไปหาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่ฮัทหวังว่าอีกฝ่ายจะรับโทรศัพท์

หวังว่า.........จะรับโทรศัพท์

“คร้าบบ....น้องบัวเหรอครับ”

และคนที่อยู่ปลายสายก็รับโทรศัพท์จริง ๆ

ไหนว่าโดนกระทืบปางตายอยู่โรงพยาบาล แล้วทำไมยังรับโทรศัพท์ได้ แถมน้ำเสียงก็ฟังดูสดใสร่าเริงเหมือนคนไม่เป็นอะไรซะด้วย หรือว่ามันจะหลอกกู

“แขนพี่หักอ่ะบัว หน้าก็ช้ำ ปากแตกอีกต่างหาก หน้าหล่อ ๆ เสียหายหมด แล้วแบบนี้พี่จะไปเจอหน้าลูกค้าได้ยังไง แถมรถโดนทุบอีก เฮ่อออออ เซ็งจริงๆ เล้ยยยยย”

เรียกร้องความเห็นใจให้ตัวเองได้พอประมาณ และแม้จะเจ็บแค่ไหน โยธินก็ยังยิ้มได้

ยิ้มได้เพราะน้องบัวโทรมาหา คงจะโทรมาถามอาการ แบบนี้แสดงว่าเป็นห่วงพี่เหมือนกันใช่มั้ยล่ะครับ

“บัวกั๊บพ้ม เป็นห่วงพี่ป่ะ พี่เจ้บบบบบบบบบ เจ็บ เจ็บไปหมดทั้งตัวทั้งแขนทั้งขา เจ็บหมดทั้งตัวเลย หมอบอกให้นอนโรงพยาบาลตั้งสองคืน แต่ไม่เอาอ่ะ วันนี้พี่จะกลับบ้านแล้ว”

ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด และคนที่อยู่ปลายสายก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

โยธินบอกอาการตัวเองให้รู้ ทั้งที่อาการหนักขนาดนั้น มันยังพูดไปหัวเราะไปได้ และทำเหมือนไม่เป็นอะไรได้อีก

ทำไมถึงได้........ ทำไมถึง....
ถอนหายใจออกมาหนักๆ ด้วยความกลุ้มใจ และคนที่อยู่ปลายสายก็นิ่งเงียบตามฮัทไปด้วย

“บัว”

เรียกให้อีกฝ่ายได้ยิน และคนที่ได้ยินเสียงเรียกก็ขานรับเบา ๆ

“ครับ”

พอแล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สิ่งที่โยธินอยากได้ ในเวลานี้ก็ได้รับแล้ว
แค่ความห่วงใย เล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนที่ไม่เคยแสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาให้ชัดเจน
แค่ความห่วงใยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น้องบัวมีให้

“.......ที่บัวเขียนใบลาออก มันเป็นเพราะพี่ด้วยใช่มั้ย”

น้ำเสียงแผ่วเบาทุ้มนุ่มที่ดังมาจากปลายสาย ทำให้คนที่นิ่งฟังโยธินพูดมาตลอด ถึงกับน้ำตาคลอ

ไม่รู้
ไม่รู้อะไรแล้ว
ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้ว

นั่งก้มหน้านิ่ง ๆ และไม่รู้จะพูดอะไรดี ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

ภายในอกมันอัดแน่นไปด้วยความอึดอัดใจที่รอวันระเบิด ทั้งความเครียด ความผิดหวัง ความน้อยใจ ความทุกข์ใจและความสับสน มันตีกันไปหมด จนแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนที่ทำให้เป็นทุกข์มากที่สุด

“....พี่ผิดมากเลยเหรอบัว...พี่โยผิดมากแล้วก็เลวมากขนาดนั้นเลยเหรอบัว....ขนาดที่บัวจะไม่ให้อภัยพี่ตลอดชีวิตเลยเหรอ”

ไม่ใช่
.....ไม่รู้

แต่มันไม่ใช่

แบบนี้มัน.........ไม่ใช่.........

จากน้ำตาคลอ ในเวลานี้น้ำตาหยด น้ำตาค่อย ๆ หยดลงที่ข้างแก้ม และก็ได้แต่นั่งก้มหน้าและพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้คนที่อยู่ปลายสายได้ยิน

“ถ้าพี่ผิดขนาดนั้น ต่อไปพี่จะไม่เข้าไปให้บัวเห็นหน้าอีก แล้วบัวจะสบายใจขึ้นหรือเปล่า บัวจะยังทำงานที่นี่อยู่อีกหรือเปล่า อยู่เถอะนะบัว อยู่ด้วยกันก่อน แล้วพี่สัญญาว่าจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับบัว พี่พูดจริง ๆ นะ เชื่อใจได้”

ทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วย

ทำไมต้องพูดถึงขนาดนั้นด้วย

ทำไมต้องทำให้กูรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดนั้นด้วย

ในเมื่อกูเองที่ผิด ในเมื่อเป็นกูนี่เองที่ผิดที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยซักอย่าง กูผิด ไม่ใช่คนอื่นผิด

ไม่ใช่เลย

“เฮ้ย ไม่ใช่ความผิดของมึงคนเดียวหรอกโยธิน บัวลอยมันเกลียดพวกกูทั้งแผนก พวกกูเป็นแบบนี้ไง แม่งเลยเกลียด ถึงอยากให้มันอยู่ต่อ แต่มันก็จะไปอยู่ดี พวกกูแม่งเหี้ยเองแหละที่ไม่บอกมันตั้งแต่แรก พอมันรู้มันก็ต้องรับไม่ได้เป็นธรรมดา ปล่อยแม่งไปเหอะ บัวลอยมันก็เหมือนคนอื่นๆ แหละ ที่ตัดสินคนอื่นด้วยความคิดของตัวเอง”

เสียงที่คุ้นเคย
เสียงที่ได้ยิน........

หัวหน้าบุ้ง........

หัวหน้าบุ้งคงไปถึงโรงพยาบาลแล้วในเวลาอันรวดเร็ว

และคราวนี้ฮัทยิ่งกำโทรศัพท์ในมือเอาไว้แน่น

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“บัว....งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ พี่ขอคุยกับหัวหน้าบุ้งก่อน เดี๋ยวพี่โทรกลับนะครับ”

คนที่อยู่ปลายสายกดวางไปเรียบร้อยแล้ว และฮัทก็นั่งนิ่งเงียบอยู่แบบนั้น

พูดไม่ออก พูดอะไรไม่ออก และมีนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กำลังคีย์บิลไปด้วยก็พูดบางอย่างให้ฮัทได้ยิน

“บัว.........เกลียดพวกเราทุกคนทั้งแผนกจริง ๆ เหรอ แม้แต่ผมบัวก็เกลียดผมเหรอ บัวอยากให้ผมทำยังไง บัวบอกผมได้นะ อะไรก็ได้ที่จะไม่ทำให้บัวเกลียด พวกเราอยากจะทำ พี่บุ้งเป็นคนปากร้าย บางทีเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง ผมขอโทษแทนพี่บุ้งด้วย แต่สำหรับผมนะ .............. ผมไม่อยากให้บัวลาออกเลยจริง ๆ”

เงยหน้าขึ้นมามองหน้ามีน มองด้วยความรู้สึกวุ่นวายสับสน และหาคำตอบไม่ได้

“เกาหลี....เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกนะ มาลงเวลารถเข้าออกให้หน่อย โรจน์มันไปหาเพื่อนมันที่ขนส่งมันไปเอาข้อมูลรถคู่กรณีของโยธิน พี่ต้องไปขึ้นรถแทนมัน”

พี่วิเชียรเดินหน้าเครียดเข้ามาบอกมีนที่หน้าออฟฟิศ และมีนก็พยักหน้ารับ

“พี่วิเชียร....ผมไปแทนเอง มีนจะได้อยู่คีย์บิล”

หันไปบอกพี่วิเชียร และพี่วิเชียรที่เคยเป็นคนร่าเริงและมีอารมณ์สนุกสนานอยู่ตลอดเวลาก็มองหน้าของฮัทนิ่ง ๆ
มองนิ่ง ๆ และพูดบางอย่างให้ฮัทเข้าใจ

“มึงลาออกแล้วตั้งแต่เช้า กูจะไปกล้าใช้มึงซึ่งเป็นคนอื่นไปแล้วได้ยังไง”

ใช้คำว่าคนอื่น และคำว่าคนอื่นของพี่วิเชียร มันทำให้คนฟัง ถึงกับน้ำตาร่วง.......

ยืนร้องไห้แบบไม่ต้องอาย ยืนร้องไห้ต่อหน้าพี่วิเชียร และก้มหน้าขบริมฝีปากของตัวเองแน่น

พูดไม่ออก พูดอะไรไม่ได้
และพี่วิเชียรก็ไม่รอให้ฮัทพูดอะไรต่อ เตรียมจะหันหลังเดินหนี โดยไม่คิดจะสนใจคนที่ยืนร้องไห้น้ำตาไหลพราก

“ขอโทษ.....พี่วิเชียร...ผมขอโทษ”

ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้ว ได้แต่พร่ำพูดคำขอโทษเดิม ๆ พูดคำเดิม ๆ อยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ผมขอโทษพี่.......พี่วิเชียรผมขอโทษ...อึก ฮือออออ”

ขอโทษทำเหี้ยอะไร กูไม่สนใจหรอก มึงขอโทษให้ตายกูก็ไม่สน

“เก็บคำขอโทษของมึงเอากลับบ้านมึงไปเหอะ พวกกูเป็นแบบนี้ไง มันก็สมควรแล้วที่มึงจะรับไม่ได้ แล้วกูอยากถามมึงซักคำ .........มึงคิดว่ากูอยากเป็นแบบนี้มากหรือไง.....ทำมาเป็นสำออย รับเหี้ยอะไรไม่ได้ซักอย่าง มึงมันอ่อน บีบน้ำตาแล้วกูจะเห็นใจเหรอ มึงฝันไปหรือเปล่า....กล้าณรงค์”

ไม่ได้เรียกแบบที่เคยเรียก ไม่ได้หยอกล้อแบบที่เคยหยอก แต่เป็นการเรียกชื่อจริง ที่ทำให้ฮัทรู้สึกถึงความห่างเหินอย่างรุนแรงของรุ่นพี่ที่คอยดูแลมาตลอด และแม้จะทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้าง แต่มันไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่การตัดขาดความสัมพันธ์กันแบบนี้

“คิดว่าตัวเองเจ็บปวด คิดว่าตัวเองทรมาน คิดว่าตัวเองน่าสงสาร เหี้ยเหอะ น่าสงสารตายห่าแหละ กูจะบอกให้ ถ้ามึงคิดว่าโดนไอ้โยธินทำอะไรตอนเมาแล้วแค้นใจไม่หาย กูโดนเฮียข่มขืนเป็นร้อยรอบกว่าจะสมยอมได้ ไอ้สัส แล้วทำมาเป็นสำออย กูบอกแล้วใช่มั้ย ให้มึงรักมันซะก็จบ แม่งก็เสือกลีลาอยู่นั่น มึงจะตายหรือไง ชอบผู้ชายด้วยกันแล้วมึงจะตายหรือไง ถ้ามึงจะตาย ก็รีบ ๆ ตายห่าไปซะ คนอย่างมึงมันขวางหูขวางตา รีบ ๆ ตายห่าไปตอนนี้ได้เลยยิ่งดี”

ไม่มีคำว่าเห็นใจ
ไม่มีคำว่าสงสาร

และวิเชียรที่พูดทุกสิ่งอย่างที่ใจคิดออกไปทั้งหมด ก็หันหลังเดินออกจากออฟฟิศแผนกขนส่งไปแล้ว
โดยมีสายตาของฮัทมองตาม และยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

“พี่วิเชียรโมโหแรงพอ ๆ กับพี่บุ้ง แต่บัวอย่าไปคิดอะไรมากนะ เดี๋ยวพี่วิเชียรก็หายโกรธ”

ปลอบใจไปเท่าที่ทำได้ และฮัทก็ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา ด้วยความเครียดและกลุ้มใจที่สุด
ทรุดกายลงนั่งที่โซฟาอีกครั้ง และไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือทำยังไงต่อไป

วิเชียรเดินออกมาจากออฟฟิศแผนกขนส่งและมองหน้าของพี่สุรชาติที่เพิ่งกลับเข้ามา

รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏที่มุมปาก และพี่สุรชาติก็ถึงกับส่ายหน้ากับสิ่งที่วิเชียรทำ

“เล่นแรงมากนะคราวนี้”

ก็ต้องแบบนี้แหละ เล่นแล้วต้องเอาให้จบ เอาให้อยู่ จังหวะมันได้ด้วย ทางมันเปิดให้ซะขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องเล่น

“มันเกลียดผมตายห่าแล้ว ร้องไห้ไม่หยุดเลยนั่น พี่ก็เข้าไปเล่นบทคนดีของพี่เร็ว ๆ เข้า ไปปลอบมันโอ๋มันหน่อย เดี๋ยวแม่งฆ่าตัวตายไปก่อน แล้วผมจะซวย”

ส่งไม้ให้คนที่มารับหน้าที่ต่อ และพี่สุรชาติก็มองหน้าของวิเชียรแบบยิ้มๆ

“เพิ่งรู้ว่าโดนข่มขืนเป็นร้อยรอบกว่าจะสมยอม นึกมาตลอดว่าสมยอมตั้งแต่แรกซะอีก”

โดนแซวและวิเชียรก็เบะหน้าใส่คนแซวด้วยความหมั่นไส้

“โอ้ยยยยยยย ใครจะไปเหมือนคนแถวนี้ วางแผนมาซะดิบดี พาเด็กไปเอากันในบรรยากาศเหน็บหนาว โรแมนติกสุด ๆ ไปยาวเลยสามวันสามคืน ผมก็อยากได้อารมณ์แบบนั้นเหมือนกัน แต่มันทำไม่ด้ายยยยยยยยยย เพราะยังไม่ทันได้ขึ้นรถ ผมก็ขึ้นเฮียซะแล้ว เลยไม่ทันได้หนาว มันร้อนไปซะก่อนทู้กกกกกกกกที”

ถามว่าอายมั้ย ตอบเลยว่าไม่ และยังมีการพรีเซ้นต์นำเสนอในเชิงลึกซะอีก
พี่สุรชาติถึงกับส่ายหน้าในความตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผยที่เรียกอีกอย่างง่าย ๆ ว่าหน้าด้านของวิเชียร

“ถ้าผมเป็นคุณวิษณุ ผมคงปลื้มใจน่าดู ที่มีเมียร้อนแรงแบบวิเชียร”

ของมันแน่อยู่แล้ว เป็นใครก็ต้องทั้งปลื้มใจ ทั้งภูมิใจกันทั้งนั้นแหละ

“ก็ช่วยไม่ได้ พี่สุรชาติก็น่าจะรู้ว่านี่ใคร ผมวิเชียรนะ เนี่ยอ่ะวิเชียร........รู้แล้วใช่มั้ยว่าวิเชียรเป็นใคร งั้นก็ยอมแพ้ผมซะแล้วเลิกคิดแย่งตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งในการเสือกกับผมซักที”

เอ่อ....... วิเชียรครับ ผมอยากบอกวิเชียรมาก ๆ ผมอยากบอกวิเชียรมานานแล้ว

“คนทั้งแผนกเขายกตำแหน่งนั้นให้วิเชียรไปตั้งนานแล้วครับ มันคือตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากแย่ง....วิเชียรเอาไปเลยครับเราทุกคนยินดียกตำแหน่งให้วิเชียร”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ดีมาก

แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ในที่สุดกูก็หมดคู่แข่งไปหนึ่งคนแล้ว ที่เหลือก็แค่คู่แข่งหมายเลขหนึ่งที่ต้องหาทางกำจัดให้ได้
.....คู่แข่งที่มีความสามารถในการเสือกแบบแนบเนียนสุด ๆ ต่อไปนี้เราจะได้วัดกันนะครับหัวหน้า

จะได้รู้กันไปว่าระหว่างผมกับหัวหน้า ใครแม่งจะเสือกเรื่องชาวบ้านได้ยอดเยี่ยมกว่ากัน


TBC.

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
น้องบัวจะไปจริงเหรอ :hao7:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
แย่แล้วน้องบัวโดนพี่ๆเล่นชุดใหญ่มาเต็มจัดเต็ม

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ใครจะกล้าแข่งตำแหน่งอันทรงเกียรติของพี่เชียรกัน (เสือกอันดับหนึ่ง)

สงสารแต่บัวโดนพี่ๆๆเล่นซะ  :hao5: :hao5: :hao5:






ออฟไลน์ praseat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
 :katai2-1: เอาตุ๊กตาทองไปเลยครับ คุณวิเชียร ตีบทได้แตกละเอียด ตอนนี้อินจัด แบบเห็นหน้าน้องกันที่ไหนคิดว่าเป็นวิเชียรไปแร้วว 5555+++ :katai2-1:
 :hao5: สงสานน้องบัวเนอะ คงอัดอั้นมากๆ ใจก็คงรักไปแล้ว แต่หาทางออกไม่ได้
 :-[ น้องเมืองมีน จะดีไปถึงไหนเนี่ยะ แบบอารมย์ นายเอกสวดๆ  :mew1:
 :mew3: เฮียสุรชาติ รีบๆ เข้าไปหน่อย เดี๋ยวน้องบัวจะเศร้าไปมากกว่านี้ครับ  :mew4:
 :mew1: โยธิน ถึงตานายอ้อนแล้วนะ  ทำให้ดีล่ะ จะรอเชียร์อยู่นะ  :hao3:
 :กอด1: :กอด1: ขอบคุณ aoikyosuke  ที่บรรจงสรรค์สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาครับ อ่านไปยิ้มไปเลยทีเดียว มันจริงในความรู้สึกเรานะ จริงจนสัมผัสได้ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
โดนพี่ๆจัดหนักเหมือนเดิมน้องบัว


น่าสงสาร :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
คุณวิเชียรเล่นดีมากกกก

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
วิเชียรรรรรร...นางแรงตลอดๆ
เป็นกำลังใจให้น้องบัว อาจจะทำใจยาก แต่สุดท้ายก็จะ แฮปปี้  :laugh:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่วิเชียรเล่นแรงจัง สงสารน้องบัว  :mew2:

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 o22  นังเชียร แกเล่นแรงมากเลยนะเนี่ย  จะบอกว่าวิเชียรหน้าด้านเนี่ยน้อยไป ระดับหัวหน้าองกรเสือกระหว่างประเทศ

อย่างท่านวิเชียร แล้วควรจะได้ มงกุฎและสายสะพาย  :laugh:

ออฟไลน์ puna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
วิเชียรนี่เสือกแบบโจ่งแจ้ง.....แต่พี่บุ้งกะวิโรจน์นี่แบบเนียนๆ :laugh:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
จัดหนักเลยนะวิเชียร เล่นเอาไปไม่เป็นเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด