@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 755093 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ seraty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :-[ มันน่ารักมุ้งมิ้งมากเลยน้องบัว ไปเรื่อยๆ แต่มั่นคงเนอะ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

รักเกิดในแผนกขนส่ง ภาคพิเศษ  วิเชียร&เฮีย.....ตอน  เมื่อวิเชียรเศร้า

ชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่เฉพาะความสุขหรอก

บางครั้งความทุกข์ใจก็มาเยือนได้ง่ายๆ เหมือนกัน เหมือนในเวลานี้ที่วิเชียรได้แต่เขี่ยข้าวในจานไปมาและนาน ๆ จะตักข้าวเข้าปากซักคำ เมื่อก่อนถ้ามีกับข้าวดี ๆ แบบนี้ให้กิน ก็คงจะกินอย่างเอร็ดอร่อยมาก

แต่ในเวลานี้ เมื่อกินบ่อย ๆ เข้า รสชาติความอร่อยของอาหารก็ค่อยๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ ทีละเล็กทีละน้อย

สุดท้ายต่อให้ปรุงจากเชฟที่มีฝีมือจากภัตตาคารชั้นเยี่ยม แต่เมื่อกินบ่อย ๆรสชาติความอร่อยก็หายไปไม่มีเหลือได้เหมือนกัน
แรก ๆ รสชาติอาหารถูกปากอยากกินอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พอนาน ๆ เข้ามันกลายเป็น........ความเคยชิน....
รสชาติที่เคยชื่นชอบลดลงทุกวัน.......ทุกวัน

“กับข้าวไม่ถูกปากเหรอคะคุณ”

แม่บ้านที่อยู่ด้วยกันมานานนับปีจนเริ่มคุ้นเคยกัน เอ่ยถามวิเชียรที่เขี่ยข้าวไปมาอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เริ่มตักข้าวให้

“ถูกปากครับป้า แต่วันนี้ผมคงกินขนมที่โรงงานมาเยอะเลยอิ่ม ๆ ชอบกล”

ไม่อยากให้คนทำกับข้าวให้กินต้องเสียกำลังใจ วิเชียรก็เลยได้แต่ฝืนยิ้มไป

“เดี๋ยวสัปดาห์หน้าคุณวิษณุก็กลับนะคะคุณ”

วิเชียรรู้ นี่คือคำปลอบใจของแม่บ้าน ที่วิเชียรไม่ได้เห็นเธอเป็นแค่แม่บ้าน แต่เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของวิเชียรแบบกลาย ๆ ไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง เพราะคุณแม่บ้านก็รู้ว่าวิเชียรมาอยู่ที่นี่ในฐานอะไร

“ป้าว่า........เฮียเขาใกล้เบื่อผมแล้วหรือยัง”

ถามออกไปอย่างเลื่อนลอยเต็มที และก็ยังเขี่ยข้าวในจานไปเรื่อย ๆ มีการตักเข้าปากบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อให้รู้ว่ายังกินได้อยู่ ยังไม่ได้อด ยังไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองผอมโซ และเป็นการสร้างปัญหาให้คุณแม่บ้านต้องลำบากใจ

ที่ไม่ยอมกินข้าว

“ท่านเอ็นดูคุณจะตายไปค่ะ อย่าไปน้อยใจคุณวิษณุเลยค่ะ บางทีท่านก็มีหน้าที่เยอะแยะมากมายค่ะ คุณเป็นคนของท่านใจคอต้องหนักแน่นค่ะ ไม่งั้นจะอยู่ลำบากนะคะคุณ”

นี่เรียกว่าเป็นการปลอบใจหรือเปล่า ถ้าใช่......... การปลอบใจของคุณแม่บ้านก็ได้ผลมากเชียวล่ะ

เพราะมันทำให้วิเชียรพอจะยิ้มออกมาได้บ้าง แม้จะเป็นรอยยิ้มที่หม่นหมองเต็มทีก็ตาม

“ขอบคุณมากครับป้า ผมอิ่มแล้ว เดี๋ยวผมช่วยป้าเก็บนะครับ”

แม้ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องทำ แต่วิเชียรก็ยังเป็นวิเชียร

คนที่มาจากดิน ไม่มีเหตุผลอะไรต้องลืมกำพืด แค่ช่วยคุณแม่บ้านเก็บสำรับกับข้าวแค่นี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

“ไม่เป็นไรค่ะคุณ เดี๋ยวป้าจัดการเองดีกว่า คุณไปพักเถอะ วันไหนคุณวิษณุไม่อยู่ คุณก็ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กลับมาถึงก็ยังมารดน้ำต้นไม้ ทำนั่นทำนี่อีก ทั้งที่คุณวิษณุก็ให้เด็กมาทำให้อยู่แล้ว คุณก็ยังจะดื้อทำเองอีกนะคะ”

คุณแม่บ้านคล้ายกำลังบ่นวิเชียร และวิเชียรก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆ

“ให้นั่งอยู่เฉย ๆ อย่างเดียว กว่าจะมืดกว่าจะดึก กว่าจะได้นอน มันก็จะยิ่งฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ ไม่ดีหรอกป้า”

ตอบออกไปแบบยิ้มๆ และก็ลงมือช่วยเก็บจานข้าวที่กินแล้วมาล้าง ยืนล้างจานที่ซิงค์ล้างจานไปเรื่อยๆ ล้างเสร็จก็คว่ำจานเรียบร้อย และเดินไปที่ห้องรับแขก คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไปดี
บางครั้งบ้านก็ดูกว้างเกินไป เวลาที่คนที่อยากให้อยู่ด้วยไม่อยู่..........

บางครั้งบ้านก็ดูกว้างเกินไปสำหรับวิเชียร

ทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมที่บุด้วยผ้าไหมชั้นดี ของแพงขนาดนี้ เมื่อก่อนที่ได้นั่งก็ตื่นเต้นดีอยู่หรอก
แต่พอชินกับมันแล้ว มันก็เหมือนกับข้าวนั่นแหละไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นอีกแล้ว

วิเชียรเปิดรายการโทรทัศน์ทิ้งเอาไว้ เปิดช่องวิเคราะห์หุ้น
และดูข่าวเศรษฐกิจภาคภาษาอังกฤษ ที่ฟังไปฟังมาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย

ถึงฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมดแต่เมื่อฟังบ่อย ๆ เข้าทุกวัน ก็เริ่มจะพอจับใจความได้บ้าง

ไม่ได้คิดอยากเป็นนักวิเคราะห์หุ้น ก็แค่เปิดรายการพวกนี้เอาไว้ แล้วก็เอนตัวลงนอนบนโซฟาและปล่อยให้สายตาเลื่อนลอยจ้องมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์และในเวลาไม่นาน เมื่อร่างกายอ่อนเพลียถึงขีดสุด

มันก็จะเผลอหลับไปเอง

เผลอ.........หลับไปเอง.........โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความอีกถ้าความคิดเหล่านั้นมันเป็นการบั่นทอนความรู้สึกของตัวเอง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2014 14:16:06 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“พี่วิเชียร วันนี้ไม่มีปิ่นโตมาเหรอพี่ ดูของผมซะก่อนพี่ ดูซะก่อนว่ากับข้าวผมเป็นยังไง”

แล้วกับข้าวมึงเป็นไงวะบัวลอย

“แค่ผัดกระเพราทะเล กับต้มยำปลาทู แล้วนี่อะไร ก็แค่ทอดมันปลากราย”

เบะหน้าใส่ และไอ้รุ่นน้องที่ดึงปิ่นโตออกจากเถาก็ยังมีหน้ามาโชว์อาหารที่ไม่ได้เรื่องได้ราวให้ดู

กูกินมาไม่รู้เท่าไหร่แล้วของแบบนี้ กินจนเบื่อ

แต่ต่างจากมึงหน่อยก็ตรงที่.........ของที่กูกิน มันสั่งตรงจากร้านอาหารขึ้นชื่อ ไม่เหมือนของมึง ที่โยธิน ตื่นขึ้นมาทำให้มึงกิน ทั้งที่มันโคตรจะยุ่ง แต่มันก็ตื่นมาทำให้มึงกินเพราะมันรักมึง

แม่งโคตรน่าอิจฉาว่ะ

“กินป่าวพี่ กินป่าว”

กูจะไปกินทำไม กูอิ่มจะตายห่าแล้ว ไม่เอาล่ะ มึงจะกินก็กินไปคนเดียวเหอะ

“กินหมูปิ้งกับเกาหลีมาแล้ว อิ่มจะตายห่า”

เอ่ยบอกออกไปและฮัทก็เงยหน้ามายิ้มหน้าระรื่นใส่

“มีความสุขจริงนะมึง ตกลงได้กันกับไอ้โยธินยังวะ รอบใหม่เนี่ย”

เฮ้ยยยยยยยยย อะไรเนี่ย อะไรของพี่วิเชียรอีกวะเนี่ย

“อะไรพี่ ไม่มี๊”

ไม่มีห่าอะไร ตอนแรกทำเป็นไม่รักไม่ชอบ ทำเป็นไม่อยากเข้าใกล้ พอทีนี้ล่ะ หิ้วปิ่นโตใส่กับข้าวที่เขาทำให้มาแดกอย่างมีความสุขเชียวนะมึง

“เมื่อไหร่พวกมึงจะเอากันซะทีวะ กูลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้วเนี่ยะ”

อะไรของพี่ จะมาลุ้นอะไรกับเรื่องแบบนี้

“อยู่เป็นเพื่อนกันเฉยเฉ้ยยยยยยย”

กูจะเชื่อพวกมึงแล้วกันนะ มึงเห็นกูโง่มากนักหรือไงบัวลอย

“โยธินมันคงเห็นมึงเป็นแค่เพื่อนเนอะ ทำเป็นมาพูด มึงอยากเอากับโยธินใช่มั้ยล่ะ แล้วทำเป็นฟอร์ม”

พี่วิเชี้ยรรรรรรรรรแม่ง พูดอะไรก็ไม่รู้

“ผมไม่ใช่พี่นะเฮ้ย จะมาลุ้นอะไรวะพี่วิเชียรนี่”

เขินเหรอวะ น่ารักนะมึงเนี่ยะ เขินใส่กูเลยเรอะ

“เดี๋ยวกูจีบแม่งเลย ทำหน้าเคลิ้มซะน่ารักขาดใจเลยนะมึง”

แกล้งหยอดไปและฮัทก็ถึงกับหุบยิ้มทันทีและเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ พูดจาฟังแทบไม่รู้เรื่องทั้งที่ข้าวเต็มปาก

“พี่วิเชียร...พี่เหงาเหรอพี่”

สัด มึงบ้าป่ะเนี่ย เหงาบ้านเตี่ยมึงเหรอ หน้ากูเหมือนเหงามากนักหรือไง

“กูไม่ได้เหงา แต่กูเปลี่ยว”

แกล้งพูดออกไปยิ้ม ๆ และรุ่นน้องที่กำลังเคี้ยวข้าวก็ส่ายหน้ากับสิ่งที่วิเชียรพูดและก้มหน้าก้มตากินข้าวพร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง

“ถ้าปกติผมก็เชื่อหรอก แต่ตาพี่มันออกมากเลยว่ะพี่วิเชียร ผมก็ไม่ได้อะไรนะพี่ แต่บางครั้งที่พี่เหนื่อย ๆ ล้าๆ เซ็ง ๆ พี่ปล่อยตัวตามสบายบ้างก็ได้มั้ง”

เออ กูยอมรับก็ได้ว่ากูแม่งโคตรเซ็งเลยว่ะช่วงนี้ แม่งไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง ใช้หนี้เฮียหมดไปชาติกว่าแล้ว แต่ไม่รู้จะไปทำอะไรยังไงที่ไหนต่อ เรื่องที่เคยดิ้นรนอยากได้บ้านอยากได้รถเหมือนเมื่อก่อนตอนนี้ก็มีหมดแล้ว

เรื่องโรงเรียนเรื่องการกินอยู่ของครอบครัว เรื่องพ่อแม่ เฮียก็จัดการให้หมดแล้ว
คือกูพร้อมตายไปตอนนี้เลยก็ได้ คาดว่าคงจะไม่เดือดร้อนใครซักคน แม้กระทั่งเฮียด้วยมั้ง

“พี่วิเชียร พี่โยมันทำต้มยำปลาทูอร่อยมาก พี่ลองกินดู”

หยิบช้อนกลางตักน้ำต้มยำปลาทูส่งให้กับคนที่นั่งทำหน้าเซ็ง และวิเชียรก็ลองชิมต้มยำที่โยธินตื่นขึ้นมาทำให้คนที่อยู่ร่วมบ้านกันใส่ปิ่นโตหิ้วมากินที่ทำงานด้วย

“เออว่ะ แม่งแจ่ม ตักข้าวมาดิ๊ แซ่บแบบนี้แหละโคตรถึงใจ”

กลายเป็นฝ่ายเรียกร้องซะเอง และฮัทก็แบ่งข้าวบางส่วนใส่ปิ่นโตส่งให้วิเชียร

รุ่นพี่กับรุ่นน้องที่สนิทสนมกันเหมือนญาติ ตีกันก็บ่อย ด่ากันก็หลายครั้ง แต่พอถึงเวลาสำคัญจริง ๆ ก็สามารถช่วยเหลือกันได้ทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของใจ ที่ฮัทช่วยเยียวยาให้กับรุ่นพี่ โดยไม่รู้ตัว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2014 10:18:16 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“หัวหน้า สายผมไม่มีอะไรนะวันนี้ เดี๋ยวผมขึ้นรถแทนวิโรจน์แล้วกัน วันนี้ในตารางวิโรจน์มันมีวิ่งสายนอกด้วย มันโทรมาบอกผมแล้ว”

วิเชียรเอ่ยบอกหัวหน้าแผนกขนส่งที่กำลังลงเวลารถและก็ขอเบิกกุญแจรถคันที่วิโรจน์ต้องใช้วิ่งเป็นประจำ

“เบอร์ 10 เหรอ ไม่ใช่เบอร์ 12 เหรอ”

ทุกทีมันก็ใช่อยู่หรอก

“เบอร์ 12 มันเบอร์ประจำมึง เอาคันที่ชินมือชินตีนมึงวิ่งแหละดีแล้ว”

นี่กะเอาใจผมหรือเปล่าวะ

“ใจดีแท้ จนอยากเป็นเมียหัวหน้าซะจริง ๆ”

พูดออกไปยิ้ม ๆ และก็ทำให้หัวหน้าแผนกขนส่งถลึงตาใส่ได้

“นรกอย่างมึง เป็นเด็กคุณวิษณุต่อไปแหละดีแล้ว อย่าทำให้ชีวิตกูบรรลัยเพราะมึงเลย”

หัวหน้าก็พูดเกินไป

“ไม่ชอบชีวิตแบบมีสีสันหรือไงหัวหน้า โคตรจะเฟี้ยว ทุกคืนวันของหัวหน้าจะมีแต่ความเร้าใจ สดใส ซาบซ่าสยิวกิ้วไม่เว้นแต่ละคืน เชื่อพ้มมมมมมมม”

ใครจะไปเชื่อมึง

“นรกล่ะสิไม่ว่า”

โห่ แค่นี้ทำเป็นด่า

“ลองแล้วจะติดใจ”

ติดใจเหี้ยอะไรของมึง มึงเป็นอะไรมากป่าววิเชียร

“พูดจาแบบนี้คุณวิษณุไม่ว่าเอาเหรอ  แล้วนี่มันวันหยุดมึงไม่ใช่หรือไง วันหยุดก็ไม่ยอมหยุดเป็นห่าอะไรมากมายวะ”

รู้ดีจริงนะ

“สมแล้วที่ท่านเป็นคู่แข่งของข้า มันต้องสอดรู้สอดเห็นให้ได้อย่างนี้ ถึงจะเหมาะสมในการประมือกับข้าหน่อยนะท่านจอมยุทธบุ้ง”

มึงไปเยอะแล้วแหละวิเชียรกูว่า

“ประสาท มึงรีบ ๆ ไปไกล ๆ ตีนกูเลยไป ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว”

ไม่ใช่แค่พูด แต่หัวหน้าบุ้งยังพยักหน้าให้วิเชียรมองไปที่ตีนของหัวหน้าบุ้งด้วย

“อูยยยยยยย กลัวครับ อย่าเตะผมเลยคร้าบบบบบบบบ ผมกลัวแล้วววววววว”

กลัวเหรอ นี่มึงกลัวเหรอ กลัวแต่ทำหน้าระรื่นล้อเลียนกูนะวิเชียร

“ไอ้สันดาน มึงไม่ต้องไปขึ้นแล้วรถอ่ะ มึงมาให้กูเตะซักทีสิวะไอ้วิเชียร”

ไม่ใช่แค่พูดแต่หัวหน้าบุ้งยังถลันออกมายืนหน้าเคาร์เตอร์ลงเวลาและเตรียมจะหวดวิเชียรด้วยฝ่าตีน ให้หายลามปาม

“โว้ยยยยยยยยยยย แม่งเอะอะก็ใช้แต่กำลัง แม่งถือว่าเป็นหัวหน้าหรือไงวะ”

เออใช่ไง กูถือว่ากูเป็นหัวหน้าไง แล้วมึงจะทำไมกูไอ้วิเชียร

“มึงแน่จริงมึงมานี่เลย”

ใครจะไปให้โง่ ไปผมก็โดนกระทืบตายห่าสิวะ

“วู้วววววววววว ไม่เอาล่ะ ผมคนมีงานมีการทำไม่เหมือนหัวหน้าบุ้ง เอาแต่อ้อนเมีย มีเวลาให้กันเยอะซะจริ๊งงงงงงง”

เล่นกูแล้วมั้ยล่ะ

“ไอ้สันดานมึงมานี่เลยนะ ไอ้วิเชียรมึงมานี่นะโว้ยยย สัด”

หู้ยยยยยยยย ใครจะไป ผมไม่ไปให้โง่หรอกครับหัวหน้า

“ลาแล้วคร้าบบบบบบบบบบ หวัดดีครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนเที่ยงนะคร้าบบบบบบบบบบ....อ่ะ เหี้ยอะไรวะเนี่ย”

วิเชียรกำลังจะหันไปด่าคนที่มายืนขวาง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ต่อหน้า

“เฮีย.............”

จากหน้ายิ้มระรื่นกลายเป็นเก็บอารมณ์ขึ้นมาแบบทันทีทันใด

“เฮียมายังไงเนี่ย”

มายังไงเหรอ

“เฮียก็ให้สมานขับรถมาส่ง แล้วเฮียก็เดินเข้ามา”

ไม่ใช่ดิ  ไม่ใช่แบบนี้สิเฮีย ผมหมายความว่า...........

“ว่าไงหัวหน้า”

เฮียไม่ได้ตอบคำถามวิเชียร แต่มองไปที่หัวหน้าแผนกขนส่งที่ยกมือไหว้ลูกค้าคนสำคัญของบริษัทที่วันนี้ให้เกียรติมาเยือนถึงแผนกขนส่ง ใคร ๆ ก็รู้ คุณวิษณุมีธุรกิจหลายอย่าง เวลาส่วนใหญ่ของคุณวิษณุหมดไปกับการดูแลและบริหารธุรกิจ แต่วันนี้คุณวิษณุให้เกียรติมาเยือนแผนกขนส่ง แผนกเล็ก ๆ ของโรงงานเล็ก ๆ ด้วยตัวเอง

บุ้งก็เลยต้องรีบยกมือไหว้คุณวิษณุแทบไม่ทัน

“ผมให้เด็ก ๆ หิ้วขนมมาฝากทั้งแผนกนะ เดี๋ยวขนมกำลังจะเดินทางมา”

ครับคุณวิษณุ

“ขอบคุณแทนทุกคนทั้งแผนกด้วยครับ”

หัวหน้าบุ้งยกมือไหว้อีกครั้งและวิเชียรก็มายืนอยู่ข้างๆ คุณวิษณุ จากไอ้วิเชียรลูกน้องสุดป่วน กลายเป็นวิเชียรมารยาทงาม สงบปากสงบคำ และไม่มีทีท่าว่าจะทะลึ่งตึงตังและทำอะไรเป็นเล่นไปซะหมดเหมือนเคย

“พี่วิเชียร เอาก๋วยเตี๋ยวน้ำตกป่าว เจ้านี้แม่งอย่างแซ่บรับรองสะใจ”

รถของฮัทแล่นมาจอดเทียบอยู่หน้าเคาร์เตอร์ลงเวลา และฮัทก็เปิดกระจกมาพูดกับรุ่นพี่ที่สนิทด้วยมากที่สุด

“เฮ้ยยย พี่วิเชียร ตกลงกินมั้ยเนี่ย หมูน้ำตกแซ่บ ๆ เอาป่าวพี่”

ไอ้บัวลอย มึงจะตะโกนทำห่าอะไรเนี่ย หูกูจะแตกอยู่แล้ว

“ครับ 2 ถุงครับ”

ไม่ใช่ว่าไม่เอา และวิเชียรก็หันไปมองรุ่นน้องและตะโกนบอกออกไปเสียงดังฟังชัด

“พูดซะเพราะเลยพี่ ปกติไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า เรียกแต่ไอ้บัวลอยมึงแม่ง ไอ้สัด ไอ้เหี้ย ด่าผมแบบนี้ตลอดเลย นี่พี่ไปทำอะไรมาเนี่ยะ”

เออช่างกูเหอะ กูจะไปทำอะไรมาก็ช่างกูเหอะ

“มึงจะไปได้ยังครับ ถ้ามึงยังไม่ไปนะ กูจะเอากุญแจรถฟาดหน้าให้เบ้าตาแตกเลยไอ้ห่า”

เป็นการพูดจาที่ดูให้เกียรติรุ่นน้องมาก และคุณวิษณุก็หันไปมองวิเชียรที่พูดคุยกับรุ่นน้องในแผนกได้เป็นธรรมชาติ ผิดกับเวลาที่อยู่กับคุณวิษณุลิบลับ

“เอามาซักสามสิบถุงสิ เผื่อคนทั้งแผนกเลย”

ใครวะ คนนี้คือใคร

ผู้ชายดูดีมีสกุลรุนชาติ ท่าทางน่าเกรงขามนี้คือใครวะ ถึงจะยิ้มให้กูและพูดจาดี ๆ กับกูก็เถอะแต่ แม่ง.........รังสีความน่ายำเกรง มีมากจนกู....ไม่กล้าจะพูดอะไรต่อเลยเนี่ย

“คุณอ่า........ยังไงคุณ..เป็น”

ไม่รู้จะยกมือไหว้ หรือจะทักทายยังไง เป็นแขกของแผนกหรือเปล่าวะ หรือยังไง

“ผมวิษณุ วันนี้ได้มีโอกาสแวะมาสวัสดีหัวหน้าแผนกขนส่งด้วย ก็ถือโอกาสให้ทุก ๆ คนได้ทานอะไร แซ่บ ๆร่วมกันเลยนะ”

คุณวิษณุพูดไปยิ้มไป และใช้คำพูดได้ใกล้เคียงกับวิเชียรมากที่สุดเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับรุ่นน้องของวิเชียรที่แม้จะเพิ่งเจอกันแค่ครั้งแรก แต่นั่นกลับสร้างความประทับใจให้กับฮัทไม่น้อย มองเลยไปที่หัวหน้าแผนกขนส่งแล้วก็เห็นหัวหน้าพยักหน้าให้ เป็นอันเข้าใจว่าให้ทำตามนี้ แล้วฮัทก็มองไปที่พี่วิเชียรที่กำลังทำหน้าตาเซ็งโลกสุด ๆ

“พี่วิเชียร”

ตะโกนเรียกวิเชียรอีกครั้ง และวิเชียรก็มองไปที่รุ่นน้องตามเสียงเรียก

“อารมณ์ดีขึ้นบ้างยังพี่.....สองสามวันนี้พี่ดูแปลก ๆ ว่ะ หัวหน้าช่วยดูพี่วิเชียรแทนผมหน่อยนะ เดี๋ยวพี่วิเชียรหนีไปฆ่าตัวตายเพราะช้ำรัก ผมคงไม่มีหน้าไปบอกเฮียของพี่วิเชียรได้ถูกว่าเขาทำให้พี่วิเชียรช้ำใจ”

ไอ้สัด

มึงรีบไปก่อนที่จะเป็นเรื่องดีกว่าว่ะ มึงไม่รู้หรือไง ว่าคนที่ทำให้กูช้ำรัก แม่งยืนอยู่นี่

“เฮ้ย มึงรีบ ๆ ไปเลยไป เร็ว ๆ เข้า”

รีบไล่ให้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยรีบ ๆ ไปให้พ้น ๆ และฮัทก็โบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่ ก่อนจะขับรถออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ที่วิเชียรยอมรับเลยว่า...........ไอ้บัวลอยวันนี้มึงหัวเราะได้กวนประสาทกูมากเลย สัด..........

“ผมไม่ได้ช้ำรักเพราะเฮียนะ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย”

รีบพูด และคุณวิษณุก็หันมามองหน้าของวิเชียรช้า ๆ
........เฮียเข้าใจนะ....... ไม่ว่าเรื่องอะไรเฮียก็พยายามเข้าใจวิเชียรให้มาก

แม่บ้านบอกว่าเชียรดูซึมลงไปทุกครั้งเวลาที่เฮียไม่อยู่บ้าน ถึงแม้กลับมาจะชดเชยเวลาให้กันบ้าง แต่มันก็ไม่เหมือนกันหรอก อันนั้นเฮียรู้ดี

“โกรธเฮียอยู่อีกเหรอ”

โกรธอะไรล่ะ อย่างผมจะไปมีปัญญาโกรธเฮียได้ไง

“เปล่าครับ....ผมก็รู้ว่าเฮียทำงาน”

แม้คำตอบจะดูเรียบง่าย แต่สายตาที่วิเชียรมองไปที่คุณวิษณุมันบ่งบอกความรู้สึกได้ดี เว้าวอน และอ่อนหวาน ชวนให้หลงใหล
และคุณวิษณุก็ถอนหายใจออกมา ไม่ใช่หงุดหงิด ไม่ใช่อึดอัดใจ แต่เป็น........สงสารคนที่ต้องอยู่คนเดียว เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน.....

“หัวหน้าบุ้ง จะเป็นการรบกวนมั้ยครับ ถ้าวันนี้ผมจะขอยืมตัวนายวิเชียร พนักงานแผนกขนส่งซักวัน ถ้าขอกลับก่อนตอนนี้หัวหน้าจะพอมีคนสแปร์มั้ยครับ”

ระดับคุณวิษณุขอร้อง ผมหรือจะกล้าขัดครับ

“ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ”

รีบตอบรับไปอย่างรวดเร็ว และวิเชียรที่ยืนอยู่ก็หน้าบูดบึ้งลงทันที

“ผมไม่อยากกินแรงคนอื่น เดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าผมได้สิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น เพราะมีคุณวิษณุคอยหนุนหลัง ผมขอทำงานให้เสร็จก่อนได้มั้ยเฮีย แล้วเดี๋ยวเย็น ๆ กลับไปเราค่อยคุยกัน”

เป็นการหลีกเลี่ยงความลำบากใจของตัวเอง และหลีกเลี่ยงอารมณ์โกรธและน้อยใจที่อยู่ดีๆ ก็ครุกรุ่นขึ้น

“มีที่นั่งให้เฮียซักที่มั้ยล่ะ เดี๋ยวเฮียไปส่งของกับวิเชียรด้วยดีกว่านะ"

อะไรนะ เฮียพูดเป็นเล่น

“ผมไม่กล้าให้คุณวิษณุมาลำบากด้วยหรอกครับ”

แม้จะเป็นคำพูดที่เหมือนเป็นการประชดประชัน แต่นั่นกลับทำให้คุณวิษณุยิ้มออกมา และยื่นมือไปเขย่าหัวของวิเชียรเบา ๆ

ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าคุณวิษณุจะกล้าทำให้ใคร ๆ เห็น และหัวหน้าแผนกขนส่งก็ต้องทำเป็นก้มหน้าก้มตาทำเป็นมองไม่เห็นภาพนั้น เพราะแค่นี้ก็ถือว่าโคตร ๆ ปรากฏการณ์ที่สุดของการเสือกแบบเอ็กคลูซีฟแล้ว มึงนี่แม่งไม่ธรรมดาจริง ๆ วิเชียร กับคุณวิษณุที่ใคร ๆ ก็เกรงขามไปหมดซะทุกคน แต่มึงเสือกกล้าทำหน้างี่เง่า แล้วก็ทำตัวงี่เง่าใส่คุณวิษณุได้มึงแม่งโคตรกล้า

“อือออ อย่ามาจับดิเฮีย อายคนอื่นเค้า”

ถึงจะบอกว่าอาย แต่ที่จริงแล้วรู้สึกภูมิใจ ที่คุณวิษณุกล้าให้ความสนิทสนมแบบนี้ต่อหน้าคนรอบข้างของวิเชียรโดยไม่กลัวเสียภาพลักษณ์เลยซักนิด รอยยิ้มหวาน ๆ และท่าทางเขินอายที่แฝงไปด้วยความภูมิใจของวิเชียรแบบนั้น ไม่ค่อยจะมีใครได้เห็นบ่อย ๆ นัก

และก็ทำให้อำนาจที่กำลังจะเดินมาที่เคาร์เตอร์ลงเวลาถึงกับเคลิ้ม

..............ปกติกูไม่ได้อะไรกับพี่วิเชียรนะ แต่ตอนนี้กูไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าพี่วิเชียรน่ารักขึ้นมาซะงั้น.....


ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้น มองหน้าของผู้ชายวัยสี่สิบกว่าคนนั้นที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทแค่มองก็ทำให้ยิ้มออกมาพร้อม ๆ กันได้

“พี่วิเชียรน่ามองใช่มั้ยพี่แก๊ป”

ใช่ อุ่ย ไม่ใช่

หันไปเจอน้องพู่ ที่ยืนทำหน้าเฉยอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็ถึงกับเสียวสันหลังวูบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“เวลาอยู่กับพวกเราก็เป็นอย่างหนึ่ง พอไปอยู่กับคุณวิษณุก็อีกอย่างหนึ่ง.......คราวนี้ก็คงหมดข้อสงสัยกันแล้วนะว่าทำไมคุณวิษณุถึงได้รักพี่วิเชียรได้ขนาดนั้น”

ก็..........ใช่ล่ะครับ ตอนแรกก็ยังสงสัยอยู่ว่าพี่วิเชียรที่ปกติบ้าๆ บอ ๆ เวลาอยู่กับคุณวิษณุจะเป็นยังไง

และวันนี้คนทั้งแผนก็ได้เห็นแล้ว

เวลาที่วิเชียรอยู่กับคุณวิษณุ..............วิเชียรจะทำตัวน่ารักน่าหลง ใครเห็นก็ต้องหลง เพียงแค่วิเชียรยิ้มและทำหน้าตาน่ารัก

ถึงขนาดนี้แล้วถ้าคุณวิษณุไม่หลงก็เกินไป

 

Fin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2014 10:43:15 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7

foolishbeat

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยย เชียรของเจ๊ ตอนนี้น่ารักน่าฟัดมากๆ
เข้าใจเลยทำไมเฮียถึงรักถึงหลง :hao7:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
เพราะงานวิเชียรเลยงอน

เมื่องอนเฮียเลยง้อ

แล้วก็วิเชียรโดนเฮียงาบ เลยหายงอน :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
วิเชียรมีตอนมุ้งมิ้งด้วย ปกติเห็น18+ ตัลลอดดดด  o22

ออฟไลน์ ลิงภูเขา

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-4
เห็นมุมอื่นๆ ของวิเชียรแล้ว มัน.. :-[

น่ารักอ่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
นานๆที พี่วิเชียรจะมาแนว เบื่อๆ ไม่มั่นใจ
น่าร๊ากกกกกกกกก

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เชียรของเฮีย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แอบน้อยใจเหรอที่เฮียทำงานจนไม่มีเวลาให้ คืนนี้จัดสักกี่ดอกดีเน้อ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน กลับมาแล้ว

ก็ไม่ได้ชอบเดินทางนักหรอก แต่เพราะมันคืองาน คือหน้าที่ที่ต้องทำ เลือกทำงานแบบนี้ และก็สนุกกับงานที่ตัวเองทำ
ฮัทไขกุญแจห้อง และก้าวขาเดินเข้ามาภายในห้องในเวลาเกือบตีสอง ไปส่งของกลับมาก็กลับไปที่ห้องของตัวเองแล้ว และเมื่อกลับถึงห้องคิดว่าอาบน้ำแล้วร่างกายสดชื่นคงจะได้นอนหลับพักผ่อน แต่สิ่งที่คิดเอาไว้ ไม่เป็นไปอย่างที่คิดและควรจะเป็น

เพราะ..........

เมื่อล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ทั้งที่ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แต่ทำไมถึงหลับไม่ลงก็ไม่รู้ เดินทางทั้งวัน ตีรถขึ้นมาถึงในเวลาดึกดื่น และเป็นคนพูดเองว่าถ้ากลับมาแล้ว จะกลับห้องตัวเอง

แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ก็ทำอย่างที่พูดไม่ได้

เพราะในเวลานี้ฮัทมาอยู่ที่คอนโดของโยธินแล้ว จิตใจมันกระวนกระวาย และไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
ตั้งแต่เช้าที่ไปทำงาน ตั้งแต่เช้าที่ไปขึ้นรถ โยธินไม่โทรหาเลย

ไม่มีการโทรหาใด ๆ ทั้งสิ้น จะบอกว่ายุ่ง จะบอกว่าไปพบลูกค้า ก็อาจะเป็นไปได้ แต่ทุกวันที่เราอยู่ด้วยกัน โยธินจะโทรมาหา

โทรมาถามนั่นถามนี่ โทรมาถามว่าทำอะไรอยู่ ทั้งที่เราอยู่ด้วยกันแท้ ๆ กลับถึงที่พักเราก็ได้เจอกัน แต่โยธินก็โทรมาหา

และฮัทก็จะเป็นฝ่ายโทรไปหาอีกฝ่ายเหมือนกัน โทรไปถามว่าอยากกินอะไรมั้ย แต่ละวันที่วิ่งรถในเส้นทางที่ไม่ซ้ำกัน หากมีเวลาซักเล็กน้อย จะแวะซื้อขนมและอาหารที่ขึ้นชื่อในแต่ละที่ได้ และฮัทก็จะซื้อกลับเข้าบ้านมาฝากอีกฝ่ายบ่อย ๆ จนเป็นเรื่องปกติ

เราอยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจกัน ทั้งที่ในช่วงแรก ๆ เราอยู่ด้วยกันเพราะเหตุผลอื่นแต่พอเราเริ่มใช้ชีวิตด้วยกันพักใหญ่
ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกัน ได้มีช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกัน
ฮัทรู้สึกว่า เราเข้ากันได้ดีมาก เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างคนต่างรู้เวลาของตัวเอง รู้ขอบเขตของตัวเองและรู้หน้าที่ของตัวเอง

มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ ที่ฮัทรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง พอ ๆ กับที่โยธินก็รู้ ว่าในแต่ละวันที่อยู่ด้วยกันต้องทำอะไร

แบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพ แบบไม่ต้องบอกไม่ต้องพูด

อาหารเช้าโยธินจะเป็นคนทำ แรก ๆ ที่ยังใส่เฝือกอยู่โยธินจะเป็นคนบอก และฮัทเป็นคนปรุงตามที่โยธินบอก เรื่องความสะอาดบ้าน โยธินเป็นคนจัดการ ดูดฝุ่น เช็ดโต๊ะ ถูบ้าน ส่วนเรื่องเสื้อผ้าฮัทจะเป็นคนจัดการ ซัก รีด จัดการให้เรียบร้อย แบบไม่ต้องบอก

ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลายเป็นระบบไปโดยปริยาย และพอได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง
คนที่ทนไม่ได้กับความเฉยชาของอีกฝ่ายกลับกลายเป็นฮัทที่ในเวลานี้ต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองกลับมาเอง
บิดลูกบิดประตูเข้ามาให้ห้องนอนของโยธิน และพอมองเห็นได้ลาง ๆ ว่าร่างของใครบางคนกำลังหลับใหลอยู่บนเตียง

ดึกดื่นป่านนี้โยธินนอนหลับไปเรียบร้อยแล้วและคนที่เข้ามาในยามวิกาล ก็ค่อย ๆ ก้าวขาเดินอย่างช้า ๆ ไปที่เตียง ค่อย ๆ หย่อนกายลงนั่ง ก่อนจะเอนกายลงนอนข้าง ๆ คนที่นอนตะแคงและหันหน้าเข้าฝาผนัง
สัมผัสเบา ๆ ที่ข้างแก้ม ทำให้โยธินสะดุ้งตื่นและคล้ายตกใจเมื่อมีคนเข้าหา

“เค้าเอง”

ได้ยินแค่นั้น และพอรู้ว่าเป็นใครที่มานอนอยู่ด้านหลัง โยธินก็ค่อยสบายใจ และหลับตาลงได้อีกครั้ง นอนนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น และคนที่เข้ามานอนด้วยก็กอดเอวของโยธินเอาไว้ กอดหลวม ๆ และแนบใบหน้าซบกับแผ่นหลังของคนที่นอนนิ่ง

“ทำไมวันนี้ไม่โทรหาเลยทั้งวัน โกรธจริง ๆ เหรอ”

แกล้งถามคนที่นิ่งเงียบใส่ และโยธินก็ค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายถาม

........โกรธเหรอ ก็คงใช่

เรื่องง้อ ทำไมโยธินจะทำไม่ได้ แต่บางครั้งมันก็ต้องมีช่วงเวลาเช็คเรตติ้งกันบ้าง ว่าไปถึงไหนแล้ว และอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาแบบไหน เวลาที่โยธินนิ่งเฉยและไม่วิ่งไล่ตามอย่างที่เคย

รอลุ้นทั้งวันว่าน้องบัวจะโทรหามั้ย แต่ก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะโทรมา อยากโทรหาใจจะขาด แต่อยากดูปฏิกิริยาของคนที่อยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ ถ้าทนได้ก็ให้มันรู้ไป เป็นการวัดใจ ว่าระดับความมีใจให้ของน้องบัว เพิ่มขึ้นเท่าไหร่แล้ว และในเวลานี้โยธินก็สามารถให้คะแนนความไว้ใจและเชื่อใจของคนที่มาหากันในยามดึกดื่นได้แล้ว

..........เป็นไงล่ะ รู้หรือยัง ว่าเวลาที่ต้องวิ่งไล่ตามด้วยความทุรนทุรายบ้าง มันเป็นยังไง..............

“แล้วทำไมไม่โทรมาหาก่อนล่ะ”

แกล้งถามออกไปแบบนั้น พยายามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่จริง ๆ แอบลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจกับผลงานของตัวเอง

“.................”

ไม่มีคำตอบจากคนที่นอนกอดโยธินเอาไว้ และโยธินก็ไม่คิดจะคาดคั้นเอาคำตอบ
ไม่รู้จะอยากได้คำตอบไปทำไม ในเมื่อในเวลานี้ก็ชัดเจนมากเกินพอแล้ว

การไม่พูด ไม่ตอบ ไม่ได้แปลว่าไม่มีคำตอบ

ฮัทแนบใบหน้าซบกับแผ่นหลังของโยธินอีกครั้งและกดปลายจมูกลงที่แผ่นหลังของโยธินหนัก ๆ

......อยากได้คำตอบนักใช่มั้ย.....นี่ไงล่ะคำตอบ…พอใจแล้วหรือยัง

“วันนี้ทั้งวัน คิดถึงกันบ้างป่ะ”

แกล้งถาม และพยายามบังคับน้ำเสียงให้สงบราบเรียบที่สุด ทั้งที่ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่โยธินก็ยังพยายามที่จะไล่ต้อนคนที่ไม่ยอมตอบคำถามให้จนมุม

รู้ซะบ้างว่านี่ใคร ผมโยธินครับ เซลหมายเลขหนึ่งของแผนกขาย ที่ปิดการขายได้อย่างแนบเนียน และทำยอดขายได้ถล่มทลายมาแล้ว

“.................”

ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร ไม่ตอบก็ไม่ว่า

ไม่ตอบก็แค่.......

โยธินขยับกายถอยออกห่างมาอีกหน่อย และคนที่นอนอยู่ด้านหลังก็ขยับตาม

เป็นไงล่ะ

ชอบแบบนี้ใช่มั้ย

ชอบให้ทำแบบนี้ใช่มั้ย

“ถ้าไม่คิดถึงก็ไม่ต้องมายุ่งด้วย ไม่ต้องมาให้ความหวังคนรอ”

ตัดพ้อต่อว่าไปด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความน้อยใจอย่างรุนแรง และคนที่อยู่ด้านหลังก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

เพราะรู้ว่ายังไงก็คงต้องตอบ ไม่มีทางเลี่ยงได้อยู่แล้ว

“ตีรถกลับมาดึกขนาดนี้ กลับไปอาบน้ำคิดว่าจะนอนแต่มันข่มตาหลับให้หลับไม่ได้เลย จะให้บอกว่าคิดถึง คงพูดไม่ได้หรอก.........เพราะความรู้สึกตอนนี้มันมากกว่าความคิดถึงไปนานแล้วครับ”

ให้มันได้อย่างนี้ ตอบให้มันได้อย่างนี้ แบบนี้ล่ะมันโดนใจ ถ้ากล้าตอบขนาดนี้ ก็คงต้อง..........

โยธินค่อยๆ ขยับกายและหันหน้ามาหาคนที่มานอนด้วยบนเตียงในคืนนี้

“บุกรุกแบบนี้มีเจตนาอะไร ปกติเห็นนอนแต่โซฟา”

แกล้งพูด และคนที่นอนมองหน้าโยธินในความมืดก็ตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด

“จะให้นอนแต่โซฟาตลอดไปมันไม่ได้หรอก อากาศเย็นลงแล้ว ขืนนอนแต่โซฟาก็ได้หนาวตายกันพอดี”

งั้นเหรอ ขืนนอนบนโซฟาไปตลอดก็คงจะได้หนาวตายกันพอดีเหรอ

โยธินนอนมองหน้าของคนที่มาหา และพูดบางอย่างที่มากกว่าคำว่าคิดถึงให้ฟัง
ฟังแล้วหัวใจก็พองโตขึ้น และรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏที่ใบหน้าของโยธิน

......สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้คืออมยิ้มอย่างมีความสุข และคนที่อยู่ตรงหน้าโยธินก็ค่อยๆ หรุบสายตาลงเล็กน้อย เพราะถึงแม้จะอยู่ในความมืดแต่ก็พอได้เห็นสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองมา

“พูดแบบนี้อยากเสียตัวใช่มั้ย”

แกล้งถามไปตรงๆ และคนที่อยู่ตรงหน้าก็บ่นพึมพำเบา ๆ พอให้ได้ยินกันสองคน

“ลากเข้าเรื่องนี้ได้ไงวะ แม่ง.....ไม่ได้เกี่ยวเล้ยยย”

ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวครับ ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็ไม่ได้พยายามจะบีบบังคับด้วย เอาไว้บัวเต็มใจวันไหนก็บอก พี่พร้อมจะสนองให้เสมอ

“เหนื่อยมั้ยครับ”

ไม่เหนื่อยหรอก

“ล้ามากกว่า ง่วงมากเลยพี่โย โคตรอยากนอน”

เหรอครับ งั้นก็นอนเถอะ ดึกแล้ว

“พรุ่งนี้ทำงานป่าว”

พรุ่งนี้เหรอ ก็ทำอยู่หรอก

“เข้าสาย ๆ หน่อย เดี๋ยววิ่งของรอบบ่ายแทน หัวหน้าบุ้งเขาล็อคให้แล้ว”

ก็ดีนะ มีเวลานอนพักให้ร่างกายปรับตัวแล้วก็ค่อยไปทำงาน

“ปกติออกต่างจังหวัดแล้วจะได้หยุดไม่ใช่เหรอ”

ก็ใช่อยู่หรอก

“พี่แก๊ปกับพู่หยุด เลยเข้าแทน เห็นใจพู่มัน เดี๋ยวครอบครัวมันร้าวฉาน ให้มันได้อะไร อะไรยังไง กับพี่แก๊ปบ้าง”

เห็นใจแต่คนอื่น แล้วไม่เห็นใจคนที่อยู่ต่อหน้าบ้างเลยเหรอ

“แล้วเมื่อไหร่จะเห็นใจพี่ล่ะ”

พี่เหรอ เห็นใจทำไมล่ะก็ไม่เห็นเป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ดูท่าทางก็ปกติดีไม่ใช่หรือไง

“พาเข้าเรื่องอย่างว่าตลอดเลยนะ”

ไม่ได้เหรอ แล้วเมื่อไหร่จะได้ล่ะ

“ไม่อยากมีอะไรกันเหรอ”

อ่า.............เรื่องนั้นมันก็.........จะอธิบายยังไงดีวะ เล่นถามกันซะตรงขนาดนี้ แล้วจะให้ไปต่อยังไงล่ะ

“ครั้งนั้นมันแย่แล้วก็เลวร้ายมากเลยเหรอ ไม่ยกโทษให้พี่เลยเหรอ ไม่สนใจ ไม่สงสารพี่เลยเหรอ”

ไม่ใช่แระ มาแนวนี้กูไปไม่เป็นนะครับพี่โย เดี๋ยวกูแม่งใจอ่อนล่ะเสร็จเลย

“เอาจริง ๆ นะ สารภาพเลยตามตรง จำแทบไม่ได้เลยว่ะ รู้แค่ว่าตื่นมาแม่งโคตรเจ็บ อาการหลังจากนั้นก็โคตรจะสาหัสนอนซมไข้แดกเป็นอาทิตย์”

..............

พอจะรู้บ้าง แต่ไม่นึกว่ามันจะเป็นเรื่องที่น้องบัวฝังจิตฝังใจขนาดนี้
โยธินตั้งใจฟังสิ่งที่คนที่อยู่ตรงหน้าพูดก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นแตะเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่เริ่มบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ฟัง

“ขอโทษครับ”

ไม่เคยได้มีโอกาสขอโทษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งได้รู้จักตัวตนของกันและกันอย่างแท้จริง โยธินก็ได้มีโอกาสพูดคำนี้
คำที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสพูด ฝ่ามืออุ่น ๆ ที่สัมผัสเบา ๆ ที่ข้างแก้ม ความรู้สึกอาทรและเป็นห่วงเป็นใยที่ส่งมาถึง
ความจริงใจที่อีกฝ่ายแสดงให้รับรู้ ทำให้ฮัทยิ้มออกมาได้

รอยยิ้มที่แสดงถึงความเชื่อใจและไว้วางใจ แตะที่มือของโยธินที่ยังคงประคองแก้มเอาไว้
แตะเบา ๆ และค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้โยธินอีกนิด ซุกซบใบหน้าแนบกับแผ่นอกกว้าง
และโยธินก็กอดรัดร่างของคนในอ้อมแขนเอาไว้ หลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆในความมืด

ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความอีกแล้ว ในเมื่อทุกสิ่งที่ปรากฎมันชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายความรู้สึกให้มากไปกว่านี้ คนสองคนซุกกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

กำลังจะเคลิ้มหลับ แต่โยธินก็รู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังเดินย่ำอยู่บนผ้าห่ม

นิลพัทผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอขึ้นมานอนด้วยและกำลังขดตัวอยู่บนผ้าห่ม

โยธินมองเจ้าก้อนกลม ๆ สีดำสนิทที่ขดตัวนอนอย่างมีความสุขแล้วก็ยิ้มออกมา

หลับตาลงได้แล้วในคืนนี้ เคยคิดว่าคงต้องนอนคนเดียวไปตลอด เพราะคนที่นอนอยู่บนโซฟาไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามานอนด้วยกันเลย แต่แล้วอยู่ดีๆ วันนี้น้องบัวก็เข้ามาหา มาแบบไม่ต้องอ้อนวอน ไม่ต้องขอร้อง แถมการมาในครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับคำพูดและการกระทำที่น่ารักชวนให้ยิ้มได้ตลอดทั้งคืนอีกด้วย

โยธินยิ้มอย่างมีความสุข พอ ๆ กับที่คนที่ซุกซบใบหน้าอยู่ที่แผ่นอกกว้างและให้โยธินกอด กำลังขมวดคิ้วมุ่น และคล้ายกับเรื่องบางอย่างที่คิดกำลังตีกันในหัวมั่วไปหมด

เหี้ยยยยยยยยยยย กูแม่ง...ทำตัว...แบบนี้ได้ไงวะ
แบบนี้มันเรียกยั่วกันชัด ๆ ม่ใช่หรือไงวะ แล้วกูทำลงไปได้ยังไง

กูทำลงไปได้ยังไงไม่เข้าใจ ไหนจะไอ้คำพูดเสี่ยว ๆ ที่พูดว่า สิ่งที่รู้สึกในตอนนี้มันเลยความคิดถึงไปนานแล้วด้วย

พูดออกไปได้นะกู พูดออกไปได้

ยังดีที่ยังรอดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ ยังดีที่พี่โยแม่งไม่หาเรื่องเอากูอีกรอบ

แต่กูก็แม่งอยากรู้อยู่เหมือนกันว่าพี่โยมันทนได้ไงวะ แสดงท่าทางให้รู้ว่าชอบ แต่ไม่แตะกูเลย โคตรอดทนเหอะ อดทนจนน่าเห็นใจเลยล่ะ

ฮัทยังคงคิดอะไรเหลวไหลไปเรื่อย คิดไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่เคยรู้ว่าทำไมโยธินถึงสามารถอดทนได้ตลอด

.............ลองเอาน้ำออกทุกวันสิ แล้วจะรู้ว่าทำไมยังทนได้..........ขืนไม่ทำอย่างนั้น....คงได้ตบะแตกเข้าซักวัน....ก็เลยอดทนมาได้ตลอด แต่โยธินไม่เคยรู้ .....คนที่อยู่ในอ้อมแขนในเวลานี้ก็ทำแบบเดียวกับที่โยธินทำ….

อาจไม่บ่อยเท่า แต่ก็ต้องปลดปล่อยร่างกายตัวเองก่อนที่ความต้องการทางกายทั้งหมดจะระเบิดออกมาด้วยการเดินเข้าไปหาโยธิน และเป็นคนเสนอให้โยธินช่วยทำเรื่องอย่างว่าซะเอง

“....นี่ถ้าต่อไปมาทำแบบนี้อีก จะไม่ปล่อยหรอกนะ บอกไว้ก่อนเลย แต่วันนี้จะยอมไม่ทำอะไรก็ได้ เข้าใจมั้ยครับ”

เข้าใจสิครับ ทำไมจะไม่เข้าใจ

“ถ้าวันหน้าทำแบบนี้กับพี่โยอีก ก็ไม่ต้องปล่อยหรอก ให้ถือซะว่าสมยอมเองก็แล้วกัน”

เปิดทางให้ขนาดนี้ก็เสร็จโจรสิครับ

“...พูดแล้วห้ามคืนคำนะ”

บังคับให้สัญญากันดื้อ ๆ และคนที่ถูกบังคับก็หัวเราะออกมาเสียงเบาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองที่ปลายคางของโยธิน และพูดจากวนประสาทให้โยธินหงุดหงิดโมโห จนอยากจะผิดคำพูดซะตอนนี้

“ถ้าไม่สัญญาแล้วจะทำไม”

ก็ไม่ทำไมหรอก

“โห่เอ้ยยยย แบบนี้ตลอด ทำให้อยากแล้วก็จากไปตลอด ไปเลย ไม่ต้องมาใกล้แล้ว ถอยไปห่างๆ เลย”

เกิดอาการงอนขึ้นมากะทันหันและโยธินก็ทำท่าจะผลักไสคนในอ้อมแขนที่ยังคงดื้อรั้นจะนอนให้โยธินกอดให้ได้

“งอนขนาดนี้ไม่ได้น่ารักหรอกนะ”

เหรอครับ

ไม่ได้น่ารักเหรอครับ

“ถ้าพูดอีกคำเดียว เค้าจะขนหมอนกับผ้าห่มออกไปนอนข้างนอกนะ”

โธ่เอ้ยยยยยยยยย ก็แค่ล้อเล่นนิดเดียว อย่าโกรธไปเลยน่า

“ถ้าขนออกไปจริง จะช่วยขนออกไปด้วย แล้วเราก็ไปนอนหน้าโทรทัศน์กัน แล้วก็ให้นิลพัทยึดเตียงเอาป่ะล่ะ”

ไม่เอาล่ะ

แบบนั้นไม่เอา

“ฮึ่ยยยยยยย โมโหว่ะ โมโห นอนไปเลยไป นอนไปเลย”

ก็นอนอยู่นี่ไงล่ะ เห็นอยู่ไม่ใช่เหรอว่านอนอยู่

“กอดหน่อย”

ก็ได้ เห็นว่าขอร้องนะ จะยอมกอดให้ก็ได้

“พี่โยอย่าไปทำแบบนี้กับใครนะ อย่าไปงอน อย่าไปอ้อนใครแบบนี้นะ”

ไม่ทำหรอกน่า ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ไปทำแบบนี้กับใคร ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปทำแบบนี้ด้วยเด็ดขาด

“เฉพาะกับบัวเท่านั้นแหละที่พี่ทำ.......ขืนไปทำแบบนี้ให้ใครเห็น อายเค้าตาย คนคงหาว่าพี่ปัญญาอ่อน”

ก็ใช่.....คงไม่มีใครอยากเชื่อว่าโยธิน เซลหมายเลขหนึ่งของแผนกขายจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้

“ทำให้ผมดูคนเดียวพอแล้ว ผมก็ไม่คิดอยากจะให้ใครเห็นพี่โยในแบบที่ผมเห็นและรู้จักหรอก”

ความรู้สึกนี้ ฮัทเรียกมันว่าอารมณ์หวง หวงสิ่งพิเศษที่ถูกจำกัดไว้ให้เป็นของตัวเองเท่านั้น

“พี่ไม่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นหรอกน่า พี่ทำแบบนี้กับบัวคนเดียว บัวก็รับพี่ในแบบนี้ให้ได้แล้วกันนะ บางครั้งอาจจะมากไปหน่อย แต่เพราะว่าเป็นบัวพี่ถึงได้กล้าทำ........และบางทีพี่ก็อยากให้บัวลองทำแบบนี้บ้าง..........คนเราคบหากันแล้ว ก็ต้องหัดอ้อนกันบ้าง..........แล้วพี่ก็อยากเห็น....ว่าบัวจะอ้อนพี่ยังไง”


TBC.

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
อีกห้าตอนเรื่องนี้ก็จบแล้ว ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาตลอด ที่จริงมีอีกคู่คือนิพนธ์กับเกรียงศักดิ์ แต่ยังไม่จบ และไม่รู้จะจบเมื่อไหร่  เลยไม่กล้าลงต่อ ขอให้สนุกกับการอ่านนะจ๊ะ

:pig4:                                             :pig4:                                           :pig4:                                         :pig4:                       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2014 14:02:51 โดย aa_mm »

thaibuff053

  • บุคคลทั่วไป
คุณเท็น คุณรู้ตัวไหมว่าคุณโคตรจะเป็นคนที่เข้าใจโลก
อยากชื่นชมคุณมากๆ นิยายคุณมีทั้งสนุกกับไม่สนุกนะ แต่โดยรวมชอบมากเ
รื่องเกี่ยวกับช่างกล อ่านแล้วหัวเราะ นั่งยิ้ม น้ำตาไหล
ไม่ได้อ่านนิยายคุณมานาน มาอ่านเรื่องนี้ คุณพัฒนาไปไกล อ่านจนไม่อยากหยุดอ่านเลย
ตัวละครแต่ตะตัวมีเอกลักษณ์จนเห็นชัด แต่ล่ะตัวละครมีมุมของตัวเองมีเสน่ห์ได้อีก

ยอมรับเลยว่าคุณเก่ง 555555 ขอคาราวะ

ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากบอกเฉยๆ
ปล.ท่าทางคุณเท็นจะชอบต้มยำปลาทู

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
 :-[ คุยกันมุ๊งมิ๊ง น่ารักมาก  :mew1:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

foolishbeat

  • บุคคลทั่วไป
จะจบแล้วเหรอ คู่นี้ถือว่ามีวิบากกรรมเยอะมาก
แต่ตอนนี้อ่านแล้วอมยิ้มไม่หยุดเลยค่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ในที่สุดก็ยอมรับว่า'รัก'แบ้วใช่ป่ะน้องบัว

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แสดงว่าตอนถัดไป พี่โยจิได้กินน้องบัวแล้วชิมิคะ  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่โยน่ารัก น้องฮัทใจอ่อนแล้ว รักเค้าแล้วใช่ม้าตัวเองงงง

วิเชียรเวลาอยู่กับเฮียน่ารักอ่ะ (ไม่รวมเวลามีอารมณ์หื่น อันนั้นหมั่นไส้มาก 555)
 :hao7:

miyaki

  • บุคคลทั่วไป
อยากเห็นน้องบัวอ้อนแล้วสิ
ในที่สุด คู่นี้ก้อคบกันแล้วสินะ น่ารักอะ :mew4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เค้าอ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขมากกกกกก ^^
ขอบคุณทั่นเท็นคนแต่งที่เก่งมากๆ ที่สำคัญขอบคุณคนโพสมากมายค่ะ ⌒.⌒

รอตอนต่อไปค๊าบบบบ เริ่มหวานกันแล้วอ่ะ ช๊อบ ชอบ ^▽^

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ชอบทุกตอนในเรื่องนี้เลย โดยเฉพาะตอนนี้เลยจ้า
อยากเห็นตอนน้องบัวตกเป็นของพี่โยอีกรอบ 555

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน กรุณาอย่าไปนอนที่โซฟา

โยธินบอกเอาไว้เมื่อเช้า ว่าวันนี้คงไม่กลับ เพราะว่าจะไปเยี่ยมพ่อแม่ แล้วก็อยู่ค้างด้วย

วันนี้ก็เลยกลายเป็นวันสบาย ๆ ของฮัทที่อยู่เฝ้าห้องคนเดียวโดยมีมิตรสหายคู่ใจ นิลพัท แมวอืด นอนหลับอยู่บนโซฟา
และกำลังชมรายการเพลงอย่างเพลิดเพลินจนหลับ ตกลงว่าเปิดโทรทัศน์กล่อมแมวว่างั้น
ขอบคุณมากนิลพัทที่มาอยู่อาศัยให้เป็นภาระและไม่ทำตัวให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

ฮัทอาบน้ำแล้วเรียบร้อย และไม่คิดว่าต้องมีพิธีรีตองอะไรในวันนี้ เพราะรู้ว่ารูมเมทไม่อยู่

อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ยังไม่ทันเช็ดตัวด้วยซ้ำ นุ่งเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวและมาจัดการหาอะไรให้ตัวเองกินแก้หิว

นึกว่าจะเหลืออะไรไว้ให้กินบ้าง เกลี้ยงเลย
โชคดียังพอมีขนมปังแผ่นใกล้หมดอายุวางไว้ให้บนหลังตู้เย็น แล้วก็มีทูน่ากระป๋องเหลืออยู่อีกนิดหน่อย

แล้ว..........ครีมทาขนมปังยังพอมีบ้างมั้ยวะ คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นว่ามีอยู่ในตู้เย็น

อยู่ไหนหว่า

............................

...........................

โยธินไม่คิดว่าหลังจากเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วจะได้เห็นภาพของใครบางคนที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ค้นหาอะไรบางอย่างในตู้เย็น และกำลังวุ่นวายอยู่กับการหยิบนั่นผสมนี่ให้วุ่นวายอยู่ที่หน้าเคาร์เตอร์ภายในโซนที่แบ่งเป็นครัว ถัดจากโซนที่แบ่งเป็นพื้นที่รับแขกห่างออกไปเล็กน้อย

นิลพัทหลับอยู่บนโซฟา ส่วนน้องบัว กำลังยุ่งวุ่นวายกับ.........น่าจะเป็นการทำแซนวิชเพราะเห็นว่ามีขนมปังด้วย
กำลังจะเดินไปทัก แต่ว่า..........บางครั้งการไม่เดินไปทักอาจดีกว่า เพราะ......

โยธินกำลังยืนกอดอกมองภาพของคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างถูกใจ

แผ่นหลังเนียนขาวไล่จากต้นคอลงมาจนเกือบถึงสะโพกมันดูน่ามอง ท่อนล่างถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวที่ดูหมิ่นเหม่เต็มที

ท่าทางการขยับเคลื่อนไหวที่อยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ แบบนั้น มันทำให้โยธินเผลอมองเพลิน
มองไปมองมาแล้วความรู้สึกก็เริ่มครุกรุ่นขึ้นทีละน้อย เริ่มอยากจะทำอย่างอื่นมากกว่าแค่มอง

ทำไมถึงได้ทำให้รู้สึกขนาดนี้ ทำไมถึงได้ยั่วยวนให้อารมณ์ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในเตลิดไปไกลได้ขนาดนี้

ทำไมถึง.....ได้........

ไม่ได้คิดจะทำอะไรรุนแรง ไม่ได้คิดจะทำให้อีกฝ่ายตกใจ

ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น แค่....... อดใจไม่ไหวจนต้องก้าวเดินเข้าไปหา

รวบเอวของคนที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำบางอย่างที่เคาร์เตอร์ และโยธินก็แตะริมฝีปากสัมผัสหนัก ๆ ที่ต้นคอด้านหลังของคนที่ยืนอยู่ สูดหายใจลึกเข้าเต็มปอด อย่างอดใจไม่ไหว

“เฮ้ยยยยยยย”

ฮัทรีบสะบัดคนที่เข้ามากอดออกห่าง

ฝ่ามือกุมแน่นที่หลังคอของตัวเองอย่างตกใจ และสายตาก็เริ่มมองตรงไปที่ โย..........ธิน........

“อ่า คือ...ว่า”

เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องไม่ดีเข้าให้แล้ว และโยธินที่เกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมากะทันหันก็ยกมือขึ้นลูบต้นคอของตัวเองแก้เก้อ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

“อะ.......พี่...พี่โย...กลับมานานยัง”

พี่เหรอ หมายถึงพี่ใช่มั้ยบัว พี่ก็.......

“พักหนึ่งแล้ว มายืนดูบัวทำแซนวิชกินตั้งนานแล้วว่าจะบอกให้ทำเผื่อด้วยอยู่พอดีเลย”

แล้วทำไมไม่เรียกวะ

“ก็ เอ่อ น่า น่าจะเรียกกันบ้าง ใช่ .....ใช่มั้ยล่ะ”

เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ และฮัทก็วางมือจากการทำแซนวิชทันที เตรียมจะเดินไปสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เพราะอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนี้มันคงไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่

“ก็กำลังจะเรียกไง”

กำลังจะเรียกอะไรล่ะ พี่เล่นเดินมาดูดหลังคอผมไปที แล้วมาบอกว่ากำลังจะเรียกเนี่ยนะ มันไม่ใช่ป่าววะเฮ้ย

“อ่า เหรอพี่ งั้นเดี๋ยวผมไปแต่งตัวก่อนนะ”

รีบชิ่งหนีและเมื่อกำลังจะก้าวเดินกลับถูกขวางเอาไว้ จะเดินไปซ้าย ก็ถูกขวางไม่ให้เดินไปทางซ้าย พอจะไปทางขวาก็ถูกขวางทาง เงยหน้าขึ้นมองหน้าของโยธินที่เริ่มมองมาแบบแปลก ๆ แล้วก็ชักนึกหวั่นใจขึ้นมา

“ถอยไปหน่อยดีกว่ามั้ยพี่”

ถอยเหรอ

อ่า.....

“บัวนั่นแหละมาเดินทางเดียวกับพี่ทำไม พอพี่จะไปซ้ายบัวก็มาดักพี่เอาไว้ พอจะไปขวา บัวก็ไม่ยอมให้พี่ไป”

อ้าวเฮ้ย มันไม่ใช่ป่าววะ นั่นน่ะ มันใช่ที่ไหน พี่มาดักผมไว้ไม่ให้ไปต่างหาก

“ผมเปล่า”

เปล่าเหรอ

“พี่ก็เปล่าเหมือนกัน”

เอ้อออออออ

“งั้นผมไปซ้าย พี่โยก็ไปขวาแล้วกันนะ”

ก็ได้ครับ

โยธินยอมถอยให้ และคนที่ตั้งใจจะเดินเข้าห้องไปหาเสื้อผ้าใส่ก็กำลังจะก้าวเดินจากไป
จะไปจริง ๆ เหรอ คิดจะไปจริง ๆ เหรอบัว คิดจะไป.................. ไม่ได้คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และเมื่อฮัทกำลังจะเดินหนีไปจริง ๆ โยธินก็กลับมายืนขวางเอาไว้ ไม่ยอมให้ไป

“อะไรวะ”

อะไรไม่รู้ล่ะ

“อีกแล้วนะบัว ทำไมคอยแต่จะเดินเข้าหาพี่ตลอดเลยล่ะ”

ไม่ใช่แล้ว มึงมั่วแล้วป่าววะแบบนี้

มึง...........

ไม่ใช่แค่หาเรื่องให้อีกฝ่ายมึนงง แต่โยธินยังใช้สายตาจ้องมองที่ใบหน้าของคนที่เงยหน้าขึ้นมองด้วยความไม่เข้าใจ

“ทำแบบนี้พี่ก็ไปไม่ได้สิบัว”

มึงไปไม่ได้ก็เพราะมึงไม่ให้กูไปเองนะเว้ย

“อะไรของพี่วะ”

ไม่อะไรของพี่หรอก

“บัวนั่นแหละอะไร.....คิดอะไรอยู่....คิดจะแกล้งพี่ใช่มั้ย”

แกล้งห่าอะไรของมึ้งงงงงงงง แกล้ง.........

“เฮ้ยยยยยยยย”

ไม่ให้โวยวายได้ยังไง ในเมื่อคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องและโยนความผิดให้ตลอดเวลา รวบเอวคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้
เผชิญหน้ากันตรง ๆ และฮัทก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ ยกแขนสองข้างขึ้นเพื่อป้องกันตัว และโยธินยังกอดรัดที่เอวแน่นไม่ยอมปล่อย แถมยังจ้องหน้านิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นอีก

แบบนี้มันหมายความว่าไง

ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพยายามถอยเพื่อไม่ให้ร่างกายต้องแนบชิดกันมากกว่านี้
ดวงตาที่มองมานิ่งงัน แต่เต็มไปด้วยความหมายที่คนถูกมองเข้าใจดี

“แล้วนี่ยังไง เดินเข้ามาให้พี่กอดซะอีก จะเอายังไงกันแน่ เจ้าเล่ห์กับพี่เกินไปแล้วนะครับ”

เฮ้ยยย กูเปล่าเลย มึงโมเมเอาเองทั้งหมดเลยเฮ้ย ไม่ใช่แล้วล่ะไอ้พี่โย ไม่ใช่แล้วไอ้พี่โย
ไม่ใช่แล้ว ไอ้...........พี่.......... โย.....

ไร้คำพูด หมดคำถาม เงยหน้าขึ้นหวังว่าจะอธิบาย แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปาก เพราะในเวลานี้ริมฝีปากถูกโยธินครอบครองเอาไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

รอยจูบหวาน ๆ ที่แนบสัมผัสลงมา ทำให้คนที่ถูกช่วงชิงลมหายใจไปถึงกับทำอะไรไม่ถูก เผลอไผลและยินยอมให้อีกฝ่ายทำทุกอย่างได้ตามต้องการ

ฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบไล้แผ่นหลังของฮัทเบา ๆ ก่อนจะไล้เรื่อยลงมาจนถึงสะโพก และดึงผ้าขนหนูร่วงลงพื้นอย่างง่ายดาย

“อือออ พี่โย”

ฮัทผละใบหน้าออกห่าง และยังใช้แขนยันแผ่นอกของโยธินเอาไว้

แววตาที่มองมามีแต่ความตกใจ และแม้จะอยากก้มลงไปหยิบผ้าขนหนูมาสวมขนาดไหนก็คงทำไม่ได้ เพราะโยธินคงไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นได้ง่าย ๆ ผิวแก้มขาว ๆ ขึ้นสีแดงเรื่อ ดวงตาที่จ้องมองมาที่ใบหน้าของโยธิน มีแววขอร้องอ้อนวอน และไม่มั่นใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ได้เห็น

แล้วไม่รู้หรือไงว่ายิ่งมองแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึก ยิ่งมองแบบนี้ ยิ่งทำให้หยุดไม่ได้

“คืนนี้นอนในห้องนะ นิลพัทมันยึดโซฟาไปแล้วเห็นมั้ย บัวจะนอนได้ยังไง”

มันไม่ใช่เรื่องที่จะมากังวลว่าจะนอนที่ไหน แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องไปใส่ใจว่าใครจะยึดโซฟา

ปัญหาคือว่า.........

“อากาศเย็นแล้ว นอนในห้องอุ่นกว่า........นะครับ”

ไม่ใช่แล้วล่ะ ไม่ใช่........แล้ว...

“เดี๋ยวพี่จะถอดเสื้อผ้าออกแล้วกันนะ จะได้ไม่เอาเปรียบบัว พี่ไม่อยากให้บัวต้องยืนแก้ผ้าหนาวอยู่คนเดียว”

............

ไม่ใช่... มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาทำด้วยกันนะเว้ย

โยธินไม่ใช่แค่พูด แต่ทำทันทีหลังจากที่พูดจบ ดวงตายังคงจ้องมองที่ใบหน้าของฮัทไม่วางตา แต่มือจัดการปลดกระดุมเสื้อและถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก

และคนที่ยืนหน้าแดงก่ำ ก็ได้แต่กระพริบตามองเพราะไม่รู้พูดอะไรดี

กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  สายตาเผลอมองทุกการกระทำของโยธิน และนึกอยากจะเบือนหน้าหนีไปให้ไกล ๆ

เอางี้เลยเหรอวะ    ทำแบบนี้ก็ตายห่าเลยสิวะพี่

โยธินจ้องตรงไปที่ดวงตาที่มีแววไหวระริกของคนที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น และแก้มขาว ๆ ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ยิ่งทำให้น่ามองน่าค้นหา 

สุดท้ายร่างกายเปลือยเปล่าทั้งคู่ และโยธินก็แตะฝ่ามือไปที่แก้มของฮัทเบา ๆ แต่ก็ทำให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ถึงกับสะดุ้ง และชักเริ่มทำตัวไม่ถูก

“แค่นี้ก็เหมือนบัวแล้ว บัวจะได้ไม่ต้องอายด้วย.....ไปข้างในห้องกันเถอะนะ ข้างในห้องอุ่นกว่าเยอะ”

เอ่อ....

ข้างในห้อง อุ่นกว่า....เหรอวะ ข้างในห้อง........อุ่นกว่า ถ้าข้างในห้องอุ่นกว่า งั้น......ก็คง..........ต้องไป


TBC.

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด