@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 754715 ครั้ง)

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
เข้ามาเม้นก่อนเดี๋ยวมาตามอ่าน

ออฟไลน์ กีกิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไล่อ่านจนตาแฉะ อยากบอกว่า ไอเลิฟคุณเท็นนนนนน  :กอด1:
รักทุกคู่ชอบทุกคู่เลย
ส่วนคู่ล่าสุดนี่ จุมพลนี่จะมึน ซึน ฮาไปไหน
รู้สึกสงสารคุณไอศูรย์ไงไม่รู้ แต่คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันอะนะ  :-[

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
คู่นี้ถ้าจะมันส์  :hao7:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เอาจริงๆคืออยากอ่านพีทอ้นที่เป็นเรื่องเป็นราวแบบคู่อื่นบ้างนะ แต่มาทีไรบทนี้ตลอดดดด หัวใจจะวาย  :o12:

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0

foolishbeat

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน จุมพลก็คือจุมพล


นี่เห็นเป็นอะไร นึกอยากจะโทรมาขอความช่วยเหลือก็โทร นึกอยากจะเงียบหายก็เงียบไป
หายไปนานหลังจากได้ของล็อตสองไปแล้ว ตอนนี้จุมพลกำลังโทรมาป่วนขอของล็อตสามในราคาเดิมซึ่งคุณไอศูรย์ก็ยังคงยืนยันคำเดิม

“ผมไม่มีหรอกของล็อตสามน่ะ คุณทำไมไม่หาจากเจ้าอื่นดูล่ะ”

เรื่องแค่นี้ก็น่าจะรู้ ทำไมถึงได้ขยันโทรมาทุกครั้งที่มีปัญหา แต่ละครั้งที่โทรมาก็มีสารพัดมุก
ครั้งแรกตีมึน ถึงจะรู้ว่าเป็นคุณไอศูรย์ผิดคนก็ยังดึงดันจะเอาของให้ได้

ครั้งที่สอง มาแบบป่วย ๆ เพลีย ๆ ทำเสียงอ้อแอ้น่าสงสาร
พอได้ของไปแล้วก็เงียบกริบ แต่แค่เพียงสองเดือนผ่านไป จุมพลก็กลับมาอีกแล้ว
มาในรูปแบบใหม่ พูดแบบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ คล้ายจะเกรงใจแต่ก็ไม่ได้เกรงใจ

“ผมขอความช่วยเหลือได้มั้ยครับ ยังไงเราก็ค้าขายกันมานาน”

ค้าขายกันมานานบ้าอะไร ผมเพิ่งส่งของให้บริษัทคุณแค่สองล็อต และสองล็อตนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้เต็มใจจะส่งให้คุณด้วย

“ผมไม่มีหรอกนะของล็อตสาม เพื่อนผมหาได้แค่นี้ ช่วยได้แค่นี้จริง ๆ”

ไม่ได้อยากจะตัดสัมพันธ์ แต่ถ้าปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยแบบนี้ก็เกินไป เห็นว่าช่วยได้เลยให้ช่วยตลอด เราไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่าเป็นบริษัทคู่แข่งกันนะครับ

“เอาไว้ผมจะลองถาม ๆ เขาดูให้แล้วกันนะ แต่รอบนี้ผมคงบอกได้คำเดียวว่าเป็นไปได้ยาก”

ยากเหรอ ยากเลยเหรอ ยากเลยจริง ๆ เหรอ

“คุณไอศูรย์จะช่วยผมใช่มั้ยครับ”

แล้วทำไมผมต้องช่วยคุณด้วยวะ ไม่เข้าใจ

“ก็จะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วกันนะครับ แต่โอกาสได้คงน้อยมาก ผมก็ขอให้คุณทำใจแล้วกัน”

ไม่อยากตัดบท แต่ก็ต้องตัด ขืนคุยมากไปกว่านี้มันจะยิ่งไปกันใหญ่

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ นะครับ”

ทำไมต้องทำเสียงเหมือนซาบซึ้งใจขนาดนั้น แค่หาของให้ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้

“งั้นแค่นี้นะครับ ผมไม่รบกวนคุณไอศูรย์แล้ว”

เป็นฝ่ายโทรมาและก็เป็นฝ่ายวางสายไปซะเอง และคนที่อยู่ปลายสายก็ถึงกับงงหนัก กับสิ่งที่จุมพลหัวหน้าแผนกจัดซื้อทำ

แบบนี้หมายความว่ายังไง นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไป มาขอความช่วยเหลือแบบมึน ๆ งง ๆ แล้วก็วางสายไปดื้อ ๆ
ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ ทำไมถึงได้มีนิสัยแบบนี้ ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งคิดยิ่งเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิด ๆ

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะโทรหาเพื่อนที่ทำกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสารกำจัดศัตรูพืช

“มีเรื่องจะรบกวนหน่อยว่ะ คืออย่างนี้ รุ่นน้องที่เคยเล่าให้ฟัง ของมันขาดอีกแล้ว......................”

การเจรจาต่อรองเริ่มขึ้น โดยที่คนโทรไม่ได้มีส่วนได้เสียใด ๆ ทั้งสิ้น

ไม่รู้ว่าทำไปทำไม ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

แต่รู้สึกเหมือนต้องทำ และปล่อยให้พลาดไม่ได้ จุมพลทำงานแบบนี้ ทำไมถึงยังอยู่ได้ บริษัทคู่แข่งนี่มีคนแบบนี้ไว้เพื่ออะไร ถ้าไม่ช่วยเดี๋ยวก็หาว่าไม่มีสปิริตพอ ก็เลยต้องช่วย ยังไงซะเด็กของที่นี่ก็ไปตีหัวคนที่โน่นก่อน ก็ถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกัน กับการช่วยเหลือ ไอศูรย์ไม่ได้คิดอะไรไปกว่าการหักกลบลบหนี้เรื่องที่เคยคาใจกัน แต่จุมพลกลับคิดและทำไปคนละอย่าง

“เคมีได้แล้ว ต่อไปก็วัสดุใช่ป่าววะ”

สีหน้าแววตาไม่ได้ช้ำชอกใจอย่างที่ใคร ๆ คิด และปากกาแดงในมือก็ขีดเครื่องหมายถูก เมื่อเห็นผลอยู่แล้วว่าการเจรจาเป็นที่เรียบร้อย

คุณไอศูรย์ไม่ได้รับปาก แต่จากคาดคะเน จุมพลก็เดาได้ไม่ยากว่าของล็อตสามคงพร้อมส่งในอีกไม่กี่วัน

“อันนี้พี่เคลียร์แล้วนะครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล ของล็อตสามมาแน่ แค่รอเท่านั้น ราคายังไงก็ถูกกว่าของเจ้าเก่าแน่ ๆ ”

ส่งเอกสารให้หญิงสาวที่รับหน้าที่ดูแลเรื่องเคมีภัณฑ์และเธอก็ยิ้มออกมาได้ หาราคาที่ถูกที่สุดให้ตรงตามสเป็คไม่ได้

แต่พอยื่นเรื่องส่งให้พี่จุ้ม พี่จุ้มก็จัดการให้เรียบร้อย

พี่จุ้มมีเทคนิคการพูดที่ไม่เหมือนใคร และไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องยอม

“รู้งี้หนูส่งเรื่องให้พี่จุ้มเคลียร์ตั้งแต่แรกก็ดี ไม่ปล่อยให้ค้างอยู่ตั้งนานหรอก เจ้าเดิมก็ลีลาอยู่นั่นแหละ ยึกยักตลอด เจอไปสามล็อตแบบนี้มีหงายหลังกันบ้างล่ะ คงนึกว่าเราต้องรอของจากเค้าซะเต็มที่ เจอแบบนี้เข้าล่ะเป็นไง หนูล่ะสะใจจริง ๆ พี่จุ้ม”

อย่าไปคิดอย่างนั้นเลย

“อย่าไปคิดจะดัดหลังใคร มันเป็นเรื่องของธุรกิจ เขาก็อยากโก่งราคา เราก็อยากได้ราคาถูก ๆ มันว่ากันไม่ได้ของแบบนี้ แต่บางทีถ้าเรื่องมากนักมันก็ต้องเจอแบบนี้เข้าไปบ้าง”

พูดเปรย ๆ ไปเรื่อย ๆ และหญิงสาวที่รับหน้าที่จัดซื้อเคมีก็ยกมือไหว้ขอบคุณหัวหน้าแผนกที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จัดการได้

จัดการในแบบที่ไม่เคยมีใครจัดการ ทำให้อีกฝ่ายเต็มใจ แบบไม่เต็มใจ

“ขอบคุณค่ะพี่จุ้ม เดี๋ยวหนูไปเคลียร์งานต่อนะคะ”

เธอลุกจากไปแล้ว และจุมพลก็หมุนเก้าอี้เล่นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

บางครั้งมันก็น่าเบื่อเกินไป การต้องรับภาระหน้าที่แบบนี้ มีปัญหาก็ต้องเคลียร์ จะปล่อยให้งานพลาดไม่ได้
ไม่ต้องการให้ใครมาเห็นว่าเป็นคนจริงจังกับงาน ไม่อยากเป็นแบบพี่เกรทที่จริงจังแทบตาย แต่ใคร ๆ ก็ไม่เห็นค่า
วิธีการทำงานของคนเรามันต่างกัน ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนจริงจังก็ได้ ทำให้คนอื่นๆ เห็นว่าเรามันเป็นแค่คนไม่เอาไหน จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเวลาที่จะโดนเลื่อยขาเก้าอี้

เปิดเผยแบออกมาหมดแบบนี้ คนอื่นว่าไม่ใช่เรื่องดี แต่สำหรับจุมพลมันไม่ใช่

ทำตัวดี ๆ ไปก็เท่านั้น กดดันตัวเองด้วย แต่ทำตัวแบบนี้จะได้อยู่ต่อไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องโดนบีบบังคับหรือคาดหวัง และยังสามารถรักษาสถานะของตัวเองให้คงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ
ผมไม่ได้บังคับให้คุณหาของให้ผมนะคุณไอศูรย์ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพวกเราเป็นบริษัทคู่แข่งกัน
แต่การที่ผมทำแบบนี้ มันง่ายกว่าการต้องมาตั้งข้อสงสัยหรืออยู่บนข้อแม้กฎเกณฑ์อื่น ๆ ที่ใคร ๆ กำหนด

ผมไม่แคร์ว่าเราจะเป็นบริษัทคู่แข่งกันหรือเปล่า ใช่ที่คุณเป็นคู่แข่งกับแผนกขนส่ง แต่ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเป็นคู่แข่งกับผม

สำหรับผมแล้ว ถ้ามีวัตถุดิบที่ถูกและราคาสมเหตุสมผล ขายออกก็ได้กำไรเข้าบริษัท มันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอที่ผมจะเจรจากับคุณ เพียงแต่วิธีการของผมมันต่างจากคนอื่นเล็กน้อยก็เท่านั้น
เรื่องคุณจะเป็นคู่แข่งของใครมันก็เรื่องของคุณ แต่ปัญหาของผมมีไว้ให้เคลียร์ไม่ใช่มีไว้ให้หยิ่งไม่เข้าเรื่อง
ขายของในระบบบริษัท จะมาใช้คำว่าหยิ่งหรือศักดิ์ศรีมันก็ดูจะไร้เหตุผลจนเกินไป ของถูก มีมาตรฐาน ขายออกได้ราคาดี แค่นี้สำหรับผมมันก็จบแล้ว ส่วนใคร ๆ จะไปคิดอะไรต่อ มันเรื่องของเขา ผมไม่แคร์ ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมาสนใจ

จุมพลหยิบคัสตาร์ดเค้กที่วางเอาไว้บนโต๊ะมาถือเอาไว้ ก่อนจะยืนขึ้นและยืดเส้นยืดสายหลังจากต้องนั่งนิ่งเมื่อยหลังอยู่เป็นเวลานาน ไปแกล้งแปะดีกว่า คลายเครียด

กูเครียด แปะก็ควรจะเครียดกว่า แค่ขโมยคัสตาร์ดมาตอนเผลอไม่ได้แปลว่าจะหายเครียด ต้องไปให้แปะด่าซะหน่อยชีวิตจะได้มีสีสัน

จุมพลอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากและเดินถือคัสตาร์ดเข้าไปในห้องที่แบ่งเป็นส่วนของแผนกการเงินที่มีสมาชิกอยู่แค่สองคน

“คัสตาร์ดใครว๊า อร่อยจังเลยยยยยยยย”

เดินยิ้มหน้าระรื่นเข้าไปและคนที่กำลังนั่งหน้าเครียดจนเส้นเลือดที่หัวกำลังจะระเบิดก็เงยหน้าขึ้นมองและอ้าปากค้าง

ชี้นิ้วไปที่คัสตาร์ดในมือของจุมพล ที่บรรจงใช้ฟันแทะขอบถ้วยไปเรียบร้อยและก็ส่งยิ้มมาให้

ทำหน้าใสซื่อเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งที่เป็นคนขโมยไปเองแท้ ๆ

“คัสตาร์ดกู ไอ้เหี้ยจุ้มมมมมมมมมมมมม”

แปะก็เกินไป แบ่งน้องกินแค่นี้ก็ไม่ได้

“เออใช่ ของแปะนั่นแหละ ผมเห็นวางอยู่นึกว่าแปะไม่กินแล้วซะอีก เลยช่วยกิน”

ไอ้จุ้มมมมมมมมม ไอ้เหี้ยจุ้ม ไอ้จุ้มมมมมมมมมมมมมมมม

“ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้ ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้ ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้ ไอ้จุ้ม ไอ้........”

ถึงกับพูดไม่ออก ปากสั่นด้วยความโมโห รีบประมวลผลทางความคิดก่อนจะรัวด่าจุมพลที่ยังคงบรรจงแทะคัสตาร์ดในถ้วยอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

“มีเงินก็เอาไปเลี้ยงผู้หญิงหมด ขนมแค่นี้ซื้อเองไม่ได้ แม่งไอ้พวกนิสัยเสีย เคยคิดกันบ้างมั้ยวะ เคยเห็นใจกูบ้างมั้ย ทำไมถึงได้ทำให้กูประสาทแดกแบบนี้ได้กันหมดทุกคน พวกมึงมันเกินไปแล้ว ทำแบบนี้ มันเกินไป ถ้าวันไหนกูตายเพราะพวกมึงนะ กูจะมาหลอกมาหลอนพวกมึง มึงคอยดูเริ่มจากมึงก่อนเลยไอ้จุ้ม ไอ้จุมพล ไอ้คนไม่มีหัวคิด ไอ้ขโมย ขโมยได้แม้กระทั่งของกินแค่นี้ ปากกาดินสอมึงยืมไปก็ไม่คืน แล้วยังมีหน้ามาขโมยคัสตาร์ดกูอีก มึงนะไอ้จุ้ม มึงมันไม่ใช่คนแล้ว มึงมันเกิน.......................................”

เจี๊ยบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และมองจุมพลที่ยังคงแทะคัสตาร์ดไปเรื่อย ๆ โดยไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด

“พอแล้วพี่จุ้ม เดี๋ยวแปะหัวใจวายตาย”

ได้แต่ปรามเอาไว้ และจุมพลก็หัวเราะร่าออกมาก่อนจะยักคิ้วให้กับเกรียงศักดิ์ที่ยังด่าไม่หยุด และหยิบปากกามาเตรียมขว้างใส่หัวของคนที่ขยันเข้ามาป่วนให้ประสาทแดกเป็นบ้าตาย

“อื้มมมมมมมมมม ทำไมถึงได้ปากร้ายกับแฟนได้ขนาดนี้ล่ะ หื้ออออ”

ยื่นมือไปหมายจะหยิกแก้มแต่ก็โดนปัดมือออก

“แปะอย่ามาเล่นตัว คัสตาร์ดแค่ถ้วยเดียวทำเป็นงก”

ทำเป็นงกบ้าอะไร

“มันไม่ใช่แค่คัสตาร์ด มันยังรวมถึงคุกกี้ รวมถึงกาแฟ รวมทั้งไม้บรรทัดปากกาดินสอ แล้วยังไม่รวมยางลบที่มึงเอาไปทำหายรอบก่อนอีกด้วย โอ้ยยยยยยยย กูปวดหัว”

เกรียงศักดิ์ยกมือขึ้นกุมขมับ และคนแกล้งก็ยิ่งหัวเราะร่ายิ่งกว่าเดิม

“มีพวกมึงอยู่รอบตัว อีกไม่นานกูคงต้องตายจริงๆ ปวดหัว ปวดหัว ไม่ไหวแล้ว เจี๊ยบเอาพารามากินสองเม็ดดิ๊”

เฮ่ออออ

เหนื่อยใจ น่าเหนื่อยใจเหลือเกิน คนหนึ่งก็ขยันป่วน อีกคนหนึ่งก็ควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยได้

“พี่จุ้ม พอเหอะวะ พี่เกรทเขาจะตายจริง ๆ แล้ว”

เจี๊ยบได้แต่ส่ายหน้าและจุมพลก็พยักหน้ายอมหยุดภารกิจการแกล้งในครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่วายวางถ้วยคัสตาร์ดที่แทะกินเฉพาะขอบ ๆ คืนให้เจ้าของตัวจริงที่ซื้อมาแต่ไม่ได้กิน

“แปะ ผมคืนให้แล้วนะ แปะอย่าโกรธเลย นี่คืนให้ครึ่งถ้วย อีกครึ่งถ้วยเดี๋ยวผมจะคายออกมาให้”

ไอ้จุ้ม

“มึงเอาไปเลย มึงไม่ต้องเอามาคืนแล้ว มึงรีบ ๆ ออกไปจากห้องซะทีเหอะจุ้ม กูจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”

แบตของแปะคล้ายจะหมดเรียบร้อยในเวลาเกือบห้าโมงเย็นและจุมพลก็หัวเราะออกมาเสียงเบา

“เห็นอยู่กันสองคน เงียบ ๆ ตลอดทั้งวัน ไหน ๆก็จะกลับบ้านแล้ว ผมเลยเข้ามาสร้างสีสันให้ชีวิตแปะซะหน่อย”

ใครอยากได้สีสันจากมึงไม่ทราบครับไอ้ห่าจุ้ม

“นิสัยอย่างนี้ไงถึงคบใครก็ไม่ยืด”

แปะก็ด่าตรงเกินไป ผมเจ็บปวดเลยนะแปะ

“คนที่ไม่ยืดมันไม่ใช่ผมนะ มันเป็นทางนั้นมากกว่า นี่ผมก็เลิกแล้ว ไม่ได้อะไรแล้ว เหนื่อย ๆ ด้วยแปะ”

เหนื่อยบ้าอะไร

“สมน้ำหน้าโดนไปกี่แสนละคนนี้ กว่าจะเลิกได้ สะใจ คนอย่างมึงนะจุ้มมันต้องเจอแบบนี้แหละ มันถึงจะคู่ควรและเหมาะสม”

จุมพลตั้งใจฟังสิ่งที่เกรียงศักดิ์ด่า
มันเต็มไปด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน และไร้ซึ่งคำปลอบโยนใด ๆ ทั้งสิ้น

ไม่มีคำว่าเห็นใจ
ไม่มีคำว่าสงสาร

แต่จุมพลชอบที่ได้ฟังถ้อยคำไร้การปรุงแต่งแบบนั้น

ไม่ต้องการความเห็นใจ และถ้าไม่อยากได้ความเห็นใจก็ต้องมาหาแปะ เพราะนอกจากแปะจะไม่เห็นใจแล้ว แปะยังด่าได้เจ็บแสบ ชนิดที่ว่า คนฟังบางคนคงได้สำลักเลือดตาย แต่ไม่ใช่จุมพล

หลายครั้งที่เริ่มห่างได้ก็เพราะแปะ เพราะว่าแปะด่าตรง ๆ พูดตรง ๆ โดยไม่อ้อมค้อม ไม่เห็นใจ
มันก็เลยทำให้รู้ตัว ว่าตัวเองเป็นคนโง่มากขนาดไหน

“ผมรวย มีตังค์เยอะ หน้าตาดี ไม่เหมือนแปะที่แก่แล้วแก่เลย แถมยังหาเมียไม่ได้ มีเมียก็ต้องหย่า เพราะแปะเอาแต่บ่น บ่น บ่น ใครที่ไหนจะมาทนได้”

มึง ไอ้จุ้ม

“ปัญหาของกู จบไปชาติกว่าแล้ว อย่ามาสาระแนอยากจะขุดคุ้ย ตัวเองเอาให้รอดก่อน ค่อยมาทำเป็นปากดีใส่คนอื่น”

แปะปากร้าย
ด่าขนาดนี้ ไม่เอามีดแทงคอหอยกูซะเลยวะ

“แล้วปัญหาของผมไม่จบตรงไหนวะ ก็เนี่ยเลิกแล้ว เขามาตามจิกหาว่าผมกับไอ้เจี๊ยบเอากัน ประสาทคิดไปได้ ผมก็พยายามเลิกแล้วนี่ไง เดี๋ยวก็เลิกได้เองแหละ”

มึงเลิกไม่ได้หรอก

“รอบที่ร้อย เชื่อก็ควายแล้วแหละวะ เอาไว้เลิกได้แล้วค่อยมาปากดีพูด ไอ้เด็กน้อย ใจไม่แข็งพอ อย่ามาทำเป็นเทียบรุ่น”

จริง พี่เกรทพูดถูกจริง ๆ

ใจไม่แข็งพอเลิกไม่ได้ ก็เลยคาราคาซังอยู่จนถึงป่านนี้ รัก ๆ เลิก ๆ มาเป็นร้อยรอบ หมดเงินไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ก็ยังตัดไม่ขาด

“กลับไปถามตัวเองให้ดี ๆ ว่าเมียมึงรักมึง หรือรักเงินของมึง โง่แล้วยังเสือกอวดฉลาดอีก ไม่ได้ยุนะ แค่อยากเห็นครอบครัวมึงร้าวฉาน เลิกกันได้เมื่อไหร่ กูก็แค่สะใจนิดๆ หน่อย ๆ ”

แปะโหด

“เดี๋ยวก็เลิกได้เองแหละ แปะไม่ต้องมาสะใจอะไรกับครอบครัวผมหรอกน่า”

ทำหน้าระรื่นทั้งที่ใจแป้ว

ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นหรอกนะแปะ แต่เพราะบางครั้งถ้ายาไม่แรงพอ ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาตั้งสติ
ผมก็รู้ตัวเองดีว่าใจไม่แข็งพอเหมือนแปะ
เห็นแบบนี้แปะทั้งเย็นชา ทั้งใจแข็ง ทั้งไม่เคยสนใจใคร เหมือนจะร้ายกาจ แต่มันมีบางอย่างซ่อนไว้อยู่ในนั้นเสมอ

ความห่วงใยลึก ๆ ที่จุมพลรู้สึก แต่สำหรับคนอื่น คงคิดว่าเราแค่ทะเลาะกันเหมือนทุกวัน

“แล้วจะใจแข็งให้ดู”

พูดเพียงแค่นั้น และจุมพลก็ยักคิ้วส่งให้คนที่หยุดด่าและเริ่มนับเงินสดที่เหลือในวันนี้

“ไปไกล ๆ ไม่อยากฟังพวกดีแต่ปาก”

ครับ ผมมันดีแต่ปากจริง ๆ อย่างที่แปะพูดนั่นแหละ

“ถ้าผมเลิกได้แล้วแปะมาดามใจผมมั้ยล่ะ”

ประสาท

“ไอ้จุ้ม”

เสียงเอ็ดหนัก ๆ ของเกรียงศักดิ์ทำให้จุมพลหัวเราะออกมาได้ ก่อนจะหยิบคัสตาร์ดที่ตัวเองแทะไปเกือบหมดกลับมาถือเอาไว้
และผิวปากเดินจากไปอย่างมีความสุข ทิ้งให้เจี๊ยบได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเซ็ง เพราะต้องทนฟังคนสองคนทะเลาะกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน

“ถ้าไม่ได้ทำให้กูประสาทแดก ไอ้จุ้มมันจะอยู่ไม่ได้ใช่มั้ยวะเจี๊ยบ”

หันไปถามลูกน้องที่กำลังรวบรวมบิลแยกเป็นชุด แล้วเจี๊ยบก็พยักหน้าให้

“ถ้าพี่จุ้มไม่มีพี่เกรท พี่จุ้มคงตายห่าไปนานแล้ว เพราะไม่มีคนลับฝีปากด้วย”

อ้าว ไอ้นี่ แทนที่จะเข้าข้างหัวหน้ามึง เสือกไปเข้าข้างไอ้หัวหน้าแผนกจัดซื้อซะงั้น

“มึงนี่ก็จริง ๆ เลย ลาออกจากแผนกกูแล้วไปสมัครอยู่แผนกไอ้จุ้มเลยไป”

ไปได้ยังไงล่ะพี่เกรท ถ้าไปได้ ผมไปตั้งนานแล้ว

“ก็อยากจะไปเหมือนกันแหละ แต่กลัวพี่เกรทไม่มีใครชงยาหอมให้ตอนที่ลมขึ้น”

ไอ้เจี๊ยบ

“นี่มึงเป็นลูกน้องกูเหรอเนี่ย กูยังไม่เคยต้องกินยาหอมเลยนะ กูยังไม่ได้แก่ถึงขนาดนั้น ห่าเอ้ย มึงนี่ก็อีกคน”

ได้ยินเสียงพี่เกรทบ่นพึมพำอะไรไปเรื่อย ๆ แต่เป็นการบ่นที่ทำให้เจี๊ยบยิ้มได้เหมือนทุกวัน

แปะก็บ่นแบบนี้ตลอด ดีแล้วที่แปะบ่นแบบนี้ เพราะมันหมายความว่าแปะยังเป็นปกติสุขดีอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนไป
รอยยิ้มของเจี๊ยบแม้จะเหงา ๆ ไปบ้าง แต่มันก็เป็นความเหงาที่พร้อมจะเต็มใจให้เป็นแบบนั้น

ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ เจี๊ยบไม่อยากคิดหรือสนใจคำนั้น
สำหรับเจี๊ยบแล้ว แค่อยู่ใกล้ ได้มองไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็พอแล้ว และเจี๊ยบไม่เคยคิดจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในหัวใจของพี่เกรทเลยซักครั้ง แค่หวังว่าเราจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ได้ทำงานด้วยกันไปเรื่อย ๆ แค่นี้เจี๊ยบก็มีความสุขที่สุดแล้ว


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2014 23:07:00 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :mew2:อ่านไปงงไปกะชีวิตจุมพล...งงเหมือนชีวิตตูเลย :ling2: แต่ชอบน้องบัวพี่โยมากๆๆเหมือนของหัวหน้าบุ้งกะมีน :katai2-1:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
บริษัทนี้ ทำงานกันแบบธุรกิจครอบครัวจริงๆ เรือล่มในหนอง ถ้วยทองจะไปไหน  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ท่าทางคู่นี้จะมึนน่าดู  :hao7:

shenta

  • บุคคลทั่วไป

ตอนแรกก็สองจิตสองใจ จะหางานใหม่ดีไหม

ตอนนี้คิดได้แล้วจะลาออกจากที่เก่า

แล้วจะมาสมัครงาน บริษัทนี้

รบกวนส่ง ชื่อ ที่อยู่ บริษัท มาให้ด้วยค่ะ ตามเบอร์โทรนี้ 08Y-YYY-YYYY

ช้านจะไป นั่งฟิน นอนฟิน.......... :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
หูย แต่ละคู่ ลูกหัวปีท้ายปีแน่นอน เจ้ฟันธง

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คู่พีทอ้นนี่เอสเอ็มตัลหลอดดด
 :hao7:

คู่ใหม่น่ารักมึนๆดีนะแกร ฮาอ่ะ คิดมากเรื่องงาน เปล่า คิดมากเรื่องเมีย พี่จุ้มมม ฮาจุงเบย 55555555
 :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อัยย่ะๆ คู่ใหม่แผนกใหม่แต่บริษัทเดิม ดีใจที่ได้อ่าน   :hao3: ว่าแต่ว่า นี่คืออยากรู้จริงนะบริษัทนี้มันอยู่ไหนอะเผื่อว่าผ่านจะได้เอาขนมไปฝากบ้างไรบ้าง

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
เอ๋...เจี๊ยบแอบชอบพี่เกรทเหรอ?

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน มนุษย์ที่ชื่อจุมพล

ตัดสินใจอยู่นาน ที่จะบอกปัดและปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าหาของไม่ได้ แต่ไม่อยากให้เกิดภาระติดพันมีครั้งที่สี่ห้าหกตามมา
เกือบสองทุ่มแล้ว และคุณไอศูรย์ที่เพิ่งเดินออกจากออฟฟิศก็กำลังเปิดประตูรถ
เข้ามานั่งเรียบร้อยและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาหมายเลขของคนที่ขยันโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือ
และเป็นการขอความช่วยเหลือแบบแปลกประหลาดมากจนคุณไอศูรย์ไม่เข้าใจ ว่าเจ้าตัวจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร

เสียงจากปลายสายเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

ตื่นนอนในเวลาสองทุ่มเนี่ยนะ มันไม่ใช่แล้วหรือเปล่า

“ครับ อือออ จุ้มครับ”

ยังไง จุ้มครับ คือ..........

“คุณจุมพลใช่มั้ย”

ใช่ครับ

“ลูกค้าเหรอครับ แค่ก แค่ก อือ”

ใช่ ลูกค้า ลูกค้าที่ต้องหาของให้คุณนั่นแหละคุณจุมพล

“ผมไอศูรย์นะ”

ไอศูรย์เหรอ

“คุณไอศูรย์ผิดคนหรือถูกคนครับ”

จะผิดหรือถูกผมก็คือคุณไอศูรย์นั่นแหละ เอาอะไรมาคิดว่าจะต้องผิดคนหรือถูกคน น่าปวดหัวจริง ๆ

“ผมไอศูรย์ขนส่ง ผิดหรือถูกล่ะ”

อ๋อออออออออ คุณไอศูรย์ขนส่ง

“งั้นก็ผิดคนแล้วครับ ซียูอะเกน”

ปลายสายตัดไปเรียบร้อย และไอศูรย์ก็ถึงกับอ้าปากค้าง หมายความว่ายังไง ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง พยายามกดโทรเข้าไปอีกหลายครั้ง แต่กลายเป็นการฝากข้อความ มันหมายความว่ายังไง

รู้สึกคล้ายตัวเองกำลังโมโห กับการถูกกระทำแบบไม่ไว้หน้า
ตัดสายทิ้งได้ยังไง นี่ผมคือคนที่คุณต้องง้อไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาทำแบบนี้

ชักจะไม่ไหวแล้วนะ ชักทนไม่ไหวแล้ว มันอะไรกันนักกันหนาวะ โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่เบาะรถแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างหัวเสีย
สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งออกไปราวกับพายุ

มันอะไรกัน คล้าย ๆ กับกำลังโดนปั่นหัว แบบนี้มันหมายความว่ายังไง

จุมพล จุมพล จุมพลหัวหน้าแผนกจัดซื้อของบริษัทคู่แข่ง คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่
คุณทำแบบนี้ คุณต้องการอะไรจากผมกันครับคุณจุมพล

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“คุณไอศูรย์ผิดคนครับ เมื่อตอนหัวค่ำผมขอโทษนะครับ พอดีผมกินยาแก้แพ้อากาศเข้าไป ตอนที่คุณไอศูรย์โทรมาผมนึกว่าผมกำลังฝันอยู่ ผมเลยตัดสายคุณไอศูรย์ทิ้ง แต่ตอนนี้ผมตื่นแล้วมากดเบอร์ดู ผมถึงรู้ว่าผมไม่ได้ฝันไป คุณไอศูรย์ครับ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”

ห๊ะ

อะไรกัน มันคืออะไร หมายความว่ายังไง ไม่เข้าใจ

ไอศูรย์เจ้าของบริษัทขนส่ง กำลังกำโทรศัพท์แน่นด้วยความหงุดหงิดใจ ตั้งใจจะไม่รับสาย แต่เพราะเป็นเบอร์สาธารณะที่โทรเข้ามา เลยไม่รู้ว่าเป็นใคร ถึงได้รับสาย

สมัยนี้มันยากที่จะหาใครใช้หมายเลขจากเบอร์ตู้โทรศัพท์สาธารณะมาโทรหาคนอื่น แต่จุมพลทำ

“แล้วทำไมคุณถึงไม่เอาโทรศัพท์ของคุณโทรมา นี่คุณอยู่ที่ไหน ผมได้ยินเสียงรถแล่นผ่านไปผ่านมา”

อ๋อ เรื่องนี้เหรอครับ เรื่องนี้ผมชี้แจงได้

“โทรศัพท์ผมมีปัญหาครับ โชคดีที่ผมจำเบอร์คุณไอศูรย์ได้ เพราะผมจดไว้ข้างหลังตั๋วจำนำ ผมเปิดเจอเลยเดินออกมาโทรหาคุณไอศูรย์ กลัวคุณไอศูรย์เข้าใจผิดว่าผมตัดสาย เลยต้องโทรมาอธิบายครับ”

แบบนั้นมันเรียกว่าจำได้เหรอ ก็จดเอาไว้ที่หลังตั๋วจำนำเองแท้ ๆ ไม่ใช่หรือไง

“นี่ผมหยอดเหรียญไปสิบบาทนะครับ ผมนึกว่าเหรียญห้า เหลืออีกตั้งเจ็ดแปดบาท คุณไอศูรย์มีอะไรจะพูดกับผมมั้ยครับ”

บ้า บ้าไปแล้วหรือไง นี่มันห้าทุ่มครึ่ง คุณจะให้ผมพูดอะไรกับคุณวะ

“เรื่องของ....ผมคงหาไม่ได้นะครับ”

ตั้งใจจะตัดจบการสนทนาไปดื้อ ๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมฟัง

“เฮ้ยยยยยยยยยยย คุณไอศูรย์ ผมไม่ได้เอากุญแจบ้านมา กระเป๋าตังค์ผมก็ไม่ได้เอามา นี่ผมหยิบเงินมาจากบ้านสิบบาทพร้อมตั๋วจำนำใบเดียวเหรอวะ แล้ว.......แล้ว....แล้วผมจะเข้าบ้านยังไง แล้วผมจะกลับบ้านยังไง ตู้โทรศัพท์ห่างจากบ้านผมเป็นกิโลเลย คุณไอศูรย์ คุณไอศูรย์ ช่วยผมด้วย ผมอยู่ที่หน้าร้านทอง แถว ๆ แยก........ มีร้านข้าวต้มปลาอยู่ข้างหน้า ขับรถวนมาจากถนนสายหลักแล้วจะเจอ คุณไอศูรย์ครับ คุณไอศูรย์ อย่าทิ้งผมนะครับ ผมป่วย ผมไม่สบาย แค่ก แค่ก เฮ้ยยยยยยย โทรศัพท์จะตัดแล้ว คุณไอศูรย์”

แล้วปลายสายก็ตัดไป แล้วคนที่งง ก็งงต่อไป แล้วคนอย่างไอศูรย์ก็ได้แต่อ้าปากค้างต่อไป
มองโทรศัพท์ในมือด้วยความงง และสมองก็จำเป็นต้องประมวลผลกับสิ่งที่จุมพล หัวหน้าแผนกจัดซื้อจากบริษัทคู่แข่งพูดทิ้งท้ายเอาไว้ นี่มันคือเรื่องอะไร แต่มันจะเป็นเรื่องอะไรก็ช่าง จะเป็นยังไงก็ช่าง ไม่เกี่ยวกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน
ไม่มีความจำเป็นต้องห่วง ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น

แต่นี่มันดึกแล้ว แล้วเจ้าตัวก็เป็นคนโทรมาขอโทษด้วยตัวเอง แต่.................

โธ่โว้ย กำลังโดนปั่นหัวอยู่หรือเปล่าวะ กำลังโดนปั่นหัวให้เป็นบ้าอยู่แน่ ๆ

แม้จะหงุดหงิดแค่ไหน แม้จะไม่ชอบใจแค่ไหน แต่สุดท้ายคุณไอศูรย์ก็หยิบกุญแจรถและเดินออกจากห้องไปที่ลิฟท์ทันที

“คุณจุมพลนะคุณจุมพล ทำอะไรของคุณอยู่กันล่ะโว้ยยยยยยยยย”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ข้าวต้มปลาพิเศษครับ”

จุมพลนั่งอยู่บนเก้าอี้ในร้านข้าวต้มปลาข้างทาง

ไม่มีอะไรมากก็แค่รู้สึกว่าอยากกินอะไรร้อน ๆ ตื่นขึ้นมากลางดึก และรู้สึกว่าอาการภูมิแพ้ของตัวเองมันค่อย ๆ บรรเทาลงมากแล้ว ตอนที่คุณไอศูรย์โทรมาทำไมจะไม่รู้เรื่อง แต่ไม่พร้อมจะคุยแค่นั้น นอน ๆ อยู่จะให้มาคุยเรื่องงานใครมันจะไปมีอารมณ์อยากคุย ก็เลยกดตัดสายไปซะ แต่นึกขึ้นได้ว่า ทำแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดี การตัดสัมพันธ์กับคนที่จะมาเป็นคู่ค้าและช่วยหาของให้ในราคาถูกมันไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องเสี่ยง ตัดทิ้งไปเพื่ออะไรในเมื่อยังมีประโยชน์ต่อกันอยู่ คุณหาของ ผมจ่ายเงิน วิน วินกันทั้งคู่

ไม่ใช่ว่าโทรศัพท์มีปัญหา แต่ช่วงนี้โดนโทรจิกโทรตามจนปวดหัว รักกันประสาอะไรทำไมต้องทำเหมือนขังกรงกันแบบนี้ด้วย

โทรมาก็จริง ทำเหมือนหวงนักหวงหนาก็จริง แต่เธอไม่เคยมาหา ไม่เคยใส่ใจ และเธอก็ไม่ยอมเลิก

แบบนี้จะให้ทำยังไง

เธอขู่เอาไว้สารพัดว่าถ้าเลิกกับเธอ เธอจะฆ่าตัวตาย เลวร้ายกว่านี้มีอีกมั้ย จะรักก็ไม่รัก จะทิ้งก็ไม่ทิ้ง

แม่งชีวิตกู บ้าบอสิ้นดี เรื่องเข้าบ้านไม่ได้มันไม่ใช่ปัญหาหรอก บ้านตัวเองทำไมจะจำไม่ได้ว่ามีกุญแจซ่อนไว้ตรงไหน
เพราะฉะนั้นการที่เดินออกมาตัวเปล่าโดยมีเงินค่าข้าวต้มออกมาแค่หนึ่งร้อยบาท จุมพลไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร

ที่ทำไป ผมไม่ได้หลอกคุณนะ ผมแค่พูดความจริงไม่หมดแค่นั้น คุณจะได้รู้ว่าผมมีความพยายามแค่ไหนในการติดต่อกับคุณ
ถ้าคุณไม่ยอมส่งของล็อตสามให้ผม มันก็เกินไป

“แค่ก ๆ อือออ แม่งกูเบื่อโรคภูมิแพ้จริงวะ”

สำลักน้ำข้าวต้ม และก็ต้องใช้กระดาษทิชชู่ซับเบา ๆ ที่ปาก

เอาเหอะ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่คิดว่าคุณจะมาหาผมได้ถูกหรอกนะ คนที่จะกลายเป็นคนใจดำและทอดทิ้งให้ผมต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานก่อนเดินเข้าบ้าน มันก็จะกลายเป็นคุณ และในการเรียกร้องให้คุณช่วยหาของล็อตถัดไป มันก็ยิ่งทำง่ายขึ้น

ก็คุณทิ้งให้ผมต้องเผชิญความทุกข์ทรมานในคืนที่อากาศหนาวจัดเอง คุณก็ต้องรับผลกรรมของคุณไป

จุมพลกำลังตักข้าวต้มปลาเข้าปาก กินไปเรื่อยๆ และมองถนนที่เริ่มโล่งมากกว่าปกติ
คืนนี้คงได้นั่งเล่นเกมส์ทั้งคืน เพราะตื่นขึ้นมาขนาดนี้แล้ว กลับไปก็คงนอนไม่หลับ

ไอ้เจี๊ยบมันก็ผวาจนไม่กล้ามาค้างด้วยแล้ว เพราะเจออิทธิฤทธ์ของคุณเธอเข้าไป
ทำไมวะ กูนี่ดูเหมือนจะเป็นคนที่คบกับผู้ชายด้วยกันได้หรือไง

ถ้าสามีเธอเป็นเกย์ขึ้นมาจริง ๆ แล้วเธอจะทำยังไง ไม่อกแตกตายห่าไปจริง ๆ เหรอวะ

ถ้าถึงตอนนั้นจริง ๆ แล้วจะยอมปล่อยกันไปหรือเปล่า
ปล่อยมือจากกันจริง ๆ เพราะเราก็มีเหตุผลในการเลิกกันแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้ว

ความรักมันเป็นเรื่องประหลาด แม้ต้องทุกข์ทนขนาดไหน คนฉลาด ๆ บางคนก็ยอมโง่ได้

ทำไมจะไม่รู้ว่าเธอยังโทรตามอยู่ตลอดเวลามันเป็นเพราะอะไร

ความรักมันหายไปตั้งนานแล้ว ที่อยู่นี่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ 

ซักวันหนึ่งจุมพลไม่แน่ใจตัวเอง ว่าอาจจะฆ่าเธอทิ้งซะ แล้วฆ่าตัวตายตามไป จะได้จบเรื่องราวทุกอย่าง แต่มันทำไม่ได้ นี่มันชีวิตคนจริง ๆ จะมารีเซ็ตใหม่อีกรอบ เหมือนเล่นเกมส์มันทำได้ที่ไหนล่ะ

ถึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอยากตาย
เข้าใจจริง ๆ นะ คนที่ตัดสินปัญหาชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน

เขาก็คงไม่อยากตาย แต่เป็นเพราะ....ก็แค่ไม่อยากอยู่เท่านั้น

เหมือนจุมพลในตอนนี้ ที่ไม่รู้จะเดินไปทางไหน เลิกก็เลิกไม่ได้ รักก็รักไม่ได้

คนภายนอกมองว่ารัก ๆ เลิก ๆ กันสิบรอบ แต่จริง ๆ แล้ว มีแค่กูเท่านั้นหรือเปล่าวะ ที่ยังรักอยู่ แต่อีกฝ่ายแค่ไม่เหลือใจ
ไม่เหลือใจให้ แต่ก็ไม่ยอมปล่อย

ไม่ยอมให้จุมพลเป็นอิสระ ยังคงกีดกันอยู่ตลอดเวลาไม่ยอมให้เลิก เราทะเลาะกันจนบ้านแตกด้วยเรื่องโง่ ๆ มากี่ครั้งแล้ว และคนที่ถูกก็ยังคงเป็นเธอเสมอ

เอ่ยปากขอเลิกไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่เธอไม่ยอมเลิก และเธอบอกว่าจะตามราวีอย่างถึงที่สุด ถ้าเลิกกับเธอ
แล้วจะให้ทำยังไง........... แล้วจะให้.....ต้องทำยังไง.......

“คุณจุมพล”

เงยหน้าขึ้นมองคนที่มายืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้า และจุมพลก็มองหน้าของคนที่ยืนอยู่ทั้งที่ช้อนยังคาอยู่ที่ปาก

“คุณ........ไอ....ศูรย์.....ผิดคน”

ช้อนในปากหล่นลงบนโต๊ะในขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่เพลิน ๆ มาได้ไงวะ กูบอกไปมั่ว ๆ เสือกมาถูกได้ยังไง

“คุณบอกเส้นทางอะไรของคุณ ผมต้องวนรถไปมาตั้งกี่รอบ นี่ถ้าผมไม่เช็คจากหมายเลขของตู้โทรศัพท์ผมจะรู้มั้ยว่าคุณอยู่ตรงไหน”

อยู่ตรงไหนเหรอ.......... ผมก็อยู่....ตรงนี้ไง.....
คุณไอศูรย์ยืนหน้าดำคร่ำเครียด และก็ลากเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามออกมานั่ง

“รถผมจอดไว้อีกฝั่ง คุณรีบๆ กินเถอะ หรือจะสั่งไปกินที่บ้านก็ตามใจ ผมมีเวลาไม่มาก นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว”

ใช่ มันจะเที่ยงคืนแล้ว แต่ว่า.......

“คุณเข้าบ้านไม่ได้ไม่ใช่หรือไง คุณก็ไปนอนที่คอนโดผมก่อนแล้วกัน แล้วพรุ่งนี้เช้าจะเอายังไงก็ค่อยว่ากันต่ออีกที”

ห๊ะ

กูไปบอกตอนไหนวะ ว่าจะไปนอนคอนโดคุณไอศูรย์ กูแค่บอกว่าไม่ได้เอากระเป๋าตังค์กับกุญแจบ้านมาเฉย ๆ
ซึ่งกูไม่ได้โกหกนะเฮ้ย เพียงแต่ไม่ได้บอกให้หมดเท่านั้นว่ากูเข้าบ้านได้สบาย ๆ

เหอ เหอ เหอ เอาแล้วไง

“กินข้าวต้มปลามั้ยครับคุณไอศูรย์ผิดคน”

ไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็เลยชวนกินข้าวต้มปลากันดื้อ ๆ และคุณไอศูรย์ที่มานั่งหน้าหงิกอยู่ตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมาเหมือนคนกำลังหงุดหงิดอะไรซักอย่าง

“ผมมารับไม่ได้มากิน”

อ้าวเหรอ ก็เห็นอารมณ์เสีย นึกว่าโมโหหิวซะอีก

“แต่ผมยังไม่อิ่มเลยนะ คุณจะรอผมไหวเหรอ”

ตั้งใจละเลียดข้าวต้มไปเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านกับอาการอยากกระโดดบีบคอของคุณไอศูรย์ที่มองมาและเริ่มรู้สึกว่ากำลังโมโหมากขึ้นทุกที

“แค่ก ๆ อือ”

จุมพลยกหลังมือขึ้นแตะที่ปากเบา ๆ เพราะอาการภูมิแพ้ยังไม่หายดี

ตักข้าวต้มปลาใส่ปากไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดจะแยแสคนที่มานั่งอยู่ตรงหน้าซักนิด แล้วก็เลยกลายเป็นคุณไอศูรย์ที่ทนไม่ไหวต้องสั่งข้าวต้มปลามากินรอไปหนึ่งชาม

“ข้าวต้มปลาหนึ่งครับเฮีย”

ยกมือขึ้นบอกกับเจ้าของร้าน และจุมพลก็เงยหน้าขึ้นมองคุณไอศูรย์ที่สั่งข้าวต้มมากิน
ไหนบอกไม่กินไงวะ แล้วอยู่ดีๆ ตอนนี้ทำไมถึงเกิดอยากกินขึ้นมา

“คุณกินช้าแบบนี้เสมอเลยหรือไง”

ไม่หรอก

“ผมกินช้าเฉพาะเวลาที่เร่ง”

กวนประสาทชะมัด

“ผมยังไม่ได้เร่งอะไรคุณเลย”

“ผมรู้ครับ แต่ผมแค่เร่งตัวเองอยู่ ไม่อยากให้คุณเสียเวลาต้องนั่งรอผมนาน ๆ ”

กลายเป็นไอศูรย์ที่ผิด และคนผิดก็ได้แต่นั่งนิ่ง
มองหน้าของจุมพลด้วยความหงุดหงิดขัดใจ และก็เห็นสายตาที่ค่อย ๆ ช้อนมองขึ้นมาอย่างช้า ๆ

แสงไฟจากท้องถนนสาดเข้ากระทบที่ข้างแก้มขาว ๆ ดวงตาที่มองมายังมีความอิดโรยอยู่ในนั้น

แต่รอยยิ้มน้อย ๆ ที่ส่งมาถึงมันทำให้คนมองต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เพราะคล้าย ๆจะรู้สึกถึงอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะของตัวเอง

อากาศคืนนี้เย็นเกินไป และบางครั้งสมองก็อาจเจอเรื่องที่ทำให้ปั่นป่วนมาทั้งวันมากเกินไป

“คุณไอศูรย์ครับ”

ได้ยินเสียงเรียกและคนถูกเรียกก็หันมามองหน้าของคนเรียกอย่างช้า ๆ

“ผมอิ่มแล้ว แต่ของคุณยังไม่ได้เลย ผมจะรอคุณกินแล้วกันนะครับ”

ห๊ะ รอ......... ตกลงจากการที่เป็นคนรอ กลายเป็นต้องมาถูกรอเหรอวะ

บ้าแล้วแบบนี้ แบบนี้มันยิ่งกว่าบ้าไปแล้วชัด ๆ

คุณไอศูรย์กำลังหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับใบหน้าเรียบเฉยของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ทำหน้าเฉยก็จริง แต่รอยยิ้มน้อย ๆ ที่ปรากฏในดวงตาคู่นั้นมันหมายความว่ายังไง

อย่าบอกนะ ว่ากำลังถูกจุมพลหัวหน้าแผนกจัดซื้อของบริษัทคู่แข่งปั่นหัวเข้าให้แล้วจริง ๆ


TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เหอะๆ ยังไงกันล่ะเนี่ยคู่นี้

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน เหนื่อยเกินไป

อาการพะอืดพะอมมันตามมาไม่นานหลังจากกินข้าวต้มปลาเข้าไป นั่งอยู่ในรถพร้อมกับอาการมวนท้องและรู้สึกคล้ายจะทนไม่ไหว และเมื่อห้องถูกเปิดออก จุมพลก็รีบวิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องและมองซ้ายมองขวา หาห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำทันที

“แอ่ก ห้อง ห้องน้ำ อ่อก แค่ก ๆ”

คุณไอศูรย์ชี้นิ้วไปอีกฝั่งของห้อง และจุมพลที่ใช้มือปิดปากเอาไว้ก็รีบเดินลิ่วไปห้องน้ำ
ผลักประตูเข้าไปได้ ก็โก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย

และคนที่เดินตามมาก็ต้องรีบลูบหลังให้คนที่สภาพดูแย่มากอย่างไม่น่าเชื่อ

เปิดน้ำจากก๊อกใส่แก้วและยื่นส่งให้คนที่ดูท่าจะไม่ไหวแล้วและจุมพลก็รับแก้วน้ำมาถือเอาไว้ ก่อนจะกลั้วคอและบ้วนทิ้ง

เดินสะเปะสะปะออกมาจากห้องน้ำ และยกหลังมือขึ้นเช็ดปาก ดวงตาแดงก่ำ อาการมวนท้องยังไม่หายดี และจุมพลก็ต้องวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เพื่ออาเจียนสิ่งที่อยู่ในท้องออกมาอีกครั้งทั้งหมด

“อ่อก แค่ก ๆ”

ยืนต่อไม่ไหว สุดท้ายต้องทรุดนั่งลงกับพื้นและพิงหลังกับผนังห้องน้ำ

“คุณเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ”

ไม่ใช่ไม่สบาย

“เปล่า ผมไม่ได้เป็นไร แค่ก ๆ”

ไม่ใช่แค่อาเจียน แต่อาการไอก็ทำให้จุมพลรู้สึกว่าร่างกายตัวเองชักเริ่มไม่ไหว

“คุณคงไม่สบายแล้วล่ะคุณจุมพล ผมแนะนำว่าคุณคงต้องไปหาหมอ”

ไม่ต้องไปหรอก หาหมออะไรนั่นน่ะ

“ผมแค่นอนไม่พอ”

นอนไม่พอได้ยังไง

“แต่ตอนสองทุ่มคุณก็เพิ่งนอนไม่ใช่หรือไง ผมไม่เห็นว่านั่นคือคำตอบ”

ทำไมจะไม่ใช่ล่ะคุณไอศูรย์ ร่างกายผมมันเป็นอะไรทำไมผมจะไม่รู้

“ผมไม่ได้ป่วยหรอก ที่ไอก็เพราะแพ้อากาศ ที่อ้วกก็เพราะว่าไม่ค่อยได้นอน พอกินอะไรเข้าไปหน่อย มันก็เลยออกมาหมด ช่วงนี้ผมเป็นบ่อย อีกซักพักก็หาย”

ทำไมพูดอะไรง่าย ๆ ขนาดนั้น

“แล้วทำไมคุณไม่นอน หรือบริษัทคุณจะใช้งานหนัก”

บริษัทไม่ได้ใช้งานหนักหรอก

“ก็ผมนอนไม่หลับเอง จะไปโทษบริษัทได้ยังไง”

พยายามลุกขึ้นยืนและก็เปิดน้ำที่อ่างล้างหน้า บ้วนปากและล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง และก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา

แต่สำหรับคุณไอศูรย์มันไม่ใช่

“คุณก็นอนให้หลับสิ”

ถ้าทำได้แบบนั้นผมก็หลับไปแล้วสิ

“ก็ผมเครียด ผมจะนอนหลับได้ยังไง”

แล้วทำไมต้องเครียดด้วยล่ะ

“คุณก็ไม่ต้องให้ตัวเองเครียดสิ”

เฮ้ย คุณไอศูรย์ทำไมพูดไม่รู้เรื่องขนาดนี้วะ

“ช่างผมเถอะ”

ตัดบทไปแบบดื้อ ๆ และคนที่โดนตัดบทก็ยืนอึ้ง และเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาทีละนิด

ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ด้วย ไม่เคยมีใครกล้าขัดใจ ไม่เคยมีใครต่อปากต่อคำ แล้วก็ตัดบทกันไปง่ายๆ แบบไม่แยแส
คุณรู้มั้ย ผมเป็นใคร ผมไอศูรย์เจ้าของบริษัทขนส่งอันดับต้นๆ ของประเทศนะ
แล้วคุณเป็นใคร เป็นแค่หัวหน้าแผนกจัดซื้อเล็ก ๆ ของบริษัทคู่แข่งที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่คุณกล้าพูดแบบนี้กับผมเหรอวะ

“คุณจุมพล”

เหมือนโดนหักหน้า และจุมพลที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวด้วย ก็ยกมือห้าม คล้ายจะบอกให้หยุดพูด

“คุณ...จุ.....”

“แค่ก ๆ อ่อก อื้อออ”

อีกครั้งที่อาการมวนท้องไม่ได้ดีขึ้นเลย จุมพลวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง และเริ่มอาเจียนอีกรอบ อาการหนักกว่ารอบแรก และคนที่กำลังโมโหก็ต้องรีบเดินตามกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อช่วยลูบหลังให้กับคนที่โก่งคออาเจียนไม่หยุด

“ไม่ไหวแล้ว คุณต้องไปโรงพยาบาล”

ไม่เอา กูไม่ไปโว้ย

“แค่ก ๆ อ่อก ๆ”

คงไม่มีอะไรเหลือแล้ว พอที หมดสิ้นซะที จุมพลกดน้ำที่ชักโครก และบ้วนปากที่อ่างล้างหน้าอีกครั้ง
เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของตัวเองที่หน้ากระจกแล้วก็เห็นว่าดวงตาเริ่มแดงก่ำ
แม่ง.........สภาพนี้ดูดีพิลึก อย่างกับซอมบี้ เออว่ะ ใช่ เหมือนซอมบี้เลย

“ถ้าผมเป็นซอมบี้ คุณต้องยิงผมตรงหัวนะ ไม่งั้นผมจะไม่ตาย”

ห๊ะ

อะไรนะ

“คุณเคยเล่นป่ะ เกมส์ที่เราต้องหนีการตามล่าของซอมบี้ อย่างแรกเลยคุณต้องเลือกปืนดี ๆ แล้วก็ต้องรู้จักหลอกล่อไม่งั้นล่ะก็คุณจะโดนฆ่าตาย”

พูดเรื่องบ้าอะไร

“แฮ่ ซอมบี้ก็จะกระโดดกัดคอคุณ”

โดนหลอกด้วยการทำท่าเหมือนจะขย้ำ และคุณไอศูรย์ก็ถึงกับผงะกับสิ่งที่จุมพลทำ
บ้าไปแล้วหรือไง มีการทำเสียงให้น่าตกใจด้วย เพี้ยน แบบนี้ยิ่งกว่าเพี้ยน

พูดจาบ้าบออะไร คนแบบนี้ไม่เคยเจอ ไม่รู้จะพูดอะไรไม่รู้จะถามอะไร มีแต่ต้องจำใจเดินตามหัวหน้าแผนกจัดซื้อของบริษัทคู่แข่งออกมาจากห้องน้ำ

“คุณพอจะมีคุกกี้หรืออะไรหวาน ๆ พวกลูกอมอะไรพวกนี้มั้ย นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้”

เกือบเที่ยงคืนเนี่ยนะ ให้มาหาคุกกี้หรือลูกอมในเวลาเที่ยงคืนเนี่ยนะ บ้าไปแล้วหรือไง

“หรือขนมอะไรก็ได้ ชิ้นเล็ก ๆ”

คนถาม ถามแบบจริงจัง และคุณไอศูรย์ที่ไม่เคยคิดจะมีของแบบนั้นเอาไว้ในห้องก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ผมจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไง”

อ้าวเหรอ ไม่มีเหรอ

“น้ำตาลผมตก ผมรู้สึกว่ากำลังเวียนหัว ถ้ามีของหวานนิด ๆ หน่อย ๆ คงจะดีขึ้น”

แล้วจะไปหาของแบบนั้นที่ไหนกันล่ะ

“แล้วทำไมตอนเดินขึ้นมาถึงไม่บอก ซื้อข้างล่างซะก็หมดเรื่อง”

แล้วจะไปซื้อได้ยังไง

“ผมไม่มีเงิน ก็ผมบอกคุณแล้วว่ามีแค่เศษเหรียญแค่นั้นตอนที่โทรหาคุณ คุณไม่เห็นเหรอ ขนาดข้าวต้มปลาผมยังต้องยืมเงินคุณจ่ายเลย”

ก็ทีข้าวต้มปลายังจ่ายให้ได้ แล้วทำไมแค่ควักเงินซื้อลูกอมราคาไม่กี่บาทถึงจะซื้อไม่ได้

“ก็บอกสิ ว่าจะซื้อ ทำไมไม่บอกก่อนขึ้นมาล่ะ”

จะบอกได้ยังไง

“ก็ตอนนั้นผมจะอ้วก ผมจะไปมีเวลาคิดได้ยังไง ตอนนี้อ้วกเสร็จแล้ว ผมคิดได้แล้วว่าผมอยากกินของหวาน แต่คุณไม่มีซึ่งผมก็แค่คิดว่าคุณอาจจะมี”

ทำไม นี่มันอะไร ในเวลาดึกดื่นป่านนี้ คุณไอศูรย์เจ้าของบริษัทขนส่งไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมาเถียงอะไรกับคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้

“ตกลง ผมจะไปซื้อข้างล่างมาให้ คุณจะเอาอะไรอีกมั้ย จะได้ไปแค่ครั้งเดียว”

ไม่อยากให้มันยืดเยื้อไปมากกวานี้ และไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องอ่อนข้อให้คนที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่ครั้งและไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตขนาดนี้

“ยาแก้แพ้อากาศ แล้วก็ลูกอมแค่สองสามเม็ด แค่นั้นครับ...ขอบคุณครับ”

เป็นการขอบคุณที่น่าหมั่นไส้ที่สุด และคุณไอศูรย์ก็กำลังจะเดินออกจากห้องในสภาพหน้าบึ้งสุด ๆ
ซึ่งจุมพลไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าบึ้งขนาดนี้ไปทำไม

“คุณไอศูรย์ครับ”

ว่ายังไงอีกล่ะ จะเอาอะไรอีก หันมาตามเสียงเรียก และคนที่เรียกก็ขบริมฝีปากแน่นก่อนจะก้มหน้าลงและเงยหน้ากลับขึ้นมาอีกครั้งเพื่อพูดอะไรบางอย่าง

“ผมขอโทษ”

ขอโทษ……. ขอโทษเรื่องอะไร ขอโทษทำไม มีเรื่องอะไรให้ขอโทษ

“เรื่อง..........”

เรื่องเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไรดี แต่รู้สึกอยากขอโทษ

“.....เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้คุณหงุดหงิด และหน้าบึ้ง”

คนฟังถึงกับนิ่งงันกับคำตอบที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครตอบแบบนี้ หลายคนอาจใช้เหตุผลร้อยแปด
แต่สิ่งที่จุมพลพูด ไม่เคยมีใครพูดมาก่อน ขอโทษเรื่องอะไรก็ไม่รู้..........เรื่องที่ทำให้หงุดหงิดและหน้าบึ้ง...........

เรื่อง.........

“..................”

ไม่รู้จะตอบกลับคำพูดนี้ยังไง ก็เลยค่อย ๆ คลายหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันออก และพยายามปรับสีหน้าให้เรียบเฉย ไม่ให้ดูบึ้งตึงเหมือนก่อนหน้านี้

“ขอบคุณครับ”

ขอบคุณทำไม

“เรื่อง........”

ก็...........

“ขอบคุณที่คุณไอศูรย์ไม่ทำหน้าบึ้งใส่ผมแล้ว”

อย่างนั้นเหรอ อ่า....... ขอบคุณเรื่องที่ไม่ทำหน้าบึ้งใส่แล้วอย่างงั้นเหรอ

“ผม...จะลงไปซื้อยาแก้แพ้อากาศให้คุณ แล้วก็จะซื้อ....คุกกี้ใช่มั้ย ....กับลูกอม”

ครับ

พยักหน้ารับตามสิ่งที่คุณไอศูรย์บอก และคนที่คล้ายกำลังถูกปั่นหัวก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้ง ทำไมถึงต้องยอมทำตาม
ทำไมทั้งที่หงุดหงิดขนาดนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“งั้นคุณก็นั่งรอผมก่อนแล้วกัน เปิดโทรทัศน์ดูไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมกลับมา”

ครับ รอก็รอ

จุมพลพยักหน้ารับ และก็ยกมือไหว้คนที่บอกให้รอ อยู่ดี ๆ ก็ยกมือไหว้แบบนั้น คนที่เกิดอาการงงก็ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน

“ขอบคุณครับ”

แล้วนี่จะขอบคุณเรื่องอะไรอีก

“เรื่อง..........”

ก็เรื่อง....

“เรื่องที่คุณไอศูรย์ใจดี”

บ้า .........บ้าแล้วแบบนี้ บ้าไปแล้ว ไม่ใช่แค่ขอบคุณที่ใจดี แต่รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ส่งให้มันทำให้คนรับไหว้ ตั้งตัวไม่ทัน

“ผมไม่ได้ใจดี ผมแค่ทำตามหลักมนุษยธรรม”

เหรอครับ

“งั้นก็ขอบคุณที่มีมนุษยธรรมครับ”

อะไรนะ โธ่โว้ย มันน่าหงุดหงิดน้อยซะเมื่อไหร่ ไม่เคยพบเคยเจอคนแบบนี้มาก่อนเลย ทำไมถึงได้เป็นคนแปลกประหลาดได้ถึงขนาดนี้ครับคุณจุมพล

“คุณก็นั่งรอไปก่อนแล้วกัน”

ตัดบทให้จบ ๆ ไปซะ ก่อนที่จะโดนปั่นหัวไปมากกว่านี้
คุณไอศูรย์เดินออกจากห้องไปแล้ว และจุมพลก็มองตามหลังจนประตูห้องถูกปิด

เดินมานั่งรอที่โซฟาสีขาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง ไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่ แต่อยู่ดี ๆ ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว ป่านนี้โทรศัพท์คงดังเป็นร้อยรอบ แต่ไม่มีคนรับสาย ดี....... แบบนี้ก็ดี ถึงไปหาก็ไม่เจอหรอก ตามหากับพี่ตาล หรือไอ้เจี๊ยบ หรือแปะ ก็ไม่มีทางเจอเด็ดขาด
คืนนี้อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องของเธออีก เธอจะได้รู้สึกซะบ้าง เธอจะได้รู้ ว่าถ้าหาไม่เจอจะเป็นยังไง

เธอจะได้รู้สึก........ นึกแล้วก็สมเพชตัวเอง โง่เง่าชะมัด ทำเรื่องโง่ๆ แค่นี้ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ
เป็นฝ่ายอยากเลิกเอง แต่ก็เลิกไม่ได้ เพราะในใจยังตัดเธอไม่ขาด กลับกัน เธอไม่ยอมเลิก ทั้งที่หมดรักไปตั้งนานแล้ว

ใครมันจะน่าสมเพชยิ่งกว่ากัน คนหนึ่งรักแต่อยากเลิก คนหนึ่งไม่ยอมเลิกทั้งที่หมดรัก
จุมพลค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ และหัวเราะออกมาเสียงเบาเหมือนกำลังเย้ยหยันตัวเอง

บางครั้งก็อดคิดไม่ได้

เรื่องนี้มีผลกับชีวิตมาก และช่วงนี้เริ่มรู้สึกว่า.....การมีชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มันดูชักจะเหนื่อยมากเกินไป


TBC.

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
จุมพลนี่ร้ายกว่าที่คิดนะเนี่ย ปั่นหัวไอศูรย์จนไปไม่เป็นเลย

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :katai2-1: :katai2-1:
เป็นเกย์ซะ แล้วชีวิตจะดีเอง จุมพล (นั่นพี่โดมเลยนะมึงงงงง)

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :m20:  โอย คุณจุมพลช่างเหลือรับประทานจริงๆ   ถ้ากลุ้มมากนักเรื่อง ผญ ก็เปลี่ยนความคิดซะสิ

เคยได้ยินมั้ย  " แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน "    :laugh:

ส่วนน้องบัวลอย โดนยกซดไปหลายตลบเลยสินะ   o18   ช๊อบชอบ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
จุมพลช่างร้ายกาจจจ  :laugh:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
มันยังไงกันล่ะคู่นี้ :hao6:

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ปั่นหัวเป็นว่าเล่น
แต่ก็มีความจริงผสมในคำแบบนั้นก็โอเคอยู่
แล้วยังไง เหมือนเห็นอีกคู่ แปะกับเจี๊ยบ แอบดราม่าเบาๆหรือเปล่า รักข้างเดียว
อยากอ่านด้วยอะ มีคู่นี้ด้วยหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คุณไอศูรย์จะสติหลุดเมื่อไรนิ 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด