@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 754201 ครั้ง)

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ขอโทษทีพอดีผมเลิกดึกหน่อย มีปัญหาเรื่องเส้นทางการขนส่งที่กำลังจะเปิดใหม่”

จุมพลขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยในเวลาเกือบสองทุ่ม คุณไอศูรย์บอกว่าจะมารับ แล้วก็มารับจริง ๆ
ทำไมต้องมารับด้วยวะ กูดูเหมือนคนมีปัญหาชีวิตมากขนาดนั้นเลยหรือไง

บอกไปสามรอบแล้วว่าจะกลับไปนอนบ้าน แม่งก็ไม่ยอม
ยังคงย้ำนักย้ำหนาแถมไม่บอกเหตุผลด้วยว่าทำไมต้องมาตามรับตามส่ง

นี่กูต้องได้รับการคุ้มครองขนาดนี้เลยเหรอวะ โคตรงงตัวเองเลย

“คุณไม่คิดว่ามันแปลก ๆ เหรอคุณไอศูรย์ เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณนะ ผมว่ามันดูงง ๆ แปลก ๆ คุณว่ามั้ย”

ไม่นี่

“แล้วยังไงถึงไม่แปลก ปล่อยให้คุณกลับบ้าน ไปให้แฟนคุณแทงตาย อย่างนั้นเรียกว่าไม่แปลกใช่มั้ย”

ครับ ยอมแพ้ครับ กูไม่เถียงด้วยแล้วครับ

“แต่มันก็ไม่ใช่ภาระที่คุณต้องมาแบกรับเรื่องของผมป่าววะ”

แล้วไง

“นั่นมันก็เรื่องของผมอีก คุณดูจะมีปัญหากับเรื่องของผมอยู่ไม่น้อยนะคุณจุมพล”

สุดยอดว่ะ คุณไอศูรย์นี่แม่งก็กวนตีนใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า

“...........................”

แล้วแต่เหอะ กูจนปัญญาจะเถียงด้วย

ก็ดี มีคนคอยรับส่ง แม่งโคตรสบาย

“แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้าง”

วันนี้เหรอ

“ก็เป็นแบบนี้”

แบบนี้มันคือแบบไหนล่ะคุณจุมพล อธิบายสิ ไม่ใช่บอกว่าแบบนี้แล้วก็จบ ผมต้องการคำอธิบาย ไม่ใช่การตอบแบบส่ง ๆ

“คุณนี่เป็นคนน่าโมโหที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยจริง ๆ”

ใคร ๆ ก็พูดแบบนั้นแหละ เฉย ๆ ว่ะ ผมชิน

“กินยาครบหรือเปล่า พวกยาแก้อักเสบอะไรพวกนี้”

ยาเหรอ

“เออว่ะ ผมลืม มิน่าทำไมมันรู้สึกปวดหนึบ ๆ ที่แผล”

้ิิเออนี่คืออะไร หมายความว่ายังไง

“ผมควรทำยังไงกับคุณดี คุณจุมพล”

ทำยังไง ทำยังไงคือทำยังไงวะ ก็ไม่เห็นต้องทำยังไงไม่ใช่หรือไง แล้วจะให้กูตอบยังไงล่ะ จะไปรู้เรอะ

“แล้วคุณจะทำยังไงล่ะ ผมจะไปรู้ได้ยังไง”

ไม่ได้คิดอะไรเวลาที่ตอบ แต่การตอบแบบไม่คิดอะไรเลย ก็ทำให้คนที่กำลังขับรถแทบอยากจะเลี้ยวรถเข้าข้างทาง แล้วเขย่าหัวคนที่ตอบได้กวนประสาทมากที่สุดในโลกให้หายโมโห

“คุณนี่มัน จริง ๆ เล้ยยยยยยยย ผมจะทำยังไงกับคุณดีวะ”

โฮ่ มีวะด้วยเว้ยเฮ้ย ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา

“แล้วคุณจะทำยังไงล่ะ ก็บอกสิ ผมอยากรู้”

หันไปถามด้วยความสงสัย

ผมสงสัยจริง ๆ ครับ ไม่ได้แกล้งสงสัย

“คุณจะฆ่าผมมั้ย”

คำถามง่าย ๆ แต่จริงจัง ดวงตาที่มองมานิ่งสงบจนคนที่เผลอมอง รู้สึกถึงลมหายใจของตัวเองที่อยู่ดี ๆ ก็เกิดกระตุก โดยไม่มีสาเหตุ

“ทำไมผมต้องฆ่าคุณด้วย ผมไม่ได้เป็นบ้าเหมือนแฟนคุณนะ”

เหรอ

“...........อือ..........”

จุมพลไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เปลี่ยนเป็นเอนหลังพิงกับเบาะและนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก
ต่างคนต่างเงียบ ความเงียบงันที่ทำให้คุณไอศูรย์ต้องถอนหายใจออกมายาว ๆ

จุมพลเหมือนคนเสียศูนย์ ไม่ว่าการกระทำ คำพูด หรือความคิด มันดูจะสับสนไปหมดจนเรียงลำดับขั้นตอนแทบไม่ถูก

น่าแปลกที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติมาได้ตลอด ทั้งที่ถ้ามองดี ๆ จะรู้ จุมพลเลยคำว่าเสียศูนย์ไปไกล

“คุณจุมพล”

อือ

หันมาตามเสียงเรียก และคนถูกเรียกก็มองหน้าของคนที่เรียกด้วยสายตาว่างเปล่า

“ปัญหาของคุณผมไม่ช่วยแก้หรอกนะ แต่ปัญหาของเรา คุณต้องช่วยผมแก้”

ปัญหาของเรา .......ปัญหาของเรา…. ปัญหาอะไรวะ ที่สำคัญ ทำไมกลายเป็นเราวะ
กูกับคุณไอศูรย์กลายเป็นเราตั้งแต่ตอนไหน ไม่เข้าใจ

“ไม่เข้าใจ”

ก็ไม่ต้องเข้าใจ เพราะผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณมาเข้าใจ

“คุณไม่มายอยู่แล้วเรื่องนั้นมันก็แค่ความต้องการทางร่างกาย ผ่านแล้วก็ผ่านเลย ผมว่าคุณคงไม่คิดอะไรมากมาย ใช่มั้ยคุณจุมพล”

เรื่องนั้น เรื่อง................ อ่า....

ไม่ได้ตอบ และไม่ทันจะได้คิด ตอนนั้นคิดแค่ว่า ทำให้มันเป็นจริงอย่างที่หญิงด่าซะให้รู้แล้วรู้รอด อยากรู้นักว่าแม่งจะเป็นยังไง ก็แค่ปลดปล่อยอารมณ์ นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังรู้สึกสะใจด้วยซ้ำที่ได้ทำแบบนั้น

“ผมจำไม่ได้แล้ว”

จำไม่ได้ ใช้คำว่าจำไม่ได้ มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือไงครับคุณจุมพล

“ผมไม่ใช่ไม่เคยนอนกับผู้หญิง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมานั่งนึกทบทวนอะไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป แต่คุณจงเข้าใจไว้อย่างหนึ่ง...........ผมไม่เคยนอนกับผู้ชาย.....และมันก็จะจบง่ายมาก ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ต้องพบเจอกันอีก แต่นี่เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน คุณว่าเราควรจัดสถานะของเราไว้แบบไหน ผมจะได้รู้ ว่าคุณคิดยังไง”

คิดยังไง คิดยังไง อะไรวะ

กูไม่รู้

“คุณจะจัดยังไงก็จัดเลย แล้วแต่เลยคุณไอศูรย์”

ยกภาระหน้าที่ในการคิดให้กับคนถาม และคุณไอศูรย์ก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นและอยากจะรื้อสมองของจุมพลออกมาดูให้รู้ว่าในนั้นมีอะไรบรรจุอยู่บ้าง

“รูมเมทแล้วกัน จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก”

เออ รูมเมทก็รูมเมท

“รูมเมทก็รูมเมทครับ”

จบแล้วนะปัญหานี้ เป็นรูมเมทก็รูมเมทวะ

“แล้วผมนอนกับคุณเหมือนเดิมป่าว”

หมายความว่ายังไง นอน......... กลายเป็นคุณไอศูรย์ที่หันหน้ามามอง และเลิกคิ้วขึ้นสูง

“นอน.......”

เออใช่นอน

“แบบไหน”

แบบไหนอะไร ก็นอนไง มีนอนแบบไหนด้วยเหรอวะ

“แบบ.........นอนอย่างงี้ไง”

จุมพลใช้มือสองข้างประกบกัน และแนบไว้ที่แก้มแทนคำอธิบาย และคนที่เริ่มจะไม่เข้าใจความหมายก็พยักหน้าและหันไปมองถนน ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ... คล้ายกำลังโดนปั่นหัวอีกแล้ว แต่ไม่แน่ใจตัวเอง ว่าทำไมต้องคิดว่าอีกฝ่ายกำลังปั่นหัว

“ผมก็หมายความอย่างนั้นแหละ”

ไม่ใช่มั้ง

ถ้าหมายความอย่างนั้น ทำไมต้องหันมาทำหน้าแบบนั้นใส่ด้วยวะ กูว่าแม่งคุณไอศูรย์ต้องคิดอะไรแปลก ๆ บ้างแหละวะเมื่อกี้ ไม่งั้นไม่ทำหน้าดุใส่กูขนาดนั้นหรอก

“คุณไม่ได้หมายความแบบนั้นหรอกมั้ง”

แกล้งพูดไปแบบลอย ๆ และคราวนี้ยิ่งทำให้คุณไอศูรย์ขมวดคิ้วมุ่นและไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

“แล้วคุณคิดว่าผมจะหมายความว่ายังไง”

ถามออกไปด้วยความหงุดหงิดใจเล็ก ๆ และจุมพลก็พยายามหาวิธีการอธิบายที่ง่ายแก่การเข้าใจ

“ก็นอนแบบว่า......ต่างคนต่างซี้ด ไม่ก็ซี้ดไปพร้อม ๆกันไง”

ซี้ดบ้าอะไรของคุณวะ

“อยากซี้ดพร้อมผมอีกรอบว่างั้น”

ไม่ได้อยากซี้ดพร้อมคุณไอศูรย์หรอกครับ ผมแค่งงว่าทำไมคุณไอศูรย์ต้องจริงจังกับชีวิตขนาดนั้นด้วย

“ไม่รู้ดิ ปกติผมก็ซี้ดของผมคนเดียว แต่พอได้มาซี้ดพร้อมคุณไอศูรย์ แล้วเห็นหน้าคุณไอศูรย์เวลาซี้ด
ผมก็ว่า....แม่ง.......มันก็แปลกๆ ดี”


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2014 00:04:35 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
คู่นี้ดูมึนอึนกันน่าดู :laugh:

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สรุปว่า บ้าพอๆกัน

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1

ออฟไลน์ pudcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-3
ชอบเรื่องแนวนี้อ่ะ เพิ่งจะได้อ่าน ตามยังไม่ทันเลย
แต่ขอเม้นให้กำลังใจคนแต่งก่อน สู้สู้ค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ชัดเลย อ่านไปๆ ว่าละต้องเป็นบ้าโรคจิต เอาส่งโรงบาลบ้าเลยนะ เอาอีพี่สาวมันด้วย อีนั่นอะตัวดีเลย แล้วมันไม่ต้องรับผลกรรมอันใดหรอที่ทำไว้กับคนอื่นนะ  :fire:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
สงสัยชอบกินของเผ็ดกัน เลยชอบซิ๊ดดดดดดด555555555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สงสารจุ้มนะ แข้งเข็งอยู่ได้ยังไง

แต่พออ่านถึงตอนล่าสุด ขำเลย 555555

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :laugh:  คิดไม่ออกจริงๆว่า สองคนนี้จะมึนกันไปถึงไหน  :katai1:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ดูท่าต่างคนจะต่างมึนพอกัน  :hao7:

ฮาไอ้ซี๊ดดดด ของจุมพลอะ  :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คู่นี้อึนๆ แบบแปลกๆไงไม่รู้ อึดอัดบอกไม่ถูก
ปัญหาซับซ้อนเหลือเกิน เฮ้อออ

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป ^^

ออฟไลน์ puna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รูเมทเหรอ ได้ข่าวว่า ซัมกันไปแล้วนะ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คู่นี้น่ารักมากอ่ะ ชอบกันแบบมึนๆมึนๆ อ่านแล้วยิ้มตลอดๆ

ชอบจุ้มชีวิตเจอแบบนี้ ถ้าไม่มีใครมาฉุดเราออกมา เราคงหาทางออกไม่เจอเหมือนกัน

ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนลงให้อ่านจริงๆเลย

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน อยากจะนอนก็นอนไม่หลับ

“ผมจะนอนตรงไหนดี”

จุมพลกำลังจะขยับเข้าไปนอนด้านใน แต่เมื่อล้มตัวลงแล้วกลับต้องลุกขึ้นมาใหม่อีกรอบ และคนที่กำลังจะก้าวขาขึ้นไปบนเตียงก็ชะงักนิ่ง

“จะเอายังไง”

ไม่เอายังไงหรอก

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมนอนข้างนอกดีกว่า”

ปัญหาแค่นี้ ทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก ต้องการอะไร แล้วนั่น ลุกขึ้นหลายครั้งแล้ว ตกลงจะเอายังไง จะนอนตรงไหนกันแน่
คุณไอศูรย์ไม่อยากจะแสดงอารมณ์หงุดหงิดให้มากนักแต่ก็เริ่มจะทนไม่ไหว

“ผมให้คุณตัดสินใจอีกห้าวินาที ถ้าเลือกไม่ได้เดี๋ยวผมจะเลือกให้เอง”

โห่ เล่นงี้เลยเหรอ จะรีบนอนไปไหนล่ะคุณไอศูรย์

“ผมนอนใต้เตียงแล้วกัน”

นี่คือการตั้งใจจะกวนประสาทใช่มั้ย

“เชิญครับ”

ไม่ได้ห้าม แต่ตอบรับแต่โดยดี และจุมพลก็ดึงหมอนเตรียมลงไปนอนใต้เตียงอย่างที่พูดจริง ๆ

“คุณจะไปไหนคุณจุมพล”

ก็ไปนอนใต้เตียง

ชี้นิ้วเพื่อเป็นการบอก และคุณไอศูรย์ก็ชักจะรำคาญกับความเรื่องมากของคนที่มาอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน

“อะไรของคุณ สองสามวันที่ผ่านมาก็นอนบนเตียง แล้วนี่เป็นอะไรทำไมคุณจะมีปัญหากับคืนนี้”

ไม่ใช่ว่ามีปัญหาหรอก

“ก็ยาหมด....คืนนี้ผมไม่ได้กินยาแก้แพ้อากาศเหมือนสองคืนก่อน”

แล้ว.......

“เกี่ยวอะไรกับยาแก้แพ้”

เกี่ยวสิ

“ก็ผมรู้ว่าคืนนี้ผมจะนอนไม่หลับ มันจะน่ารำคาญมากเวลาที่ผมกระสับกระส่ายไปมา คนที่มานอนด้วยเป็นใครก็ต้องรำคาญ”

แล้วยังไง

“คุณจะนอนไม่หลับมันก็เรื่องของคุณ แต่ผมหลับ เพราะผมเหนื่อยมาก ถ้าคุณนอนไม่หลับ คุณก็ต้องพยายามข่มตาเอาเอง”

เฮ้ย ถ้ากูทำได้กูก็ไม่ต้องลุกขึ้นมานั่งเล่นเกมส์ตอนดึก ๆ ดื่นๆ หรอกวะ คุณไอศูรย์แม่งไม่เข้าใจ

“คุณพูดเองนะ”

ใช่ ผมพูดเอง

“ตกลงนอนฝั่งนั้นนั่นแหละ คุณไม่ต้องเลือกแล้ว ขืนรอคุณเลือกผมคงไม่ต้องนอนกันพอดี”

แล้วคุณไอศูรย์ก็ลงไปนอน แล้วผมก็ต้องทำตามที่คุณบอกใช่มั้ยครับ

“ปิดไฟด้วย”

ครับ ปิดก็ปิด ปิดแล้วครับ

จุมพลเดินไปปิดไฟและก็มาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ คนที่นอนหันหลังให้แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความกลุ้ม

พยายามข่มตาให้หลับแต่ก็ทำไม่ได้   ถ้ามันหลับได้ง่าย ๆ กูคงนอนหลับสนิทตลอดสองปีที่ผ่านมาแล้ว
แต่นี่แม่งนอนหลับไม่ได้ง่าย ๆ ไง ชีวิตมันถึงได้รวนแบบนี้ เพราะบางวันก็มีสติไม่มากพอ

เครียดว่ะ ให้ทำอะไรก็ทำได้นะ แต่บังคับให้หลับ กูทำไม่ด้ายยยยย

“คุณไอศูรย์ คุณว่าคนเราต้องนอนวันละแปดชั่วโมงจริงมั้ย”

พูดเรื่องเดิม ๆ และคนที่กำลังจะหลับก็พูดอะไรบางอย่างเสียงเบาให้จุมพลได้ยิน

“คุณจุมพล คุณเคยคิดบ้างมั้ย ว่าทำไมคุณถึงได้พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง”

เคย

“เพราะว่าผมมันเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องไง”

ไม่ใช่หรอก

“เพราะคุณนอนไม่ครบแปดชั่วโมง สมองคุณเลยรวน ทำให้เรียบเรียงสติ เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก”

คล้าย ๆ โดนด่าเลยว่ะ แม่งเจ็บ

“นี่คุณกำลังด่าผมอยู่หรือเปล่า”

ไม่ได้ด่า

“ผมประณามมันรุนแรงกว่าด่าเยอะ และผมหวังให้คุณเจ็บปวดกับคำพูดของผม เพราะนั่นแปลว่าผมประสบความสำเร็จในการประณามคุณ”

แรงว่ะ

จุมพลไม่ได้โกรธ และน่าแปลกที่คำพูดนั้นมันทำให้หัวเราะได้ในเวลาที่รู้สึกเครียดแบบนี้

“แต่ผมไม่เจ็บปวด ถ้าผมไม่เจ็บปวดคุณจะทำยังไง”

ถามคนที่นอนหันหลังให้ และคุณไอศูรย์ที่นึกรำคาญอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มทน ก็พลิกกายหันมาหาคนที่ยังถามอะไรไม่หยุด

“เมื่อไหร่คุณจะนอน”

นั่นสิ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ถึงจะอยากนอน

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ตอบไม่ได้

ไม่ใช่ไม่อยากตอบ แต่เพราะตอบไม่ได้ จุมพลก็เลยรีบพลิกกายหันหลังหนีคนที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น

“คุณไอศูรย์คุณคิดว่าคนเรานอนวันละแปดชั่วโมงมันดีแน่แล้วเหรอ สองปีมานี้ผมจำไม่เห็นได้ว่าผมเคยนอนครบวันละแปดชั่วโมง….แต่ผมก็ยังทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ ไปทำงานได้ คุยกับใครก็ได้ เพราะฉะนั้นผมว่าคนเราไม่ต้องนอนวันละแปดชั่วโมงก็ได้นะ คุณว่าอย่างงั้นมั้ย”

คำพูดเรียบเรื่อย เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในนั้น แต่มันกลับกระแทกเข้าไปกลางหัวใจคนฟังอย่างรุนแรง
ไม่ได้นึกจะสงสารหรือเห็นใจ ไม่ได้อยากจะคิดอะไรด้วยทั้งนั้น และยิ่งจุมพลพูดมากขึ้นเท่าไหร่ คนฟังก็ยิ่งไม่อยากฟัง

“แล้วคุณจะหลับได้หรือยังคุณจุมพล”

ก็พยายามอยู่นี่ไงวะ แต่แม่งมันไม่หลับไง จะให้ทำยังไงล่ะ

“ผมกำลังพยายามอยู่”

ถ้ากำลังพยายามอยู่ ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำ ที่จะปล่อยให้คุณพยายามอยู่แค่คนเดียว

“งั้นเราก็มาพยายามไปด้วยกัน”

อะไรวะ พยายามไปด้วยกัน ไม่เข้าใจ

หันกลับไปมองคนที่บอกว่าให้พยายามไปด้วยกัน และคุณไอศูรย์ก็ขยับเข้ามาใกล้จุมพลมากขึ้น

“พยายามยังไงเหรอ ผมไม่เข้าใจ”

ก็ไม่ยังไง

“คุณบอกว่านอนไม่หลับใช่มั้ย งั้นผมก็นอนไม่หลับด้วย คุณมองหน้าผม ผมมองหน้าคุณ มาลองดูว่าใครจะเผลอหลับก่อนกัน”

แล้วมันจะเผลอหลับได้จริงเหรอวะ

“แต่คุณต้องนอนเฉย ๆ และหยุดพูด”

ครับ ๆ ผมกำลังทำอยู่ครับ

“แล้วมันจะหลับจริงเหรอคุณไอศูรย์”

ไม่รู้สิ

“ก็ยังดีกว่าปล่อยให้คุณพูดไม่หยุดแล้วผมไม่ต้องนอน”

แม่ง ด่ากูนี่หว่า

“ถ้าคุณไอศูรย์หลับไปก่อน ผมก็ตาค้างอยู่คนเดียวสิ”

ก็ช่วยไม่ได้

“ถือว่าผมพยายามแล้ว แต่คุณมันตาค้างเอง โทษผมไม่ได้ ให้โทษตัวเองไป”

ได้ไงวะ ง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เอาก็เอา เผื่อจะฟลุคหลับ

“เริ่มเลยเหรอ”

ก็เริ่มเลยสิ

“แล้วคุณจะรออะไรล่ะคุณจุมพล”

ไม่ได้รออะไรหรอกครับ

“แล้วจะให้ผมมองตรงไหน”

อยากมองตรงไหนก็มองไป คุณก็คิดเอาเองสิ ไม่ใช่ให้ผมคิด

“แล้วแต่คุณสิ”

เหรอ เออ แล้วแต่ก็แล้วแต่ จุมพลจ้องหน้าของคนที่บอกให้มองหน้ากันไปจนกว่าจะหลับ แต่ต้องหยุดพูด
ก็เลยหยุดพูดอย่างที่คุณไอศูรย์บอกและพยายามที่จะเชื่อว่าการทำอย่างนี้มันจะได้ผล

ถ้ากูหลับได้นี่แม่งฮาเลยนะ ทำเล่นไป

คิดอะไรไปเรื่อย คิดแล้วก็อมยิ้มน้อย ๆ และช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของคนที่บอกว่าจะพยายามไปพร้อมกัน
มองแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นสูง สงสัยอยู่เหมือนกันว่าคุณไอศูรย์มองตรงไหนของหน้ากูวะ แต่ก็ไม่ต้องสงสัยนาน เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าแม่งไม่ได้มองหน้า ไม่ได้มองตา แต่.......มองที่ปาก....

แล้วมันจะผิดอะไร ในเมื่อให้มองส่วนไหนก็ได้ อยากมองตรงไหนก็มอง ถ้าคุณไอศูรย์มองที่ปาก งั้นผมก็มองตาซะเลย จะได้เจ๊ากัน....

ไม่ใช่แค่คิด แต่ทำ.... จุมพลเงยจ้องมองที่ดวงตาของคนที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว แม้จะเห็นไม่ชัดในความมืดแต่ก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายมอง

มองกันอยู่อย่างนั้นเป็นนาน และจุมพลรู้สึกว่าหนังตามันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ

หรือวิธีนี้จะได้ผลจริง ๆ เออ เข้าท่าว่ะ รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที

ไม่ใช่แค่รู้สึกง่วง  แต่รู้สึกเหมือนกับว่าใบหน้าของคุณไอศูรย์ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

หรือกูคิดไปเองวะ หรือว่าแม่งจะคิดไปเองจริง ๆ

จุมพลกำลังเคลิ้มหลับโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้แพ้ หลับโดยไม่ต้องพึ่งความเหนื่อยล้ามาทำให้หลับ
ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว เผลอหลับไปก่อนโดยที่ยังไม่ทันคิดอะไรทั้งนั้น

คนหนึ่งหลับไปแล้ว ทั้งที่ปากพูดปาว ๆ ว่านอนไม่หลับ ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะหลับลงได้

แต่อีกคน ที่เมื่อแตะริมฝีปากเบา ๆ แนบกับริมฝีปากของจุมพลกลับต้องขมวดคิ้วมุ่น และต้องรีบผละใบหน้าออกห่าง

ครั้งแรกถูกชักจูงด้วยความต้องการทางร่างกายยังพอรับได้  แต่การที่ถูกจุมพลดึงให้เคลิ้มตามอีกครั้งในเวลานี้ มันไม่น่าจะเป็นการถูกชักจูงด้วยความต้องการทางร่างกายเหมือนครั้งก่อน

แล้วมันเป็นเพราะอะไร แล้วทำไมถึงทำแบบนี้

คุณไอศูรย์กำลังขมวดคิ้วมุ่น และค่อย ๆ ถอยห่างจากคนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ มองหน้าของจุมพลอีกครั้ง และก็ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ขืนยังนอนมองหน้าของอีกฝ่ายต่อไปคงได้เกิดเรื่องขึ้นอีกรอบแน่ ๆ

สิ่งที่คุณไอศูรย์ทำได้ก็คือการรีบหันหลังหนีไปซะให้พ้น ๆ และพยายามข่มตาให้หลับ แต่นอกจากไม่หลับแล้ว ยังต้องหันกลับมามองหน้าของจุมพลอีกครั้ง

มอง นอนมองไปเรื่อย ๆ พิจารณาที่ใบหน้า แก้ม คิ้ว คาง ริมฝีปาก แล้วก็นึกเพลินที่ได้มองหน้าของจุมพลไปเรื่อย ๆ แบบนั้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ดี ๆ คุณไอศูรย์ก็เผลอหลับไปพร้อม ๆ กับจุมพล...หลังจากนั้นไม่นาน


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2014 18:01:48 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ seraty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
จ้องตามมากๆระวังท้องนะจุมพล.........

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
รู้สึกว่าคุณไอศูรย์จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำนะ 555
ดูกันต่อปายยยยย ^^

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
วิธีแก้นอนไม่หลับน่ารักดี

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ความใกล้ชิด และความเข้าใจ


มักจะเกิดความรักเสมอ :กอด1:

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
วิธีนี้ได้ผลดีแหะ
จุมพลต้องมองบ่อยๆเผื่อจะท้องแล้วชดใช้ให้หญิงได้55//ผิดละ ไปไกล
ตื่นเช้ามาจะเป็นยังไงต่อหนอ แล้วจะเคลียร์ปัญหาได้ไหมเนี่ย แล้วนิ้งนี่ไม่ได้รับผลกรรมอะไรบ้างเลยหรอ แย่จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน เอาคืน

กิจวัตรบางอย่างคล้ายจะเป็นปกติไปซะแล้ว ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ควรเรียกว่าปกติ คุณไอศูรย์ไม่คิดว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ
แต่ก็ไม่รู้จะหาคำตอบของเหตุการณ์พวกนี้ได้ยังไง

“เนคไทด์คุณแน่นเกินไป คุณจะผูกแน่นขนาดนี้ไปทำไม”

หลังจากนอนมองจุมพลที่เดินไปเดินมาในห้องอยู่นาน  คุณไอศูรย์ก็รู้สึกทนไม่ได้กับการผูกเนคไทด์ของจุมพล
ลุกขึ้นจากเตียงมาจัดการกับเนคไทด์ของจุมพลที่ยิ่งผูกยิ่งไปกันใหญ่ นี่อย่าบอกนะว่าไม่มีสติที่จะผูกเนคไทด์ให้ตัวเอง

“แน่นไปเหรอ ปกติผมก็ผูกแบบนี้ตลอด”

ใช่ แน่นไป ทำไมไม่ผูกเงื่อนตายไปซะถ้าจะผูกแน่นขนาดนี้

“ถ้าอยากผูกคอตาย  เงื่อนแบบนี้ผมว่าเหมาะ”

อ่อ เหรอครับ   คุณประชดได้เจ็บปวดมากครับคุณไอศูรย์

ยืนอยู่เฉย ๆ ให้คุณไอศูรย์จัดการบางอย่างได้ตามใจชอบ และจุมพลก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่ตั้งใจผูกเนคไทด์ให้ใหม่

“คุณนี่เป็นคนหน้าตาดีจริง ๆ เลยนะคุณไอศูรย์”

พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คล้ายจะชม แต่แปลกที่คนที่ถูกพูดแบบนี้ใส่ กลับต้องขมวดคิ้วมุ่น และไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร

“แล้ว........”

ก็ไม่แล้ว

“หน้าตาก็ดี หน้าที่ฐานะการงานก็ดี”

หมายความว่ายังไง ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ และยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้นเมื่อจุมพลพูดประโยคต่อมา

“ทำไมคนหน้าตาดีขนาดนี้ไม่มีแฟนวะ ใครจะไปอยากเชื่อ”

อะไรของคุณ

“ผมไปบอกตอนไหนว่าไม่มี”

อ่อ.....สรุปว่ามี

“นั่นไงผมว่าแล้วว่าต้องมี”

คิดว่าตัวเองเดาถูก และก็พยักหน้าตามแถมยังยิ้มระรื่นเมื่อคิดได้ว่าตัวเองคาดเดาเรื่องนี้ได้อย่างถูกต้อง

ไม่ให้มีได้ยังไง หน้าตาก็ดี นิสัยก็ไม่ได้แย่อะไร แถมเรื่องฐานะ หน้าที่การงานยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“แล้วผมอยู่ที่นี่ คุณจะไม่มีปัญหาเหรอ”

ปัญหาอะไร

“ผมไม่ได้บอกว่ามีแฟน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีแฟน”

แปลว่าอะไรวะ ตกลงจะมีหรือไม่มี

“แล้วถ้าแฟนคุณเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำยังไง นี่ขนาดแค่ไอ้เจี๊ยบไปค้างบ้านผม เล่นกันนิด ๆ หน่อย หญิงยังตามด่าไอ้เจี๊ยบไม่จบไม่สิ้น แต่ผมกับคุณมันไปไกลกว่านั้นเยอะ ถ้าเกิดแฟนคุณรู้ขึ้นมา ผมไม่โดนน้ำกรดสาดเหรอ”

แล้ว...........

“ไกลกว่านั้นเยอะ ......... แล้วมันไกลแค่ไหนล่ะ”

ไกลแค่ไหน

ไกลแค่......... ตอบไม่ถูก และจุมพลก็มีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด แต่คนที่กำลังจัดเนคไทด์ให้กลับทำหน้าเฉย

คุณเคยยิ้มบ้างป่าววะคุณไอศูรย์ ถามจริง ๆ

“แบบที่ซัดกันไปแล้วหนึ่งรอบ”

หนึ่งรอบเหรอ

“หนึ่งรอบที่ว่า ก็แค่ภายนอก คุณว่ามันต่างจากการช่วยตัวเองตรงไหน ถ้าคุณมองว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความต้องการของร่างกาย มันก็จบ”

จบเหรอ

“เข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง แล้วคุณร้องโอดโอยข่วนผมจนหลังมีแต่รอย.........คุณเรียกมันว่าการมีเซ็กส์กันงั้นเหรอ”

เออว่ะ

“แล้วคุณมาเรียกร้องว่าไม่เคยนอนกับผู้ชาย แล้วต้องช่วยกันแก้ปัญหามันหมายความว่ายังไงครับคุณไอศูรย์”

ก็ไม่หมายความว่ายังไง

“ผมคิดว่าผมกำลังถูกกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ผมก็เรียกร้องตามสิทธิ์ ที่ผมควรเรียกร้อง”

ห๊ะ เรียกร้องสิทธิ์เนี่ยนะ

“แต่คุณเป็นฝ่ายพยายามจะยัดเยียดเข้ามาในตัวผมให้ได้นะ”

“แต่คนที่ทำให้ผมต้องยัดเข้าไปมันก็คือคุณเองไม่ใช่หรือไง”

เออใช่  จริงด้วยว่ะ กูแม่งเสียศูนย์ไง แต่คุณมึงก็ไม่ควรจะฉวยโอกาสตอนที่คุณกูเสียศูนย์ โดยการปล่อยให้คุณกูทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นนี่หว่า  ก็น่าจะห้ามกันบ้าง  ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลยแบบนั้น

“ตกลงผมผิดเหรอวะ”

จุมพลขมวดคิ้วมุ่น และเริ่มโมโหที่ตัวเองกำลังเสียเปรียบทุกทาง

“ผมโดนยัดเข้ามานะโว้ย ตกลงผมผิดเหรอ คนเริ่มไม่ได้แปลว่าต้องผิดเสมอไปนี่ คนที่ไม่ยอมห้ามทั้งที่รู้ว่าผมประชดแฟนน่าจะผิดกว่าสิ คุณควรห้ามหรือบอกให้หยุด ไม่ใช่ปล่อยให้เลยตามเลย”

ชักจะไปกันใหญ่ และคุณไอศูรย์ที่กำลังจัดการเนคไทด์ที่คอให้จุมพลก็ยิ่งทำหน้าขรึมยิ่งกว่าเดิม

“มันน่าตื่นเต้นจะตาย อะไรที่ไม่เคยลอง พอลองดูผมว่ามันก็ช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับชีวิตผมดีนี่ มันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ มาคิด ๆ ดู ถ้าผมมองว่าคุณอยากระบายอารมณ์แล้วผมก็ช่วยคุณระบาย มันก็วิน วิน กันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ คุณจะให้ใครผิดล่ะ กรณีแบบนี้”

เออ กรณีแบบนี้ กูผิดเต็ม ๆ เลยก็ได้ครับ ก็ได้ กูผิดเองก็ได้

“เพราะฉะนั้น ถ้าใครซักคนจะมีปัญหากับกรณีนี้ ผมซึ่งถูกคุณชักจูงก็ควรได้รับโอกาสในการแก้ตัว เพราะผมไม่ผิด....ผมถูกคุณล่อล่วง และถึงแม้ท้ายที่สุด เราต่างก็เต็มใจและทั้งผมกับคุณก็ถึงจุดหมายด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าต้องมีใครรับผิดชอบ คนแรกก็ต้องเป็นคุณ ส่วนผมเป็นผู้เสียหาย”

แม่ง ตอกย้ำกันเข้าไป กูผิดไง เออ กูผิด ยิ่งพูดกูก็ยิ่งผิดใช่มั้ย

จุมพลหน้าหงิก เพราะโดนว่าแต่ทำอะไรไม่ได้

“งั้นไม่ต้องมาผูกเนคไทด์ให้ผมเลย ผมจัดการเองได้”

ดึงเนคไทด์ออกจากมือของคนที่กำลังจัดการความเรียบร้อยให้ แต่คุณไอศูรย์ก็ไม่ยอมปล่อย

“เรื่องนั้น กับเรื่องเนคไทด์ที่ผมกำลังผูก มันคนละเรื่องกัน คุณจะเอาสองเรื่องนี้มาปนกันแล้วงอนผมไม่ได้.......เข้าใจมั้ย”

ห๊ะ  งอน  กูเนี่ยนะงอน  ไม่ได้งอนโว้ยยยยยยยยย  ถึงไม่เข้าใจที่คุณไอศูรย์พูดก็เถอะ แต่ผมไม่ได้งอนเว้ย
ทำไมต้องงอนด้วยวะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่รูมเมทกัน แล้วทำไมผมต้องงอนคุณด้วย

“นอนไม่พอแล้วอย่ามางี่เง่าใส่กันแบบนี้”

ไม่ใช่เลย  ใครที่เคยบอกว่ากูพูดจาไม่รู้เรื่องนะ มึงมาดูนี่เลย
แล้วแม่งจะรู้ว่าตอนนี้มี   คุณไอศูรย์เป็นคนที่พูดจารู้เรื่องแต่ระดับความเกรียนมากกว่ากูร้อยเท่า

อยากจะโทรหาไอ้เจี๊ยบมาก มึงมาดูเลยเจี๊ยบ ตอนนี้มีคนเกรียนยิ่งกว่ากูแล้ว เผลอ ๆ จะเกรียนยิ่งกว่า พี่เกรียนศักดิ์แผนกการเงินซะอีก

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว”

จัดเนคไทด์ให้เข้าที่เข้าทาง และจุมพลก็ก้าวขาเดินออกจากห้องทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่มีการขอบคุณ ไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น
เตรียมตัวไปทำงาน โดยมีคนที่เพิ่งลุกขึ้นจากเตียง เดินตามออกมาด้วย

“ผมไปเองได้ ไม่ต้องไปรับไปส่งหรอก แฟนผมคงไม่ตามไปกระซวกผมถึงบริษัทหรอกน่า”

งั้นเหรอ

“ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะไปส่งนี่”

อะไรนะ

ไม่ได้ไปส่งแล้วเดินตามออกมาทำไม แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอวะ แม่งปั่นหัวกูตั้งแต่เช้าเลยเหรอ นี่เรียกว่าการปั่นหัวใช่มั้ย
กูกำลังถูกปั่นหัวใช่มั้ยวะ

“เมื่อคืนนี้คุณอาจไม่รู้ตัว  ว่าคุณเป็นสาเหตุทำให้ผมได้นอนไม่เต็มที่”

อ้าวววววววววววว  ยังไงกันล่ะครับคุณไอศูรย์  ก็ผมบอกกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าจะนอนใต้เตียง แต่คุณไม่ยอมให้ผมไป
แล้วมาโทษผมได้ยังไง   อีกอย่างเมื่อคืนผมก็หลับสนิทไม่ได้พลิกตัวไปมา หรือทำเรื่องงี่เง่านะครับแล้วยังจะบอกว่ากูทำให้คุณมึง นอนไม่พออีกเหรอ เห็นตื่นมาหน้าตาแจ่มใสซะขนาดนี้ นี่ยังเรียกว่านอนไม่พออีกหรือไง

“นั่งก่อนสิ ที่โซฟา”

“ทำไมผมต้องนั่งด้วยวะ ผมจะรีบไปทำงานแล้ว”

“หกโมงเช้า บริษัทคุณเปิดทำการแล้วหรือไง ไปเช้าขนาดนี้ ไม่มีใครมอบโล่พนักงานดีเด่นให้คุณหรอกนะ”

ไม่มีก็ไม่มีสิวะ  ไม่ได้คิดจะเอาโล่มาทำอะไรซักหน่อย

“เช้า ๆ คุณควรได้รับน้ำตาลไปหล่อเลี้ยงสมองซะบ้าง  คนเราควรได้รับน้ำตาลในตอนเช้าในปริมาณที่พอเหมาะมันจะทำให้กระปรี้กระเปร่าทั้งวัน ขนมปังกับเครื่องดื่มธัญพืชร้อน  ๆ คงพอให้คุณเลิกทำตัวงี่เง่าใส่ผมได้ คุณว่างั้นมั้ย”

อะไรของคุณวะ คุณไอศูรย์  แม่ง จะกวนประสาทผมหรือไง

“กรุณารอซักครู่ ผมกำลังต้มน้ำอยู่ และผมขออนุญาตไปล้างหน้าล้างตาซะหน่อย”

เออเอาเหอะครับ คุณจะไปทำอะไรก็ไปเถอะครับ

กูจะนั่งรอที่โซฟานี่แหละ จนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร แล้วจะเดินทางไปทำงานตามคำสั่งของคุณครับ

สิ่งที่จุมพลทำอยู่เรียกว่าประชด และจุมพลก็ลงไปนั่งที่โซฟาด้วยท่านั่งหลังตรง มือสองข้างวางอยู่ที่หัวเข่า หน้านิ่งสนิท ทั้งที่อารมณ์เริ่มเดือดขึ้นมาทีละนิด คุณไอศูรย์หายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ไปล้างหน้าล้างตา ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาโดยมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดเอาไว้ที่บ่า

ชุดที่ใส่ยังเป็นชุดเมื่อคืน เสื้อกล้ามสีดำ กับกางเกงวอร์ม  ทำอย่างกับจะไปออกกำลังกายที่ไหน ใส่แบบนั้นนอนเนี่ยนะ อึดอัดตายห่า

“อรุณสวัสดิ์คุณจุมพล”

อรุณสวัสดิ์.........

บ้า

บ้าหรือไงวะ เราตื่นขึ้นมาปะทะคารมกันไปชุดใหญ่แล้ว อยู่ดี ๆ มาบอกว่าอรุณสวัสดิ์เนี่ยนะ

อยากจะหันไปถามว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกันแน่

แต่กลับพบว่า คนที่กำลังจะเดินเข้าไปในครัว หยุดเดิน และมายืนอยู่ที่ด้านหลังของโซฟาที่จุมพลนั่งอยู่

ไม่ใช่แค่หยุด แต่เจ้าตัวยังยื่นหน้ามาจากด้านหลังและหอมแก้มด้านขวาของคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวแรง ๆ จนจุมพลถึงกับเอนไปทางขวาจนแทบสุด และรีบหันไปมองให้แน่ชัดว่าคนที่ทำแบบนี้ต้องการอะไร

“คุณไอศูรย์  คุณทำอะไรของคุณวะ......ฮึ่ยยยย”

ยกหลังมือขึ้นเช็ดที่แก้มของตัวเอง และขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิดโมโหที่โดนหยอกแบบแปลก ๆ การหยอกล้อที่อีกฝ่ายไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

“ก็ชดใช้ให้คุณไง เมื่อกี้เรื่องก่อนหน้านี้ ผมให้เป็นความผิดของคุณ........งั้นตอนนี้ ก็เป็นความผิดของผมไปแล้วกัน เพราะผมทำบางอย่างที่คุณไม่พอใจ และไม่สมัครใจให้ทำ และผมดึงดันจะทำโดยที่คุณไม่เต็มใจ.......งั้นเราก็หายกัน”

หายกัน หายกันเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว มันจะหายกันได้ไงวะ

“หรือถ้าคุณไม่อยากหายกัน และอยากจะร่วมรับผิดชอบกับผม คุณก็มาหอมแก้มผมกลับสิ ไม่เห็นจะยาก”

โว้ยยยยยยยยยยยยย กูจะไปทำแบบนั้นทำไมวะ มันใช่เรื่องที่ควรทำหรือไงล่ะเฮ้ย

“ผมไม่ทำหรอกโว้ย ไอ้เรื่องบ้า ๆ แบบนั้นน่ะ”

ใช่ คุณคงไม่ทำหรอกคุณจุมพล เพราะเวลาที่คุณทำ คุณทำยิ่งกว่านั้นหลายเท่า

“คุณเคยทำมากกว่าที่ผมทำนะ เสียดายจริง ที่คุณไม่เคลิ้มไปกับผม เหมือนที่ผมเคยเคลิ้มไปกับคุณ”

แม่ง อะไรวะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ กูกำลังโดนปั่นหัวอยู่ใช่มั้ยวะ

“คุณแกล้งผมเหรอ”

รู้ก็ดีแล้ว

“แล้วที่คุณเคยแกล้งผมไว้ล่ะ เวลาที่คุณมึนใส่ผม ทำให้ผมเหมือนโดนปั่นหัว คุณเคยทำแบบที่ผมกำลังทำกับคุณอยู่ตอนนี้ไม่ใช่หรือไง”

ไม่...........ใช่.... แต่......ก็มีส่วน.....ใช่.... จุมพลนิ่งเงียบไปแล้ว และไม่มีอะไรจะโต้ตอบ

เออ กูยอม เอาไงก็เอาเหอะ จะว่ากูยังไงก็ได้ กูยอม

“...................”

จุมพลนั่งเงียบ และไม่มีคำพูดใด ๆ อีก เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยกแก้วเครื่องดื่มชงมาส่งให้ แต่จุมพลก็ไม่รับมาถือเอาไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายวางแก้วไว้บนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าแทน

“คุณทำเหมือนงอนเลยนะ”

งอนห่าอะไร กูจะไปงอนได้ยังไงล่ะ แปลไปซะไกลแล้ว กูไม่ได้งอน กูแค่โมโหที่ยิ่งพูด ยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งพูดยิ่งโดนเอาคืนก็แค่นั้น

“..................”

ไม่มีคำตอบ แต่การไร้คำตอบ มันทำให้คนที่มอง เริ่มอมยิ้มขึ้นมาทีละนิด ก่อนจะค่อย ๆ หัวเราะออกมาเสียงเบา เพราะขำกับท่าทางแบบนั้นของจุมพล

ตลกมากป่าว คุณตลกมากมั้ยครับคุณไอศูรย์

“คุณสนุกมากมั้ยคุณไอศูรย์”

ก็พอประมาณนะคุณจุมพล

“ผมไม่ได้อยากแกล้งคุณนะ ผมแค่อยากสนิทกับคุณมากขึ้นเท่านั้น คนเราถ้าไม่สนิทกันไม่มีใครทะเลาะกันหรอก และคุณเชื่อมั้ย คนที่สนิทกัน หลังจากทะเลาะกันแล้ว เดี๋ยวก็ดีกัน”

หมายความว่ายังไง

“ผมเคยมีรูมเมทนะ สมัยเรียน แต่น่าแปลก  พวกเขาทนผมกันไม่ค่อยได้ มีกี่คนก็ต้องมีอันโบกมือลากันทุกคน เพราะเขาหาว่าผมพูดจารู้เรื่องเกินไป”

แล้ว.........

“ผมก็เลยไม่คิดจะมีรูมเมทอีก ผมว่าคุณก็เป็นคนที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องคนหนึ่งนะ.....บางทีการที่คุณพูดไม่รู้เรื่องอาจจะทำให้ผมอยากรู้เรื่องทุกอย่างที่คุณพูดก็ได้”

นี่ชมหรือด่าวะ

“............ผมอยากลองเป็นรูมเมทกับคุณ........ผมอยากรู้ว่าระหว่างคุณกับผม เราจะสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้ยังไง”

กูไม่สื่อสารอะไรทั้งนั้นแหละโว้ย กูจะไปทำงานแล้ว คุณไอศูรย์แม่งบ้ากว่ากูอีก เกรียนเกินไปแล้วโว้ยยยยย
กูนึกว่าเป็นพวกนิ่ง ๆ เฉย ๆ ซะอีก ที่ไหนได้ แม่งร้ายลึก

จุมพลไม่พูด ไม่ตอบ แต่ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นซัดรวดเดียวหมดแก้ว และลุกขึ้นเตรียมจะไปทำงาน

“ผมไปส่ง”

ไปส่งได้ไง

“แต่คุณบอกว่าไม่ไปส่งผมเองนะ”

ผมพูดแบบนั้นเหรอ

“ผมไม่ได้บอกว่าจะไปส่ง แต่ผมก็ไม่ได้พูดซักคำว่าจะไม่ไปส่ง”

อีกแล้ว คำพูดชวนปวดหัวแบบนี้อีกแล้ว

“คุณไอศูรย์”

“ว่าไงครับคุณจุมพล”

“ปั่นหัวผมสนุกมากมั้ย”

ไม่รู้สิ

“แล้วตอนคุณปั่นหัวผม คุณสนุกมั้ย”

กูไม่ได้.........

“ฮึ่ยยยยย แกล้งผมเหรอวะ”

สู้ไม่ได้ เถียงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้มีแค่ยกมือขึ้นขยำหัวของตัวเองและร้องออกมาอย่างขัดใจ

แต่อาการที่แสดงออกว่าขัดใจ มันทำให้คนที่กำลังอมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากต้องนิ่งชะงัก และใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในนาทีถัดมา

“ผมไม่เล่นกับคุณแล้วก็ได้ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสาย”

คุณไอศูรย์เดินนำออกจากห้องพัก และจุมพลก็เดินหน้าหงิกไปยืนรอที่ลิฟท์

อะไรวะ

ปั่นหัวกูซะจนหัวหมุน พอสะใจแล้วก็เลิก แล้วก็กลับมาเป็นคุณไอศูรย์หน้าดุ ไม่พูดไม่จาอีกแล้ว

“คุณไม่ต้องไปส่งหรอกนะ”

ยังคงยืนยันคำเดิม แต่คุณไอศูรย์ไม่คิดจะฟัง ลงจากลิฟท์และเดินลิ่ว ๆ นำไปที่ชั้นจอดรถ โดยมีจุมพลเดินตาม

“ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับ”

ทำไมต้องมารับวะ กูกลับเองได้ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องปกป้องคุ้มภัยด้วย นั่นผู้หญิงนะ แถมยังเป็นแฟนกูด้วย กูต้องกลัว แล้วก็หนีหัวซุกหัวซุนขนาดนี้เลยหรือไง

“ไม่เอา”

ตอบกลับไปแบบไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย และคุณไอศูรย์ที่เดินนำมาที่รถก็หันมามองหน้าของจุมพลเพราะถูกขัดใจ

“ผมไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณ.... คุณเป็นตัวของตัวเองได้ แต่คุณก็เป็นคนของผมครึ่งหนึ่งแล้ว คุณทำให้ผมต้องเข้าร่วมวงกับเรื่องนี้ด้วย มันเป็นความผิดที่คุณต้องรับผิดชอบ"

อะไรวะ  มันเป็นความผิดของผมได้ยังไงกันคุณไอศูรย์

"............ปัญหาของคุณผมแก้ให้ไม่ได้ แต่ปัญหาของเรา คุณกับผมต้องช่วยกันแก้.....ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ใช่ปัญหาระหว่างคุณกับแฟนของคุณอีกต่อไปแล้ว แต่มันมีปัญหาเรื่องของผมขึ้นมาด้วย....ความจริง ยังไงก็คือความจริง...... คุณทำอะไรลงไปง่าย ๆ เพราะอยากประชดแฟนคุณ....แต่ผมไม่ตลกกับสิ่งที่คุณทำด้วยหรอกนะคุณจุมพล....... เรื่องนี้ คุณต้องเป็นคนรับผิดชอบ.... และถ้าคุณไม่รับผิดชอบเรื่องที่คุณทำกับผมเอาไว้ ผมจะเอาคืนทั้งคุณ...และผู้หญิงที่คิดจะฆ่าคุณ”


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2014 06:32:39 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มันคู่มึนจริงๆ นะ  :ruready

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เกรียนมาก...คุณไอศูรย์ อิอิ

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ยกนี้คุณไอศูรย์ ชนะสินะ  :laugh:

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
คนอ่านก็มึนกับความมึนของทั้งสองคน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ไม่รู้ว่าใครเกรียนกว่ากัน 5555

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน หนีเสือปะพญาจระเข้

“กินข้าวเที่ยงหรือยัง”

จุมพลกำลังนั่งอ่านเอกสารการเสนอซื้อสินค้าสำหรับนำเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิต และเมื่อมองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว แต่ขอต่ออีกซักหน่อย ลงไปตอนนี้ยังไงก็มีคนกินข้าวกันเต็มโรงอาหาร ก็เลยคิดว่าปล่อยให้คนซา ๆ กว่านี้ก่อนค่อยลงไปก็ทัน

แต่ถึงแม้จะทันกิน แต่คงไม่ทันใจคนที่โทรมาซักเท่าไหร่

“กำลังอ่านเอกสารอยู่ครับ”

ถามอีกอย่างไปตอบอีกอย่าง และคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสาย แล้วมาถอนหายใจใส่กูทำไมวะ

“เป็นอะไรครับ ระบบหายใจกำลังจะล้มเหลวเหรอ”

กวนนะคุณจุมพล ระบบหายใจยังดีอยู่ แต่ระบบควบคุมความหงุดหงิดโมโหกำลังจะระเบิดแล้ว

“ผมถามเหรอ.....ว่าคุณทำอะไรอยู่”

ไม่ได้ถาม แต่ผมอยากตอบครับ มีอะไรมั้ย

“เปล่าครับไม่ได้ถาม เออใช่คุณไอศูรย์ ผมมีเรื่องสงสัยครับ  ทำไมคุณไอศูรย์ไม่ถามให้ตรงคำตอบผมล่ะครับ”

นี่คือตั้งใจจะกวนประสาทกันสินะคุณจุมพล

“ก็แล้วทำไมคุณจุมพลไม่ตอบให้ตรงคำถามผมบ้างล่ะครับ”

“ก็คุณไอศูรย์ไม่ถามให้ตรงคำตอบผมเองนะครับ แล้วผมจะไปเตรียมคำตอบทันได้ยังไง ถามอะไรก็เตี๊ยมกันไว้ก่อนสิ มาถามปุบปับ คนสมองเฉื่อยชาอย่างผมจะไปคิดคำตอบทันได้ยังไง”

คิดคำตอบไม่ทัน แต่คิดคำพูดสำหรับกวนประสาททันสินะ

“ตกลงกินข้าวเที่ยงหรือยังครับคุณจุมพล”

ข้าวเที่ยงเหรอ.....

“ยังครับ”

คราวนี้ยอมตอบให้ตรงคำถาม และมือยังคงเปิดเอกสารไปเรื่อย ๆ

“รอให้คนซา ๆ ก่อน ช่วงนี้คนแน่น ไม่อยากไปแออัดยัดเยียดกับใคร ไม่ชอบคนเยอะ ๆ เวียนหัว”

ก็แค่การพูดจาเรื่อยเปื่อย ไร้หัวข้อจะพูดคุย เหมือนคุยไปเรื่อย ๆ พูดไปเรื่อย ๆ แต่แปลกที่ต่างคนต่างก็คิดแบบเดียวกันว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรที่จะคุยกันแบบนี้

“แล้วจะไปกินกี่โมง”

ไม่ทราบครับ ไอ้เจี๊ยบมาตามเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับ

“อีกซักพักครับ”

อืม อีกซักพักก็อีกซักพัก

“กินยาหลังอาหารด้วย แผลโดนน้ำมันจะอักเสบก่อนไปตัดไหม”

แผลเหรอ

“แผลโดนน้ำเฉย ๆ ครับไม่ได้โดนน้ำมัน”

แกล้งกวนประสาทไปเล็กน้อย และก็หัวเราะเสียงเบาที่ได้แกล้งคนที่อยู่ปลายสายได้

“แล้วอยากโดนน้ำ.....แล้วมันส์มั้ย เดี๋ยวทำให้ได้นะ เอามั้ย”

โห่ รุนแรงว่ะ รุนแรง คุณไอศูรย์แม่งวิชาแก่กล้าน่าดู ร้ายกาจไม่เบา

“.......มันอะไรเหรอครับ”

แถไปเรื่อย และคนที่อยู่ปลายสายก็หัวเราะออกมา

“ก็รู้นะว่ามันส์อะไร มันส์แบบไหน ก็ยังจะถามอีกนะ”

ถามอะไรวะ

“แล้วคุณคิดว่ามันแบบไหนคุณไอศูรย์ ผมก็คิดว่ามันทอด ไม่ได้มันส์แบบคนมีอะไรกันเขามันส์กันหรอก”

เหรอ

“ผมก็คิดว่ามันทอดไง นี่คุณคิดไปไกลเลยนะ คุณเป็นพวกชอบคุยเรื่องอย่างว่าในเวลางานเหรอคุณจุมพล แบบนี้ผมว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ระวังมันจะมีผลกับงานของคุณ”

สนุกมั้ยนั่น ปั่นหัวผมได้สนุกมากมั้ย

“.................”

ไม่ตอบ แต่ใช้วิธีเงียบ และคนที่โทรมาเพียงแค่อยากจะถามว่ากินข้าวกินยาหรือยัง ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะถามไปเรื่อยจนไปโผล่เรื่องสองแง่สองง่ามได้ยังไง

“วันนี้ผมไปรับคุณตอนห้าโมงครึ่งนะ”

เปลี่ยนเรื่องคุย และจุมพลก็ขมวดคิ้วมุ่น

“มันไม่ค่อยดีมั้งคุณไอศูรย์ ผมก็ต้องรอคุณ คุณก็ต้องรอผม รอกันไปรอกันมา ไม่เป็นอันทำงานกันพอดี พรุ่งนี้ผมขับรถของตัวเองมาดีกว่า วันนี้ผมกลับไปเอารถที่บ้านซะก็จบ”

มันไม่จบหรอก

“รถคุณโดนทุบเละทั้งคัน คงขับไปไหนไม่ได้ คุณจะเอารถโดนทุบมาขับงั้นเหรอ ผมว่ามันไม่ค่อยดีมั้ง”

รถ.........โดนทุบ....เละ...ทั้งคัน

“........รถผมเหรอ….”

ใช่

“รถที่จอดอยู่ที่บ้านคุณ มันคือรถของคุณหรือเปล่าล่ะ ถ้าใช่........ก็อย่างที่ผมบอก”

...............

แล้วจุมพลก็นิ่งงัน กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือกำแน่น และนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ

“ผมยังผ่อนไม่หมดเลย”

บ่นพึมพำออกมาเสียงเบา และแม้จะเป็นการพูดให้เหมือนเรื่องตลก แต่สำหรับคนฟัง มันไม่ตลกเลยซักนิด

“...อีกไม่นานก็คงถึงที่ทำงานแล้วล่ะ...ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนดีนะ เรียงลำดับได้ดีทีเดียวล่ะ ว่าจะเริ่มทำอะไรก่อน อะไรหลัง ไม่เหมือนคุณนะ เรียบเรียงวิธีการทำอะไรก็ดูจะตีกันมั่วไปหมด อันนี้ผมขอชื่นชมคุณจริง ๆ”

คล้ายเป็นการพูดจาหยอกล้อกัน แต่น้ำเสียงคนพูดแสดงให้จุมพลรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
จุมพลไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ถอนหายใจและกำมือแน่น พร้อม ๆ กับที่ริมฝีปากก็กำลังขบแน่นเข้าหากัน

“มันไม่จบแค่นี้หรอกนะ.....คุณก็รู้...บางทีเรื่องนี้คงถึงจุดสิ้นสุดแล้วล่ะ คุณคงต้องทำให้มันจบได้แล้ว แต่มันคงยากหน่อยนะ ที่จะจบแบบสวย ๆ”

ใช่ มันคงยาก ยากซะยิ่งกว่ายาก

“เดี๋ยวก็กินข้าวแล้วก็กินยาหลังอาหารซะนะ”

“ครับ”

ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว และคนที่อยู่ปลายสายก็คล้ายจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของจุมพลเป็นอย่างดี

“ตอนเย็นรอผมนะ เดี๋ยวผมไปรับ กินข้าวเยอะ ๆ ตอนเย็นจะได้ไม่ต้องหิวมาก เผื่อผมไปช้า เผื่อรถติด เข้าใจนะ”

เข้าใจครับ

“ผม...ก็คงต้องรอคุณ...ตามที่คุณบอก…”

ใช่  ต้องรอ  คุณทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วคุณจุมพล นอกจากต้องรอผมเท่านั้น

“จุ้ม”


“ครับ...”

ขานรับแบบเนือย ๆ และน้ำเสียงเหมือนคนคล้ายกำลังจะหมดแรง
และคุณไอศูรย์ที่อยู่ปลายสายก็พอเข้าใจได้ดี ว่าจุมพลใกล้จะทนไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว

“.....ผมอยู่ข้างคุณนะ...”

อยู่ข้างผมเหรอ อยู่ข้างผมทำไม คนอย่างผมมันไม่สมควรที่ใครจะต้องมาอยู่ข้างหรอก

“ผม...ไม่สมควรได้รับความเห็นใจจากใครหรอก คุณก็น่าจะรู้ .....หญิงไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุหรอก ผมสมควรโดนแบบนี้จริง ๆ”

แล้วยังไง.......

“ถ้าผมจะเห็นใจ หรือจะทำอะไรก็ตาม มันก็เรื่องของผม  ไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ห้ามผมได้ เพราะผมไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น......"

ผมขอโทษที่ไปคิดแทนคุณ  แต่ก็อย่างที่บอก คนอย่างผมไม่ควรได้รับความเห็นใจจากใครหรอก ผมรู้ตัวดี

"คุณจุมพล  ถ้ามันมากเรื่องนัก ผมจะเคลียร์เอง…จะได้จบ ถึงจะจบแบบไม่สวยเท่าไหร่ก็เถอะ แต่อย่ามาทำให้คนของผมเจ็บ
ซ้ำซากมันน่ารำคาญ...อย่ามาคิดว่าตัวเองเจ็บช้ำสิ้นหวัง แล้วคิดอยากจะตามล้างตามล่าใครก็ได้ตามใจชอบ  ถ้าอยากใช้ศาลเตี้ยนัก ผมจะใช้ศาลเตี้ยยิ่งกว่าให้ดู”

คุณไอศูรย์.....

“คุณอย่าทำอะไรหญิงเลย หญิงเจ็บมาเยอะแล้ว ขอร้องล่ะ”

ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะทำ....

“ผมให้คุณเคลียร์ปัญหาของตัวเอง  คุณก็จงเคลียร์ปัญหาให้ได้ อย่าให้มันน่ารำคาญขวางหูขวางตาจนผมต้องเข้าไปยุ่ง....ไม่อย่างนั้นผมจะล้มกระดานซะ  หมากเกมส์นี้ผมมีแต่ได้กับได้”

ได้อะไร

“คุณจะทำให้ได้อะไรขึ้นมา มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับหญิง ขอร้องล่ะ อย่าทำให้ผมต้องหนักใจเลย”

นั่นไม่ใช่สาระสำคัญนะ

“คุณก็ไปห้ามผู้หญิงคนนั้นสิ ว่าให้เลิกเอาคืนด้วยการสร้างความเจ็บปวดให้คุณไม่รู้จักจบจักสิ้นซะที ถ้าคุณห้ามได้ ผมก็จบ ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”

ไม่มีปัญหาได้ยังไง

“คุณก็รู้ผมทำไม่ได้ ถ้าผมทำได้ผมก็ทำไปนานแล้ว”

ก็นั่นไง ถ้ารู้ตัวว่าจัดการปัญหาไม่ได้ ก็อย่าโง่ไปตายเปล่า มันไร้ประโยชน์ ยิ่งเห็นยิ่งน่ารำคาญ

“คุณจะทำอะไรก็ทำไป ผมไม่ห้าม แต่ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม.........ผมมีสิทธิ์ปกป้องคนของผม และคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามผมด้วย”

ปกป้องเหรอ

ปกป้อง.........คนของคุณ....เหรอ...

“ผมไม่ใช่คนของคุณ”

แล้วไง

“นั่นมันสิ่งที่คุณคิด แต่ผมไม่ได้คิดเหมือนคุณ เพราะฉะนั้นอย่าเอาความคิดของคุณมาคิดแทนผม ผมไม่ได้ขอร้อง”

จุมพลได้แต่เงียบ คุณไอศูรย์ไม่ธรรมดา ถึงจะล้อเล่นกันได้ พูดคุยกันได้ และบางทีก็ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ใส่ได้

แต่จุมพลก็รู้.....

เด็กของคุณไอศูรย์ไปกระทืบโยธินเซลหมายเลขหนึ่งของแผนกขายแทบตาย แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไป
นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา แล้วการที่หิ้วกระเช้ามาหานาย มาขอโทษกับเหตุการณ์ที่คุณไอศูรย์บอกว่า .....เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน..... ที่จริงเบื้องลึกเบื้องหลังก็ไม่มีใครรู้มากไปกว่าคุณไอศูรย์ว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนการจัดฉากให้เป็นไปในแง่ของธุรกิจ

เรื่องแบบนี้ บางครั้งมันก็ซับซ้อนเกินไป และจุมพลก็ยอมรับ แม้ตัวเองจะเอาตัวรอดได้และพาแผนกจัดซื้อรอดพ้นเรื่องชวนปวดหัวมาได้นานสองนาน  แต่ถ้าจะเทียบกับคนที่ขยายเส้นทางการเดินรถในประเทศโดยมีคู่แข่งจำนวนมากมาขวาง แต่ก็ยังไม่สะทกสะท้านและดำเนินธุรกิจมาได้ทั้งที่มีคู่แข่งรอบด้าน คน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ธรรมดา

“พี่ไอซ์.....อย่าทำอะไรหญิงเลย ผมขอร้อง”

ตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดท้ายที่ได้ผลมาตลอด ตีสนิทกับลูกค้าด้วยการนับญาติให้ความสนิทสนมกันซะ อย่างน้อยก็ช่วยลดช่องว่างระหว่างคนสองคนได้ และจุมพลก็หวังว่า....การพูดจากันแบบนี้ จะช่วยลดช่องว่างของเราสองคนได้

เผื่อคุณไอศูรย์จะเห็นใจ  เผื่อคุณไอศูรย์จะยอมอ่อนข้อให้

เผื่อ.........อะไรก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่การที่คุณไอศูรย์จะไปเอาคืนหญิง และจุมพลแน่ใจ ต่อให้หญิงพาใครต่อใครมากันหมดทั้งตระกูล ก็คงไม่สามารถทำอะไรคุณไอศูรย์ได้

“คุณก็ต้องเชื่อที่ผมพูด อย่ามาขัดใจผมกับแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ อย่างไปรับไปส่ง.........เพราะมันไม่ใช่สาระสำคัญ”

เออ แม่ง ไม่ใช่สาระสำคัญ

“แล้วสาระสำคัญคืออะไรครับคุณไอศูรย์”

กลับมาเรียกเหมือนเดิม และคนที่ถูกดึงให้กลับมาสู่สภาพเดิม ก็นึกอยากจะเขย่าหัวจุมพลแรง ๆ ให้หายหงุดหงิด โทษฐานที่เบี่ยงเบนประเด็นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เรากำลังคุยกันด้วยเรื่องเครียด ๆ อยู่แท้ ๆ

“ถ้า....สาระสำ....คัน....ก็ต้องเกาจะได้หายคัน”

เหรอครับคุณไอศูรย์

“ถ้าไม่คันก็ไม่ต้องเกาใช่มั้ยครับ”

“ใช่ครับ”

“งั้นผมไม่เกาล่ะครับ เพราะไม่คัน แต่ผมหิวข้าว ผมไปกินข้าวก่อนแล้วกันนะครับ....สวัสดีครับคุณไอศูรย์”

กำลังจะกดวางสาย แต่ปลายสายก็รีบชิงพูดบางอย่างก่อนที่จุมพลจะวาง

“กินยาด้วย”

ครับ กินยาครับ ผมจะกินยาหลังอาหารให้ครบทุกมื้อครับ โอเคนะครับ

“แล้วตอนเย็นรีบมารับผมเร็ว ๆ นะครับ”

ไม่คิดว่าคำพูดของตัวเองจะเป็นการอ้อน ไม่คิดอะไรเลย แต่คนที่ฟัง.......ถึงกับนิ่งงัน

แปลกใจตัวเองที่คล้ายจะรู้สึกชอบวิธีการพูดแบบนั้นของจุมพล  ทั้งที่จุมพลเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวเองว่าการพูดแบบนั้น มันไม่ต่างอะไรกับการอ้อน  และคนที่คล้ายกำลังถูกอ้อน ก็รู้สึกถึงลมหายใจของตัวเองที่เหมือนสะดุดลงเล็กน้อย

“......คุณจุมพลก็......รอนะครับ...”

ครับ รอก็รอครับ

“ผมไปกินข้าวแล้วนะ สวัสดีจริงๆ แล้วนะครับ”

“ครับ”

วางสายไปเรียบร้อย และจุมพลก็หย่อนโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบเอกสารขึ้นมาพลิกอ่านทีละหน้า

แล้วอยู่ดี ๆ หน้าก็เผลอยิ้มออกมา  ยิ้ม.........อะไรวะ ยิ้มทำไม ไม่ใช่เรื่องที่จะยิ้มนี่หว่า

จุมพลไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ถึงยิ้มออกมาได้ ยิ้มทั้งที่ไม่มีเหตุผล ยิ้มทั้งที่หาสาเหตุไม่ได้

“คุณใจดีกับผมไปหรือเปล่าคุณไอศูรย์  แล้วนี่กูเป็นอะไรวะ ยิ้มอยู่ได้ แม่ง สงสัยนอนมากไปหรือเปล่าวะ เพี้ยนเลยกู”


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2014 20:48:49 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ ap08572290

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านแล้วงงๆ ค่ะ แต่ก็สนุกดี *0*  o13

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ตูว่าแล้วววววว คุณไอศูรย์มันมีของ นี่แค่เริ่มปล่อยของเองนะ 555
รอตอนต่อปายยยยยย ^^

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
อ่านไปก็งงไป
อ่านไปก็มึนไป
ตกลงมันคุยกันยังไง
มึนๆงงๆ เอ๋อๆเริ่มตามไม่ทัน
//เกาหัว  o2 :try2:
แต่ก็นี่ละ รู้เรื่องเกินไป กับไม่รู้เรื่องเลย เข้ากันได้ที่สุดละ ตรงกลางๆปกติๆคงคู่กันไม่ได้555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด