@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 754094 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แหมๆๆๆ คุณจุมพลไม่เข้าใจจริงหรอ
มามะ เด๋วเค้าบอกเอง ว่าตะเองสองคนเป็นไรกัน  ฮี่ๆๆๆ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ puna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จะน่ารักเกินไปแล้วนะ จุ้ม ^^ :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน สับสน


เรื่องบางอย่างเริ่มจะเลยเถิดไปไกล จุมพลไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมตัวเองถึงได้คล้อยตามคนที่กำลังซุกไซร้ใบหน้าที่ซอกคอได้อย่างง่ายดาย รู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายรุกรานเอาแต่ใจได้ตลอด จนกระทั่งเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูเอ่ยบอกบางอย่าง

จุมพลถึงได้รู้สึกตัว

“ขอนะ”

เบิ่งตากว้างและผลักอกของคนที่คร่อมทับอยู่เหนือร่างออกห่างและไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าใกล้อีก

“ไม่”

ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด และก็ผละออกห่าง ย้ายตัวเองมานั่งที่อีกมุมหนึ่งของโซฟา คุณไอศูรย์ได้แต่อ้าปากค้างและนิ่งมองทุกกิริยาของจุมพล ที่ปฏิเสธคำขออย่างไร้เยื่อใย แล้วบรรยากาศแสนอึมครึมของเราสองก็เกิดขึ้น

คนหนึ่งยกมือขึ้นลูบผมตัวเองและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ส่วนอีกคนกำลังจัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย และใบหน้าก็หงิกงอ แสดงให้รู้กันไปชัด ๆ ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โกรธเพราะอะไรคุณไอศูรย์ก็พอจะเข้าใจนิด ๆ แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เลยได้แต่ต่างคนต่างเงียบ

เรากำลังไม่เข้าใจกันอย่างรุนแรง

เพราะเราไม่มีความชัดเจนต่อกัน สถานะความสัมพันธ์ของเราที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่เรากลับข้ามขั้นกันไปไกล    เลยเถิดไปแม้กระทั่งเรื่องอย่างว่า ก็ทำด้วยกัน แบบนี้มันผิดปกติเกินไป เพราะมันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่รูมเมทหรือเพื่อนกันจะมาทำด้วยกันได้

นิ่งเงียบกันมาพักใหญ่ ไม่มีใครพูด

คุณไอศูรย์ได้แต่เอนหลังพิงพนักโซฟา และจุมพลก็นั่งกอดเข่าของตัวเองเอาไว้

เวลาแต่ละนาทีผ่านไปอย่างแสนเชื่องช้า พร้อมกับความเงียบงันอึดอัดที่ยังปกคลุมอยู่ระหว่างเราสองคน

ไม่มีใครพูดก่อน ต่างฝ่ายต่างเงียบ จุมพลไม่พอใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“ผมไม่เล่นแบบนี้กับคุณแล้วนะ”

เล่น.......... เล่นแบบนี้เหรอ ที่เราทำด้วยกันไม่ใช่การเล่นนะจุ้ม มันเกินการเล่นไปไกลแล้ว

“เผื่อคุณจะไม่รู้นะคุณจุมพล ผมไม่เคยเล่นแบบนี้กับใคร”

ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นิ่งสนิทแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกทุกคำพูด และจุมพลก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดบางอย่างให้ได้คิด

ไม่เล่น........ ไม่เล่นงั้นเหรอ แล้วถ้าไม่เรียกว่าเล่น คุณจะเรียกมันว่าจริงจังหรือไง

“แฟนผม.....คงไม่รู้สึกดีที่ผมมาทำอะไรแบบนี้”

อย่าเอาแฟนมาอ้างจุ้ม

“คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไปตั้งนานแล้ว   ตั้งแต่วันที่เขาคิดจะฆ่าคุณ”

เลิก.......... เลิกงั้นเหรอ.... เลิกนานแล้ว

“คุณก็รู้ว่าผมเลิกกับหญิงไม่ได้”

รู้ได้ยังไงว่าไม่ได้

“ผมไม่สนใจเรื่องนั้นของคุณนะ คุณจุมพล”

ไม่สนใจ ไม่สนใจงั้นเหรอ ไม่สนใจก็เลยมาทำแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ กูไม่ใช่ของเล่นของใครนะโว้ยยยยยย เข้าใจผิดไปแล้ว ที่ทำอะไรเลยเถิดแบบนั้นสองครั้งที่ผ่านมามันมีเหตุผล แต่ครั้งนี้จะให้ใช้เหตุผลว่าอะไร กูไม่เล่นแล้วนะครับ บอกได้เลย จะให้เล่นด้วยเหมือนครั้งก่อน ๆ

ไม่เอาอีกแล้ว ยิ่งพูดแบบนี้ด้วย ยิ่งชัดเจนว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

คนสองคนกำลังแสดงความรู้สึกที่อยู่ภายในลึก ๆ ออกมา คุณไอศูรย์นั่งเงียบ และจุมพลเองก็เงียบไม่ต่างกัน

สิ่งที่เห็นมันคล้ายอาการสะท้อนใจลึก ๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าจุมพลเองก็มีความเครียดความกังวลใจ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแสดงมันออกมาให้เห็นเท่านั้น ความไม่แน่ใจ ความรู้สึกที่แยกแยะไม่ออกระหว่างถูกกับผิด ควรหรือไม่ควร

อารมณ์ความรู้สึกแบบนั้นทำไมคุณไอศูรย์จะไม่เข้าใจ เพราะตัวเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์นั้นเช่นกัน
ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เป็นแค่เพียงความรู้สึกแปลก ๆ และความสนใจลึก ๆ

ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร  แต่พอนานวันเข้ากลับรู้สึกว่าจุมพลเป็นของตัวเอง  และไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามด้วย
เมื่อไม่ชอบให้ใครมายุ่ง ก็เลยต้องปกป้องคุ้มครองเอาไว้ไม่ให้ได้รับอันตราย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น อยู่ดี ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็เลยเถิดไปไกล กลายเป็นการให้ความสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว

ใช่ที่ระยะเวลาเพียงแค่นี้ มันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอะไรได้มากนัก แต่อารมณ์พิศวาสอยากครอบครองร่างกายและปรารถนาอยากได้รับการเอาใจจากคนที่อยู่ตรงหน้า มันก็อธิบายอะไรได้หลาย ๆ อย่าง

ถึงจะคิดอะไรไปอีกร้อยแปด แต่ผลสรุปที่ได้ในเวลานี้

ความรู้สึกในใจลึก ๆ มันก็คือคำว่า “ชอบ” ไปแล้วโดยไม่ต้องสงสัย

ไม่ต้องสงสัยเลย..........คุณไอศูรย์คิดว่าตัวเองคงรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับจุมพลเข้าให้แล้ว

“จุ้ม”

เรียกคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย และจุมพลก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามอง สายตาที่มองมามีแต่ความปวดร้าว อ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก ที่ผ่านมาจุมพลไม่เคยมองแบบนี้ ไม่เคยแสดงกิริยาอาการแบบนี้ให้เห็น แต่ตอนนี้กลับทำมันออกมาให้เห็นอย่างเปิดเผย

คุณไอศูรย์ขยับเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ และนิ่งมองใบหน้าที่แสดงความรู้สึกไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

จุมพลยังคงขมวดคิ้วมุ่น และรู้ตัวเองดีว่าสภาพจิตใจไม่ปกติเท่าไหร่นัก กำลังจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งข้อมือเอาไว้ไม่ให้ไป

“นั่งคุยกันก่อนได้มั้ย”

เข้าใจความหมายของสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นอย่างดี และจุมพลก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย ถอนหายใจออกมายาว ๆ เพราะไม่รู้จะทำยังไงแต่ก็ยอมนั่งลงมาแต่โดยดี

“อยากได้ก็จะเอาให้ได้  อยากจะทำอะไรด้วยก็ได้  ผมรู้สึกว่าตัวเองแม่ง....เหมือนเป็นของเล่นของคุณเลยว่ะ”

ไม่ทำอะไรให้ชัดเจนมันก็ต้องเป็นแบบนี้  บางทีคนที่กำลังกลัวและกังวลใจก็ไม่ผิดอะไรเลย

รู้มั้ย....พออยู่กับจุ้มแล้ว มันเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกดี รู้สึกผ่อนคลาย แค่เพียงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันไม่นาน กลับทำให้รู้สึกสบายใจได้อย่างน่าประหลาด

ไม่เคยมีใครที่ทำให้รู้สึกดีได้เท่านี้ และจุมพลเป็นคนแรกที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ได้

“งั้นก็รู้ไว้ซะ...... ว่าไม่ใช่”

ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ คนที่เริ่มผ่อนคลายและเหมือนพร้อมจะคุยด้วยมากขึ้น
ขยับเข้ามาหา ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และคุณไอศูรย์ก็ใช้มือประคองที่ข้างแก้มของจุมพลเบา ๆ

ปลายนิ้วเกลี่ยเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่มองตรงมา และยังมีความกังวลใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น

“........................”

จุมพลนิ่งมองใบหน้าของคุณไอศูรย์นิ่งๆ และแววตาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่แน่ใจกับอะไรเลยสักอย่าง ทั้งปัญหาของตัวเองที่ยังแก้ไม่ตก ทั้งความเครียดในใจลึก ๆ ที่สะสมมานาน แต่เมื่อใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้และจูบเบา ๆ ที่หน้าผากจุมพลก็ได้แต่หลับตาลงอย่างช้า ๆ สัมผัสแผ่วเบายังปรากฏชัดในความรู้สึกและเมื่อปรือตาตื่นขึ้นมาดวงตาสองคู่ก็ได้สบกันนิ่ง

มองกันนิ่ง ๆ โดยไร้คำพูด

“อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมไม่ใช่ของเล่น”

พูดออกไปตรง ๆ และสีหน้าแววตาก็จริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

“ผมไม่เคยเล่นกับคุณ”

การตอบกลับมาแบบจริงจัง มันทำให้จุมพลได้แต่กระพริบตามอง มีความกังวลใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น ความกังวลใจความไม่แน่ใจ และอะไรหลาย ๆ อย่างก็กำลังตีกันวุ่น

แต่เมื่อริมฝีปากของเราสัมผัสกันเบา ๆ อีกครั้ง อารมณ์ที่มอดดับเพราะความไม่เข้าใจกันเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนก็กลับมาต่อกันติดอีกครั้ง เมื่อได้รับจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึก จุมพลก็ตอบรับ เมื่อได้รับสัมผัสร้อนแรงจากฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ลูบไล้เข้าไปภายในร่างกาย จุมพลก็ทำอย่างที่อีกฝ่ายทำ

คุณไอศูรย์ผละร่างกายออกห่างเล็กน้อย และถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ก่อนจะรั้งร่างของจุมพลเข้าไปหาและร่างกายของคนสองคนที่กำลังอยู่ภายในห้วงอารมณ์เสน่ห์หาก็กลับมาเติมเต็มความรู้สึกให้กันและกัน

“อือออ”

เสียงครางเบา ๆ ในลำคอของคนที่อยู่ใต้ร่างแสดงออกให้รู้ว่ากำลังเพลิดเพลินและรู้สึกดีกับสัมผัสที่กำลังได้รับอยู่ไม่น้อย

เสื้อยืดที่สวมอยู่ถูกรั้งขึ้น เผยให้เห็นผิวขาว ๆ ที่เริ่มแดงช้ำเพราะถูกขบเม้มฝากร่องรอยเอาไว้ตามเนื้อตัว ยอดอกสีแดงเข้มกำลังถูกดูดกลืน และฝ่ามือร้อนรุ่มก็ค่อย ๆ ลากไล้ลงไปที่ส่วนล่างของร่างกาย ก่อนจะสอดฝ่ามือเข้าไปในกางเกง ลูบไล้ที่ผิวเนื้อด้านในข้างหว่างขาอย่างแผ่วเบา สัมผัสความแข็งขืนของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายในอุ้งมือและกำลังตื่นตัวขึ้น กางเกงขาสั้นที่จุมพลใส่อยู่ถูกรั้งลงจนสุดปลายเท้า และความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในกางเกงก็ปรากฏออกมาให้เห็นชัด

อารมณ์ความรู้สึกไปไกลสุดกู่ยากจะดับได้ง่าย ๆ ถ้าร่างกายไม่ได้รับการปลดปล่อย

หยดน้ำใสหลั่งรินออกมาที่ส่วนปลายที่ตื่นตัวจนถึงที่สุดในเวลาไม่นาน

จุมพลยกหลังมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงครางของตัวเองเล็ดรอดออกมา และมืออีกข้างก็จับที่ไหล่ของคุณไอศูรย์เอาไว้แน่น

“อึก อือ”

สะโพกมนแอ่นขึ้น เมื่อฝ่ามือร้อนรุ่มค่อย ๆ รูดรั้งความต้องการของร่างกายให้ ร่างกายเคลื่อนไหวไปมาอย่างเชื่องช้า พร้อมกับที่ริมฝีปากร้อนคู่นั้นยังคงขบเม้มและดูดกลืนที่ยอดอกสองข้างของจุมพลอย่างใจเย็น

“พอ.........แล้ว”

เหมือนกำลังจะทนไม่ไหว และจุมพลก็พยายามสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผลักไหล่ของคนที่อยู่เหนือร่างให้ออกห่าง และคุณไอศูรย์ก็ยอมหยุดและค่อย ๆ หยัดกายขึ้นอย่างช้า ๆ

ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นทุกส่วนสัดของร่างกายภายใต้แสงไฟ

สิ่งที่จุมพลทำ ไม่ต่างจากที่อีกฝ่ายทำ แตะปลายนิ้วเบาๆ ที่ยอดอกสีเข้ม คลึงเค้นเบา ๆ และแนบริมฝีปากไปที่ยอดอกแข็ง ดูดกลืนเข้าไป และคนที่ได้รับการทำบางอย่างให้ก็แหงนเงยใบหน้าขึ้น ก่อนจะก้มกลับลงมา และลูบฝ่ามือเบา ๆ ที่เส้นผมของจุมพล รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า และดวงตาสองคู่ก็ได้สบกันอีกครั้ง

จุมพลลากไล้ปลายลิ้นจากยอดอกแข็งลงมาที่หน้าท้องแกร่ง จูบซ้ำเบา ๆ ก่อนจะดึงกางเกงวอร์มสำหรับใส่นอนของคนที่ยืนอยู่ลง จนเผยให้เห็นท่อนเอ็นแกร่งที่อยู่ในนั้น

ความชุ่มฉ่ำที่ส่วนปลายและอาการตื่นตัวจนถึงขีดสุด ทำให้จุมพลรู้ ว่าอีกฝ่ายก็มีอารมณ์ไม่ต่างกัน

ฝ่ามือเกาะกุมที่ความใหญ่โตเอาไว้

และค่อย ๆ รูดรั้งให้เบา ๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากับอีกฝ่ายที่มองอยู่ก่อนแล้ว และสายตาของคุณไอศูรย์ที่มองตรงมาก็เดาความรู้สึกกันได้ไม่ยาก

รู้.......ว่าคุณไอศูรย์ต้องการอะไร แต่.........ไม่รู้วิธีทำให้อีกฝ่ายพอใจ

สบตากันอยู่หลายครั้ง มันไม่ใช่แค่การปลุกเร้าอารมณ์กันแล้วให้จบไป แต่อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าเราสามารถปล่อยให้ความรู้สึกทำหน้าที่ของมันเองได้ ชั่งใจอยู่ซักพัก แล้วจุมพลก็ทำสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ

แตะปลายลิ้นเบา ๆ ที่ส่วนปลายของความแข็งแกร่งนั้น และผละใบหน้าออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่มองตรงมาแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น ไม่มีคำพูด ไม่มีการเรียกร้อง แต่จุมพลคิดว่าคงต้องทำ ทำ.......แบบที่คิดว่าพอทำได้

ปลายลิ้นแตะเบา ๆ ที่ส่วนปลายของความแข็งแกร่งในมืออีกครั้ง ไล้เลียไปตามความยาว และก็ผละใบหน้าออกห่าง
กลายเป็นคนไร้ประสบการณ์ไปอย่างไม่น่าเชื่อ และนั่นก็เรียกร้อยยิ้มให้กับคนที่ได้รับการปรนนิบัติขั้นพิเศษได้ไม่น้อย

จุมพลลองทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ แค่อยากทำให้อีกฝ่ายพอใจ

ผละใบหน้าออกห่างจากส่วนนั้น และยังคงกำท่อนเอ็นแกร่งเอาไว้ในมือ เงยหน้าขึ้นมองคนที่มองลงมา ดวงตาคมเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนารุนแรง ริมฝีปากที่แห้งผาก ขบเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าของคุณไอศูรย์แสดงความความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจนว่ากำลังต้องการ

“พอแล้ว ไม่เป็นไร”

แล้วคุณไอศูรย์ก็ขยับลงมานั่งอยู่ข้าง ๆ จุมพล ส่งยิ้มจาง ๆ ให้คนที่กำลังกังวลไม่น้อยกับสิ่งที่ทำ รั้งร่างของคนคนที่อยู่ตรงหน้ามากอดเอาไว้ และเรียวแขนของคนสองคนก็โอบรัดเข้าหากัน

ฝ่ามือกำลังทำหน้าที่แบบเดียวกัน ริมฝีปากพัวพันดูดดุนเข้าหากันไม่ห่าง

อารมณ์ใคร่กำลังประทุขึ้นเรื่อย ๆ อารมณ์ปรารถนาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ และความรู้สึกอุ่นวาบในอกก็ก่อตัวขึ้นพร้อม ๆ กับความสุข ถ้าสิ่งที่ทำอยู่เรียกว่าการแสดงความรู้สึกผ่านทางร่างกาย

ทั้งคุณไอศูรย์และจุมพลก็ค่อนข้างมั่นใจว่านี่คือการแสดงความรู้สึก “ชอบ” ในตัวตนของกัน

“จะไปยัง”

ใบหน้าคมผละออกห่างก่อนจะเอ่ยถาม และจุมพลก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ  ดวงตากลมโตหรี่ปรือปรอยและใบหน้าก็แหงนเงยขึ้น เมื่ออารมณ์ความรู้สึกกำลังเตลิดไปไกล

“พี่....อึก.......อื้อออ”

ริมฝีปากขบเข้าหากันแน่น และเสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอยิ่งทำให้คุณไอศูรย์ต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น

“ปล่อยออกมาเลย ไม่ต้องกลั้น”

พยักหน้ารับ และจุมพลก็รั้งต้นคอของคุณไอศูรย์เข้าไปกอดเอาไว้แน่น เสียงครางแผ่วหวานที่ได้ยินชัด ยิ่งทำให้ต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น

“จุ้ม....ทำให้พี่ด้วย...อืมมม จะไปแล้วเหมือนกัน อึก”

ได้

จุมพลเร่งมือให้เร็วขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายทำ และเสียงครางด้วยแรงอารมณ์ของคนสองคนก็ดังขึ้นพร้อม ๆ กัน

“จุ้ม...อื้อ ไม่ไหวนะ จะไปแล้ว ซี้ดดด”

ได้ยินเสียงกระซิบบอกที่ข้างหู และจุมพลก็ยิ่งเร่งมือให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำแบบที่อีกฝ่ายทำ ทำในแบบเดียวกัน จนที่สุดร่างกายก็ทนไม่ไหว

“พี่.......พี่ไอซ์........อื้อ….”

ขบริมฝีปากแน่น และปลายนิ้วของจุมพลก็จิกลงที่ไหล่ของคนที่มอบความสุขทางกายให้ เสียงร้องครางด้วยแรงอารมณ์จนถึงวินาทีสุดท้าย ยิ่งเร่งให้อีกฝ่ายต้องทำบางอย่างให้เร็วขึ้น

“แตกเลยจุ้ม”

อือ

แตก........

“อ๊า อึก อื้อออออ”

ร่างกายของจุมพลกำลังเกร็งเพราะอารมณ์กำลังจะถึงที่สุด อาการกระตุกวูบหลายครั้ง ทำให้คุณไอศูรย์รู้ว่าอีกฝ่ายถึงจุดหมายแล้วหยาดหยดขุ่นขาวทะลักออกมาจากส่วนปลายของความแข็งขืนในฝ่ามือ

และคุณไอศูรย์ก็รั้งใบหน้าของจุมพลเข้ามาใกล้ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาที่ริมฝีปากบางอย่างรุนแรง
ดูดดุนปลายลิ้นของอีกฝ่ายเอาไว้ และจัดการร่างกายของตัวเองด้วยฝ่ามือของตัวเอง

รูดรั้งส่วนนั้นให้เร็วขึ้น และดูดกลืนปลายลิ้นของจุมพลเอาไว้ จนกระทั่งนาทีสุดท้ายที่ร่างกายถูกกระตุ้นจนเกิดอาการวูบไหวที่หน้าท้องก่อนจะปลดปล่อยและฉีดพ่นน้ำรักที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกายออกมาจนเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งฝ่ามือ

ลมหายใจหอบหนักเพราะกิจกรรมที่เพิ่งทำ

จุมพลยังมีอาการหอบน้อย ๆ และคุณไอศูรย์เองก็ไม่ต่างกัน แต่ยังคงโอบกอดกันอยู่อย่างนั้น และมอบสัมผัสอบอุ่นให้แก่กันและกันอยู่ไม่ห่าง

คุณไอศูรย์คลอเคลียปลายจมูกที่ข้างแก้มของคนที่ยังหลับตาแน่น ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างผละออกห่างจากกันเล็กน้อย

“เปื้อนเสื้อหรือเปล่า”

ได้ยินคำถามและจุมพลก็มองที่เสื้อของตัวเองก่อนจะเบ้หน้าเมื่อพบว่ามีบางส่วนของร่างกายกระเด็นเปรอะเปื้อนที่เสื้อ

“ว่าแล้ว”

ว่าแล้วตอนไหนครับ ผมไม่เห็นคุณว่าแล้วตอนไหนเลยครับคุณไอศูรย์

“เพราะแบบนี้คุณถึงถอดเสื้อเหรอ”

ใช่

เห็นคุณไอศูรย์พยักหน้า จุมพลก็หน้างอทันที

“ก็น่าจะบอกกันบ้าง”

ไม่รู้ว่าทำไมแค่เพียงคำพูดแค่นั้น กลับทำให้ยิ้มออกมาได้ กิริยาเง้างอนเหมือนเด็กๆ แบบนั้น ท่าทางแบบนั้น มันทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับอมยิ้ม

“ก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ ตอนแตกมันก็ต้องพุ่งออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว”

ก็รู้ แต่ไม่ทันคิดนี่ ก็น่าจะเตือนกันบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2014 21:57:49 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ก็แค่คิดว่า ไม่ให้กางเกงเปื้อน ไม่นึกว่าจะกลายเป็นเสื้อเปื้อนแทน”

ครับ

คุณไอศูรย์ยื่นกล่องทิชชู่ส่งให้คนที่กำลังบ่นและกำลังพิจารณาที่เสื้อของตัวเอง จุมพลดึงกระดาษทิชชู่ออกมาและซับไปที่ร่างกายของตัวเองที่วันนี้หลั่งออกมามากกว่าหลายวันก่อน

“เก็บกด”

อะไร ใครเก็บกด

“แล้วคนไม่เก็บกดนี่ไปแอบเอาออกมาก่อนหน้านี้ใช่ป่ะ”

ต่อปากต่อคำกันได้แล้ว และคุณไอศูรย์ก็อมยิ้มน้อย ๆ นี่เหมือนเราดีกันแล้วเลยนะ คิดแล้วก็พาให้ยิ้มได้ง่าย ๆ จัดการร่างกายตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย ดึงกางเกงขึ้นและคุณไอศูรย์ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน

“ยกแขนขึ้น”

บอกให้คนที่นั่งอยู่ทำตามที่บอก และเมื่อจุมพลยกแขนขึ้น เสื้อยืดที่สวมอยู่ก็ถูกคุณไอศูรย์ช่วยถอดออกให้

“ใส่ซะ”

เสื้อกล้ามสีดำ ที่คุณไอศูรย์ใส่นอนถูกถอดออกและสวมให้กับคนจุมพลเรียบร้อย

จุมพลนิ่งมองด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา

จัดการกองกระดาษทิชชู่ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกาย ก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งยืนมองคนที่สวมแค่กางเกงวอร์ม แต่ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่าแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น

“ไม่หนาวเหรอ”

หนาวสิ ทำไมถึงคิดว่าไม่หนาวล่ะ

“หนาว”

แล้วเอาเสื้อของคุณมาให้ผมใส่ทำไมครับ

“แต่รู้วิธีแก้หนาว”

เหรอ ก็คงรู้อยู่หรอก

“อะไรของ.....คุ....อื้ออออออออ”

ไม่ต้องให้พูดกันมากความ จุมพลถูกดึงให้ลงมาล้มทับคนที่นั่งอยู่บนโซฟาและฝ่ายนั้นก็กอดคนที่ล้มลงมาเอาไว้แน่น
ไม่ใช่แค่กอด แต่ยังรวมถึงการที่จุมพลถูกระดมหอมที่แก้มทั้งสองข้างและหน้าผาก

“โอ้ยยยยย ปล่อยก่อน อะไรวะ เฮ้ยยยยย อะไร”

ไม่อะไรหรอก

“ตอนจะเสร็จคุณเรียกผมว่าอะไร”

เรียก.......... เรียกว่าอะไรเหรอ

“ไม่ได้เรียก.......”

ไม่ได้เรียกได้ยังไง

“ผมได้ยินคุณเรียกผมว่า พี่ไอซ์”

อ่อ

“................”

ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับสิ่งที่ตัวเองพูด

“เรียกแบบนั้นสิ เวลาเราคุยกัน”

อารมณ์ไหน

“ไม่ดีมั้ง”

ดีสิ

“จุ้ม”

.........

“ครับ”

สงสัยว่าอีกฝ่ายเรียกทำไม และทั้งสีหน้าและแววตาของคนเรียกจากล้อเล่น อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมา

“ชอบหรือเปล่า”

ชอบ....... หรือเปล่า........หมายถึง……. ไม่เข้าใจคำถาม และจุมพลก็เอียงคอมองคนถามด้วยความสงสัย

ชอบ อะไรวะ ชอบ.......

“หมายถึง..............................”

หมายถึงอะไรวะ

“คุณกำลังชอบผมอยู่หรือเปล่า”

หมายถึงชอบอยู่หรือเปล่า หมายถึงอะไร หมายถึง...... หมายถึงผมเหรอ หมายถึงผม

หมายถึง.............ผม..........งะ.........งั้น......เหร........อ.........อ่ะ

ไม่ได้ตอบ แต่จ้องหน้าของคุณไอศูรย์ตาค้าง

จ้อง และเกิดอาการเหมือนร่างกายถูกแช่แข็ง อาการหายใจไม่ทั่วท้องกำลังเล่นงาน ใบหน้าชาวูบ หัวสมองเหมือนได้ยินเสียงก้องแปลก ๆ อยู่ในนั้น อะ..............ไร.............นะ  ชอบเหรอวะ  ชอบ..........เหรอวะ

ถึงกับพูดอะไรไม่ออก และจุมพลก็เกิดอาการลนลานทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่ได้ยินในทันที

“บ้าน่า ผมนะ ผมเหรอ ผมไม่ได้ ผม.........ผม...ไม่ใช่...ผมไม่ใช่นะผมไม่ได้.......”

ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะตอบยังไง ไม่รู้จะทำอะไร ได้แต่ใช้ฝ่ามือยันแผ่นอกของคนกอดเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกรั้งเข้าไปหามากกว่านี้ และคำถามที่เคยถามตัวเองมาพักใหญ่ ก็เหมือนถูกเฉลยออกมาจากคำถามง่าย ๆ ของคนที่อยู่ตรงหน้า

..............ทำไมถึงยอม.........ทำไมต้องยอมตลอด......ยอมแบบไม่มีเหตุผล .......แม้กระทั่งเรื่องที่ไม่น่าจะยอมก็ยอม........
ทำไมต้องอยู่ด้วย ทำไมถึงรอ ทำไมแม้จะแทบไม่ได้คุยกันมากมาย แต่กลับรู้สึกดีเวลาที่อยู่ด้วยกัน

ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

แต่ตอนนี้คล้ายคำตอบที่หามาตลอด ถูกเฉลยออกมาเรียบร้อย

“ผม..................”

อ่ะ

“กำลังชอบพี่....อยู่ใช่มั้ย”

ทำไมถึงมาเร่งแบบนี้ล่ะ ทำไมต้องมาเร่ง ทำไมถึงมาจ้องหน้าแบบนี้ ทำไมถึงได้ถามด้วยสีหน้าจริงจังแบบนี้

“คุณมาแน่ใจอะไรเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้อยากให้มันชัดเจน เลยอยากถามให้ชัด ๆ ว่าตกลงคุณคิดกับผมยังไง

“ทำไมจุ้มถึงยอมพี่”

ยอม ทำไมยอม ไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ ไม่รู้ทำไมถึงยอม ไม่รู้ว่าทำไมถึงยอม ไม่รู้

“ชอบพี่.........หรือเปล่าจุ้ม”

ชอบ........................

อ่า.....

จุมพลยังคงอ้าปากค้าง และหัวใจก็เต้นถี่รัวขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ามือทั้งสองข้างเริ่มเย็นเฉียบ มองไปที่ใบหน้าของคุณไอศูรย์และกระพริบตาหลายครั้งเพื่อจ้องมองอีกฝ่ายให้ชัด

มองให้ชัด

และเมื่อมองชัดขึ้นตอนที่อีกฝ่ายยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ

ที่ผ่านมา

ที่หาคำตอบมาตลอด และไม่เข้าใจตัวเองมาตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เริ่มจะรู้แล้ว

จุมพลทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาลง และเลือดลมภายในร่างกายก็ถูกสูบฉีดขึ้นมาไว้ที่ใบหน้า ใบหน้ากำลังร้อนจัด
เพราะคำถามง่าย ๆ แต่หาคำตอบไม่ได้มาพักใหญ่

“ไม่ต้องตอบไม่ต้องพูด ถ้าคิดว่าชอบก็แค่พยักหน้า”

ถ้าชอบ.......... แค่พยักหน้า........ แต่จุมพลกลับเงยหน้าขึ้นและส่ายหน้า ทั้งที่หน้าแดงก่ำขนาดนั้น แต่กลับส่ายหน้าไม่ยอมหยุด
แต่แทนที่คนที่เห็นจะรู้สึกแย่หรือโกรธ กลับค่อย ๆ ยิ้มกว้างออกมาเรื่อย ๆ กับปฏิกิริยาแบบนั้นของจุมพล

“แล้วหน้าแดงทำไม”

หน้าแดงทำไม หน้าแดงทำไมเหรอ หน้าแดงทำไม.....ผมไม่รู้ หน้าแดงเหรอวะ หน้าแดงเหรอ หน้าแดง

“ไม่แด้งงงงงงงงง”

รีบตอบออกไปด้วยเสียงสูง และคนที่ได้รับคำตอบก็รั้งร่างของจุมพลมากอดเอาไว้แน่น ๆ อีกครั้ง ทำไมไม่แดงก็เห็นอยู่ว่าแดง

“ไม่แดงก็ไม่แดง”

หมายความว่ายังไงวะ

“แล้วชอบหรือเปล่า”

ไม่
ไม่
ไม่

“อะไรเล่า”

ไม่เอาคำตอบเฉไฉสิ เอาคำตอบจริง ๆจัง ๆ

“ชอบใช่หรือเปล่า”

ชอบอะไร ไม่มี ไม่ได้ชอบ ไม่ได้อะไรเลย ไม่ใช่

“ชอบหรือเปล่าจุ้ม”

“ชอบพี่หรือเปล่า”

“จุ้มชอบพี่ไอซ์หรือเปล่า”

พอถูกถามหนัก ๆ เข้าก็เหมือนจะไปไม่เป็น ยิ่งถูกถามยิ่งตอบไม่ถูก ยิ่งถูกถามมากขึ้น ก็เหมือนจะยิ่งแพ้ทาง

เพราะเมื่อคิดดูดี ๆ แล้วคำตอบมันมีมาตั้งนานแล้วแต่มันเกินที่จะรับได้

“อย่ามาเล่น ๆ กับผม ผมไม่ชอบ”

คำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ เหมือนอยากตัดบท แต่มันกลับทำให้คุณไอศูรย์ต้องขมวดคิ้วมุ่นและคิดตาม

อย่ามาเล่น ๆ ........เพราะจุมพล ไม่เคยคิดจะเล่น

และถ้าคิดให้ดี คำตอบนั้นของจุมพลก็ค่อนข้างชัดเจนพอแล้ว

ถึงจะทำเรื่องอย่างว่ากัน ถึงจะกอดจูบและแสดงความรู้สึกผ่านทางร่างกายแต่มันก็ไม่มีความแน่นอนอะไรให้อีกฝ่ายยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้ ไม่ผิดที่จุมพลจะไม่มั่นใจ และไม่กล้าพูดคำว่าชอบออกมา

ไม่ผิดที่ความไม่แน่ใจอาจจะทำให้จุมพลต้องปฏิเสธ บางทีคงถึงเวลาที่ต้องชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองสักที

คุณไอศูรย์มองหน้าของจุมพลนิ่ง ๆ

.............ผมไม่เคยเล่น ๆ กับคุณ..........แต่แค่คำพูดมันจะไปเชื่อถืออะไรได้ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำให้คุณเห็นถึงความชัดเจนของผมโดยปราศจากข้อสงสัย  ว่าผมคิดจริงจังกับคุณขนาดไหน  จนคุณไม่กล้าปฏิเสธความรู้สึกที่มีต่อผม....

“พรุ่งนี้เราไปหาคน ๆ หนึ่งกัน”


TBC.

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กรี๊ดดดดดดด โอ้ยยยยยย

แกกกก คุณพี่ไอซ์ น้องจุ้มไปเป็นคนของแกตอนหนายยย แม่นางหญิงก็เจอคุณพี่ไอซ์เล่นละ ดีๆ
จุ้มเอ้ย ยอมรับเต๊อะว่าชอบเค้าอ่าเนาะตัวเองเนาะ ตอนหน้าจะพาไปเจอใครน้าาา
 :ling1:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
อะไรยังไง อยากอ่านตอนต่อไปปป

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เริ่มกระจ่างขึ้นแว้วววตอนนี้  :z1:
ดู๊ดูนู๋จุ้มปฎิเสธว่าชอบพี่ไอซ์แต่ดันปล่อยให้เค้าเขมือบจนเกือบหมดตัว?แล้วนะจ๊ะ  :laugh:

เอาเลยพี่ไอซ์พิสูจน์ให้น้องจุ้มเห็นเลยว่าไม่ได้เล่นๆเลยนะ  แต่จะเอาจริง?เอาจัง?เลยต่างหาก เนอะ  :hao7:

เดาว่าตอนหน้าต้องพานู๋จุ้มไปยัยน้องหญิงนั่นเเน่เลยยย  :hao4:

ลุ้นๆจะเกิดอะไรขึ้นหนอ   :mew2:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไปหาครายยยยยย อยากรู้จุงเบยยยย

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

foolishbeat

  • บุคคลทั่วไป
พาไปหาเมียจุ้มสินะ แน่ๆเลย
คู่นี้มึนๆดีจัง น่ารัก

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล (ภาคพิเศษไม่เกี่ยวกับตอนหลัก) ของขวัญวันเด็ก


จุมพลกำลังอมยิ้ม และมองนาฬิกาข้อมือของเด็กที่ทำเป็นหุ่นยนต์กันดั้มและมีตัวเลขแบบดิจิตอลกำลังกระพริบ

นาฬิกาที่ใช้ได้จริงของเด็กถูกวางเอาไว้ที่โต๊ะทำงานของคุณไอศูรย์

นี่เป็นของขวัญวันเด็กที่ผมอยากมอบให้คุณ

เป็นไงล่ะ ซึ้งใจเลยสิ

อมยิ้มอย่างมีความสุข กับการแกล้งอะไรแบบโง่ ๆ ถ้าไม่โดนคุณไอศูรย์พูดอะไรแปลก ๆ ใส่ คงเป็นไปได้ยาก
ผมจะคอยดู ว่าคุณจะทำหน้ายังไงตอนที่เห็นของขวัญที่ผมมอบให้ เดินกลับไปนั่งที่หน้าโซฟาและลงมือคลิกเมาส์อีกครั้ง
การเดินทางตามแผนที่เพิ่งเริ่ม และจุมพลก็รู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกวัน

อยากเห็นเร็วๆ ว่าคุณจะทำหน้ายังไงคุณไอศูรย์ รีบอาบน้ำเร็ว ๆ และมาดูสิ ว่าวันเด็กนี้ผมมีของขวัญอะไรมามอบให้

สุขสันต์วันเด็กนะคุณไอศูรย์ ผมอยากจะให้คุณรีบ ๆ มาเห็นของขวัญที่ผมมอบให้คุณเหลือเกิน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย และกำลังจะเริ่มทำงาน แต่สายตาก็ไปสะดุดกับบางสิ่งบางอย่างที่วางเอาไว้ให้บนโต๊ะ
คุณไอศูรย์หยิบนาฬิกาหุ่นยนต์กันดั้มที่มีตัวเลขแบบดิจิตอลขึ้นมาดู และก็ไม่ต้องเดาว่ามีของแบบนี้อยู่บนโต๊ะทำงานได้ยังไง

.........จุมพล...........

เล่นบ้าอะไร เอามาวางไว้ให้ทำไม คงคิดอะไรแผลง ๆ อยู่สินะ

“คุณจะให้ผมเอาไปฝากเด็กที่ไหนของคุณ นาฬิกาติงต๊องประหลาดแบบนี้ คุณใช่มั้ยที่เอามาวางไว้ที่โต๊ะผม”

โห้ มาถึงก็อารมณ์ขึ้นเบยยยยยยยยยยย แหม่ อะไรมันจะโมโหง่ายขนาดนั้น คุณนี่ไม่มีอารมณ์ขันซะเล้ยยยย คุณไอศูรย์

“ของขวัญวันเด็กที่ผมตั้งใจซื้อมามอบให้คุณเชียวนะ คุณไม่ชอบกันดั้มเหรอ ที่จริงคุณควรจะดีใจสิไม่ใช่มาบ่นผม”

หันไปตอบคนที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น และคุณไอศูรย์ก็กำลังมองหน้าของคนตอบด้วยความหงุดหงิดใจเล็ก ๆ

“เลยซื้อของขวัญแบบนี้ให้”

ใช่ครับ

“ดีใจก็บอกสิ ทำเป็นหงุดหงิดไปได้”

ดีใจเหรอ แบบนี้สมควรดีใจหรือไง

“วัน ๆ คุณคงคิดแต่เรื่องบ้า ๆ บอ ๆ คิดเสร็จแล้วก็ลงมือทำเลยแบบไม่ผ่านการไตร่ตรองว่าอะไรควรไม่ควร”

เจ็บปวด มว๊ากกกกกกกกก นี่ผมเจ็บปวดกับคำพูดของคุณสุด ๆ เลยนะครัช แหม่

“เห็นความหวังดีของผมเป็นอะไร ฮือออออออ”

แกล้งยกมือขึ้นทำท่าบีบน้ำตา แล้วคุณไอศูรย์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และยังบ่นพึมพำไม่เลิก

“จริง ๆ เลยนะคุณจุมพล บริษัทคุณคิดยังไงถึงปล่อยให้คนอย่างคุณขึ้นมาเป็นถึงหัวหน้าแผนกได้ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ”

ไม่เข้าใจเหรอ

“เพราะผมเก่ง”

เหรอ เก่งงั้นเหรอ

“เก่งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องล่ะสิ”

เรื่องอื่นผมก็เก่ง

“อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมภาคภูมิใจตัวเองแหละน่า”

น่าภาคภูมิใจมากเลยนะ เรื่องโง่ ๆที่ทำอยู่เนี่ย

“คุณมันน่าเบื่อจริง ๆ จุมพล ทั้งคิดแล้วก็ทำอะไรเพ้อเจ้อได้ตลอดเวลา ทำเหมือนเด็กไม่รู้จักโต”

แต่คุณก็ทำอะไรผมไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ

“คุณก็แก่เร็วเกินไป บ่น บ่น บ่น ไม่ยอมหยุด กะอีแค่นาฬิกาเรือนเดียวที่ผมซื้อมาให้ด้วยความจริงใจเพราะอยากจะตอบแทนน้ำใจที่คุณมีให้ผมเนี่ย ก็ตีความและมองไปในแง่ร้าย ผมแย่มากนักสินะ ที่คิดและหวังดีกับคุณขนาดนี้”

อย่ามาทำมึน กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป จุมพล ผมค่อนข้างแน่ใจ ว่าคุณต้องการให้ผมหงุดหงิดโมโห กับการเล่นอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ของคุณ

“ผมจะทนไม่ไหวกับคุณแล้วนะคุณจุมพล”

เหร้อออออออออ แต่ผมยังทนการบ่นของคุณได้อีกเยอะนะคุณไอศูรย์

“ฮึก หึ คึก ๆ อืมมมม”

พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ให้หัวเราะออกมา และจุมพลก็พยายามฝืนใบหน้าพยายามทำให้เคร่งขรึมที่สุด ทั้งที่แทบจะหยุดเสียงหัวเราะของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

“ผมไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับคนไม่รู้จักโตอย่างคุณหรอก”

แต่ก็ต่อล้อต่อเถียงมาพักใหญ่เลยเชียวนะ

“ผ่อนคลายบ้างน่า เดี๋ยวหน้าคุณก็จะแก่ไปยิ่งกว่านี้หรอก”

หน้าแก่ไปยิ่งกว่านี้

คุณไอศูรย์หมุนเก้าอี้กลับมาอีกครั้ง และแสยะยิ้มบาง ๆ มองหน้าของจุมพล ที่ยังพยายามเก็กหน้าให้เคร่งขรึมทั้งที่อยากจะหัวเราะจนทนแทบไม่ไหว

“คุณอยากให้ผมเป็นคนแก่โรคจิตทำอะไรแปลก ๆ กับคุณใช่มั้ย”

ทำอะไร........

“เปล๊า.......ผมแค่หวังดีกับคุณเฉย เฉ้ยยยย”

ลากเสียงยาวและลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ก็ดี นึกว่านี่เป็นการเรียกร้องความสนใจอีกขั้นของคุณซะอีก”

เปล่านะ

ผมแค่อยากแกล้งคุณเฉย ๆ เท่านั้นไม่ได้เรียกร้องความสนใจให้คุณมาทำอะไรแปลก ๆ กับผมสักหน่อย

“ถ้าว่างมากขนาดคิดแล้วก็ทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นได้ กรุณาหยุดเล่นเกมส์แล้วมาเอาเครื่องคิดเลขกับเอกสารที่คุณมาขอร้องให้ผมช่วยหาของให้บริษัทของคุณ ไปคิดคำนวณเปอร์เซ็นต์ที่คุณจะต้องลดให้ผมในรอบถัดไปด้วย”

ห๊ะ ทำไมล่ะ ทำไมผมต้องมาคิดอะไรแบบนี้ด้วยล่ะ คุณก็ส่งไปให้ตอนที่ผมทำงานสิ นี่มันหมดเวลางานแล้วนะ

“ผมจะไปอีกแม๊ปแล้ว คุณอย่าเพิ่งใช้ผมตอนนี้สิ คุณไอศูรย์”

จากที่กำลังเล่นอยู่ เลยโดนใช้ให้ทำงาน และคนที่ถูกใช้ให้ทำงานก็เริ่มหน้างอ เพราะเหมือนกำลังถูกเอาคืน

“งั้นก็ไม่ต้องส่งของแล้วกัน”

โธ่เอ้ย ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ แค่ผมเอานาฬิกากันดั้มมาฝากแค่นี้ ถึงกับต้องเอาคืนด้วยการเอางานมาอ้างเลยเหรอ คุณไอศูรย์นี่ไม่รู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเลย

“ก็ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

ลุกขึ้นและก็ต้องปล่อยให้ตัวละครในเกมส์ยืนอยู่อย่างนั้น รับเครื่องคิดเลขและเอกสารจากบริษัทที่ส่งไปให้คุณไอศูรย์มาถือเอาไว้ และยังคงขมวดคิ้วด้วยความขัดใจไม่เลิก

“แค่นี้ใช่มั้ย”

ยังไม่หมดแค่นี้หรอก ยังมีอีกเยอะ

“เดี๋ยวผมคิดอะไรได้ ผมจะบอกคุณอีกก็แล้วกัน”

นี่ผมต้องทำงานตามที่คุณคิดได้เหรอ มันไม่แฟร์เลยนะคุณไอศูรย์

“ผมเล่นเกมส์อยู้วววววว”

ขึ้นเสียงสูง และก็เริ่มงอแงไม่เลิก แต่มันทำให้คุณไอศูรย์อมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก

“ก็เห็นอยู่ว่าเล่น และระหว่างการเล่นคุณไม่คิดจะเอาของใช่มั้ย คุณเล่นเกมส์ แต่ผมต้องทำงาน คุณก็เห็นไม่ใช่เหรอ”

เห็นแล้วนี่ไง ก็เห็นอยู่ ไม่ได้ตาบอด

“แล้วทำไมต้องใช้ตอนที่ผมเล่นเกมส์อยู่ด้วยวะ”

บ่นพึมพำไม่เลิกและกำลังจะเดินไปที่หน้าโซฟา แต่ก็ถูกคุณไอศูรย์เรียกเอาไว้

“เดี๋ยว”

อะไรอีกล่ะ จะใช้อะไรอีก คุณบ้าไปแล้วหรือไงวะ นี่มันนอกเวลางานแล้วนะ ผมเป็นลูกจ้างบริษัท ไม่ใช่ทาส แล้วเราก็อยู่กันคนละบริษัท คุณมีสิทธิ์อะไรมาจิกหัวใช้ในเวลาหลังเลิกงาน

“อะไรอีกล่ะ”

ขมวดคิ้วมุ่น และคุณไอศูรย์ก็ทำหน้าขรึมและเงยหน้าขึ้นมองจุมพลที่กำลังเริ่มงอแงเพราะถูกแกล้งให้ทำงานหลังเลิกงาน

“ชงกาแฟให้ด้วย”

โห่ ทำไมไม่ไปชงเองล่ะ กาแฟแค่เนี้ยะ ทำไมต้องให้ผมชงด้วย ฮึ่ยยยยยยยย นี่มันแกล้งกันชัด ๆ

“กินกาแฟตอนกลางคืนมันทำให้ตาค้าง คุณจะกินเข้าไปทำไมคุณไอศูรย์เดี๋ยวคุณก็ตาค้างนอนไม่หลับ”

ตั้งใจจะหาข้ออ้างไม่ยอมทำตาม แต่คุณไอศูรย์ก็ยังยืนยันคำเดิม

“นอนหลับไม่หลับ ผมก็หลับของผมได้ทุกคืน ผมนอนกอดหมอนข้างเดี๋ยวผมก็หลับ คุณอย่ามากังวลอะไรกับการนอนของผมเลย รีบ ๆ ไปชงกาแฟซะ”

หมอนข้างเหรอ นอนกอดหมอนข้างอะไรของคุณ เห็นกอดแต่ผมเนี่ย กอดอยู่ได้ เมื่อไหร่จะเลิกเนียน เลิกทำเป็นนอนดิ้นแล้วมากอดผมซะทีวะ

“ไปชงกาแฟซะ”

ย้ำอีกครั้ง และจุมพลที่วางเอกสารลงบนโต๊ะก็เดินหน้าหงิกหน้างอเข้าไปในครัว และจัดการเสียบกระติกน้ำร้อน และใช้ช้อนกาแฟเคาะแก้วเสียงดังจนได้ยินออกมาข้างนอก

“ชงดี ๆ อย่าใส่อะไรแปลก ๆ ให้ผมกินเด็ดขาด”

ใครจะไปกล้าใส่อะไรให้คุณกินล่ะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องแบบคราวก่อนที่ผมแกล้งเหยาะเกลือเข้าไปในกาแฟของคุณ แล้วคุณบังคับให้ผมกินเข้าไป ไม่เอาอีกแล้ว กินกาแฟผสมเกลือแบบนั้น แม่ง แทบอ้วก

“จุ้ม”

อะไรอีกล่ะ เรียกอยู่นั่น ขาดผมซักนาที คุณจะหายใจไม่ออกจนตายไปเลยใช่มั้ย

“คร้าบบบบบบบบบ”

ขานรับด้วยการลากเสียงยาว ๆ ทั้งที่ยังเกิดอาการหงุดหงิดไม่เลิก

“วันหลังลองทำขนมปังดูบ้างนะ ผมเบื่อคุกกี้แล้ว เอาขนมปังแบบนิ่ม ๆ ทำง่าย ๆ ก็ได้”

ขนมปังเหรอ

เออว่ะ ไม่เคยคิดจะทำซะด้วยสิ

“ครับ”

ตอบกลับออกไปและจุมพลก็หยิบกระปุกใส่กาแฟมาเปิดฝาออกและตักกาแฟใส่เข้าไปในแก้ว พร้อมกับครีมอีกเล็กน้อย
ในหัวของจุมพลกำลังคิดอะไรบางอย่าง ขนมปังเหรอ

ขนมปัง.............ทำยากมั้ยวะ อุปกรณ์อะไรก็ไม่มี เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองเปิดหาข้อมูลดูดีกว่า ถ้าไม่ยากก็น่าจะลองทำเล่น ๆ ดู

....................แล้วทำไมผมต้องทำขนมปังด้วยวะ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาคิดหรือทำตามใจที่คุณไอศูรย์บอกนี่หว่า ซื้อกินก็จบแล้ว จะให้ผมทำไปทำไม ไม่เข้าใจ

ขนมปังเหรอ ขนมปัง ขนมปังลูกเกดดีมั้ยวะ ท่าทางจะไม่ยากเท่าไหร่ คิดเองเออเองเสร็จสรรพ โดยที่จุมพลก็ยังคงมึนงง และสงสัยตัวเอง ทำไม...........ผมต้องทำขนมปังให้คุณกินด้วยครับ.........ผมไม่เข้าใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2014 22:43:54 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เช้านี้อากาศแจ่มใส

จุมพลนั่งอยู่บนรถโดยมีคุณไอศูรย์ขับรถไปส่งที่โรงงานเหมือนทุกวัน มันเป็นภารกิจที่คุณไอศูรย์ต้องทำทุกเช้า
ต่อให้นอนดึกกันขนาดไหน แต่ตอนเช้าก็ต้องไปส่งจุมพลที่ทำงานทุกวัน และแม้กลางคืนจะแกล้งกันและงี่เง่าใส่กันขนาดไหน
แต่เมื่อตอนเช้ามาถึงทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนในเวลานี้ที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

แต่มีสิ่งที่ต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อยตรงที่................

“วันนี้ผมตื่นสายไปหน่อย จะไปทันตอกบัตรหรือเปล่านะ ว่าแต่มันกี่โมงแล้วครับคุณไอศูรย์”

หาเรื่องคุย เรื่องที่ไม่จำเป็นต้องคุย แต่ที่คุยเรื่องนี้ก็เพราะอยากให้คุณไอศูรย์รับรู้ว่าเห็นอะไรบางอย่างที่คุณไอศูรย์ตั้งใจจะให้เห็นแล้ว คุณไอศูรย์ยกข้อมือขึ้นดูเวลา และตอบออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง ยังไงก็ไปทัน”

เหรอครับ

จุมพลพยักหน้ารับ และมองออกไปนอกหน้าต่างรถ รอยยิ้มปรากฏขึ้นจางๆ ที่ใบหน้าและจุมพลก็กำมือขึ้นท้าวกับกระจกรถและพยายามแตะที่ริมฝีปากตัวเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่ากำลังยิ้มอยู่

ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรนะ ผมแค่อยากแกล้งคุณเล่น ๆ แค่นั้น แต่ผมไม่นึกว่า.............คุณจะกล้าใส่นาฬิกาติงต๊องปัญญาอ่อนของเด็กที่ทำเป็นหุ่นยนต์กันดั้มที่ผมซื้อให้แบบนั้น

บางทีผมก็คิดนะ คุณที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยอมทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ไปกับผม อยู่ดี ๆ ก็ยอมทำ ทั้งที่คุณก็รู้ว่าจะทำให้ตัวเองเสียภาพพจน์ขนาดไหน แต่คุณก็ยอมทำ

หลาย ๆ ครั้งคุณก็ทำให้ผมรู้สึก คุณเป็นคนที่เหมือนอยู่ไกลจากผมเหลือเกิน แต่บางทีคุณก็ขยับเข้ามาใกล้ผมซะแทบจะตัวติดกันอยู่แล้ว เรื่องบ้า ๆ ที่ผมไม่คิดว่าคุณจะยอมทำ แต่คุณก็ทำมันได้ง่าย ๆ มันทำให้ผมดีใจนะ

หลาย ๆ ครั้ง คุณก็ทำให้ผมรู้สึกดีได้ง่าย ๆ เพราะคุณที่เหมือนจะไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร กลับยอมบ้าบอไปพร้อมกับผม โดยไม่มาคิดสนใจเรื่องสถานะที่แท้จริงที่ต่างกันของเราเลยด้วยซ้ำ

“ผมเกือบลืมไปจุมพล ผมมีของจะให้คุณด้วย”

ของเหรอ ของที่จะให้ ของอะไร หันกลับไปมองคุณไอศูรย์ที่ยังคงขับรถไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยและจุมพลก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายจะให้อะไร

“นี่ผมให้”

ให้.......... คุณไอศูรย์หยิบนาฬิกาของเด็กที่ทำเป็นรูปหุ่นยนต์กันดั้มแบบเดียวกับที่คุณไอศูรย์ใส่อยู่มาส่งให้ และจุมพลก็รับมาถือเอาไว้สลับกับการมองหน้าคุณไอศูรย์และเริ่มขมวดคิ้วมุ่น

“ผมแฟร์ใช่มั้ยล่ะ วันนี้ผมจะใส่นาฬิกาแบบนี้ทั้งวันเลยนะ คุณก็ใส่ทำงานด้วยสิ จะได้เหมือน ๆ กัน”

ห๊ะ ให้ผมใส่เหรอ ให้ผมใส่.............แบบที่คุณใส่ใช่มั้ย

“อ่อ.....ลืมไปว่าไม่กล้า”

ใครว่าไม่กล้า นี่ไง จะใส่ให้ดู จุมพลใส่นาฬิกาที่ข้อมือ และยื่นส่งให้คุณไอศูรย์ดู

“นี่ไง นี่ไง”

เหรอ

“ห้ามถอดทั้งวันเลยนะ”

ได้ ห้ามถอดก็ห้ามถอด เช้านี้อากาศแจ่มใสก็จริง แต่เริ่มจะอึมครึมขมุกขมัวแล้วเพราะจุมพลถูกแกล้งให้ใส่นาฬิกาหุ่นยนต์กันดั้ม
และคุณไอศูรย์ก็อมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากที่ได้แกล้งจุมพลกลับได้ คุณปั่นหัวผมก่อนนะคุณจุมพล เพราะฉะนั้นคุณก็ควรได้รับสิ่งนั้นกลับคืนไป

“นาฬิกาที่คุณใส่ดูดีเลยนะ”

แกล้งชม และจุมพลก็หันมาทำหน้างี่เง่าใส่คนที่ชม ก่อนจะพยายามพูดบางอย่างออกมาเสียงรอดไรฟัน

“นาฬิกาที่คุณใส่ก็ดูดีไม่แพ้ผมเหมือนกัน”


Fin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2014 22:38:32 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
คู่ที่ต้องตามติดชีวิตคู่แบบอึน มึน ซึน

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แหมมมมม ยังไม่เคยเห็นคู่ไหนรักกันแบบเกรียนๆมึนๆได้เท่าคู่นี้เลยยยยย    :jul3:

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ๊ากกกกก 555555555555555555
โอ้ยจุ้มแม่งฮาอ่ะ 55555
คุณพี่ไอซ์ก็เอาคืนได้น่ารักมาก
 :-[

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
คู่รัก คู่นี้แปลกดีนะเออ :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
น่ารักขึ้นทุกวันนะคู่นี้
เย้ๆๆ เริ่มรู้ใจตัวเองกันแล้วซิ
รอลุ้นตอนหน้าจ้าาา ^^

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
แสดงความรักกันโดยการแกล้งกันไปมาใช่มั้ยเนี่ย o18

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เด็กน้อยกันจริงๆๆทั้งสองคน

ชีวิตมีสีสันดี :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
บอกได้คำเดียวว่า ฮามาก

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน ไม่ให้อภัยตลอดชีวิต

จุมพลไม่ยอมก้าวขาเดิน ยื้อแขนของตัวเองเอาไว้เต็มที่ ตั้งท่าจะเดินหนีอย่างเดียว เมื่อเห็นว่าคนที่คุณไอศูรย์พามาพบคือใคร

“ไม่เอา ไม่ไป”

ไม่ได้กลัว แต่มันมีลางสังหรณ์แปลก ๆ คุณไอศูรย์อยู่ดี ๆ ก็บอกว่าจะพามาพบใครบางคน
ตอนแรกสงสัย แต่ถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบ ระหว่างวันคือการรอคอยที่แสนทรมาน และเมื่อรู้ว่าต้องมาพบใคร ความทรมานก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“ไม่เอา ผมไม่ไป ผมไม่คุย”

ไม่คุยไม่ได้ ต้องคุย

“ถ้าหนีก็หนีไปตลอด จบเรื่องโง่ ๆ นี้ซะที มันนานเกินไปแล้วจุ้ม”

นานเกินไปตรงไหน แค่เกือบสองเดือนเอง จะไปนานได้ยังไง ขอเวลาผมทำใจก่อนได้มั้ย คุณจะให้ผมมาทำอะไร

คุยกับหญิงเหรอ หญิงไม่คุยกับผมแน่ ผมไม่รู้นะว่าคุณใช้วิธีอะไรถึงได้ลากหญิงมาได้ แต่ผมไม่อยากคุยตอนนี้

“ก็ได้....งั้นผมจะคุยเอง”

คุยอะไร มีอะไรให้คุย ทำไมคุณต้องไปคุยเอง นี่มันเรื่องของผม คุณไม่เกี่ยว ไหนว่าไม่ยุ่งเรื่องของผมไง แล้วจะยุ่งทำไม

“ไม่เอา เรื่องของผม ผมจัดการเองได้”

จัดการเองเหรอ

“งั้นก็ไปจัดการสิ”

ไป.....จัดการ

“ทำไมคุณต้องเร่งผมด้วย นี่มันปัญหาครอบครัว คนนอกไม่เกี่ยว”

ตะครุบปากตัวเองไว้ไม่ทัน แค่คำว่าคนนอกไม่เกี่ยว คำพูดคำเดียวแต่เหมือนขุดหลุมฝังตัวเอง คุณไอศูรย์มองหน้าของจุมพลนิ่ง ๆ และคำพูดที่มาพร้อมน้ำเสียงนิ่ง ๆ ก็ทำให้จุมพลแทบลงไปชักตาย

“คนนอกใช่มั้ย.....”

เหี้ยยยยยยยยยย ขนหัวลุก ทำไมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแบบนั้น แล้วยังสายตาที่มองมา คุณโกรธอะไรผมวะ มองซะจนผมแทบจะเป็นลมอยู่ตรงนี้แล้ว ผมไม่เคยเห็นคุณโกรธนะคุณไอศูรย์เคยเห็นแต่อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดเล็กน้อย แต่อารมณ์โกรธผมยังไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่อยากเห็นด้วย เพราะท่าทาง คงจะหลอนไม่น้อย

“ไม่ต้องเคลียร์แล้ว ไปนั่งรอเงียบ ๆ ผมจะเคลียร์เอง”

อย่าน๊า ขอร้อง อย่า อย่า

“ไม่เป็นไรจริง ๆ คุณไอศูรย์ ไม่เป็นไรไงเล่า ไม่เป็นไรจริงจริ๊งงงงงงง”

เปล่าประโยชน์ อารมณ์คุณไอศูรย์ไปไกลเกินกว่าที่จุมพลจะหยุดได้แล้ว
ไม่สนใจว่าจะมีคนวิ่งตามและพยายามดึงแขนเอาไว้ สายตาที่มองมามีแต่ความเย็นชาและดูน่ากลัว  จนจุมพลไม่รู้จะทำยังไง
ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นยะเยือกของคุณไอศูรย์เอ่ยบอกบางอย่าง

“ปล่อยแขนผม”

น้ำเสียงราบเรียบ  ดวงตาที่จ้องมองมานิ่งสนิทจนทำให้จุมพลรู้สึกหนาวยะเยือกไปถึงหัวใจ
แล้วจุมพลงี่เง่า ก็ทำอะไรไม่ได้ แค่เพียงคุณไอศูรย์สั่งคำเดียวก็ไม่สามารถขัดขืนได้

หน้าซีดเผือด และอาการมือเย็นเฉียบก็ตามมา ยอมปล่อยแขนคุณไอศูรย์และเดินตามหลังมาเงียบ ๆ

ดวงตายังก้มมองที่พื้น และเมื่อต้องมาหยุดที่ตรงหน้าของคนที่หาทางเลี่ยงการเผชิญหน้ามาตลอดเกือบสองเดือน จุมพลก็รู้สึกเหมือนกับว่า ความเงียบ และความอึดอัดใจกำลังเข้าเล่นงาน

หญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอเงยหน้าขึ้นมามองและก็ไม่ได้ละสายตาจากใบหน้าของจุมพลเลย

“นั่งสิ”

เรียกให้จุมพลนั่งลงข้าง ๆ แล้วคุณไอศูรย์ก็นั่งเอนหลังบนโซฟาด้วยท่าทีสบาย ๆ

อยากรู้ว่าสบายมากมั้ย ส่วนผม แม่งเกร็งจนเยี่ยวเหนียวแล้วครับ ห่าเอ้ยยยย

“มาถึงนานแล้วเหรอ คุณมยุรี”

เดี๋ยวนะ ..........คุณมยุรี
คุณมยุรีเหรอ คุณมยุรีที่ว่า หมายถึงคุณมยุรีที่..........

นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และจุมพลก็หันไปมองคุณไอศูรย์ให้เต็ม ๆ ตา อย่าบอกนะว่าคุณมยุรีที่ว่าคือหญิงจริง ๆ

นี่คุณ...........

“ผมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เอาเป็นว่า ผมขอจุมพลจากคุณแล้วกัน”

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยเหรอ เอางี้เลยเหรอ นี่คุณ คุณยิ่งกว่าบ้าอีกนะโว้ยยยยยยยย
แม่งกล้าขอกูจากหญิง เดี๋ยวหญิงแม่งก็เอามีดกระซวกกูตายห่าอีกรอบหรอกครับคุณไอศูรย์

อ้าปากค้าง และมองหน้าคุณไอศูรย์ที่มีท่าทีสบาย ๆ ไม่ยี่หระอะไรกับสิ่งที่ตัวเองพูดเลยสักนิด
นี่คุณยังจะสบายใจได้อีกเหรอวะ คุณ.... คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอคุณไอศูรย์ นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย

“พี่ไม่ได้ อ่ะ หญิง คือ  พี่”

จุมพลถึงกับหน้าเสียและพยายามจะอธิบายให้หญิงเข้าใจ แต่เธอกลับนิ่งเฉยและมองหน้าของคุณไอศูรย์นิ่ง ๆ

“ถึงคุณไม่ให้ ผมก็ต้องได้เขามาไว้ข้างตัว และผมไม่สนว่าหลังจากนี้คุณจะคิดยังไง....”

คุณไอศูรย์ คุณยิ่งกว่าบ้าไปแล้วนะแบบนี้

“ผมไม่เคยไปตกลงว่าจะอยู่กับคุณนะ”

หันไปบอกคุณไอศูรย์ที่พูดบางอย่างด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วจุมพลก็แทบอยากจะทึ้งผมตัวเองด้วยความกลุ้ม

“เรากำลังทำสัญญาตกลงกันอยู่ คุณจุมพล”

ทำสัญญาตกลงอะไรวะ

“แต่ผมไม่ตกลง”

มันก็เรื่องของคุณ

“ช้าไปแล้ว........คุณพลาดตั้งแต่วันที่เข้ามาอยู่กับผมวันแรกแล้ว ตอนนี้ถึงมีปีกคุณก็บินไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ เพราะถ้าคุณคิดจะบิน ผมจะหักปีกคุณทิ้งซะ”

คุณ........ไอศูรย์....

จุมพลรู้ คุณไอศูรย์ไม่ได้พูดเล่น แม้ท่าทางจะไม่ทุกข์ร้อนแต่คน ๆ นี้ทำได้จริง

“ผมถือว่าบอกคุณแล้วนะคุณมยุรี และนี่คือโอกาสที่คุณจะได้พบจุมพลเป็นครั้งสุดท้าย ต่อจากนี้ คุณจะไม่มีโอกาสพบเขาอีกตลอดชีวิต แม้แต่เสียงก็อย่าคิดว่าจะได้ยิน ถ้าผมไม่อนุญาต ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับคนของผมทั้งนั้น”

เหี้ยยยยยยยยยยย นี่มันจะเกินไปแล้ว บ้าไปแล้วเหรอวะ แบบนี้มันบ้าเกินไปแล้วโว้ยยยยยยยย

“ผมไม่ได้พูดเล่น ผมทำได้จริง คุณก็รู้คุณมยุรี เพราะฉะนั้นผมให้โอกาสคุณได้คุยกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย”

กูไม่ใช่นักโทษนะ

คุณไอศูรย์ไม่สนใจอะไรเลย ลุกขึ้นจากเก้าอี้และก็เดินออกไปนั่งอีกด้านของโรงแรม ถึงอยากจะทำอะไรตอนนี้ ก็ทำไม่ได้ เพราะเมื่อมองให้ดีจุมพลก็พอรู้ ไม่ได้มีแค่ตัวเองที่อยู่กับหญิง แต่หมายรวมถึง ผู้ชายหลายคนที่แม้จะทำทีเป็นไม่สนใจแต่ที่จริงแล้ว กำลังจับตาดูทั้งจุมพลและหญิงอยู่อย่างเงียบ ๆ

“หญิง”

เรียกคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรง และหญิงก็ได้แต่มองจุมพลด้วยแววตาเรียบเฉย

“......................”

ท่าทางที่เธอแสดงออกตอนที่มีคุณไอศูรย์อยู่ดูแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น แต่เมื่ออยู่ด้วยกันสองคน
เธอกลับมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

“พี่จุ้มดีใจมากมั้ย เรื่องของเราจบแล้ว”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และดูเหมือนคนไร้ชีวิต และนั่นก็ทำให้จุมพลรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ให้เธอเอามีดมาแทงซะยังดีกว่าที่ต้องทนเห็นสายตาที่เย็นชาของเธอแบบนี้

“ที่เคยคิดว่าพี่จุ้มไม่มีทางไปไหนได้ หญิงคิดผิดมาตลอดเลย ตลกจัง ไม่รู้หญิงคิดได้ยังไงนะพี่จุ้ม ที่คิดว่ายังไงพี่จุ้มก็จะต้องอยู่กับหญิงไปตลอดชีวิต”

เธอนิ่งเงียบลงไปอีกครั้ง และจุมพลก็เริ่มหน้าเสีย

“พี่จะกลับไปอยู่กับหญิง ต่อให้หญิงฆ่าพี่ตาย พี่ก็จะกลับไปอยู่กับหญิง”

เรามาไกลเกินไปแล้วพี่จุ้ม

“หญิงไม่ต้องการพี่จุ้มอีกแล้ว”

ไม่ต้องการ .................................... ตอนที่โดนแทง มีแต่ความหวาดกลัว แต่ตอนที่โดนบอกว่า ไม่ต้องการอีกแล้ว จุมพลไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง

“หญิงไม่รักพี่แล้วเหรอ”

จุมพลถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แทบไม่ได้ยิน และอยู่ดี ๆ มือทั้งสองข้างก็ตกลงที่ข้างตัว

“รักหรือไม่รัก มันไม่เกี่ยวแล้วพี่จุ้ม.......หญิงเหนื่อยมานานเกินไปแล้ว ต่อไปนี้หญิงจะปล่อยพี่จุ้มไปซะที”

ปล่อยเหรอ

ทั้งที่ปรารถนาจะได้ยินคำนี้มาตลอด ทั้งที่ต้องการจะเลิกมาตลอด ทั้งที่อยากจะหนีให้ห่างมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ความรู้สึก จุมพลกลับรู้สึกเจ็บแปลบ จนต้องยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกของตัวเอง

“พี่จุ้มทำหญิงเจ็บมาก....และหญิงขอให้ความเจ็บของหญิงติดตัวพี่จุ้มไปตลอดชีวิต”

เธอไม่ได้อาฆาตแค้น แต่เธอสาปแช่ง และลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ คนที่เจ็บเคยเป็นเธอมาตลอด แต่เวลานี้คนที่ต้องเจ็บไปตลอดชีวิตควรจะเป็นจุมพลบ้าง

“พี่เลวขนาดนั้นเลยเหรอหญิง พี่ไม่สมควรได้รับการอภัยให้ขนาดนั้นเลยเหรอหญิง”

น้ำเสียงแผ่วโหยของจุมพลทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง และสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อบังคับไม่ให้น้ำเสียงของตัวเองสั่นไหวไปมากกว่านี้

“หญิงไม่มีวันอภัยให้พี่จุ้มตลอดชีวิต พี่จุ้มต้องอยู่กับความรู้สึกผิดนี้ไปจนตาย.........”

เธอพูดและหันหลังให้

และจุมพลก็รู้ว่าทนเรื่องที่ต้องแบกรับมาตลอดชีวิตไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ลุกขึ้นยืนและก้าวขาเดินเข้าไปหาเธอ
รั้งเธอเอาไว้ไม่ให้ปล่อย กอดเธอเอาไว้จากด้านหลัง กอดและซบหน้าลงกับไหล่ของเธอ ที่เคยได้สัมผัส

ความรู้สึกดี ๆ ในวันเก่าไม่เคยจางหาย หญิงเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง รอยยิ้มของเธอสวยงามที่สุดเวลาที่เธอยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นจุมพลเองที่พรากรอยยิ้มแบบนั้นของเธอไป เธอเจ็บแทบตาย ทำไมจะไม่รู้สึก ความโกรธแค้นทั้งหมดที่เธอมาลงที่จุมพล มันยังไม่มากเท่ากับที่เธอเจ็บ บางทีนั่นอาจไม่เท่าเศษเสี้ยวความเจ็บปวดของเธอสักนิดเลยก็ได้

และเมื่อเธอจะไปจริง ๆ กลายเป็นจุมพลที่ทนไม่ไหว ทั้งที่ภาวนามาตลอด อยากให้เราเลิกกันใจแทบขาดมาตลอด
แต่ตอนนี้คนที่ร้องไห้และอยากอ้อนวอนไม่ให้เธอไปกลายเป็นจุมพลซะเอง

“พี่จุ้มรู้มั้ย ทำไมหญิงถึงให้อภัยพี่จุ้มไม่ได้ จนถึงนาทีนี้”

เพราะพี่มันเลว หญิงจะไม่ให้อภัยพี่ไปตลอดชีวิตก็ไม่แปลก พี่รู้ พี่เข้าใจดี

“เพราะหญิงเกลียดพี่”

ไม่ใช่หรอกพี่จุ้ม
เธอจับแขนของจุมพลเอาไว้ ปลดมือที่โอบกอดเธอออกและหันไปมองหน้าของจุมพลให้ชัด ๆ

“ไม่ใช่หรอก หญิงแค่คิดแบบโง่ ๆ ว่าถ้าวันหนึ่งหญิงรั้งพี่จุ้มไม่อยู่ขึ้นมาและพี่จุ้มต้องไปจากหญิงจริง ๆ ต่อให้พี่จุ้มจะมีใครอีกกี่คน พี่จุ้มก็จะไม่มีวันลืมหญิงไปตลอดชีวิต ต่อให้ตายจากกัน วิญญาณของพี่จุ้มก็จะต้องคิดถึงแต่หญิง....ทุกวินาทีของพี่จุ้มที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน พี่จุ้มจะคิดถึงแต่หญิง.......พี่จุ้มจะจดจำหญิงทุกลมหายใจเข้าออก...ถึงพี่จุ้มอยากลืมพี่จุ้มก็ลืมหญิงไม่ได้.............."

คำอธิบายง่าย ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ซีดเซียวของเธอทำให้จุมพลยิ่งอยากร้องไห้

"ไม่ใช่หญิงไม่อยากให้อภัยนะ แต่หญิงทำไม่ได้ เพราะถ้าหญิงทำ.......ลมหายใจของพี่จุ้มก็อาจจะไม่ใช่ของหญิงอีกต่อไป.........แต่ถ้าหญิงไม่อภัย....ทุกลมหายใจเข้าออกของพี่จุ้มจะเป็นของหญิงคนเดียว...หญิงโง่ใช่มั้ยพี่จุ้มที่คิดอะไรแบบนี้..........”

ไม่ใช่ หญิงไม่ได้โง่ หญิงไม่ได้โง่ที่คิดอะไรแบบนี้

“แล้วสิ่งที่หญิงกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น........ถึงหญิงจะพยายามแค่ไหน  แต่สุดท้ายพี่จุ้มก็ต้องไปอยู่ดี”

หญิงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดใด ๆ ทั้งสิ้น เธอค่อย ๆ ปลดมือของจุมพลออก และมองหน้าของจุมพลเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่ได้ยิ้ม เพียงแต่จ้องหน้าของจุมพลเและมือของเธอก็ประคองแก้มของจุมพลเอาไว้เพื่อดูหน้าของจุมพลให้ชัด ๆ

“พี่จุ้มยังหล่อเหมือนเดิมเลย........ทำไมหญิงไม่มองพี่จุ้มแบบนี้ให้เร็วกว่านี้นะ...ดูสิ นี่หน้าของคนที่หญิงรักนะ ทำไมหญิงถึงทำร้ายคนที่หญิงรักที่สุดได้ลงคอ  ทำไมหญิงถึงได้โง่ขนาดนี้นะพี่จุ้ม”

ดวงตาของเธออ่อนแสงลง และรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏที่ใบหน้าของเธอ

“หญิงรักพี่จุ้มนะ ถึงวันนี้หญิงก็ยังรัก พ่อของลูกหญิงคือพี่จุ้มคนเดียวเท่านั้น........ถ้าเรื่องนั้นไม่เกิดขึ้น เราคงเป็นครอบครัวที่มีความสุขมากที่สุดเลยนะพี่จุ้มว่ามั้ย”

เธอมองหน้าของจุมพลนิ่ง ๆ แตะปลายนิ้วที่คิ้ว ดวงตา ปลายจมูก แม้กระทั่งข้างแก้ม และริมฝีปากของจุมพล

“อย่าลืมนะพี่จุ้ม หญิงไม่มีวันอภัยให้พี่จุ้มไปตลอดชีวิตนะ เข้าใจมั้ย”

เข้าใจ

เข้าใจยิ่งกว่าเข้าใจ จุมพลปล่อยให้หยดน้ำตามากมายไหลรินจากดวงตา และดวงตาที่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตาก็ยังจับจ้องที่ใบหน้าของหญิงอยู่อย่างนั้น

“สุดหล่อของหญิง ร้องไห้ทำไม เมื่อก่อนอยากเลิกกับหญิงแทบตายไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ได้เลิกแล้วนะ ห้ามร้องไห้สิ ต้องดีใจได้แล้ว รู้มั้ยครับ”

ไม่รู้ ไม่รู้อีกต่อไปแล้ว

“หญิงเลิกกับพี่ได้จริง ๆ เหรอ หญิงจะเลิกกับพี่จริง ๆ เหรอ หญิงไม่รักพี่แล้วเหรอ”

รั้งร่างของเธอมากอดเอาไว้แน่น และกลายเป็นเด็กน้อยที่ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะเมื่อรู้ว่าจะโดนทิ้งจริง ๆ กลับทนแทบไม่ไหว

“หญิงเลิกได้สิ คนเลว ๆ อย่างพี่จุ้มไม่มีค่าให้หญิงจดจำหรอกนะ ทำไมหญิงจะเลิกไม่ได้ล่ะพี่จุ้ม พี่จุ้ม แม่งเหี้ย เลว เป็นไอ้สารเลวที่สุดในชีวิตหญิงจริงๆ นะ”

ด่าอีก อยากจะด่าอะไรอีก ก็ด่ามาให้หมดพี่จะฟังหญิงด่า พี่จะฟังหญิงด่าไปตลอดชีวิตก็ได้ แต่ให้หญิงอยู่กับพี่ อยู่กับพี่ไปแบบนี้

“ร้องไห้ฟูมฟายไปหญิงก็ไม่สนใจหรอกนะ หญิงสะใจจะตายที่ได้เห็นพี่จุ้มเจ็บปวดปางตายเพราะหญิงบ้าง........”

เธอค่อย ๆ ผลักจุมพลให้ออกห่างอย่างช้า ๆ และส่งยิ้มจาง ๆ ให้จุมพลเป็นครั้งสุดท้าย

“ตอนนี้พี่จุ้มซึ้งแล้วใช่มั้ย.........ว่าที่หญิงต้องเจ็บปวดปางตายมันเป็นยังไง.....นี่มันไม่เท่าเศษเสี้ยวที่หญิงเจ็บหรอกนะ แต่หญิงก็รู้สึกดีนะที่เห็นพี่จุ้มยังเจ็บเพราะหญิงได้ขนาดนี้.........เพราะมันทำให้หญิงรู้..........พี่จุ้มยังรักหญิงเหมือนที่หญิงก็ยังรักพี่จุ้มอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”


TBC.

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย......เพราะรักเธอถึงได้ทำทุกอย่าง

เจ็บเพราะรัก  ต้นตอของความเจ็บปวดกลับลอยนวล

ผลของมันเลยมาลงที่คนสองคน  คนสองคนที่รักกัน

เลิกกัน เลิกกันทั้งๆที่ยังรักกัน  น้ำตาของความเจ็บปวด มันล้างออกจากใจไม่หมด :hao5:

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอ้ย แงงงงง พี่จุ้มมมม เข้มแข็งไว้นะ อึ๊บไว้อึ๊บ!  :mew4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆ หญิงน่าสงสารนะ T_T

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

miyaki

  • บุคคลทั่วไป
สงสารจุ้มจัง เมื่อไหร่จะมีความสุขละเนี่ย
คุณไอศูรย์ อย่าทิ้งจุ้มเชียวนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด