เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน สับสน
เรื่องบางอย่างเริ่มจะเลยเถิดไปไกล จุมพลไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมตัวเองถึงได้คล้อยตามคนที่กำลังซุกไซร้ใบหน้าที่ซอกคอได้อย่างง่ายดาย รู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายรุกรานเอาแต่ใจได้ตลอด จนกระทั่งเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูเอ่ยบอกบางอย่าง
จุมพลถึงได้รู้สึกตัว
“ขอนะ”
เบิ่งตากว้างและผลักอกของคนที่คร่อมทับอยู่เหนือร่างออกห่างและไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าใกล้อีก
“ไม่”
ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด และก็ผละออกห่าง ย้ายตัวเองมานั่งที่อีกมุมหนึ่งของโซฟา คุณไอศูรย์ได้แต่อ้าปากค้างและนิ่งมองทุกกิริยาของจุมพล ที่ปฏิเสธคำขออย่างไร้เยื่อใย แล้วบรรยากาศแสนอึมครึมของเราสองก็เกิดขึ้น
คนหนึ่งยกมือขึ้นลูบผมตัวเองและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ส่วนอีกคนกำลังจัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย และใบหน้าก็หงิกงอ แสดงให้รู้กันไปชัด ๆ ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โกรธเพราะอะไรคุณไอศูรย์ก็พอจะเข้าใจนิด ๆ แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เลยได้แต่ต่างคนต่างเงียบ
เรากำลังไม่เข้าใจกันอย่างรุนแรง
เพราะเราไม่มีความชัดเจนต่อกัน สถานะความสัมพันธ์ของเราที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่เรากลับข้ามขั้นกันไปไกล เลยเถิดไปแม้กระทั่งเรื่องอย่างว่า ก็ทำด้วยกัน แบบนี้มันผิดปกติเกินไป เพราะมันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่รูมเมทหรือเพื่อนกันจะมาทำด้วยกันได้
นิ่งเงียบกันมาพักใหญ่ ไม่มีใครพูด
คุณไอศูรย์ได้แต่เอนหลังพิงพนักโซฟา และจุมพลก็นั่งกอดเข่าของตัวเองเอาไว้
เวลาแต่ละนาทีผ่านไปอย่างแสนเชื่องช้า พร้อมกับความเงียบงันอึดอัดที่ยังปกคลุมอยู่ระหว่างเราสองคน
ไม่มีใครพูดก่อน ต่างฝ่ายต่างเงียบ จุมพลไม่พอใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ผมไม่เล่นแบบนี้กับคุณแล้วนะ”
เล่น.......... เล่นแบบนี้เหรอ ที่เราทำด้วยกันไม่ใช่การเล่นนะจุ้ม มันเกินการเล่นไปไกลแล้ว
“เผื่อคุณจะไม่รู้นะคุณจุมพล ผมไม่เคยเล่นแบบนี้กับใคร”
ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นิ่งสนิทแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกทุกคำพูด และจุมพลก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดบางอย่างให้ได้คิด
ไม่เล่น........ ไม่เล่นงั้นเหรอ แล้วถ้าไม่เรียกว่าเล่น คุณจะเรียกมันว่าจริงจังหรือไง
“แฟนผม.....คงไม่รู้สึกดีที่ผมมาทำอะไรแบบนี้”
อย่าเอาแฟนมาอ้างจุ้ม
“คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาคิดจะฆ่าคุณ”
เลิก.......... เลิกงั้นเหรอ.... เลิกนานแล้ว
“คุณก็รู้ว่าผมเลิกกับหญิงไม่ได้”
รู้ได้ยังไงว่าไม่ได้
“ผมไม่สนใจเรื่องนั้นของคุณนะ คุณจุมพล”
ไม่สนใจ ไม่สนใจงั้นเหรอ ไม่สนใจก็เลยมาทำแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ กูไม่ใช่ของเล่นของใครนะโว้ยยยยยย เข้าใจผิดไปแล้ว ที่ทำอะไรเลยเถิดแบบนั้นสองครั้งที่ผ่านมามันมีเหตุผล แต่ครั้งนี้จะให้ใช้เหตุผลว่าอะไร กูไม่เล่นแล้วนะครับ บอกได้เลย จะให้เล่นด้วยเหมือนครั้งก่อน ๆ
ไม่เอาอีกแล้ว ยิ่งพูดแบบนี้ด้วย ยิ่งชัดเจนว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
คนสองคนกำลังแสดงความรู้สึกที่อยู่ภายในลึก ๆ ออกมา คุณไอศูรย์นั่งเงียบ และจุมพลเองก็เงียบไม่ต่างกัน
สิ่งที่เห็นมันคล้ายอาการสะท้อนใจลึก ๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าจุมพลเองก็มีความเครียดความกังวลใจ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแสดงมันออกมาให้เห็นเท่านั้น ความไม่แน่ใจ ความรู้สึกที่แยกแยะไม่ออกระหว่างถูกกับผิด ควรหรือไม่ควร
อารมณ์ความรู้สึกแบบนั้นทำไมคุณไอศูรย์จะไม่เข้าใจ เพราะตัวเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์นั้นเช่นกัน
ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เป็นแค่เพียงความรู้สึกแปลก ๆ และความสนใจลึก ๆ
ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่พอนานวันเข้ากลับรู้สึกว่าจุมพลเป็นของตัวเอง และไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามด้วย
เมื่อไม่ชอบให้ใครมายุ่ง ก็เลยต้องปกป้องคุ้มครองเอาไว้ไม่ให้ได้รับอันตราย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น อยู่ดี ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็เลยเถิดไปไกล กลายเป็นการให้ความสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว
ใช่ที่ระยะเวลาเพียงแค่นี้ มันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอะไรได้มากนัก แต่อารมณ์พิศวาสอยากครอบครองร่างกายและปรารถนาอยากได้รับการเอาใจจากคนที่อยู่ตรงหน้า มันก็อธิบายอะไรได้หลาย ๆ อย่าง
ถึงจะคิดอะไรไปอีกร้อยแปด แต่ผลสรุปที่ได้ในเวลานี้
ความรู้สึกในใจลึก ๆ มันก็คือคำว่า
“ชอบ” ไปแล้วโดยไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องสงสัยเลย..........คุณไอศูรย์คิดว่าตัวเองคงรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับจุมพลเข้าให้แล้ว
“จุ้ม”
เรียกคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย และจุมพลก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามอง สายตาที่มองมามีแต่ความปวดร้าว อ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก ที่ผ่านมาจุมพลไม่เคยมองแบบนี้ ไม่เคยแสดงกิริยาอาการแบบนี้ให้เห็น แต่ตอนนี้กลับทำมันออกมาให้เห็นอย่างเปิดเผย
คุณไอศูรย์ขยับเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ และนิ่งมองใบหน้าที่แสดงความรู้สึกไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
จุมพลยังคงขมวดคิ้วมุ่น และรู้ตัวเองดีว่าสภาพจิตใจไม่ปกติเท่าไหร่นัก กำลังจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งข้อมือเอาไว้ไม่ให้ไป
“นั่งคุยกันก่อนได้มั้ย”
เข้าใจความหมายของสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นอย่างดี และจุมพลก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย ถอนหายใจออกมายาว ๆ เพราะไม่รู้จะทำยังไงแต่ก็ยอมนั่งลงมาแต่โดยดี
“อยากได้ก็จะเอาให้ได้ อยากจะทำอะไรด้วยก็ได้ ผมรู้สึกว่าตัวเองแม่ง....เหมือนเป็นของเล่นของคุณเลยว่ะ”
ไม่ทำอะไรให้ชัดเจนมันก็ต้องเป็นแบบนี้ บางทีคนที่กำลังกลัวและกังวลใจก็ไม่ผิดอะไรเลย
รู้มั้ย....พออยู่กับจุ้มแล้ว มันเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกดี รู้สึกผ่อนคลาย แค่เพียงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันไม่นาน กลับทำให้รู้สึกสบายใจได้อย่างน่าประหลาด
ไม่เคยมีใครที่ทำให้รู้สึกดีได้เท่านี้ และจุมพลเป็นคนแรกที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ได้
“งั้นก็รู้ไว้ซะ...... ว่าไม่ใช่”
ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ คนที่เริ่มผ่อนคลายและเหมือนพร้อมจะคุยด้วยมากขึ้น
ขยับเข้ามาหา ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และคุณไอศูรย์ก็ใช้มือประคองที่ข้างแก้มของจุมพลเบา ๆ
ปลายนิ้วเกลี่ยเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่มองตรงมา และยังมีความกังวลใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น
“........................”
จุมพลนิ่งมองใบหน้าของคุณไอศูรย์นิ่งๆ และแววตาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่แน่ใจกับอะไรเลยสักอย่าง ทั้งปัญหาของตัวเองที่ยังแก้ไม่ตก ทั้งความเครียดในใจลึก ๆ ที่สะสมมานาน แต่เมื่อใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้และจูบเบา ๆ ที่หน้าผากจุมพลก็ได้แต่หลับตาลงอย่างช้า ๆ สัมผัสแผ่วเบายังปรากฏชัดในความรู้สึกและเมื่อปรือตาตื่นขึ้นมาดวงตาสองคู่ก็ได้สบกันนิ่ง
มองกันนิ่ง ๆ โดยไร้คำพูด
“อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมไม่ใช่ของเล่น”
พูดออกไปตรง ๆ และสีหน้าแววตาก็จริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
“ผมไม่เคยเล่นกับคุณ”
การตอบกลับมาแบบจริงจัง มันทำให้จุมพลได้แต่กระพริบตามอง มีความกังวลใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น ความกังวลใจความไม่แน่ใจ และอะไรหลาย ๆ อย่างก็กำลังตีกันวุ่น
แต่เมื่อริมฝีปากของเราสัมผัสกันเบา ๆ อีกครั้ง อารมณ์ที่มอดดับเพราะความไม่เข้าใจกันเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนก็กลับมาต่อกันติดอีกครั้ง เมื่อได้รับจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึก จุมพลก็ตอบรับ เมื่อได้รับสัมผัสร้อนแรงจากฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ลูบไล้เข้าไปภายในร่างกาย จุมพลก็ทำอย่างที่อีกฝ่ายทำ
คุณไอศูรย์ผละร่างกายออกห่างเล็กน้อย และถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ก่อนจะรั้งร่างของจุมพลเข้าไปหาและร่างกายของคนสองคนที่กำลังอยู่ภายในห้วงอารมณ์เสน่ห์หาก็กลับมาเติมเต็มความรู้สึกให้กันและกัน
“อือออ”
เสียงครางเบา ๆ ในลำคอของคนที่อยู่ใต้ร่างแสดงออกให้รู้ว่ากำลังเพลิดเพลินและรู้สึกดีกับสัมผัสที่กำลังได้รับอยู่ไม่น้อย
เสื้อยืดที่สวมอยู่ถูกรั้งขึ้น เผยให้เห็นผิวขาว ๆ ที่เริ่มแดงช้ำเพราะถูกขบเม้มฝากร่องรอยเอาไว้ตามเนื้อตัว ยอดอกสีแดงเข้มกำลังถูกดูดกลืน และฝ่ามือร้อนรุ่มก็ค่อย ๆ ลากไล้ลงไปที่ส่วนล่างของร่างกาย ก่อนจะสอดฝ่ามือเข้าไปในกางเกง ลูบไล้ที่ผิวเนื้อด้านในข้างหว่างขาอย่างแผ่วเบา สัมผัสความแข็งขืนของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายในอุ้งมือและกำลังตื่นตัวขึ้น กางเกงขาสั้นที่จุมพลใส่อยู่ถูกรั้งลงจนสุดปลายเท้า และความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในกางเกงก็ปรากฏออกมาให้เห็นชัด
อารมณ์ความรู้สึกไปไกลสุดกู่ยากจะดับได้ง่าย ๆ ถ้าร่างกายไม่ได้รับการปลดปล่อย
หยดน้ำใสหลั่งรินออกมาที่ส่วนปลายที่ตื่นตัวจนถึงที่สุดในเวลาไม่นาน
จุมพลยกหลังมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงครางของตัวเองเล็ดรอดออกมา และมืออีกข้างก็จับที่ไหล่ของคุณไอศูรย์เอาไว้แน่น
“อึก อือ”
สะโพกมนแอ่นขึ้น เมื่อฝ่ามือร้อนรุ่มค่อย ๆ รูดรั้งความต้องการของร่างกายให้ ร่างกายเคลื่อนไหวไปมาอย่างเชื่องช้า พร้อมกับที่ริมฝีปากร้อนคู่นั้นยังคงขบเม้มและดูดกลืนที่ยอดอกสองข้างของจุมพลอย่างใจเย็น
“พอ.........แล้ว”
เหมือนกำลังจะทนไม่ไหว และจุมพลก็พยายามสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผลักไหล่ของคนที่อยู่เหนือร่างให้ออกห่าง และคุณไอศูรย์ก็ยอมหยุดและค่อย ๆ หยัดกายขึ้นอย่างช้า ๆ
ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นทุกส่วนสัดของร่างกายภายใต้แสงไฟ
สิ่งที่จุมพลทำ ไม่ต่างจากที่อีกฝ่ายทำ แตะปลายนิ้วเบาๆ ที่ยอดอกสีเข้ม คลึงเค้นเบา ๆ และแนบริมฝีปากไปที่ยอดอกแข็ง ดูดกลืนเข้าไป และคนที่ได้รับการทำบางอย่างให้ก็แหงนเงยใบหน้าขึ้น ก่อนจะก้มกลับลงมา และลูบฝ่ามือเบา ๆ ที่เส้นผมของจุมพล รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า และดวงตาสองคู่ก็ได้สบกันอีกครั้ง
จุมพลลากไล้ปลายลิ้นจากยอดอกแข็งลงมาที่หน้าท้องแกร่ง จูบซ้ำเบา ๆ ก่อนจะดึงกางเกงวอร์มสำหรับใส่นอนของคนที่ยืนอยู่ลง จนเผยให้เห็นท่อนเอ็นแกร่งที่อยู่ในนั้น
ความชุ่มฉ่ำที่ส่วนปลายและอาการตื่นตัวจนถึงขีดสุด ทำให้จุมพลรู้ ว่าอีกฝ่ายก็มีอารมณ์ไม่ต่างกัน
ฝ่ามือเกาะกุมที่ความใหญ่โตเอาไว้
และค่อย ๆ รูดรั้งให้เบา ๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากับอีกฝ่ายที่มองอยู่ก่อนแล้ว และสายตาของคุณไอศูรย์ที่มองตรงมาก็เดาความรู้สึกกันได้ไม่ยาก
รู้.......ว่าคุณไอศูรย์ต้องการอะไร แต่.........ไม่รู้วิธีทำให้อีกฝ่ายพอใจ
สบตากันอยู่หลายครั้ง มันไม่ใช่แค่การปลุกเร้าอารมณ์กันแล้วให้จบไป แต่อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าเราสามารถปล่อยให้ความรู้สึกทำหน้าที่ของมันเองได้ ชั่งใจอยู่ซักพัก แล้วจุมพลก็ทำสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ
แตะปลายลิ้นเบา ๆ ที่ส่วนปลายของความแข็งแกร่งนั้น และผละใบหน้าออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่มองตรงมาแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น ไม่มีคำพูด ไม่มีการเรียกร้อง แต่จุมพลคิดว่าคงต้องทำ ทำ.......แบบที่คิดว่าพอทำได้
ปลายลิ้นแตะเบา ๆ ที่ส่วนปลายของความแข็งแกร่งในมืออีกครั้ง ไล้เลียไปตามความยาว และก็ผละใบหน้าออกห่าง
กลายเป็นคนไร้ประสบการณ์ไปอย่างไม่น่าเชื่อ และนั่นก็เรียกร้อยยิ้มให้กับคนที่ได้รับการปรนนิบัติขั้นพิเศษได้ไม่น้อย
จุมพลลองทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ แค่อยากทำให้อีกฝ่ายพอใจ
ผละใบหน้าออกห่างจากส่วนนั้น และยังคงกำท่อนเอ็นแกร่งเอาไว้ในมือ เงยหน้าขึ้นมองคนที่มองลงมา ดวงตาคมเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนารุนแรง ริมฝีปากที่แห้งผาก ขบเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าของคุณไอศูรย์แสดงความความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจนว่ากำลังต้องการ
“พอแล้ว ไม่เป็นไร”
แล้วคุณไอศูรย์ก็ขยับลงมานั่งอยู่ข้าง ๆ จุมพล ส่งยิ้มจาง ๆ ให้คนที่กำลังกังวลไม่น้อยกับสิ่งที่ทำ รั้งร่างของคนคนที่อยู่ตรงหน้ามากอดเอาไว้ และเรียวแขนของคนสองคนก็โอบรัดเข้าหากัน
ฝ่ามือกำลังทำหน้าที่แบบเดียวกัน ริมฝีปากพัวพันดูดดุนเข้าหากันไม่ห่าง
อารมณ์ใคร่กำลังประทุขึ้นเรื่อย ๆ อารมณ์ปรารถนาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ และความรู้สึกอุ่นวาบในอกก็ก่อตัวขึ้นพร้อม ๆ กับความสุข ถ้าสิ่งที่ทำอยู่เรียกว่าการแสดงความรู้สึกผ่านทางร่างกาย
ทั้งคุณไอศูรย์และจุมพลก็ค่อนข้างมั่นใจว่านี่คือการแสดงความรู้สึก “ชอบ” ในตัวตนของกัน
“จะไปยัง”
ใบหน้าคมผละออกห่างก่อนจะเอ่ยถาม และจุมพลก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ ดวงตากลมโตหรี่ปรือปรอยและใบหน้าก็แหงนเงยขึ้น เมื่ออารมณ์ความรู้สึกกำลังเตลิดไปไกล
“พี่....อึก.......อื้อออ”
ริมฝีปากขบเข้าหากันแน่น และเสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอยิ่งทำให้คุณไอศูรย์ต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น
“ปล่อยออกมาเลย ไม่ต้องกลั้น”
พยักหน้ารับ และจุมพลก็รั้งต้นคอของคุณไอศูรย์เข้าไปกอดเอาไว้แน่น เสียงครางแผ่วหวานที่ได้ยินชัด ยิ่งทำให้ต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น
“จุ้ม....ทำให้พี่ด้วย...อืมมม จะไปแล้วเหมือนกัน อึก”
ได้
จุมพลเร่งมือให้เร็วขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายทำ และเสียงครางด้วยแรงอารมณ์ของคนสองคนก็ดังขึ้นพร้อม ๆ กัน
“จุ้ม...อื้อ ไม่ไหวนะ จะไปแล้ว ซี้ดดด”
ได้ยินเสียงกระซิบบอกที่ข้างหู และจุมพลก็ยิ่งเร่งมือให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำแบบที่อีกฝ่ายทำ ทำในแบบเดียวกัน จนที่สุดร่างกายก็ทนไม่ไหว
“พี่.......พี่ไอซ์........อื้อ….”
ขบริมฝีปากแน่น และปลายนิ้วของจุมพลก็จิกลงที่ไหล่ของคนที่มอบความสุขทางกายให้ เสียงร้องครางด้วยแรงอารมณ์จนถึงวินาทีสุดท้าย ยิ่งเร่งให้อีกฝ่ายต้องทำบางอย่างให้เร็วขึ้น
“แตกเลยจุ้ม”
อือ
แตก........
“อ๊า อึก อื้อออออ”
ร่างกายของจุมพลกำลังเกร็งเพราะอารมณ์กำลังจะถึงที่สุด อาการกระตุกวูบหลายครั้ง ทำให้คุณไอศูรย์รู้ว่าอีกฝ่ายถึงจุดหมายแล้วหยาดหยดขุ่นขาวทะลักออกมาจากส่วนปลายของความแข็งขืนในฝ่ามือ
และคุณไอศูรย์ก็รั้งใบหน้าของจุมพลเข้ามาใกล้ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาที่ริมฝีปากบางอย่างรุนแรง
ดูดดุนปลายลิ้นของอีกฝ่ายเอาไว้ และจัดการร่างกายของตัวเองด้วยฝ่ามือของตัวเอง
รูดรั้งส่วนนั้นให้เร็วขึ้น และดูดกลืนปลายลิ้นของจุมพลเอาไว้ จนกระทั่งนาทีสุดท้ายที่ร่างกายถูกกระตุ้นจนเกิดอาการวูบไหวที่หน้าท้องก่อนจะปลดปล่อยและฉีดพ่นน้ำรักที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกายออกมาจนเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งฝ่ามือ
ลมหายใจหอบหนักเพราะกิจกรรมที่เพิ่งทำ
จุมพลยังมีอาการหอบน้อย ๆ และคุณไอศูรย์เองก็ไม่ต่างกัน แต่ยังคงโอบกอดกันอยู่อย่างนั้น และมอบสัมผัสอบอุ่นให้แก่กันและกันอยู่ไม่ห่าง
คุณไอศูรย์คลอเคลียปลายจมูกที่ข้างแก้มของคนที่ยังหลับตาแน่น ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างผละออกห่างจากกันเล็กน้อย
“เปื้อนเสื้อหรือเปล่า”
ได้ยินคำถามและจุมพลก็มองที่เสื้อของตัวเองก่อนจะเบ้หน้าเมื่อพบว่ามีบางส่วนของร่างกายกระเด็นเปรอะเปื้อนที่เสื้อ
“ว่าแล้ว”
ว่าแล้วตอนไหนครับ ผมไม่เห็นคุณว่าแล้วตอนไหนเลยครับคุณไอศูรย์
“เพราะแบบนี้คุณถึงถอดเสื้อเหรอ”
ใช่
เห็นคุณไอศูรย์พยักหน้า จุมพลก็หน้างอทันที
“ก็น่าจะบอกกันบ้าง”
ไม่รู้ว่าทำไมแค่เพียงคำพูดแค่นั้น กลับทำให้ยิ้มออกมาได้ กิริยาเง้างอนเหมือนเด็กๆ แบบนั้น ท่าทางแบบนั้น มันทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับอมยิ้ม
“ก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ ตอนแตกมันก็ต้องพุ่งออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว”
ก็รู้ แต่ไม่ทันคิดนี่ ก็น่าจะเตือนกันบ้าง