@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 753990 ครั้ง)

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เป็นรักในความแค้นซินะ ชาติหน้า จุ้มต้องเจอหญิงแน่ ดีไม่ไดี หญิงตายไปกลายเป็นผีอีแพง มาหลอกหลอนทุกชาติยังได้

ความรักที่หดหู่อย่างนี้ น่าสงสารทั้งจุ้มและหญิงเลย

อโหสิกรรมกันเถอะ ถ้ามีโอกาส :monkeysad:

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :ruready คืออ่านตอนนนี้จบแล้วทำไมเราไม่สงสารจุมพลว่ะ เหอะๆ เราสงสารไอศูรย์ว่ะ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน รักกันตลอดไป

นับตั้งแต่วันที่เธอทำร้ายจุมพลด้วยมีด ชีวิตของเธอไม่เคยสงบสุขอีกเลย เธอเคียดแค้นและโกรธเกลียดจุมพลมากกว่าเดิม เธอเสียใจที่จุมพลไม่ตายไปตั้งแต่วันนั้น เธอพยายามโทรและตามหาว่าคนที่เธอทำร้ายอยู่ที่ไหน แต่ก็ไร้ข่าวคราว

ทุกอย่างดูเงียบสนิท เพื่อนๆ ของพี่จุ้มไม่มีใครตอบได้ว่าพี่จุ้มหายไปไหน และเธอก็เริ่มคิดไปต่าง ๆ นานา พี่จุ้มไปอยู่กับใคร เธอไปตามที่บริษัท แต่วันนั้นเธอถูกลากออกมาเพราะใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก และเสียงโทรศัพท์ปริศนาก็ดังขึ้นในวันนั้น

“ผมไอศูรย์นะ คุณเป็นแฟนของจุมพลใช่มั้ย ผมคิดว่าคงไม่ค่อยดีที่คุณตามไปรังควาญเขาถึงบริษัท มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคุณ”

คน ๆ นั้นบอกว่าชื่อไอศูรย์ ไม่ต้องเดาเธอก็พอจะนึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร คนที่พาพี่จุ้มวิ่งออกจากบ้านไปวันนั้น
ผู้ชายตัวสูง ที่มีดวงตาคมกริบ คนที่หันมามองเธอครั้งสุดท้ายก่อนลากพี่จุ้มออกจากบ้าน ด้วยสายตาเย็นชาน่ากลัว

“....บอกมาแกเอาพี่จุ้มไปไว้ที่ไหน.....”

ที่จริงคุณไอศูรย์ไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องของครอบครัวใคร คุณไอศูรย์พอจะรู้อยู่บ้างว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีวันยอมจบง่าย ๆ เรื่องตามล้างตามอาฆาต อย่าหวังว่าจะจบ เพราะเธอคงไม่หยุดแน่ และก็เป็นจริงอย่างที่คิด เธอบุกไปหาจุมพลที่บริษัทจริง ๆ

“บอกมาว่าแกพาพี่จุ้มไปไว้ไหน พวกแกมันวิปริต เอาพี่จุ้มคืนมา ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน เขาเป็นของฉัน ชาตินี้ทั้งชาติเขาไม่มีทางไปจากฉันได้”

เธอทำเกินไป

“ผมไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับจุมพล วันนั้นผมแค่บังเอิญมาส่งเขาแค่นั้น”

ที่จริงไม่อยากชี้แจง แต่การที่ถูกเข้าใจผิดแบบนี้มันคงไม่ดี

“อย่ามาโกหกตอแหล นึกว่าฉันจะเชื่อเหรอ พี่จุ้มมันยิ่งกว่าตอแหล นี่คงคิดว่าฉันจะมีปัญหาแค่ผู้หญิงสินะ แม้แต่ผู้ชายฉันก็ไม่มีทางให้พี่จุ้มคบ”

ไปกันใหญ่แล้ว

“ผมไม่ได้คบกับแฟนคุณ”

บอกแค่นั้น และตั้งใจจะวางสาย แต่เธอก็ไม่เลิก

“ทุเรศ แกมันวิปริต อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ฉันจะตามล้างตามผลาญให้ถึงที่สุด ที่โทรมานี่คงอยากให้ฉันตายใช่มั้ย พวกแกนั่นแหละที่จะต้องตายทั้งหมด คอยดู”

เธอพูดคล้ายคนเสียสติ และคุณไอศูรย์ก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะกดวางสายไป แบบนี้ท่าทางจะไม่ดี เธอกำลังเป็นบ้า บางทีเธออาจบ้าไปแล้วก็ได้ และเมื่อเธอบ้า คนที่ไม่ปลอดภัยก็คงจะหนีไม่พ้น คนที่อยู่กับคุณไอศูรย์ในเวลานี้

“ประกบไว้อย่าให้เธอทำอะไรได้”

สั่งลูกน้องและคุณไอศูรย์ก็วางโทรศัพท์ลง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น เรื่องไม่สมควรยุ่งก็ไม่อยากยุ่ง แต่อยู่ดีๆ ก็ต้องเข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่อยากยุ่งด้วย เรื่องน่าปวดหัว เรื่องที่ไม่ควรจะเป็นเรื่องของคุณไอศูรย์เลย และหลังจากนั้น รายงานจากลูกน้องก็มีเข้ามาเรื่อยๆ

“เธอพังรถครับ”

“เธอพยายามติดต่อกับพ่อแม่ของคุณจุมพลครับ”

“เธอพยายามโทรไปคุกคามเพื่อนร่วมงานของคุณจุมพลครับ”

และอีกหลาย ๆ เรื่องก็ตามมาอีกไม่จบไม่สิ้นจนคุณไอศูรย์คิดว่านี่มันเกินไป คงต้องทำอะไรสักอย่างให้เธอรู้ตัวสักที ว่าคุณไอศูรย์ไม่ใช่เพื่อนเล่นของเธอ

“ผมไอศูรย์นะ คุณทำเกินไปแล้วรู้ตัวหรือเปล่า”

โทรหาเธอในวันหนึ่ง และเธอก็หัวเราะตอบกลับมา

“ออกมาได้แล้วเหรอ อย่านึกว่าเรื่องนี้จะจบ บอกมาแกเอาพี่จุ้มไปไว้ไหน”

เธอคงเสียสติไปแล้วจริง ๆ และคุณไอศูรย์ก็คิดว่า สมควรจะเสียสติไปพร้อมกับเธอด้วยก็ดี

“ระหว่างคุณกับเขามีปัญหากันผมก็พอรู้ พูดกันด้วยเหตุผลนะคุณมยุรี คุณทำแบบนี้แล้วคุณจะได้อะไร”

ไม่ได้อะไรก็ไม่ได้

“คนนอกไม่มีสิทธิ์มายุ่ง เอาพี่จุ้มคืนมา”

คนนอกเหรอ คนนอกงั้นเหรอ คำพูดคำนี้ มันทำให้คุณไอศูรย์รู้สึกบางอย่างขึ้นมา ผมเป็นคนนอกเหรอ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโมโห แต่เพราะคำว่าคนนอกคำเดียว มันทำให้คุณไอศูรย์เริ่มโมโหจนชักจะทนไม่ไหว

“ผมกับเขาจะว่าไปก็ไม่ใช่คนนอกอย่างที่คุณคิดหรอก “นอนด้วยกัน” กินด้วยกัน คุณยังคิดว่าผมเป็นคนนอกอีกมั้ยล่ะ”

เน้นคำพูดบางอย่างให้เธอตีความ และเธอก็ยิ่งคุ้มคลั่งสติแตกอย่างที่คิด

“ไอ้สารเลว แกมันทุเรศ แกมันวิปริต”

เธอยังคงด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่หยุด และคุณไอศูรย์ก็เหลืออดกับเธอเต็มที

“เรื่องงี่เง่าแบบนี้ ถ้าคุณไม่จบ ผมจะจบมันให้เอง”

คุณไอศูรย์รู้สึกหงุดหงิดใจกับผู้หญิงไร้สติคนนี้เกินทน กดวางสายและโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนโต๊ะ ความหงุดหงิดใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และแม้ไม่อยากยุ่งก็คงต้องยุ่งเรื่องนี้ซะแล้ว

“แล้วคุณจะได้รู้ ว่าที่คุณทำอยู่ มันไม่ได้เศษเสี้ยวของที่ผมจะทำหรอกคุณมยุรี”

หลังจากสร้างความความหงุดหงิดใจให้คุณไอศูรย์วันนั้น ชีวิตของหญิงไม่เคยได้อยู่อย่างมีความสุขอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ผมไอศูรย์นะ เป็นไงบ้างคุณมยุรี ผมส่งดอกไม้ไปให้ คุณชอบมั้ย ดอกกุหลาบสีแดง สวยเชียวล่ะ”

คนที่กำลังจะเป็นโรคประสาทเพราะถูกคุกคาม กลายเป็นหญิง

“วันนี้จุ้มตื่นสายนิดหน่อยนะ เมื่อคืนเขานั่งเล่นเกมส์ดึกไปหน่อย ตอนเช้าผมปลุกแล้ว เขาก็ไม่ค่อยอยากตื่น อีกสองสามวันผมจะพาเขาไปตัดไหมนะ แผลแห้งสนิทแล้ว”

“แกมันโรคจิต”

เธอพูดออกมาเสียงรอดไรฟัน และเสียงหัวเราะเบา ๆ จากปลายสายก็ดังขึ้นก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะตัดไป เมื่อเธอคิดจะทำอะไรบางอย่าง จะมีดอกไม้ส่งมาให้เธอ และรวมถึงครอบครัวของเธอด้วยที่จะได้รับดอกไม้ บางครั้งพ่อแม่ของเธอก็ถูกรับไปกินข้าว พวกท่านกลับมาอย่างปลอดภัยก็จริง แต่คนที่คุกคามเธออยู่ตลอดก็ไม่เคยปล่อยให้เธอได้มีความสุขเลยสักวัน

“พ่อแม่คุณชอบอาหารจีนนะผมว่า”

ใครบางคนโทรมาบอกเธอแค่นั้น และหญิงก็รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้าจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน ก็มีคนประกบอยู่ตลอด
ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ คน ๆ นั้นรู้หมดทุกอย่าง ......ไอศูรย์ สหัสสิงห์เดชากุล…..ทายาทมรดกเลือดของตระกูลพันล้าน....
คน ๆ นั้นอันตรายเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างเธอจะสู้ด้วยไหว

“แม่ ถ้าวันไหนมีคนมารับไปกินข้าวอีก แม่อย่าไปนะ”

บอกกับแม่ด้วยความไม่สบายใจ และแม่ก็เกิดนึกสงสัยขึ้นมา

“ทำไมล่ะหญิง คุณไอศูรย์เขาดูดีมากเลยนะ พูดจาก็ดี เขาว่าเป็นเพื่อนหญิง เขาอยากตอบแทนที่หญิงเคยช่วยเขาเอาไว้ มีเพื่อนดี ๆ แบบนี้ก็ดีแล้วนะลูก”

พ่อแม่ของเธอไม่เคยรู้ และหญิงก็ไม่กล้าพูด คน ๆ นั้นทำอะไรทุกอย่างได้หมด แค่เพียงพลิกฝ่ามือ เรื่องของพี่จุ้ม เล็กน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเรื่องที่เธอต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ คุณไอศูรย์คนนั้นไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าส่งดอกไม้ให้เธอ และพาพ่อแม่ของเธอไปกินข้าว แต่แบบนี้มันยิ่งกว่าการคุกคาม จากผู้หญิงสติแตก ที่คอยตามล่าคนรักของตัวเอง ตอนนี้หญิงต้องตั้งสติใหม่ และพยายามให้ตัวเองอยู่ห่างคนอย่างไอศูรย์ให้มากที่สุด

เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา และเขาก็รู้ว่าเธอไม่ใช่..........เรื่องระหว่างเธอกับพี่จุ้ม มันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ไปแล้ว เมื่อเทียบกับเรื่องนี้

..........บางทีอีกไม่นาน คนที่เธอคิดมาตลอดว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันทอดทิ้งเธอไปตลอดชีวิต.....คงต้องหลุดลอยจากเธอไปจริง ๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 18:04:48 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
หญิงรื้ออัลบั้มรูปเก่า ๆ ที่เคยถ่ายเก็บเอาไว้ขึ้นมาดู วันหนึ่งเมื่อเธอเริ่มตั้งสติได้เธอก็เริ่มกลับมาคิดทบทวนเรื่องบางอย่าง
เธอไม่สามารถเป็นผู้หญิงสติแตกที่ตามล่าจุมพลได้อีก แต่เธอกลายเป็นแค่ผู้หญิงที่ถูกกักบริเวณให้อยู่ในส่วนของเธอ ไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ของจุมพลโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ภาพถ่ายหลายใบที่อยู่ในอัลบั้มรูปเก่า ๆ ถูกรื้อค้นขึ้นมาดู หญิงกำลังเปิดอัลบั้มรูปไปเรื่อย ๆ และเธอก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่น

เมื่อก่อนพี่จุ้มยิ้ม เมื่อก่อนเธอก็ยิ้ม พี่จุ้มและเธอยิ้มไปด้วยกัน ยิ้มให้กัน ดวงตาของพวกเราปรากฏแต่ร่องรอยของความสุขมาตลอด

เรารักกัน พี่จุ้มรักหญิง หญิงก็รักพี่จุ้ม ยิ่งมองรูปถ่ายที่ถ่ายด้วยกันแล้วเธอยิ่งขมวดคิ้วมุ่น ทำไมถึงจำแทบไม่ได้เลย ความสุขแบบนี้ที่เคยได้รับ ทำไมเธอจำมันแทบไม่ได้ เธอเคยมีความสุขขนาดนี้ด้วยเหรอ เธอเคยยิ้มได้ขนาดนี้เลยเหรอ

ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นที่ทำให้เธอเป็นทุกข์มาตลอด ทำให้เธอยิ้มได้ขนาดนี้เลยเหรอ หญิงเปิดดูรูปไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุดท้าย เป็นรูปของจุมพลและหญิงกำลังแนบใบหน้าเข้าหากัน พลิกดูข้างหลังรูป มีลายมือขยุกขยิกของเราสองคนที่เขียนร่วมกัน

..............พ่อจุ้ม..............แม่หญิง............ รักกันตลอดไป.....12/12/25xx

เธอกวาดสายตาไปที่ข้อความนั้นซ้ำ ๆ แล้วมือของเธอก็เริ่มสั่น .............แล้วน้ำตาของเธอก็เริ่มหยดลงที่ข้างแก้ม

เธอเคยมีความสุขมากขนาดนี้เลยเหรอ เราสองคนเคยมีความสุขกันมากขนาดนี้ทำไมเธอถึงจำมันไม่ได้ พี่จุ้มเคยทำให้เธอมีความสุขมากขนาดนี้ เราเคยยิ้มให้กันอย่างมีความสุขมากขนาดนี้ แต่เพราะความผิดพลาด ทำให้เธอเกลียดชังพี่จุ้มจนไม่ยอมให้อภัย

ความสุขหายไปตั้งแต่วันนั้น.........วันที่เธอได้รู้ว่าพี่สาวของเธอมีอะไรกับพี่จุ้ม และเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นในวันที่เธอเสียลูกไป ทั้งเธอและพี่จุ้มกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว เรื่องของเราจบลง ตั้งแต่เธอตัดสินจะไม่ให้อภัยพี่จุ้มไปตลอดชีวิต

วันนั้นความรักของเราสองคนพังทลายลงไม่มีชิ้นดี และหลังจากนั้นเราสองคนก็อยู่ด้วยกันด้วยความเกลียดชังตลอดมา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 18:03:09 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“คุณจะคืนพี่จุ้มให้ฉันได้มั้ย”

หญิงพูดขึ้นในวันหนึ่ง เมื่อคุณไอศูรย์ที่เงียบหายไปนานโทรเข้ามาบอกอะไรบางอย่าง

“ผมคงไม่คืน ผมเองก็มาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับได้แล้ว”

น้ำเสียงของคนพูดราบเรียบนิ่งสนิท และหญิงก็ได้แต่นิ่งงันกับคำตอบแบบนั้น

“ตอนแรกผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยจุ้มไป แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม”

รู้แล้วเหรอ.............

“ผมไม่ได้ให้คุณยกจุ้มให้ผมนะ ถึงคุณไม่ยกให้ผมก็ต้องได้เขาไว้อยู่ดี”

ผู้ชายคนนั้นทำได้ทุกอย่าง และหญิงรู้ ถ้าคนอย่างไอศูรย์ต้องการอะไร เขามีอำนาจและเงินทองมากมายที่จะช่วยบันดาลให้ได้สิ่งที่เขาอยากจะได้

“พรุ่งนี้คุณจะได้พบจุ้ม และเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย คุณอยากจะพูดอะไรกับจุ้มคุณก็พูดซะ เลือกเอาแล้วกันคุณมยุรีว่าคุณอยากจะทำอะไร เพราะหลังจากนี้ คุณไม่มีสิทธิ์ได้เจอหน้าจุ้มอีกแล้ว”

หญิงเพิ่งรู้ ในวินาทีนั้น ที่ผ่านมาเธอพลาดมาตลอด พลาดให้กับความโง่เง่าของตัวเธอเอง ที่เธอคิดมาตลอดว่าพี่จุ้มไปจากเธอไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เธอลืมคิดไป ว่าคนอื่นสามารถพรากพี่จุ้มไปจากเธอได้ และคุณไอศูรย์คนนั้น ก็ทำสิ่งที่เธอไม่คิดว่าใครจะทำแบบนี้กับเธอได้

“ถ้าพรุ่งนี้คุณยอมจบ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด ผมก็จะให้มันจบไปด้วย แต่ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่ยอมจบ เราก็ไม่ต้องจบด้วยกันทั้งหมด”

หญิงเรียกสิ่งนี้ว่าการถูกคุกคาม การคุกคามที่เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือทำอะไร ได้แต่ก้มหน้ารับไปแบบเงียบ ๆ
ความรักความแค้นพวกนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เจอหน้าพี่จุ้มอีกครั้ง เธอจะตบหน้าพี่จุ้ม จะถามเหมือนที่เคยถามว่าทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง

เธอยังคงเกลียดชังพี่จุ้ม เธอยังคงโกรธพี่จุ้ม เธอยังคงแค้นพี่จุ้มมากจนเกินกว่าจะให้อภัยได้ง่าย ๆ
แต่เมื่อได้เจอหน้ากันครั้งสุดท้ายจริงๆ เธอกลับทำไม่ลง ทั้งที่เธอเคยเอามีดแทงพี่จุ้มด้วยความเกลียดชัง และต้องการให้พี่จุ้มตายไปซะ แต่พอได้เจอหน้ากันอีกครั้งเธอกลับทำอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ไม่ได้ หัวใจของเธออ่อนยวบ เมื่อพี่จุ้มดึงเธอเข้ามากอดแล้วถามเธอว่าจะทิ้งกันได้ลงจริง ๆ เหรอ

เธอยอมรับ เธอทำใจไม่ได้ เธอทำใจไม่ได้ที่จะต้องจบกันไปแบบนี้จริง ๆ และเธอเพิ่งรู้ในวันที่เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวพี่จุ้มอีกต่อไป
เธอยังรักพี่จุ้มอยู่เสมอ จนกระทั่งวินาทีที่เรากอดกันครั้งสุดท้าย

หญิงหยิบรูปถ่ายในอัลบั้มรูปแห่งความทรงจำขึ้นมาอีกครั้ง เปิดไปที่หน้าสุดท้าย

รอยยิ้มจาง ๆ ของเธอค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาทีละน้อย แล้วน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลหยดลงที่รูปภาพแห่งความสุขใบนั้น

..............พ่อจุ้ม..............แม่หญิง............ รักกันตลอดไป.............


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 18:08:54 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :hao5:  กว่าจะหูตาสว่างก็เสียคนที่รักไปแล้ว
ปล.มีใครเอาเรื่อง(นัง)พี่สาวของหญิงบ้างเนี่ย

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มาคิดได้ก็เมื่อสายไปแล้วหญิงง  :hao5:

ปล่อยจุ้มไปแล้วเริ่มชีวิตใหม่เก็บความทรงจำดีๆระหว่างกันไว้ดีกว่า  :mew6:


พี่ไอซ์พาน้องจุ้มกลับเร็ว กลัวจุ้มเปลี่ยนใจ  :mew2:

ออฟไลน์ ultue

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ตอบ คุณ fuku

เรื่องรักเกิดในแผนกเลขาไม่มีครับ
ชื่อเรื่องว่าอะไรค่ะอยากตามอ่าน :pig4: :pig4:
มีแต่เรื่องยาวของ คุณนัท กับ คุณรัชชานนท์  :L1:

เรื่องราวความรัก สุดน่ารัก ของคุณนัท ผู้บริหารโรงงาน ฉายาเป็ดน้อย  กับพี่ฟ้า หรือคุณเลขารัชชานนท์
ที่มีความยาวมากกว่า 41 ตอนครับ ซึ่งแยกออกไปจากเรื่อง รักเกิดในแผนกขนส่ง ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 19:28:53 โดย ultue »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โฮฮฮฮฮ อ่านไป อ่านมา มันเศร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ที่สอบถามเรื่อง นายกับคุณเลขา



ยังไม่มีลงในนี้จ่ะ ถัดจากจุ้มไอซ์ ถ้ายังมีคนพอจะอยากอ่านอยู่บ้าง จะลงให้ แต่มันแทบจะไม่เกี่ยวกับแผนกขนส่งเลย เป็นเรื่องระหว่างนัธพันธ์เจ้าของโรงงาน กับ คุณเลขา ล้วน ๆ

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
 
    อยากอ่าน ๆ เรื่องของคุณนัทกับพี่ฟ้าฮะ      :m5:

bozang

  • บุคคลทั่วไป
มารออ่านต่อๆ >.< เนื้อเรื่องกำลังเจ้มจ้นเบย อิอิ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน จาก

จุมพลกลับมาในสภาพเซื่องซึม กินข้าวด้วยกัน แต่กินไปแค่ไม่กี่คำ ก็บอกว่าพอแล้ว ไม่ค่อยหิว ปกติจะมีเรื่องให้พูดคุยกันตลอด แต่ในวันนี้เราไม่มีเรื่องคุยกัน

“ผมกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วใช่มั้ย”

เงยหน้าขึ้นถามคนที่นั่งกินข้าวด้วย คุณไอศูรย์มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ทุกข์ร้อนแต่ตอบคำถามของจุมพลด้วยการวางช้อนกับส้อมลงทันที จงใจให้รู้ว่าไม่กินข้าวแล้วและลุกขึ้นเดินหนีไปดื้อ ๆ

ไม่มีคำพูดปลอบใจ ไม่มีการแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดนั้นคือคำตอบของคุณไอศูรย์ แม้ไม่มีคำพูดออกมา แต่จุมพลก็รู้คำตอบอย่างแน่ชัด ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ รู้ได้ทันทีว่าไม่มีทางที่ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทุกทีผมไม่เคยคิดอะไร แต่วันนี้ผมเพิ่งคิดได้

...........คุณไอศูรย์ คุณเป็นคนที่ทั้งโหดร้าย และเย็นชาเหลือเกิน...........ทั้งที่คุณก็เห็นว่าเราสองคนร้องไห้กันมากขนาดไหน
คุณก็รู้ว่าเรากลับไปเริ่มต้นกันใหม่ได้ แต่คุณไม่ยอมให้ผมกลับไปแล้ว ผมไม่น่าปากพล่อย บอกว่าไม่ใช่ของเล่นของคุณเลย
เพราะตอนนี้คุณเล่นพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองให้ผมเห็นอย่างลึกซึ้งที่สุด คุณจริงจังกับผมมาก ไม่ใช่ต้องการจะเล่น ๆ ด้วย แต่กลายเป็นตัวผมเอง ที่ไม่พร้อมที่จะให้คุณจริงจังด้วย

โทษคุณก็ไม่ถูก ผมต้องโทษตัวเอง ที่เป็นคนใจคอโลเล สุดท้ายคนที่อยู่ในสถานะกลับไม่ได้ไปไม่ถึง ก็คือผมเอง จุมพลเก็บจานชามวางลงไปในซิ้งล้างจาน จัดการล้างจานและคว่ำเอาไว้ที่ชั้นวางเรียบร้อย เช็ดมือจนแห้ง และก็เดินออกมาจากครัว คุณไอศูรย์ไม่มีคำพูดอะไรเลยในวันนี้ เราเคยทะเลาะกันบ้างก็จริง แต่เป็นการกลั่นแกล้งและยั่วโมโหกันไปมามากกว่า ไม่ใช่บรรยากาศอึมครึมที่ต่างคนต่างไร้คำพูดกันอย่างนี้

จุมพลอยากจะพูดบางอย่างกับคนที่นั่งนิ่ง ๆและทำงานไปเรื่อยๆ อ้าปากหลายครั้ง อยากจะพูดอยากจะถามอะไรตั้งมากมาย
แต่ก็ต้องหุบปากและเดินตรงไปที่หน้าโซฟาที่เป็นที่นั่งประจำของตัวเองในทุก ๆ วัน เรื่องของผมกับหญิงมันจบไปแล้ว
สิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้ คือเราไม่มีทางเดินกลับไปที่เดิมของเราสองคนได้ ได้แต่เก็บความทรงจำที่เคยมีต่อกันเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ

เก็บเอาไว้............

จุมพลนั่งมองปลายนิ้วของตัวเองสลับกับมองแผ่นหลังของคนที่นั่งทำงาน คุณไอศูรย์นิ่งเงียบตั้งแต่เราเดินออกจากโรงแรมที่นัดพบหญิงเพื่อไปเคลียร์เรื่องทุกอย่างด้วยกัน เราต่างรู้ เกมส์นี้มีคนควบคุม และคนควบคุมเกมส์ที่แท้จริงคือคุณไอศูรย์ เราสองคนไม่มีสิทธิ์เลือกใด ๆ ทั้งสิ้น จุมพลรู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางทำอะไรได้อีกแล้ว ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับไป โดยไม่มีปัญญาปริปากพูดอะไรได้ ควรรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่ในความเจ็บปวดนั้นกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนที่แสนเย็นชาที่ทำร้ายจิตใจกันได้ลงคอ ....................คุณโคตรจริงจังกับผม................... จริงจังมากที่สุด แต่คุณไม่เคยพูดออกมาเท่านั้น

การกระทำบางอย่างมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดร้อยพัน

จะมีผู้ชายคนไหนกล้าไปขอผู้ชายด้วยกันเอง จากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก และในขณะนี้ก็ยังรักกันอยู่ เพียงแต่....ก่อนหน้านี้เราไม่พยายามเข้าใจกันเท่านั้น ผมรู้คุณเองก็มีศักดิ์ศรี การทำแบบนี้ ตัวคุณเองก็เสียหาย มีสิทธิ์ถูกมองอย่างเหยียดหยามได้ง่าย ๆ

แต่คุณก็ยังทำ คุณกล้าขอผมกับหญิง แค่สิ่งนี้ก็พิสูจน์ความจริงใจของคุณให้ผมรู้โดยไม่ต้องพูดกันให้มากความแล้ว เรื่องที่ผมสงสัยยังมีอยู่อีกเล็กน้อยเท่านั้น คุณรู้สึกกับผมเกินกว่ารูมเมทตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณไม่เคยแสดงปฏิกิริยาอะไรให้ผมรับรู้เลย
ผมเป็นแค่ไอ้โง่คนหนึ่งที่อยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ไม่เคยรู้ว่าที่จริงแล้วคุณคิดกับผมยังไง

“คุณ.........ไอ.......ศูรย์....ครับ”

จุมพลสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และก็ตัดสินใจเรียกคนที่กำลังทำงานอยู่ คุณไอศูรย์เหมือนชะงักนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หมุนเก้าอี้หันหน้ามามองหน้าของจุมพลนิ่ง ๆ อย่ามองผมแบบนั้นเลย ผมทำตัวไม่ถูกแล้ว ผมไม่กล้าสู้สายตาคุณเลย พอถูกคุณมองด้วยท่าทีนิ่งเฉยแบบนี้ ผมก็นึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ

ผมไม่เคยคิดว่าคุณน่ากลัวเลยนะ เพิ่งมีวันนี้แหละที่ผมรู้สึกว่า.............ผมกลัวคุณ...........

“ผม....ผม...กลับบ้าน.....ได้แล้วใช่มั้ยครับ...เรื่องของผม.....ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว”

พูดสิ่งที่ใจคิด แต่น้ำเสียงเริ่มเบาลงเรื่อย ๆ

คุณไอศูรย์ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ไม่นานคนที่เงียบมาตลอดก็ยอมตอบ

“ตามใจ”

แค่นี้เองเหรอ ทั้ง ๆ ที่เป็นคุณเองที่ลากผมมาด้วยจนป่านนี้ แต่คุณก็ตอบผมง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ

“แล้ว.....เอ่อ กุญแจบ้านกับกุญแจรถ”

คุณไอศูรย์เปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน และหยิบทั้งกุญแจบ้านและกุญแจรถของจุมพลออกมาวางไว้บนโต๊ะ

“................”

วางสิ่งที่จุมพลทวงถามเอาไว้ และคุณไอศูรย์ก็หมุนเก้าอี้กลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีก
คนที่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากกลายเป็นจุมพล นั่งหายใจไม่ทั่วท้องอยู่นาน สุดท้ายตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาคุณไอศูรย์ที่โต๊ะทำงาน

เราอยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เหมือนอยู่กันไกลแสนไกล จุมพลหยิบกุญแจบ้านและกุญแจรถขึ้นมาถือเอาไว้ และมองคุณไอศูรย์ที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ

“ผม.......กลับตอนนี้.....เลย...ได้มั้ย”

ที่จริงไม่จำเป็นต้องขออนุญาต แต่ไม่รู้ทำไมการขออนุญาตถึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จุมพลคิดว่าต้องพูดกับคุณไอศูรย์ไปแล้ว

“ได้”

ทำไมถึงได้ตอบแค่นั้น ทำไมถึงได้พูดแค่นั้น ทำไมถึงได้เย็นชากับผมขนาดนั้น คุณเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนบงการชีวิตผม พอคุณได้ทุกอย่างตามใจตัวเองแล้ว คุณก็มาเย็นชาใส่ผม ทั้งเมินเฉย ทั้งเย็นชาใส่ ทั้งที่สภาพจิตใจผมตอนนี้เป็นยังไงคุณก็ไม่คิดจะรับรู้ คุณใจร้ายกับผมมากเลยนะ คุณบังคับผมทางอ้อมให้เลิกกับหญิง แล้วคุณก็มาเมินเฉยใส่ผม

ผมปวดหัว ผมไม่รู้ว่าอะไรกำลังไหลเข้ามาในสมองผมบ้าง ทำไมคุณไม่สงสารผมเลย คุณเย็นชากับผมขนาดนี้ได้ยังไง
แม้คำปลอบใจสักคำก็ไม่มี ความจริงจังของคุณ มันกำลังจะทำให้ผมขาดใจตาย

จุมพลกำกุญแจรถและกุญแจบ้านเอาไว้แน่น และหันหลังเดินจากไป หัวใจไม่เข้มแข็งพอที่จะพูดอะไรกันอีก
ไม่มีคำพูดอะไรมากไปกว่านี้ คุณไอศูรย์ไม่ยื้อ และไม่ห้าม ปล่อยให้จุมพลเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ

เสียงประตูห้องปิดลงแล้ว

และคนที่ทำหน้านิ่งเฉยมาตลอดทั้งวันก็วางปากกาลงและเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง
ที่ไม่ห้ามไม่ใช่ไม่อยาก ที่ไม่พูดไม่ใช่ไม่อยากพูด ที่ทำเป็นนิ่งเฉย ไม่ใช่อยากจะเย็นชา

แต่ที่ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาทั้งสิ้น ก็เพราะว่า.............

คุณไอศูรย์สงสารจุมพลมากเหลือเกิน จุมพลจะเจ็บปวดขนาดไหนที่ได้รู้ว่าผู้หญิงที่ทั้งบ้าและอาละวาดจะเอาชีวิตตัวเอง สุดท้ายก็ยังรักอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกเจ็บปวดมันฉายชัดออกมาในแววตา ทำไมจะไม่รู้ว่าจุมพลเจ็บปวดขนาดไหน

แต่ที่ต้องทำเป็นเฉยอยู่ตอนนี้ก็เพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ แยกคนที่รักกันออกจากกันมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีนักหรอก

ปกติใช้อำนาจบารมีและทรัพย์สิน เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาไว้ในมือตลอด โดยไม่รู้สึกรู้สา

แต่ครั้งนี้ คุณไอศูรย์เองก็รู้สึกเจ็บไม่น้อย เป็นครั้งแรกที่ใช้สิ่งเหล่านั้นแล้ว ความเจ็บปวดย้อนมาตกที่ตัวเอง
ไม่ใช่ผมไม่รู้สึกอะไรนะ ที่บังคับคุณแบบนั้น แต่ผมเห็นแก่ตัวเกินกว่า จะปล่อยให้คุณหลุดลอยไปจากชีวิตผมได้จริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
น่าแปลกที่หลังกลับมาอยู่คนเดียวแล้ว จุมพลไม่มีน้ำตาสักหยด

ทาวเฮ้าส์เล็ก ๆ สองชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยแค่เพียงเล็กน้อย และพื้นที่หน้าบ้านก็จอดรถได้แค่หนึ่งคัน รังรักเล็ก ๆ ที่สร้างเอาไว้เพื่ออยู่ด้วยกันสองคน สุดท้ายมันก็กลายเป็นสถานที่ ที่มีความทรงจำทั้งดีและร้ายเต็มไปหมด จุมพลกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย และไขกุญแจเข้าไปในบ้าน ฝุ่นไม่มี ทุกอย่างถูกจัดแต่งให้เข้ารูปเข้ารอยเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

คงไม่ต้องเดาว่าฝีมือใคร ที่จัดการดูแลให้ตลอดในระหว่างที่จุมพลไปอยู่ที่คอนโดด้วย

ครั้งหนึ่งเคยคิดหวังมาตลอด ว่าอยากจะใช้ชีวิตสงบ ๆ สักที อยากจะหลุดจากการการถูกหญิงไล่ล่า แต่พอวันนี้ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว กลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับมันเลย เปิดไฟทิ้งเอาไว้ และจุมพลก็ค่อย ๆ เอนกายลงนอนที่โซฟา

หลับตาลงและยกหลังมือขึ้นก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้ม คิด ๆ แล้วก็นึกเหยียดหยามและสมเพชตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่หัวใจโลเลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยังรักหญิงอยู่ แต่ในหัวใจก็มีใครบางคนเข้าไปอยู่ด้วยอีกคนซะแล้ว

ห้าทุ่มแล้วนะ คุณทำอะไรอยู่ อยู่คนเดียวจะชงกาแฟเป็นเหรอ เสียบกระติกน้ำร้อนยังไม่รู้เลยว่าน้ำในกระติกมีหรือเปล่า
เสื้อกล้ามตัวที่คุณใส่ประจำ ป้าแม่บ้านซักแล้วนะ แต่ผมไม่เห็นว่าป้าแกเอากลับมาแล้ว แต่คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะก็เห็นว่าตัวอื่น ๆ ก็พับอยู่ในตู้

จริงสิ คุกกี้ในโหลมันใกล้จะหมดแล้วนะ คุณไม่ต้องซื้อมาเติมแล้วก็ได้ เพราะผม...........ไม่ได้อยู่กับคุณแล้ว..........
นาฬิกากันดั้มโง่ ๆ นั่นน่ะ ผมเห็นนะว่าคุณทำขากันดั้มหัก ทำไมคุณไม่ระวังเลยวะ ผมอุตส่าห์ซื้อให้เลยเชียวนะ

ห้าทุ่มกว่าแล้ว คุณยังทำงานไม่เสร็จอีกแล้วใช่มั้ยครับ...........ผมจะนั่งเล่นเกมส์รอเป็นเพื่อนไปเรื่อย ๆ

.............................................................
..............................................................

................แปลกชิบหายเลยวะ ยิ่งคิดกูยิ่งอยากร้องไห้...........

คุณไอศูรย์ครับ.........ผมรู้สึกเหมือนจะตาย.......เมื่อไม่มีคุณอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้……….

ผมมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวเวลาที่เราต้องอยู่ห่างกัน คุณไอศูรย์คุณไม่รู้หรอกครับ.............

แค่เพียงวันเดียวที่ไม่ได้เจอคุณ ผมคิดถึงคุณจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“จุ้ม.....ไปชงกาแฟซิ”

สั่งเหมือนทุกวัน แต่ลืมว่าทุกวันที่สั่งมีคนทำให้

“เร็วๆ.............นะ”

พูดออกไปจนจบประโยค ถึงได้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนที่มักทำหน้างี่เง่าและต้องให้พูดซ้ำซาก....... ไม่อยู่แล้ว
นิ่งอึ้งกับความรู้สึกของตัวเอง ภายในอกคล้ายมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นก้อนหนัก ๆ จุกอยู่ข้างใน

กลับบ้านไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วนี่นะ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้กลับไปด้วย คุณไอศูรย์เหลือบมองนาฬิกาและเห็นว่าเป็นเวลาที่ปาเข้าไปเกือบตีสอง ปิดคอมพิวเตอร์ และลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ เตรียมอาบน้ำพักผ่อน แต่ทุกก้าวที่เดินสายตากลับมองไปที่หน้าโซฟาที่มักมีใครบางคนนั่งอยู่ตรงนั้น บางครั้งจุมพลก็มักพูดคนเดียวบ่อย ๆ บางครั้งพูดไปหัวเราะไปคนเดียว จนคุณไอศูรย์ต้องแกล้งว่า หาว่าจุมพลเป็นบ้าที่พูดคนเดียว

จุมพลนั่งเล่นเกมส์เป็นเพื่อนทุกวันจนกว่าจะทำงานเสร็จ และเราเข้านอนพร้อมกันทุกคืน

ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้นึกถึง แต่คุณไอศูรย์ก็ทำได้แค่ถอนหายใจยาว ๆ และเดินเข้าห้องไปเงียบ ๆ
อาบน้ำเรียบร้อย และเดินมานั่งอยู่บนเตียง ทุกวันจะต้องแบ่งกันว่าใครจะนอนด้านนอก หรือด้านใน แต่วันนี้ไม่ต้องแบ่งกันแล้ว เพราะพื้นที่ของเตียงทั้งหมด กลายเป็นของคุณไอศูรย์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ล้มตัวลงนอนและปิดไฟเรียบร้อย ขยับเพื่อหาหมอนข้างมากอด แต่เอาเข้าจริงหมอนข้างก็ไม่ได้ทำให้อุ่นกายอุ่นใจ และหลับสนิทได้เหมือนกับหมอนข้างมีชีวิตคนนั้น

คุณไอศูรย์เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาไว้ในมือและนอนมอง...........
ตั้งใจจะโทรออกหลายครั้ง กดหมายเลขโทรออกเรียบร้อยแต่ก็กดตัดสายไปในที่สุด

ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม
กลุ้มใจกับเรื่องไม่น่ากลุ้ม

สุดท้ายโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้อย่างนั้นและหันไปนอนหงายและพยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ

จุมพลเอ้ย จุมพล จุ้มเอ้ยยย จุ้ม ทำไมถึงได้สร้างความปั่นป่วนให้ได้ขนาดนี้ ไม่อยู่แค่วันเดียว ยังทำให้นอนไม่หลับได้ขนาดนี้
แล้วถ้าจุ้มไม่อยู่สองวัน สามวัน สี่วัน หรือห้าวัน จะทำยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ยิ่งคิดก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้

สุดท้ายไม่ว่าจะพยายามข่มตาให้หลับขนาดไหน คุณไอศูรย์ก็หลับได้ไม่นานและสะดุ้งตื่นขึ้นมาควานหาคนที่เคยนอนอยู่ข้าง ๆ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

แบบนี้ท่าทางจะไม่ไหวแล้ว ครั้งนี้คุณไอศูรย์ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น

ไม่คิดถึงกันเลยใช่มั้ย  ไม่สนใจกันเลยใช่มั้ย  คิดจะให้เป็นบ้าไปเลยใช่มั้ย

สิ่งที่คุณไอศูรย์รู้สึกได้ในเวลานี้คือ.................  ครั้งนี้จุมพลเอาคืนได้เจ็บแสบจริง ๆ


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 20:47:05 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จากกันทั้งที่ยังรักกัน และมีรักครั้งใหม่ที่ซ้อนทับกัน ชีวิตจุ้มนี้โคตรซับซ้อนเลย

กลับมาเถอะจุ้ม คุณไอศูรย์รออยู่นะ รักครั้งใหม่จะต้องดีกว่าครั้งก่อนแนะ

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แงๆๆ ตอนนี้เศร้ามาก มันเป็นความผิดใครวะ นังพี่สาวเลวเอ๊ย!!!
เค้าโครตสงสารหญิงเลยอ่ะ ต่อไปขอให้มีแต่ความสุขนะ T_T

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ้ยยยย เศร้าจิงๆ
แต่อย่างว่านะ ห่างกันบ้าง
จะได้รู้ว่าเวลาไม่มีเรา มันเศร้าแบบนี้นี่เอง
TTTT^TTTT

ปล. อยากอ่านต่อจร้า เรื่องของคุณเลขา หรือ เรื่องใครก้อได้
สนุกมากกก ชอบคร้าบบบบบ ^O^

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆๆ บางทีความรักมันก็เล่นตลกกับเรา
ใครจะอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
คนอ่านก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน T_T
เอาเป็นว่ารอตอนต่อไปแล้วกานนนนนน ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
งือออ ต่างคนต่างรักกันไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาทนเหงากันอยู่ทำมายยย
ไปเลยพี่ไอซ์ ไปตามจุ้มกลับมาเลย จุ้มอ่ะ พูดดีๆไม่รู้เรื่องหรอก พี่ต้องฮาร์ดคอ เอาเลยพี่ ไปเอากลับมาเลย อย่าไปยอมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
อืม...สุดท้ายก็เสียใจทั้งคู่....

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
เรื่องของหัวหน้าแผนกจัดซื้อ ไอศูรย์-จุมพล ตอน คิดถึง

ถ้าความคิดถึงมันฆ่าคนได้จริง ๆ ตอนนี้คุณไอศูรย์คงตายไปแล้วหลายร้อยรอบ เพราะโดนความคิดถึงฆ่าตาย

............................

“จัดการให้ด้วยแล้วกัน ถามว่าจะเอายังไง ทำดีก็ได้รางวัลที่เหมาะสม แต่ถ้าคิดอะไรตื้น ๆ ก็จัดการตามขั้นตอน”

โยนปึกเอกสารที่ถูกแก้ไขตัวเลขเรียบร้อยลง และคุณไอศูรย์ก็กดตัดสายและโยนโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้บนโต๊ะทำงาน
สั่งงานเรียบร้อย และลุกขึ้นยืนก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิดโมโห

ปกติไม่ใช่คนที่อยากจัดการกับใครขั้นเด็ดขาดขนาดนี้ แต่พักนี้มันหงุดหงิดไปหมด อะไรก็ขวางหูขวางตา

เบื่อวิธีการประนีประนอม ปล่อยไปนาน ๆ ก็ชักจะเหลิงไปกันใหญ่ คงคิดกันไปเองว่าคุณไอศูรย์คนนี้เกิดใจดีกับคนที่คิดไม่ซื่อขึ้นมา แต่ตอนนี้ชักจะเบื่อกับการเล่นอะไรแบบนี้เกินทน

ก็เลยให้ลูกน้องไปจัดการตาม “สมควร” คิดว่าสมควรแค่ไหนก็จัดการไปตามนั้น ของแค่นี้ถ้าพิจารณาเองไม่ได้ ก็ไม่สมควรได้ชื่อว่าทำงานร่วมกันมาเป็นสิบปี และก็ไม่สมควรได้รับการไว้วางใจให้รับผิดชอบงานบางส่วนที่คุณไอศูรย์เห็นว่าสำคัญ แต่ไม่มีเวลาลงไปดูแล ปกติงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ประเภทจัดการคนที่คิดไม่ซื่อกับบริษัท ไม่ใช่เรื่องที่คุณไอศูรย์คิดจะสนใจมากนัก แต่ในเวลานี้ไม่ว่างานอะไรก็รับมาดูแลเองหมดทุกอย่าง

ทำมันทุกงาน

ก็แล้วจะไม่ให้ทำทุกงานได้ยังไง ในเมื่อเวลาช่วงเช้าที่ต้องตื่นไปส่งคนที่เคยอยู่ด้วยกัน ไม่มีอีกแล้ว
ตอนเย็นที่ต้องไปรับกลับคอนโดพร้อมกัน ก็ไม่ต้องไปรับแล้ว ไหนจะช่วงกลางคืนที่อยู่ด้วยกันอีก ไม่ได้ทำแบบนั้นอีก

เพราะจุมพลกลับไปอยู่บ้านของตัวเองสองอาทิตย์แล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะยอมติดต่อกลับมา แม้กระทั่งโทรหากันแค่สักครั้ง ยังไม่เคยโทร แล้วจะให้คนอย่างคุณไอศูรย์โทรไปหาก่อน...............อย่าหวัง.............

และเพราะมีเวลาให้คิดอะไรมากไป คุณไอศูรย์ก็เลยต้องเอาเวลามาลงกับงานจนหมด เพื่อดับความหงุดหงิดโมโหของตัวเองที่นานวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“คุณพิชาญ.......รายงานเรื่องวันนี้หน่อย”

กดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน โทรหาเลขาที่ทำงานด้วยกันมานานปี และคุณพิชาญคนที่ว่า ก็รายงานความคืบหน้าของงานใหญ่ ที่คุณไอศูรย์ให้ความสนใจมากยิ่งกว่างานที่กองสุมกันอยู่บนโต๊ะ

“ออกจากบ้านตอนเจ็ดโมงเช้าครับ วันนี้ตื่นเช้ากว่าเมื่อวาน แวะจอดรถซื้อโจ๊กข้างทาง แล้วก็ขับรถไปถึงบริษัทตอนเจ็ดโมงห้าสิบครับ วันนี้ใส่เสื้อเชิตสีฟ้า กับเนคไทด์ลายขวางสีฟ้าเข้ม ท่าทางดูง่วงๆ นิดหน่อย แต่โดยรวม ๆ ถือว่าโอเคดีครับ”

หึ โอเคดีสินะ โอเคดีมาก โอเคมากมั้ยจุมพล โอเคมากนักใช่มั้ย “จุ้ม”

“ขอบคุณมากคุณพิชาญ”

กดวางสายเรียบร้อย และคุณไอศูรย์ก็ยืนท้าวเอว ขมวดคิ้วมุ่น และถอนหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความหงุดหงิดโมโห

นี่มันสองสัปดาห์แล้วนะจุมพล ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง ทำแบบนี้คิดจะฆ่ากันให้ตายทางอ้อมหรือไง คุณคิดว่าคุณเล่นกับใครอยู่คุณจุมพล ผมไอศูรย์ สหัสสิงห์เดชากุล คนอย่างผมอยากได้อะไรต้องได้ และไม่เคยมีใครกล้าขัดใจผม

แต่สิ่งที่คุณทำกับผมมันชักจะเกินไปแล้ว จะเมินเฉยกันต่อไปเรื่อยๆ หรือจะกลับมาหาผมแต่โดยดี
คุณอย่าคิดว่าจะมีสิทธิ์เลือก เพราะไม่ว่าเรื่องอะไร ผมก็จะเป็นคนเลือกให้คุณเอง

ถ้าคิดว่าจะเมินเฉยกันขนาดนี้........... ผมก็จะทำให้คุณสำนึกซะบ้าง เพื่อเป็นการสั่งสอน จะได้ไม่กล้าทำแบบนี้กับผมอีก

..............อย่าคิดว่าคนอย่างผมจะโทรหา หรือยอมอ่อนข้อ ขอร้องให้คุณกลับมาง่าย ๆ ......... ถ้าผมคิดถึงคุณแทบตาย คุณก็ต้องคิดถึงผมจนแม้ตายไปก็ยังหยุดความคิดถึงที่มีต่อผมไม่ได้

..........................คุณเล่นผิดคนแล้วจุมพล........แล้วคุณจะได้รู้ว่าอาการคิดถึงจนแทบขาดใจตายมันเป็นยังไง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 23:26:48 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“นี่บิลแจ้งของบริษัทไอศูรย์ขนส่งค่ะ ประทับตราบริษัทเรียบร้อยแล้ว ขนาดว่าจัดซื้อให้เราปีแรก ยังมีของสมนาคุณให้บริษัทเรานะคะ มีของแจกให้ด้วยตั้งยี่สิบชิ้นแน่ะ เป็นคุกกี้ค่ะพี่จุ้ม.......กล่องน่ารักดี นี่ก็แจกให้กินกันทั้งแผนกแล้วค่ะ.......อันนี้ของพี่จุ้ม เป็นคุกกี้เนย จะได้ไม่ต้องไปขโมยขนมหัวหน้าแผนกการเงินกินอีก”

ลูกน้องที่ทำงานกันมานาน เสิร์ฟคุกกี้ให้ถึงโต๊ะ และจุมพลที่กำลังหมุนปากกาและตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อก็ถึงกับชะงักนิ่งค้าง
มองของสมนาคุณที่อยู่บนโต๊ะแล้วก็ถึงกับต้องถอนหายใจ

บางบริษัทส่งเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ บางบริษัทส่งเป็นของกิฟเซ็ทเล็ก ๆ มาให้
แต่บริษัทไอศูรย์ขนส่ง ทำเจ็บแสบมากด้วยการส่งคุกกี้มาให้ ก็รู้อยู่แล้ว ว่ามันเป็นของแห่งความทรงจำ จงใจปั่นหัวผมให้บ้าไปข้างเลยใช่มั้ยคุณไอศุรย์ ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้

“พี่จุ้ม..........พี่จุ้มคะ.......นี่พี่จุ้มฟังหนูพูดอยู่หรือเปล่าพี่”

อ่า.... เกิดอาการสะดุ้งเล็กน้อย และก็เงยหน้ามองลูกน้องที่ทำหน้ามุ่ยใส่

“เนี่ย เป็นแบบนี้ตลอด เหม่อ ๆ ลอย ๆ ไม่เคยสนใจคนอื่น พี่จุ้มนะพี่จุ้ม หนูพูดไปพี่ก็ไม่ฟัง นี่ส่วนของพี่จุ้ม คนอื่น ๆ หนูแบ่งให้กินหมดทั้งแผนกแล้ว”

เธอชี้ไปที่จานเล็ก ๆ ที่ใส่คุกกี้วางไว้บนโต๊ะแล้วจุมพลก็ส่งยิ้มแหย ๆให้เธอ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

“บ่นกูอยู่นั่น ตกลงใครเป็นหัวหน้า ใครเป็นลูกน้องวะ”

แกล้งพูดเบา ๆ ให้อีกฝ่ายได้ยิน และเธอก็หันมานิ่วหน้าใส่

“ก็เพราะพี่จุ้มเป็นแบบนี้ไง หนูถึงแทบจะกลายเป็นหัวหน้าอยู่แล้ว นึกว่าหนูอยากจัดการชีวิตพี่จุ้มหรือไง แต่เพราะพี่จุ้มเอาแต่มึนอยู่แบบนี้ หนูถึงทนไม่ได้......... รีบ ๆ กินแล้วเซ็นต์เอกสารซะทีเหอะพี่ นายรออนุมัติแล้ว ถ้าเดือนหน้าหนูลาคลอดแล้วพี่จุ้มจะสำนึก ว่าไม่มีหนูแล้ว ชีวิตพี่จุ้มคงวุ่นวายกว่านี้อีกเยอะ”

จ่ะ

เข้าใจแล้วจ่ะ

“เกศแก้วที่รัก จะทิ้งจุมพลไปได้ลงคอหรือไง”

ทิ้งได้ไม่ได้ หนูก็ต้องทิ้ง

“หรือพี่จะให้หนูมาคลอดกลางออฟฟิศเลยมั้ย ผัวหนูยิ่งสงสัยอยู่ว่าเป็นอะไรนักหนา ถึงไม่ยอมลางานสักที ก็เพราะพี่จุ้มทำตัวน่าห่วงแบบนี้แหละ หนูถึงลาคลอดไม่ได้ หัดตั้งใจทำงานซะทีเหอะ หนูกลุ้มใจนะพี่”

โดนบ่นจนหูชา แล้วจุมพลก็ยิ้มหวานเพื่อเอาใจลูกน้องที่แม้จะท้องโย้ขนาดนี้เธอก็ยังอุตส่าห์มาทำงาน และจัดการงานจุกจิกเล็กน้อยให้จุมพลที่บางครั้งก็มีสติไม่ครบพอจะทำงานได้

วิธีของคนอื่น คือข่มลูกน้องให้ไม่สามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ แต่วิธีของจุมพลคือปล่อยให้ลูกน้องแสดงความสามารถที่มีอยู่ออกมาให้เต็มที่

เรื่องบางเรื่องไม่ต้องเก่งมากจนเกินไปก็ได้ แกล้งทำไม่เป็นบ้าง เพื่อให้คนอื่นที่มีความสามารถได้แสดงศักยภาพบ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย ในสายตาคนภายนอก จุมพลคือหัวหน้างานที่ทำงานไม่เป็น แต่ในสายตาของลูกน้อง จุมพลคือหัวหน้างานที่ใช้คนเป็น
และการใช้คนของจุมพล ไม่เคยต้องเอ่ยปากสักครั้ง

เพราะคนที่จุมพลใช้ เต็มใจเดินมาจัดการให้ โดยไม่ต้องเอ่ยปาก เพราะทนไม่ได้กับการที่จุมพลเหมือนคนไม่เอาอะไรเลย

เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำ ๆ แต่เมื่อมีเรื่องใหญ่เข้ามาในแผนก แต่ละเรื่องเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่ใคร ๆ จะแก้ปัญหาได้ แต่เมื่อถึงมือจุมพลทุกอย่างกลับแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการแปลก ๆ ที่ใคร ๆ ก็ไม่คาดคิด

แผนกจัดซื้อที่มีหัวหน้าเลื่อนลอย ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยถูกใครเพ่งเล็ง เพราะไม่ว่าปัญหาใหญ่โตขนาดไหนแผนกจัดซื้อก็จัดการกันเอง ให้ผ่านพ้นมาได้ง่าย ๆ

“พี่จุ้มไม่คิดจะทำแบบคนอื่นทำบ้างเหรอ แบบว่าทำตัวว่าตัวเองยิ่งใหญ่เก่งกาจกว่าคนอื่น ไม่ใช่ทำเหมือนทำอะไรไม่เป็น แต่ที่จริงทำเป็นทุกอย่าง”

ไม่ล่ะ

“พี่เป็นแบบนี้ไม่ดีเหรอ เคยได้ยินป่าว แมวสีอะไรก็ช่าง แค่จับหนูได้ก็พอ จุมพลหัวหน้าแผนกจัดซื้อจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ทำให้แผนกเราไม่ล่มจมได้ก็พอ”

ตลกมากมั้ยพี่จุ้ม

“ก็เป็นซะแบบนี้ ใคร ๆ เขาก็เลยพาลมองว่าพี่จุ้มทำงานไม่เป็น ทำงานไม่ได้เรื่อง ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนกจัดซื้อได้ยังไง นี่ไม่เคยคิดจะแคร์สายตาชาวบ้านเลยเหรอ”

ไม่ล่ะ

“อยากมองยังไงก็มองไปเหอะ โลโก้จุมพลหัวหน้าแผนกจัดซื้อทำงานไม่เป็น มันแปะหน้าพี่ตั้งนานแล้ว นี่ล่ะจุดขายเลยล่ะ ไม่รู้เลยหรือไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

เหรอคะพี่

“หนูล่ะกลุ้มใจจริง จะลาคลอดได้อย่างสบายใจมั้ยเนี่ย”

ลูกน้องเดินกุมขมับจากไปแล้ว และจุมพลก็ยิ้มร่า หัวเราะกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในแผนกทุกวัน
รอยยิ้มยังปรากฏที่ใบหน้า แต่ในไม่ช้าก็ค่อย ๆ จางหาย คุกกี้เนยในจานสองสามชิ้น ทำให้จุมพลต้องนิ่งมองด้วยหัวใจที่อ่อนล้า

คุณไอศูรย์ คุณส่งของแบบนี้มา เพื่อจงใจปั่นหัวผมจริง ๆ ใช่มั้ย..........สองสัปดาห์แล้วนะที่คุณเมินเฉยใส่ผม
อย่างน้อยก็น่าจะโทรหากันบ้าง ปล่อยให้ผมอยู่อย่างนี้คนเดียวได้ยังไง ทั้ง ๆ ที่เป็นคนแยกผมออกมาจากหญิงเองนะ
ทั้ง ๆ ที่ไปขอผมกับหญิงแล้ว ทั้ง ๆ ที่คุณก็แสดงท่าทีของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน แล้วทำไมพอคุณได้อย่างที่ต้องการแล้ว คุณถึงเมินเฉยใส่ผม

เหมือนเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา เรื่องระหว่างเราไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่ได้อยากกลับมาอยู่คนเดียวแบบทุกวันนี้หรอกนะ
แต่ผมไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่ออีกแล้วเท่านั้น คุณไม่รั้ง ผมก็ไม่ว่า แต่อย่างน้อยก็น่าจะสงสารผมบ้าง หัวใจผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดที่จะลืมเรื่องของรักครั้งเก่าได้ง่าย ๆ แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับคุณ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วทำเป็นเมินเฉยได้

ผมคิดว่าตัวเองจะไม่เป็นไรนะ เวลาที่ต้องไปคิดทบทวนอะไรคนเดียว แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ผมไม่อยากถูกคุณมองว่าเป็นคนใจง่าย เพิ่งร้องไห้ฟูมฟายกอดกับหญิงตอนเลิกกันได้ไม่กี่วัน ก็จะโผไปหาคุณซะแล้ว ผมรู้คุณมีศักดิ์ศรีที่จะไม่ง้อผม แต่ผมก็มีศักดิ์ศรีในแบบของผมที่จะไม่ทำให้ตัวเองไร้ค่าในสายตาของคุณเหมือนกัน

อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักไร้ค่า และผมไม่อยากเป็นแบบนั้น คุณจริงจังกับผม ผมรู้ และผมเองก็จริงจังกับคุณไม่ต่างกัน

แต่ว่านานเกินไปแบบนี้ ผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกันนะ จุมพลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาคนที่ไม่เคยได้ยินเสียงกันมาสองสัปดาห์
หัวใจกำลังเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ เมื่อเสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นและไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย

“สวัสดีครับ คุณไอศูรย์ ผมจุมพล จัดซื้อของบริษัทค้าพืชผลการเกษตรนะครับ”

โทรมาได้แล้วสินะ คุณไอศูรย์ถึงกับยิ้มกว้าง เมื่อของที่ส่งไปในวันนี้ได้ผลที่น่าพอใจมากอย่างไม่น่าเชื่อ กำลังหัวใจพองโต เพราะได้ยินเสียงทักทายจากคนที่วันนี้ยอมโทรหากันแล้ว แม้จะเอาเรื่องงานมาอ้างก็เถอะ แต่ของแบบนี้ก็ดูกันไม่ยาก

“ว่าไงครับ คุณจุมพล”

...........นี่คือคำพูดของคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสองเดือนจริง ๆ เหรอวะ จะทักทายถามไถ่ว่าผมสบายดีมั้ยสักคำ ก็ไม่มี
จุมพลรู้สึกเหมือนตัวเองที่เป็นฝ่ายโทรหาก่อนช่างเป็นคนงี่เง่า ที่คุณไอศูรย์ไม่เห็นค่า

“จะโทรมาขอบคุณที่ส่งขนมมาฝากทุก ๆ คนในแผนกจัดซื้อน่ะครับ”

อ่อ

“ยินดีครับ”

แค่นี้เองเหรอ แค่นี้เองเหรอวะ แค่นี้เองใช่มั้ย................. จุมพลเม้มปากแน่น เมื่อปลายสายตอบกลับเพียงแค่นั้น

“งั้นแค่นี้นะครับ”

จำใจกล่าวอำลา และคุณไอศูรย์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะรู้สึกอะไรนอกจากตอบกลับมาแค่คำว่า “ครับ” เพียงคำเดียว
ค่อย ๆ กดวางสายไปเงียบ ๆ หัวใจห่อเหี่ยว และไม่มีอารมณ์จะทำอะไรต่อ

หยิบคุกกี้ในจานใส่ปากเคี้ยวไปเรื่อย ๆ

และในสมองก็ยังครุ่นคิดบางอย่างไม่หยุด ใจร้ายกับผมมากเลยนะคุณไอศูรย์........แค่ได้ยินเสียงคุณผมก็ดีใจจะตายห่าแล้ว
แต่คุณก็ทำให้ความดีใจของผมหายวับไปกับตา บทจะใจร้ายคุณไอศูรย์ก็ใจร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ผมไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าคุณจะทำแบบนี้กับผมได้ลงคอ คุณมันใจร้ายเกินไปแล้ว คุณทำกับผมถึงขนาดนี้ได้ยังไง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 23:20:54 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย เกินไปแล้ว แบบนี้มันจะเกินไปแล้ว
จุมพลที่กำลังเดินทางในเกมส์ จัดการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และลุกขึ้นยืนด้วยความหงุดหงิดโมโห

พอกันที

พอกันที กูไม่ทนแล้วครับ ไอ้ความรู้สึกบ้าๆ บอ ๆ แบบนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เป็นไงเป็นกันวะ
เคลียร์ ๆ กันให้จบไปเลย จะมาเล่นสงครามประสาทกันอยู่แบบนี้ทำไม คนที่จะเป็นบ้า คือกูนะครับ ไม่ใช่คุณมึง.....

ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไงวะ ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง ทำกับกูแบบนี้ได้ยังไงล่ะโว้ยยยยยยยยยยยยยย
จุมพลลุกขึ้นเดินไปหยิบกุญแจรถและเดินออกจากบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืน ใครมันจะไปทนได้ โรคนอนไม่หลับกลับมาเยือนได้สามสี่วันแล้ว เมื่อก่อนชิน แต่ตอนนี้ อาการนอนไม่หลับในช่วงกลางคืนกำลังเล่นงาน และมันก็มีผลไปถึงเรื่องงานด้วย

เบลอหนักถึงขนาดที่เซ็นเอกสารผิด และถ้าตั้งสติไม่ทัน เอกสารที่เซ็นผิดคงได้ถูกส่งไปถึงนาย
คุณทำกับผมแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วครับคุณไอศูรย์ ยังไงคุณก็ทำกับผมแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

ไม่อยากจะคิดอะไรอีก พอแล้วกับความอดทน พอกันทีกับความคิดที่วนเวียนในหัวไม่เลิก จุมพลเดินทางออกจากบ้านในเวลาดึกดื่นเพื่อเคลียร์ปัญหาที่สมควรจะจบได้แล้ว ขืนยืดเยื้อไปมากกว่านี้ คงได้เป็นบ้าตายสักวัน คุณไอศูรย์นะคุณไอศูรย์ คุณปั่นหัวผมได้สุดยอดมาก ผมจะเป็นบ้าตายแล้วเพราะคุณ คุณทำกับผมได้ขนาดนี้เลยใช่มั้ย คุณมันคนใจร้ายใจดำ

ถ้าคุณจะใจดำกับผมขนาดนี้ ผมก็จะจบเรื่องนี้ไปซะที แม่งงงงงงงงงงงง กูไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เหี้ยเอ้ยยยยยยย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 23:22:06 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
รู้มั้ย วินาทีแรกที่ประตูเปิดออก และผมได้เห็นหน้าคุณ ผมอยากทำอะไร

จุมพลเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่เปิดประตูให้และมายืนทำหน้าเรียบเฉยใส่ ไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นปรากฏบนหน้าของคุณไอศูรย์นอกจากความนิ่งเฉย

“คือ...........ผม......ผมลืม.......เอ่อ....อะไรดีวะ.....”

ยกมือขึ้นเกาหัว เพราะคิดไม่ออกว่าจะใช้ข้ออ้างอะไรดี แต่ไม่ต้องคิดนาน เพราะคุณไอศูรย์ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคนที่มาหาจะใช้เหตุผลอะไรในการมาเยือนในยามดึกดื่นป่านนี้

“นึกได้ว่าลืมอะไรแล้วค่อยบอกผมแล้วกัน ผมยุ่งอยู่”

คุณไอศูรย์พูดแค่นั้นแล้วก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเอง ปล่อยให้ผู้มาเยือนยืนหน้าเซ่อ และไปไม่เป็นอยู่หน้าประตู
จะถอยหลังกลับ ก็ใช่ที่ จะเข้าไปก็ตะขิดตะขวงใจ

“........อ่อ ผมนึกออกแล้ว ผมลืมสมุดโน้ตเอาไว้นี่เอง..................”

สุดท้ายสิ่งที่จุมพลตัดสินใจทำก็คือหาข้ออ้างไปเรื่อย และก็เดินเข้ามาในห้อง จัดการปิดประตูห้องเรียบร้อย และก็ยืนหันรีหันขวาง
ทั้งที่เคยอยู่ในห้องนี้มาร่วมสองเดือน แต่พอได้กลับมาอีกครั้ง ก็เกิดทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

“น่าจะอยู่ในห้อง”

พูดคนเดียว ให้คนที่นั่งทำงานได้ยิน แต่คุณไอศูรย์ก็ยังคงเมินเฉย ไม่อยากให้มาหาขนาดนั้น บอกกันตรง ๆ ก็ได้
ไม่ต้องทำเป็นเฉย ยิ่งเห็นยิ่งพาให้ใจห่อเหี่ยว ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกว่าในอกกำลังโหวงเหวง เพราะปฏิกิริยาที่แสนเย็นชาของคนที่เมินเฉยใส่กันได้อย่างร้ายกาจ ผมเองก็มีศักดิ์ศรีนะ ถ้ามาแล้วต้องเจอกับความเย็นชาแบบนี้ ผมก็สู้ไม่ไหว

ตัดสินใจหมุนตัวกลับ และเตรียมก้าวขาออกจากห้องเงียบ ๆ และคนที่นั่งอยู่ก็หันมาพูดอะไรบางอย่าง

“คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องมาอีกนะ”

อะไรนะ

จุมพลเลิกคิ้วขึ้นสูง และใบหน้าก็งอหงิกทันที เพราะได้ยินคำพูดที่แสนเย็นชาของอีกฝ่าย คุณไอศูรย์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินมาที่หน้าประตูห้อง

เพื่อ..........เปิดประตูไล่..........คนที่มาหา

“ไม่ว่าจะลืมอะไร ก็ไม่ต้องมาอีก ถ้านึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรก็โทรบอกผม........ผมจะส่งไปให้ที่บ้าน คุณจะได้ไม่ต้องมาด้วยตัวเองอีก มันเสียเวลา”

เหี้ยยยยยยยยยยยยย พูดกับกูขนาดนี้เลยเหรอวะ พูดถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ พูดถึงขนาดนี้เลยใช่มั้ย
จุมพลมองหน้าคุณไอศูรย์นิ่ง ๆ จ้องมองและดวงตาก็เริ่มเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

กูเปล่าเสียใจนะ กูไม่ได้เสียใจเลยนะ เอาจริง ๆ ผมไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกอะไรกับคำพูดของคุณเลยจริง ๆ นะโว้ยยยยย

“ข้ออ้างพวกนั้นมันน่าเบื่อและผมก็ไม่อยากจะฟังให้ปวดหัว”

กระทืบกูให้จมดินซะดีกว่ามาพูดจาโหดร้ายใส่หน้ากันแบบนี้

“เข้าใจแล้ว”

ก้มหน้าก้มตายอมรับ และหันหลังกลับพร้อมกับหัวใจที่กำลังหล่นหายไปแล้วเรียบร้อย

“เดี๋ยว”

อะไรอีกล่ะ อะไรอิ๊กกกกกกกกกกก คุณจะเอาอะไรกับผมอีกวะ คุณไอศูรย์ คุณจะเอาอะไรอีกกกกกกกกกก ผมไม่เข้าใจ
เงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้านิ่ง ๆ และคล้าย ๆ เหมือนใกล้จะสะกดกลั้นความรู้สึกเสียใจ น้อยใจที่ประเดประดังเข้ามาไม่ไหว

“ถ้าจะหาข้ออ้างมาหาผม ไม่ต้องมาอีกนะ”

ได้ ไม่มาอีกแล้ว สาบานจะไม่มาอีกแล้ว ผมไม่มีหน้ามาหาคุณอีกต่อไปแล้ว  ไม่ว่ายังไงผมก็คงไม่กล้ามาอีกแล้ว

“แต่ว่า.............ถ้าคุณ “คิดถึง”ผม.... คุณมาได้ตลอดเวลา”


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2014 23:32:28 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด