@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 753825 ครั้ง)

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#เรื่องของหยกกับเธอคนนั้น

“น้องหยกน่ารักคะ ช่วยเก็บจานชุดนี้ล้างให้หน่อยค่ะ”

มันอาจเป็นคำพูดธรรมดาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับหยกมันไม่ใช่

“ครับ”

ก้มหน้าก้มตาตอบ และค่อย ๆ เทเศษอาหารทิ้ง และจัดการล้างจานเซ็ทที่ถูกนำมาวาง

“วันนี้สำนักงานใหญ่อนุญาตให้จัดปาร์ตี้ปีใหม่ได้ หลังเลิกงานสาขาเราจะไปเลี้ยงกันน้องหยกกินเหล้าได้มั้ย”

ไม่ได้
ไม่เคยกิน
แต่ว่า........ถ้า.....มันจำเป็นต้องกิน ก็....ได้

“ผมคอไม่แข็งนะพี่แตง ไปจะดีเหรอ”

ดีนะ
น่าจะดี

“ไปเถอะน่า ไปกันทั้งร้าน เดี๋ยวเอาของขวัญไปจับฉลากที่ร้านเลย นะน้องหยก ไปเถอะ”

พี่แตงเป็นผู้จัดการร้าน เก่ง สวย และฉลาด มีคนมาจีบพี่แตงเยอะแยะ แต่ไม่เห็นพี่แตงชอบใคร
แรก ๆ ก็คิดว่าพี่แตงเป็นคนยังไง ชอบแกล้งชอบแหย่ ชอบแซวทุกคนในร้าน แต่เวลาที่จริงจัง ก็จริงจัง พี่แตงมีความสามารถ เป็นผู้หญิงแต่คุมทั้งร้านอยู่

พี่แตงเก่ง

“ไปชุดนี้ได้เหรอครับ”

แล้วทำไมไม่ได้ล่ะ

“ไม่เป็นไรน่า แค่หน้าน้องหยกก็ผ่านแล้ว น่ารักจะตาย ใส่ชุดไหนก็น่ารัก”

พี่แตงยิ้มหวาน ยิ้มสวย และหยกก็ได้แต่หัวเราะอย่างอาย ๆ

ไม่รู้ว่าพี่แตงคิดยังไง บางทีก็เหมือนล้อกันเล่น บางครั้งก็เหมือนจริงจัง

ไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่แตงคิดกับหยกยังไง แต่มีหลายครั้งที่หวั่นไหว เวลาที่พี่แตงเข้าใกล้ และยิ้มให้
และทุกวันนี้สายตาของหยกก็เอาแต่ไล่มองไปที่พี่แตงเสมอ

แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ได้แค่แอบมองไปเรื่อย พี่แตงจะมาสนใจเด็กพาร์ทไทม์แบบนี้ได้ยังไง ยากเกินกว่าจะคิด

เลิกมองได้แล้วไอ้หยก พี่แตงไปถึงโน่นแล้ว

ก้มหน้าก้มตาล้างจาน และรอยยิ้มก็จุดขึ้นที่มุมปาก เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง และก็เห็นพี่แตงกำลังสั่งงานที่หน้าเคาร์เตอร์อยู่

ไปงานปีใหม่เหรอ
ไปงานปีใหม่

พี่แตงก็ไปด้วย
แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเขิน เพราะถ้าทำตัวไม่ถูก ก็ถามพี่แตงได้ พี่แตงไม่เอ็ด และให้คำปรึกษาอยู่เสมอ

พี่แตงดีกับหยกมาก.....จน......บางครั้งหยกก็เผลอคิดไปไกล คิดเลยเถิดไปไกลกับพี่แตง ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีทางเป็นไปได้

ยิ้มอย่างเหงา ๆ และก้มหน้าก้มตาล้างจานต่อไปเรื่อย ๆ

คืนนี้มีงานเลี้ยงปีใหม่
งานเลี้ยงปีใหม่เหรอ
ไปก็ไปวะ ยังไงซะก็มีพี่แตงไปด้วย ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก

ไปเที่ยวซะบ้าง เดี๋ยวโทรบอกที่บ้านก่อนว่าจะกลับดึก
เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเป็นห่วง โทรบอกซะพ่อกับแม่จะได้สบายใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“น้องหยก อย่าคิดมาก....น้องหยกเมา พี่แตงก็เมา”

มันไม่ใช่แค่เมา ผมไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ที่ผมรู้คือไม่ใช่เรื่องดี

ตื่นมาในสภาพนี้
สภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแบบนี้ ต่อให้เป็นเด็กไร้เดียงสาขนาดไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรู้

หยกได้แต่นั่งนิ่ง

นิ่งเงียบ และพี่แตงก็แตะปลายนิ้วนวดเบา ๆ ไปที่หน้าผาก

“ปวดหัวจังเลย สายแล้ว น้องหยกต้องกลับบ้านหรือเปล่า เดี๋ยวพี่แตงต้องเข้าสำนักงานใหญ่วันนี้”

เธอยังคงเป็นเธอ พี่แตงเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองเสมอ
แม้กระทั่งเรื่องนี้ พี่แตงก็ไม่มีทีท่าอะไรเลย

มันควรต้องเป็นยังไง การที่เรามีอะไรกัน ด้วยความมึนเมา แบบนี้แล้ว........มันควรต้องเป็นยังไงต่อไป

“อย่าทำหน้าแบบนี้สิน้องหยก ก็เราเมาไง น้องหยกเมาพี่แตงก็เมาไง”

เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำหรับเธออาจจะใช่ แต่สำหรับหยกมันไม่ใช่เลยสักนิด

“ผมจะรับผิดชอบ”

รับผิดชอบเหรอ

รับผิดชอบยังไง

“น้องหยกไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอก ไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบ เนอะ”

เธอยังคงพูดไปยิ้มไป และเป็นหยกที่นั่งนิ่งเงียบ และไม่สามารถทำอะไรได้

ทำไม......

ทำไมถึงรับผิดชอบไม่ได้ เพราะอะไร เพราะเป็นเด็กใช่มั้ย เพราะว่าแม้จะพูดว่ารับผิดชอบ แต่ไม่มีอะไรที่จะสามารถรับผิดชอบได้ใช่มั้ย

“พี่แตงครับ”

“ค่ะ น้องหยก”

เธอยิ้ม แม้สีหน้าจะไม่ค่อยสดชื่น แต่เธอก็ยิ้ม ยิ้มและแตะฝ่ามือบนเส้นผมของหยกเบา ๆ

“เด็กน้อยเอ้ยยยย น้องหยกยังเด็ก ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ เชื่อพี่แตงสิ พี่แตงบอกว่าไม่ต้องทำอะไรก็คือไม่ต้องทำ เชื่อพี่แตงมั้ยครับ”

เชื่อ....

แต่จะให้เชื่อยังไง.....

“พี่แตงต้องไปอาบน้ำแล้วล่ะ สายแล้ว”

เธอเอื้อมมือคว้าผ้าขนหนูมาคลุมกาย และลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ
สิ่งที่หยกเห็นทำให้ต้องก้มหน้าลง ไม่เคยรู้จักความรู้สึกแบบนี้

แม้จะเมา แม้จะมีอะไรกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะชินได้ในชั่วข้ามคืน

หน้าคงแดง และคนที่กำลังจะก้าวขาเดินเข้าห้องน้ำ ก็เห็นชัด

“นี่เราเป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย ผู้ชายที่ไหนเขาอายผู้หญิงกัน อายขนาดนี้ พี่แตงชักไม่อยากจะเมาแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ”

เป็นคำพูดหยอกล้อที่หยกได้แต่ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายตัวเองและพูดไม่ออก นั่งหน้าแดงก่ำอยู่อย่างนั้น
และเธอก็ยังทำเหมือนเดิม เอื้อมมือมาแตะที่เส้นผมของหยกเหมือนเดิม แตะเบา ๆ และส่งยิ้มน้อย ๆ ให้

“อย่าคิดมากนะน้องหยก ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ทำใจให้สบายนะ”

มันควรจะสบายใจใช่มั้ย
เรื่องแบบนี้

ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแบบนี้ ควรต้องสบายใจ....ใช่มั้ย

หยกได้แต่มองตามร่างบอบบางที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเงียบ ๆ และยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก

ทำยังไง

ต้องทำยังไง

ควรสบายใจอย่างที่พี่แตงว่าจริง ๆ เหรอ ควรทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือไง

ไม่ต้องรับผิดชอบ.......เธอเลยหรือไง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“น้องหยกคะ เซ็ทนี้ช่วยจัดการให้ด้วยนะคะ”

ทุกอย่างคล้ายจะเป็นแบบเดิม
ทุกอย่างอาจเป็นเหมือนเดิม ถ้าหยกไม่หลบตาและนิ่งเงียบ ไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ

“น้องหยก”

เงยหน้าขึ้นอีกรอบ และมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรุ่นพี่ที่กำลังส่งยิ้มให้

“ได้นอนบ้างหรือเปล่า ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ”

ใช่
ยังคิดมาก
คิดมากจนนอนไม่หลับ บางทีอาจจะคิดถึงพี่แตงด้วย บางที........สิ่งที่เป็นอยู่อาจเรียกว่าคิดถึง

“ผมรับผิดชอบไม่ได้ใช่มั้ยพี่แตง”

คำถามง่าย ๆ แต่ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นิ่งงัน

รับผิดชอบเหรอ

แล้วจะรับผิดชอบยังไง ยังไงที่เรียกว่ารับผิดชอบ

จริงอยู่ การมีสัมพันธ์แบบนั้นผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนคงไม่ทำกัน นอนกับใครง่าย ๆ ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือเมา
แต่แตงไม่ใช่คนแบบนั้น

ตั้งแต่วันแรก ที่ได้เจอ

หยกมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น ในความเป็นเด็ก มีความเป็นผู้ใหญ่ หยกอาจจะเหมือนคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่หยกมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น ภายใต้ท่าทีขี้อายมันมีเสน่ห์บางอย่างอยู่

น่ารัก

ไม่ใช่แค่หน้า แต่เป็นนิสัยส่วนตัว คล้ายกับคนที่เคยอยู่ในโลกนี้แต่ไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว

คล้ายกับใครบางคนที่เคยผูกพันกัน สมัยที่เรียนมัธยม และคน ๆ นั้นก็ไม่มีชีวิตอยู่ในเวลานี้อีกต่อไปแล้ว
คล้ายจนหลายครั้งที่สายตาก็แอบมองมา และคิดว่าบางทีวันเวลาคงย้อนกลับมาอีกครั้ง

แต่มันก็ไม่ใช่
เป็นแค่เพียงภาพลวงตา และไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางใช่

หลายครั้งที่หัวใจหวั่นไหวไปกับน้องหยก แต่ก็ดึงตัวเองกลับมาทุกครั้ง และได้แต่บอกตัวเองว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้

ไม่มีทาง
ไม่มีวัน
สิ่งที่ทำก็เพียงแค่มองหน้าน้องหยก และยิ้มให้ ส่งยิ้มให้และอยู่ข้าง ๆ ให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้

“น้องหยก พี่แตงอายุมากกว่าน้องหยกกี่ปี พี่แตงไม่ใช่เด็กสาวที่ต้องเรียกร้องความรับผิดชอบจากใคร น้องหยกยังต้องไปอีกไกล แต่พี่แตงอาจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำงานไปเรื่อยๆ และวันหนึ่งก็อาจมีครอบครัวและแต่งงานไป”

แล้วผมล่ะ

แล้วหยกล่ะพี่แตง

“น้องหยกจะให้พี่แตงคาดหวังอะไรจากน้องหยกเหรอ”

ง่ายดาย
แต่หยกเพิ่งเข้าใจ

เพิ่งเข้าใจ ว่าตัวเองไร้ค่า เพิ่งเข้าใจ ว่าตัวเองเป็นแค่คนไร้ค่าสำหรับใครบางคน
ไม่มีประโยชน์ และไม่สามารถคาดหวังได้

“ผมจะดีกว่านี้”

ใช่ น้องหยกจะดีกว่านี้ แล้วดีกว่านี้ที่ว่า มันเมื่อไหร่กันล่ะ

“น้องหยกจะดีกว่านี้ค่ะ พี่แตงเชื่อ น้องหยกจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้”

แต่ไม่ใช่ตอนนี้ใช่มั้ย

ไม่ใช่ตอนนี้
ไม่ใช่เวลานี้ใช่มั้ย

ในเวลานี้ผมเป็นแค่คนที่ไม่สามารถทำอะไรได้ใช่มั้ย

“น้องหยก....พี่แตงไม่เคยรู้สึกไม่ดีกับน้องหยกนะ จนถึงตอนนี้พี่แตงก็ยังคิดว่าน้องหยกน่ารักมากสำหรับพี่แตงอยู่ดี”

แต่ผมไม่ใช่

ถึงจะบอกว่าน่ารัก ถึงจะบอกว่าไม่เคยรู้สึกไม่ดี แต่ผมก็ไม่ใช่

“น้องหยกมีความรับผิดชอบ พี่แตงดีใจ แต่พี่แตงคืนความรับผิดชอบนั้นให้น้องหยกนะ พี่แตงอยากให้น้องหยกเก็บเอาไว้ เก็บไว้ให้คนที่น้องหยกพร้อมที่จะรับผิดชอบเขาจริง ๆ”

เธอเป็นคนดี
เธอเป็นผู้หญิงที่ดี
เธอเข้มแข็ง

เธอยิ้มสวย เธอเป็นคนที่ทำให้หยกรู้สึกอยากอยู่ด้วยใกล้ ๆ ตลอดไปเสมอ

“จัดการจานเซ็ทนี้ได้แล้ว พี่แตงไปดูเคาร์เตอร์ก่อนนะ”

เธอผละจากไปแล้ว และสายตาของหยกก็ยังคงมองตรงไปที่เธอเสมอ มองตรงไป และสัมผัสได้ถึงอาการใจสั่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ

พี่แตง............

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“น้องหยก เดี๋ยววันนี้เลิกงานแล้วพี่แตงขอคุยด้วยหน่อยนะคะ”

ทุกอย่างคล้ายจะเป็นปกติเหมือนทุกวัน

พี่แตงยังแวะเวียนเข้ามาพูดคุยอยู่ด้วยเรื่อย ๆ
เธอใจดีกับหยกเสมอ
บางครั้งหาขนมมาให้ มีบางครั้งที่เราไปกินข้าวหลังเลิกงานด้วยกันสองคน

ความสัมพันธ์ของเราเหมือนจะไปกันได้ด้วยดี

ดีจนหยกเริ่มคิดอะไรไปไกล

แต่พี่แตงไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ เราจึงแอบไปด้วยกันหลังเลิกงานเสมอ
เหมือนวันนี้ ที่หยกพยักหน้ารับ และจัดการจานชามกองใหญ่ที่วางเอาไว้

ทำหน้าที่เหมือนเดิม
ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำเหมือนเดิม

พี่แตงไม่สบาย หยุดพักไปเกือบหนึ่งสัปดาห์
โทรหา ก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวไม่กี่วันก็มาทำงานได้แล้ว

และวันนี้เธอก็กลับมา
หยกดีใจที่อาการของเธอไม่ได้แย่อย่างที่คิด

เธอหายป่วยแล้ว
อาจจะเป็นไข้หวัด

ดีแล้วที่เธอหายป่วย ไม่อย่างนั้น หยกคงเอาแต่เป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำงาน คอยแต่จะโทรถามอาการเธอตลอด

เลิกงานวันนี้ จะได้ไปกินข้าวกัน ไปกินข้าวกับพี่แตง

ไปกินข้าวด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้กินข้าวพร้อมพี่แตงหลังเลิกงานนานกว่าหนึ่งสัปดาห์

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“พี่แตงจะบอกอะไรให้ พี่แตงท้องแหละน้องหยก”

พี่แตง....บอกว่า.....พี่แตงท้อง
หน้าชา
มือชา
ตัวชา

มองหน้าของพี่แตงตรง ๆ ยืนนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ท้อง........

พี่แตง....กำลังท้อง และพี่แตงก็ท้องกับ......

“ลูกของหยกใช่มั้ยครับ”

อึ้ง

นิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก

ในหัวมีแต่ความมึนงงสับสนไปหมด

ดีใจไม่ออก
เสียใจก็ไม่ใช่

ลูกเหรอ

เพิ่งอยู่ ม.4 เองนะ ลูกเหรอ แต่ว่าเพิ่งอยู่ ม.4 แต่ว่าลูก ......... กำลังจะมีลูกเหรอ
ลูกเหรอ เด็กตัวแดง ๆ ตัวเล็ก ๆ เหรอ

ลูกเหรอ

ลูก........

งง
มึนงง พูดไม่ออก ในหัวกำลังประมวลผลสิ่งที่ได้ฟัง
ลูกคือเด็ก เด็กตัวเล็ก ๆ ที่นอนแบเบาะ มีขวดนม และมีของเล่น

ลูก.......... คิดภาพแทบไม่ออก และนั่งนิ่งเงียบ มองหน้าของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า

พี่แตงยิ้ม
พี่แตงหัวเราะเบา ๆ

“อะไรกันน้องหยก ตกใจขนาดนั้นเลย ไม่เป็นไรน่า อย่ากลัวเลย พี่แตงบอกตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าน้องหยกไม่ต้องรับผิดชอบหรอก แล้วตอนนี้พี่แตงก็เอาเด็กออกแล้ว น้องหยกสบายใจได้”

สบายใจได้

ลูก....

เอาลูกออกแล้ว

ลูก.........ของหยก.....เอาออกแล้ว

เอาออก....

ยิ่งกว่าถูกค้อนทุบหัว

มึนงง ยิ่งกว่าตอนที่ได้รู้ว่ากำลังจะมีลูก

เอาออก

ลูกของหยกกับพี่แตง ลูก...........เอาออก

พี่แตงเอาลูก.......ออกแล้ว

พี่แตง.........

“ทำไมทำแบบนี้”

เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่อก พูดไม่ออก อยากจะหายใจก็ทำได้ลำบาก เอาลูกออกแล้ว พี่แตงเอาลูกออกแล้ว

“ทำไมทำแบบนี้ พี่แตงทำไมทำแบบนี้ พี่แตงทำแบบนี้ทำไม ลูกหยกนะ นั่นลูกของหยกนะ พี่แตงทำแบบนี้ได้ยังไง พี่แตงทำแบบนี้กับ...........หยก..ได้ ฮึก ฮืออออ ยังไง พี่แตงทำทำไม พี่แตงทำลูกหยกทำไม พี่แตง....ฆ่าลูกหยกทำไม พี่แตงฆ่าลูกทำไม”

ยืนขึ้น

และน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง

น้ำตาไหล

น้ำตามันไหลไม่ยอมหยุด

และคำพูดเดิม ๆ ยังคงดังก้องซ้ำ ๆ

เอาลูกออกแล้ว
เอาออกแล้ว

ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล เอาออกแล้ว

พี่แตงทำทำไม พี่แตงฆ่าลูกของหยกทำไม

“พี่แตง.......ทำไม.......ทำแบบนี้ นั่นลูกของหยกนะ ลูก.....ของหยกนะ.......นั่นลูกของหยกนะพี่แตง พี่แตงทำได้ยังไง”

พูดไม่รู้เรื่อง พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดไปร้องไห้ไป
ไม่รู้ว่าโกรธ โมโห หรือเสียใจ

ทุกอย่างมันปนเปสับสนไปหมดตีกันอยู่ในหัว

วุ่นวาย สับสนมึนงง เจ็บปวด หัวใจกำลังสั่น และทั้งมือและร่างกายก็สั่นตามไปด้วย

“น้องหยก แล้วน้องหยกจะให้พี่แตงทำยังไง น้องหยกคิดว่าพี่แตงกล้าบอกครอบครัวเหรอ ว่าพ่อของเด็กเพิ่งอยู่แค่ ม.4 น้องหยกจะให้พี่แตงทำยังไง น้องหยกคิดว่า........พี่แตง...ต้องทำ.......ยังไง ฮึก ฮืออออออออออ”

คำพูดของเธอมันทำร้ายจิตใจ

ทำไมวะ

ม.4 แล้วยังไง เด็กม.4 ไม่ใช่คนเหรอ ผมไม่ใช่คนเหรอพี่แตง ผมเป็นพ่อคนไม่ได้เหรอ หยกเป็นไม่ได้เหรอพี่แตง
แค่เพราะหยกอยู่ม.4 เหรอพี่แตง

แค่เพราะ...........เรื่องแค่นี้

พี่แตงเลยเอาลูกของหยกออกเหรอ

เพราะแค่นี้........

“น้องหยก........นั่นลูกพี่แตงนะ นั่นก็ลูกพี่แตงเหมือนกัน แต่ถ้าเขาเกิดมามันจะเป็นยังไง ทั้งน้องหยกแล้วก็พี่แตงจะเป็นยังไง”

ไม่รู้
ผมไม่รู้
ผมไม่รู้

พี่แตงฆ่าลูกผม
พี่แตงฆ่าลูกผมทำไม

“พี่แตงใจดำ ฆ่าคนทั้งคน พี่แตงใจดำ พี่แตงไม่สมควรเป็นแม่คน พี่แตงฆ่าลูก พี่แตงฆ่าลูกของหยก”

ตะโกนใส่หน้า

ตะคอกใส่หน้า

ด่าทอเธอด้วยถ้อยคำต่าง ๆ นานา

เธอยืนร้องไห้
หน้าของเธอซีด
แต่หยกก็ไม่หยุดด่าว่า ไม่หยุดที่จะประณามให้เธอเจ็บปวด สิ่งที่คิดได้ คือพี่แตงฆ่าลูก

“น้องหยก”

ผมเกลียดพี่แตง
พี่แตงฆ่าลูกของผม

“อย่ามาใกล้ผม พี่แตงใจร้าย พี่แตง.....ฆ่าลูกผมทำไม”

ถ้อยคำโหดร้าย สาดเสียเทเสีย

ไม่เคยสักครั้งที่หยกจะเป็นแบบนี้ ไม่เคยทำกิริยาก้าวร้าวใส่ใคร และนี่เป็นครั้งแรกที่ดูเหมือนสติจะหลุดลอยไปไกล

อารมณ์โกรธรุนแรง และไม่คิดจะสนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น เธอกำลังร้องไห้ และกำลังก้าวเข้ามาหา แต่หยกถอยหนี
ยิ่งเธอก้าวเข้ามาหา หยกยิ่งถอยหนีห่างออกมา

ก้าวเดินหนีจากเธอมาอย่างช้า ๆ

พร้อมน้ำตาที่รินไหลไปตลอดทาง

ลูก........ของหยก
ลูกถูกเอาออกแล้ว

ลูก........ไม่อยู่แล้ว

ลูกของหยก.......ทำไมต้องฆ่าลูกของผมด้วย ทำไมพี่แตงต้องฆ่าลูกของหยกด้วย

ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่แตงอีก
ไม่อยากเห็น

ไม่อยากเห็นหน้าพี่แตงอีกตลอดชีวิต

ผมเกลียดพี่แตง

เกลียดพี่แตงที่สุด

พี่แตงใจดำ พี่แตงฆ่าลูกของผม ผมเกลียดพี่แตง

ผมจะไม่มีทางญาติดีกับพี่แตงเลยตลอดชีวิตนี้

ไม่มีวัน

“ผมเกลียดพี่แตง พี่แตงฆ่าลูกผม พี่แตงใจร้าย พี่แตงฆ่าลูกผมทำไม ผมไม่มีวันอภัยให้พี่แตงเด็ดขาด พี่แตง ฮืออออ พี่แตง ฆ่าลูกผมทำไม พี่แตง ฆ่า.........ลูกของหยกทำไม....”

TBC.

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
โอ้วววดราม่าทุกคนเลยทีเดียว คงเหลือดราม่าของโจ้ใช่ไหมนะ ที่ยังไม่ละเอียด....
โอยย พี่หยกน่าสงสาร รีบกลับมาหากัสเร็วๆนะ กัสรออยู่ แต่กัสก็อ่อนไหวไปกับนิวแล้วหรือเปล่า....เอ๊ะ...ยังไงดีนะ เรื่องมันซับซ้อนยังไงไม่รู้

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แต่ละคนก็มีอดีตอันขมขื่น :hao5:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ่า....ความหลังอันขมขื่น

ออฟไลน์ butter.juliet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
จริงๆเริ่มไม่อยากรู้อดีต อยากให้หยกกลับมาไวไว
แต่เพื่ออรรถรสและความต่อเนื่องก็ต้องรอต่อปายยยยยยยยย  :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#ไม่ใช่คนเรื่องมาก

มองหน้ามันแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
พูดอะไรดีวะ

พูดว่า....

“ไปนะ”

หยกไม่ต้องพูด เพราะกัสพูดให้เรียบร้อย จอดรถส่งที่หน้าหอ และหยกก็ลงมายืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มองหน้าคนที่พามาส่ง

คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก มึน ๆ งง ๆ อยู่อย่างนั้น และสุดท้ายคนที่เป็นฝ่ายพูดกลายเป็นกัสซะเอง

“เออ....ไปเหอะ”

ตอบรับแต่หยกก็ยังมองหน้าของกัสนิ่งงันอยู่อย่างนั้น

กลับเหรอ…. เอาจริงดิ มึงจะกลับจริงเหรอวะกัส

กัสกำลังจะบิดคันเร่ง แต่เป็นหยกที่รีบตะครุบมือของกัสเอาไว้ไม่ให้ไป

“มึงจะไปไหนต่อหรือเปล่ากัส”

ไปไหนเหรอ
ไป....ไหน...กูก็ไม่รู้เหมือนกัน
กลับบ้านมั้ง กลับไปให้พ่อกับอาด่า ไม่รู้จะไปไหนก็คงกลับบ้านหรือไม่ก็ไปนอนค้างบ้านเพื่อนก็คงได้

“ไป”

ตอบคำถาม และหยกก็เลยต้องจำใจปล่อยมือ

ไปเหรอวะ
แล้ว....

“กูไปนะ”

อีกครั้งที่คนพูดมีสีหน้าลังเลใจและคนที่ยืนอยู่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเหมือนกัน

“เออ....”

ประโยคเดิม คำพูดเดิม ตอบรับเหมือนเดิม และเป็นอีกครั้งที่กัสกำลังจะบิดคันเร่ง

และก็ถูกหยกตะครุบมือเอาไว้

“กูลืมกินข้าว”

รีบพูดอย่างรวดเร็ว และคนฟังก็เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ

อะไรวะ ลืมกินข้าวเหรอ….
เออใช่ บางทีก็อาจจะเป็นเหมือนกัน บางที.........กูก็เป็น บ่อยไปที่กูลืมกินข้าว วันนี้กูก็ลืมกินข้าวเหมือนกัน ถ้ามึงไม่ทักกูก็ลืมไปแล้ว

“จริงด้วยว่ะหยก กูก็ลืมกินข้าวเหมือนกัน”

เหรอ แบบนี้ก็เหมือนกันเลยสิวะ กูก็ลืมมึงก็ลืม งั้น....

“วันก่อนที่บอกว่าจะรอมึงกินข้าว ก็ไม่ได้ไป.....วันนี้มึงกับกูไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อก็ดีเหมือนกันนะกัส”

เหรอวะ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ลืมกินข้าวมันก็ไม่ค่อยดีใช่มั้ยล่ะ เห็นเมื่อคืนมึงก็อ่านหนังสือดึกด้วย กว่าจะนอนก็ปาเข้าไปตีสามตีสี่ ทั้งวันก็ลืมกิน สอบเสร็จก็ไปวัดกัน เลยลืมไปว่าทั้งวันยังไม่ได้กินข้าว

“ขึ้นมาดิ ไปกินที่ไหนล่ะ”

ไปกินที่ไหนเหรอ แถว ๆ นี้ก็ได้

“โต้รุ่ง ร้านแถว ๆโต้รุ่ง มีกับข้าวขายเยอะอยู่เหมือนกัน กินแถวนั้นมั้ยล่ะ”

ก็ได้ กูไม่มีปัญหา กินอะไรก็ได้

“เออ”

หยกก้าวขึ้นไปซ้อนท้ายเรียบร้อย และก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกลายเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากอยู่ใกล้ ๆ คนบางคน ไม่รู้ทำไมถึงยังไม่อยากให้อีกฝ่ายรีบกลับไป สิ่งที่รู้แค่อยากให้อยู่ต่ออีกหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมากมายมารั้งเอาไว้

แค่อยากให้อยู่ด้วยกันอีกนิด อยู่ต่ออีกนิดเดียวก็ได้ ให้ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ยาวนานออกไปอีกหน่อย

สิ่งที่หยกรู้สึกก็ไม่ต่างจากที่กัสรู้สึกเหมือนกัน อยากอยู่ต่ออีกหน่อย แต่ไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาอยู่ต่อ

ไม่มีเหตุผล

และไม่รู้จะพูดยังไง อยากจะจอดรถมอร์เตอร์ไซด์และรีบขับหนีไปให้ไกล ๆ แต่เอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้
ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำไม่ได้ แค่รู้สึกว่าไม่อยากทำ แต่ก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำ

“เลี้ยวขวาแยกหน้า”

ชี้บอกทาง และกัสก็ไปตามทางที่หยกบอก

สัมผัสอบอุ่นแตะเบา ๆ ที่เอว

มือ……

มือของหยกแตะอยู่ที่เอว มันก็ไม่เห็นจะแปลก ที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ แต่คนที่รู้สึกว่าตัวเองแปลกไปคือทางนี้ต่างหาก

ตั้งแต่ออกมาจากวัดแล้ว พอโดนแตะแบบนี้แล้วรู้สึกแปลก ๆ ไม่ใช่ไม่ดี แต่อธิบายไม่ได้ว่ารู้สึกยังไง

มันหวิว ๆ ในใจพิกล รู้สึกชอบด้วยซ้ำ ที่หยกแตะแบบนี้

รู้สึกชอบ ที่หยกทำแบบนี้
อบอุ่น.......  สัมผัสที่แผ่วเบา มันให้ความรู้สึกที่ดี ๆ ได้ ไม่ใช่จากใคร ๆ ทั่วไป แต่เป็นหยก เพราะเป็นหยกถึงได้รู้สึกดี

รถมอร์เตอร์ไซด์ขับมาจอดที่หน้าร้านโต้รุ่งที่เปิดขายตั้งแต่ต้นคืนจนเกือบสว่าง คนซ้อนและคนขับลงจากรถมาเรียบร้อย ถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้ที่รถ และก็ก้าวเดินมาด้วยกัน

“กินอะไร”

กินอะไรเหรอ อะไรก็ได้มั้ง กูไม่ใช่คนเรื่องมาก ก็แล้วแต่มึง มึงกินอะไรกูก็คงจะกินแบบนั้น กูกินง่าย ไม่มีปัญหา

“ตกลงมึงอยากกินอะไรกัสคิดได้ยัง”

อ้าวหยก กูนึกว่ามึงจะคิดซะอีก กูจะได้กินตาม ขี้เกียจคิดอะไรมาก

“มึงกินอะไรกูก็กินนั่นแหละ ขี้เกียจคิด”

เหรอ

“เกี๊ยวน้ำมั้ย”

“ไม่เอา มีผักกวางตุ้งกูไม่ชอบ”

“ราดหน้า”

“กูเกลียดผักคะน้า”

“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ”

“ไม่เอา กูไม่ชอบเปรี้ยว”

“เย็นตาโฟร์”

“กูไม่กินซอสเย็นตาโฟร์”

“ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก”

“กูไม่กินเลือดหมู”

“ข้าวมันไก่”

“น้ำจิ้มข้าวมันไก่แม่งมีแต่เผ็ด ๆ”

“ข้าวหมูแดง”

“น้ำราดหมูแดง รสชาติเหี้ยพอ ๆ กับน้ำจิ้มข้าวมันไก่นั่นแหละ”

“แล้วมึงจะแดกอะไรเหี้ยกัส”

“แล้วแต่มึง”

ไม่ได้โมโห แต่หยกกำลังยืนขำ ขำกับสิ่งที่คนที่อยู่ข้าง ๆ ตอบออกมา กูพูดหมดทุกอย่างแล้วที่ขายแถวนี้ เสือกบอกว่าแดกไม่ยาก เหี้ยกัส นี่มันยิ่งกว่าแดกโคตรยากอีก กูไม่รู้จะเลือกอะไรให้แล้ว

“ขำอะไรวะ”

ขำมึงนั่นแหละ แม่งขำว่ะ เหี้ยกัส มึงโคตรตลกเลยว่ะ หน้าเฉย ๆ แล้วก็ตอบไปเรื่อย ๆ เวลาที่มึงมึนแบบนี้ กูไม่ไหวจะพูดอะไรต่อแล้วเหมือนกัน โคตรขำ

“เอ้า เหี้ยหยกมึงขำอะไรนักหนาวะ ตลกมากหรือไง”

เออ ตลกมาก

ยิ่งกว่าตลกอีก คิดได้ไงวะ แต่ละอย่าง แล้วเสือกบอกว่าแล้วแต่กู พอกูเลือกให้ก็ไม่กินซะงั้น แบบนี้จะแล้วแต่กูได้ยังไง มันต้องแล้วแต่มึงแล้วแบบนี้

“กินข้าวไข่เจียวเหอะมึงอ่ะ กินอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ลำบากชีวิตตายห่า”

เออใช่ พูดมาซะตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง

“ใช่ ใช่ ข้าวไข่เจียว ใส่หมูสับ แล้วไม่เสือกคิดตั้งแต่แรกวะ พูดชื่อเหี้ยอะไรอยู่ได้ตั้งนาน”

ความผิดกูเหรอเนี่ย ตกลงกูผิดใช่มั้ย

“ขอโทษครับ น้องกัส พี่หยกผิดไปแล้ว ทำไมน้องกัสไม่บอกพี่หยกตั้งแต่แรกล่ะครับ ว่าจะแดกข้าวไข่เจียว ไม่งั้นก็จบตั้งนานแล้ว”

กูไม่ได้โง่หรอกนะ มึงประชดกูอยู่ใช่มั้ยหยก

“แต่ถ้ามึงไม่อยากกินข้าวไข่เจียว มึงจะไปกินสารพัดก๋วยเตี๋ยวของมึงก็ได้ กูไม่ได้ว่าอะไร”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยย กูยังไม่ได้พูดเลย อย่ามาทำแบบนี้สิวะกัส

ทำแบบนี้....... เหมือนมึงงอนเลยนะ อาการคล้าย ๆ เหมือนมึงกำลังงอน แล้วก็เป็นการงอนที่.........น่ารักเหี้ยๆ เลยว่ะ

“กินข้าวไข่เจียวกับมึงนี่แหละ ใส่หมูสับเยอะ ๆ”

พูดจาเอาใจ และกัสก็หันมามองหน้าของหยกตรง ๆ

หยกเป็นเหี้ยอะไรวะ พูดไปยิ้มไป พูดไปทำตาเยิ้มไป หิวมากจนตาลายหรือไง หรือว่าอ่านหนังสือมากไปจนเบลอ เวลาพูดก็เลยมองหน้ากูแล้วตาเยิ้มไปด้วย

“มึงเป็นอะไรมากมั้ยหยก”

เป็นอะไรเหรอ  กูเป็นอะไร กูก็เป็นกูนี่แหละ จะให้กูเป็นอะไรวะ

“กูหล่อขึ้นเหรอ ธรรมดานะ กูชินแล้ว”

เหรอ แม่งเมาชัวร์ สงสัยอ่านหนังสือมากไปจริง ๆ ด้วย

“มึงตัวร้อนเปล่าเนี่ยหยก”

เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร กูเหมือนคนเป็นอะไรหรือไง กูก็ปกติดีทุกอย่าง

“เหมือนจะป่วยว่ะ อากาศมันร้อนๆ หนาว ๆ พิกล สงสัยกูเครียด”

เอาจริงดิ

“งั้นกินข้าว แล้วก็กลับบ้านไปกินยานอนพักเดี๋ยวก็หาย”

เหรอ

“ห่วงกูดิ”

เงียบ

กัสไม่พูด แต่ใช้วิธีการนิ่งเงียบ และก็เป็นหยกที่เลิกคิ้วขึ้นสูงและพยายามจะมองหน้าของอีกฝ่ายตรง ๆ

ทำไมวะ

เป็นอะไร

อยู่ดีๆ ก็เงียบ มึงเป็นอะไรวะกัส

“อือ”

กัสไม่ตอบเป็นคำ แต่พยักหน้านิดเดียว และก็เป็นหยกที่ถึงกับยิ้มกว้าง และเดินไปยิ้มไป โดยมีคนข้าง ๆ กำลังทำหน้างง
ไม่เข้าใจว่าหยกจะยิ้มทำไมมากมาย ยิ่งยิ้มก็ยิ่งทำให้ทำตัวไม่ถูก ยิ้มแล้วก็มองหน้า

อะไรของแม่งวะ ไอ้หยกท่าจะอาการหนักแล้วนะแบบนี้

“กัส...กินข้าวแล้วมึงอย่าลืมไปส่งกูที่หอนะ”

ก็ต้องไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ไปส่งแล้วมึงจะเดินกลับไปคนเดียวหรือไง เดินจากตรงนี้กลับหอมึงก็ตั้งไกล กูคงไม่ใจดำไม่ขี่รถไปส่งมึงหรอก

“อือ”

แค่การตอบรับ ด้วยการพยักหน้าเหมือนเดิม แต่คราวนี้หยกยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่

ไม่รู้นะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แค่รู้สึกว่าชอบแบบนี้ ชอบเวลาที่กัสมันทำหน้าเฉย ๆ แล้วก็ตอบรับแบบนี้

แม้มันจะทำหน้าเฉย แต่ก็มีบางครั้งที่แอบเห็นว่ามันเองก็ยิ้มเหมือนกัน
แม้มันจะทำเหมือนไม่ยิ้ม แต่มันก็ยิ้มแหละวะ

หน้าไอ้กัสดูง่ายจะตาย ดีใจหรือเสียใจ ดูยากที่ไหน ยิ้มหรือไม่ยิ้ม หรือพยายามฝืนจะไม่ยิ้มก็ดูไม่ยากเหมือนกัน
กูบอกแล้วมึงมีปัญหาที่หน้า อารมณ์ไหนรู้สึกยังไง มึงก็แสดงอารมณ์ชัด ๆ ออกมาทางสีหน้าตลอด มีหรือกูจะดูไม่ออก

ยิ่งมึงทำหน้าแบบนี้นะ กูยิ่งชอบมอง ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบมอง แต่กูชอบมองหน้ามึงแบบนี้จริง ๆ อยากมองไปเรื่อยๆ อยากจะมองแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มองไปนาน ๆ

“ข้าวไข่เจียวมื้อนี้แม่งคงโคตรอร่อยเลยว่ะ”

มันจะไปอร่อยตรงไหนวะ มันก็เป็นข้าวไข่เจียวธรรมดานี่แหละไม่เห็นว่ามันจะพิสดารกว่าเดิมตรงไหน

“ทำไม...เขาเอาไข่ไดโนเสาร์มาทอดให้มึงแดกหรือไง”

มึงก็ฮาเหมือนกันนะเนี่ย เห็นงง ๆ เหม่อ ๆ แบบนี้ แต่ระดับความรุนแรงทางวาจาถือว่าใช้ได้

“ก็ไข่ไก่นี่แหละ แต่มันคงอร่อยมาก”

อะไรของแม่งวะ หยกคงจะเครียดมากจริง ๆ มันถึงได้แต่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนกูจะยิ้มตามมันไปด้วยอยู่แล้ว

“มันจะอร่อยมากไปได้ยังไง มันก็ข้าวไข่เจียว”

เหรอ

มึงว่างั้นเหรอ

แต่กูว่าไม่น่าจะใช่นะ

“มันเป็นการกินข้าวด้วยกันกับมึงครั้งแรกนี่หว่า หลังจากที่พลาดจากคราวก่อนที่ไม่ได้กินข้าวด้วยกันไง กูก็อยากจำเรื่องดี ๆ หน่อย กูก็เลยต้องคอยบอกตัวเอง เผื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ ถ้ามึงถามกูอีก ว่ากินข้าวกับมึงครั้งแรกรู้สึกยังไง กูจะได้ตอบว่าโคตรอร่อย”

เหี้ยหยกแม่งท่าจะบ้า

บ้าไปแล้ว

“กูอยากเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของมึงจริง ๆนะกัส มึงก็รีบ ๆ บอกตัวเองด้วย...รีบ ๆ บอกให้ตัวเองจำ ว่ากินข้าวกับกูครั้งแรกรู้สึกยังไง มึงรีบจำใส่สมองมึงไว้เยอะ ๆ เลยนะ ว่ากินข้าวกับกูครั้งแรก......แม่งโคตรอร่อยเลยจริง ๆ”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2014 22:12:02 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#คนในความทรงจำ

“ไม่ชอบต้นหอมทำไมไม่บอก ไปสั่งมาใหม่เหอะ เขี่ยออกขนาดนั้น เละจนกินไม่ได้แล้วกัส”

หยกเอ่ยบอกคนที่พยายามจะใช้ช้อนพลาสติกเขี่ยต้นหอมออกจากไข่เจียว ยิ่งเขี่ยยิ่งเละ ไข่เจียวที่ถูกเขี่ยต้นหอมออก มีสภาพเละจนไม่น่ากิน

กัสกำลังโมโหเพราะข้าวไข่เจียวที่อยู่ในกล่อง

กูจะไปรู้เหรอ ว่าเขาจะเผลอใส่ต้นหอมเข้าไปด้วย แม่งโคตรเกลียดต้นหอม ใส่เข้ามาทำไมวะ

กูเกลียดต้นหอมที่สุด

“สั่งใหม่ไม่ได้หรอก”

ตอบออกไป และหยกที่กำลังใช้ช้อนพลาสติกตักข้าวจากกล่องโฟมเข้าปาก ก็ชะงักมือที่กำลังตักข้าว

ทำไมวะ แค่ข้าวไข่เจียว สั่งมาอีกกล่องก็ได้ จะเป็นไรไป กล่องละไม่กี่บาท

“มึงไม่มีตังค์ดิ”

ชะงักช้อนที่กำลังเขี่ยต้นหอมออกจากไข่เจียว และกัสก็ไม่ตอบอะไรออกมาสักคำ

“กัส มึงไม่มีตังค์ดิ”

แล้วไงวะ มีหรือไม่มี เกี่ยวอะไรกับมึง พ่อกูไม่ได้ผลิตเงินได้ แค่เขาให้เงินกูใช้เป็นสัปดาห์ก็ดีถมเถไปแล้ว

อย่าพูดเรื่องไปทำงานพาร์ทไทม์หรืออะไรทำนองนั้นนะ กูเคยลองทำแล้ว พอทำไปได้ไม่นาน ก็มีปัญหากับเขาตลอด
สาเหตุเดียวเลย คือบางครั้งกูทนทำอะไรนาน ๆ ไม่ได้ โดนดุนิดเอ็ดหน่อยกูจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ และหน้ากูจะแสดงอารมณ์ชัดเจนมาก

พยายามแล้ว พยายามจะไม่แสดงความรู้สึกทางสีหน้า แต่ทำไม่เคยได้ สุดท้ายไม่ว่าทำงานที่ไหน ก็ต้องออกมา ก่อนจะถูกเขาไล่ออก ก็เลยซิ่งรถ บางทีก็ได้เงินจากการแข่งรถมาไว้ใช้บ้าง เวลาที่มีการลงขันกันกูจะเป็นคนซิ่ง ถ้าชนะกูก็ได้ส่วนแบ่ง มีเที่ยวเตร่บ้าง แต่ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้ใช้ เวลาที่ทะเลาะกับพ่อ แล้วพ่อไม่ยอมให้เงิน

มันก็เป็นแบบนี้
เป็นแบบนี้มานานจนชิน บางครั้งเงินมันก็อยู่ในมือมีให้ใช้ไม่เคยขาด แต่ช่วงนี้ไม่ได้แข่ง แล้วก็ไม่ได้กลับบ้าน จะแปลกอะไรที่เงินจะขาดมือ

ไม่เห็นน่าแปลกตรงไหน กูก็อยากจะหยิ่งให้มาก ๆ หรอก แต่หยิ่งมากไป บางทีก็กลัวอดตาย

“ข้าวไข่เจียว ไม่ใส่ผัก ใส่แต่หมูสับนะกัส เดี๋ยวกล่องนี้กูกินเองมึงไม่ต้องกินแล้ว”

อย่าใจดี
บางครั้งมึงก็ใจดีกับกูมาก
จนกูรู้สึกว่ากูกำลังเอามึงเป็นที่พึ่งทางใจ
ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ ไม่เคยมีใครดีกับกูจากใจจริงแบบนี้ ไม่มี แม้แต่เพื่อนที่คบ กูก็รู้ว่าไม่เคยมีใครจริงใจ

ไม่เคยมีใครห่วงกูอย่างจริง ๆ จัง ๆ
ผิดกับมึงโดยสิ้นเชิง

มึงดีกับกูมาก

มากจนกู....ยึดมึงไว้เป็นของตัวเองคนเดียว โดยที่....ไม่เคยบอกมึงเลย

“ไม่ต้อง กูเขี่ยต้นหอมออกหมดก็กินได้แล้ว”

ตั้งหน้าตั้งตาเขี่ยต้นหอมออก และตักเศษไข่เจียวเละ ๆ ที่อยู่ในกล่องข้าวเข้าปาก เงินซื้อข้าวแค่นี้ ถ้ากูซิ่งรถชนะ กูซื้อได้อีกยี่สิบกล่อง จะซื้อมากกว่านี้เท่าไหร่ก็ได้ แต่บังเอิญว่า ตอนนี้กู...ยังไม่มีเงิน อย่างที่มึงพูดจริง ๆ

“วางเหอะ ไม่ต้องฝืน ไม่อยากกินก็คือไม่ต้องกิน เข้าใจมั้ยกัส เรื่องแค่นี้มึงอย่าฝืน ข้าวกล่องเดียว กูซื้อให้มึงกินได้ หรือมึงคิดว่ากูไม่มีปัญญาซื้อให้มึงกิน”

เงยหน้าขึ้น
เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าตรง ๆ มองและไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่มอง และหยกก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ส่งกล่องข้าวของตัวเองให้กัสถือเอาไว้

“ฝากถือหน่อย กินน้ำอะไร แค่น้ำกูก็ซื้อให้มึงกินได้กัส มึงบอกคำเดียวจะกินอะไร กูจะซื้อให้”

ง่ายดาย ถ้อยคำง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของคนมีน้ำใจ

หยกมีน้ำใจ
หยกใจดี

จนบางที กัสก็รู้สึกว่าหยกใจดีมากเกินไป มากจน....บางครั้งกลัวที่จะอยู่ใกล้....

กลัวเวลาที่ได้อยู่ใกล้ กลัว...ใจตัวเอง...กลัวจะคิดเป็นอื่นไปไกล

“อย่าตอบว่าอะไรก็ได้นะ เพราะเวลากูถามมึงก็ไม่ชอบกินสักอย่าง อยากกินอะไรบอกเลย กูซื้อให้ได้ ของแค่นี้”

อย่าใจดีเลย
อย่าใจดีกับกูมากกว่านี้เลยหยก กูกลัวจะยึดติดมึงเอาไว้กับตัวไม่ยอมปล่อย

“กูจะกินน้ำแดงโซดา กินมั้ย”

กิน...
น้ำแดงโซดา

กิน

พยักหน้าอย่างช้า ๆ และหยกก็ยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อมองหน้าของคนที่มีสีหน้าลำบากใจ

“กัส....”

เออ

เงยหน้าตามเสียงเรียก และหยกก็ส่งยิ้มให้ หยกเป็นคนยิ้มสวย รอยยิ้มของหยก สว่างสดใสเสมอในสายตาของกัส มันเต็มไปด้วยความสุข และสว่างสดใสเสมอ

หยก....

“เดี๋ยวกูมานะ รอแป๊บเดียว”

มองตาม
มองตามแผ่นหลังของคนที่เดินไปที่ร้านข้าวไข่เจียว
มองตาม
ได้แต่มอง..... จ้องตรงไปที่แผ่นหลังของหยก มองตรงไป แม้ผู้คนจะเดินกันขวักไขว่ไปมา แต่ในสายตาของกัสมีเพียงแค่หยก

มองแค่หยกเท่านั้น มองแค่หยกเพียงคนเดียว แม้มีผู้คนมากมายอยู่รอบตัว แต่คนที่กัสมอง และทำให้กัสรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้มีเพียงหยกคนเดียว เพียงแค่หยกคนเดียวเท่านั้น

“หยก....”

เอ่ยชื่อของคนที่กำลังยืนสั่งข้าว เรียกชื่อของคน ๆ นั้นเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม

ดีใจที่ได้เจอกัน โชคดีที่ได้เจอกัน หยกคือความโชคดีที่สุดในชีวิตตั้งแต่แม่ไม่อยู่ ขอบคุณโลกกลม ๆ ใบนี้ที่ทำให้ได้เจอหยก
เพราะได้เจอหยก เพราะได้พบเจอหยก เพราะได้อยู่ใกล้ ๆ หยก

กัสเคยมองว่าโลกนี้มันแย่ และเลวร้าย จนไม่อยากสนใจทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว แต่เมื่อมาเจอหยก เมื่อได้รู้จักกัน ถึงเพิ่งรู้ ว่าท้องฟ้าสีฟ้าบางครั้งเมื่อแหงนหน้ามองก็รู้สึกถึงความสดใส

ในยามค่ำคืน ที่คิดว่าเป็นเวลาที่เลวร้ายที่สุด แต่เมื่ออยู่กับหยก สามารถหลับตาลงได้อย่างสงบ

แค่มีหยกอยู่ข้าง ๆ อยากมีหยกอยู่ข้าง ๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป สิ่งที่กัสแอบภาวนาขอไว้ในใจเล็ก ๆ สิ่งที่หยกไม่เคยรู้

ขอให้เรา.....ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนาน ๆ ..... ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทุกวัน

ขอให้หยก...ยังอยู่ด้วยกันตรงนี้ อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไป

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2014 22:16:43 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ไม่กินข้าวเหรอ”

คนที่ถามขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นกัสนั่งมองข้าวในจานอยู่อย่างนั้นเป็นนาน นั่งมองไปเรื่อย ๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างและไม่แม้แต่จะหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวใส่ปากเลยสักคำ

“ไม่กินเหรอ”

อยากกินอยู่หรอก แต่ไม่ชอบ ไม่ชอบกินแบบนี้ ไม่ชอบกิน....

“แล้วอยากกินอะไร”

กัสเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว สิ่งที่รู้สึกในเวลานี้ ถ้อยคำบางอย่างของคนที่อยู่ตรงหน้ามันแสนคุ้นหูและรู้สึกคุ้นเคย

แล้วจะกินอะไร.......
อยากกินอะไรเหรอ
ไม่รู้สิ กินอะไร...เหรอ กิน... ถ้าจะให้กินอะไรก็ได้ แล้ว...แต่...

“แล้วแต่...มึ....”

เกือบจะหลุดคำพูดบางอย่างออกไป แต่ก็หยุดเอาไว้ และกัสก็ค่อย ๆ ก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ

ขมวดคิ้วมุ่น

รู้สึกบางอย่าง รู้สึกว่าเคยชิน
เคยชินกับการถูกถามและเคยชินกับการตอบกลับแบบนี้ เคยชินกับการพูดบางอย่างแบบนี้กับใครสักคน ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้
การเอาแต่ใจตัวเอง นิสัยเอาแต่ใจตัวเองแบบไม่รู้ตัว ที่กล้าทำกับใครบางคน

“แล้วแต่กู แต่กูซื้ออะไรมาก็เห็นมึงกินแค่คำสองคำเองกัส ไม่มีอะไรที่ชอบเลยหรือไง มีอะไรที่ชอบกินบ้างหรือเปล่า”

ไม่มี
คิดว่า....ไม่
แต่บางทีอาจจะมี บางทีอาจจะ...

“อันนี้....ก็....กินได้”

มองข้าวในจาน และหยิบช้อนมาถือเอาไว้ มองแล้วก็ค่อย ๆ เขี่ยเม็ดข้าวในจานไปมา

ข้าวหมูแดง...น้ำราดหมูแดงไม่ชอบเลย ไม่ชอบ....แต่ก็ต้องฝืนใจกิน ฝืนใจกินทั้งที่ไม่ชอบ

ถ้าหยกสั่งให้ จะไม่สั่งข้าวหมูแดงมาเด็ดขาด
เพราะหยกรู้ว่า.........

“นิว”

เรียกชื่อของคนที่กินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม และนิวก็เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก

ดวงตาของกัส เริ่มหรี่ปรือลงอย่างช้าๆ และไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ อาการเดิม ๆ ที่จะค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อระบบประสาทที่สูญเสียได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง

“หย....ก......”

กำลังจะถามว่าหยกเป็นใคร แต่ก็หุบปากเงียบเอาไว้ และก้มหน้าก้มตาใช้ช้อนตักข้าวอย่างทุลักทุเล โดยมีคนที่นั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด

นิวจะไปรู้ได้ยังไงว่าหยกคือใคร ชื่อที่อยู่ดี ๆก็ผุดขึ้นมาในหัว แต่เมื่อพยายามนึกก็นึกไม่ออก สุดท้ายก็เลยต้องนิ่งเงียบ และตักข้าวเข้าปาก

กินของที่ไม่ชอบ กินของที่คิดว่าไม่อร่อย แต่ก็ต้องกิน จำใจต้องกินเพราะอีกฝ่ายอุตส่าห์มีน้ำใจซื้อมาให้ ก็เลยต้องกิน จำใจต้องกิน

ทั้งที่.....ในใจลึก ๆ อยากจะบอกว่า ข้าวไข่เจียว...ที่เคยกิน เมื่อนานมาแล้ว อร่อยกว่าข้าวหมูแดงที่กินอยู่ในเวลานี้มาก
อร่อยมาก อร่อยที่สุด โคตรอร่อย และบางที...มันอาจจะอร่อยกว่าอาหารมื้อไหน ๆ ที่เคยกินมาก็ได้

แต่เคยกินจากที่ไหนล่ะ
กินกับใคร....
ใคร.....

“มึงรีบจำใส่สมองมึงไว้เยอะ ๆ เลยนะ ว่ากินข้าวกับกูครั้งแรก......แม่งโคตรอร่อยเลยจริง ๆ”

แล้วกินกับใคร
ที่ว่าอร่อย

กินข้าวกับใคร.....แล้วทำไมถึงต้องจำว่าข้าวมื้อแรกที่กินด้วยกัน อร่อยมาก

ทำไมต้องจำว่า ข้าวที่กินด้วยกันมื้อแรก.....................

“โคตรอร่อยเลยจริง ๆ”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2014 22:18:55 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :L2:

สิ่งดีๆมันเตือนจิตใจให้นึกถึงอยู่เสมอเมื่อเรารู้สึกสุขใจ

สิ่งร้ายๆคือทุกอย่างที่อยากจะลืมแต่กลับลืมมันไม่ได้จากจิตใจเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2014 22:25:00 โดย roseen »

shenta

  • บุคคลทั่วไป
.
เป็นคนที่ร้องไห้ง่าย แต่ก็ชอบอ่านดราม่า
.
.
.
เป็นพาร์ที่่ชอบที่สุด กัส +หยก

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
น้ำตาไหลให้ข้าวไข่เจียวที่อร่อยโคตรๆ  T^T

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
อ่านแล้วเศร้าแต่โคตรฟิน
รอวันหยกกลับมาหากัส
ขอให้ไม่จบเศร้านะจร้า

ขอบคุณคนแต่ง&คนอัพ
สุดยอดทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ butter.juliet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
กัสหยก หยกกัส รอค่ะรอ มาต่อไวไวน้า  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#เพราะไม่รู้ว่ารัก

“เอ็งหายไปไหนมาหลายวัน บ้านช่องไม่รู้จักกลับ เคยรู้บ้างมั้ยว่าทำให้อาเป็นห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เมื่อไหร่เอ็งจะสำนึกบ้าง”

กัสยืนนิ่งเงียบ ฟังสิ่งที่อากำลังบ่น

บ่นแบบนี้ทุกที บ่นทุกครั้งที่เห็นหน้ากัน
อาทำหน้าดุ และบ่นอะไรยืดยาวไปเรื่อย จนกัสรู้สึกว่าไม่อยากฟัง ไม่อยากจะฟัง และเบื่อที่จะฟังเต็มที

“กัสไม่อยู่หลายวัน อาก็ไม่ต้องด่ากัสให้เมื่อยปากไม่ดีหรือไง”

น้อยใจ และเสียใจ
มันเป็นอาการปกติ ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เวลาที่กลับบ้าน
โชคดีหน่อยที่วันนี้พ่อยังไม่กลับ ไม่อย่างนั้นกลับมาคงโดนด่ายิ่งกว่านี้

อาแค่บ่น จนน่ารำคาญ แต่พ่อด่า ด่าแบบรุนแรง และเหมือนไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่ากัสจะรู้สึกยังไง

“อาเป็นห่วงเอ็งเคยเข้าใจบ้างมั้ยกัส”

ไม่เข้าใจหรอก จะไปเข้าใจได้ยังไง มีแต่ด่าว่ากัสทำตัวมีปัญหาสร้างแต่ปัญหาตลอด แล้วจะให้คิดยังไง
คิดว่าห่วงเหรอ

ถ้าห่วงจริง กลับมาก็น่าจะดีใจ ไม่ใช่บ่นใส่ขนาดนี้

“อาเกลียดกัสมากใช่มั้ย เห็นหน้าทีไรอาก็ด่ากัสตลอด”

พูดออกมาตามที่ใจคิด พูดออกมาตรง ๆ
สีหน้าและแววตาที่แสดงออก ทำให้อาต้องหยุดการบ่นและถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม

“เฮ่ออออออ ไอ้กัสเอ้ยยยย”

นี่ก็อีกอย่าง
อาทำไมต้องถอนหายใจใส่กัสด้วย อาเกลียดอาก็บอกมาตรง ๆ เลย ไม่ต้องถอนหายใจใส่แบบนี้ อาไม่รู้หรือไงว่ากัสเสียใจ

กัสเสียใจมากนะ เวลาที่อาทำแบบนี้ใส่

“ที่ด่ากัสทุกวัน ก็เพราะอาเกลียดกัสนั่นแหละ”

ฝังจิตฝังใจว่าถูกเกลียด และเตรียมจะเดินหนีขึ้นห้อง

“เอ็งกินข้าวมาหรือยัง”

กินแล้ว
กินกับหยกมาแล้ว

“ไอ้กัส”

ได้ยินเสียงเรียก แต่ไม่ยอมพูดด้วย ไม่ยอมตอบ ไม่ยอมพูด

“เฮ่ออออ เอ็งมันก็เอาแต่คิดมาก คิดว่าอาเกลียด เอ็งจะให้อาเกลียดเอ็งเหรอ อาเลี้ยงเอ็งมากับมือนะกัส ตอนเด็ก ๆ เอ็งไม่ใช่เด็กดื้อแบบนี้ แต่พอโตมาทำไมเอ็งเป็นแบบนี้ล่ะ”

ไม่รู้
จะไปรู้ได้ยังไง กัสเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่อานั่นแหละที่เปลี่ยนไป สมัยก่อน ตอนเด็ก ๆ อาใจดีกว่านี้

อาไม่เคยด่าว่ากัสแบบนี้
แล้วทำไมตอนนี้อาถึงได้เอาแต่บ่นเอาแต่ด่าทุกครั้งที่เจอ

อานั่นแหละที่เปลี่ยนไป
ไม่ใช่กัสที่เปลี่ยน แต่เป็นอาต่างหากที่เปลี่ยนไป

“เอ็งก็เป็นแบบนี้เรื่อย ไม่พอใจไม่ชอบ ก็ไม่เคยหัดที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอ็งหัดเปิดใจให้คนอื่นเขาบ้าง คนอื่นเขาก็มีเหตุผลของเขาเหมือนกัน”

แต่อาไม่มีเหตุผล

อาด่ากัสทำไม อาจะบ่นจะด่าจะว่ากัสไปถึงไหน
อาไม่รู้บ้างเหรอ ว่ากัสเสียใจ ไม่รู้เลยหรือไงว่ากัสน้อยใจ

ทำอะไรก็ไม่เคยดีสักอย่าง ขนาดกลับบ้านมา ยังถูกด่าเลย
แล้วจะให้ทำยังไง จะให้อยู่ตรงไหนส่วนไหนของบ้านถึงจะไม่โดนด่า

จะให้ทำยังไงถึงจะพอใจ

“ไม่ต้องไปพูดกับมัน ไอ้เด็กเวร เลี้ยงเสียข้าวสุก เคยทำตัวมีประโยชน์บ้างมั้ย วัน ๆ เอาแต่ซิ่งรถ กวนเมือง หนังสือหนังหาเคยไปเรียนบ้างมั้ย เห็นมีแต่หนังสือจากครูมาตลอด มึงจะเรียนหรือไม่เรียนไอ้กัส ถ้าไม่เรียนก็ออกม ออกไปเป็นโจรให้รู้แล้วรู้รอดไป ไอ้ลูกเหี้ย”

พ่อกลับมาแล้ว
พ่อเดินเข้ามาในบ้านตอนไหนไม่รู้

และเมื่อพ่อมาถึงและเห็นหน้ากัส พ่อก็ชี้หน้าด่า

พ่อด่ากัสอย่างรุนแรง กัสเสียใจ สิ่งที่กัสรู้สึกคือความเสียใจและน้อยใจอย่างรุนแรง มันเจ็บปวดยิ่งกว่าที่อาด่า

เจ็บปวดมาก เพราะทุกถ้อยคำจากพ่อที่สรรหามาด่าให้คนฟังเสียใจ

กัสต้องทนฟังถ้อยคำที่ไม่อยากฟัง
พ่อด่าแบบเสีย ๆ หาย ๆ
พ่อไม่เคยรัก พ่อไม่เคยสนใจ พ่อมีแต่ด่า พ่อเกลียดกัส
พ่อเกลียดกัสมาก ถ้าเกลียดขนาดนี้ ทำไมไม่ฆ่าให้ตายซะ บีบคอให้ตายตั้งแต่เกิดซะสิ จะปล่อยให้โตมาขนาดนี้ทำไม

โตมาให้เป็นภาระของพ่อ
โตมาให้พ่อเกลียด

แล้วพ่อเลี้ยงให้โตขนาดนี้มาเพื่ออะไร

“พูดแล้วยังทำเฉย ทำหูทวนลม ด่าแล้วยังไม่รู้จักสำนึก เพื่อนเหี้ย ๆ เลว ๆ นั่นน่ะคบเข้าไปสิ ไอ้เด็กเหี้ย เมื่อไหร่มึงจะรู้จักสำนึกบ้าง วัน ๆ กูทำงาน งก ๆ เพื่อส่งมึงเรียน แต่มึงไม่เคยตั้งใจเรียน ทำตัวเลว ๆ ได้ทุกวัน หายหัวไปตั้งนานนึกว่าจะตายห่าไปซะแล้ว ยังกลับมาได้อีก ไอ้ลูกเหี้ย”

มันเจ็บปวดที่ได้ฟัง
ทุกถ้อยคำ มันกรีดลึกเข้าไปในหัวใจ
ทุกย่างก้าวที่ขากำลังเดินขึ้นบันไดบ้าน มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

พ่อกำลังโมโห
พ่อด่าไปโมโหไป แล้วพ่อไม่คิดบ้างหรือไงว่ากัสก็โมโหเป็น

โมโห

และ.....เกลียด

เกลียดพ่อที่สุด

หันหน้ากลับมามองหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าพ่อ
นี่เหรอพ่อ เราเป็นพ่อเป็นลูกกันจริง ๆ ใช่มั้ย

พ่อต้องรักลูกไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ด่าว่ากันแบบนี้
พ่อต้องห่วงลูกไม่ใช่เหรอ
พ่อต้อง.........

“พูดแล้วยังมองหน้า มึงจะมองหน้ากูทำไมไอ้กัส มึงอยากลองดีใช่มั้ย ไอ้ลูกเวร”

กัสไม่รู้ว่าพ่อโมโหอะไร พ่อโมโหมาก
พ่อด่าแล้วพ่อก็โมโห แค่หันไปมอง พ่อก็ตะโกนด่าแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สุดท้ายพ่อคว้าหนังสือพิมพ์ขว้างขึ้นไปโดนหน้าของกัส

“พี่ ไปทำมันทำไม พ่อแล้ว พี่ขจร พี่ขจรเลิกด่ามันได้แล้ว”

อารีบมาดึงแขนของพ่อ และกัสที่ถูกหนังสือพิมพ์ขว้างใส่หน้าก็ได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น

มองไปที่หนังสือพิมพ์ที่หล่นอยู่ที่ขั้นบันได

มองแล้วก็รู้สึกว่าน้ำตากำลังหยดลงที่ข้างแก้ม

“ไอ้กัส ขึ้นบ้านไป”

อาตะโกนบอก แต่กัสได้แต่ยืนนิ่งเงียบน้ำตาไหล

“ปกป้องมันทำไม ไอ้เด็กเหี้ยนี่โดนแค่นี้ยังน้อยไป มันต้องโดนมากกว่านี้”

พ่อกำลังมองหาบางอย่างที่จะสามารถขว้างปาใส่กัสได้ และเป็นอาที่รีบดึงแขนห้ามพ่อเอาไว้

“ไอ้กัส เอ็งจะยืนอยู่ทำไม ขึ้นห้องไปสิ ขึ้นไป”

ก้มหน้าลง
ก้มหน้าและรู้สึกว่าน้ำตาไม่ยอมหยุดไหล

เสียใจกับสิ่งที่พ่อทำ
น้อยใจเพราะสิ่งที่พ่อทำ

ก้าวขาเดินเงียบๆ เข้าห้อง และปิดประตูเสียงดังสนั่น

“ดูมันทำ ดูมันทำนะ ถ้าไม่มีปัญญาสร้างก็อย่าทำลายของ ๆ กู ไอ้กัส ไอ้เด็กเหี้ยยยย”

เสียงตะโกนดังลั่นโหวกเหวกมาจากชั้นล่าง

พ่อยังตะโกนด่าขึ้นมาด้วยถ้อยคำเลวร้าย
และกัสก็ได้ยินเสียงอาห้ามไม่ให้พ่อด่าอีก

ทำไมวะ
การที่คนเราเกิดมาเป็นคนที่ไม่ดีพร้อม มันเป็นเรื่องที่แย่มากนักเหรอ

การที่อ่านหนังสือไม่ออก พยายามเท่าไหร่ก็จดจำตัวหนังสือพวกนั้นไม่ได้ มันผิดมากนักหรือไง

ปัญหามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เข้าเรียนชั้นประถม และยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ กัสก็ยิ่งสับสนงุนงงกับตัวหนังสือที่เขียนปนเปกันไปหมด จนอ่านไม่ออก

ถูกเพื่อนล้อว่าโง่เป็นควาย
ถูกครูด่าหาว่าไม่ตั้งใจเรียน

ทั้งที่ตั้งใจแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมการอ่านและเขียนหนังสือถึงเป็นเรื่องยากสำหรับกัสมาก

พ่อพยายามจะสอนหนังสือให้กัส เพราะแม่อ่านหนังสือไม่ออก แต่ยิ่งสอนกัสยิ่งอ่านไม่ได้ จนพ่อโมโห

โมโหมากเข้าก็ด่าหาว่าโง่
บ่อยครั้งที่อ่านข้อความเดิม ๆ ไม่ได้ พ่อก็ตี หาว่าสอนเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักจำ

เกลียดการเรียน
เกลียดการอ่าน การเขียน เพราะมันทำให้กัสโดนครูว่า โดนเพื่อนล้อ และโดนพ่อตี

แม่เป็นคนเดียวที่เข้าใจ และแม่บอกให้กัสค่อยๆ อ่าน
ใจเย็น ๆ ค่อยๆ หัด แม่ไม่เคยตี แม่กอดและบอกว่าไม่เป็นไร แม่ก็อ่านหนังสือไม่ออกเหมือนกัน แต่แม่ก็อยู่ได้

แม่เป็นช่างเย็บผ้า
ไม่ต้องรู้หนังสือมากนัก แต่แม่ก็เย็บผ้าให้ลูกค้าได้

แต่กัสไม่ใช่ช่างเย็บผ้าเหมือนแม่ ต่อไปกัสจะทำอะไร ถ้ากัสไม่รู้หนังสือ

กัสไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว ใครจะดูแล
ใครจะกอด ใครจะบอกกัสว่าไม่เป็นไร ถ้าไม่มีแม่แล้วกัสจะอยู่ยังไง

นอนร้องไห้ทุกคืน เมื่อแม่จากไปจริง ๆ
เสียใจที่รู้ว่าแม่ทิ้งกัสไป แม่ไม่ยอมกลับมาหากัสอีกแล้ว

แม่ไม่มีทางกลับมา

ทุกวันที่ยังต้องไปโรงเรียน เพื่อนยังล้อว่ากัสโง่เหมือนควาย
ครูยังด่าหาว่ากัสไม่ตั้งใจเรียนหนังสือและเขียนสมุดพกส่งมาที่บ้าน

พ่ออ่านและพ่อด่าว่ากัสทุกครั้ง

หนัก ๆ เข้า พ่อก็ตี
เจ็บไปหมดทั้งตัว แต่ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากร้องไห้

พ่อบอกว่า เพราะทำตัวแบบนี้ แม่ถึงไม่กลับมา
เป็นความผิดของกัสจริง ๆ หรือเปล่า เพราะกัสไม่ดี เพราะกัสอ่านหนังสือไม่ออก แม่เลยจากไป

กัสไม่อยากให้แม่ตาย

แม่ทำไมต้องตาย

ทำไมแม่ต้อง.....จากกัสไปไกลขนาดนี้
นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง

กอดเข่าและซบใบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล
ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ยิ่งปวดใจมากเท่านั้น

ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ กัสต่อยเพื่อนที่หาว่ากัสโง่ไปหลายคน
ครูเชิญผู้ปกครองมาพบ และบอกว่ากัสมีพฤติกรรมก้าวร้าว เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ไม่ตั้งใจเรียน และรังแกเพื่อน

กลับมาถึงบ้าน พ่อตีกัสจนไม้หัก
ตีและด่า ทั้งตีทั้งด่าว่าไปทำเพื่อนทำไม ไปทำแบบนั้นทำไม

กัสไม่รู้
ทำไมเพื่อนต้องหาว่ากัสโง่ด้วย
ทำไมทุกคนหาว่ากัสโง่ และไม่ตั้งใจเรียน ทั้งที่พยายามแล้วแต่มันทำได้แค่นี้

ทำไมไม่เคยมีใครเข้าใจ
ทำไมพ่อไม่เคยเข้าใจ

มีแค่แม่คนเดียวเท่านั้นที่รักและเข้าใจกัสตลอด

แต่แม่ไม่อยู่แล้ว

แม่ไม่อยู่นานแล้ว
แม่ไม่อยู่.........

น้ำตายังคงรินไหลไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นไห้ที่ไม่เคยส่งไปถึงคนรอบข้าง

กัสกำมือแน่น และซบหน้าร้องไห้เงียบๆ อยู่อย่างนั้น
โดยไม่เคยมีใครรู้หรือเข้าใจเลยสักคน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“มันเป็นแบบนี้ มันไม่เคยปรับปรุงตัวเอง ด่าก็แล้วว่าก็แล้ว เมื่อไหร่มันจะสำนึกบ้าง เอ็งก็เหมือนกัน เข้าข้างมันจนมันเสียคน ถ้าข้าไม่อยู่แล้วมันจะอยู่ยังไง มันคงไปติดคุกติดยาเข้าสักวัน”

พ่อกำลังคุยกับอา
คุยกันหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว

“พี่ห่วงมันฉันก็เข้าใจ แต่พี่ก็ไม่น่าไปทำกับมันแบบนั้น”

รู้ว่าไม่สมควร
แต่ดูเหมือนลูกชายจะทำตัวย่ำแย่จนเกินเยียวยา

พูดดีไปก็เปล่าประโยชน์
ด่าขนาดนั้นมันยังเฉย ไม่เคยสำนึก จนไม่รู้จะทำยังไง

“เอ็งไม่ดูมันทำตาขวางใส่ข้าล่ะ มันติดยาหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพื่อนมันมีแต่เลว ๆ ทั้งนั้น อนาคตต่อไปคงไม่ต้องคุย ข้าห่วงมันมากนะ ข้ามีลูกชายอยู่คนเดียว ไม่ให้ข้าห่วงมันแล้วจะให้ข้าห่วงใคร”

อาได้แต่ฟัง
ฟังแล้วก็ถอนหายใจ
ปัญหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แต่ไม่เคยแก้ไขได้

พ่อก็รุนแรง ลูกก็ต่อต้าน ถ้ากัสมันเข้าใจว่าพ่อมันห่วงมันมากก็คงจะดี

“ตกลงมันหายไปไหนมาหลายวัน มันบอกเอ็งมั้ย”

ส่ายหน้า

อาได้แต่ส่ายหน้าและพ่อก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มันมีตังค์ใช้หรือเปล่าวะ ตั้งแต่มันกลับมา เอ็งเห็นมันกินข้าวกินปลาหรือยัง”

ถามด้วยความเป็นห่วง

หน้าตาซีดเซียวกลับมาแบบนั้น เป็นใครก็ต้องห่วง
หายไปหลายวัน ไม่รู้มันไปกินไปอยู่ที่ไหนของมันได้ตั้งนาน ทำเหมือนไม่มีบ้านอยู่ เร่ร่อนไปเรื่อย

“ถามมัน มันก็ไม่อยากพูดด้วย หาว่าฉันเกลียดมัน”

ทั้งพ่อและอาได้แต่นั่งถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม

“เอาตังค์ให้มันหน่อยนะ ถามมันว่ามีค่าอะไรที่โรงเรียนต้องจ่ายหรือเปล่า”

พ่อเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าที่ขาดแล้วขาดอีก

เปิดดูเงินในนั้นและยื่นธนบัตรใบสีเทาให้กับอา

“ฝากให้มันด้วยนะ แต่เอ็งไม่ต้องบอกนะว่าข้าฝากไว้ให้”

อารับเงินมาถือเอาไว้ และมองหน้าพ่อของกัส

“รักมันขนาดนี้ มันจะรู้บ้างหรือเปล่า ว่าพ่อมันรักมันมาก ไอ้กัสเอ้ยยย”

ส่ายหน้า และทั้งพ่อและอาก็ได้แต่นั่งเงียบด้วยความกลุ้มใจ

“บางทีนะ ถ้าแม่มันยังอยู่ มันคงไม่เป็นแบบนี้ ข้ามันผิดเองที่เลี้ยงลูกไม่เป็น.........ถ้าแม่มันรู้ คงด่าข้าจนหูชาแน่”

ยิ้มเมื่อพูดถึงคนที่ไม่อยู่แล้ว
พ่อยังยิ้มได้เสมอ เมื่อพูดถึงคนที่จากไปแล้ว

เปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าที่ใช้มานานปี
กระเป๋าสตางค์ที่แม่ของกัสซื้อให้ และไม่เคยปล่อยให้ห่างตัว

มองรูปถ่ายขาวดำที่สอดไว้ในซองพลาสติกในกระเป๋าสตางค์และพ่อก็ยิ้มอย่างเศร้า ๆ

“ขอโทษนะนี.....พี่ขอโทษ....พี่เลี้ยงลูกได้ไม่ดีเท่าเอ็ง ถ้าไอ้กัสมันจะเลว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพี่.....พี่มันเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ พี่ขอโทษจริง ๆ นี”

TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: เป็นเรื่องที่เศร้าจนน้ำตาไหลแล้วววววววว รีบมาอัพไวๆนะคะ  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#สเปคของหยก

“พี่หยก มันยังไงพี่ ผมงงว่ะ”

งงเหรอ

ก็มันไม่ยังไงหรอก ก็แค่ว่า.....

“เดี๋ยวอธิบายใหม่ตั้งแต่เริ่มเลยแล้วกัน ตรงไหนงง ถามเลย เดี๋ยวจะชี้ให้เห็นเลยว่า เพราะอะไร”

ไม่ใช่พี่
ที่ผมงงไม่ใช่ที่พี่สอน แต่เป็นหน้าพี่ กับอารมณ์ของพี่

“อกหักมาเหรอพี่หยก”

อกหัก
กูเนี่ยนะ อกหัก คนไม่มีแฟนจะอกหักได้ยังไงวะ

“กูไม่มีแฟน”

คนไม่มีแฟนก็อกหักได้พี่ เหมือนผมที่แค่เจอแว่บเดียวก็ทำอะไรไม่ได้ หลอนเกินกว่าจะจีบ

อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

“ก็พี่ทำหน้าเหมือนคนอกหัก เหมือนถูกแฟนทิ้ง ผมก็คิดว่าพี่อกหักดิ”

กูไปทำหน้าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

“เพ้อแล้วมึงไอ้เพียร”

ไม่ได้เพ้อหรอกพี่ พี่ทำหน้าแบบนั้นจริง ๆ

“พี่ไม่ได้อกหักแล้วพี่เป็นอะไร พี่ถอนหายใจรอบที่ร้อยแล้วมั้งผมว่า”

พูดเป็นเล่น กูเนี่ยนะถอนหายใจ บ้าแล้ว

“กูไปทำตอนไหนวะ”

ไม่ตอนไหนหรอกพี่

“ตอนนี้พี่ก็ทำ”

เฮ้ยยยยยยยยยยย

ไม่จริงมั้ง แต่จะว่าไปก็..........ดูท่าจะจริง

“ผมอกหักบ่อยพี่ อาการแบบนี้ผมเป็นบ่อย ตอนแรกผมนึกว่าพี่จะเป็นไม่กี่วัน แต่นี่พี่เป็นแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ติวไปถอนหายใจไป ถามจริง ๆ เหอะ ใครวะทำให้พี่เป็นได้ถึงขนาดนี้”

แม่ง มั่ว
พูดจามั่วซั่วไปเรื่อย มีที่ไหนวะ ในเมื่อยังไม่ได้คิดจะไปมองใครเลยด้วยซ้ำ

ไม่รู้สิ
พอดีช่วงนี้ไอ้กัสมันหายไปมั้ง
มันหายไปเป็นอาทิตย์แล้ว

ไม่เจอมาเป็นอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่คราวนั้นที่เจอกัน แล้วไปกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่เจออีก

นึกว่ามันจะหลุด ๆ มาหากันบ้าง
แต่นี่มันเงียบสนิท
หายไปเลย เป็นอาทิตย์แล้ว จะไปตามที่ไหนก็ไม่ได้
จะโทรหาก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมให้ติดต่อ

นี่จะเล่นสงครามประสาทกันหรือไง
ไม่รู้หรือไงว่าหงุดหงิด

“กูไม่เป็นไรนี่หว่า มึงพูดอะไรของมึง”

เหรอพี่

“ทำไมพี่ต้องทำเสียงสูงด้วยวะ แสดงว่าพี่เป็นดิ”

เป็นห่าอะไร กูไม่ได้เป็น อย่ามารู้มากไอ้เพียร
กูยังไม่รู้เลยว่ากูเป็นอะไร มึงอย่ามารู้ดีกว่ากู

“สวยป่ะพี่ หรือน่ารักวะ สเปคพี่นี่ยังไง ต้องนมใหญ่ป่ะ”

อ้าวไอ้เหี้ย

“สมองมึงนี่คิดได้เนอะ”

“นมเล็กดิ”

พี่หยกกกกกกกกกกกกกกกก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เหี้ยยยยย พี่หยกสเป็กพี่เหรอนั่น ชอบแบบนมเล็กก็ไม่บอกนะพี่”

มึงจะขำอีกนานมั้ย

พากเพียรนั่งหัวเราะเพราะคำตอบแบบกวน ๆ ของรุ่นพี่ และเป็นหยกที่อมยิ้มเล็ก ๆ และส่ายหน้ากับอาการขำไม่ยอมหยุดของรุ่นน้อง

“เกินไปแล้วมึง ให้ขำห้าสิบ มึงเอาซะพันแปด”

ไม่ขำได้ไงพี่ นาน ๆ พี่จะกวนตีนซะที ไม่ใช่ว่าจะเห็นได้บ่อย ๆ นะพี่ทำเล่นไป

ผมก็เลยโคตรฮาเป็นธรรมดา

“เอาจริงดิพี่ ชอบแบบนมเล็กเหรอพี่”

อะไรของมึง
กูพูดเล่น ไอ้นี่ทำเป็นจริงจัง

“พี่นี่ก็ร้ายใช้ได้ มองนมเหมือนกันดิพี่ นี่ผมนึกว่าพี่ซิง”

นั่นปากมึงเหรอนั่น

“เออกูยังซิงอยู่ จะเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่กูรัก”

คำตอบบ้าบอ และทำให้พากเพียรยิ่งขำจนหยุดไม่ได้

ส่วนหยกได้แต่ส่ายหน้าและยิ้มน้อย ๆ กับพฤติกรรมบ้าบอของรุ่นน้อง

ตอบไปงั้น
กวน ๆ ประสาทไปงั้น เอาขำเข้าว่า แต่ไอ้เพียรก็เส้นตื้นเกินไป เล่นขำซะไม่ยอมหยุดแบบนี้ก็เกินไป

“เอาจริงดิพี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

เอาจริงอะไรของมึง ถามอะไรไม่รู้จักคิด

“ยังไม่ได้เอากัน แค่มองหน้ากันเฉย ๆ มึงนี่ทะลึ่งนะเนี่ย”

และพากเพียรก็เลยหัวเราะไม่ยอมหยุดกับคำตอบนั้น

“พี่หยกแม่งฮาว่ะ หน้านิ่ง ๆ ผมนึกว่าพี่แม่งเก็กนะตอนแรก แต่เวลาพี่ยิงมาแต่ละที ผมจะตายว่ะ พี่หยกโคตรจี้”

เหรอ
เอาซะให้พอ
มึงก็ขำซะให้พอแล้วกัน

เพราะกูไปเล่นมุกเรื้อน ๆ เกรียน ๆ แบบนี้กับคนบางคนไม่ได้ไง เพราะไอ้กัสมันไม่เข้าใจ

แถมมันยังจะทำหน้างงใส่กูอีก หาว่ากูพูดอะไรไม่รู้เรื่อง

ก็ยังดีที่มึงฮา
เป็นไอ้กัส แม่งคงนั่งเงียบกริบ

นาน ๆ จะยิ้มที
ยิ้มเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ไม่รู้แม่งเป็นห่าอะไร
ทำได้อยู่สองหน้า คือหน้าเฉย กับหน้าหงิก

ทำอย่างกับว่าคนทั้งโลกเป็นศัตรูกับมันอย่างนั้นแหละ
ทั้งที่กูก็เปล่าเลย ไม่เคยเห็นมันเป็นศัตรู

ทั้งที่ไอ้กัสทำได้แค่หน้าหงิกกับหน้าเฉย แต่กูโคตรชอบมองหน้ามันเลย

เวลาที่มันดีใจ
มันจะทำให้กูรู้สึกใจเต้นแรง
เพราะมันทำเหมือนมันดีใจมากกกกกกก จนกูเองก็เหมือนจะดีใจไปกับมันด้วย
บางครั้งแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นะ แต่เวลาที่ไอ้กัสมันยิ้มได้

แม่ง.....ตรงๆ เลย.... โคตรน่ารักเลยว่ะ
แล้วมันก็.....คงไปยิ้มแบบนั้น....ให้คนอื่นเห็น เวลาที่มีคนทำอะไรถูกใจมันสินะ

มันคงเที่ยวไปแจกยิ้มให้คนอื่นเขาไปทั่ว

“แล้วจีบกันนานหรือยังพี่ แฟนพี่อ่ะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ พี่ไปจีบกันตอนไหนเนี่ย”

อะไรของมึง
กูยังไม่ได้จีบใครเลย

แฟนอะไรก็ไม่มีหรอก มึงก็ถามไปเรื่อย

“กูไม่มีหรอก อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว กูไม่มีปัญญาไปรับผิดชอบชีวิตใคร ก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวไปแบบนี้แหละ”

พี่หยกก็พูดเกินไป
ผู้หญิงสมัยนี้เขารับผิดชอบตัวเองได้ พี่ไม่ต้องไปรับผิดชอบอะไรเขานักหนาหรอก

“พี่ไม่เปลี่ยวใจแย่เหรอ พี่ไม่น่าอยู่คนเดียวว่ะ ผู้หญิงเสียดายพี่กันทั้งคณะแหละ พี่ไม่เลือกเอาสักคนวะ”

เลือกได้เหรอ
คนนะไม่ใช่ผักปลาถึงจะได้เลือก

“มึงอย่าคิดอะไรตื้น ๆ เพียร ของบางอย่างอย่าคิดว่าเราเลือกได้ ที่จริงคนเลือก มันอาจไม่ใช่เราเสมอไป”

และพากเพียรก็ทำได้แค่นิ่งเงียบกับสิ่งที่รุ่นพี่พูด

เออก็จริงว่ะ
บางทีคนที่เลือกอาจไม่ใช่เราจริง ๆ นั่นแหละ

“แล้วใครมันโง่ไม่เลือกพี่วะ”

ที่ไม่เลือกไม่ได้แปลว่าโง่หรอก

“เยอะแยะไป กูมีอะไรดีล่ะ ถึงได้คิดว่าคนอื่นต้องมาเลือก กูก็คนธรรมดา มีอะไรดึงดูดให้ใครอยากมาอยู่ด้วยที่ไหนล่ะ ถึงมาจริง กูก็ไม่รู้จะมีปัญญาดูแลเขาหรือเปล่า เพราะฉะนั้น อยู่คนเดียวนี่แหละดีแล้ว”

เหรอพี่
พี่พูดซะจนผมอยากอยู่คนเดียวเลยว่ะ
แต่แม่งทำไม่ได้จริง ๆ ผมขาดความรักไม่ได้

มันเป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ผมเลยกลัวเวลาที่ไม่มีความรักอยู่กับตัว ก็เลยแสวงหาไปเรื่อยๆ และจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เจอซะที ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนว่ะ รักแท้เนี่ย มันอยู่ที่ไหนวะพี่ บอกผมทีผมจะไปหามัน

“ชอบโสด ๆ แบบนี้ก็อยู่โสด ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ พี่...เอาตามที่เราสบายใจ”

ก็แน่ล่ะ
กูสบายใจที่จะอยู่แบบนี้ กูก็อยู่ของกูแบบนี้

แม้บางทีกูไม่อยากอยู่แบบนี้กูก็ต้องอยู่

แม้บางที กูอาจจะเผลอ.....คิดถึงใครบางคน

ที่แม่งไม่เคยขำกับมุกที่กูพยายามจะเล่นด้วยก็ถาม

ถึงแม้ว่า..........

“เฮ่อออออ”

นั่นไง ชัดเลย

พากเพียรอมยิ้มและมองหน้ารุ่นพี่ที่ยิ้มกว้าง เพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไร

“เออว่ะ กูถอนหายใจจริงด้วย ถ้ามึงไม่ทักกูก็ไม่รู้ตัวนะเนี่ย แต่กูไม่ได้เป็นอะไรนะ กูแค่.....เซ็งแค่นั้นเอง”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ถ้ากอดได้นี่กูจะกระโดดกอดแล้วนะ

แต่แม่งกอดไม่ได้ไง ก็เลยได้แต่ยืนมอง

มันมาแบบเดิม สไตล์เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ คราวนี้มันถอดรองเท้าวางไว้เรียบร้อย

ไอ้กัส….

หยกมองรองเท้าผ้าใบสีซีดที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเรียบร้อยที่ชั้นวางรองเท้า

มองแล้วก็ยิ้ม
มันเริ่มฟังแล้วนี่หว่า แล้วมันก็เริ่มทำตามแล้ว ที่พูดไปมันเข้าใจแล้วว่าควรต้องทำ แบบนี้ก็อยู่กันได้

ไขกุญแจห้องเข้ามา และพบว่ามีใครบางคนนอนคว่ำหน้าหลับสนิทอยู่บนเตียง

มันไม่รู้ตัวบ้างเลยเหรอว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้ว

ไอ้กัส.....

หยกวางของไว้บนโต๊ะและลากเก้าอี้มาอยู่ข้างๆ คนที่นอนหลับอยู่บนเตียง

หมุนเก้าอี้ไปอีกทางนั่งลงและใช้คางเกยไว้บนพนักเก้าอี้

สายตาจ้องนิ่งไปที่ใบหน้ายามหลับของคนที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่

มึงหายไปไหนมาตั้งนาน
มึงไม่รู้เหรอกัส ว่ากูรอมึงทุกวัน

ทุกครั้งที่กลับมาจะมองหาว่ารถของมึงจอดอยู่มั้ย
บางทีมองเลยไปที่เก้าอี้หน้าตึก มองหมาแมวที่วิ่งไปมาและมองหามึงเผื่อมึงจะมาเล่นกับหมาที่ตึก….เพื่อรอกู....

อาทิตย์หนึ่งเต็มๆ เลยนะกัส
ที่กูรอ....

มึงไม่รู้หรอกว่ากูทำอะไรบ้างระหว่างที่รอ
หาอะไรทำไปเรื่อย อ่านหนังสือรอบ้าง รอให้ถึงเช้า และรอให้ถึงเย็น เพราะมึงชอบมาช่วงเย็นๆ มืด ๆ

แต่พอผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว กูก็ได้แต่ปิดหนังสือ และเข้านอนไปทั้งอย่างนั้น เพราะรู้ว่ามึงคงไม่มาแล้ว

ทำแบบนั้นมาเป็นอาทิตย์
เร่งเวลาให้ถึงตอนเย็นทุกวัน เพื่อจะได้กลับมาและเผื่อจะได้เห็นว่ามึงรอกูอยู่เหมือนกัน

แต่มึงก็เงียบหาย ทำเหมือนกูไม่มีตัวตนในความคิดของมึงเลย

“กัส....ตื่นเถอะ...ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือให้กูฟังซิ”

แกล้งพูดเสียงเบา
พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องตื่นขึ้นมาในเวลานี้

หยกกำลังยิ้ม
รอยยิ้มหวาน ๆ เรื่อย ๆ ที่กัสไม่รู้ตัวสักนิดว่ามีใครบางคนส่งยิ้มแบบนี้ให้

หยกยังคงนั่งเอาคางเกยพยักเก้าอี้มองคนหลับอยู่อย่างนั้น

มองแล้วก็ได้แต่ยิ้ม

ยิ้มไปเรื่อย ๆ และมองไปที่ร่างกายของอีกฝ่าย จากใบหน้าเรื่อยลงมาที่แผ่นอกที่ขยับขึ้นลงตามการหายใจ

ยิ้ม และส่ายหน้ากับบางสิ่งบางอย่างที่เคยพูดไว้กับรุ่นน้อง

บางทีนี่คงเป็นสเปคของกู

บางทีนี่อาจเป็นสเปคของกูจริง ๆ ก็ได้

บางทีกูคงชอบคนนมเล็ก หรืออาจจะหนักกว่านั้น

เพราะว่าไอ้กัส แม่ง......ไม่มีนมเลย

TBC.

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#ไม่รู้

แล้วมันก็ลุกขึ้นมานั่ง ทำหน้างัวเงีย ยกหลังมือขึ้นขยี้ตา

มองหน้ากันแว่บเดียว แล้วมันก็ก้มหน้าลง

เป็นอะไรวะ
เจอหน้ากันแทนที่จะทัก นี่ไม่พูดอะไรสักคำ

แล้วก็ลุกขึ้นแล้วก็จะเดินไปไหนของมัน

“กัส”

เรียกชื่อ และคนถูกเรียกก็นิ่งชะงักก่อนจะหันมามองหน้าหยกแต่ไม่พูดอะไรออกมา

เป็นอะไรของมัน

“กลับเลยเหรอวะ”

ถามแต่ไม่อยากฟังคำตอบ ยังไม่อยากให้มันกลับตอนนี้

มันนึกจะมา มันก็มา พอมันนึกจะไปมันก็....จะ....ไป เคยเห็นกูอยู่ในสายตาบ้างมั้ยเนี่ย อยากรู้จริง ๆ

“อือ”

มันนึกอยากมาก็มาจริง ๆ พอมันจะไปมันก็ไปจริง ๆ ตกลงมึงจะไปจริง ๆ ใช่มั้ย

“ไปยังไงไม่เห็นรถมึงข้างล่าง”

ก็ไปแบบที่มา มายังไงก็ไปอย่างนั้น

“เดิน”

มึงอย่ามาพูดเล่น กัส เดินห่าอะไรของมึง ไม่ใช่ใกล้ๆ หรือมึงจะบอกว่ามาหากูเนี่ย มึงก็เดินมา

“เดินจากนี่กลับบ้านมึงหรือไง”

เปล่าไม่ได้เดินจากที่นี่กลับบ้าน แต่เดินจากที่นี่ไปไหนไม่รู้

“ไม่รู้”

ทำไมชอบตอบแบบนี้วะ ถามอะไรมึงก็น่าจะคิดบ้างไม่ใช่ตอบว่าไม่รู้อย่างเดียว

“ตกลงมึงจะเดินกลับบ้านมึงใช่มั้ย”

“ไม่รู้”

“แล้วมึงมายังไง”

“ไม่รู้”

ไอ้กัส กวนตีนแล้วมึง ถามอะไรตอบอยู่อย่างเดียวคือไม่รู้ มีอะไรที่รู้บ้างมั้ย

“ไม่รู้หรือไม่อยากพูด”

ไม่รู้ว่าอยากพูดหรือเปล่า แต่ไม่รู้จริง ๆ ไม่อยากตอบคำถามอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าคำถามอะไรก็ไม่อยากตอบ อยากอยู่เฉย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ ไปที่ไหนก็ไม่รู้ แค่เดินไป

“ตกลงรถมึงอยู่ไหนกัส คิดก่อนตอบ อย่าตอบว่าไม่รู้”

ทำไมต้องกดดันด้วยวะ
แค่รถคันเดียว มันจะไปหายไปไหนก็ช่างแม่งเหอะ

มันจะหายไปไหนก็ไม่ต้องไปสนใจหรอก
แค่รู้ว่ามันไม่มีแล้วก็พอ

“ตกลงคือไม่ใช่ไม่รู้ แต่เป็นไม่อยากพูด เออ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด งั้นนั่งก่อน นั่งเล่นก่อน เดี๋ยวคิดออกว่าอยากพูดตอนไหนบอกกู กูรอได้”

รอได้จริง ๆ
ไม่ใช่แกล้งพูดว่ารอได้

และกัสก็นั่งลงจริง ๆ ตามคำชวน
นั่งลงบนเตียงและมองหน้าของคนที่ยังเอาคางเกยพนักเก้าอี้และมองตรงมา

“เหนื่อยมั้ยกัส”

ไม่เหนื่อย แต่ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากทำอะไรอยากอยู่เงียบ ๆ

นั่งเงียบ ๆ มองหน้าหยกไปเรื่อย ๆ
อยู่กับหยกไปเรื่อย ๆ

“..........เฮ่อออออ........มึงนี่นะ เอาแต่ใจตัวเองจังวะ นึกอยากจะไม่พูดกับกูมึงก็ไม่ยอมพูด ทำไมเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ว๊า”

ไม่พูดแปลว่าเอาแต่ใจตัวเองเหรอ ถ้าไม่พูดแปลว่ากูเอาแต่ใจตัวเอง แต่ถ้าพูด..... พูดกับมึง ทั้งที่กูไม่รู้จะพูดอะไร แล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง

เหรอ.....

มันต้องเป็นแบบนั้นใช่มั้ย

“พ่อยึดกุญแจรถไปแล้ว”

ก็.........ชัดเจน เข้าใจแล้ว
พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และก็เป็นกัสที่นั่งนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรอีก

“ซิ่งรถไม่ได้สิมึง”

ได้
รถเพื่อนก็มี ถ้าจะซิ่ง เอารถเพื่อนก็ได้ แค่พูดคำเดียวก็มีรถแล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก

แต่ว่า.... ตอนนี้อยากอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากทำไม่อยากคิดอะไร ก็เลยมาหาหยก

แต่หยกไม่อยู่

หยกไม่อยู่ก็รู้ แต่มันทั้งเหนื่อยทั้งล้าเกินกว่าจะทำอะไรได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่กัสไขกุญแจเข้ามาในห้องนี้ ในเวลาที่หยกไม่อยู่ แต่ขอแค่มีความรู้สึกของหยกอยู่ก็พอแล้ว

ในที่ ๆ ที่มีความรู้สึกของหยก อยากดึงมาเก็บไว้กับตัว ในเวลาที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป

“มีตังค์ใช้มั้ย”

มี
ตอนนี้ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง เงินหมุนมาอยู่ในมือเรียบร้อย และกัสได้เรียนรู้ว่าบางครั้งก็มีช่วงเวลาที่ลำบาก และเริ่มรู้จักวิธีการเก็บเงินเอาไว้ใช้เวลาที่ไม่มี เมื่อก่อนไม่เคยคิดเพราะเงินมันหาได้ง่าย ๆ แต่เวลาที่อยากพักใจ เงินมันก็ใช่ว่าจะอยู่ในมือ ต้องเรียนรู้ที่จะเก็บเอาไว้บ้าง อย่างน้อยก็เอาไว้ซื้อข้าวกิน จะได้ไม่ต้องเป็นการสร้างภาระให้หยกด้วย

แค่มาขอนอน

บางทีมันก็อาจมากเกินไปด้วยซ้ำ

“กูมีตังค์กินข้าว”

ดีแล้ว
อย่างน้อยก็ดีกว่ามึงตอบว่าไม่รู้ แล้วมึงเป็นอะไรมากมั้ย พูดกับกูแต่ละที เหมือนคิดแล้วคิดอีก มึงจะพูดตามที่อยากพูดบ้างไม่ได้เลยหรือไง หรือการพูดแบบนั้นมันลำบากยากเย็น จนสุดท้ายมึงก็ใช้แต่คำพูดเดิม ๆ คือ....ไม่รู้.....

“ทั้งอาทิตย์มึงทำอะไรบ้าง”

ไม่ได้ทำอะไร ก็เหมือนเดิม ไปเรียน ไปซิ่ง ไม่เข้าบ้าน ไปนอนบ้านเพื่อน ไปเรียนเอาจริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะตั้งใจเรียน สอนอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องเข้าไปเช็คชื่อบ้าง ก่อนที่จะหมดสิทธิ์สอบ

“ก็ทำเหมือนเดิม”

เป็นคำตอบที่หยกได้แต่ถอนหายใจ

มันก็ตอบแบบนี้ตลอด แล้วไม่รู้บ้างหรือไงว่าเหมือนเดิมของมึงคือกูไม่รู้อะไรเลย

มึงไม่เคยบอกว่ามึงทำอะไร แต่มึงตอบกูว่าเหมือนเดิม แล้วกูจะรู้มั้ยว่าเหมือนเดิมของมึงคืออะไร สุดท้ายหยกก็เลยได้แต่ถอนหายใจในคำตอบที่ได้

แบบนี้ทุกที.....

“มึงถอนหายใจทำไม”

อ้าว
กูถอนหายใจกูผิดอีก ก็มึงชอบทำให้กูป่วน แล้วกูก็บ้าตรงที่ชอบที่จะปล่อยให้สมองปั่นป่วนเพราะคิดแต่เรื่องของมึงซะด้วย

“กูไม่มาก็ได้ ถ้ามันทำให้มึงต้องเอาแต่ถอนหายใจ”

เฮ้ยยยยยยยยยยย มันไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะ กูแค่รู้สึกว่าตัวเองบ้าบอที่ในเวลานี้ไม่ว่ามึงจะทำอะไรกูก็อยากรู้ไปหมดทุกอย่าง

กูไม่ได้คิดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับมึง
กูแค่หงุดหงิดตัวเอง

หยกรีบเอามือขึ้นปิดปากตัวเอง
และมองหน้าของกัส

มองแต่ไม่อธิบาย ไม่พูด และเป็นกัสที่ขมวดคิ้วมุ่นและเริ่มทำหน้างี่เง่าใส่

“อูอ๋อโอ้ดดดดดดดดดด พอดี กู.....มีปัญหากับโพรงจมูกไม่ได้มีปัญหากับมึง”

ปิดปากและพูดจาไม่รู้เรื่อง และแกล้งทำหน้าเลิ่กลั่ก
ใส่และเป็นกัสที่จากหน้างอ กลายเป็นมองแล้วก็ขบริมฝีปากตัวเองไม่ยอมยิ้ม

แต่มึงยิ้มไอ้กัส
กูเห็น

เต็มๆ ตาเลยด้วย

“แน่ะ ยิ้มแล้ว ไม่โกรธดิว๊า หน้ามึงอย่างหล่อ พอหงิกปุ๊บกูรับไม่ได้เลย นะกัสจังนะ”

ใครกัสจัง

“กูไม่ได้ชื่อกัส”

เออออออออออ มึงไม่ได้ชื่อกัสก็ได้

“ครับพี่เจ๋ง พี่เจ๋งมากครับ พอใจมั้ยครับพี่”

ได้แต่เมินหน้าหนีไปทางอื่น และคราวนี้กลายเป็นหยกที่หัวเราะร่วนและใช้ขาดันเก้าอี้ให้ขยับเลื่อนเข้ามาใกล้กับคนที่จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะทำหน้าบึ้งก็ทำไม่ได้ หน้ามึงมันฟ้องตลอดแหละ ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก ไม่ว่าดีใจหรือเสียใจ

“อ่านหนังสือให้กูฟังหน่อยสิ”

ไม่

กูไม่อ่าน

กัสหันหน้ามามองคนที่บอกให้อ่านหนังสือ มองตรง ๆ และคราวนี้หน้าหงิกหน้างออย่างเห็นได้ชัด

อะไรวะ แค่อ่านแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย กูไม่ได้บอกให้กินยาพิษซะหน่อย ทำไมต้องโกรธกูขนาดนี้

“นะ”

ไม่เอา

“นะ นะ นะ”

ไม่

“อ่านหน่อยเหอะ กูไม่ได้เจอมึงตั้งหลายวัน อ่านให้ฟังหน่อยสิ สองบรรทัดก็ยังดีนะพี่เจ๋งนะ”

ไม่อ่าน กูไม่อ่านอะไรทั้งนั้น ไม่เอา

“นี่.......กูซื้อมาใหม่ เล่มนี้ภาพอย่างสวย มีพี่หมีน่ารักด้วยแม่งอ่านเพลินรับรอง”

รีบหยิบหนังสือฝึกอ่านคำที่มีภาพการ์ตูนมาวางให้กัสดูและเป็นกัสที่อยากจะโยนหนังสือหัดอ่านบ้าๆ ที่ถูกยัดเยียดให้พวกนี้ทิ้ง

มึงบ้าหรือไง กูโตขนาดนี้แล้ว จะให้มาประทับใจอะไรกับพี่หมีอะไรของมึงกูไม่ใช่เด็กอนุบาล

“ไอ้หยก”

เอออออออออออ

“ครับพี่เจ๋ง”

ขานรับ และกัสก็ถอนหายใจออกมาดังๆ ให้เห็นชัด ๆ ว่าไม่พอใจ

“แล้วมึงถอนหายใจใส่กูทำไมเนี่ย ทีกูถอนหายใจแม่งด่ากูชิบหาย ทีมึงทำบ้างล่ะ มึงไม่เห็นใจกูบ้างเลยนะกัส”

ไม่รู้

นั่นไม่เกี่ยวกัน

ไม่เห็นเกี่ยว

“หน้านี้เลย มึงต้องอ่านหน้านี้ โทษฐานที่มึงถอนหายใจใส่กู กูเสียใจมาก เสียความรู้สึกสุด ๆ มึงอ่านเลย ไม่งั้นกูไม่หายเสียใจ”

อะไร

อะไรวะ

แบบนี้..........

หยกรีบเปิดหนังสือที่มีภาพการ์ตูนหลากหลาย และมองหน้ากัสพร้อมกับแกล้งเบะหน้าไปด้วย

“หน้านี้เลยนะ ไม่อ่านหน้านี้กูเสียใจจริงด้วย”

ไอ้....

“เหี้ยหยก”

ด่ากูอีก ด่ากูใช่มั้ย ด่ากูนักงั้นได้

หยกรีบลุกจากเก้าอี้และมานั่งลงข้าง ๆ คนที่ยิ่งกว่าขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ

“อะไรมึง เหี้ยกัส ด่ากูอีก เพิ่มอีกหนึ่งหน้าเลย มึงทำกูเจ็บปวด”

ไม่

“โธ่โว้ยยย”

เออใช่ไง โธ่โว้ยไง แล้วยังไง มึงรีบอ่านเลย ไม่งั้นกูจะโธ่โว้ยบ้างแล้วมึงจะหนาว

“พูดมาก เพิ่มอีกหนึ่งหน้า ถ้ายังไม่หยุดพูดกูจะเพิ่มอีกสิบหน้า มึงกล้าหือก็ลองดู”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
กัสใช้ปลายนิ้วไล่ไปตามตัวอักษรและถอนหายใจทุกครั้งที่ต้องออกเสียง อ่านไปเรื่อย ๆ ผิด ๆ ถูก ๆ อ่านไปทะเลาะกับคนฟังไป แต่คนฟังดูท่าจะชอบใจ เพราะทะเลาะไปยิ้มไป สอนไปยิ้มไป

“ตาสี....ไป....เฝ้า...ไข่...ตาสา”

เหี้ยกัส

“ตาสีจะไปเฝ้าไข่ตาสาทำเหี้ยอะไร ไปเฝ้าไข้สิ มึงอ่านดี ๆ”

นั่นไง กูว่าแล้ว กูก็คิดว่าแม่งจะไปเฝ้าไข่กันทำไมวะ

“เออเฝ้าไข้”

แน่ะ มีการงอนด้วย ยิ่งอ่านยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งอ่าน ยิ่ง.....น่ารักนะมึง

“เถ้าแก่....ขา..เป๋...ถือเป้...ไป..สุขา”

“ปู่เอา...สุดา...”

“ปู่ที่ไหนเอาสุดา แม่งเดี๋ยวก็โดนแจ้งความจับกันพอดีไอ้กัส”

ก็มันอ่านแบบนี้จริง ๆ มึงดูสิ

“ปู่เอาแส้...ให้...”

งอน ยิ่งอ่านยิ่งเพี้ยน ยิ่งอ่าน กัสก็ยิ่งงอนคนสอน

“ไม่อ่านแล้ว”

มีแต่จะปิดหนังสือ และหยกก็เหลือบสายตามองหน้าคนที่ไม่ยอมอ่าน

“กูไม่ได้ขำนะมึงก็เห็น แต่กูบอกทุกอันหรือเปล่าว่ามึงอ่านผิด เวลามึงอ่านผิดความหมายก็เปลี่ยน มันยิ่งจะเป็นการยากที่จะสื่อสารกับคนอื่น ถ้ามึงอ่านถูกมันก็จบใช่มั้ยล่ะ”

มันก็ใช่

แต่มึงยิ้ม

“มึงไม่ได้หัวเราะเยาะกูหรือไง”

บ้าน่า คิดแบบนี้ไม่ถูกเลยกัส คิดแบบนี้กูจะเสียใจจริง ๆนะ

“ทำไมกูต้องหัวเราะเยาะด้วย มึงว่ากูควรหัวเราะเยาะกับความพยายามของมึงเหรอ กูนิสัยเหี้ยขนาดนั้นเชียว”

ก็ไม่ใช่แบบนั้น

ไม่ใช่ว่าจะ..........

“ที่กูยิ้มเพราะกูชอบเวลามึงตั้งใจ กูสัญญาแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะไม่หัวเราะ แล้วกูผิดสัญญาหรือเปล่าล่ะ”

เปล่า
ไม่ได้ผิดสัญญา
มึงไม่ได้ทำแบบนั้น

ใจชื้นขึ้นมาบ้าง และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

“มึงเก่งขึ้นตั้งเยอะแล้ว อ่านประโยคยาว ๆ ได้ดีกว่าเมื่อก่อนตั้งเยอะ.....เนอะ”

จริงเหรอวะ ดีกว่าเมื่อก่อนจริง ๆ เหรอวะ

“วันนี้พอแค่นี้ก็ได้ เดี๋ยวอ่านมากไป มึงจะยิ่งเครียด”

ไม่ วันนี้ไม่พอแค่นี้

“กู....จะอ่าน...อีก.........สองหน้า....”

กัสพูดออกมาเสียงเบา และเปิดหนังสือหัดอ่านหน้าถัดไป โดยมีหยกนั่งอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ

“เก่งนะเนี่ย วันนี้อ่านเพิ่มเองด้วย เดี๋ยวอ่านเสร็จกูตัดเล็บให้ เล็บมึงยาวแล้ว ทำไมไม่รู้จักตัด แล้วดูสภาพซิ อย่าบอกนะว่ามึงกัดเล็บด้วย สกปรกตายห่าไอ้กัส”

ใช่
กูกัด
มึงรู้ได้ไง

“อย่ากัดเล็บมันสกปรก วันหลังอย่ากัดเล็บอีกนะกัส มีแต่เชื้อโรค เดี๋ยวจะไม่สบาย”

ให้เหตุผล อธิบายเหตุผล และเป็นกัสที่ตั้งใจฟัง และพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

“ตัดเลยแล้วกัน มา เดี๋ยวกูตัดให้ แล้วค่อยอ่านต่อ”

หยกลุกขึ้นไปหยิบกระดาษที่ไม่ใช้แล้วมาหนึ่งแผ่น และหยิบกรรไกรตัดเล็บมาด้วย

“นั่งนี่ดิ เอามือมึงมานี่ด้วย”

ลากแขนให้คนที่นั่งอยู่บนเตียง ลงมานั่งที่พื้น และดึงมือของกัสมาจับเอาไว้

แค่ตัดเล็บ ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น

ก็แค่....

กัสกำลังมองหน้าของคนที่ทำบางอย่างให้ มองด้วยความรู้สึกหลากหลาย มองและจ้องนิ่งอยู่อย่างนั้น
นานแล้ว ไม่เคยมีใครใจดีกับกูแบบนี้ ไม่เคยมีใครทำอะไรให้กูแบบนี้ ไม่เคยมี.....

“หยก….”

เรียกชื่อของคนที่กำลังตั้งใจตัดเล็บให้ และหยกก็เงยหน้าขึ้นมามองคนที่เรียก

มองหน้าและเลิกคิ้วขึ้นสูงเหมือนเป็นการถามว่า เรียกทำไม
และกัสก็ได้แต่มองหน้าของหยกนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่พูด....แต่มอง

มองแล้วก็เงียบ

และเป็นหยกที่ส่งยิ้มให้กับคนเรียก รอยยิ้มสดใส ที่ไม่ต้องมีคำอธิบายอะไร แต่กัสก็พอเข้าใจ

“มึงก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อย อยากพูดอะไรก็ไม่ยอมพูด แล้วกูจะเข้าใจได้ยังไง กับกูมึงอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ อย่าคิดให้มันมากเลย ด่าพ่อกูมึงยังด่ามาแล้ว นับประสาอะไรกับเรื่องอื่น”

ไม่ใช่

ไม่ใช่ว่าอยากจะพูดอะไรก็พูดได้

แต่มันนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าอยากจะพูดอะไร แค่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอคิดจะเรียบเรียงประโยคออกมาพูด มันทำไม่ได้
มันก็เลยมีแค่ประโยคง่าย ๆ ที่หวังว่ามึงจะเข้าใจ

“กูไม่รู้ว่ามาหามึงทำไม”

เหรอ

ไม่รู้เหรอ

เออช่างแม่งเหอะ ไม่รู้ว่ามาหาทำไมก็ไม่ต้องคิดมาก รู้ว่ามาแล้วก็พอ มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอกกัส
กูก็ไม่รู้เรื่องบางอย่างเหมือนกันแหละ และกูก็ไม่ได้อยากให้มึงคิดมากจนไม่กล้าพูดกับกูด้วย

“กูก็....ไม่รู้ว่า.....รอมึง...ทำไมทุกวันเหมือนกัน”

TBC.

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
เวลาคือคำตอบของทุกสิ่ง :กอด1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ butter.juliet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ติดเรื่องนี้มากกกก รีเฟรชทุก5นาที อ่านจบก็รออออออ อ่านไปก็เขิน :o8: :o8:

ออฟไลน์ newyniniw

  • kiki >_<
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอ้ยยย น้องกัสสสส
โอ้ยยย พี่หยกกกก

พี่โหยกกกกก
 :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด