@@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในแผนกขนส่งby aoikyosuke ภาคพิเศษวิโรจน์ผู้กอบกู้โลก p.98  (อ่าน 754031 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โจ้ช่างอ่อนไหว ฮือๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
นิวเอ๊ยยยบอกตรงๆก็จบล่ะ  :hao7:

ส่วนหยก กลับมาสักทีเถอะพอคู้นนนนนน กัสรอแย่แล้ววว  :mew6:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
555 มีการบอกด้วยว่ามาง้อ

โจ้ร้องเลยอ่ะ นิวมาง้อแล้วนะ อิอิ
รีบๆหายงอนหล่ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
กลับมาได้แล้วพี่หยก :hao3:

ออฟไลน์ butter.juliet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พี่โหยกกกกกกกกกกก กลับมาเถอะ โจ้นิแย่งซีนไปหมดแย้ว  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
เอ๊ะ...
ตกลงจะนิวโจ้หรือโจ้กัส ดูยากจริงๆ พอมาตอนนี้คะแนนความเมะของนิวแซงทางโค้งจนโจ้ตกลงไปเคะเรียบร้อยแล้วจ้า..//เย่ๆๆๆๆ
ส่วนน้องกัส ดีใจทีี่รู้ใจตัวเองแล้ว รอพี่หยกกลับมานะ อย่าดราม่านะ ขอให้พี่หยกกลับมาเร็วๆเถอะ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#(นิว-โจ้) หลง

ง้อก็ง้ออยู่หรอกนะ ก็ยอมรับว่าง้อ แต่แม่งง้อแล้วทำแบบนี้เหรอวะ มึงเฉยใส่กูแบบนี้เหรอ นี่มึงต้องเมินกูขนาดนี้เลยเหรอวะ ขนาดเดินมาส่งจนถึงหน้าบ้านแล้วเนี่ยนะ ยังไม่เสือกพูดกับกูสักคำเลยใช่มั้ย

ตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว จนถึงตอนนี้ แม่งก็ยังไม่ยอมพูด นี่กูลงทุนเดินมาส่งถึงหน้าบ้านเลยนะ ตกลงจะเอายังไง

“จะชวนกูเข้าบ้านมั้ย”

ถาม และโจ้ก็หันมามองคนที่มันบอกว่า “จำใจ” มาส่ง และมันก็ “จำใจ” มาจนถึงหน้าบ้าน จะ “จำใจ” เข้ามาในบ้านอีก ก็คงไม่มีอะไร “จำใจ” ไปมากกว่านี้แล้วล่ะ

“ก็มาดิ”

เหี้ย เล่นตัวชิบหาย

เออ

นี่ต้องบอกให้ชวน ถึงยอมชวนเข้าบ้านใช่มั้ย

ประตูบ้านถูกเปิดออก และนิวก็เดินตามโจ้เข้ามาในบ้าน บ้านเงียบ แถมยังปิดไฟ ไม่มีใครอยู่เลยหรือไงวะ

โจ้เดินนำเข้ามาในบ้าน และเปิดไฟสว่างที่ชั้นล่างของตัวบ้าน พื้นที่ชั้นล่างของตัวบ้านเป็นห้องโล่ง ๆ มีเก้าอี้ชุดวางอยู่ และต่อออกไปด้านหลังตัวบ้าน เป็นห้องครัว

ไม่ต้องรอให้เชิญ นิวก็ลากเก้าอี้มานั่งเรียบร้อย และมองสำรวจไปรอบๆ บริเวณบ้าน

เจ้าของบ้านแม่งก็เล่นตัว รินน้ำใส่แก้วแล้วก็เอามาตั้งไว้ให้ มึงงอนเกินไปแล้ว

“กูกลับแหละ”

เออ กลับไปเลย

ไม่รั้ง เพราะอารมณ์ติสแตกเยอะเกินเหตุ

ไม่มองหน้า เพราะ กูงอน

นิวยกน้ำขึ้นดื่ม และก็ลุกขึ้นยืน

แม่ง ให้ง้อมากไม่ไหว แฟนก็ไม่ใช่ เห็นว่าร้องไห้หรอกวะ ถึงได้ง้อ จะให้กูง้อไปถึงไหน มันจะเกินขีดความสามารถของกูเกินไปแล้วแบบนี้ กำลังจะก้าวขาเดินออกจากบ้าน แต่สายตาก็ไปสะดุดกับภาพถ่ายที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง

อะไรวะ ใคร หน้าคุ้น ๆ อืมมมมมมมมมม หน้าเหมือน......หันไปมองคนที่ยืนกอดอกทำหน้าเฉยใส่ แล้วก็เทียบหน้ากับเด็กประถมที่แขวนภาพถ่ายแขวนอยู่ที่ฝาผนัง แม่ง.....มีรางวัลการันตีด้วยเว้ย ........ผู้ชนะการประกวดเดี่ยวจะเข้ ปี 25xx …….

กูรู้จักมึง รู้จักมานาน แต่เรื่องส่วนตัวอะไรพวกนี้ กูไม่เคยสนใจใคร่รู้เท่าไหร่

“มึงเหรอเนี่ยโจ้”

เอ่ยถามและก็หันไปมองคนที่ยืนทำหน้าเฉยอยู่ แม่งไม่ตอบวะ แค่พยักหน้าทีเดียว

“จริงดิ”

ก็จริงดิ ถามทำไมมากมายวะ

“ปกติผู้ชายมันต้องตีระนาดอะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วนึกยังไงถึงดีดจะเข้วะ”

ไม่นึกยังไง ก็มันมีจะเข้ตั้งอยู่ที่บ้านตั้งแต่กูยังเด็ก ไม่มีอะไรเล่นกูก็เลยเล่น ของย่าทวดมั้ง ของเดิมไม้เก่าแล้ว ตอนนี้ตัวที่เล่นอยู่เป็นตัวใหม่ที่ซื้อมาหลายปีแล้ว แต่เลิกเล่นไปนานเพราะไม่มีเหตุผลอะไรต้องเล่นต่อ

อยากเล่นต่ออยู่หรอก แต่พอโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลิกไป ไม่รู้ทำไมถึงเลิก เท่าที่รู้เป็นนักดนตรีไม่มีจะกิน เล่นไปก็เท่านั้น ไป ๆ มา ๆ สุดท้ายก็เลยเลิกเล่น ลืมไปแล้วว่าเล่นจนถึงขนาดไปแข่งขันได้รางวัลมา

“นอกจากจะร้องไห้เก่งแล้ว ยังสาวแตกขนาดเล่นจะเข้เลยเหรอมึง”

แกล้งแซวแกล้งว่า แกล้งปากเสียใส่ และโจ้ก็เลยเบ้หน้า

เออช่างกูเหอะ กูจะร้องไห้เก่งจะสาวแตกอะไรมันก็เรื่องของกู กูไม่สนใจมึงหรอก อีกสองสามวันกูก็จะเลิกจีบมึงแล้ว

“เออน่าสนุกดีว่ะ เล่นให้กูฟังบ้างซิ”

เล่นให้ฟังเหี้ยอะไร กูเลิกเล่นมาสี่ห้าปีแล้ว จะเข้สายเพี้ยนหมดแล้วมั้ง ไม่ได้แตะไม่ได้จับเลย วางทิ้งไว้เอาผ้าคลุมป่านนี้ฝุ่นจับหนาจนมองไม่เห็นจะเข้แล้ว

“ดิ”

อะไรของมึง จะเร่งเร้าเอาอะไร

“เฮ้ยกูอยากฟังจริง ๆ มึงเล่นให้ฟังหน่อยสิ อยากรู้ว่าแชมป์จะเข้นี่มันเล่นได้ขนาดไหนวะ”

นั่นไม่ใช่กูตอนนี้ เมื่อก่อนใช่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

“อยากฟังไปทำไม”

ก็ไม่ได้อยากฟังไปทำไม อยากฟังก็คืออยากฟัง ทำไมวะ อยากฟังไม่ได้หรือไง

“เออน่า มึงยังเล่นได้อยู่หรือเปล่า กูอยากฟัง”

คะยั้นคะยอให้เล่นให้ฟัง และโจ้ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ห่าอะไรนักหนาวะ”

บ่นใส่ แต่ก็เดินไปที่มุมห้อง ยกจะเข้ที่มีผ้าคลุมอยู่ออกมา และเปิดผ้าคลุมออก

สายแม่งหย่อนหมดแล้วจริงด้วย กี่ปีแล้ววะเนี่ยที่ไม่ได้เล่น น่าจะตั้งแต่จบชั้นประถม มันกี่ปีวะ นานแล้วนะ นานจน.....จำแทบไม่ได้ว่าเล่นยังไง

ใช้ผ้าคลุมเช็ดเอาฝุ่นออก และโจ้ก็เริ่มตั้งสายจะเข้ ลองดีดและก็พบว่าเสียงเพี้ยนจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง

ขมวดคิ้ว และลองดีดดูสองสามครั้ง โดยมีสายตาของนิวที่มองมาด้วยความสนใจ

ลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้าง ๆ นั่งมองว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร สุดท้ายเห็นมันพันนิ้วกับอะไรสักอย่าง และก็เริ่มดีด

“ดีดเหี้ยอะไรวะ ฟังไม่เห็นรู้เรื่อง”

มันจะรู้เรื่องได้ยังไง กูยังไม่ได้ดีดกูแค่ลองเสียงเฉย ๆ

เงยหน้าขึ้นมองคนที่มากเรื่อง และนิวก็เข้าใจได้ทันทีว่ากำลังถูกโจ้ด่าทางสายตา

“เออ เออ กูไม่ว่าอะไรแล้ว มึงเล่นซะทีสิ กูจะฟัง”

ก็นี่ไง จะเล่นอยู่นี่ไง

มองหน้านิว แล้วโจ้ก็ถอนหายใจ เร่งอะไรนักหนา จะฟังดนตรีมันต้องใจเย็น ๆ

ยกมือขึ้นพนมและหลับตา ก่อนจะจรดปลายนิ้วลงช้า ๆ ที่สายจะเข้

“......................”

เพลงแปลก ๆ ที่ไม่เคยฟัง ไม่ได้ไพเราะแว่วหวาน แต่ฟังแล้วเพลิน จากที่สายตามองไปที่ปลายนิ้วของคนเล่นด้วยความสนใจว่าเครื่องดนตรีที่ว่าเล่นยังไง ตอนนี้สายตาของนิวมองไปที่หน้าของคนเล่น มอง..........นิ่ง ๆ มองไปเรื่อย ๆ

จิตใจล่องลอยไปกับเสียงดนตรีไทยจังหวะอ้อยอิ่งเชื่องช้า แต่ดึงหัวใจให้ล่องลอยตามไปด้วย ใครบางคนที่อยู่ตรงหน้าเพ่งดวงตาจ้องมองที่จะเข้ ปลายนิ้วพริ้วไหวไปมาทุกครั้งที่กดนิ้วลงไปเพื่อให้เกิดเสียง

มีติดขัดบ้าง เพราะห่างหายจากการเล่นไปนาน แต่มันก็ไม่ได้สะดุดจนทำให้คนที่ไม่คิดว่าจะตั้งใจฟังหยุดความสนใจไปได้

เพลงอะไรไม่รู้ ไม่รู้ว่าเพลงอะไร แต่มันน่าฟัง ฟังจนเคลิ้ม เผลอมองเรื่อยไปทั่วทั้งใบหน้าของคนที่ตั้งอกตั้งใจดีดจะเข้ให้ฟัง

ปกติไม่เคยคิดอะไร แต่ทำไมวันนี้ เวลานี้ มึงโคตร............น่ามองเลยวะโจ้ น่ามอง จนต้องนิ่งมอง หูฟังเสียงแว่วหวานแต่สายตาจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของคนที่ยังก้มหน้าก้มตาเล่น เพลินจนแทบลืมหายใจ

เพลินจน..........อยากจะลงไปนั่งใกล้ ๆ เพลินจนต้องลุกจากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ
ลุกจากเก้าอี้เพียงแค่อยากจะมานั่งมองให้ชัด ๆ ว่าไอ้โจ้มันใช้เล่ห์กลอะไรทำไมถึงได้ทำให้รู้สึกอยากเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ขนาดนี้

เข้ามาขนาดนี้ เพียงเพื่อแค่จะมานั่งมอง

โจ้ยังคงสะบัดมือไปตามจังหวะดนตรี แต่ขมวดคิ้วและมองหน้าของคนที่มานั่งมองหน้า

อะไรวะ

แค่คิดในใจ แต่ไม่ได้หยุดเล่น ปล่อยจิตใจให้ไหลไปตามบทเพลงที่เล่น จนสุดท้าย.......... หยุดมือ และยกมือขึ้นพนมมือไหว้
แล้วไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าแม่งก็เสือกรับไหว้

“กูไม่ได้ไหว้มึง กูไหว้ครูบาอาจารย์ที่สอน”

อ่า

เหรอ

รับไหว้เก้อ และนิวก็ได้แต่ทำหน้าเหรอหรา เออก็ไหว้ไง

ก็.......

“กูก็ไหว้ครูบาอาจารย์มึงด้วยไง ก็เออไง ใช่ ใช่”

ใช่ห่าอะไร ไม่ได้เล่นด้วย เสือกจะมาไหว้ด้วย เป็นเหี้ยอะไรของแม่งวะ

“อีกเพลงดิ”

อีกเพลงอะไรของมึง แค่เพลงเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้เล่นนานกูเจ็บนิ้ว

“อะไร”

ไม่อะไร ก็แค่เล่นอีกเพลงไม่ได้เหรอ มันแปลก ๆ ฟังเพลิน ๆ ดี

“อีกเพลงดิ”

อะไรวะ เป็นอะไรของแม่ง คะยั้นคะยอให้เล่นอยู่ได้ อีกเพลงก็อีกเพลงวะ อีกเพลงก็....... แล้วยิ้มทำไมวะ

“ขำอะไรของมึง”

ห๊ะ ขำเหรอ กูยังไม่ได้ขำเลย กูเปล่าขำ

ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เออน่ามึงเล่นไปเหอะ กูจะฟัง”

ก็เล่นไง ก็เล่นอยู่นี่ไงวะ

ขมวดคิ้ว และสะบัดปลายนิ้วไปมาอีกครั้ง เริ่มเล่นเพลงถัดไปที่เกือบลืมวิธีการเล่น เล่นไปเรื่อย ๆ และนิวก็นั่งฟังไปเรื่อย ๆ
เพลิน..... ไม่ใช่แค่ฟัง แต่เพลินเพราะมองหน้าคนเล่นไปด้วย

มึงหน้าตาดีขึ้นหรือเปล่าวะโจ้ ตามึงสวยขึ้นหรือเปล่า จมูกมึงมันรับกับรูปหน้ามึงมากกว่าเดิมหรือเปล่า แก้มมึงมันเนียนน่าแตะผิดจากทุกวันหรือเปล่า แล้วปากมึง ที่เม้มเข้าหากันตอนที่มึงเล่นจะเข้มันดูน่ามองมากกว่าทุกวันหรือเปล่า

มึงมีอะไรดึงดูดใจกูมากกว่าทุกวันหรือเปล่า มีอะไร.......

“เฮ้ย....”

ห๊ะ

เพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังปล่อยใจดำดิ่งลึกลงไปโดยไม่รู้สึกตัว

แค่ถูกเรียก นิวถึงกับสะดุ้งและเลิกคิ้วขึ้นสูงเหมือนเป็นการตั้งคำถามว่าอีกฝ่ายเรียกทำไม

แล้วหยุดเล่นทำไมวะ กำลังฟังเพลิน ๆ หยุดเล่นทำไม

“ไม่เล่นต่อวะ”

เล่นต่อห่าอะไร

“กูเล่นไปเกือบสิบเพลงแล้ว มึงฟังหรือเปล่าเนี่ย จนจะเล่นรอบสองแล้ว มึงไม่ได้ฟังทำไมไม่บอกวะ เหม่ออยู่นั่นแล้วหลอกให้กูเล่นเหรอวะ”

กูไม่ได้หลอกให้มึงเล่น กูตั้งใจฟังจริง ๆ กูไม่ได้ตั้งใจฟังตอนไหนล่ะ กูนั่งฟังอยู่เนี่ย ตั้งใจฟังจน..........

โจ้กำลังปลดเชือกที่พันนิ้วออก และพันไว้กับตัวเครื่องจะเข้ ดึงผ้ามาคลุม และกำลังจะลุกขึ้นยืน

“อะไรวะ เลิกแล้วเหรอ”

เออสิ เล่นต่อทำไม ไม่ได้ตั้งใจฟังก็น่าจะบอกกันตั้งแต่แรกหลอกให้เล่นอยู่ได้ตั้งนานสองนาน นี่ถ้าไม่สงสัยว่าทำไมมึงนั่งเหม่อตาลอยก็คงไม่รู้หรอกว่ามึงไม่ได้ฟังที่กูเล่นเลย

“เลิกเล่นแล้ว”

อะไรวะ เลิกเล่นทำไม กูกำลังเพลิน

“ดึกแล้ว มึงกลับบ้านมึงเหอะไป”

เหรอ ลักษณะแบบนี้เรียกว่าไล่นะ

“รีบไล่เชียวนะ”

เออใช่ รีบไล่

โจ้ลุกขึ้นยืนโดยมีนิวลุกขึ้นยืนด้วย ก็ไม่ได้อยากจะชมหรอกนะ แต่......ว่า........

“ก็สมควรได้รางวัลเนอะ เพราะชิบหาย”

ยังไงวะ เพราะชิบหาย

“เพราะชิบหาย นั่นเรียกว่าด่านะไม่ใช่ชม”

กูชม กูไม่ได้ด่า

“เพราะมากครับ”

แก้ไขคำพูดเรียบร้อย และนิวก็ยิ้มออกมาน้อย ๆ ยกมือขึ้นลูบที่ท้ายทอยตัวเอง

“มึงยังไม่บอกเลยว่ามึงนั่งจ้องหน้ากูทำไม”

กูเนี่ยนะจ้องหน้ามึง ผิดหรือเปล่า กูเนี่ยนะจ้อง กู...........ไม่ได้จ้อง...... กูแค่.....มอง.......เฉย ๆ

“กูฟังที่มึงเล่น....ไม่ได้จ้องมึงซะหน่อย”

แก้ตัวไปเรื่อย และโจ้ก็ไม่ได้เชื่อกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลยสักนิด

ส่ายหน้าให้รู้ว่าไม่ได้เชื่อกับสิ่งที่นิวพูด และเป็นนิวที่ทำหน้าไม่ถูก

ยังไงล่ะ เออ ยอมรับก็ได้ว่ามอง ก็มองไง ทีมึงยังชอบมองกูบ่อย ๆ เลย ทีกูมองมึงบ้างแค่นี้ทำเป็นมีปัญหาไปได้

“กลับแหละ”

เออ ก็กลับไปดิ

“อีกสองสามวันยังไม่ต้องเลิกจีบกูก็ได้มั้ง”

กูจะเลิกจีบ

“จีบมึงมีแต่เสียฟอร์ม กูไม่อยากเสียฟอร์มแล้ว”

อะไรนะ จีบกูมีแต่เสียฟอร์มเหรอ เสียฟอร์มยังไงล่ะ เสียฟอร์มยังไง ไหนบอกสิ เสียฟอร์มยังไง

“ไม่เสียฟอร์มหรอกน่า”

ไม่เสียห่าอะไร กูเสียฟอร์มตั้งแต่ตอนที่สติแตกเพราะมึงคุยกับแฟนเก่ามึงนั่นแหละ

ไม่รู้เป็นยังไง...........กูหึง.......... หึงทั้งที่มึงยังไม่ได้คิดอะไรกับกูเลย แล้วยังเสือกมาเสียฟอร์มหนักตอนที่จี๊ดจนน้ำตาแตกเพราะทำอะไรไม่ได้อีก

“กูรักคนง่าย อีกสองสามวันกูก็ไปชอบคนอื่นแล้ว”

เหี้ยยยยยยยยยยยยย

มึงใจง่ายจริงดิ อีกสองสามวันก็จะไปชอบคนอื่นได้ง่าย ๆ จริง ๆ ใช่มั้ย พูดแบบนี้ พูดจาแบบนี้ มันเรียกว่ายั่วโมโหกันชัด ๆ

“มึงไม่ต้องไปใจง่ายกับใครแล้ว เสียเวลา ถ้าจะใจง่ายก็ใจง่ายกับกูไปก่อน”

อะไรวะ เดี๋ยวบอกได้ เดี๋ยวบอกไม่ได้ เดี๋ยวจะให้จีบ เดี๋ยวจะไม่ให้จีบ เดี๋ยวก็ว่ากูใจง่าย เดี๋ยวก็จะให้ใจง่ายกับมึงไปเรื่อย ๆ

“มึงนี่มันทฤษฎีเยอะชิบหาย มึงจะเอายังไงแน่”

ไม่เอายังไงหรอกน่า

“มึงมันใจง่าย ใจง่ายไปเรื่อย เห็นใครก็ชอบง่าย ๆ รักใครง่าย ๆ”

ไอ้นิว มึงจะทำให้กูโมโหอีกแล้วใช่มั้ย มึงคิดจะตอกย้ำกูอีกแล้วใช่มั้ย

“วันหลังกูจะมาฟังมึงเล่นจะเข้อีก”

ไม่ต้องมาเหอะ

“ฟังไปทำไม แม่ง”

จะให้ฟังไปทำไมล่ะ ก็ฟังไปแบบนี้แหละ มึงคิดว่าจะให้กูฟังไปทำไมล่ะ

“ทำไมกูจะฟังไม่ได้มึงก็แค่เล่นให้กูฟัง”

แล้วจะฟังทำไมก็บอกมาสิ

“กูไม่เล่น”

“แต่กูจะฟัง”

ก็บอกสิว่าทำไมถึงต้องจะฟังด้วย

“กวนตีน กูไม่เล่นให้มึงฟังแล้ว”

ไม่ได้ กูจะมาฟัง

“กูจะฟัง”

“แต่กูไม่เล่น”

“แต่มึงต้องเล่น”

“เรื่องอะไรกูต้องเล่น”

เริ่มเถียงกัน เริ่มหงุดหงิดโมโหใส่กัน และเป็นนิวที่ขมวดคิ้วมุ่น เพราะไม่รู้จะตอบยังไง

“เออ ก็เล่น ๆ ไปเหอะ”

เล่นไปเหอะเหี้ยอะไร ก็แล้วทำไมไม่บอกว่าทำไมกูต้องเล่นให้มึงฟังด้วยล่ะ

“ไม่”

อย่ามาดื้อ

“ต้องเล่น”

“กูไม่เล่น”

“ไอ้โจ้”

“ทำไม........ไอ้นิว”

ไม่ทำไมหรอก ไม่ได้ทำไม

“กูชอบ”

เหี้ย คำตอบของมึงเหรอเนี่ย.....ชอบ…… ชอบเนี่ยนะ

“ชอบฟังจะเข้เนี่ยนะ”

มีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้า และโจ้ก็ส่ายหน้าด้วยความเซ็ง

“ไม่ได้ชอบฟังจะเข้........กูชอบคนเล่นจะเข้”

ห๊ะ

เงยหน้าอีกครั้ง และมองหน้าของนิวที่เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรบางอย่างผิดไป

ยังไง

“อีกทีดิ”

อีกทีอะไร ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรซะหน่อย

ไม่ตอบ แต่นิวเดินลิ่วจากไปทันที ไม่มองหน้าคนที่กำลังทำหน้าเหรอหรา เพราะเข้าใจว่าฟังอะไรบางอย่างผิดไป

นิวเดินออกจากประตูบ้านไปแล้ว และโจ้ก็กำลังเดินเข้าบ้าน

ชอบคนเล่นจะเข้

อืมมมมม คนเล่นจะเข้มีเยอะแยะ มันก็ไม่ได้แปลว่าชอบกูอยู่ดี

ถอนหายใจและเดินเข้าบ้าน

โจ้เดินเข้าบ้านไปแล้ว และนิวก็ก้าวขายาว ๆ มาตามถนนเพื่อเดินออกไปที่ถนนใหญ่ ก้าวขาเดินลิ่วแบบไม่หันหลังกลับไปมอง
ไม่หันหลังกลับ ทั้งที่คล้ายได้ยินเสียงจะเข้แว่วหวานอยู่ในหู ภาพใบหน้าของคนที่ตั้งใจเล่นจะเข้ให้ฟังก็ยังลอยไปลอยมาและปรากฏชัดอยู่ในทุกความรู้สึก เดินเร็วไป หัวใจก็เลยเต้นแรง ก้าวขาเร็วไป มันก็ต้องเหนื่อยหอบเป็นธรรมดา

การที่อัตราการเต้นของหัวใจมันถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็เพราะว่าก้าวขาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แค่นั้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่องอาการหัวใจเต้นแรงถี่รัวมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีอะไรเกี่ยวของกับเรื่องบางอย่างเลยสักนิด

การที่หัวใจเต้นถี่แรงขนาดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาการ.............หลง...........คนเล่นจะเข้เลยจริง ๆ

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2014 23:36:37 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ Scream

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอาแล้วนิว เจอเสียงเพลงกล่อมหลงคนเล่นจะเข้เลย 555555
สองคนนี้นี่เหมาะกันสุดแล้ว รักกันซะก็หมดเรื่องเนอะโจ้  >.<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#(นิว-โจ้)หวั่นไหว

มันก็อาจจะมีบ้าง ที่บางครั้งจิตใจคนเราก็สับสนว้าวุ่นโดยไม่มีสาเหตุ

นิวกดรีโมทโทรทัศน์ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่ากดไปทำไม กดดูรายการอะไร รู้แค่ว่ากดไปเรื่อยแต่ไม่รู้จะดูช่องไหน

“กูจะดูอะไรวะ”

เบลอและมึนไปชั่วขณะ ทำอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่

ปกติกูไม่ใช่คนที่มึนขนาดนี้นี่หว่า แล้วทำไมวันนี้มึนจังวะ กูเป็นอะไรของกูเนี่ย

สุดท้ายไม่รู้จะดูอะไรเลยเปิดค้างไว้ที่ช่องที่กำลังฉายภาพยนตร์ต่างชาติ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เอนหลังลงนอนเพื่อจะดู
แต่แปลกตรงที่ ยิ่งดูยิ่งไม่รู้เรื่อง

“เหี้ยยยยยยยยย หนังห่าอะไรวะเนี่ย”

สะบัดหัวสองสามที และลุกขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วมุ่น และลุกขึ้นปิดรายการโทรทัศน์ที่กำลังดูอยู่
ทำไมกระวนกระวายขนาดนี้วะ ทำไมจิตใจมันว้าวุ่นขนาดนี้วะ เป็นอะไรเนี่ยไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

เดินขึ้นบันไดบ้าน เพื่อเข้าห้องนอน และก็มาทิ้งตัวลงนอนอยู่บนเตียง

“เฮ่อออออออออออ”

นอนคว่ำหน้า ถอนหายใจยาวเหยียด และกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายรอบ นอนไม่หลับ
ทั้งที่ในเวลาดึกดื่นเลยเที่ยงคืนไปแล้วแบบนี้ควรต้องนอนหลับพักผ่อน มันเป็นวันหยุดยาวที่คนในครอบครัวเดินทางไปต่างจังหวัดกันหมด ก็เลยอาสาเฝ้าบ้าน ไม่ได้คิดจะไปไหน เกลียดความวุ่นวายยุ่งยาก ไปถึง ก็ต้องเจอกับญาติคนนั้น อาคนนี้ น้าคนโน้น เดินไหว้กันจนมือหงิกไปข้าง

เหนื่อยขนาดนั้น เฝ้าบ้านดีกว่า

ก็เลยเฝ้าบ้าน แต่ไม่คิดว่าการเฝ้าบ้านมันจะน่าเบื่อขนาดนี้

ดึกแล้ว ทำอะไรดีวะ

คิดไม่ออกว่าจะทำอะไร ก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ใครยังไม่นอนบ้างวะป่านนี้ ก็คงจะนอนกันหมดแล้ว
ดึกขนาดนี้ แล้ว.............คนเล่นจะเข้มันนอนยังวะ

ไม่รู้ว่าทำไมจิตใจคอยแต่ครุ่นคิดถึงใครบางคน กดหมายเลขไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาชื่อ
ไม่ได้กดโทรออก แต่แค่เห็นชื่อที่บันทึกไว้ในเครื่องก็ทำให้ยิ้มได้

โจ้...โจ้...โจ้........ไอ้โจ้

นอนมองชื่ออยู่นาน ไม่มั่นใจว่าควรกดโทรออกดีมั้ย เอาไงดีวะ

โทรหรือไม่โทร แล้วถ้าโทรไปจะโทรไปทำไมวะดึกป่านนี้ มันก็ไม่มีเหตุผลให้โทรอยู่ดี ถ้าแม่งนอนแล้ว มันก็คงจะลุกขึ้นมาด่า ถ้ามันลุกขึ้นมาด่าก็แค่บอกไปว่าโทรผิด

ยากตรงไหนถ้าคิดจะโทร แต่ปัญหาคือ โทรไปหาเพื่อบอกว่า “โทรผิด” เหรอ มันจะไม่บ้าบอเกินไปหรือไง
แล้วเรื่องอะไรถึงต้องโทรหามันด้วยวะ

นิวขมวดคิ้วมุ่น และวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างตัว

ไม่เข้าใจว่ากำลังเป็นอะไร แค่เรื่องโทรไปหาใครบางคนทำไมต้องคิดให้ยุ่งยากมากมาย ทำไมต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนด้วย ก็แค่โทร

เออใช่

อยากโทรก็แค่โทร มีปัญหาอะไร ก็แค่..........

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง และค้นหาหมายเลขที่ต้องการโทรออก แนบโทรศัพท์ไว้ที่หู และรอฟังเสียงสัญญาณ

หัวใจกูเต้นดังจังวะ จะระทึกอะไรกันนักหนาแค่โทรหาไอ้โจ้

กูแม่งก็บ้า ลุ้นอะไรขนาดนี้เนี่ย บ้าหรือเปล่าวะ แล้วเป็นห่าอะไรถึงไม่รับสาย

ห่าโจ้ แม่ง นอนหลับไปแล้วใช่มั้ยวะ ทำไมถึงไม่รับสายเนี่ย รู้มั้ยว่ากู..............

“................”

“เหี้ยยยยยยยยยยยยยย”

บ่นออกมาเสียงดังคนเดียว เมื่อเสียงสัญญาณสุดท้ายสิ้นสุดลงและระบบแจ้งเตือนให้ฝากข้อความหลังได้ยินเสียงสัญญาณ

เกิดอาการหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล แค่อีกฝ่ายไม่รับสายในยามดึกดื่นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

รู้ว่าดึกแล้ว แต่มันน่าหงุดหงิดตรงที่ว่า กูอุตส่าห์โทร อุตส่าห์คิดเหตุผลในการโทร คิดนั่นคิดนี่คิดอะไรไว้เยอะแยะ

สุดท้ายพอโทรไปจริง ๆ แม่งเสือกไม่รับโทรศัพท์เนี่ยนะ นี่กูอุตส่าห์โทรเลยนะเนี่ย

กูอุตส่าห์โทรเลยนะ

โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างตัว และกลายเป็นนิวที่โทรเองหงุดหงิดเอง
หน้าหงิก คิ้วขมวด จากเดิมที่นอนไม่หลับ ในเวลานี้ยิ่งเกิดอาการตาค้างหนักกว่าเดิม

“เหี้ยโจ้”

ด่าฝากสายลมไปเรื่อย กำลังจะลุกจากเตียง แต่เพราะมีสายเรียกเข้าจึงรีบคว้าโทรศัพท์มาดูอย่างรวดเร็ว

“ไอ้..........โจ้.........”

มองที่ชื่อของคนที่โทรเข้ามาหา แล้วก็นิ่งคิดบางอย่าง กดรับสายอย่างรวดเร็วและกรอกเสียงลงไป

“ฮา...โหลลลล เอออออมีอารายยยยวะ”

ลากเสียงยาว ๆ แกล้งทำเหมือนงัวเงีย ทั้งที่ยังไม่ได้นอนและรอลุ้นว่าปลายสายจะตอบว่าอะไร

“อ้าวเหี้ยนอนอยู่เหรอ กูก็นึกว่ามึงมีอะไร เห็นโทรมาซะดึก”

ใช่ กูโทรหา แต่มึงเสือกไม่รับสาย แล้วกูก็หงุดหงิดจะตายห่าแล้วเนี่ย ที่มึงไม่ยอมรับโทรศัพท์กู
เสียงใสซะขนาดนี้ ยังไม่นอนอีกเหรอวะ

“สงสายยยยมือไปโดนม้างงงงงงงงง อื้มมมม”

เล่นได้เนียน ทั้งที่นั่งหลังตรงตาค้างมาค่อนคืน

“เหรอ เออ งั้นแค่นี้แหละกูวาง.....”

“เอ้ยยยยยยยย โทรมาแค่นี้เนี่ยนะแล้วก็จะวางเหรอวะ”

ใช่สิ ไม่มีธุระอะไรไม่ใช่หรือไง กูก็วางสิวะ จะให้กูบังคับคุยกับคนนอนหรือไง กูไม่ได้ไร้มารยาทขนาดนั้น

“อะไรเนี่ย มึงไม่คิดจะโทรมาจีบกูมั่งเลยหรือไง ไหนว่าจะจีบก็โทรมากู้ดไนท์ฝันดีก็ได้”

ห๊ะ มึงบ้าเปล่าเนี่ย
กูจีบใครกูก็มีสไตล์การจีบของกู จะให้มาหวานอะไรแบบนี้กูทำเป็นที่ไหน

“นิวครับ”

งง ไม่เข้าใจว่าไอ้นิวเป็นอะไรมากหรือเปล่า ทีกูจีบแม่งก็ไม่สน พอกูจะไม่จีบเสือกจะให้กูจีบมันซะงั้น

อะไรของแม่งวะ กูงงนะเนี่ย

“ครับโจ้”

พูดจาไพเราะเพราะพริ้งใส่กัน แบบกวน ๆ ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายกวนประสาทอยู่ แต่แปลกที่นิวกลับชอบวิธีการกวนประสาทกันแบบนี้ แถมยังเล่นตามน้ำไปด้วย

“กู้ดไนท์ครับ ฝันดีนะ ห่มผ้าด้วย ฝันถึงผมบ้างนะ จุ๊บ พอใจมั้ยไอ้สัด”

นิวถึงกับหัวเราะออกมาเสียงเบา เมื่อนึกถึงหน้าของคนที่พูดจาหวาน ๆ ชวนเลี่ยน แต่กลับทำให้นิวยิ้มกว้างได้เพราะคำพูดแบบนี้

“ดีหมดแหละ ยกเว้นคำว่าไอ้สัด เสียบรรยากาศหมด ไอ้เหี้ย”

อ้าว มึงก็เหมือนกัน ทำเสียบรรยากาศหมด

ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นแค่

“คำว่าไอ้เหี้ยของมึงดีตายห่าเลยเนอะ”

ไม่รู้สิ ก็ไม่ได้ดีอะไรหรอกก็แค่.....ทำให้มึงหงุดหงิดได้แค่นั้นเอง น้ำเสียงแบบนี้ เหมือนไม่พอใจอยู่ชัด ๆ แล้วเวลาไม่พอใจ ไอ้โจ้มันทำหน้ายังไงวะ ก็คงจะ ขมวดคิ้ว แล้วก็ทำหน้าเบ้เหมือนที่มันทำให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

“มึงนี่มันปากดีจริง ๆ โจ้ขยันหาเรื่องกูเหลือเกิน กูก็เอาไว้หยอกมึงเล่นแค่นั้นเอง”

เออดี หยอกกูเล่นว่างั้น

“หยอกกูตอนเที่ยงคืนจะตีหนึ่ง สนุกมากเลยเนอะ”

ก็มากอยู่ มาก มาก เลยล่ะ

“แล้วทำไมไม่นอน”

มันเรื่องของกู จะหลับจะนอนจะนอนหรือไม่นอนมันมีปัญหาอะไรนักหนาวะ นี่มันเรื่องของกูนะเนี่ย ยุ่งกับชีวิตกูจัง

“กูโทรมาจีบมึงอยู่ เหี้ยจะให้กูนอนยังไง มึงให้กูจีบกูก็จีบมึงอยู่เนี่ย กูจะข่มตาหลับลงได้ยังไง ในเมื่อห้วงหัวใจของกูเอาแต่คิดถึงแต่มึงคนเดียว”

ฮานะมึง เหี้ยโจ้แม่งฮา

“จริงอ่ะ คิดถึงกูจริงดิ”

ถามกลับไปอย่างรวดเร็วโดยที่นิวไม่รู้ตัวว่าหน้ากำลังยิ้ม ยิ้มกว้าง และเผลอแสดงน้ำเสียงเริงร่าออกไปโดยไม่รู้ตัว

ผิดจากทุกที ที่เคยนิ่งสงบ ไม่เคยแสดงความรู้สึกอะไรออกไป นอกจากเฉยและนิ่ง

“เออ...กูคิดถึงมึงจริง ๆ”

แค่อยากหยอกล้อ แต่พอได้ฟังคำนี้จริง ๆ นิวก็ถึงกับชะงักนิ่งค้าง ..........คิดถึง.............จริง ๆ .............กูคิดถึง....มึง....จริง ๆ

เงียบสนิท โดยมีคำพูดบางอย่างของคนที่อยู่ปลายสายก้องไปก้องมาในหัว

หน้าเริ่มแดง และเริ่มรู้สึกถึงอาการใจสั่นสะท้าน หัวใจกำลังเต้นแรง และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็มีอาการแบบเดียวกัน

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แม่งเหี้ยแล้ว กูพูดอะไรออกไปเนี่ย

ก็ใช่ที่จีบ ก็ใช่ที่พูดจาหวาน ๆ เลี่ยน ๆ ใส่ ก็ใช่ที่ฝ่ายนั้นคือไอ้นิว ที่ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนอกจากเฉยชาใส่กูลูกเดียว

แต่มันจะรู้มั้ย ว่าตอนที่มันโทรมา กูเหวอจนไม่กล้ารับโทรศัพท์มัน
แล้วที่ตาค้างอยู่จนถึงป่านนี้ก็เพราะมัน นอนไม่หลับ เพราะสายตาของมันที่จ้องไม่กระพริบเมื่อวันก่อน

แล้วไอ้นิวมันจะรู้มั้ยว่ากูเกือบเก็บอาการไว้ไม่อยู่

แม่ง..........หวั่นไหวอย่างแรง แล้วอยู่ดี ๆ ก็โทรมาก่อกวนให้จิตใจเตลิดไปไกล พอโทรกลับเสือกนอนอยู่ซะงั้น
แถมยังบอกอีกว่าสงสัยมือไปโดนไม่ได้ตั้งใจโทร ไม่คิดบ้างเหรอว่ากูจะเหวอจนไปไม่เป็น จีบไอ้นิวแม่งเสียฟอร์มจริง ๆ ด้วย

ขนาดตอนนี้ ยังเสียฟอร์มเลย .........กูคิดถึงมึงจริงนะ......... ไม่ได้ล้อเล่น

แล้วทำไมต้องอึ้ง แล้วก็เงียบไปซะขนาดนั้นด้วยวะ กูใจแป้วหมดแล้ว ไม่รู้บ้างหรือไง

“มึงนอนต่อเหอะ กูไม่กวนแล้ว”

ตั้งใจจะชิ่ง รีบชิงวางสายก่อนจะเสียฟอร์มไปมากกว่านี้ แต่นิวที่เพิ่งได้สติก็รีบรั้งเอาไว้

“อะไรของมึงเนี่ย คิดถึงกูไม่ใช่เหรอ.........คิดถึงก็....ต้อง....ต้องคุยกันต่ออีกหน่อยไม่ใช่หรือไง”

ชัดเลยงานนี้ แม่ง...........เหี้ยนิว ล้อกูนี่หว่า ทำแบบนี้ ล้อกูชัด ๆ

“อีกสองสามวันกูจะเลิกจีบมึงแล้ว”

เหี้ยยยยยยยยย เอาอีกแล้วไง เรื่องนี้อีกแล้ว ทำไมต้องอีกสองสามวันด้วยวะแล้วมาบอกว่าคิดถึงเนี่ยนะ

มาทำให้กูใจเต้นแล้ว ก็จะไม่สานต่อง่ายๆ แบบนี้เนี่ยนะ เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วเหี้ยโจ้

“อะไรของมึงเนี่ย กูบอกแล้วทำไมไม่ฟังบ้างวะ อยากใจง่ายก็ใจง่ายกับกูนี่ ใจง่ายกับกูไปพลาง ๆ ก่อน ทำไมเรื่องมากจริงวะพูดไม่รู้จักฟัง”

ทำเสียงดุใส่ และนิวก็กำลังขมวดคิ้วมุ่น

อะไรก็ได้นะ แต่ไอ้เรื่องจะเลิกจีบเนี่ย ขอเหอะ แม่งไม่รู้ทำไม กูไม่อยากฟังจริง ๆ

กูไม่ชอบ แล้วก็ไม่อยากฟังด้วย เรื่องที่จะเลิกสนใจกูเนี่ย

“กูไม่อยากเสียฟอร์มแล้ว”

เรื่องเดิม ๆ ยังจะย้ำอีก เสียฟอร์มอะไรนักหนา ไหนทีแรก ทำท่ายังกะจะปล้ำกูซะด้วยซ้ำ พอทีนี้เสือกถอดใจ รักง่ายเลิกง่ายจริง ๆ นะมึง

“ไอ้โจ้”

เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง และก็เป็นโจ้ที่กำโทรศัพท์แน่น

มึงจะโมโหใส่กูทำไมนักหนาวะ แค่นี้กูก็ว่าเยอะแล้วนะ ทำไมนิวแม่งเดาใจยากนักวะ จะทำตัวให้คนเข้าใจง่าย ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง คิดอะไรอยู่กันแน่ กูชักจะตามไม่ทันแล้วนะ

“....................”

“อ้าวเหี้ยเงียบอีก ฟังกูหรือเปล่าเนี่ยโจ้”

ฟังอยู่สิ ไม่ฟังจะรู้ได้ยังไงว่ามึงตะโกนกรอกหูกูอยู่

“ตกลงมึงจะโทรมาเพราะคิดถึงหรือโทรมากวนตีน”

มึงคิดว่ากูจะเลือกอันไหนก็เลือกให้เลย ไม่ต้องให้กูเลือกเองหรอกกูขี้เกียจคิดมันยุ่งยาก

“.....................”

ไม่ยอมตอบ และเป็นนิวที่กลายเป็นคนหงุดหงิดซะเองที่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบคำถาม

“แม่งสันดาน มึงงอนเปล่าเนี่ย”

งอนเหี้ยไร กูไม่ได้งอน กูแค่ไม่ชอบเวลามึงพูดจาเสียดแทงใจกูเฉย ๆ

“...............”

“โจ้”

“....................”

“.....จีบกูมึงกลัวเสียฟอร์ม แล้วมึงไม่กลัวกูเสียใจบ้างหรือไง”

อะไรวะ เสียใจยังไง  ไม่เห็นเข้าใจเลย

“มึงจะมาเสียใจได้ยังไง กูเลิกจีบมึง มึงน่าจะดีใจ”

ใช่ มึงเลิกจีบกู กูน่าจะดีใจ แล้วมึงไม่คิดหรือไงว่าก่อนกูจะดีใจกูมีความรู้สึกอย่างอื่นด้วย

“เออ งั้นแค่นี้นะโจ้ มึงนอนเหอะ กูก็จะนอนแล้ว”

ไม่อยากพูดอะไรให้มากความ พูดไม่ออก ถึงเวลาที่ต้องพูดแต่ไม่รู้จะพูดอะไรดี ความรู้สึกไหววูบในอกจะให้กูอธิบายยังไง
กูต้องพูดยังไงมึงถึงจะเข้าใจ

“มึงก็ดีแต่ทำแบบนี้แหละ เย็นชา.... เฉยใส่กูตลอด คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ กับคนอื่นก็ทำเป็นดี ทีกับกูมีแต่ไม่พอใจ”

เออใช่ กูมันเย็นชา กูมันเฉย กูมันดีกับแต่คนอื่น ทีกับมึงกูทำอยู่อย่างเดียวคือทำเป็นไม่พอใจ
พูดอีกก็ถูกอีก ที่มึงพูดทั้งหมดใช่หมดนั่นแหละ

“ก็คนอื่นมันไม่ทำให้หวั่นไหวเหมือนอยู่กับมึงนี่หว่า......อยู่กับใครกูก็ควบคุมตัวเองได้หมดไม่เหมือนอยู่กับมึง อยู่กับมึงทีไรกูเหมือนจะไม่เป็นตัวของตัวเองทุกที”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2014 23:57:48 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
กัดหมอน กรีดร้อง มะไรๆๆๆจะได้ดังใจแม่ยก   :ling1:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
เหยดดดด
ตกลงโจ้เคะจริงๆดังหวังใช่ไหม
ตาสวยนะ....-.,-b เยี่ยมเลยยยยย แล้วตอนแรกลูกไปกัดปากเขา(?) จะจับเขาปล้ำ ทำเอาคดีเกือบพลิกเลยทีเดียว นิวต้องเอาคืนนะลูก :hao7:
นิวโจ้ๆๆๆๆๆ :hao6:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เชด~~~~!!!!
'อยู่กับมึงทีไร ก้อเหมือนไม่เป็นตัวเองทุกที'
คนอ่านฟินคร้า า า า า า า า >\\\<
โจ้ ว่าไงบ้างจ๊ะ หายงอนรึยัง 5555

โจ้เคะอ่ะ เราชอบ ดีดนะเข้ได้ด้วย -^.,^-

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
5555 ชอบก็รุกหนักๆไปเลยโจ้
แต่สถานะบนเตียงหนูต้องรับนะ กร๊าซซ

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#(นิว-โจ้) สบายใจ

“เหี้ยตังค์หมด”

โจ้ลุกขึ้นนั่งและมองโทรศัพท์ในมือที่สัญญาณขาดหายไปเรียบร้อย

คุยอะไรกันวะ คุยจนไม่เหลือเงินค่าโทร เช็คดูเวลา ปาเข้าไปห้าชั่วโมงกว่า

แม่งบ้าแล้ว

คุยอะไรกัน ตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าจนถึงเกือบหกโมงเช้า แบบนี้เรียกว่าบ้า

เรื่องที่คุย จับต้นชนปลายไม่ได้ ไม่มีเนื้อหาสาระที่ชัดเจน แต่คุยกันจนเช้า

กูบ้าหรือมันประสาทวะ

ได้ยินเสียงนกร้อง และเมื่อหันไปมองนอกหน้าต่างฟ้าก็ใกล้สว่างแล้ว

ง่วงนอนมั้ย ตอบได้ว่าไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่

บอกไม่ถูกว่าตอนนี้อารมณ์เป็นยังไง ใจมันฟู ๆ ล่องลอยแปลก ๆ ชอบกล

“อื้มมมมมมมม”

เอนกายลงนอน ซุกหน้าลงที่หมอน และนอนยิ้มคนเดียว

บ้าแล้วกู

ยิ้มทำไมวะ ไม่เห็นมีเรื่องห่าอะไรให้ต้องยิ้มเลย เช้าแล้วทำไมไม่นอน ต้องนอนแล้ว ต้องนอน ต้องนอน และ…..

เสียงสัญญาณเตือนจากโทรศัพท์ทำให้โจ้ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและกดอ่านข้อความที่ส่งเข้ามาหา

ข้อความจากนิว

..............เจ้าหน้ามน....นอนได้แล้ว.......

เออ รู้แล้ว กูก็นอนอยู่นี่ไง แค่ไม่หลับแค่นั้นเอง กูกำลังยิ้มอยู่

ยิ้มแม่งห่าอะไรมากมายไม่รู้

โจ้ซุกหน้าที่หมอนอีกครั้ง และยังคงยิ้มอยู่คนเดียว

อะไรวะ

ชอบจริงจังแล้วมั้งแบบนี้ เวลาที่คนที่เรารู้สึกดีด้วย ตอบรับความรู้สึกกลับมา แม้เพียงเล็กน้อยมันทำให้รู้สึกดีได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ

แต่นั่นมันไอ้นิวนะ นั่นมันไอ้นิว ไอ้นิวหน้านิ่ง ชอบด่ากูแบบลอย ๆ เรื่อยเลยนะ

นั่นน่ะมัน.........ไอ้นิว..........

ใช่
ไอ้นิวนั่นแหละ มันคือไอ้นิว แต่มันเล่นทำให้กูนอนยิ้มไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก็เพราะไอ้เหี้ยนิวคนเดียวนั่นแหละ

กูต้องนอนไม่หลับ เพราะยิ้มไปเรื่อยในตอนเช้าตรู่ขนาดนี้มันก็เพราะมึงไอ้นิว เพราะมึงคนเดียว แม่งเอ้ยยยยยยยยยย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2014 14:01:11 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
“ก็คนอื่นมันไม่ทำให้หวั่นไหวเหมือนอยู่กับมึงนี่หว่า......อยู่กับใครกูก็ควบคุมตัวเองได้หมดไม่เหมือนอยู่กับมึง อยู่กับมึงทีไรกูเหมือนจะไม่เป็นตัวของตัวเองทุกที”

หมายความว่ายังไงวะ มันด่าหรือมันชม หรือยังไง

โจ้ขมวดคิ้วมุ่น และนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ

ทางนั้นมันต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ กูไม่เข้าใจ มึงจะด่า หรือมึงจะประณาม หรือมึงจะเอายังไง

“หวั่นไหวเพราะกูเนี่ยนะ เกือบเชื่อแล้วเชียว”

ตอบกลับออกไป และเบะหน้าเพราะรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกหยอกล้อหลอกล่อให้หลงกลกับคำพูดแปลก ๆ

เชื่อเถอะ พอมันโยนหินถามทางเรียบร้อย แล้วพอกูตอบไปนะ แม่งรับรอง ตลบหลังให้กูได้อายชัวร์

“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง ไม่ได้ง้อ”

มึงไม่เคยง้อกูอยู่แล้ว พูดอย่างกับว่ามึงเคยง้อกูงั้นแหละ ไม่มีหรอก
ตั้งแต่แรกเริ่มที่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ประมาณป.5

“มึงจำครูประจำชั้นเราตอนป.5ได้ป่ะ ที่ผมหยิก ๆ แล้วชอบให้หัวหน้าห้องจดชื่อเวลาแกไปประชุมอ่ะ”

ครูประจำชั้นเหรอ ตอนป.5 อืมมมม จำได้นะ

“กูไม่โดนจดหรอก มึงใช่ป่ะที่โดน แล้วต้องไปเช็ดโต๊ะครูอยู่เป็นอาทิตย์เพราะมึงพูดมาก เลยโดนจดชื่อใช่ป่ะโจ้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า จำได้สิ จำได้”

ขอบคุณ จำแต่เรื่องอัปยศของกูเนอะ ไม่จำเรื่องดี ๆ บ้างเลยใช่มั้ย

“มึงก็แบบนี้ตลอด แต่ไหนแต่ไรแล้ว เอาตัวรอดคนเดียวตลอดเลย นั่งสงบเป็นเสาหิน ไม่เบื่อบ้างหรือไงกูว่าจะถามนานแล้ว”

เบื่อมั้ยเหรอ ก็ไม่เบื่อนะ กูชอบนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วก็มองมากกว่าจะไปวิ่งเล่นให้เมื่อยขา

“เหงื่อออกเยอะ เหม็นเหงื่อ เนื้อกูหอมไปเล่นแบบนั้นเดี๋ยวแฟนคลับกูตกใจ”

นั่นเหตุผลมึงเหรอ แฟนคลับห่าอะไร ที่คนเข้าหามึงเพราะมึงเรียนเก่ง แล้วก็ยิ้มให้ทุกคนตลอด เรียกง่าย ๆ ว่าอัธยาศัยดี ก็เลยไม่แปลกใจที่เพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะชอบเข้าใกล้

แต่ก็แปลกนะ ทั้งที่ไม่ค่อยวิ่งเล่น นิ่ง ๆ เฉย ๆ มาตลอด แต่เวลามีกีฬาสี ก็เห็นลงเล่น   ไม่ได้เป็นลูกคุณหนูไม่เอาอะไรสักอย่าง แพ้บ้างชนะบ้าง ถึงเวลาซ้อมมันก็ซ้อม

“กูแบ่งเวลาเป็น เวลาไหนควรเรียนเวลาไหนควรเล่น ไม่เหมือนมึง ทางไหนก็ทางนั้น เล่นกีฬาก็เล่นจนไม่เป็นอันเรียน แบ่งเวลาไม่เป็น ได้ข่าวว่าตอนนั้นมึงอยู่สีส้มแล้วตอนแข่งฟุตบอล มึงเตะจุดโทษไม่เข้า แล้วสีส้มก็แพ้ไป มึงเลยซึมเป็นอาทิตย์เสียจริตไปเลยนี่ ทำอะไรไม่เคยเผื่อใจเลยเนอะแต่ไหนแต่ไรแล้วมึงอ่ะ”

ก็ใช่

ไม่เคยเผื่อใจ ถ้าชอบอะไรก็จะไปทางนั้น ทุ่มเท จนไม่เหลือพื้นที่อะไรไว้ทำอย่างอื่นอีก

มันก็เลยติดนิสัยแบบนั้นไปหมดกับทุกเรื่อง ถ้ารักใครก็จะไปให้สุด เข้าหาให้ได้ ถ้าต้องเสียใจก็จะยอมเสียใจ เกิดมาทั้งทีต้องเอาให้สุด ทำให้สุด ๆ ไปเลย ไม่รู้จะกลัวไปทำไม ชีวิตมันก็แค่นี้

“ไม่รู้จะเผื่อใจไปทำไม เจ็บก็จะได้รู้ว่าเจ็บ เวลาเจ็บสุด ๆ จะได้รู้ไปเลยว่าเจ็บสุด ๆ มันเป็นยังไง”

นั่นแหละตัวตนของมึงเลยโจ้

บางทีกูก็อยากเป็นให้ได้อย่างมึงนะ ไม่ได้อยากเซฟตัวเองขนาดนี้หรอก กูมันคนอ่อนแอมั้ง ไม่กล้าเจ็บ ถ้ารู้ว่าเจ็บก็ไม่เข้าใกล้

คนเรามีวิธีการป้องกันตัวเอง สู้หรือถอย มึงสู้ แต่กูเลือกถอย นั่นคงเป็นสิ่งที่เราต่างกัน

“มึงก็เรียนเก่งนะนิว แล้วทำไมถึงมาเรียนที่นี่ล่ะ ทำไมไม่ไปเรียนอย่างอื่น”

ทำไมเหรอ

“มึงก็รู้ แล้วยังจะมาถามอีก”

มันก็ใช่

รู้

แต่รู้แบบไม่ทั้งหมด เพราะกูไม่ได้คิดว่าจะใส่ใจอยากจะรู้ แต่แปลกที่รู้เรื่องของมึงมากกว่าที่คิด

“ถ้าพ่อมึงไม่ล้มละลายมึงคงไปเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ”

อืม ก็....คงอย่างนั้น

“เรียนที่นี่ก็ดี จบแล้วหางานทำได้เลย”

มันเป็นเรื่องขมขื่นของใครบางคน ที่โจ้รับรู้มาตลอดแต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปที่รายละเอียด เป็นแค่เรื่องที่เคยได้ยินคร่าวๆ ว่าพ่อนิวล้มละลาย จากลูกคุณหนูเคยสบายมาตลอดเปลี่ยนมาเป็นคนที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต

สมัยเรียนประถมและมัธยมเคยเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน โรงเรียนของรัฐธรรมดา นิวเป็นนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาตอน ป.5 ก่อนหน้านั้นนิวเรียนอีกที่ โรงเรียนชั้นนำของประเทศที่คนทั่วไปเชื่อว่าดีกว่าโรงเรียนประถมที่นิวย้ายเข้ามาเรียน

ด้วยใบหน้าและท่าทางที่ดูดี ผิวพรรณหน้าตาแตกต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ในชั้น เลยทำให้นิวไม่เป็นที่ถูกใจของเด็กผู้ชาย แต่ถูกใจเด็กผู้หญิง และในเวลาไม่นาน แม้เพื่อนผู้ชายก็ยังชื่นชมนิว

เพราะความที่เป็นคนยิ้มง่าย เรียนเก่ง เลยทำให้ยิ่งมีคนเข้าหามากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างนิวไม่น่าเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ แต่ในเวลาไม่นานก็ได้รู้ว่าเพราะอะไร

สถานที่ที่ไม่เหมาะกับนิวเลยสักนิด แต่ต้องมาอยู่มาปรับตัวใหม่มันยากและลำบาก ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้ไม่อยากมาเรียน และมีคำถามต่างๆ เต็มไปหมด แต่ก็ต้องจำใจมา

“เราไม่เหมือนเดิมแล้วลูก นิวอดทนนะ นิวต้องอดทนนะลูก”

เสียงแม่ยังก้องอยู่ในหัว ดีแค่ไหนแล้วที่ได้เรียนประถมอีกครั้ง หลังจากที่แม่พานิวหนีหนี้ไปทั่ว อาจจะทั่วประเทศด้วยซ้ำ อยู่แต่ละจังหวัดได้ไม่นาน ก็ต้องย้ายหนีอีก เพราะถ้าเจ้าหนี้รู้ข่าวก็จะตามมาทวงถามให้ได้

เป็นแบบนั้นมากกว่าสองปี ไม่ได้เรียนหนังสือเลย ตลอดสองปี

เดิมทีบ้านมีฐานะ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด เรียนในโรงเรียนชั้นนำ พ่อแม่มีหน้าตาฐานะทางสังคม แต่หลังจากพ่อหมดตัวจากการทำธุรกิจเพราะถูกโกง ทุกอย่างก็พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ

แม่บอกเสมอ อย่าเชื่อใจใคร เผื่อใจไว้บ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างให้มองสองด้าน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะไม่กล้าคาดหวังกับใคร กลัวเจ็บ กลัวเสียใจ

เผื่อใจกับทุกสิ่งทุกอย่างมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้ ถ้ารู้ว่าเสี่ยงจะรีบถอยหนีทันที

“ทุนก็มีเยอะแยะ ทำไมตั้งแต่แรกไม่เลือกไปเรียนมหาวิทยาลัย มึงเรียนเก่งขนาดนั้น ถ้าจะเอาจริง ๆ ก็ไม่ยากหรอก”

ลืมอะไรไปหรือเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงใช่ แต่ตอนนี้ก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“ถ้าไม่ได้พ่อหยกช่วย ป่านนี้ต่อให้เป็นที่นี่กูก็ไม่มีปัญญาได้เรียนหรอก”

อึ้งไปชั่วขณะ

พ่อหยก

พ่อไอ้หยก หมายถึงพ่อของ..........ไอ้........

“เจ้าของเหรอ”

เจ้าของ….
ใช่
เจ้าของ

“พ่อแม่หยกช่วยบ้านกูไว้เยอะ เขาไม่ได้ร่ำรวยหรอกนะ แต่เพราะได้เขาช่วย ที่บ้านกูเลยเริ่มตั้งหลักได้อีกครั้ง”

ช่วยไว้เยอะงั้นเหรอ

เพราะแบบนี้หรอกเหรอ เพราะแบบนี้สินะ มึงเลยยอมเป็นคนเฝ้าของ ทั้งที่กูคิดมาตลอดว่าอย่างมึงไม่น่ายอมเฝ้าของ มึงเป็นพวกชอบถอย

ถ้าชอบแล้วรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ มึงจะถอย แต่คราวนี้ ทั้งที่มึงก็ชอบ แล้วก็เห็นอยู่ทุกวัน แต่มึงก็ก้มหน้าก้มตาเฝ้าของ

ทั้งที่มึงก็คงเจ็บไม่น้อย ที่ต้องเฝ้าของที่ไม่มีวันเป็นของตัวเอง

นิว.......... กูไม่เคยรู้นะ

อาจจะรู้เรื่องมึงบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด บางครั้งเรื่องของมึงก็ถูกใส่สีตีไข่จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนหลอก แม้เราจะอยู่ห้องเดียวกัน เรียนด้วยกันจนจบมัธยม แต่เราก็ไม่เคยคุยกันจริงจัง

คิดมาตลอดว่ามึงเป็นคนหน้าตาดี ที่ชอบเก็ก ชอบยิ้มเรื่อย ๆ และทำดีกับคนอื่น ยกเว้นกู ไม่รู้ทำไมแต่ไหนแต่ไรมึงก็ชอบกระแนะกระแหนกู เรารู้จักกันดี แต่ก็เลี่ยงการเผชิญหน้ากันมาตลอด

“มึงดีนะโจ้ ได้ทำอะไรสุด ๆ มึงรักใครก็รักสุด มึงอยากทำอะไรมึงก็ทำสุด ๆ น่าอิจฉา”

น่าอิจฉา

น่าอิจฉาเนี่ยนะ กูน่าอิจฉาตรงไหนวะ

“ไม่จริงมั้ง กูไม่มีอะไรให้น่าอิจฉาหรอก”

มีสิ มีเยอะเลยด้วย

“มึงนึกอยากทำอะไรมึงก็ทำได้อย่างใจ แล้วมึงดูกูสิ ทำอะไรแต่ละอย่างก็ต้องมานั่งคิด คิดแล้วคิดอีก”

นั่นมันข้อดีของมึงไม่ใช่เหรอ มึงเป็นคนคิดอะไรมีแบบแผน มีเหตุและผล ทำอะไรก็น่าเชื่อถือ ไม่เหมือนกูที่ทำอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามอารมณ์ หาหลักเกณฑ์อะไรก็ไม่ได้ บางทีกูยังรำคาญตัวเองเลยที่ไม่ค่อยมีเหตุผล มีบ่อย ๆ ที่อยากเปลี่ยนตัวเอง

แต่แม่งทำไม่ได้ซะที ก็เลยเป็นแบบนี้มาเรื่อย

“โจ้”

“หือ”

ขานรับ และคนที่เรียกก็เงียบไป ได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจเบา ๆ จากปลายสาย ไม่มีอะไรต้องพูดกันให้มากความ แค่ความเงียบ แต่ก็เหมือนจะเข้าใจกันดีทุกอย่าง

“ครั้งแรกเลยหรือเปล่าที่เราคุยกันดี ๆ”

อืมมม
ใช่
ครั้งแรกที่เราคุยกันดี ๆ แล้วกูก็ได้รู้เรื่องของมึงขึ้นเยอะ

“จะเลิกจีบกูป่ะ อีกสองสามวันที่ว่าจะเลิกจีบกูนั่นน่ะ มึงจะทำจริง ๆ หรือเปล่า”

ก็..........

“......................”

“นั่น.....เงียบอีก เงียบตลอดนะมึง แล้วทำไมต้องอีกสองสามวันด้วย อีกสองสามวันมันมีอะไรวะ”

มันก็ไม่มีอะไร ก็คล้าย ๆ การผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ด้วยความหวังว่าจะหยุดความรู้สึกของตัวเองได้ในวันหนึ่ง

“หรือจะให้เลิกจีบวันนี้วะ”

โห ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ

“อย่าใจร้าย”

อะไรนะ อย่าใจร้ายอะไร กูเปล่าใจร้ายซะหน่อย ที่ใจร้ายมันมึงต่างหาก

“ใครกันแน่”

ใครล่ะ ไม่เห็นมีใครเลย

“กูไม่ได้ใจร้าย กูไปใจร้ายตอนไหน”

ตอนไหนเหรอ อย่าให้สาธยายเหอะ เดี๋ยวแม่งจะยาว

“ก็มึงต่อยกู”

อ้าว

เป็นงั้นไป แล้วไม่ให้ต่อยได้ไง

“แล้วใครมันปล้ำจะดูดปากกูก่อนล่ะ”

ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย

“........................”

พูดไม่ออก ได้แต่เงียบ และในหัวก็ย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในวันนั้น

เรื่องวันนั้น..........

และโจ้ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง และเริ่มคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไป ดีที่คุยกันทางโทรศัพท์ ขืนเจอหน้ากันเวลาคุย กูคงไม่รู้จะทำหน้ายังไง

“ฉวยโอกาสกับกูตลอดนะ ตอนไปดูหนังด้วยกันอีก”

ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย มึงเลิกพูดเห้ออออออออออออออ

“แล้วทีมึงทำกูตอนเดินกลับบ้านล่ะ”

อันนั้นมันเหมือนกันที่ไหนล่ะ

“อ้าว.....กูก็ทำเพื่อมึงนะ จะได้รู้ว่าไอ้การประกบปากกันเฉย ๆ ไม่ได้เรียกว่าจูบ เดี๋ยวมึงจะเข้าใจผิดไปตลอด แล้วไปทำแบบนี้กับคนอื่นมันจะขายหน้า”

เหรอ

“มึงคิดว่ากูจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นเลยกลัวกูจะขายหน้าเหรอ”

ไปทำแบบนี้กับคนอื่น

ไปทำแบบนี้.......... ถ้าไอ้โจ้ไปทำแบบนี้กับคนอื่น ถ้ามันไปทำ.........

“ถ้ามึงอยากทำกับคนอื่น มึงอย่าให้กูรู้ กูไม่อยากรับรู้ด้วย”

แปลว่าไปทำกับคนอื่นได้ แค่อย่าให้มึงรู้ใช่มั้ย

“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปหาคนลองทำด้วยดูดีกว่า”

โจ้แกล้งพูด แล้วก็หัวเราะเสียงเบา โดยที่ไม่รู้ว่าแค่คำพูดเดียวของตัวเองทำให้นิวรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

“ไอ้โจ้”

“อะไร”

ไม่อะไร..........จะให้อะไรได้ล่ะ จะให้อะไร จะไปทำอะไรได้

“ทำอย่างกับจะหึงกู”

ทำไม หรือว่าหึงไม่ได้

“เออ”

ห๊ะ........

กูฟังผิดไปใช่มั้ย กูฟังผิดไปและ........... ปลายสายตัดไปเรียบร้อย และนิวก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

มองที่โทรศัพท์ของตัวเอง และขบริมฝีปากตัวเองแน่น

คุยอะไรกันก็ไม่รู้ คุยกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องไม่มีเนื้อหาสาระ

คุยกัน..............นานขนาดนี้ได้ยังไง เหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนัง เป็นเวลาเกือบหกโมงเช้า

สายตัดไปหลายครั้ง และโทรซ้ำหากันหลายครั้ง จนสุดท้าย คุยกันจนเช้า

เช้าแล้วและฟ้าข้างนอกก็เริ่มสว่าง

นิวค่อย ๆ เอนกายลงนอน

ความหงุดหงิดในใจยังมีอยู่ แต่เมื่อนึกถึงเวลาแล้วมันก็สมควรจะนอนหลับพักผ่อนซะที ทั้งที่หัวใจกำลังปั่นป่วน ปัญหามาจากคนที่นิสัยตรงข้ามกันเกือบทุกอย่าง

ไอ้โจ้.....

หัวคิ้วยังขมวดมุ่น ในเวลาไม่นานกลับค่อย ๆ คลายออกอย่างช้า ๆ

แปลกที่กล้าเล่าเรื่องบางอย่างที่ไม่เคยมีใครรู้ให้โจ้ฟัง และหลังจากได้พูดไปแล้ว ความรู้สึกกดดันในใจตลอดหลายปีเหมือนจะคลายลง

สบายใจ รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจที่ได้คุยกับใครสักคน

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและคิดจะกดโทรหาอีกครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจ ......กูหึง.............อย่าไปทำแบบนั้นกับใครเด็ดขาด......

กดตัวอักษรจนเป็นข้อความยาว ๆ และกำลังจะกดส่ง แต่ก็รีบเปลี่ยนใจ

บ้า....... เรื่องอะไรจะบอกมันวะ ใช่เรื่องที่ไหน ไม่ใช่เรื่องที่จะไปบอกไอ้โจ้มันแบบนั้น
เปลี่ยนใจไม่ยอมส่ง และพิมพ์ข้อความใหม่อีกครั้ง

..............เจ้าหน้ามน....นอนได้แล้ว.......

กดส่งข้อความเรียบร้อย และนิวก็อมยิ้มอยู่คนเดียว

หรี่ปรือตาลงอย่างช้า ๆ ใบหน้ายังแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งใบหน้าและเสียงพูดของคนบางคนยังลอยไปลอยมาอยู่ตลอดในความรู้สึก

“เกินไปนะ อาการหนักแล้วนะ เฮ้ยยยยยยยยนอนได้แล้ว....เป็นเอามากเหมือนกันนะเนี่ยกู”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2014 14:05:36 โดย aa_mm »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ TrebleBass

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านไปยิ้มไป แก้มจะแตก

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เขินด้วยคน
นิวหึงด้วยอ่ะ แหมๆๆ
แถมยังยอมรับด่วยว่าหึง สุดยอดดด

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ปล.ด้วยรักและคิดถึง#(นิว-โจ้) ตกลงนอนกี่โมง

“มึงอยู่ไหนเนี่ย”

กรอกเสียงลงไปด้วยความหงุดหงิด เดินวนไปวนมาหลายรอบ มองซ้ายก็แล้วมองขวาก็แล้ว แต่ไม่เห็นเจอคนที่นัดให้ออกมาหา

“ก็อยู่เนี่ย”

อยู่เนี่ยพ่อมึงดิ อยู่เนี่ยตรงไหนกูหาจนกูชักจะโมโหมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะสัด

“มึงอยู่ไหนกันแน่วะ แม่ง”

หันซ้ายหันขวารอบที่ร้อย แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่สมควรจะได้พบเจอ สรุปมึงนัดกูออกมาเพื่อกวนตีนใช่มั้ย

“อยู่นี่”

อยู่นี่ อยู่นี่เหี้ยอะไร กูไม่เห็น...........

“อ้าวไอ้เหี้ยนิว”

นี่คือคำทักทายเหรอวะ เห็นหน้ากูแทนที่จะพูดดี ๆ มันเสือกทักซะเสียหาย

“อะไรล่ะไอ้สัดโจ้”

แน่ะ มึงพูดได้กูก็พูดได้เหมือนกัน

“พูดจาหมาไม่แดก”

มึงไม่มีสิทธิ์ว่ากูแบบนี้นะ มึงเองก็พูดจาหมาไม่แดกเหมือนกันไม่ใช่หรือไง

นิวหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อและมาตั้งหน้าตั้งตาต่อปากต่อคำกับคนที่ทำหน้าหงิก

“ปากดี”

เออ

“ปากดีก็เรื่องของกู”

โจ้มองหน้าของคนที่พูดไปทำหน้านิ่งเฉยไป แล้วก็เบะหน้าใส่ ก็เป็นแต่แบบนี้เนี่ยแหละ

จะให้พูดจากันดี ๆ ไม่มีทางหรอก แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ ขืนพูดจาผิดไปจากทุกทีคงประหลาดน่าดู

“เอออออ เรื่องของมึงก็เรื่องของมึง แล้วเมื่อเช้านอนกี่โมง”

อะไร เมื่อเช้านอนกี่โมงอะไร ก็นอนตอนที่วางโทรศัพท์จากมึงนั่นแหละจะให้นอนกี่โมงล่ะ ถามอะไร....แปลก ๆ

หลบสายตา และแกล้งเมินหน้าไปทางอื่น ถ้าอาการเขินขึ้นมาแบบกะทันหันมันไม่มีผลกับหน้าของโจ้ก็คงดี

แต่นี่........มีผลแบบเต็ม ๆ

นิวอยากจะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้ ฝืนบังคับหน้าตัวเองไว้ และมองไปในทิศทางตรงกันข้ามกับโจ้

มึงเขินหรือเปล่าวะนั่น แล้วทำไมเวลาเขินจากหน้าปกติที่กูไม่เคยสนใจอยากจะมองมันทำให้ความ “น่ามอง” ของมึง เพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าหรือเปล่าวะ

“เรื่องของกู”

เหรอ เรื่องของมึงเหรอ แต่มันทำให้กูอยากรู้เรื่องของมึงมากเลยนะ

แบบว่า.......

“แล้วไม่มีเรื่องของเราบ้างเหรอ”

คำพูดลอย ๆ ที่นิวไม่ตั้งใจพูด มันดูเลื่อนลอยและอาจจับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ก็ทำให้โจ้ถึงกับชะงัก และดวงตาก็เบิ่งกว้างขึ้น

เรื่องของเราห่าอะไร

มีที่ไหนวะ

ไม่มีหรอกเรื่องของ.....เรา.....อะไรนั่นน่ะ

“อะไรมึง”

ไม่มีอะไรนี่ ไม่มีอะไรหรอกน่า

“เปล่า”

เออ ก็ว่างั้น ก็ต้องเปล่าอยู่แล้ว กูก็คิดมากไป แล้วก็คงฟังผิดไป

จากอาการหัวใจพองโต อยู่ดี ๆ ก็แฟบลงอย่างกะทันหัน

เออสิ มันจะไปมีได้ยังไงล่ะ เรื่องของเรา กูก็ฟังผิดตลอดแหละ ฟังผิดได้ตลอด แม่ง

“โจ้”

“อือ”

ขานรับเมื่อถูกเรียก และทำหน้าเซ็งจนนิวสังเกตเห็น
อะไรล่ะ เดี๋ยวก็ทำหน้าเขินให้กูใจแกว่ง แล้วทำไมเปลี่ยนอารมณ์กะทันหันมาทำหน้าเซ็งโลกใส่กูแบบนี้ล่ะ

“กูได้งานแล้วนะ โรงงานแถวบ้าน”

เหรอ

“อือ”

ตอบแค่นั้น และเหลือบสายตามองหน้าของนิวแค่แว่บเดียว

“กูคงไม่เรียนต่อ ได้งานแล้วก็ดี เดี๋ยวเอาวุฒิไปให้เขาแล้วเดือนถัดไปกูก็จะเริ่มทำงานเลย”

เหรอ

“อือ”

อยากจะถามอยู่หรอกนะ
อยากจะถามอยากจะสนใจอยู่หรอก แต่ว่า.......กูมีสิทธิ์ถามด้วยเหรอ ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย

“กูไปสัมภาษณ์กับเจ้าของโรงงานเลยนะแม่งหน้าโคตรเด็ก มอง ๆ ไปกูนึกว่าเด็กมัธยม แต่หน้าตาโคตรน่ารัก”

หันไปมองอย่างรวดเร็ว

โจ้หันไปมองหน้าของนิวอย่างรวดเร็ว และขมวดคิ้วมุ่น

น่ารักแล้วไง บอกกูทำเพื่อ กูถามเหรอ กูอยากรู้หรือไง ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกกูก็ได้

“บอกกูเพื่อ”

อ๋อ

ก็ไม่ได้บอกเพื่ออะไร เหตุผลเหรอ บอกเพื่ออะไรวะ ก็บอกเพื่อ........

“เผื่อกูชมคนอื่นแล้วมึงหึง”

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

“อะไรของมึ้งงงงงงงงงง”

ขึ้นเสียงสูงทันที และโจ้ก็ทำหน้าเลิ่กลั่กจนนิวจับสังเกตอาการได้

ไม่ต้องเลิกคิ้วขนาดนั้นก็ได้มั้ง แล้วก็ไม่ต้องทำท่าลุกลี้ลุกลนแบบนั้นก็ได้

กูฮาหน้ามึงจะแย่แล้ว

“มึงนี่ทำหน้าได้โคตรฮามาก”

ฮาอะไร ฮาตรงไหน หน้ากูตลกมากหรือไง พูดจาอะไรวะ ฟังไม่เห็นเข้าใจเลย

ถ้าจะเห็นหน้ากูแล้วตลกขนาดนี้นะ มึงไม่ต้องลากกูออกมาข้างนอกแบบนี้หรอก กูไม่ได้อยากมาเลย

“ฮาบ้านพ่อมึงดิ”

อีกแล้ว

พูดจาให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ถ้ามึงพูดจากับกูดี ๆ กว่านี้ มึงจะเพิ่มดีกรีความน่ามองขึ้นอีกเยอะเลยนะ

“พูดจา”

พูดจาทำไมวะ
พูดจาทำไม ก็พูดจาแบบนี้แหละ ทำไมล่ะ กูก็เป็นแบบนี้มาตลอด จะให้พูดจายังไง

“แล้ว........ตกลงเมื่อเช้านอนกี่โมง”

ห๊ะ มึงยังไม่จบอีกเหรอเรื่องนี้ มึงจะวนกลับมาเรื่องนี้เพื่ออะไรเนี่ย กูไม่รู้จะตอบคำถามยังไงนะ

“ถามกูแล้วทีมึงไม่เห็นบอก”

อ้าว ถ้าอยากให้บอกก็ถามสิ ไม่ถามแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าอยากรู้

นิวถึงกับส่ายหน้าและแทบจะหลุดขำออกมา

ยังไม่ได้ตอบ แต่ก้าวขาขึ้นบันไดเลื่อนโดยมีโจ้ก้าวขึ้นมายืนอยู่ข้าง ๆ

มันมีอะไรน่าสนใจกว่านั้นนะ

คือกูกับมึงเนี่ย เดินมาด้วยกันตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้า แล้วก็เดินเข้ามาข้างใน แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปด้วยกัน
ขึ้นมามากกว่าสามชั้นแล้ว ตกลงว่า กูยังไม่ได้คุยกับมึงเลยนะว่ามึงกับกูเนี่ยจะไปไหนแล้วมาทำอะไรที่นี่กัน

“จะไปชั้นไหนเนี่ย”

อ้าว มาถามกู แล้วกูจะรู้มั้ย มึงเป็นคนนัดออกมาเองนะ แล้วก็ลากให้กูออกมาด้วยเนี่ย

สรุปมึงไม่ได้คิดหรือไงว่าจะมาทำอะไรที่นี่

“ชั้นรักเธอมั้ง......ถามกูแล้วกูจะรู้มั้ย  วางแผนนักไม่ใช่หรือไง ก็คิดเองสิวะ”

อ่อ........ชั้นรักเธอเหรอ  จริงอ่ะ  จริงป่ะ

นิวอมยิ้มน้อย ๆ และแกล้งทำเป็นเมินหน้าหนีเพราะคำตอบของคนบางคน
พูดแล้วเสือกหลบตาหันไปทางอื่น  มันหมายความว่าไงว๊า

แล้วมาด่ากูทำไมเนี่ย  กูผิดหรือไง ใจคอจะให้กูวางแผนตลอดเลยหรือไง
แค่คิดว่าอยากมา กูก็ชวนมึงมาบ้างไม่ได้หรือไงล่ะ

“แล้วไม่มีอารมณ์อยากเดินไปชั้นนั้นชั้นนี้บ้างหรือไง”

อ้าวไอ้เหี้ย มาเดินนี่ต้องมีอารมณ์ด้วยเหรอ

มาเดินมันไม่จำเป็นต้องใช้อารมณ์เลยนะ

“อารมณ์ห่าอะไรของมึง”

โจ้แกล้งด่าคนที่เดี๋ยวก็ทำหน้ายิ้มกวน ๆ เดี๋ยวก็ทำหน้าเฉยใส่และเป็นนิวที่ยืนขำ

อะไรของมึงอีก ตลกมากนะมึง

“อารมณ์เงี่ยนมั้งไอ้สัด”

ห๊ะ อารมณ์.........เงี่ยน...........เหี้ยนิว มึงถ่อยกว่ากูอีก

“พูดจาหมาไม่แดก”

ด่าเข้าให้ และนิวก็ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

ทำไมล่ะ ทีมึงยังพูดจาหมาไม่แดกได้เลย ทีกูพูดบ้างไม่ได้หรือไง

“ขัดกับหน้าตาเกิน หน้าตาก็ดูออกจะเป็นผู้ดี เสือกพูดจาได้เหี้ยมาก”

ด่ากูเหรอ

“ผู้ดีตกอับเหรอ”

หันมาส่งยิ้มให้และหัวเราะน้อย ๆ แต่เป็นโจ้ที่เงียบไปกับคำพูดง่าย ๆ ของนิว

ชะงักนิ่งค้าง

.........เรื่องนั้นน่ะ มึงไม่ต้องตอกย้ำตัวเองก็ได้ กูไม่เคยคิดกับมึงในแง่ไม่ดีนะ เรื่องของมึงกูไม่เคยคิดดูหมิ่นหรือเยาะเย้ย

“มึงก็พูดไปนิว”

เสียงอ่อย และเป็นนิวที่ก้มหน้าลงเล็กน้อย นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาแล้วก็ถอนหายใจเล็ก ๆ

“ก็มันเรื่องจริง กูมันคุณหนูตกอับจริง ๆ นี่หว่า”

พอเหอะ กูไม่ได้อยากให้มึงรู้สึกแบบนี้นะ

“แล้ว.......ตกลงเรื่องงานมึงอ่ะ.......กูถามได้ป่ะ”

ได้สิ
ทำไมถามไม่ได้ล่ะ ถามได้แน่นอน ก็เพราะว่าเรื่องได้งานแล้วนี่แหละ ถึงได้ชวนมึงออกมาข้างนอก

“หาเพื่อนฉลองน่ะ ยินดีกับกูหน่อยน่า”

เหรอ

“อืมมม”

มองที่บันไดเลื่อน และก้าวขาเดินขึ้นชั้นบนของห้างสรรพสินค้า

“กินหรูไม่ได้นะ เอาไว้กูทำงานแล้วเงินเดือนออกจะพาไปกินหรู ๆ แล้วกัน”

มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก

หรูหรือเปล่า มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งคิดแบบนั้น

“ได้งานแล้ว กูเลี้ยงฉลองให้มึงดีกว่ามั้ง ไม่ต้องเลี้ยงกูหรอก”

ได้ยังไงล่ะ

กูพามาฉลองไม่ใช่ให้มึงมาเลี้ยงกู แบบนั้นมันก็ผิดวัตถุประสงค์กันพอดี

“ทำไม กูไม่ได้จนขนาดนั้นนะ เลี้ยงมึงแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกน่า แค่มึงอย่าเลือกร้านหรูมากก็พอ”

ทำไมล่ะ

มันไม่ใช่แบบนั้นจริง ๆ

ไม่ได้คิดว่าใครจะเลี้ยงใคร ใครจนกว่าหรือใครรวยกว่า

“แชร์แล้วกัน”

เฮ้ยยยยยยยย

“กูจนมากเหรอ”

ไม่ใช่
ไม่ใช่ว่ามึงจนหรือรวย

“นิว”

เงยหน้าขึ้นมองคนที่เรียก และนิวก็นิ่งเงียบไป

“เออ........แชร์ก็แชร์”

มันอาจมีความปวดใจเล็ก ๆ อยู่ลึก ๆ ภายใน ถึงแม้บ้านจะไม่ได้มีฐานะเหมือนเมื่อก่อน แต่การเลี้ยงข้าวใครสักคนมันไม่ได้ลำบากขนาดนั้น

เข้าใจที่โจ้มัน........... “เข้าใจ”

แต่เวลาที่มัน........ “เข้าใจ” ความจริง ก็ทำให้ปวดใจได้เหมือนกัน

ดีที่มันยัง เอาคำว่า “แชร์” มาใส่ไว้ให้ในพื้นที่ตรงกลางไม่อย่างนั้นคงได้ทะเลาะกัน

เพราะปมของตัวเอง

“แต่มึงติดกูไว้นะ ทำงานได้ มึงต้องเลี้ยงกู”

หัวเราะออกมาเสียงเบา และมองหน้าของคนที่ทำหน้าเป็นจริงเป็นจัง

เรารู้จักกันมานาน แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในตัวตนของกันและกัน

บางทีเราอาจเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องและลืมมองไปที่คนที่อยู่ใกล้กันมากแต่ไม่เคยมองเห็นหรือใส่ใจ

วันหนึ่งคนที่เคยอยู่ใกล้แต่เหมือนไกล เมื่อถึงเวลาที่ต้องได้รู้จักกันจริง ๆ ระยะห่างที่เคยเป็นช่องว่างมาตลอดก็เหมือนจะบรรจบเข้าหากันอย่างช้า ๆ

“แล้วตกลงเมื่อเช้านอนกี่โมง”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยย มึงยังจะถามไม่เลิกอีกเหรอ นอนกี่โมงก็ช่างกูเหอะน่า จะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย

“ฝันถึงกูป่ะ”

ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย

หันไปมองหน้าของนิวที่พูดไปทำหน้าเฉยไป แล้วโจ้ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

ทั้งที่ภายในใจกำลังปั่นป่วน

มึง..........มามุกไหนวะ ตั้งแต่วันก่อนที่บ้านกูแล้ว พูดจาแปลก ๆ ได้ตลอดเวลา

มึงเอาไงแน่เนี่ย
ทำแบบนี้กูงงนะ

ถามจริง ๆ เหอะ มึงเล่นอะไรอยู่กันแน่ มึงกำลังเล่นกับความรู้สึกของกูอยู่หรือเปล่าวะ

มึงกำลังทำอะไรของมึงอยู่กันแน่นิว

“มึงล่ะ”

ถามกลับ และนิวก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของโจ้ที่ทำหน้าสงสัยแบบจริงจัง

กูรู้นะว่ามึงคิดอะไร

อยากรู้จริง ๆ มั้ย

ถ้าอยากรู้กูจะบอกให้ก็ได้...........

“ตกลงเมื่อเช้านอนกี่โมงวะโจ้”

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

โจ้ถึงกับอ้าปากค้างและเกิดอาการหงุดหงิดโมโหกระฟัดกระเฟียด อยากจะกระโดดถีบยอดหน้าไอ้คนกวนตีนให้ตกลงไปกับบันไดเลื่อนซะให้รู้แล้วรู้รอด

“หกโมงโว้ยยยยยยยยยย”

เออ
ก็แค่เนี้ยะ
ให้ถามอยู่ได้ตั้งนาน ตอบมาซะก็หมดเรื่อง

“แล้วฝันถึงกูป่ะ”

“เอ้ออออออออออออออ”

ตอบเพราะอยากกวน ตอบเพราะอยากประชด

แต่มันทำให้นิวยิ้ม ยิ้มกว้างและหัวเราะออกมา และโจ้ก็ได้แต่ยืนมองใบหน้าที่แต้มไปด้วยรอยยิ้มของนิวด้วยความรู้สึกสับสนที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นและมากขึ้นทุกวัน

“กู......ก็......เหมือนกัน”

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2014 17:41:33 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ puna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮิ้วววววววววววววววว.... :mc4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คู่นี้จีบกันแปลกๆ 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด