ห้องเชียร์หนึ่งเดือนจะงดกิจกรรมทุกๆ เย็นวันศุกร์ ผมเลยสามารถไปกินข้าวตามคำเชิญของอาม่าได้ แต่ไม่ว่าเย็นนี้อาหารจะเลิศรสแค่ไหน ผมก็กินไม่ค่อยลง น้องพลอยคอยถามว่าเป็นอะไร แต่ผมก็แค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบไป จะบอกได้ยังไงว่าทะเลาะกับเฮียขาของน้องอยู่
ผมกลับมาถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มแล้ว เห็นไฟที่บ้านเปิดอยู่แต่ผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไร คงเป็นพี่กระแตที่ช่วงนี้จะมาเปิดไฟไว้ให้เพราะรู้ว่าผมกลับดึกเกือบทุกวัน แต่ความแปลกใจก็เปลี่ยนเป็นความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงทีวีดังมาจากบนบ้าน ผมรีบวิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเจอพี่ทองนอนหลับอยู่บนโซฟา มือถือรีโมทอยู่ แต่ก็ดูเหมือนจะหลับมานานแล้ว แถมยังหลับลึกอีกต่างหาก เขาคงเหนื่อยมากจริงๆ ไม่เคยเห็นหมดสภาพขนาดนี้เลย ผมก็สั้นกว่าเดิมทำให้เห็นรูปหน้าชัดขึ้น
ใครแนะนำให้ตัดทรงนี้นะ...อยากจะไปกราบงามๆ เพราะทำให้เขาดูดีมากจริงๆ หรือเพราะไม่เจอหน้ามาหลายวันกันแน่นะถึงได้รู้สึกว่าหล่อขึ้น
ผมสะกิดพี่ทองอยู่หลายทีกว่าเขาจะตื่น รอเขาตั้งสติอยู่อีกสองสามนาที ผมก็เริ่มใช้ภาษามือคุยกับเขา
‘มาได้ยังไง’
พี่ทองมองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะนอนลงอีกครั้ง กอดหมอนไว้แนบอกแล้วไม่ตอบอะไร
‘มายังไง มาทำไม ถามก็ตอบ’
“อาม่าบอกว่าออกมาตั้งแต่ทุ่มครึ่ง แล้วทำไมเพิ่งถึง”
‘แวะซื้อของ’
“ไหนล่ะของ”
พี่ทองในโหมดนี้รับมือยากจริงๆ ผมเลยจำใจต้องเอากล่องใส่นาฬิกาที่เอาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมแขนยาวของตัวเองออกมาให้ดู ตั้งใจจะเอาให้ในวันอาทิตย์ที่เขาบอกว่าจะมาหา ถึงจะไม่แน่ใจว่าโกรธขนาดนั้นแล้วจะยังมาหาอยู่ก็เถอะ แต่ตอนเฟซไทม์เมื่อหลายวันก่อนเห็นบอกว่าอยากได้ ผมก็เลยไปหาซื้อมาให้ มันก็ไม่ได้แพงอะไรหรอกครับ ...อีกอย่างคิดว่าเขาคงหายโกรธถ้าได้ของที่อยากได้
“นาฬิกา?”
ผมพยักหน้า ถอดนาฬิกาที่หน้าปัดแตกเพราะพี่ทองทำตกในห้องน้ำออก ก่อนจะใส่เรือนใหม่ไว้ให้
“ซื้อให้ทำไม”
‘อยากให้มีเวลา จะได้มาหาผมบ่อยๆ’
“เด็กบ้า ชอบตบหัวแล้วลูบหลังกูอยู่เรื่อย”
‘ผมไม่เคยทำแบบนั้น มีแต่พี่ที่หงุดหงิดไปเอง’
เขาหายโกรธแล้วใช่ไหม...ไม่โกรธผมแล้วใช่รึเปล่า ผมกลัวนะ...ทำไมต้องบอกว่าพอ ทำไมต้องบอกว่าเหนื่อยด้วย มันไม่ใช่คำที่ดีต่อความรู้สึกเลย...
“ลองมาเป็นกูดูบ้างไหม”
‘ผมก็อยากลองเปลี่ยนดูเหมือนกัน พี่จะได้เข้าใจบ้างว่าผมกับหลินไม่ได้มีอะไร ผมเข้าใจว่าพี่เหนื่อย แต่อย่าพูดแบบนั้นอีกได้ไหม ผมรู้สึกแย่นะ’
“กูขอโทษ” พี่ทองหลับตาลง เขาดูเหนื่อยมากจริงๆ ผมเลยเดินไปหาผ้าชุบหน้ามาเช็ดหน้าให้เขา พี่ทองลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มให้ ดีจัง...ยิ้มแล้ว
“คืนนี้อยากอยู่ด้วยจัง...แต่กูต้องกลับไปสรุปเคสให้เสร็จ” พี่ทองทำเสียงอ้อนๆ เขาจับมือผมไว้แล้วฝังริมฝีปากลงกลางฝ่ามือของผมเบาๆ “พรุ่งนี้หลังจากกินข้าวกับสายรหัสแล้วต้องไปไหนรึเปล่า”
ถ้าผมบอกว่าจะไปดูหนังกับหลิน...พี่ทองจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกรึเปล่านะ...ผมไม่อยากให้เราต้องทะเลาะกันแล้ว
‘พี่จะกลับกี่โมง’
พี่ทองมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะตอบว่า “เดี๋ยวก็กลับแล้ว”
‘มายังไง ไม่เห็นรถ’
จุ๊บแจงยังอยู่ที่อู่เคียงคู่กับรถของเตี่ยที่พี่ทองขับไปเสยท้ายรถของพี่ดีน ช่วงนี้เขาก็เลยขับออดี้ของตัวเอง แต่ก็ไม่เห็นจอดที่โรงจอดรถสักคัน เขาคงไม่เอาไปจอดไว้ที่หน้าปากซอยอีกหรอก ตอนที่ขับรถเข้ามาก็ไม่เห็น ที่จริงพี่ทองก็มีรถของตัวเองอีกสองสามคัน แต่เขาไม่ขับ เพราะรักมากเลยอยากเอาจอดไว้เฉยๆ ก็เลยชอบไปเบียดเบียนรถของคนอื่นอยู่บ่อยๆ แถมเอาของคนอื่นมาใช้ก็ไม่ค่อยถนอมด้วยนะ เตี่ยบ่นให้ผมฟังอยู่ว่ารถของเตี่ยโดนพี่ทองทำพังไปหลายคันแล้ว แต่ผมว่าพี่ทองก็แค่อยากแกล้งเตี่ยมากกว่า เห็นเขาเอารถอาม่ากับม๊าไปใช้ก็ดูแลอย่างดีเลยนะ
“รถเมล์”
‘เดี๋ยวรถเมล์หมดแล้วพี่จะกลับยังไง’
“แท็กซี่”
‘ไกลนะ คงหมดเกือบห้าร้อย’
“ไม่สน”
‘เดี๋ยวผมไปส่ง’
“มันไกล ไปกลับก็ไม่ได้นอนพอดี”
‘ไม่สน’
“เลียนแบบเหรอ เดี๋ยวเหอะ ยังไงก็จะไปใช่ไหม”
ผมพยักหน้า พี่ทองเลยยกมือถือขึ้นมาโทรหาพี่โน
“คืนนี้มึงไปนอนกับแฟนได้ป่ะ ชงโคจะไปนอนกับกู เออ แต้งกิ้ว พรุ่งนี้เช้ามึงซื้อน้ำเต้าหู้มาให้กูด้วยล่ะ ของชงโคเอานมสดนะ อือ แค่นี้แหละ”
ยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไปนอนด้วย พี่ทองโมเมเอาเองทั้งนั้น
“ไม่ต้องทำหน้างง จะไปส่งก็ต้องค้าง กูไม่ให้ขับกลับคนเดียวหรอกนะ ดึกแล้วอันตราย”
‘แล้วพี่โนล่ะ พี่ไล่เขาไปนอนกับแฟนไม่ได้นะ’ เกรงใจจริงๆ ผมเหมือนไปเบียดเบียนพี่เขาเลย
“ได้ดิ มันอยากไปอยู่แล้ว คืนวันศุกร์ใครๆ ก็อยากพักผ่อนทั้งนั้นแหละ แล้วหอแฟนมันก็ใกล้ๆ ด้วย ไม่มีปัญหา มันแอบดอดไปหาบ่อยๆ อยู่แล้ว”
เพราะอย่างนั้นผมก็เลยต้องเตรียมชุดนอนกับเสื้อผ้าไปเปลี่ยนตอนเช้าด้วย ยังไงคงตื่นแล้วคงตรงไปที่ห้างที่นัดกับสายรหัสไว้เลย แวะมาที่บ้านคงไม่ทัน
มาถึงหอพักของพี่ทองก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ห้องพักของผู้ชายที่อยู่ด้วยกันสองคนนี่รกมากจริงๆ แต่ก็ไม่ได้สกปรกนะครับ พื้นสะอาด ห้องน้ำสะอาด ติดแค่ว่าของเยอะ หนังสือเป็นตั้งๆ กระจัดกระจายอยู่ก็มี แม้แต่บนเตียงก็มีกระดาษวางเกลื่อน บนโต๊ะที่มีโน๊ตบุ๊กวางอยู่ก็ถูกกลบไปด้วยแผ่นกระดาษและหนังสือเล่มหนา ผนังมีภาพโครงสร้างอวัยวะภายในของสัตว์ต่างๆ แต่ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะของพี่ทองก็คือรูปคู่ระหว่างเขากับเดซี่ มีรูปที่ถ่ายคู่กับผมอยู่ข้างๆ
ผมมายืนเก้ๆ กังๆ อยู่กลางห้องในขณะที่พี่ทองเข้าไปอาบน้ำ เพราะไม่รู้จะนั่งลงตรงไหน โซฟากับโต๊ะตัวเตี้ยๆ ก็ยังมีกระดาษกับชีทกองอยู่ ไม่รู้ว่าควรเขี่ยๆ ให้พอมีที่ว่างนั่งรึเปล่า
“ไปอาบน้ำไป แล้วก็นอนไปก่อน” พี่ทองบอกพลางไปหาผ้าเช็ดตัวอีกผืนจากในตู้มาให้ คงเป็นผ้าเช็ดตัวของเขา เพราะมีกลิ่นครีมน้ำอาบที่เขาใช้อยู่เป็นประจำติดอยู่ด้วย อ่า...ผ้าเช็ดตัวของเขาเหรอ ผมไม่ได้รังเกียจนะที่จะใช้ เพราะพี่ทองไม่เป็นโรคผิวหนังแน่นอน แต่รู้สึกเขินนิดๆ แฮะ
“ใช้ของกูไปก่อน ไว้จะซื้อมาติดห้องไว้ให้ เผื่อจะมาบ่อยๆ” ยิ้มเจ้าเล่ห์จริงๆ ก็ถ้ามาได้ผมอยากจะมาบ่อยๆ เหมือนกัน ติดที่ว่าพี่โนคงต้องไปนอนที่อื่นน่ะสิ ผมเกรงใจ -*-
ผมเข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วออกมาจากห้อง พี่ทองยังนั่งจับปากกาหน้ายุ่งอยู่ที่เดิม ผมเลยเดินไปกอดคอเขาจากข้างหลัง เขาหลับตาลงแล้วคลี่ยิ้มออกมา
“หอมว่ะ ทำไมตอนกูใช้ไม่หอมอย่างนี้เลย”
ผมหอมแก้มพี่ทองไปหนึ่งที เขาลืมตาขึ้นแล้วหันมาหอมผมคืน “ไปนอนได้ละ งานกูยังไม่เสร็จ”
‘แล้วจะเสร็จเมื่อไหร่’
“ไม่รู้ แต่จะรีบเขียนให้เสร็จ”
‘ถ้าตีสองแล้วยังไม่เสร็จพี่ต้องนอนนะ ไม่ได้พักผ่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีแรง’
“ครับๆ จะรีบไปนอนกอดให้หายคิดถึงเลย หึหึ”
ผมหอมแก้มพี่ทองไปอีกครั้ง ก่อนจะกระโดดลงบนเตียงที่ตอนนี้ไม่มีกระดาษอะไรวางอยู่แล้ว พี่ทองคงเคลียร์พื้นที่ให้ระหว่างที่ผมอาบน้ำ กำลังจะนอนเสียงไลน์ก็ดังขึ้น พี่ทองหันมามองเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ถามอะไร ก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ
‘นอนรึยังน่ะเรา นอนดึกตื่นมาตาเป็นหมีแพนด้าไม่รู้ด้วยนะ’
เป็นข้อความจากหลินที่ส่งมาพร้อมกับรูปสติ๊กเกอร์หมีที่กำลังห่มผ้านอนอยู่บนเตียง
‘กำลังจะนอน’ ผมพิมพ์ตอบกลับไป
‘ว่าแล้วเชียว นอนดึกจริงๆ รีบๆ นอนเลยนะ ฝันดีครับ’
อืม...ปกติผู้ชายเขาบอกเพื่อนให้นอนฝันดีรึเปล่านะ เรื่องนี้ผมควรจะถามดีไหมว่าพี่โปรดกับพี่โนเคยส่งข้อความมาบอกให้พี่ทองฝันดีบ้างรึเปล่า แต่ถ้าพูดเรื่องหลินพี่ทองก็จะหงุดหงิดอีกอยู่ดี
กำลังจะพิมพ์ตอบกลับไป มือถือก็โดนแย่งโดยฝีมือของคนที่ผมคิดว่าเขากำลังนั่งทำงานอยู่ เขามองหน้าจอมือถือของผมอยู่สักพัก ก่อนเสียงตอนที่เครื่องกำลังปิดดังขึ้น พี่ทองขึ้นมานอนบนเตียงแล้วคว้าตัวผมไปกอดไว้
“หลับตา แล้วคืนนี้ห้ามฝันดี”
อะไรของเขา ปกติคนเราต้องบอกกันว่าฝันดีไม่ใช่เหรอ หงุดหงิดอีกแล้วสินะเขาเนี่ย -*-
‘แล้วจะให้ฝันอะไร ฝันร้ายหรือไง คนบ้า’
“จะบอกให้ฝันถึงกู เรียกว่าฝันร้ายรึเปล่าล่ะ”
ถ้าฝันถึงพี่...มันจะเรียกว่าฝันร้ายได้ยังไงล่ะ
‘งานเสร็จแล้วเหรอ’
“ไม่เสร็จ แต่ถ้ามึงจะเสร็จคนอื่น กูยอมงานไม่เสร็จ โอเคไหม”
‘พูดอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง’
“ก็เพราะไม่รู้เรื่องอย่างนี้ไง กูถึงอยากจะบ้าตาย หงุดหงิดโว้ย ชงโคแม่งงงง”
พี่ทองนี่ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ นึกจะโวยวายก็โวยวายขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ก็เอาเถอะนะ...อ้อมกอดของเขาอุ่นมากหรอก ผมถึงให้อภัย
“อย่าให้ใครมากอดมึงอย่างนี้นะชงโค ให้มีแค่กูเท่านั้น...เข้าใจไหม”
แทนคำตอบผมก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของพี่ทองให้มากขึ้น เขาก้มลงมาจูบหน้าผากแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวของผมเบาๆ เหมือนกับจะกล่อมให้หลับ
เฮ้อ...ไม่ให้ฝันดี...แต่จะให้ฝันถึงพี่น่ะ...มันเรียกว่าฝันดีสุดๆ เลยนี่นา ผมคงขัดคำสั่งพี่บ้างแล้วล่ะนะ ^^
.................................To be continue......................................
น้องแมวเป็นผู้ชายนะคะ เป็นผู้ชายยยย
ฮาาา ขอแจ้งเวลาอัพค่ะ ช่วงนี้เหนื่อยจริงๆ ค่ะ เหนื่อยมาก ไม่อยากบ่นแต่งานมันเยอะ อาจจะอัพเว้นวันนะคะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็จะมาลงทุกวันค่ะ เพราะฉะนั้น ขอโทษทุกคนที่รอนะคะ *กราบบบ*

ไม่อยากเร่งเนื้อเรื่องค่ะ ยังไม่พร้อม แฮ่ๆ
http://ask.fm/TCHONG_K << ถามได้ค่ะ