“ชงโคโอโอโอโอ บอกแมวได้ไหมจ้ะว่านี่ใครเอ่ยยยยยย”
ผมส่ายหน้าอย่างเอือมๆ กับแมวที่กำลังเอามือปิดตาผมแล้วทายคำถามว่าใครเอ่ย ทั้งๆ ที่ก็บอกชื่อมาก่อนแล้ว
“เล่นอะไรอย่างกับคนบ้า มานั่งนี่มา” โบจังพูดด้วยเสียงเรียบเรื่อยตามสไตล์ ทำให้แมวปล่อยมือจากตาผมแล้วไปงุ้งงิ้งอยู่ข้างๆ โบจัง
“วันนี้อารมณ์ดี แมวควิซได้เต็มล่ะ แมวเก่งไหมจ้ะโบจังจ๋า” ท่าทางฉอเลาะแบบนี้ผมจะทำได้ไหมนะ นึกถึงตอนอยู่กับพี่ทองแล้วก็แทบผื่นจะขึ้น
“เก่งมาก ไหนขอมือ” โบจังยื่นมือไปตรงหน้า ในขณะที่แมวรีบวางมือลงแล้วร้องเมี้ยวออกมาอย่างน่ารัก
“ทำไมไม่ร้องโฮ่ง”
“ก็เป็นแมวนี่จ้ะ แล้วก็เป็นแมวของโบจังคนเดียวด้วยน้า”
“ไปไกลๆ เลยไป จะอ่านหนังสือ”
“ใจร้ายที่สุด แต่ยังไงก็รักนะจ้ะ อิอิ”
โบจังทำท่าจะตี แมวก็เลยกระโดดมานั่งข้างๆ ผม ก่อนจะควักมือถือออกจากกระเป๋ามานั่งเล่นเหมือนปกติ
“นี่ชงโค แมวเห็นล่ะ นี่ใช่ชงโคคนดีของแมวรึเปล่าจ้ะ”
แมวยื่นมือถือที่เปิดรูปในไอจีมาให้ดู เป็นรูปที่ผมกำลังยืนจ้องไข่ของเดซี่ด้วยตาโตๆ มีแคปชั่นได้ใจความว่า ‘คุณแม่หนูลามกมาก จ้องไข่หนูไม่หยุดเลย หนูอายนะ -///-‘
ไอ้พี่ทองงงงงงงงงง!! ผมอยากข่วนหน้าเขาให้หายแค้นใจจริงๆ
“ฮั่นแหนะ กลับมาคบกันแล้วเหรอ ว้า อย่างนี้หลินหลินของแมวก็หมดโอกาสแล้วสิ อิอิ”
ผมผลักหน้าผากแมวไปสองทีจนคนตัวเล็กกว่าหน้าแทบหงาย แต่ก็ยังไม่วายส่งยิ้มล้อเลียนมาให้
‘แล้วระหว่างพี่ทองกับหลิน แมวอยากให้ผมคบกับใครล่ะ’ ผมพิมพ์คำถามส่งไป แมวเลยส่งกลับมาว่า ‘ถ้าชงโครักใคร แมวก็อยากให้คบกับคนนั้น แต่แมวเชียร์พี่ทองคำเอกสุดใจเลยนะ ก็พี่ทองน่าร๊ากกกก หล๊อหล่อ ใจดี๊ใจดี แถมยังแก่กว่าด้วย!’
ผมหัวเราะกับคำตอบของแมวที่บอกผมว่าสเปคของแฟนที่อยากคบด้วยคือผู้ชายที่ดูอบอุ่นและอายุมากกว่า แต่โชคชะตาก็ลิขิตให้ตกหลุมรักโบจังไปซะแล้ว ก็คงต้องเลยตามเลยมาจนถึงทุกวันนี้ ตอนแมวพูดผมล่ะอยากให้แมวมองหน้าโบจังด้วยว่าโบจังน่ะอยากถีบแมวขนาดไหน
“เล่าหน่อยสิๆ คืนดีกันยังไงอ่า แล้วพี่ทองบอกรักชงโคหรือเปล่า พี่ทองบอกยังไงเหรอ โรแมนติกไหม แล้วพี่ทองอ่ะ...แซ่บรึเปล่าจ้ะชงโค”
คำถามสุดท้ายของแมวทำให้โดนโบจังเอาหนังสือเล่มหนาที่เขากำลังอ่านอยู่ตีหัวดังปึกใหญ่ แมวตัวน้อยเลยนั่งกุมหัวน้ำตาคลอเบ้าส่งค้อนไปให้แฟนตัวเองที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วกลับไปอ่านหนังสือต่อ
“โบจังใจร้าย!”
พอเห็นว่าแมวจะร้องไห้ ผมก็เลยยื่นมือไปคลึงต้องที่แมวกุมไว้เบาๆ แมวเลยกลับมาทำหน้างุ้งงิ้งใส่แล้วก็เฝ้ารอคำตอบจากผมที่ก็ไม่รู้จะตอบยังไง
“จะคาดคั้นชงโคทำไม พูดมากจริงๆ เลย ไม่มีเรียนแล้วเรอะ” โบจังถามด้วยหน้าบึ้งๆ
“ก็แมวแค่อยากรู้ว่าพี่ทองแซ่บรึเปล่าก็เท่านั้นเอง ทำไมโบจังต้องโกรธแมวด้วย”
“แล้วทำไมต้องอยากรู้ หรืออยากจะลองด้วยรึไง”
“โบจังทำไมพูดอย่างนี้ แมวเสียใจนะ”
แมวน่ะ...เรื่องอื่นก็รู้ดีไปหมด ยกเว้นความรู้สึกของโบที่ดูเหมือนแมวจะไม่รู้เอาซะเลยว่าตอนนี้โบจังกำลังหึงอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วโบมันก็แสดงออกทุกทีนะ แต่ไอ้แมวน้อยตัวนี้มันไม่รู้เรื่องเอง แถมยังชอบมาบ่นให้ผมฟังว่าโบจังไม่สนใจอย่างนั้นอย่างนี้
“อุ้ย หลินมาแล้วอ่ะ ต้องมาหาชงโคแน่ๆ เลย ชงโคขยับไปนั่งริมสุดเลยนะ แมวจะรักษาผลประโยชน์ให้พี่ทองเอง” งอนโบจังอยู่ดีๆ พอเห็นหลินเดินมาก็ให้ผมขยับไปนั่งชิดขอบโต๊ะ เพราะปกติเวลามีที่ว่างเหลืออยู่ข้างๆ ผม หลินจะนั่งลงตรงนั้นตลอด แต่ตอนนี้คงไม่มีสิทธิ์แล้วล่ะครับ เพราะแมวตัวน้อยกำลังทำตัวเป็นคนตัวใหญ่ นั่งพาดขากินที่อยู่
“ไง” หลินทักแค่นั้น ก็นั่งลงข้างๆ โบจัง ก่อนจะมองแมวแล้วยิ้มขำ “นั่งอย่างนั้นทำไม แมวปวดเอวเหรอ”
“ช่ายยย ปวดมากเลย”
ผมยิ้มขำพลางผลักหัวของแมวที่พิงอยู่กับไหล่ผมไปหนึ่งที แต่เจ้าตัวเล็กก็ยังเกาะหนึบไม่ไปไหน
“ชงโคจ๋า เย็นนี้พี่ทองจะมารับไหมอ่า ถ้ามา เราชวนพี่ทองไปกินไอศกรีมกันดีป่ะ”
‘ไม่มาหรอก เขาไม่ว่าง’
“เสียดายจังเลย”
ท่ามกลางสีหน้าเสียดายของแมว ผมเห็นความสงสัยปรากฎบนใบหน้าของหลิน เขามองผมพลางเลิกคิ้วน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ตั้งคำถามอะไร
“มึงไม่มีเรียนแล้วเหรอวะ” โบจังหันไปถามหลิน
“ไม่มีแล้ว แต่รุ่นพี่เรียกรวม เพราะต้องไปรับน้องอาทิตย์หน้า กูเลยโดดมา”
“เดี๋ยวก็โดนเรียกซ่อมหรอกมึง”
“แล้วคณะมึงอ่ะ รับวันไหน”
“อาทิตย์หน้าเหมือนกัน”
ใช่ครับ คณะผมรับน้องอาทิตย์หน้า คือครบ 1 เดือนที่ต้องเข้าห้องเชียร์พอดี ที่เหลือก็เป็นการไปรับน้องนอกสถานที่ และตามเคยกับสถานที่ยอดฮิตอย่างทะเลที่รุ่นพี่จะพาน้องๆ ไปบุกน้ำลุยป่ากันที่นั่นด้วยใบปะหน้าชื่อโครงการ พาน้องทำดีของพี่ถาปัตย์ ซึ่งในใจน้องๆ ก็รู้กันดีล่ะครับว่ามันคงไม่ใช่โครงการเก็บขยะตามชายหาดหรือไปปลูกป่าชายเลนแน่ๆ
“ชงโคไปด้วยป่ะเนี่ย”
‘ไปดิ ไม่ไปเดี๋ยวเจ้ยิ้มเข้าสิง’ ผมพิมพ์ข้อความแล้วยื่นให้หลินอ่าน เขาหัวเราะออกมาทันที
“เจ้ยิ้มนี่แน่จริงๆ แล้วคณะของแมวล่ะ รับวันไหน”
“ตอนปิดเทอมหนึ่งจ้า ช่วงนี้รุ่นพี่บอกว่าไม่ค่อยว่าง ก็เลยจะไปกันช่วงปิดเทอม”
รับน้องของพยาบาลคงเป็นอะไรที่น่ารักมาก เพราะเวลาผมกับโบจังไปหาแมวที่ไร ไม่เคยเลยที่จะเห็นรุ่นพี่พยาบาลว๊ากใส่น้องๆ การพบปะกันแต่ละทีก็มีแค่การร้องรำทำเพลง พูดคุยกันอย่างน่ารัก ผิดกับคณะผมที่มีรุ่นพี่แต่งตัวเซอร์ๆ ค่อนไปทางซกมก หน้าตารกรุงรังเพราะผมที่ยาวเฟ้ยกับหนวดที่ไม่เคยโกน มาทำหน้าโหดๆ ดุๆ ใส่ แล้วก็พูดแต่เรื่องเดิม เห็นบ่นมาตั้งแต่วันแรกที่นัดเจอเรื่องที่น้องไม่ไหว้พี่ กับการแต่งตัวผิดระเบียบของน้องบางคนที่เสล่อใส่ยีนกับเสื้อนิสิตมาเรียนตั้งแต่ยังไม่เลิกห้องเชียร์ ไอ้เรื่องการแต่งกายนี่ผมก็เห็นด้วยนะ เพราะนิสิตปีหนึ่งก็ควรแต่งตัวให้ถูกระเบียบไว้ก่อน แต่เรื่องการไหว้นี่ผมบอกตรงๆ ว่ารุ่นพี่บางคนยกมือไหว้ทีไรก็หันหน้าหนีไปซะฉิบ อย่างกะว่าถ้าเห็นแล้วจะไม่มีเรื่องมาด่าในห้องเชียร์อย่างนั้นล่ะ เจ้ยิ้มบอกว่าปีหนึ่งก็งี้แหละ ทำอะไรก็ผิด ทำอะไรก็ไม่ถูกใจรุ่นพี่ แต่พูดกันตามจริงอย่างนี้มันก็น่าตื้บนะครับ -*-
“เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำก่อนนะ ใครเอาอะไรไหม” โบจังลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจแล้วหันมาถามพวกผม ผมส่ายหน้าเป็นคนแรก ในขณะที่แมวรีบลุกไปเกาะโบจังทันที
“แมวไปด้วยน้า ไปช่วยถือน้ำให้จ่ะ”
โบจังทำหน้าเอือมๆ แต่ก็ยอมให้แมวเดินไปด้วย ทั้งโต๊ะเลยเหลือผมกับหลินอยู่สองคน
“ชงโค” หลินเรียกพลางส่งยิ้มมาให้ “วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง ตั้งใจเรียนรึเปล่าน่ะ”
ผมพยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะพิมพ์ข้อความใส่มือถือ ‘วันนี้ไม่ง่วง แล้วหลินล่ะ’
“ผมหลับไปครึ่งชั่วโมงแหน่ะ เมื่อคืนดูบอลดึกไปหน่อย”
‘คู่ไหนเตะ’
“ผีกับปืน ไม่ใช่ทีมที่เชียร์หรอก แต่ก็ดูได้”
หลินเป็นผู้ชายที่บ้าฟุตบอลใช้ได้เลยครับ ฟุตบอลผมก็ดูบ้างนะ แต่ไม่บ่อยเท่าหลิน
‘แล้วใครชนะ’
“ปืนดิ ต้นฤดูกาลอย่างนี้ปืนมาแรง ว่าแต่ชงโคเหอะ ผมไลน์ไปก็ไม่เห็นตอบ สี่ทุ่มหลับแล้วเหรอ”
ผมนึกย้อนไปนิดหน่อย เอ...ตอนสี่ทุ่ม
‘อ๋อ ผมอยู่กับแฟนน่ะ เรานอนดูละครกันอยู่ มือถือผมอยู่ในห้อง ก็เลยไม่รู้ว่าหลินไลน์มา ขอโทษนะ’
เมื่อคืนกว่าจะไล่พี่ทองกลับได้ก็แทบแย่ ความจริงผมก็ไม่อยากให้เขากลับหรอก แต่เพราะหอพักของเขามันอยู่ไกล ถ้ากลับดึกกว่านี้ก็จะมีเวลานอนแค่นิดเดียว อีกอย่างขับรถดึกๆ ผมเป็นห่วง เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ไม่คุ้มกัน
“อยู่กับแฟนเหรอ” หลินถามเสียงแผ่ว ในขณะที่ผมพยักหน้ายืนยันคำตอบกลับไป
“รุ่นพี่คนนั้นใช่ไหม... ชงโคคืนดีกับเขาแล้วเหรอ”
สายตาที่เจ็บปวดของหลินทำให้ผมชะงักไปเพียงเล็กน้อย ก่อนจะพิมพ์คำตอบใส่มือถือแล้วยื่นให้เขาอ่าน
‘อืม’
“ทำไมถึงคืนดีกับเขาล่ะ เขาเคยทำให้ชงโคเจ็บนะ”
คำตอบมันง่ายนิดเดียว...ที่จริง ผมว่าหลินก็คงรู้ดีว่าทำไม...
‘เพราะผมรักเขา ผมถึงอยากให้โอกาสเขาอีกครั้ง และก็ให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่กับเขาด้วย’
แม้ว่าหลินจะพยายามยิ้มแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นรอยยิ้มที่เศร้ามากอยู่ดี
“เป็นผมไม่ได้สินะ”
‘ไม่ได้หรอก เพราะหลินเป็นเพื่อนของผม’
ตัดใจจากผมได้แล้วนะ...เพราะผมไม่อยากเห็นเพื่อนต้องเจ็บปวด
......................................To be continue................................................
ชงโคเป็นเด็กฮาร์ดคอร์ น้องจะเถื่อนกว่านี้อีกนะ (รึเปล่า) แฮ่ๆๆ พบกันอีกทีวันพุธนะคะ วันทำงานขอเว้นวันลงค่ะ แต่ถ้าวันหยุด เราจะมาทุกวัน อิอิ
ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นเลยค่ะ อย่ากังวลเลยว่ามันจะเน่า ของอย่างนี้ ตอนทำถ้าทำดีก็ดีนะ ไม่เชื่อมือพี่หมอโปรดเหรอ แล้วถ้าดูแลดีๆ ก็ใช้ได้อ่ะ ตอนเอาออกน่าจะเจ็บหน่อย (นี่พูดถึงเรื่องไรวะ??)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
http://ask.fm/TCHONG_K << ถามได้ค่ะ