ต้นน้ำ ผมมีนัดกับแม็กซ์บ่ายนี้ แต่ดูท่าบางทีผมอาจจะต้องโทรไปเลื่อนนัด ใครจะไปรู้ละครับว่าอาจารย์ต้นตระการแห่งภาคเคมีจะเรียกผมไปพบด้วยเรื่องเดิมๆ แล้วครั้งนี้ผมก็เลี่ยงไม่ได้ด้วย
“ผมบอกให้คุณลงวิชาเลือกนี้คุณก็ไม่ลง บอกให้คุณย้ายชมรมคุณก็ไม่ย้าย คุณควรจะเอาเวลาของคุณไปใช้ให้มีค่ามากกว่าอยู่ชมรมดนตรีอะไรนั่นนะ!”
“ผมไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำตามที่อาจารย์บอกนี่ครับ”
“คุณเป็นเด็กทุนนะต้นน้ำ คุณควรจะตั้งใจกับวิชาการมากกว่ากิจกรรม คุณควรจะเชื่อฟังคำสั่งของผม”
“คำสั่งที่ไร้เหตุผลผมไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม และอาจารย์ก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งผมครับ”
ผมเถียงด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่เน้นคำว่า“อาจารย์”เป็นพิเศษ ผู้ชายคนนี้ก็เลยหน้าแดงด้วยความโกรธเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะถึงยังไงเราก็ยังเถียงกันอยู่ในห้องภาค แม้จะไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยแต่หน้าต่างมีหูประตูมีช่องเสมอครับ
“คุณคิดว่าคุณเรียนอยู่ที่นี่ได้เพราะใคร ถึงคุณจะได้ทุนแต่คุณคิดบ้างมั้ยว่าเป็นเพราะใครช่วยคุณเอาไว้”
“ถ้าจำไม่ผิดเป็นเพราะคะแนนของผมดีมากและคุณสมบัติของผมผ่านเกณฑ์ครับ ไม่ใช่เพราะคนอื่น ผมไม่เคยขอร้องให้ใครมาช่วยอะไรผม”
อาจารย์ต้นตระการมีสีหน้าโกรธจัดจนเกือบระเบิดออกมา ผมยิ้มอย่างสะใจ ผมมองจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของอาจารย์อย่างท้าทาย ถึงผมจะเซ็งที่เขาชอบเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมแต่ผมกลับชอบเวลาที่ได้ยั่วโมโหเขาแบบนี้ที่สุดเลยครับ มันสะใจผมสุดๆ ไปเลย ยิ่งเขาแสดงความกราดเกรี้ยวใส่ผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งชนะ!
และเพราะแบบนั้น พักหลังมานี้มันถึงได้น่าเบื่อพอสมควรเพราะเขาพยายามที่จะใช้ไม้อ่อนกับผมมากกว่าเดิม และนั่นทำให้ผมไม่สามารถแก้แค้นเขาได้อย่างชอบธรรม หมดสนุกไปเยอะเลยครับ
ก็ความรู้สึกของคนเรามันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ นี่ครับ จะให้ผมดีกับเขาภายในระยะเวลาปีสองปีนี่มันไม่น้ำเน่าไปหน่อยเหรอ? เวลาที่ผมถูกทอดทิ้งมันคือทั้งชีวิตของผมที่ผ่านมาเชียวนะครับ ผมไม่ให้อภัยผู้ชายคนนี้ง่ายๆ หรอก!
มีนักศึกษาผ่านมาพอดี อาจารย์ก็เลยจำเป็นต้องเก็บอารมณ์ที่แทบจะระเบิดใส่ผมอยู่รอมร่อกลับไป ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนท่าทีได้สมกับภาพลักษณ์อาจารย์แสนดีจริงๆ เลย ให้ตายสิ!
“เอาเถอะ อย่าให้คะแนนคุณตกก็แล้วกัน ถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบมาปรึกษาผมทันที คุณควรจะบอกผมทุกเรื่องเข้าใจมั้ยต้นน้ำ”
อาจารย์ต้นตระการถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างจนใจ พอเห็นแบบนี้ผมก็เลยเซ็งนิดหน่อยเพราะรู้ดีว่าเวลาแห่งความสะใจของผมหมดลงแล้ว
“ครับอาจารย์”
ผมยกมือไหว้ขอบคุณพลางบอกลา แต่อาจารย์กลับเรียกผมไว้
“เดี๋ยว ...”
“ครับ?”
“คุณขาดเหลืออะไรรึเปล่า? ถ้าคุณมีปัญหาอะไรมาบอกผมได้ทุกเมื่อ”
จะมารับผิดชอบอะไรกันตอนนี้เหรอครับ? ได้ยินแล้วผมก็คลื่นไส้ชะมัด ผมยิ้มหวานให้ผู้ชายคนนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะเค้นออกมาได้แล้วพูดขึ้นเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคนว่า
“ไม่จำเป็นหรอกครับอาจารย์ พี่ชัชดูแลผมดีมากครับ ผมโชคดีที่มีผู้ชายดีๆ อย่างพี่ชัชมาส่งเสียเลี้ยงดูผมทุกอย่างครับ ไม่ลำบากให้อาจารย์ต้องมาดูแลผมหรอก เก็บเงินของอาจารย์ไว้ให้ลูกเมียตามทะเบียนดีกว่านะครับ”
ผมพูดแบบนั้นแล้วก็เดินหนีมาท่ามกลางเสียงตวาดลอดไรฟันของอาจารย์ที่เรียกชื่อผม สะใจจริงๆ เลยครับ ถ้าจะให้ผมสำนึกละก็บอกให้ผู้ชายคนนั้นสำนึกก่อนสิครับ ถ้าเขาสำนึกผิดกับผมจริงๆ เมื่อไหร่แล้วผมถึงจะยอมลดทิฐิให้!
ผมเดินหนีมาอย่างสะใจ อ้อใช่แล้ว! ผมมีนัดกับแม็กซ์นี่นา ไม่ได้เจอแม็กซ์ตั้งนาน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาแม็กซ์ ผมตั้งใจจะถามเขาว่าตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้วเพราะผมคงไปเจอเขาช้ากว่าเวลานัด
เสียงของแม็กซ์ดูขลาดอายพิกลตอนที่รับโทรศัพท์ผม พอคุยกันแล้วผมถึงได้รู้ว่าแม็กซ์ตั้งใจแอบมาเซอร์ไพรส์ผม แม็กซ์นั่งรอผมอยู่ที่ใต้ตึกเรียนรวมคณะวิทย์แล้วครับ แม็กซ์มารับผม!
แม็กซ์... แบบนี้ทุกที
ผมเดินย้อนกลับไปที่ตึกนั้นทันที ให้ตายเถอะ! ขออย่าให้มีคนรู้จักผมอยู่แถวนั้นเลย!
แต่ทันทีที่ผมเดินไปถึงผมก็สังเกตเห็นแม็กซ์ได้ไม่ยาก ใต้อาคารเรียนที่มีโต๊ะนั่งวางเรียงรายอยู่นั้นเต็มไปด้วยนิสิต แต่ผู้ชายในชุดไปรเวทที่กำลังนั่งก้มหน้าฟังเพลงจากโทรศัพท์อยู่นั้นดูขัดเขินไม่เข้ากับบรรยากาศ ผมไม่ได้เจอแม็กซ์นานเท่าไหร่แล้วนะ มากกว่าหนึ่งปีใช่มั้ย? แม็กซ์ดูคล้ำขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ดู... เปลี่ยนไปละมั้ง?
อารมณ์บางอย่างมันบีบรัดหัวใจผมจนลืมเรื่องงี่เง่าเมื่อตะกี้ไปหมด ขาของผมที่จ้ำมาอย่างเร่งรีบก็เหมือนหมดแรงเอาดื้อๆ ก้าวต่อไปไม่ออก ได้แต่ยืนหยุดอยู่กับที่
แม็กซ์เงยหน้าขึ้นมาพอดี เขาเห็นผมแล้ว เขาไม่ได้ลุกขึ้นยืนหรือเดินมาทางผม ผมเห็นแม็กซ์ทำแค่เพียงดึงสายหูฟังออกแล้วก็นั่งอยู่ที่เดิมจากนั้นก็ยิ้มออกมา แม็กซ์ยกมือลูบท้ายทอยตัวเองไปมา ดูเขินๆ ที่ได้พบกับผม ผมเองก็เช่นกัน ผมเองก็ทำตัวไม่ถูกที่ได้พบกับเขา
ผมรวบรวมสมาธิ สูดลมหายใจเข้าช้าๆ แล้วก็ออกเดินอย่างมั่นคงตรงไปหาแม็กซ์ ผมตรงไปนั่งที่โต๊ะตัวเดียวกับแม็กซ์แล้วเอ่ยปากทัก
“มาได้ไง”
“พอดีวันนี้เราว่าง เลยกะมารอเซอร์ไพรส์ต้น”
สีหน้าของแม็กซ์ดูเกร็งๆ ทั้งกังวลทั้งขัดเขินอยู่ในที แม็กซ์ยังจำได้ว่าผมเกลียดเรื่องเซอร์ไพรส์จากคนที่ผมไม่ต้องการ
“แม็กซ์ เรามีอะไรจะบอก”
ผมทำเสียงนิ่งๆ ตามปกติ แต่เห็นแม็กซ์ทำหน้าตื่นหน่อยๆ
“ไรเหรอ?”
“เราไม่ได้เรียนที่ตึกนี้”
“อ้าว?”
สีหน้าของแม็กซ์ดูดีขึ้น ความกังวลทั้งหมดหายไปเหลือแต่อาการประหม่าที่ยังคงอยู่
“นายมารอเซอร์ไพรส์เราผิดตึกนะ ตึกภาคฟิสิกส์อยู่ตรงโน้น”
“อ้าว! ก็เห็นอาร์มมันบอกว่านี่เป็นตึกคณะวิทย์”
“แล้วไปเชื่ออะไรอาร์ม เชื่อได้ด้วยเหรอ”
“ฮ่าๆ”
แล้วเราสองคนก็หัวเราะด้วยกันกับความงี่เง่าของอาร์ม ผมเผลอหัวเราะจนสุดเสียง แม็กซ์เป็นอีกคนที่เคยทำให้ผมหัวเราะแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้ ผมรู้สึกว่าหน้าของตัวเองมันร้อนมากๆ เมื่อยแก้มไปหมดแล้วครับ เสียงหัวเราะของแม็กซ์เงียบไปแล้ว แม็กซ์นั่งจ้องหน้าผมและผมก็กำลังมองสบตากับแม็กซ์อยู่ เราสองคนสบตากันอยู่อย่างนั้น แล้วก็เป็นผมที่มักจะแพ้ก่อนทุกที
“มองอะไร”
“มองเพื่อน คิดถึง ไม่ได้เจอตั้งนาน ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ต้นใส่แว่นด้วย”
“ก็เราสายตาสั้นขึ้นพอสมควรน่ะ ช่วยไม่ได้”
“บอกแล้วอย่าเป็นหนอนหนังสือมาก ดูดิ กินแต่หนังสือจนสายตาสั้นเลย”
“ถ้าเราไม่อ่านหนังสือเยอะๆ แล้วใครจะคอยติวให้นาย”
“มีทวงบุญคุณนะต้น”
“แน่นอนอ่ะ”
ผมยิ้มให้แม็กซ์อย่างสดใสเพราะอารมณ์ที่ปลอดโปร่งของผม ผมรู้ตัวว่าผมกำลังอารมณ์ดี ผมถึงได้หัวเราะออกมาได้อย่างมีความสุข การพบกันครั้งนี้มันไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ผมสบายใจมากขึ้น สายตาของแม็กซ์ที่มองมามันไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดอีกต่อไป ผมมองไม่เห็นแววตาเจ็บปวดในดวงตาของแม็กซ์แล้ว และนั่นเองเป็นสิ่งที่ทำให้ผมสามารถมองหน้า สบตา รวมทั้งพูดคุยกับแม็กซ์ได้อย่างสะดวกใจ
“ต้นดูดีขึ้นนะ แต่ยังเนี้ยบเหมือนเดิมอ่ะ”
“อยากให้เราชมลุคใหม่นายก็บอกมาเถอะ หล่อตายอ่ะ”
สมัยเรียนมัธยมแม็กซ์ชอบทำตัวเกเรแหกคอกอยู่บ่อยๆ ครับ ผมรองทรงก็ไปไถสกินเฮดมาซะงั้น เจาะหูด้วย ทำตัวแบบที่พวกคุณคุ้นเคยกับคำว่า“เกรียน”นั่นแหละครับ แต่แม็กซ์ในวันนี้ที่ผมเห็นดูดีขึ้นผิดหูผิดตา แม็กซ์ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบเซอร์แต่สุภาพไม่ใช่แนวแบดบอยเฮ้วๆ แบบที่ผมเคยเห็น แต่ผมทรงตามแฟชั่นที่ซอยไล่ระดับนั่นก็ดูดีเข้ากับบุคลลิคของแม็กซ์มากๆ ดูไฮโซขึ้นเยอะเลยครับ พอเลิกเกรียนแล้วก็ดูดีขึ้นทันตาเห็นเลย
ไม่สิ ผมควรจะบอกว่าสิ่งที่ทำให้แม็กซ์ดูดีขึ้นคือบุคลิคที่เปลี่ยนไปต่างหาก ยังไงดีละครับ แม็กซ์ดู... นิ่งขึ้นมั้ง? ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก
“อ้าวต้นปากเสียอ่ะ หล่อไม่หล่อก็สาวหลงเยอะนะ”
“แล้วแฟนไม่ว่าเอาเหรอ ยังเจ้าชู้เหมือนเดิมอยู่รึเปล่า?”
ผมเห็นแม็กซ์ส่ายหน้าเล็กน้อยพลางยิ้มๆ
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวนี้เราคบใครเราคบทีละคน ไม่ได้มั่วแล้ว”
“ดีแล้ว แฟนจะได้ไม่เสียใจ”
“อื้อ”
ผมรู้สึกดีนะครับที่เราสองคนคุยเรื่องนี้ได้สะดวกปากมากขึ้น แล้วแม็กซ์เองก็พูดถึงแฟนให้ผมฟังด้วย มันทำให้ผมสบายใจแล้วก็ไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป
“แล้วมาไงอ่ะ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ?”
“มี แต่โดด อยากกินข้าวกับเพื่อนมากกว่า”
“บ้า! เลิกขี้เกียจได้แล้วเดี๋ยวก็ไม่จบหรอก นายช้าไปปีนึงแล้วนะ”
“ช่าย เป็นรุ่นน้องนายแล้ว ฮ่าๆ”
“ยังจะเล่นอีก!”
“ก็สำหรับแม็กซ์ต้นสำคัญกว่าจริงๆ นี่นา”
แม็กซ์หลุดปากแทนตัวเองแบบนั้นอีกแล้วพอรู้ตัวก็เลยรีบกลบเกลื่อนทันที แต่ผมไม่ถือหรอกครับ เพราะแม็กซ์ในวันนี้ไม่ใช่แม็กซ์คนที่เคยทำให้ผมรำคาญใจคนนั้นอีกต่อไป
“คือ... เราหมายถึงต้นอุตส่ายอมตกลงไปกินข้าวด้วยกันทั้งที เราก็เลยโดดมาเลยไง กลัวมาสายแล้วต้นบ่นอีก วิชาเช้าวันนี้จารย์ไม่เข้าอยู่แล้ว แค่ให้จับกลุ่มทำงาน”
“ประจำอ่ะแม็กซ์ โยนงานให้คนอื่นตลอด”
“เอาน่ะๆ คนมันหล่อก็งี้อ่ะ มีคนทำแทนให้ตลอดแหละ”
“หลงตัวเอง! แล้วนี่มารอนานยัง? โทษทีนะทั้งๆ ที่นัดกันแล้วแต่พอดีเรามีธุระด่วน อาจารย์เรียกไปพบ”
“ก็สองชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรหรอก นานกว่านี้ก็รอได้ ไงเราก็ว่าง”
“แล้วไม่โทรหาอาร์มอ่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งคนเดียว”
“โทรแล้ว แต่มันบอกว่ามันยุ่งอยู่ ติดธุระในชมรม ไม่ยอมมาหาเรา”
“กลัวนายเตะเอามั้ง หลอกนายมานั่งผิดตึกนี่ ไปหามั้ยล่ะ อาร์มอกหักอีกแล้วนะ”
“จริงดิ?”
“อื้ม โดนสาวทิ้งอีกแล้ว เราไม่แปลกใจหรอก งี่เง่าขนาดนั้น ใครเขาจะทน”
ความจริงแล้วอาร์มโดนผู้หญิงสวมเขาต่างหาก ผมคิดว่าดีแล้วล่ะที่เลิกกันได้ ผู้ชายดีๆ อย่างอาร์มสมควรได้เจอคนที่ดีกว่านั้น
ผมลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินนำแม็กซ์ไปหาอาร์มจริงๆ แม็กซ์หรี่ตามองเหมือนจะถามว่าผมจะเอาจริงเหรอ ผมก็เลยยื่นมือไปให้แม็กซ์
“มาเถอะ เพื่อนเก่ามาถึงถิ่นทั้งที ต้องต้อนรับกันหน่อยดิ”
แม็กซ์ยิ้มให้ผมแล้วก็ดึงมือที่ผมส่งไปให้ลุกขึ้นยืน นี่แม็กซ์สูงขึ้นอีกรึเปล่าเนี่ย? ผมเงยหน้ามองแบบหมั่นไส้เล็กน้อย น่าจะเกินร้อยแปดสิบแล้วมั้งครับ หมั่นไส้จริงๆ เมื่อก่อนยังแค่ร้อยเจ็ดสิบเก้าอยู่เลย
“ต้น... ปีที่ผ่านมาไม่สูงขึ้นเลยเหรอ”
แม็กซ์ถามผมแบบล้อๆ
“ใครจะเปรตเสมอต้นเสมอปลายแบบนายละแม็กซ์”
ผมยิ้มหวานแล้วตอกกลับไปพองาม ก็ผมไม่ชอบโดนล้อเรื่องส่วนสูงนะครับ ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเตี้ยหรอกนะ แต่พออยู่กับพี่ชัชหรือแม็กซ์ที่“โย่ง”แบบนี้แล้ว... ให้ตายสิ! อิจฉาแม็กซ์ชะมัด
“โหย! แรงอ่ะ! ปากร้ายขึ้นนะต้น”
“เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่รู้เหรอ”
“รู้ แต่ไม่คิดว่าจะโดน”
“รู้จักเราน้อยไป”
ผมกับแม็กซ์เดินกัดกันไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาอาร์มที่ห้องชมรม
สาเหตุที่เรียกว่าคุยกันไม่ได้เพราะส่วนใหญ่แล้วเรามักจะแซวกันไปแซวกันมาครับ แม็กซ์เองขึ้นชื่อเรื่องกวนตีนเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว ส่วนผมก็... ปากร้าย ไงดีล่ะ ... เมื่อก่อนถึงจะเคยปะทะคารมกันบ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดกันแรงขนาดนี้ แต่พอตอนนี้ได้พูดคุยกันอย่างสบายใจแล้วผมก็เลยไม่คิดจะปิดบังอะไรแม็กซ์อีก
“ต้นอยู่ชมรมเดียวกับอาร์มเหรอ?”
“อืม”
“คิดไง เข้าชมรมดนตรี?”
“ถามเพื่อนนายสิ”
แม็กซ์ถามผมขึ้นตอนที่เราเดินมาถึง แต่ผมก็ตอบกลับไปแบบโบ้ยความผิดไปให้บุคคลที่สาม นั่นไง ผมได้ยินเสียงแหกปากร้องเพลงของอาร์มดังอยู่ นี่แหละครับธุระยุ่งๆ ของอาร์ม และอาร์มก็ดูจะตกใจมากที่เห็นผมเดินเข้ามากับแม็กซ์
“ยุ่งมากเลยนะมึง ปิดเครื่องหนีกูเนี่ย สัสอาร์ม”
“ก็กูหวังดีอยากให้มึงกับต้นได้คุยกันอ๊า”
แม็กซ์เดินไปตบหัวอาร์มจริงๆ ด้วยครับ โชคดีที่ไม่ค่อยมีรุ่นพี่คนอื่นอยู่นอกจากพวกเอกอื่นที่ผมกับอาร์มไม่ค่อยสนิท ไม่งั้นคงเป็นเรื่อง ก็แม็กซ์ดันเล่นมาตบหัวเด็กวิศวะในถิ่นขนาดนี้
“เรื่องของเรากับแม็กซ์ไม่ต้องให้นายมาหวังดีก็ได้มั้งอาร์ม”
“โหยทำเป็นพูดไปนะต้น ถ้าตอนนั้นเราไม่เบรคแม็กซ์ไว้ แม็กซ์มันลากนายไปแล้ว”
“ทวงบุญคุณเหรอ อ่านหนังสือเองแล้วกันนะอาร์ม”
“เดี๋ยวนี้โดนไอ้ต้นกดขี่ถึงขนาดนี้เลยเหรอวะมึง เสียศักดิ์ศรีอ่ะ”
พวกเราสามคนต่อปากต่อคำกันอย่างสนุกสนาน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นผมกับแม็กซ์ช่วยกันแกล้งแหย่อาร์มนะครับ แม็กซ์เองก็กวนผมก็ปากร้าย พวกเราเลยสองรุมหนึ่งกันอย่างสนุกสนาน ผมรู้สึกสนุกมากๆ ที่ได้นั่งคุยกับเพื่อนเก่าแบบนี้ และอาร์มก็ช่วยให้บรรยากาศมันสนุกขึ้นด้วยแหละครับ
พวกเรานั่งคุยกันอยู่นานก่อนที่ผมกับแม็กซ์จะขอตัวแยกไปทานข้าวต่อด้วยกัน อาร์มไม่ยอมไปกับพวกเราจริงๆ และสาเหตุก็คงเพราะเพื่อนพี่บอมที่รั้งตัวอาร์มไว้ ผมล่ะอยากคะยั้นคะยอให้อาร์มไปด้วยกันชะมัดเลย ไม่รู้ว่าถ้าปล่อยให้อาร์มอยู่ต่อเรื่องจะกลายไปเป็นแบบไหน ผมกับแม็กซ์เลยตัดสินใจจะไปกันแล้วถ้าเพียงแต่...
“น้องต้นจะไปไหนเหรอคร้าบ”
พี่บอมที่วิ่งตรงมาทางพวกเราอย่างรีบร้อน ผมยกมือสวัสดีพี่บอมไปงั้นๆ แหละครับ แต่ในใจของผมนี่คิดว่าตัวปัญหาชัดๆ
“แหมใครครับเนี่ย เพื่อนน้องต้นเหรอครับ ไม่คุ้นหน้าเลย”
พี่บอมหวงก้างแม็กซ์น่าดู แล้วก็น่ารำคาญมากด้วยในสายตาผม แม็กซ์ก้มมาสบตาผมนิดนึงก่อนที่ผมจะพยักหน้าให้ เราเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร
“นี่แม็กซ์ เพื่อนสนิทผมกับอาร์มเองครับ พอดีเขาผ่านมาแถวนี้เราเลยว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน”
“อ๋อ เพื่อนเก่าน้องต้นนี่เอง ฮ่าๆ”
พี่บอมจงใจเน้นเสียงมาก มากจนผมเองยังอดหมั่นไส้ พี่บอมไม่มีสิทธิ์อะไรเลยด้วยซ้ำ! ผมควรจะควงพี่ชัชมาโชว์แล้วเปิดตัวไปเลยดีมั้ยนะ?
และแล้วผมรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่มันติดลบอย่างรวดเร็ว อาร์มหน้าซีดไปแล้วครับ คงเพราะฝั่งนึงก็รุ่นพี่ที่เคารพอีกฝั่งก็เพื่อนรัก แต่คนตรงกลางจริงๆ อย่างผมนี่สิหงุดหงิดจนจะระเบิดอยู่แล้ว ผมต้องดึงมือแม็กซ์ไว้ ผมส่ายหน้าให้แม็กซ์เบาๆ แม็กซ์ฮึดฮัดเล็กน้อยก่อนจะยอมถอย ส่วนพี่บอมก็มองมาที่มือของผมที่กุมมือแม็กซ์อยู่อย่างไม่กระพริบตา ผมก็เลยต้องปล่อยมือเพราะรำคาญหมาหวงก้าง แต่ตัวผมไม่ใช่หมาที่แย่งก้างกับใครหรอกนะครับ ผมเป็นก้างที่กำลังถูกหมาหวงอยู่ทั้งๆ ที่กินไม่ได้ต่างหาก
“ครับเพื่อนเก่าผมเองตอนสมัยมัธยม แล้วก็เป็นคนสอนให้ผมเล่นกีตาร์ด้วยครับ ไม่งั้นผมคงไม่มีโอกาสได้เข้าชมรมนี้แน่ๆ”
ผมฉีกยิ้มให้พี่บอมตามปกติ ซึ่งปกติในที่นี้ของผมก็คือ“พยายามยิ้มเพื่อให้เรื่องมันจบๆ”น่ะแหละครับ
“อ๋อ เล่นกีตาร์เหมือนกันเหรอไอ้น้อง”
พี่บอมทำท่าท้าทายแม็กซ์ทันที เฮ้อ... ไม่ได้ดูตัวเองเลยครับพี่ แม็กซ์น่ะเล่นกีตาร์เก่งมากเลยนะครับ ถึงพี่บอมจะเล่นกีตาร์เป็นก็เถอะ แต่ก็อยู่ในระดับที่เล่นเป็นเพลงได้เท่านั้น เกาได้แค่คอร์ดโซโล่ไม่เก่ง แต่แม็กซ์นะโซโล่เก่งมากๆ นะครับคอร์ดก็เน้น แถมยังเป็นพวกเล่นพลิกแพลงแกะโน้ตแล้วก็แต่งทำนองเพลงได้เลยด้วยซ้ำ! เพราะแม็กซ์เคยเรียนกีตาร์คลาสสิคมาก่อน แถมยังเป็นคนสอนให้ผมเล่นกีตาร์เป็นอีกต่างหาก พี่บอมจะสู้ไหวได้ยังไงละครับ?
ไม่งั้นคุณคิดว่านอกจากหน้าตาหล่อรูปร่างดีบ้านรวยแต่นิสัยแย่ไม่เอาอ่าวชอบเอาแต่ใจเจ้าชู้ฟันแล้วทิ้ง สรรพคุณของแม็กซ์แบบนี้จะมีอะไรให้สาวมาหลงละครับ มันก็ต้องมีมุมเท่ๆ ไว้หลอกสาวกันบ้าง และเวลาที่แม็กซ์จับกีตาร์ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนไม่มองแม็กซ์
หลังจากนั้นก็มีการดวลกันหน่อยๆ เสียงดนตรีในห้องชมรมผมจึงดังผิดปกติ แล้วก็คงไม่ต้องบอกว่าใครจะแพ้ แน่นอนว่าแม็กซ์เป็นฝ่ายชนะ พี่บอมนี่ขี้แพ้ชวนตีชัดๆ เลยครับ แถมคนที่แวะมาดูก็เริ่มมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วย โดยเฉพาะผู้หญิง แม็กซ์นี่... มีเสน่ห์จริงๆ แถมยังเล่นไปส่งยิ้มไปแบบไม่มีเขินเลยด้วย สมาธิไม่เสียแถมยังเพิ่มลูกบ้า แม็กซ์เกิดมาเพื่อเป็นจุดสนใจจริงๆ ครับ
ผมนั่งดูพวกเขาเล่นดนตรีอยู่เงียบๆ มีแอบยิ้มแอบหัวเราะบ้างเวลาได้ยินเสียงเพี้ยนๆ อาร์มก็เอากับเขาด้วยครับ อาร์มกับแม็กซ์ยังรู้จังหวะรับส่งกันดีเหมือนเดิมเลย เสียดายนะครับ ที่เบสไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่อย่านึกถึงนายนั่นเลยจะดีกว่า!
สุดท้ายแม็กซ์ทนไม่ไหว คงเพราะไม่ได้เล่นดนตรีกับเพื่อนนานแล้วแม็กซ์เลยชวนผมให้ลุกไปเล่นด้วย
อันที่จริงตอนที่ผมเข้าชมรมผมก็บอกพวกเขานะครับว่าพอเล่นกีตาร์ได้บ้าง แต่คงเพราะบุคลิคท่าทางของผมมั้งครับที่ดูเนิร์ด แถมยังไม่ค่อยพูด ผมเลยไม่ค่อยจำเป็นต้องเล่นโชว์ฝีมืออะไร มีเกาๆ คอร์ดบ้างนิดหน่อยตอนนั่งเล่นกันในห้องชมรมเล่นๆ แต่พอแม็กซ์เอ่ยปากชวนแบบนี้ ผมก็...
ตอนแรกผมพยายามปฏิเสธครับ แต่แม็กซ์ตื้อ แล้วผมก็แพ้มุขของแม็กซ์เวลาตื้อประจำเลยด้วย ก็เลยตกลงว่าจะเล่นหนึ่งเพลง พวกเราเลือกเพลงประจำที่เคยเล่นกันในงานโรงเรียนครั้งนั้น ซึ่งมันก็เป็นเพลงที่เร็วพอสมควร พี่บอมดูจะแปลกใจมากจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเหวอที่เห็นผมเล่นกีตาร์ได้แม่นขนาดนั้น
แหม... ที่ห้องผมก็มีกีตาร์นะครับ พอพี่ชัชรู้ว่าผมเล่นกีตาร์ได้ก็เลยไปซื้อกีตาร์มาใหม่ตัวนึง บอกว่าจะเอาไว้เล่นตอนว่างๆ เพราะตัวเก่าโดนเตอร์ยึดไปแล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะเล่นซักที พี่ชัชซื้อให้ผมชัดๆ นั่นแหละครับ เพราะแบบนั้นผมก็เลยมีกีตาร์ไว้เล่นตอนเซ็งๆ ยังไงละครับ ผมไม่ใช่พวกหนอนหนังสือที่เอาแต่บริโภคหนังสือไม่ทำอย่างอื่นซักหน่อย
กว่าพวกเราจะออกจากชมรมได้เวลาก็ผ่านไปเกือบๆ สองชั่วโมงครับ เย็นแล้ว และผมก็หิวแล้วด้วย ถึงแม็กซ์จะดูกวนๆ แต่แม็กซ์ก็ชนะใจคนแถวนี้ได้ไม่ยาก นอกจากพี่บอมจอมอคติแล้วแม็กซ์ชนะใจคนอื่น พี่บางคนชวนพวกเราไปหาอะไรกินต่อด้วยกัน แม็กซ์กับอาร์มหันมามองหน้าผม ผมพยักหน้าให้แม็กซ์รู้ว่าผมแล้วแต่เขาครับ
แม็กซ์ยอมไปหาอะไรกินกับพวกพี่ๆ ในชมรม ผมค่อนข้างแปลกใจนะ ผมนึกว่าเขาจะชวนผมไปกันแค่สองคนซะอีก แม็กซ์เปลี่ยนไปจริงๆ
แต่แม็กซ์ก็ทำให้พี่บอมแพ้อย่างหมดรูปอีกครั้งด้วยการบอกว่าเขาจะเอารถไปเองแต่ต้องขอตัวไปเอารถก่อน ไม่จำเป็นต้องให้ผมติดรถไปกับพี่บอมและผองเพื่อน แล้วรถของแม็กซ์นั่นแหละครับที่ทำให้พี่บอมแพ้หลุดลุ่ย ผมเองยังแอบตกใจเลยครับ ผมก็พอรู้อยู่นะว่าบ้านแม็กซ์รวยมาก แต่ใครจะไปคิดละครับว่าแม็กซ์ขับเบนซ์ คือรถคันนี้เนี่ยราคามันมากกว่ารถที่พี่ชัชใช้ขับไปทำงานหาเลี้ยงผมอยู่ทุกวันนี้อีก แม็กซ์นี่เกิดมาโชคดีจริงๆ
เราไปหาอะไรกินกันง่ายๆ แถวนั้นแหละครับ ผมเลือกนั่งตรงกลางระหว่างแม็กซ์และรุ่นพี่อีกคน อาร์มนั่งตรงกันข้ามกับผม เชื่อเขาเลยมีแอลกอฮอล์อีกแล้ว ทำไมผู้ชายต้องคู่กับแอลกอฮอล์ด้วยนะครับ? ผมปฏิเสธไม่ดื่มแต่แม็กซ์ดื่มครับ แม็กซ์ดื่มมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมก็เลยต้องเตือนแม็กซ์ว่าเขายังต้องขับรถกลับอีก แม็กซ์เองก็เชื่อผมนะครับ เหมือนเขาจะพึ่งรู้ตัวนึกขึ้นได้ว่าผมกลัว เขาหน้าเสียไปนิดหน่อยก่อนจะดื่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
พอตอนที่เรากินกันเสร็จจะแยกย้ายกันกลับแม็กซ์ก็บอกว่าจะไปส่งผม แม็กซ์ขัดขาพี่บอมและผมก็ยินดีให้แม็กซ์เป็นคนไปส่ง เพราะถ้าถามว่าผมเชื่อใจใครมากกว่ากันผมเชื่อแม็กซ์มากกว่าอยู่แล้ว แต่แม็กซ์เขาขอนั่งพักอีกซักครู่ให้สร่างเมาก่อน ผมเลยเดินไปหาซื้อผ้าเย็นกับเครื่องดื่มเกลือแร่แบบที่แม็กซ์ชอบมาให้ ตอนที่ผมกลับไปถึงร้านพวกเขาเช็คบิลกันเรียบร้อยแล้ว สบายกระเป๋าผมไป ผมรู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงๆ แม็กซ์ก็ต้องเลี้ยงผม
ตอนที่ผมยื่นซองผ้าเย็นสำเร็จรูปกับขวดเกลือแร่ให้แม็กซ์ดูแปลกใจเล็กน้อย
“ยังจำได้ด้วยเหรอว่าเราชอบยี่ห้อนี้?”
“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ ก็นายใช้ให้เราไปซื้อให้นายมากี่รอบตอนสมัยเรียน ไม่เคยนับเหรอ?”
แม็กซ์หัวเราะแล้วก็รับขวดเกลือแร่ไปดื่ม ผมส่งผ้าเย็นให้เขาด้วย แม็กซ์รับไปแล้วก็เช็คหน้าเบาๆ เรียกพลังให้สดชื่น
แม็กซ์เป็นพวกติดเครื่องดื่มเกลือแร่ครับ หลังเล่นกีฬา หลังเล่นดนตรี หรือแม้แต่หลังใช้แรงกับกิจกรรมบนเตียงที่ต้องสูญเสียน้ำ แม็กซ์ชอบดื่มเกลือแร่ยี่ห้อนี้ ผมไม่รู้หรอกว่ามันช่วยให้สร่างเมาได้มั้ย แต่ก็หวังว่ามันคงช่วยได้ ก็พวกคนขับรถแท็กซี่ยังชอบกินกระทิงแดงเลยนี่ครับ นี่มันก็เป็นเกลือแร่คล้ายๆ กันน่าจะช่วยได้บ้างหน่า
ผมบอกลากับพวกรุ่นพี่เพราะพรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน คงไม่ได้แวะไปที่ชมรม อาร์มนั่งคุยกับพวกเราอีกครู่หนึ่งแล้วก็ขอตัวกลับก่อนเพราะมีเรียนเช้า เหลือแต่ผมกับแม็กซ์
เราสองคนนั่งกันอยู่เงียบๆ ซักพัก พอแม็กซ์ดีขึ้นเขาก็ชวนผมก็กลับบ้าน แม็กซ์ขับรถกลับได้ค่อนข้างปลอดภัยครับ ผมคงต้องบอกแบบนี้ แม็กซ์ใช้ความเร็วไม่มากพารถแล่นไปบนถนนโดยที่ไม่มีช็อตใจร้อนแซงปาดคนอื่นให้ผมกลัวเลยแม้แต่น้อย ผมไม่แน่ใจว่าที่แม็กซ์ขับช้าๆ เป็นเพราะแม็กซ์เกรงใจผมหรือเพราะอะไร เราสองคนคุยกันไประหว่างทางหลายเรื่อง
“ทำไมถึงยอมมากับพวกพี่เขาล่ะ?”
“ก็คิดว่าต้นน่าจะชอบแบบนี้มากกว่า ต้นกับอาร์มยังต้องอยู่ที่นั่นอีกนาน”
ผมมองแม็กซ์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แม็กซ์เก่งเรื่องเข้าสังคมมาแต่ไหนแต่ไร แค่เมื่อก่อนแม็กซ์มักอารมณ์ร้อน แต่ตอนนี้แม็กซ์ใจเย็นมากกว่าเดิมและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
“แล้วอีกอย่าง อยู่ใกล้กันแค่นี้ ต่อไปถ้าเราอยากเจอต้นอีก ต้นคงไม่ปฏิเสธเราใช่มั้ย?”
เสียงของแม็กซ์เบาหวิวเหมือนกำลังกลัว
“อื้ม ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธนี่ ถ้าเราว่างน่ะนะ แต่ถ้าไม่ว่างก็ช่วยไม่ได้”
ผมสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สิ่งที่มันเคยทำให้ผมอึดอัด แต่ในเวลานี้มันกลับทำให้ผมสงสารจนอดใจดีกับแม็กซ์ไม่ได้
“แค่นั้นก็ดีแล้ว เหงาจะตาย ไม่มีเพื่อนกินข้าว”
แม็กซ์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“แล้วสาวๆ หายไปไหนหมดล่ะ”
“บ้าดิ ขืนทำงั้นแฟนเราได้โกรธตาย”
“งั้นก็เพื่อน”
“ไม่เอาอ่ะ อยากไปกับเพื่อนสนิท”
ถ้อยคำของแม็กซ์ทำให้ผมหัวใจเต้นรัว ผมดีใจนะ แม็กซ์เรียกผมว่าเพื่อนสนิทได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
“ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณไรกันต้น”
อาจจะเพราะคำขอบคุณแบบไม่มีที่มาที่ไปแม็กซ์ก็เลยงง แต่ผมอยากขอบคุณเขาจริงๆ แล้วผมก็พร้อมแล้วด้วยที่จะขอโทษแม็กซ์ ผมตัดสินใจแล้วที่จะเอ่ยปากขอโทษเขา เพราะทุกๆ สิ่งที่เขาเคยทำให้ผมลำพังแค่คำว่าขอบคุณมันคงยังไม่พอ
“แม็กซ์... เราขอโทษนะ ขอโทษที่พึ่งจะมาขอโทษนายเอาป่านนี้ ขอโทษที่เราไม่กล้าเป็นฝ่ายขอโทษนายก่อน ขอโทษที่ผลักภาระทุกอย่างไปให้นายทั้งๆ ที่เราเป็นคนเริ่ม เรา..”
พอได้พูดแล้วคำพูดของผมก็พรั่งพรูออกมา ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เมา แต่ผม...
“ช่างมันเหอะต้น เรื่องมันผ่านไปแล้ว แค่แม็กซ์ได้เพื่อนสนิทกลับมาแม็กซ์ก็ดีใจแล้ว แค่แม็กซ์ยังมีต้นเป็นเพื่อนอยู่มันก็ดีมากสำหรับแม็กซ์แล้วล่ะ”
เสียงของแม็กซ์ฟังดูสบายๆ ในขณะที่เป็นผมเองที่เริ่มเสียงเครือๆ ผมสัมผัสได้ถึงหยดใสๆ ที่หางตาผม ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ร้องไห้มานานมากแล้วแท้ๆ
“อืม ขอบใจนะ”
ผมสูดจมูกเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำมูกมันหยดลงมา
“ต้นแม่งขี้แยว่ะ!”
“พึ่งรู้เหรอ!”
“รู้นานแล้ว ฮ่าๆ”
แม็กซ์ส่งกระดาษทิชชู่ให้ผม เราคุยกับเรื่องสัพเพเหระอีกหลายเรื่อง ผมสบายใจมาก ผมรู้สึกดีมากจริงๆ ผมดีใจมากๆ ที่วันนี้ผมได้เพื่อนสนิทของผมกลับคืนมา
รถของแม็กซ์แล่นมาจอดที่หน้าคอนโด แม็กซ์ส่งผมแค่นั้นแล้วก็จากไป ผมเดินขึ้นห้องไปอย่างมีความสุข สี่ทุ่มกว่าแล้วสินะ แต่เครื่องของพี่ชัชยังไม่ลงด้วยซ้ำ แฟนของผมไปญี่ปุ่นครับ ไปสัมนาหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพาหมอไปเที่ยวนั่นแหละครับ ผมต้องเตรียมอะไรไว้ให้พี่ชัชรึเปล่านะ? ไม่หรอกมั้ง คงทานมาบนเครื่องแล้ว ผมรีบอาบน้ำรอพี่ชัชดีกว่า วันนี้ผมมีความสุขมาก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++