ไปป์ ทำไมต้นต้องโกรธผมขนาดนั้นด้วยหว่า ผมว่าผมก็ขออนุญาตต้นแล้วน้า ถึงตอนนั้นต้นจะหลับอยู่ก็เถอะ แต่พอแฟนต้นกลับมาผมก็บอกเขาน้า แฟนต้นยังไม่เห็นจะว่าอะไรเลย แต่ผมชอบเพื่อนต้นคนนี้จังแฮะ เพราะพอเขามาก็มีคนมาช่วยปิ้งอาหารบนเตาเพิ่มขึ้น ผมก็เลยกินสบายขึ้นตั้งเยอะ ฮ่าๆ
เพื่อนต้นคนนี้ถ่ายรูปคู่กับต้นเยอะมาก ผมเห็นรูปในอัลบั้มเยอะเลย ตั้งแต่ตอนยังผมสั้นดูเป็นผู้ชายอยู่จนถึงตอนที่เขาแต่งหญิงแล้ว แต่พอมาเห็นตัวเป็นๆ ใกล้กันแบบนี้ผมทึ่งนะ เขาเหมือนผู้หญิงสุดๆ น่ารักสุดๆ ไปเลย เสียงก็เล็กแถมยังนิสัยน่ารักมากๆ เลยด้วย เขาช่วยแกะกุ้งให้ผมด้วยแหละ ไม่เหมือนยัยป่านกับเมย์ สองคนนั้นใจร้ายกับผมตลอดเลย ส่วนแก้วกับโอมที่นั่งห่างกันก็ไม่ว่างกำลังยุ่งวุ่นวายกับไอ้พวกบ้าคนอื่นๆ
นี่ดีนะที่ยัยคุณหนูเอาแต่ใจโดนผู้ชายหน้านิ่งๆ คนนั้นสกัดดาวรุ่งจนมาวุ่นวายกับต้นไม่ได้ นั่งทะเลาะกันเองอยู่ ผมเลยอ้อนต้นได้เต็มที่ เหอๆ อย่างน้อยๆ ผมก็มั่นใจว่าผมได้เป็นที่สามแล้วล่ะ พวกเรากินกันเกือบชั่วโมงไอ้ยศก็ทำตามแผนของมัน มันยืนขึ้นแล้วเรียกทุกคนให้หันไปฟังมัน
“เฮ้ย! ฟังกูหน่อยพวกมึง”
ผมหวังว่ามันคงจะไม่ทำอะไรรุนแรงน้า
“วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนพวกเราคนนึง แม้ว่ากูจะไม่ค่อยสนิทกับมันมากเท่าไหร่ รวมถึงรำคาญนิสัยบางอย่างของมันโคตรๆ แต่กูอยากบอกมันว่า กูเป็นห่วงมันนะ ในฐานะเฮดของรุ่น กูอยากเห็นเพื่อนๆ ทุกคนในภาคสามัคคีกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน กูรักพวกมึงทุกคน อยากจบแบบครบคนว่ะ ไม่อยากให้ใครหายไป แล้วกูก็หวังว่ามึงอ่ะ ไอ้ต้น กูอยากให้มึงรักพวกเพื่อนคนอื่นๆ ในภาคด้วย พวกเราเพื่อนกัน มีอะไรมึงก็มาปรึกษากับพวกกูบ้างก็ได้ พวกกูจะได้ช่วยมึงทันก่อนที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่ มึงมันเด็ก ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ปากเสีย พวกกูไม่ถือหรอกคนเรามันต้องมีอารมณ์กันบ้าง เพื่อนกันตีกันบ้างไม่แปลก แต่กูขอร้องมึงว่ามีอะไรอยากให้เคลียร์กัน เพื่อนกันคุยกันได้อยู่แล้ว กูไม่อยากให้มึงแยกออกไปคนเดียวแบบนั้น ตอนนี้มึงก็โตแล้วนะเว้ย แก้นิสัยนี้ได้ป่าววะ”
ผมเห็นต้นอึ้ง คงเพราะไม่คิดว่าอยู่ๆ ยศมันจะพูดแบบนี้มั้ง ยังดีนะที่เอกมันพูดต่อ ไม่งั้นคงมีแต่ความเงียบทั้งโต๊ะ เพราะต้นหน้าเสียมากๆ พวกเราลงความเห็นว่าจะให้พวกเราแต่ละคนพูดกับต้นกันตรงๆ
“มึงมันขี้งอนอย่างกับผู้หญิง แต่กูไม่เกลียดมึงหรอก เพราะมึงยังมีส่วนดีๆ อีกเยอะที่กูชอบ อะไรที่กูเคยทำให้มึงไม่พอใจมึงก็อย่าโกรธกูนะ”
“เรื่องนั้นมันจบไปแล้วเอก เราไม่คิดอะไรแล้ว”
“งั้นกูพูดบ้าง มึงอ่ะเด็ก ชอบดราม่า เอาแต่ใจโคตรๆ แล้วกูขอเหอะ ทำไมมึงชอบชักสีหน้าใส่เพื่อนวะ ไม่น่ารักเลย ทำกับคนที่สนิทอ่ะไม่เป็นไรหรอก แต่มึงดันติดนิสัยชอบทำกับคนอื่นเขาไปทั่ว มันดูไม่ดีนะเว้ย แถมนิดๆ หน่อยๆ มึงก็คิดมาก พวกกูตามอารมณ์มึงไม่ทันว่ะต้น เรื่องมันไม่มีอะไรมึงก็เก็บไปคิด บอกตามตรงกูโคตรเป็นห่วงมึงเลย ในสังคมอ่ะ คนเขาไม่ได้มาเข้าใจมึงแบบพวกกูนะ อีกหน่อยมึงเรียนจบไปทำงานต้องเจอสังคมข้างนอกมึงจะอยู่ยังไง มึงอยู่โดยไม่เอาใครไม่ได้หรอก มึงต้องปรับตัวหน่อยนะเว้ย เวลากูเห็นไอ้พวกนี้ไม่กล้าเข้าหน้ามึงตอนดราม่าละกูโคตรสงสารพวกมันเลย พวกมันก็ห่วงมึงโคตรๆ แต่มึงกลับไม่สนใจใคร อย่างน้อยๆ ถึงมึงไม่สนใจพวกกูที่เหลือแต่สนใจไอ้ห้าคนนี้หน่อยเหอะ”
ไม่คิดว่าไอ้อาร์ทมันจะพูดได้ดีขนาดนี้ เจ๋งจริง!
“เรา... แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
พวกเราพากันเงียบหมด แม้แต่ผมยังพูดไม่ออกเลย เมย์สะกิดป่านยิกๆ ผมเองก็ส่งสายตาให้ป่านเป็นทัพหน้า
“ก็... ก็ไม่หรอกแก... แต่แบบ... เฮ้ยแก้วพูดดิ”
“คือ... พวกเรารู้ว่าต้นอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่อยากเล่าให้ใครฟังเยอะ แต่บางทีเรื่องบางเรื่อง เวลาที่ต้นมีอะไรไม่สบายใจ พวกเราอยากบอกว่าต้นปรึกษาพวกเราได้นะจ้ะ”
“ถึงพวกเราจะช่วยอะไรต้นไม่ได้แต่ต้นก็ระบายให้พวกเราฟังได้นะ”
เพราะทุกคนพูดอย่างที่ผมคิดหมดแล้วผมก็เลยส่งยิ้มให้ต้นแทน ต้นมองหน้าพวกเราทุกๆ คนแล้วก็พูดขึ้น
“ขอบคุณนะ ขอบคุณพวกนายมากๆ เลย เรา... เราจะพยายามปรับตัวให้ดีกว่านี้นะ อะไรที่เราทำไม่ดีก็เตือนเราด้วยแล้วกัน ... คือ... เรา... เราไม่เคย... ไม่เคยมีเพื่อนมาก่อนน่ะ ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง...”
“มึงพูดว่าไม่เคยได้ยังไง แล้วไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ มึงอ่ะ เขาก็มางานวันเกิดมึงไม่ใช่เหรอวะ มึงพูดแบบนี้ถ้ากูเป็นเพื่อนมึงกูเสียใจตายเลยต้น”
ถึงพัทมันจะชอบพูดแทรกแต่ผมว่าคราวนี้มันพูดได้ตรงประเด็นนะ ผมเห็นต้นทำหน้าเหมือนพึ่งจะรู้ตัวแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ตัวเองทีละคน
“โอ๊ย... ฉันไม่อยากจะเม้าเลยค่ะ นังต้นมันใช้ชีวิตด้วยการไปกินข้าวคนเดียวแล้วก็หมกตัวอยู่ในห้องสมุดตอนพักเที่ยงมาตลอดสามปีจนจบมอปลายเลยค่า ที่ฉันไปสนิทกับมันได้ก็เพราะเผลอเก็บลูกนกลูกกาตอนบาดเจ็บได้แล้วมันก็เลยติดฉันนี่แหละค่ะ ส่วนพวกนี้น่ะเขาแก๊งเดียวกันต้นมันเลยได้อานิสงค์ ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ แต่มันก็ใจแข็งมาตลอด ส่วนน้องหนูคนนี้ ญาติห่างๆ ค่ะ พยายามแก้ปัญหาครอบครัวให้ต้นอยู่ ขอบอกให้โลกรู้เลยค่ะ ต้นมันเพิ่งหัดมีเพื่อนกับเขาก็ตอนเข้ามหาลัยนี่แหละค่ะ”
“เมษา! เกินไปแล้วนะ ไม่เห็นต้องเผากันขนาดนี้เลย”
“ก็ฉันปลื้มนี่ย๊ะ! แหม เพื่อนคนอื่นๆ เขาอุตส่ารวมหัวกันทำเพื่อแกขนาดนี้แล้วแกเองก็หัดไปเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอกซะมั่งเถอะ ไม่ใช่เอาแต่หมกตัวอยู่คนเดียวในคอนโด วันๆ เอาแต่ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้าน ทำกับข้าว อ่านหนังสือ เข้าสังคมกับคนอื่นเข้าบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวตอนแฟนไม่อยู่ละฉันไม่ว่าง”
“บ้า! นานๆ ทีแม็กซ์ก็พาเราไปเปิดหูเปิดตาบ้างเหมือนกันนะ!”
มิน่าล่ะ ห้องต้นถึงได้สะอาดสุดๆ ไปเลย ผมว่าต้นต้องเป็นพวกกวาดบ้านทุกวันแน่ๆ พอเห็นต้นโดนเผาแล้วเถียงกลับสู้ไม่ได้ พวกเราบางคนก็หัวเราะครืน ผมว่าเพื่อนต้นคนนี้ต้องรู้อะไรดีๆ เยอะแน่ๆ
“นี่ๆ มีเรื่องอะไรเผาต้นอีกมั้ย เราอยากฟังอีก”
“เพียบเลยค่ะ อยากรู้อะไรถามมาได้เลย แต่จะบอกให้นะคะ เพื่อนอิฉันคนนี้เป็นพวกคิดมากจริงๆ นั่นแหละค่ะ เวลาฮีเผลอไปทะเลาะอะไรกับใครมานะคะ ฮีจะเก็บมาน้อยใจแล้วก็ชอบมานั่งซึมอยู่คนเดียว ไม่กล้าสู้หน้าเค้า กลัวสารพัด ละพออิฉันบอกว่าทีหลังก็อย่าทำ ฮีก็บอกว่ามันอดไม่ได้ค่ะ ถึงจะดูเหมือนคนใจเย็นแต่จริงๆ แล้วอารมณ์ร้อนสุดๆ อย่าได้ทำให้ฮีโกรธนะคะ!”
ผมว่าเพื่อนต้นต้องหลุดแน่ๆ เลย คงเล่าเพลินจนลืมตัวแน่ๆ เพราะขนาดไอ้นอยซ์ยังแอบเหวอเลย ฮ่าๆ รู้แล้วสินะมึง
“พอๆ เผาเราเยอะเกินไปแล้วนะ พวกเราก็ด้วยเลิกๆ กินๆ”
“เฮ้ย วันเกิดมึง มึงต้องฟังพวกกูอวยพรดิว้า”
“มีที่ไหน พวกนายเผาเราอยู่ต่างหาก ไม่ได้อวยพรซักหน่อย!”
“หึๆ ทนฟังนิสัยตัวเองไม่ได้เหรอต้น”
โอ้ว แม้แต่อัฐยังมาร่วมขบวนการแซวกับไอ้อาร์ท
“เฮ้ยๆ พวกมึงมีใครจะเผาเอ้ย อวยพรไอ้ต้นอีกป่ะวะ”
“กูๆ กูอยากบอกมึงว่า กูโคตรรักมึงเลย ถ้าไม่มีมึงชีวิตการเรียนกูคงพินาศ”
“ก็มึงมันโง่ไงนน ฮ่าๆ”
“
ระ ระ เรา อยากบอกนาย
วะ ว่า เรา
ชะ ชะ ชอบนาย
นะ หนะ หนะ นายไม่เคย
เลาะ ล้อเราเลย”
“มึงหุบปากไปเหอะไอ้ถังขี้ พรุ่งนี้ก็ยังพูดไม่จบหรอก ตากูบ้าง”
“
ระ ระ เราชื่อ
ถะ ถะ ถังข้าว
มะ ไม่ใช่ ถัง ขี้!”
“นายเงียบไปเลยโค่ เราจะฟังถังพูด!”
ฮ่าๆ สนุกดีจัง ฟังพวกมันตีกัน ต้นนี่ใจดีจริงๆ น้า คอยปกป้องคนอื่นตลอดเลย เหมือนตอนที่ผมโดนคนอื่นๆ ว่าตอนนั้นเลย เพราะตอนนั้นต้นช่วยปกป้องผม บอกว่าถึงผมจะติดนิสัยเด็กๆ ทำตัวบ๊องๆ ไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพราะต้นใจดีแบบนี้แหละ ผมถึงได้รักต้น รักต้นที่สุดเลย ฮ่าๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ต้นน้ำ เฮ้อ... อิ่มมากเลยครับ โชคดีนะเนี่ยที่ผมมีเมษมาช่วยแบ่งเบาภาระผมถึงได้ทานอาหารสบายๆ กับเขาบ้าง พูดแล้วก็แอบขำเมษนะครับ ตอนแรกๆ ก็แอ๊บดีอยู่แล้วแท้ๆ แต่ดันหลุดเอง เลยกลายเป็นเพื่อนๆ ผมพากันสงสัยจนคอยสังเกตรู้ความจริงจนได้ แต่เมษคงไม่แคร์หรอกมั้งครับ เพราะเมษไม่สนใจใครอยู่แล้ว แค่กรี๊ดผู้ชายเล่นๆ
“ต้นกินน้อยจัง อิ่มแล้วเหรอ”
“ไม่เอาแล้วล่ะแม็กซ์ พอแล้วนายนั่นแหละยังไม่อิ่มอีกเหรอ กินตั้งเยอะแล้ว เดี๋ยวก็อ้วนหรอก”
“คนเขาออกกำลังกายก่อนนอนทุกคืน ไม่อ้วนหรอก”
นายออกกำลังกายหรือทำอะไรกันแน่แม็กซ์
“โต้น...”
เสียงแบบนี้ ผมถอนหายใจยาวๆ ก่อนหันไปไปมองหน้าไปป์แบบเซ็งๆ ไปป์เองพอเห็นผมให้ความสนใจก็เริ่มอ้อนผมทันที แต่พูดได้ไม่กี่คำก็โดนผมเบรคซะก่อน
“เรากินมะ”
“รับผิดชอบตัวเองนะไปป์ เราเตือนนายแล้วว่าอย่าตักมาเยอะ”
“ง่า ต้นใจร้ายจัง เราอุตส่าตักมาเผื่อต้นเลยนะ”
“แล้วเราบอกให้ตักมาเผื่อเหรอ นั่นมันของชอบนายทั้งนั้น อย่ามาแถซะให้ยาก”
พอเจอคำประกาศิตของผมไปไปป์ก็ไปป์เถอะ มีหงอ! ไปป์ก้มหน้าลงท่าทางสำนึกผิดแต่คอยแอบเงยหน้าขึ้นมาชำเลืองตาอ้อนผมเป็นระยะ คิดว่าทำท่าลูกหมาหงอยแบบนั้นแล้วผมจะใจอ่อนให้รึไง!
“ทำไงดีอ่ะป่าน? ต้นไม่ยอมช่วยอ่ะ”
พอไปป์เห็นผมใจแข็งก็หันไปขอความช่วยเหลือจากป่าน แต่ป่านก็ปฏิเสธด้วยเช่นกัน
“ฉันก็ไม่ไหวละแก ส่งไปทางนั้นมะ เฮ้ยพวกแกอ่ะ มีใครยังไม่อิ่มบ้าง ตรงนี้ยังเหลืออีกเยอะเลย อีมิว?”
“กูยังแดกของไอ้พัทที่ตักมาเหลืออยู่เลย จะอ้วกละมึง”
“เฮ้ยๆ ส่งมาๆ กูยังไม่อิ่ม”
“โหย ฮีโร่ว่ะเต็ม กินจุจนกูนับถือมึงเลย”
ในระหว่างที่เพื่อนๆ ภาคฟิสิกส์ของผมกำลังช่วยกันกำจัดของเหลือ แถวๆ ทางเพื่อนเก่าผมก็กำลังมีเรื่องเช่นกันครับ แต่รอบนี้ผมเห็นด้วยกับกายนะ
“กินผักให้หมดเลยเร็ว”
“ยุ่งน่ะ เค้าไม่ได้ตักมาซะหน่อย”
“เพราะไม่กินผักแบบนี้ไง ถึงได้เตี้ยไม่โตซักที เลือกกินว่ะ”
“เงียบไปเลยนะ แม้แต่ที่บ้านเรายังไม่บ่นแบบนี้เลย”
“โดนตามใจจนเคยตัวอ่ะเด่ะ”
เฮ้อ... แต่ละคน นี่ดีนะครับที่แม็กซ์กับอาร์มไม่เรื่องมาก ผมหยิบของสดในจานมาปิ้งจนสุกแล้วใส่จานไว้ให้สองหนุ่มนี่ สลับกับขู่เข็ญไปป์ไปเรื่อยโดยมีเมษคอยช่วย ไม่นานโต๊ะทางฝั่งผมก็เคลียร์ครับ โล่งอกไปเปลาะนึง ทีนี้ก็เหลือแต่ฝั่งทางโน้นแล้ว ปล่อยให้ยศจัดการไปก็แล้วกันครับ
ผมมองกองของขวัญที่วางอยู่ข้างตัว แล้วผมจะหอบมันกลับคอนโดยังไงละเนี่ย? ไม่มีถุงใส่ซะด้วย ถึงมันจะไม่ได้มากมายนัก แต่มันก็มีมากเกินจะใส่เป้ผมกลับแน่ๆ ครับ ไม่คิดเลยว่าทุกคนจะทำเพื่อผมขนาดนี้ แถมผมยังได้สมุดที่ทุกๆ คนช่วยกันเขียนคำอวยพรลงในนั้นให้ผมอีก ไม่เคยมีใครทำอะไรให้ผมแบบนี้เลยครับ ปลื้มเป็นบ้าเลย!
“เฮ้ย ทางนั้นเรียบร้อยยังวะ?”
“เรียบร้อยแล้วล่ะแก”
“เออ งั้นกูเรียกเก็บตังค์เลยนะ”
“เออ”
“คนละเท่าไหร่อ่ะนังต้น?”
“อืม... ไม่รู้สิ ต้องถามพวกนี้อ่ะ”
ผมตอบเมษไปแบบนั้นเพราะผมไม่รู้จริงๆ ก็แหม วันนี้มันวันเกิดผมนี่ครับ ยังไงก็ไม่ต้องจ่ายอยู่แล้ว พวกเรานั่งรอเด็กมาเคลียร์บิล แต่พอบิลมาผมจะเป็นลมครับ! ถึงจะราคาหัวละไม่เท่าไหร่ แต่พอทานหลายๆ คนก็เล่นเอาเป็นพันเลยครับ หลายพันด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจและหมั่นไส้ที่สุดก็คือการที่แม็กซ์โชว์ป๋าควักแบงค์ พันหลายใบออกมาวางแบบไม่คิดมากแถมยังพูดว่าที่เหลือทิป แล้วเด็กเสริฟก็เดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ทันที
“แม็กซ์... จะดีเหรอ?”
“วันเกิดต้น แม็กซ์เลี้ยงเอง”
“ไม่ดีมั้งนาย พวกเราเยอะแยะ”
ยังดีที่นายมีสำนึกนะยศ!
“ก็ถือว่าผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงวันเกิดต้นละกัน พวกคุณก็มากินเลี้ยงงานวันเกิดต้น”
“พวกเราก็อยากเลี้ยงฉลองให้เพื่อนเหมือนกันนะ เงินมันไม่ใช่น้อยๆ ให้นายออกคนเดียวไม่ดีหรอก”
ดีมากยศ! อย่ายอมแพ้แม็กซ์นะ สู้เขา!
“งั้นพวกคุณเอามาให้ผมคนละร้อยก็พอ ที่เหลือผมเลี้ยงเอง แบบนี้ง่ายดี ผมขี้เกียจคิดเลข”
“เออ เอางั้นเหรอ ตามใจนาย”
ผมล่ะหมั่นไส้พวกคนรวยจริงๆ เลยครับ อดไม่ได้ที่จะหันไปเบ้หน้ากับเมษ ส่วนเมษเองก็แกล้งเอามือทาบอกทำท่าปลื้มปริ่มได้โอเวอร์มาก แต่ก็ยังดีนะครับที่แม็กซ์ยอมพบกันครึ่งทาง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลี้ยงทั้งกายและอาร์ม รวมไปถึงไนน์และเมษด้วย ผมล่ะหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ คงเพราะหน้าผมมันออกอาการมาก แม็กซ์เลยหันมาตบบ่าผมแล้วแก้ตัว
“เอาน่าต้น แม็กซ์ไปผับทีนึงจ่ายเยอะกว่านี้อีก”
“ก็รู้ตัวนี่”
“น่า นี่ไม่ได้ไปไหนทั้งเดือนเลย เก็บตังค์ไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะต้น เพื่อต้นคนเดียวเลย”
“เออ เอาเถอะ เคลียร์เร็วๆ ละกัน อยากกลับละ”
“งั้นเดี๋ยวแม็กซ์ไปส่งต้นเอง”
ผมพยักหน้าให้แม็กซ์ในเชิงรับรู้ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่ครับ แต่ผมห่วงไนน์มากกว่า
“แล้วไนน์ล่ะ”
“อ๋อ เดี๋ยวอาร์มกับกายมันจัดการเองแหละ”
แม็กซ์ตอบแล้วยังอุตส่ามีน้ำใจหันไปถามเมษ
“แล้วเธอล่ะ จะกลับพร้อมเราเลยรึเปล่า?”
“อุ๊ยตาย! ใจดีจัง จะไปส่งเราด้วย นิสัยดีขึ้นเยอะเลยนะคะ”
“อย่าลีลา จะไปไม่ไป”
“แหม แซวเล่นนิดเดียวเอง ใจร้อนจริงพ่อคุณ เราก็ต้องกลับกับต้นอยู่แล้วล่ะ”
เมษก็นะ... ไปเล่นกับแม็กซ์แบบนั้นเดี๋ยวก็โดนหรอก แต่ดีจังเลยครับ เพื่อนเก่าเจอหน้ากันแล้วไม่ตีกันตาย เฮ้อ...
“โต้น”
มาอีกแล้วเสียงน่ารำคาญ!
“อะไรอีกล่ะไปป์”
“เราปวดฉี่ ไปเป็นเพื่อนหน่อย”
“ไปเองไม่เป็นเหรอไปป์”
“น้า ไปกับเราหน่อย เราไม่รู้ห้องน้ำมันอยู่ไหน”
นายเป็นเด็กเหรอไปป์! ไปป์ถึงขนาดมาเกาะแขนผมเลยด้วยซ้ำ แถมยังพยายามดึงผมไปด้วยกันอีก ทำไมไปป์ทำตัวแปลกจัง? เลยตามเลยก็ได้ครับ
“อืมๆ งั้นเดี๋ยวเราไปห้องน้ำก่อนนะแม็กซ์ เมษฝากของหน่อยนะ”
“ย่ะ”
“อืม”
ผมรู้แล้วว่าทำไมไปป์ถึงได้พยายามลากผมออกมาจากกลุ่มให้ได้ เพราะพอเดินออกมาแถวด้านหลังแล้วผมก็เจอเข้ากับผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างสมาร์ทคนนึงยืนรอผมอยู่ ด้วยส่วนสูงตั้งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรและหุ่นสมส่วนมีกล้ามพอประมาณ บุคลิคยามนิ่งแลสุขุมแต่กลับดูผ่อนคลายคล้ายคนขี้เล่นในยามยิ้มทำให้ใครต่อใครพากันจ้องมอง ทั้งๆ ที่อายุสามสิบกว่าแล้วแต่ยังดูดีอยู่เลย ผมไม่รู้ว่าพี่ชัชมายืนส่งยิ้มให้ผมอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้วรู้แต่ว่าแฟนของผมหล่อมากครับ!
“ฝีมือนายเหรอไปป์?”
“เง้อ เปล่านะ แฟนต้นเขาโทรมาถาม เราเลยบอก”
“จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ ไปเลยไป๊”
“ฮ่าๆ เราไม่อยู่เป็นกอขอคอกวนต้นหรอก ไปน้า”
ผมเขินจนเก็บอาการไม่อยู่ได้แต่ยิ้มจนแก้มปริ ก็สายตาพี่ชัชน่ะหวานซะ... แม้ไปป์จะเดินหนีไปแล้ว แต่พี่ชัชกลับไม่ยอมเดินเข้ามาใกล้ผมก็เลยต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาพี่ชัชแทน
“มาได้ไงครับ?”
“มารับเมียสุดที่รักไงครับ”
“ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะครับ”
“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ แหมวันเกิดต้นทั้งทีพี่จะปล่อยให้เรากลับเองได้ยังไงครับ”
“ผมไม่ได้กลับเองซะหน่อย แม็กซ์ก็อยู่”
“หือ?”
แย่แล้ว! ผมไม่ได้บอกพี่ชัชว่าแม็กซ์จะมากับผมด้วยวันนี้
“เอ่อ... คือเรื่องมันยาวน่ะครับ พอดีเมื่อวานไนน์เค้า”
“เราก็เลยชวนเพื่อนมาด้วยกันวันนี้แทน?”
“แต่... แต่เมษก็มานะครับ พวกแม็กซ์กับเพื่อนๆ ตอน มอปลายผมมากันตั้งหลายคน เพราะไนน์เขาอยากมาด้วย ผมกลัวไนน์เหงาก็เลย...”
ผมพยายามจะแก้ตัว ไม่รู้ว่าพี่ชัชจะเชื่อผมรึเปล่า แต่ในที่สุดพี่ชัชก็ยิ้มให้แล้วขยี้หัวผมเบาๆ
“สุดที่รักของพี่มีแต่คนรักนะเนี่ย”
ผมไม่รู้จะทำยังไงหรอกครับ กลัวพี่ชัชโกรธก็กลัว ผมไม่แน่ใจว่าพี่เขาไม่ว่าอะไรผมจริงๆ อย่างปากรึเปล่า ก็... นิสัยขี้หึงของพี่ชัชน่ะ ผมไม่คิดว่าพี่เขาจะยอมลงให้ไม่คิดอะไรง่ายๆ แบบนี้หรอกครับ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นแม็กซ์ด้วยแล้ว ครั้นจะอ้อนก็ติดว่านี่มันที่สาธารณะ ทำไม่ได้ ผมก็เลยได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ ให้หมาป่าขี้หึงของผม
“ละนี่เราทานเสร็จรึยังครับ?”
“เสร็จแล้วครับ พอดีผมมาเข้าห้องน้ำกับไปป์”
“อ้าว พี่ก็ชวนเราคุยเพลินเลย ไปเข้าก่อนป่ะ?”
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ปวด ไปป์นั่นแหละลากผมมา”
“แหม่ ไอ้เด็กคนนี้มันรู้งานดีจริงๆ พี่บอกมันว่าพี่มารอรับต้นอยู่ทางด้านหลัง มันก็พาต้นมาได้เวลาเป๊ะ”
“เดี๋ยวนี้มีสายลับนะครับ!”
“ทำไมละครับ กลัวพี่รู้ความลับเราเหรอ?”
“อื้อ ผมไม่ได้มีความลับอะไรซะหน่อย!”
ผมคงจะเล่นบทพ่อแง่แม่งอนให้พี่ชัชง้ออีกนิดหน่อยถ้าไปป์ไม่เข้ามาขัดผมซะก่อน
“เสร็จแล้ว!”
ไปป์พุ่งเข้ามาทำท่าจะมาจับไหล่ผมจากทางด้านหลัง แต่ขอโทษเถอะ เพราะเสียงที่นำมาก่อนผมก็เลยเบี่ยงตัวหลบไปยืนข้างหลังพี่ชัชได้ทัน
“ล้างมือแล้วยังน่ะไปป์ ถ้าล้างแล้วก็เอาทิชชู่เช็ดสิ อย่ามาเช็ดกับเสื้อคนอื่นเขา”
“ต้นใจร้าย เราอุตส่าบอกทางให้แฟนต้นมารับนะ!”
“ไปเหอะ หายมานานแล้วกลับโต๊ะไปได้แล้ว”
“อ้าวแล้วต้นล่ะ จะกลับเลยป่ะ?”
“เอ่อ...”
นั่นสิครับ แล้วผมจะเอายังไงดีล่ะ หวังว่าแม็กซ์คงไม่โกรธผมนะครับ
“เดี๋ยวเราต้องไปเอาของก่อนสิ”
“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปช่วยถือ ได้ข่าวว่าได้ของขวัญเยอะเลยไม่ใช่เหรอครับ”
พี่ชัชจะเดินไปที่โต๊ะกับผม!
“เอ่อ... เอางั้นเหรอครับ”
“ทำไมอ่ะ ไม่อยากให้พี่ไปด้วยเหรอ?”
“คือ ไม่ใช่นะครับ! ผม...”
จะทำยังไงดีละครับ ผมจะตอบพี่ชัชว่ายังไงดี แถมไปป์ยังอยู่ตรงนี้อีก ไปป์น่ะไม่เป็นไรหรอกครับ แต่คนอื่นๆ น่ะ...
“ผมกลัวโดนแซวนี่นา”
“ถ้าใครมันบังอาจแซวต้น เดี๋ยวป่านก็จัดการเองแหละ เชื่อเรา”
“บ้าละไปป์!”
มันไม่ใช่แค่เพื่อนในภาคผมน่ะสิครับ แม็กซ์น่ะผมไม่ห่วงหรอก คนที่ผมห่วงที่สุดน่ะ ไนน์ต่างหาก! ไนน์เกลียดพี่ชัชอย่างกับอะไรดี
“งั้นพี่ไปรอที่รถก็ได้ รถพี่จอดอยู่ด้านหลังนะ”
พอพี่ชัชพูดแบบนั้นแล้วทำท่าจะหันหลังเดินจากไปมือของผมก็คว้าเข้าที่แขนของพี่ชัชโดยอัตโนมัติ
“ไปช่วยผมถือของหน่อยนะครับ”
“คร้าบ ที่รัก”
พี่ชัชยิ้มแล้ว เฮ้อ!
แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด พอพวกเราเดินมาถึงโต๊ะ เพื่อนๆ แต่ละคนสะพายกระเป๋ารวมกลุ่มรอแยกย้ายกันไปอยู่แล้วล่ะครับ มีบ้างบางคนที่ไปห้องน้ำยังไม่กลับ แต่คนที่เหลือนี่มองผมกับพี่ชัชกับไม่วางตาเลย ผมชิงลงมือก่อนดีกว่า!
“เอ่อ... ทุกคน นี่แฟนเราเอง”
เพราะบุคลิคกับการแต่งตัวของพี่ชัชที่ดูก็รู้ว่าเป็นวัยทำงาน เพื่อนๆ ผมทุกคนเลยพร้อมใจกันยกมือไหว้ ยกเว้นแค่ไนน์ และกายที่ไม่สนใจคนอื่น ส่วนแม็กซ์... แม็กซ์มองหน้าพี่ชัชแล้วพยักหน้าให้เหมือนทุกที ผมเดินเข้าไปหาแม็กซ์ แต่แม็กซ์ชิงพูดขึ้นซะก่อน
“เออ งั้นเดี๋ยวแม็กซ์กลับเลยละกันนะ จะไปค้างบ้านอาร์มมัน พอดีกายมันยืมรถไปส่งเพื่อนต้นอ่ะ”
ผมกำลังคุยกับแม็กซ์ ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรแม็กซ์ ผมว่าแม็กซ์ที่ชิงออกตัวก่อนผมน่ะเร็วแล้วนะครับ แต่ใครจะไปคิดไนน์เองก็เร็วไม่แพ้กัน
“เอาเปรียบต้นอยู่ได้ เมื่อไหร่จะเลิกกันซะที ไม่รู้ตัวเหรอว่าที่บ้านต้นไม่มีใครเขาอยากให้ลุงคบกับต้น”
ไนน์! ผมหันไปหาไนน์ แต่กายเข้าถึงตัวไนน์แล้วและกำลังยืนปิดปากไนน์อยู่ พี่ชัชของผม! ต้องขอบคุณที่พี่ชัชของผมเป็นผู้ใหญ่พอ แต่ผมรู้ได้เลยว่าแม้บนหน้าพี่เขาจะยิ้มแต่เส้นที่ขมับขึ้นแล้วครับ แม้แต่เมษยังตกใจจนเผลอเอามือทาบอก
“เฮ้ยต้น กูลาล่ะ เอากุญแจรถมาดิวะ”
แล้วผมก็เห็นอาร์มล้วงกุญแจรถโยนไปให้กายๆ รับแล้วก็รีบลากไนน์ออกไปทันทีเลยครับ ส่วนเพื่อนๆ ผมนี่ ยืนค้างพูดอะไรไม่ออกกันหมดทุกคน ผมเองยังกลัวเลย
“ของมีแค่นี้รึเปล่าครับ? น้องเมษ”
“คะ!”
“กระเป๋ากับของขวัญของต้นมีแค่นี้รึเปล่าคร้าบ ใจลอยนะเรา มองหนุ่มๆ เพลินรึไง”
“แหมคุณพี่ก็!”
“งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวพาแฟนกลับบ้านก่อนนะครับ ละเดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งคืนให้ทันเข้าเรียนคาบเช้านะ”
แฟนของผมหันไปส่งสายตาพูดกับเพื่อนๆ ผมด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีขี้เล่น ใบหน้ายิ้มแย้มนั่นผมดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่การจงใจปั้นแต่งมาแน่ๆ ครับ พี่ชัชของผมไม่ได้ใช้โหมดตอแหลเวลาทำงาน แต่ใบหน้าแบบนี้มันชอบมาพร้อมๆ กับคารมที่ทำให้ผมต้องอายม้วนทุกครั้ง พี่ชัชหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แล้วส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะพล่ามต่อ
“ไม่ไหวอ่ะ มารอรับเมียกินบุฟเฟ่ต์ตั้งนานยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย แถมไม่รู้ว่าคืนนี้กลับไปจะมีอะไรกินรึเปล่า ต้นจะทำกับข้าวให้พี่ไหวมั้ยครับเนี่ย?”
“พี่ชัชครับ!”
ผมโมโหครับ พี่ชัชจงใจเล่นมุกบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไง แล้วที่สำคัญ สายตานั่นมันไม่ได้ดูเหมือนคนหิวข้าวเลยแม้แต่น้อย!
“ฮ่าๆ พวกน้องอยู่กับต้นทำใจหน่อยนะ แฟนพี่มันขี้โมโห แถมยังชอบบ่นได้ทุกเรื่อง ดูดิๆ ชอบขึ้นเสียงตวาดใส่คนอื่นอ่ะ”
ผมกำหมัด! ผมได้แต่กำหมัดแล้วพยายามข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ ถ้าเป็นที่ห้องละก็ ผมจะจัดการพี่ชัชแน่ๆ แต่พี่ชัชกลับไม่สำนึก เลื้อยเอามือมาโอบไหล่ผมแทน ผมเดือดปุดๆ แล้วครับ!
“แต่ไงพี่ฝากต้นน้ำกับพวกน้องด้วยนะครับ พี่ทำงานไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้นเท่าไหร่ แถมพี่แก่แล้วด้วยบางครั้งก็ไม่เข้าใจวัยรุ่น พวกน้องๆ อายุเท่าๆ กันน่าจะคุยกันได้ง่ายกว่า”
“ไม่ต้องห่วงคร้าบ ผมจะดูแลต้นให้พี่เอง! รับรองเลยคร้าบ”
แล้วนายจะยืนตะเบ๊ะหาอะไรไม่ทราบน่ะไปป์!
“พูดพอรึยังครับ ไหนว่าหิวไง กลับกันได้แล้วครับพี่ชัช!”
หนนี้ผมโกรธจริงๆ นะ พี่ชัชพูดมากเกินไปแล้ว!
“หือ งอนใหญ่แล้วอ่ะ โอเคๆ งั้นพี่กลับก่อนนะ”
ยังมีหน้าหันไปโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนๆ ผมอีกนะครับ!
“เมษ ไปกันเหอะ!”
ผมอายครับ อายสุดๆ ไปเลย แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปเรียนได้ยังไงละครับ เพราะไม่รู้จะทำยังไงก็เลยได้แต่คว้ามือเมษแล้วก็เดินหนีออกมาทันที
“โอ๊ะแก นังต้น! โอ้ย คุณพี่ขา ฝากหยิบถุงคิตตี้ของหนูตามมาด้วยนะค้า แกช้าๆ ฉันเดินตามไม่ทัน นังต้น!”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
น้องไปป์น่ารักสุดใจขาดดิ้น อ๊าย!
แต่สุดท้ายพี่ชัชกินขาด เฮียแกโผล่มาแบบไม่คาดคิดชิมิ? นิยายเรื่องนี้ชอบสับขาหลอกเขียนให้พระเอกหายหัวแต่โผล่มาปิดท้ายเนอะ บางทีพี่ชัชควรจะเปลี่ยนจากอาชีพเซลล์เป็นตำรวจ อิๆ คารมพี่แกนิ่งจริงๆ
ชอบเพื่อนคนอื่นๆ ในภาคมั้ยเอ่ย? ปลื้มเหล่าทะโมนแห่งภาคฟิสิกส์กันมั้ย? ชอบใครคนไหนบ้าง
เราว่าน้องถังข้าวโมเอ้น้า หนุ่มน้อยติดอ่างคนซื่อลูกเจ้าของโรงสีใหญ่จากอยุธาแต่ดันมาจับคู่กับเสียงนรกขี้หลีอย่างนอยซ์ นี่มัน....! อย่าคิดนะอย่าคิด เชื่อสิถ้าคุณเป็นสาววาย โมเม้นแบบนี้ยังไงคุณก็ต้องคิด!

ขอบอกว่าแต่งอีพวกทะโมนพวกนี้ยากนรกแตก 21 ชีวิต! ที่ต้องมีคาแรคเตอร์ไม่ซ้ำ แถมยังต้องมานั่งจับกลุ่มพวกมันให้เป็นเซ็ทสนิทอีก การอ่านการ์ตูนและเล่นเกมช่วยได้เยอะจริงๆ มีตัวอย่างไทป์แปลกๆ มาใส่เพียบ เอะเดี๋ยวสิ...
นี่มันนิยายนะไม่ใช่เกมจีบหนุ่ม! หรือควรจะเป็น
เกมเอาหนุ่มๆ มาจีบน้องต้น?