[28/3/58]ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. #จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [28/3/58]ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. #จบแล้วจ้า  (อ่าน 130203 ครั้ง)

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce

     ผมใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข การที่มีคนเข้าใจผมและพร้อมจะยืนเคียงข้างกันทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น ก็กำลังใจเต็มเปี่ยมนี่ครับ ผมไม่ต้องแคร์สายตามุ่งร้ายของใครแล้ว ผมมั่นใจว่าคนรอบตัวผมรู้จักผมดีพอ ขอแค่ผมไม่พลาดคนพวกนั้นก็ไม่มีอะไรมาโจมตีผมหรอกครับ จะเต้าข่าวมันก็ต้องมีมูลบ้าง สักแต่เขียนด่ากันลอยๆ คนอ่านก็ชักรำคาญและเริ่มไม่เห็นด้วย เขาก็คงรอให้ผมพลาดอยู่แหละครับ

     แต่มันมาพลาดเอาก็ตอนฮาโลวีน คือ... เพราะผมคุยไลน์กับพี่ซัน แล้วพี่ซันกับคิวว์ก็อยู่สังกัดเดียวกัน คือพวกเขามีปาร์ตี้อาโลวีนกันครับ คิวว์เลยมาชวนผมไปด้วย ผมก็ไปนะ แบบว่า... วันฮาโลวีนปล่อยผีเต็มที่ มีคอนเสิร์ตของวงร็อคที่ผับแถวทองหล่อใกล้ๆ คอนโดคิวว์ ไปกับคนที่ไว้ใจได้ทั้งนั้น ผมก็เลยดื่มนิดหน่อย อาจจะเมาเล็กน้อย ผมก็เลยสนุกสุดเหวี่ยง... แล้วเพจแอนตี้ก็ไม่พลาดเอาผมไปเม้าครับ ผมเละอีกแล้ว และแน่นอนเนมก็ไม่พลาดจะมา“แสดงความเป็นห่วง”ผม!
     “ต้นต้องระวังตัวเองรู้ป่ะ ไปเมาแบบนั้นอันตรายนะ”
     “ไม่เป็นไรหรอก เราไปกับคนที่ไว้ใจได้ คิวว์ไม่ปล่อยให้เราเป็นไรไปหรอก จริงมะ?”
     ผมหันไปยิ้มให้คิวว์ เนมที่หมั่นไส้ผมจัดเลยขุดเอาอดีตของผมขึ้นมาตบหน้า!
     “เดี๋ยวก็โดนมอมยาอีกหรอก คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า”
     หน้าชาเลยครับ ผมสูดลมหายใจลึกๆ แล้วยิ้ม คิวว์ก็อึ้ง เขาเห็นท่าไม่ดีแต่ก็นั่งเงียบเพราะผมยังนิ่ง ผมเลยเพ่งสมาธิไปกับการคนน้ำแข็งในแก้วแทน พยายามสั่งตัวเองให้นับหนึ่งถึงสิบครับ ไม่งั้นผมคงลุกขึ้นมาเอาน้ำแข็งพวกนี้ยัดปากเนม!
     “ต้นเอาน้ำไรเพิ่มมั้ย? เราไปซื้อให้”
     “เอางั้นเหรอ? อืมเอามาอีกแก้วก็ได้”
     ผมยิ้มให้คิวว์ๆ ตบไหล่ผมเบาๆ แล้วเดินไปซื้อน้ำ ผมเห็นแววตาสะใจจากเนม เขาคงคิดว่าชนะ! ถ้าเขาอยากแข่งกับผมมากนักก็ได้ ผมจะแข่ง!
     “จริงอย่างที่เนมว่าเนอะ คนสมัยนี้อันตราย รู้หน้าไม่รู้ใจ ต้องระวังไว้”
     ผมฉีกยิ้ม!
     “ดีนะที่เรามีเพื่อนดีๆ เนมรู้มั้ยคิวว์ดีกับเรามาก”
     เนมเริ่มจิกสายตาใส่ผม หึๆ
     “เราโชคดีที่มีเพื่อนแท้แบบคิวว์ ตอนนี้เรามีความสุขกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย มีเพื่อนดีๆ เพิ่มขึ้นเยอะแยะ เราพยายามมีเพื่อนเยอะๆ ตามที่เนมบอกแล้วนะ ต้องขอบคุณเนมจริงๆ ที่คอยสอนเรื่องต่างๆ ให้เรา เราเองก็พยายามทำตัวดีๆ นะ ไม่อยากทำอะไรแย่ๆ ให้มีปัญหากับใครเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเอาเราไปว่าอะไรบ้าง เพราะเนมแท้ๆ เลยที่ทำให้เราคอยระวังตัว เออ! จริงสิ! เรามีเพื่อนใหม่คนนึงชื่อพี่ซัน พอเขารู้ว่าเราอยู่ที่เดียวกับเนมเขาก็ฝากมาทักทายเนมด้วยนะ โลกมันกลมจังเลยเนอะ ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักกับเพื่อนสนิทเนมที่ชื่อแชมป์”
     “แชมป์ไหนเหรอ? เราไม่รู้จักหรอก”
     หึๆ ไม่รู้จักแล้วทำไมหน้าซีดจังล่ะเนม
     “แต่เอ? พี่ซันยังเคยเปิดไลน์ที่เขาคุยกับเนมให้เราดูเลยนะ”
     ผมยิ้มแต่เนมเริ่มปากสั่นแล้วครับ สะใจผมจริงๆ
     “สงสัยเราคงจำไม่ได้มั้ง เราคุยกับคนเยอะน่ะ”
     “งั้นมั้ง ก็เนมเพื่อนเยอะนี่เนอะ ผิดกับเราเลยคุยแค่ไม่กี่คน แต่โชคดีที่ทุกคนที่เราคุยเป็นเพื่อนแท้ของเราทั้งนั้น ถึงเวลาถ้าเราขอร้องให้เขาช่วยอะไรเขาคงเต็มใจช่วยเรา นายคิดงั้นมั้ย?”
     “นายพูดเรื่องอะไรอ่ะต้น! เราไม่เก็ท”
     “ก็เรื่องเพื่อนไง เนมคิดว่าเรื่องอะไรล่ะ?”
     ผมยิ้มแล้วหัวเราะ ก่อนจะพูดปิดท้าย
     “คนที่ยอมคนเห็นเขานิ่งๆ มันไม่ได้แปลว่าเขาโง่นะเนม เขาอาจจะเบื่อ ขี้เกียจมีเรื่องก็ได้ แต่มันไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้สึกอะไร ถ้ามันโดนกระทำมากๆ ซักวันนึงเขาก็คงไม่ทนเหมือนกัน แต่ถ้าเลือกได้เขาก็คงไม่อยากมีปัญหากับใครหรอก เราไม่อยากเอาปัญหางี่เง่าพวกนี้มาใส่ใจ เลิกแล้วต่อกันจบกันแบบเงียบๆ ไม่ดีกว่าเหรอ?”
     หึๆ สมน้ำหน้า! เนมหน้าซีดเชียวครับ สะใจผมจริงๆ
     “เนมรู้จักพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มั้ย? ปกติคนเขาไม่อยากฟ้องให้เป็นคดีความกันหรอก มันเปลืองเงินเสียเวลา แต่พอดีว่าบ้านเรามีเงินแล้วเราก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วด้วย เราก็แค่เสียเวลาแต่คู่กรณีเราคงต้องเสียมากกว่านั้น ยิ่งดังยิ่งมีคนรู้จักเวลาล้มขึ้นมาคงยิ่งอับอาย เผลอๆ มีคนรอวิจารณ์เพียบ เนมคิดแบบเรามั้ย? น่ากลัวเนอะ เพราะแบบนี้แหละเราถึงชอบอยู่เงียบๆ”
     “เราขอตัวนะต้น ต้องไปแล้ว!”
     “อื้ม ตามสบายเลย เดี๋ยวบอกคิวว์ให้”
     เนมหนีไปแล้วครับ สะใจผมจริงๆ ผมก็ได้แต่หวังว่าเขาคงสำนึกนะครับ โดนขู่ไปขนาดนั้นต้องกลัวบ้างแหละ เฮ้อ...

     แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเห็นเนมเฉียดเข้ามาใกล้คิวว์อีกเลย ดูเหมือนว่าเพจแอนตี้จะหายไปด้วย แต่ไปป์แอบมากระซิบผมว่าอาทิตย์ก่อนเห็นคิวว์กับมิวนิคไปนั่งอยู่แถวๆ ทันตะ ลูกหมาน้อยของผมไปหลีสาวแถวนั้นอีกแล้วแน่ๆ! ผมก็ไม่รู้ว่าคิวว์กับมิวนิคไปทำอะไร แค่การที่เขาสองคนไปไหนด้วยกันมันก็แปลกแล้วครับ สงสัยจะจริงเหมือนที่มิวนิคว่า “เพื่อนกันยังไงก็ตัดกันไม่ขาด” ส่วนสำหรับผม ... ช่างมันเถอะครับ ผมเลือกแล้วว่าจะมีความสุขกับเพื่อนๆ ของผมนี่นา เรื่องอื่นผมไม่สน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อา... น้องต้นแซ่บมั้ย? ก็บอกแล้วว่าฮีร้าย ตอนนี้น้องต้นอัพสกิลทุกอย่างเต็มแล้วเลยตอกกลับแบบนางพญา หึๆ
แต่เราว่าถึงต้นจะดูร้ายมากกว่าเดิมแต่ก็น่ารักขึ้นนะ ดูรับมือกับปัญหาได้เก่งขึ้น นิ่งขึ้นไม่สติแตกเอาง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน กับเพื่อนๆ ก็ความสัมพันธ์ดีขึ้นด้วย ปรับตัวเข้าหาสังคมได้เก่งขึ้น ร่าเริงขึ้นเยอะ ใช้ชีวิตได้มีความสุขจริงๆ ซักที

แต่คาดว่าบทนี้ไปป์กับคิวว์หรือแม้แต่ตัวร้ายแบบเนมก็คงโดนคนบางคนแย่งซีน ดีใจที่มิวนิคมีแฟนคลับนะเออ ฮ่าๆ
ไม่อยากบอกว่าในหัวเรานะ เราจินตนาการว่าถ้าต้นเลิกกับพี่ชัชถาวรคนที่จะมีโอกาสจีบต้นได้ติดที่สุดก็คือมิวนิคนี่แหละ แม้จะเป็นม้านอกสายตาใครหลายๆ คน คนที่สองคืออาร์ม แต่น่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบอยู่ๆ ไปจนถึงวันนึงก็คบกัน ความสัมพันธ์ทางร่างกายมาก่อนเพราะอาร์มนี่ก็ใช่ย่อย แล้วก็ต่างฝ่ายต่างอยู่ตรงนั้นจนทิ้งกันไม่ได้มากกว่า
กับมิวนิคนี่นั่งจิ้นเองคนเดียวไปไกลเป็นภาคสปินออฟเลยแหละ มันจะเลิฟคอมเมดี้มากๆ ต้นจะใจแข็งรำคาญสุดๆ แต่มิวนิคก็จะโคตรตื้อจนน่าจะจีบสำเร็จตอน ป.โทโน่นอ่ะ ต้นถึงจะใจอ่อน เห็นใจในความพยายามของคนโง่ที่กระเสือกกระสนเรียนโทตามตัวเอง ฮ่าๆ แล้วคนแต่งมานั่งจิ้นอะไรให้คนอ่านฟังเนี่ย!
ก็แบบ... บอกแล้ว รักนิยายเรื่องนี้มาก ไอ้เราก็เขียนแบบคิดทางเลือกไว้โคตรเยอะ มันคิดเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ได้โคตรสนุกเลย บทที่แม็กซ์ได้กับต้นก็มีนะ แต่เป็นหลังจากที่ต้นคืนดีกับพี่ชัชแล้วโน่นอ่ะ คืออายุประมาณสามสิบกว่า แม็กซ์มีลูกแล้ว แยกกับเมียเรียบร้อย พี่ชัชเดี้ยง ไม่นะ อย่าด่าคนแต่งว่าใจร้ายนะ! แต่สันดานอย่างเฮียแกอ่ะมันน่าขับรถแล้วเกิดเรื่องจริงๆ แม็กซ์ที่อยู่ข้างๆ ต้นมาตลอดจะสบโอกาสตอนนั้นแหละ เพราะแม็กซ์คือเพื่อนที่จะอยู่ข้างๆ ต้นน้ำตลอดไปไม่มีวันปล่อยมือจากต้น
แต่... สุดท้ายก็ต้องตัดใจแล้วเลือกบทจบที่ดีที่สุด และสมกับเป็นต้นน้ำที่สุดละนะ! ว่าแต่คนอ่านล่ะ อยากอ่านตอนพิเศษแบบไหนรึเปล่า? หรือจะรออ่านบทสุดท้ายก่อน หึ? อาจจะอยากอ่านตอนพิเศษของคู่รักในบทสุดท้ายก็ได้นะ คู่นั้นมีแววว่าจะมาแรง!

หวังว่าคนอ่านจะสนุกกับตอนพิเศษน้า ครั้งหน้าบทสุดท้ายแล้ว ใจหายอ่ะ  :hao5:



ส่วนพูดคุย  :laugh3:
แถม Sweet Devil (rap cover) Remix by @nqrse (naruse) <<< เพลงที่ฟังประจำเวลาจะนึกถึงอิมเมจร้ายๆ ของน้องต้น แสบๆ ซนๆ ประมาณนี้แหละ แต่ชอบเวอร์ชั่น Rap ของ nqrse เป็นพิเศษ มันไม่แรปจ๋าฮาร์ดคอร์มากแบบของคนอื่น เซ็กซี่กำลังดี แบบเอาไว้โยกอย่างเดียวก็มีนะ มิกซ์ซะมันส์เลย SweetDevil(8# Prince Raver Remix)
เผื่อมีคนอ่านไม่รู้ จริงๆ คนแต่งไม่ค่อยฟังเพลงไทยนะ ฮ่าๆ เห็นแบบนี้แต่ความจริงเป็นคุนิดๆ นะเออ!  :-[ (หน้าไม่อายเนอะ กล้าพูดมาได้ ฮ่าๆ)
ช่วงอายุ10กว่าๆ ฟังแต่แด๊นซ์ที่ดีเจเปิดกันในผับจากคลื่นวิทยุต้องตื่นมาฟังตอนตีหนึ่งตีสอง ต่อมาฟังแต่เพลงการ์ตูน ร้องได้ทั้งButterFly BraveHeart  BreakUp! แต่ตอนนี้กลับชอบฟังแต่ Vocaloid กับ Utaite ไม่อยากบอกว่าคลั่งเสียงผู้ชายมากๆ ชอบจริงๆ ไม่ต้องรู้จักหน้าตาหรอก แค่ฟังเสียงแล้วก็จินตนาการเอาก็น้ำเดินละค่ะ ฟินมาก บางคนเค้าร้องเพลงเซ็กซี่จริงๆ น้า
แต่เพลงที่ชอบก็มีนะ บางเพลงโครตชอบๆ มากๆ มีเป็นสิบกว่าเวอร์ชั่นเพราะคนคัฟเวอร์เยอะเราก็โหลดมาฟังหมดนะ อย่างเช่นเพลงนี้ 威風堂々 คือตัดสินไม่ได้ว่าเวอร์ชั่นไหนครางได้อารมณ์กว่ากัน ระหว่าง しゅーず กับ らびぽ
ไอ้เพลงพวกเนี๊ยะ... นั่งฟังได้เป็นวันๆ ฟังแล้วฟินจริงๆ นะเออ ทั้งๆ ที่แฟนก็มีแล้วเป็นตัวเป็นตนแต่กลับเป็นสาววายที่คลั่งผู้ชาย2Dมาก หื่นสุดๆ เห็นอะไรก็จิ้น คลั่งไคล้ผู้ชายเสียงได้อารมณ์มากจนเข้าขั้นนั่งหัวเราะคนเดียวแล้วเอามืออุดจมูก ช่างเป็นนิสัยที่งี่เง่าซะจริง .... แล้วไอ้คนแบบนี้มาเขียนนิยายดราม่าเรื่องนี้เนี่ยนะ!
 :impress2: くるみぽんちお << สาบานสิว่าดู MV นี้แล้วไม่คิดอะไร อา... 5P ชัดๆ พวกท่านจะกินนมรึอะไรก๊าน! ฟินอ่ะ เอามือตบโต๊ะรัวๆ ดูอะไรเสื่อมๆ รั่วๆ แบบนี้มันกว่าดูเมะวายอีก เราดูไอ้ของพวกนี้แหละ เสริมสร้างจินตนาการ แหะๆ แบบว่า ... เพจเค้าเหง๊าเหงา ใครจะเม้าเรื่อง Utaite ก็แวะมาเม้าได้นะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
กรี๊ดดด กับมิวนิค ก็ดีอะ ฟินจัง แบบต้นเขิลด้วย มิวนิคก็จีบแบบซื่อๆ  เขิลแทนอะ

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
มาเม้นอีกรอบ หลังจากได้อ่าน ช่วงพูดคุยของคนเขียน แล้ว อยากกรี๊ดด ตอนมิวนิคเรียนป โท ก็น่าจิ้น
ตอนกับ อาร์มก็น่าอ่าน ใช่แหละฟิลนั้นเลย คือแบบรักที่บริสุทธิ์ไม่ทิ้งกันไปไหน
แต่ก็มีความสัมพันธ์ทางการกัน แล้ว อะไร จะเปลี่ยนไปรึเปล่า อาร์มจะหึงห่วงต้นมั้ย
และคนแบบอาร์มเวลาหึงเป็นแบบไหนน ยิ่งคิดยิ่งอยากอ่าน
กับตอนของแม็กยิ่งอยากอ่าน รอมาจนมีลูกเพิ่งได้กะต้นโอ้ยยยย
คืออยากอ่านหมดอะ แย่จังทำไมหลายใจ ชอบทุกคนเรยละ 555

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
แล้วเรื่องก็จบอย่างมีความสุข

The story after that.

     ต้นน้ำเดินเหลียวซ้ายแลขวามองรอบตัวแล้วก้มหน้าลงก่อนจะรีบตรงไปยังหอพักผู้ป่วยหญิง แม่ของเมษนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ หากเขาไม่มาเยี่ยมก็คงดูไม่ดี แต่ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากมา ต้นน้ำเดินบ่นงึมงำ
     “ทำไมต้องมารักษาที่นี่ด้วยนะ!”

     เอกดนัยรู้สึกเหมือนเห็นคนคุ้นตาเดินผ่านไป แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะใช่คนที่เขาคิดรึเปล่า คุณหมอวัยกลางคนเดินมาเช็กอาการคนไข้ตามปกติ แต่เสียงแจ๋นๆ จากญาติผู้ป่วยเตียงข้างๆ ก็ทำให้เขารำคาญ เขาอยากบอกหล่อนเหลือเกินว่าในโรงพยาบาลไม่ควรใช้เสียงดัง แต่เมื่อมองดูดีๆ และฟังเสียงนั้นให้ชัดๆ เขาถึงพบว่าหล่อนเป็นผลงานที่ประณีตนัก แม้จะเป็นของปลอมแต่ก็ปรุงแต่งออกมาได้งดงามไม่แพ้ของจริง ที่สำคัญชื่อที่ออกมาจากปากของเธอก็คุ้นหูเขาเหลือเกิน
     “นังต้นมันบอกว่าเดี๋ยวมันมารับแม่ให้ หนูเองก็น่าจะว่าง พ่อจะได้ไม่ต้องหยุด ไม่ต้องลำบากอีมุกมันด้วย”
     “แล้วเราไปรบกวนต้นจะดีเหรอนังเมษ เผื่อเขามีเรียน”
     “โอ้ยไม่เป็นไรหรอกแม่ มันแอบโดดได้ พ่อมันใหญ่จะตาย มันบอกว่ามาได้”
     “แล้วจะกลับยังไง จะให้แม่ซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับเหรอ?”
     “อย่ามามุกน่ะแม่! นังต้นมันก็ให้รถตู้มารับพวกเราสิ นี่ปู่มันยังใจดีให้เรายืมรถเข็นมาใช้อีกด้วยนะแม่ แม่ตัวหนักจะตายหนูเอาคนเดียวไม่ไหวหรอก ต้องให้นังต้นมันมาช่วยยก”
     “ปากนะนังลูกคนนี้”
     “ก็มันจริงนี่แม่! เนี่ยเพราะอ้วนนั่นแหละเลยล้มแล้วหักไปทั้งตัวแบบนี้ แก่แล้วทีหลังก็ระวังๆ หน่อยสิแม่”
     “เอ๊ะนังนี่! ยังไม่หักโว้ย! ไปๆ กลับไปได้แล้ว แม่จะนอน”
     “แม่อะ ยังไม่มืดเลยจะรีบนอนไปไหน”
     “เออๆ ไปๆ แม่รำคาญ”
     “เช๊อะ! หนูกลับก็ได้”
     ต่อปากต่อคำกับมารดาพอหอมปากหอมคอแล้วเมษก็สะบัดก้นกลับบ้าน เธอยังต้องกลับไปเคลียร์ของสดสำหรับเตรียมเปิดร้านอีก อาจจะต้องประกาศปิดร้านสักพักจนกว่าแม่ของเธอจะอาการดีขึ้น เธอต้องเรียนและทำงานพิเศษคงไม่ว่างเปิดร้านอาหารตามสั่งแทนแม่ แปลว่าบ้านของเธอคงขาดรายได้ไปสักระยะ ... แต่เมษก็ยังยิ้มได้เมื่อผลการเอ็กซเรย์ออกมาว่าแม่ของเธอแค่เคล็ดขัดยอกเฉยๆ ไม่มีอะไรแตกหักเสียหาย สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดร่วมกับโรคเบาหวานมากกว่า เมื่อนึกถึงภาพที่ตนพบแม่นอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำก็ยิ่งกังวล เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ผลตรวจอย่างอื่นออกมาดีตาม เธอจะได้พาแม่กลับไปพักที่บ้านเสียที
     เมษกลับบ้านไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกจับตามอง หมอเอกร่างแผนการต่างๆ ในใจ เขาทนเห็นหมาหงอยมานานเกินไปแล้ว ถึงความรักจะเป็นเรื่องของคนสองคนแต่ถ้ามีตัวช่วยเข้าไปมีเอี่ยวด้วยก็คงไม่เลวนัก ที่สำคัญเขาเจอของเล่นชิ้นใหม่แล้ว!

     เช้าวันถัดมาเมษรีบมาเฝ้าแม่ตัวเองเช่นเคย แม่ของเธอเกิดหน้ามืดจนหกล้มหัวฟาดพื้น เคราะห์ดีที่กระดูกไม่หักแต่ความดันก็ไม่ค่อยดีไหนจะยังเบาหวานอีก เธอจึงไม่วางใจให้แม่อยู่คนเดียว แม้จะปากเก่งแต่เมษก็รักและเป็นห่วงแม่ของตน แต่ในขณะที่กำลังวิ่งเข้าลิฟต์ เธอก็เผลอไปชนเข้ากับคนข้างหน้า ผู้ชายวัยกลางคนหันมามองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ
     “ขอโทษค่ะ”
     เมษย่อตัวลงกล่าวขอโทษเสียงอ่อย แต่โชคร้ายเมื่อผู้โดยสารคนอื่นออกไปจนเหลือแต่เขากับเธอ ด้วยรู้ตัวว่าผิดจึงไม่กล้าหันไปมองด้านหลัง แต่เมษรับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาอย่างเข้มข้น!
     “เนี่ยชนมันนิดเดียวมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ”
     “ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง?”
     “มนุษย์ลุงชัดๆ ว่าแต่แกถึงไหนละยะ?”
     “หมอว่าหมอยังไม่แก่พอจะเป็นลุงคุณได้นะเมษา”
     “ใครเรียกชื่อฉันยะ?”
     ในระหว่างที่เมษกำลังเม้าแตกกับต้นน้ำผ่านโทรศัพท์ก็มีเสียงทักดังขึ้น และเมื่อเธอหันไปเธอก็พบกับ“มนุษย์ลุง”ยืนอยู่ด้านหลัง!
     “แป๊บนะนังต้น งานเข้า!”
     เมษกดวางสายแล้วหันไปยิ้มเอาใจ
     “คะ?”
     “ในโรงพยาบาลงดใช้เสียงดัง คุณไม่รู้เหรอ?”
     “เอ่อ ... หนูพูดดังไปเหรอคะ?”
     “ไม่เคยรู้ตัวเลยเหรอ?”
     เมษขัดใจนัก! อยากอ้าปากด่าคุณลุงผู้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านคนนี้เหลือเกิน
     “คร่า งั้นหนูจะเบาเสียงให้ละกันค่ะ!”
     เมษเชิดใส่ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปกดโทรศัพท์เม้ากับเพื่อนรักต่อโดยลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อครู่นี้คุณหมอมนุษย์ลุงคนที่ว่าพึ่งเรียกเธอว่า“เมษา”

     ต้นน้ำมารอรับแม่ของเมษกลับบ้าน แต่ระหว่างรอคุณหมอเจ้าของไข้อยู่กับเมษคนที่ต้นน้ำกลัวก็มาถึง เอกดนัยยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น!
     “คนนี้แหละแก๊!”
     เมษรีบสะกิดบอกเพื่อน แต่ต้นน้ำกลับรีบก้มหน้า
     “หมอขอคุยด้วยได้มั้ย”
     แม่ของเมษงง เมษก็งง ทั้งสองคนมองต้นน้ำแต่ต้นน้ำกลับเลี่ยงไม่ยอมตอบ
     “ต้น”
     เมษแปลกใจที่อีตาหมอจอมจุ้นนี่รู้จักเพื่อนของเธอ เมษสะกิดเพื่อนยิกๆ แต่ต้นน้ำกลับไม่ยอมอธิบายอะไร
     “ขอเวลาซักครู่ หมอไม่รบกวนเรานานหรอก”
     “ผมไม่มีอะไรจะคุยครับ”
     “แต่หมอมีเรื่องจะเล่าเยอะเลย”
     “แกรู้จักเขาด้วยเหรอนังต้น?”
     เมษที่อดทนไม่ไหวกระซิบถาม ต้นน้ำเหลือบมองดูหมอจอมดื้อแล้วก็หันไปตอบเพื่อนเบาๆ
     “เพื่อนสนิทพี่ชัช”
     เพียงเท่านี้เมษก็ถึงบางอ้อ...

     แล้วคนทั้งหมดก็ออกมานั่งคุยกันที่ด้านนอก เมษตามมาเป็นกำลังใจให้เพื่อน ส่วนต้นน้ำก็เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง เอกดนัยมองมิตรภาพของทั้งสองคนแล้วก็ขำ เมื่อไม่มีใครเริ่มเมษก็ทนไม่ไหว
     “คุณหมอมีอะไรจะพูดกับเพื่อนหนูก็รีบพูดเถอะค่ะ หนูจะได้พาแม่กลับบ้านซะที”
     หมอเอกปรายตาไปมองผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มแล้วก็หัวเราะในคอ ท่าทางของเขาทำให้เมษหมั่นไส้อย่างแรง
     “ฮาโลวีนปาร์ตี้แถวทองหล่อสนุกมั้ยต้น เสียดายคืนนั้นหมอติดเคสเลยอด”
     คำพูดของเอกดนัยทำเอาต้นน้ำอ้าปากค้าง เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนถาม เมษหันไปมองหน้าเพื่อนรักแล้วต่อว่า
     “แกไปปาร์ตี้ไม่ชวนฉัน! ไหนแกบอกว่าจะอยู่บ้านไง?”
     “ไม่ใช่นะ! ตอนแรกก็ตั้งใจแบบนั้นจริงๆ”
     “นังเพื่อนทรยศ แกเทฉัน!”
     “เราเปล่านะ! คือเราไม่ได้ไปกับแม็กซ์ พอดี ... เราไปกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยน่ะ เขาชวนกะทันหัน”
     “ต๊าย! ถ้าพ่อแกรู้นะ”
     “อย่าบอกใครนะเมษ”
     “แหม ไปกับผู้คนไหนมาละยะ!”
     เอกดนัยมองเด็กทั้งสองแล้วอมยิ้ม ยิ่งฟังก็ยิ่งขำ ต้นน้ำแก้ตัวกับเพื่อนพลางเหลือบมามองเขาบ่อยๆ เหมือนกลัวความลับรั่วไหล เขารู้แต่แรกแล้วว่าแฟนเพื่อนคนนี้ซนพอตัว ต้นน้ำไม่ใช่ผ้าที่ถูกลงแป้งจนแข็งแล้วพับไว้บนหิ้ง
     จนในที่สุด...
     “คุณหมอรู้ได้ยังไงครับ?”
     “มีคนเล่าให้ฟัง”
     ต้นน้ำทำหน้าสงสัยเข้าแผนของหมอเอกพอดี
     “คงบังเอิญมั้ง มันไปกับลูกค้า เห็นมันบอกว่าต้นแต่งแฟนซีเป็นแวมไพร์ด้วยนี่ หมอพึ่งรู้นะว่าเราดื่มเก่ง ว่างๆ ไปดื่มกันมั้ยไอ้ชัชเลิกดื่มไปแล้วหมอไม่มีเพื่อนกินเหล้าเลย”
     ยิ่งเล่าต้นน้ำก็ยิ่งหน้าซีด เหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาเพราะถูกจับได้!
     “เขาจำคนผิดรึเปล่าครับ”
     “ไม่หรอก เพื่อนหมอมันความจำดีจะตาย มันไม่มีทางลืมเราหรอก”
     ต้นน้ำตัวเย็นวาบ เขาถูกชัยชัชเห็นซะแล้ว! ต้นน้ำอยากบริสุทธิ์งดงามในสายตาของชัยชัชตลอดไป เขาไม่อยากถูกล่วงรู้ใบหน้าภายใต้หน้ากาก
     ความกลัวปรากฏขึ้นแว๊บหนึ่งในใจ แต่แล้วต้นน้ำก็ตระหนักได้ เขาเลิกกับชัยชัชแล้ว!
     “เหรอครับ แต่คงไม่บังเอิญบ่อยหรอกเพราะผมไม่ได้เที่ยวบ่อย”
     เลิกกันแล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงมันก็เรื่องของเขา ต้นน้ำแอบคิดเข้าข้างตัวเอง
     “หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร”
     เอกดนัยยิ้มกวนเพราะเป็นต่อ
     “ธุระของหมอมีแค่นี้ใช่มั้ยครับ”
     ต้นน้ำถามพลางทำท่าจะลุกขึ้น
     “ยังมีอีกเรื่อง หมอพึ่งไปงานบวชไอ้ชัชมา”
     ข้อมูลใหม่ทำเอาต้นน้ำหูผึ่ง เขามองตรงมาทางเอกดนัยด้วยความสงสัย อดีตแฟนเขาน่ะหรือบวช?
     ท่าทางของต้นน้ำยิ่งทำให้เอกดนัยมั่นใจ เขายิ้มพรายพลางเล่า
     “ก็คนมันอกหัก คนที่มันรักก็มีความสุขไปแล้ว มันไม่รู้จะอยู่ดูแลใคร พอเหลือตัวคนเดียวเลยหนีไปบวช”
     หมอเอกมองสีหน้าคับข้องใจคล้ายคนจะร้องไห้เพราะโดนสะกิดแผลของต้นน้ำแล้วก็ยิ้มอย่างยินดี ต้นน้ำยังรักเพื่อนของเขาอยู่!
     “ต้นอยากรู้มั้ย? ใครถือหมอนให้มัน”
     “พี่เขาบวช ผมก็อนุโมทนาด้วยครับ”
     สายตาไม่ยอมแพ้กับน้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นเข้มแข็งทำให้เอกดนัยยิ้มกริ่ม เขาจงใจวางกับดักเพิ่มอีกชิ้น
     “น่าเสียดายนะ งานกำลังรุ่งเลย ไปบวชอยู่บ้านนอกไกลหูไกลตาเป็นอะไรขึ้นมาลำบากแย่ อ้อ! ต้นไม่รู้นี่ว่าไอ้ชัชมันเป็นความดัน มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงร่วมด้วย แต่มันไม่ยอมให้หมอเอ็กซเรย์หลอดเลือดหัวใจ อันตรายน้า...”
     ในที่สุดต้นน้ำก็ทนไม่ไหว!
     “หมอเอกต้องการอะไรจากผมกันแน่!”
     “หมออยากรู้ว่าเรายังรักเพื่อนหมออยู่รึเปล่า เพราะไอ้ชัชมันรักต้นมาก”
     “รักแล้วยังไง? ความรักอย่างเดียวมันช่วยอะไรไม่ได้ซักหน่อย หมอก็รู้ว่าพี่ชัชทำอะไรไว้กับผมบ้าง ที่สำคัญผมเป็นผู้ชาย ยังไงก็ไปกันไม่รอดหรอก!”
     “แต่ต้นยังรักมันอยู่ไม่ใช่เหรอ เราจะไม่ให้อภัยมันเลยรึไง?”
     “ผมต้องทนให้อภัยพี่ชัชอีกกี่ครั้งกัน!”
     “ต้นจะไม่ให้โอกาสมันหน่อยเหรอ? หมอไม่อยากให้มันมีอะไรติดค้างในใจอีก”
     “หมอหมายความว่ายังไง?”
     “ชัชมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ หมออยากให้ต้นเห็น อยากให้ต้นอโหสิให้เพื่อนหมอ มันจะได้หมดห่วง”
     “ผมไม่อยากยุ่งอะไรกับเขาอีก ผมเหนื่อย...”
     “จะไม่ลองไปเจอมันอีกสักครั้งเหรอ ถ้ามันจบลงด้วยดีไม่ได้ก็ถือซะว่าไปซ้ำเติมมันก็ได้ ไอ้ชัชมันทำกับเราไว้เยอะนี่ ไม่อยากเอาคืนมันหน่อยเหรอ?”
     เมษยิ่งฟังก็ยิ่งงงกับตรรกะแปลกๆ ของหมอคนนี้ เธออ้าปากค้างด้วยความไม่เข้าใจ ตกลงว่าเขาจะเชียร์หรือซ้ำเติมเพื่อนกันแน่? แต่เธอเข้าใจตัวเอง เธอหมั่นไส้อีตานี่! เพื่อนของเธอต้องร้องไห้ก็เพราะเขา!
     ต้นน้ำสูดลมหายใจรวบรวมสติแล้วเอ่ยลา
     “ขอตัวก่อนนะครับ ผมมีธุระ”
     เมษลุกขึ้นจะตามเพื่อนไปแต่ถูกเอกดนัยยึดมือเอาไว้แน่น
     “เดี๋ยว! เอาเบอร์คุณมาที”
     เมื่อเห็นเมษชักช้าหมอเอกก็คว้ากระเป๋าไปเปิดหยิบของที่ต้องการด้วยตัวเอง
     “เอ๊ะ! เกินไปแล้วนะ เอาของหนูคืนมา”
     “ไม่อยากเห็นเพื่อนมีความสุขเหรอ?”
     เอกดนัยว่าพลางกดโทรศัพท์ต่อ เมษพยายามยื้อคืนแต่อีตาหมอโรคจิตคนนี้สูงกว่าเธอมากนัก แถมยังเป็นมนุษย์ลุงวัยกลางคน! เธอไม่กล้าเสียมารยาทมากเกินไป อย่างไรเสียกุลสตรีที่ดีก็ไม่ควรกระโดดแย่งของในมือผู้ชายรุ่นพ่อ!
     “จะทำอะไร คืนโทรศัพท์หนูมานะ”
     “ไลน์ไง เวลามีอะไรจะได้ส่งไปหาคุณ ถ้าหมอส่งไปหาต้นเขาคงไม่ยอมดูหรอกใจแข็งแบบนั้น แต่เขาเชื่อคุณใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นคุณต้องช่วยหมอ”
     “หนูไม่ช่วย หนูไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นค่ะ!”
     “คุณน่ะตัวยุ่งเลย ได้ข่าวชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจะตายหมอรู้”
     “เอ๊ะอิ!”
     เมษขัดใจจนอยากจะร้องกรี๊ด แต่ก่อนที่เธอจะปล่อยเสียงด่าแสบแก้วหูออกมาหมอเอกก็หันมากวนใส่อีกรอบ
     “อยู่เฉยๆ น่ะอย่าขัดขืน ยอมร่วมมือกับหมอแป๊บเดียวก็เสร็จ ทุกคนจะได้มีความสุข”
     เมษอ้าปากค้างพยายามตั้งสติว่าตัวเองฟังผิดหรือไม่! เธอเกลียดอีหมอโรคจิตนี่จริงๆ ให้ตาย!

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนสุดท้ายมาแล้วนะ เศร้าอ่ะ  :mew4: จะจบแล้วเหรอนี่ นิยายเรื่องแรกในชีวิตของเค้า  :hao5: ฝ่าฟันมาตั้งนาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2014 06:19:09 โดย AI.NoR »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
The story after that.

     “แก! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ มันกวนฉันทุกวัน น่ารำคาญเป็นบ้า!”
     ต้นน้ำมองเมษที่บ่นกระปอดกระแปดด้วยอาการสงบนิ่ง
     “แกจะยอมใจอ่อนเพื่อเพื่อนไม่ได้เลยรึไง”
     แต่ต้นน้ำก็ยังเงียบ...
     “เอ๊อีนี่! อย่าเงียบสิ”
     “ก็เราไม่รู้นี่!”
     “ไม่รู้อะไรย๊ะ! รู้อยู่เต็มอกว่ายังรักเขาละไม่ว่า”
     ต้นน้ำค้อนเมษแล้วตอบ
     “เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีต่างหาก อะไรๆ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
     “โอเค แกกลายเป็นคุณหนู แรดขึ้น มีคนตามจีบแกเป็นพรวนทั้งผู้ทั้งเก้ง”
     “เอ๊ะเมษ!”
     ต้นน้ำหันไปเขวี้ยงค้อนใส่เพื่อนรักอีกหนแต่เมษไม่แคร์!
     “แต่ปู่แกจับแกใส่ตะกร้าล้างน้ำส่งให้อิแม็กซ์ และ! แกก็หลงรักมันหน่อยๆ”
     “ไม่ใช่นะเราไม่ได้รักแม็กซ์!”
     ต้นน้ำรีบร้อนรนปฏิเสธก่อนจะเสียงอ่อยลง
     “ก็... ก็แค่คิดว่าเขาก็ดี เราไม่อยากร้ายกับเขาอีก”
     “แกชอบมัน”
     ต้นน้ำทำท่าจะเถียงแต่เมษชิงพูดขึ้นก่อน
     “อย่าปากแข็ง! ฉันรู้ แกหลอกฉันไม่ได้หรอก”
     เมษกอดอกเชิดหน้าทำท่าราวแม่หมอมูเตรูทำเอาต้นน้ำแอบหมั่นไส้
     “เราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะไม่รักใคร! อยู่คนเดียวแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
     สองเพื่อนรักเบ้ปากใส่กันก่อนที่ต่างคนจะต่างยิ้มออกมา เมษทนหมั่นไส้เพื่อนช่างแอ๊บไม่ไหวเลยจัดไปอีกดอก
     “จ้า ... แหม ผู้ชายอุดมสมบรูณ์ดีสินะเลยอยากโสด”
     “บ้า! ไม่มีอะไรซักหน่อย”
     สีหน้าแดงระเรื่อแอบอมยิ้มของต้นน้ำทำให้เมษมีความสุขตามไปด้วย เพื่อนของเธอแฮปปี้เธอก็ดีใจ เพียงแต่...
     “ฉันถามแกจริงๆ นะนังต้น แกจะเอายังไง?”
     “บอกตามตรงเราไม่รู้อ่ะเมษ ที่ผ่านมาเราก็เอาแต่เรียน มีแต่แม็กซ์ที่พาเราไปเปิดหูเปิดตา พอเรามีพี่ชัชเราก็ทุ่มเททุกอย่างให้เขา แต่มันเจ็บอ่ะ ถ้าจะให้กลับไปคบกันอีกเราก็กลัว แต่กับแม็กซ์ เรา... เราชอบความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่รู้สิ ตอนนี้เราสนุกมากๆ เลยนะ มีเพื่อนแก๊งอื่นเพิ่ม มีคนที่ไม่รังเกียจคนแบบเรา เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เที่ยว ทำเรื่องสนุกๆ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ เยอะแยะ เมื่อก่อนเราไม่เคยได้ทำแบบนี้เลยนะ”
     “แกติดใจชีวิตโสดมากกว่าเหรอ?”
     ต้นน้ำหงอยไปเล็กน้อยเมื่อคิดถึงคำตอบ บางครั้งการมีความรักก็ใช่ว่าจะมีความสุข เขาตัดสินใจพูดความรู้สึกของตัวเองให้เมษฟัง
     “เปล่า ... แต่จะมีอะไรรับประกันล่ะว่าพี่ชัชจะไม่ทำให้เราเจ็บอีก ขนาดเมื่อก่อนเราพยายามแทบตายเรายังไม่ดีพอจะหยุดพี่เขาเลย”
     “งั้นแกก็ไม่ต้องหยุดเขาสิ ให้เขาหยุดแกแทน”
     “ยังไง?”
     “ก็แบบ... เอางี้แมะ”
     แล้วต้นน้ำกับเมษก็กระซิบกระซาบกัน แผนการต่างๆ ถูกวาดไว้โดยไอเดียของสาวน้อยราศีเมษ
     “จะดีเหรอ? พี่เขาเป็นพระนะ เราไม่อยากทำมันบาป”
     “แล้วมันไม่ดีตรงไหน ดีออกถ้าเขาทนไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ในผ้าเหลืองแล้ว ไม่ผ่าน ศาสนาจะได้ไม่เสื่อม”
     “แต่ยั่วพระ มันบาปนะเมษ”
     “โอ้ยไม่ได้ให้แกไปยั่ว! แค่ให้ไปลองเซิฟๆ ดูความรู้สึกเขา แกจะได้แน่ใจความรู้สึกตัวเองด้วยไงว่าเขายังใช่รึเปล่า? ถ้าใช่ก็ฉุดพี่เขาออกจากผ้าเหลืองเลยแก แต่ถ้าเขาสงบจริงๆ แกจะได้ตัดใจไปเลยไง อนุโมทนากับผัวเก่าแล้วหาผัวใหม่สบายใจเฉิบ โฮะๆ”
     “บ้า! บอกแล้วไงว่าไม่คิดจะมีใครแล้ว”

     “สรุปว่าหนูช่วยได้แค่นี้นะคะ ที่เหลือหมอไปจัดฉากเอาเองละกัน ยังไงนังต้นมันก็ตกลงแล้ว”
     “แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะคนสวย”
     คำหยอดของอีตาหมอโรคจิตทำเอาเมษแทบอ้วก!
     “แหวะ!”
     “เอ๋? หมอที่ไหนยกเครื่องให้เหรอ มีมดลูกกับเขาด้วย?”
     “กรี๊ด! อีหมอบ้า อีหมอปากเสีย!”
     “หนูเมพูดไม่เพราะไม่สุภาพกับผู้ใหญ่เลยนะ ฮ่าๆ”
     “แค่นี้นะคะหนูมีธุระต่อ!”
     “เดี๋ยวๆ!”
     “อะไรอีก!”
     “อย่าทำเสียงแบบนั้นใส่หมอสิ หมอก็แค่ล้อเล่นเอง”
     “เหรอค้า!”
     เมษจิกเสียงใส่ปลายสายด้วยความหมั่นไส้
     “โอเคๆ หมอขอโทษ แซวแรงไปหน่อย”
     “มีอะไรก็รีบๆ พูดมาค่ะ หนูไม่ได้ว่างงานแบบหมอบางคน!”
     “หมออยากเลี้ยงขอบคุณหนูเมที่ช่วยเรื่องนี้ไง”
     “อ๋อไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เลิกโทรมากวนหนูก็พอ!”
     “ได้ไง หมอไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร ไปกินข้าวกัน”
     “ไม่ค่ะ เห็นหน้าหมอแล้วเกรงว่าจะกินไม่ลง!”
     เมษตอบปฏิเสธแล้วตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดีทิ้งให้เอกดนัยหัวเราะเพราะขำอาการรังเกียจเขาอย่างไม่ปิดบังของสาวน้อยคนนี้ สาวๆ คนอื่นมีแต่จะอยากจับเขาแท้ๆ ยิ่งเป็นสาวประเภทสองหากมีผู้ชายมาจีบก็น่าจะดีใจแต่เมษกลับแปลกกว่าใครที่เขาเคยรู้จัก กะเทยเรียบร้อยรักนวลสงวนตัวน่ะเขาเคยเห็น แต่กะเทยที่รังเกียจผู้ชายโปรไฟล์สูงอย่างเขาแบบเมษเขาพึ่งเคยพบ!

     ระหว่างที่เมษกำลังทานอาหารกลางวันกับเพื่อนก็มีเสียงเตือนของไลน์ดังขึ้น เมษจึงหยิบมาเปิดดูแล้วก็พบกับรูปของเอกดนัยส่งยิ้มกวนๆ มาให้ คุณหมอหนุ่มนั่งอยู่ในห้องพักมีข้าวกล่องวางเป็นพร็อพ ทำหน้าตาเบื่ออาหาร และมีข้อความกำกับ ‘บอกเห็นหน้าหมอแล้วเบื่ออาหาร เลยส่งรูปมาให้ ไดเอทให้สำเร็จนะคนสวย’
     เมษกำโทรศัพท์ในมือแน่น นึกอยากเขวี้ยงทิ้งแต่ก็เสียดายจึงกดตอบไป ‘ผอมสวยอยู่แล้วค่ะ ออกกำลังทุกวัน ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร’
     สักพักก็มีข้อความตอบกลับจากคุณหมอจอมกวน ‘เป็นกะเทยต้องรักสวยรักงาม อย่าปล่อยให้ไขมันกองผิดที่ล่ะ ป.ล. ผมว่าคุณเลือกเบอร์เล็กไปหน่อยนะ ใหญ่อีกนิดกำลังเร้าใจเลย’
     เมษแทบกรี๊ด! เธออยากเป็นผู้หญิงสมบรูณ์สวยตามสภาพไม่ใช่พยายามสวยจนโอเวอร์ด้วยการอัพไซส์เอาไว้ดึงดูดใคร เธอพิมพ์ตอบอย่างรวดเร็ว ‘หนูสวยทั้งตัวค่ะ ขอบคุณในความหวังดีแต่ไม่จำเป็น’
     “เม้ากับใครยะ? เมามันเชียวแก”
     แม้เพื่อนจะสาระแนแต่เมษก็ไม่หวั่น เธอตอบปฏิเสธไปตรงๆ ด้วยอารมณ์คุกรุ่น!
     “เปล่าย่ะด่าคน!”
     “แหม เดี๋ยวนี้มีลับลมคมในนะยะหล่อน”
     “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ! โอ้ยอย่ามาเซ้าซี้ฉันได้แมะ รมณ์เสีย!”

     แต่เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน เมษก็ต้องตกใจเมื่อพบมนุษย์ลุงคนหนึ่งมารอ เธอพยายามจะเดินหลบแต่หมอโรคจิตบางคนกลับฉีกยิ้มแล้วตรงมาหาเธอ!
     “จะหนีหมอไปไหน เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
     “โทรเอาก็ได้ จะมาทำไม”
     “ก็หนูเมไม่ยอมรับโทรศัพท์หมอ”
     เอกดนัยตอบสบายๆ ไม่แคร์สายตาใครต่างกับเมษที่อายจนแทบซุกแผ่นดิน ใครจะไปอยากรับโทรศัพท์หมอโรคจิต! แต่เมษก็ได้แค่คิดไม่กล้าพูดออกไป ตอนนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอและเอกดนัย ด้วยสภาพหนังหน้าของเขาและเธอดูยังไงก็ไม่ใช่ญาติกันแน่ๆ เมษไม่อยากจะคิดเลยว่าคนอื่นจะเม้าเรื่องของเธอว่าอย่างไร โดยเฉพาะการที่เอกดนัยเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่ยังหล่อดูดีเหมือนสามสิบต้นๆ แถมยังดูรู้ว่ามีตังค์! และเขามาหาเธอที่เป็นกะเทยสภาพสมบรูณ์!
     “ไปคุยกันที่อื่น! ได้มั้ยคะ?”
     เมษเอ่ยเสียงเข้มแต่แล้วเมื่อเห็นหมอบางคนนิ่วหน้าไม่พอใจเธอก็เติมหางเสียง เอกดนัยยิ้มร่าที่ลูกแมวเลิกขู่เขา
     “เอาสิ ไปหาอะไรกินกัน หมอหิวชะมัด จะได้คุยเรื่องแผนลับๆ ของเราสองคนต่อ”
     อีหมอไร้ยางอาย! เมษได้แต่ด่าอยู่ในใจ ฟ้าส่งเธอมาเกิดแล้วทำไมต้องส่งคนปากร้ายกว่าเธอมาเกิดด้วยหนอ...

     ระหว่างทานอาหาร เมษก็ต้องใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีสั่งให้ตัวเองระงับความโกรธอีกรอบ!
     “คุณหมอว่ายังไงนะคะ!"
     “บริษัทไอ้ชัชจะจัดสัมมนา หมอจะพาหนูเมกับต้นไปด้วย”
     “ไม่ใช่ๆ ก่อนหน้านั้น”
     “ไอ้ชัชต้องไปสัมมนา หมอเลยปิ๊งไอเดีย”
     “ไหนบอกว่าพี่แกบวชยังไงละคะ!”
     “อืมมันบวชอยู่สองอาทิตย์ บริษัทให้ลาได้แค่นั้น”
     “หนูนึกว่าพี่เขาบวชตลอดชีวิตซะอีก! หมอพูดซะ!”
     “ตรงไหนๆ หนูเมชอบคิดไปเองจริงๆ”
     “หมอหลอกหนูกับต้น!”
     “หมอไม่ได้หลอก เราสองคนคิดไปเองต่างหาก หมอเป็นพุทธศาสนิกชนนะ หมอไม่ทำอะไรให้เพื่อนผ้าเหลืองร้อนหรอก”
     เอกดนัยยิ้มพรายน่าตบ เขาหยิบพิซซ่าเข้าปากแล้วพูดต่อ
     “แต่เรื่องที่ไอ้ชัชมันเปลี่ยนไปก็เรื่องจริงนะ ซึมกะทือ ไร้ชีวิตชีวา โหมงานจนสุขภาพย่ำแย่ หนูเมก็รู้ไม่ใช่เหรอ?”
     เป็นความจริงที่เมษไม่กล้าบอกต้นน้ำ บางครั้งชัยชัชก็ทำทีมาสั่งข้าวกล่องร้านเธอ แต่ทุกครั้งจะแอบถามเรื่องต้นน้ำจากแม่ของเธอเสมอ เมษรู้ดีว่าอดีตแฟนของเพื่อนไม่มีใคร ยังคงรักและรอเพื่อนของเธอตลอดมา แต่ว่าต้นน้ำ... เธอต้องเคารพการตัดสินใจของเพื่อน!
     ช่วงหลังนี้เพื่อนของเธอเข้าสังคมเก่งขึ้นเลยไม่ค่อยติดเธอแจเหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงกระนั้นต้นน้ำก็ยังชอบโทรมาเล่าทุกอย่างให้เธอฟังอยู่ดี
     เมษรู้สึกว่ารายชื่อผู้ชายที่เข้ามาพัวพันกับเพื่อนของเธอชักเยอะจนน่าหมั่นไส้ เดี๋ยวก็พี่ธันย์อย่างโน้นอย่างนี้ คิวว์ชวนไปนั่นไปนี่ น้าอัฐเท่จัง มิวนิคงี่เง่ามาก แถมยังมีแม็กซ์กับอาร์มที่ชักจะยังไงๆ เข้าไปทุกที ถ้าเพื่อนของเธอจะมีใครใหม่ก็คงไม่ยากในเมื่อตัวเลือกเพียบ แต่เมษรู้ดีว่าลึกๆ แล้วที่ต้นน้ำไม่ยอมมีใครจนต้องแกล้งโกหกคนที่มาจีบว่ามีแฟนแล้วก็เพราะต้นน้ำยังไม่ลืมชัยชัช
     เอกดนัยมองเมษที่ใช้ความคิดจนเผลอทำหน้ายุ่งแล้วแอบตีปีกในใจอย่างเริงร่าว่าเพื่อนของเขายังพอมีหวัง
     สาวน้อยคนนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนสาวประเภทสองทั่วไป แรง ปากจัด แกร่งกล้าไม่เกรงสายตาใคร แต่ลึกๆ ข้างในก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ การพยายามเก็บงำความอ่อนแอของตัวเองแล้วทำเป็นเก่งก็น่าสนใจ หรือนี่จะเป็นนิสัยของคนราศีเมษกันหนอ? เขาถูกใจความมีชีวิตชีวาของเมษ ท่าทางโอเวอร์ก็ชวนมอง เมษสร้างสีสันให้ชีวิตน่าเบื่อของเขา เอ... หรือเขาจะติดรสนิยมกินเด็กจากเพื่อน?
     ในที่สุดเมษก็คิดได้
     “หนูบอกไว้ก่อนนะคะ ที่หนูยอมร่วมมือกับหมอก็เพราะอยากให้นังต้นมันเคลียร์ความรู้สึกตัวเอง แต่เรื่องผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงหนูไม่ยุ่ง”
     “งั้นถือว่าเรานัดกันแล้วนะ หนูเมอย่าลืมเตรียมชุดว่ายน้ำสวยๆ ไปด้วยล่ะ”
     เมษงง อีตาหมอนี่จะเปลี่ยนเรื่องเร็วไปมั้ย?
     “เกี่ยวอะไรกับชุดว่ายน้ำคะ?”
     เอกดนัยนึกขำเมษ แม้จะตามเกมเขาไม่ทันแต่ก็ยังอุตส่าห์จิกเขาทางน้ำเสียงแทน เขาใช้สายตามองไปยังเรือนร่างบอบบางตรงหน้าด้วยแววตาของเสือแล้วพูดขึ้น
     “อุตส่าห์ไปทำมาทั้งตัว เก็บไว้ดูคนเดียวเสียดายแย่ ให้หมอช่วยดูให้มั้ยหมอเห็นมาเยอะนะ จะได้บอกได้ว่าทำมาเป๊ะเปล่า?”
     อีหมอปากหมา! เมษข่มโทสะที่อยากจะเอาถาดพิซซ่าฟาดใส่หน้าหมอลามก!
     “หนูไม่ได้ทำเพราะกะจะเอาไปอวดใครค่ะ!”
     “เสียดาย ... ทำมาเป็นแสน ไม่คิดจะใช้หน่อยเหรอ?”
     “ก็เพราะทำมาแพงไงคะเลยต้องทะนุถนอมกันหน่อย ไม่ใช้ทิ้งใช้ขว้าง”
     “แล้วไปผ่ามาแบบไหนล่ะ ต้องใช้กราฟรึเปล่า?”
     “จะแบบไหนก็เรื่องของหนู!”
     “ดูแลดีรึเปล่า? ยังใช้โมลทุกวันมั้ย? ระวังมีปัญหานะ ถ้ามันตื้นก็ต้องขยาย สนใจอุปกรณ์หมอมั้ย? หมอให้ใช้ฟรีๆ”
     เอกดนัยถามพลางทานพิซซ่าด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนคุยสารทุกข์สุกดิบจนเมษอยากจะกรี๊ด เธอชักจะทนปากอีหมอโรคจิตคนนี้ไม่ไหวแล้ว!
     “คุณหมอคะ! หนูไม่ตลกด้วยนะคะ ถึงหนูจะเป็นกะเทยแต่ช่วยให้เกียรติหนูด้วย!”
     เมษวีนแตกแต่เอกดนัยยังทองไม่รู้ร้อน เขารับมือด้วยการหยิบพิซซ่าเข้าปากเคี้ยวหยับๆ ก่อนจะกลืนและพูดคุยต่อเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
     “หมอก็จริงจังนะ หมอเป็นหมอศัลย์ก็ต้องสนใจเรื่องผ่าตัดเป็นธรรมดา”
     ท่าทีปกติของเอกดนัยชวนให้เมษข้องใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจำใจเชื่อ
     “หนูเมไม่ทานอีกหน่อยเหรอ? พิซซ่าเตาถ่านร้านนี้อร่อยจะตาย อุตส่าห์พามาเลี้ยง”
     อยู่กับหมอปากหมาใครจะไปมีอารมณ์กิน! เมษด่าเอกดนัยไปเจ็ดชั่วโคตรแล้วแต่ก็ยังพยายามรักษามารยาทด้วยการตอบออกไปว่า
     “ไม่เอาล่ะค่ะ หนูกลัวอ้วน”
     “หึๆ ไหนใครบอกหมอว่าหุ่นสวยไม่ต้องไดอดไง”
     กรี๊ด! เมษแอบกรีดร้องอยู่ในใจครั้งที่ร้อย

     “ฉันทนไม่ไหวแล้วนะแก มันพูดแบบนั้นกับฉันได้ยังไง หลอกด่ากันชัดๆ มันว่าฉันอ้วน!”
     และเป็นอีกครั้งที่เมษต้องโทรมากรี๊ดให้ต้นน้ำฟัง
     “ฉันเกลียดอีหมอนี่ วิเศษวิโสมาจากไหน กะเทยก็คนนะย๊ะ มันดูถูกฉันอ่ะแก๊! ฮือๆ”
     “เอ่อเมษ ... เราว่า... ถ้าเราพูดไปแล้วนายห้ามโกรธเรานะ”
     ต้นน้ำอ้ำอึ้งจนเมษหมดอารมณ์โศก
     “อะไรย๊ะ? คนจะเศร้าอย่าขัดได้แมะ!”
     “พี่ชัชเคยบอกว่าหมอเอกเป็นคาดิโอศัลย์”
     “ละมันคืออะไรล่ะ? ฉันจะรู้มั้ยยะ ไม่ได้มีผัวอยู่สาธารณะสุข!”
     “หมอเอกผ่าแต่ระบบหัวใจ ไม่ใช่ศัลยกรรมตกแต่ง เราว่านะ... เราว่าหมอเอกเขาจีบนายนะเมษ”
     “จีบอะไร! มันหาเรื่องฉัน มันดูถูกกะเทย มันเอาปมด้อยมาถากถางฉัน มันเหยียดหยามหาว่ากะเทยต้องใจง่าย!”
     “แต่เราว่าหมอเอกคงไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกมั้ง?”
     “จะคนแบบไหนฉันไม่สน! ฉันรู้แต่ว่าฉันเกลียดม๊าน! แกได้ยินมั้ยนังต้น ฉันเกลียดอีหมอโรคจิตนี่!”
     เมษวีนจนต้นน้ำต้องยอมแพ้ เสียงกรี๊ดของเพื่อนเขาแสบแก้วหูจริงๆ ให้ตาย!
     “โอเคๆ เราเข้าใจแล้ว...”
     “เฮ้อ... ค่อยยังชั่วหน่อย ค่อยหายโมโห โล่ง!”
     “อืม”
     “อ๊ะเกือบลืมเลย! พักเรื่องอีหมอบ้าไว้ก่อน แล้วเรื่องนั้นอ่ะแกจะเอายังไง ตกลงมั้ย?”
     “เรา...”
     “อย่าบอกนะว่าปอด เฮอะ!”
     “ไม่ๆ เรา... โอเค เราตกลง!”
     “มันต้องแบบนี้สินังต้น!”
     “อืม...”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อา... คู่นี้ฉะกันแร๊งส์!   :m31:   
ตบหมอเอกเลยเมษตบเยย มาหลอกคนอื่นว่าพี่ชัชบวชไม่สึกได้ไง ย้อนเจ็บอีก น่าตบจริงๆ   :fire:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2014 06:19:45 โดย AI.NoR »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
The story after that.

     ชัยชัชต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเอกดนัยพาใครมาสัมมนาด้วย เขาไม่ได้ใส่ใจเมื่อเพื่อนรักบอกว่าจะพาแฟนใหม่มาเที่ยวด้วยโดยมีผู้ติดตามอีกหนึ่ง แต่เมื่อร่างคุ้นตาของสาวน้อยคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถและตามด้วยคนที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจชัยชัชก็นิ่งไป!
     แม้จะยืนห่างกันหลายเมตรแต่ชัยชัชก็จำต้นน้ำได้ตั้งแต่แว็บแรกที่เห็น ต่อให้รูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปมากเพียงไรเขาก็จำได้ไม่มีวันลืม ในสายตาของชัยชัชไม่มีเอกดนัยและเมษที่แกล้งกระหนุงกระหนิงกันเลยแม้แต่น้อย เขาให้ความสนใจแต่กับต้นน้ำจนไร้สมาธิ
     “พี่ชัช ฟังอยู่รึเปล่า? กรุ๊ปของหมอถวิลอยากได้ห้องเพิ่ม”
     ชัยชัชที่พึ่งได้สติรีบหันมาสนใจเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ยังคอยเหลือบไปมองแขกกรุ๊ปของเอกดนัยเป็นระยะ แม้เขาจะพยายามทำตัวตามปกติมากเท่าไหร่แต่ท่าทางไม่ปกติหลายอย่างก็บ่งบอกถึงภายในใจที่ร้อนรนยิ่งกว่าไฟ เขาอยากเดินเข้าไปหา ทักทาย อยากสนทนากับเด็กคนนั้นเหลือเกิน แต่ภาพของต้นน้ำที่ดูเฉยเมยกับเขาราวคนไม่รู้จักก็ทำให้เขาไม่กล้าเดินเข้าไป ต้นน้ำกับเมษทำตัวประหนึ่งนักท่องเที่ยว ทั้งสองคนเซลฟี่กันสนุกสนานไม่ชายตามามองเขาเลยแม้แต่น้อย

     เอกดนัยได้บ้านพักส่วนตัวแบบวิลล่าหนึ่งหลังภายในบ้านมีสองห้องนอนจึงแบ่งสรรกันได้ไม่ยาก เขาไม่ใส่ใจคำครหาที่ว่าเด็กใหม่ของเขาเป็นสาวเทียมเลยแม้แต่น้อย คุณหมอหนุ่มชิลล์มากเสียจนคนนินทาต้องผิดหวัง เขายังกวนเด็กทั้งคู่ได้อย่างหน้าระรื่น
     “หนูเมเล่นเป็นแฟนหมอก็ต้องนอนห้องเดียวกับหมอสิ”
     “เสียใจค่ะ หนูจะนอนกับเพื่อน!”
     เมษพูดใส่หน้าคนพามาเที่ยวก่อนจะปิดประตูกั้นเสียงหยอกล้อของอีตาหมอโรคจิต ต้นน้ำที่มองปฏิกิริยาของทั้งสองคนแอบอมยิ้มในใจเงียบๆ ไม่กล้าแสดงออกให้เพื่อนเห็นเพราะกลัวลูกหลง
     “โอ๊ย! ได้อยู่คนเดียวซะที ฉันอ่ะรำคาญมันจะแย่”
     “จุ๊ๆ อย่าพูดดังสิ เดี๋ยวหมอเอกได้ยินก็เสียใจหรอก”
     “ดี! จะได้รู้ว่าฉันไม่มีจิตพิศวาสมัน”
     “แน่เหรอ...”
     ต้นน้ำยิ้มอย่างรู้ทันจนเมษเขินหน้าแดง
     “เอ๊ะแกนี่! ไม่ต้องมาล้อฉันเลย ละของแกล่ะ แหม... ทำเป็นเมินเขานะย๊ะ”
     “เปล่าซะหน่อย”
     ต้นน้ำแก้ตัวแล้วแกล้งทำเป็นยุ่งกับการรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เมษจึงมานั่งข้างๆ แล้วสะกิด แต่ต้นน้ำก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ เมษเลยยื้อสัมภาระออกจากมือเพื่อนแล้วเปิดประเด็น
     “คิดไง?”
     “อะไร?”
     ต้นน้ำแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
     “ก็เรื่องผัว”
     เมษหลุดปากตามความเคยชินแต่พอเห็นสายตาของต้นน้ำก็รีบเปลี่ยนคำพูด
     “เรื่องแฟนเก่าแก”
     “ละให้คิดอะไรล่ะ?”
     “ก็แบบเห็นแล้วแกรู้สึกยังไง?”
     “ไม่รู้สิ”
     ต้นน้ำแกล้งนิ่งต่อจนเมษชักทนไม่ไหว
     “โอ้ย! อย่ามาฟอร์ม”
     “เปล่าซะหน่อย จะให้เราคิดอะไรล่ะ พี่เขาไม่เห็นจะสนใจเราเลย”
     “แหมนี่ขนาดไม่สนนะยังหันมาทุกห้าวิ!”
     “ก็มองเฉยๆ ไม่เห็นจะเข้ามาหาเราเลย”
     “ก็แกเล่นเมินเขาแบบนั้นเขาคงกล้ามาหรอก”
     บทจะทิฐิต้นน้ำก็ดื้อแสนดื้อ หยิ่งจนน่าหมั่นไส้ เมษชักเพลียกับนิสัยของเพื่อนรัก
     “แกน่าจะยิ้มให้เขาซักหน่อย ไม่งั้นป่านนี้คงเรียบร้อยไปละ”
     “ทำไมเราต้องยิ้มให้เขาด้วย ทีเขายังไม่ยิ้มให้เราเลย”
     “เอ๊ะอีนี่!”
     “นายบอกให้เราเอาคืนเขาไม่ใช่เหรอเมษ เรื่องอะไรเราต้องไปปั้นหน้ายิ้มยอมเขาทุกอย่างด้วย ต้นน้ำคนเก่าตายไปละ!”
     เมษมองท่าทางงอนหน้าหงิกของเพื่อนแล้วก็เบะปากใส่
     “จ้า ... เฮอะ! ฉันจะดูว่าแกจะเชิดใส่เขาไปได้กี่น้ำ ระวังเถอะ เล่นตัวมากเขาจะหันไปหาคนอื่นจริงๆ เห็นแม่ชะนีพวกนั้นมั้ย? เดินตามผัวแกเป็นฝูง!”
     แม้จะปากแข็งทำปากเก่งแต่ต้นน้ำก็แอบลังเล สายตาที่หันไปมองเมษมีความกังวลเจืออยู่ชัด!

     “มึงพาต้นมาได้ไง?”
     “ก็เด็กมันอยากมาเที่ยวกัน”
     “ทำไมมึงไม่บอกกูก่อน”
     “แล้วทำไมกูต้องบอกมึง”
     “ไอ้หมอ!”
     “ทำไมวะ ถ้ากูบอกแล้วมึงจะโดดงานนี้รึไง? ตอนกูบอกมึงว่ากูจะจีบหนูเมมึงยังไม่สนใจ กูถามว่าจะให้กูช่วยมั้ยมึงก็บอกไม่อยากสนอะไรแล้ว เจอตัวจริงละทำสำออยเหรอวะ”
     “แล้วมึงจะให้กูทำยังไงเขาขอเลิกกับกู! กูเหี้ยใส่เขาไว้มากกูไม่มีหน้าไปยื้อเขาไว้หรอก ที่สำคัญ! เขามีคนใหม่แล้ว มึงจะให้กูทำอะไรอีก เขาไม่แคร์กูหรอก!”
     เสียงในสายเงียบไปก่อนจะมีเสียงสูดจมูก เอกดนัยยิ้มที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทีนี้ก็เหลือแต่รอให้ต้นน้ำใจอ่อน เพื่อนของเขาหงอยขนาดนี้ต้นน้ำจะใจแข็งก็ให้มันรู้ไป หึๆ
     “เขาไม่แคร์มึงก็สาสมกับที่มึงทำไว้ มึงจะจมอยู่กับความเศร้าก็ตามใจแต่กูจะมีความสุขกับหนูเม อุตส่าห์มีโอกาสกูไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก กูไม่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ กูเชื่อเรื่องความพยายาม กูไม่นั่งรอให้พระเจ้ามาเมตตากู กูจะตื้อจนกว่าเขาจะยอมใจอ่อน
     เอกดนัยแกล้งพล่ามให้เพื่อนรักรุ่นน้องฟัง เขาได้แต่หวังว่าชัยชัชจะตกผลึกได้และมีกำลังใจฮึดสู้อีกครั้ง

     คุณหมอต้องเข้าประชุมสัมมนา แต่ผู้ติดตามมีเวลาว่างจนถึงเย็น เมษและต้นน้ำเลยพากันไปเดินเล่นรอบโรงแรม บรรยากาศหรูหราทำเอาเมษตาลุกวาว ตั้งใจจะเก็บบรรยากาศให้ครบทุกมุม ต้นน้ำแม้จะแอบขำแต่ก็เอากับเขาด้วย ทั้งคู่จึงเป็นคู่หูบ้ากล้องไปโดยปริยาย ต้นน้ำเพลิดเพลินกับการมาเที่ยวจนลืมจุดประสงค์หลัก เขาสนุกสนานกับการหามุมถ่ายรูปจนไม่ระวังถอยหลังไปชนแขกคนอื่น
     “ขอโทษครับ”
     “Oh! Sorry”
     เมื่อเห็นว่าเป็นแขกต่างชาติต้นน้ำจึงตั้งสติแล้วกล่าวขอโทษอีกหน
     “I’m sorry”
     เขาพยายามขอโทษพร้อมกับแจกยิ้มสยามไปให้ หนุ่มฝรั่งคนนั้นจึงยิ้มตอบก่อนจะเดินจากไป แต่เมษที่ยืนอยู่ใกล้ๆ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างเลยอดไม่ได้
     “แหมๆ เล่นหูเล่นตานะยะ”
     “บ้า!”
     “มันมองแกตาค้างเลย คนสวยยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน!”
     “สวยไปมั้ง เขาเลยนึกว่าเป็นผู้หญิง”
     ต้นน้ำตอบพร้อมกับหันมายิ้มด้วยมาดของคนที่เหนือกว่าอย่างน่าหมั่นไส้
     “อ๊ายๆ นังต้น! เดี๋ยวนี้แรดนะแก”
     “ฮ่าๆ”
     เมษกรี๊ดกราดวิ่งไล่ตีต้นน้ำที่วิ่งหนีชุลมุน คนทั้งคู่ลืมทุกๆ อย่างสนใจแต่ความสุขตรงหน้าจึงไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งแอบยืนมองอยู่ห่างๆ ได้พักใหญ่
     ชัยชัชแอบแว่บออกมาจากห้องประชุมเพื่อมาหาต้นน้ำ แต่เขากลับไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปจึงเอาแต่แอบดูเงียบๆ ท่าทางร่าเริงของต้นน้ำทำให้เขาเผยรอยยิ้มเศร้าๆ ออกมา เขาดีใจที่เห็นต้นน้ำมีความสุขแต่ในขณะเดียวกันก็ใจหายเมื่อคิดได้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเขาต้นน้ำก็มีความสุข!

     ต้นน้ำกับเมษตัดสินใจจะไปว่ายน้ำ แต่ว่า...
     “เร็วๆ สิแกฉันอยากว่ายน้ำ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ ไปอวดอีพวกนั้นด้วย”
     เมษที่ใส่ชุดว่ายน้ำทูพีชคลุมทับด้วยเอี๊ยมขาสั้นพูดพลางหมุนตัวแอ่นอกบิดเอวสะดีดสะดิ้ง
     “ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วยล่ะ?”
     ต้นน้ำไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมษถึงเร่งเขามากผิดปกติ เขาใส่กางเกงว่ายน้ำเอวต่ำตัวสั้นอวดบอดี้เพ้นท์ลายเถาวัลย์รอบต้นขา ด้วยความที่บ้านพักอยู่ไม่ไกลจากสระว่ายน้ำต้นน้ำจึงมีแค่ผ้าเช็ดตัวคลุมทับมาเพียงผืนเดียวเตรียมพร้อมลงเล่นน้ำสุดๆ
     “เอ้า! เดี๋ยวเกิดอีหมอโรคจิตนั่นประชุมเสร็จฉันก็อดสิ”
     ต้นน้ำหัวเราะตัวงอด้วยความขำ
     “อย่ามาหัวเราะนะแก เห็นสายตามันละขนลุก!”
     “ขนลุกหรือฟู?”
     “ว๊ายนังต้น! ทะลึ่ง!”
     “ฮ่าๆ”
     แต่เมื่อเดินไปถึงสระน้ำทั้งคู่ก็ได้พบกันฝรั่งคนนั้นโดยบังเอิญ ต้นน้ำเผลออายคอนแทคกับเขาเลยส่งยิ้มไปให้ เมษเห็นจึงอดไม่ได้แอบหยิกเพื่อนรักเบาๆ
     “ชม้ายตาอ่อยสุดชีวิตเลยนะ”
     “บ้า! แค่ยิ้มให้เฉยๆ”
     “สงสัยแกจะได้ผัวใหม่ก็งานเนี๊ยะ มันมองตามแกตลอดเลย”
     “บ้า ไม่ได้คิดอะไร ก็เขายิ้มให้เราอะ ไม่ยิ้มตอบเสียชื่อคนไทยแย่”
     “ย๊า... สนป่ะ ฉันช่วยเอามะ?”
     “ช่วยไร?”
     ต้นน้ำถามแต่เมษไม่ตอบ เธอเดินไปส่งภาษาอังกฤษกับฝรั่งคนนั้นอย่างรวดเร็วจนต้นน้ำอึ้ง
     “เอ็กคิ้วมี๊ คูดยูเทคโฟโต้ฟอมี้แอนด์มายเฟรนด์”
     ฝรั่งคนนั้นตอบรับด้วยความยินดี เมษจึงลากต้นน้ำไปยืนแอคเป็นนายแบบคู่กันให้ฝรั่งคนนั้นรัวชัตเตอร์ เมษแอบเหล่สีหน้าเขินๆ แอบอมยิ้มของต้นน้ำแล้วก็หมั่นไส้ เธอว่าเธอจริตมารยาเยอะแล้วแต่ก็ยังแพ้ต้นน้ำเรื่องนี้ เพื่อนของเธอชอบเผลอชม้ายตาใส่คนอื่นไปทั่ว ด้วยนิสัยขี้อายชอบหลบตาคนแต่ก็แอบซนอยากรู้อยากเห็นพอบวกกับสีหน้าและแววตาคู่นั้นใครเผลอสบตาละก็... เฮ้อ ... คิดแล้วกะเทยสุดมั่นอย่างเธอคงต้องยอมยกตำแหน่งมิส(จริต)เวเนฯให้เพื่อนรักไปครอบครอง ปากก็บอกว่าไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงแต่จริตจะก้านการอ่อยเกินหน้าเกินตาเธอเหลือเกิ๊น!
     ลงท้ายคนทั้งสามก็เลยเล่นน้ำด้วยกันจนเพลิน ต้นน้ำสนิทสนมกับเพื่อนใหม่ถึงขั้นรู้ว่าเขาชื่อนิค อายุยี่สิบสี่ รักการท่องเที่ยว ไปมาหลายที่แต่พึ่งเคยมาประเทศไทยครั้งแรก ชอบประเทศไทยมากเพราะผู้คนน่ารัก แต่น่าเสียดายว่าต้นน้ำเล่นไลน์ส่วนนิคเล่นวอทแอพ!
     เอกดนัยมองสาวน้อยในชุดทูพีชสีส้มติดระบายหวานแหววแล้วยิ้มกริ่มผิดกับคนข้างๆ ที่ลมเพชรหึงกำลังก่อตัว!
     ชัยชัชมองภาพในสระด้วยดวงตาวาวโรจน์ อารมณ์คุกรุ่นเพราะเห็นอดีตเมียรักเฟลิร์ตใส่ผู้ชายคนอื่นจนต้องขบกรามแน่น
     เป็นจังหวะเดียวกับที่เมษหันมาเห็นทั้งคู่พอดีเธอจึงหันไปสะกิดเพื่อน และเมื่อต้นน้ำหันมาเห็นชัยชัชเขาก็ตกใจจนหน้าถอดสีแต่แล้วก็นึกขึ้นได้จึงเชิดหน้าท้าทายกลับไปทำเป็นไม่สนใจสายตาหึงหวงของชัยชัช ทั้งสองบอกลานิคแล้วเลิกเล่นน้ำ ต้นน้ำสะกิดให้เมษหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ตนโดยไม่ยอมขึ้นจากสระ เขาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ห่มคลุมทั้งตัวปกปิดร่างกายจากสายตาของอดีตคนรัก เขาไม่ต้องการให้ชัยชัชเห็นหลักฐานระบุเจ้าของหัวใจตรงด้านหลัง
     ส่วนเมษเองก็เริ่มคิดหนักว่าตนน่าจะหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาแทนเอี๊ยมแถมจากชุดว่ายน้ำเพราะรับรู้ได้ว่ากำลังถูกสายตาลามกของหมอหื่นกามแสกนรูปร่างของเธอไปทุกสัดส่วน!
     “เขาให้กินข้าวเย็นให้เสร็จที่นี่เลยแล้วค่อยไปลงเรือตอนทุ่มนึง มึงอย่าลืมเอาบัตรไปด้วยล่ะ”
     ชัยชัชทำเป็นพูดเรื่องงานแต่กลับมองตามต้นน้ำทุกก้าว จนกระทั่งเด็กทั้งคู่เดินผ่านจุดที่พวกเขายืนอยู่ในระยะประชิด เขาก็ได้สบตากับต้นน้ำที่เผลอชำเลืองมาพอดี คนทั้งคู่แลกเปลี่ยนถ้อยคำหลากความรู้สึกภายในเสี้ยววินาที
     สีหน้าบึ้งตึงของชัยชัชยังคงทำให้ต้นน้ำกลัวได้เสมอ เขาหันไปหาเมษทำเป็นเร่งแล้วเดินผ่านชัยชัชไปโดยไม่สนใจทั้งๆ ที่สั่นไปทั้งตัวเพราะสายตาคู่นั้น
     เมื่อเห็นปฏิกิริยาของต้นน้ำชัยชัชก็แทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
     “ก็เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอวะ เขาจะไปมีใครมันก็เรื่องของเขาไม่ใช่เหรอ”
     เสียงเตือนสติของเอกดนัยส่งผลให้ชัยชัชเดินจากไปอย่างงุ่นง่าน เมษเห็นสายตาของชัยชัชแล้วก็ขนลุก เธอรู้แล้วว่าทำไมต้นน้ำถึงชอบบอกว่าชัยชัชน่ากลัวมากเวลาโกรธ!
     เอกดนัยเดินตามเมษที่ถูกต้นน้ำทิ้งห่างแล้วชวนคุย
     “เพื่อนของหนูเมไม่เห็นจะหมดเยื่อใยอย่างปากว่า”
     “เพื่อนของหมอก็ไม่เห็นพัฒนาขึ้นตรงไหน!”
     เมษเชิดหน้าพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเร่งฝีเท้าตามต้นน้ำเข้าบ้านพักทิ้งให้เอกดนัยอมยิ้มกับฝีปากของเธอ

     ชัยชัชโกรธจนแทบบ้า! เขาพยายามทำใจเรื่องที่ต้นน้ำมีคนใหม่แต่พอมาเห็นกับตาวันนี้แล้วเขาก็ทนไม่ได้ เขาพยายามอ้างเหตุผลว่าเคืองที่ต้นน้ำเฟลิร์ตใส่คนอื่นทั้งๆ ที่มีแฟน แต่แล้วก็ต้องยอมจำนนกับหัวใจตัวเอง เขาโกรธที่ต้นน้ำทำเป็นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เขาไม่ต้องการให้ต้นน้ำไปเฟลิร์ตใส่คนอื่นไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม เขาอยากเก็บรอยยิ้มนั้นเอาไว้คนเดียว ... แต่มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะเขากับต้นน้ำไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวต้นน้ำอีกแล้ว ชัยชัชนั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ไร้เสียงท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่นในรีสอร์ท

     “มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปกินข้าวชั่วโมงครึ่งนะ แล้วเขาจะพาไปล่องเรือดูหิ่งห้อย”
     “ครับ”
     “ต้นกับหนูเมไปกินกันก่อนเลย ถ้าไม่ว่าอะไรหมอของีบซักพัก”
     “ตามสบายครับ พวกผมดูแลตัวเองได้”
     เอกดนัยยิ้มให้กับมารยาทยามปกติของต้นน้ำ ในเวลาที่ไม่ดื้อไม่ทิฐิต้นน้ำเหมือนลูกแกะเชื่องๆ เสียงจริง ไม่แปลกที่เพื่อนของเขาจะหลงหัวปักหัวปำ แต่ในยามที่แกะตัวนี้โกรธละก็... หึๆ หมาป่าก็หมาป่าเถอะ โดนขวิดไส้ทะลักจนต้องหลบไปรักษาแผลใจเพียงลำพัง ฮ่าๆ
     “ถ้าห้องน้ำไม่พอมาใช้ห้องน้ำในห้องนอนหมอได้นะหนูเม”
     เมษถลึงตาใส่ก่อนจะลากต้นน้ำเข้าห้องแล้วปิดประตูกระแทกใส่หน้าหมอลามกดังปั้ง!
     “แก๊! เห็นสายตาป่ะ ฉันขนลุกเลยย่ะ”
     “อะไร?”
     ต้นน้ำปลดผ้าเช็ดตัวออกแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาเตรียมอาบน้ำ
     “ใครจะอาบก่อน?”
     “แกแหละ ฉันล้างเมคอัพก่อน”
     เมษหยิบคลีนซิ่งออยสำหรับล้างเครื่องสำอางสูตรกันน้ำออกมาเตรียมแล้วหันไปพูดต่อ
     “ฉันหมายถึงผัวแกแหละ สายตาฮีน่ากลัวม๊าก หึงแกสุดๆ”
     “เขาอยากคิดอะไรก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกันแล้ว”
     ต้นน้ำตอบเลี่ยงๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ เมษถอนหายใจก่อนจะลงมือล้างเครื่องสำอาง

     ชัยชัชเก้ๆ กังๆ เดินวนอยู่หน้าบ้านพัก เขาทำใจไว้แล้วว่าอย่างน้อยขอแค่ได้พูดทักทายกันสักประโยคก็พอ เขาไม่หวังให้ต้นน้ำกลับมารักตัวเองเหมือนเดิม เขาแค่อยาก... เขาอยากบอกต้นน้ำว่าเขายังรักเด็กหนุ่มสุดหัวใจ แต่แล้วคนที่เดินออกมากลับเป็นเพื่อนรัก
     “ถ้ามึงมาหาคนอื่นที่ไม่ใช่กู สองคนนั้นเขาไปกินข้าวนานแล้ว”
     “อ่าว!”
     ชัยชัชอุทานด้วยความเสียดายก่อนจะกลบเกลื่อน
     “กูมาตามมึงแหละ ขืนไม่ปลุกมึงก็นอนเพลินลืมกินข้าวอีก ลำบากพวกกูต้องเช็กหมอ”
     เอกดนัยยิ้มเพราะรู้ทัน เขาเดินออกมายืนข้างเพื่อนรัก สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแล้วเอ่ย
     “ตัดไม่ขาดนี่หว่ามึง”
     “แต่กูโดนตัดขาดสนิท”
     “ไม่คิดว่าตัวเองยังมีหวังบ้างเหรอวะ?”
     “ขอแค่ได้คุยกันซักคำกูก็พอใจแล้ว”
     ชัยชัชยิ้มเศร้าๆ แล้วเริ่มระบาย
     “แม่ง เปลี่ยนไปจนกูจำแทบไม่ได้ ไม่เหมือนตอนอยู่กับกูซักนิด เมื่อก่อนขี้อายจะตาย มึงดูตอนนี้ดิ”
     “เขาเป็นยังไงมึงรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอวะ”
     “กูไม่รู้แล้วว่ะไอ้หมอ กูเหนื่อย กูนึกว่าตัวเองทำใจได้แต่เปล่าเลย”
     “เมียมึงก็พูดอย่างเดียวกันเป๊ะ พวกมึงใจตรงกันกว่าที่คิดนะ เขาไม่ยอมคืนดีมึงก็จีบเขาใหม่สิวะ มึงเคยจีบเขารึเปล่า ไว้ลายไอ้เสือหน่อยสิมึง”
     ชัยชัชนึกถึงอดีตที่ต้นน้ำเป็นฝ่ายคอยเอาใจเขาทุกอย่างจนเขาตกหลุมรักแล้วก็อึ้ง เขาไม่เคยต้องใช้ความพยายามก็เป็นฝ่ายถูกรัก เขาเคยทำอะไรให้ต้นน้ำประทับใจหรือเปล่าแทบนึกไม่ออก

     ในขณะที่ต้นน้ำและเมษกำลังเม้าแตกอยู่กับนิคที่เจอกันในห้องอาหารก็มีมือยื่นของหวานมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
     “ของหวานครับ”
     ต้นน้ำหันไปมองด้วยความแปลกใจแล้วก็เห็นชัยชัชที่มาพร้อมเอกดนัยกำลังยื่นถ้วยสาคูมะพร้าวอ่อนให้ นิคงงกับการปรากฏตัวของคนแปลกหน้าทั้งสองหมอเอกเลยได้ทีเนียนแนะนำตัวว่าเป็นแฟนกับเมษ คนทั้งสามคุยทักทายกันส่วนต้นน้ำ เขาหันมาปฏิเสธชัยชัช
     “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่ทานสาคู”
     ชัยชัชมองต้นน้ำที่หันมาปฏิเสธด้วยท่าทางหงอยๆ แล้วก็จ๋อย เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ
     “ไหนมันบอกว่าชอบกะทิไงวะ?”
     เมื่อไม่มีทางเลือกชัยชัชเลยต้องถือขนมถ้วยนั้นกลับไปนั่งทานเองที่โต๊ะพลางแอบมองคนทั้งสี่ เอกดนัยแกล้งจี๋จ๋ากับเมษแล้วก็ลากคนรักปลอมๆ ไปตักอาหารทำให้ในโต๊ะเหลือแต่ไอ้ฝรั่งกับเมียรักของเขา ต้นน้ำคุยไปหัวเราะไปจนชัยชัชรู้สึกตงิดๆ
     ต้นน้ำใส่เสื้อยืดคอลึกเนื้อบางเบากับกางเกงขาสั้นแบบสั้นเวอร์อวดขาขาวๆ ท้าทายยุงไม่กลัวหนาว เมียเก่าเขานั่งไขว้ห้างเท้าคางฟังไอ้ฝรั่งขี้นกคุยด้วยดวงตาเป็นประกายท่าทางสนอกสนใจ ยิ่งมองชัยชัชก็ยิ่งหึงเขาไม่อยากให้คนรักใช้สายตาเช่นนั้นมองใคร
     ต้นน้ำเปลี่ยนไปมากจริงๆ ทั้งนาฬิการาคาแพงบนมือขวาและสายรัดข้อมือสุดอินเทรนด์ที่ข้างซ้าย ต่างหูเพชรเม็ดเล็กๆ ตรงหูขวา สร้อยคอที่ห้อยจี้รูปตัวที ทรงผมทำสีตามแฟชั่น แนวการแต่งตัวแบบที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีทางได้เห็น เหนือสิ่งอื่นใดลายบอดี้เพ้นท์บนต้นขาที่โผล่ออกมาวับๆ แวมๆ ยิ่งมองชัยชัชก็ยิ่งสำเหนียกได้ว่าต้นน้ำคนที่เคยรักเขาไม่มีอีกแล้ว

     จวบจนมื้อเย็นผ่านพ้นไปทุกคนจะไปล่องเรือเที่ยว แต่ต้นน้ำกลับทำท่าจะขอตัวทิ้งให้เมษไปกับเอกดนัยสองคน
     “แก๊ ไม่ไปไม่ได้นะ ฉันอยากไป”
     “ก็ไปกับหมอเอกไง”
     “ไม่เอา! ฉันจะไปกับแก”
     เมษว่าพลางพยักพเยิดไปทางนิคที่ยืนรอต้นน้ำอยู่ไม่ไกล
     “แกเห็นผู้ดีกว่าเพื่อนเหรอ”
     “เฮ่ยบ้า! เขาแค่จะเดินไปส่งเราที่ห้อง เรารู้สึกไม่ดีหรอก”
     “โอ๊ยแกนี่บอบบางจัง เล่นน้ำนิดหน่อยทำเป็น!”
     จนกระทั่งผู้แทนบอกว่าเรือมาถึงแล้ว เมษจึงหันมาขอร้องต้นน้ำอีกรอบ
     “ไปนะแก”
     สุดท้ายต้นน้ำจึงจนใจ เขาพยักหน้าแล้วหันไปบอกลานิค แต่พอถึงเวลาลงเรือๆ ลำที่จอดอยู่ยังว่างอีกสองที่ เมษจูงมือกับต้นน้ำทำท่าจะขึ้นเรือลำนั้น ต้นน้ำลงไปก่อนเมษทำท่าจะตามลงไปแต่เอกดนัยกลับคว้ามือเมษเอาไว้แล้วส่งชัยชัชลงเรือตามต้นน้ำไปแทน ต้นน้ำตาโตหันไปมองคนนั่งข้างๆ ก่อนจะหันกลับไปมองเมษ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของเอกดนัยจากเดิมที่กะจะวีนกลับเป็นห่วงเพื่อนรักแทน! เขาแอบภาวนาเอาใจช่วยเพื่อนเงียบๆ
     “หมอ! ขวางหนูทำไมหนูจะไปกับเพื่อน”
     “ได้ไง มันต้องมีผู้แทนไปกับเรืออย่างน้อยลำละคน คอยดูแลหมอ”
     “แล้วทำไมหมอไม่บอกแต่แรกล่ะ พวกหนูจะได้รอลำอื่นที่มันมีที่”
     “ขืนหมอบอกหมอก็อดสิ”
     เอกดนัยโดนเมษถลึงตาใส่จึงรีบแก้ตัว
     “หมอหมายถึงหมออดช่วยไอ้ชัชมันไง หนูเมลืมแล้วเหรอ”
     “เชอะ!”

     ทริปล่องเรือดูหิ่งห้อยไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับต้นน้ำ เขาเคยมาเที่ยวแบบนี้แล้ว และถ้าพูดให้ชัดก็คนข้างๆ เขานี่แหละที่พาเขามาเปิดหูเปิดตา ดังนั้นตลอดเส้นทางต้นน้ำเลยอดจมอยู่ในภวังค์ไม่ได้ ภาพในอดีตภาพแล้วภาพเล่าปรากฏขึ้นในความทรงจำ พอคิดแล้วก็พาลตื้อจนน้ำตาปริ่ม ยิ่งเรือเป็นเรือเล็ก ที่นั่งก็คับแคบต้องมานั่งใกล้จนเข่าแทบเกยกันเช่นนี้ กลิ่นดีโอสเปรย์เดิมๆ ของชัยชัชโชยมาอ่อนๆ ก็ทำให้ต้นน้ำคิดถึงช่วงเวลาที่เคยได้อิงแอบซบอกอุ่นๆ ของแฟนเก่า
     ต้นน้ำแกล้งขยับตัวลูบตามใบหน้าและแขนขาของตัวเองแล้วถอนหายใจเรียกความเข้มแข็งออกมา เขาแอบปาดน้ำตาที่คลออยู่แบบเนียนๆ ชัยชัชที่นั่งสังเกตต้นน้ำมาตลอดทางจึงส่งแจ็คเก็ตให้
     “หนาวเหรอครับ เอาเสื้อคลุมไว้มั้ย?”
     ต้นน้ำมองแบบเหยียดๆ แล้วตอบด้วยแรงทิฐิ
     “อ๋อผมร้อนครับ เหนียวตัว!”
     เมื่อได้ยินดังนั้นชัยชัชจึงสลดยิ่งกว่าผักโดนน้ำร้อน เขาเก็บแจ็คเก็ตที่อุตส่าห์หยิบมาเผื่อกลับไปแล้วมองใบหน้าด้านข้างของคนที่คิดถึงอย่างโหยหา
     คู่หนึ่งก็เล่นสงครามเงียบ ส่วนอีกคู่ก็ทะเลาะกันอย่างเปิดเผย เอกดนัยแกล้งโอบแต๊ะอั๋งเมษบ่อยจนเมษหงุดหงิด เธอฮึดฮัดทำรำคาญปัดแล้วปัดอีกจนผู้โดยสารคนอื่นหันมามอง เอกดนัยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่างกับเมษที่หงุดหงิดเกินบรรยาย
     “สงสัยยุงจะเยอะ ทนๆ เอาหน่อยนะหนูเม”
     “ค่ะ! ยุงเยอะมว๊าก! น่ารำคาญสุดๆ”
     เมษกระแทกเสียงกลับไป แต่แล้ว...
     “ชู่! ดูหิ่งห้อยต้องเงียบๆ นะหนูเม”
     เอกดนัยแกล้งเตือนแล้วเนียนโอบเธออีกแล้ว! อีตาหมอโรคจิตคนนี้เอาเปรียบเธอหน้าตาย! เมษอึดอัดแต่ไร้หนทางตอบโต้ได้แต่กรี๊ดอยู่ในใจเพราะไม่รู้จะจัดการกับหมอโรคจิตได้ยังไง จนกระทั่งชาวคณะกลับมาถึงโรงแรม
     เรือลำของต้นน้ำและชัยชัชกลับมาถึงก่อน ชัยชัชที่อยู่ท้ายเรือก้าวขึ้นฝั่งก่อนใครเพื่อน เขาส่งมือมาช่วยผู้โดยสารคนอื่นขึ้นจากเรือ
     ชัยชัชส่งมือให้ต้นน้ำจับ ต้นน้ำลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจส่งมือออกไปเพราะเกรงใจผู้โดยสารคนอื่น วินาทีที่มือของคนทั้งคู่สัมผัสกันชั่วขณะความรู้สึกต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ก็ถูกเรียกออกมาจากส่วนลึกในความทรงจำ ต้นน้ำกลืนน้ำลายก่อนจะกระพริบตาไล่ความร้อนที่แผดเผาออกไป เขาก้มหน้าลงหลบสายตาที่เต็มไปด้วยคำขอโทษจากชัยชัช
     “ขอบคุณครับ”
     ต้นน้ำกล่าวเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นฝั่งไป ชัยชัชหันไปมองได้เพียงแว็บเดียวแล้วก็กลับมาปั้นหน้ายิ้มช่วยคนอื่นขึ้นจากเรือต่อ เขารู้ดีว่าต้นน้ำเดินจากไปแล้ว
     เมษกลับมาถึงช้ากว่าต้นน้ำมากเพราะเอกดนัยถูกบรรดาผู้แทนรุม คุณหมอหนุ่มผู้มีฝีมือด้านการผ่าตัดหัวใจสนทนากับผู้แทนต่ออีกครู่หนึ่ง เมษแอบมองหมอจอมกวนคุยเรื่องงานแล้วก็หมั่นไส้จนเบ้ปากใส่ เอกดนัยหันมาเห็นเลยหลิ่วตาคาดโทษให้ เมษจึงแลบลิ้นตอกกลับแล้วก็หันหน้าหนีแทน แต่สาวน้อยก็ยังรอเสือหนุ่มอยู่ตรงนั้นโดยไม่หนีกลับก่อน

     เมื่อเมษกลับมาถึงบ้านพักก็พบว่าเพื่อนของเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดนอนแล้วเรียบร้อย เธอพักเรื่องงี่เง่าของตัวเองไว้แล้วรีบถามไถ่เรื่องราวของเพื่อน
     “เป็นไงมั่งยะ? พี่เขาว่าไงมั่ง?”
     “ก็ไม่ได้ว่าไง”
     “อ้าว! ไม่ได้คุยกันเลยเหรอ?”
     “อื้อ”
     เมษทำหน้าเสียดายส่วนต้นน้ำก็จมอยู่ในภวังค์ แต่แล้ว...
     “เมษ ถามหน่อยสิ ความรักของผู้ชายกับผู้ชายมันเป็นไปได้จริงๆ รึเปล่า?”
     เมษหันมามองเพื่อนแล้วตอบ
     “ก็คงมีมั้ง”
     “แต่ทำไมเราเห็นมีแต่ข่าวจบลงด้วยการเลิกรามีคนใหม่ล่ะ?”
     “แล้วแกจะไปดูคู่ที่มันชอบออกสื่อจนเป็นข่าวทำไม รักกันจริงหรือรักโปรโมทก็ไม่รู้!”
     “ก็เราอยากรู้นี่”
     เมษเข้าใจความสับสนของเพื่อนเธอจึงปลอบใจ
     “แก คู่ชายหญิงที่ไม่จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งมันก็มีเยอะนะ ฉันว่าความรักไม่เกี่ยวที่เพศหรอก มันเกี่ยวกับคนมากกว่า บางทีที่ไหนซักที่ในโลกนี้อาจจะมีคู่เกย์ที่รักและอยู่ด้วยกันจนแก่ตายก็ได้นะ แต่แค่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น และฉันว่าเขาสองคนก็คงไม่สนหรอกว่าคู่ของตัวเองจะถือเป็นคู่รักเกย์ดีเด่นรึเปล่า พวกเขาแค่มีความสุขกับชีวิตคู่ของเขาก็พอ ทำไมแกไม่ทำตัวให้มีความสุขล่ะนังต้น”
     “แล้วแบบไหนเราถึงจะมีความสุขล่ะเมษ? เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันคือความสุขจริงๆ ไม่ใช่แค่ชั่วคราวแล้วต้องเจอกับความเจ็บปวดอีก”
     “แกก็ต้องถามใจตัวเองไง ความสุขของฉันคือการได้เป็นผู้หญิง ฉันยอมทิ้งทุกอย่างทั้งๆ ที่รู้ว่าหันหลังกลับไปไม่ได้โดยไม่เสียดาย เพราะฉันมั่นใจว่าตัวเองจะไม่เสียใจทีหลัง แล้วแกล่ะ แกเคยเสียใจที่รักเขามั้ย? ลองถามใจแกดูนะ”
     ต้นน้ำเงียบไปจนเมษสงสาร สีหน้าของเพื่อนรักมีแต่ความกลัดกลุ้ม แต่เรื่องนี้เธอช่วยได้ที่ไหน เพื่อนของเธอต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
     “เฮ้อ... ฉันไปอาบน้ำก่อนนะแก”
     “ห๊ะ! อืม ... งั้นเราขอไปเดินเล่นหน่อยนะ”

     ชัยชัชยังไม่ง่วง เขาขี้เกียจกลับห้องพัก ไม่มีอารมณ์สนใจเพื่อนร่วมงานจึงออกมาเดินเล่น แต่ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่เขาพักอยู่ฝั่งเรือนไทยขาเจ้ากรรมกลับพาเขาเดินมาถึงบ้านพักฝั่งวิลล่า
     สระน้ำยามค่ำคืนตกแต่งด้วยแสงไฟสีส้มให้บรรยากาศแปลกตา เขานั่งอยู่อย่างนั้น จ้องมองผืนน้ำนึกถึงภาพที่เห็นตอนเย็น แม้จะเจ็บปวดที่ต้นน้ำหมดเยื่อใยกับเขาแล้วแต่อีกใจหนึ่งเขาก็มีความสุขที่ได้เห็นคนที่เขารักหัวเราะอย่างร่าเริง รอยยิ้มบนใบหน้าต้นน้ำไม่ใช่ของปลอม ถึงไม่มีเขาอยู่ข้างๆ ต้นน้ำก็มีความสุข
     ภาพของคนรักตอนพยายามฆ่าตัวตายย้อนกลับมา ความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาแอบไปเยี่ยมต้นน้ำยามหลับไม่รู้สึกตัวผุดขึ้นในหัว
     “เข้มแข็งขึ้นมากเลยนะต้น พี่ดีใจที่เห็นเรามีความสุข”
     ชัยชัชรำพึงรำพันเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจยุติทุกอย่าง เขาจะไม่ยื้ออดีตไว้อีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2014 06:20:25 โดย AI.NoR »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
     สระว่ายน้ำกลางสวนในเวลากลางคืนแม้จะประดับประดาด้วยแสงไฟแต่ก็ยังครึ้ม ต้นน้ำตั้งใจออกมานั่งเล่นใช้ความคิด แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะมีใครนั่งอยู่ก่อน ชัยชัชหันมามองต้นตอของเสียงฝีเท้ากระทบพื้นแล้วก็ต้องตกตะลึง! ต้นน้ำสองจิตสองใจมีท่าทีลังเล ชัยชัชจึงพูดขึ้น
     “ต้นนั่งตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปเอง ... พี่กำลังจะกลับพอดีครับ”
     น้ำเสียงยอมแพ้ทำให้ต้นน้ำหวั่นไหว ชัยชัชลุกขึ้นเตรียมจะเดินจากไป แต่แล้ว
     “ถ้าพี่ชัชอยากนั่งตรงนี้ก็นั่งเถอะครับ ที่ตรงนี้สำหรับแขกทุกคนอยู่แล้ว ผมไม่ถือ”
     ต้นน้ำพูดพร้อมกับหย่อนตัวลงจับจองเก้าอี้ริมสระน้ำ
     แม้จะตั้งใจว่าไม่อยากรบกวนให้ต้นน้ำลำบากใจอีกแต่ชัยชัชกลับละสายตาจากคนตรงหน้าไม่ได้ สองขาถูกยึดไว้ด้วยความคิดถึงตรึงเขาอยู่กับที่ ขอเพียงต้นน้ำไม่ว่าอะไรเขาก็อยากเก็บภาพนี้เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
     ชัยชัชสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่คุ้นเคยจากต้นน้ำ สีหน้าและแววตาของเด็กคิดมากคนเดิมชวนให้เขาเผลอยิ้ม เขามีคำว่าอยากเต็มหัว อยากบอกรัก อยากขอโทษ อยากขอคืนดี อยากพูดคุย ถามไถ่ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปสักอย่าง ชัยชัชทำได้แค่แอบมองต้นน้ำเงียบๆ
     ต้นน้ำในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเนื้อผ้าบางเบาเริ่มห่อตัวเพราะอากาศที่เย็นลง ชัยชัชเห็นดังนั้นเลยถอดแจ็คเก็ตเอาไปคลุมให้อีกครั้ง ต้นน้ำหันมามองชัยชัชจึงพูดขึ้น
     “อากาศเย็นแบบนี้คงไม่บอกว่าร้อนอีกนะครับ”
     ต้นน้ำไม่ตอบโต้เขา แต่กลับกระชับเสื้อคลุมเข้าหาตัว ชัยชัชเห็นดังนั้นจึงนั่งลงข้างๆ เพียงเท่านี้เขาก็ดีใจแล้ว ความสุขของการเป็นผู้ให้ทำให้เขาอิ่มเอมใจเมื่อนึกถึงครั้งที่ใครคนหนึ่งเคยพยายามทำอะไรมากมายให้เขาเกินกว่าฐานะน้องชาย โชคร้ายที่พี่ชายอย่างเขามันไม่ได้เรื่อง ชัยชัชยิ้มสมเพชตัวเองก่อนจะกระพริบตาไล่ความอ่อนแอที่เริ่มก่อตัว
     “ต้นสบายดีเหรอครับ?”
     ต้นน้ำหันมามองชัยชัชที่ชวนคุย
     “ครับ”
     ชัยชัชพยักหน้ารับรู้พลางยิ้ม เพียงเท่านี้ก็ดีใจแล้ว ได้แค่นี้ก็พอ เขาไม่ขออะไรมากมาย
     ต้นน้ำมองกิริยาของชัยชัชแล้วเกิดความคาดหวังในใจ เขาเฝ้ารอให้ชายหนุ่มเอ่ยอะไรขึ้นอีก แต่ชัยชัชกลับเลือกที่จะเงียบ ต้นน้ำทั้งสับสนทั้งไม่เข้าใจตัวเอง จนในที่สุด
     “พี่ชัชไม่เหนื่อยเหรอครับ เห็นทำงานทั้งวัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเช้าอีก”
     “หือ? พี่ชินแล้ว”
     รอยยิ้มสบายๆ แฝงความอ่อนล้าในน้ำเสียงทำเอาต้นน้ำใจหาย
     “แต่หมอเอกบอกว่าพี่ชัชเป็นความดัน ไขมันในเลือดสูงด้วย น่าจะพักผ่อนเยอะๆ”
     “แล้วเราละครับ ทำไมยังไม่นอน ทิ้งเมษไว้แบบนั้นเดี๋ยวเพื่อนก็โดนไอ้หมอปล้ำหรอก”
     มุกของชัยชัชทำให้ต้นน้ำแอบอมยิ้ม
     “ผมนอนไม่หลับเลยออกมาดูดาว”
     ชัยชัชมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วตอบ
     “เสียดายนะ คืนนี้เมฆครึ้ม”
     “ไม่รู้สิครับ บางทีอาจเป็นข้ออ้างตอนอยากคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ ไม่คิดว่าสระน้ำตอนกลางคืนโรแมนติกเหรอครับ? บางทีเราอาจจะเจอใครซักคนที่นั่นก็ได้ ผมมีแฟนคนแรกก็เพราะบรรยากาศแบบนี้แหละ”
     น้ำเสียงซุกซนกับประโยคที่คาดไม่ถึงชวนให้ชัยชัชต้องอมยิ้มให้ความแสบของต้นน้ำ สายตาของชัยชัชมีแค่คำว่ารักและถ้าต้นน้ำตาไม่ฝาดเขาคิดว่าเขาเห็นชัยชัชหน้าแดง คนทั้งคู่สบตากันเป็นระยะ จนในที่สุดชัยชัชก็ทนไม่ไหว
     “พี่อยากให้มีดาวตกชะมัด! พี่จะได้อธิฐานขอให้พี่ได้หัวใจของพี่คืนมา”
     “แล้วทำไมไม่ลองขอกับคนตรงหน้าดูละครับ อาจจะศักดิ์สิทธิ์กว่าดาวตกก็ได้”

     ต้นน้ำต้องแอบตะโกนลั่นภายในใจว่าตนไม่ได้อ่อย เขาแค่ต่อมุกกับคู่สนทนาขำๆ ต้นน้ำหาข้ออ้างให้ตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้าร้อนผ่าว!
     ชัยชัชมองท่าทางเขินอายแต่แอ๊บมั่นแล้วก็ขำ เขามองริมฝีปากแดงระเรื่อที่กำลังเม้ม แก้มกลมๆ ที่แอบอมยิ้มจนขึ้นสี สายตาซุกซนที่พยายามหลบตาเขาแต่แอบชำเลืองกลับมาเป็นระยะ เขารู้ดีว่าหลงรักเด็กเลี้ยงแกะคนนี้เต็มหัวใจ
     “ฝีปากคมขึ้นนะเรา”
     ต้นน้ำอ้าปากจะเถียงแต่กลับถูกปิดปากด้วยวิธีเดิมๆ รสจูบที่คุ้นเคยหยุดทุกอย่างไว้หลงเหลือแต่สัมผัสที่เคยชิน ชัยชัชกอดต้นน้ำอย่างหวงแหน เขาบดจูบอย่างโหยหา ต้นน้ำเองก็หลับตาลงรับสัมผัสอย่างยินดี เขายอมให้ชัยชัชปลุกทุกความรู้สึกที่เคยมีให้แจ่มชัดอีกครั้ง เขายอมรับกับตัวเองว่าตนรักชัยชัชมากเกินจะตัดใจ ไม่มีใครเติมเต็มเขาได้สมบรูณ์เท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
     เมื่อต่างฝ่ายต่างเต็มใจต่างคนต่างเต็มที่รสจูบจึงเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่แตะริมฝีปากประกบกันด้วยความโหยหาต่อมากลับยิ่งกระหาย อ้อมกอดแห่งความคิดถึงกลายเป็นสัมผัสแห่งราคะ ต้นน้ำเบียดตัวเข้าหาชัยชัชอย่างออดอ้อนพลางหายใจหอบสลับกับครางกระเส่า แต่แล้วจู่ๆ ชัยชัชกลับยุติทุกอย่างแล้วประคองต้นน้ำออกห่างอย่างเบามือ ต้นน้ำมองหน้าชัยชัชด้วยความสงสัยพลางใช้สายตาประท้วง!
     “พี่... พี่ว่าเราคืนดีแค่นี้ก่อนดีกว่าครับ ไม่งั้นพี่ว่าพี่จะไม่ไหวเอา”
     ต้นน้ำได้ยินดังนั้นก็ยิ้มยั่ว เขาจงใจโอบรอบคอชัยชัชแล้วเอียงคอมองอย่างท้าทายพลางไล้นิ้วมือเล่นกับหลังคอของคนรัก
     “คือ... พี่ไม่ได้อยู่ห้องเดี่ยวครับ แล้วก็คงไม่ดีแน่ถ้าเราจะยืมห้องแล้วปล่อยให้เมษอยู่กับไอ้หมอ”
     “แล้ว?”
     “พี่ไม่บ้าพอจะจัดแบบเอาท์ดอร์ครับ เพราะเรานั่นแหละ ร้องดังเป็นบ้า!”
     ชัยชัชยิ้มก่อนจะใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากของต้นน้ำอย่างหมั่นเขี้ยว!
     “แปลว่าถ้าผมเงียบๆ ก็ได้?”
     “เกรงว่าจะไม่ได้ครับเพราะพี่จะทำให้เราแหกปากสุดเสียงแน่ๆ”
     ต้นน้ำเชิดหน้าขึ้นมองผู้ชายที่พูดประโยคน่าอายพวกนั้นหน้าตาย เขาหลงรักผู้ชายคนนี้!
     ชัยชัชมองอาการกัดริมฝีปากโดยไม่ตั้งใจของต้นน้ำอย่างหลงใหล เขาเห็นต้นน้ำกลืนน้ำลายข่มความปรารถนาของตัวเอง ถ้าไม่ติดหน้าที่การงานเขาอยากจะกดต้นน้ำลงบนเก้าอี้แล้วจัดการสุดที่รักของเขาเดี๋ยวนี้! เขาแทบรอไม่ไหวแล้ว!
     “งั้นทำไมเราไม่หาที่ส่วนตัวแล้วพิสูจน์ละครับ ผมอยากรู้ว่าพี่ชัชจะทำได้อย่างที่พูดรึเปล่า? ชอบผิดสัญญาอยู่เรื่อย”
     “นี่เขาไม่เรียกว่าสัญญาครับ เขาเรียกว่า ขู่”

     ต้นน้ำรู้สึกถึงอาการสั่นระริกทั่วร่าง แต่ไหนแต่ไรเขาเคยยอมให้ใครขู่ซะที่ไหน!
     “กลัวตายล่ะ!”
     ชัยชัชมองริมฝีปากที่เอ่ยท้าทายเขาแล้วก็ทนไม่ไหว เขาสาบานว่าจะใช้เขี้ยวเล็บทั้งหมดที่มีทำให้เด็กเลี้ยงแกะคนนี้ยอมสยบหมาป่าอย่างเขาให้จงได้!

     จะมีคู่ไหนสมกันยิ่งกว่าหมาป่ากับเด็กเลี้ยงแกะอีก? ดังนั้นทั้งสองจึงผูกพันกันนัวเนีย แล้วเรื่องก็จบลงอย่างมีความสุข

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


     วันนั้นว่ากันว่าอยู่ๆ ก็มีแขกมาขอเปิดห้องเพิ่มยามดึก คนทั้งคู่ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นห้องแบบไหนราคาเท่าไหร่พวกเขาขอแค่ให้ได้ห้องเร็วๆ ก็พอ แถมยังไม่ยอมรอรถกอล์ฟบริการพาไปส่งที่ห้องด้วยซ้ำ พอได้กุญแจแล้วทั้งคู่ก็วิ่งหายไปเลย...

     โชคดีที่ดึกแล้วและไม่มีคนผ่านไปมาจึงไม่มีใครเห็นคู่รักที่นัวเนียกันตั้งแต่ยังไขประตูเข้าห้องไม่ออก ชัยชัชต้องใช้มือขวาเพียงข้างเดียวในการเปิดประตูเพราะแขนอีกข้างต้องคอยโอบรอบเอวลูกแกะบางตัวที่นัวเนียเขาไม่ยอมห่าง และเมื่อเปิดประตูเข้าไปได้สิ่งแรกที่ต้นน้ำทำคือการปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของชัยชัช!
     “ใจเย็นครับที่รัก ขอพี่เปิดแอร์แป๊บนึง เดี๋ยวหายใจไม่ออกกันนะครับ”
     ชัยชัชเองก็ใช่ย่อย ปากเขาก็บอกขอเวลานอกแต่มือกลับถอดเสื้อยืดของต้นน้ำเหวี่ยงไปไหนไม่รู้ และเมื่อชัยชัชหันกลับมาจากการผละไปเสียบกุญแจเปิดสวิตช์แอร์ต้นน้ำก็กระโจนขึ้นเกาะเขาทันที!
     “เปลี่ยนจากลูกแกะกลายเป็นลิงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”
     ชัยชัชตกใจแต่ก็ช้อนร่างของต้นน้ำไว้ได้ทัน เขาเอ่ยถามพลางยิ้ม ต้นน้ำกอดก่ายขาของตนไว้กับเอวของคนรักแล้วเถียง
     “ก็ใครไม่รู้สอนผมทำบ่อยๆ”
     “หึๆ”
     ชัยชัชหัวเราะคำตอบของต้นน้ำ เขากระเตงลูกแกะกลายพันธุ์ไปทุ่มลงบนเตียงแล้วถอดเสื้อตัวเองทิ้ง ต้นน้ำนอนแผ่อยู่บนเตียงมองภาพนั้นอย่างยินดี ชัยชัชถลกกางเกงลงพลางมองตาของต้นน้ำที่จับจ้องมายังร่างของตัวเองอย่างอวดดี
     “เสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วนะต้น”
     เขาดึงกางเกงออกจากปลายขาแล้วก้าวขึ้นเตียงไปเผชิญหน้ากับจอมยั่ว
     “อืม... พี่ชัชทำผมเสียใจมาตั้งเยอะ จะเสียใจอีกซักทีสองทีก็คงไม่เป็นไรมั้งครับ”
     สายตาซุกซนของต้นน้ำที่แอบชำเลืองไปมองสิ่งที่จะทำให้เสียใจทำเอาชัยชัชแทบคลั่ง! เขายิ้มมุมปากแล้วถามขึ้น
     “แค่สองเองเหรอ?”
     “มีแรงมากกว่านั้นมั้ยล่ะครับ?”
     ต้นน้ำท้าทายพลางยกก้นขึ้นให้ชัยชัชถอดพันธนาการของตัวเองออก
     “เสียงแหบแน่ไอ้ต้น ไม่สลบพี่ไม่เลิก!”

     ต้นน้ำนอนกัดปากครางทุกครั้งที่ปลายลิ้นอุ่นๆ ถูกแหย่เข้ามาสลับกับนิ้ว เขานอนอ้าขาหลับตาซึมซับดื่มด่ำกับทุกสัมผัสที่ชัยชัชมอบให้ แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่เคยชินกับช่องทางที่คุ้นเคยแต่เมื่อห่างหายกันไปนานชัยชัชก็ไม่กล้าผลีผลาม เขาไม่อยากให้คนรักเจ็บตัวแม้ว่าจะใกล้ลิมิตของตัวเองเต็มทน เขาปวดจนแทบระเบิด! แต่เหมือนมีคนทนไม่ไหวมากกว่าเขา
     “อื๊อพี่ชัช! ผมไม่ไหวแล้ว ...เลยเหอะ นะ
     “ไหวเหรอครับ?”
     ชัยชัชลุกขึ้นจากออร์เดิร์ฟตรงหน้าแล้วถามคนรักด้วยน้ำเสียงห่วงใย
     “ไม่เป็นไร ผมไหว”
     “แต่พี่ไม่อยากให้ต้นเจ็บ”
     ความห่วงใยที่ชัยชัชมีให้กันช่างน่าปลื้ม แต่ตอนนี้ต้นน้ำอยากซาบซึ้งกับอย่างอื่นมากกว่า เขาอยากฟินแบบเนื้อๆ เน้นๆ!
     “เจ็บนิดๆ หน่อยๆ ผมโอเค ถึงไงพี่ชัชก็ทำให้ผมมีความสุขทุกทีไม่ใช่เหรอครับ นะ”
     ถูกสปอยล์ให้ท้ายขนาดนี้ชัยชัชก็ไม่ทนอีกต่อไป เขาจัดการตามที่จอมเอาแต่ใจเรียกร้อง
     “อ๊ะ!”
     สีหน้าเจ็บปวดปนเสียวซ่านของคนรักบวกกับสัมผัสแนบเนื้อที่บีบรัดรอบทิศทำเอาชัยชัชแทบทนไม่ไหว เขากัดฟันแข็งใจถาม
     “โอเคมั้ยครับต้น?”
     แต่ต้นน้ำตอบไม่ไหว เขาไม่เหลือสติจะสนใจอะไรอีกแล้วเลยได้แต่พยักหน้ารัวๆ พลางใช้มือช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของตัวเอง ชัยชัชจับขาของต้นน้ำไว้แล้วค่อยๆ ดันเข้าไปช้าๆ
     “อื๊อพี่ชัช!”
     กว่าจะสุดลำได้เขาแทบตาย! ชัยชัชต้องเกร็งกดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้กันขายหน้า แต่แล้ว... หมาป่าสูญเสียสติสัมปชัญญะ!
     “เมียจ๋า พี่ขอโทษนะ ทนผัวหน่อยนะครับคนดี พี่ไม่ไหวละ!”
     “อ๊า!”

     ว่ากันว่าหลังจากนั้นต้นน้ำก็แหกปากสุดเสียงทั้งคืนเพราะโดนชัยชัชขย่มจนเตียงแทบพัง ทั้งคู่รำลึกความทรงจำกันทุกกระบวนท่า ผลสุดท้ายต้นน้ำลุกไม่ขึ้น แม้แต่จะไปห้องน้ำชำระร่างกายยังลุกไม่ไหวได้แต่ปล่อยให้ของเหลวบางอย่างทะลักออกมาทุกครั้งที่ขยับตัว เขาแสบจนไม่มีแรงขมิบของเหลวปริมาณมหาศาลที่ถูกปล่อยไว้จึงไหลเปรอะเปื้อน
     ส่วนคนก่อเรื่องก็เอาแต่นอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ เดี๋ยวก็หอมซ้ายหอมขวาจูบหน้าผากจูบแก้มจนต้นน้ำต้องดิ้นพลิกตัวหนีไปเรื่อย
     “พอแล้วครับ...”
     ชัยชัชไม่ตอบนอกจากยิ้มแล้วจูบต้นน้ำต่อ
     “อื้อ พี่ชัช...”
     ในที่สุดต้นน้ำก็ผลักชัยชัชออกไปได้
     “เป็นอะไรครับ แกล้งผมอยู่ได้”
     “พี่ไม่ได้แกล้ง ก็พี่คิดถึงเรานี่นา ใครจะไปคิดว่าพี่จะได้นอนกอดเราแบบนี้อีก พี่ถอดใจไปแล้วนะรู้มั้ย?”
     ต้นน้ำงอนจนปากยื่น
     “ไหนว่ารักผมไง ไหนบอกผมเป็นคนสุดท้าย”
     ถ้อยคำอำลาที่ต้นน้ำจำได้ทำให้ชัยชัชยิ่งปลื้ม เขามองต้นน้ำด้วยสายตารักใคร่แล้วตอบ
     “ก็ไม่ได้มีใคร พี่แค่... พี่แค่ ... พี่ไม่คิดว่าต้นจะให้โอกาสพี่อีกหน”
     น้ำเสียงเศร้าๆ ทำเอาต้นน้ำใจหาย จะว่าไปเขาเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขายอมให้อภัยชัยชัชได้อย่างไร มันก็แค่... ถึงจุดๆ หนึ่งที่เขารู้ตัวว่าอยากอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้อีกสักครั้ง
     “พี่ไม่ขอให้ต้นให้อภัยพี่ก็ได้ พี่รู้ดีว่าสิ่งที่พี่ทำกับต้นมันเลวมาก ยิ่งครั้งสุดท้ายนั่น... พี่ไม่ควรทำแบบนั้นกับต้นเลย พี่ทำร้ายหัวใจตัวเองได้ยังไง พี่... ซึด!
     ชัยชัชสูดจมูกพลางปาดน้ำตา ต้นน้ำรับรู้ได้ถึงความเสียใจของชัยชัชจึงจับมือเขาไว้
     “ต้นจะให้พี่ทำอะไรก็ได้พี่ยอมทุกอย่าง กลับมารักพี่อีกครั้งได้มั้ยครับ คราวนี้พี่สาบานว่าพี่จะไม่ทำให้ต้นต้องเสียใจ ถ้าพี่ทำผิดกับต้นอีกเอาชีวิตพี่ไปได้เลย! แต่พี่ขอร้อง ต้นอย่าทำร้ายตัวเองแบบนั้นอีกนะ พี่... ฮึก
     น้ำตาลูกผู้ชายของชัยชัชหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาอาบไปทั่วทั้งหน้าจนต้นน้ำสะเทือนใจ
     “ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นอีก”
     “คนที่โง่คือพี่เอง มีเพชรแท้อยู่กับตัวแต่ไม่รู้จักรักษาให้ดีปล่อยให้หลุดมือไป เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้มั้ยครับ?”
     ใช่ว่ามีแต่ชัยชัชที่แพ้น้ำตาของต้นน้ำ ในยามนี้ต้นน้ำก็อึ้งทำอะไรไม่ถูกเช่นกันเมื่อผู้ชายที่ตนรักบ่อน้ำตาแตกเพราะตน และเพราะต้นน้ำมัวแต่เงียบ ชัยชัชจึงแปลความหมายผิด
     “โอเค พี่... พี่ไม่ขอโอกาสเราก็ได้ พี่รู้ว่าพี่มันเลวไม่คู่ควรกับต้น พี่จะไม่เรียกร้องอะไร ขอแค่ได้ทักทายกันบ้างได้มั้ย อย่าเมินพี่อีกเลยนะ”
     เรื่องชักจะไปกันใหญ่ ในที่สุดต้นน้ำก็ทนไม่ไหว
     “แล้วตกลงจะไม่รับผิดชอบผมเหรอครับ เมื่อกี้นั่นเอาฟรีเหรอ?”
     “พี่... เอ่อ...”
     ชัยชัชเงิบจนพูดไม่ออก
     “ผมยอมพี่ชัชถึงขั้นนี้แล้ว”
     พอได้ฟังชัยชัชก็ยิ้มออกมา
     “ก็พี่... พี่ได้ข่าวว่าเรามีแฟนใหม่แล้ว”
     “แม้แต่คนที่โง่ที่สุดในภาคผมยังรู้เลยว่าคบหลอกๆ พี่ชัชเห็นผมเป็นคนยังไงกันแน่ ผมไม่นอนกับคนอื่นทั้งๆ ที่มีแฟนหรอก!”
     ต้นน้ำแอบเนียนด่าแต่ชัยชัชไม่ยักจะโกรธ นาทีนี้เขามีความสุขมากจนไม่ถือสาอะไร
     “เป็นคนที่มีค่ามากครับ คงไม่มีใครดีกับพี่เท่าต้นอีกแล้ว พี่จะรักต้นให้มากกว่าเดิมจะไม่ปล่อยให้ที่รักของพี่หลุดมือเป็นครั้งที่สอง”
     ชัยชัชให้คำมั่นสัญญาแล้วประทับจูบบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน
     “จริงอ่ะ? แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่มีหน้าอก คลอดลูกให้พี่ชัชไม่ได้ด้วย เกิดอีกหน่อยพี่ชัชอยากอีกผมจะทำยังไง”
     อาการแง่งอนของต้นน้ำทำให้ชัยชัชแอบหัวเราะ เขาขำกับความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเมียรัก
     “ไม่แล้ว กลัวเมียน้อยใจ หึๆ แต่จะว่าไปนอกจากข้างบนแล้วข้างล่างเรามันกว่าผู้หญิงอีก ฟิตชะมัดเลยต้น ไม่ได้ใช้เลยใช่มั้ยเนี่ย? ฮ่าๆ”
     “บ้า! แล้วจะให้ผมไปใช้กับใครครับ”
     ต้นน้ำโมโหจนค้อนปะหลับปะเหลือก!
     “ใช้กับพี่คนเดียวน่ะดีแล้ว ขอใช้ตลอดไปเลยได้มั้ยอ่ะ?”
     “ถามคุณปู่ผมสิครับ ถ้าคุณปู่ผมยอมยกให้ผมก็โอเค”
     “เอางั้นเลยเหรอต้น!”
     ชัยชัชตกใจแต่ต้นน้ำกลับพยักหน้าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
     “ไม่งั้นมีหวังคุณปู่ยกผมให้แม็กซ์แน่ๆ ถ้าไม่มีใครมาจีบผมแข่งกับแม็กซ์...”
     “ได้ไง? แฟนพี่มีผัวแล้วห้ามจีบครับ พี่หวง!”
     “งั้นก็จีบผมแข่งกับแม็กซ์สิครับ”
     “ถึงขั้นนี้แล้วยังต้องจีบอีกเหรอต้น จัดพิธีเลยไม่ได้เหรอ? แต่พี่ขอเก็บตังค์อีกซักพักนะ ยังไม่มีค่าแหวน”
     “ไม่เป็นไรครับ บ้านผมเป็นร้านเพชร ผมออกค่าแหวนให้ก็ได้แต่ต่อไปพี่ชัชใส่ชื่อผมทุกอย่างก็พอ”
     “โห! นึกว่ารวยแล้วจะเลิกงกนะนี่”
     “ไม่ได้ครับ เพราะแฟนผมสปอร์ตเกินไปเลยมีคนอยากตีตราจองเต็มไปหมด ผมจะดูซิว่าถ้าพี่ชัชเหลือแต่ตัวจะมีผู้หญิงที่ไหนอยากมาจับอีกมั้ย”
     ทั้งๆ ที่เป็นคำพูดที่มีเนื้อหาร้ายกาจแต่ชัยชัชก็ฟังเสียเพลิน
     “ไม่ดีเหรอครับ? เราจะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีกไง”
     “ได้เลยคร้าบ พี่ยอมทุกอย่าง ทั้งตัวและหัวใจชีวิตทั้งชีวิตพี่ยกให้เราคนเดียวนะ”
     ชัยชัชก้มลงจูบต้นน้ำเบาๆ ในที่สุดเขาก็ได้กระซิบคำๆ นี้ให้คนรักฟังอีกครั้ง
     “พี่รักต้นนะ”
     “ผมก็รักพี่ชัช”


     และแล้ว นิยายเรื่องนี้ก็จบแบบ ‘Happy Ending’

     ในที่สุดเด็กเลี้ยงแกะจอมวายร้ายก็ล่ามโซ่พันธนาการหมาป่าไว้ได้ตลอดกาล

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



วาทะกรรมน้องต้น "คนตรงหน้าศักดิ์สิทธิ์กว่าดาวตก" และ "เมื่อกี้เอาฟรีเหรอ?" เคะเรื่องนี้นี่มันอาร๊าย!   :serius2:
แซ่บมั้ยล่ะเมียเฮียชัช :impress2: ฮีกลับมาแบบนางพญา รับรองว่าพี่ชัชหือไม่ขึ้นแล้วแน่ๆ หมาป่าหมดเขี้ยวเล็บจริงๆ ล่ะงานนี้ ฮ่าๆ

แต่สงสารมิวนิคอ่ะ อยู่ดีๆ ก็โดนต้นด่า หึๆ คนที่โง่ที่สุดในภาคยังรู้ว่าต้นคบหลอกๆ เอ๊ะ งี้พี่ชัชก็โง่กว่ามิวนิคอ่ะดิ? อ้าว ต้นชอบจูงจมูกผู้ชายโง่ๆ ก็ไม่บอก! ร้ายนะเธอว์ วางแผนมาเป็นอย่างดีสินะ
 :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2014 06:20:56 โดย AI.NoR »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
The story after that.

     จริงๆ เรื่องมันควรจะจบแล้วนะ แต่ว่า ... เหลืออีกคู่นึง

     รุ่งเช้าชัยชัชประคองต้นน้ำที่ท่าทางอ่อนแรงเดินแทบไม่ไหวกลับมาส่งที่ห้องพัก แม้จะดูเพลียๆ ไม่สดชื่นแต่สีหน้าอิ่มเอิบก็ฉายชัดจนคนที่เห็นเดาได้ไม่ยาก แต่ทว่าทันทีที่เมษเห็น เธอกลับกรี๊ดออกมาอีกเรื่อง!
     “แก๊! นังต้น อีเพื่อนทรยศหลงผัวจนทิ้งเพื่อน! แกหายไปไหนมาทั้งคืน แกปล่อยฉันไว้กับ... ได้ยังไง อินังเพื่อนเลวเห็นผู้ดีกว่าเพื่อน โฮๆ
     เงิบสิ! ทั้งชัยชัชและต้นน้ำต่างหันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้นหนอ?
     เสียงคร่ำครวญของเมษทำเอาต้นน้ำงง เขาหันไปถามความเห็นจากชัยชัช ส่วนชัยชัชก็หันไปมองเพื่อนรักที่ยืนยิ้มกริ่มแบบตื่นเช้าผิดปกติ
     ต้นน้ำรีบพุ่งไปหาเพื่อนที่นั่งร้องไห้
     “เกิดอะไรขึ้นเมษ อย่าบอกนะว่านาย...”

     ย้อนกลับไปเมื่อคืน...
     ต้นน้ำขอตัวออกไปเดินเล่นนานแล้ว เมษนึกเป็นห่วงเลยออกจากห้องนอนมาดู เอกดนัยเข้าห้องนอนเงียบไปแล้วเมษเลยวางใจนั่งรอต้นน้ำอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอหยิบรีโมทมาเปิดดูละครหลังข่าวเรื่องโปรด แต่ในขณะที่ดูเพลินๆ เอกดนัยก็เดินออกมา
     “ยังไม่นอนเหรอหนูเม?”
     “กำลังจะไปค่ะ!”
     “ชุดนอนน่ารักดีนะ”
     ชุดนอนขาสั้นสีชมพูติดระบายลายคิตตี้ตัวโปรดกลับทำให้เธอไม่มั่นใจ เนื้อผ้าที่เคยคิดว่าใส่สบายกลับดูบางเกินไปเมื่อเผชิญกับสายตาของหมอโรคจิตบางคน เมษตั้งใจจะลุกหนีกลับเข้าห้องแต่เอกดนัยกลับฉุดมือของเธอให้นั่งลงที่เดิมแล้วนั่งลงข้างๆ ตาม
     “ไม่รอเพื่อนแล้วเหรอ?”
     เอกดนัยพูดเหมือนรู้ทัน เมษไม่มีทางเลือกเลยจำใจรอ เธอรู้ว่าเพื่อนไม่ได้พกอะไรติดตัวไปด้วยเลยเป็นห่วงกลัวว่าถ้าตนนอนแล้วเพื่อนจะเข้าห้องไม่ได้ ถึงกระนั้นเมษก็แอบขยับตัวหนีคนบางคนแบบเนียนๆ เอกดนัยมองอาการหวงเนื้อหวงตัวแล้วหัวเราะร่วน
     “เวลาเราไม่แต่งหน้าก็สวยดีนะ จมูกเราดูเป็นธรรมชาติดี”
     เมษโกรธจนหันไปถลึงตาใส่!
     “ของหนูของจริงค่ะหมอ! ของแท้แต่ดั้งเดิมทั้งหน้า!”
     เอกดนัยขำกลิ้ง
     “คนใต้เหรอ ตาโตเชียว”
     “เชื้อทางพ่อค่ะ!”
     “แล้วทำไมขาวจัง”
     เอ๊ะอีนี่! เมษอยากหันกลับไปตบหมอปากมอมสักฉาด!
     “แล้วคนใต้ต้องดำรึไงคะ? หนูก็ดูแลตัวเองสิคะหมอ ความสวยมันไม่ได้เสกกันได้ง่ายๆ นะคะ”
     “หนูเมมีความพยายามดีจัง เทียบกับรูปตอนมอหกหมอจำแทบไม่ได้”
     เมษหันขวับ!
     “ผ่านไปไม่กี่ปีสวยขึ้นตั้งเยอะ”
     เมษอ้าปากค้าง
     “หมอเคยเห็น?”
     “ไอ้ชัชไง ก็เราอยากบ้ากล้องเอง ไอ้ชัชมันชอบแชร์มาให้หมอดูบ่อยๆ”
     เมษอยากจะกรี๊ดเป็นภาษาสันกฤต! แต่เอกดนัยไม่หยุดแค่นั้น เขายังคงสนุกกับการแหย่ลูกแมวต่อ
     “อืม... เทคนิคแต่งหน้าจริงๆ ด้วย พอลบหน้าออกแล้วดั้งหายไปเยอะนะ ฮ่าๆ”
     เมษทนไม่ไหวแล้ว เธอคว้าหมอนอิงมาทุบใส่ผู้ชายปากเสียบางคน
     “อีหมอบ้า! อีหมอปากเสีย!”
     เอกดนัยหยุดหมอนที่ถูกนำมาใช้แทนอาวุธไว้ได้และขยับปากหาเรื่องแม่เสือสาวของเขาต่อ
     “ถ้าอยากโด่งถาวรบอกนะ พี่ชายหมอรับทำอยู่ หมอจะได้ค่าหัวคิว ฮ่าๆ”
     “อ๊าย!”
     เมษหงุดหงิดจนทำอะไรไม่ถูก จะดึงหมอนกลับก็ดึงไม่ออกเลยฮึดฮัดอย่างขัดใจ
     “งั้นสรุปว่าที่ไปทำมาก็มีแค่สองที่สินะ”
     เอกดนัยจับมือของเมษกางออกแล้วมองตรงส่วนที่เคยผ่านมีดหมอจนเมษขนลุก! เธอพยายามจะชักมือกลับแต่ติด
     “แล้ววันนี้ใช้โมลรึยังจะหนูเม? ใช้ของปลอมช่วยทุกวันไม่อยากลองของจริงบ้างเหรอ?”
     เมษหน้าแดงจัดเธอทั้งโกรธทั้งอาย เมษตวาดออกไปอย่างเหลืออด!
     “มันจะตีบมันจะตันก็เรื่องของหนู! ทำเอาไว้ฉี่ไม่ได้ทำเอาไว้ใช้!”
     เอกดนัยมองสาวน้อยเจ้าอารมณ์แล้วก็สะใจ พวกราศีเมษนี่ขี้โมโหดีจริงๆ เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงชอบหาเรื่องพวกแกะใจร้อนแบบนี้
     “โอ๋ๆ หมอล้อเล่น อย่าพึ่งโกรธสิ ก็กลัวเบื่อ เลยชวนคุย”
     เอกดนัยบอกขำๆ แล้วปล่อยมือเมษ
     “ชวนคุยแบบนี้ไม่ต้องคุยเลยดีกว่าค่ะ!”
     เมษเหวี่ยงกลับไม่แคร์อายุ!
     “งั้นชวนทำอย่างอื่นได้มั้ย?”
     “หมอ!”
     เมษร้องเสียงสูงปรี๊ดแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
     “ช่วยให้เกียรติหนูบ้างได้มั้ยคะ ถึงหนูจะไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆ แต่หนูก็เป็นคนนะคะ”
     “ถ้าหนูเมเป็นผู้หญิงจริงๆ หมอคงชวนขึ้นเตียงตรงๆ ไปแล้วไม่มานั่งจีบแบบนี้หรอก”
     เอกดนัยพูดออกมาง่ายๆ ราวกับการตอบเรื่องดินฟ้าอากาศ
     “หมอไม่เคยต้องจีบใครหรอก ถ้าหมออยากได้คนไหนหมอก็แค่เดินไปสะกิดถามตรงๆ ถ้าเขาไม่ตบก็แปลว่าโอเค”
     เมษหน้าแดงเขินโกรธปนอาย ทั้งดีใจทั้งไม่อยากจะเชื่อ ความคิดในหัวตีกันยุ่งเหยิง ใจหนึ่งก็ปลื้มที่มีคนออกตัวว่าจีบ อีกใจก็แอบแหวะเพราะดันเป็นผู้ชายแก่วัยใกล้สี่สิบ แต่เสียงจากส่วนลึกในจิตใจก็แย้งว่าเอกดนัยเป็นคุณหมอวัยสามสิบเจ็ดที่ยังหล่อโฮก!
     “เลิกใช้มุกโกหกแบบนี้เถอะค่ะ ให้ตายหนูก็ไม่เชื่อหรอก”
     “เอ้า! หมอเป็นหมอมีจรรยาบรรณ ไม่โกหกหรอก”
     แต่ตอแหลเป็นไฟ! เมษแอบด่าเอกดนัยเงียบๆ
     “หนูไม่เชื่อ มีที่ไหนอยู่ๆ มาจีบกะเทย เชื่อก็บ้าแล้ว”
     เอกดนัยยิ้มพราย
     “ก็เพราะหนูเมษเป็นกะเทยไงหมอเลยจีบ หมอยังไม่เคยลองกับกะเทยเลยอ่ะ”
     “อ๊าย! อีหมอบ้า!”
     “ฮ่าๆ”
     เมษพุ่งเข้าไปพร้อมอาวุธในมือ เอกดนัยโยกหลบหมอนที่กำลังจะกระหน่ำลงหัวของตนแล้วพลิกตัวมารวบเอวคนตัวเล็กสูงไม่ถึงมาตรฐานชายไทยไว้ในวงแขนได้อย่างง่ายดาย
     “ถ้าหนูไม่ได้เอาเลือดปากหมอมาสังเวยอย่ามาเรียกหนูว่าเมษา!”
     “สังเวยจากตรงอื่นแทนได้มั้ยหมอจะได้เรียกเราว่าที่รัก”
     “กรี๊ด อีหมอบ้า!”
     แล้วเมษก็ดิ้นขลุกขลักก่อนจะถูกอุ้มเข้าห้อง ...

     ส่วนผล...
     “แล้วตกลง... นายโดน... นาย... ยังจิ้นอยู่มั้ย?”
     ต้นน้ำถามด้วยความอยากรู้ เขาหันไปมองเอกดนัยสลับกับเพื่อนรัก นัยน์ตาของเขาเป็นประกาบวาววับกับข่าวใหม่ล่าสุด ในที่สุดเพื่อนของเขาก็สละคานแล้ว! แต่เมษกลับทำท่าเอียงอายไม่ยอมตอบ
     “บะบ้า ... แกแหละ ตกลงคืนดีกันแล้วใช่มั้ย โทรมมาเชียว”
     เป็นครั้งแรกที่เมษเนียนเปลี่ยนเรื่อง ต้นน้ำพยายามจับผิดเพื่อนจนลืมสนใจแฟน
     “ไอ้หมาเอก มึงทำไรเพื่อนเมียกู?”
     เอกดนัยซดกาแฟไม่ตอบ
     “น้องเมษเป็นเด็กดีมากนะมึง อย่ามาทำน้องกูเสียคน เขาไม่ใช่ของเล่น เกิดมึงฟันแล้วทิ้งไอ้ต้นมันฆ่ากูแน่!”
     อ้าว... ที่แท้ชัยชัชก็ห่วงตัวเอง
     “กูทำอะไรให้คนอ่านคิดเองเหอะ ง่วงว่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย ซักแก้วมั้ยเพื่อน”
     ชัยชัชเลยรับกาแฟมาแบบงงๆ
     “ช่างแม่ง! ยังไงก็ได้คืนดีกับไอ้ต้นแล้ว เรื่องอื่นขี้เกียจยุ่งวุ๊ย!”

จบ (จริงๆ นะ)
[END]

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อา สงสารน้องเมษ แต่คาดว่าให้ตายก็คงไม่ปริปากบอกหรอกว่ารอดรึไม่รอด แต่ดูเรียบร้อยขึ้นนะ หรือชีจะออกเรือน? ฮ่าๆ

***เกร็ดความรู้ประจำตอน - สาวประเภทสองที่เฉาะแล้วต้องมีพิธีกรรมเบิกรูทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ หลังการผ่าตัด ไม่งั้นรูที่ทำมามันจะตื้น ตีบ และตันในที่สุด ทำได้แค่ฉี่เพียงอย่างเดียว อุปกรณ์ที่ใช้ก็เรียกว่า"โมล" ข้อมูลอื่นหาอ่านได้ตามเว็บที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแปลงเพศจ้า


จบแล้วจ้า! จบแบบนี้ตรงใจคนอ่านมั้ย? ฟินมะ? เค้าอมยิ้มล่ะ นิยายเรื่องนี้ไม่ค่อยจิกหมอนเนาะ ส่วนมากมักจะอมยิ้ม ฮ่าๆ

ใครถูกใจเชิญกรี๊ดดังๆ ให้คนแต่งชื่นใจที  :hao5:

ขอบคุณสำหรับการติดตามน้า  :bye2: 

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ กาสะลอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบแล้วจริงเหรอ อยากอ่านต่อ. ตอนอิพี่ชัชมันเลวก็เกลียดมันมาก พอต้นเลิกก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ในความรู้สึกคนอื่นมันไม่ใช่สำหรับต้น.  แม็ก อาร์ม มิวนิค หรือใครก็ยังไม่ใช่  ในความรู้สึกคือเอาต้นไม่อยู่หรอก ถ้าต้นเลือกใครสักคนสุดท้ายก็ต้องเลิกอยู่ดี.

คนบางคนดีจริง แต่เหมาะกับการเป็นเพื่อนมากกว่าการเป็นคู่ชีวิต
ส่วนคู่ชีวิต ใช่ว่าต้องดีเลิศหรือเพอร์เฟค แค่คือคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข

ดีใจนะที่ได้อ่านเรื่องนี้. เขียนเรื่องใหม่จะตามไปอ่านนะ. แต่อยากอ่านต่อนะ อยากรู้สมาชิกในฮาเร็มจะเป็นไง เมื่อรู้ว่าพี่ชัชกลับมา ทั้งครอบครัวต้นอีก เราว่ามันยังไม่จบนะ อิพี่ชัชมันน่าจะต้องเจออีกหลายด่านนะ อีกอย่างชีวิตคู่หลังจากการเปลี่ยนลุคของต้นมันน่าจะแซ่บ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อิพี่ชัช แกยังได้เป็นพระเอกเพราะต้นรัก และรักต้นอ่ะ


ถ้านับความดีแบบใครดีแล้วได้เป็นพระเอก แกไม่ติดหนึ่งใน 3 แน่นอน
เรื่องนี้ผู้แต่ละคนเป็นมนุษย์มากไม่ใช่พระเอกเลย มีดีมีเลวปนกัน

แอบเสียดายที่จะจบ

จบจริงเหรอค่ะ ขอคุณพ่อกับคุณปู่รู้เรื่องอีกซักตอนได้ไหมค่ะ

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามค่า

ขอบคุณคุณ nokkaling เราจำอวาต้าร์คุณได้ ฮ่าๆ แฟนตะแต่ภาคแรกเลยมั้ง เหอๆ 

ขอบคุณคุณกาสะลอง หุๆ เอาไม่อยู่เลยเหรอค้า ไม่น้า ต้นไม่ได้ร้ายขนาดนั้น แค่จอมดราม่า เลยต้องหาคนนิ่งๆ มาปราบ ซึ่งบทพี่ชัชจะเก็กขรึมเฮียแกก็ทำได้ อีกคนเห็นจะเป็นคุณน้าสุดคูลเขาล่ะ
นอกนั้น แม็กซ์นี่ปล่อยให้เป็นไปตามพล็อตนิยายวายเถอะ อาร์มนี่เราก็อยากสื่อถึงมุมมองความรักแบบ "ชอบนะ แต่เป็นเพื่อนกันดีกว่า แค่ชอบเฉยๆ" เห็นคนอื่นชอบเอาประเด็นนี้ไปเล่นแบบเศร้าๆ กันเยอะ อีกอย่างตอนที่เราอ่านพื้นดวงราศีธนูของพ่อหนุ่มอาร์ม เขาบอกว่าคนราศีนี้มักจะแบบนี้แหละค่ะ สุดท้ายก็กลายเป้นเพื่อนไปหมด ฮ่าๆ ส่วนตามิวนิคหรือหนูมิวของเรา รายนี้ให้มันแอบชอบต่อไปเห้อ ขำๆ ความจริงเราว่าฮาเรมทุกคนรู้ดีเลยแหละว่าต้นยังไม่ลืมแฟนเก่าแล้วก็ไม่คิดจะมีใคร ฮ่าๆ บอกแล้ว น้องต้นโกหกไม่เก่ง ที่เก่งคือสามารถทำให้คนอื่นยอมเชื่อคำโกหก เอิ้กๆ
จริงๆ เราก็คิดไว้ในหัวอีกเยอะ แต่ถ้าไม่ยอมจบมันจะยืดเกินไป เท่านี้ก็โดนว่าๆ เนื้อเรื่องอืดจากนักอ่านบางท่านแล้วมั้งคะ ฮ่าๆ ก็ทำไงได้นิยายแนว Slice of life บทละประเด็นเล่าต่อกันไปเรื่อยๆ ผ่านตัวละครหลายๆ ตัว บางทีต้องขยี้ปมในใจตัวละครอีกตะหากมันเลยยืด ตอนที่เราเขียนช่วงที่เป็นเรื่องในมหาลัยเรานึกภาพแบบสเก็นแด๊นซ์เลยนะ ฮ่าๆ ยิ่งฉากที่ทุกคนโทรหาต้นอ่ะ เราอยากได้ฟีลโชเน็นมิตรภาพในหมู่เพื่อนประมาณนั้นเลยค่ะ
แต่ไงก็ขอบคุณนะค้า รับรองยังไงเราก็จบแบบฟีลกู๊ดเสมอ ฮ่าๆ

ขอบคุณคุณ fuku ฮ่าๆ ก็คนแต่งเป็นมนุษย์นี่คะ เลยอยากเขียนนิยายที่มีพระเอกเป็นคนธรรมดา ดีใจมากเลยนะเนี่ย คำชมคำใหม่ "สมกับเป็นมนุษย์" ฮ่าๆ ปลื้มมากค่ะ จริงๆ ก็อยากเขียนตอนพิเศษหลังจากนี้อยู่น้า แต่ว่ายังไม่ว่างเลยอ่า ได้แต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แหะๆ อาจจะมีช่วงปีใหม่มั้งคะ รอดูก่อน แต่คงไม่ใช่เนื้อเรื่องหลักแล้วล่ะ น่าจะเป็นตอนพิเศษสั้นๆ มากกว่า แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า

ถ้ามีคนอยากอ่านนิยายสายเรียล ฝากนักอ่านแนะนำต่อทีน้า ฮ่าๆ บอกตามตรง นิยายเรื่องนี้ไม่รู้จะเอาไปโฆษณาชาวบ้านเค้าว่าอะไรดี มันครบทุกรสแต่ไม่สุดซักอย่าง เอิ้กๆ
 :-[

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
หึ้ยยคือแบบ ทำไมตอนจบชั้นไม่ฟินกับชัช ต้น
แต่ไปฟินกับหนูเมษกับอิหมอเอกแทน แบบกรี๊ดดดเลย
ดีใจและแอบใจหายเรื่องนี้จบแล้วยังอยากอ่านหนุ่มๆในฮาเร็มอยุ่เลย คือไม่คิดเลยว่าหมอเอกกับหนูเมษจะมาเกี่ยวข้องกันได้ แบบอร๊าายยยบอกไม่ถูก ในส่วนของความรุ้สึกในตอนจบก็รุ้สึกดีคะ คือมันโหยหามานาน พออยุ่ไกล้กันเลยได้ปลดปล่อยเนาะ แอบเปลี่ยนอารมกะทันหันหน่อยตอนฟีตกับพี่ชัชเสร็จแล้วพี่ชัชร้องให้ บทนี้เขียนดีเลยคะ ชอบบบ
สุดท้ายขอตอนพิเศษของเหล่าหนุ่มในฮาเร็ม และก้ของหนูเมษกับหมอเอกหน่อยได้มั้ยคะ นี้ยังกลับไปอ่านตอนที่น้องเมษนอต้นในห้องนั่งเล่นอีกครั้งเลยแบบว่าฟินมากกก

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ตอนจบฟินกับเมษเอกจริงๆ อยากจะรู้ซะมัดสรุปเมษเสร็จไปแล้วหรือยัง 55555555

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ชอบเรื่องนี้มาก แม้จะตามมาอ่านทีหลัง

edit------------------


เอาจริงๆคือเรื่องนี้เรียลค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีส่วนที่ดึงสติให้เราคิดอยู่ว่ามันคือนิยาย ใช้เวลาหลายวันจริงๆกว่าจะอ่านจบ แต่ค่อนข้างชอบมากๆ

จะบอกว่าคนเขียนทำร้ายจิตใจมันก็คงไม่ใช่นะ 55555 ช่วงหลังๆที่มันดราม่าหนักๆนี่แทบทนอ่านต่อไปไม่ไหว เพราะว่าฝังตัวเองลงไปให้เป็นต้นน้ำ กลัวจะจิตตกเสียก่อน โดยเฉพาะตอนที่ของพี่ชัชกะยัยป้าน้ำตาลนี่บอกเลย เลื่อนหนีอย่างรวดเร็วอ่ะ ต้องข้ามไปอ่านตอนจบก่อนถึงจะทำใจกลับมาอ่านได้ ไม่ไหวๆ รู้สึกหน้ามืดจะเป็นลม เครียดมากกกกกกก

แต่นี่แหละที่สื่อถึงความเรียลของตัวละคร พี่ชัชไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไรหรอก ออกจะชั่วด้วยซ้ำ ดังนั้นที่ต้นน้ำบอกเลิกก็นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะ ถ้าเรายึดเรื่องเหตุผลและเหตุการณ์เวลานั้นเป็นหลัก แต่ดีใจมากที่ในที่สุดก็กลับมาอยู่ด้วยกัน

ต้นน้ำเป็นตัวละครที่ปั้นได้ดี ดีจนเกลียดในบางการกระทำจริงๆ ต้นน้ำมีหลายความคิดความรู้สึกที่คล้ายเรานะ โดยเฉพาะเรื่องการใส่หน้ากากกับหวงพื้นที่ส่วนตัว อันนี้เป๊ะ แต่ไอ้การอ้ำๆอึ้งๆหนีปัญหา ทำอะไรไม่เคลียร์เนี่ย บอกเลยว่าไม่ใช่ ตอนที่อ่านยังรู้สึกหงุดหงิดต้นน้ำแทบแย่ รู้เลยว่าเพราะเป็นแบบนี้แหละ ต้นน้ำถึงได้ปวดหัววุ่นวายทีหลัง

ชอบกลุ่มเพื่อนกลุ่มสังคมนะ เพราะคนแบบนี้มีอยู่จริงๆ แต่เราก็ไม่เคยเจอใครที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ คือคนประเภทชอบเสือกน่ะเราก็มีที่รู้จัก แต่ถ้าหากบอกเขาว่าเรื่องส่วนตัว เขาก็ไม่เซ้าซี้นะ แต่กลุ่มสังคมต้นน้ำนี่ ทั้งเสือกทั้งเซ้าซี้เลย มันอาจจะตรงไปหน่อย แต่ลักษณะที่เขียนมามันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ คนที่ชัดเจนที่สุดเลยคือ ไปป์

ไม่ชอบไปป์นะ ถึงแม้ไปป์จะไม่มีพิษมีภัยจริงๆก็เถอะ แต่เกลียดคนประเภทที่ชอบเซ้าซี้ รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว คิดว่ามันมากเกินไป หลายๆครั้งเลยที่คิดเหมือนต้นน้ำ ในเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัว ทำไมเราต้องมานั่งรายงานตอบคำถามคนอื่นล่ะ? ถึงจะเพื่อนก็เถอะ สำหรับเรานะ เรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัว เราต้องการพื้นที่เอาไว้หายใจบ้าง และคิดว่าคนอื่นๆก็คงเหมือนกัน อย่างน้อยๆคนเราก็ต้องมีเรื่องที่อยากจะเก็บเป็นความลับใช่ไหมล่ะ กับเพื่อนก็เป็นแบบนั้นนะ คือมีระยะที่เว้นเอาไว้เป็นส่วนตัวของเพื่อนแต่ละคน แต่เราคิดว่า เพราะต้นน้ำเก็บแทบจะทุกเรื่องออกห่างเพื่อน เข้าใกล้เพื่อนเฉพาะสิ่งที่เขาทำเป็นประจำเท่านั้น มันก็เลยทำให้กลายเป็นอย่างที่เห็นละมั้ง

โดยรวมแล้ว เรื่องนี้ถือว่าโอเคมาก มีส่วนที่เราข้ามๆไปเหมือนกันคือช่วงหลังเลิกกับพี่ชัช เพราะดูมันออกทะเลแล้วก็เหมือนไม่ค่อยใช่ต้นน้ำ แต่ก็โอเคตอนจบมากๆ

อยากให้มีตอนพิเศษที่พูดถึงเรื่องราวหลังกลับมาคืนดีกันนิดๆหน่อยๆนะ แล้วก็เรื่องของป้าน้ำตาล เพราะรู้สึกว่าเป็นจุดที่น่าสนใจมาก ผู้หญิงคนนี้เข้ามาสร้างความร้าวฉานแล้วไม่ควรหายตัวไปเฉยๆ นางเป็นตัวร้ายที่ควรมีบทอีกนิดนึงเพื่อให้จบ อยากรู้ว่าหลังจากที่พี่ชัชกับต้นน้ำทะเลาะกันครั้งแรก กับน้ำตาลพี่ชัชเป็นไง หรือหลังจากคืนดีกันแล้ว พี่ชัชกะยัยป้าเป็นไงมั่ง รู้สึกว่ามันยังไม่สุดนิดหน่อย

จะติดตามเรื่องอื่นๆต่อไป  o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2014 20:48:01 โดย KAMI »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
อา... ยังไม่ถึงไหนเลย จะพยายามมาต่อวันละนิดนะ เหมือนจะเคยสัญญาไว้ว่าจะมีตอนพิเศษช่วงปีใหม่ เพราะเป็นวันที่พี่ชัชกับต้นคบกันพอดี ดังนั้นมันเป็นอีเว้นท์ที่ควรจะเขียน

แต่... ช่วงนี้ติดเกมติดหาข้อมูล STRING LOVE TRICK เลยไม่ได้แต่งตุนไว้ ยังบอกไม่ได้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง อาจจะแต่งๆ ไปแล้วฆ่าตัดตอนก็ได้ ประเด็นหลักๆ ก็คิดไว้แล้ว แต่ระหว่างทางยังไม่ได้สรุปเลยอ่ะ

กะว่าจะแต่งให้เสร็จก่อนค่อยเอาไปลงให้เด็กดีทีเดียวเลย แฟนๆ ทางโน้นก็รอหน่อยน้า

 :hao5: :hao5:



ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม

เสียงริงโทนที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้เอกดนัยต้องส่งสัญญาณให้เมษช่วยรับโทรศัพท์แทน เมษรีบตะครุบโทรศัพท์มือถือมากดรับสายด้วยเกรงว่าจะรบกวนคนที่หลับอยู่
“ฮัลโหลว? ต้องการพูดกับใครคะ?”
“อ้าวเมษเหรอ? ไอ้เอกอยู่มั้ย?”
“อยู่ข้างๆ แต่ไม่สะดวกรับค่ะ พี่ชัชมีอะไรรึเปล่าคะ?”
ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“เออ ดีเนาะ ฉลองปีใหม่กันสองคนหนุกหนาน ไปไหนกันมาอ่ะ?”
“อะแฮ่มๆ ตกลงว่าที่โทรหาผัวหนูเพราะเหงาเหรอคะ? ไม่ได้มีธุระอะไรใช่มั้ยหนูจะได้บอกผัวหนูให้ขับรถต่อ ยังต้องเอาเด็กไปส่งอีก”
“อ้าว โอ๊ตก็อยู่เหรอ? พากันไปเที่ยวไหนมาล่ะ? สนุกมั้ย?”
“เหอะๆ สนุกค่ะ สนุกม๊ากเท่าที่กะเทยเกลียดเด็กจะทำได้!”
เมษว่าพลางหันไปค้อนปะหลับปะเหลือกให้เอกดนัยที่อมยิ้มไปขับรถไป
“แต่ก็ยังได้อยู่ด้วยกัน ... ดีเนอะ เดี๋ยวพอส่งเสร็จแล้วจะไปไหนต่ออ่ะ?”
“โอ๊ย! ไม่ไปแล้วค่ะ เหนื่อย! ขอกลับบ้านนอนดีกว่า ทำไมคะอยากตามมาเป็นก้างขวางคอหนูกับผัวต่อรึไง!”
“หนูเม เบาๆ หน่อย เดี๋ยวโอ๊ตก็ตื่นหรอก”
“คร่า!”
เมษรับคำไม่จริงจังก่อนจะร่ายยาวใส่ “เพื่อนสนิทของแฟนผู้เป็นแฟนเก่าเพื่อนรักของตน” ต่อ
“พี่ชัชก็ปล่อยๆ มันไปบ้างเถอะค่ะ กับอีแค่เคาท์ดาวน์ปีใหม่เอง ปีที่แล้วพี่ยังติดงานเลย ปีนี้นังต้นมันจะไปแรดกับเพื่อนมันบ้างจะเป็นไร”
“รู้แล้วน่ะ”
“รู้แล้วก็เลิกกวนผัวหนูได้แล้วค่ะ พี่ทำตัวเองๆ นะคะ ต้องทำใจหน่อยล่ะ นังต้นมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วจะให้อยู่แต่ในห้องรอพี่ทุกวันคงเป็นไปไม่ได้ ต่อให้มันไม่ได้ไปกับเพื่อนมันก็ต้องอยู่กับปู่มันอยู่ดี หนูว่าพี่คิดเรื่องนี้ให้ตกก่อนดีกว่ามั้ยคะ?”
“พี่ก็แค่โทรมาคุยกับเพื่อน ถ้ามันว่างแล้วบอกมันโทรกลับด้วยล่ะ”
แล้วชัยชัชก็งอนวางสายไป ส่วนเมษก็ยิ้มอย่างสะใจก่อนจะกดปิดหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงที่เดิม
“หนูเมนี่ร้ายจริงๆ ด่าซะไอ้ชัชมันงอนเลย หมอพึ่งรู้ว่าแฟนหมอเป็นนางมารร้ายนะนี่ หึๆ”
เอกดนัยเอ่ยแซว ส่วนเมษก็ยิ้มหวาน
“แล้วถ้าหนูไม่ร้ายหนูจะเอาหมอเจ้าเล่ห์บางคนอยู่เหรอคะ บังเอิญหนูขึ้นหลังเสือแล้ว ถ้าไม่อยากตกลงมาเจ็บหนูก็ต้องมีวิชาปราบเสือกันบ้าง”
คารมของแมวสาวทำให้คุณหมอวัยกลางคนยิ้มกว้าง
“คิดถูกจริงๆ ที่จีบหนูเม ได้ทั้งเมีย ได้ทั้งแม่”
“แม่อะไรคะ!”
เมื่อเมษหันกลับมาแว้ดใส่เอกดนัยจึงแก้ลำ
“แม่ของโอ๊ตไง”
“โอย... มิกล้ารับค่ะ รีบๆ เอาลูกเขาไปส่งคืนแม่ตัวจริงดีกว่า หนูอยากกลับบ้านนอนแล้ว”
“ค้างกับหมอนะ”
เอกดนัยเอ่ยชวนเรียบๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้ แต่เมษไม่ตอบ เธอหันไปมองวิวนอกหน้าต่างรถแทน



 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

จะพยายามมาต่อทุกวัน ถ้าไม่ติดเก็บเควสวันในเกม ส่วน #พี่เทพน้องดาว เจอกันอาทิตย์ละวันเน้อ อัพทุกศุกร์(หรือเสาร์)

  :bye2:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
โอ๊ตคือลูกใคร เค้าลืมอะ หนูเม ยอมรับหมอเอกเป็นผัวแล้ววว ดีจัง น่ารักกกกก

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
รีเควสตอนพิเศษเยอะๆๆได้ม้ายยยค้าาา

ขอบคุณคนเขียนค่าา

บุ่ยๆๆกลับไปอ่านต่อก่อน จริงๆข้ามมาอ่านตอนจบก่อนกลัวโศกนาฏกรรม
ทั้งๆที่กะว่าจะสแกนตอนท้ายๆผ่านๆว่าตอนจบแฮปปี้เท่านั้น แล้วค่อยเริ่มอ่านตอนแรก แต่สุดท้ายก็นั่งอ่านมัน
ทุกบรรทัดปาเข้าไป3ชั่วโมงกับ3ตอนสุดท้ายของภาคสอง มันอึดอัดมันหน่วงมันลุ้นจนหยุดอ่านไม่ได้เลย
มาเม้นท์จองที่ก่อนจะกลับไปอ่านตอนแรกๆใหม่

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
โฮะๆ ไม่แปลกที่จะไม่คุ้นกับ "โอ๊ต" เพราะเด็กคนนี้ไม่เคยโผล่มาจริงๆ แต่...พี่ชัชรู้จัก หึๆ เดาจากบริบทเอาเอง (ใจจริงว่าจะเขียนฉากตอนตกลงคบกันของเมษกับหมออยู่แต่ยังไม่ว่าง)

แบบว่า คนเขียนชอบฮาเรมหนุ่มๆ ชอบความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อน ชอบอิ๊อะแบบอมยิ้ม ไอ้นิยายวายประเภทเคะ&เมะแล้วก็ตัวร้ายเนี่ยแถวนี้มีเกลื่อนแล้วมั้ง?
ไหนคนชอบถามหานิยาย"แนวแอบรักเพื่อน"ไม่ใช่เหรอ? นี่ไงๆ ยกมือชูนิยายเรื่องนี้ขึ้นโบกหยอยๆ (เจอคนอ่านโบกโทษฐานกวนตี๊ดแน่ๆ)
แต่เอาน่า นิยายเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ เป็นสเน่ห์เลยนะ จะมีซักกี่เรื่องที่พระเอกหายหัวไปตลอดเกือบทั้งเรื่องแถมเหล่าตัวประกอบทำคะแนนกันถ้วนหน้า แต่คนเขียนต้องเขียนให้เคะยังรักพระเอกอยู่อย่างสมเหตุสมผล จะมีซักกี่เรื่องที่พระเอกโคตรเลวแต่ก็ยังมีแฟนๆ อยากให้คู่นี้กลับมารักกัน แถมในบางอารมณ์คนที่เชียร์ตัวรองคนอื่นๆ ก็มีเหตุผลที่จะเชียร์อย่างสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะจากความทุ่มเท ความน่ารัก หรือการทำคะแนน แล้วแต่ว่าคนอ่านชอบเคมีแบบไหน

ดังนั้น ตอนพิเศษมันเลยออกจะเรื่อยๆ เปื่อยๆ ชอบกล บางคนเรียกว่าไร้สาระ จะรออ่านแต่พระเอกกับนายเอกได้รักกัน คือ... เราว่านั่นไม่ใช่สาระของนิยายเรื่องนี้หรอกมั้ง? นับไม่ถูกหรอกว่าคนแต่งหลอกด่าเสียดสีสังคมไปกี่มุกกี่ตอน ฮ่าๆ เป็นนิยายรักเชิงเสียดสีพฤติกรรมมนุษย์น่ะ เน้นเรื่องความสัมพันมากกว่าความรัก เรื่องอื่นเขาอาจจะเล่าแบบคู่นี้รักกันได้ยังไง แต่เราชอบเล่าแบบคู่นี้เขาพัฒนาความสัมพันธ์ยังไงมากกว่าอ่ะ
หึ หึ ตอนนี้ต้นน้ำเลยพัฒนาความสัมพันธ์กับ .... ไม่บอกดีกว่า อ่านเอาเอง อิ อิ (จริงๆ ฮีก็แค่พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้คนในสังคมเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก)

เอาล่ะมาดูกันเถอะว่าต้นน้ำเวอร์ชั่นติดสกิลราชินีlv.maxจะร้ายขนาดไหน?
เห็นมะ เขาบอกอยู่ป่าวๆ ว่าตัวเอกเขามี "3ร" ร้าย แรง แรด ถ้าไม่ร้ายฮีจะหลอกพี่ชัชว่าได้กันรึ? ความแรงของน้องแกก็เห็นๆ กันอยู่ ความแรดหลบในที่ตอนนี้เริ่มแสดงออก อืม... นึกถึงฉากเปิดตัวเข้าไว้ เคะดีๆ ที่ไหนจะไปแอ๊บหลอกผู้ชายว่าได้กันแล้วละขอเป็นแฟน
เบื่อพล็อตเดิมๆ ซ้ำ ดาวพระศุกร์ มุกแก้แค้น ควงกันเป็นแฟนหลอกๆ มั้ย? คนแต่งก็เบื่อ มาอ่านอะไรบ้าๆ แบบน้องต้นดีกว่ามา ฮ่าๆ

*** แต่ยังแต่งไม่จบนะ ฉากจบของตอนพิเศษคิดไว้แล้ว ยังไงคู่รักก็ต้องลงเอยด้วยกันอยู่ดี แต่ระหว่างทางนี่สิมันมีอะไรให้เขียนอีกเยอะ รักใครชอบใครคิดถึงใคร บอกกันได้นะ ถ้ายัดทันจะยัดให้ เหอะๆ ***


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม (ต่อ)

ชั่วโมงแรกของปีกำลังจะผ่านไป ต้นน้ำเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการอยู่กับตัวเองตามลำพัง ท่ามกลางเสียงคลื่นซัดสาดยังมีเสียงเพลงแว่วมาให้ได้ยิน ต้นน้ำไม่แน่ใจว่าเสียงนั้นดังมาจากเวทีคอนเสิร์ตหรือผับบาร์ใกล้เคียง เขานั่งกอดเข่ามองทะเลเงียบๆ โดยกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ
“ออกมานั่งคนเดียวเงียบๆ กูนึกว่ามึงไปนอนแล้วซะอีก”
“เอก”
“กูสูบได้ป่ะ?”
ต้นน้ำพยักหน้าให้เอกจึงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟแล้วสูดควันเข้าปอด
“ข้างในเลิกกันแล้วเหรอ? เสียงเงียบไปตั้งเยอะ”
“เริ่มน็อกกันแล้วมั้ง มิวนิคเมาคว่ำ คิวว์ก็หลับไปคนแรก เหลือพัทจอมแหกปากกับอัฐนั่งกินกันสองคน”
อา... น้าชายเขาคอทองแดงจริงๆ เหมือนแม่เขาไม่มีผิด!
“อ้าวแล้วนอยซ์กับถังล่ะ?”
“ถังมันเข้าห้องนอนตั้งแต่กลับจากคอนเสิร์ตแล้ว ส่วนนอยซ์ไม่รู้ว่ะ สงสัยหลับคาห้องน้ำไปแล้วมั้ง”
เอกนั่งสูบบุหรี่ ส่วนต้นน้ำก็นั่งเหม่อทำมิวสิคเช่นเดิม เวลาผ่านไปซักพักเอกจึงทักขึ้น
“มึงมีอะไรไม่สบายใจรึไง กูเห็นจ้องโทรศัพท์นานละ รอใครเหรอ?”
“เขาไม่โทรมาหรอก เขาคงไม่อยากกวนเรา”
“แล้วทำไมมึงไม่โทรไปหาเขา”
“ก็เรามาเที่ยวกับเพื่อน อยากเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ไม่รู้จะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่”
ต้นน้ำพยายามปรับตัวเข้าหาคนอื่น เขาตั้งกฎเหล็กของตัวเองว่าต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในเวลาที่เขาทุกข์คนที่อยู่เคียงข้างเขาก็คือเพื่อน ดังนั้นเขาจะใส่ใจกับเพื่อนให้มากกว่าเดิม ต้นน้ำอยากทะนุถนอมช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เอาไว้ เขาอยู่ปีสามแล้ว ถ้าจบปริญญาตรีอีกหน่อยเขาอาจไม่มีโอกาสได้ไปสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนฝูงแบบนี้อีกแล้ว ส่วนเรื่องคนรักนั้นต้นน้ำคิดเอาแต่ใจนิดๆ ว่าถ้าชัยชัชรักเขาจริงก็ต้องเข้าใจ ถ้าพวกเขาสองคนเป็นคู่แท้ของกันและกันจริงๆ ต่อไปเขากับชัยชัชจะมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกทั้งชีวิต แต่ถ้าไม่ใช่เขาก็พร้อมจะเดิมพัน!
“มึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ามึงกลับไปคบกับแฟนเก่ามากกว่า”
เอกพูดพลางพ่นควัน ถ้าไม่ใช่เพราะเจอกันโดยบังเอิญที่สวนอาหารที่เขาชอบไปเชียร์บอลเป็นประจำเขาก็คงไม่รู้ว่าต้นน้ำกลับไปคบกับแฟนเก่า ดูเหมือนต้นน้ำจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่ยอมบอกใคร
“มั้ง ไม่รู้สิ เราไม่รู้จะบอกคนอื่นยังไง เรากลัวเขาไม่เข้าใจ”
ความจริงนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้นน้ำกังวล เขากลับไปคบกับชัยชัชได้ราวๆ สองเดือนแล้ว แต่เป็นสองเดือนที่เจอกันน้อยมาก บางอาทิตย์ก็ไม่ได้เจอเพราะเขาเองก็มีโลกของเขาที่กว้างขึ้น แม้จะแอบดีใจที่ผู้ชายขี้หึงคนนั้นยอมเข้าใจแต่อีกใจหนึ่งเขาก็อดรู้สึกโหวงๆ ในอกไม่ได้
แต่ถ้าให้เปิดเผยเรื่องนี้กับคนอื่น เขาก็ไม่รู้จะทำเช่นไร เขาให้อภัยไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะให้อภัยตาม แม้ชัยชัชจะไม่ใช่คนที่ทำให้เขาเจอกับเรื่องเลวร้ายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือต้นเหตุ ทุกคนรู้ดีว่าเขาทะเลาะกับชัยชัชเพราะชายหนุ่มนอกใจเขา แล้วแบบนี้ใครที่ไหนจะยอมให้หลานตัวเองกลับไปคบกับผู้ชายแย่ๆ แบบนั้นอีก กระทั่งตัวเขาเองยังแอบกลัว แต่ลึกๆ แล้วต้นน้ำเชื่อว่าต่อไปนี้ชัยชัชจะรักและซื่อสัตย์กับเขาคนเดียว เขารู้ว่าแฟนของเขาพูดจริงทำจริงคำไหนคำนั้น ในเมื่อชัยชัชชดใช้ให้ยัยแม่มดร้ายนั่นไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมาทวงความยุติธรรมจากแฟนเขาอีก อันที่จริงเรื่องที่ชัยชัชกลับมาคบกับเขาเหมือนเดิมนี้มีแต่หมอเอกเท่านั้นที่รู้ ในสายตาคนอื่นชัยชัชจึงเป็นเสือแก่หมดไฟไร้เขี้ยวเล็บเช่นเดิม
“มึงพูดถึงไอ้พวกบ้านั่นหรือบ้านมึง?”
“ก็รวมๆ แหละ อืม... เรากลัวคนอื่นไม่เข้าใจว่าทำไมละมั้ง เพราะเมย์แท้ๆ เลย”
ถึงต้นน้ำจะรักแฟนแต่เขาก็แคร์ความรู้สึกของเพื่อนด้วยเช่นกัน ดูเหมือนเรื่องที่ต้นน้ำถูกแฟนนอกใจจนทะเลาะกันถึงขั้นมีการลงไม้ลงมือจะรู้กันลับๆ ภายในเหล่าฟิสิกส์มุง บางคน โดยเฉพาะเมย์โทษว่าชัยชัชเป็นสาเหตุทำให้ต้นน้ำไปเจอกับเรื่องเลวร้าย “ถ้าต้นไม่ทะเลาะกับมันจนซึมเศร้าต้นก็ไม่ต้องไปที่นั่นจนเกิดเรื่องหรอก”
“ชีวิตมึงใครจะมีสิทธิ์เสือกให้ มึงเลือกเองทั้งนั้น แต่ถ้ามึงมีความสุขก็ทำไปเหอะ ไม่ต้องคิดมากหรอก”
เพราะเอกเป็นคนแบบนี้แหละต้นน้ำถึงได้รู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้ ตอนที่ทะเลาะกันทั้งคู่ถึงได้เสียความรู้สึกไปพอสมควร ไม่มีใครอยากเสียคนที่เราถูกคอไปหรอก แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันต้นน้ำกับเอกจึงสนิทกันมากกว่าเดิม
“เรารู้ แต่เรา... เราพยายามหาวิธีประนีประนอมอยู่มั้ง หลายๆ อย่างน่ะ”
“เพราะงี้แหละกูถึงไม่อยากมีแฟน”
“เราโลภมากอ่ะ เราอยากมีทั้งแฟนแล้วก็อยากสนุกกับเพื่อนด้วย เมื่อก่อนเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้เลย รู้สึกดีเป็นบ้าที่ได้ฉลองปีใหม่กับเพื่อน เป็นครั้งแรกของเราเลยนะ!”
น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของต้นน้ำทำให้เอกแอบขำ เพื่อนเขากำลังหัดใจแตก
“สนุกกว่าตอนอยู่กับแฟนมึง?”
“ไม่รู้สิมันคนละแบบอ่ะ... แต่เราไม่อยากโกหกที่บ้าน เราเลยตัดปัญหามากับพวกคิวว์ดีกว่า อีกอย่างเรากับเขาจะได้ชินกับระยะห่างนี่ด้วย ถ้าทนไม่ได้ก็คงไปกันไม่รอดจริงๆ”
เดิมพันที่วางไว้ช่างน่ากลัว ลึกๆ แล้วต้นน้ำก็แอบกลัวลางสังหรณ์ของตนไม่ได้ ปีที่แล้วชัยชัชติดงาน เขาต้องรอชัยชัชอยู่ในห้องคนเดียว แล้วก็เกิดเรื่องไม่ดีหลายๆ อย่างขึ้น พอมาปีนี้ต้นน้ำเลือกทำแบบนี้ เขาเองก็แอบกลัว...
“มึงกลัวไปไม่รอดอ่ะดิ ฮ่าๆ”
“ก็เรารักเขานี่ แต่เราอยากให้เขาปรับตัวเพื่อเราๆ ผิดด้วยเหรอ? ถ้าเขารักเราจริงก็ต้องรับทุกอย่างที่เป็นเราได้สิ เมื่อก่อนก็เป็นเรื่องของเมื่อก่อน แต่ตอนเรานี้อยากสนุกกับชีวิต อยากเรียนต่อ อยากทำอะไรที่เราอยากทำแค่นั้นเอง เมื่อก่อนมีแต่เราที่เป็นฝ่ายเข้าใจเขายอมเขาตลอด ตอนนี้เราอยากให้เขาเป็นฝ่ายเข้าใจเราบ้างแค่นั้นเอง”
“กูว่าเมื่อก่อนมึงเอาแต่ใจแล้วนะ ตอนนี้โคตรเลยว่ะต้น”
เมื่อถูกว่าต้นน้ำจึงหน้างอ เขาไม่ได้เอาแต่ใจซักหน่อย!
“แต่กูชอบแบบนี้มากกว่าเดิมเยอะว่ะ เข้าถึงง่ายดี”
แม้จะรู้ดีว่าเอกหมายถึงอะไรแต่อีกใจต้นน้ำก็อดนึกถึงเรื่องร้ายๆ ขึ้นมาไม่ได้ แม้เพจแอนตี้จะปิดไปแล้วแต่ความเกลียดชังยังคงอยู่ เขาห้ามปากคนไม่ได้หรอก ดังนั้นเสียงนินทาจึงยังคงดังมาให้ได้ยิน
“เข้าถึงง่าย? หวังว่าคนอื่นคงคิดเหมือนนาย”
“ฮ่าๆ เออว่ะ ไม่รู้คราวนี้กลับไปมึงจะมีข่าวกับใคร น้องคนนั้นจะเอาพวกมึงไปเขียนนิยายอีกรึเปล่าวะ?”
“ช่างเขาเหอะ! เราขี้เกียจสนใจแล้ว”
ต้นน้ำคุยจุกจิกกับเอกเรื่อยเปื่อยจนเอกสูบบุหรี่หมดมวนทั้งสองคนก็ชวนกันเข้าบ้าน
ทั้งคู่พักห้องเดียวกันท่ามกลางความประหลาดใจแกมอิจฉาจากมิวนิค แม้เอกจะเกลียดตุ๊ดแต่เอกไม่รังเกียจต้นน้ำ และเพราะเอกเกลียดตุ๊ด ต้นน้ำจึงพักกับเอกได้อย่างสบายใจ แถมห้องเขายังมีน้าชายพักร่วมกันอีกคนยังไงๆ ก็ปลอดภัย ดีกว่าไปพักกับมิวนิคและคิวว์ที่ดูจะเชียร์เพื่อนตัวเองออกนอกหน้า
แต่เมื่อผ่านวงเหล้าที่ยังตั้งวงกันอย่างขันแข็ง ต้นน้ำก็ถูกคนเมาคะยั้นคะยอให้อยู่เป็นเพื่อนเพื่อรอดูแสงอาทิตย์แรกของปี
แล้วเขาก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ เมื่อต้นน้ำรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดของมิวนิคตามลำพังสองต่อสอง!



คิดใช่ป่ะ?  :a5:  รู้น่ะว่าคนอ่านต้องคิด รอดูละกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น หึๆ
ขอหนีไปอัพพี่เทพน้องดาวก่อนล่ะ ศุกร์ที่ผ่านมาติดธุระเลยยังไม่ได้อัพเลย เรื่องนั้นต้องใส่โค้ดตารางด้วย อัพทีเหนื๊อยเหนื่อย อยากได้รักใสๆ มุ้งมิ้งเชิญทางโน้น #พี่เทพน้องดาว "STR/INT:LoveTrick ปิ๊งรักหนุ่มเกมเมอร์" เรื่องราวของเกรียนคนนึงที่หลงรักเพื่อนในเกม แต่มันจะเงิบเกินคาดเดาเชียวล่ะ จริงๆ นะ เขาไม่โกหกหรอก

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
กรี้ดกับตอนใหม่. ต้นน้ำไปอยู่ในอ้ออมกอดมิวนิคได้งายยย
ขอกรี้ดดอีกรอบ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่ยึดติดกับพระเอกคน
ใดคนหนึ่งดี แบบหลายใจเชียร์หลายคนนี่ นานๆจะมี พี่ชัชก็
เถอะ.แม็กซ์ก็น่าสงสาร อาร์มก็เข้าท่า ไปป์ก็น่ารัก คิวว์ก็โดน
มิวนิคก็ชอบ เอ. มีใครอีกน้าหวังว่าคงไม่ตกหล่นใครไป คึคึ
เหมือนปมยัยป้าน้ำตาลจะเคลียร์แต่ไม่ค่อยสะใจแฮะ จริงๆ
แอบหวังให้ชีได้รับบทเรียนสักนิดจากสิ่งที่ชีกระทำ แม้จะเห็นใจ
นิดหน่อยในชะตากรรมที่ชีต้องเจอหลังจากเลิกกับพี่ชัช
 แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะชีเลือกทำมันเองทั้งนั้น
ดีใจกับเมษที่สละคานได้แถมยังได้มนุษย์ลุงที่อายุมากกว่าพี่ชัช
ที่เจ้าตัวเคยแขวะต้นไว้ สุดท้ายก็ชะตากรรมเดียวกัน คึคึ
ชอบนิยายของคนเขียนนะแหวกแนวแปลกใหม่ดีไม่ค่อยได้บรรยา
กาศเหมือนอ่านนิยายเท่าไหร่ เพลินจนอ่านได้ตลอด อาจเพราะ
ชอบแนวหน่วงๆแบบนี้ด้วยแต่ถ้าให้อ่านแบบยังไม่จบล่ะก็. คงไม่ไหว
แน่ มันลุ้นแทบจะทุกตอนคงได้มีลงแดง ถึงต้องข้ามไปอ่านตอนจบ
ก่อนไง ได้ความรู้ใหม่ๆจากเรื่องนี้เยอะนะ ไหนจะสาระ คติ มุมมอง
การใช้ชีวิต แนวคิด คนเขียนเก่งนะ ขนาดเรื่องแรกยังแต่งได้ดีขนาดนี้
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
ลูแปง..รอตอนต่อไปอยู่น้าาา :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
นางมิวนิค แกแอบฉวยโอกาสอีกแล้วนะ
แต่ชั้นก้ชอบเพราะมันฟินดีอะ

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
** ขออนุญาตคุยซักนิด เดี๋ยวคนอ่านคิดว่าเราไม่สนใจคำติชม

สำหรับประเด็นเจ้น้ำตาล จริงๆ เราคิดเรื่องราวของเธอไว้ในใจนะ แต่ในเมื่อคนเล่าคือพี่ชัชกับต้น มันก็...
     ก็แหมตอนนั้นคุณน้องต้นซึมเศร้า ต้นแทบไม่ออกจากบ้านจะไปไฟท์กับเจ้เขาได้ยังไง? ให้แม็กซ์ไปเอาเรื่องแทนงั้นเหรอ? แม็กซ์มันก็ต้องคิดถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวเองซึ่งคือต้นสิ พี่ชัชเลิกกับต้นแม็กซ์มันตีปีกเชียวแหละ เผลอๆ แม็กซ์มันยิ้มขอบคุณเจ้เลยด้วยซ้ำ
     ยิ่งเป็นพี่ชัชยิ่งแล้วใหญ่ พี่ชัชยอมทำแบบนั้นกับน้ำตาลเพื่ออะไร? ถ้าไม่ได้โดนอคติบังจนเกลียดพี่ชัชสุดลิ่มทิ่มประตูจะเห็นว่าเฮียแกก็หยอกสาวแทบทุกคนแหละ แต่พี่ชัชจะมีระยะปลอดภัยของตัวเองอยู่นะ หยอกเฉยๆ แต่ไม่คิดอะไรจริงจัง ถึงพี่ชัชจะสงสารน้ำตาลแต่คนอย่างพี่ชัชเจอน้ำตาลแก้แค้นบ่อยๆ เข้าก็คงอยากจบเลยยอมเป็นผู้แพ้ให้เจ้เขาชนะ อารมณ์แบบชดใช้ให้แล้วนะ ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว เขายอมเจ็บถึงขั้นนี้แล้วจะเอาไรกับเขาอีก? เขาไม่มีอะไรจะให้น้ำตาลแล้ว
สถานการณ์ต่อมาคือต้นฆ่าตัวตาย อะไรที่สำคัญกับพี่ชัชมากกว่ากันระหว่างไปนั่งเคลียร์กับเจ้เขาต่อหรือสนใจต้น? พี่ชัชเลือกต้นนะ  พี่ชัชอาจจะไปทำงานแล้วเจอหน้ากันบ้าง แต่พี่ชัชไม่เก็บน้ำตาลมาใส่ใจอีกเลย ผิดกับตอนที่น้ำตาลมาร่วมงานกันใหม่ๆ พี่ชัชถึงกับเป๋ (ที่ไปเมาเละตอนปีใหม่)
     เราว่าแบบนี้มันแปลว่าพี่ชัชตัดได้แบบหมดจดจริงๆ มากกว่านะ คิดดูสิ น้ำตาลเหมือนไร้ตัวตนไปเลยสำหรับพี่ชัช เราว่ามันแมนกว่าการให้พี่ชัชไปนั่งแก้แค้นเคลียร์อะไรแบบนั้นอีก เหมาะกับนิสัยของพี่ชัชออก
หรืออยากเห็นฉากพี่ชัชไปโวยวายใส่น้ำตาลว่าเพราะเจ้เขาต้นเลยฆ่าตัวตาย แบบ "ตาล ชัชมีเรื่องจะบอก ต้นเขาขอเลิกกับชัชแล้วนะ ต้นเขารับไม่ได้ที่ชัชทรยศเขาๆ เลยฆ่าตัวตาย ชัชไม่เหลือใครแล้ว สะใจตาลรึยัง?" คือ... ถ้าพี่ชัชไปพูดแบบนี้จริงๆ นี่มันงี่เง่ามากเลยนะ
     แล้วมันกงการอะไรที่ต้องให้พี่ชัชไปรายงานน้ำตาลว่าต้นฆ่าตัวตาย? นิสัยพี่ชัชต่อให้เป็นข้าวฟ่างพี่ชัชก็ไม่เล่าหรอก นอกจากหมอเอกแล้วพี่ชัชไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟังทั้งนั้นแหละ แล้วเรื่องมันหลุดไปได้ยังไง? แต่ทุกคนสังเกตได้อยู่แล้วว่าพี่ชัชเปลี่ยนไป ซึมลง โหมงานหนัก เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาลเองก็คงเดาได้แหละ แต่หลังจากนั้นไม่ว่าชีจะสะใจเลิกแค้นพี่ชัชหรือมาตามตอแย ในส่วนของพี่ชัชคือไม่สนใจแล้วไง มันเลยไม่จำเป็นต้องพูดถึง ยิ่งเนื้อหาหลังจากนั้นเป็นการแกรนโอเพนนิ่งของต้นน้ำด้วย มันเลยไม่เกี่ยวกัน พี่ชัชเป็นพระเอกก็จริงแต่ต้นน้ำคือตัวเอกนี่นา นิยายเรื่องนี้หมุนรอบตัวเขานะ ต้นคือตัวเดินเรื่อง
     นี่คือสิ่งที่เราคิดอ่ะ เราเลยไม่ได้เขียน นิยายเรื่องนี้ฉีกพิมพ์นิยมพล็อตเดิมๆ ที่ชอบเขียนกันทั้งในแง่ของฉากแล้วก็การดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะคาแรคเตอร์หลักอย่างต้นกับพี่ชัช เราเขียนไว้แบบที่ถ้าอ่านแล้ววิเคราะห์ตามจะสนุกมาก เพราะประเด็นในเรื่องเกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจของคนพวกนี้ล้วนๆ แต่ถ้าจะอ่านเอาสะใจแบบเคะเมะตัวอิจฉาพระรองไฟท์กันมันจะไม่มันหรอก

     ดังนั้นเราจะขอพูดอีกครั้ง ปมต่างๆ ในเรื่องเราเขียนล้อเลียนเสียดสีสิ่งที่เราเห็นๆ กันอยู่ในสังคม เราหยิบมาเล่าหลายประเด็นเลยล่ะ แต่เราหยิบเอามาเล่าผ่านมุมมองของตัวละครแล้วปล่อยให้คนอ่านตกผลึกเอาเอง เราไม่ต้องไปแปะป้ายตัวละครว่าบทดีบทร้ายให้คนอ่านหรอก ตัวเปรียบเทียบมันมีให้เห็นเยอะแยะ นี่ไม่ใช่นิยายที่มานั่งเขียนว่าใครดีเลวยังไง แต่เป็นนิยายที่เล่าว่าใครทำอะไรเท่านั้น และหน้าที่ในการแต่งให้ตัวละครทำสิ่งต่างๆ ก็เป็นของเรา แต่เราจะไม่ตัดสินใจแทนตัวละครเราเขียนเรื่องไปตามนิสัยของตัวละคร
     ถ้ามองไม่ออก ลองเปรียบเทียบระหว่าง "สายธาร" แม่ของต้นน้ำกับ "น้ำตาล" ที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกันดู คนอ่านตอบได้มั้ยว่าผู้หญิงสองคนนี้ใครเลวกว่ากัน? แล้วอ่านการกระทำของสายธารแล้วคิดว่าสายธารรู้สึกยังไงกับพ่อของต้นน้ำ? แต่ผลสุดท้ายล่ะ ใครเจอความสุขที่แท้จริงในชีวิตมากกว่ากัน? นี่คือสิ่งที่เราเล่า ถ้าใครมองออกก็จะเห็นบทสรุปเอง เป็นนิยายที่ชีวิตของตัวละครไม่มีบทสรุป แต่คนอ่านสามารถรู้ได้ว่าเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขหรือไม่

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
ตอนที่แล้วทิ้งท้ายไว้ให้ชวนหวาดเสียว เอาล่ะสิเกิดอะไรขึ้น! ตอนต่อไปมาแล้วจ้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม (ต่อ)

     ต้นน้ำลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของมิวนิค! แต่คนที่ผ่านอะไรมามากเช่นต้นน้ำไม่เสียสติสิ้นสัมปชัญญะง่ายๆ เหมือนนางเอกละครไทย เขาพิจารณาสภาพร่างกายของตัวเองแล้วพบว่าปลอดภัยหายห่วงทุกอย่าง ไม่มีอะไรล่วงล้ำเข้าไปในร่างกายของเขาแน่นอน ส่วนยักษ์ซื่อบื้อยังคงนอนกรนครอกๆ หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือเขาจะเมาแล้วเข้าผิดห้อง?
     ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่การที่ตัวเองมานอนหนุนแขนไอ้ยักษ์บ้านี่ก็น่าอายมากพอแล้ว ในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ควรจะให้มันจบลงแบบเงียบๆ คิดได้ดังนั้นแล้วต้นน้ำก็ค่อยๆ ย่องลงจากเตียง
     แต่เมื่อก้าวขาลงพลางจับตามองคนหลับอย่างระมัดระวังต้นน้ำกลับเหยียบคนที่นอนอยู่บนพื้นจนล้มโครม!
     “โอ๊ย!”
     ต้นน้ำสะดุดอัฐที่นอนดิ้นจนตกเตียงอย่างจัง! นี่ก็อีกหนึ่งมหากาพย์ชมรมคนนอนดิ้น นับตั้งแต่ครั้งที่ไปเที่ยวบ้านน้าชายคนนี้แล้วได้นอนด้วยกัน ต้นน้ำสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ขอนอนร่วมเตียงกับคุณน้ายังหนุ่มคนนี้อีกเด็ดขาด ลีลาของน้าเขาร้ายกาจกว่าชัยชัชอีกเท่าตัว!
     คนถูกเหยียบสะดุ้งตื่น คนเหยียบก็ตกใจ แต่คนหลับยังคงนอนกรน
     “น้าอัฐบ้า!”
     “เจ็บ...”
     “มานอนอะไรตรงนี้”
     ต้นน้ำเจ็บไปทั้งตัวแทบลุกไม่ขึ้น เขานอนจับกบอยู่ข้างๆ น้าชายของตัวเองพลางคลำหน้าผากป้อยๆ เหมือนเขาจะเอาหน้าลงจนหัวกระแทกพื้นปาเก้อย่างแรง!
     “เหยียบท้องเราพอดีเลยนะต้น อีกนิดมีเสียวอ่ะ”
     “เมื่อคืนอัฐพาเรามานอนเหรอ?”
     “อืม ต้นหลับเราเลยพามานอนในห้อง”
     “รู้ป่ะว่าผิดห้อง นี่ห้องมิวนิค ไม่ใช่ห้องที่พวกเรานอน”
     “อ้าว! โทษที สงสัยเมื่อคืนตาลาย”
     คนถูกเหยียบกับคนล้มกลิ้งยังคงลุกไม่ขึ้นสนทนาจุกจิกกันต่อ แน่นอนว่าเนื้อหาในการสนทนาจะเป็นอะไรไปมิได้นอกจากคุณหลานบ่นคุณน้า คนหลับก็ยังหลับไม่รู้เรื่อง แต่อนิจจาต้นน้ำคงลืมไป เสียงล้มโครมเมื่อกี้ไม่ใช่เบาๆ ดังนั้นประตูห้องจึงเปิดออก
     หนุ่มติสท์ขี้โวยวายจึงเห็นภาพของต้นน้ำกับอัฐนอนกะหนุงกะหนิงคาตาพอๆ กับนายแบบหนุ่มที่มองไปทางเพื่อนร่างยักษ์ที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องด้วยความเพลียละเหี่ยใจ
     “อัฐ! ต้น! มึงสองคน!”
     อา... เรื่องมันชักจะยุ่งแล้ว จะมีใครสงสารคนตกเตียงที่ถูกเหยียบมั้ยนะ? แต่ในวินาทีที่ต้นน้ำกำลังจะอ้าปากบอกให้พัทหุบปากเงียบ มิวนิคก็ตื่นขึ้น
     “มึงไปทำอะไรตรงนั้นวะต้น มึงนอนดิ้นจริงๆ เลย มาๆ มาซุกกูต่อนี่”
     เป็นอันว่าเมื่อคืนเขานอนกอดมิวนิคจริงๆ
     “เมาขี้ตาเหรอมิวนิค?”
     ต้นน้ำพูดหยิ่งๆ ก่อนจะสะบัดหน้าลุกออกจากห้องไปด้วยใบหน้าแดงซ่าน แล้วเขาก็หนีไปทั้งๆ อย่างนั้น ทิ้งคนอื่นๆ ไว้เบื้องหลังโดยเฉพาะน้าชายดวงซวย!

     ต้นน้ำคนโกโก้ในแก้วด้วยความอดทนอดกลั้นพลางข่มตบะเรียกขันติทั้งหมดออกมารับมือยักษ์งี่เง่า
     “เมื่อคืนกูฝันดี๊ดี ฝันว่าได้หอมแก้มมึงด้วย มึงว่ากูฝันหรือกูละเมอวะ?”
     “ไม่รู้สิ”
     “แต่มึงละเมอนะต้น กอดกูแน่นเชียว”
     “ไม่ใช่นายฝันหรอกเหรอ? เมาเละเลยนี่ อ่ะๆ ทานกาแฟแก้แฮงค์ไป”
     ในที่สุดความอดทนก็หมด ต้นน้ำเสือกแก้วกาแฟดำร้อนๆ ใส่มือมิวนิคก่อนจะเดินหนี ต้นน้ำตรงไปนั่งข้างๆ อัฐพลางวางกาแฟอีกแก้วลงตรงหน้า
     “เชี่ย ร้อน!”
     แม้จะอุทานบ่นถึงความร้อนแต่ลงท้ายมิวนิคก็ยกกาแฟดำฝีมือคนขี้งอนขึ้นจิบ
     “กูไม่แฮงค์หรอกเว้ย ได้นอนกอดมึงก็หายแฮงค์ละ”
     “ฮิ๊ว! ตกลงเมื่อคืนมึงสองตัวได้เสียกันยัง?”
     “หุบปากไปเลยนอยซ์!”
     ปวดหัวจริงหนอ แต่ใครใช้ให้เขามาทริปกับเสียงนรกคนนี้ล่ะ ต้นน้ำรู้จักนิสัยปากเสียเกินซ่อมของเพื่อนคนนี้ดี ครั้นจะด่ามิวนิคคนนี้นี่ก็หน้าหนาเกินทน สุดท้ายเมื่อทำอะไรใครไม่ได้เลยหันไปแยกเขี้ยวใส่น้าชาย แต่พออัฐทำไม่รู้ไม่ชี้ต้นน้ำเลยหมั่นไส้แอบศอกใส่เบาๆ อัฐเลยหันมาเอาคืนด้วยการดีดหน้าผากเล่นเอาต้นน้ำย่นคิ้ว
     “มึงสองคนคบกันเหรอ?”
     อยู่ๆ พัทก็แทรกขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
     “ใครบอก?”
     “ก็กูเห็นมึงสองคนสวีทกันอ่ะ”
     “สวีทบ้าไร!”
     “มึงพูดดีๆ นะพัท ต้นมันชอบกูหรอก!”
     ต้นน้ำหันไปถลึงตาใส่มิวนิค! เขากลอกตาอย่างเบื่อหน่ายส่งให้เพื่อนจอมหลงตัวเองก่อนจะด่าซ้ำ
     “น้อยๆ หน่อย ใครชอบนาย อย่าหลงตัวเองให้มันมากนักมิวนิค”
     “ก็มึงชอบหน้าแดงเวลาอยู่กับกู มึงยอมรับมาเหอะมึงชอบกู คนเขารู้กันทั้งภาคละมึงไม่ต้องอาย”
     “พอเหอะๆ เราเสียดายโกโก้”
     “ตกลงมึงชอบใครกันแน่วะต้น อัฐหรือมิว?”
     “ยังไม่จบอีกเหรอพัท! นายเห็นเราเป็นคนยังไง? เราไม่ตาต่ำไปชอบคนแบบนั้นหรอก!”
     ต้นน้ำร้องออกมาพลางชี้ไปที่มิวนิค คนถูกมองว่าต่ำเลยร้อนตัว
     “มึงว่าใคร กูไม่เตี้ยนะเว้ย ร้อยเก้าสิบสามนี่สูงกว่ามึงตั้งยี่สิบเซ็น!”
     “เหอะ!”
     ต้นน้ำหันไปแลบลิ้นใส่อย่างไม่จริงจังก่อนจะตอบด้วยความจริงใจ
     “เราไม่คิดอะไรกับใครทั้งนั้นแหละพัท นายอย่าสงสัยอะไรอีกเลย เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ”
     “เออๆ กับไอ้มิวกูเชื่อ แต่กับอัฐ กูไม่เชื่อ มึงสองคนชักเยอะว่ะ มีอะไรปิดพวกกูป่ะวะ?”
     “เอาไงดีล่ะต้น? จะบอกพวกมันเลยมั้ย?”
     ในที่สุดอัฐที่นั่งเงียบมานานก็เอ่ยปาก เล่นเอาเพื่อนๆ หูผึ่ง!
     “นั่นไงๆ พวกมึงมีอะไรปิดกันจริงๆ ด้วย กูว่าแล้ว!”
     “อัฐคิดยังไงอ่ะ? จะดีเหรอ?”
     “เราแล้วแต่นาย เอาที่นายสะดวกใจเถอะ”
     “พวกมึงมีอะไรกัน?”
     คราวนี้มิวนิคเริ่มขำไม่ออกเมื่อเห็นคาตา อันที่จริงเขาสงสัยมานานแล้ว แต่อัฐเคยเอ่ยปากว่าไม่คิดอะไรกับต้นน้ำเขาจึงสบายใจ เขารู้ดีว่าอัฐไม่ใช่คนชอบโกหก เขาอาจไม่ได้ความจริงจากปากของต้นน้ำแต่เขามั่นใจว่าเขาไม่มีทางได้คำโกหกจากปากอัฐแน่นอน แต่คราวนี้อัฐกลับพูดเหมือนมีลับลมคมในบางอย่าง เจอแบบนี้มิวนิคก็มีเสียว!
     “ให้กูเดานะ มึงสองคนได้กันละใช่ป่ะ? ถังมันบอกกูว่ามึงพาต้นกลับบ้านตอนปิดเทอม ถึงขั้นพาไปไหว้แม่มึงแบบนั้นกูว่าชัวร์ละ”
     “กุ ปะ ปะ
     น่าสงสารถังข้าวที่อ้าปากเตรียมปฏิเสธไปได้ไม่ทันจบประโยคก็ถูกต้นน้ำตวาดกลบ
     “หุบปากไปเลยนอยซ์! เอะอะก็ได้ เราไม่ได้ง่ายแบบนั้นซักหน่อย!”
     “โห กูแซวเล่น”
     “แซวแบบนี้ไม่ต้องแซวเลย ขอร้อง! เราไม่ชอบโดนแซวเรื่องแบบนี้ นายก็รู้”
     สีหน้าไม่สบายใจของต้นน้ำทำให้เพื่อนๆ ระลึกถึงความจริงที่ว่าต้นน้ำเคยผ่านอะไรมา แม้จะเข้มแข็งแล้วแต่อย่างไรเสียต้นน้ำก็เกลียดมันอยู่ดี
     “ขอโทษๆ กูลืมตัวไปหน่อย อย่างอนกูนะ”
     “เหอะ!”
     “แล้วตกลงพวกนายมีอะไรปิดพวกเราเหรอต้น?”
     เพราะเป็นคิวว์ถาม ต้นน้ำเลยยอมตอบแต่โดนดี เขาหันไปสบตาอัฐก่อนจะพูด
     “คือ... ความจริงแล้วเรากับอัฐเป็น... เราสองคนเป็นญาติกันอ่ะ”
     “ห๊ะ!”
     เหล่าฟิสิกส์มุงพากันร้องเสียงสูง
     “แม่ของอัฐเป็นยายเล็กของเราน่ะ”
     “เอาใหม่อีกทีดิกูงง!”
     “คือ... โอ้ย! นายพูดเองดีกว่าอัฐ”
     “กูเป็นน้าต้น”
     “ฮ่าๆ มึงโกหกไม่เนียนเลยว่ะอัฐ”
     “เออๆ พวกมึงสองคนจะคบกันก็เปิดเผยเหอะ ไม่ต้องเกรงใจไอ้มิวมันหรอก ฮ่าๆ”
     “อ้าวๆ ไอ้นอยซ์”
     “นามสกุลก่อนแต่งของแม่กูคือพิสุทธิจักร กูคงไม่ต้องบอกนะว่านามสกุลใคร ถ้าพวกมึงยังไม่ลืมนามสกุลเก่าของเพื่อน”
     “เชี่ย! จริงดิ”
     “อืม จริง แม่ของอัฐเป็นน้องสาวคนละแม่กับยายแท้ๆ ของเรา”
     “เช็ดเข้! พวกมึง... ไม่บอกกูเลยนะ”
     “บ้า! เราก็พึ่งรู้ตอนปิดเทอมหรอก! อัฐนั่นแหละอุบเงียบไม่ยอมบอกอะไรเราเลย”
     “โห!”
     “มึงรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะอัฐ? อุบเงียบเลยนะมึง”
     “ก็รู้ว่าเป็นญาติกันตั้งแต่แรกแหละ แต่แม่กูมีพี่น้องหลายคนเลยไม่แน่ใจ กูกลับบ้านไปเล่าให้แม่กูฟัง แม่กูเลยเล่าว่าพี่สาวคนโตที่ตายไปมีลูกสาวชื่อน้ำ แต่เขาไม่ได้ติดต่อใครนานแล้วเลยไม่แน่ใจ”
     “ไม่น่าเชื่อ!”
     “อืม เราก็ไม่คิดเหมือนกันว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ อัฐไม่ยอมบอกอะไรเราเลย อยู่ๆ ก็ชวนเราไปบ้าน ตอนที่รู้ว่าอัฐเป็นน้าแท้ๆ ของเรานะ ตกใจแทบแย่แน่ะ มิน่าชอบดุเราชะมัด!”
     ต้นน้ำย่นหน้าทำท่าสยองอัฐขำๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเกรงใจน้าคนนี้พอสมควร
     “ถึงว่า พักหลังกูว่ามึงทำตัวเรียบร้อยขึ้นเยอะ ไม่ค่อยดราม่า มีคนคอยคุมความประพฤตินี่เอง ฮ่าๆ”
     พอสบายใจแล้วมิวนิคก็ปากเสียแซวเขาซะงั้น! ต้นน้ำเลยหน้างอหันไปถลึงตาใส่ แต่มิวนิคมีหรือจะกลัว ในเมื่ออัฐไม่ใช่ศัตรูหัวใจของเขาๆ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
     “งั้นมึงต้องรีบฝากตัวเป็นหลานเขยอัฐแล้วดิวะ ฮ่าๆ”
     “เออว่ะ! ฝากตัวด้วยนะเว้ยไอ้น้าชาย เร็วๆ นี้เราคงได้เป็นครอบครัวเดียวกัน”
     “ฮิ้ว!”
     นับวันมุกของมิวนิคชักจะแรงขึ้นทุกวันๆ แถมยังยิงตรงไม่เกรงใจคนถูกจีบ เพื่อนคนอื่นๆ ก็รับมุกเชียร์ เจอแบบนี้แล้วมีหรือต้นน้ำจะไม่เขิน เขาหน้าแดงจัดด่ากลับไม่ออก!
     “กูว่าละ มีไอ้ต้นงานไหน มึงถ่อไปทุกงาน ที่แท้ก็หวงหลานเหมือนกันนี่มึง”
     พัทเอ่ยแซวอัฐก่อนจะนินทาคนอื่นต่อ
     “นี่ถ้าไอ้พวกที่เหลือมันรู้ว่ามึงกับต้นเป็นอะไรกันนะ ฮ่าๆ กูนึกหน้าไอ้อาร์ทออกเลยว่ะ มันชอบนินทาต้นให้มึงฟังไม่ใช่เหรออัฐ?”
     ต้นน้ำตาโตหันไปถามอัฐด้วยสายตา แต่อัฐกลับยิ้มๆ แกล้งนิ่งตามปกติ
     “ทำนิ่งนะมึง เฮ้ยๆ มิว ไหนๆ น้ามันก็นั่งอยู่ตรงนี้แล้วมึงก็สู่ขอไอ้ต้นทำเมียตรงนี้เลยสิวะ ผู้ใหญ่พร้อม ฮ่าๆ เดี๋ยวคืนนี้มึงก็เข้าหอเลย”
     ต้นน้ำทั้งโกรธทั้งอายหน้าแดงเถือก! เขาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว! แต่ในขณะที่คิดว่าจะเอาอะไรอุดปากนอยซ์ดีก็มีคนยุติเสียงจากนรกให้
     “มึงไม่บอกพวกมันไปล่ะต้น มึงเลิกโสดแล้วไม่ใช่เหรอ?”
     เอกพูดลอยๆ ก่อนจะเดินผ่านไปชงกาแฟด้วยท่าทางเหมือนคนพึ่งตื่น แต่คำพูดของเอกชวนให้คนที่เหลือชะงัก ทุกคนพากันเงียบแล้วมองไปที่เอกโดยมิได้นัดหมาย!
     “จะบ้าเหรอเอก! พูดอะไร พอๆ พวกนายแซวเราเยอะเกินไปแล้ว”
     ต้นน้ำรีบทำเป็นโกรธกลบเกลื่อนแกล้งเปลี่ยนเรื่องเนียนๆ
     อัฐยิ้มให้กับการเฉไฉของดราม่าตัวแม่ นอกจากเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อธันย์และเอกที่รู้โดยบังเอิญ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ว่าต้นน้ำกลับไปคบกับชัยชัชเช่นเดิม ดูเหมือนความลับเรื่องนี้ต้นน้ำจะไม่กล้าบอกใครโดยเฉพาะชาวแก๊ง!
     “จะแซวไปถึงไหนเนี่ย ไม่เบื่อบ้างรึไง เล่นเป็นเด็กๆ ไปได้”
     ต้นน้ำบ่นกะปอดกะแปดก่อนจะลุกหนีไปเนียนๆ ตามเคย
     “ต้นหนีไปแล้ว สงสัยงานนี้ท่าจะยากว่ะเพื่อนมิว”
     “ต้องทำยังไงต้นมันถึงจะชอบกูว้า... นี่กูงัดมาทุกมุกแล้วนะ ใจแข็งโคตรๆ”



อา... ถึงน้องต้นจะแรด(นิดๆ)แต่ก็ไม่ร่านนะ เขาเขียนนิยายฮาเรมหนุ่มๆ ไม่ได้เขียนนิยาย3Pที่ชอบเล่นมุกตัวเอกหลายใจเลือกไม่ได้ทำนองนั้น
ดังนั้นเรื่องมันเลยออกมารั่วแบบนี้แหละ สะดุดน้าตัวเองล้มหัวทิ่ม ฮ่าๆ ต้องมีทั้งคนอ่านที่รู้แกวคนแต่งแล้วก็คนอ่านที่ขัดใจอยากให้มันมีซังติงแน่ๆ คนเขียนอาจจะโดนโบก อิๆ

ชอบฮาเรมใสๆ แบบนี้มากกว่าน่ะ บรรยากาศอุดมผู้ชายมีแต่ตัวป่วนบ้าๆ บอๆ มารวมตัวกันมันสนุกสนานดีออก จากตอนพิเศษที่ต้นฟาดปากกับเนม หนุ่มคิวว์เลยจัดทริปให้ต้นหวังผลเชียร์เพื่อนมิวไปในตัว แน่นอนว่าพัทขาติสท์ไม่พลาด งวดนี้คิวว์เป็นโต้โผเลยลากนอยซ์มา และมีนอยซ์ที่ไหนมีน้องถังที่นั่น ไม่รู้ในนิยายเรื่องนี้ระหว่างน้องถังกับโอมใครน่าสงสารกว่ากัน แต่เอาเป็นว่าถ้าถามว่าใครเคะที่สุด2คนนี้เข้าชิงตำแหน่งแหละ หุๆ
แต่แปลกใจมั้ยทำไมเอกโผล่ หึๆ ก็ถ้าต้นกับเอกไม่สนิทกันในระดับนึงนะ เที่ยวทะเลคราวที่แล้วไม่งอนกันหรอก ที่จริงเอกมันก็แค่หื่นชอบสาวนมใหญ่กับเกลียดตุ๊ดแค่นั้นแหละ นอกนั้นเอกก็ชอบต้นนะ มันนั่งทำการบ้านกับต้นแทบทุกเย็น ฮ่าๆ

ไม่ว่าในสังคมไหนมันต้องมีตัวสร้างสีสันอยู่ ไอ้พวกผู้นำหรือคนคุมบรรยากาศอ่ะ แล้วก็จะมีพวกที่เงียบตามคนหมู่มากไปเรื่อยๆ ไปเที่ยวคราวที่แล้วก็จะให้อารมณ์แบบนึง แต่เพราะคราวนี้ทุกคนสนิทกันจนรู้ไส้รู้พุงแล้วแถมยังมีนอยซ์เป็นแกนนำ สถานการณ์เลยออกมาแนวๆ นี้ แต่... เหมือนจะขาดอะไรไปน้า? ขาดคนงอแงรึเปล่า? ฮ่าๆ 8หนุ่มนี่เขาจะเฮฮากันขนาดไหนต้องติดตาม

อะไรนะ? ถามถึงพระเอก? นิยายเรื่องนี้มีพระเอกด้วยเหรอ? สงสารพี่ชัชแป๊บฮ่าๆ เป็นพระเอกที่น่าสงสารที่สุดเลยมั้ง พระเอกจืดจางไม่ค่อยปรากฏตัว รอดูน่า หึๆ พี่ชัชจะเด่นตอนอีเว้นท์หน้าล่ะ อิ อิ (มีแต่พล็อต ยังไม่ได้ลงมือเขียน ฮ่าๆ)

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม (ต่อ)

แม้จะทำเป็นบ่นไม่ชอบใจเพื่อนๆ แต่พอทุกคนลงมติว่าจะไปเดินเล่นรอบตัวเมืองแล้วให้มิวนิคมาชวน ต้นน้ำก็ไม่อิดออดตามเพื่อนในกลุ่มไปเที่ยวทันที
ดูเหมือนครั้งนี้ทุกคนจะจงใจจับคู่ต้นน้ำกับมิวนิคเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าหนุ่มร่างยักษ์จ่ายใต้โต๊ะล็อบบี้ชาวบ้านไปกี่สตางค์ทุกคนถึงให้ความร่วมมือสุดชีวิต ว่ากันว่าสมาคมเพี้ยนๆ นี้ถึงกับยกมือโหวตว่าระหว่างให้ต้นน้ำคบกับมิวนิคหรือต้องทนเห็นต้นน้ำถูกเกย์นอกภาคตามตื้ออย่างไหนจะสบายตามากกว่ากัน
แต่ในเมื่อความลับของเขาและอัฐไม่ใช่เรื่องลับๆ ชวนเข้าใจผิดอีกต่อไป ต้นน้ำเลยผูกติดตัวเองไว้กับน้าชายไม่ยอมห่าง เล่นเอามิวนิคไม่กล้ารุกมากเพราะเกรงใจหน้ายิ้มๆ แต่เอาจริงของเพื่อนมาดนิ่งคนนี้
ชาวฟิสิกส์เลือกร้านอาหารข้างทางแห่งหนึ่งสำหรับมื้อกลางวัน มิวนิคหมายมั่นปั้นมือตั้งใจจะนั่งเคียงข้างคนที่ตัวเองรักให้ได้ แต่ต้นน้ำกลับนั่งลงข้างคิวว์ตามความเคยชินก่อนจะชวนกันสุมหัวดูเมนูไม่สนใจเขาที่อุตส่าห์เลื่อนเก้าอี้รอ ส่วนอีกด้านก็ถูกอัฐกันท่าไปแบบนิ่งๆ ลงท้ายจึงไปอ้อนวอนขอแลกที่นั่งกับถังข้าวผู้น่าสงสารจนได้นั่งตรงข้ามต้นน้ำสมใจ
มื้ออาหารจึงเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์ของต้นน้ำก็ดังขึ้น เขาดูเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วก็เผลอยิ้ม
“ขอตัวแป๊บนะ กินกันไปก่อน แต่ห้ามแย่งส่วนของเรานะ!”
สั่งเสร็จแล้วต้นน้ำเลี่ยงออกมานอกร้าน เขากดรับสายที่คิดถึง
“สวัสดีครับ”
“สุขสันต์วันปีใหม่คร้าบที่รัก”
“ขอบคุณครับพี่ชัช”
“ทำอะไรอยู่ครับ? กินข้าวยังเอ่ย?”
“กำลังจะทานครับ ผมอยู่ร้านอาหารกับเพื่อนๆ พอดีพวกเรามาเที่ยวรอบๆ ตัวเมือง”
“มิน่า เสียงดังจัง แล้วเมื่อคืนเป็นไงบ้าง? เคาท์ดาวน์สนุกมั้ยครับ?”
“สนุกมากๆ เลยครับ คอนเสิร์ตมันสุดๆ ไปเลย”
เสียงตื่นเต้นสนุกสนานของต้นน้ำทำให้ชัยชัชระบายยิ้มออกมา เขานึกภาพแววตาสดใสของต้นน้ำออกเลยด้วยซ้ำ แค่เห็นว่าแฟนมีความสุขเขาก็ยิ้มตาม ความรักในแง่มุมนี้เขาพึ่งเข้าใจ การทำความเข้าใจต้นน้ำไม่ได้ยากอย่างที่คิด เขาแค่ต้องอดทนเลิกเอาแต่ใจตัวเองแล้วปล่อยให้ต้นน้ำเป็นฝ่ายเอาแต่ใจบ้าง ที่ผ่านมาที่ต้นน้ำไม่เคยเรียกร้องอะไรใช่ว่าเด็กหนุ่มไม่มีความต้องการ เพียงแต่ต้นน้ำไม่กล้าเอ่ยปากบอกเขาก่อนเพราะเกรงว่าเขาจะไม่รัก ดังนั้นเมื่อเขาแสดงให้เห็นว่าพร้อมจะรักอย่างไม่มีเงื่อนไขต้นน้ำจึงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แฟนเขายังคงเป็นต้นน้ำคนเดิมแต่สดใสขึ้นเป็นเท่าตัว!
“แล้วพี่ชัชละครับ?”
“พี่ก็นอนดูทีวีอยู่ที่ห้องแหละ แก่แล้วขี้เกียจออกไปเที่ยว”
“อ้าว? อยู่คนเดียวเหงาแย่เลย ผมนึกว่าพี่ชัชจะกลับลำปางซะอีก”
“ตอนแรกพี่ก็ว่าจะกลับครับ แต่หาตั๋วไม่ได้ ได้ตั๋ววันที่สามโน่น ไปก็อยู่ได้แป๊บเดียว เลยขี้เกียจกลับ”
“เดี๋ยวก็โดนแม่บ่นหรอกครับ”
“ไม่หรอก พี่โทรหาแกแล้ว แกเลยด่าพี่มาละเรียบร้อย หูชาเลยว่ะ”
“พี่ชัชก็ ...”
เฮ้อ... แฟนของเขาก็ยังไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม แต่เอาเถอะ ถ้าจะให้ชัยชัชขับรถไกลๆ คนเดียวอีกต้นน้ำก็เป็นห่วง ต้นน้ำจึงไม่อยากบ่นมาก
“แล้วต้นจะกลับเมื่อไหร่เหรอครับ?”
“อืม... พัทบอกว่าคงกลับพรุ่งนี้อ่ะครับ คืนนี้จะค้างกันอีกคืน พรุ่งนี้สายๆ ค่อยกลับ”
“ครับ”
เสียงรับคำเศร้าๆ ทำเอาต้นน้ำใจหาย เขาสัมผัสได้ว่าแฟนของตนเหงาตัวเท่าบ้าน ชัยชัชไม่แม้แต่จะใช้มุกอ้อนเขาว่าคิดถึง ต้นน้ำรู้ดีว่าชัยชัชไม่อยากทำให้เขาเป็นห่วงจนเที่ยวไม่สนุก
“อืม... พี่ชัชเหงารึเปล่าครับ? ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้อยู่ด้วยตอนปีใหม่ ผมไม่แน่ใจว่าพอกลับไปแล้วผมจะปลีกตัวไปหาพี่ได้รึเปล่า? บางทีคุณปู่อาจจะ...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รู้ว่าเราธุระเยอะ ฮ่าๆ ถึงปีใหม่นี้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ขอให้ปีนี้พี่ยังมีต้นอยู่ข้างๆ พี่ก็พอแล้วครับ แค่ต้นยังรักพี่อยู่ก็โอเคแล้ว อย่าไปหลงเสน่ห์ฝรั่งแถวนั้นล่ะ”
“บ้า! พี่ชัชก็... ผมไม่ได้ชอบฝรั่งซะหน่อย”
“หืม? จริงอ่ะ? เห็นคราวก่อนนู้นออกจะปลื้ม นั่งคุยตั้งนานสองนาน”
“พอๆ เลิกล้อผมได้แล้วครับ”
“งั้นบอกพี่ให้ชื่นใจหน่อยสิ ต้นชอบแบบไหนเหรอครับ?”
“ยังจะมาถามอีก ส่องกระจกเอาสิครับ”
“ฮ่าๆ”
ต้นน้ำทั้งเขินทั้งอายจนหน้าแดง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอยืนหมุนไปหมุนมา อานุภาพของความรักจากชัยชัชทำให้เขาหัวใจพองโตทุกครั้งที่สัมผัส มันแตกต่างกับอาการเขินอายเพราะคำแซวจากเพื่อนคนอื่น ต้นน้ำรู้ดี อย่างไรเสียสิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุขที่สุดก็คือการได้รับความรักตอบจากคนที่เรารัก ไม่ใช่แค่ความรักจากใครก็ได้ การมีคนหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้มันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีที่สุดถ้าหากสิ่งนั้นคือสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง ต้นน้ำในตอนนี้กำลังลักกี้อินเกมลักกี้อินเลิฟแฮปปี้กับเพื่อนฝูงครอบครัวอบอุ่นรู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิต! นี่แหละน้าฟ้าหลังฝนที่ทุกอย่างกระจ่างสดใสไร้เมฆครึ้ม!

สีหน้ามีความสุขของต้นน้ำที่คุยโทรศัพท์ไปยิ้มไปทำให้มิวนิคสงสัย เขาแอบดูอยู่ห่างๆ เลยได้ยินบทสนทนาไม่ชัด แต่เขาว่าเขารู้อะไรบางอย่างแล้ว!
เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จทุกคนก็ย่อยอาหารด้วยการไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค “พิพิธภัณฑ์ภาพสามมิติ” ต้นน้ำไม่สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่ามิวนิคเงียบไปนิดหน่อย เขามัวแต่สนุกกับการเซลฟี่รูปคู่กับคิวว์ ยิ่งมีพวกทโมนมารวมตัวกันทุกคนเลยยิ่งครื้นเครง คิวว์ยังคงเป็นจุดสนใจเช่นเดิมมีสาวๆ มากหน้าหลายตาจำเขาได้จากโฆษณาเลยมาขอถ่ายรูปด้วย คนไหนที่สวยเป็นพิเศษก็ดูจะมีนอยซ์เข้าไปแจมด้วยตลอดจนต้นน้ำหลุดขำ
ระหว่างนั้นถังข้าวซุ่มซ่ามไปชนเข้ากับเด็กที่วิ่งมาอีกทางจนล้มลงไปร้องไห้ ด้วยความตกใจเลยยิ่งติดอ่างทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่คิวว์มีรอยยิ้มการค้าเลยทำให้พ่อแม่ของเด็กไม่เอาเรื่อง ต้นน้ำเองก็โอ๋เด็กเก่งขั้นเซียนเด็กน้อยเลยเงียบในที่สุด แต่คนสำคัญที่สุดเห็นจะเป็นเอกที่อุดปากเสียๆ ของนอยซ์ไว้ได้ทันไม่ให้หลุดปากออกไปด่าพ่อแม่คู่นี้ว่ามัวแต่ถ่ายรูปจนลืมดูแลลูก ทุกคนเริ่มคิดตรงกับอัฐว่าเรื่องบางเรื่องแม้จะเราจะไม่ใช่คนผิดแต่อะไรยอมความได้ก็ยอมๆ กันไปดีกว่าปล่อยให้เรื่องมันยื้อเยื้อไม่จบ พวกเขามาเที่ยวไม่ได้มามีเรื่อง!
เพื่อนทุกคนต่างรู้ซึ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของต้นน้ำ จะเกย์หรือไม่ใช่เกย์ก็ช่าง จะนิสัยสาวแตกหรือแมนแท้ๆ ก็ช่าง เพื่อนที่ชอบผู้ชายคนนี้ลุยกับพวกเขาได้คือๆ กัน คนเราจะแบ่งแยกกันไปทำไมในเมื่อทุกคนสามารถเฮฮามีความสุขร่วมกันไม่ว่าเพศอะไร การอยู่ร่วมกันคือการที่คนหลายๆ แบบจากสังคมที่แตกต่างกันมาใช้ชีวิตด้วยกัน และเมื่อผ่านช่วงเวลาหนึ่งไปแล้วพวกเขาก็พร้อมจะเรียกกันว่า “เพื่อน” ต้นน้ำพิสูจน์แล้วว่าควรค่ากับคำๆ นี้ ต้นน้ำเป็นเพื่อนที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียไม่ต่างอะไรกับผู้ชายคนอื่น พวกเขาทนปากหมาๆ ไม่รู้กาลเทศะของนอยซ์ได้ นิสัยอาร์ตตัวแม่เจ้าน้ำตาชอบดราม่าขี้งอนของต้นน้ำจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่
ไม่มีใครระแวงเพราะต้นน้ำไม่เคยลดคุณค่าของตัวเองด้วยการฉวยโอกาสอย่างอดอยาก มีแต่ต้นน้ำเองนั่นแหละที่แอบกลัวเพราะรู้ว่ามีคนบางคนเอาจริง! ทุกคนรู้ดีว่าคนอย่างต้นน้ำไม่มีวันลวนลามใคร แต่ถ้าพวกเขาแกล้งละก็นั่นเป็นเพราะต้นน้ำน่ารักเกินไป เพื่อนๆ เลยรักดอกจึงหยอกเล่น ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครคิดทำอะไรบ้าๆ กับต้นน้ำอยู่แล้ว พวกเขาไม่ใช่ “ไอ้หื่นโค่” ส่วนมิวนิคก็... ถ้ายักษ์ซื่อบื้อมีปัญญาทำอะไรต้นน้ำได้พวกเขาก็ตั้งใจไว้ว่าจะแอบหลับตาเสียข้างเปิดโอกาสให้เพื่อนคนนี้ได้ทำคะแนน!
ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้านพักแล้วมีโอกาสอยู่ตามลำพังกับต้นน้ำ มิวนิคจึงแก้ต่างให้ตัวเอง
“ต้น กูมีอะไรจะบอกมึง”
“อะไรเหรอ?”
ต้นน้ำหันไปมองท่าทางจริงจังของเพื่อนร่างยักษ์ด้วยความสงสัย
“ถึงกูจะเป็นลูกครึ่งแต่กูสัญชาติไทย แม่กูเป็นคนเยอรมันก็จริงแต่พ่อกูเป็นคนไทย กูถือสัญชาติตามพ่อ แล้วพ่อแม่กูก็อยู่เมืองไทยมานานแล้วด้วย แม่กูพูดไทยชัดนะ บ้านกูใช้ภาษาไทย กูถือว่าตัวเองเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์!”
ต้นน้ำงง!
“อืม มั้ง นาย... เป็นคนไทย ... เอ่อ แล้วไงเหรอ?”
“ถึงตอนเด็กๆ กูจะพูดเยอรมันได้แต่ตอนนี้กูพูดไม่ได้ละ”
“เอ่อ ... อืม”
ต้นน้ำคิดไม่ออกว่าสิ่งที่มิวนิคกำลังโอ้อวดอยู่นี้มันน่าภูมิใจตรงไหน? และที่สำคัญมิวนิคมาบอกเขาทำไม?
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราขอตัวก่อนนะ คือ... พัทรอเราอยู่อ่ะ เราขึ้นมาเอากีต้าร์เฉยๆ”
“เฮ่ยเดี๋ยวเดะ! กูเป็นคนไทยไม่ใช่ฝรั่งที่นี้มึงก็รักกูซะทีดิ”
“เกี่ยวอะไรเนี่ย?!”
“ก็กูได้ยิน”
“นายแอบฟังเราคุยโทรศัพท์!”
“กูไม่ได้แอบฟัง กูไปตามมึงเฉยๆ พอดีได้ยิน”
ต้นน้ำถอนหายใจด้วยความเซ็ง
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าเราไม่ได้ชอบนายแบบนั้นก็แล้วกันมิวนิค มันไม่เกี่ยวกับว่านายถือสัญชาติอะไรหรอก”
“งั้นกูไม่ดีพอสำหรับมึงเหรอ?”
ไม่ดีพองั้นหรือ? อันที่จริงถ้าเทียบกับคนที่เข้ามาจีบเขาทั้งหมดแล้วมิวนิคแทบจะขาวสะอาดที่สุดเลยด้วยซ้ำ ดีพอจะใช้คำว่า “คนดี” ได้เลย แต่เขากลับเลือกรักผู้ชายงี่เง่าที่ทำให้เขาร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างชัยชัช
“นายไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก แค่นายไม่ใช่เท่านั้นแหละ มันคงเป็นเงื่อนไขของเวลาละมั้ง”
ใช่ว่าต้นน้ำไม่เคยสำรวจหัวใจตัวเอง เขาเองก็พยายามค้นหาคำตอบแทบตายว่าทำไมถึงยังคงรักชัยชัช แม้จะรู้สึกดีกับแม็กซ์แต่ทำไมแม็กซ์ถึงแทนที่ชัยชัชไม่ได้ สิ่งที่เรียกว่าความรักและความผูกพันมันช่างซับซ้อน สุดท้ายเขาก็เลือกชัยชัชเพราะชายหนุ่มคือคนที่เติมเต็มเขาได้ดีที่สุด แต่ต้นน้ำก็เคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าหากเขาไม่เคยหลงรักชัยชัช เขาจะมีวันรักแม็กซ์หรือไม่? แต่ถ้าเขาไม่เคยรู้จักความรักเขาคงไม่มีวันเปิดใจให้แม็กซ์ เขากับแม็กซ์คงไม่มีสถานการณ์ที่จะมาบรรจบซึ่งกันและกัน และตอนนั้นต้นน้ำก็ต้องตกใจตัวเองเมื่อนึกถึงว่าใครเป็นคนทำให้เขาใจเต้นตอนถูกจีบ!
“กูไม่เข้าใจ กูก็จีบมึงนานแล้วนะ หรือยังนานไม่พอ?”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกมิวนิค”
เมื่อเห็นว่าท่าจะยาว ต้นน้ำเลยวางกีต้าร์ลงแล้วดึงแขนมิวนิคให้นั่งลง เพื่อนร่างยักษ์นั่งตามอย่างว่าง่ายต้นน้ำเลยแอบยิ้ม อย่างไรเสียบรรดาคุณหมาก็ฝึกง่ายกว่าราชสีห์เยอะ! ใครเล่าจะไม่ชอบการมี “ผู้ชายในคอนโทรล” เป็นของตัวเอง ต้นน้ำนั่งประจันหน้ากับมิวนิคแล้วเอ่ยอย่างจริงใจ
“ความจริงเราทึ่งนายนิดๆ นะ ทั้งๆ ที่เราร้ายใส่นายตั้งเยอะแต่นายกลับยังชอบเราอยู่ ถึงตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจะแอ๊บไว้บ้างก็เถอะ แต่เราชอบปากร้ายใส่นายมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว นายโดนเราด่าตลอดเลยนะ อยู่ๆ นายก็มาชอบเราซะงั้น เราตกใจมากเลย มาถึงตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่านายชอบเราตรงไหน? แต่เราก็ดีใจนะที่นายชอบเราทั้งๆ ที่เราเป็นแบบนี้”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆ กูก็ใจเต้นเพราะมึง กูรู้ว่ากูชอบมึงแค่นั้นแหละ ก็มึงอยากน่ารักเกินไปเอง”
“เราก็ชอบที่นายเป็นแบบนี้นะ บางทีถ้า... ถ้าเราเจอนายในสถานการณ์อื่นเราอาจจะชอบนายก็ได้ แล้วความชอบอาจจะพัฒนากลายไปเป็นความรักขึ้นมาจริงๆ เวลาอยู่กับนายแล้วเราสบายใจนะ ถึงนายจะน่ารำคาญไปบ้างแต่เราไม่อึดอัดเหมือน... อืม ช่างเหอะ”
“เหมือนใคร? เหมือนเพื่อนมึงคนนั้น? มึงพูดแบบนี้เหมือนให้ความหวังกูเลยว่ะ! ตกลงมึงชอบกูป่ะวะต้น? กูชักงงละ”
ต้นน้ำเริ่มกังวล การที่เขาพยายามจริงใจแล้วเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้คือการให้ความหวังงั้นหรือ? เงียบก็เหมือนให้ความหวังเพราะไม่ปฏิเสธ พอพูดความรู้สึกจริงๆ ออกมาก็เหมือนให้ความหวัง ต้นน้ำจะบ้าตาย! การพยายามสื่อสารกับคนอื่นนี่มันยากจริงๆ
“ก็ชอบนะ แต่มันไม่ใช่ความรักอ่ะ เรารักคนอื่นไปแล้ว มันเหมือนกับแก้วที่มีกาแฟอยู่เต็ม ต่อให้นายพยายามเทโกโก้ใส่เข้าไปอีกเท่าไหร่มันก็แทนที่กันไม่ได้หรอก”
เพียงเท่านี้มิวนิคก็รู้แล้วว่าเขาจีบต้นน้ำไม่ติดเพราะอะไร คำพูดกำกวมของเอกและท่าทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของต้นน้ำตอนคุยโทรศัพท์ทำให้เขาพอเดาได้
“มึงก็เทของเก่าในแก้วทิ้งดิ”
เสียงของมิวนิคฟังดูท้อแท้หมดแรงจนต้นน้ำสงสาร
“ก็เรารักเขามากนี่”
“มึงคิดดีแล้วเหรอต้น? เขาเคยนอกใจมึงนะ”
“เรารู้ แต่คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ไม่ใช่เหรอ? เราอยากลองให้อภัยเขาอีกซักครั้ง ทีนายยังรับตัวตนแย่ๆ ของเราได้เลย เรารักพี่เขาไปแล้วก็ต้องรับให้ได้ทุกเรื่องละมั้ง เขาสัญญากับเราว่าจะไม่มีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นอีก”
“มึงจะยอมโดนซ้อมจนตายรึไง!”
“เมย์ก็พูดไปงั้นแหละ มันไม่ร้ายแรงถึงขั้นนั้นหรอก ความจริงแล้วพี่เขาตบเราทีเดียวเอง พอดีทะเลาะกันนิดหน่อยอ่ะ พี่เขาเมาด้วยเลย...”
“ทำไมมึงต้องไปรักคนเลวๆ แบบนั้นด้วยวะ ผู้ชายดีๆ อยู่ตรงหน้ามึงนะเว้ย!”
“แต่คนเลวคนนั้นเขาต้องการเรานี่ แล้วเราก็ขาดเขาไม่ได้ด้วย แต่อันที่จริงนายก็ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้นหรอกนะมิวนิค แค่นายไม่ใช่อ่ะ”
มุกหน้าตายของต้นน้ำทำเอามิวนิคเจ็บจนจุก เขาหันหน้าไปทางอื่นด้วยความหงุดหงิด ต้นน้ำเห็นแล้วก็ขำปนสงสาร เขารู้ว่าเพื่อนหวังดีกับตนจากใจจริง
ดังนั้นต้นน้ำจึงกระเถิบไปใกล้ เขาคว้ามือของมิวนิคเอาไว้แล้วกุมมันด้วยสองมือ
“เราเข้าใจนายนะ เรารู้ว่านายหวังดี แต่ให้อธิบายจนตายนายก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงรักเขาหรอกใช่มั้ย? ความรักมันพูดยาก นายยังหาเหตุผลที่มาชอบเราไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ เราแค่ไม่อยากตัดใจจากพี่เขาก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญเราไม่อยากให้นายต้องเจ็บปวด ความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะมิวนิค หนทางข้างหน้ามันไม่ได้สวยงามนักหรอก อาจจะมีทั้งคนที่ยอมรับแล้วก็คนที่รับไม่ได้ เราผ่านตรงนั้นมาแล้วเรารู้ดี”
“กูไม่มีปัญหา”
“เพราะนายยังไม่เคยเจอปัญหาน่ะสิถึงพูดได้ ความรักหวานๆ ฝันๆ มันก็ดีนะ การถูกจีบมีคนมารุมรักมันก็ดี แต่เราไม่อยากอยู่กับความฝัน พี่เขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาอยากมีอนาคตร่วมกับเราตลอดไป เขาทำให้เราเห็นต่อให้เขาพยายามได้ห่วยแตกแต่เขาก็พยายามทำมัน มันทำให้เรารู้สึกมั่นคงน่ะ”
น้ำเสียงของต้นน้ำที่แปรเปลี่ยนไปทำให้มิวนิคเลิกตีโพยตีพาย เขาสัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยวแห่งความกังวลในน้ำเสียง เพื่อนของเขามองตรงไปเบื้องหน้าคล้ายคนเหม่อ มือที่เคยกุมเขาไว้ก็คลายออกแล้วกำหมัดเสียแน่น หลุมดำในใจของต้นน้ำลึกจนมิวนิคหยั่งไม่ถึง!
“ทุกคนบอกว่าชอบเรา รักเรา อยากคบกับเรา แต่ไม่เห็นมีใครซักคนที่พาเราไปเปิดตัวกับสังคมของตัวเอง ให้เราได้เป็นครอบครัวของเขาไม่ใช่แค่แฟน เราไม่อยากได้แค่คนรักแต่เราอยากมีครอบครัวที่เป็นของเรา นายเข้าใจมั้ย?”
สิ่งที่ต้นน้ำอยากได้มากที่สุดในชีวิต ความฝันที่เขาเคยไขว่คว้าไล่ตามมาตลอด มาบัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับประเดประดังเข้ามาจนเขาอยากหัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเอง เขามีปู่ที่หวงหลานชายยิ่งกว่าหลานสาว มีคุณพ่อเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัย มีน้าชายนั่งเรียนคลาสเดียวกัน แม้แม่ของเขาจะอยู่แสนไกลแต่ก็รักเขายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด อยู่ๆ ก็มีคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับเขาเยอะแยะเต็มไปหมด แถมพี่ชายข้างห้องที่เขารักที่สุดยังกลายมาเป็นรุ่นน้องในภาค!
“อันที่จริงตอนนี้เราไม่ได้ลำบากอะไรแล้วมีทั้งพ่อทั้งปู่ บ้านเราก็มีเงิน ถ้าเราอยากได้อะไรคนอย่างแม็กซ์คงเนรมิตให้เราได้ทันที แต่ผู้ชายที่ยังใส่ชื่อเราเอาประกันทั้งๆ ที่เลิกกันแล้วมันไม่โรแมนติกกว่าเหรอ? เขารอเราอยู่ทั้งๆ ที่เกิดเรื่องกับเราตั้งมากมาย สิ่งดีๆ ที่เขาทำให้เรามันกลบข้อเสียไม่ได้เลยเหรอ? ที่สำคัญตอนนี้พี่เขาปรับตัวดีขึ้นตั้งเยอะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ปล่อยให้เราไปค้างกับคิวว์บ่อยๆ หรอก”
เมื่อนึกถึงวันที่ชัยชัชหึงจนหน้ามืดแล้วต้นน้ำก็หลุดขำ หมาป่าขี้หึงอย่างชัยชัชกลายเป็นหมาแก่สงบเสงี่ยมไม่กล้าอาละวาด ชัยชัชยอมเขาถึงขนาดนี้แล้วต้นน้ำจะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร
“เออ กูแพ้! แต่ที่กูแพ้ก็เพราะกูไม่มีโอกาส มึงลองมาคบกับกูดูดิ กูจะเทคแคร์มึงให้ดีกว่าที่แฟนมึงเคยทำ”
อา... ยักษ์อาละวาด ขี้แพ้ชวนตีชัดๆ
“เวลาผู้ชายสองคนมีอะไรกันมันไม่เหมือนกับการนอนกับผู้หญิงนะ ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วนายจะใช้ปากกับเราได้รึเปล่า?”
อยู่ๆ ต้นน้ำก็ถามหน้านิ่งๆ จนมิวนิคไปต่อไม่ถูก!
มึ มึ มึงถามกูว่าอะไรนะ!?”
ต้นน้ำเลยจงใจขยับเข้าไปใกล้แล้วกระซิบถามข้างๆ หูของยักษ์ซื่อบื้อที่กำลังหน้าแดง
“เราชอบเวลาที่แฟนใช้ลิ้นให้ ถ้านายเป็นแฟนเรานายจะทำแบบนั้นกับเราได้รึเปล่า? เราไม่ยอมโดนทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก เราอยากมีแฟนที่ช่วยให้เราเสร็จด้วยเหมือนกัน”
กุกุกู...”
เหลือเชื่อที่มิวนิคติดอ่างตามถังข้าว!
“ฮ่ะๆ”
ต้นน้ำหัวเราะเสียงใสก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาคิดว่าคงรู้ผลแพ้ชนะแล้ว มิวนิคคงไม่กล้าทักท้วงอะไรอีก ต้นน้ำหยิบกีต้าร์ตั้งใจจะไปหาพัท ป่านนี้คงรอเขาแย่ แต่แล้ว!
“กูไม่เคยแต่ถ้ามึงอยากให้กูทำกูก็จะทำ!”
“ให้ตายเถอะทำไมถึงเข้าใจอะไรยากแบบนี้!”
ในที่สุดราชินีน้ำแข็งผู้ชั่วร้ายก็พ่ายแพ้ต่อสมองทื่อๆ ของยักษ์โง่
“โดนแกล้งขนาดนี้ยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้ ไอ้ยักษ์บ้า!”
“ต้น! มึงแกล้งกูเหรอ?”
“ทำไม? ทีนายยังชอบมาแกล้งเราบ่อยๆ เลย”
“ร้ายกาจว่ะ”
“ถึงเราจะแกล้งพูดแหย่นายแต่รับรองว่าเรื่องจริง เมื่อก่อนเราคิดซื่อๆ เหมือนนายนั่นแหละ แต่แค่ความรักมันไม่พอหรอกมิวนิค เราไม่ได้ตายด้านนะ แรดแล้วยังไงเราไม่อยากทนแล้ว! ละเราก็ไม่อยากรักกับคนที่เราต้องกังวลว่าเขาจะชอบผู้หญิงมากกว่าอีกแล้วด้วย เราไม่อยากไปเสี่ยงเรียนรู้ใครอีกแล้วในเมื่อสิ่งที่มันอยู่ในมือเราคือสิ่งที่ดีพอ เรากลัว”
จู่ๆ ต้นน้ำก็น้ำตาไหล ใช่ว่าเขาไม่กังวล เขาเองก็กังวลแต่พยายามกัดฟันสู้อยู่ เขาคิดว่าเขาดูชัยชัชไม่ผิด เวลานี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนโผล่มาระรานพวกเขาอีกแล้วต้นน้ำจึงเบาใจไปเยอะ ระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านไปช่วยให้เรื่องราวบางอย่างตกตะกอน ข้อเสียเกี่ยวกับนิสัยแย่ๆ ชัยชัชก็ปรับตัวขึ้นดีมาก เขาจึงพร้อมจะลองเสี่ยงกับ “แฟนเก่า” อีกครั้ง เขาไม่กล้าพอจะเสี่ยงเปิดใจกับใครคนใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จัก!
“กูขอโทษ...”
มิวนิคงง! อยู่ๆ ดราม่าตัวแม่ก็ต่อมน้ำตาแตกแบบไม่มีเหตุผล มิวนิคไม่เข้าใจต้นน้ำ ปมในใจบางอย่างต่อให้เวลาผ่านไปก็ใช่ว่าจะลบเลือน ลึกๆ แล้วต้นน้ำก็ยังกลัว
“ช่างเหอะ เราสติแตกเอง โทษนะ”
“มึงเป็นอะไรอ่ะ?”
“แค่กลัวน่ะ เพราะงี้แหละมั้งเราถึงไม่อยากคบใคร ทุเรศตัวเองเป็นบ้าเราดันชอบแต่ผู้ชายแท้ๆ แต่พอไปชอบเขาแล้วก็กลัวว่าเขาจะทิ้งเราไปกับผู้หญิง”
“หรือว่าที่มึงไปกับนายแบบที่เป็นเกย์คนนั้นบ่อยๆ ก็เพราะ!”
“บ้า! พี่ซันเขาเป็นแค่พี่ชายเราหรอก ก็แค่ไปเปิดหูเปิดตา แต่ก็ อืม... มั้ง เราก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าจะลองมองพวกเกย์ดู แต่สุดท้ายก็ทำใจไม่ได้อ่ะ รับไม่ได้”
“กูไงกูไง ผู้ชายแท้ๆ แต่ชอบมึง กูไม่ถือเรื่องนั้นด้วยกูให้มึงเปิดซิงกูเลยอ่ะ”
“จะบ้าเหรอเขาต้องพูดว่าขึ้นครูหรอก เอ้ยไม่ใช่! โอ๊ยพอเหอะมิวนิค! ไม่มีผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนชอบผู้ชายด้วยกันหรอก เหอะ!”
“เอ้ยๆ ยังนับอยู่ กูไปตั้งกระทู้ถามคนในพันดริฟมาว่าถ้าชอบตุ๊ดแล้วจะถือว่าเป็นเกย์มั้ย? เขาบอกว่าไม่เป็นว่ะ”
“งั้นก็เรียกตัวเองว่าไบได้แล้วล่ะ ยกเว้นว่านายจะเป็นพวกหื่นขอแค่มีรูแบบโค่ และแฟนเรา”
“แล้วมึงก็ไปชอบคนแบบนั้นเนี่ยนะ! ทำไมคนเราถึงชอบผู้ชายเลวๆ วะ?”
“ก็ถ้าชอบคนดีป่านนี้คิวว์คงมีแฟนไปแล้วล่ะ ฮ่าๆ”
“อ้าวๆ ว่ากูอีกแล้ว เดี๋ยวจับจูบซะหรอก”
“เอาสิ ถ้าทำได้ นายกล้าจริงๆ ป่ะล่ะ? เราเป็นผู้ชายนะ ไม่ใช่ผู้หญิง ไม่มีหน้าอก ถ้านายจูบเราแล้วนายจะเอามือนายไปวางตรงไหน? จะลวนลามเราเหรอ? ระวังนะล้วงไปเดี๋ยวก็เจออะไรแบบเดียวกับที่อยู่ในกางเกงของนาย จูบสิ”
เจอต้นน้ำท้ามาตาแป๋วแบบนี้มิวนิคก็ชักเขิน เขารู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงมากกว่าเดิม เขาร้อนซู่เพราะเลือดสูบฉีด เขาไม่กล้าทำอะไรต้นน้ำคนนี้!
“ฮ่ะๆ”
“เออ! ฝากไว้ก่อนเหอะมึง แต่กูไม่เลิกจีบมึงง่ายๆ หรอกบอกไว้ก่อน กูจะจีบมึงไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละสนุกดี!”
“ใช่มั้ยล่ะ? เป็นเพื่อนกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าเนอะ”
“ต้น มึงนี่...”
“ฮ่าๆ”
“กวนว่ะ!”
“เอาน่ะ เห็นแก่ที่เป็นวันปีใหม่ เราจะให้ของขวัญนายก็ได้นะ”
“อะไรอ่ะ?”
“เอาหูมาดิ”
แล้วต้นน้ำก็กระซิบอะไรบางอย่างกับมิวนิค
“มึงพูดจริง!”
“อืม เราพูดคำไหนคำนั้น แต่ถึงแค่พรุ่งนี้เท่านั้นนะ”
“ได้เลย รับรองมึงต้องหลงรักกูแน่”
“แล้วเราจะรอดู ฮ่าๆ”

“พวกมึงว่าต้นกระซิบไรกับมิววะ?”
“มันกระซิบอะไรกูไม่รู้ แต่กูรู้อย่างนึง”
“อะไรวะพัท?”
“ต้นมันร้ายว่ะ ไอ้มิวแพ้ราบคาบ”
“แต่น่าสงสารมิวออก ต้นกลับไปคบกับแฟนเก่าอ่ะ แบบนี้มิวก็อกหักดิ”
“มึงแหละคิวว์ ต้นไปค้างห้องมึงบ่อยจะตายไม่ระแคะระคายอะไรเลยรึไงวะ?”
“ก็กู...”
“มึงจะเอาอะไรกับตัวโง่หมายเลขสองของภาควะพัท?”
“แล้วพวกมึงสี่ตัวจะแอบฟังสองคนนั้นอีกนานมั้ยวะ”
ระ เรา เปล่า!”
“มึงก็เสือกพอๆ กับกูแหละเอก”
“กูไม่ได้เสือก กูมาตาม อัฐบอกให้กูมาเรียกต้น”
“ทำไมวะ?”
“มีคนมาหามัน”

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อ้ากกก. ใครมาหาต้นอ่าาา :ling1:
ตอนนี้ต้นกะมิวนิคน่าจิ้นมว้ากกก อ้ายย
ปกติไม่ค่อยชอบการ์ตูนหรือนิยายแนวฮาเร็มทั้งหลาย
แต่มาเจอะเรื่องนี้ดันชอบเว้ย แถมจิ้นตัวเอกกะคนอื่น
ในฮาเร็มที่ไม่ใช่พระเอกได้อีก แต่แอบสงสารพี่ชัชเบาๆ
ตอนนี้มาแค่เสียงเอง มิวนิคทำคะแนนนำแย้วว แต่ก็นะ
ยังไงๆพี่ชัชแกก็นัมเบอร์วันในใจนุ้งต้นอยู่ดี
ลูแปง...คนเขียนขาส่งพี่ชัชมาบ้างนะค่าาา  :hao7:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
คือแบ๊บ มิวนิค น่ารักวะ โอ้ยยแบบไม่ไหวแล้วว นางซื่อบื้อแบบน่ารักสุดๆ
แล้วใครมาหาต้นน้าาา

ออฟไลน์ ordinary_y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พอดีเพิ่งมีโอกาสได้อ่าน(เฉพาะภาคแรก เดี๋ยวมีโอกาสจะกลับมาอ่านภาค 2 ต่อนะค้า) สนุกมากเลยจ้า แต่เห็นคนเขียนชื่นชอบตัวละครที่ชื่อแม็กซ์มากเลย เลยอยากมายกมือบอกว่าเป็นตัวละครที่เราไม่ค่อยชอบ อ่านไปอ่านมาแล้วโมโห :katai1:(คืออิน) 555+ คือคาแรคเตอร์ของแม็กซ์(เท่าที่เห็น)เป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง ดันทุรันโดยที่มองข้ามความรู้สึกของคนอื่น ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ วุ่นวาย ที่สุดท้ายยอมถอยเพราะมันเกิดปัญหาลุกลาม เลยรู้สึกว่าน่ารำคาญมากกว่าน่าสงสาร เห็นพระเอกนายเอกโดนด่าเละเลย สงสาร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2015 09:18:34 โดย ordinary_y »

ออฟไลน์ AI.NoR

  • เกรียน&กวนตีน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-6
    • AzureIce
รอกันนานมั้ย? นาน นานเพราะอะไร? เพราะคนเขียนเค้นอารมณ์ตัวเองไม่ออก  :katai1:
แต่ในที่สุดก็แต่งจบแล้ว ฮ่าๆ เดี๋ยวขอไปเกลาให้มันสะใจก่อนแล้วจะเอามาลงนะ ตอนนี้อ่านต้นน้ำ's ปาร์ตี้(รั่ว!) ไปก่อนแล้วกัน ตอนหน้าเฮียเขากลับมาแน่!



ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม (ต่อ)

และเมื่อทั้งเจ็ดคนไปถึงก็พบกับ!
“โต้น คิดถึงจังเลย หวัดดีปีใหม่น้า”
“มาไงวะนั่น?”
พรรคพวกที่เหลือหันไปกระซิบกระซาบกัน แต่มีหรือที่ไปป์จะสนใจในเมื่อต้นน้ำอยู่ตรงหน้านี่แล้ว! ไปป์ทั้งกอดทั้งถูต้นน้ำเสียยิ่งกว่าลูกหมาจนต้นน้ำแอบทำหน้าเอือม
“มาได้ยังไงน่ะไปป์?”
ต้นน้ำรู้มาว่าไปป์โดนป่านล็อกตัวไปสวดมนต์ข้ามปีกับครอบครัวของเธอเลยไม่ได้มาเคาท์ดาวน์ด้วยกัน แต่นึกไม่ถึงเลยว่าไปป์จะโผล่มาแบบนี้
“ก็พอใส่บาตรเสร็จเมื่อเช้าก็แอบหนีมาเลย แหะๆ”
ไปป์กระดิกหางดิ๊กๆ เหมือนรอให้เจ้าของชื่นชม แต่เจ้าของอย่างต้นไม่มีวันชมลูกหมาน้อยจอมยุ่งอย่างไปป์หรอก!
ละนี่บอกป่านแล้วรึยัง?”
“บอกแล้วล่ะ ป่านยังบอกให้เราตามมาดูแลต้นเลย แถวนี้เหลือบไรมันเย้อ”
อัฐนั่งมองภาพที่ไปป์กอดต้นน้ำเอาไว้อย่างหวงแหนแล้วหันไปยักคิ้วยิ้มราวกับเหนือกว่าใส่มิวนิคแล้วก็ขำ ส่วนต้นน้ำก็หน้าซีดเหงื่อแตกเมื่อนึกถึงข้อตกลงสนุกๆ ที่ตัวเองทำไว้กับมิวนิค!
“จะมาทำไมว้า เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกกูก็กลับละ”
“กูมาหาต้น ไม่ได้มาหามึง ไอ้ยักษ์!”
สงครามน้ำลายคงจะมีต่อถ้าหากต้นน้ำไม่เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหวานเชื่อม หากแต่ชื่อของคนที่ถูกเรียกกลับเป็น!
“มิวนิค...”
เมื่อเห็นต้นน้ำส่งสายตาแฝงความหมายบางอย่างมาให้มิวนิคก็หน้าแดง เขายอมหยุดเถียงกับไปป์ก่อนจะยักไหล่ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่น้ำเสียงที่ต้นใช้ก็สะกิดต่อมคนอื่น
และแล้วทุกคนก็ต้องแปลกใจ ตลอดทั้งวันจนถึงเย็นต้นน้ำกับมิวนิคตัวติดกันไม่ยอมห่าง แม้จะมีไปป์มาคอยแทรกแต่ก็ทำอะไรยักษ์ซื่อบื้อไม่ได้ ดูเหมือนว่าคราวนี้ต้นน้ำจะให้ท้ายเปิดไฟเขียวใส่มิวนิคและคอยปรามไปป์แทน ที่สำคัญพวกเขายังไม่ได้ยินต้นน้ำด่าเจ้ายักษ์โง่ซักประโยค!
จะนั่งจะยืนจะเดินต้นน้ำก็อยู่เคียงข้างมิวนิคตลอดเวลา เดี๋ยวป้อนน้ำเดี๋ยวป้อนขนม มีกระทั่งซับเหงื่อ! เวลาคุยกันก็ใช้เสียงหวานเจี๊ยบน้ำตาลเรียกพี่ จากเดิมที่คอยเชียร์เหล่าฟิสิกส์มุงเลยแอบสยองนึกว่าต้นน้ำผีเข้า! ไปป์น้อยที่อุตส่าห์เก็บข้าวของตามต้นน้ำมาถึงทะเลเลยออกอาการงอน ลูกหมาน้อยงอนได้น่ารำคาญเหมือนเด็กสามขวบ! แต่คราวนี้ต้นน้ำกลับไม่ง้อ! ชาวฟิสิกส์มุงจึงเห็นภาพของต้นน้ำสวีทกับมิวนิคโดยมีเรือพ่วงลำน้อยๆ ที่ชื่อไปป์
อา... นี่มันฉากแนะนำแฟนใหม่ของคุณแม่ในสถานการณ์คุณลูกหวงแม่ปะทะพ่อเลี้ยงชัดๆ
สุดท้ายเมื่อไปป์งอนมากๆ เข้าต้นน้ำจึงยอมบอกความจริงว่าตนสัญญาจะเป็นแฟนให้มิวนิคควงหนึ่งวัน ไปป์น้อยเลยโวยวาย แต่เมื่อต้นน้ำบอกว่ากลับไปแล้วจะอนุญาตให้ไปป์ไปค้างที่บ้านได้ตามสบายลูกหมาน้อยก็เงียบกริบเพราะสินบนน่าสนใจกว่าเห็นๆ ถึงจะเป็นลูกหมาเอาแต่ใจแต่ก็ฉลาดพอจะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน!
เพราะคราวนี้ไปป์น้อยโดนต้นน้ำดุ คนอื่นเลยนึกสนุกแกล้งแหย่ไปป์ นอยซ์คิดว่าไปป์ยังไม่รู้ความลับของต้นกับอัฐจึงไปยุให้ไปป์หันไประแวงอัฐเพิ่มอีกคน แต่ว่า...
“มึงคิดว่ากูโง่เหรอนอยซ์ อัฐกับต้นไม่มีวันมีอะไรแบบนั้นหรอก หึๆ”
“เชื่อกูดิ ระวังไว้นะมึง เห็นมันนิ่งๆ มันเอาจริงนะ เมื่อคืนก็นอนห้องเดียวกับต้น ตอนเช้ากูเห็นพวกมันกอดกันคาตาเลย”
บางทีอัฐก็นึกเคืองปนขำเพื่อนคนนี้ เขาผ่านมาได้ยินพอดีเลยยืนหลบอยู่ใกล้ๆ ปล่อยให้ทโมนที่เหลืออำไปป์กันสนุกสนาน
“ไม่มีทาง เพราะถ้าอัฐชอบต้นจริงๆ มันไม่ไปกินข้าวน้องยาหยีหรอก อัฐมันชอบสายแบ๊ว ซึ่งต้นไม่ใช่เสป็กอัฐ!”
“มึงรู้ได้ไงวะ? อัฐเนี่ยนะชอบสายแบ๊ว? กูนึกว่ามันชอบแบบเรียบร้อยซะอีก”
“ก็กูเห็น อัฐมันชวนน้องเขาไปดูหนัง ปกติมันไปกับสาวที่ไหน มันจีบน้องเขาชัวร์!”
“น้องเขาว่างพอดีเลยไปด้วยกัน กูไม่ได้จีบเขา”
เป็นอันว่าข้อมูลของไปป์แน่นปึ๊กจนอัฐร้อนตัว จากเดิมที่เหล่าฟิสิกส์มุงรุมแกล้งไปป์เลยกลายเป็นรุมซักอัฐแทน
“มึงยังไม่ได้จีบแต่ก็ชอบ ใช่ป่ะๆ”
“แล้วไปดูหนังกับสาว ใครจะไม่ชอบวะ?”
เพียงเท่านี้ก็มีเฮ นอยซ์รีบป้องปากตะโกน
“ไอ้ต้นโว้ย! มึงจะมีน้าสะใภ้แล้วโว้ย!”
แต่ไปป์งง!
“น้า?”
นะ นะ นาย ยังไม่รู้สินะ นะ นะ อะ อะ อัฐเป็นน้า นะ น้าของต้น”
“อะไรนะ!”
ถังข้าวอ้าปากเตรียมจะพูดอีกรอบแต่ไปป์ยกมือห้าม
“ไลน์มาก็ได้ถัง มึงพิมพ์เร็วว่าพูด!”
และแล้วข้อความก็เข้า ไปป์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านทันทีที่ได้ยินเสียงเตือน ‘อัฐเป็นน้าแท้ๆ ของต้น’ ไปป์มีสีหน้าตกใจ ‘แม่ของอัฐเป็นน้องคนละแม่ของยายต้น’ ไปป์อ้าปากค้าง ตั้งใจจะพิมพ์ข้อความกลับไปถามว่าจริงดิแต่ไม่ทัน ถังข้าวส่งข้อความที่สามมาเสียก่อน ‘ต้นบอกว่าพึ่งรู้ตอนปิดเทอม อัฐพาต้นกลับไปหาแม่ที่อยุธยา’ และข้อความทั้งหมดนั้นถังข้าวพิมพ์ส่งอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงห้าวินาที!
แต่อนิจจา ... น้องถังข้าวพลาด! ด้วยความรีบเขาเลยเผลอคุยกับไปป์ในไลน์กลุ่มไม่ใช่ไลน์ส่วนตัว ดังนั้นเลยมีข้อความจากฟิสิกส์มุงคนอื่นๆ กระหน่ำเข้ามา ต้นน้ำเลยวิ่งหน้าตื่นมาหาคนทั้งคู่!
“นี่มันอะไรกันอ่ะถัง!”
ดราม่าตัวแม่ยืนถือโทรศัพท์ในมือ แล้วใช้อีกมือชี้ไปที่หน้าจอ ข้อความไลน์ยังคงเลื่อนไม่หยุดแสดงให้เห็นว่าฟิสิกส์มุงที่เหลือให้ความสนใจกับข่าวนี้ รู้กันทั้งรุ่นแล้ว! ไม่สิ ในกลุ่มมีรุ่นพี่รุ่นน้องบางคนด้วย รู้กันทั้งภาคแหง๋ๆ!
ถังข้าวยืนหน้าซีดแล้วกดพิมพ์ตอบไปว่า ‘เราขอโทษ เราลืมออกกลุ่มไปแชทส่วนตัว’
“ถังข้าว!”
แล้วก็เกิดมหกรรมวิ่งไล่จับขึ้น ต้นน้ำไล่กวดถังข้าวที่วิ่งหนีเอาเป็นเอาตาย อา... บรรดาเด็กหนุ่มฟิสิกส์รุ่นนี้มีแต่พวกแปลกๆ จริงด้วยแฮะ
ส่วนไปป์น้อย เขาหันไปมองอัฐที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่ที่เดิม
“ที่ถังเล่า จริงเหรอ?”
“จริง”
“งั้นถ้าต้นเป็นแม่กู มึงไม่ต้องเป็นตากูเหรออัฐ?”
“ตาเลยเหรอ? เอาเหอะ แล้วแต่นะ ฮะๆ”

หนุ่มๆ เดินดูแสงสียามค่ำคืนของเมืองพัทยากันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะรัซเซียเบบี้ นอยซ์ตาลุกวาวกับภาพของสาวโคโยตี้ในตู้กระจก ผู้ชายวัยรุ่นกลุ่มใหญ่เดินไปตามถนนสายราตรี ผับบาร์มีสาวๆ ยืนเรียกลูกค้าอย่างครึกครื้น แต่กลับไม่มีใครมาจิกหนุ่มๆ ในกลุ่มเลยแม้แต่น้อย ด้วยหนังหน้าบอกยี่ห้อสัญชาติไทยแลดูแล้วยังเด็กไม่น่าจะกระเป๋าหนักจึงถูกเมิน นาทีนี้ความหล่อของคิวว์ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะถนนสายนี้ไม่นิยมลูกค้าชาวไทย มิหนำซ้ำลูกครึ่งสุดหล่ออย่างมิวนิคยังเดินควงมากับต้นน้ำ ดูก็รู้ว่าไม่มีหวังไม่ต้องเรียกให้เปลืองน้ำลาย เหล่าฟิสิกส์เลยถ่ายรูปบรรยากาศเล่นกันสนุกๆ
แต่ไปป์ไม่สนุกเลยเพราะต้นน้ำกระหนุงกระหนิงกับมิวนิคจนน่าหงุดหงิด นอกจากต้นน้ำจะไม่ด่าหลุดปากมิวนิคสักคำแล้วต้นน้ำยังมองมิวนิคด้วยสายตาหวานเชื่อมอีก อา... แม่ต้นสุดที่รักของเขาต้องโดนไอ้ยักษ์โง่ทำเสน่ห์ยาแฝดใส่แน่ๆ
“กินลูกชิ้นมั้ย?”
ไปป์หน้าบูดนับหนึ่งถึงสิบในใจมองต้นยกลูกชิ้นปิ้งขึ้นไปจ่อปากมิวนิค ตัวเกะกะในสายตาเขาก้มลงมาแล้วจับมือต้นน้ำเอาไว้นิ่งๆ ก่อนจะงับลูกชิ้นปิ้งเข้าปาก
“อ้อนอีๆ อิ เออะอะ”
“ขอโทษ น้ำจิ้มมันหกอ่ะ”
ต้นน้ำกล่าวขอโทษก่อนจะยกทิชชู่ขึ้นเช็ดมุมปากให้มิวนิคต่อหน้าธารกำนัล หลังจากนั้นก็ส่งยิ้มหวานให้
“เอาอีกมั้ย?”
อา... ไปป์ทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นลูกชิ้นคำต่อไปจึงถูกลูกหมาน้อยกระโดดเข้ามางาบไปรวดเดียวสามลูกหมดไม้!
“ไปป์!”
ในที่สุดก็ได้ยินเสียงวีนของต้น ฮ่าๆ แต่เอ๊ะ! ทำไมต้นวีนเขาล่ะ?
“เล่นบ้าอะไรห๊ะ! เดี๋ยวก็โดนไม่เสียบลูกชิ้นจิ้มหรอก”
“แล้วต้นไปป้อนมันทำไมอ่ะ สนใจแต่มัน เราก็หิวนะ”
“ก็บอกดีๆ สิ”
เมื่อเห็นหน้าไปป์ชัดๆ ต้นก็ดุไม่ลง หนุ่มหล่อหน้าตาน่ารักแก้มตุ่ยเพราะอมลูกชิ้นสามลูกไว้ในปาก แถมยังมีรอยน้ำจิ้มเลอะข้างแก้มเป็นแนว
“แย่งลูกชิ้นกู”
สงครามลูกชิ้นกำลังจะเกิด แต่ทว่า
“มิวนิค ... เราขอนะ”
เพียงแค่ต้นน้ำหันมาส่งเสียงอ้อนเข้าหน่อยมิวนิคก็ยอมแพ้ สายตาของต้นน้ำสื่อความหมายว่าอย่าเอาเรื่องไปป์เต็มที่มิวนิคจึงทำอะไรไม่ได้ เขาไม่อยากหลุดฟอร์มเสียคะแนนตอนนี้
“เออๆ เลิฟมีเลิฟมายด็อก”
เขาบ่นเซ็งๆ ก่อนจะเดินหนีไปหาคิวว์ ต้นน้ำที่ยิ้มหวานเลยกลับคืนสู่สีหน้าปกติแล้วหลุดขำพลางส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะหันกลับมามองไปป์ที่ยังทำหน้าบูดอยู่
“หิวเหรอ? แล้วตอนอยู่ร้านเมื่อกี้ก็ไม่กิน”
“ก็ต้นเอาแต่สนใจมันอ่ะ”
“ก็เราสัญญากับเขาไว้นี่”
“ไม่เห็นต้องไปสัญญาอะไรแบบนั้นเลยอ่ะ!”
“แค่พนันกันสนุกๆ น่ะ อ๊ะ! ตรงนั้นมีเซเว่น ซื้อขนมกินมั้ย? เราเลี้ยงก็ได้”
“กินๆ แต่เราอยากกินปลาหมึกย่างอ่ะต้น นายว่าแถวนี้จะมีป่ะ?”
“ไม่รู้สิ เดินหาเอาละกัน”

“เป็นไงบ้างวะมิว?”
“เซ็งว่ะ กูอุตส่าห์มีโอกาสทำไมต้องมีก้างขวางคอด้วยวะ”
“เอาน่า มึงไม่มีวันชนะไปป์หรอกมึงก็รู้”
“แฟนก็ส่วนแฟนดิว้า ลูกหมาไม่เกี่ยว”
“แต่ลูกหมาตัวนั้นของมึงต้นมันรักยิ่งกว่าแฟนอีกนะ บอกว่าต้นเบ่งไอ้ไปป์ออกมากูยังเชื่อเลย ตอนนี้ต้นโคตรโอ๋ไอ้ไปป์ มันเลยยิ่งทำตัวปัญญาอ่อนเข้าไปใหญ่”
ฟังนอยซ์พูดแล้วมิวนิคก็เซ็ง คิวว์เลยตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนเบาๆ
“เออ แล้วไปป์รู้รึยังว่าต้นกลับไปคบกับแฟนอ่ะ?”
เมื่อคิวว์เปิดประเด็นนอยซ์เลยมีสีหน้าชั่วร้าย
“กูมีแผนเจ๋งๆ จะช่วยมึงแล้วว่ะเพื่อนมิว”
“อะไรของมึงวะ?”

แต่แผนทั้งหมดไม่สำเร็จ!
เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านพักต้นน้ำชวนมิวนิคไปเดินเล่นสองต่อสองซะงั้น! นอยซ์ได้ทีเลยล้างสมองไปป์ตามแผน ทว่านอยซ์คาดการณ์ผิด! จิตใจของไปป์ซับซ้อนเกินกว่าอารมณ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ขี้อิจฉาตามปกติ
“แล้วไง? ต้นกลับไปคบกับแฟนเก่าแล้วยังไง?”
“มึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอไปป์! แฟนเก่าต้นโคตรชั่วเลยนะเว้ย”
“ต้นจะรักใครชอบใครกูไม่สน ยังไงกูก็เป็นที่หนึ่งของต้นอยู่ดี”
“แต่แฟนเก่าต้นมัน-”
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง? ให้กูห้ามไม่ให้ต้นกลับไปคบกับพี่เขาเหรอ? กูไม่มีสิทธิ์ซักหน่อย ก็คนเขารักกัน แล้วตอนนี้เขาเข้าใจกันแล้วก็ดีออก ต้นของกูจะได้มีความสุขซักที”
ไปป์ยิ้มออกมาอย่างสดใส ใบหน้าน่ารักของเขาบริสุทธิ์ไร้เดียงสาราวกับเด็ก แต่ประโยคถัดมากลับเอาแต่ใจจนนอยซ์สยอง!
“ต้นจะคบใครเป็นแฟนก็ช่าง แต่ที่หนึ่งของต้นต้องเป็นของกู หึๆ ฮ้าว! ชักง่วงว่ะ กูไปนอนก่อนนะ ฝากบอกแม่กูด้วยว่ากูหลับแล้ว”
ว่าแล้วไปป์ก็หายเข้าไปในห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้นนอนห้องไหนไปป์นอนห้องนั้น อัฐมองตามแล้วก็หันไปมองหน้าเอก
“มึง! หลานมึงๆ รับผิดชอบ”
อา... ดูเหมือนคืนนี้ต้องมีคนเสียสละนอนพื้นห้องเสียแล้ว จะมีใครสงสารคุณน้าดวงซวยบ้างมั้ยน้อ?
“อะไรของมันวะ งงว่ะ”
นอยซ์หันไปขอความเห็นจากถังข้าว ส่วนคิวว์ยังคงมองตามไปป์ด้วยอาการงงไม่แพ้กัน เขาไม่เข้าใจเพราะไม่เคยเจอฤทธิ์เดชของไปป์ ที่หนึ่งอะไรกันหนอ?
อัฐเห็นดังนั้นจึงลอบยิ้ม ในขณะที่เอกพูดขึ้นลอยๆ เล่นเอาสามคนที่เหลือแปลกใจ
“มึงคิดว่าไปป์มันโง่รึไง ถึงมันจะปัญญาอ่อนแต่คนที่รู้จักต้นดีที่สุดก็คือมัน ไปป์มันไม่พลาดทำสิ่งที่ต้นเกลียดหรอก”
“มึงหมายความว่าไงวะ?”
“ก็หมายความว่าไม่ว่าต้นจะรักใคร จะดีจะร้ายไอ้ไปป์มันก็หลับหูหลับตารักด้วยทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ไปยุ่งกับตำแหน่งของมันไปป์มันไม่สนหรอก”
“เอกหมายถึงว่าอย่าไปแย่งความสนใจของต้นจากไปป์น่ะ กูเคยโดนมาแล้ว”

“ไม่เห็นดาวเลยเนอะ?”
“แสงไฟเยอะแบบนี้มึงไม่เห็นหรอก อยากเห็นมึงต้องไปหาดที่มันสงบๆ กว่านี้”
บางครั้งมิวนิคก็เกิดจะมาฉลาดในสถานการณ์ที่ควรใช้หัวใจมากกว่าสมอง ต้นน้ำอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหมาป่าคารมดีบางคน คนๆ นั้นทำให้เขาอมยิ้มได้เสมอด้วยคำพูดไม่กี่คำ
“เสียดายนะ ถ้ามีดาวให้เห็นบ้างก็คงดี”
“ทำไมอ่ะ มึงชอบดูดาวเหรอ?”
“อื้ม ชอบสิ แล้วนายไม่ชอบหรอกเหรอ? อุตส่าห์มาเรียนฟิสิกส์อ่ะ”
“กูเลือกคณะมั่วๆ ว่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบต้นน้ำก็เพลีย เพื่อนเขาคนนี้จะรอดมั้ยนี่?
“วันนี้สนุกมั้ย?”
“หา? อะไรนะ?”
มิวนิคงงที่อยู่ๆ ต้นน้ำก็ชวนคุยหัวข้อแปลกๆ เลยตั้งตัวไม่ทัน
“ได้ควงเราวันนึง สนุกมั้ย?”
มิวนิคได้ยินแล้วก็หน้าแดง สนุกมั้ยน่ะหรือ? เขามีความสุขจะตาย แต่อีกใจก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมันไม่ใช่
“กู...”
“นายรู้ป่ะ เราไม่เคยทำแบบนั้นกับแฟนเก่าเราหรอกนะ”
เมื่อเห็นมิวนิคทำหน้างงต้นน้ำเลยอธิบาย
“เราไม่เคยสวีทอะไรแบบนี้กับพี่ชัชหรอก ที่เห็นนั่นเราแอ๊บล้วนๆ”
“อ้าว! มึงหลอกกูเหรอ?”
มิวนิคเสียงดังใส่ แต่ต้นน้ำก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เขาตอกกลับหน้าตายจนมิวนิคพูดไม่ออก
“หลอกอะไร? ก็เป็นแฟนควงกันหลอกๆ อยู่แล้วนี่นา ฮะๆ ใจเย็นน่ะ อืม... ไงดีละ เอาเป็นว่าเราไม่เคยทำตัวแบบนี้ตอนที่เราคบกับแฟนก็แล้วกัน ไม่เคยสวีทกับพี่ชัชหรืออ้อนกันแบบนี้หรอก”
“อ้าว? แล้วมึงเป็นยังไงวะ?”
“ก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นเหมือนปกติแบบที่วีนใส่นาย บางทีเราโมโหพี่เขามากๆ ก็ด่า หงุดหงิดมากๆ ก็มีตบบ้าง”
ได้ยินแล้วมิวนิคก็อึ้ง!
“แล้วมึงทำแบบนั้นทำไม?”
มิวนิครู้ดีว่าต้นน้ำมีเหตุผลที่ทำเช่นนั้น แต่เขาไม่เข้าใจว่าต้นน้ำทำไปทำไม ถึงเขาจะดีใจที่ได้ควงกับต้นน้ำหนึ่งวัน แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการให้ต้นน้ำฝืนความรู้สึกตัวเองเช่นนี้
“แล้วเราที่เป็นเราแบบนี้ กับเราที่หวานกับนายแบบนั้น นายชอบแบบไหนมากกว่ากันเหรอ?”
“กู...”
มิวนิคพบคำตอบในใจตัวเองแล้ว แต่เขาไม่จำเป็นต้องตอบ ต้นน้ำยิ้มให้เพื่อนสมองกล้ามอย่างจริงใจ
“ปกติพี่ชัชเขามักจะเป็นคนทำอะไรหวานๆ ให้เราก่อนเสมอ เราเป็นคนชอบพี่เขาก่อนแท้ๆ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็มีแค่พยายามทำโน่นทำนี่ให้พี่เขา เราหมายถึงพวกงานบ้านน่ะ เพราะเราทำได้แค่นั้น เราไม่ใช่คนโรแมนติกแถมยังขี้บ่น แย่เนอะ”
“เอ้ย! ไม่หรอก มึงก็มีส่วนน่ารักของมึง”
“ขอบใจ”
ต้นน้ำฉีกยิ้มอย่างสดใสก่อนจะรวบรวมความคิดในหัวตัวเอง
“อืม เราชอบนายนะมิวนิค แต่นายไม่ใช่อ่ะ ละถ้านายหวังอยากให้เราหวานอะไรแบบนั้นกับนาย ต้นน้ำคนที่นายฝันถึงก็คงไม่ใช่ตัวเรา แต่นายก็คงมีคำตอบในใจอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ?”
“เออ กูชอบมึงแบบปกติมากกว่า แบบนั้นมันก็ดีอ่ะแต่เหมือนไม่ใช่ตัวมึง”
“เนอะ แต่ถ้าเป็นเราในแบบปกติ งั้นความสัมพันธ์ของเราสองคนมันก็คงไม่ต่างอะไรกับตอนนี้ใช่มั้ย? ก็เหมือนที่เราเป็นเพื่อนกันงั้นสิ?”
“กู...”
เจอย้อนกลับมาแบบนี้มิวนิคก็ยอมแพ้เถียงกลับไม่ออก
“แล้วที่กูใจเต้นเพราะมึงล่ะ? กูไม่ใจเต้นกับเพื่อนธรรมดาๆ หรอก”
อัลเซเชี่ยนตัวโตหงอยไปถนัดตาจนต้นน้ำสงสาร
“กูไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกันมาก่อน อยู่ๆ กูก็รู้สึกว่ามึงน่ารัก แล้วก็ชอบมึง มึงว่าความชอบของกูเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเหรอวะ? กูจริงจังนะ กับสาวคนอื่นกูยังไม่รักมากขนาดนี้เลย”
“แต่เราก็ให้นายได้แค่นี้จริงๆ เรามองนายได้แค่เพื่อน เราไม่ได้อยากใช้ชีวิตร่วมกับนาย!”
เจอต้นน้ำปฏิเสธตรงๆ แบบหมดเยื่อใยเช่นนี้แล้วมิวนิคจะตื้ออย่างไรได้อีก เขารู้ดีว่าแพ้แต่ยังไม่อยากยอมรับ
ต้นน้ำจึงถอนหายใจยาวก่อนจะใช้มารยา เขาต้องจบมันให้ได้ ต้นน้ำไม่อยากปล่อยให้มิวนิคหวังลมๆ แล้งๆ อีก เขารักชัยชัชและจะรักพี่ชัชของเขาคนเดียวตลอดไป!
“เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันไม่โอเคเหรอมิว?”
เจอลูกอ้อนของคนเอาแต่ใจเข้าไปมิวนิคก็ใจอ่อน แต่เขาก็รู้สึกว่าต้องแบบนี้แหละถึงจะสมเป็นต้นน้ำ เย่อหยิ่งเอาแต่ใจร้ายกาจแต่ก็ทำให้เขาปฏิเสธไม่ลง สุดท้ายยักษ์โง่จึงทำได้แค่ถอนหายใจแก้กลุ้ม
“ทำไมอยู่ๆ มึงใจดีกับกูจัง?”
“เพราะนายเป็นคนดีมั้ง เราไม่อยากเผลอทำให้ใครมาคิดแค้นเราอีกแล้ว ชอบไม่ชอบก็อยากบอกตรงๆ แล้วก็... เราอยากพูดให้เคลียร์ด้วย ไม่อยากปิดหูปิดตาแล้วปล่อยให้นายมีความหวังจนคิดไปเอง เราไม่อยากเห็นนายยึดติดกับเรามั้ง”
“เมย์มันคงอิจฉากูน่าดู ฉากอกหักกูเบากว่ามันเยอะ!”
“เราขอโทษ”
“ช่างเหอะ ยิ่งมึงน่ารักขึ้นแบบนี้กูก็ยิ่งชอบว่ะ คงเลิกชอบมึงยาก แต่กูไม่โกรธมึงหรอกนะ เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้กูรู้”
ได้ยินแล้วต้นน้ำก็ยิ้ม
“งั้นกลับบ้านพักกันมั้ย? ดึกแล้ว”
“เดี๋ยวดิ กูยังไม่หมดเวลานะเว้ย!”
เมื่อเห็นต้นน้ำทำหน้างงมิวนิคเลยอธิบาย
“ก็มึงบอกถึงตอนกลับไง กูยังไม่หมดเวลา ตอนนี้มึงยังเป็นแฟนกูอยู่ กูอยากนั่งดูดาวกับมึงสองต่อสอง”
เมื่อเห็นมิวนิคโวยวายแถมยังกลับคำต้นน้ำเลยหรี่ตาลงจับผิด ถึงเขาจะรู้ว่าเพื่อนเป็นคนดีแต่ก็ใช่ว่าคนดีหาเศษหาเลยไม่เป็น เขายอมลงทุนถึงขั้นนี้แล้วไม่อยากขาดทุนมากไปกว่าเดิมหรอกนะ!
“ไหนบอกไม่เห็นดาวไง?”
“ก็กูรำคาญไปป์อ่ะ อยากอยู่กับมึงสองคน”
อันที่จริงต้นน้ำเข้าใจดีเชียวล่ะ ถึงเขาจะรักไปป์มากแต่ก็มีแอบรำคาญบ่อยๆ แต่ทำไงได้ ลูกหมาน้อยตัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาไปซะแล้ว ต้นน้ำรู้สึกเหมือนเวรกรรมที่เคยทำไว้กับธันย์จะย้อนกลับมาเล่นงานเขาด้วยเพื่อนชายที่ชื่อไปป์!
แต่เอ... ป่านนี้ไปป์จะนอนแล้วรึยังนะ? แล้วไปป์จะแปรงฟันก่อนนอนรึเปล่า? คิดแล้วต้นน้ำก็แอบกังวลจนต้องไล่ความคิดในหัวตัวเองด้วยการส่ายหน้าเบาๆ เขาหันกลับมาสนใจมิวนิคตามเดิม
“อืม ก็ได้ แต่! ห้ามลวนลามเรานะ เราไม่ชอบ ห้ามจูบ ห้ามกอด ห้ามหอมแก้ม ห้ามใช้ข้ออ้างมาแต๊ะอั๋งเรา ไม่งั้นเราโกรธจริงๆ ด้วย”
“มึงห้ามกูแบบนี้แล้วกูจะทำอะไรมึงได้วะ?”
“คิดอกุศลกับเราจริงๆ ใช่มั้ย! ทุเรศอ่ะ!”
“แล้วกูผิดเหรอ? ก็มึงมันน่า...”
“น่าอะไร! พูดให้มันดีๆ นะ!”
“เออๆ กลับก็กลับ มันต่างกับปกติตรงไหนวะเนี่ย! อุตส่าห์ได้เป็นแฟนมึง เอาเปรียบว่ะ ไหนบอกจะให้ของขวัญกูไง?”
“อ่ะๆ งั้นจับมือก็ได้ ให้จับมือเดินกลับบ้านอ่ะ”
ต้นน้ำลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้ายักษ์ซื่อบื้อที่ยังนั่งงอนอยู่
“จับมือ? กูไม่ใช่ไอ้ไปป์นะจะได้เป็นเด็กหลงให้มึงจูง”
“แล้วจะเอาไง? เรื่องมากอ่ะ นี่เราก็ยอมทุ่มทุนแล้วนะ”
จากเดิมที่บนใบหน้ามีรอยยิ้มสดใสเอาใจเพื่อนมาบัดนี้คิ้วของต้นน้ำเริ่มจะขมวดแล้ว มิวนิคเล่นตัวเกินไปละ!
“เอาแบบนี้!”
ว่าแล้วมิวนิคก็ลุกขึ้นช้อนตัวต้นน้ำลอยสูงจากพื้นด้วยท่าอุ้มเจ้าสาว!
“เฮ้ย! ไอ้บ้า! มิวนิคปล่อยเรานะ!”
ต้นน้ำไม่ทันตั้งหลักลอยหวือจึงตกใจ เขาเกาะเพื่อนร่างยักษ์แน่นเพราะกลัวตก!
“มึงตัวเบาจัง กูอุ้มสบายเลยว่ะ”
“ไอ้บ้า! ไม่เล่น!”
“ฮ่าๆ”
“เฮ้ย ปล่อย!”
“กูไม่ปล่อย!”
นอกจากมิวนิคจะไม่ปล่อยแล้วยังแกล้งต้นน้ำอีก เขาแกล้งเหวี่ยงร่างของต้นน้ำจนคนถูกแกล้งได้แต่หลับตาปี๋!
จะเอาอะไรกับยักษ์สมองกล้าม ผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆ ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ยิ่งอยู่ในหมู่เพื่อนความซุกซนแบบเด็กๆ ยิ่งฉายชัด มิวนิคเลยแกล้งต้นน้ำเหมือนเด็กสิบขวบแกล้งกัน แม้จะเป็นการรังแกใช้กำลังแบบไม่คิดหน้าคิดหลังแค่ทำเอามันแต่มิวนิคก็คิดว่าตนได้กำไร นอกจากจะได้แกล้งคนแล้วต้นน้ำยังกอดเขาแน่นอีกต่างหาก
ในที่สุดต้นน้ำก็ยอมแพ้ เขาร้องขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน ต้นน้ำถูกมิวนิคจับเหวี่ยงจนมึน!
“พอๆ จะอ้วกแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าต้นน้ำเอ่ยขอร้องด้วยเสียงอ่อนระโหยปนหอบมิวนิคก็เลิกแกล้ง
“อ่ะๆ กูปล่อยก็ได้”
ดังนั้นเมื่อต้นน้ำถูกปล่อยตัวให้เอาเท้าลงเหยียบพื้นทรายเขาเลยยังไม่กล้ายืนด้วยกำลังขาของตัวเอง ต้นน้ำยืนซบพิงอกของเพื่อนตัวใหญ่อย่างลืมตัว สองมือของเขากำเสื้อกล้ามของมิวนิคแน่นพลางสูดหายใจเอาลมเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย!
ก็ต้นน้ำเป็นเสียแบบนี้แล้วมิวนิคจะตัดใจง่ายๆ ได้อย่างไร คนบางคนยอมตายเพื่อปกป้องต้นน้ำ บางคนก็ไม่อาจละสายตาได้แม้จะรู้ดีว่าไม่มีวันได้ครอบครอง ใครอยู่ใกล้ก็เผลอเป็นห่วงจนไม่อาจปล่อยมือ ดราม่าตัวแม่อย่างต้นน้ำชอบเผลอทำหัวใจคนอื่นกระตุกอยู่เรื่อย!
“เรา...”
ต้นน้ำเอ่ยเสียงสั่นเบาๆ
เพราะบรรยากาศริมทะเลเป็นใจมีเสียงคลื่นคลอเคลียหรืออย่างไร มิวนิคจึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกสะกด
“อะไรนะ?”
เพราะไม่ได้ยินมิวนิคจึงก้มลงไป ประจวบเหมาะกับที่ต้นน้ำเงยหน้าขึ้นมาพอดี
ฉากแบบนี้ใช่แน่ๆ มิวนิคแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปไกล
“อ้วก!”
แล้วอาหารอุ่นๆ ส่งตรงจากกระเพาะอาหารของต้นน้ำก็พุ่งออกมา มิวนิคร้องลั่น! ส่วนต้นน้ำ เขาแสบคอสุดๆ ต้องเป็นเพราะน้ำจิ้มปลาหมึกย่างที่ไปป์ชวนหม่ำแน่ๆ!
ดังนั้นต้นน้ำกับมิวนิคจึงกลับถึงบ้านพักในสภาพเปลือยท่อนบนทั้งคู่ แน่นอนว่าเหล่าฟิสิกส์มุงต่างตาโตแตกตื่นกับเรื่องนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกนิดจนกลิ่นอาเจียนโชยมาและพอพิจารณาซากเสื้อยืดในมือของทั้งคู่ดีๆ จนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วต่างคนต่างแยกย้าย เพราะไม่มีอะไรในกอไผ่ ยกเว้นมนุษย์ปากดีผู้หาเรื่องทำให้ปากมีสีได้ทุกสถานการณ์
“โห! ไวไฟว่ะมิว พาต้นไปแป๊บเดียว แพ้ท้องกลับมาเลยเหรอวะ ฮ่าๆ”
แต่ครั้งนี้ต้นน้ำทำแค่ถลึงตาส่งกลับไปให้เท่านั้น เขาเหนื่อยจนไม่มีแรงงจะเถียงกับใครแล้ว!
แม้การมาฉลองปีใหม่กับเพื่อนๆ ครั้งแรกในชีวิตจะจบลงด้วย “อ้วก” ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็นสีสันในชีวิต เป็นความทรงจำดีๆ อีกบทหนึ่งที่ต้นน้ำหวงแหน เขามีความสุขท่ามกลางเรื่องบ้าๆ เหล่านี้ ชีวิตของเขากำลังเข้าที่เข้าทาง ต้นน้ำกำลังพยายามเติมสีสันใหม่ๆ ให้ชีวิตตัวเอง ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ไม่ว่าจะเรื่องงี่เง่ามากน้อยเพียงใด ต้นน้ำจะยิ้มรับมันทั้งหมด เขาจะสนุกกับชีวิตให้เต็มที่!


มีแม่ต้นที่ไหน มีนุ้งไปป์ที่นั่น อา...ลูกหมาน้อย หนุ่มทานตะวัน จอมดาร์กของรุ่น นับวันยิ่งชักจะปัญญาอ่อนเข้าไปทุกที แหง๋ล่ะอินี่มัน"การ์ตูน" เป็นคาแรคเตอร์ที่ปั้นมาเลียนแบบไทป์พิมพ์นิยม"หนุ่มลูกหมา" ซื่อสัตย์ดีใช่มั้ยล่ะเธอว์! อิๆ ก็ร่าเริงนะแต่ง๊องแง๊งด้วย ทวิสด้วยการแอบดาร์กนิดๆ ออกมาเป็น"ไปป์"
มีเสียงบ่นจากคนอ่านบางท่านว่ารำคาญไปป์ เอาจริงๆ ก็เขียนให้รำคาญนะ เพื่อนๆ ในภาคคนอื่นก็คงเขม่นกันอยู่บ้าง แต่อารมณ์ประมาณว่าพออยู่กันไปเรื่อยๆ ไม่มาเดือดร้อนตูๆ ก็ไม่สนทำนองนั้นละมั้ง ฮ่าๆ ส่วนต้นนี่จะเห็นว่าตอนแรกๆ รำคาญมากเลย แต่ไปๆ มาๆ ความน่ารักของไปป์ก็ชนะใจต้นได้ในที่สุด ถ้ามองดีๆ อีกอย่างนี่ไปป์แทบจะเป็นกระจกหยินหยางกับต้น คล้ายๆ กันในบางส่วน
จุดที่ชอบชอบไปป์ที่สุดคือความเอาแต่ใจนี่แหละ รักต้นแบบไม่มีข้อแม้ เพราะไปป์วางต้นไว้สำคัญในใจมากต้นถึงได้รักไปป์สุดๆ ยิ่งผ่านฉากดาร์กๆ มาแล้วต้นยิ่งรู้สึกผิดเลยยิ่งโอ๋ ฮ่าๆ เปล่าหรอก จริงๆ แค่รู้สึกว่าสมการ"แม่ต้นลูกไปป์"มันน่ารักดี ต้นเป็น"ไทป์คุณแม่"อยู่แล้วด้วยเลยยิ่งไม่ขัดกับคาแรคเตอร์ ฮ่าๆ แต่จุดที่ชอบเขียนคือไปป์มันปัญญาอ่อน เขียนง่านดี สนุกในการปั้นคาแรคเตอร์ให้ทำอะไรปัญญาอ่อน อิๆ
ปิดท้ายตอนด้วยยักษ์โง่กับราชินีน้ำแข็ง ให้คนอ่านตัดสินกันเอาเองว่าหวานรึรั่ว ฮ่าๆ แต่ต้นน่ารักน้า ให้มิวนิคจูงมือด้วย อิๆ เสียแต่มิวนิคมันบ้าพลังไปหน่อย ฮ่าๆ


ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
แหม สงสารมิวนิคเลยโดนต้นอ้วกใส่
แอะ แอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด