*หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]  (อ่าน 152485 ครั้ง)

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ต่างคนต่างมีอดีต สินะ

แล้วอดีตจะตามมาป่วงแค่ไหน รอลุ้น o18


ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ตื่นเต้นค่ะ จะได้รู้ความเป็นไปของฝูหรงที่นิวยอร์ก
คงจะเนื้อหอมน่าดู อิอิ

 :katai2-1:

ขอบคุณค่าาา +1^^

ออฟไลน์ คุณขนมหวาน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พอลน่ารักมากอ่ะ ฝูหรงก็ยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก

รออยู่นะคะ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 12

โจวพอล

   “ชิ้นนี้  นี่ด้วย  หือ!?  มีกางเกงขาสั้นขนาดนี้ด้วยรึไงกัน  แต่เอาไปด้วยก็ดีจะได้ให้กระต่ายน้อยใส่ให้เราดูคนเดียว  ฮึๆ...เอาไปหมดตู้นี่แหละ  จะได้ไม่มีข้ออ้างต้องกลับมาห้องนี้อีก”  ระหว่างที่ผมกำลังยุ่งวุ่นวายกับตู้เสื้อผ้าอยู่นั้น  เจ้าของตู้และบรรดาข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่รอบตัวก็ส่งเสียงนำมาก่อนตัว  ทำเอาผมสะดุ้งและเผลอปล่อยของที่อยู่ในมือหล่นกระจายเต็มพื้น

“พอล!  ทำอะไรน่ะ”  ฝูหรงเดินเข้าหาผมพร้อมแก้วนมในมือ  ใบหน้าแววตาไม่ต้องพูดถึงว่าจะแสดงออกถึงความเคลือบแคลงเพียงใด  ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นก้มมองเสื้อผ้าตัวเองที่เกลื่อนอยู่หน้าตู้ 

ผมจึงได้แต่ระบายยิ้มเอาใจใส่ตากลมๆคู่นั้น  ยามตากลมๆที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องกลับมายังผม  ก่อนจะเสยื่นมือไปรับแก้วนมมาถือไว้เอง  และกุมมือบางไว้แถมใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงอีกนิด  เพื่อจูงเจ้าของมือนุ่มให้ออกเดินตามมายังเตียงกลางห้อง 

ผมย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า  และยื่นแก้วในมือไปจ่อริมฝีปากแดงสด  มีพยักหน้าเชิญชวนคนน่ารักให้ดื่มนมก่อนนอน  ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำวันที่ขาดไม่ได้ของฝูหรงที่ผมเพิ่งรู้  ยามได้มานอนยังคอนโดแห่งนี้เมื่อสามวันก่อน

“ดื่มนมก่อนนะกระต่ายน้อย”  แม้ในดวงตากลมๆจะยังมีแววสงสัยไม่เปลี่ยน  แต่ผมเดาว่าเพราะเสียงนุ่มๆที่ผมใช้  และท่าทางเอาอกเอาใจที่ผมแสดงออกกับเจ้าตัว  ทำให้ฝูหรงยอมที่จะดื่มนมตามคำชวนของผม

กระต่ายน้อยค่อยๆละเลียดนม  โดยมีผมช่วยประคองแก้วไว้  ซึ่งผมอดระบายยิ้มไม่ได้  ยามเห็นลิ้นเล็กๆสีชมพูอ่อนแลบเลียกลีบปากสีสดที่เปื้อนคราบนม  เมื่อฝูหรงดื่มนมจนหมดแก้วแล้ว 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือพฤติกรรมของชายหนุ่มอายุยี่สิบสาม  ด้วยภาพตรงหน้าไม่ต่างจากเด็กชายตัวน้อยอายุไม่เกินสิบขวบ  ‘ไร้ซึ่งมารยา’  และเพราะรอยยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของผมที่มีต่อกระต่ายน้อยนั่นเอง  ทำให้เจ้าตัวถึงกลับชะงัก  ก่อนแก้มใสจะขึ้นสีและขึงตาใส่ผม  ด้วยฝูหรงคงรู้ว่าเผลอทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าผมเข้าแล้ว 

กระต่ายน้อยน่ารักดันแก้เก้อด้วยการยกหลังมือขึ้นมาเช็ดปาก  ยิ่งตอกย้ำพฤติกรรมเด็กน้อยของเจ้าตัวในความคิดของผมเข้าไปอีก

“อ่ะ!...หัวเราะไมเล่า  แค่ลืมตัว  ก็ไม่รู้จะจ้องทำไมนักหนา”  ท้ายประโยคต่อว่าต่อขานแบบไม่จริงจังของเด็กน่ารักนั้นเบาหวิว  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินสายตาผมจนทำอะไรไม่ถูก 

ผมจึงเอื้อมไปจับมือนุ่มๆข้างนั้นไว้  ก่อนจะยื่นหน้าเข้าหาเพื่อจุมพิตบางเบา  และส่งลิ้นแลบเลียคราบนม  เพื่อทำความสะอาดให้เสียเอง  ส่งผลให้กระต่ายน้อยขี้ตื่นมีอาการสะดุ้งน้อยๆทันที  ฝูหรงพยายามชักมือกลับแต่ผมไม่คิดปล่อย  ก่อนผมจะเงยหน้ากระตุกยิ้มใส่ตากลมๆที่กำลังสั่นไหว  พร้อมยื่นหน้าเข้าหาใบหน้าเล็กๆอีกครั้ง  ที่ยามนี้เลือดลมสูบฉีดลามเลียไปยังลำคอระหงให้ขึ้นสีชมพูระเรื่อไปทั่ว 

ผมตัดสินใจแตะริมฝีปากเข้าที่มุมปากเล็ก  ที่ยังคงหลงเหลือคราบนมอยู่  และแช่ค้างไว้แบบนั้น  ซึ่งรับรู้ได้เลยว่าฝูหรงนั่งเกร็ง  แถมยังกลั้นลมหายใจไว้ด้วย  ทำเอาผมนึกเอ็นดูกระต่ายน้อยขี้ตื่นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว  เพราะขนาดว่าเราเคยแนบชิดและลึกซึ้งไปถึงขั้นไหนต่อไหนกันแล้ว  แต่อาการขี้ตื่นขี้อายของฝูหรงก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย  ผมจึงเลือกที่จะผละห่างออกมา  พร้อมยิ้มใส่ตากลมๆและยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มเป็นการปลอบประโลม

“ทีนี้ก็สะอาดจริงๆแล้วนะครับ”  ด้วยความสัตย์จริงที่พูดไป  ผมไม่มีเจตนาจะล้อเลียนคนน่ารักสักนิด  แต่ดูเหมือนจะถูกเข้าใจผิดไปเต็มๆ  เพราะกระต่ายน้อยที่กำลังนั่งจ้องผมด้วยใบหน้าแดงเถือกนั้น  ยู่หน้าทำปากจู๋เข้าใส่ผม  พร้อมพึมพำเบาๆว่าผมขี้แกล้ง  ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง 

ผมจึงได้แต่ส่ายหัวอมยิ้ม  แต่ยังไม่ละมือไปจากกลุ่มผมนุ่ม  เพราะยังคงลูบเล่นด้วยความเพลินมือ

“ตกลง  พอลตั้งใจทำอะไรกับเสื้อผ้าฝูหรง”  อยู่ๆกระต่ายน้อยก็หันกลับมาจ้องตากัน  พร้อมส่งคำถามดังกล่าวมาให้  ด้วยคงหันไปเห็นหลักฐานเกลื่อนกลาดที่ผมทิ้งไว้หน้าตู้เสื้อผ้าเข้า  และคงเป็นคำถามคาใจตั้งแต่เจ้าตัวเข้าห้องมานั่นเอง

ผมก็ได้แต่อึกอักและเป็นฝ่ายหลบตากระต่ายน้อยบ้าง  ซึ่งในนาทีนี้เหมือนว่าเจ้ากระต่ายขนปุกปุยที่เคยดูน่ารักน่าใคร่  จะกลายร่างเป็นหมีขาวตัวใหญ่ที่กำลังกางกรงเล็บ  เตรียมจ้องตะปบเหยื่อเยี่ยงผมเข้าแล้ว 

ส่วนเรื่องวุ่นวายที่ผมทำไว้กับบรรดาเสื้อผ้าและของใช้ของฝูหรงนั้น  ด้วยผมตั้งใจจะเก็บของเหล่านั้นไปไว้ที่บ้านตัวเอง  เพราะอยากได้ตัวคนน่ารักไปอยู่ด้วยกัน  และขืนผมยังไม่ตอบสิ่งที่ฝูหรงอยากรู้  ไอ้ที่หวังไว้อาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่าก็ได้

“ไม่อยากให้ฝูหรงเหนื่อย  พอลเลยเตรียมเก็บเสื้อผ้าไว้ให้ฝูหรงไงครับ  เพราะเชื่อว่ายังไงซะ  ฝูหรงคงต้องตอบตกลงไปอยู่ด้วยกันกับพอล...ฝูหรงย้ายไปอยู่กับพอลที่บ้านนะครับ”  ไหนๆก็ได้โอกาสชี้แจงแล้ว  ผมถือโอกาสชวนไปซะเลยทีเดียว 

พูดอย่างเดียวกลัวไม่สำเร็จ  ผมจึงกอบกุมมือนุ่มไว้  พร้อมพรมจูบหลังมือและอ้อนวอนคนน่ารักไปพร้อมกัน

“นะครับฝูหรง  ไปอยู่กับพอลเถอะนะ  พอลเองบางครั้งก็ทำงานไม่เป็นเวลา  และต้องออกนอกเมืองบ่อยๆ  ไม่อยากให้ฝูหรงอยู่ที่นี่คนเดียว  พอลเป็นห่วง  ถ้าอยู่โน่นฝูหรงจะมีคนคอยดูแลเรื่องจิปาถะให้ มามาเองก็บ่นว่าเหงา  ฝูหรงจะไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนคุยให้ท่านหน่อยเหรอครับ  ที่สำคัญฝูหรงก็เป็นสะใภ้ตระกูลโจวเต็มตัวแล้วด้วย  จะไม่ไปอยู่คฤหาสน์โจวได้ยังไงกัน  ใช่มั้ยครับ”  ใครจะว่าผมรวบรัดก็ช่างเถอะ  ถ้าผลที่ได้คือการตอบตกลงของฝูหรงแล้วผมยอม

ผลของการโน้มน้าวอย่างเจ้าเล่ห์ของผมคือ  คนน่ารักนั่งหน้าแดงตัวแดงเถือกไม่ยอมสบตา  แต่ดันไม่มีคำตอบให้กัน  ผมจะขอเหมารวมได้เลยมั้ยว่าฝูหรงตกลงยอมที่จะไปอยู่ด้วยกันแล้ว  แถมอากัปกิริยาน่าเอ็นดูตรงหน้าก็ชวนใจสั่นไม่น้อย  จนผมชักไม่อยากรอคำตอบของคนน่ารักอยู่นิ่งๆอย่างนี้อีกแล้ว 

ก่อนที่ริมฝีปากผมจะแตะโดนพวงแก้มอมชมพู  ฝูหรงก็เงยหน้าขึ้น  มีผงะห่างด้วยความตกใจ  ดวงตากลมๆที่ไร้สิ่งกีดขวางก็มีแววตื่นตระหนก  แถมริมฝีปากที่เป็นจุดหมายหลักของผมก็ถูกเม้มไว้จนแน่น  เหมือนรู้ว่าผมตั้งใจทำอะไร  ก่อนกระต่ายน้อยที่เกือบโดนราชสีห์จับกิน  จะยื่นมือสั่นๆมาดันใบหน้าผมออกอย่างช้าๆ

“เอ่อ...กะ  ก็ได้  แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้นะ...ได้มั้ย  อืม  ปล่อยก่อน  ขอฝูหรงไปเก็บเสื้อผ้าที่พอลรื้อไว้ก่อนนะ”  ผมรู้หรอกว่ากระต่ายน้อยคิดจะชิ่ง  และผมก็อาจจะปล่อยไป  หากคำตอบของฝูหรงจะเป็นที่น่าพอใจสำหรับผมมากกว่านี้ 

ผมจึงรั้งเอวบางของคนตัวเล็กที่เตรียมคลานหนีเอาไว้  ก่อนจะยกร่างน้อยโยนลงกับเตียง จนร่างนั้นกระเด้งกระดอนขึ้นลงเบาๆ  พร้อมมีเสียงร้องอุทานเกิดขึ้น  ก่อนร่างที่ผมคร่อมไว้มีทีท่าจะดิ้นหนี  แถมปากแดงๆยังขยับต่อว่าต่อขานกันได้อีก  และผมก็ไม่คิดปล่อยให้กระต่ายน้อยร้องตะแง้วๆอยู่นาน  ด้วยประกบจูบปิดปากนุ่มนิ่มเพื่อกั้นเสียง  และหลอกล่อเจ้าของลิ้นน้อยให้คล้อยตาม 

กระต่ายน้อยขี้ตื่นเป็นอันหมดฤทธิ์  ได้แต่นอนระทวยอกกระเพื่อมและจ้องผมตาปรือปรอย  ผมระบายยิ้มใส่ตาฝูหรง  พร้อมไล้ปลายนิ้วแตะความนุ่มชื้นที่ได้มอบความหวานแก่ผม  ก่อนเชยคางมนขึ้น

“กระต่ายน้อยยังต้องรออะไรอีก  ห้าปียังไม่พอสำหรับเวลาที่เราต้องแยกจากกันอีกเหรอครับ”  หลังประโยคของผมนั้น  ฝูหรงดูอึ้งไปก่อนเจ้าของร่างน้อยจะยื่นมือมาปะกบเข้าที่แก้มผม  และเรียกชื่อผมผะแผ่ว

“พอล...ถึงฝูหรงจะไม่ได้ย้ายของเข้าบ้านพอลตอนนี้  แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องแยกกันนี่  ขอเวลาฝูหรงเคลียร์เรื่องห้องก่อนนะ...นี่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องตัวจริงจะว่าไงบ้างเลย”  ประโยคสุดท้ายที่ฝูหรงพึมพำเบาๆนั้นไม่ได้เล็ดลอดหูผมไปได้ 

ผมเองก็ไม่ปล่อยให้คาใจ  ด้วยออกปากถามทันทีว่าเจ้าของห้องที่แท้จริงคือใคร  ทำไมถึงดูมีอิทธิพลต่อเจ้าตัวนัก  จะเดาว่าฝูหรงเช่าห้องนี้อยู่ก็ไม่น่าใช่  ในเมื่อเจ้าตัวครอบครองทรัพย์สินจำนวนมหาศาล  อย่าว่าแต่จะให้ฝูหรงซื้อห้องนี้เลย  เพราะถ้าฝูหรงต้องการเป็นเจ้าของทุกห้องในคอนโดนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

หลังจากการซักไซ้ของผมนั้น  ฝูหรงมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาวูบหนึ่ง  ก่อนจะระบายยิ้มบางเบามาให้  เมื่อเห็นว่าผมจ้องเขม็งรอคำตอบไม่วางตา  พร้อมกับใช้วงแขนโอบรอบคอผม  และรั้งให้ลงนอนเคียงข้างกัน  ผมจึงหลุดยิ้มออกจนได้  แต่อาการออดอ้อนของกระต่ายน้อยยังไม่หมดเท่านั้น  ด้วยฝูหรงขยับตัวขึ้นมานอนเกยทับบนตัวผม  ก่อนวางท่อนแขนทั้งคู่ลงบนแผ่นอกของผม  และเกยคางลงบนหลังมือ  พร้อมระบายยิ้มหวานจับจิตส่งมาให้ 

ผมถึงกลับอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือไปยีผมนุ่มๆเล่น  ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากมนของคนทะเล้นอีกหนึ่งที  แต่ในใจไม่ลืมนะครับว่าผมรอคำตอบของสิ่งที่สงสัยอยู่

“กระต่ายน้อยทำแบบนี้  พอลก็ยังไม่ลืมนะว่าเราคุยอะไรกันไว้  ตกลงใครเป็นเจ้าของห้อง  อย่าบอกนะว่าเช่าอยู่  ถ้าใช่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก  ตกลงพรุ่งนี้ย้ายเลยแล้วกัน”

“หือออ  พอล!  ฝูหรงต้องคุยกับแพทริคก่อน  ไม่งั้นโดนโกรธแย่เลย”  คุณได้ยินเหมือนผมมั้ย 

หมายความว่าคนที่ชื่อแพทริคอะไรเนี่ยเป็นเจ้าของห้องใช่มั้ย  แถมแฟนผมก็ยังดูกังวลและแคร์ไอ้นั่นมากๆเอาซะด้วย  ไอ้แพทริคมันเป็นใครและมีความสัมพันธ์แบบไหนกับฝูหรงกันแน่

“แพทริค!  หมายความว่ายังไงฝูหรง  ไอ้แพทริคนี่มันคือใคร  ทำไมต้องกลัวมันขนาดนี้ด้วย!”  รู้ตัวเลยครับว่าเสียงโคตรแข็ง  แต่อารมณ์ขุ่นๆบวกความไม่เข้าใจของผมตอนนี้  ทำให้ผมเก็บอารมณ์ไม่อยู่ 

ฝูหรงเองก็ดูตกใจและผวาลุกขึ้นไปนั่งข้างตัว  พร้อมมองมายังผมด้วยแววตาตื่นๆ  เห็นภาพคนรักที่เหมือนกำลังหวาดกลัวในพฤติกรรมของตัวเองเข้า  จึงได้แต่ถอนใจและลูบหน้าตัวเองแรงๆ 

ระหว่างที่ผมคลึงขมับเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลายลงนั้น  ผมรู้สึกถึงปลายนิ้วเย็นๆที่แตะเข้าที่หลังมือ  เล่นเอาผมชะงัก  ก่อนมือข้างเดียวกันนั้นจะรั้งข้อมือผมออกจากใบหน้า  และเอาไปกุมไว้ไม่ยอมปล่อย  ทำให้ผมได้เห็นกระต่ายน้อยขี้ตื่น  จ้องมายังผมด้วยตากลมๆออกสั่นนิดๆอย่างกล้าๆกลัวๆ  แต่ริมฝีปากอิ่มกลับพยายามคลี่ยิ้มเอาใจส่งให้ 

ผมถอนใจอีกเฮือกใหญ่แต่ทำเอาอีกคนสะดุ้ง  บอกก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คนน่ารักของผมต้องตกใจนะ  เพราะแค่รู้สึกโมโหตัวเองเท่านั้นที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่  ซึ่งอาการของผมกลับทำให้ฝูหรงพูดในสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมาทันที  แต่ก็พูดด้วยเสียงสั่นๆแววตาตื่นๆอย่างน่าสงสาร

“แพทริคเป็นลูกชายอังเคิลโลแกน  และเป็นเจ้าของห้องนี้  ฝูหรงไม่ได้กลัวแพทริค  แต่ก็ต้องบอกให้รู้!...บะ...บอกแล้ว  ฮึก  ทำไมต้องทำตาดุมองกัน  ดะ...ด้วยเล่า”  สิ้นเสียงสั่นๆ  ผมก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายดึงข้อมือบางเข้าหาตัว  ทำให้ร่างน้อยล้มตัวนอนซบลงบนอกผมอีกครั้ง  ก่อนจะลงมือลูบแผ่นหลังบางแผ่วเบา 

การกระทำของผมกลับทำให้เจ้าของร่างน้อยสะอึกสะอื้น  ปล่อยน้ำตาออกมาเป็นสาย  จนผมรู้สึกถึงความชื้นที่เสื้อนอน

“ชู่ว์ๆๆ  ขอโทษครับ  พอลมันนิสัยไม่ดี  กระต่ายน้อยหยุดร้องเถอะนะ  พอลก็แค่หวงที่ได้รู้ว่ามีผู้ชายคนอื่นสนิทสนมกับฝูหรงนอกจากพอล”  ผมกอดปลอบกระต่ายน้อยอยู่พักหนึ่ง 

เมื่อเห็นว่าร่างในอ้อมกอดคลายอาการสะอื้นแล้ว  ผมจึงส่งคำถามคาใจออกไปอีก  ว่าทั้งอังเคิลโลแกนและไอ้แพทริคนั่น  มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับฝูหรง 

คนน่ารักเองกว่าจะยอมพูดออกมาก็เกือบทำให้ผมถอดใจ  นาทีนี้แม้จะอยากรู้แต่ผมคงไม่กล้าซักไซ้มากกว่าที่พูดไป  ด้วยไม่อยากกดดันฝูหรงจนต้องหลั่งน้ำตาออกมาอีก  แต่ในเมื่อคนน่ารักยอมเปิดปากเล่า  จึงไม่แปลกที่จะเห็นผมตั้งใจเก็บรายละเอียดเป็นพิเศษ

“อังเคิลโลแกนเป็นสามีของป้าไถ่อี้  ทั้งคู่ไปเจอกันเมื่อห้าปีก่อน  ตอนที่ป้าพาฝูหรงไปอยู่นิวยอร์ก  ส่วนแพทริคคือลูกชายของอังเคิล  ถ้าจะนับลำดับญาติ  แพทริคก็ไม่ต่างจากลูกพี่ลูกน้องของฝูหรง”  แม้ไอ้แพทริคอะไรนั่นจะมีศักดิ์เป็นญาติ  แต่ก็ไม่ได้มาจากสายเลือดเดียวกันอยู่ดี  บวกกับสิ่งที่ฝูหรงบอกเล่าต่อจากนั้น  ยิ่งทำให้ผมไม่ไว้ใจญาติผู้พี่แต่เพียงในนามคนนี้เท่าไหร่

“ส่วนคอนโดนี้ก็เป็นของแพทริค  ตอนที่ฝูหรงเลือกที่จะกลับมาอยู่ฮ่องกงหลังรับปริญญา  แพทริคก็ตามมาส่งและซื้อคอนโดนี้ให้อยู่  ถ้าต้องย้ายฝูหรงก็อยากจะคุยกับแพทริคก่อน  ไม่อยากให้คนที่หวังดีกับเราต้องเป็นห่วง...พอลเข้าใจใช่มั้ย”  ผมที่กำลังสูดลมหายใจช้าๆ  เพื่อข่มความไม่พอใจที่กำลังก่อตัวขึ้นในอก  ต้องฝืนคลี่ยิ้มให้เจ้าของดวงตาแป๋วแหววที่มีร่องรอยแวววาวของหยาดน้ำตา  ยามที่เจ้าของมันเงยหน้าขึ้นส่งสายตาขอความเห็นมาให้  ก่อนผมจะไล้ปลายนิ้วแผ่วเบาผ่านผิวใต้ตาช้ำๆ

“พอลจะพยายามเข้าใจนะฝูหรง...อย่าทำหน้าแบบนั้น...เฮ้อออ  ฝูหรงก็ต้องเข้าใจพอลนะ  เพราะเท่าที่ฟังมาทั้งหมด  ญาติคนละสายเลือดคนนี้ดูจะเป็นห่วงกระต่ายน้อยของพอลมากไปหน่อย  แต่เอาไว้ก่อนเถอะครับ  เพราะสิ่งที่พอลอยากรู้มากกว่าเรื่องนายแพทริคอะไรนี่คือ  ป้าไถ่อี้เป็นอย่างไรบ้าง  ลุงเขยของฝูหรงดูแลท่านดีมั้ย...เฮ้!  เป็นอะไร  ร้องทำไมครับ” 

สิ้นคำถามของผมนั้น  อยู่ๆฝูหรงก็น้ำตาไหลแต่ไม่มีเสียงร้องให้ได้ยิน  ผิดกลับเมื่อครู่ที่ออกแนวตัดพ้อเสียใจ  และการหลั่งน้ำตาครั้งนี้จะออกแนวเศร้าโศกซะมากกว่า  แต่ไม่ว่าอย่างไรปฏิกิริยาของคนรักก็ทำให้ผมตกใจไม่ต่างกัน  ซึ่งคำตอบต่อมาของฝูหรง  ทำให้ผมเข้าใจในอาการของคนรักได้อย่างแท้จริง  ก็ใครเล่าจะไม่เศร้าเสียใจกับการจากไปของญาติสนิททางสายเลือดเพียงคนเดียวที่มี

ฝูหรงเล่าว่าป้าไถ่อี้เสียชีวิตลงเมื่อสองปีก่อน  ก่อนที่ฝูหรงจะเรียนจบแค่ปีเดียว  ด้วยโรคร้ายที่ไม่อาจรักษาได้  การจากไปของญาติสนิทเพียงคนเดียวทำให้ฝูหรงเศร้าเสียใจมาก  เพราะไม่ได้เป็นประสบการณ์การสูญเสียแบบไม่ทันตั้งตัวครั้งแรกของฝูหรง  แต่การเสียป้าไถ่อี้ไปก็ทำให้ฝูหรงได้รู้ว่า  คนที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันก็มีความรักและความหวังดีอย่างแท้จริงให้กันได้  เพราะลุงเขยที่เจ้าตัวเรียกว่าอังเคิลโลแกนได้ดูแลหลานนอกไส้อย่างดี  ไม่ต่างจากลูกชายตัวเองอย่างนายแพทริค  และผมก็ได้คำตอบในสิ่งที่ตัวเองสงสัย  เรื่องทรัพย์สินจำนวนมากของฝูหรง 

หลังจากป้าไถ่อี้เสียชีวิตนั้น  ลุงเขยได้ยกสินสมรสที่ป้าไถ่อี้สมควรจะได้ให้แก่หลานชายเพียงคนเดียว  ทำให้ฝูหรงกลายเป็นเศรษฐีน้อยๆไปโดยปริยาย  ผมจึงอดถามไม่ได้ว่าลุงเขยของเจ้าตัวนั้นมีกิจการอะไร  ถึงยกสินสมรสจำนวนไม่น้อยให้หลานชายนอกไส้ได้มากขนาดนั้น

“อังเคิลโลแกนเป็นศิลปินที่ค่อนข้างมีชื่อในนิวยอร์ก  และมีแกลลอรี่แสดงภาพวาดของตัวเองด้วย  ป้าไถ่อี้ได้เจออังเคิลครั้งแรกก็ในแกลลอรี่ของอังเคิลนั่นแหละ  เป็นรักแรกพบ  เจอปุ๊บแต่งปั๊บ  แต่เสียดายที่ทั้งคู่ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันนานกว่านี้”  ผมลูบหัวปลอบกระต่ายน้อยตากลมที่เสียงเริ่มสั่นในประโยคสุดท้าย

“แต่ยังดีนะกระต่ายน้อยที่ป้าไถ่อี้ได้เจอคนที่ท่านรักและรักท่านอย่างจริงใจ  แม้จะมีเวลาร่วมกันไม่มากก็ตาม  เพราะอะไรรู้มั้ย...มีน้อยคนนะที่จะหาคู่แท้จนเจอ  และคู่แท้ที่หากันเจอ  หนึ่งในนั้นคือคู่ของเราไงครับ”  หลังจากผมแตะจูบเข้าที่หน้าผากมน  พร้อมระบายยิ้มอ่อนโยนส่งกำลังใจไปให้นั้น

ฝูหรงที่มีน้ำตาคลอหน่วยตา  แก้มใสกลับค่อยๆขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู  และจ้องตาผมไม่กระพริบ  ซึ่งกิริยาที่ทำให้ความอดทนของผมในค่ำคืนนี้หมดลง  คือแววตาหวานๆที่เคลื่อนลงต่ำมาจับจ้องยังริมฝีปากที่กำลังยกยิ้มของผม  กระต่ายน้อยไม่พูดผมก็รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่  ‘ชักแก่แดดใหญ่แล้วนะเนี่ย’ 

ผมก็ปล่อยให้ฝูหรงจ้องไป  ก่อนจะแกล้งเลียริมฝีปากช้าๆ  ทำเอาตากลมๆยิ่งเบิกกว้าง  และคงนึกรู้ว่าตัวเองเผลอแสดงความต้องการออกมาให้ผมรู้  ฝูหรงเหลือบตาตื่นๆขึ้นมองผมนิด  และพลิกหน้าเมินหลบไปทางอื่น  ผมจึงจับคางมนให้หันกลับมา

“ไม่ต้องอายกระต่ายน้อย  เพราะพอลก็อยากจูบฝูหรงเหมือนกัน  ความจริงอยากได้มากกว่าจูบ...ได้มั้ย  ให้พอลรักฝูหรงได้มั้ยครับ” 

แม้ไม่มีเสียงตอบรับจากกระต่ายน้อยใต้ร่าง  แต่อาการหลับตาพริ้มพร้อมวงแขนที่โอบรอบคอ  ยามที่ผมเคลื่อนใบหน้าลงต่ำเพื่อประทับจูบนั้น  แปลความได้อย่างเดียวว่ากระต่ายน้อยยินยอมพร้อมใจ  ให้สิงห์เจ้าป่าเยี่ยงผมได้เชยชม  ซึ่งเนื้อกระต่ายก็ยังหวานไม่แพ้ครั้งแรกที่ผมได้ชิม  แถมดูเหมือนว่ายิ่งกินเท่าไหร่ผมก็ยิ่งติดใจไม่รู้เบื่อ  ทั้งจากสัมผัสเนียนลื่นของผิวกายยามฝ่ามือวาดผ่าน  ทั้งจากเสียงครางหวานๆผสมการออดอ้อนดังต่อเนื่องที่ลอยมาเข้าหู  สำคัญที่ความอบอุ่นกระชับแน่นยามผมขับเคลื่อนส่งผ่านความสุขให้แก่เรา  เรียกได้ว่ากระต่ายน้อยน่ารักคนนี้ทำให้สิงห์เจ้าป่าเยี่ยงผมยอมสยบให้ทั้งตัวและหัวใจ

กว่าค่ำคืนแสนหวานของเราจะผ่านพ้น  ทั้งผมและฝูหรงก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด  แต่กลับสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น  พร้อมก่อเกิดความสุขเปี่ยมล้นไปทั้งกายและใจของเราทั้งคู่

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อุต๊ะ!!  คุยเรื่องอดีตกันอยู่ดีๆ  ทำไมถึงจบด้วยเรื่องบนเตียงได้ล่ะเนี่ย
และดูเหมือนว่าครั้งนี้กระต่ายน้อยจะเริ่มก่อนซะด้วยสิ   :laugh:
ตอนนี้และตอนที่ผ่านๆมา  ใครพอจะรู้บ้างว่าตัวป่วนของเรื่องมีกี่คน
ลองนับเล่นๆกันดูนะคะ  เพราะทุกตัวป่วนจะทยอยมาสร้างเรื่องยุ่งๆ
ให้คู่นี้กันค่ะ  หากหวานอย่างเดียว  เดี๋ยวจะไม่สมกับชื่อเรื่อง
แต่ก็เอาแค่กรุบกริบพอมีรสชาติล่ะน้า

ตอนหน้าตัวป่วนเบอร์หนึ่งจะมาสร้างสีสันแก่คู่นี้แล้วนะคะ  จะเป็นใคร
และมารูปแบบไหน  ต้องติดตามในวันอังคารค่ะ


+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
แล้วเรื่อง 5 ปีที่ฝูหรงหายไปกระจ่าง  แต่ไม่รู้ว่าแพทริคจะคิดกับฝูหรงแบบไหน  แต่ถ้าพอลจะป้องกันไว้ก่อน แนะนำว่าหาคู่ให้แพทริคโดยด่วน ไหนๆ แพทริคก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฝูหรง  พอลก็แนะนำลูกพี่ลูกน้องจอมป่วนนั่นให้แพทริคไปเลย

ตอนแรกกำลังซึ้ง  :o8: แต่ตอนหลังไหงออกมาหื่นได้ :z1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
«ตอบ #306 เมื่อ24-07-2014 14:40:23 »

แหม เคลียร์ใจกันบนเตียงก็ต้องจบลงแบบนี้ละนะเขินนนนน~

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
คุยไปคุยมา ลงเอยที่เตียงนอนอีกแล้ว

55555

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
สงสารฝูหรง ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะแยะเลย
แต่ทำไมมาจบที่เตียงละเนี่ย

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ก็คุยกันบนเตียง ก็ต่อกันบนเตียง :o8: :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ตัวป่วนที่ว่านี่ 3 คนหรือเปล่า ไม่ใช่ไม่เป็นไรเนอะ 5555

เขาให้ปลอบใจกระต่ายน้อยนะพอล

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao6: พอลหาทางวกเข้าเรื่องเอาเปรียบกระต่ายน้อยทุกที

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
อยากรู้จักแพทริคแล้วสิ อิอิ >.<

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
คุยมาดีๆก็หลอกปล้ำเค้าซะงั้นอ่ะ  :o8:

ออฟไลน์ คุณขนมหวาน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ทั้งพอลทั้งฟูหรงน่ารักจริง ๆ ไม่ไหวแล้ว  :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ฝูหรงดูเด็กมากอ่ะตอนนี้!!!  :o8:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ฝูหรงน่ารักกกกก กอด
ปัญหาจะวิ่งมาหาพอลแล้ว

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ฝูหรงน่ารักน่าเอ็นดู กอดดดดด :กอด1:

รอติดตามใครนะจะมาป่วน

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
โจวพอล เตรียมใจได้เลย ตัวป่วนจะมาเพิ่มอีกตัวแล้ว

แถม ยังเป็นตัวป่วนที่ฝูหรงติดจะเกรงใจซะด้วย  :laugh:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า ทุกเรื่องเคลียร์ได้บนเตียง :laugh:
ในที่สุดก็ได้รู้ที่มาที่ไปของความร่ำรวยของฝูหรง
ต้องยกให้เป็นบุคคลที่โชคดีที่สุดคนหนึ่งเลยนะเนี่ย
แต่ความโชคดีนั้นก็ต้องแลกมากับการสูญเสียของรักเหมือนกันนะ
เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปก็ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการเถอะ
ผ่านเรื่องร้ายมามาก ถึงเวลาที่จะมีความสุขเสียที
ก่อนอื่นต้องเคลียร์อะไรๆหลายๆเรื่องซะก่อนล่ะ
เห็นว่ามีตัวป่วนหลายคนซะด้วย เอ้า! สู้ๆนะทั้งสองคน
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
อ่านตอนนี้ แล้วหลงรักฟูหรงขึ้นอีกเยอะเลย  :mew1:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
มีความรู้สึกว่าแพทริคต้องเป็นหนึ่งในตัวป่วนแน่เลย  :hao4:

vevi

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเจอตอนใหม่พอดีเลย  :mew1:

ฝูหร่งน่ารักมากๆ
พอลเสียเวลากันมามากแล้วดูแลกันดีๆน๊า

ขอบคุณผู้เขียนค่ะ

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :-[
ฝูหรงน่ารักน่าหยิกมากเลยอะ
ขอบอกกกกกกก
 :mew1:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
กระต่ายน้อยเริ่มก่อน  :o8:
ท่าทางจะมีตัวป่วนหลายคน

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ฝูหรงน่ารักเกินไปแล้ว :ling1:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
นายน้อยแน่ๆ 5555....ใกล้ตัว เริ่มคนแรกเลย หรือไม่ก็แพทริก อิๆๆๆ

ออฟไลน์ Der Adler

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +126/-0
ตัวป่วนในอดีตเริ่มมาปรากฎตัวที่ละคนๆ :hao5: :hao5:
งานนี้วุ่นแน่ๆ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 13

เจินฝูหรง

   “ตั้งใจว่าเร็วๆนี้จะย้าย...ไม่ๆ  พอลไม่ได้บังคับฝูหรง...อืม  ฝูหรงอยากอยู่กับพอล.......แพทริคไม่ว่าอะไรใช่มั้ย  แพทริค  แพทริค!  ยังอยู่รึเปล่า”  ผมเรียกชื่อคนปลายสายซ้ำๆ  เมื่ออยู่ๆญาติผู้พี่ก็เงียบไป 

ในที่สุดผมก็คลี่ยิ้มออกจนได้  ด้วยได้ยินคำขอโทษที่ดังมาตามสาย  จากน้ำเสียงอ่อนแรงเหมือนคนที่กำลังงัวเงียยังไม่ตื่นเต็มตาดีนัก  ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของแพทริค  ผู้ที่อยู่ในประเทศอีกฝากฝั่งของโลก 

“โทษที  หาววว~...เรื่องย้ายออกก็ตามใจฝูหรง  แต่ถ้าย้ายไปแล้ว  นายพอลอะไรนั่นมันทำตัวไม่ดีกับยูเมื่อไหร่  ให้โทรมาบอกไอเลยนะ  เดี๋ยวจะบินไปจัดการให้!” 

ผมถึงกลับหลุดหัวเราะคลอเบาๆไปกับข้อความที่ได้ยิน  ด้วยนึกถึงหน้าคนพูดออก  แม้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้าก็ตาม  พาลให้นึกถึงใบหน้าของอีกคนที่อยู่ในบทสนทนาด้วย  เพราะทั้งพอลและแพทริคมีนิสัยบางอย่างที่คล้ายกัน  ซึ่งนิสัยที่ว่าคือมักจะชอบโวยวายคิดมากไปเองคนเดียว  พร้อมกับมีนิสัยที่ชอบหาเรื่องเก่งเป็นที่หนึ่ง  แต่ก็เป็นเฉพาะกับเรื่องของผมเท่านั้น  เพราะเท่าที่สังเกตมา  หากเป็นเรื่องของคนอื่นหรือแม้แต่เรื่องของตัวเอง  ทั้งคู่ดูออกจะเฉื่อยชามากไปเสียด้วยซ้ำ  แม้ทั้งคู่จะมีนิสัยส่วนนั้นคล้ายกัน  แต่สำหรับผมคนทั้งคู่อยู่ในสถานะที่แตกต่างกัน  คนหนึ่งคือพี่ชายที่ผมเคารพรัก  ส่วนอีกคนคือคนที่ผมรักสุดหัวใจ

การที่ผมโทรหาแพทริคในครั้งนี้  นอกจากผมจะขออนุญาตย้ายออกแล้ว  ยังเป็นการบอกเล่าความเป็นไปในรอบอาทิตย์ให้คนที่ผมนับถือเป็นญาติคนนี้ได้รับรู้ด้วย  ส่วนเรื่องอดีตของผมกับพอลนั้น  แพทริครู้แบบฉาบฉวย  ด้วยรู้เพียงแค่เราเป็นเพื่อนเก่าที่ผิดใจกัน  ก่อนจะแยกอยู่กันคนละประเทศ  ทั้งๆที่ไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน  แต่ด้วยเรื่องอะไรผมนั้นไม่ได้เล่าให้รับรู้  ซึ่งแพทริคก็เพิ่งได้รู้จากผมนี่แหละ  ว่าผมกับพอลได้กลับมาเจอกันอีกครั้งและตกลงคบกัน  พร้อมกับที่ผมขออนุญาตไปอยู่บ้านพอล  แรกรู้แพทริคเงียบไปนาน  ก่อนจะเปิดปากถามว่าผมจะย้ายเมื่อไหร่  ตามที่คุณได้ยินไปก่อนหน้า

“คิกๆ  ไม่ต้องถึงมือแพทริคหรอก  ถ้ามีช่วงเวลาแบบนั้นจริง  ฝูหรงจัดการพอลเอง...ฝูหรงขอบคุณแพทริคมากที่เป็นห่วง  และขอบคุณที่ดูแลฝูหรงเหมือนน้องชายมาตลอด  ฝูหรงสัญญาหากมีอะไรที่เกินกำลัง  หรือมีเรื่องทุกข์แสนสาหัส  ฝูหรงจะนึกถึงพี่ชายคนนี้เป็นคนแรก  ขอบคุณนะแพทริค”  ผมนึกขอบคุณแพทริคตามที่ปากพูดจริงๆ  เพราะหากผมไม่มีพี่ชายคนนี้คอยดูแล  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นเจินฝูหรงได้อย่างทุกวันนี้มั้ย

แพทริคเงียบไปพักใหญ่  ก่อนจะถอนใจแผ่วเบาแต่ยาวนานในความรู้สึกของผม  จนผมเองคลายยิ้มลงอย่างไม่รู้ตัว  แต่ก่อนที่ผมจะกังวลใจไปมากกว่านี้  ด้วยความไม่แน่ใจในอารมณ์ของญาติผู้พี่ขณะนี้นัก  แต่เสียงนุ่มๆที่ดังรอดออกมา  กลับทำให้ความกังวลที่ผมมีค่อยๆสลายตัวไป  ตามมาด้วยรู้สึกอุ่นวาบขึ้นในอก

“ต้องขอบคุณอะไรกัน  ในเมื่อสิ่งที่ไอทำทุกอย่างให้ยู  ไอไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรทั้งนั้น  ตอนนี้ถ้าฝูหรงทำอะไรแล้วมีความสุขก็ขอให้ทำไปเถอะ  เพราะไอจะยินดีมาก  และขอให้จำคำพูดตัวเองไว้  ว่าถ้าทุกข์เมื่อไหร่  ก็ขอให้นึกถึงไอเป็นคนแรก...แค่นี้ไอก็พอใจแล้ว”

จะหาใครเหมือนแพทริคได้อีก  คนที่มีความหวังดีอย่างจริงใจให้ผมโดยไม่หวังผลตอบแทน  ญาติแท้ๆก็ไม่ใช่  เพื่อนสนิทยิ่งแล้วใหญ่เพราะผมไม่เคยมี  ไม่นับคนรักแสนดีที่ผมมีแล้วนั้น  ก็มีครอบครัว  ‘คอนเนลสัน’  ทั้งอังเคิลโลแกนและแพทริคนี่แหละที่ดีกับผม 

นาทีนี้ผมถึงกลับยิ้มทั้งน้ำตา  และได้แต่กระซิบคำขอบคุณแผ่วเบาผ่านสายไปเท่านั้น  แพทริคเองนิ่งไปนาน  ก่อนจะกลั้วหัวเราะหยอกเย้ามาตามสาย  และย้ำให้ผมดูแลตัวเองให้ดี  จบด้วยการบ่นงึมงำเรื่องที่ผมกวนเวลานอน  แต่ก็เป็นไปแบบไม่จริงจังนัก  ฟังดูเหมือนเป็นการหยอกล้อเสียมากกว่า  ซึ่งก็ทำให้ผมยิ้มออก  ก่อนแพทริคจะขอวางสายไป 

ผมที่กำลังอมยิ้มหลับตาพริ้มรับลมอยู่ที่ระเบียงหลังห้องด้วยความโล่งใจนั้น  ก็ต้องฉีกยิ้มกว้าง  เมื่อเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งไว้เฉพาะใครบางคนดังขึ้น  ก่อนผมจะเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ  เพื่อก้มมองชื่อบนหน้าจออย่าง  ‘ไอ้ลูกครึ่งปากเสีย’  ห่างกันไปไม่ถึงสองชั่วโมงมีอะไรให้ต้องโทรหากันนะ 

ผมแกล้งอ้อยอิ่งไม่ยอมรับสาย  และถึงกลับหลุดหัวเราะเบาๆออกมา  ยามจินตนาการถึงใบหน้าบูดบึ้งไม่ได้ดังใจของคนปลายสาย  แต่ก่อนที่ลูกครึ่งปากเสียของผมจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้  จนพาลโวยวายเข้าให้  ผมตัดสินใจกดรับสาย  ซึ่งผลก็ไม่แตกต่างจากที่ผมคาดการณ์ไว้เท่าไหร่นัก

“ฝูหรง!  ทำไมเพิ่งรับสายครับ  ไม่สบายอีกรึเปล่า  ไหวไหม  เดี๋ยวพอลให้เด็กที่บ้านเอาซุปเอายาไปให้ดีกว่า  รึถ้าไม่ไหว  ให้พอลเรียกรถพยาบาลให้เอามั้ย  โถ่  ที่รัก  พอลขอโทษที่ต้องออกมากะทันหัน  พอล...” 

ผมเป็นคนฟังยังรู้สึกหายใจไม่ทันเลย  ไอ้คนพูดนี่ช่างมีความสามารถเฉพาะตัวได้อย่างเหลือเชื่อ  เล่นพ่นออกมาเป็นชุด  ไม่ยอมเว้นช่องว่างให้ผมได้แทรกเลย  แถมข้อความที่ได้ยินก็ชักจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วด้วย  ผมจึงตัดสินใจกระแทกเสียงใส่โทรศัพท์  เพื่อเรียกสติไอ้ลูกครึ่งขี้ตื่นกลับมา

“พอลหยุด!”  ได้ผลครับ  อีกฝั่งของปลายสายเงียบลงแล้ว  คงตกใจเสียงผมไม่น้อยล่ะ

หลังจากนั้นผมก็รีบบอกว่าผมนั้นไม่เป็นไร  แม้ความจริงจะยังรู้สึกตึงๆขัดๆสะโพก  เวลาเดินเวลาลุกนั่งอยู่บ้าง  แต่ไม่ได้ถึงกับไข้ขึ้นเหมือนครั้งแรกที่เรามีอะไรกันอย่างที่พอลกังวล  ก่อนผมจะแอบปดว่าที่รับช้าเพราะอยู่ในห้องน้ำ  ด้วยไม่กล้าพูดความจริงออกไปว่าผมอยากแกล้งเจ้าตัวเล่นนั้น  เพราะอาจทำให้ราชสีห์ของผมพิโรธเอาได้  แถมผมยังเริ่มรู้สึกผิดแล้วด้วย  ที่เอาความเป็นห่วงของคนรักมาล้อเล่น  ซึ่งพอลพอได้ฟังก็ถึงกลับถอนใจยาวเหยียด  ก่อนจะบ่นพึมพำในทำนองว่าไม่น่ามีงานด่วนให้เจ้าตัวต้องออกมาเคลียร์เองเลย  ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องทิ้งผมให้อยู่คนเดียวแล้ว

คิดถึงช่วงเช้าที่ผ่านมาผมก็ได้แต่ฉีกยิ้ม  ยามรู้สึกตัวตื่นผมรับรู้ถึงอ้อมกอดอบอุ่นเป็นสิ่งแรก  ก่อนจะได้สบตาคมหวานที่จ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาคู่นั้นสื่อชัดว่าเจ้าของรู้สึกเช่นไร  ด้วยเปล่งประกายทั้งรักและห่วงหา  ทำเอาผมหน้าร้อนแทบระเบิดและพาลทำอะไรไม่ถูก  นอกจากขยับตัวซุกแผ่นอกกว้างมากขึ้น  และเลือกที่จะฝังใบหน้าไหม้ๆของตัวเองไว้ตรงนั้น 

ไม่เพียงแต่ผมจะได้อ้อมกอดอุ่นๆเป็นแหล่งคุ้มภัย  แต่ยังมีคำรักแผ่วหวานข้างหูให้จั๊กจี้เล่น  ตามมาด้วยสัมผัสอุ่นชื้นของริมฝีปากที่ลาดไหล่  พาลให้ขนลุกไปทั่วร่าง  แต่ก่อนที่เราจะเลยเถิดไปกับยามเช้าที่อบอวลไปด้วยไอรักนั้น  เสียงโทรศัพท์ของพอลก็ดังขึ้น  เป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องรีบไปสะสางงาน  เรื่องการสร้างคอนโดหรูแถวเกาลูนด้วยตัวเอง 

พอลหงุดหงิดไม่น้อยที่ต้องทิ้งผมให้อยู่คนเดียว  จนผมต้องออกแรงเกลี้ยกล่อมให้เจ้าตัวได้รีบออกไปดูงาน  พร้อมย้ำว่าผมอยู่ได้เพราะผมไม่ใช่เด็กแล้ว  แถมยังอยู่คอนโดนี้คนเดียวมาร่วมปีไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง  ซึ่งพอลเองก็ยังไม่คลายความหงุดหงิดลงทั้งหมด  มีบ่นเบาๆว่าถ้าผมอยู่ที่บ้านเจ้าตัวแล้วจะไม่ห่วงผมเท่านี้  จนผมอมยิ้มขำไปกับลูกครึ่งรูปหล่อไม่รู้จักโต  ได้แต่ทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ  ใครว่าผมเด็กมาดูนิสัยโจวพอลตอนนั้นก่อนเถอะครับ  ผมน่ะชิดซ้ายเลยล่ะ 

สุดท้ายผมจึงต้องหลอกล่อด้วยว่าจะรีบโทรหาแพทริค  เพื่อขอย้ายไปอยู่บ้านพอลให้เร็วที่สุด  เจ้าตัวถึงกลับฉีกยิ้มดีใจเป็นเด็กๆ  และยอมออกไปดูงานแบบไม่งอแง  แต่มีย้ำให้ผมโทรหาหากรู้สึกไม่สบายตัว  ก่อนจะจับผมจูบลาที่เล่นเอาผมขาอ่อนแทบขาดอากาศตาย  แต่ผมยังไม่ทันโทรหาลูกครึ่งขี้ห่วงกลับเป็นฝ่ายโทรมาเสียเอง

“ในเมื่อนายแพทริคนั่นรับรู้แล้ว  ตกลงฝูหรงย้ายของวันนี้เลยนะ”  น้ำเสียงไม่มีเก็บอาการว่ากำลังดีใจสักนิด

“ขอเวลาฝูหรงเก็บของบ้างเถอะพอล  แต่บอกไว้ก่อนนะว่ายังไงฝูหรงก็ขอกลับมาดูแลที่นี่บ้าง...ไม่ต้องห่วง  พอลไปทำงานเถอะ...ครับแล้วเจอกัน”  ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับลูกครึ่งช่างเอาแต่ใจ 

นี่ถ้าผมไม่ยื่นข้อเสนอไว้ก่อน  คงได้งอแงเอากับผมทีหลัง  หากว่าผมขอกลับมาดูแลที่นี่บ้าง  ด้วยไม่อยากทิ้งร้างให้ห้องดูโทรม  สำคัญที่ผมอาจจะได้มาอาศัยนอนยามมีงานที่โรงแรมต้องเคลียร์  เพราะต้องอยู่ที่ทำงานดึกดื่นไม่อยากเสียเวลาไปกับการเดินทาง  แม้งานลักษณะนี้นานๆครั้งจะมีก็ตาม  ด้วยความจริงแล้วจากคอนโดนี้ระยะทางใกล้โรงแรมที่ผมทำงาน  มากกว่าคฤหาสน์ตระกูลโจวอยู่มาก  แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะทำตามหัวใจ  เรื่องการเดินทางจึงเป็นเรื่องรอง

“Rrr  Rrr...ใครมากันนะ  ไม่น่าจะใช่พอล”  หลังจากมีสัญญาณหน้าประตูดังขึ้น  ผมที่กำลังวุ่นกับการเก็บของทำความสะอาดห้อง  ก็ต้องผละจากงานตรงหน้าเพื่อมาเปิดประตู 

พลางฉงนใจว่าใครเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญของวันนี้  เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ไม่น่าหละหลวม  จนปล่อยให้คนแปลกหน้าขึ้นมาถึงหน้าห้องผู้อาศัยได้  บวกกับผมไม่ได้นัดใครไว้  ยิ่งคนที่ทำงานมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าผมพักอยู่คอนโดหรูแห่งนี้  ที่สำคัญไม่มีทางที่จะเป็นพอลอย่างแน่นอน  ด้วยไม่กี่นาทีก่อนลูกครึ่งรูปหล่อของผม  เพิ่งโทรมารายงานตัวว่าเพิ่งเสร็จงาน  และกำลังขับรถออกมาจากฝั่งเกาลูก  อย่างน้อยก็น่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสี่สิบนาทีถึงจะมาถึงที่นี่ได้ 

ผมยิ่งแปลกใจกับภาพใบหน้าด้านข้างของผู้หญิงใส่แว่นดำอันใหญ่  ผู้ที่มีเส้นผมดำสนิทเหยียดตรงถึงกลางหลัง  ที่กำลังยืนหันข้างให้กับกล้องหน้าประตูอยู่  ด้วยแน่ใจเลยว่าผมไม่เคยรู้จักใครที่มีรูปลักษณ์แบบนี้มาก่อน  ผมจึงกดปุ่มไมโครโฟนข้างจอภาพ  เพื่อสอบถามว่าเธอเป็นใครและมาหาใครที่นี่ 

ยามที่เจ้าของเส้นผมดำสนิทผินหน้ากลับมาทางประตูอย่างช้าๆ  ก่อนจะถอดแว่นออกจากใบหน้านั้น  ผมได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อและเผลอกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว  เมื่อได้เห็นใบหน้าสวยงามไร้ที่ติ  ปากนิดจมูกหน่อยทุกอย่างลงตัวไปหมด  เปรียบดังตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเนื้อดีชัดตา  โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้นที่จ้องมายังกล้องหน้าประตูไม่กระพริบ

“เจินฝูหรง...ฉันมาหาเจินฝูหรง”  ขนทั่วร่างของผมลุกชัน  สาเหตุมาจากเจ้าของน้ำเสียงเล็กๆแฝงความเอาแต่ใจนี้  และมาจากความทรงจำเก่าๆระหว่างเรา

‘ออกไปจากชีวิตของพอลซะ  พอลเป็นของฉัน...ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันให้นายยืมควงชั่วคราว  แต่ตอนนี้ฉันที่เป็นเจ้าของตัวจริง  ขอทวงคนของตัวเองคืน’

“ธะ...เธอคนนั้น  จินนี่!”  ผมยอมรับว่าทั้งแปลกใจและตกใจมาก  ด้วยไม่คิดว่าจะได้เจอเธอคนนี้อีกครั้ง  เร็วเท่าวันนี้มาก่อน 

เมื่อผมตกปากรับคำตกลงเป็นแฟนกับพอล  ผมเคยเตรียมใจไว้แล้วว่าอย่างไรซะ  คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญหน้ากับเธอ  แต่มันต้องไม่ใช่ในสภาพนี้สิ  สภาพที่ผมต้องเป็นฝ่ายอธิบายเรื่องของผมกับพอลให้เธอรับรู้เพียงลำพัง  ด้วยมันช่างไม่มีน้ำหนัก  พาลให้เธอคิดว่าผมแอบอ้างและหวังเกาะญาติของเธอ  แต่ผมจะปล่อยให้เธอยืนอยู่แบบนั้นไม่ได้  มันเท่ากับว่าผมได้กลายเป็นคนคิดมากเกินเหตุ  ทั้งๆที่ความจริงยังไม่ทันเกิด  และกลายเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผชิญความจริงในสายตาคนอื่นเอาได้  ผมจึงตัดสินใจเปิดประตู

ยามที่เราได้สบตากัน  รอยยิ้มหวานอาบน้ำผึ้งถูกส่งมาให้ผมเป็นสิ่งแรก  ก่อนผมจะเบี่ยงตัวหลบ  เพื่อให้เธอเดินเข้ามาในห้อง  ร่างอรชรในชุดกี่เพ้าสีเขียวมรกตพอดีตัว  ผู้ที่มีส่วนสูงน้อยกว่าผมไม่มากนัก  ยามที่เธอเดินผ่านตัวผมนั้น  กลับใช้เพียงหางตาเหลือบมองกัน  พร้อมรอยยิ้มหวานบาดตาที่เธอบรรจงปั้นแต่งให้ผม  ก่อนรอยยิ้มร้ายๆนั่นจะเลือนหายไปจากใบหน้ากระจ่างใสทันที  ยามที่เธอสะบัดหน้ากลับไป  เหมือนว่ารอยยิ้มนั้นไม่เคยมีมาก่อน 

ผมมองตามเจ้าของแผ่นหลังบางที่เยื้องกายก้าวเดินอย่างเชื่องช้า  มาดดุจนางพญาหงส์ขนสวย  พร้อมด้วยท่วงท่าทิ้งปลายนิ้วลากผ่านส่วนต่างๆของห้องที่เธอเดินผ่าน  ไม่ว่าจะเป็นขอบเคาน์เตอร์  พนักโซฟา  จอทีวี  หรือแม้แต่ตู้หนังสือของผม  เหมือนว่าเธอกำลังประเมินสภาพห้องและข้าวของเครื่องใช้ของผมอยู่ 

แม้ท่าทางจะดูเหมือนนางหงส์ที่กำลังแหวกว่ายสำรวจอยู่ในสระมรกตด้วยท่วงท่าสง่างาม  แต่ในความรู้สึกผมเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนดูถูก  อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงหึหะในคอบางจังหวะที่เธอหยุดดูข้าวของของผม  หรือแม้แต่อาการแสยะยิ้มเยาะใส่ตาผม  ยามที่ผมไปดึงกรอบรูปที่เคยวางบนตู้โชว์คืนจากมือเธอ  ก่อนร่างบอบบางจะทิ้งตัวลงนั่งยังโซฟาหน้าทีวีตัวโปรดของผม  พร้อมวางท่าไขว้ขากุมมือทั้งคู่บนหัวเข่าด้วยแผ่นหลังที่เหยียดตรง  โชว์เรียวขาขาวด้านข้างจากรอยแหวกของกี่เพ้าได้อย่างน่าดู  ก่อนเธอจะช้อนสายตาจับผิดขึ้นมองผมอย่างช้าๆ

“ไม่ได้เจอกันนาน  แต่ท่าทางนายก็น่าจะสบายดีนะ...ดูเหมือนจะสบายกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ  ทั้งคอนโดหรูใจกลางฮ่องกง  ทั้งข้าวของเครื่องใช้หรูหราฟู่ฟ่าพวกนี้  ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆจะมีปัญญามีทรัพย์สินพวกนี้ได้  ในเมื่อมีขนาดนี้  แล้วกลับมาหาพอลอีกทำไม!”  สิ้นเสียงกระแทกท้ายประโยค 

ผมเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง  และบีบกรอบรูปในมือจนแน่นอย่างไม่รู้ตัว  พร้อมกับจ้องดวงตาดูถูกดูแคลนคู่ตรงหน้าไม่มีหลบ  การที่จินนี่ญาติสาวสวยของพอลมาถึงคอนโดผมได้  แสดงว่าเธอต้องมีข้อมูลความเป็นไปของผมไม่มากก็น้อย  และอาจจะรู้ตัวแล้วด้วยซ้ำ  ว่าเรื่องที่เคยแอบอ้างกับผมว่าเป็นแฟนพอลเมื่อห้าปีก่อนนั้น  ผมได้รู้ความจริงหมดแล้ว  เพียงแต่การมาครั้งนี้อาจจะมีวัตถุประสงค์เดิมๆ  อย่างการไล่ผมออกไปจากชีวิตของญาติตัวเอง  สำหรับผมก็รู้ความเป็นไปถึงนิสัยขี้หวงบรรดาญาติผู้ชายรอบตัวของเธอมาจากพอลเช่นกัน

“เรื่องนี้คงต้องให้คุณไปถามเอาจากพอลเอง  เพราะไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายขอกลับมา  แต่เป็นเพราะญาติของคุณต่างหากที่ขอคืนดีกับผม!”  จินนี่มีอาการชะงักไปชั่วแวบ  คงไม่คิดว่าผมจะสวนเธอออกไปทันใจด้วยน้ำเสียงแข็งๆแบบนี้ 

จินนี่คงจำได้เพียงเจินฝูหรงคนเก่า  ที่ได้แต่ก้มหน้ารับฟังคำหลอกลวงและคำยุแยง  ด้วยใบหน้าอาบน้ำตา  ที่สำคัญเธอคงแน่ใจแล้วว่า  ผมรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริง  ระหว่างเธอกับพอลว่าเป็นเพียงญาติกัน 

“หึ!  เปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อนเยอะเลยนะ  โดยเฉพาะปาก...แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันแปลกใจมากนักหรอก  เพราะคงไม่มีใครกล้าจะผยองพองขน  กล้าต่อปากต่อคำขึ้นมาได้ขนาดนี้  หากไม่รู้ตัวว่าจับลูกชายเจ้าพ่ออสังหาชื่อดังของฮ่องกงสำเร็จ  ใช่มั้ยล่ะ...และสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้  ถึงรู้ตัวว่ามีความหวังไม่มากนัก  แต่ก็อยากให้นายคิดดูให้ดีและรับข้อเสนอจากฉันซะ”  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์และแววตาข่มขู่  ช่างไม่เข้ากับใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของคนที่กำลังยื่นข้อเสนอนี่เลย

แม้จะพอเดาได้ว่าจินนี่กำลังเสนออะไรให้และหวังผลอะไรจากผม  แต่ผมก็ยังอยากได้ยินกับหูตัวเอง  ผมจึงจ้องตาข่มขู่คู่ตรงหน้าไม่มีหลบ  ก่อนจะให้เธอพูดในสิ่งที่อยากพูดออกมา  พร้อมทำการบางอย่างไปด้วย  ในระหว่างที่เธอหัวเราะเสียงพลิ้วหวานบาดหู  ทำให้ไม่ทันมองว่าผมกำลังทำอะไร  เมื่อแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างพร้อม  ผมจึงกระตุ้นให้เธอพูดสิ่งที่ต้องการออกมา

“จินนี่  ตกลงคุณต้องการอะไรจากผมกันแน่  พูดมาเลยดีกว่าอย่าเสียเวลา”  หลังคำพูดผมนั้น  ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของใครๆก็หยุดหัวเราะเหมือนถูกกดสวิทช์  ก่อนจะยืดหลังตรงและยืนขึ้นมาประจันหน้ากับผม

“ถ้านายยอมออกไปจากชีวิตพอลอีกครั้ง  ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้นายต้องไปมือเปล่า  แม้สิ่งที่นายจะได้ไป  อาจจะไม่มากเท่าสิ่งที่นายหวังจะได้จากพอลในอนาคตก็เถอะ  แต่อย่าลืมว่าอนาคตมักไม่แน่นอน  และเราก็ควบคุมไม่ได้ซะด้วย  หากวันดีคืนดีพอลไปเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับตัวเองเข้า  ซึ่งเป็นคนที่คู่ควรพร้อมจะยืนเคียงข้างพาออกหน้าออกตาได้  วันนั้นนายคงได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า  และอาจจะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ  เท่าที่นายจะได้จากฉันวันนี้ก็ได้นะ...ใจจริงฉันไม่ได้เกลียดนายเลย  ออกจะเห็นใจเสียมากกว่า  ฉันกลัวว่านายต้องเป็นทุกข์เพราะพอลเอาน่ะสิ”  ทั้งคำพูดและน้ำเสียงในช่วงท้ายของจินนี่นั้น  แสดงออกถึงความเห็นใจผมอย่างสุดซึ้ง  แถมด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานบางเบาสอดคล้องไปกับสิ่งที่พูด

ผมคงคล้อยตามและยอมรับข้อเสนอแบบไม่ขอรับสิ่งตอบแทนจากเธอไปแล้ว  หากว่าครั้งนี้จะเป็นการพบกันครั้งแรกของเรา  และหากผมไม่เคยสนทนากับเธอมาก่อน  ดังนั้นคำตอบของผมคงไม่ผิดไปจากที่คุณคิดไว้อยู่แล้วครับ  แต่ขอเอาคืนเล็กๆจากนางฟ้าสองหน้าหน่อยเถอะนะ  ผู้หญิงอะไรตั้งใจทำให้ความรักของผมพังพินาศถึงสองครั้งสองครา

“คุณพูดจบแล้วใช่มั้ย...ยังไงผมต้องขอบคุณในความหวังดีที่คุณมีให้ผม  แต่ผมไม่ขอรับข้อเสนอ  เพราะผมเชื่อว่าพอลญาติของคุณไม่มีทางตีจากผมก่อนอย่างแน่นอน  ดังนั้นอะไรก็ตามที่คุณจะใช้หลอกล่อ  ผมไม่คิดสนใจ  แต่ไม่ใช่เพราะผมหวังว่าจะได้มากกว่าที่คุณเสนอหรอก  แต่ที่ผมไม่ตกหลุมพรางของคุณเหมือนเมื่อห้าปีก่อน  จนต้องยอมเดินออกจากชีวิตพอล  เป็นเพราะตอนนี้ผมมั่นใจว่าพอลรักผม  และน่าจะเห็นผมดีกว่าญาติอย่างคุณที่จ้องแต่ทำลายความรักของเรา” 

จินนี่เปลี่ยนท่าทีมายืนกอดอกและเชิดหน้าจ้องผมเขม็ง  ส่วนแววตาที่ใช้มองผมกลับนิ่งสนิท  จนผมอ่านไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอย่างไรกับสิ่งที่ผมพูด  หากเป็นเหมือนเมื่อนาทีก่อนที่ดวงตาคู่เดียวกันนี้  ฉายแววเห็นอกเห็นใจแฝงแววเยาะหยันใส่  ผมคงได้หาคำพูดเตรียมตอบโต้การประชดประชันจากเธอเป็นแน่ 

เรายืนจ้องตากันอยู่ไม่นาน  อยู่ๆเธอก็กระตุกยิ้มน้อยๆ  ก่อนจะหรี่ตามองผมให้พอสะดุ้ง  พร้อมกับดวงตากลมที่เริ่มระยิบระยับเปล่งแสงแห่งความสนุก  ก่อนจะเดินเข้าหาผมช้าๆ  บอกเลยผมแอบกังวลอยู่ในใจว่าเธอตั้งใจเข้ามาลงไม้ลงมือใส่ผมแน่ๆ  แต่จะให้ผมที่เป็นผู้ชายตอบโต้กลับก็คงดูไม่ดีนัก  แม้ผมจะมีคนรักเป็นผู้ชาย  แต่ไม่คิดให้ใครมาต่อว่าได้ว่าเป็นผู้ชายน่าไม่อายรังแกผู้หญิง  จึงได้แต่เตรียมตั้งรับ 

ผมจ้องร่างอรชรที่กำลังก้าวเข้าหาอย่างระวัง  และผมต้องผงะเมื่อจินนี่ยื่นมือมาตรงหน้าผม  แต่ปลายนิ้วเรียวยังไม่ทันสัมผัสผิวแก้มผมสักนิด  คนที่ผมรอคอยก็เปิดประตูเข้ามา  และยังไม่ทันที่ผมจะหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับพอลเต็มตัว  ร่างผมกลับลอยติดไปกับฝ่ามือหนา  ก่อนปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง

“จินนี่หยุดทำลายความรักของฉันได้แล้ว!”  ขนาดว่าผมซุกหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้าง  ผมยังอดสะดุ้งไม่ได้กับเสียงตะคอกที่พอลใช้กับญาติสาวคนสวย

เมื่อผมเงยหน้าขึ้น  ไล่สายตามองผ่านปลายคางเขียวๆที่เต็มไปด้วยไรหนวด  จนถึงวงหน้าหล่อเหลาที่กำลังวางสีหน้าถมึงทึง  และสะดุดตาเข้ากับดวงตาคู่คม  ที่กำลังจ้องไปเบื้องหน้าเขม็ง  แถมแววตาคู่นั้นก็ไม่ธรรมดาสักนิด  เพราะมันเต็มไปด้วยแววกรุ่นโกรธอย่างที่ผมยังแอบขนลุก  และผมเชื่อว่าหากบุคคลตรงหน้าไม่ใช่ญาติสนิท  พอลคงพุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายแล้วอย่างแน่นอน

“หึ!  มาถึงก็ใส่ร้ายจินนี่เลยนะพอล  ไม่คิดบ้างรึไงว่าจินนี่แค่มาทักทาย”  คิดอยู่แล้วเชียวว่าแม่ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวร้ายต้องไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ  เฉไฉได้อย่างหน้าตายที่สุด 

แต่ครั้งนี้เธอต้องจนต่อพยานหลักฐาน  ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ  ด้วยสองสิ่งที่ว่าอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว!!

......................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

เฉลยแล้วตัวป่วนความรักของพอลกับฝูหรงคนแรกคือแม่สาวจินนี่เองค่ะ
แต่ดูท่าแม่สาวน้อยในตะเกียงคนนี้จะทำอะไรกระต่ายน้อยของพอล
ไม่ได้ซะล่ะม้างงง   :laugh:  ให้รู้ซะบ้างว่ากระต่ายน้อยอัพเวอร์ชั่นแล้ว
แต่ฤทธาของกระต่ายจะเป็นอย่างไร  ต้องติดตามในตอนหน้าค่ะ

เจอกันอีกทีวันอาทิตย์นะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด