*หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]  (อ่าน 152426 ครั้ง)

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
อะ.....ฮะ.....เฮือกกก

เกือบตายคาสมรภูมิรัก

เลือดหมดตัว เบาหวานขึ้น โรคหัวใจ(ละลาย)กำเริบ

 :pighaun:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
อธิบายกันบนเตียงเข้าใจกันง่ายดีนะคะ อรั้ยๆๆๆๆ
>///////<

ขอบคุณค่ะ +1 ^^

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
นับวันยิ่งเร้าร้อนนะกระต่ายน้อย อิอิ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 20

เจินฝูหรง

   “อื้อ  เช้าแล้วเหรอ  หือ  พอล  งื้อ  ไม่เอา  อ๊ะ!  จับอะไร...พอลไม่แกล้ง~”  จากอาการงัวเงียไม่เต็มใจตื่นของผม  แต่เพราะโดนคนนอนข้างๆกวน  ด้วยการซุนจมูกเข้าที่ซอกคอ  และสอดฝ่ามือเข้ามาลูบแถวหน้าท้องเล่นนั้น  ก็ต้องผวาตื่นเต็มตา

ผมพยายามหลบเลี่ยงและปัดป้อง  ด้วยยังไม่อยากลุกจากที่นอนนุ่มๆ  ก่อนจะได้ร้องประท้วงเจ้าของฝ่ามืออุกอาจด้วยน้ำเสียงแผ่วหวิว  ที่จงใจล้วงเข้ามาใต้กางเกงชั้นใน  เพื่อสัมผัสจุดอ่อนไหวกลางตัวของผม  จนผมเผลอเกร็งมือจิกเล็บเข้าที่ข้อมือข้างนั้นด้วย

   “พอลไม่ได้แกล้งสักหน่อย  แค่อยากชื่นใจแฟนตัวเองรับอรุณเท่านั้น  แบบนี้ดีมั้ยกระต่ายน้อย  หรืออยากให้พอลใช้ปากแทนมือ  บอกสิครับ  พอลตามใจฝูหรงเลยนะ”  แม้จะฟังดูเหมือนคนพูดเต็มใจและพร้อมตามใจผม  แต่สิ่งที่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นทำกับผมยามนี้  ไม่ต่างจากคนเอาแต่ใจสักนิด 

พอลเล้าโลมหลอกล่อจนผมแทบคลั่งไปกับสัมผัสสยิวทั่วตัว  โดยเฉพาะจุดกึ่งกลางลำตัวที่ถูกปลุกเร้าจนแทบปลดปล่อย  บวกความรู้สึกบริเวณสะโพกที่มีของแข็งขนาดใหญ่ทิ่มแทง  ไหนจะจินตนาการที่เกิดจากลมปาก  ชักนำให้ผมเตลิดเข้าไปอีก  ทำเอาลำคอผมแห้งผาก  สมองเบลอ  ขนทั่วตัวลุกซู่  แต่ระดับความต้องการอยากได้สัมผัสที่อ่อนนุ่มกว่าฝ่ามือนั้นกลับมากขึ้นๆ 

ผมลืมอายเบือนหน้ากลับไปรั้งต้นคอหนาเข้าหา  ก่อนแตะจูบเข้าที่ริมฝีปากนุ่มที่ยกยิ้มหล่อร้ายรออยู่แล้วด้วยความมั่นใจ  ว่าอย่างไรซะผมคงต้องเอ่ยปากขออะไรที่มากกว่าฝ่ามือ  ผมขยับปากกระซิบคำขอกับริมฝีปากคู่นั้น  จนริมฝีปากเราทั้งคู่ไล้กันเบาๆตลอดเวลาที่ผมพูดด้วย

“พอล...ใช้ปากให้ฝูหรงหน่อย”  สิ้นคำขอของผมนั้น  พอลระบายยิ้มกระชากใจใส่ตาผม  ก่อนกดจูบดูดกลืนลิ้นและช่วงชิงลมหายใจผมแทบหมดปอด 

หลังจากนั้นคำขอของผมก็ได้รับการตอบสนองสมใจ  แต่คงไม่ใช่แค่สมใจผมคนเดียวหรอก  ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นน่ะตัวดีเลย  หลอกล่อคนเพิ่งตื่นอย่างผมให้เอ่ยขอเรื่องน่าอายแบบนี้ได้

“อ่าๆ  พอล  อื้อออ  เร็วหน่อย  ฝู...หรง  จะไป  อึก  พอลลลล~”  คนอ่อนหัดเรื่องบนเตียงอย่างผมลืมอายเร่งเร้าไปตามอารมณ์  และตอบโต้ริมฝีปากนุ่มๆด้วยการสวนสะโพกใส่  ก่อนยึดเส้นผมดำขลับไว้เต็มกำมือ 

เมื่อสุดปลายทางแห่งอารมณ์หวามหวิว  ผมเสยกระแทกความรุ่มร้อนแทบปริแตกกลางตัว  เข้าหาโพรงปากนุ่มกระชับที่จงใจดูดกลืนตัวตนของผมล้ำลึก  สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยหยาดหยดอุ่นร้อนภายในตัว  จนกายสั่นระริก  ผิวหนังทั่วกายซาบซ่านอาบไล้ไปด้วยความสุขสม

ผมนอนระทวยหายใจหอบตัวโยนทั้งๆที่เปลือกตาปิดสนิท  และเหนือร่างยังคงมีร่างหนาคลอเคลียผิวกายไม่ห่าง  ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้  ท่อนขาผมถูกอ้าออกกว้าง  พร้อมท่อนเนื้อแข็งขนาดใหญ่ที่ร้อนผะผ่าวกำลังถูไถไปมาแถวรอยแยก  ผมถึงกลับเผลอกลั้นใจรอ  ยามที่ปลายนิ้วเย็นๆเตรียมเปิดทาง 

แต่แล้วผมต้องสะดุ้งและเปิดเปลือกตาขึ้นทันที  จากเสียงโทรศัพท์มือถือของพอลที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะ  อารมณ์หวามไหวที่ถูกปลุกเร้าไว้พาลปลิวหาย  และทันได้เห็นเจ้าของเครื่องอย่างพอลชักสีหน้าหงุดหงิดคาตา 

ผมที่เตรียมเบี่ยงตัวหลบด้วยการหนีบขาขยับตัวออกห่าง  ก็ต้องถลากลับมานอนท่าเดิม  แต่ที่ร้ายกว่าเดิมคือข้อมือผมถูกยึดไว้เหนือหัว  แถมด้วยต้นขาถูกแยกออกกว้างกว่าเดิม  และหัวเข่าถูกดันชิดอก  จนความร้อนแข็งขืนของพอลจ่อเข้าที่ปากทาง 
เราจ้องตากันท่ามกลางเสียงโทรศัพท์ที่ดังต่อเนื่อง  เพราะไม่มีทีท่าว่าคนโทรจะยอมวางสายง่ายๆนั้น  แววตาของพอลบอกผมหมดว่าเจ้าของมันแทบคลั่งใจตาย  ด้วยอารมณ์ปรารถนาที่คั่งค้าง  แต่เสียงเพลงเรียกเข้าที่ได้ยินก็สำคัญเกินกว่าจะไม่ให้ความสนใจ  ด้วยเราต่างรู้ดีว่าต้องเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของพอลโทรมา 

การที่คนปลายสายโทรมายามเช้าแบบนี้  แสดงว่าคนนั้นย่อมต้องมีธุระสำคัญเร่งด่วนจริงๆ  ผมจึงตัดสินใจบรรจงระบายยิ้มอ่อนหวาน  ทั้งๆที่ริมฝีปากสั่นระริกไม่ต่างจากผิวทั่วกาย  ด้วยลึกๆยังคงคาดหวังในสัมผัสลึกซึ้งที่สามารถก่อเกิดความสุขสมไม่ต่างจากอีกคนนักหรอก

“พอล...รับโทรศัพท์ก่อนเถอะครับ  ฝูหรงไม่หนีไปไหนหรอก”  ผมใช้น้ำเสียงอ่อนๆพยายามหลอกล่อสุดฤทธิ์

พอลจ้องผมเขม็งพร้อมเม้มริมฝีปากไว้แน่นอย่างตัดสินใจ  ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่และล้มตัวลงนอนข้างกัน  แต่ไม่ลืมที่จะรวบเอวผมเข้าหาและยกร่างผมขึ้นไปทาบทับไว้ทั้งตัว  จนผมได้ยินเสียงหัวใจภายใต้อกแกร่งที่มีขนหน้าอกปกคลุมไปทั่วนั้น  เต้นถี่รัวไม่ต่างจากหัวใจในอกตัวเอง  ก่อนที่พอลจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ข้างหัวเตียง  และส่งอีกมือมาตะปบก้นผม  แถมด้วยการลูบไล้สลับขยำไปมา  ทำเอาผมสะดุดลมหายไปหลายรอบ  และเผลอเกร็งตัวไปเหมือนกัน  ยิ่งความแข็งขืนที่แนบไปกับหน้าท้องผมในขณะนี้  ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนตัวลงง่ายๆด้วย 

ผมจึงได้แต่ซบหน้ากับอกกว้าง  และทำตัวให้นิ่งไร้ซึ่งปากเสียงให้มากที่สุด  ด้วยกลัวใจว่าไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นจะจับผมกิน  ระหว่างที่ตัวเองคุยกับเพื่อนปลายสายไปด้วยน่ะสิ  สำหรับพอลเดาใจได้ไม่ยากอยู่แล้ว  ขืนเป็นอย่างที่คิด  ผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน 

“ไงไรอัน...ว่าไงนะ!!  เกิดเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่”  ผมสะดุ้งกับเสียงดังที่เข้าขั้นตะโกนของพอล  ก่อนจะรีบคว้าลำคอหนาไว้แน่น  ยามที่คนใต้ร่างลุกพรวดขึ้นมานั่งแบบทันทีทันใด  หลังได้ฟังข้อความจากเพื่อนสนิท

ผมเงยหน้ามองพอลอย่างกังวล  ด้วยดูท่าจะเกิดเรื่องไม่ปกติและคงเป็นเรื่องใหญ่เข้าแล้ว  เพราะพอลตีหน้าขรึมจริงจังในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  สายตาก็จับจ้องไปยังหน้าต่างบานใหญ่  ด้วยแววตาเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังคิดหนัก  บวกอาการปิดปากเงียบรอฟังข้อความจากปลายสายเข้ามาอีก  ทำเอาผมไม่สบายใจขึ้นมาทันที  จึงส่งมือไปลูบแก้มสากที่เต็มไปด้วยไรหนวดแผ่วเบา  จนเจ้าของสายตาคมเบือนหน้ากลับมาจ้องตากัน 

ผมแทบละลายกองอยู่ตรงนั้น  ยามที่ลูกครึ่งหน้าหล่อคลายหัวคิ้วลง  ก่อนจะยกยิ้มปลอบประโลมขึ้นอย่างช้าๆ  พร้อมขยับปากไร้เสียงว่าไม่มีอะไร  ผมจึงเลือกที่จะกระชับวงแขน  และซ่อนหน้าแดงๆของตัวเองเข้ากับซอกคอแกร่ง  พร้อมเงี่ยหูฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมา  ทั้งๆที่ใจยังกังวล  แต่ผมก็เชื่อใจว่าพอลจะจัดการเรื่องยุ่งๆได้ทั้งหมด 

ที่สำคัญผมลืมเรื่องค้างคาเมื่อนาทีก่อนไปสนิทใจ  ด้วยเริ่มเพลินกับฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของตัวเอง  และเสียงทุ้มนุ่มข้างหู  ยามที่พอลรับคำคุณไรอันสั้นๆเป็นบางช่วงของบทสนทนา

“...อืม...ได้...ดีที่ทุกอย่างเรียบร้อย...แล้วเจอกัน”  สิ้นเสียงสุดท้าย  ผมยอมรับอย่างไม่อายว่าแทบหลับคาอก  แต่ที่ยังรู้สึกตัวเพราะตัวผมถูกผ่อนร่างลงนอนยังที่นอนตามเดิม 

ส่วนพอลก็ทำท่าจะผละห่าง  ผมจึงเลือกที่จะคว้าข้อมือพอลไว้  และไม่พลาดที่จะส่งคำถามค้างคาใจ

“คุณไรอันโทรมาเรื่องอะไร  แล้วทำไมพอลต้องรีบไปทั้งๆที่ยังไม่เสร็จ...เอ่อ”  ผมเบือนสายตาหนีดวงตาคู่คมที่ฉายแววรู้เท่าทันอย่างเจ้าเล่ห์  และแทบอยากสะบัดข้อมือทิ้ง  พร้อมกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก 

ผมไม่น่าปากเร็วถามอย่างที่ใจคิดเลย  มันส่อชัดๆว่าผมยังติดใจเรื่องอะไร  แถมจากหางตายังคงเห็นหลักฐานชิ้นใหญ่  ชี้หน้าประจานว่าถูกละเลยเข้าไปอีก

“เป็นห่วงพอลเหรอ  ฮึๆ  กระต่ายน้อยของพอลน่ารักชะมัด  แต่คงต้องเอาไว้ก่อน...ฟอดดด...หลี่ผิงเกิดเรื่อง  พอลต้องรีบไปดู  ไรอันกับโจเซฟนัดให้ไปเจอที่แก๊งหวางหย่งกัง...แต่ไม่ต้องกังวลครับ  เพราะตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว  พอลแค่จะไปดูให้แน่ใจเท่านั้น”  เกิดเรื่องที่แก๊งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่อง

“ฝูหรงไปด้วย”  คำขอของผมได้คำตอบเป็นการส่ายหน้าทันที 

มีรึที่ผมจะยอมง่ายๆ  แต่ผมที่เตรียมค้านอย่างจริงจัง  กลับถูกปิดปากแบบไม่ให้ตั้งตัว  และเคลิบเคลิ้มไปกับจูบหวานๆจนได้  ซึ่งมารู้ตัวอีกทีผมก็ถูกปล่อยให้นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

ส่วนอีกคนหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว  และใช้เวลาไม่นานพอลก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันเอวผืนเดียว  ผมที่เตรียมสวนเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อ  กลับถูกดึงข้อมือและถูกผลักให้แผ่นหลังแนบไปกับผนัง  โดยมีพอลตามประชิดตัว  ทำให้ลำตัวส่วนหน้าของเราทั้งคู่แนบสนิทไปด้วยกัน  จนผมรู้สึกถึงความชื้นของหยดน้ำและกล้ามเนื้อหน้าอกแน่นๆของพอล  แถมใบหน้าเราก็ห่างเพียงนิด  ซึ่งมีเพียงปลายจมูกเท่านั้นที่สัมผัสโดนกัน

“ฝูหรงรอพอลอยู่ที่บ้านนะครับ  สัญญาว่ากลับมาจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง  เชื่อพอลนะกระต่ายน้อย  แม้เรื่องจะเรียบร้อยแล้ว  แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้  พอลไม่อยากให้ฝูหรงเสี่ยงอันตราย”  แม้พอลจะพูดไม่ดังนัก  เรียกได้ว่าไม่ต่างจากการกระซิบ  แต่น้ำเสียงหนักแน่นและแววตาจริงจังที่ใช้  ทำเอาผมยอมจำนนด้วยการส่งเสียงอืออออยู่เพียงลำคอเท่านั้น

“ว่าง่ายๆแบบนี้สิถึงจะน่ารัก...ส่วนเรื่องนั้น  พอลติดไว้ก่อน  คืนนี้ตามรวบยอดบวกดอกเบี้ยให้ด้วยดีมั้ย  ฮึๆ”  ผมยู่หน้าใส่เจ้าของเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์  ก่อนสะบัดตัวหนีอ้อมแขนที่กักตัวเองไว้

“หึ  คืนนี้อะไรกัน  ไม่รับฝากอะไรทั้งนั้น...พอลต้องระวังตัวดีๆนะ  รีบไปรีบกลับล่ะ  ฝูหรงรออยู่”  อดไม่ได้จริงๆที่จะเอ่ยปากแสดงความเป็นห่วงลูกครึ่งช่างหยอด  แม้จะหมั่นไส้ความนัยของประโยคที่เพิ่งได้ยินก็ตาม 

หากเกี่ยวกับหวางหย่งกัง  ผมพอเดาออกว่าสถานที่ที่พอลต้องไปน่าจะเสี่ยงอันตรายอยู่พอสมควร  และเพราะแบบนี้ไงผมจึงอยากตามเจ้าตัวไปแต่แรก

“ครับ  พอลจะรีบกลับมาหาฝูหรง”

...........................................

“จะยืนตรงนั้นอีกนานมั้ย  พอลไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย  ก็แค่ไปเป็นกำลังเสริมให้เพื่อน”  คุณคิดว่าเจ้าของประโยคกระทบกระเทียบพอให้คนฟังเจ็บๆคันๆแบบนี้น่ะของใคร  ถ้าไม่ใช่...

“หนูจินนี่จ๊ะ  ไม่พูดแบบนั้นสิจ๊ะ”  ใช่แล้วครับหนูจินนี่ของมามาอีลิน่านั่นเอง 

แน่ะ!  คนสวยของตระกูลโจวมีส่งค้อนให้ผม  และสะบัดหน้าหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไปก่อน  ทิ้งผมและมามาอีลิน่าอยู่ที่เดิม

“อย่าถือสาจินนี่เลยนะจ๊ะฝูหรง  ไม่ต้องกังวลเรื่องพอลหรอก  เข้าไปช่วยมามาทำขนมดีกว่านะ”  ผมระบายยิ้มก่อนตอบรับคำมามาคนสวย  และเดินเข้าบ้านพร้อมท่านที่ควงแขนผมด้วยใบหน้าประดับยิ้มละมุน

ความกังวลใจของผมกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้มาอย่างคร่าวๆจากคนที่เพิ่งขับรถออกไป  เริ่มบรรเทาเบาบางลง  แม้จะยังไม่หมดไปก็ตาม  อาจจะด้วยบรรยากาศสบายๆของคนรอบตัว  อย่างมามาอีลิน่าและจินนี่ก็เป็นได้  ด้วยคนทั้งคู่ไม่มีความกังวลให้เห็น  แม้จะรับรู้เรื่องราวไปพร้อมกับผม  ยามที่พอลบอกเล่าในช่วงที่พวกเราทานมื้อเช้าร่วมกัน  แถมสีหน้าแววตาและท่าทางของทั้งคู่  เหมือนออกมาส่งพอลไปทำงานตามปกติอีกด้วย  ทั้งๆที่ลูกชายและญาติของเจ้าตัวนั้น  เดินเข้าแก๊งมาเฟียเพื่อไปช่วยเพื่อนเคลียร์ปัญหาระหว่างแก๊งแท้ๆ

คุณฟังไม่ผิดหรอก  และผมก็ไม่ผิดที่ทำตัวกังวลเกินเหตุ  ให้จินนี่พูดหยิกแก้มหยอกอย่างที่ได้ยิน  แม้ผมจะทำงานกับเจ้านายที่เป็นถึงรองหัวหน้าแก๊งหวางหย่งกัง  แก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงก็ตาม  แต่ผมก็ทำงานในส่วนของกิจการโรงแรม  ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของแก๊งแต่อย่างไร 

แม้จะคุ้นชินกับเหล่าบอดี้การ์ดในชุดดำเป็นโขยง  แต่ผมก็ไม่เคยเห็นหรือรับรู้พฤติกรรมรุนแรงหรือโหดร้ายใดๆ  ออกจะสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเอง  และความมีน้ำใจของพี่ๆพวกนั้นมากกว่า  ทำให้ผมนึกภาพไม่ออกและพาลจินตนาการไปในทางร้ายๆ  ถึงพวกปืนพวกมีดหรือความรุนแรงอะไรแบบนั้นไม่ได้ 

เรื่องนี้มันสำคัญตรงที่สาเหตุของเรื่องมีดวงใจพญามังกรอย่างคุณธันว์มาเกี่ยวข้องด้วยนี่สิ  จากที่ผมประมวลผลลัพธ์และการตอบกลับคงไม่ธรรมดา  ระดับความรุนแรงที่เกิดอาจจะถึงขั้นบุกทลายแก๊งกันก็ได้  การบาดเจ็บการนองเลือดก็จะตามมา  แล้วไอ้ลูกครึ่งหน้าหล่อของผมมันจะได้รับลูกหลงรึเปล่าก็ไม่รู้

“นี่นายใจลอยไปถึงไหนกัน  แป้งกระจายหมดแล้ว”  ผมสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงแหลมๆที่ดังแหวกความคิดเข้ามา  และต้องหน้าแหยรู้สึกผิดทันที  เมื่อมองผลงานตรงหน้าแล้วเห็นจริงตามที่จินนี่พูด  ด้วยผงแป้งที่จะใช้ทำเค้กกระจายหกรอบชามสแตนเลส  เพราะคนร่อนแป้งอย่างผมใจลอยไปถึงไหนๆ

“ขะ...ขอโทษ  เดี๋ยวผมทำให้ใหม่”  ผมลุกลี้ลุกลนเตรียมเก็บกวาดเศษแป้ง  แต่ต้องชะงักกับปลายนิ้วอุ่นที่แตะเข้าที่หลังมือ 

ผมไล่สายตาจากหลังมือขาวไปตามท่อนแขนเรียว  จนถึงใบหน้าหมดจดสะสวยของจินนี่  ผมก็ต้องแปลกใจ  เพราะดวงตาคู่เรียวที่ผมคุ้นชินกับแววเยาะหยันปนหมั่นไส้มาตลอดนั้น  นาทีนี้แม้จะมีแววหมั่นไส้อยู่จางๆ  แต่กลับฉายแววหนักใจเด่นชัด  ทำให้ผมแปลกตาไม่น้อย

“ไม่ต้อง  เดี๋ยวฉันทำเอง  ใช้ให้ร่อนแป้งแค่นี้ก็ไม่ได้เรื่อง”  ผมละมือและส่งถาดร่อนแป้งให้ตามความต้องการของจินนี่ 

แม้ผมจะอยู่ในอาการสับสนจากคำพูด  แววตา  และพฤติกรรมของจินนี่ที่ขัดกันมากอยู่  แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความหวังดีและความเป็นห่วงของเธอ  ซึ่งคำพูดต่อมาของแม่สาวปากร้าย  ก็เฉลยให้ผมรู้ว่าคนเราไม่ควรตัดสินคนจากคำพูดร้ายๆเพียงอย่างเดียว  คงต้องดูที่เจตนาและความหวังดีของจิตใจในส่วนลึกของคนๆนั้นด้วย

“ขนมจะอร่อยไม่อร่อย  ไม่ใช่เกิดจากเชฟมีทักษะและความรู้เรื่องขนมอย่างเดียวแล้วจะพอหรอกนะ  เพราะความใส่ใจและตั้งใจก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน  นายใจลอยแบบนั้น  เท่ากับดูถูกและไม่ให้เกียรติขนมของนายเอง  เพราะฉะนั้นเลิกใจลอยและเลิกคิดมากได้แล้ว  คิดมากไปก็มีแต่ปวดหัว  เอาสมาธิมาทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุดดีกว่า...พอลน่ะไม่ต้องไปห่วงหรอก  เป็นเพื่อนกับมาเฟียใหญ่มานานขนาดนั้น  คงมีดีอยู่พอตัว”

ได้ยินเหมือนผมมั้ย  ว่าจินนี่กำลังให้กำลังใจผมอยู่  และเท่าที่ฟังมานางฟ้าตัวแสบของตระกูลโจว  ฉายาที่พอลแอบเหน็บแนมจินนี่ให้ผมได้ยิน  เธอมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวไม่น้อยเลยทีเดียว  อาจเป็นไปได้ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของจินนี่  คงเป็นเพียงภาพที่เธอตั้งใจสร้างขึ้นมาหลอกตาใครต่อใครก็ได้นะครับ 

ผมที่รู้สึกดีต่อเจ้าของคำพูดให้กำลังใจนั้น  ก็ตั้งใจส่งยิ้มแสดงความขอบคุณแทนคำพูดให้จินนี่  แต่สิ่งที่ผมได้รับคืออาการตวัดสายตาค้อนใส่กันซะงั้น  บอกเลยว่าผมเหวอด้วยคาดไม่ถึง  หรือจินนี่จะเป็นคนสองบุคลิกกันแน่ครับ  คือมีทั้งดีและร้ายแบบสุดขั้ว  ผมตามอารมณ์เธอไม่ทันจริงๆ 

จากปลายสายตาผมได้เห็นว่ามามาอีลิน่าที่กำลังตอกไข่และคัดเอาแต่ไข่แดงอยู่นั้น  ระบายยิ้มอ่อนหวานด้วยเอ็นดูให้จินนี่อยู่  ไม่มีทีท่าแปลกใจในพฤติกรรมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของจินนี่ให้เห็นสักนิด  ซึ่งผมก็มาได้ความกระจ่าง  หลังจากพวกเราช่วยกันทำเค้กเสร็จแล้วนั่นแหละ

“ฝูหรงอย่าถือสาหนูจินนี่เลยนะจ๊ะ  เพราะใจจริงของน้องเป็นเด็กมีน้ำใจ  และออกจะเห็นใจผู้อื่นไม่น้อย  แต่เพราะคนรอบตัวชอบเอาอกเอาใจและตามใจหนูจินนี่มาตลอด  น้องเลยยึดติดการเป็นคนสำคัญของทุกคน  จึงแสดงออกอะไรแปลกๆไปบ้าง  แต่ทั้งหมดก็เพราะรักและหวังดี  กรณีของพอลกับฝูหรงก็เหมือนกันจ๊ะ  หนูจินนี่ก็แค่กลัวพอลโดนหลอก  ไม่ก็คงกลัวพอลเสียรู้คนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก  แต่หารู้ไม่ว่ามีแต่ลูกชายมามานี่แหละ  ที่จะเป็นฝ่ายล่อลวงฝูหรง  จริงมั้ยจ๊ะ  คิกๆ”

นาทีนั้นผมไม่ได้ตอบมามาอีลิน่าหรอกครับ  เพราะท่านน่าจะรู้คำตอบดีแก่ใจ  ไม่เช่นนั้นคงไม่ส่งสายตาล้อเลียนให้ผม  พร้อมหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีเช่นนั้นแน่นอน  แต่เพราะคำพูดของท่านก็ทำให้ผมเข้าใจแม่มดน้อยจินนี่ของทุกคนดีขึ้น  และเลิกถือสาคำพูดเหน็บแนมของเธอไปเลย  แถมยังออกจะถูกใจในความเป็นคนตรงของจินนี่ไม่น้อย  โดยเฉพาะวิธีการพูดให้กำลังใจในแบบฉบับของแม่มดน้อยจินนี่

“เป็นอะไรอีกล่ะ  พอลก็โทรมาบอกแล้วนี่ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี...เขี่ยอยู่นั่น  มิน่าถึงผอมแห้งแบบนี้  กินเข้าไปเลยนะ  ไม่กินระวังเถอะจะเหลือแต่กระดูก  สุดท้ายก็โดนพอลทิ้ง  ชิ!...คุณป้าหัวเราะจินนี่ทำไมคะ”  ในขณะนี้ไม่ใช่แค่มามาอีลิน่าเท่านั้นนะครับที่หัวเราะถูกใจแม่มดน้อย  ผมเองก็เป็นไปด้วย 

คนเรานี่ก็แปลกแค่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อใครสักคน  คำพูดที่เคยว่าร้ายกลับถูกตีความกลายเป็นความห่วงใยได้อย่างน่าประหลาด  เหมือนที่ผมคิดต่อจินนี่ในขณะนี้  ดังนั้นพฤติกรรมของผมจึงสอดคล้องไปกับความคิด  โดยเฉพาะนาทีนี้ที่ผมโดนแม่มดน้อยค้อนตากลับ  ผมยังมีแก่ใจระบายยิ้มใส่ตาเธอได้อยู่

“ทานแล้วครับ  ขอบคุณจินนี่ที่เป็นห่วงผม”  คุณคิดว่าปฏิกิริยาของแม่มดน้อยมาดเยอะจะเป็นอย่างไร

“ใคร้  ใครห่วงนายกัน  ฉันสงสารอาหารตรงหน้านายต่างหาก”  คนโดนจับไต๋ได้ปฏิเสธเสียงสูงเชียวครับ  แต่อาการของจินนี่ที่ทำให้ผมเอ็นดูเจ้าตัวอย่างห้ามไม่อยู่คือ  แก้มใสขึ้นสีทั้งๆที่ตาคู่เรียวจ้องผมอย่างเอาเรื่อง

“ครับๆ  ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง  เราทานต่อกันเถอะครับมามา  จินนี่เองก็ทานเยอะๆนะครับ  ผมเป็นห่วง”

ในที่สุดผมก็รู้วิธีการตอบโต้แม่มดน้อยจอมแสบแล้วครับ  ก็แค่ใช้วิธีแสดงความห่วงใยและหวังดีสวนกระแสใส่คนปากไม่ตรงกับใจก็เท่านั้น  เพราะทันทีที่ผมพูดไปแบบนั้น  จินนี่ถึงกับอึ้งหมดมาดคุณหนูขี้วีนไปเลย  ได้แต่เมินสายตาหนีด้วยแก้มแดงแจ๋  ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินและไม่พูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งจบมื้อเที่ยง

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงในตัวแม่มดน้อยจินนี่คนนี้  ด้วยไม่ว่าเราเห็นหรือเพราะเธอจงใจให้เราเห็น  ว่าเธอเป็นคุณหนูเอาแต่ใจและเห็นตัวเองสำคัญที่สุดแบบนั้น  แต่คุณรู้มั้ยว่าจินนี่เป็นคนที่ละเอียดอ่อนและใส่ใจในเรื่องการทำครัวมากที่สุดคนหนึ่ง 

วันนี้ผมได้รู้ได้เห็นมากับตาตัวเอง  ด้วยจินนี่ในลุคเชฟใหญ่ทำให้ผมทึ่งมาแล้ว  ทั้งอาหารมื้อกลางวันที่ผ่านมาและเบเกอรี่ตรงหน้าผมยามนี้  เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี  เพราะหากคนทำไม่มีจิตใจที่ดี  มันคงแสดงออกมากับรสชาติของอาหารให้ผมสัมผัสได้แล้วล่ะ  แต่สิ่งที่ผมลิ้มลองขณะนี้  มีเพียงรสชาติที่กลมกล่อมละมุนลิ้นเท่านั้น

“อร่อย  ฝีมือยัยจินนี่ใช่มั้ยครับ”  ผมเหลือบตามองพอลที่กำลังระบายยิ้ม  กับจานเค้กของหวานปิดท้ายมื้อเย็นตรงหน้า  และอดนึกถึงใบหน้าคนทำไม่ได้จริงๆ 

ทั้งผมและพอลหรือแม้แต่ปาปามามาที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันยามนี้  พวกเราคงมีความรู้สึกต่อเจ้าของเค้กตัวจริงไม่ต่างกัน  นั่นคือความ  ‘เอ็นดู’  ต่อแม่มดน้อยตัวแสบของตระกูลโจว

“อืม  จินนี่เป็นคนทำ  อร่อยเนอะ  วันหลังฝูหรงจะลองขอให้จินนี่สอนทำบ้าง  พอลว่าดีมั้ย”

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อ่ะฮ้าๆๆ  คนเราบางครั้งก็ตัดสินไม่ได้จากคำพูด  คงต้องลองคบหา
และเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้น  ถึงจะรู้ว่าแท้จริงมีตัวตนอย่างไร
ไม่ต่างจากแม่มดน้อยจินนี่ในตอนนี้เนอะ...ตรงข้าม  บางคนคบหามานาน
นึกว่ารู้จักตัวตนดีแล้ว  แต่แท้จริงกลับซ่อนด้านดำมืดของจิตใจไว้มาทิ่งแทงเรา
อ้าว!?  ดราม่าซะงั้น  นอกเรื่องอีกต่างหาก   :laugh:

ตอนหน้าบอกเลยว่าฟิน  ห้ามพลาดช๊อตหวานเด็ดขาดค่ะ
ติดตามได้ในวันอาทิตย์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: คุณหนูจินนี่ปากร้ายใจดีน่ารักกว่าที่คิดอีก

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านเรื่องนี้แล้วเสียวเป็นเบาหวานมากอ่ะ :hao6:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อ่านจินนี่ตอนนี้แล้ว กับก่อนหน้า  นึกว่าจินนี่มีฝาแฝด ที่คนหนึ่งขี้วีน เอาแต่ใจ  แต่อีกคนที่คอยห่วงใย คอยพูดให้กำลังใจ  สมแล้วที่เป็นลูกหลานตระกูลมาเฟีย ที่มีพร้อมทั้งบุ้นและบู๊ 

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
แม่มดน้อยใจนางฟ้า เป็นห่วงฝูหรงอ่ะ  :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ไม่รู้ว่าจะเม้นท์อะไร นอกจากคำว่าอิจฉา :ling1:
ที่เอ็นดูกันอยู่แล้วก็ยิ่งรักและเอ็นดูกันเข้าไปใหญ่
แม้แต่จินนี่ที่ไม่ลงรอยกันก็ยังมาญาติดีกันได้เลย
แต่คนมาดเยอะก็มีวิธีพูดและการกระทำของตัวเองอ่ะนะ :laugh:
นี่คงเป็นวิธีรับเข้าเป็นครอบครัวเดียวกันของจินนี่เขาล่ะ
ดีใจกับฝูหรงนะ คราวนี้ก็หายห่วงของจริงแล้วมั้ง
ตอนหน้าคงทำให้เราอิจฉาได้ตลอดอีกแน่ๆ :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
«ตอบ #491 เมื่อ02-09-2014 16:07:51 »

ยัยจินนี่ก็น่ารักในแบบของเธอแหละเนาะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
จินนี่ก็น่ารักตามแบบของนางแหละ ปากร้ายใจดีก็งี้

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
แม่มดน้อยจินนี่ ช่างน่ารัก น่าเอ็นดู
 :mew1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
แม่มดจินนี่ก็มีมุมน่ารักนะเนี่ยะ >.<
ขอบคุณค่าาา +1^^

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
ฝูหรงโดนขัดจังหวะ :o8:
ได้เห็นมุมน่ารักของจินนี่

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
แม่มดจินนี่จริงๆแล้วก็น่ารักนะ อิอิ

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
แอร๊ยยยยยยยยย  :m3: :m3:

พอล!! ทำไรเนี่ยยย

ให้ป้าเตรียมตัว เตรียมเลือดก่อนสิ ><

จินนี่เป็นคนประเภท ปากร้ายใจดี นี่เอง หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 21

โจวพอล

“พอล  แกรีบจัดการเรื่องโอนที่เรื่องเงินกับทางนั้นให้เร็วที่สุด  ขืนช้าคงโดนตัดหน้า  ฉันได้ข่าวมาว่าพวกซินจางพยายามหาช่องทางเจรจากับเจ้าของที่อยู่”  ประธานใหญ่แห่ง Joe  F.H.  Estate  ผู้ที่นั่งหัวโต๊ะประชุมเจาะจงพูดกับผมโดยตรง  โดยมีคณะกรรมการบริษัทและบุคคลระดับหัวหน้านั่งขนาบซ้ายขวา

“ได้ครับปาปา  ผมจะจัดการให้เรียบร้อย”  ผมปิดแฟ้มรายละเอียดของพื้นที่ที่ผมได้รับมอบหมายให้จัดการ  ก่อนจะรับปากปาปาผู้ที่ควบตำแหน่งใหญ่ที่สุดในบริษัท 

ส่วนบรรดาคณะกรรมการหรือเรียกง่ายๆว่าหุ้นส่วนของบริษัทนั้น  ก็เป็นเครือญาติในตระกูลโจวแทบทั้งสิ้น  จะมีก็แต่พนักงานระดับหัวหน้าบางคนเท่านั้น  ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติ  แต่ก็อยู่มานานด้วยความสามารถและสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น  จึงไว้ใจได้ไม่ต่างครอบครัวเดียวกัน 

ด้วยวงการอสังหาฯนั้น  บริษัทจะมั่นคงได้นอกจากประธานยันพนักงานต้องเป็นผู้กว้างขวาง  และมีเงินทุนสำรองของบริษัทมากพอแล้ว  เรื่องอิทธิพลและอำนาจหนุนหลังก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน  ซึ่ง Joe  F.H.  Estate ของเราดีที่มีตระกูลหวางหย่งกังเกื้อหนุนด้วยดีมาตลอด  ทำให้บริษัทอื่นๆไม่กล้าต่อกรด้วยมากนัก  เพราะรู้กันอยู่ว่าไม่คุ้มหากคิดจะมีเรื่องกับคนตระกูลหวาง 

ที่สำคัญบริษัทเรามั่นคงและยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้ได้  เป็นเพราะพนักงานทุกระดับมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ไม่คิดเอาความลับบริษัทไปแพร่งพราย  ด้วยผืนแผ่นดินในฮ่องกงมีมูลค่ามากกว่าทองคำ  การเจรจาซื้อขายแต่ละครั้งจึงต้องอาศัยจังหวะที่เหมาะสมและความรวดเร็ว  เพื่อเป็นเจ้าของแผ่นดินทองนั้นๆ  และหากใครสักคนในบริษัทคิดไม่ซื่อไปบอกบริษัทคู่แข่ง  ที่ผืนนั้นๆคงหลุดมือ  เม็ดเงินที่จะเข้าบริษัทคงหายวับไปกับตา  ดังนั้นสายสัมพันธ์ที่ดีของคนในบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญ  ยิ่ง Joe  F.H.  Estate มีแต่คนของตระกูลโจวด้วยแล้ว  ปัญหาที่ว่าจึงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่กรณีของที่ดินในมือผม  ปาปาคงได้กลิ่นไม่ดีนัก  ถึงมอบหมายมันให้ผมได้จัดการด้วยตัวเอง  ซึ่งหากเป็นกรณีปกติในส่วนการโอนที่และจ่ายเงินนั้น  บริษัทเราจะมีคนที่ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว

หลังจากนั้นฝ่ายสำรวจหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นฝ่ายที่คอยเสาะหาผืนแผ่นดินทองคำ  ได้นำเสนอที่ทางผืนใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง  ด้วยเจ้าของเตรียมปล่อยขาย  และถูกตัดสินใจโดยปาปาไว้แล้วขั้นหนึ่ง  ซึ่งในคณะกรรมการทั้งหมดต้องร่วมตัดสินใจอีกที  แต่มติส่วนใหญ่ย่อมไม่เห็นต่างจากผู้ที่เป็นประธานควบตำแหน่งพี่ใหญ่ของตระกูล  ก่อนฝ่ายบัญชีจะแจ้งเรื่องงบต่างๆไม่ว่าจะเป็นงบลงทุนของบริษัท  งบทุนสำรอง  หรือแม้แต่รายได้และเงินปันผลประจำปี  รวมถึงโบนัสที่พนักงานจะได้รับด้วย  ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าตัวเลขดังกล่าวจะทำให้ทุกคนพอใจมากแค่ไหน  สุดท้ายจึงปิดประชุมใหญ่ประจำเดือนของบริษัท Joe  F.H.  Estate

“ว่าไงเรา  ได้ข่าวว่าลูกสาวอาไปทำเรื่องไว้ซะใหญ่โต  อาต้องขอโทษแทนยัยจินนี่ด้วยนะจ๊ะ”  ทันทีที่ในห้องเหลือเพียงบรรดาญาติๆ  เสียงนุ่มติดหวานของผู้หญิงหนึ่งเดียวในห้องก็ดังขึ้น  ซึ่งเจ้าของเสียงนี้คืออาหญิงของผมเอง 

อาหญิงหมิงอี้ซานน้องสาวของปาปาฟู่สือ  และเป็นมามาของยัยจินนี่ญาติสาวตัวแสบของผมเอง  ซึ่งหากตีความในสิ่งที่ท่านพูด  ท่านคงจะรู้เรื่องที่ลูกสาวคนเดียวทำไว้กับผมเมื่อห้าปีก่อนเข้าแล้ว

“อาหญิงไม่ต้องขอโทษแทนจินนี่หรอกครับ  เพราะยัยนั่นขอโทษผมด้วยตัวเองแล้ว  แถมตอนนี้ผมกับฝูหรงก็เข้าใจกันดีแล้วด้วย”  อาหญิงพยักหน้าช้าๆพร้อมคลี่ยิ้มหวานพาให้ห้องทั้งห้องสว่างสดใส  จนบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่อย่างปาปาและอาเจ็กทั้งสองผู้เป็นน้องชายท่านนั้นจุดรอยยิ้มมุมปากไม่ต่างกัน

“คงไม่ใช่แค่เข้าใจมั้ง  ได้ข่าวว่าพาเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยแล้วนี่  ใช่มั้ยพอล”  ส่วนคนนี้น่ะญาติสนิทผมเอง  โจวฉิงซูลูกชายคนเดียวของอาโจวฉิงซือ  อาเจ็กผู้เป็นน้องคนที่สามของปาปา  ฉิงซูอายุน้อยกว่าผมไม่กี่เดือน  ทำให้เราสนิทกันยิ่งกว่าเครือญาติ  เปรียบเป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิทอีกคนของผมก็ว่าได้

ผมกระตุกยิ้มพร้อมยักคิ้วใส่ฉิงซูอย่างกวนๆแทนการตอบรับ  ซึ่งอีกฝ่ายเองก็อ่านท่าทีตอบรับกลายๆ  ที่ไม่มีแม้แต่การปฏิเสธของผมออก  ถึงกลับชี้หน้าแสยะยิ้มส่งมาให้ด้วยความอิจฉา  แถมยังหันไปบ่นพึมพำเรื่องที่ผมมีอะไรแล้วไม่ยอมบอก  กับญาติสนิทอีกคนของเรา  อย่างโจวหมินไท่ที่อายุน้อยกว่าเราร่วมปี  ซึ่งหมินไท่เองดันเออออโวยวายใส่ผมเช่นกัน  ทำเอาปาปาและอาทั้งสามส่ายหน้าระอาในท่าทางเป็นเด็กไม่รู้จักโตของพวกเรา

“พี่ใหญ่  พวกเรานัดรวมครอบครัวกันสักวันดีมั้ย  ไม่ได้เจอหน้าค่าตากันครบนานแล้วนะครับ  และถือโอกาสเปิดตัวลูกสะใภ้ของพี่ใหญ่ให้พวกเรารู้จักด้วยเลย  เหม่ยซินเองเปรยๆว่าอยากเจอหลานสะใภ้คนโตของตระกูลอยู่เหมือนกัน”  ข้อเสนอของอาเจ็กโจวฝานไท่ผู้เป็นปาปาของหมินไท่  และเป็นน้องชายคนเล็กของปาปาผม  ได้รับการสนับสนุนทันที

“ฮึๆ  ดีเหมือนกัน  จัดซะเสาร์นี้เลย  จะได้รู้จักหน้าค่าตากันไว้”  เสาร์นี้ก็อีกสองวันน่ะสิครับ  ดูท่าปาปาเองก็คงอยากอวดสะใภ้คนแรกของตระกูลอยู่เหมือนกันนะเนี่ย 

“ยิ้มไม่หุบเชียวนะไอ้หลานชาย  ดีใจที่จะได้เปิดตัวคนรักล่ะสิ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะให้กับคำหยอกเย้าของอาฉิงซือ  ด้วยสิ่งที่อาเจ็กพูดไม่ต่างจากสิ่งที่ผมรู้สึกสักนิด

“ตกลงคนนี้ผ่านหนูจินนี่แล้วใช่มั้ย”  ความแสบซ่าเอาเรื่องของยัยจินนี่เป็นที่รู้ดีของบรรดาผู้ใหญ่ครับ  ว่ายัยเด็กนั่นหวงญาติผู้ชายของตัวเองทุกคน  ไม่เว้นแม้แต่ฉิงซูและหมินไท่ก็เจอฤทธิ์ยัยจินนี่มาแล้วถ้วนหน้า  ซึ่งพอผมรับคำอาเจ็กฝานไท่แล้ว  สองญาติสนิทถึงกลับอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูเลยทีเดียว

“จริงดิ!  เป็นไปได้ไง”  เสียงนี้ของฉิงซือที่มาพร้อมสีหน้าแตกตื่น

“เฮ้ย!  ยัยจินนี่การ์ดตกแล้วเหรอ”  ส่วนนี่เป็นของหมินไท่ที่มีสีหน้าแปลกใจปนไม่เชื่อถือ

“ฮึๆ  ถ้าไม่เชื่อ  เสาร์นี้พวกนายก็มาดูกับตาเองแล้วกัน”  ผมกลั้วหัวเราะอย่างอวดๆ  พร้อมส่งคำท้าทายให้ญาติสนิททั้งคู่  ทำเอามันสองคนกลอกตาส่ายหน้าหวือ  ก่อนพร้อมใจกันกระแทกเสียงใส่ด้วยความหมั่นไส้

“เออ!!” 

ในสายตาของผมช่วงนี้จินนี่และฝูหรงไม่ต่างจากเพื่อนสนิท  มีโทรหาและไปมาหาสู่กัน  แม้ตอนอยู่ด้วยกันกระต่ายน้อยของผมจะเป็นฝ่ายเงียบที่จะฟังมากกว่าพูด  ไม่เหมือนยัยแม่มดตัวแสบที่คอยเจื้อยแจ้ว  แกมบงการให้ทำนู่นนี่  แต่พอย้อนกลับมาสังเกตคนของตัวเองก็ให้รู้ว่าฝูหรงไม่ได้มีอาการอึดอัดลำบากใจอะไร  ออกจะสนุกและมีความสุขด้วยซ้ำ  กับกิจกรรมหรือบทสนทนาที่จินนี่เป็นคนเริ่ม  แต่คราวที่กระต่ายน้อยได้พูดได้ขัดสักที  ก็ทำเอายัยตัวแสบอึ้งและได้แต่นิ่งฟัง  ที่น่าแปลกใจคือยัยจินนี่ดันยอมรับคำแนะนำ  หรือการตัดสินใจของฝูหรงอย่างง่ายดาย  ในแบบฉบับที่คนข้างตัวและคนที่รู้จักจินนี่มานานยังทึ่งกับความสามารถนี้ของฝูหรง

หากให้ผมวิเคราะห์คงเกิดจากคนสองคนที่มีความต่างสุดขั้ว  ตั้งแต่การเลี้ยงดู  วิถีชีวิต  หรือแม้แต่มุมมองความคิด  จนทั้งคู่ได้มาเจอกัน  แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทั้งคู่มีเหมือนกัน  คือการโหยหามิตรภาพของเพื่อนสนิท  จึงไม่น่าแปลกใจที่ฝูหรงและจินนี่  จะกลายมาเป็นเพื่อนซี้ต่างขั้วเหมือนในปัจจุบัน

........................................

“ตื่นเต้นเหรอครับฝูหรง”  ผมเข้าไปจับไหล่บอบบางภายใต้เสื้อสเว็ตเตอร์สีชมพูอ่อนของบุคคลที่ลุกลี้ลุกลน  เดินกลับไปกลับมาภายในห้องนอนของเรา  และมีแววตาว้าวุ่นภายในดวงตากลมโตที่ไม่มีแว่นบดบังดังเดิม  ได้เฉลยให้ผมรู้ว่าคนน่ารักของผมไม่เป็นตัวของตัวเองนัก 

ไม่ใช่แค่ท่าทางในยามนี้เท่านั้น  แต่รูปกายภายนอกของฝูหรงก็ดูแปลกตาไปไม่น้อย  ไม่ใช่ไปในทางเลวร้าย  เรียกว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง  ไม่ต่างจากซินเดอเรลล่าที่ถูกแม่มดตัวแสบแปลงกายให้สักนิด  ฟังไม่ผิดหรอกครับที่ผมใช้คำว่าแม่มดแทนคำว่านางฟ้า  และแม่มดคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่ยัยจินนี่ตัวแสบ  ที่ขโมยคนรักของผมไปปรับลุคมาใหม่ทันที  ยามที่ยัยนั่นรู้ข่าวเรื่องนัดรวมพลคนครอบครัวโจว 

เริ่มตั้งแต่ทรงผมที่เคยยาวระต้นคอของฝูหรงถูกตัดแต่งให้สั้นขึ้น  พร้อมเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอมทอง  ทำให้ใบหน้าที่ใสอยู่แล้วดูสว่างน่ามองยิ่งขึ้น  และแลดูเด็กลงไปอีก  ไม่เท่านั้นแว่นหนากรอบดำคู่กายของเจ้าตัวก็ถูกยึด  และถูกบังคับให้ใส่คอนแทคเลนส์แทน  เพื่อโชว์ดวงตากลมโตที่ล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนาชัดตา  และสิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลฝูหรงตั้งแต่แรกเจอด้วย  พร้อมกับมหกรรมช้อปกระหน่ำที่หนักไปทางเสื้อผ้ารองเท้า 

คงไม่ต้องบอกว่าใครจ่ายถ้าไม่ใช่ผม  เพราะทันทีที่ผมหายตกตะลึงกับลุคใหม่แสนดูดีของกระต่ายน้อย  บิลค่าใช้จ่ายที่ยาวเหยียดก็ถูกยื่นมาให้  ไม่เท่านั้นท้ายบิลยังมีค่าเซอร์วิสชาร์ตที่ถูกเขียนด้วยลายมือ  ในมูลค่าที่สูงลิ่วไม่ต่างจากการปล้นกันต่อหน้า  แต่นาทีนั้นจนถึงเดี๋ยวนี้ผมไม่นึกเสียดายกับเม็ดเงิน  ที่โดนยัยแม่มดตัวแสบปล้นไปสักนิด  ด้วยมันช่างคุ้มแสนคุ้มกับความน่ารักน่าใคร่ของคนตรงหน้าผมในขณะนี้

ผมระบายยิ้มใส่ดวงตาไม่มั่นใจคู่ตรงหน้า  พร้อมไล้หลังมือไปยังข้างแก้มใส  ก่อนจะโอบร่างบอบบางแสนนุ่มนิ่มเข้าหาอกช้าๆ  และโยกตัวร่างน้อยไปมาเบาๆ  เหมือนการกล่อมเด็กน้อยเสียขวัญให้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

“มั่นใจในตัวเองนะครับ  กระต่ายน้อยของพอลออกจะน่ารัก  เชื่อได้เลยว่าทุกคนต้องเอ็นดูไม่ต่างจากมามาปาปาหรอก  เราลงไปข้างล่างกันเถอะ  สะใภ้ใหญ่ต้องลงไปช่วยกันรับแขกน้า”  ผลของการหยอกเย้าทำเอากระต่ายน้อยในอ้อมกอดผมดิ้นเบาๆ  มีลงมือทำร้ายกันนิดหน่อย 

เมื่อผมคลายอ้อมกอด  กระต่ายน้อยก็เงยหน้าขึ้น  แม้ดวงหน้าสดใสจะดูบูดบึ้ง  แต่แววตาที่เคยว้าวุ่นกลับทอประกายสดใส  จนผมยกยิ้มมุมปากได้มากกว่าเดิม  แต่ก่อนที่ผมจะหมุนตัวพาเจ้าของข้อมือน้อยในอุ้งมือออกจากห้อง  ชายเสื้อด้านหน้าผมก็ถูกรั้งไว้  ยามหันกลับมาก็เห็นสีหน้าขัดเขินแกมไม่แน่ใจของกระต่ายน้อย  จนผมนึกแปลกในอาการที่เห็น  แต่ผมยังคงระบายยิ้มและส่งคำถามผ่านแววตา

“ก่อนลงไป  เอ่อ...ขอกำลังใจหน่อยได้มั้ยพอล”  จบประโยคดังกล่าว  แก้มใสขึ้นสีคาตา  ก่อนเปลือกตาบางใสที่ประดับไปด้วยขนตาหนา  จะกระพือปิดแววตาขัดเขินลง  พร้อมกับที่ผมรู้สึกถึงแรงขยุ้มจากฝ่ามือน้อยที่ชายเสื้อ

คำพูดและท่าทางของกระต่ายน้อยแสนรักตรงหน้า  ชวนให้ผมตีความเข้าข้างตัวเอง  จนหัวใจกระแทกแผ่นอกดังตูมตามก่อนจะเต้นถี่รัวชนิดที่ว่า  ผมกลัวว่าหัวใจจะกระดอนออกมาด้านนอกเสียให้ได้  ฝูหรงไม่เคยแสดงออกแบบนี้มาก่อน  เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าทำเอาผมแทบคลั่งใจตาย 

ผมกลั้นลมหายใจไว้อย่างไม่รู้ตัว  ก่อนโน้มใบหน้าเข้าหาดวงหน้าแดงซ่านอย่างช้าๆ  และต้องอมยิ้มให้กับเปลือกตาบางใสที่ขยับไปมา  หัวคิ้วที่มุ่นเข้าหากันน้อยๆ  และริมฝีปากนุ่มสีสดที่เผยอเปิดรออย่างจงใจ  ผมตัดสินใจประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่ม  และสอดลิ้นเข้าหาเรียวลิ้นหวาน  เกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าอย่างนุ่มนวล  ปล่อยใจไปกับสัมผัสอ่อนหวาน  ก่อนรีบตัดใจด้วยความเสียดายจับใจ  ด้วยกลัวว่าจะเลยเถิดจนคุมตัวเองไม่อยู่  และประทับจูบลงบนหน้าผากนวลเนียนเนิ่นนาน  จบด้วยการกระซิบแผ่วเบาข้างแก้มใสกลิ่นรัญจวน

“ชื่นใจจังกระต่ายน้อย...ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น  ฝูหรงมีพอลอยู่แล้วทั้งคน  พอลพร้อมจะเป็นทุกอย่างที่ฝูหรงต้องการ  กับแค่กำลังใจทำไมจะให้ไม่ได้  เอาไปทั้งใจเลยดีกว่า....ฮึๆ  ไปครับ”  ผมยืดตัวขึ้น  ตัดใจผละห่างจากกลิ่นกายหอมๆ 

ขืนอยู่นานกว่านั้น  เรื่องงานข้างล่างคงลืมไปได้เลย  เพราะผมคงได้หลงมึนเมามัวแต่มอบกำลังใจให้คนน่ารักอยู่บนนี้อย่างแน่นอน

“เข้าใจเลือกนะเรา...อีลิน่า  ได้เห็นฝูหรงแบบนี้  ทำเอาฉันชักอยากมีลูกชายน่ารักๆแบบนี้อีกสักคนเลย”  ผมก้มหน้าส่งยิ้มใส่ตาคนน่ารักที่เงยขึ้นมาส่งยิ้มให้กันด้วยตายิบหยี  เมื่อเห็นมามาอีลิน่าระบายยิ้มภูมิใจให้เรา  ก่อนท่านจะหันไปทางคู่สะใภ้อย่างอาผู้หญิงเหม่ยซิน  ผู้มีสีหน้าชื่นชมแกมอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด

“โธ่มามาครับ  ผมน่ารักสู้ฝูหรงไม่ได้ตรงไหน  หรือจะให้ผมหาสะใภ้เข้าบ้านแบบนี้สักคนดีมั้ย”  หมินไท่เย้าอาผู้หญิงเหม่ยซินผู้เป็นมามายิ้มๆ  จนคนเป็นมามาถึงกลับสะบัดค้อนเข้าใส่  และหยิกหมับเข้าที่เอว  ทำเอาเจ้าตัวถึงกับแกล้งร้องซะลั่น  แต่ไม่มีใครออกอาการสงสารสักคน  มีแต่หัวเราะเยาะให้เท่านั้น

“ฮ่าๆ  นายก็กล้าพูดนะว่าตัวเองน่ารัก  แต่ถ้าเป็นประเด็นหลัง  อย่างการหาแฟนน่ารักๆแบบฝูหรง  ยังพอเข้าท่าให้อาเหม่ยซินยินดีได้หน่อย  จริงมั้ยพอล”  ผมแสยะยิ้มใส่ตาฉิงซูที่กระทุ้งศอกเข้าข้างเอว  แต่ดันส่งสายตาเจ้าชู้ให้คนข้างกายผม 

ฝูหรงเองถึงกลับแก้มแดงก้มหน้างุด  และขยับตัวเข้าหาผมยิ่งขึ้น  ผมจึงได้โอกาสโอบไหล่บอบบาง  และลงมือลูบหัวไหล่เนียนเป็นการปลอบกระต่ายน้อยขี้ตื่น  แม้จะถูกใจในอาการของฝูหรง  แต่จะไม่ให้เอ่ยปรามญาติสนิทก็ใช่ที่  ผมจึงขึงตาเข้าใส่ฉิงซูและหมินไท่  ที่นาทีนี้พวกมันกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนของผมไม่ต่างกัน

“ฉิงซูจริงของนาย  สงสัยฉันต้องรีบหาคนน่ารักๆแบบนี้สักคนแล้วล่ะ  อยากมีแฟนให้คนอื่นอิจฉาแบบนายบ้างว่ะพอล”  ยังครับยังไม่จบ  หมินไท่แซวกระต่ายน้อยของผม  เสียจนเจ้าตัวขยับตัวแทบจะเข้ามาสิงร่างผมแล้ว 

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะจัดการอะไร  กลับมีนางฟ้าประจำตัวของกระต่ายน้อยเข้ามาช่วยซะก่อน  และดูท่าการมาของจินนี่จะกลายเป็นการปรากฏกายของแม่มดตัวแสบของสองญาติสนิทแทนเสียได้

“หืม  หมินไท่  ฉิงซู  จะมีแฟนเหรอ  ทำไมจินนี่ไม่รู้เรื่อง”  ถึงคราวที่ผมจะได้เป็นฝ่ายยิ้มเยาะบ้างแล้ว  และไม่ได้มีเพียงผมเท่านั้น  แต่บรรดามามาของพวกเราทั้งหมดที่แต่แรกจับกลุ่มคุยกันเบาๆอยู่ไม่ห่าง  ยังหันมาให้ความสนใจ  ก่อนจะกลั้วหัวเราะน้อยๆ  ยามอาหญิงหมิงอี้ซานที่เดินตามหลังลูกสาวมากระซิบบอก

สองหนุ่มญาติสนิทถึงกลับทำหน้าไม่ถูก  จะยอมรับก็ไม่กล้า  ครั้นจะปฏิเสธก็ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจจริงๆ  จึงกลายเป็นอาการอิหลักอิเหลื่อวางตัวไม่ถูก  พาเอาคนอื่นๆหยุดยิ้มไม่ได้  จะมีก็แต่กระต่ายตากลมของผมนี่แหละ  ที่เพิ่งได้โอกาสเงยหน้าขึ้นมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ  ก่อนจะเงยหน้ามาขอคำตอบจากผม  ด้วยตาโตๆและมีอาการเอียงคอนิดหน่อย  ท่าทางน่ารักจับใจจนผมอยากจะฟัดกอดซะตรงนี้  แต่สิ่งที่ผมทำคือก้มหน้ากระซิบคำตอบให้ได้ยินกันสองคน

“อาการของแม่มดน้อยหวงพี่ชายน่ะครับ”  สิ้นเสียงผม  กระต่ายน้อยเบิกตากว้างแววตาระยับ  และลากเสียงยาวตอบรับ  พร้อมหัวเราะน้อยๆอย่างน่าฟัง

“อ๋อๆๆ  คิกๆ...เอ่อ  พอลเอาหน้าออกห่างๆหน่อย”  พอได้อยู่ใกล้ชิดคนน่ารัก  ผมก็ลืมตัวอยู่เรื่อยเผลอสร้างโลกส่วนตัวตลอด 

เมื่อคนน่ารักทักซะขนาดนี้  จึงจำใจต้องผละออก  ก่อนจะส่งยิ้มแจกจ่ายให้เจ้าของสายตาทุกคู่ที่มองมา  จะมีชะงักบ้างก็ต่อเมื่อมีสายตาบางคู่มองมาอย่างขัดใจ  ยัยจินนี่สะบัดค้อนใส่ผมนิด  ก่อนจะเข้ามาฉกตัวคนของผม  ที่ได้กลายร่างจากกระต่ายน้อยขนปุยไปเป็นกุ้งต้มตัวแดงเถือก

“หึ!  ช่วยกันดีนักนะ...ฝูหรงไปกับจินนี่เถอะ”  หลังจากต่อว่าผมอย่างรู้ทันแล้ว  แม่มดตัวร้ายก็ลากฝูหรงออกไป  พร้อมหันไปเอ่ยขอตัวจากบรรดามามาของพวกเรา

“ยินดีด้วยนะพอล  แฟนนายน่ารักจริงๆว่ะ  มีแบบนี้เหลืออีกสักคนให้ฉันมั้ย”  ผมที่มองตามหลังสองร่างที่เดินเข้าหากลุ่มปาปาและอาเขยด้วยความสุขใจนั้น  ต้องหันมาตอบรับประโยคยินดีเปิดเผยของฉิงซู  ก่อนจะส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของมัน

“ขอบใจ...คนน่ารักแบบนั้นน่ะมีแค่คนเดียว  อยากได้ก็ต้องเสาะหาเอาเองสิวะ  ที่สำคัญหามาได้แล้ว  ต้องหาให้ผ่านยัยจินนี่ตัวแสบด้วยล่ะ  ฮึๆ”  ฉิงซูถึงกลับถอนใจพรืด  แต่ใบหน้าก็ยังคงอมยิ้ม  และมองไปทางเดียวกับจุดปลายสายตาของผมตอนนี้ 

ผม  ฉิงซู  และหมินไท่คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน  ด้วยไม่ว่ายัยจินนี่จะแสบซ่าสร้างความวุ่นวายให้พวกเรามากแค่ไหน  แต่เธอก็ยังคงเป็นทั้งญาติและน้องสาว  ที่พวกเรารักและเอ็นดูไม่เปลี่ยน

“ฉันเชื่อแล้ว  ว่ายัยจินนี่ยอมรับแฟนนายได้แล้วจริงๆ  เคล็ดลับคืออะไรวะ  บอกกันมั่งสิ”  ผมได้แต่ตบไหล่และกลั้วหัวเราะใส่หมินไท่  แกล้งอมพะนำให้มันยิ่งอยากรู้ 

แต่จริงๆคือผมไม่มีอะไรจะบอก  เพราะกว่าที่ความรักของเราจะมาถึงจุดนี้  ยัยตัวแสบของตระกูลโจวก็เข้ามาปั่นป่วน  จนรักของเราสะบักสะบอมไปไม่น้อย  ด้วยเกิดความเข้าใจผิดและต้องห่างกันไปถึงห้าปี

เมื่ออาหารขึ้นโต๊ะพร้อมแล้ว  มามาอีลิน่าจึงชวนพวกเราเข้าห้องอาหาร  ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ปาปาฟู่สือจะนั่งหัวโต๊ะ  โดยมีมามานั่งฝั่งซ้ายของท่าน  ตามมาด้วยผมกับฝูหรง  คู่ของอาฉิงซือกับอาสะใภ้และปิดท้ายที่ฉิงซู    ส่วนฝั่งขวาของปาปาคืออาหญิงหมิงอี้ซานที่มีจินนี่นั่งคั่นระหว่างปาปากับมามาของตัวเอง  ตามมาด้วยครอบครัวของอาฝานไท่ซึ่งมีหมินไท่นั่งปิดท้าย
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของวันรวมครอบครัวตระกูลโจวเป็นไปอย่างอบอุ่นและชื่นมื่น  ไม่ต่างจากทุกครั้งที่เคยมีมา  แต่วันนี้พิเศษตรงสมาชิกใหม่ผู้น่ารักที่ได้รับความเอ็นดูจากทุกคน  ทำให้คนที่ขาดความมั่นใจในการวางตัวแต่แรก  ถึงกับระบายยิ้มเต็มหน้าตลอดเวลา  และมีบางช่วงเวลาที่นั่งก้มหน้าแก้มแดงเป็นกระต่ายน้อยขี้อาย  ยามโดนสองตัวป่วนญาติสนิทของผมแซวเล่น 

เมื่อจบมื้ออาหารที่ยาวนานเป็นพิเศษ  เพราะมีคนพิเศษของผมร่วมโต๊ะนั้น  เป็นธรรมเนียมอีกเหมือนกันที่พวกเราจะเข้ามาจิบไวน์ในห้องรับรอง  ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มีพื้นที่กว้างกลางห้อง  เพื่อทำกิจกรรมบางอย่างที่ช่วยในการย่อยมื้อค่ำได้เป็นอย่างดี  เมื่อทุกอย่างพร้อมและเครื่องดื่มสีสวยไหลเวียนไปทั่วร่าง  ปาปาฟู่สือที่เปรียบเสมือนประมุขตระกูลโจว  จึงเป็นผู้นำเปิดฟลอร์

“อีลิน่า  ให้เกียรติฉันได้มั้ย”  ปาปายื่นมือไปตรงหน้ามามา  พร้อมรอยยิ้มละมุนที่นานๆผมจะได้เห็นสักครั้ง  ก่อนมามาจะตอบรับเสียงหวาน  และวางมือลงบนฝ่ามือของท่าน  พร้อมกับเสียงปรบมือของทุกคนที่เหลือดังขึ้น  ไม่เว้นแม้แต่กระต่ายน้อยที่มีทีท่าสงสัยใคร่รู้  แต่ไม่ได้เอ่ยปากถาม  และได้แต่ทอดมองบุพการีของผมเดินเคียงคู่กัน

เมื่อท่านทั้งคู่เดินไปอยู่กลางห้องและจัดวางท่าพร้อมในการเต้นรำ  เพลงวอลซ์ช่วงจังหวะเนิบนาบสบายหูก็ดังขึ้น  ปาปามามาสืบเท้าตามจังหวะอย่างสวยงาม  ก่อนบรรดาคู่อาๆของผมจะทยอยเดินเข้าฟลอร์  และเต้นรำไปกับคู่ของตัวเองอย่างชื่นมื่น 
หากเป็นครั้งก่อนๆช่วงนาทีนี้ผมจะนั่งจิบไวน์ซะมากกว่า  โดยที่หมินไท่และฉิงซูจะสลับกันไปเป็นคู่เต้นรำให้กับสาวน้อยหนึ่งเดียวของเรา  ซึ่งตอนนี้ฉิงซูและจินนี่ก็ไปอยู่กลางฟลอร์พร้อมคู่ใหญ่ทั้งสี่คู่แล้ว   

ณ วันนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว  เมื่อผมมีคนรักอยู่ข้างกาย  ผมจะนั่งเดียวดายอยู่ทำไมจริงมั้ยครับ  ซึ่งทันทีที่ผมโค้งเชิญคนน่ารักของตัวเองที่มีทีท่าขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด  และทำท่าเหมือนจะปฏิเสธอยู่นั้น  หมินไท่ที่นั่งจิบไวน์อยู่ข้างๆก็เปิดปากแซวขึ้นมา

“วันนี้นึกว่านายจะนั่งจิบไวน์เหมือนเคยซะอีก  ฉันก็ว่าจะโค้งฝูหรงเต้นรำแทนนายแล้วนะเนี่ย  ฮึๆ”

“ฝันไปเถอะ  คนนี้น่ะสิทธิ์ขาดของฉันคนเดียว...ให้เกียรติเต้นรำกับพอลหน่อยนะครับฝูหรง” 

สุดท้ายคนน่ารักก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของผมจนได้  แต่ก่อนที่เราจะเริ่มเต้นรำด้วยกัน  ฝูหรงเขย่งปลายเท้าและยื่นใบหน้ามากระซิบข้างหูผม  ว่าเจ้าตัวเต้นรำไม่เป็น  หากไม่ใช่เพราะน้ำเสียงแผ่วเบาและสีหน้าขัดเขิน  ผมคงหลุดหัวเราะออกไปให้คนน่ารักได้โมโหแล้ว  แต่สิ่งที่ผมทำคือการก้มหน้าไปกระซิบข้างใบหูหอมๆ  และใช้สองมือประคองข้างเอวบาง

“เต้นไม่เป็นไม่ใช่ปัญหา  แค่ฝูหรงกอดพอลไว้ก็พอแล้ว”  สิ้นเสียงผมยกเอวบางขึ้นนิด  เพื่อให้ฝ่าเท้าทั้งคู่ของฝูหรงวางอยู่บนหลังเท้าของตัวเอง  และเป็นจังหวะพอเหมาะที่วงแขนน้อยคล้องเข้ารอบคอด้วยความตกใจ

“ปล่อยตัวให้สบาย  ปล่อยใจไปกับพอลนะครับ”

ผมใช้หูจับจังหวะเสียงเพลง  และโอบประครองร่างบางไว้กับอก  ก่อนสาวเท้าพาเราทั้งคู่เต้นรำไปพร้อมกัน  ยามก้มมองดวงหน้าสว่างใสก็ให้คลี่ยิ้มตาม  เมื่อริมฝีปากจิ้มลิ้มระบายยิ้มสดใสส่งตรงมาให้ผม  พร้อมกับแววตาตื่นเต้นกับการเต้นรำครั้งแรกของเรา 
ผมเชื่อว่าอีกไม่นานกระต่ายน้อยขี้อายของผม  คงได้กระโดดโลดแล่นไปมาอยู่บนฟลอร์  และเต้นรำเคียงข้างผมด้วยตัวเองได้  แต่หากไม่เป็นอย่างที่คิด  ผมก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายโอบประคองร่างน้อย  และพาเราเต้นรำไปพร้อมกันแบบนี้ตลอดไป

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

งื้อออ  หวานฉ่ำแทบละลายกันถ้วนหน้ามั้ยเอ่ย   :z1:
ตอนนี้เปิดตัวสะใภ้ใหญ่กันไปด้วยความชื่นมื่น  สุขถ้วนหน้า
โดยเฉพาะกับสองหนุ่มคู่หวานของเรา  และคงมีใครอีกหลายคน
อยากมีโมเม้นท์แบบในช่วงท้ายของตอนบ้างล่ะน้า   :laugh:

ตอนหน้ามีตัวยุ่งตัวป่วนมาอีกละ  จะเป็นใครนั้นต้องติดตาม
เจอกันวันศุกร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตาม

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

ปล.2 ส่วนนิยายชุด Lover ทั้ง 3 เรื่องจะเปิดจองเร็วๆนี้ค่ะ

 :pig4:   :กอด1:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
จารอตัวป่วน ว่าใครช่างกล้า  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านแล้วจะเป็นเบาหวานไหมเนี่ย :hao6:

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย

หวานมว้ากกกกกก

ต่ายน้อยน่ารักเพิ่มขึ้นอีกแล้ววววว

จะให้พวกป้าหลงไปถึงไหนลูกกกกกกก ><

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :o8: :-[ :impress2:
อ๊ายยยยยยยยยย หวานอะ เล่นเอาน้ำตาลขายไม่ออกกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ตอนนี้พอลเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุด และคงเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุด  เพราะคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ยอมรับและเอ็นดูฝูหรงที่เป็นคนรักของพอลด้วยความเต็มใจ  ต่อให้มีตัวป่วนมาอีกสักกี่คน  รับรองว่าทุกคนพร้อมที่จะคอยกปกป้องความรักของคู่นี้  โดยเฉพาะจินนี่ ที่ตอนนี้เปลี่ยนจากแม่มดน้อย กลายเป็นนางฟ้าน้อยที่น่ารัก

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: คู่นี้เขาหวานกันให้คนโสดอิจฉาทุกที

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด