*หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]  (อ่าน 152472 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tun_Bow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
พอลมีจินนี่เป็นไผ่ตายสินะ คุคุคุ
เอาจินนี่มาสู้แทน

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 23

โจวพอล

“ยังไงก็พาญาติเรามาที่นี่ด้วย  มาทำความรู้จักกันไว้  ให้เห็นหน้าค่าตากันหน่อย  ไหนๆเราก็ได้ชื่อว่าเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว”  สิ้นเสียงประมุขของบ้านอย่างปาปาฟู่สือ  สมาชิกใหม่คนล่าสุดของตระกูลโจวก็รับปากด้วยท่าทีแข็งขัน  ทั้งๆที่ผิวแก้มระเรื่อกับข้อความสุดท้ายของท่าน

ผมกับมามาได้แต่ส่งยิ้มให้กัน  และปล่อยให้ปาปาได้ซักถามลูกสะใภ้อย่างเต็มที่  พร้อมคอยคีบอาหารให้คนข้างตัวของเรา  เพราะดูท่าปาปากับลูกสะใภ้จะติดลมคุยกันไม่เลิก  จบเรื่องนั้นเปลี่ยนมาเรื่องนี้  ซึ่งส่วนมากก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฝูหรงแทบทั้งสิ้น  ทำเอาผมยิ้มไม่หุบที่ได้รู้ว่าปาปาเอ็นดู  และมอบความรักให้คนรักของผมไม่น้อย 

ส่วนจุดเริ่มต้นของประเด็นสนทนาที่ได้ยินก่อนหน้านั้น  เกิดมาจากการที่ผมกับฝูหรงมาไม่ทันมื้อเย็นของบ้าน  เพราะต้องไปส่งนายแพทริคนั่นที่คอนโด  ไหนจะเสียเวลาไปกับการต่อปากต่อคำ  และกว่าจะฝ่าการจราจรมาถึงบ้านได้อีก  ทำให้ปาปามามาต้องหิ้วท้องรอ 

ฝูหรงรู้สึกผิดมากที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องลำบาก  ก่อนคนน่ารักจะรีบเข้าไปขอโทษพวกท่านเสียเป็นทางการ  ทำเอาปาปามามาตกใจใหญ่  จึงเป็นที่มาของบทสนทนาดังกล่าว  ด้วยฝูหรงเริ่มบอกเล่าถึงเหตุผลที่ทำให้เรามาช้า  แต่ยังดีที่ได้มามาชักชวนให้เริ่มมื้อเย็น แบบทานไปด้วยคุยไปด้วย  ซึ่งหาได้น้อยครั้งที่มื้ออาหารของบ้านเราจะครื้นเครง  ไปด้วยเสียงพูดคุยแทรกเสียงหัวเราะเป็นบางช่วงเช่นนี้  คงเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่รับสะใภ้ใหม่เข้าบ้านนี่แหละ  จนถึงนาทีนี้มื้อเย็นเพิ่งจบลง

“พอลตามฉันมา”  ปาปาไม่เพียงใช้น้ำเสียงจริงจังกับผมเท่านั้น  แต่แววตาที่ท่านมองมายังผมก็จริงจังไม่ต่างกัน  ท่าทีแบบนี้ของท่านคงไม่พ้นต้องการรู้ความคืบหน้าของ  ‘เรื่องนั้น’ 

ผมรับคำท่าน  แต่ระหว่างที่ผมจะหมุนตัวเดินตามหลังปาปาไปนั้น  มือเล็กๆก็คว้าเข้ามาที่ข้อมือ  ยามหันไปมองก็พบว่าฝูหรงเงยหน้ารอผมอยู่ก่อนแล้ว  แถมดวงตาที่ได้สบก็ฉายชัดถึงความกังวล  กระต่ายน้อยคงกลัวว่าผมจะโดนปาปาต่อว่าเรื่องที่เรามาสาย  ผมจึงส่งยิ้มบางเบาใส่ตากลมๆคู่นั้น  พร้อมลูบผมนุ่มไปด้วย

“ไม่มีอะไรครับ  เดี๋ยวพอลมา”  เจ้าของหัวกลมๆภายใต้ฝ่ามือยอมพยักหน้าให้ผมช้าๆ  แม้แววตายังไม่คลายกังวลไปมากนักก็ตาม  แถมฝูหรงยังไม่ยอมปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระง่ายๆ  จนมามาที่นั่งอยู่ด้วยต้องเอ่ยปากว่าไม่มีอะไรต้องกังวลนั่นแหละ  กระต่ายน้อยขี้กังวลถึงยอมทิ้งมือลงข้างตัว

ผมจึงตัดสินใจก้มหน้ากดจมูกแช่เข้าที่หน้าผากเนียน  ท่ามกลางสายตาของมามาอีลิน่าที่มองมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ  พร้อมกระซิบบางเบาขยายความว่า  การที่ปาปาเรียกผมไปนั้นเป็นเรื่องงาน  และได้แต่บอกเจ้าตัวว่าไม่ต้องเป็นห่วง  จนผมได้ยินเสียงอือออตอบรับนั่นแหละ  ถึงจะปลีกตัวเดินตามปาปาเข้าไปยังห้องหนังสือ 

จากหางตาผมเห็นว่าฝูหรงมองตาม  ด้วยทีท่าเป็นห่วงเป็นใยแบบไม่วางตา  ผมพอเข้าใจอาการเหล่านั้นของกระต่ายน้อยได้  ในเมื่อท่าทางของปาปาที่มีต่อเจ้าตัวนั้น  แตกต่างจากท่าทางที่มีต่อผมผู้เป็นลูกชายมากนัก  เปรียบดั่งการพลิกฝ่ามือในเสี้ยววินาทีก็ว่าได้ 

ผมรู้ว่ายามใดที่ปาปาฟู่สือมีท่าทางเงียบขรึมจริงจัง  ยามนั้นมักจะมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ  เพราะหากเป็นเวลาทั่วไปโจวฟู่สือเจ้าพ่ออสังหาฯมือหนึ่ง  ก็เป็นเพียงหัวหน้าครอบครัวธรรมดาคนหนึ่ง  หรือแม้แต่การเป็นผู้ชายพูดน้อยแสนอบอุ่นและรักจริงสำหรับคู่ชีวิต  และเป็นพ่อที่ใส่ใจพร้อมให้ความรักแก่ลูกอย่างเต็มเปี่ยมเสมอ  แต่ท่านก็มักแสดงออกถึงความรักทางภาษากายมากกว่าคำพูด  บวกกับท่านไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้ว 

การที่ปาปาจะมาต่อว่าผมด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างที่ฝูหรงกังวลนั้น  ย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  และผมก็คิดถูก  ด้วยพอผมปิดประตูห้องสนิทดีแล้ว  ปาปาก็เปิดประเด็นเรื่องงานที่มอบหมายไว้ให้แก่ผมขึ้นมาทันที

“ฉันเห็นสัญญาโอนแล้ว  แต่เหมือนจะมีเรื่องใช่มั้ย  ตกลงเป็นฝีมือใคร”  ปาปาหมุนตัวกลับมามองผมและจ้องเอาคำตอบ

“ครับ  ผมให้คนตามเรื่องมาแล้ว  เป็นบริษัทซินจางกรุ๊ปอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นๆทั้งหมด”  สิ้นเสียงของผม  ปาปาเงียบไปเลย  ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่าง  และถอนใจเฮือกใหญ่

“ไม่เคยยอมอะไรง่ายๆ  ขอให้ได้ขัดขาก็ยังดีสินะ  แต่คนของเรานี่สิ  ไม่น่าเลย...แกเองก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน  วงการนี้ประมาทไม่ได้  รู้หน้าไม่รู้ใจ...โจวพอล  ถือว่าครั้งนี้แกทำได้ดีมาก”  ผมยิ้มรับคำชมของปาปา  ก่อนจะก้มหัวให้ท่านด้วยความดีใจ  ด้วยน้อยครั้งที่ปาปาจะเอ่ยชมผมตรงๆเช่นนี้  จากอุปนิสัยที่เป็นคนปากหนัก  ถึงขั้นแข็งกร้าวในบางครั้งนั่นเอง 

หลังจากนั้นปาปาให้ผมเล่ารายละเอียดของเรื่องทั้งหมด  หากยังจำกันได้ว่าปาปาได้มอบหมายให้ผมจัดการผืนดินทองคำผืนหนึ่ง  ด้วยท่านเห็นถึงความไม่ปกติของขั้นตอนการติดต่อซื้อขายที่ดินผืนนี้  ซึ่งหลังจากที่ผมได้รับมอบหมายมา  ผมศึกษารายละเอียด  ก่อนลงพื้นที่เข้าเจรจากับเจ้าของที่ดินด้วยตัวเอง  ซึ่งผมก็พบความผิดปกติทันที  ด้วยซินจางกรุ๊ปตัดหน้าเข้าเจรจาและอัพราคาที่ดิน  ก่อนผมจะไปถึงไม่เกินหนึ่งชั่วโมง  โดยทางนั้นให้ราคามากกว่าที่ทางเราเตรียมเสนอไว้  ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ควรเล็ดลอดออกไป  เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีคนในของบริษัทเป็นหนอน 

บริษัทเรายังโชคดีที่ทางเจ้าของที่ดินยังไม่ได้รับเงิน  หรือยังไม่แม้แต่เซ็นโอนที่ให้กับทางซินจาง  เพียงแค่รับข้อเสนอไว้พิจารณาเท่านั้น  ทำให้ผมมีเวลาที่จะโน้มน้าวให้เจ้าของที่ดินขายให้กับ  Joe  F.H.  Estate  และถือว่าโชคเข้าข้างผม  เมื่อเจ้าของที่ดินผู้เป็นหญิงชราม่ายที่เพิ่งสูญเสียลูกชายคนเดียวไป  ซึ่งลูกของเธอมีอายุใกล้เคียงกับผม  ดังนั้นเธอจึงเอ็นดูผมเป็นพิเศษ  ยามที่ผมเทียวไปหาและซื้อบรรดาอาหารกับของบำรุงไปให้  ด้วยเล็งเห็นแล้วว่ากรณีเช่นนี้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด  ความรักและความใส่ใจอย่างลูกหลานมากกว่าคือสิ่งที่หญิงชราม่ายต้องการ 

ไม่นานหลังจากนั้นเธอตัดสินใจจะขายที่ดินติดทะเลที่เธออาศัยมาทั้งชีวิตให้แก่ผม  แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับส่งผลร้ายกับเธอ  เมื่อทางซินจางกรุ๊ปส่งคนมาข่มขู่  แต่ดีที่มีคนของตระกูลหวางเข้าช่วยไว้ทัน  ด้วยก่อนหน้าผมได้ขอร้องหลี่ผิงให้ช่วยส่งลูกน้องไปช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เธอ  เมื่อผมรู้เรื่องผมรีบไปหาเธอทันที  ก่อนหญิงชราจะตัดสินใจเซ็นโอนที่ดินผืนนั้นให้แก่เรา 
ถึงแม้งานที่ผมได้รับมอบหมายจะบรรลุเป้าหมายอย่างสวยงาม  แต่ผมก็ไม่คิดทิ้งหญิงม่ายผู้น่าสงสาร  ด้วยผมนั้นติดต่อบ้านพักคนชราที่ดีที่สุดไว้  ดูเหมือนผมเป็นคนใจร้าย  แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าสถานที่ที่ผมเลือกนั้น  เหมาะสมกับหญิงชราผู้ว้าเหว่แล้ว  เพราะมีคนดูแลที่มีความรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุ  และเป็นสถานที่ที่กว้างขวางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้  แถมยังมีเพื่อนในวัยเดียวกันคอยเป็นเพื่อนคุยคลายเหงาได้อีกด้วย 

ดีกว่าที่เธอจะมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้เพียงลำพัง  ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นไปตามความต้องการของเธอด้วย  อย่างช่วงเช้าวันนี้ยามผมไปเยี่ยมเธอ  ผมได้พบกับหญิงชราคนใหม่  ผู้มีรอยยิ้มสดใสพร้อมแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข 
การทำงานครั้งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย  ที่นอกเหนือคำว่าธุรกิจและผลประโยชน์

“พอล  แกทำได้ดีไอ้ลูกชาย”  คราวนี้ไม่เพียงปาปาจะเอ่ยปากชมผมเท่านั้น  แววตาท่านก็ฉายชัดว่าภูมิใจในตัวลูกชายอย่างผมไม่น้อย  แต่ผมคงตาฝาดที่ได้เห็นแววหม่นเศร้าจางๆในดวงตาของท่าน  เพราะมันฉายอยู่ชั่วแวบก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนหนอนที่ชอนไชอยู่ในบริษัทนั้น  เป็นพนักงานฝ่ายบัญชีที่มีความสามารถระดับแถวหน้าของบริษัท  แต่ด้วยความโลภเห็นแก่ยอดเงินในบัญชี  และตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นที่ซินจางกรุ๊ปเสนอให้  ทำให้เธอคิดหักหลังบริษัทเราที่อุ้มชูสอนงานและให้รายได้  ตั้งแต่เป็นนักศึกษาจบใหม่เมื่อห้าปีก่อน  ด้วยการเอาความลับไปบอกกับพวกซินจาง  ซึ่งงานนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอลงมือ  เพียงแต่ครั้งนี้เป็นงานใหญ่มีผลตอบแทนสูง  หากซินจางได้เป็นเจ้าของที่ดินแถวชายทะเล 

เธอจึงกล้าเสี่ยงเอายอดเงินที่ผมเตรียมเสนอให้เจ้าของที่ดินไปเปิดเผย  จึงไม่แปลกที่ผมจะสาวถึงตัวคนทำ  ด้วยมีไม่กี่คนที่ทราบยอดตัวเลขที่ผมเตรียมเสนอซื้อ  และฝ่ายบัญชีย่อมถูกเพ่งเล็งก่อนใคร  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสาวหาตัวการ  และคงไม่ต้องบอกว่า  Joe  F.H.  Estate  จะปล่อยให้คนผิดลอยนวล  เพียงแต่บทลงโทษอย่างการไล่ออก  ไม่ได้ทำให้ผู้ที่มีงานรองรับอยู่แล้ว  คิดจะแยแสในบทลงโทษนี้

“ปล่อยเธอไปเถอะ  เพราะเราไม่ได้เสียหายมากมายอะไร  ถือว่าเป็นการลงทุนกำจัดหนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวอยู่ในบริษัท...ส่วนทางซินจาง  ฉันอยากให้แกจับตาดูทางนั้นไว้  เราไว้ใจพวกมันไม่ได้”

“ครับปาปา”

“เอาล่ะ  นี่ก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว  รีบไปดูแฟนแกไป  ป่านนี้ไม่กังวลแย่แล้วรึ...เด็กอะไร  ขี้กังวลเกินเหตุ”  ปาปาพูดแบบนี้แสดงว่า  อาการของกระต่ายน้อยอยู่ในสายตาท่านตลอด  ดูท่าปาปาฟู่สือจะเอ็นดูฝูหรงไม่น้อยเลยทีเดียว 

งานนี้ผมยอมเป็นลูกชายที่ตกกระป๋อง  และปล่อยให้เมียรักขึ้นแท่นเป็นลูกรักคนใหม่แต่โดยดี

“หืม  เป็นอะไรครับ  ทำไมมองพอลแบบนั้น”  ผมสังเกตมาพักหนึ่งแล้ว  ด้วยเห็นว่าฝูหรงเหลือบมองมาที่ผมเป็นระยะ  ตั้งแต่ผมไปรับเจ้าตัวที่ห้องนั่งเล่น  กระทั่งเราสองคนเดินจนเกือบถึงห้องส่วนตัว

“ปาปาเรียกไปคุยเรื่องอะไร  ทำไมสีหน้าท่านตอนเรียกพอลไป  กับตอนออกมา  แตกต่างกันขนาดนั้นล่ะ”  ใบหน้าเล็กๆที่แสดงออกถึงความกังวล  และแววตาที่ฉายแววแห่งความสงสัยใคร่รู้ของฝูหรงนั้น  แม้ไม่ได้มีเพื่อผม  แต่เชื่อมั้ยว่าผมกลับรู้สึกดีและมีความสุขชะมัด 

เมื่อได้รับรู้ว่าช่วงระยะเวลาไม่นาน  สามารถก่อเกิดสายใยและความรู้สึกผูกพันเหนียวแน่น  ระหว่างปาปาและฝูหรงผู้เป็นพ่อสามีกับลูกสะใภ้ได้เร็วเช่นนี้  ยังไม่รวมถึงความรักความเอ็นดูเต็มเปี่ยมแต่แรกเจอของมามาที่มีให้ลูกสะใภ้นะครับ 

ดังนั้นนาทีนี้ผมจึงได้แต่ฉีกยิ้มกว้างใส่ตากลมๆ  แทนที่จะเป็นการอมยิ้มน้อยๆตามที่เป็นมาตลอดทาง  จนคนตัวเล็กตรงหน้าเริ่มที่จะมีสีหน้าบูดบึ้งไม่ได้ดังใจบ้างแล้ว  ด้วยคงคิดว่าผมตั้งใจกวนอารมณ์ซะมากกว่า  จนผมอดใจไม่ไหวจึงรวบกอดร่างน้อยเต็มแรง  ก่อนจะฟัดแก้มใสด้วยความมันเขี้ยว  และคงไม่ต้องบอกว่ากระต่ายน้อยจะมีปฏิกิริยาอย่างไร  ถ้าไม่ใช่ออกอาการโวยวาย  แต่ก็เป็นอยู่ได้ไม่นาน  เมื่อผมแกล้งงับเข้าที่ผิวอ่อนตรงซอกคอ

“หึ้ย!  ไรเล่า  อ่ะ!...ฮึๆ  ฮ่าๆ  พอล  ไม่เล่น  ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะสดใสกับรอยยิ้มกว้างขวางของฝูหรง  ทำเอาผมเคลิ้มและหยุดหยอกเย้าคนน่ารักอย่างไม่รู้ตัว 

ยิ่งตากลมๆที่ทอประกายสดใสด้วยแล้ว  ยิ่งดึงดูดให้ผมหลงใหล  จนคนโดนมองเริ่มรู้ตัว  กระต่ายน้อยค่อยๆหยุดเสียงหัวเราะลง  เปลี่ยนมามองผมด้วยความระแวงกึ่งขัดเขิน  มีเอนตัวหนีอ้อมกอดผมพร้อมอาการหลบตา  ทั้งๆที่แก้มใสขึ้นสีระเรื่อน้อยๆอย่างน่ามอง

“คิกๆ  หือ...อ่า  จะจ้องอะไรนักหนาเล่า  พอลน่ะชอบแกล้งฝูหรงอยู่เรื่อยเลย...ก็รู้ว่าเขิน  อ๊ะ!  ก้มมาใกล้กันเกินไปแล้ว”  เสียงเล็กๆที่ดังขึ้นเบาๆกับอกมาตลอด  แทบจะสลายหายไปกับอากาศในช่วงประโยคสุดท้าย 

ผมเองที่อยู่ใกล้แสนใกล้ยังแทบไม่ได้ยิน  จึงจงใจโน้มตัวก้มหน้าเข้าหาแหล่งกำเนิดเสียง  ทำให้ริมฝีปากแดงฉ่ำขยับปัดป่ายไปมาแถวข้างแก้ม  ทำเอากระต่ายน้อยขี้เขินถึงกับสะดุ้ง  และเอ่ยต่อว่ากันแบบไม่จริงจังนัก  แต่ก็เป็นไปในแบบที่คนต่อว่าไม่กล้าสบตากัน 

ผมจึงตัดสินใจคลายอ้อมกอด  และจับจูงมือน้อยเพื่อพาเจ้าของให้ออกเดินอีกครั้ง  ตั้งใจทอดเวลาให้ฝูหรงได้มีเวลาหายใจพักแก้มร้อนๆลงบ้าง  แต่เมื่อเราได้มาอยู่ในห้องด้วยกันแล้ว  ผมก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับกระต่ายน้อยตาแป๋ว  ที่ก็เหมือนเจ้าตัวรอผมอยู่ก่อนแล้ว  ด้วยฝูหรงเงยหน้ามองผมตาไม่กระพริบ  ผมจึงเชยคางมนขึ้นอีกนิด  และโน้มตัวเข้าหาดวงหน้าสว่างใสอย่างช้าๆ 

“ช่างใส่ร้ายพอลนะกระต่ายน้อย  พอลไม่ได้แกล้ง  แต่พอลไม่เถียงว่าพอลชอบ...ชอบตากลมๆคู่นี้ที่สะท้อนให้เห็นเพียงแค่ใบหน้าพอล”  ผมประทับจูบลงบนเปลือกตาบางใสทั้งคู่  ก่อนผละห่างและรอจนขนตาหนากระพือเปิดให้เห็นตากลมๆที่ผมหลงใหลอีกครั้ง

“พอลชอบจมูกแหลมๆนี้  ที่บ่งบอกนิสัยดื้อรั้นของกระต่ายน้อยขี้งอนของพอล...เพราะชอบที่จะตามง้อตามเอาใจ  แต่ที่ชอบกว่านั้นคือชอบช่วงเวลาที่ฝูหรงยอมใจอ่อนให้กับพอล  เหมือนอย่างตอนนี้ไงครับ”  นอกจากที่ผมจะจงใจส่งยิ้มบาดตาใส่ดวงตากลมๆที่จ้องผมไม่กระพริบแล้ว 

ผมยังยื่นมือไปคีบปลายจมูกแหลมๆเป็นการยืนยันคำพูด  จนคนที่ชักจะขี้งอนบ่อยครั้ง  ถึงกับแสยะยิ้มมีสะบัดค้อนน้อยๆให้ผมที่รู้ทัน  ตามมาด้วยพยายามปัดมือผมออกจากจมูกตัวเอง  ผมจึงเลือกที่จะคว้าฝ่ามือนุ่มข้างนั้นไว้  ก่อนนำมาวางไว้แนบอกซ้าย  โดยมีมือผมวางประกบบนหลังมืออีกที  พร้อมใช้มือข้างที่ว่างจิ้มลงบนแก้มใสที่เริ่มพองลม  เพราะเจ้าของเริ่มมีอาการฮึดฮัดขัดใจที่ทำอะไรผมไม่ได้

“แก้มป่องๆนี่อีก  รู้มั้ยว่าพอลก็ชอบมันมาก  เพราะเวลาที่พอลทำแบบนี้...[ฟอดดดด]...ทีไร  กำลังใจที่เคยหดหาย  มันกลับมาจนเกือบเต็มทุกครั้งเลย”  ไม่ใช่แค่พูดว่าชอบอย่างไร  แต่ผมเลือกที่จะทำให้ฝูหรงรู้ด้วย  ว่าการที่กำลังใจคืนกลับมาได้นั้นผมทำแบบไหน  จนเจ้าของแก้มแดงยู่หน้ายื่นปากเข้าใส่

“ตลอด  หึ!...ขนาดฝูหรงเสียแก้มให้พอล  กำลังใจที่ว่าแค่เกือบเต็มแค่นั้นเองเหรอ”  ผมล่ะเกือบหลุดขำให้กับกระต่ายน้อยแก้มแดง  ที่แกล้งประชดกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง  จึงจัดให้อีกข้างเสียฟอดใหญ่  เสียงดังได้ไม่แพ้ก่อนหน้าเลยทีเดียว  ก่อนจะจับปลายคางแหลมๆเขย่าให้พอหายมันเขี้ยว

“ฮึๆ  เดี๋ยวนี้ประชดเป็นแล้วน้า  แค่แก้มกำลังใจก็แค่เกือบเต็มสิครับ  แต่ปากแดงๆคู่นี้ต่างหาก  ที่พอลชอบที่สุด  เพราะมันสามารถเติมกำลังใจกลับมาให้พอลจนเต็ม”  คงไม่ต้องบอกว่าผมเต็มใจสาธิตการเติมแรงใจด้วยวิธีนี้แค่ไหน  เรียกได้ว่าในเวลาไม่นาน  ร่างน้อยในอ้อมกอดผมอ่อนระทวยจนยืนไม่ไหวเชียวล่ะ

ผมจึงได้โอกาสอุ้มกระต่ายน้อยตาเยิ้มปากฉ่ำวาวไว้กับอก  และตรงไปยังเตียงนอนของเรา  แต่แรงดิ้นน้อยๆของฝูหรง  ทำให้ผมรู้ว่ามนต์จุมพิตที่ร่ายไว้ได้คลายมนต์สะกดเร็วกว่าทุกที

“ไหนว่ามีรางวัลให้พอลไงครับ”  แน่ะ!  กระต่ายน้อยทำงง  จ้องกลับผมตาแป๋ว

ผมจึงขยายความและทวงสัญญาที่ฝูหรงให้ผมไว้  เล่นเอาคนที่ผมผ่อนร่างลงบนเตียงถึงกลับตาโตที่นึกขึ้นได้  และมีอาการเลิ่กลั่กไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“เออ  อ่า  ตอนนั้นมัน”

“ฝูหรงจะเบี้ยวพอลเหรอครับ  น่าน้อยใจชะมัด  เรารึอุตส่าห์ยอมให้นายนั่นโขกสับ  คนของเราไม่เห็นใจไม่พอ  ยังคิดจะผิดสัญญาอีก”  แสร้งน้อยใจเข้าไว้ครับ  อย่างไรซะคืนนี้ผมต้องได้รางวัลชิ้นโตให้จงได้

“หึ!  ปากก็บอกว่าน้อยใจ  แต่การกระทำนี่สวนทางชัดๆเลยนะพอล  อื้อออ  พอลจะเลียทำไมเล่า”  อ้าวนี่ผมเผลอตัวชิมผิวสวยๆแถวซอกคอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 

ผมจึงได้แต่ส่งยิ้มอ้อนๆใส่ตาวาวๆที่มองมา  และผมก็แทบเฮเมื่อฝูหรงเอ่ยปากว่าจะให้รางวัลแก่ผม

“ก็ได้  แต่พอลขยับตัวออกไปหน่อยสิ  ทับกันไว้แบบนี้  ฝูหรงจะให้รางวัลถนัดได้ไง”  ผมหรี่ตามองกระต่ายน้อยที่เปลี่ยนท่าทีรวดเร็วชนิดที่ทำผมสงสัย  แต่รอยยิ้มหวานๆ  แววตาหวานฉ่ำ  และสัมผัสนุ่มๆที่แก้มจากฝ่ามือน้อย  ทำให้ผมเลิกใส่ใจกับความสงสัยชั่วแวบ 

ผมยอมที่จะลุกออกมาจากร่างน้อย  และผมก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม  เมื่อฝูหรงลุกตามขึ้นมานั่งคร่อมตักประจันหน้ากัน  พร้อมคล้องแขนไว้รอบลำคอผม

“หลับตาก่อนสิ  จ้องกันขนาดนี้  ใครจะกล้า...หึ!  ไม่ต้องกลัวหรอกน่าว่าจะเบี้ยว”  กระต่ายน้อยฮึดฮัดเชียว  แค่ผมส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมทำตาม 

เดี๋ยวนี้ดีกรีความเจ้าเล่ห์ของฝูหรงมีน้อยซะที่ไหนกัน  ผมกลัวว่าพอหลับตาแล้ว  กระต่ายน้อยเจ้าเล่ห์จะกระโดดหนี  เบี้ยวรางวัลที่สัญญาไว้น่ะสิครับ  แต่คนน่ารักก็รู้เท่าทันความคิดของผมเข้าจนได้

“ฮึๆ  ครับๆ  ไม่เบี้ยวก็ไม่เบี้ยว...อ่ะ  พอลหลับตาแล้ว  ยอมขนาดนี้ขอแบบจัดหนักเลยน้า...เร็วสิครับกระต่ายน้อย~”  เห็นผมปากดีหยอกเย้าคนน่ารักเล่นแบบนี้  แต่รู้มั้ยว่าหัวใจในอกผมนี่เต้นแรงแค่ไหน  ด้วยอดลุ้นรางวัลใหญ่แบบจัดหนักที่ฝูหรงจะเป็นคนมอบให้ไม่ได้จริงๆ 

รางวัลที่ว่าก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วด้วย  จากลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดแถวปลายจมูก  จนผมเองถึงกลับกลั้นลมหายใจแบบไม่รู้ตัว  จนกระทั่ง...

“...ฟอดดด!...ฟอดดด!!...จุ๊บ!!!...จุ๊บ!!!!.....พรึ่บ!.....จัดให้แล้วนะรางวัลแบบจัดหนัก  คิกๆๆ...ปึง!”

‘มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันครับเนี่ย!!’  ตอนนี้ผมได้แต่นั่งอึ้งกับรางวัลแบบจัดหนักของกระต่ายน้อยแสนรัก  ผู้ที่มอบรางวัลคอมโบเซตให้ผมเสร็จ  ก็กระโดดลงจากตักและวิ่งฉิวหนีไป  แถมมีเสียงลอยมาให้ได้ยิน  พร้อมเสียงหัวเราะร่วนตอกย้ำให้ผมช้ำใจเล่นอีก  จนเสี้ยววินาทีถัดมาผมจึงได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง  มันน่ามันเขี้ยวชะมัด

ส่วนรางวัลแบบจัดหนักที่ฝูหรงให้ผมคือ  การหอมแก้มผมทั้งซ้ายและขวา  ก่อนจะจูบที่กลางหน้าผาก  และจบด้วยการจูบเข้าที่ปลายคาง  ไอ้ที่ผมหวังไว้มันไม่ใช่แบบนี้  ผมไม่น่าหลงกลกระต่ายน้อยเจ้าเล่ห์เลยให้ตายสิ  ไม่เช่นนั้นป่านนี้ผมคง...

“พอล!!”

“เฮ้ยยยย!!!”  ผมสะดุ้งสุดตัวและร้องสุดเสียง  จากเสียงชื่อผมที่ดังขึ้น  พร้อมมีฝ่ามือเย็นๆประกบเข้าที่ข้างแก้ม

“ฮ่าๆ  ทำหน้าตลกอ่ะ  ฮ่าๆ”  กระต่ายน้อยเดี๋ยวนี้ร้ายนัก  มีกลับมาแกล้งให้ผมตกใจเล่นอีก  กลับมาแบบนี้ก็เข้าทางสิ  จับกินซะให้หมดเรื่อง 

คิดได้ดังนั้น  ผมก็รวบกอดร่างน้อย  และกดลงกับเตียงอีกครั้ง  พร้อมตรึงข้อมือทั้งคู่ไว้เหนือหัว

“ใครน้าที่ว่าพอลชอบแกล้ง  ฝูหรงเองต่างหากที่ชอบแกล้งพอล...ตกใจหมดเลยรู้มั้ย  แล้วเมื่อครู่อะไรครับ  รางวัลแบบจัดหนัก!?”  ผมเลิกคิ้วใส่ตาคู่กลมที่ยังมีแววระยิบระยับไม่เปลี่ยน  และเริ่มแปลกใจกับท่าทางไม่หวั่นของกระต่ายน้อยใต้ร่าง  ทั้งๆที่อยู่ในท่วงท่าที่แสนเสียเปรียบ

“อืม  รางวัลแบบจัดหนักไง...แต่ก็เป็นแค่ออเดิร์ฟ”  ‘หืม!  คุณได้ยินเหมือนผมใช่มั้ย’ 

สิงห์เจ้าป่าแสนเจ้าเล่ห์อย่างผมตกหลุมกระต่ายน้อยเข้าแล้ว  เริ่มจากยั่วให้อยากก่อนจากไปพร้อมความหวัง  และกลับมาทำให้ตกใจด้วยการหยิบยื่นสิ่งที่ผมคิดว่าหลุดมือไปแล้วให้อีกครั้ง

“หมายความว่าไงครับ”  ผมยอมกลายเป็นสิงห์เจ้าป่าที่แสนโง่เขลาในสายตากระต่ายน้อยช่างยั่ว  เพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่คิด

“อะไรกัน  มาถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ”  แม้ฝูหรงจะทำใจกล้ายั่วยวนผมด้วยท่าทาง  และเปิดโอกาสให้ผมด้วยคำพูด  แต่ไม่สามารถกลบเกลื่อนความเขินภายในใจได้มิด 

เมื่อดวงตาคู่กลมเริ่มหลบตากัน  ยามผมมองอย่างรู้เท่าทัน  แถมด้วยแก้มใสที่เริ่มแต่งแต้มไปด้วยสีแดงจางๆ  ก่อนจะลามไปทั้งหน้ายามที่เจ้าตัวยื่นหน้าเข้าหาผม

“วันนี้ขอบคุณพอลนะที่เข้าใจฝูหรง  ยอมไม่มีเรื่องกับแพทริค  และไม่สร้างความลำบากใจให้...รักพอลนะ”

“ฮึๆ  รักฝูหรงเหมือนกันครับ  ถ้างั้น...ขอรับรางวัลเลยน้ากระต่ายน้อย”

“อืม.....พอล~”

คงไม่ต้องบรรยายคุณก็น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  และบอกได้คำเดียวว่าสมกับเป็นรางวัลแบบจัดหนัก  หนักชนิดที่ว่าหากกระต่ายน้อยไม่หลับไปซะก่อน  คงมีต่อยันเช้า  ฮึๆ

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

รางวัลแบบจัดหนักครั้งนี้คงทำให้พอลเปรมปรีดิ์ไปเลยล่ะน้า   o18
เหตุการณ์วุ่นๆระหว่างงานที่พอลเจอ  บอกเลยว่าอาจจะมีลูกติดพันตามมา
แต่จะมาแบบไหนอย่างไรอดใจรอกันก่อนค่ะ

ตอนหน้าเรามาติดตามกันดีกว่า  ว่าระหว่างญาติตัวป่วนกับญาติตัวแสบ
ใครจะแน่กว่ากัน  ในจินนี่ปะทะแพทริค!?
ติดตามได้ในวันจันทร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2014 11:56:58 โดย MiSS-U »

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ทำดีก็ต้องได้รางวัลเนอะพอล  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
เป็นรางวัลจัดหนักและจัดเต็ม  เพราะความน่ารักของฝูหรง  จึงทำให้ครอบครัวพอลรักและเอ็นดูฝูหรง
 

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ฝูหรง นี่น่ารักจริงๆ เลยน้า


ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ฝูหรงเริ่มซึมซับอะไรๆจากพอลและคนรอบตัวมากขึ้นแล้วสิ
ไม่ใช่กระต่ายตัวน้อยที่แสนขี้อายและไม่พูดเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ
มันเป็นการพัฒนาการที่ดีมาก ทำให้ใครหลายคนต่างหลงไปตามๆกัน
พอลไม่ต้องพูดถึง ถ้าพกใส่กระเป๋าได้คงทำไปแล้วล่ะ :laugh:
ตอนหน้านี่สิน่าดู ไม่รู้ว่าใครจะแสบกว่ากัน ต้องติดตาม
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า~

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
«ตอบ #547 เมื่อ17-09-2014 14:59:46 »

ฝูหรงจัดหนักให้แล้วนะพอล~

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ฝูหรงน่ารักมากๆๆๆๆ แย่งมาจากโจวพอลได้มั๊ย :กอด1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
พอลนี่เรียกร้องรางวัลหนักจริงๆน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
โมเม้นท์มุ้งมิ้ง ~.~

วันจันทร์หน้าแซ่บแน่
ญาติปะทะญาติ อิอิ >.<

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ฝูหรง น่ารัก น่าหลงจริงๆ  :L2:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :z1: :z1: :z1:
จัดหนักแบบที่ว่าอยากรู้อะว่าจะหนักแค่ไหน
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ฝูหรงทำคนอ่านหลงแล้วเนี่ย 55555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
รางวัลแบบนี้พอลคงชอบใจมาก

ออฟไลน์ Der Adler

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +126/-0
ฝูหรงไหวไหมหนออออ....พอลได้รางวัลแบบจัดเต็มเลยยย :hao5: :hao5:
ตอนหน้า ท่าจะมันส์เนอะ :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ฝูหร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

มาให้เค้าฟัดแก้มันเขี้ยวทีสองทีเถอะ

น่ารักเกินไปแล้ววววววว

ตอนหน้ามันส์จ้าาาา หึหึหึ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
กระต่ายน้อยฝูหรงจะน่ารักไปถึงไหนเนี่ยยย
 :mew3:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รางวัลที่ได้ ช่างน่างสงสารฝูหรงจัง คงจะเพลีย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
คนทำดีก็ต้องมีรางวัลให้อ่ะเนาะ แล้วก็เป็นรางวัลที่พอลชอบมากกกกกกกกกกกซะด้วย :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ฝูหรงก็ยั่วเป็นนะนี่ ^^
ตอนหน้าท่าทางจะปะฉะดะนะคะ รออ่านค่า  :katai4:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 24

โจวพอล

“ฮ่องกงเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากจริงๆ  ครั้งก่อนโน้นที่มา  ไอจำได้ว่าตรงนี้ยังเป็นส่วนที่พักอาศัย  แต่ดูตอนนี้สิกลายเป็นย่านธุรกิจไปแล้ว  ใช้เวลาไม่ถึงปีเลย”  น้ำเสียงตื่นเต้นแกมชื่นชมที่ลอยมาให้ได้ยินนั้น  ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะละสายตาจากท้องถนนเพื่อหันไปมอง 

ผมจึงได้สบตากับดวงตาคู่เรียวสีเทาเข้ม  ผู้เป็นเจ้าของผิวซีดเซียว  เส้นผมและคิ้วสีน้ำตาลอ่อน  จมูกโด่งที่ปลายงุ้มนิดๆ  และริมฝีปากบางที่กำลังคลี่ยิ้ม  ดูรวมๆแล้วก็เป็นใบหน้าที่แสนจะธรรมดา  สู้ลูกครึ่งฮ่องกงอิตาลีอย่างผมก็ไม่ได้  เพราะหากเอาผมกับนายแพทริคนี่มายืนเปรียบเทียบกัน  คงต้องบอกว่านายนั่นน่ะต้องหลบให้ผม  เพราะทั้งสีผิวสีผมสีตาของผมนั้น  คมเข้มและดูดีกว่ากันเยอะ

“ทำไมยูมองไอแบบนั้น  ไอบอกไว้ก่อนเลยว่ายูน่ะไม่ใช่สเป็ค...เฮ้ย!...ขับรถอะไรของนายเนี่ย”  ไอ้ฝรั่งหน้าจืดพูดทีทำเอาผมใจหายวาบ  เผลอเหยียบเบรกอย่างไม่ตั้งใจ  แต่ยังมีหน้ามาต่อว่ามองผมตาขวางอีก

“ขืนพูดไร้สาระมากกว่านี้  ฉันจะทิ้งนายไว้ตรงนี้แหละ!”  โดนผมตอกกลับไปไม่มีสะทกสะท้าน  ยังมีหน้ามาแสยะยิ้มจ้องตาผมกลับด้วยแววตากวนๆให้อีกแน่ะ  และก่อนที่จะเกิดการต่อปากต่อคำไปมากกว่านี้  เสียงหวานๆก็ดังขึ้นมาจากตอนหลังของรถ  พร้อมกับมีมือนุ่มๆวางลงบนไหล่ผม

“พอลใกล้ถึงบ้านคุณอาหมิงฮุ่ยแล้วนะครับ”  ผมสบตากับฝูหรงผ่านกระจกส่องหลัง  และได้แต่ฝืนยิ้มส่งคืนใส่ดวงตากลมๆที่สะท้อนแววออดอ้อนเล็กๆ  ด้วยฝูหรงคงไม่อยากให้ผมกับญาติตัวดีทะเลาะกัน 

ผมจึงได้แต่ยอมปิดปากด้วยเห็นแก่คนรักตัวน้อย  ก่อนจะคว้ามืออุ่นข้างนั้นขึ้นประทับจูบบนหลังมือ  แต่แล้วกลับมีเสียงพ่นลมหายใจแรงๆจากคนข้างๆดังขึ้น  ผมไม่ต้องหันไปมองก็พอจะรู้ว่าโดนไอ้ฝรั่งหน้าจืดหมั่นไส้เข้าแล้ว  แต่ใครจะสน  ในเมื่อผมมีสิทธิ์ที่จะแสดงความรักต่อคนรักของตัวเองอย่างเปิดเผย  แต่การกระทำของนายแพทริค  ทำให้กระต่ายน้อยแก้มแดงรีบกระตุกมือคืน  และเบือนหน้าหลบตาผมที่จ้องผ่านกระจก  ก่อนจะหันไปแก้เขินด้วยการดุใส่ญาติตัวเองแทน

“อ้าว  คิวท์บอย  ยูดุไอทำไมเนี่ย”  ไอ้ฝรั่งหน้าจืดเหวอไปเลยที่อยู่ๆก็โดนคนน่ารักของผมเหวี่ยงใส่  ทั้งๆที่การกระทำก่อนหน้า  มันตั้งใจประชดใส่ผมแท้ๆ

“ไม่รู้แหละ  แพทริคแซวฝูหรงทำไมล่ะ”  กระต่ายน้อยแสนรักต่อว่าญาติสนิทอย่างงอนๆ  จนคนโดนต่อว่าไปไม่เป็น  แม้นายแพทริคจะน่าเห็นใจอยู่บ้าง  แต่ผมกลับสะใจชะมัดที่ได้เห็นหน้าเจื่อนๆของมัน

ผมจึงได้แต่กลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  จนคนบนรถที่เหลืออีกสองคนสะบัดหน้ามามองผมอย่างแปลกใจ  ก่อนนายแพทริคจะส่งเสียงฮึฮะออกมาอีกครั้งด้วยความขัดใจ  ส่วนฝูหรงก็ได้แต่ส่งค้อนน้อยๆให้ผม  ก่อนจะเบือนสายตาหนีผมออกไปนอกรถ  ยามที่ผมจ้องคืนด้วยสายตาหยอกเย้า  และผมต้องทำเป็นหูทวนลม  เมื่อได้ยินนายแพทริคกระแทกเสียงใส่เป็นการระบายความขัดใจที่มี

“เหอะ!!  หัวเราะได้หัวเราะไป”  ผมล่ะอยากจะบอกมันนักว่า  วันนี้ผมคงได้หัวเราะมากกว่านี้...อีกเยอะ!

แต่มานาทีนี้ผมก็ชักคิดสงสารนายนี่อยู่เหมือนกัน  เพราะเท่าที่ดูๆแล้วกระต่ายน้อยเข้าข้างผมมากกว่าญาติตัวเอง  แถมวันนี้ยังจะมีแม่มดตัวแสบมาช่วยป่วนอารมณ์  ให้นายแพทริคได้คลั่งใจตายเข้าอีก  แต่มันช่วยไม่ได้ในเมื่อไอ้ฝรั่งหน้าจืดอยากลองของกับผมก่อน

มาถึงตรงนี้คุณพอจะเดาออกแล้วใช่มั้ย  ว่าแผนการเอาคืนนายแพทริคที่มาทำปากดีกับผมตั้งแต่แรกเจอคืออะไร  ถ้าไม่ใช่ผมจะยืมมือแม่มดตัวแสบมาป่วนไอ้ฝรั่งหน้าจืดคนนี้  ซึ่งคู่ประลองฝีมือที่ผมแอบจับคู่ให้อย่างเงียบๆ  ดันฝีมือสูสีอย่างไม่น่าเชื่อ 

ไอ้ที่ผมเห็นบนรถถึงอาการจอดจ๋อยของแพทริคยามโดนฝูหรงต่อว่านั้น  ไม่มีให้เห็นในยามนี้สักนิด  ด้วยเจ้าตัวคงเกรงใจในตัวญาติต่างสายเลือดอยู่ไม่น้อย  แต่กับสาวสวยแปลกหน้าที่มีแววไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกเจอ  ทำให้นายแพทริคไม่คิดเกรง  ออกอาการปากดีใส่ทันทีที่สนทนาด้วย  แต่ก็เป็นไปในแบบหยอกแกมหยิกให้พอเจ็บๆคันๆ  และไม่มีหลุดมาดสุภาพบุรุษที่พึงมีต่อสุภาพสตรีสักคนหนึ่ง  เพราะถ้ามันแสดงกิริยาจาบจ้วงใส่ยัยจินนี่ผมเองก็คงไม่ยอม

“เป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆน้า  เดินเหมือนจะไปวิ่งมาราธอนที่ไหน...ส่งถุงพวกนั้นมาให้ผมถือดีกว่า  คุณจินนี่จะได้ช้อปปิ้งสะดวกขึ้น”  หลังประโยคนี้ถุงช้อปปิ้งในมือจินนี่  ก็ถูกนายแพทริคดึงไปถือไว้เองทั้งหมด  จนเจ้าของท่วงท่าเชิดๆที่เตรียมต่อปากต่อคำด้วยถึงกลับเหวอ  ได้แต่มองถุงกระดาษในมือถูกเปลี่ยนถ่ายไป 

แต่ฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส  ด้วยการกระหน่ำช้อปและปล่อยให้สุภาพบุรุษหน้าเป็นหิ้วถุงตามหลัง  ก่อนจะหันไปควงฝูหรงที่ทำหน้าเหยเกมองญาติตัวเองที่หิ้วของพะรุงพะรังจากไป  ผมเองก็ได้แต่ขำกับท่าทางนั้นของนายแพทริค  และไม่นึกแปลกใจในรอยยิ้มมุมปากชั่วแวบของอีกฝ่าย  ส่วนการประลองฝีมือก็ยังไม่จบเท่านั้น

“บะหมี่ร้านนี้อร่อยมาก  ไอยังจำรสชาติได้ไม่ลืม  ครั้งที่แล้วยูเองก็กินไปสองเลยนี่ฝูหรง  ใช่มั้ย  แต่ร้านมันค่อนข้างคับแคบไปหน่อย  เสียงดังไปนิด  แต่ไอเชื่อว่านายและคุณจินนี่จะต้องติดใจในรสชาติแน่ๆ...คุณจินนี่ทานอะไรดีครับ  อย่ามัวแต่มองรอบร้านแบบนั้นสิ  เห็นมั้ยว่ามีคนยืนรอต่อคิวอีกตั้งเยอะ  เดี๋ยวเจ้าของร้านก็โวยวายใส่หรอกครับ  เร็วเดี๋ยวผมตะโกนสั่งให้”

นาทีนี้ผมทั้งขำทั้งสงสารยัยจินนี่ที่มีท่าทางเลิ่กลั่กด้วยความแปลกที่แปลกทาง  ไหนจะโดนเร่งด้วยน้ำเสียงรื่นเริงเกินเหตุที่เพิ่งได้ยินเข้ามาอีก  ทำให้ญาติสาวคนสวยของผมหมดมาด  ด้วยการชี้นิ้วส่งๆไปที่หนึ่งเมนูบนกระดานข้างผนังทันที  ซึ่งกิริยาท่าทางเช่นนี้ของจินนี่  ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆสำหรับผมนัก 

ผมนั้นเข้าใจว่าทำไมจินนี่ถึงมีอาการอย่างที่เป็นอยู่  ในเมื่อพวกเราต้องมาอยู่ในร้านบะหมี่ชื่อดังข้างทางที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย  และอยู่ภายใต้สายตากับความสนใจของคนเกือบทั้งร้าน  เพียงเพราะแขกคนสำคัญของวันนี้อยากกินบะหมี่แสนอร่อยที่ตัวเองติดใจ  ทำให้ภาพของหนุ่มสาวทั้งสี่ที่แม้จะอยู่ในอาภรณ์แสนธรรมดา  ไม่แตกต่างจากการแต่งกายของคนแถวนี้เท่าไหร่นัก  แต่ด้วยหน้าตาและบรรยากาศรอบตัวที่แปลกแยก  บวกเข้ากับถุงช้อปปิ้งกองใหญ่แปะโลโก้สินค้าแบรนด์ดังที่วางข้างทางเดินในร้านเข้ามาอีก  จึงไม่แปลกที่ทุกสายตารอบตัวพวกเรา  ผลัดกันจดจ้องมาที่กลุ่มเราตลอดเวลา 

ผมแน่ใจว่าการเลือกร้านนี้  คือความตั้งใจของนายแพทริคที่จะเอาคืนญาติสาวคนสวยของผม  ที่ใช้ตัวเองให้ถือถุงช้อปปิ้งจำนวนมากมาตลอดทาง  แต่งานนี้จินนี่จะขัดใจนายแพทริคไม่ได้  ในเมื่อมันออกปากแต่แรกแล้วว่าอยากกินอาหารแนวนี้อยู่แล้ว

“จินนี่เปลี่ยนร้านมั้ย  เดี๋ยวให้พอลนั่งเป็นเพื่อนแพทริคก็ได้  ส่วนเราไปหาที่อื่นทานกัน”  กระต่ายน้อยคงสงสารยัยจินนี่เพื่อนซี้คนใหม่ของเจ้าตัวเค้าล่ะ  ถึงเอ่ยปากชวนแบบไม่เกรงใจญาติสนิทขึ้นมา 

ถ้าจินนี่ตกลงไปจริงๆ  ผมไม่มีทางยอมโดนทิ้ง  ให้นั่งกินบะหมี่ที่นี่กับไอ้ฝรั่งหน้าจืดสองต่อสองหรอกครับ  แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

“ไม่ต้องหรอกฝูหรง  จินนี่ทานได้  เพียงแค่แปลกที่เท่านั้น  เพราะดูแล้วหน้าตาก็น่าทานดีออก  และถ้าเราไปกันจริงๆ  พอลก็คงไม่ยอมหรอก  ที่สำคัญ...จินนี่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเท้าไม่ติดดิน”  ไอ้ใครที่ว่านั้นก็ได้แต่กอดอกอมยิ้มใส่ตาคนพูด 

ส่วนฝูหรงก็ได้แต่มองคนทั้งคู่ไปมา  ก่อนจะแอบถอนใจยาวเหยียด  ผมจึงยื่นมือไปกุมทับหลังมือนุ่ม  ก่อนจะเอามาวางไว้บนตักตัวเอง  ทำให้ตาคู่กลมเคลื่อนมาจับยังใบหน้าผมแทน  ทำให้ผมเห็นแววตาหนักใจจากตากลมๆคู่นั้น  จึงอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่คิดแผนการให้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์และแม่มดตัวแสบมาเจอกัน 

นาทีนี้ผมอยากจะกอดร่างน้อยและจูบประทับลงบนเปลือกตาบางใส  เพื่อปลอบประโลมและเอ่ยขอโทษฝูหรงไปในเวลาเดียวกันนัก  แต่บรรยากาศรอบกายทำให้ผมทำได้เพียงกุมกระชับมือนุ่มให้แน่นขึ้น  พร้อมส่งยิ้มบางเบาใส่ตากลมๆคู่ตรงหน้าเท่านั้น 

ผลก็คือฝูหรงค่อยๆคลี่ยิ้มจนสว่างไสวไปทั้งหน้า  และยื่นมืออีกข้างมาประกบเข้าที่หลังมือของผม  ซึ่งการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ของเรา  กลับทำให้ใครบางคนไม่พอใจขึ้นมา

“เอาไว้ไปหวานกันสองต่อสองดีกว่ามั้ย”  นอกจากคำพูดที่แสนขัดหู  ทั้งใบหน้าและแววตาของนายแพทริคก็แสดงออกชัด  ว่าเหนื่อยหน่ายกับการกระทำของเรา  แต่งานนี้ผมไม่ต้องไฟท์เอง

“อิจฉา!...เอ๋!?  รึว่านายแอบชอบฝูหรงกันแน่  ถึงทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหว”  คำพูดของจินนี่ไม่เพียงทำให้นายแพทริคนั่งอึ้งเท่านั้น 

เรียกได้ว่าทั้งผมและฝูหรงก็มีอาการไม่ต่างกัน  จะมีก็แต่คนพูดเท่านั้นที่ยังมีทีท่าปกติ  และจ้องนายแพทริคด้วยแววตาเหนือกว่า  ก่อนจะหันไปสนใจชามบะหมี่ตรงหน้าที่เพิ่งถูกนำมาเสิร์ฟให้

สำหรับฝูหรงคงทั้งตกใจและแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน  แต่คงยังไม่เชื่อหรอกว่าญาติสนิทจะคิดอะไรด้วยแบบนั้น  เพราะใช้เวลาไม่นานเจ้าตัวก็เอ่ยเสียงเข้มกับยัยจินนี่ว่าคิดมากไปและพูดไร้สาระ  จนยัยจินนี่สะบัดค้อนน้อยๆใส่  แต่ก็ยอมปิดปากไม่ต่อคำ 

สำหรับผมคำพูดของจินนี่กลับตอกย้ำความคิดชั่วแวบที่เคยเกิดขึ้น  เพราะเท่าที่ฝูหรงเล่าถึงนายแพทริคนั้น  ความห่วงใยความใส่ใจที่มันมีให้กระต่ายน้อยของผม  ออกจะเกินพอดีไปสักหน่อยสำหรับสถานะของญาติต่างสายเลือดที่มีให้แก่กัน  บวกกับสายตาแน่วแน่ของไอ้ฝรั่งหน้าจืดที่จ้องตาผมในตอนนี้เข้ามาอีก  ผมจึงมั่นใจยิ่งขึ้นว่าไอ้แพทริคแอบชอบฝูหรงจริงๆ

“พอลทานสิ  เดี๋ยวก็เย็นหมด  ไม่อร่อยนะ  อ่ะ...ตะเกียบ  พอลจ้องฝูหรงทำไม”  ผมระบายยิ้มใสตาคู่กลมที่มีแววสงสัยไม่ต่างจากคำพูดที่ได้ยิน  ก่อนจะรับตะเกียบที่ถูกยื่นมาให้  พร้อมความใส่ใจที่ฝูหรงมีให้กัน 

ผมแอบสะใจที่ได้เห็นแววตาเศร้าสร้อยของไอ้แพทริคที่แสดงออกให้เห็นชั่วแวบ  นาทีนี้คงไม่ต้องมีใครมายืนยันความรู้สึกที่แพทริคมีให้ฝูหรงอีกแล้ว

หลังจากนั้นไอ้ฝรั่งที่เจื้อยแจ้วมาตลอดก็เงียบไปผิดหูผิดตา  และบะหมี่ที่เจ้าตัวอยากกินนักหนาก็หายไปเพียงครึ่งชาม  จนกระต่ายน้อยของผมยังทัก  แต่นายนั่นก็ทำเพียงตีหน้าทะเล้นกลบเกลื่อน  และพูดเสียงเบาว่าร้านนี้รสชาติเปลี่ยนไปไม่อร่อยเหมือนที่เคยกิน 

ฝูหรงเองก็มีทีท่าแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ต่อความอะไร  ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามแขกกิตติมศักดิ์ว่าอยากกินอะไรต่อ  นายนั่นกลับโบ้ยให้แฟนผมเป็นคนพาไปเอง  ความจริงนายแพทริคมันคงกินอะไรไม่ลงแล้วมากกว่า  ผมกับยัยจินนี่หันมาสบตากันโดยบังเอิญ  ซึ่งดวงตาคู่สวยของญาติสนิทบอกผมหมดว่าเจ้าของคิดอะไร 

ยัยจินนี่กำลังบอกผมว่า  ‘เห็นมั้ย  จินนี่คิดถูก  ระดับหมิงอี้ซานซะอย่าง’  ผมจึงได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้ยัยแม่มดตัวแสบด้วยความถูกใจ

“พอล  จินนี่  พวกเราพาแพทริคไปกินอะไรเย็นๆหน่อยดีมั้ย”  เสียงเล็กๆข้างตัวที่ดังขึ้นทำให้ผมและยัยจินนี่ที่กำลังสื่อสารผ่านสายตากัน  หันไปมองคนพูด  จึงได้เจอแววตาขอความเห็นของฝูหรงเต็มๆตา 

ผมออกจะเก้อเล็กๆ  จึงได้แต่ส่งคำถามขอความเห็นต่อไปให้จินนี่

“จินนี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว  ไปหาอะไรเย็นๆทานหน่อยก็ดีเหมือนกัน  เผื่ออะไรที่กำลังร้อนๆด้วยความอิจฉาจะได้ดีขึ้น...ว่ามั้ยคะมิสเตอร์แพทริค~”  หากผมเป็นนายแพทริคคงจุกพูดไม่ออก  ด้วยโดนความความจริงกระแทกกลางใจ  แต่สำหรับคนที่โดนวาจาเสียดสีของยัยจินนี่กลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

“ครับคุณจินนี่  ดีเหมือนกัน  ขืนอยู่แถวนี้ต่อ  ผมก็กลัวเมคอัพคุณจะละลายไปซะก่อน  เดี๋ยวคนอื่นจะตกใจแย่  ฮึๆ”  คงไม่ต้องบอกว่าเสียงหัวเราะกวนประสาทและถ้อยคำล้อเลียนนี้  จะทำให้แม่มดตัวแสบของผมหงุดหงิดแค่ไหน

“นี่คุณ!  คนอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย  พูดอะไรออกมาชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง”

“คุณครับ!  ผมก็แค่เตือน  ไม่ได้พูดหยาบคายซะหน่อย  ก็แค่พูดความจริง”

“ฝูหรงพาสองคนนี้ไปที่รถก่อนครับ  เดี๋ยวพอลจ่ายค่าบะหมี่แล้วจะตามไป”  ผมกระชับมือนุ่มในอุ้งมือ  เพื่อกระตุ้นให้กระต่ายน้อยขี้ตื่นได้ทำตามที่พูด  เพราะขืนปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปกว่านี้  เจ้าของร้านบะหมี่คงร่อนชามมาที่โต๊ะอย่างแน่นอน

ผมถอนใจยาวเหยียดมองตามสามร่างเดินออกนอกร้าน  โดยมีฝูหรงเดินคั่นกลางหนุ่มสาวที่ยังคงต่อปากต่อคำกันไม่เลิก  หลังจากจ่ายค่าบะหมี่เรียบร้อยแล้ว  ผมจึงหอบถุงช้อปปิ้งทั้งหมดเดินตามไป  และต้องรีบค้อมศีรษะให้เจ้าของร้านที่มองมายังผมตาเขียวโทษฐานสร้างความวุ่นวายในร้าน  แถมด้วยการระบายยิ้มแจกจ่ายลูกค้าที่ยืนรอโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์อีกนิดด้วย 

กว่าผมจะพาตัวเองกลับมายังรถที่จอดไว้ได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน  แต่แล้วผมก็ต้องปวดหัว  เมื่อได้รู้ว่าทั้งคู่ยังเถียงกันไม่เลิก  แถมเรื่องที่เถียงกันยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่อง  จนต้องมาเถียงกันหน้าดำหน้าแดงขนาดนี้  จนผมนึกว่าพาเด็กเจ็ดขวบสองคนมาเที่ยวเลยทีเดียว

“ไอศกรีม...เครื่องดื่มเย็นๆ...ฉันบอกว่าอยากกินไอศกรีม...ผมอยากดื่มอะไรเย็นๆนี่...เอ๊ะ!  นายนี่ยังไง  ต้องไอศกรีมเท่านั้น...ยังไงก็ต้องเครื่องดื่มเย็นๆเท่านั้น”  ได้ยินแบบนี้แล้ว  คุณคิดเหมือนผมใช่มั้ยล่ะครับว่าเด็กทั้งคู่

“เฮ้อออ  ทั้งคู่นี่ยังไงเหมือนเด็กเลย  พอลเราจะไปที่ไหนดี  ที่มีทั้งไอศกรีมและเครื่องดื่มล่ะ”  ฝูหรงเงยมองผมด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายแววตาปลดปลง  ซึ่งสิ่งที่ฝูหรงพูดทำให้ผมอมยิ้ม  ด้วยคนน่ารักคิดไม่ต่างกัน 

ผมจึงยกมือลูบหัวทุยเบาๆ  ก่อนรั้งต้นคอขาวเข้าหาอก  และฉกจมูกสูดกลิ่นเส้นผมเร็วๆ  พร้อมยกเอวบางขึ้น  เพื่อให้ร่างน้อยขึ้นไปนั่งบนเบาะรถข้างคนขับ  ด้วยวันนี้ผมขับรถโฟร์วิลคันใหญ่มา  เพราะรถสปอร์ตคันเก่งนั่งได้แค่สองคน 

ฝูหรงเองได้แต่มองมาที่ผมและกระพริบตาปริบๆ  ผมจึงขยิบตาให้  หวังเห็นแก้มใสขึ้นสี  ซึ่งก็สมหวังเมื่อกระต่ายน้อยขี้อายนั่งแก้มแดงหลบตากัน  ก่อนผมจะรีบเดินไปขึ้นฝั่งคนขับ  นาทีนี้สองคนที่เคยยืนเถียงกัน  เริ่มเงียบเสียงลงแล้ว  และมองมาที่ผมอย่างงงๆ

“ตกลงจะกินมั้ยไอศกรีมกับเครื่องดื่มเย็นๆน่ะ  ถ้ากินเชิญสุภาพบุรุษสุภาพสตรีทั้งสองขึ้นรถได้เลยครับ  ขืนช้าราชรถจะไม่รอ”  สิ้นเสียงผมนั้น  จินนี่และแพทริคยังไม่วายหันไปจ้องตากันอย่างเอาเรื่อง  ก่อนจะสะบัดหน้าเมินหนีไปคนละทาง  แต่พอผมแกล้งเร่งเครื่องเท่านั้น  คนทั้งคู่ก็สะดุ้ง  ก่อนจะต่างก้าวเท้าแยกย้ายกันเดินขึ้นรถคนละฝั่ง

“คิกๆ  พอลขี้แกล้ง  คิกๆ”  เสียงหัวเราะคิกคักระรื่นหูกับดวงหน้าใสประดับยิ้มกว้างของฝูหรง  ทำให้ผมต้องยิ้มตามและอดใจไม่อยู่ที่จะคว้าร่างน้อยเข้าหาอก  ก่อนออกแรงกอดด้วยความเอ็นดู  และจูบเข้าที่ปลายจมูกย่นๆอีกที

“ช่างใส่ความ  แต่ขืนไม่จัดการอะไร  คงได้ยืนทะเลาะกันเป็นเด็กไม่เลิก”  ผมแอบสูดกลิ่นหอมหลังใบหูสะอาด  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแพรวพราวที่มีแววขบขันไม่เลิก  มีแอบเหล่ไปยังด้านหลังอีกนิด  เมื่อคู่ประเด็นที่เราพูดถึงขึ้นมานั่งบนรถหมดแล้ว

“อืม  พอลปล่อยเถอะ  แพทริคกับจินนี่มองอยู่”  ตากลมๆที่ฉายแววขัดเขินชัดเจนช้อนขึ้นสบตาผม 

นอกจากผมจะไม่ใส่ใจสายตาอีกสองคู่ที่มองมาแล้ว  ผมยังเลือกที่จะไม่สนใจความรู้สึกของหนึ่งในนั้น  ด้วยการประคองแก้มใสขึ้น  ก่อนจะก้มหน้าเข้าหากระต่ายน้อยตากลม  และแนบหน้าผากไว้กับหน้าผากเนียน  พร้อมจ้องแววตาสั่นๆในระยะประชิด 

ผมรู้สึกได้เลยว่าฝูหรงเกร็งตัวขึ้น  มีเม้มริมฝีปากไว้จนแน่น  และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะกลั้นลมหายใจไว้อีกด้วย  ก่อนพวงแก้มใสจะแตะแต้มไปด้วยสีแดงจางๆ  เพราะความเขินจัดแต่ทำอะไรได้ไม่มาก  นอกจากประท้วงเล็กๆ  ด้วยการกระตุกชายเสื้อผมเบาๆ  ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยเสียงออดอ้อน  จนคนฟังอย่างผมแทบไม่อยากปล่อย  แถมอยากจะทำมากกว่าการอิงแอบแนบหน้าผากกันไว้แบบนี้ด้วยซ้ำ

“พอล~...ออกรถเถอะ  นะครับ  นะ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะบางเบา  แต่ก่อนที่ผมจะปล่อยร่างน้อยให้กลับไปนั่งดีๆตามอย่างที่ควรจะเป็น  กลับมีเสียงกระแทกกระทั้นดังขึ้น

“ฝูหรง  ไอจะได้กินอะไรเย็นๆมั้ย  จะไอศกรีมหรือเครื่องดื่มก็ได้...ไม่อยากเรื่องมาก  เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเข้าอีก”

“เหอะ!  ไม่ทันแล้วมั้ง  และที่ยอมตอนนี้ทั้งๆที่เถียงเอาเป็นเอาตายมาตลอด  เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาล่ะซิ”

ผมส่ายหน้าและส่งยิ้มเพลียๆใส่ตาคู่กลมที่สะท้อนแววหนักใจให้เห็น  ท่ามกลางเสียงที่ดังโต้เถียงไม่หยุดจากตอนหลังของรถ  ก่อนจะคว้ามือนุ่มขึ้นจรดริมฝีปากบนหลังมือ

“ฝูหรงอยากทานฟรุ๊ตทาร์ตร้านเหมยอิงใช่มั้ย  วันนี้พอลพาไปนะครับ”  คำชวนของผมทำเอาคนอยากกินฟรุ๊ตทาร์ต  ถึงกลับคลี่ยิ้มหวานและพยักหน้าแรงๆจนเส้นผมกระจาย  สร้างความน่าเอ็นดูแก่ผมยิ่งขึ้นไปอีก 

ผมจึงยื่นมือไปบีบปลายจมูกแหลมเบาๆแก้ความมันเขี้ยว  ใจจริงอยากกัดพวงแก้มอมชมพูทั้งคู่มากกว่า  แต่ก็ได้แค่ใช้หลังมือลูบไล้มันเล่นเท่านั้น

สองวันก่อนผมจำได้ว่ากระต่ายน้อยหน้าระรื่นตรงหน้าผมเนี่ย  บ่นอยากกินเจ้าฟรุ๊ตทาร์ตรสชาติหวานอมเปรี้ยวในแป้งทาร์ตรสกลมกล่อมของร้านเหมยอิง  ด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันจนผมนึกเอ็นดูไม่คลาย  ซึ่งฝูหรงเล่าว่าที่ตัวเองได้กินเป็นเพราะน้องธันว์หิ้วมาฝาก  ยามเด็กน้อยของมาเฟียติดสอยห้อยตามหลี่ผิงไปที่โรงแรม

วันนี้เป็นโอกาสดีที่ผมจะพาเจ้าตัวไปกินทาร์ตอีกครั้ง  พ่วงด้วยที่ร้านเบเกอรี่ของเหมยอิงนั้นมีทั้งไอศกรีมและเครื่องดื่มทุกชนิด  แถมด้วยเบเกอรี่หลากหลายชนิดให้เลือก  สามารถตอบสนองความต้องการของหนุ่มสาวหลังรถได้  ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่เลิกโต้เถียงกันไปแล้ว  และเปลี่ยนไปนั่งอยู่คนละมุม  พร้อมใจกันหันหน้าออกนอกรถ  ดูเผินๆเหมือนเหมือนเด็กๆงอนใส่กันไม่มีผิด

ความรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจที่ผมเคยมีให้นายแพทริคเมื่อแรกเจอ  มานาทีนี้คงต้องบอกว่าแทบไม่มีเหลือ  เพราะรับรู้ด้วยใจและเห็นด้วยตามาตลอดทั้งวันแล้ว  ว่านายแพทริคไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าคู่แข่งทางความรักของผมได้เลย  แม้การแสดงออกในวันนี้ของแพทริค  จะทำให้ผมมั่นใจขึ้นว่าเจ้าตัวคิดไม่ซื่อต่อญาติต่างสายเลือดอย่างฝูหรงก็ตาม  แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไป  ในเมื่อสายตาและท่าทีที่ฝูหรงมีให้นายแพทริคนั้น  สื่อออกมาชัดเจนว่ากระต่ายน้อยของผมให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเป็นญาติเท่านั้น 

ผมจึงออกจะสบายใจและแอบเห็นใจนายแพทริคอยู่เหมือนกัน  เพราะตลอดครึ่งวันหลังนายแพทริคโดนยัยจินนี่ทำคะแนนทิ้งห่างแทบไม่เห็นฝุ่น  ด้วยการแอบกระทบกระเทียบความรู้สึกที่มันแอบมีต่อฝูหรงเป็นระยะ  จนไอ้ฝรั่งหน้าจืดถึงกับจุกพูดไม่ออก  และได้แต่ส่งสายตาคาดโทษให้แก่แม่มดตัวแสบประจำตระกูลโจว  ที่ก็นั่งตักไอศกรีมโฮมเมดเข้าปากด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ส่วนคนน่ารักของผมเหมือนจะไม่ได้รู้เรื่องรอบตัวมากนัก  เพราะได้แต่มีความสุขกับฟรุ๊ตทาร์ตแสนโปรดกับโยเกิร์ตผลไม้รวมตรงหน้า  จนไม่ได้ใส่ใจในบทสนทนาบนโต๊ะเสียเท่าไหร่  นอกจากการเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กัน  ยามที่ผมยื่นกระดาษซับมุมปากที่เปรอะเปื้อนให้  สำคัญที่ผมเองนั้นคอยกันท่าและชักจูงกระต่ายน้อยด้วยคำพูด  เพื่อให้เราได้อยู่ในโลกส่วนตัวที่มีแค่กันและกันเท่านั้น

................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ผลแข่งขันนัดนี้ตัวแสบชนะตัวป่วนขาดลอย  คะแนนทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น
น่าสงสารแพทริคเหมือนกันเนอะ  กับจินนี่น่ะไม่เท่าไหร่  แต่ปฏิกิริยาของฝูหรง
ที่มีแก่แพทริคนี่สิ 

ตอนหน้าใครที่เห็นใจแพทริคต้องตามมาให้กำลังใจค่ะ  เพราะดูท่าจะแย่
สำคัญห้ามพลาดเพราะพอลปลอบฝูหรงท่าไหนไม่รู้  แต่กลับเป็นฝ่ายโดนปลอบเอง!!
เจอกันวันเสาร์นะคะ  พร้อมกระดาษทิชชู่และหมอนสักใบ  555

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2014 12:28:08 โดย MiSS-U »

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
คงต้องบอกให้แพทริคทำใจซะเถอะ  ว่ายังไงฝูหรงก็คิดได้แค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านัั้น

งานนี้ไม่เสียชื่อแม่มดตัวแสบ ที่เล่นปล่อยหมัดน๊อกเอาท์จนแพทริคจุกไปเลย  ว่าจะเชียร์ให้ 2 คนนี้คู่กัน ไม่รู้ว่าจะไหวหรือเปล่า แต่ก็ยังอยากให้เป็นแฟนกันอยู่ดี

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
อยากกินฟรุ๊ตทาร์ต มั่งอะ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สงสารแพทริคนะตอนนี้ ส่วนพอลก็ขยันสร้างโลกส่วนตัวกับฝูหรงจังเลย

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
แรกๆสะใจ
หลังๆไปก็เอ็นดูพ่อปากเปราะ
ลองกลับตัวมาคู่จินนี่หน่อยมะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด