Roommate&Soulmate(ตอนที่19) : ไปค่ายอาสา-8(ความเฉยชา!!).....เมื่อคืนนี้ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวจบอย่างไร นายนิกไปนอนที่ไหน เพราะเราเองนายปิ๊กก็พากลับมานอนที่บ้านปีหนึ่ง....ตื่นเช้ามาออกกำลังกายปกติ เข้าประชุมสีก็เจอนายนิกนะ แต่ก็ไม่สนใจเราเหมือนเดิม ทุกคำพูดทุกการกระทำของนายนิกเมื่อคืนนี้เรายังจำได้ทั้งหมด เราเลยไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยกับนายนิก ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ
"เอิร์ตกับนิกเดี๋ยววันนี้ลงไปในเมืองกับพี่นะ"
"ผมหรอครับ"
"เอิร์ตหรอพี่"
//เรากับนายนิกถามรุ่นพี่ขึ้นมาทันที//
"ใช่ น้องเอิร์ตกับน้องนิกนั่นแหล่ะ เดี๋ยวต้องลงไปซื้อข้าวสารแล้วก็ของแห้งกับพี่ที่ในเมือง เราต้องรีบลงไปกันเพราะใช้เวลานาน เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วมาเจอกันตรงนี้นะ" รุ่นพี่กำชับเรากับนายนิก
"ครับ" เรากับนายนิกพูด เราหันไปมองนายนิก แต่นายนั่นก็ไม่มองเรา
....พอกินข้าวเช้าเสร็จเราก็เดินมารอพี่ตรงจุดนัดพบ ก็เจอนายนิกกับรุ่นพี่ยืนรออยู่แล้ว นายนิกใส่ชุดบอลคลุมทับด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวอีกทีนึง สงสัยกลัวร้อน ฮ่าๆ ยัยส้มกับนายปิ๊กก็มาด้วย นายปิ๊กต้องลงไปกับเราด้วยเพราะพูดภาษาเหนือได้ แต่ยัยส้มแค่มาส่งเฉยๆ
"เอิร์ต ไปกับนิกได้แน่นะ" ยัยส้มกระซิบถามเรา
"อือ!!ก็รุ่นพี่ให้ไปก็ต้องไปอ่ะ"เราพูดกับยัยส้ม
"ไม่ใช่ไปทะเลาะกันกลางทางนะเว๊ย" ยัยส้มพูด
"ไม่หรอกน่า!!ไม่ต้องห่วงนะ ปิ๊กก็ไป" เราพูด
"ปิ๊ก ฝากดูสองคนนี้ด้วยนะ เดี๋ยวไปทะเลาะกันตลาดแตกอีก" ยัยส้มพูด
"ฮ่าๆ ครับๆ" นายปิ๊กพูดแล้วก็หัวเราะ
.....แล้วซักพักรถที่จะพาเราไปข้างล่างก็มารับพวกเรา เป็นรถกระบะตอนเดียวสีขาว แล้วจะนั่งยังไงหมดเนี่ย!! สรุปว่าพี่ที่ไปนั่งข้างหน้า เรา นานนิก นายปิ๊กนั่งข้างหลัง ทางลงเขาสนุกมากๆๆ หวาดเสียวสุดๆ ฮ่าๆ ใช้เวลานานพอสมควรเลยหล่ะ ประมาณ3ชั่วโมงเลยนะกว่าจะลงมาจากดอยถึงพื้นล่างแล้วก็ไปถึงตลาดในเมืองอ่ะ เป็นอะไรที่นานมากๆ////ตอนอยู่บนรถนายนิกก็ไม่คุยกับเรานะ คุยแต่กับนายปิ๊ก เราก็เลยนั่งไปเงียบๆ นายปิ๊กก็ชวนเราคุย...พอมาถึงตลาด คนขับรถก็บอกว่าเดี๋ยวไปทำธุระที่บ้านญาติแถวๆนี้ซักหน่อย ถ้าซื้อของเสร็จแล้วก็มารอตรงนี้นะเดี๋ยวมารับ...แล้วนายปิ๊กก็พาเรากับรุ่นพี่ไปซื้อของในตลาด
"เอิร์ต นี่ข้าวจี่ เคยกินป๊ะ" นายปิ๊กหันมาถามเรา
"ไม่เคยอ่ะ อร่อยหรอ" เราพูด
"แล้วนิกอ่ะเคยกินป่าว" นายปิ๊กหันไปถามนายนิก
....นายนิกมองข้าวจี่ที่กำลังปิ้งอยู่แล้วก็ส่ายหน้า
"โอเคๆไม่เคยกินทั้งคู่ งั้นเดี๋ยวปิ๊กซื้อให้ชิมนะ" นายปิ๊กพูดแล้วก็ซื้อข้าวจี่มาสามอัน ส่งให้เรากับนายนิก เราก็หยิบมาชิมๆ มันหอมๆ เค็มๆ เหมือนก้อนข้าวเหนียมชุบไข่แล้วเอาไปปิ้งอ่ะ กลิ่นคาวๆนิดๆ เรากินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ส่วนนายนิกกินได้หมดด้วย เราก็พยายามกินจนหมดนั่นแหล่ะ
"เป็นงัย อร่อยมั๊ย" นายปิ๊กหันมาถามเรากับนายนิก
"อือ!!อร่อยดี แต่เราชอบกินบ้าบิ่นมากกว่า อยากกินอีก" นายนิกพูด
"ขนมบ้าบิ่นหรอ เดี๋ยวเจอร้านจะพาไปซื้อนะ" นายปิ๊กพูด
.....แล้วเราก็ไปช่วยกันซื้อของจนได้ครบตามที่ต้องการ....ก็พากันออกมารอรถคันเดิมที่จะมารับเรากลับไปตรงจุดนัดพบ จนบ่ายสองแล้วรถก็ยังไม่มา นายปิ๊กบอกว่าเราจำเป็นต้องกลับขึ้นไปก่อนนะ เพราะถ้ารอจนเย็นจะขึ้นค่ายลำบาก ฝนก็ทำท่าจะตก ถ้าขึ้นไปตอนฟ้ามืดแล้วจะลำบาก////เบอร์ติดต่อพี่คนขับรถก็ไม่มี รุ่นพี่ปรึกษากันแล้วก็ตกลงว่าต้องพาข้าวของขึ้นไปค่ายก่อน นายปิ๊กหายไปซักพักนึงแล้วก็กลับมาพร้อมกับรถกระบะคันนึง นายปิ๊กบอกให้พวกเราขนของขึ้นรถแล้วจะได้ขึ้นค่ายไปกับรถคันนี้ก่อน แต่ว่ารถคันเดียวนั่งกันไปไม่หมด...!!!!
"เอิร์ตกับนิกรอรถอยู่ที่นี่นะ รอขึ้นไปทีหลังเดี๋ยวพี่กับน้องปิ๊กจะขึ้นไปก่อน" รุ่นพี่พูดกับเรากับนายนิก
"เอางั้นหรอครับ" เราพูดกับรุ่นพี่
"ได้ครับพี่ ขึ้นไปกันก่อนเลยเดี๋ยวจะไม่ทันครับ ฝนเหมือนจะตก ไปก่อนเลยปิ๊กไม่ต้องห่วงหรอก" นายนิกพูดขึ้นมา เราก็เลยเงียบไป คือว่าถ้ารุ่นพี่กับนายปิ๊กขึ้นค่ายไปแล้ว เหลือเรากับนายนิกสองคน แล้วเราจะทำตัวยังไงอ่ะ ไม่พูดกันแต่ต้องมาอยู่ด้วยกันเนี่ยนะ เฮ้อ!!!!
.....แล้วพี่ๆกับนายปิ๊กก็ขึ้นค่ายกันไปก่อน เหลือเรากับนายปิ๊กสองคน ก็นั่งคอยกันไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รถคันนั้นจะมารับเราสองคนขึ้นค่าย บรรยากาศตอนนี้ก็เกือบๆสี่โมงเย็น ฟ้าก็ครึ้มๆเหมือนฝนจะตก นายนิกหายไปไหนไม่รู้!!!! ซักพักนึงก็กลับมาพร้อมกับห่อขนมบ้าบิ่น สงสัยนายนี่จะชอบกินจริงๆนะ นายนิกมานั่งข้างๆเราแล้วก็ยื่นขนมมาให้ชิ้นนึง แต่ก็ไม่พูดอะไรนะ เราก็รับมากิน นายนิกวางขนมไว้แล้วก็เดินไปซื้อน้ำมาแบ่งกันกิน ลมเริ่มพัดแรง ฝนคงจะตกแน่ๆ แล้วก็มีเสียงเรียกเรา....!!!!!
"น้องๆ โทษทีๆ ไปไหนกันหมดแล้วเนี่ย" พี่คนขับรถถามเรา
"ขึ้นค่ายไปแล้วครับเหลืออยู่สองคนเนี่ย" เราบอกกับพี่เค้า
"อ่าว!!ป่ะๆ งั้นเรารีบไปกันเลยขึ้นรถๆนั่งหน้าได้สองคนนั่นแหล่ะ เดี๋ยวฝนตกมาจะแย่เอา"
....เฮ้อ!!! มาช้าแล้วยังมาเร่งเราอีกนะ นายนิกดันตัวเราให้ขึ้นรถไปก่อน////พอเราขึ้นรถพร้อมพี่เค้าก็มุ่งหน้าขึ้นดอยทันที แต่มาได้กลางทางฝนเกิดลงเม็ดมาซ๊ะงั้นอ่ะ เราคิดในใจว่าอย่าเพิ่งตกได้มั๊ย!! ขึ้นไปถึงค่ายก่อนค่อยตกนะ แต่ฝนก็ไม่เชื่อเรา ซักพักก็ตกลงมาอย่างหนักเลย พี่คนขับก็ประคองรถไปเรื่อยๆจนมาถึงทางที่จะต้องขึ้นเขา พี่เค้าเร่งเครื่อง น่ากลัวมากๆ อีกข้างหนึ่งของถนนเป็นไหล่เขาที่เป็นเหวลึก น่ากลัวจริงๆ ถนนลื่นๆแบบนี้ ถ้ารถเกิดเสียหลักไป เราไม่รอดแน่ๆ ฝนก็ตก ฟ้าก็ร้อง ฟ้าแลบด้วย เรานะกลัวสุดๆอ่ะ เราเผลอเอามือไปจับมือนายนิก แต่ว่านายนิกก็เอามือออกหนีเราไป ตลอดทางเราสองคนไม่พูดกันเลย ฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ.....!!!!ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก!!!!
"เดี๋ยวถึงจุดพักรถข้างหน้าจะมีศาลาอยู่ เราต้องจอดรถนอนกันที่นี่แล้วหล่ะคืนนี้ รอฝนหยุดค่อยไปกันต่อ เพราะถ้าไปตอนนี้มันอันตรายมาก"
พี่คนขับรถหันมาพูดกับเรา////เราก็เลยหันไปมองหน้านายนิก ประมาณว่าเอายังไงกันดีอ่ะ
"ก็ได้ครับพี่ ไปต่ออันตรายป่าวๆ" นายนิกพูดตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆนิ่งๆ
....แล้วรถก็ฝ่าสายฝน เสียงฟ้าร้อง ฝ่าความมืดมาจนถึงจุดพักรถ ตรงนั้นมีศาลาที่สร้างอยู่ริมทางเป็นศาลามุงจาก ฝาผนังเปิดโล่ง พื้นศาลาเป็นไม้ไผ่ที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมาแบบง่ายๆ
"เดี๋ยวน้องสองคนไปนอนที่ศาลานะ ส่วนพี่จะนอนบนรถนี่แหล่ะ เอานี่เทียนกับไฟแช๊ค พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวพี่จะปลุกนะ" พี่คนขับรถพูดแล้วก็ขับมาจอดตรงริมศาลาให้เราสองคนลงไป แล้วพี่เค้าก็ขับรถไปจอดไกลออกไปจากศาลาพอประมาณ
////เรากับนายนิกลงจากรถแล้วก็ไปที่ศาลา เปียกฝนนิดหน่อย แต่ว่าเราต้องนอนที่นี่หรอเนี่ย ท่ามกลางบรรยากาศแบบว่ามืดสนิท ฝนตกหนัก เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบ ใครจะไปนอนได้ หนาวก็หนาว....แต่ดีนะที่บนศาลาฝนสาดเข้ามาไม่ถึง ไม่งั้นอยู่กันไม่ได้แน่ๆ นายนิกจุดเทียนที่พี่เค้าให้มาแล้วก็เอาไปตั้งไว้ริมศาลา แสงเทียนพอทำให้หายกลัวได้บ้าง เรานั่งกันคนละฟากแบบเงียบๆ จะชวนคุยดีหรือป่าวน๊า....คิดไปคิดมาก็เลยตัดสินใจ....!!!!
"นิก หนาวมั๊ย" เราถามนายนิก
".......!!!!" (นายนิกไม่ตอบ)
"ดีนะที่ยังมีเทียนมาให้จุด ไม่งั้นมืดตายเลยเนอะ" เราพูดกับนายนิก
"......!!!!!" (ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม!!)
"เดี๋ยวฝนหยุดก็ได้กลับแล้วเนอะ" เรากลั้นใจพูดไปอีก
แต่นายนิกก็..."เงียบ!!!!"....ทีนี้น้ำตาเราเริ่มเอ่อแล้วหล่ะ กลัวก็กลัวกับบรรยากาศรอบข้าง แถมยังมาเจอนายนิกไม่คุยด้วยอีก ไม่รู้จะทำยังไง ร้องไห้ดีกว่า เราหันไปมองนายนิก นายนั่นก็ได้แต่นั่งหลังพิงเสา แล้วก็มองไปที่เทียน ไม่พูดไม่จา
....นี่เราพาเค้ามาลำบากหรือป่าวเนี่ย(เราคิดในใจ)....แล้วก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้นายนิก แต่สายตาดันมองไปเห็นแว๊บนึงช่วงที่ฟ้าแลบ เราเห็นเป็นร่างคนยืนอยู่กลางสายฝน หรือไม่ก็กำลังเดินเข้ามาหาเราที่ศาลา แค่นั้นแหล่ะเราร้องเสียงดังเพราะความตกใจ แล้วก็ลุกขึ้นนั่งขยับตัวไปใกล้ๆนายนิกเลยหล่ะ ////ไม่รู้ว่านายนิกจะเห็นเหมือนกันมั๊ย แต่นายนั่นก็เหมือนจะรู้!!!!แต่ก็เงียบ!!!! เรากลัวมากๆ ขยับไปจนติดนายนิก หันไปมองนายนิก นายนั่นก็นั่งนิ่ง ไม่มอง ไม่ถามเลยว่าเราเป็นอะไร เราก็เลยล้มตัวลงนอนใกล้ๆนายนิกนั่นแหล่ะ ไม่สนใจแล้วจะเกลียดจะโกรธยังไงก็ตอนนั้นเรากลัวนี่นา!!!!แล้วเทียนก็ดับลงเพราะมันเป็นแค่เทียนเล่มเล็กๆเองอ่ะนะ ทุกสิ่งอยู่ในความมืดสนิทอีกครั้ง มีแต่แสงฟ้าแลบกับเสียงฝนตกที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ป่านนี้เพื่อนๆบนค่ายคงเป็นห่วงเรากับนายนิกแย่แล้วหล่ะ
....เรารู้สึกว่านายนิกไม่ได้นอนนะ แต่ยังคงนั่งพิงเสาอยู่อย่างนั้นแหล่ะ แล้วนายนิกก็ประคองหัวเราขึ้นไปหนุนตัก แล้วก็ถอดเสื้อคลุมแขนยาวของตัวเองออกมาห่มให้เรา.....นายนิกลูบผมเราด้วย!!!!แต่ก็ไม่พูดอะไร เราเองก็นอนอยู่อย่างนั้น เพราะบรรยากาศแบบนี้นายนิกคงสงสารเรามั้ง ก็เลยทำแบบนี้!!!!
.....มารู้สึกตัวอีกทีตอนทีตอนที่พี่คนขับรถมาเรียกเรา เราตื่นแต่นายนิกตื่นไปก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าไปไหน ฟ้าก็เริ่มสาง ฝนหยุดตกแล้ว น่าจะประมาณเกือบๆหกโมงเช้า อากาศหนาวมากๆ มีหมอกลงด้วยหล่ะ เสื้อคลุมแขนยาวของนายนิกก็ยังอยู่ที่เราอยู่เลย แล้วตัวนายนิกหายไปไหน สงสัยไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปฉี่แถวๆนี่แหล่ะมั้ง ซักพักนายนิกก็เดินกลับมา พี่เค้าก็ให้เราขึ้นรถเพื่อที่จะกลับค่ายกัน เรายื่นเสื้อคืนนายนิก
"ขอบคุณนะนิก" เราพูดกับนายนิก
"........!!!!" นายนิกรับเสื้อกลับคืนไปใส่เหมือนเดิม แต่ก็เงียบ!!ไม่พูดกับเรา ตลอดทางจนถึงค่ายเลยหล่ะ
มาถึงค่าย!!.....พอรถจอดสนิทก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ มารอรับเราสองคนเยอะเลย มาเกือบทั้งค่ายเลยมั้ง ฮ่าๆ
"เอิร์ต นิกเป็นไงบ้างว๊ะ พวกกูเป็นห่วงแทบแย่" ไอ้แมคเดินเข้ามาหาเราแล้วก็พูด
"ไม่เป็นไรกูอ่ะสบายๆ" นายนิกหันไปพูดกับไอ้แมค
"เป็นยังไงบ้าง น้องเอิร์ตน้องนิก พี่ขอโทษนะที่ทิ้งเราสองคนไว้"
"ไม่เป็นไรครับพี่" นายนิกพูด
"เอิร์ต เมื่อคืนนอนที่ไหนอ่ะ" นายเอ็มหันมาถามเรา
"นอนตรงศาลาริมทางอ่ะ ที่เราก็เดินผ่านตอนขึ้นค่ายอ่ะ" เราตอบนายเอ็ม
"อ๋อๆ ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว แล้วพูดกับนิกบ้างยังเนี่ย" นายเอ็มถามเรา
"ก็พูด แต่นิกก็ยังไม่พูดด้วยเหมือนเดิมแหล่ะ จนเราไม่รู้จะพูดยังไงแล้วอ่ะเอ็ม"
"อือ!!เดี๋ยวก็ดีเองหล่ะ อย่าคิดมากป่ะไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เดี๋ยวจะได้มากินข้าวกัน" นายเอ็มพูดกับเรา
"เอิร์ต นิกเป็นไงบ้างว๊ะเนี่ย เมื่อคืนไปนอนไหนกันมา" ยัยส้มวิ่งมาถามเรากับนายนิก
"กูว่าให้แม่งสองคนไปอาบน้ำ ล้างหน้าก่อนเถอะ เดี๋ยวตอนไปกินข้าวค่อยให้แม่งเล่าให้ฟัง" ไอ้แมคพูด
"เออๆก็ได้" ยัยส้มพูด
"เอิร์ตป่ะๆ" ไอ้แบงค์เพื่อนที่นอนบ้านปีหนึ่งด้วยกันมารับเราไปอาบน้ำล้างหน้า
.......ส่วนนายนิกก็เดินไปกับพวกนายเอ็ม ไอ้แมค////แล้วเราก็มาเจอกันอีกทีตอนที่กินข้าวเช้า มีแต่คนเข้ามาถามเรากับนายนิกว่าเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง เราก็พูดก็ตอบไปสนุกเลยหล่ะ เล่าให้พวกยัยส้ม ไอ้แมคฟัง ทุกคนก็บอกว่า เหมือนพระเอกนางเองหลงป่าเลยเนอะ/////โหยยย!!! พระเอก นางเอกอะไร เป็นใบ้เกือบทั้งเรื่อง ฮ่าๆ ไม่พูดกันเลย พอกินข้าวเสร็จ รุ่นพี่บอกว่าวันนี้เรากับนายนิกไม่ต้องทำงานให้พักผ่อนกัน เพราะเมื่อคืนไปลำบากมา ให้พักผ่อนหนึ่งวัน แต่นายนิกก็ไม่หยุด
ไปช่วยไอ้แมคทำส้วมเหมือนเดิม ส่วนเรา ก็ไปช่วยงานครัว(อีกแล้ว) ฮ่าๆ
......พอพักกลางวัน หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ พวกเราก็ไปที่แขวนสมุดกระจกกัน โหยย!!!!เรตติ้งดีมาก กำลังใจมาเพียบ ฮ่าๆ ของนายนิกก็น่าจะเยอะนะ เห็นอ่านแล้วยืนยิ้มอยู่คนเดียว^^
"เออ!!เอิร์ต ถ้าฝนมันไม่ตกแล้วอ่ะ มึงออกมานอนเต๊นท์กับพวกกูนะ" ไอ้แมคพูด
"อือ!!ทำไมอ่ะ"
"ไม่รู้ดิ!! พอไม่มีมึงแล้วมันเหมือนขาดๆอะไรไปหว่ะ ว่าป๊ะไอ้เอ็ม" ไอ้แมคพูดแล้วก็หันไปพูดกับนายเอ็ม
"อือๆ" นายเอ็มพูด
"แล้วไอ่นิกแมร่งก็มาเป็นแบบนี้อีก กรูก็ไม่รู้จะทำไงหว่ะ ไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้กันเลย มึงสองคนกลับมาเหมือนเดิมเร็วๆดิว๊ะ".... ไอ้แมคพูดแล้วก็เอามามือจับไหล่เรากับไหล่นายนิก นายนิกหันมามองหน้าไอ้แมคด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วก็หันไปอ่านสมุดกระจกของตัวเองต่อ
"ห่า!!!!นิก มึงจะเงียบไปถึงไหนเนี่ย"ไอ้แมคถามนายนิก
"กูไม่มีอะไรจะพูด" นายนิกพูด
"ก็ที่กูถาม มึงก็ตอบมาดิ" ไอ้แมคพูดกับนายนิก
"กูไม่รู้" นายนิกพูด
"มึงก็นะ เออ!!ซักวันมึงจะรู้สึก บางทีความเงียบแม่งก็ไม่ได้ช่วยให้เหี้ยไรมันดีขึ้นหรอกนะ" ไอ้แมคพูดอารมณ์โมโหใส่นายนิกแล้วก็เดินออกไป!!!!
"อ่าวเฮ้ย!! ไอ่แมค!!!!" นายนิกพูดแล้วก็วางสมุดกระจกไว้ที่เดิม แล้วก็วิ่งตามไอ้แมคไป.....!!!!!
.....คือสรุปว่า ที่ตรงนี้ เมื่อกี้.....เราคือ"อากาศ" ใช่มั๊ย มันเบาบาง โปร่งใส ซ๊ะจนนายนิกมองไม่เห็นว่ามีเรายืนอยู่ตรงนั้นด้วยT_Y!!!!!
"ความเฉยชา คือการบอกลาโดยไม่ต้องออกเสียงใด
สิ่งที่เธอทำลงไป ทำไมช่างดูเลือดเย็น
เธอไม่ต้องเอ่ยคำใด เพราะหัวใจพูดแทนอย่างชัดเจน
ไปจากฉัน ทนอยู่ไปเพื่ออะไร ถึงฉันจะเป็นหรือตาย
ก็ไม่อยากเป็นคนถูกทิ้งด้วยสายตา....!!!!"
....ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจนะคร๊าบ รักเลยๆ