Lost 5 : Remember
กระดาษเอกสารสี่ห้าฉบับซึ่งถูกโยนใส่ใบหน้าทันทีที่ปิดประตูและเดินออกมาจากห้องพักของคุณหมอเอนีล ดวงตาสีน้ำตาลเข้มไม่แม้แต่จะกระพริบเสียด้วยซ้ำยามเห็นกิริยาหยาบคายผิดวิสัยอาชีพ ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองแผ่นกระดาษที่ร่วงกราวลงอย่างรวดเร็ว เอกสารแจ้งข้อมูลพิมพ์ด้วยกระดาษเนื้อดียับย่นด้วยอารมณ์กรุ่นเคืองของผู้ถือ ฟาเอล กีโยต์ พ่อบ้านผู้ชราประจำตระกูลชาส์เดอตงส์จ้องมองบุรุษเบื้องหน้าด้วยแววตาวาววับ ริมฝีปากผากแห้งเม้มแน่น เต็มไปด้วยความไม่พอใจที่แสดงออกอย่างชัดเจนต่อชายเบื้องหน้า..
แกร่บ.. กระดาษเนื้อดีหล่นอยู่ตรงปลายเท้า ถูกหยิบขึ้นมาด้วยปลายนิ้วของไคลน์ สไตรค์เซอร์ ใบหน้าหล่อเหลางดงามที่คงรอยยิ้มอ่อนโยนเรียบเรื่อยแสนจะเป็นสุภาพบุรุษยามอยู่ต่อหน้าบุตรชายของนายพลใหญ่บัดนี้จางไปเหลือเพียงสีหน้าเรียบเฉยไม่ต่างกับแผ่นกระดาษในมือ..
นัยน์ตาสีเข้มสบมองความไม่พอใจในดวงตาของพ่อบ้านชรา ใบหน้าหล่อเหลางดงามนั้นไม่ปรากฏความงวยงงขึ้นเสียด้วยซ้ำยามทอดมองใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่อยู่ในกระดาษ
เอกสารนั้นเป็นประวัติโดยละเอียดของชายคนหนึ่ง..บุรุษผมสีน้ำตาล ดวงตาสีเดียวกัน เชื้อสายฝรั่งเศษ-อังกฤษ ประกอบอาชีพรับราชการทหารกับกองทัพฝรั่งเศส อดีตเคยประจำอยู่ที่แคว้นไรน์แลนด์ ชายผู้มีชื่อว่า ไคลน์ สไตรค์เซอร์..
..แต่ใบหน้าของบุคคลในรูปนั้น ไม่ใช่ ไคลน์ สไตรค์เซอร์ที่ยืนอยู่ตรงนี้!!! "แก..." พ่อบ้านเฒ่าคำรามด้วยความไม่พอใจ ลางสังหรณ์ที่มีนั้นถูกต้องในที่สุด ตนนั้นนึกเคลือบแคลงสงสัยท่าทีของบุรุษผู้มาใหม่ไม่น้อย จึงได้ขอประวัติของไคลน์ สไตรค์เซอร์ จากเจ้านายตนเพื่อมาตรวจสอบให้แน่ใจ ฟาเอลคิดว่าชายคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ ตนคิดว่าอาจจะได้เงื่อนงำในการเป็นสายลับ ชายคนนี้อาจจะมาสืบข่าวคราว หรือเป็นคนของคู่แข่งที่ส่งมากำจัดคุณชายก็เป็นได้
... แต่ฟาเอลไม่คิด..เขาคาดไม่ถึงเลยว่าชายคนนี้จะมีใบหน้าแตกต่างกับคนในรูปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งรูปร่างหน้าตา ลักษณะหรือแม้กระทั่งส่วนสูงมันผิดแผกไปหมด มันเป็นเพียงการแอบอ้างชื่อ ไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่มีอะไรเหมือน ไม่ใช่การปลอมตัวเสียด้วยซ้ำ!! แต่ทำไมบอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันนายน้อยและดูแลอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ถึงได้ไม่รู้เรื่อง!? การ์ดพวกนั้นไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลยหรือ? นี่พวกเขาเลินเล่อมากเท่าไหร่กันถึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ซ้ำพวกตนยังเป็นฝ่ายปล่อยให้มันเข้าใกล้คุณชาย..
ปึง! "จะไปไหนครับ?" เร็วเท่าความคิดฟาเอลกระโจนพรวด พยายามถีบตัวไปหาประตูห้องอย่างไม่คิดจะสนใจสภาพร่างกายของตน จิตประหวั่นคิดไปถึงนายน้อยที่เขาห่วงหานัก ทว่าเพียงแตะมือลงบนบานประตู ท่อนแขนก็ถูกกระชากกลับซ้ำยังบีบแน่น แล้วเรี่ยวแรงชายชราอย่างตนหรือจะสู้บุรุษหนุ่มร่างกำยำสูงใหญ่ได้ไหว
"เจ้าสายลับ!แกทำอะไรคุณชาย" ฟาเอลร้องตวาดสวนคำไปอย่างไม่ยอมแพ้ พ่อบ้านเฒ่าใช้ดวงตาอันฝ้าฟางของตนจ้องมองหน้าคนพูดเขม็ง ในใจร้อนรนยามคิดถึงคุณชายคนเล็กของบ้าน ฟาเอลนึกละอายใจนักที่ตนเองนั้นเลินเล่อ ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมเข้าถึงตัวคุณชายเพียงเพราะมีจดหมายมาจากท่านนายพล ทั้งๆที่มันอาจจะเป็นสายลับ อาจจะชิงหนังสือมาจากผู้รับคำสั่งตัวจริง มันอาจเป็นมือสังหารมาทำร้ายแก้วตาดวงใจของท่านนายพลก็เป็นไปได้
"เงียบหน่อยสิครับ เสียงดังเดี๋ยวเอนีลจะตื่นเอา" ฝ่ามือซ้ายบีบแขนพ่อบ้านเฒ่าและเอ่ยตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย มืออีกข้างของไคลน์แตะลงบนลูกปิดประตู แสดงชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้สุ้มเสียงการทะเลาะวิวาทนี้เข้าถึงหูชายหนุ่มผู้กำลังนิทราอยู่เด็ดขาด แน่นอนรวมถึงไม่ยอมให้ใครเข้าไปรบกวนเจ้าชายผู้นิทราสนิทในนั้น
"แกทำอะไรคุณชาย! สายลับสองหน้าอย่างแกน่ะกำลัง..อึ่ก..."
“กล่าวหากันแบบนี้ไม่ดีนะครับ” ริมฝีปากหนายังคงหยักยิ้มอ่อนเช่นที่เคยพบเห็น ทว่ากับฟาเอลแล้วเขาถือว่ารอยยิ้มนี้เชื่อไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!
“กล่าวหาอะไร...กับไอ้คนที่แอบอ้างชื่อผู้อื่นอย่างแก!!” พ่อบ้านเฒ่าพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม หรืออย่างน้อยก็ยังคงพยายามตะโกนให้สุดเสียงเผื่อว่าเหล่าการ์ดข้างนอกจากได้ยินบ้าง
“ชื่อนั้นสำคัญฉไน...?” คิวเข้มเลิกขึ้นเนิบช้า อัปกริยาฉงนฉงายกลับทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูน่ามองขึ้นนับเท่าตัว ก่อนที่ ไคลน์ สไตร์คเซอร์จะถอนหายใจแผ่ว นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องสบดวงตาของพ่อบ้านเฒ่าด้วยสีหน้าจริงจัง..
“รู้เพียงว่าผมมาเพื่อปกป้องดูแลคุณชายที่คุณรัก และมาช่วยขจัดปัดเป่าฝันร้ายของเขาให้หายไป เพียงเท่านั้นยังไม่พออีกหรือ?”
ใบหน้าหล่อเหลานั้นจ้องมองสีหน้าโกรธเคืองนั้นคล้ายฉงน ราวกับชายผู้นี้ไม่อาจเข้าใจความเคืองแค้นที่มุ่งมาสู่ตนได้ชัดเจนนัก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นยังพยายามจับจ้อง หวังเพื่อแสดงความจริงใจราวกับไร้เดียงสา
“แกพล่ามอะไร?” พ่อบ้านเฒ่าแค่นหัวเราะ สำหรับฟาเอลแล้ว ท่าทีเมื่อครู่นั้นน่าหัวร่อนัก “พยายามแสดงความจริงใจ ทั้งที่โกหกมาแต่แรกน่ะรึ น่าขำสิ้นดี!!”
“สำหรับมนุษย์ที่มีความเชื่อใจให้กันเพียงน้อยนิด ก็คงไม่พอจริงๆล่ะนะ...” ไคลน์ถอนหายใจแผ่ว แม้ร่างสูงจะมีท่าทีระอาใจ แต่ฝ่ามือที่กำแขนของพ่อบ้านเฒ่าไว้ยังคงแน่นแข็งปานคีมเหล็ก ฟาเอลพยายามกรอกตาซ้ายขวามองหาจากชั้นสามเพื่อหวังพบเจอเงาหรือร่างของบอดี้การ์ดฝีมือดีที่ถูกจ้างมาสักนิด แต่ยามนี้ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเสียเลย ด้วยแม้สักเส้นผมยังไม่ปรากฏเสียด้วยซ้ำ
“ระ...รอสซะ...อั่ก!!”
"อย่าแม้แต่จะคิดบอกพวกการ์ดรักษาความปลอดภัยข้างนอก" คราวนี้ไคลน์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยเสียงแผ่ว นัยน์ตาสีเข้มหรี่ลงน้อยๆยามจ้องมองสีหน้าหวาดหวั่นและดวงตาที่เบิกกว้างของชายชราเบื้องหน้า..บุรุษที่ถูกปิดปากด้วยฝ่ามือของตนที่ขย้ำลงไปในลำคอเหี่ยวย่นนั้นโดยแรง..
"ฮึ่ก...ฮั่ก..." ร่างของฟาเอลดิ้นอย่างรุนแรงเมื่ออากาศหายใจเริ่มขาดห้วง พ่อบ้านชรารู้สึกหูอื้อและสมองอื้ออึงด้วยเสียงลม ดวงตาเบิกค้าง หากนัยน์ตาฟ้าฟางยังคงจ้องมองไปยังบุรุษตรงหน้าเขม็ง
“คุณไม่ควรดูถูกน้ำใจของคนอื่น เพราะมันจะทำให้ผมโกรธ...” ไคลน์ถอนหายใจ ฝ่ามือข้างที่ว่างทิ้งลงข้างตัวยังคงมีท่าทีไม่สะดุ้งสะเทือนแม้กำลังใช้กำลังประทุษร้ายร่างกายของผู้อื่นอยู่ ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นจ้องมองชายแก่ผู้มีสีหน้าบิดเบี้ยวพลางเอ่ยพร่ำคำสอน
“ทั้งที่ผมพยายามดูแลเขาด้วยใจจริง..เหตุใดถึงต้องเข้าใจผิดกันด้วยนะ มนุษย์..”
ผู้ชายตรงหน้าจะพุดอะไรบัดนี้ไม่อาจเข้าหู ยิ่งนานลำคอยิ่งปวดร้าว พยายามดิ้นรนและต่อสู้ก็แล้วแต่เหมือนจะไร้ผล ฟาเอลมองเห็นแววตาเหนื่อยหน่ายที่แฝงความเย็นยะเยียบของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วหนาววูบในใจ สำนึกรู้ว่าเขากำลังจะตาย กำลังบอกให้น้ำตาค่อยทะลายหลั่งทะลักลงมาพร้อมกับร่างที่ดิ้นเร่าด้วยความทรมาน
หัวสมองมึนเบลอ คิดอะไรไม่ออก กระนั้นพ่อบ้านชราก็ยังไม่ข้าใจ แม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เรี่ยวแรงแตกต่างกับตนที่เป็นเพียงชายชราวัยไม้ใกล้ฝังอยู่แล้ว แต่นี่มันเกินไป ผู้ชายที่ใช้มือเดียวบีบคอเขาซ้ำยังสามารถยกร่างของตนขึ้นจนปลายเท้าไม่แตะพื้นด้วยท่าทีสบายๆ มันเหนือจริงเกินไป
ความประหวั่นพรั่นพรึงแทรกเข้ามาในใจอย่างเฉียบพลัน ใบหน้าแสดงอาการหวาดหวั่นหวาดกลัวชัดเจนเมื่อได้สบมองดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น..แม้จะยังเป็นสีน้ำตาลที่ดูอบอุ่น ทว่ากลับรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วตัวราวกับโดนทุบกระดูกเสียอย่างนั้น
ตุบ.. “อ่า...พอทำแบบนี้แล้วจะทรมานสินะ ลืมไปเสียสนิท..” อีกนิดเรียวแรงทั้งหมดจะหมดลงพร้อมทั้งเปลวเทียนแห่งชีวิตที่ไหวระริกจะดับวูบ แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับละฝ่ามือออกแล้วปล่อยให้พ่อบ้านเฒ่าทรุดกายลงหอบเอาหายใจเข้าปอดเพื่อยื้อชีวิต
"โชคดีที่ผมลงมือกับมนุษย์ไม่ได้" ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงเรียบ หากใจความนั้นทำให้ความงวยงงบังเกิด ฟาเอลนึกสงสัยแม้บัดนี้เขาจะสำลักกระอักกระไอด้วยอากาศที่เผลอสูดเข้าไปอย่างตะกรุมตะกรามเมื่อพ้นเงามัจจุราช กระนั้นหูก็ไม่ได้ฝาดพอจะไม่ได้ยินคำๆนั้น..
ลงมือ? มนุษย์?
หมายความว่าอย่างไรกัน..? "แต่ก็คงปล่อยไปไม่ได้" ร่างของไคลน์ทรุดกายลงเบื้องหน้าพ่อบ้านชรา นัยน์ตาคู่นั้นยังคงวาววับด้วยความนัยน์บางอย่างที่ฟาเอลมิอาจรับรู้ความหมาย พ่อบ้านชราจ้องมองกระดาษที่มีใบหน้าของ"ไคลน์ สไตรค์เซอร์" ซึ่งมีรูปลักษณ์แตกต่างกับชายหนุ่มรูปงามตรงหน้ามากนัก ลางสังหรณ์บางอย่างกรีดร้องให้หลีกหนี สัญชาตญาณเบื้องลึกกู่ก้องให้ผละห่าง มันกำลังพร่ำบอกอย่างหวาดกลัวต่อคนที่อยู่เบื้องหน้า และเมื่อดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นตวัดผ่าน พ่อบ้านเฒ่าถึงกับสั่นระริกไปทั้งตัวด้วยความหวั่นกลัว
"แก....เป็นใครกันแน่" น้ำเสียงแหบแห้งด้วยลำคออันบวมช้ำจากการบีบแน่นเอ่ยออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น ร่างอันสั่นไหวของพ่อบ้านเฒ่าพยายามคลานหนีร่างของบุรุษปริศนาเบื้องหน้าอย่างทุลักทุเล แม้ยากลำบาก..หากแต่ในใจยังนึกห่วงหาชายหนุ่มซึ่งตนรักดั่งลูกในอุทร เอนีล ชาเดอตงส์ คุณชายผู้นอนหลับอยู่ภายในห้องนั้น
แกร่กๆๆๆ ฝ่ามืององุ้มง้างประตูห้องของคุณชายเอนีลออกอย่างสุดแรงแม้ดวงตาจะจับจ้องร่างของชายผู้นั้นไม่ห่าง ไคลน์ สไตรค์เซอร์ ยังคงยืนมองร่างของเขาอยู่แบบนั้น ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเขม็ง ท่าทีลังเลราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเขา ใบหน้านั้นจึงปรากฏรอยยิ้ม หากแต่เป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือกราวกับฆาตกรที่มีความสุขกับการเห็นเหยื่อทรมานและหวาดกลัว..
ฟาเอลตัวสั่นระริก พยายามเสือกกายสอดแขนขาเข้าไปในห้องของนายน้อยตนอย่างสุดความสามารถ แม้จะทำได้ยากนักด้วยเรี่ยวแรงที่ยังไม่กลับมา และเขายังหมอบคลานอยู่กับพื้นพรมหนาเช่นนี้
..แต่ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตของ เอนีล ชาส์เดอตงส์นั้นจะจบลงเพราะคนผู้นี้ไม่ได้!! "คุณชาย..คุณชาย! ตื่นเถอะครับ คุณชาย!" ฟาเอลร้องเรียกหมอหนุ่มที่นอนอยู่ในห้องด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง ทว่าน่าเสียดายนักมันช่างแผ่วเบาจนไร้การเคลื่อนไหวใดๆตอบกลับ ผ้าม่านที่โรยลงรอบเตียงอันเป็นที่นิทราแสนสุขไม่มีอาการขยับไหวให้เห็นแม้สักนิด แม้จะพยายามเปล่งเสียงตะโกนเช่นไรก็ดูจะไร้ผล..
"คุณชาย!..รอสโซ่! ฟรานเชสโก้! คริสเตียะ...."
"เสียเวลาเปล่า" เสียงถอนหายใจดังขึ้นเหนือร่าง ฝ่ามือหนาตะปบลงบนริมฝีปากแห้งผากที่ตะโกนเรียกเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยด้วยสีหน้าแตกตื่นไว้เพียงเท่านั้น ใบหน้าเหล่อเหลาก้มลงสบมองดวงตาอันฟ้าฟางของพ่อบ้าเฒ่าที่ดิ้นรนไม่หยุดด้วยสีหน้าครุ่นคิด และใช้เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะกระชากร่างของฟาเอลให้ออกห่างจากประตูห้องของคุณหมอเอนีล
"แกทำอะไร" ฟาเอลถามเสียงเครียดด้วยใบหน้าเผือดขาว ตกใจซ้ำยังงวยงงและไม่พอใจหนัก แม้ร่างสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่นและบางสิ่งที่ตนสามารถสัมผัสได้ชัดเจน..
...ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา "คุณหมอชาส์เดอตงส์กำลังไม่สบาย สมควรจะพักผ่อน ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะรบกวน" ไคลน์ สไตรค์เซอร์ตอบออกมาสั้นๆด้วยริมฝีปากระบายยิ้ม "คุณฟาเอลห่วงคุณหมอเอนีลมากไม่ใช่หรือครับ ตอนนี้เขาอุตส่าห์ได้นอนหลับอย่างไร้กังวลเสียที การไปรบกวนแบบนั้นมันเสียมารยาท....”
“และผมก็ไม่ชอบคนไร้มารยาท”
เฮือก!!! ร่างของชายแก่ผงะ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดหวั่นที่แล่นพรวด ร่างนั้นเสือกไถลตัวห่างออกจากชายหนุ่มเบื้องหน้าตามสัญชาตญาณจนแทบติดผนังห้อง ริมฝีปากของฟาเอลสั่นระริกยามได้สบมองแววตาสีน้ำตาลที่เย็นยะเยียบจับจิต...
ไคลน์ สไตร์เซอร์ จ้องมองร่างที่ผงะออกห่างและท่าทีหวาดกลัวของพ่อบ้านเฒ่าอย่างเฉยชา ชายหนุ่มพยายามควบคุมเพลิงโทสะที่ถูกกวนขึ้นมาจนขุ่นมัวในใจด้วยตนเองเงียบๆ รู้ว่าตนเองนั้นแสดงอารมณ์รุนแรงออกไปได้ในทันทีเมื่อมองเห็นกริยาของพ่อบ้านเฒ่า
“คุณเป็นคนดี..รักและห่วงใยเอนีล...รักมาก” ริมฝีปากหนาเอ่ยอย่างแช่มช้า พลางจ้องมองชายชราตรงหน้า ผู้ที่บัดนี้เป็นดั่งคนที่อยู่ในกำมือ
“ถ้าเขาขาดคุณไป..เอนีลคงจะเศร้า” ไคลน์เอ่ยขึ้นช้าๆ สีหน้าแววตาครุ่นคิดราวกับกำลังติดสินใจอะไรบางอย่าง “อ่า...เศร้า...เศร้ามากแน่ๆ ผมไม่ต้องการให้เขาเจ็บปวดเลย”
ครู่หนึ่งดวงตาสีน้ำตาลฉายแววโศก ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมายังฟาเอลราวกับจะวอนขอ “แล้วทำไม ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจกันนะ..ผมไม่อยาก”จัดการ”แบบเดียวกับที่ทำกับพวกบอดี้การ์ดข้างล่างนั่นเลยจริงๆ”
“กะ...แก...แกทำอะไรกับคนพวกนั้น!!” ฟาเอลตะโกนถามอย่างตกตะลึง พลันเข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นใครเลย ทั้งๆที่สุ้มเสียงวิวาทหรืออย่างน้อยความผิดปกติหลายสิ่งน่าจะทำให้พวกการ์ดเข้ามาตรวจสอบสถานการ์ณกันแล้วแท้ๆ
“คุณไม่ชอบผม เพียงเพราะหน้าตาไม่เหมือนในใบประวัติเท่านั้นหรือ?” ไคลน์ไม่สนใจคำถามของคนเป็นพ่อบ้าน ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามออกมาตรงๆ
แกร่บ.. “เรื่องหน้าตาไม่เห็นต้องคิดมากนี่ครับ ในเมื่อมัน"เปลี่ยน"ได้อยู่แล้ว" สิ้นคำ กระดาษที่มีข้อมูลของไคลน์ สไตค์เซอร์ตัวจริง ที่มีหน้าตาไม่เหมือนกับไคลน์ผู้อยู่ตรงนี้สักนิดก็ถูกดึงขึ้นให้อยู่ในระดับสายตาอีกครั้ง บุรุษผู้ที่บัดนี้ฟาเอลไม่รู้ว่าเขาคือใครกันแน่ โบกกระดาษสีขาวรูปใบหน้าขึ้นมาในระดับเดียวกันกับใบหน้าของตน ยิ่งมองยิ่งชัดเจนว่าไม่มีทางที่คนสองคนนี้จะเหมือนกันไปได้...
หากเพียงแค่คิด พลันกระดาษแผ่นนั้นก็เกิดการแปรเปลี่ยน ใบหน้าของชายในรูปเริ่มเปลี่ยนแปรไป จากผมตัดสั้น ใบหน้าคร้ามเข้ม คิ้วดกหนา ดูเคร่งขรึมจริงจัง กลายเป็นเส้นผมยาวสลวยระต้นคอและใบหน้าหล่อเหลางดงามราวเทพบุตร..ใบหน้า..ที่เหมือนผู้ถือราวกับพิมพ์เดียวกันอย่างน่าอัศจรรรย์!
"คราวนี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหมล่ะ" ไคลน์ปล่อยประดาษให้ร่วงลงกับพื้น พริบตาเดียวก็ใช้มือข้างนั้นฝ่าตะครุบริมฝีปากของพ่อบ้านเฒ่าไว้ บุรุษปริศนาผู้ใช้นามว่า ไคลน์ สไตร์เซอร์ยืดตัวขึ้นมองร่างของฟาเอลที่ผงะหงาย กรีดร้องออกมาได้แค่เสียงอู้อี้ แต่ก็ยังเบิกตากว้างมองดูเขาตาถลนราวกับไม่เชื่อกับสิ่งที่ตนกำลังประสบ
"กะ..แก...ปีศาจ เจ้าปีศาจ..." ทันทีที่ละมือลง ริมฝีปากของพ่อบ้านเฒ่าก็สั่นระริก ร่างสะท้านขยับกายห่างด้วยความหวาดหวั่นผวา ใบหน้าซีดขาว ซ้ำน้ำเสียงแหบพร่านั้นก็พึมพำหาพระผู้เป็นเจ้าและเอ่ยประณามว่าคนตรงหน้าคือปีศาจไม่หยุดหย่อน..
..ปีศาจที่จะมาพรากชีวิตของคุณชายเอนีล ปีศาจร้ายที่คุณชายมองเห็นในความฝันอันไม่รู้จบ มันต้องเป็นปีศาจตนนั้น มันต้องใช่เจ้าปีศาจร้ายนั้นแน่ๆ เจ้าของความฝันโหดร้ายกำลังย่างก้าวเข้ามาคุกคามชีวิตคุณชายของเขา!!
"ปีศาจงั้นหรือ?" ไคลน์เลิกคิ้ว ชายหนุ่มถอนหายใจพลางมองพ่อบ้านเฒ่าที่เริ่มควักเอาไว้กางเขนมาสวดภาวนาด้วยท่าทีราวกับอ่อนใจ นัยน์ตาค่อยอ่อนแสงลงก่อนเป็นฝ่ายระบายลมหายใจแผ่วเบา " เสียมารยาทจริงๆน้า...แต่..มนุษย์น่ะมักจะคิดหวาดกลัวและมองการกระทำผิดธรรมชาติเป็นเรื่องเกี่ยวกับภูติผีปีศาจไปหมด..ข้าก็ไม่น่าจะลืม..."
"อย่าเข้ามานะ ..ยะ...อย่าเข้ามา!" ฟาเอลครางเสียงสั่น เขาพยายามขยับกายหนีด้วยความหวาดกลัว หากแต่ไม่มีโอกาสจะทำได้เมื่อร่างสูงใหญ่นั้นเข้าประชิดกายของเขาอย่างรวดเร็วเพียงชั่วอึดใจ..
ฝ่ามือหนาแตะลงบนหน้าผากกลมเกลี้ยงร้างไร้เส้นผมด้วยวัยที่ร่วงโรยอย่างรวดเร็ว สัมผัสนั้นแม้จะแผ่วเบา แต่ด้วยความหวาดกลัวที่มีอยู่เป็นทุนเดิมและมันจึงน่ากลัวยิ่งนัก!
"ปล่อยข้า! เจ้าปีศาจ ปีศาจ อ้าก ก กกก!! "
"ก็ดูเป็นชายแก่ใจดี แต่ทำไมถึงชอบโวยวายเสียจริง" ริมฝีปากหนาเอ่ย พร้อมกันนั้นก็พ่นลมหายใจเบาๆ ราวกับระอานักหนา..
ไคลน์มองร่างของชายชราที่สลบไสลไปแล้วด้วยสายตาขบขันกึ่งระอา ชายหนุ่มจ้องมองสร้อยกางเขนที่อยู่ในมือฝ่ายนั้นซึ่งกำแน่น เขาค่อยแกะมันออกมาและจัดที่จัดทางให้พ่อบ้านเฒ่าพิงกายอยู่หลังบานประตูห้องของเอนีล ชาส์เดอตงส์ด้วยสีหน้าขบขัน ร่องรอยเขียวช้ำบนลำคอทำให้ใบหน้าคมแสดงอาการเจ็บปวดไม่น้อย ก่อนเขาจะค่อยๆรวบรวมเอกสารที่ตกเกลื่อนแล้วยัดไว้บนตักพ่อบ้านเฒ่าเงียบๆ
กระดาษที่แปรเป็นรูปของตนเองชัดเจนนั้นทำให้ไคลน์ยิ้มบางๆ ชายหนุ่มมองใบหน้าซีดขาวนั้นแล้วถอนกายใจ ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏความลังเลขึ้นชัดเจน
“ถ้าหากยอมเชื่อ...ก็คิดว่าจะไม่ทำแบบนี้แล้วเชียวนะ” ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองชายแก่ที่อยู่ในอาการช็อคจนสลบไปพลางถอนหายใจพรู ”แต่มันคงเป็นไปได้ยาก..ยากยิ่งสำหรับมนุษย์ที่ไม่อาจรับรู้ถึงปาฏิหาริย์”
แตะปลายนิ้วลงบนแผ่นอกด้านซ้ายเผื่อสัมผัสถึงหัวใจที่ยังเต้นระรัวในทรวงอกผ่ายผอม ฝ่ามือของไคลน์แตะลงบนหน้าผากของฟาเอลอีกครั้ง เพียงไม่นานแสงสีขาวอ่อนจางก็ค่อยปรากฏออกจากฝ่ามือและครอบคลุมทั่วร่างของพ่อบ้านเฒ่าให้ขาวโพลน มันปรากฏอยู่เพียงไม่กี่อึดใจก็จางหาย รวมทั้งรอยแผลบนลำคอและสีหน้าขาวซีดของ ฟาเอล กีโยต์ด้วย..
"ขอโทษด้วยนะ ที่ทำอะไรรุนแรง..แต่ข้าน่ะไม่อาจจะรอได้อีกแล้ว.."
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงช้าๆ ก่อนจะหยัดกายขึ้นจากพื้น
"ข้า..ปรารถนาจะปกป้องเขาจากทุกสิ่ง เช่นเดียวกับเจ้านั่นแหละ ฟาเอล กีโยต์...."
น้ำเสียงที่เคยรื่นเริงกลับแฝงความเศร้าสร้อย ไคลน์ สไตรคเซอร์นิ่งอยู่ครู่หนึ่งหลังเอ่ยถ้อยคำจากใจออกมาเพียงแผ่วเบา ริมฝีปากเปื้อนรอยยิ้มกลายเป็นนิ่งขรึม ร่างสูงยืนนิ่งจ้องมองร่างของพ่อบ้านเฒ่าอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาขอลุแก่โทษ
ความเงียบไหลผ่านไปได้ไม่นานร่างของฟาเอลก็เริ่มเคลื่อนไหว เสียงครางเบาๆก็ดังออกจากร่างของพ่อบ้านเฒ่าทำให้ไคลน์ค่อยปรับสีหน้า ชายหนุ่มจ้องมองคนที่ขยับกายอีกครั้งและค่อยลืมตาขึ้นช้าๆอยู่เงียบๆ
"เป็นอะไรรึเปล่าครับ?" น้ำเสียงถามห่วงใยดังขึ้นเหนือร่าง ฟาเอล กีโยต์ สะดุ้งเพียงเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า พ่อบ้านเฒ่าขยับแข้งขา หยัดกายลุกขึ้นมาได้ด้วยฝ่ามือของไคลน์ที่ส่งมาให้เป็นดั่งที่เกาะ พ่อบ้านวัยชราผู้รับน้ำใจนั้นจึงเอ่ยขอบคุณแผ่วเบา..
"เกิดอะไรขึ้น...นี่ผมเผลอหลับไปเหรอ"
"ไม่ทราบเหมือนกันครับ พอผมออกมาคุณก็อยู่ในท่านี้เสียแล้ว " ไคลน์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ข้ามความจริงที่ว่าหากตนออกมาแล้วพบร่างของพ่อบ้านนั่งขวางประตู้ห้อง จะข้ามมาโดยไม่ให้ฟาเอลตื่นย่อมเป็นไปไม่ได้ ทว่า..เหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้คิดถึงข้อเท็จจริงนั้นเลยสักนิด
ทั้งใบหน้า ท่าทาง หรือการกระทำ ดูไร้ความหวาดหวั่น ราวกับความทรงจำที่ผ่านมาจางหาย สีหน้าของพ่อบ้านเฒ่าจึงราบเรียบและไม่มีอะไรไปมากกว่าการรับใช้อย่างเป็นทางการต่อชายผู้เป็นทั้งแขกและยังจะมาคุ้มครองนายน้อยของตน
"แล้วคุณชาย.." ฟาเอลเอ่ยปากถาม สีหน้าห่วงใย
"กำลังพักผ่อนอยู่ครับ ท่าทางจะหลับสบาย" คำตอบและสีหน้าแสดงความมั่นใจนั้นทำให้พ่อบ้านเฒ่ายิ้มรับ..
"ค่อยโล่งใจ ขอบคุณมากครับ" พ่อบ้านเฒ่าเอ่ยปากพร้อมกับโค้งตัวให้อย่างสุภาพ “นานมากแล้วที่คุณชายไม่ได้เจอหมอที่เข้ากันได้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการมาถึงของคุณจะเป็นข่าวดีแก่นายท่านและพี่น้องทุกคน”
“ผมจะพยายามให้ดีที่สุด” ไคลน์เอ่ยรับคำ
“ขอบพระคุณมากจริงๆครับ”
"ไม่เป็นไรครับ งั้นผมขอตัวไปพักผ่อนก่อน" ไคลน์เอ่ยรับคำขอบคุณนั้นอย่างสุภาพ ชายหนุ่มค้อมศีรษะให้พ่อบ้านเฒ่าเล็กน้อยเป็นคำจากลา เช่นเดียวกับฟาเอลที่พยักหน้ารับด้วยสีหน้าแช่มชื่น พร้อมกับมองตามแผ่นหลังของชายที่เดินจากไป แล้วก้มมองกระดาษเอกสารที่อยู่ในอ้อมแขนซึ่งมันคือใบประวัติของชายหนุ่มเอง ฟาเอลจ้องมองรูปถ่ายของไคลน์ สไตรค์เซอร์ซึ่งมองตรงมาด้วยสีหน้าพึงใจ
ประวัติไม่มีปัญหา ทุกอย่างไม่มีปัญหา ชายคนนี้คือคนที่ท่านนายพลมอบหมายให้มาดูแลอาการเจ็บป่วย รวมทั้งคุ้มครองคุณชายของตนอย่างแท้จริง...
แอ๊ด... เปิดประตูห้องนอนของคุณชายอย่างแผ่วเบาเพื่อตรวจความเรียบร้อย ฟาเอลจ้องมองภาพเตียงนอนสี่เสาที่มีผ้าม่านบางเบาโรยตัวปิดล้อมด้วยรอยยิ้ม ไม่กล้าจะก้าวเดินเข้าไปใกล้ด้วยกลัวคุณชายที่ตนรักจะตื่นจากนิทรา เพียงได้มองบรรยากาศแห่งนิทรารมย์อันแสนสุขจากบานประตูแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ฝ่าเท้าก้าวถอยออกมาจากห้องแล้วงับบานประตูลงด้วยใบหน้าแช่มชื่นยิ่งนัก ฟาเอลนึกขอบคุณนายทหารผู้นั้นจากใจ ไคลน์ สไตร์เซอร์ผู้เข้ามาช่วยให้คุณชายเอนีลของเขาสงบลงจากเรื่องราวเลวร้ายที่พบเจอ ช่างเป็นบุรุษที่ควรค่าแก่คำขอบคุณนับร้อยนับพันครั้งยิ่งนัก
คุณชายที่เขารักและห่วงใยก็กำลังพักผ่อนอยู่อย่างสงบ ประวัติของชายผู้มาใหม่ก็ไร้ปัญหา ทุกอย่างเรียบร้อยแต่ฟาเอล กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป บางอย่างที่แสนสำคัญนัก..หากแต่เขาพยายามคิดเท่าไหร่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้ พ่อบ้านเฒ่าจึงเลิกสนใจมันเช่นเดียวกับเอกสารในมือที่ถูกทิ้งลงถังขยะใกล้ตัวอย่างรวดเร็ว
.................................
เชื่อค่ะ เชื่อคุณไคลน์มากเลยค่าาาาา เเค่ไม่เชื่อถึงกับโดนเลยทีเดียว เเถมยังต้องมีมารยาทกับเค้าด้วย โอ้เเม่เจ้า

ตอนนี้เอนีลไม่รู้เรื่องอะไรเลยขอเวลาพักบ้าง ปล่อยคุณพ่อบ้านโดนจัดเต็ม เจอกันตอนหน้าค่าาาาาาา
