# 14 คุณชายไฮโซกับจิ๊กโก๋ลูกทุ่ง....ข้าแต่งกับเอ็ง เอ็งเป็นของข้า
ใครเรียกภรรยา แต่ข้าเรียก ‘เมีย’………
เย็นวันนั้น เราสองคนนั่งทานข้าวด้วยกัน“ปิง กูจะเอาอันนี้” พี่เอย์ยื่นช้อนกับส้อมของมันมาหนีบมะเขือเทศชิ้นใหญ่ที่อยู่ในจานข้าวผัดกุ้งของผม จริง ๆ คือเราก็กินเมนูเดียวกันนะ ตัวมันอ่ะแหละพอกินมะเขือเทศในจานตัวเองจนหมดแล้วก็จะมาวุ่นวายที่จานผมทุกครั้ง
“งั้นแลกกันกับกุ้ง” ผมเสนอ มองมะเขือเทศที่ถูกมันคีบไปอย่างเสียดาย
“เออเอาไปดิ่ เอามะเขือเทศของมึงมาให้กูทั้งหมดเลย”
“พี่เอย์แย่ว่ะผมก็อยากกินเหมือนกันนี่” มะเขือเทศออสเตรเลียด้วยนะที่ใช้ผัดให้คุณชายกินแพงกว่ากุ้งCP อีก อร่อยกว่าด้วย
“มึงเอากุ้งจานกูไปให้หมดเลยก็ได้นะ กูไม่ปลื้มกุ้งเท่ากับมะเขือเทศอร่อย ๆ หรอก” มันว่าแล้วตักเอากุ้งในจานตัวเองใส่มาที่จานผมจนเกือบจะหมด ขณะที่ผมเองก็ต้องแลกมะเขือเทศทั้งหมดของผมให้มัน
“วันหลังพี่กินข้าวผัดมะเขือเทศนะ ผมจะทำเมนูนี้ให้เป็นพิเศษเลย” กุ้งเกิ้งไม้ต้องใส่หัวมัน ใส่แม่งมะเขือเทศกับข้าวเปล่านี่แหละมันกินเข้าไปได้ไงวะ หรือพวกคนรวย ๆ ชอบกินของแปลกๆแบบนี้ ผมมองมันนั่งกินด้วยสายตาที่เอิ่ม เอียน คือไม่เข้าใจว่ามันอร่อยเหรอวะมะเขือเทศล้วนๆแบบนั้น พี่เอย์มองผมพอดีมันตียักคิ้วส่งให้แบบเย้ย ๆ ผมเลยเตะขามันไปเบา ๆ แล้วเราสองคนก็เล่นเตะกันใต้โต๊ะเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ
“พี่เอย์ครับ คืนวันศุกร์พี่จะไปกับผมแน่ใช่ไหม”
“อือไปดิ่ ก็ตกลงกันแล้วนี่”
“งั้นเจอกันที่นี่นะเดี๋ยวผมแวะมาหาพี่ก่อน”
“ให้กูไปรับมึงที่ห้องดีไหม”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมมาหาพี่ที่นี่แหละ เตะบอลเสร็จเดี๋ยวแวะมาเลย”
คืนวันศุกร์ผมกับพี่เอย์เรานัดกันไว้ว่าจะไปดูดนตรีกันกับพวกไอ้บาสไอ้วุฒิ ไม่รู้คุณจำได้รึเปล่านะวันเสาร์ที่แล้วไอ้บาสมันโทรชวนผมว่าพี่ชายมันที่เป็นนักดนตรีอยู่ที่ผับที่เรามักจะไปกันบ่อย ๆ เขาจะจองบัตรไว้ให้ พอดีว่ามีวงที่พวกผมชอบจะมาแสดง ผมเลยชวนพี่เอย์ด้วยซึ่งมันก็ตอบตกลงนะ ไม่ถามผมสักคำว่าไอ้วงที่พวกผมชอบดูกันเนี่ยมันเป็นวงดนตรีแบบไหน
.
.
.
“เอาจริงๆซิปิง มึงคบกับพี่เขาจริงเหรอวะ”
ไอ้วุฒิแม่งทำหน้าจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ มันจ้องผมเหมือนคาดคั้นจะเอาคำตอบ เราสามคน ผม บาส วุฒิ มาเตะบอลกับพรรคพวกคนอื่น ๆ ที่สนามอย่างที่เคยทำ แต่วันนี้หลังเลิกกันเสร็จไอ้ห่าวุฒิแม่งลากผมให้มายืนคุยกันแถว ๆ หลังโกลด์
“เออ นิดๆ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าคบ แต่ไม่มีอะไรลึกซึ้งอย่างที่คิดหรอกกูขอเวลาพี่เขาไว้ก่อน”
“เหี้ยแล้วพี่ปิง มะ...มะ...หมายความว่าลูกพี่จะเป็นรับให้คุณพี่เอย์เขาเหรอ”
“ไอ้เหี้ยบาสไอ้เพื่อนเลวมึงเงียบเลย!” ผมรีบเอามือปิดปากมัน ก็มันอยากตะโกนทำไม ผมผลักมันออกไปให้พ้น ๆ ดูเหมือนไอ้วุฒิมันยังมีเรื่องอะไรกังวลอยู่ ไอ้บาสรู้งานมันไม่เข้ามาใกล้พวกผม คือผมกับวุฒิอายุเท่ากันและก็สนิทกันมาก่อนมัน เพราะอย่างนั้นเวลามีเรื่องอะไรซีเรียสที่วุฒิกับผมจะคุยกันไอ้บาสจะไม่กล้าเข้ามายุ่ง
“มึงคิดเรื่องไรเนี่ย ดูทำหน้าเข้า” ผมกอดคอมันแล้วยีหัวมันเล่นเอาให้มันยุ่งไปเลยไอ้วุฒิแม่งหน้ายุ่งอะไรนักหนาวะ ก็รู้หรอกครับว่ามันคงจะห่วงผม พี่เอย์กับผมจะว่าไปแตกต่างกันแทบทุกอย่าง ถ้าจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ให้คุณเห็นได้ชัด ๆ ก็ดอกฟ้ากับหมาวัดนั่นแหละครับ แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ต้องขนาดหมาวัดก็ได้มั้งขอผมเป็นเจ้าตูบน่ารักมุมิได้ไหมหว่า อิอิ
“ดูให้ดีๆก่อนนะมึงไอ้ปิง คนรวยมีพร้อมขนาดนั้น แน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะมาจริงจังกับคนอย่างเรา ” โหยยยคุณพี่วุฒิครับกูว่ามึงนี่ซีเรียสมากไปจริงแล้วว่ะ
“ซีเรียสไปไหนวะมึง กูเองก็อยู่ในขั้นดูๆนั่นแหละไม่งั้นกูยอมพี่เขาไปแล้วดิ่”
“จริงนะ”
“จริงสิวะ”
“เอองั้นก็ดี เดี๋ยวคืนนี้กูจะลองดูๆให้ พี่เขาไปกับพวกเราด้วยใช่ไหม”
“คราบๆ ดูเลยครับเพื่อนวุฒิสุดหล่อ ปิงๆอนุญาต ดูพี่เขาให้เต็ม ๆ สองตามึงเลยนะหึหึหึ”
แค่นั้นแหละครับมันฉีกยิ้มกว้างเลยกอดคอผมเดินเข้ามาหาไอ้บาส หมาบาสพอเห็นหมาวุฒิคู่ซี้มันยิ้มออกมันเลยรีบวิ่งเข้ามา พวกผมวิ่งไล่ตีกันพักนึงก็แยกย้ายกันกลับ เพราะวันนี้เป็นคืนวันศุกร์เรามีนัดกัน
–ไปดูดนตรี-ผมจอดมอ’ไซด์ไว้ที่เดิม ขยับหมวกแค็ปสีดำลายหัวกะโหลกไขว้ที่สวมมา เดินตัดตัวตึกสูงเข้าไปในอาคารรูปทรงสวยงามที่ตลอดสองสามเดือนมานี้เข้าออกแทบจะทุกวัน ใช่แล้วครับ คอนโดหรูหราของคุณชายนั่นเอง
“พี่เอย์ครับ” ผมเคาะเรียก คือพอเข้ามาในห้องผมไม่เห็นพี่เขาเลยลองมาเรียกที่ห้องนอนดูคิดว่าน่าจะอยู่เพราะเรานัดกันไว้สองทุ่มครึ่ง
“โทษทีกูหลับ เพิ่งจะตื่นตอนมึงโทรมาเตือนนี่แหละ”
ผมยืนอึ้งโคตรตกตะลึงกับชุดของมันพี่เอย์กำลังแต่งตัวจวนจะเสร็จแล้วพอดี คือผมจะอธิบายยังไงดีให้คุณเห็นภาพ เอาเป็นว่าพี่เอย์หล่อมากครับ เสื้อเชิ้ตสีดำที่มันใส่ผ้าหรูหรามากโคตรจะตัดกับสีผิวของมันแล้วก็นาฬิกาเรือนทองที่คาดประดับอยู่ที่ข้อมือขาว ๆนั่นยิ่งเสริมบุคลิคให้ดูดีมากขึ้นไปอีก สุดท้ายมันคว้าเอาสูทเข้ารูปมาสวมทุกอย่างเป็นอันจบ ในขณะที่ผมคนนี้ถ้าเดินไปกับมันจะเหมือนเด็กรถไม่ก็เด็กที่มากับคุณชายน่ะ คือผมเสื้อเอ็มร้อยห้าสิบกับยีนส์ขาดๆผ้าใบคู่เก่งแล้ววันนี้เสือกแถมหมวกแค็บดำเสริมหล่อผมด้วย
คือผมก็คิดว่าผมโอนะกับชุดนี้แต่พอมาเห็นมันอะไรวะแม่งทำผมขาดความมั่นใจได้อีก แต่ๆๆๆๆ สถานที่ๆเราจะไปคือมันใช่เหรอสำหรับชุดแบบนี้ของคุณชายผมก็นึก อะไรกันวะ ทำไมเราสองคนถึงต่างกันได้ขนาดนี้ จิ๊ ช่างดิ่ผมมั่นใจอ่ะ ผมลูกทุ่ง ผมแนว!
“ทำหน้าอะไรขี้เหร่อีกแล้วมึงนี่ แล้วใส่หมวกทำไมทำเป็นลึกลับกลัวใครเห็นรึไงว่าไปกับกู”
“พี่เอย์ พี่เปลี่ยนชุดหน่อยไหมพี่” คือมันจะเข้ากับที่ๆผมจะพาพี่ไปไหมอะไรแบบนั้น ที่สำคัญเราไปด้วยกันพี่ก็ควรจะแต่งเป็นแนวเดียวกับพวกผมใช่ไหม อย่างน้อยถอดสูทเหอะ
“ทำไมวะ แบบนี้หล่อไม่พอเหรอ”
“เปล่าครับ หล่อแล้วหล่อมากเลย” หล่อเกินไปต่างหาก แล้วนี่ผมเผ้านี่แอบไปซอยมาใหม่นิดๆด้วยนี่นา อะไรกันไม่เจอกันแค่สองวันพี่เอย์แม่งทำไมหล่อขึ้นได้อีกวะ มันแต่งตัวเสร็จแล้วพอดีกำลังหยิบพวกกระเป๋าตังค์อะไรของมันอยู่ผมเลยเดินออกมารอที่ด้านนอก
“ไปได้แล้วหมาปิง มึงนี่มันเสื้อเอ็มร้อยยังขี้เหร่ได้อีกนะมึง”
มันว่าแล้วดันหลังผมให้เดินออกไปนอกห้อง เราสองคนลงลิฟต์มาถึงชั้นลานจอดรถ พี่เอย์ตรงดิ่งไปที่รถทันทีผมรีบเรียกไว้
“พี่เอย์ครับ” มันหันกลับมามอง แฟนใครวะ โคตรน่ารักเลย
“ไปรถผมนะพี่”
“หืม????????”“อะไรเล่า ตกใจอะไรนักหนา วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างสิครับ เคยนั่งไหมรถมอไซด์อ่ะ สนุกนะลมเย็นแล้วยังได้เกาะเอวสุดหล่อคนนี้ด้วยน้าา” แน่นอนครับว่าผมตะล่อมมัน ก็ดูหน้ามันซะก่อนพอรู้ว่าผมจะชวนไปมอไซด์เท่านั้นอึ้งได้อีก ผมเลยยื่นมือออกไปหามัน ดูซิคุณชายจะเอาแต่ใจหรือจะยอมยื่นมือตัวเองออกมาแล้วเดินไปกับผมไหม
“พี่เอย์” ผมเรียกมันอีกครั้ง ส่งยิ้มให้ ในที่สุดมันยื่นมืออกมาจับมือผมไว้จริง ๆ
“เดี๋ยวเอาสูทไปไว้ที่รถก่อน” ผมโอเคในทันที คือมันก็คงรู้แหละแต่งตัวแบบนั้นคงไม่เข้ากับพาหนะสักเท่าไหร่ พี่เอย์เดินไปโยนเสื้อสูทไว้ที่รถมันเดินกลับมาหาผม ผมคว้ามือมันมาจับไว้แล้วพาเดินลัดตึกออกไปที่ออฟฟิสแม่บ้านเล็กๆซึ่งเป็นที่ๆผมจอดรถมอไซด์ผมไว้ทุกครั้งที่มาทำงานที่นี่
“อ่ะ ใส่ไว้นะครับ” ผมถอดหมวกแค็บสีดำที่ตัวเองสวมอยู่ยื่นให้มัน เห็นมันอึ้งนิดหน่อยก่อนที่ผมจะชูหมวกอีกใบให้มันดู วันนี้ผมเตรียมมาสองใบกะชวนคุณชายซิ่งมอไซด์อยู่แล้ว เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนมุมมองของมันบ้าง
“แล้วหมวกกันน็อค?”
“คึคึ หมวกกันน็อคนั่นมันแค่ทฤษฏีพี่ ถึงจะผิดกฏไปหน่อยแต่วันนี้ผมจะพาพี่ซิกแซกชมกรุงเทพฯแบบไม่ต้องผ่านกระจกติดฟิล์มนะ พี่เอย์จับเอวน้องปิงไว้ดี ๆ เลยนะครับนะ” พอผมพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว พี่เอย์วาดขายาว ๆ ของมันขึ้นคร่อมแบบไม่รอช้า ผมก็ออกรถเลยสิครับ วันนี้พาแฟนขับรถเล่นมีความสุขดีว่ะ หึหึหึ
ในที่สุดรถมอเตอร์ไซด์คันเล็กกับผู้ชายตัวโตๆสองคนก็โลดแล่นไปตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ บนท้องถนนพี่เอย์จับเอวผมแน่นเชียวนะมันคงกลัวมั้ง ยิ่งมันกลัวผมยิ่งแกล้งเลยเอาดิ่ ซิกไปแซกมาแถมเบรคหัวทิ่มนี่บ่อยมากคือเบรคจึ๊กเบรคจึ๊ก แต่ละทีคุณชายก็ไหลลงมาใส่ผมอ่ะ นี่ถ้ามันมีนมหน่อยนะ
อึ๊ยยยย “กอดเลยก็ได้นะพี่ กลัวตกเหรอครับ” ผมอ่อยมัน คึคึ ดูซิมันจะยอมกอดเอวน้องปิงไหม ผมฉีกยิ้มรอหน้านี่ตึงไปหมดเหงือกก้แห้งคือท่อลมด้วยไง แต่ที่โดนกลับมาแบบเต็ม ๆ เลยก็คือ โดนมันตบหัวกลับมาตามระเบียบ ไม่เจ็บหรอกแต่ตกใจมากกว่าผมขับรถอยู่เลยเป๋ไปนิดนึง พี่เอย์คงรู้ว่าตัวเองเล่นไม่เป็นเรื่องมันรีบสอดมือเข้ามากอดเอวผมไว้แน่นเลย ผมยิ้มเลยสิครับ ไอ้ที่เป๋ไปเมื่อกี้น่ะก็แค่แกล้งมันเหอะ คิดอยู่แล้วมันต้องตกใจเผลอกอดผมไว้แน่ รถจอดติดไฟแดงอย่างเลี่ยงไม่ได้บ้าชะมัดจอดคู่กับพี่แท็กซี่มีคนนั่งอยู่ด้านในมองออกมาแล้วยิ้มด้วยผมก็อายนิดๆนะแต่ช่างมัน ส่วนพี่เอย์นี่คงไม่ได้ดูคนรอบข้างเลยสิท่า มันยังกอดผมไว้แน่นเลย คือคุณชายไม่มีความอายอยู่เลยหรือไงผมอยากถาม
“เราจะไปที่ไหนกัน” มันพูดขึ้นโต้ลม คงกลัวผมไม่ได้ยินเลยยื่นหน้ามาใกล้เป็นพิเศษ
“บ้านไม้แดงครับพี่ แต่เดี๋ยวต้องวนไปรับพวกไอ้บาสกับไอ้วุฒิก่อน”
ผมหันมาบอกมัน หน้าพี่เอย์อยู่แถว ๆ ไหล่ผมเองมือมันกอดเอวโคตรแน่น จากตอนแรกที่ติดไฟแดงผมเลยต้องเลี้ยงเข้าตามซอกซอยต่าง ๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้
“วู้ววๆๆๆๆๆ วี๊ดวิ้วววว ลูกพี่ปิงพาสาวมาเปิ-......เย้ยยยยยยยยย” ไอ้บาสไอ้เหี้ยไอ้เด็กปากดีผมรีบอุดปากมันไว้เกือบไม่ทัน พอมันเห็นว่าพี่เอย์ซ้อนท้ายมากับผมเท่านั้นแหละแม่งล้อผมอ่ะ
“ไปได้แล้วเร็ว” ผมบอกมัน ไอ้วุฒิกระโดดขึ้นสตาร์ทแล้วหมาบาสเลยต้องรีบขึ้นเกาะท้าย ไม่ได้นะครับเดี๋ยวไอ้วุฒิมันทิ้ง ไอ้นี่ไม่ค่อยเหมือนใครเรื่องมากกับมันไม่ได้นะ เวลาเราไปเที่ยวกันพวกผมใช้มอไซด์ก็จริงนะแต่ก็จะนัดกันที่หอก่อนประจำก่อนจะขับรถออกไปพร้อม ๆ กัน ผมปล่อยให้รถสองหมานำไปก่อน ตัวผมก็เอื่อยๆไปตามเรื่อง มีพี่เอย์นั่งมาด้วยแบบนี้ต้องขับพามันกินลมสักหน่อย
“ที่นี่?”
คุณชายลงจากรถแล้วเงยหน้ามองป้ายทางเข้าร้านทำหน้าเหวอนิดๆ คือช่องจอดมอไซด์มันจะแยกจากรถยนต์ใช่ไหมแล้วคือมันไม่ใหญ่มากที่สำคัญไม่มีพนักงานมาโบกอะไรให้นะครับ พวกเราต้องช่วยตัวเอง ผมเดินเข้าไปหามัน
“เข้าไปเถอะครับ”
“ผับแบบนี้เหรอมึง” ตูว่าแล้วมันต้องไม่ใช่แนวนี้ ดีนะที่คุณชายถอดสูทออกแล้วไม่งั้นมันได้เป็นกาในฝูงหงส์แน่ เอ้ย ไม่ใช่ๆ หงส์ในฝูงกา
“ใช่ครับที่นี่แหละ” ผมบอกมันแล้วก็สงสารเหมือนกันนะ มันกำลังมองผู้คนที่เริ่มทยอยกันเข้าไปคือเขาก็แต่งตัวกันหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่ก็เซอๆแบบผม ไม่มีใครมาหรูแบบคุณชายกันนักหรอกนอกจากพวกแก่ ๆ เสี่ยๆเลย อีกทั้งรสนิยมเรื่องเพลงคือเอาจริง ๆ ผมไม่เคยได้ยินมันฟังเพลงแนวนี้เลยนะ แต่ช่างเหอะเดี๋ยวมันเข้าไปลองฟังดูคุณพี่อาจชอบลุกขึ้นเฮ้วๆกับพวกผมก็ได้ ผมเห็นพวกหมาบาสมันกวักมือเรียกรออยู่แล้ว เลยพาคุณชายเดินเข้าไป แต่โทรศัพท์มันดังขึ้นก่อน
“อยู่ที่ร้าน เอ่อ บ้านไม้แดง........อือ แถวๆซอยยาสูบ.....ทำไมมึงมีบัตรเหรอ ได้งั้นเดี๋ยวเจอกัน” นี่คือพี่เอย์พูดกับคนในสายนะ ผมก็ยืนรอมันเพราะมันหยุดไม่ยอมเดินต่อ คนเริ่มเยอะอาจเพราะวันนี้มีวงพิเศษมา
“เดี๋ยวไอ้ซ่าร์กับเดียร์มันจะมาสมทบด้วยนะ” ผมชะงักเลยสิครับ คราวนี้เป็นผมที่หยุด พี่เอย์หันมามองทำหน้าเหมือนสงสัยว่าผมเป็นอะไร
“พะ.....พี่ซ่าร์จะมาเหรอครับ” นี่ผมหูฝาดฟังอะไรผิดพลาดป่ะวะ คือไม่น่าเป็นไปได้ที่พี่ซีซ่าร์จะมาที่นี่ด้วย
“เออทำไม มึงดีใจมากขนาดนั้นเลย?” เอาอีกล่ะจะงอนกันทำไมวะก็แค่ถามดู แต่จริง ๆ คือดีใจมากนะ
“เปล่าๆๆไม่ใช่แบบนั้นครับ คือผมกำลังคิดว่าคนเขาจะไม่แตกตื่นกันเหรอ ถ้าพี่ซ่าร์มาในที่แบบนี้มันจะดีเหรอครับ แล้วพี่เขามีบัตรได้ยังไง”
“มีดิ่ ระดับมันถ้าอยากได้บัตรแค่นี้มันหาได้สบายอยู่แล้ว แล้วมึงก็ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะมีใครจำมันได้นะ ไอ้ซ่าร์มันเที่ยวกับกูบ่อย เดี๋ยวมึงคอยดูเอาก็แล้วกันเวลามันมาเที่ยวในที่แบบนี้ไม่เคยมีใครจำมันได้เลยสักครั้งเดียว”
พอเข้ามาด้านในหมาบาสมันพาพวกผมไปสวัสดีพี่บุ้งพี่ชายมันคนที่จองบัตรไว้ให้พวกเรานั่นแหละครับ
“หวัดดีครับพี่บุ้ง” พวกผมก็ทักทายกัน ไอ้พี่เอย์ยืนเฉยไม่สนใจ พี่บุ้งเข้ามากอดคอผม คือผมเคยมาเรียนตีกลองกับพี่เขา เคยคิดว่าบางทีอาจจะเล่นดนตรีเป็นงานเสริม ก็พอจะได้นะครับกลองก็มันส์ดีเหมือนกัน แต่คือมันเป็นงานที่ต้องทำตอนกลางคืนไงผมคิดว่าไม่เหมาะเลยเลิกไป กลัวคุณนายกับพี่ขมเป็นห่วงด้วยแหละ
“หมาปิงไงมึงได้ยินข่าวว่าเปลี่ยนสาวเป็นว่าเล่นเลยนี่หว่า” พี่บุ้งถอดหมวกผมออกก่อนลงมะเหงกอย่างคนที่เคยเอ็นดูกันมาอย่างดี คือพี่บุ้งเป็นพี่ชายที่น่ารักมากจริงครับผมกอดเอวพี่เขาเลย คิดถึงเหมือนกันไม่ได้เจอกันนานแล้ว
“วันหลังพาแฟนมาด้วยสิวะ เปิดตัวให้เพื่อนฝูงรู้บ้าง พี่คนนี้อยากรู้เรื่องของมึงเสมอนะ”
“วิ้ววววววววววววว ก็นี่ไงพี่บุ้-.........”
เสียงไอ้บาสโห่ขึ้นทันที จนผมต้องรีบชี้หน้ามันไว้กลัวมันจะพูดอะไรต่อเดี๋ยวเรื่องจะยาวไอ้วุฒิรู้งานรีบอุดปากมันไว้ก่อนที่มันจะพูดอะไรส่งเดชออกมา เออผมก็เพิ่งสังเกตไอ้วุฒิแม่งจ้องพี่เอย์ตั้งแต่ตอนออกมาจากหอจนถึงตรงนี้มันยังไม่พูดอะไรกับพี่เขาสักคำมีแต่ไอ้หมาบาสที่เป็นคนพูด มันพูดมากเสียจนผมปวดหัว
“ไปนั่งกันเหอะไป”
พวกผมก็เดินมาหาที่นั่งตามหมายเลขโต๊ะ โซนที่พี่บุ้งจองให้คือมันไม่ใช่หน้าสุดนะครับ เป็นด้านข้างแต่คือเป็นชั้นลอยที่สามรถมองเห็นเวทีได้ชัดมากแล้วก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พี่เอย์เดินอ้อมมานั่งลงข้างผมขณะที่หมาบาสกับไอ้วุฒินั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เราบอกพี่บุ้งไว้ว่าขอซื้อโต๊ะเสริมเพิ่มอีกสองพี่แก็เลยติดต่อกับผู้จัดการร้านให้สรุปคือเราแค่รอให้พี่ซ่าร์กับเจ๊เดียร์มาก็แค่นั้น
เอ๊ะเดี๋ยวน!ะ คือพี่เดียร์ก็จะมาเหรอ?? คู่หมั้นพี่เอย์จะมาด้วยนี่หว่าผมแม่งทำไมลืมคิดไปเลยวะ จิ๊! จะมาทำไมกันเริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว
“เป็นไรของมึง ทำหน้าขี้เหร่อีกแล้วนะ รีบสั่งอาหารเร็วเข้า” พี่เอย์ผลักหัวผมเบา ๆ มันเอามือลงมาใต้โต๊ะแล้วคว้าเอามือผมไปจับไว้ที่ตัก พนักงานกำลังรับออเดอร์อยู่กับไอ้บาส ผมแอบมองคุณชายนิดๆเห็นมันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“เบียร์สองหลอด คั่วสาดแสงเดือน ต้มแซบเอ็นตุ๋น ปลาช่อนนึ่งกรุงศรี ไข่เจียวพลิกโลก ......” เสียงไอ้บาสกำลังออเดอร์อาหารอยู่กับพนักงาน พี่เอย์คงได้ยินมันกระตุกเสื้อผมเบา ๆ แล้วส่งสายตาขอความเห็นใจ ผมรู้ครับมันกินไม่ได้ ผมเลยสั่งข้าวผัดกุ้งจานใหญ่กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดพิเศษเพิ่มมาให้ แค่นั้นคุณชายก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้ว เรานั่งดูผู้คนที่โซนด้านล่างค่อยทยอยกันเข้ามานั่งในแต่ละโต๊ะคือเริ่มจะเต็มแล้ว ผมจะดึงมือออกมาเพื่อหยิบน้ำขึ้นมาดื่มไอ้พี่เอย์แม่งจับไว้แน่นมากจริง ๆ ผมเลยต้องใช้อีกมือที่ว่าง มันอยากจับปล่อยให้มันจับไปใต้โต๊ะแบบนี้ไม่มีใครเห็นหรอกมั้ง
“บุหรี่พี่” ผมตกใจแทบผงะไอ้วุฒิยื่นบุหรี่ให้พี่เอย์ ผมมองมันนิดนึงก่อนที่จะคิดได้ว่า เออใช่ผมไม่เคยเห็นพี่เอย์สูบบุหรี่เลยนี่หว่า ในห้องก็ไม่มีแม้แต่ที่เขี่ยบุหรี่วางไว้ด้วย กลิ่นจากตัวหรือว่ากลิ่นภายในรถหรือภายในห้องก็ไม่เคยมี ผมเลยคิดว่าพี่เอย์คงจะไม่สูบขณะกำลังจะอ้าปากบอกไอ้เพื่อนตัวดี พี่เอย์ก็ยื่นมือออกไปรับ มันเอามาคาบไว้ที่ปากไอ้บาสแม่งเหี้ยรีบประเคนไฟจ่ออยู่ที่ปลายมวนแล้วเรียบร้อย คุณชายทำผมโคตรเซอไพร้ซ์มันดูดควันขาวแค่อึกเดียวจากนั้นบี้ลงที่จานเขี่ย ไอ้วุฒิหน้าเสียพี่เอย์บอกปกติไม่สูบแต่วันนี้พิเศษถือว่ามันเป็นเพื่อนผม แค่นั้นแหละครับไอ้วุฒิเอ๋อแดกจนหมาบาสต้องรีบยกมือขึ้นลูบหัว ผมงี้กลั้นขำเลยคุณชายคงไม่อยากขัดใจเพื่อนผมมันยังอุตส่าห์ดูดให้ตั้งอึกนึงนะ ไอ้บาสเตะรีบขาสะกิดผมเลยยื่นหน้าออกไปหามันฟังว่ามันจะพูดอะไร คือผมกับมันนั่งตรงข้ามกัน แล้วตอนนี้วงดนตรีเปิดผับก็เริ่มแสดงแล้ว
“แฟนพี่แม่งโคตรเท่ห์สุดๆเลยพี่ปิง โอ๊ยผมปลื้มพี่เอย์แม่งจัดว่าเด็ด คอยดูนะผมจะหาให้ได้แบบนี้บ้าง” มันกระซิบ ผมเลยเตะขามันไปที
“ไอ้เหี้ยถ้ามึงอยากได้แบบพี่เอย์มึงต้องเตรียมตูดมึงไว้ให้พร้อมด้วย”
“กร๊ากกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ” ผมกับมันหัวเราะออกมาพร้อมกันเจอพี่เอย์กับไอ้เหี้ยวุฒิหันมาตวัดสายตามองพอดี ผมรีบยกมือตบหัวมันทันทีทีเพื่อหยุดความคิดฟุ้งซ่านทั้งของมันและของผมคือง่าย ๆ เลยพวกผมกำลังมโนกันอยู่ หมาบาสทำหน้างอนนิดๆก่อนที่มันจะหันไปสนใจกับดนตรีที่เวทีด้านล่างต่อ นี่เป็นแค่วงเปิดนะครับยังไม่ใช่วงจริงคนเริ่มเยอะมากแล้วเต็มหมดแล้วมั้ง พวกผมก็ฟังเพลงไปอาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ เบียร์ก็มาแล้ว พี่เอย์แม่งจับมือผมไว้ตลอดเลยว่ะ เออผมก็อายนิดๆนะแต่ดีที่ผับมันมืด
“ตักให้ดิ” มันเอนตัวมาบอก เมื่อจานข้าวผัดกุ้งวางลง
“พี่ก็ปล่อยมือผมก่อนดิ่” มันอมยิ้มพอดีกับที่โทรศัพท์เข้าน่าจะเป็นพี่ซ่าร์กับคุณเดียร์มันเลยลุกขึ้นมอง ๆ หาแล้วโบกไม้โบกมือ
“ไอ้เหี้ยมึงเล่นพากูมาในที่แบบนี้อยากจะฆ่ากูเหรอ” ผมมองคนที่เดินเข้ามาใหม่ เขาผมยาวเขาเป็นผู้ชายและเขามีหนวด เขาเดินเข้ามานั่งลงข้างพี่เอย์ส่งยิ้มให้ผมด้วยนะ คือ หน้าตาท่าทางคือมันไม่ใช่เลย แต่เสียงน่ะคือซีซ่าร์ของผมชัวร์ ๆ อะไรคือการปลอมตัวของพี่ครับมันจะตลกเกินไปแล้ว โอ๊ยผมฮาแต่ผมกลั้นขำเอาไว้ นี่คือไอดอลที่กูปลื้มจริงเหรอวะ
“ไงจ๊ะปิง เราเหรอตัวตั้งตัวตีพาพวกพี่มาฟังเพลงอะไรแบบนี้” พี่เดียร์ทักขึ้นผมถึงได้รู้สึกตัว ตอนนี้โต๊ะเราเลยกลายเป็นว่านั่งกันอยู่หกคน พวกไอ้บาสไอ้วุฒิทักทายพี่ ๆ เขาไปตามมารยาทไอ้บาสตื่นเต้นจนหน้าบานมันรีบกดเบียร์ส่งให้ไอดอลคนดังมือนี่สั่นเหอะผมว่า
“ไงครับน้องปิง เซอไพร้ซ์มากเลยนะปกติไอ้เอย์มันไม่เคยฟังเพลงแนวนี้เลยนี่ เก่งมากนะเราชวนคุณชายเขามาในที่แบบนี้ได้”
“พูดมากๆระวังปากจะบวมไปถ่ายหนังถ่ายละครไม่ได้นะมึง” พี่เอย์ครับปากพี่แม่ง พี่ซ่าร์เงียบกริบเลย ผมตักข้าวผัดวางไว้ให้มัน พี่เอย์กินอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ มันกินแค่นิดๆหน่อย ๆ ส่วนผมล่อแม่งทุกอย่าง ไอ้บาบาสยิ่งไม่ต้องพูดมันยิ่งกว่าปอบลง ไฟเริ่มมืดขึ้นมาก ๆ วงดนตรีจริงขึ้นแสดงแล้ว เสียงปรบมือเกรียวเลยครับ
คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าผมพาพี่เอย์มาดูดนตรีแนวไหน นี่เลย....
http://www.youtube.com/v/tpAXa5Zyx9U ......ข้ามันลูกทุ่ง ข้านอนมุ้งสี่สาย
ผูกด้วยเชือกจูงควาย เอนกายแล้วสิ้นลำเค็ญ
ไม่ต้องสนใจมาดัดนิสัยข้าหรอกบานเย็น
ข้ามันลูกทุ่งเอ็งก็คงเห็น ข้าเป็นแค่คนชาวนา
....ถ้าเอ็งมองข้าว่าหัวของข้าล้าสมัย
สุดที่เอ็งทนได้ ตามใจเอ็งเถิดแก้วตา
จะเปิ่นหรือเชย ข้าก็ยังเคยมุ้งแบบของข้า
เอ็งอยากจะรักข้าก็ไม่ว่า เอ็งจะเกลียดข้าไม่ว่าสักน้อย.......ตอนแรกผมก็นั่งฟังดี ๆ หรอกพอเปลี่ยนเพลงแล้วเข้าจังหวะแค่นั้นแหละ ผมไอ้วุฒิไอ้บาสแม่งลุกขึ้นแล้วโยกเลยครับ ผมไม่รู้หรอกพี่เอย์มันจะคิดยังไงช่างดิ นี่แหละตัวผม ผมชอบดนตรีแบบนี้ผมก็ชวนมันมาดู ผมชอบกินอาหารแบบนี้ผมก็กินให้มันเห็น เหล้าก็เหล้าถูกๆเบียร์ก็เบียร์สดธรรมดา พี่เอย์ไม่แตะเลยนะทั้งเหล้าทั้งเบียร์แต่มันก็ไม่ได้ห้ามผมผมมองดูตอนแรกหน้าตาคุณชายนี่อย่างอึ้งตอนเพลงขึ้นแต่พอเห็นพวกผมสามคนกอดคอกันแล้วโยกไปตามจังหวะเพลงคือมันไม่ได้เร็วอะไร แต่คุณนึกออกไหมเวลาเราไปดูคอนฯเราจะสนุกและมีอารมณ์ร่วมแบบมากๆเลย พี่เอย์นั่งมองผมอยู่ข้างหลังมันอมยิ้มด้วยล่ะ
“พี่ด้วยๆ” เสียงพี่เดียร์ดังขึ้นเธอเดินมากอดคอผมแล้วเราก็โยกเอนตัวตามจังหวะเพลงไปด้วยกัน พี่เดียร์น่ารักมากครับตอนนี้ที่โต๊ะเลยเหลือแค่พี่เอย์กับพี่ซีซ่าร์
* ข้ามันลูกทุ่งข้านอนมุ้งสี่หู
ข้าพูดเอ็ง มึง กู ฟังดูก็ตรงหนักหนา
ข้าชอบไทยเดิม ข้าส่งข้าเสริมคำพูดบ้านข้า
....ข้าแต่งกับเอ็ง เอ็งเป็นของข้า
ใครเรียกภรรยา แต่ข้าเรียกเมีย..... “คุณผู้หญิงโต๊ะโน้นฝากมาให้พี่ครับ” พนักงานชายเดินถือแก้วเหล้ามาวางให้ไอ้คุณชาย ตอนนี้วงดนตรีกำลังแสดงเพลงช้า มันนั่งฟังแบบสบาย ๆ มองโน่นนี่นั่นของมันไป ธรรมดาที่จะมีสาว ๆ มาส่งสายตากันบ้าง ผมเวลามาก็มีเหล่ๆชนกันบ่อยวันนี้ก็เจอกับสายตาสาวๆแล้วไม่ต่ำกว่าสามอ่ะบอกเลย แต่คือถ้าเราไม่สานต่อทุกอย่างก็คือไม่มีอะไรไงผมส่งยิ้มให้เธอด้วยนะ แต่ก็คือไม่มีอะไรมากครับเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดามากับเพื่อนๆ มองๆแล้วก็จบไป
“เสน่ห์แรงนะมึงไอ้คุณชาย” เสียงพี่ซ่าร์แซว เมื่อพนักงานอีกคนเดินเข้ามาวางเบอร์โทรศัพท์ลงให้มันแล้วบอกคราวนี้มาจากผู้หญิงแถว ๆ ด้านหน้าเธอลุกขึ้นโบกมือมาให้มันแล้วกรี๊ดกันทั้งโต๊ะเลย ผมนั่งลงดื่มเบียร์ของผมไปขณะที่ในใจนี่ร้อนมากรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ ไม่ชอบอ่ะ แต่ผมไม่แสดงออกหรอกทำท่าเฉยๆไปเลยแม่ง
“มึงก็ถอดพร็อบมึงออกดิ่ ทั้งหนวดทั้งวิกตลกฉิบหายเลยว่ะแม่ง” มันยกยิ้มตอบกลับพี่ซ่าร์แล้วเลื่อนมือมากอดเอวผมไว้ ผมหันไปมองมันนิดๆไม่รู้คิดยังไงมันดึงมือผมไปจับไว้ที่ตักอีก
“พี่ครับ คุณผู้หญิงโต๊ะนั้นฝากมาให้อีกครับ” น้องพนักงานคนเดิมวางแก้วเหล้าลงต่อหน้ามัน คราวนี้พี่เอย์มองหน้าผมเลย ตาผมไม่ได้มองมันนะแต่ผมก็รอดูอยู่ว่ามันจะยกดื่มไหมเพราะแก้วแรกเธอเก้อไปแล้ว พวกเราทั้งโต๊ะมองไปตามที่น้องพนักงานชี้ให้ดู เออสวยว่ะแม่งสวยเซ็กซี่เฉยๆไม่ได้ไงวะทำไมต้องแรดด้วย อึ๋ยโทษๆๆๆผมนี่แย่จริง ๆ ไปว่าผู้หญิงแบบนั้นได้ไงวะ เอาใหม่ๆคือเธอสวยมากเลยนะครับ ผมเห็นแล้วยังชอบ พี่เอย์ต้องยกดื่มแหงร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งมันก็ยกดื่มจริงครับ ยกแก้วชูขึ้นนิดๆให้ทางนั้นเขารู้ จากนั้นมันก็ดื่ม ผมดึงมือออกจากมือมันเลยนะ คือเราสองคนจับกันไว้ใต้โต๊ะใช่ไหม แต่ตอนนี้ผมเซ็งแล้วไม่ชอบว่ะ พี่เอย์คว้าเอาคอผมเข้าไปกอด คือมันกอดคอผมเลยทันทีแล้วเอามือจับหัวผมไปชนกับมัน พอผมหันไป หน้าเราจึงอยู่ห่างกันแค่นิดเดียวจริง ๆ มันจ้องผมตานี่หวานฉ่ำมาก เราสองคนจ้องตากันอยู่พักนึง
“ขี้เหร่เอ้ย” ผมกระทืบเท้ามันทันทีที่มันพูดจบ คืออยากบอกว่ากระทืบแรงมากรวมหมดเลยความโมโหที่เมื่อตะกี้อยากมีสาวๆมาแจกเบอร์แล้วแรดยกแก้วเขาดื่มดีนัก จิ๊! แต่อย่าถามนะถ้าเป็นผมจะดื่มไหม ดื่มสิครับสวยขนาดนั้นใครไม่ดื่มก็โง่แหละ แค่นั้นผมก็กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิมได้ แต่ที่มีปัญหานี่ก็คือ ยัยผู้หญิงโต๊ะนั้นนี่ไม่ยอมจบนะครับ เธอส่งเบอร์มาพร้อมกับเหล้าแก้วที่สาม คราวนี้พี่เอย์หันมองผมเลยสิ
ท่าทางจะแรงน่าดู สาวเซ็กซี่ในชุดแซกสีดำเหรอวะ มาในผับดนตรีเพื่อชีวิตแบบนี้ได้ไง เออเหมาะแล้วที่เธอโฟกัสสายตามาที่มัน
(ต่อด้านล่าง)