# 21 เวลาไม่เคยพอ.... ช่วงนี้พี่เอย์ดูเครียดๆ“พี่เอย์ครับเดี๋ยวผมแวะดูหนังสือหน่อย” เมื่อตอนเย็นเรามาเดินซื้อของกันที่ซุปเปอร์ผมเห็นยังพอมีเวลาเหลือเลยชวนมันขึ้นมาเดินเล่นที่ชั้นบน
“พี่!” ผมฉุดแขนมันไว้ คือเมื่อกี้มันคงจะไม่ได้ยิน เดินเตลิดร้านหนังสือไปผมนี่เลี้ยวแล้วนะต้องเดินกลับมาดึงมันอีก
“มึงจะแวะ?” มันทำหน้าสงสัย “โทษที”
ผมได้หนังสือเกี่ยวกับซอฟต์แวร์มาสองเล่ม ส่วนคุณชายผมเห็นมันไปดูหนังสือเกี่ยวกับงานวิศวกรรมอะไรของมันน่ะแหละพักนึงก็เดินเข้ามาหาผม
“เสร็จยัง หิวแล้วว่ะ” มันถาม แล้วดึงเอาหนังสือในมือที่ผมเลือกไว้ไปถือให้
“เดี๋ยวผมดูตำราอาหารเล่มใหม่ได้ไหมพี่”
“ตามใจดิ่ ทำไม? เล่มนั้นไม่เห็นว่ามึงจะทำได้ครบเลย”
“หูยพี่เอย์ครับ เล่มนั้นมันเป็นภาษาอังกฤษนี่ ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลย ขอเล่มใหม่เป็นภาษาไทยนะครับนะ อ๊ะ เล่มนี้ดีๆๆ” ผมยื่นให้มันดูขอความคิดเห็น พี่เอย์หันมาดูๆแล้วมันก็ยิ้ม ผมเลยยัดใส่อกมันเลย เราเดินไปจ่ายตังค์ผมบอกเดี๋ยวของผมๆจ่ายเอง พี่เอย์มองตาเขียวผมรีบขยับๆๆๆเลี่ยงมาดูพวกปากกาดินสอสมุดอยู่ใกล้ ๆ ปล่อยให้มันจ่ายเงินไป
“อ๊ะ! ขอโทษครับ” ผมสะดุ้งแทบทรงตัวไม่อยู่ คือผมชนแล้วเหยียบเท้าใครสักคน แบบเต็มตีนเลยนะเซเลยดิ ผมรีบยกมือขอโทษ หนังสือในมือเขาหล่นกรูเลย
“ขอโทษจริง ๆ ครับพี่ผมขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
ผมรีบก้มลงไปรวบเก็บหนังสือ เขาเองก็ลงมานั่งเก็บด้วยกัน พ่อคุณเอ๊ยยยทำไมซื้อหนังสือเยอะแบบนี้วะ เป็นตั้งอ่ะมีแต่หนังสือไอทีทั้งนั้น มีเล่มออกใหม่แบบที่ผมซื้อด้วยนะเล่มเดียวกันเปี๊ยบ
“มีอะไรปิง/มีอะไรเหรอเชน” เสียงพี่เอย์กับเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกัน พี่เอย์เดินเข้ามาหาผม ส่วนผู้หญิงสวยๆคนนั้นเดินเข้าไปยืนข้างพี่ผู้ชาย
“ผมชนพี่เขาน่ะครับ ของหล่นหมดเลย” ผมบอกพี่เอย์พร้อมกับยื่นหนังสือเล่มสุดท้ายส่งให้เขาคนนั้น ค้อมศีรษะให้อีกครั้ง คืออยากจะสื่อว่าผมขอโทษมากจริง ๆ ผู้หญิงข้าง ๆช่วยรับหนังสือจากพี่ผู้ชายไปถือ สองคนน่าจะรุ่น ๆ เดียวกับพี่เอย์มั้งนะ
“ไม่เป็นไรครับน้อง”
“ขอโทษจริง ๆ ครับพี่ ผมไม่ตั้งใจนะ”
“หึหึหึ รู้สิครับ ใครจะตั้งใจเดินชนกันได้ล่ะเนอะ” ผมฉีกยิ้มส่งให้พี่เขาไปทีเจอไอ้คุณชายมองตาเขียว ผมเลยรีบเดินมายืนซ้อนๆหลังกระตุกเสื้อมันบอกให้รู้ว่าทำหน้าให้ดีๆหน่อย คือไม่มีอะไร ผมอยากจะขอโทษพี่เขาเท่านั้นจริง ๆ
“ไปกันได้แล้ว”มันว่าอย่างอารมณ์เสีย
ผมค้อมหัวให้รุ่นพี่คนนั้นอีกครั้งก่อนโดนคุณพี่เอย์ลากออกมาจากร้าน จับดูมือตัวเอง คือตอนที่ชนกันสันหนังสือเล่มนึงหล่นกระแทกเข้าที่หลังมือผมแบบเต็ม ๆ เลยรู้สึกปวดๆ
“ยืนยังไง ซุ่มซ่าม” พี่เอย์หน้าบูดพูดเสียงเครียด
“เอ๋า ใครจะไปตั้งใจล่ะพี่ ดูดิ่ มือเขียวเลยเนี่ย”
“จิ๊! สมน้ำหน้ามึง”
มันว่าหน้างอผมเลยยู่หน้าแกล้งบ่น ๆ มันไปอิพี่เอย์หันมาเห็นพอดีมันเลยผลักหัวผมจนหน้าเงิบเลย ผมรู้เหอะมันงอนผม
“พี่เอย์” นี่คือผมง้อนะ เราก้าวลงบันไดเลื่อนมาด้วยกัน
“..........”
“พี่เอย์ครับ โกรธไรเนี่ย” ผมรีบแทรกๆตัวไปยืนอยู่ชั้นที่ต่ำกว่ามันเอาหลังดัน ๆ พุงมันแล้วหันไปดู พี่เอย์อมยิ้มนิดๆแล้ว ผมเลยแกล้ง ๆ เอาหัวพิงพุงมันอีก คราวนี้มันยกสองแขนกอดคอผมเลยคางนี่ตั้งลงที่ศีรษะผมได้พอดี คือคุณพี่ไม่แคร์ใครเลย
“ข้าวเย็นเอาไง เอ็มเคป่ะ หรือจะกินฟูจิ” มันเอียงหัวถามข้ามไหล่มา
“ผมทำดีไหมพี่ เดี๋ยวกลับไปทำให้แปปเดียว วันนี้จะทำกุ้งชุปแป้งทอดให้ด้วยนะ”
“กินกับอะไร”
“ลาบหมู ป๊อกๆๆๆๆๆ” ผมตอบแล้วทำมือแบบสับๆๆ
“หือ??” มันทำหน้าช็อคผมหัวเราะร่า ยังจำได้ดี ครั้งแรกที่ทำอาหารให้คุณชายทาน ลาบหมูคือสิ่งที่มันไม่แตะต้องเลย
“พี่ก็ต้องลองสิครับ เดี๋ยวผมทำแบบไม่ใส่พริก ทำแบบรสชาติเด็กๆกินให้เลย ลองกินดูนะๆ”
พี่เอย์ทำท่าคิดหนักมันเงียบไปเลยจนกระทั่งเราเดินมาถึงที่รถ “งั้นมึงก็ทำเอ็นไก่ทอดเหมือนวันนั้นด้วยดิ่”
“ทำไมครับ พี่จะกินเหรอ”
“อือ เดี๋ยวลองดู”
“กินจริงนะไม่ใช่ให้ผมทำเก้อเสร็จแล้วพาออกมากินนอกบ้านเหมือนคราวนั้นล่ะ”
“หึหึ” มันหัวเราะในคอเบา ๆ ปรายสายตามาที่ผมนิดๆ ผมเลยแกล้งหรี่ตาขู่มันไปทำท่าเหมือนกำลังปาดคอมัน “ถ้าครั้งนี้ทำแล้วไม่กินนะ ผมเชือด!” มันทำท่าแกล้งตาย แอร่ก! คึคึคึ เราเล่นกันมาจนกระทั่งรถแล่นมาจอดที่คอนโดหรูหราของคุณชาย
“พี่เอย์ไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวออกมาอาหารเสร็จพอดี” ผมกับมันเดินหอบสารพัดถุงมาวางไว้ที่โต๊ะอาหารในครัว เป็นผมที่จัดการแยกประเภทข้าวของ
“ไม่ให้กูช่วย?”
“พี่อยากกินข้าวตอนห้าทุ่มเหรอครับ”
“กูช่วยสับหมูไง ไม่นานหรอกกูจะหัด ” มันเดินเข้ามาผูกผ้ากันเปื้อนให้ผมอีกแล้ว ผมที่กำลังจะหันไปล้างผักโดนมันดึงไว้แล้วใช้มือเกลี่ย ๆ ปอยผมที่ตกลงมาปรกตาออกให้
“ผมยาวแล้วนี่ ไปซอยออกหน่อยดีไหม” มันพยายามเหน็บทัดหูให้แต่คือมันยังยาวไม่ถึง ผมเลยจับมือมันไว้
“ยาวที่ไหนพี่ยังทัดหูผมไม่ได้เลยเหอะ แสดงว่ายังสั้นอยู่ดิ่”
“หึหึ มึงผู้ชายนะถ้าทัดได้นี่กูว่ามันจะแปลกๆแล้ว ไปไหม พรุ่งนี้พาไป” มันว่าแล้วสอดมือเข้าที่เอว ผมเลยรีบเบี่ยงตัวออก
“ไม่อ๊าววว ไม่เล่นแล้วพี่เข้าไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวผมทำอาหารไว้ให้” ผมขืนตัวไว้จะหันไปอีกทางแต่พี่เอย์นี่เป็นไรไม่รู้มันดึงผมไว้ตลอดเลย
“มานี่ดิ่ เดี๋ยวพาไปดูอะไร” มันดึงมือผมพาเดินเข้าไปในห้อง แล้วหยุดอยู่แถว ๆ โต๊ะทำงานมัน พี่เอย์หยิบปฏิทินแบบตั้งโต๊ะขึ้นมาให้ดู
“อะไรครับ” ผมเห็นรอยขีดในทุกๆวันที่ๆผ่านพ้นมาแล้ว พี่เอย์ชี้ให้ดูวงกลมสีแดงที่มันเขียนรูปหัวใจเล็ก ๆ ใส่ไว้สองดวงคู่กันในวันอาทิตย์หน้า ที่กำลังจะมาถึง ผมรู้ทันทีเลย
“ทำไมอ่ะพี่” แกล้งถาม ความจริงเก็ตแล้วล่ะแต่ทำท่าเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“จิ๊! นี่มึงไม่เคยจำอะไรเลย”
“จำอายัยเย๋ออออ” ผมแกล้งลากเสียงเอ๋อๆ คืออยากแกล้ง หมั่นเขี้ยวคน
“เออช่างหัวมึง จำไม่ได้ก็ไม่ต้องจำไว้ถึงวันนั้นแล้วก็จะสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ให้มึงเองรับรองประทับใจแบบมิรู้ลืมแน่นอน”
“โหววถึงขนาด มิรู้ลืม เลยเหรอพี่”
“ลองดูไหมล่ะ มึงกับกูใครจะเก่งกว่ากัน”
“อย่ามาท้าเหอะ”
“เปล๊า” มันยักไหล่ “ไม่ได้ท้า”
“พี่ให้ผมกดพี่ดิ่ ถ้าเป็นแบบนั้นผมให้พี่เก่งกว่าเลย”
พี่เอย์ตาเขียวปั๊ดผมรีบวิ่งหนีออกมาในครัวเลยสิครับจะอยู่รอคุณชายโบกกะบาลเหรอ มันวิ่งตามออกมาแล้วทำท่าเหมือนจะเตะผมหลบได้มันรวบตัวผมไว้เลย นี่ขนาดผมยืนอยู่หน้าซิ้งค์ล้างผักแล้วนะมันนี่ก็กวนผมตลอด
“วันนี้ค้างไหม” พี่เอย์สอดมือเข้าที่เอวผมจูบลงที่ต้นคอแล้วถาม
“...ได้เหรอพี่” ผมฉุกคิดนิดนึงก่อนหันไปหามัน คือก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอก แต่ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไรนะ เพราะว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่คุณแม่พี่เอย์รู้เรื่อง มันถูกเรียกไปนอนบ้านทุกวันเลย เอาเป็นว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มันไม่ได้นอนที่ห้องตัวเองเลยแม้แต่คืนเดียว
“..............” พี่เอย์จ้องหน้าผมนิ่ง สายตามันราวกับว่ากำลังโทษตัวเองอยู่มาก ผมรู้ว่ามันเองมีเรื่องไม่สบายใจ ทุกวันที่มันกลับไปนอนที่บ้านตอนเช้ามันจะรีบกลับมาที่ห้อง บางครั้งเป็นผมเองที่มาถึงก่อนมันด้วยซ้ำ พี่เอย์จะนิ่งและเครียด หน้าตาดูไม่มีความสุข เป็นผมที่ต้องงัดสารพัดมุขมาเล่นกับมันจนมันหายแล้วกลับมาหัวเราะได้เหมือนเดิมพอถามว่าไปเจออะไรมาเล่าให้ผมฟังได้นะมันก็บอกแต่ว่าไม่มีอะไรเดี๋ยวจัดการเอง ให้ผมเป็นผมเหมือนเดิมกับมันแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของใคร แม่พี่เอย์ไม่เคยแวะไปที่ร้านอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น
“ครับ วันนี้ผมจะค้าง” รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากมันอีกครั้ง ผมเลยแซวว่ามีความสุขมากเหรอแค่รู้ว่าผมจะค้างด้วยเนี่ย คุณชายยิ้มร่ากลับมาแล้วบอก
“ไม่เห็นสนใจหรอก จะค้างไม่ค้างไม่เกี่ยว”
“แน่เหรอ พูดจาแบบนี้ใช่ไหม เดี๋ยวเหอะๆ ไม่ค้างด้วยงั้นบอกเลย”
“ลองดิ่”
“เอาจริงดิ่”
RRRRRRRRR
RRRRRRRRRRRRRRRRRเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะผมที่กำลังเล่นกับมันอยู่ พี่เอย์หน้าเสียทันทีทุกอย่างระหว่างเราสองคนหยุดชะงัก มันล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วมองหน้าผม สายตาคือผมรู้เลยว่าเป็นใครที่โทรมา มันเดินเข้ามาคว้าเอาหัวผมเข้าไปซุกอกมันแล้วขยี้ ผมรู้ว่านี่คือการปลอบใจของมัน ในที่สุดมันก็กดรับสาย
“........ครับแม่”
ผมมุดออกมาจากวงแขนมันหันหลังแล้วค่อยๆถอดผ้ากันเปื้อนออก รู้แล้วว่าทุกอย่างคงจบแล้วสำหรับวันนี้ เราสองคนไม่ได้ทานข้าวเย็นด้วยกันมาอาทิตย์นึงเต็ม ๆ ตอนแรกผมไม่คิดอะไรมากนะแต่คือทุกวันนี้มันเหมือนกับผมโดนกันออกให้ห่างจากพี่เอย์ตลอด ผมไม่รู้พี่เอย์ต้องเจอกับอะไรบ้าง กลับมาจากบ้านทีไรหน้าตานี่คือเครียดไปมาก ผมเองก็ไม่อยากจะงอแงทำตัวมีปัญหาให้มันปวดหัวอีกเลยได้แต่เงียบไว้เชื่อใจว่ามันจะจัดการเรื่องที่บ้านได้ในเร็ววัน
“ปิง” มันเดินเข้ามากอดเอวผมไว้ ตัวมันสั่นนิดๆด้วย ผมรู้มันกลัวผมไม่สบายใจ แล้วผมคนนี้จะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากหันไปพยักหน้าบอกมันเบา ๆ ว่าผมเข้าใจ ไม่เป็นไร พี่กลับบ้านไปเถอะครับไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก
“ทำต่อสิ ไหนให้กูช่วยล้างอะไรบ้าง” มันจับผ้ากันเปื้อนขึ้นมาใส่ให้ผมใหม่ ผูกโบว์ด้านหลังให้อย่างเคย หยิบมะเขือเทศยื่นส่งให้ ผมมองมันอย่างชั่งใจเลยนะ คือผมรู้แล้วล่ะว่ามันน่ะโดนตามตัวกลับบ้านแต่ก็ยังอยากจะกินข้าวด้วยกันกับผมก่อน ผมตัดสินใจหันไปส่งยิ้มกว้างให้มันก่อนรับของในมือมันมา
“งั้นเดี๋ยวผมรีบทำเลยเราจะได้รีบทานแล้วพี่จะได้รีบออกไปนะครับ”
คืนนั้นเราสองคนนั่งทานข้าวข้างกันเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีโทรศัพท์เรียกมาอีกเลยเพราะพี่เอย์ปิดมือถือไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่มันยอมชิมลาบหมูสำหรับเด็กอนุบาลที่ผมปรุงให้โดยเฉพาะคุณชายทำหน้าเหยเกบอกไม่ชอบ ผมเลยให้มันชิมเอ็นไก่ทอดแทน คือกว่าจะตัดสินใจทานลงไปได้คิดนานประมาณหนึ่งนาที ผมให้มันจิ้มซอสมะเขือเทศของชอบมันและยังมีแกงจืดเต้าหู้ที่ผมตั้งใจปรุงให้จืดมากที่สุด เพราะอย่างนั้นอาหารมื้อนี้พี่เอย์จึงทานได้เยอะ มันกินทุกอย่างยกเว้นลาบหมูท่าทางคือไม่ชอบจริง ๆ
“เอารถจอดไว้ที่นี่ดีไหม เดี๋ยวกูไปส่งมึงก่อน” เราเดินลงมาถึงชั้นล่าง พี่เอย์เดินตัดตัวตึกมาส่งผมที่รถมอไซด์
“ไม่เป็นไรพี่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมต้องไปช่วยแม่กับพี่ขมเปิดร้าน แล้วพรุ่งนี้พี่เอย์จะเข้ามาตอนไหนครับ”
“ยังไม่รู้เลย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเป็นช่วงเช้า”
“อะไรคือถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด”
พี่เอย์ถอนใจยาว มันจ้องหน้าผมนิ่ง “ปิง คืนนี้กูกะว่าจะเคลียร์กับคุณแม่ให้รู้เรื่อง เรื่องของเราคงปล่อยผ่านไปไม่ได้แล้วคุณแม่เริ่มล้ำเส้นกูมากเกินไป”
“พี่เอย์ครับ”
“ไม่เป็นไร กูโอเค”
ตกดึกเราสองคนต่างก็แยกกันไป ผมกลับไปนอนที่บ้านเพราะช่วงนี้ปิดเทอมแล้วผมชอบไปช่วยแม่เปิดร้านตอนเช้า ๆ เปิดเพลงเก่าเพราะๆให้แม่ฟังขณะที่พี่ขมกับแม่เดินจัดหน้าร้านกันไปเรื่อย ๆ ความจริงชีวิตคนธรรมดาอย่างผมก็เรียบง่ายและดีพอเพียงทุกอย่างเลยนะ ก็อย่างที่แม่พี่เอย์เคยพูดไว้ คนเราถ้าพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีไม่ทะเยอทะยานอยากได้อยากมีในสิ่งที่เกินเอื้อมคว้าชีวิตก็จะมีความสุขมาก คำพูดนี้ไม่ผิดเลย ผมกับครอบครัวของผมถึงเราจะจนแต่เราก็พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่มันผิดพลาดและบิดเบี้ยวไปนั่นคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เอย์
เธออยู่สูงแสนไกลจากตรงนี้.......ฉันเข้าใจดีเราต่างกัน
แต่บังเอิญเธอมีหัวใจให้ฉัน....เรารักกัน..ฉันโชคดี
.
.
“เหี้ยเหอะ! หมาบาสมึงมันจะเกินไปแล้ว กูจะไปทำได้ไงวะท่าพิเรนๆแบบนั้น”
“เอ๊ามันจะไปยากตรงไหน พี่นอนอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวคุณพี่เอย์เขาทำให้พี่เองแหละ เพียงแต่พี่ก็จำๆเอาไว้ถึงเวลาจะได้ไปบอกพี่เขาว่าอยากได้แบบนั้นแบบนี้”
“ถุย! ไอ้หมา มึงมันชั่วไอ้ทุเรศไอ้อุบาท ใครจะไปบ้าทำท่าหกคะเมนตีลังกาได้แบบนั้น เปลี่ยนแผ่นเลยสัส!”
ไม่อยากจะบอกเล้ยยยวันนี้หลังช่วยคุณตะนาวศรีเธอเปิดร้านผมรีบตรงดิ่งมาที่หอไอ้บาสมันทันที เอาเป็นว่าปลุกมันตั้งแต่มันยังไม่แหกขี้ตาตื่นนั่นแหละครับ ส่วนไอ้วุฒิพอรู้ว่าผมมามันก็ตามมาสมทบทีหลัง อย่าถามนะว่าปิดเทอมแล้วทำไมบาสกับวุฒิไม่กลับบ้านเพราะตอนนี้พวกเรากำลัง ๆ เลือกๆที่ๆจะเรียนต่อกันอยู่พวกผมจบปวส.กันมาเพราะงั้นกำลังดูที่ทางอยู่ว่าจะไปต่อปริญญาตรีในสาขาไหนดี
“ฮู้วไรของพี่ไม่รู้ เปลี่ยนจนจะยี่สิบแผ่นแล้วเนี่ย แล้วไอ้ที่ผมโหลดๆมาไว้ให้นี่ตกลงคือไม่ดูจะดูพวกแผ่นว่างั้น”
“มึงกล้าทำเสียงรำคาญกูเหรอ เดี๊ยะเหอะๆ วุฒิมึงจัดการหมาบาสให้กูทีซิ” ผมยัน ๆ เตะๆมันไปคือตอนนี้ก็นอนเกลือกกลิ้งกันอยู่ที่พื้นล่ะนะ
ฟิ้วววว~~“โหววลูกพี่ปิงเล่นแรงว่ะ แผ่นผมเป็นรอยหมดเหอะขว้างกันแบบเนี๊ย”
“ก็กูบอกให้มึงเปลี่ยนแผ่นไงลีลาอยู่ได้สมน้ำหน้า”
“ก็พี่เลือกเป็นสิบแล้วเนี่ย จะให้น้องบาสคนนี้ไปหาจากที่ไหนมาให้อีกล่ะคร้าบบบบ” ไอ้บาสแม่งเถียงคำไม่ตกฟากจริง ๆ วุฒิมันคงรำคาญพวกผม เห็นเดินไปเปิดลิ้นชักใต้ทีวีไอ้บาสสักพักได้แผ่นออกมาเต็มสองมือมันเลือกหยิบออกมาแผ่นนึงแล้วยื่นส่งให้ผม
“เฮ้ย! เกือบรับไม่ทันไอ้เหี้ย”
“เจ๋งสัสๆแผ่นเนี๊ยะ”
“จริงดิ่” ผมถาม มันตีคิ้วตอบรับ ผมเลยส่งให้ไอ้บาสมันไปเปิด ด่ามันไปทีว่าแผ่นดีๆแบบนี้ล่ะไม่ยอมเอามาให้กูดู รู้ไหมมันตอบว่าไง มันบอกแผ่นนี้รักมว๊ากกมันกลัวเป็นรอยใช้บ่อย ผมเลยด่ามันไป ไอ้เหี้ย! พวกมึงจำเป็นต้องใช้อ่อ มีแต่กูนี่แหละ
คือพรุ่งนี้แล้วไง ครบสามเดือนของผม วันที่พี่เอย์มันวงกลมแล้วเขียนรูปหัวใจสองดวงไว้ที่ปฏิทินนั่นแหละ
“เป็นไงพี่ เจ๋งใช่ป่ะ”
“เออ” ผมตอบรับมัน แผ่นนี้นักแสดงแม่งมีแต่หน้าตาดีๆทั้งนั้น ฝ่ายรับเซ็กซี่เร้าใจหน้านี่ฟินมาก ส่วนฝ่ายรุกก็หน้าตาดีลีลานี่เด็ด ผมก็ดูๆไปจำไว้ด้วยว่าควรทำอะไรยังไงตรงไหน
คุณต้องเข้าใจนะนี่มันครั้งแรกของผม จะยอมเปิดซิงตูดให้คนที่เรารักทั้งทีจะให้มานอนแข็งทื่อเป็นขอนไม้แบบนั้นผมไม่เอานะครับ เพราะขนาดผมนอนกับผู้หญิงคนไหนนอนเฉย ๆ ไม่ช่วยไม่ร้องไม่มีรีแอคเด็ดๆนี่ผมเบื่อเร็วนะ เอาจริง ๆ
“มึงแน่ใจแล้วป่ะวะปิง” จู่ ๆ ไอ้วุฒิถามขึ้น มันไม่ค่อนสนใจหนังหรอกมันนอนอ่านหนังสือรถอยู่บนเตียงแคบ ๆ ของหมาบาสเงยหน้าขึ้นมาถาม
“เออ”
“แล้วพี่เอย์เขาทวงเหรอ หรือว่าไงที่มึงมานั่งศึกษาลีลาอยู่เนี่ย พี่เอย์เขารู้ป่ะวะหรือเขาว่าไงบ้างพรุ่งนี้มึงต้องเจอของจริงแล้วนะเว่ย”
จะว่าไปผมไม่ได้เจอพี่เอย์กี่วันแล้ววะ ครั้งหลังสุดนี่คือได้เจอแปปเดียวตอนที่พี่เอย์มันแวะไปหาที่ร้านแล้วพาผมออกไปทานข้าวด้วยกันผมบอกจะไปทำให้ที่ห้องมันก็บอกไม่เป็นไรรีบกลับ พอถามว่ากลับไหนมันบอกช่วงนี้นอนที่บ้านตลอด แล้วคือผมดูรู้นะพี่เอย์หน้าตาไม่ค่อยโอเคอ่ะคือปกติมันจะดูแลตัวเองใช่ไหมหนวดนี่คือโกนทุกวันนะครับทั้งเช้าทั้งเย็นเข้าห้องน้ำทีไรเสียงเครื่องโกนหนวดคือดังลอดออกมาตลอด แต่ครั้งล่าสุดที่เจอคือไม่ใช่เลยว่ะ หน้าตาก็โทรมเหมือนคนไม่ค่อยได้นอน อาการหนักยิ่งกว่าตอนมันสอบไฟนอลครั้งล่าสุดเสียอีก
“กูไม่ได้เจอพี่เขาเลยว่ะตั้งแต่วันพุธแล้ว”
“เฮ้ยจริงดิ่”
“อือ”
“อ้าวแล้วพรุ่งนี้คือ? พี่เขาจะมาให้มึงเจอป่ะล่ะ มึงอย่าบอกนะว่ามึงเตรียมตัวเก้อเนี่ย แบบนั้นไม่เข้าท่าหนาเว้ย ลูกผู้ชายแบบเราคำไหนคำนั้น บอกว่าจะให้คือให้ มึงพูดเองบ่อย ๆ นี่หว่า”
“สัสวุฒิครับวันนี้มึงเป็นไรมากป่ะ ซักกูจังนะมึง”
“ตอบดิ่”
“นั่นดิ่ลูกพี่ ผมเองก็อยากรู้นะ” ไอ้บาส ไอ้หมาเสือกมันยื่นหน้าทำตาแป๋ว ๆ มองผมกับไอ้วุฒิคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่
“กูไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้พี่เอย์เขาจะมาหากูได้รึเปล่า แต่นี่คือสัญญาของพวกเรา กูจะรอพี่เขาอยู่ที่ห้อง ลิมิตแค่หกทุ่มถ้าไม่มาทุกอย่างคือจบ”
“ห๊าาาาาา ถึงขนาดจะเลิกเลยอ่อ”
“เปล่าไม่ใช่จบแบบนั้นฮู้วมึงนี่ กูหมายถึงจบเรื่องอย่างว่า อยากไม่มาเองกูก็จะไปโฟกัสเรื่องเรียนกูก่อนอาจจะขอเลื่อนต่อไปอีก”
“เซ็งว่ะ”
“อ้าวถ้าอยากได้กูก็ต้องมาให้ตรงวันดิ่วะ ของดีไม่ได้มีบ่อย ๆ นี่เนอะ โอ๊ยยยยยย ไอ้เหี้ยวุฒิ!!!!!!!” ดู๊ดูมันเบะปากก่อนจะถีบผมจนกระเด็นไปติดขาโต๊ะเลยอ่ะ ไอ้วุฒิแม่งคงหมั่นไส้ผมแหละปกติมันเล่นแรงกับผมที่ไหน ผมชี้หน้ามันพร้อมแว๊ดๆๆด่าไปไอ้วุฒิแม่งลุกจากเตียงอ่ะมันเลียปากแล้วเดินมาหาผม คือท่าทางแม่งน่ากลัวมาก
“ไหนให้กูพิสูจน์ดิ๊ของมึงดีจริงป่ะ” มันว่าพร้อมลากผมจะเหวี่ยงขึ้นเตียงไอ้บาสนี่นั่งเงียบเลย ผมทั้งเตะขาทั้งดิ้นคือตอนนี้มันอุ้มพาดบ่าตัวลอยอ่ะเอาง่าย ๆ
“ม่ายยยยยอ๊าวววววว วุฒิกูไม่เล่น เหี้ยปล่อยกู๊วววว อึ๊กก!!!!!!” ผมจุกสัสๆอ่ะมันโยนผมลงที่เตียงเลย กระโดดทับลงมาอีกด้วย
“วุฒิ!” คือผมตกใจจริงนะวุฒิมันเล่นบ้าไร มันยกมือขึ้นมาปิดปากผมไว้
“ไหวไหม” หือ??มันถามไรวะ ผมทำหน้าทำตาสงสัย
“พี่เอย์กับกูตัวพอๆกัน มึงคิดว่ามึงรับน้ำหนักพี่เขาไหวป่ะวะ” ผมรีบพยักหน้ารัวเลย คือตอบไม่ได้มันปิดปากผมไว้แน่นมาก
“ดีมากนี่คือกูจะสอนมึง ถ้ามึงคิดว่าไม่ไหวก็ให้ทำแบบไอ้ฝ่ายรับในหนัง ออนทอปซะ” คราวนี้มันพลิกตัวผมทันทีคงกะว่าจะให้ตัวมันลงไปนอนอยู่ข้างล่างแล้วให้ผมนั่งอยู่บนตัวมัน แต่ฝันเถอะครับท่าทางแบบนั้นผมไว้ทำกับที่รักผมคนเดียวเหอะ ผมเลยอาศัยช่วงจังหวะเผลอแว๊ปเดียวของมันยันโครมมันทีเดียวร้องโอดโอยอยู่ที่พื้นข้างเตียงเลยดิ่
คือมันตกเสียงดัง
ตุ๊บบบ เลยเหอะ
“จิ๊! สมน้ำหน้ามึง”
“ไอ้เหี้ยปิงกูหวังดีมึงนี่มัน โอ๊ยยยบาสดูให้กูทีสะโพกกูร้าวแล้วเชี่ยเอ้ย” มันร้องลั่นเลย เรียกหมาบาสเข้าไปดูสะโพกมันให้ คือเมื่อกี้ผมไม่ออมแรงเลยนะถีบสุดตีนอ่ะ ง่ายเลย
“เฮ้ยขอโทษเจ็บจริงเหรอวะ” ผมเริ่มเสียงอ่อน ไอ้บาสกำลังเอายาหม่องมานวดให้มันเขียวเลยเหอะใกล้ ๆ กับเอวคือก้นกระแทกลงที่พื้นแต่ตรงสะโพกบนโดนขอบเตียงอ่ะ ผมล่ะหน่ายมันจริง ๆ ตัดสินใจแย่งขวดยาหม่องจากหมาบาสมาแล้วลงมือทาๆนวดๆให้มันเอง
เดี๋ยวจะว่าไม่ดูแลยามที่เพื่อนเจ็บอีก
โหยไอ้ห่า!
.
.