http://www.youtube.com/v/ahLuI_DEQuY“เริ่มจากตอนนี้เลย มึงต้องพูดกับกูเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าหลุดคำไทยมานะกูจะทำโทษ”
“ทำโทษยังไง”
“ไม่รู้ยังไม่ได้คิด แต่น่าจะหนัก ต้องเอาให้มึงอายจะได้พูดเป็นไวๆ”
“แค่วันละชั่วโมงก่อนนอนได้ป่ะพี่”
พี่เชนหันมามองผมตาเขียวผมเลยยกมือไหว้ปรกๆทำหน้าอ้อน ๆ เข้าใจผมหน่อยเถอะ เด็กช่างยนต์แบบผมอยากจะฝึกสปี๊คอิ๊งนี่คือสุดของความชิคแล้ว เพราะงั้นผมขอวันละชั่วโมงพอ
“เอาแบบนั้นก็ได้แต่มึงต้องดูหนังซาวด์แทร็คให้ได้วันละเรื่องด้วย เพราะมึงต้องฝึกการฟังจากเจ้าของภาษาจริง ๆ”
“คร้าบ ๆ” ผมไม่ชอบดูหนังซาวด์แทร็กเลยให้ตายเหอะผมชอบฟังเสียงพากย์ตลกๆมากกว่า ส่วนสำนวนผมจะก๊อปปี้จากพี่เชนนี่แหละ
คึคึ ผมจะพูดฝรั่งเป็นแล้ว มีพี่เชนเป็นคนสอน คราวนี้แหละผมจะไปพูดอวดหมาบาสกับหมาวุฒิที่ศูนย์รถมันต้องทึ่งตะลึงงันผมแน่นอน ผมหลับตาแล้วนึก คุณเชื่อไหมซอกนึงในหัวใจผมกำลังนึกไปถึงอีกคนที่อยู่ไกลแสนไกล พี่เอย์คงจะพูดฝรั่งไฟแลบเลยดิ่ น่าเสียดายนะครับที่พี่ไม่ใช่คนที่ได้สอนผม ผมอยากให้พี่สอนนะแต่พี่คงจะไม่ว่างกลับมาสอนผมหรอก ตอนนี้พี่อาจจะมีคนใหม่ให้พี่ฝึกพูดคุยอยู่ที่นั่นทุกๆวันแล้วก็ไม่รู้
“ปิง!!” พี่เชนตะโกนเรียกอย่างดังผมหน้าเหรอหรา
“เป็นอะไร”
“ปะ...เปล่าครับ” ผมล้มตัวลงนอนคว่ำ เท้าแขนไว้อย่างเดิมอ่านหนังสือเล่น
“ถ้าง่วงขึ้นไปนอนก่อน”
“ผมจะรอพี่” ผมพลิกหน้าหนังสือไปเรื่อย ๆ สลัดความคิดเรื่องพี่เอย์หลุดออกไปแล้ว
“หึ ทำอย่างกับนอนเตียงเดียวกันนะมึง คนล่ะห้องแท้ ๆ” พี่เชนบ่นงึมงำ แล้วลุกเดินเข้ามาหา
“ช่างดิ่ ผมจะรออ่ะ”
พรึ่บบ!!ผ้าห่มถูกสลัดแล้วคลุมลงที่ตัวผม พี่เชนจ้องหน้าผมนิ่งเลย เราสบสายตากันแวบนึง “นอนได้แล้วมันดึกแล้ว”
พี่เชนพูดแล้วเดินไปที่โต๊ะ โยนของสิ่งนึงส่งมาให้ผม รับไว้เกือบไม่ทันนะไอพอดสีขาวของพี่เขา เก่าแล้วดิมีรอยถลอกด้วย
“หลับตาแล้วฟังไป ห้ามพูดมากกูรำคาญงานกูจะไม่เสร็จ”
คืนนั้นเราสองคนต่างหลับกันไปตอนไหนไม่รู้ผมตื่นมาตอนเช้าในสภาพสายไอพอดคาหู ส่วนพี่เชนอยู่ในสภาพหัวอยู่บนหมอนเดียวกันกับผมแต่ตัวนี่อยู่บนพื้นอีกฝั่งตรงข้ามกันเลยผ้าห่มก็ไม่มีนะนอนบนพื้นเปล่า ๆ ผมลุกขึ้นแล้วเอาผ้าห่มผมคลุมตัวให้พี่เขาจากนั้นก็อาบน้ำแล้วออกไปทำงาน
สองเดือนหลังจากนั้น“ไอ้ปูนมึงส่งประแจเบอร์สิบมาให้กูดิ๊ ลืมเอาเข้ามาด้วยเหี้ย!”
ผมแหกปากลั่น กำลังมุดๆอยู่ใต้ท้องรถเก๋งคันใหญ่ ที่ศูนย์รถยนต์แผนกซ่อมบำรุง ผมทำงานที่นี่มาได้เกือบจะปีแล้วนะ ชอบมากเพราะเวลาทำงานได้ใส่ชุดหมีแบบที่ผมเคยฝันไว้ พวกช่างฟิตส่วนใหญ่จะใส่กัน คือผมรู้สึกผมเท่อ่ะ เออน็อตตัวนี้แม่งขันยากมาก อากาศวันนี้ก็ร้อนมากเลยด้วย ฮึ่ยย เสื้อผ้านี่ดำเปื้อนไปหมด หน้าผมก็ดำนะป้าย ๆ เช็ดๆไปหมดอ่ะ ไม่ค่อยสนใจอะไรหรอกก่อนกลับบ้านผมต้องอาบน้ำก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว
“พี่ปิง” ไอ้บาสมันก็มุดเข้ามา เรานอนอยู่ใต้ท้องรถหัวชนกันอยู่ ผมยื่นมือออกไปแล้วร้องบอกคนที่อยู่ด้านนอก
“ประแจเบอร์สิบสอง ไขควงแฉกด้วย” ไอ้ปูนรอเสิร์ฟอยู่แล้วมันวางลงให้ผมโคตรแรงมันแกล้งอ่ะ ผมเลยแจกเหี้ยมันไปอีกตัวได้ยินเสียงมันหัวเราะลั่นไอ้บาสนี่มันเอาไฟฉายเข้ามาด้วย มันหัวเราะผมใหญ่พอเห็นว่าหน้าผมดำแค่ไหน หัวเราชนกันแต่มันน่ะขายื่นออกไปท้ายรถ ส่วนขาผมยื่นออกไปทางหัวรถ ผมเลยเอามือดำๆป้ายหน้ามันบ้าง มันดิ้นเลยดิ่ ป้ายมือไปที่ถังน้ำมันเครื่องแล้วจับมาป้าย ๆ หน้าผมจนดำปิ๊ดปี๋
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ตลกพี่ว่ะ” มันขำจนท้องแข็งไปแล้วมั้ง
“แห่ะๆ มึงไม่ตลกตายห่าล่ะ กร๊ากกกกกกกกก ดูหน้ามึงซะก่อน หมาบาสเอ๊ย”
พวกผมก็เล่นไปทำไปไม่ได้รีบหรอกครับจวนจะเสร็จแล้ว คันนี้ผมกับหมาบาสรับผิดชอบ ส่วนไอ้วุฒิวันนี้ถูกเรียกไปประชุมเรื่องล้อกับบังโคลนรุ่นใหม่ พวกผมเลยได้มุดกันอยู่แค่สองคนโดยมีไอ้ปูนที่หมาวุฒิมันวานให้เป็นคนส่งเครื่องมือให้พวกผมแทน”
“เฮ้ยพี่ปิง ทำไมด้านนอกมันเงียบ ๆ วะพี่”
“เออนั่นดิ่” ผมเริ่มสังเกตแล้วหันดูรอบข้าง วิวใต้ท้องรถแบบนี้ก็เห็นแต่ขาคนแค่นั้นแหละครับ
“แล้วขาใครสามคนกำลังเดินมาทางรถเราอ่ะพี่” ผมมองออกไปเห็นขาผู้ชายสวมสแลคหกขาสามคนกำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
“ลูกค้ามาดูรถเขามั้ง อะไรวะไหนในใบบอกนัดรับสี่โมงเย็นไงวะ เหลืออีกตั้งสามสิบนาที งั้นต้องรีบหน่อยแล้วมึง” ผมบอกไอ้บาสเบา ๆ แล้วรีบเร่งมือ ขาคนสามคนเดินใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้ยืนอยู่แถว ๆ ข้างรถพวกผมเอง หนึ่งในนั้นเป็นผู้จัดการผมดิ่ผมจำรองเท้าเขาได้ คือมันมีเอกลักษณ์มากๆ ผมกับหมาบาสแอบเลวนินทาแกตอนที่เข้ามาทำงานใหม่ ๆ คือแกเตี้ยแล้วเสริมส้น สูงมาก โคตรตลก
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยครับ ไม่คิดว่าท่านจะมาสนใจบริษัทของเรา” เสียงผู้จัดการผมพูด
“ท่านประธานของผมชื่นชอบงานเกี่ยวกับศูนย์บริการลูกค้าครับ ยิ่งเป็นงานเกี่ยวกับรถยนต์ที่บริษัทของเราทำกันอยู่แล้วท่านยิ่งชอบ”
“ผมแปลกใจมากครับตอนที่คุณกัสมา ติดต่อมาว่าจะขอมาดูกิจการของเราทั้งหมดเพื่อพิจารณาร่วมทุน มีเงินทุนใหญ่ๆอย่างในเครือของท่านประธานมาช่วยโอบอุ้มเป็นฐานให้บริษัทของเราแบบนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากจริง ๆ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ หวังว่าในอนาคตถ้าหากว่าจะมีการแลกเปลี่ยนพนักงานเพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรงเรื่องรถของยุโรปทางคุณคงจะไม่ขัดข้อง”
“โอ้ไม่มีปัญหาครับ เราเป็นเหมือนคนๆเดียวกันแล้ว คนของที่นี่จะไปที่นั่นเมื่อไหร่ก็ได้คุณกัสมาหรือว่าท่านประธานอยากจะให้ใครย้ายไปเพื่อเพิ่มประสบการณ์ยกหูบอกผมกริ๊งเดียวครับ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณใจดีมากจริง ๆ ผมเป็นเลขาของท่านมีอะไรคุณคุยผ่านผมได้ตลอดเวลาเลย พร้อมช่วยเหลือทุกเรื่อง”เสียงคนสองคนคุยกันไปมา ขณะที่ผมกับหมาบาสตั้งหน้าขันประแจให้แน่นแต่รู้สึกว่าจะผิดเบอร์ ทำยังไงดีวะถ้ายื่นมือออกไปขอไอ้ปูนตอนนี้ ผู้จัดการจะว่าอะไรไหม พอดีว่าพวกเขาสามคนกำลังจะเดินออกไปจากรถแล้วหมาบาสเลยเรียกเอาเครื่องมือจากไอ้ปูน
“ประแจเบอร์หก” เสียงแหบ ๆ ของไอ้บาสเรียกคนด้านนอก มันเป็นหวัดตั้งแต่เมื่อวานผมยื่นมือออกไปรอ ค้างไว้แบบนั้น ดูขาไอ้ปูนมันกำลังก้าวเข้ามาหาพร้อม ๆ กับ ฝีเท้าหนึ่งในกลุ่มคนนั้นหยุดชะงักลง กางเกงสแลคสีดำพริ้วก้าวเข้ามาใกล้รถพวกผมอีกครั้ง ผู้จัดการผมกับอีกขาก็ก้าวเข้ามาด้วย
เขาเดินเข้าไปหาไอ้ปูนแล้วเดินกลับมาทางที่มือผมยื่นอยู่ ย่อตัวนั่งลงข้างรถแล้ววางประแจลงที่มือของผมเบามาก ผมรับเอามาแล้วรีบตั้งหน้าทำงานของผมต่อ
“พนักงานของเราตั้งใจทำงานกันทุกคนครับ ระดับการรักษาเวลาของเราเป็นมาตรฐาน รถคันนี้นัดรับสี่โมงเย็นนี่ก็จวนจะเสร็จแล้วเขาเลยต้องเร่งมือหน่อย ขอประทานโทษจริง ๆ ครับที่ทำให้ท่านต้องส่งเครื่องมือให้แบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับท่านประธานเราใจดีเสมอแบบนี้แหละครับ ท่านไม่ถือหรอก”แล้วเขาสามคนก็เดินห่างออกไปผมทำทุกอย่างเสร็จพอดี เลยค่อยถดๆตัวออกมา ยืนขึ้นทันมองเห็นแผ่นหลังของคนสามคนที่กำลังเลี้ยวออกไปจากโรงซ่อม แผ่นหลังที่คุ้นตามากทั้งรูปร่างและส่วนสูง แต่ทรงผมคือไม่ใช่ ผมรีบหันหน้ามาหาพวกหมาๆสองตัวที่มันกำลังล้อเลียนผมอยู่
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ หน้ามึงแม่งตลกว่ะ ดำโคตรเลย เอ้าเช็ดซะ” ไอ้ปูนพูดแล้วโยนผ้าเช็ดเหงื่อส่งให้
“สัส มึงไม่ลองมามุดเองอ่ะ” ผมรับเอามาแล้วเตะตูดมันไปทีบอกมันขอตัวไปอาบน้ำเพราะจวนถึงเวลาเลิกแล้วมือยิ่งป้ายหน้าก็ยิ่งดำเลยไล่เอาไปตามป้ายพวกมันบ้างไอ้พวกหมาวิ่งหนีกันใหญ่
“ปิงโทรศัพท์มึงแม่ง” ไอ้วุฒิมันเลิกประชุมแล้วเดินลงมาหาพวกผม ยื่นโทรศัพท์ส่งให้ผมที่เพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำ พี่เชนโทรมาบอกว่าวันนี้จะแวะมารับให้เอารถมอไซด์ทิ้งไว้ที่นี่เลย ผมก็เออออไป ปกติพี่เชนไม่ค่อยได้มารับผมหรอกนะยกเว้นเราสองคนจะมีงานต่อที่ไหนหรือพี่ท่านจะพาผมไปหาอะไรดี ๆ กระแทกปากกัน
“ลูกพี่ปิงแล้วเบอร์เก่าพี่อ่ะ ไม่ใช้แล้วเหรอหรือว่าทำเป็นสองเครื่องเดี๋ยวนี้ผมโทรหาพี่แต่เบอร์นี้ลืมเบอร์เก่าไปแล้วเนี่ย”
“เออ เบอร์เก่ากูเก็บไว้ไหนไม่รู้ว่ะ” ผมสวมยีนส์เสร็จ จัดการกับเข็มขัด แล้วปลดเสื้อออกจากไม้แขวน เป็นเสื้อยืดธรรมดาในแบบของผม
“อะไรของพี่วะ” หมาบาสมันเองก็กำลังใส่เสื้อใส่กางเกงอยู่เหมือนกัน
“ตั้งแต่พี่เชนเอาเบอร์ใหม่ให้ใช้แล้วบอกบริษัทจ่ายให้กูก็ใช้แต่เบอร์นี้อ่ะ ช่วงแรกก็สลับอยู่หรอกซิม แต่หลัง ๆ มาก็นะ คนที่รู้จักกันก็มีเบอร์ใหม่กูหมดแล้ว เบอร์เก่าเลยไม่ได้ใช้อ่ะ กูถอดแล้วเก็บถาวรเลยอ่ะดิ่”
“เสียดายว่ะพี่เลขสวยด้วยนะ”
“ช่างหัวมันดิ่” ผมตอบไปแล้วก็รู้สึกสงสารตัวเองเหมือนกันนะ เพราะเบอร์นั้นมีไปก็ไม่มีใครที่จะโทรมาหาอยู่ดี คนรู้จักครอบครัวเพื่อนฝูงผมต่างก็ใช้เบอร์ใหม่ของผมหมดแล้ว มันไม่ผิดหรอกที่ผมจะทิ้งเบอร์นั้นไป
มีแค่คนเดียวที่ยังไม่รู้ว่าผมเปลี่ยนเบอร์ เขาอยู่แสนไกล แต่เขาก็คงไม่โทรมาหาผมอยู่แล้วเพราะงั้นจะเบอร์ใหม่เบอร์ไหน ๆ ก็ไม่มีความหมายหรอก
เสียงไลน์ผมเด้ง ไอ้วุฒิมันยกขึ้นมาเปิดอ่านแล้วบอกพี่เชนมาถึงแล้ว ผมชวนไอ้บาสกับไอ้วุฒิไปด้วยกัน มันบอกพี่พิมโทรบอกพวกมันตั้งแต่เที่ยงว่าเลิกงานแล้วให้กลับไปเฝ้าออฟฟิศ
“สงสัยจะพาพี่ปิงไปที่ไหนสำคัญแน่ ๆ อ่ะ”
“งั้นเดี๋ยวไปเจอกันที่ออฟฟิศเลย ดึกๆล่ะมั้งนะ แต่ถ้ามันดึกมากพวกมึงก็กลับกันไปก่อน ไปแล้วเว้ย” ผมบอกหมาบาสกับหมาวุฒิ หยิบเป้หยิบหมวกแคปแล้วเดินออกมา ยืนรอพี่เชนอยู่หน้าบริษัทไม่ถึงสามนาที ซีอาร์วีสีดำคันใหญ่ของพี่เขาก็จอดลงเทียบท่าต่อหน้าผมเลย
รู้สึกเหมือนราชรถมาเกยนิดๆ คึคึ
“ไปไหนอ่ะพี่” ผมขึ้นรถแล้วถาม ถอดเอากระเป๋าเหวี่ยงไปวางไว้ด้านหลัง พี่เชนหันมามองผมอีกคงแปลกๆเห็นผมใส่หมวกผมเลยถอดออกแล้วเสย ๆ สะบัดหัวให้เข้าที่
“พิมนัดเจอพวกเรา เห็นว่ามีงานใหญ่ที่เพิ่งติดต่อเข้ามาด่วนมากกูเลยต้องแวะมารับมึงนี่ไง”
เราสองคนไปเจอพี่พิมที่ร้านกาแฟเรือนไม้บรรยากาศดีมาก ผมคิดถึงบ้านเลยสิ ไม่ได้กลับไปนอนกับแม่มาสองสัปดาห์แล้ว ที่ร้านแม่ตอนนี้เป็นชานไม้ระเบียงยื่นออกมาใต้ต้นลีลาวดีแบบนี้เลยล่ะครับ
“เชน ปิง ทางนี้” พี่พิมยกมือเรียก
“กินอะไรจ๊ะปิง” เสียงเล็กร้องถาม ผมมองดูที่โต๊ะพี่พิมสั่งขนมเค้กกับกาแฟร้อนของตัวเองมาแล้ว
“อืม อะไรก็ได้ครับ” ผมตอบเก้อเขินคือตรง ๆ นะสั่งไม่ค่อยเป็นถ้าบอกกาแฟก็กาแฟอ่ะ ทำไมต้องถามอย่างอื่นให้มากความ พี่เชนหันมอง
“มึงลุกขึ้นไปสั่ง ของกูเอาอเมริกาโน่ เติมน้ำเชื่อมที่เคาท์เตอร์มาให้กูด้วย ส่วนมึงจะกินอะไรให้บอกน้องเขาไปที่เคาท์เตอร์นั่น”
“....พี่เชนครับ” ผมเสียงอ่อน
“ลุก!” พี่เชนพูดเสียงเข้ม ผมค่อยลุกขึ้นอย่างจำใจ หน้านี่งออ่ะ พี่เขาคงดูออกแหละเพราะผมไม่ยอมเดิน ในที่สุดพี่เชนเลยลุกขึ้นด้วยแล้วรุนหลังผมให้เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งกาแฟ พี่เชนกระซิบผมอีกครั้งย้ำเมนูของตัวเอง ผมไปถึงก็สั่งๆตามที่พี่เขาบอก ส่วนของผมเองก็ชี้ ๆ ไปที่กระดานบนหัวคนชงนั่นแหละมั่ว ๆ ไปพี่เชนสั่งขนมเค้กเพิ่มอีกสามสี่ชิ้นแล้วเราสองคนก็เดินถือกาแฟกับขนมของพวกเราออกมานั่งสมทบกับพี่พิมที่ด้านนอก
“ไม่เห็นจะยากใช่ไหม”
“หูยพี่ ก็ผมไม่เคยทำนี่ เคยสั่งแต่ร้านธรรมดา”
“นี่ก็ร้านธรรมดา คนเรามันต้องเป็นไว้ทุกอย่าง ทำอะไรจะได้ไม่เก้อเขิน ทุกคนต้องมีครั้งแรกมึงทำเป็นแล้วต่อไปเวลามากับกู มึงต้องเป็นคนออกไปสั่งมาให้พวกกูกิน มึงเป็นเด็ก”
“แต่พี่ต้องเป็นคนจ่าย พี่เป็นผู้ใหญ่
โอ๊ยยยยยย” ผมถูกโบกกะบาลมาแบบเต็ม ๆ โทษฐานยอกย้อนผู้ใหญ่ พี่พิมหัวเราะร่าเลย
“สองคนนี้สนิทสนมกันดีนะเนี่ย เดี๋ยวนี้เชนยิ้มบ่อยเลย ปิงรู้ไหมเมื่อก่อนนั่งซีเรียสอยู่แต่หน้าจอหนวดเหนิดเนี่ยโกนที่ไหน จะไปไหนทีพี่ต้องย้ำแล้วย้ำอีกนะว่าให้ทำตัวให้เนี๊ยบ แต่เดี๋ยวนี้หนวดนี่ไม่ค่อยเห็นอ่ะยิ้มก็บ่อย คุยเก่งขึ้นอีกด้วย”
“แต่งานช้าลงไง”
“ยังไงพี่” ผมหันไปถาม ผมกับพี่เชนนั่งข้าง ๆกันนะ
“มัวแต่คุยกับหมาไง เช็ดหัวให้หมา มัดผมให้หมา สอนหมาพูดภาษาอังกฤษ” พี่เชนแขวะยาว ยิ้มยั่วแล้วเหล่ตามองผม ผมเลยเตะขาพี่เขาไปทีเจอกระทืบกลับมาสิ พี่พิมก็หัวเราะพวกเราต่อ เจ็บดิ่ ขาอ่ะ
“เอาล่ะที่นี้เรามาเข้าเรื่องงานกันได้แล้ว วันนี้มีบริษัทใหญ่มากกกกติดต่อมาที่เรา เขาอยากให้เราวางระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมดให้กับองค์กรของเขา ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ด้วย คือยกให้เราจัดการทุกอย่างใหม่หมดเลย ราคาที่เสนอมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ปกติแล้วบริษัทใหญ่แบบนี้เราจะต้องยื่นซองประมูลแต่แปลกมากที่เขาเจาะจงมาว่าจะให้พวกเราเข้าไปทำ เมื่อเช้านี้พิมเข้าไปคุยกับคุณกัสมาเลขาของที่นั่นมาแล้ว เขาอยากให้เราเข้ามาดำเนินการให้เร็วที่สุด พิมเลยนัดคุยกับเขาในวันพรุ่งนี้เห็นว่าท่านประธานของบริษัทจะลงมาคุยเองด้วย”
“พรุ่งนี้เลย? เร็วไปไหมเรายังไม่ได้รู้ข้อมูลของบริษัทนั้นเลยนะ”
“ตอนแรกพิมก็บอกว่าเร็วไปไหม แต่คุณกัสมาบอกมาว่าท่านประธานของเขาอยากจะคุยกับเราเร็วที่สุด คนรุ่นใหม่ไฟแรงท่าทางจะเก่งด้วยนะ เห็นว่าเพิ่งจบนอกมาผ่านงานมาแล้วด้วย ไม่ใช่เล่น ๆ หรอก”
“พิมจะนัดทางนั้นกี่โมง”
“ทางนั้นให้เวลามาเป็นช่วงบ่ายสาม เพราะตอนเช้าเจ้านายเขาติดประชุมใหญ่อยู่ที่อีกบริษัท พิมตกลงไปแล้ว ขอโทษนะเชนปิงที่ไม่ได้บอกก่อน แต่คือที่นี่ไม่รับไม่ได้อ่ะเขายื่นโอกาสทองมาให้แบบนี้พิมต้องรีบรับเลย"
“แต่พรุ่งนี้ปิงมันทำงานที่ศูนย์รถ กว่าจะเลิกคงเป็นช่วงเย็น ถ้าอย่างนั้นพิมกับผมเราไปกันก่อนเดี๋ยวปิงเลิกแล้วค่อยให้ตามมา” พี่เชนหันมามองผมเลื่อนจานขนมเค้กของตัวเองส่งให้แทนอันเก่าของผมที่หมดแล้ว ผมก็รับมาตักทาน เค้กช็อกโกแลตร้อนๆผมชอบ ผมปล่อยให้พี่ๆเขาถกกันไป ให้เขาตัดสินใจกันเองคือจริง ๆ แล้วทุกครั้งที่พี่พิมรับงานใหญ่จะคุยปรึกษากับพี่เชนผมเป็นคนที่คอยทำตามที่พี่เชนสั่งแค่นั้นจบ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว พวกพี่ๆว่าไงผมว่าตามผมไว้ใจแล้วผมปล่อยเลย
“ โอเคงั้นก็ตามที่เชนว่า ปิงครับพรุ่งนี้ออกจากอู่แล้วรีบนิดนึงนะ ไปเจอกันที่นั่นเดี๋ยวพี่กับพี่เชนจะไปรอก่อนอาจจะคุยกับเจ้าของเขาให้เสร็จแล้วปิงไปถึงพี่จะได้พาดูระบบงานไอทีในแต่ละแผนก เชนกับปิงคงจะต้องแบ่งงานกันเอง ว่าใครจะรับผิดชอบแผนกไหน ที่นั่นเขาเลิกหกโมงเย็นคงจะยังทันได้สักแผนกสองแผนกพอได้เป็นตัวอย่างมาเขียนขอบเขตงานแบบคร่าว ๆ”
“ครับพี่พิม” ผมตอบรับ
เย็นวันนั้นพี่เชนไปทานข้าวที่บ้านผม พี่พิมแยกกลับบ้านไป พี่เชนเลยแซวว่าช่วงนี้แฟนหวงนะ พี่พิมยิ้มกว้างเลย
“เชนทานเยอะๆนะลูก ปิงบอกว่าเชนชอบทานผัดเห็ดเข็มทองใส่เต้าหู้ พอแม่รู้ว่าเย็นนี้เราสองคนจะมาทานข้าวที่นี่ พี่ขมเขารีบออกไปหาซื้อเครื่องปรุงมาไว้ให้เลย เสียดาย หนูพิมไม่ได้มาด้วย”
“พิมติดงานน่ะครับคุณป้า ต้องรีบกลับไปเขียนใบเสนองานของวันพรุ่งนี้” พี่เชนตักเต้าหู้ใส่มาที่จานผมด้วยแม่ยิ้มใหญ่เลย
“ปิงเหมือนน้องชายผม ขอบคุณคุณแม่มากนะครับที่อนุญาตให้ปิงไปทำงานอยู่กับผมแบบนี้ ผมสัญญาครับผมจะดูแลน้องชายคนนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ให้ใครมารังแกปิงได้เด็ดขาดเลย”
“ขอบใจเชนมากนะลูก แม่ดีใจเหลือเกิน ปิงไม่มีพี่ไม่มีน้องแม้แต่พ่อเขาก็ไม่เคยจะได้เรียก ปิงเคยบอกแม่ว่าเขารักและนับถือเชนมากๆ เหมือนพ่อ เหมือนพี่ เหมือนเพื่อน มีอะไรก็ค่อย ๆ สอนน้องไปนะครับเชน แม่ขอบคุณอีกครั้งที่เชนให้โอกาสกับน้อง ทำให้ครอบครัวเราดีขึ้นทุกอย่างจริง ๆ” พี่เชนวาดวงแขนไปกอดแม่ผมไว้แล้วโยกตัวเบา ๆ คุณนายน้ำตาคลอเลยสิ
พี่เชนเลยหันมากระซิบผม “นี่กูแก่ถึงขนาดเป็นรุ่นพ่อมึงเลย?” ผมแทบสำลักต้มจืดที่กำลังซดอยู่ สายลมยามดึกพัดมา เรานั่งทานข้าวกันอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านแม่เดินเข้าไปแล้ว ดอกลีลาวดีสีขาวร่วงปลิวลงมาที่โต๊ะเราพอดีเกือบตกลงไปในชามน้ำแกง พี่เชนหยิบดอกนั้นขึ้นมาแล้วส่งให้ผม
“สวยดี”
“ครับสวย” ผมชอบลีลาวดีมาก ถึงได้ซื้อเป็นต้นใหญ่มาลงไว้ที่หน้าชานไม้ระแนง ผมชอบดอกสีขาวเหลือง ชอบกลิ่นของมัน
“หอมด้วยนะครับ” ผมยกดอกไม้ขึ้นแตะปลายจมูก พี่เชนมองผมแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเล่นอย่างเอ็นดู แม่กับพี่ขมเดินออกมานั่งคุยสมทบด้วยกัน
คืนนั้นกว่าเราสองคนจะกลับออฟฟิศก็เกือบ ๆ จะสามทุ่ม
ประมาณบ่ายสี่โมงเย็นของวันถัดมาทันทีที่ประตูรถไฟฟ้าเปิดออกผมรีบกระชับกระเป๋าสะพายแล้ววิ่งหน้าตั้งออกไปต่อมอไซด์รับจ้าง ในใจโคตรของความพะว้าพะวง เป็นผมผิดเองที่ไม่ได้ถามให้แน่นอนว่าบริษัทที่พี่พิมรับงานวันนี้คือบริษัทอะไร จนถึงเมื่อเช้าพี่เชนถามว่าผมจะไปถูกไหมรู้จักไหมผมเลยเพิ่งจะรู้ว่าบริษัทที่เราจะเข้าไปวางระบบให้คือ
อัศวออโต้อิมพอร์ต ตอนนั้นพอได้ยินชื่อผมนี่ตัวชาไปหมด ยืนนิ่งจนพี่เชนต้องเรียกตั้งหลายครั้งและถามว่าผมเป็นอะไร ผมก็ได้แต่แถปฏิเสธไปเรื่อย พี่เชนบอกผมว่าให้ใช้บีทีเอสแล้วต่อมอไซด์รับจ้างจะได้ไม่เสียเวลามาก ตอนแรกผมอิดออดคือไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวที่บริษัทนี้เลย แต่พวกพี่ ๆ เขาไม่รู้เรื่อง ถ้าจะต้องมาเสียงานเพราะเรื่องส่วนตัวของผมมันคงจะไม่ดี ผมเลยตัดสินใจมา
ในที่สุดรถจอดให้ผมลงที่ทางเข้าของบริษัท ผมเงยหน้าขึ้นไปมองจุดที่สูงที่สุดของตึกนี้ จริง ๆ มันไม่ได้สูงเท่าที่
‘อัศวคอนสตรั๊คชั่น’ หรอก แต่ที่นี่ก็สูงมากอยู่เหมือนกัน สามปีกว่าแล้วนับจากครั้งแรกที่ผมมาเหยียบที่นี่โดยเจ้าของบริษัทพามาเพื่อชมห้องของลูกชายเธอ
...ห้องของพี่เอย์....
ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาจะกลับมาแล้วหรือยัง ผมไม่ได้แวะไปที่คอนโดพี่เขาอีกเลยนานมากแล้ว คุณเชื่อไหมตอนนี้แม้แต่คำว่า
“พี่เอย์” ผมก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยเรียก เพราะว่าเรื่องของเรามันห่างกันนานแล้ว นานมากจริง ๆ นานเกินไปจนผมรู้สึกประหม่าที่จะเรียกหากันเหมือนคนเคยสนิทสนมแบบนั้น ผมไม่เคยคิดว่าสามปีกว่าหลังจากนั้นผมจะได้แวะมาที่นี่อีก
ไม่ว่าพี่เขาจะกลับมาแล้วหรือยังคงอยู่ที่นิวยอร์ก งานของผมกับพี่เชนวันนี้ก็ต้องดำเนินไป บริษัทเรารับงานแล้วไม่เคยผิดพลาดพี่เชนทุ่มเทกับงานนี้มากเมื่อคืนก็นั่งดูโปรแกรมดูขอบเขตงานเตรียมไว้จนดึกดื่น ผมต้องชงกาแฟให้ตั้งสองแก้วกว่าจะได้นอนเกือบตีสาม เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมจะตัดเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน
ภาวนาอย่าเพิ่งให้พี่เขากลับมา
ผมยังไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร
คนที่ไม่ได้เจอกันมานานสามปีกว่า ๆ
คนที่ไม่เคยได้คุยกันเลยสามปีกว่าแล้ว
คนที่ตัดช่องทางของผม ปิดกั้นการสื่อสารและการติดต่อของผมทุกอย่าง
คนใจดำแบบนั้น
.
.
.
ขอร้องอย่างเพิ่งพบเจอกันในตอนนี้เลยติ๊ง!