ดอกฟ้ากับหมาวัด(Out Of Reach) 14/03/58 พิเศษ 05 พี่เอย์พี่เชน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดอกฟ้ากับหมาวัด(Out Of Reach) 14/03/58 พิเศษ 05 พี่เอย์พี่เชน  (อ่าน 1465816 ครั้ง)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
 :hao5: :hao5: ปิงพี่เอย์

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอทั้งวันก็ยังไม่มา  รอต่อพรุ่งนี้แล้วกัน

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
 :hao5:  :ling2:  :ling1: ไม่รู้จะพิมพ์อะไรค่ะ

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:   มาบอกน้องปิงว่า  จัดพี่เอย์ แค่พอให้หายเคืองน่ะครับ   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
แต่เราสงสารพี่เอย์อ่ะ ไม่รู้แหละ ความจริงพี่เอย์อ่ะผิดเต็มๆ ที่ไม่ติดต่อกลับมาหาปิงเลย เราเป็นปิงเราก็เสียใจ แต่เราว่าหันหน้ามาคุยกันดีกว่า อีกคนโกรธอีกคนงอน มันหันหน้ากันไปคนละด้านอะ เข้าใจอะไรแบบผิดๆ ทางที่ดีเคลียร์กันเลย สงสัย ข้องใจอะไร ถามออกไปให้หมด แล้วเมื่อได้คำตอบของคำถามแล้วก็เอามาชั่งน้ำหนักดูว่าจะให้อภัยกันได้หรือเปล่า

ตอนหน้าขอแบบเคลียร์ๆ ได้ไหม เด๋วอิพี่เอย์หึงหนักจนไม่เป็นอันทำมาหากิน แม่ยกจะเอาหมาปิงใส่พานถวายให้พี่เชนอยู่แล้ววววววว  :mew5:

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
ได้โปรดมาลงวันนี้เถอะ

เชื่อว่าทั้งคู่จะไม่ทำตัวประชดกัน เพราะมันไม่ใช่นิสัยของทั้งคู่

เชื่อว่าพี่เอย์จะง้อน้อง

ส่วนน้องก็เอาคืนพอเป็นพิธี ให้คนอ่านได้ขำขันกันบ้าง หลังจากโศกเศร้า อึน ปวด หน่วง มาหลายตอนติด

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
http://youtu.be/dQacnu5WhTw

เธอปล่อยให้ฉันรอ เธอปล่อยให้ฉันคอย...
แต่เวลามันช่างเหลือน้อย แล้วเธอก็จากไป
ให้ฉันรอ เธอปล่อยให้ฉันคอย
ต่อให้นานก็ยังคงรัก รักเธอจนหมดใจไม่เหลือ

ยืนอยู่ตรงนี้ ฉันรออยู่ตรงนี้
กับสายฝนที่ร่วงโปรยกับน้ำตา
ห่างอยู่ตรงนี้ เหมือนเดิมอ้างว้าง มันว่างเปล่า
เหงาเหลือเกิน ไม่เคยตอบกลับมา

ทรมาน อยู่กับการรอคอยที่มันไม่เหลือใคร

อยู่กับความเหงา ฝืนทนอย่างปวดร้าว
สุดท้าย ก็เป็นแค่เพียงสิ่งเลือนลาง
ตื่นจากความฝัน จ้องมองถนน ที่ว่างเปล่า
เหลือเพียงตัวฉันเองที่ยังรอ

ยืนอยู่ตรงนี้ แสนนาน ฉันคงต้องยอมตัดใจ
แต่ใจที่มันรักเหลือเกิน มันไม่ยอมลบเธอออกไป
และยังคงรอเธอ.....

เพลงนี้เอ็มวีนี้...มันคือปิงจริงๆนะ

รอรัก.....หรือรอเลิก

...นานแค่ไหนถึงจะเรียกว่ารอ...


เรากำลังจมน้ำตา...T_T

ออฟไลน์ หยกกลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :call:มาซักที

ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังไม่มาอีก  คืนนี้จะมามั้ยเนี้ย  ยังไงก็ยังตั้งตารอค่อย

ออฟไลน์ caramel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โปรดกลับมาเป็นเหมือนเดิม  :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ทำไมยังรู้สึกว่า มันยังเศร้าอยู่นะเนี่ยยยย
แบบเราว่าเรื่องนี้มันหาคนผิดไม่เจออะนะ
คนนึงทำไปเพราะจะปกป้องไง
ส่วนคนที่ไม่รู้อะไร ได้แต่รอไปวันๆจะท้อก้ไม่แปลก
แต่เราว่าคนที่เจ็บกว่าคือพี่เอย์นะ (มากกว่านิสสสสสสนึงอะ)
คนที่ไม่รู้ก้ทำได้แค่ทำในส่วนของตัวเองให้ดี คือรอและเชื่อใจ
อย่างเจ็บสุดคือ การคิดไปว่าอาจโดนทิ้งหรือเค้าอาจมีคนใหม่
แต่คนที่เป็นฝ่ายไป คนที่รู้เนี่ย เจ็บกว่านะ
คือไม่ใช่แค่ต้องทรมานกับการคิดไปว่าจะมีใครมาแทนตัวเองหรือเปล่า
แต่คือมันเป็นอะไรที่รู้ตัวว่า ตัวเองทำให้คนที่เรารักเจ็บมากๆด้วยมือของตัวเราเอง
เศร้าๆๆ สงสารพี่เอย์(พี่แกไม่ยอมแม้แต่จะเปิดช่องให้ใครมาเป็นห่วงเลย)
ส่วนน้องปิง(อาการดีกว่านิดนึง เพราะมีคนคอยดูแลไม่ให้คิดมาก)
เราจะพยายามเชื่อค่ะว่าหลังจากนี้ มันจะดีขึ้น!!
จะมาม่าก้ได้แต่ว่าขอ มาม่าใส่น้ำตาลเยอะๆ ได้มั้ยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2015 23:04:30 โดย MSeraph »

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เจอกันแล้วว แต่หน่วงจัง :sad4:
รอดูลีลาการจีบของพี่เอย์นะ
ได้เวลาเอาคืนแล้วหมาปิง o18
วันนี้อัพอีกมั๊ยอะ F5 รอ อิอิ
 :katai4:

ออฟไลน์ Profeccso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฉันมารอพี่อยู่ที่หน้าคอมทุกวันเลยนะ  :mew4: :mew4:
F5 F5

ออฟไลน์ gcc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มารอพี่เอย์ที่ท่าเล้าทุกวันเลย  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29


http://www.youtube.com/v/YXOIdSFeicM


# 26 อยากหมุนเวลา.....




“อะไรนะครับ! ผู้จัดการ”

“พิชย คุณฟังไม่ผิดหรอก นี่คือรายชื่อที่ทางสำนักงานใหญ่ส่งมา พวกคุณทั้งสามคนถูกแลกตัวไปประจำอยู่ที่ อัศวออโต้คาร์ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”

ผม หมาบาสและวุฒิ เดินออกมาจากห้องผู้จัดการของศูนย์รถยนต์ญี่ปุ่นชื่อดัง เราสามคนต่างเงียบ ในใจผมตอนนี้คือหนักอึ้งมาก รู้เหตุผลทั้งรู้ว่าเพราะเหตุใดถึงมีรายงานคำสั่งออกมาแบบนั้น

“พี่ปิง ยิ้มหน่อยสิพี่เราควรจะดีใจกันไม่ใช่เหรอ นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเราจะได้ไปประจำอยู่ที่ศูนย์รถยนต์ยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยนะพี่ ได้ยินข่าวว่าแต่ละวันมีรถเข้ามาใช้บริการเป็นร้อย ๆ คัน พนักงานเขาก็เยอะ ศูนย์ซ่อมบำรุงใหญ่กว่าที่นี่สามสี่เท่าโน่นแน่ะ  ที่สำคัญที่สุดโชว์รูมรถของที่นั่น พวกเราสามคนเคยซิ่งมอไซด์ผ่านแล้วชะเง้อคอมองกันตอนเราเรียน ปวช. อยู่ไงพี่  พี่ปิงยังจำได้ไหม”

หมาบาสพูดปลอบใจผมขณะที่ไอ้วุฒิตบลงที่บ่าผมอย่างปลอบใจ ทั้งที่ตัวมันสองคนหน้าเสียไม่แพ้กันกันกับผมหรอก ผมรู้ครับว่า อัศวออโต้คาร์ ยิ่งใหญ่จริง ดีจริง ทุกอย่างคือดีมาก ศูนย์ซ่อมรถยุโรปชั้นแนวหน้า แต่คือพวกผมก็รักที่นี่นะ ถึงจะเป็นศูนย์รถยนต์ญี่ปุ่นแต่เราก็มีพรรคพวกที่สนิทสนมกันมาเป็นปี ๆ เราเข้ากันได้ ทำงานร่วมกันไม่เคยมีปัญหา ผมพอใจที่เล็กๆของผม แต่แล้วมันคืออะไรจู่ ๆมีคำสั่งให้ผมย้ายไปประจำอยู่ที่นั่น ซ้ำร้ายยังมาบังคับเพื่อนผม บาสกับวุฒิให้พวกมันต้องไปปรับตัวตั้งตัวกันใหม่อีก
 
“ขอโทษนะเว้ย กูทำให้พวกมึงเดือดร้อนจริง ๆ เลย”

“คิดมากทำไมวะ มึงไปอยู่ที่ไหนพวกกูสองคนต้องตามไปอยู่ด้วยอยู่แล้ว เราสามคนเพื่อนตาย”

ไอ้วุฒิแม่ง มึงพูดซะกูซึ้งเลย ผมแกล้งเอาหน้าไปเช็ดๆหัวไหล่มันหมาบาสเลยเล่นบ้าง เราสามคนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ไล่เตะกันไปเรื่อย







เย็นวันนั้นผมแวะกลับออฟฟิศ ปลดกระเป๋าแล้ววางลง พี่เชนหน้าตายุ่งคือเหมือนคนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง

“ปิง กูหาฮาร์ดดิสตัวสีฟ้าไม่เจอ มึงเห็นป่ะ ไม่รู้เผลอเอาไปวางไว้ที่ไหน”

“ไอ้ตัวสองพันกิ๊กน่ะเหรอพี่”

“ใช่ๆ”

“อ๋อไอ้ตัวนั้น วันก่อนผมเอากลับไปทำต่อที่บ้าน ยังไม่ได้เอากลับมาเลยครับ พี่เชนรีบใช้ป่ะพี่เดี๋ยวผมกลับไปเอามาให้”

ผมเดินเข้าไปด้านในที่โต๊ะกินข้าว ฝาชีเล็กครอบขนมทาโกะยากิที่พี่เขาชอบซื้อมาให้ผมกินวางไว้ ผมเลยจิ้มกินไปสองลูก

“เออขนมอยู่บนโต๊ะกูลืมบอกมึง กินดิ่วะ”

“อินแอ๊ววว” ผมพูดทั้งขนมเต็มปาก พี่เชนหันกลับมามองหัวเราะผมใหญ่ ผมยักไหล่แล้วริน้ำกินอึกๆๆ

“กินเสร็จมึงกลับไปเอามาให้กูดิ่  อ่ะนี่กุญแจรถ” พี่เชนโยนกุญแจซีอาร์วีของพี่เขาส่งให้ ผมคาบส้อมไว้ แล้วใช้มือรับเกือบไม่ทันกำลังยัดขนมเข้าปากพอดี

“อย่านาน เดี๋ยววันนี้งานกูไม่เสร็จได้อยู่โต้รุ่งแน่ ๆ มึง”

“คร้าบๆปิงไปเดี๋ยวนี้เลย”

ผมฝ่าฟันมรสุมรถติดช่วงเย็นด้วยบทเพลงเพื่อชีวิตเพราะๆที่อยู่ในรถของพี่เชน  เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพลงแนวนี้หรอกนะครับแต่ผมแอบเอาแผ่นนี้มาเสียบไว้ อะไรวะซีอาร์วีรุ่นนี้ยังไม่มีช่องเสียบแฟลชไดร้ฟ์อ่ะ  เออผมก็งงนะพี่เชนจะให้ขับรถยนต์มาทำไมวะ ผมซิ่งมอไซด์แปปเดียวมันจะถึงบ้านเร็วกว่าอีก

รถจอดลงที่หน้ารั้วไม้เตี้ย ๆ รีบวิ่งเข้าไปด้านในตัดหน้าร้านไปที่ด้านหลังไม่ได้แวะขึ้นไปที่ระเบียงหน้าร้าน คือผมรีบมากตรงดิ่งเข้าไปที่บ้านสวนหลังเล็กของพวกเราหยิบฮาร์ดดิสตัวที่พี่เชนบอกแล้วเดินจ้ำออกมาเลย

“ปิงลูก” เสียงแม่เรียกอยู่ที่ระเบียงหน้าร้าน ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง มันก็ไม่ได้สูงนะแค่เป็นบันไดเตี้ย ๆ สองสามขั้นจากพื้นดิน แล้วผมก็รีบจนไม่ได้มองเลยว่าคุณนายนั่งอยู่ นึกว่าเป็นลูกค้าแต่พอยกนาฬิกาขึ้นดูถึงได้รู้ว่านี่มันเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว แม่ปิดร้านไปแล้วนี่

“ปิงครับ มานี่เร็วขึ้นมาหาแม่”

“แม่ครับ ปิง.......” ผมวิ่งขึ้นมาถึงได้มองเห็นชัดๆว่าเป็นใครที่นั่งคุยอยู่กับแม่และพี่ขม คำพูดชะงักกึกทันที

“ปิงมานั่งก่อนลูก ดูซิว่าใครมา”  แม่เบี่ยงตัวออก เผยให้เห็นใครคนนั้นนั่งอยู่ข้าง ๆ แบบเต็ม ๆ

“พี่เอย์เขาซื้อของมาฝากแม่กับพี่ขมเยอะเลยนะ มีขนมที่ปิงชอบด้วยนะลูก พี่เขากลับมาแล้ว ปิงรีบเข้ามาหาพี่เอย์เร็วลูก”

ขาผมชะงักนิ่งอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย คือรู้สึกว่าหนักอึ้งมากราวกับถูกตอกตรึงไว้อยู่กับพื้นจนก้าวต่อไปไม่ได้อีก เราสองคนสบสายตากัน พี่เอย์ค่อยลุกขึ้นยืนช้า ๆ ทุกอย่างระหว่างเราคือเงียบไปหมด เย็นย่ำแบบนี้ที่ระเบียงไม้ระแนงใต้ลีลาวดีต้นใหญ่ สายลมอ่อนพัดพาเอากลิ่นหอมของดอกไม้สวยเข้ามาแตะกระทบถึงปลายจมูก เส้นผมสีอ่อนปลิวพลิ้ว ผมยกมือขึ้นเกลี่ย

“ปิงกินข้าวด้วยกันก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่กับพี่ขมจะเข้าไปทำอาหารให้ พี่เอย์เขามารอลูกนานแล้วนะ มาเร็วเร๊ว มานั่งคุยกับพี่เขาก่อน” แม่เดินเข้ามาหาผม

แต่คุณเชื่อไหม....สายตาของเราสองคนระหว่างผมกับมันยังไม่สามารถละออกจากกันได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ผมไม่อยากเจอมันก็จริงแต่ในใจลึกๆแล้วผมก็อยากจะเก็บเกี่ยวความทรงจำที่ผมทำหล่นหายไปถึงสามปีกลับคืนมาเหมือนกัน

“ปิงลูก!” แม่เรียกขึ้นเสียงดัง เธอกระตุกแขนผมเบา ๆ ผมสะดุ้ง ปลุกตัวเองให้ออกจากภวังค์ความคิดทั้งหมด


เรื่องของผมกับมันจบไปนานแล้ว


ไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าเรื่องงานอีก


ผมต้องรีบกลับไป....พี่เชนรอผมอยู่



“แม่ครับ ปิงแวะมาเอาของ วันนี้มีงานค้างเยอะต้องรีบกลับนะ” ผมบอกแม่กอดเอวอุ่น แล้วเดินเลี่ยงลงบันได ความจริงผมไม่อยากจะหันไปมองมันอีก แต่ในระหว่างนั้นตอนที่ผมจะก้าวขึ้นรถ อะไรบางอย่างในหัวใจกลับดึงสายตาผมให้หันกลับไปมองเรือนร่างสูงโปร่งที่ยืนเกาะราวระเบียงนิ่งจ้องมองมาที่ผม สายตาของพี่เขาคือเว้าวอนมาก....ผมรู้ ผมรู้ว่ามันอยากจะคุยอะไรบางอย่างกับผม ตั้งแต่เมื่อวานที่เราเจอกันที่บริษัทของมัน แต่คือผมยังรู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อม ไม่ว่าสิ่งที่พี่เขาอยากจะคุยด้วยคืออะไร สักวันหนึ่งถ้าหากว่าผมพร้อมกว่านี้ เข้มแข็งกว่านี้ ผมจะลองรับฟังมัน







“พี่เชนครับ” ผมยื่นฮาร์ดดิสตัวที่ผมกลับไปเอาส่งให้

“กูต้มมาม่าไว้แล้ว เผื่อมึงด้วย อยู่บนโต๊ะนะ ในฝาชี”

“ครับพี่”

พี่เชนยุ่งอยู่กับตัวโปรแกรมอยู่ที่หน้าจอ เครื่องคอมที่พวกผมหอบกลับมาจากอัศวฯ เมื่อวานนี้ ถูกรื้อกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ หน้าที่ผมเองที่ต้องเป็นคนประกอบเข้า เมื่อคืนผมนั่งดึงและย้ายข้อมูลจากเครื่องนี้จนเกือบจะตีสี่ ดีหน่อยที่ฮาร์ดดิสไม่มีปัญหา

“พี่เชนยังไม่กินเหรอครับ” ผมเปิดฝาชีออกดู เส้นอืดนิดๆแล้วมีแครอทโรยหน้าด้วย พี่เชนชอบกินผักมากนะ แครอท ผักกาดแก้ว สองอย่างนี้จะขาดไม่ได้ ต้องซื้อติดตู้เย็นไว้ตลอด

“ยังดิ่ รอมึง” พี่เชนเดินเข้ามานั่งกินข้าง ๆ ผม

“โหพี่ เกิดผมกลับมาสามทุ่มอ่ะ”

“ก็กินสามทุ่มไง”

“แล้วพี่ไม่หิวอ่อ”

“หิวนะ แต่ไม่มาก ถ้าทนไม่ไหวยังไงกูก็ต้องกินก่อนอยู่แล้ว มึงไม่ต้องคิดว่ากูจะรอมึงจนดึกขนาดนั้น”

“อะโด่ว ไอ้เราก็นึกว่าจะมีคนใจดีรอกินข้าว” ผมเบะปากใส่ พี่เชนอมยิ้ม ยื่นมือเข้ามายีหัวผมอย่างเอ็นดู ผมรู้ว่าพี่เชนพูดเล่น ปกติเราสองคนจะโซ้ยรอบดึกด้วยกันตลอด มาม่านี่ต้องมีติดออฟฟิศ ผักกับไข่ต้องมีติดตู้เย็น มื้อไหนใครว่างคิดจะพักสายตาจากหน้าจอก็จะเลี่ยงไปแสดงฝีมือต้มมาม่า ไม่ก็ทำอาหารอร่อย ๆ แต่ถ้าหากว่างกันจริง ๆ พี่เชนกับผมเราจะไปซุปเปอร์ด้วยกัน หาซื้อของสดมาทำกิน

คืนนั้นเราสองคนทำงานกันจนดึกดื่นอีกแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นพี่เชนที่หอบหมอนหอบผ้าห่มลงมาปูนอนข้างๆโต๊ะผม

“อ้าวพี่ไม่ขึ้นไปนอนดี ๆ อ่ะครับ” งานพี่เขาเสร็จแล้ว

“กลัวว่ามึงจะดีลีทข้อมูลในเครื่องเขาโดยไม่ตั้งใจสิ กูต้องดูไว้ไม่ให้พลาดเด็ดขาดเลย”

“หูยยยยพี่ครับ ผมเนี่ยระดับไหนแล้ว มีเหรอเคยทำเรื่องผิดพลาดแบบนั้น” เครื่องนั้นแหละครับที่มันหล่นและน้ำราดลงมาหน้าจอก็แตกละเอียด แต่ผมถอดฮาร์ดดิสมันออกมาแล้ว

“แฮกเข้าไปได้ยัง” พี่เชนถาม งานพี่แกเสร็จแล้วโล่งเลยดิ่ ผมนี่รับผิดชอบอันนี้หนักเลย

“ยังดิ่ เดี๋ยวจะเข้าได้แล้วเนี่ย อย่าเพิ่งกวนผมดิ่พี่” ผมพรมนิ้วลงที่แป้นรัวเลย คือแรนดอมรหัสอยู่

“กูว่าคุณเอย์ตั้นอะไรนั่นแปลกๆอยู่นะปิง เมื่อวานไม่รู้เกิดอะไรขึ้นจู่ ๆ เดินเข้าไปปัดเครื่องตกลงมาจากโต๊ะซะงั้น  ตอนคุยเรื่องขอบข่ายงานกับกูแล้วก็พิมที่ห้องรับรองคือยังดี ๆ อยู่เลย แต่พอกูขึ้นไปเห็นที่ห้องประธานนี่คือแบบ เหมือนคนล่ะคนเลยว่ะ”

หน้าผมเริ่มชา คือไม่รู้จะตอบพี่เชนกลับไปว่าอะไร ผมคิดว่าผมรู้เหตุผลที่พี่เอย์ทำแบบนั้น แต่พี่เชนไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยย่อมต้องสงสัยเป็นธรรมดา

“แล้วที่สำคัญอยากจะให้เราเข้าไปวางระบบให้ แต่จะมาลองภูมิเราหรือยังไงแบบไหนกันวะ ทำไมไม่ยอมให้รหัสเครื่องมาต้องให้เราแฮกหาเองแบบนี้งานมันจะเดินช้าลงไหมยังไง มึงคิดเหมือนกูป่ะวะปิง”

หน้าพี่เชนนี่คือสงสัยเต็มที่ ผมน่ะกลัวว่าพี่เขาจะพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่เห็นเมื่อคืนทำเฉย ๆ เลยนึกว่าจะลืมไปแล้วที่แท้เก็บเอามาถามผมวันนี้

“อีกอย่าง....”

พี่เชนพูดแล้วหยุด ผมเลยหันไปมอง สายตานี่คือจ้องผมนิ่งเลย วี่แววสงสัยเต็มเปี่ยมไปหมด

“กูว่าสายตาที่คุณเอย์เขามองมึงนี่มันไม่ธรรมดาว่ะปิง  ถามจริง มึงเคยรู้จักกับท่านประธานของที่นั่นมาก่อนใช่หรือเปล่า”



.


.


.



เช้าวันต่อมา ที่อัศวออโต้คาร์


“สวัสดีครับ”

“มากันเร็วดีนะ เห็นรายชื่อส่งมาจากฝ่ายบุคคลตั้งแต่เมื่อวาน ยังคิดอยู่เลยว่าวันนี้พวกคุณจะมาทันไหม”

ผม บาส และวุฒิ ตอนนี้ยืนรายงานตัวอยู่ที่แผนกซ่อมบำรุงของศูนย์รถยนต์นำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย อัศวออโต้คาร์ ผู้จัดการของที่นี่แบ่งเป็นแต่ล่ะแผนกชัดเจน หัวหน้างานของผมเป็นผู้ชาย อายุน่าจะประมาณสามสิบต้น ๆ สูงใหญ่ดูภูมิฐานมาก พี่เขาชื่อศักดาแต่ให้พวกผมเรียกเขาว่า ‘หัวหน้า’

“เอาล่ะ คงไม่ต้องรีรออะไรให้มากความหรอกนะ ไปเปลี่ยนชุดแล้วออกไปลุยงานกันเลย เดี๋ยวผมจะพาไปแนะนำกับช่างฟิตที่ประจำอยู่ที่นี่”

ว่าจบหัวหน้าศักดาพาพวกผมสามคนออกเซอร์เวย์อู่ซ่อมบำรุงที่กว้างขวางมาก ๆ ผมประเมินด้วยสายตาคร่าว ๆ รถที่กำลังมารับการซ่อมบำรุงเกือบ ๆ จะห้าสิบคันเข้าไปแล้ว ทั้งที่เป็นแค่ช่วงเช้า พนักงานสวมชุดหมีสีเทาประจำรถแต่ละคันทำงานกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายหัวหน้าของพวกเขาอย่างอารมณ์ดี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้านายกับลูกน้องของที่นี่ได้เป็นอย่างดี

“ที่ศูนย์ของเราจะรับเฉพาะรถยุโรปนำเข้าทุกยี่ห้อ เพราะฉะนั้นลูกค้าที่มาใช้บริการก็จะมีแต่ลูกค้าระดับเกรดบีขึ้นไป ไม่ต้องให้ผมบอกใช่ไหมว่าเราต้องพิถีพิถันมากแค่ไหน จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเกรดไหนเราก็ต้องพิถีพิถันกับเรื่องของคุณภาพให้มากที่สุด เพราะเราทุกคนในที่นี้กุมความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขาอยู่ คุณต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ รถหนึ่งคันคือหลายชีวิตที่คุณจะต้องรับผิดชอบ ห้ามทำงานชุ่ย ๆที่จะส่งผลลัพธ์แย่ ๆ ให้เกิดกับบริษัทเด็ดขาด”

พี่เขาย้ำถึงนโยบายของบริษัท ความรับผิดชอบ ความอดทน สอนพวกผม แนะนำพวกผมสามคนกับทุกๆหน่วยย่อยในแต่ละจุด สุดท้ายแล้วพวกผมสามคนได้เข้าประจำอยู่ที่จุดซ่อม ของบีเอ็มดับเบิ้ลยู

เออคนรวยเยอะจริงวุ๊ยย  คือที่หน่วยนี้รถแน่นมาก ช่างเดินกันให้วุ่นเลย

“หน่วยบีเอ็มดับเบิ้ลยู กับ เมอเซเดสเบนซ์ เป็นหน่วยซ่อมหลักของศูนย์เรา จำไว้แค่ว่างานต้องเนี๊ยบ ไม่อนุญาตให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเด็ดขาด ถึงเวลาที่ต้องลุยงานกันได้แล้ว ยินดีต้อนรับสู่ อัศวออโต้คาร์

“ขอบคุณครับ” ผมสามคนตอบรับพร้อม ๆ กัน หัวหน้าศักดาเดินเข้ามาตบลงที่บ่าพวกผมให้กำลังใจ เรายิ้มสู้แล้วเริ่มลุยงาน ช่างฟิตที่นี่ต้อนรับพวกเราดีมาก ไม่มีใครดูถูกที่เราเคยทำแต่รถญี่ปุ่น ผมหมาบาสและหมาวุฒิกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้ช่วงล่างของรถยี่ห้อใหม่ ๆ

“วุฒิ ประแจแหวนเบอร์สิบ” ผมยื่นมือออกไปรับ หมาวุฒิวางลงให้พร้อมแถมประแจปากตายตัวเล็กมาอีกนึง

“ดีมากมึง  รู้งานดี”

ที่นี่ผมไม่ต้องมุดไปนอนใต้ท้องรถอีกแล้วนะครับ คือเขาจะมีเครื่องยกรถให้ลอยสูงขึ้นพวกผมเดินๆกันอยู่ด้านล่างเงยหน้าซ่อมจัดการกับช่วงล่างเลย อุปกรณ์ยกเป็นไฮโครลิคแน่นหนาและปลอดภัยดีมาก

“พี่ปิงนี่ขนาดไม่ได้มุดนะ หน้าพี่นี่ยังเปื้อนได้อีก ฮ่าๆๆ ตลกว่ะพี่ส่องกระจกดูดิ่” หมาบาสมันแซว ผมแกล้งไม่สนใจไม่ได้ยิน  หันมองมันตาเขียวแล้วยกขาจะถีบมันหน่อยนึง ไอ้วุฒิย้ายไปอีกคันแล้วมีรุ่นพี่เข้ามาสอนพวกผม

“จุดนี้เราใช้ประแจปากตายเบอร์สามงัดเลย มันเอาออกยาก” เสียงจากพี่ปอนด์ ช่างหลักที่รับผิดชอบรถคันนี้ เห็นว่าเป็นมือหนึ่งของหน่วยบีเอ็ม พี่เขาใจดีมว๊ากกกกกกกกก ยื่นเครื่องมือส่งให้ผม

“พี่ครับ คันนี้นัดรับกี่โมงพี่” ผมถาม

“ห้าโมงเช้า แต่คือต้องเสร็จก่อนนะเดี๋ยวต้องขับไปเข้าคาร์แคร์อัดฉีดก่อนส่ง”

“โหยแล้วจะเสร็จทันเหรอพี่”เออคือมันก็เร็วไปไหม

“มีรอคิวอยู่อีกเพียบ แต่ก่อนนี้อู่เราจะนัดรับถัดไปอีกวัน แต่หลังจากคุณเอย์ตั้นท่านประธานคนใหม่เข้ามา แผนการบริการลูกค้าของเราปรับเปลี่ยนนิดหน่อย งานเราต้องไวขึ้น กระจายหน่วยย่อยเพิ่มขึ้น ตอนแรกก็กังวลนะว่ามันจะเสร็จทันไหมยังไง แต่คุณเอย์แสดงศักยภาพให้เห็นแล้วว่าท่านประเมินความสามารถพวกเราได้ดีจริง ๆ ลูกค้าพอใจกันมาก ได้รถเร็วขึ้นในขณะที่คุณภาพเรายังคงเดิม งานเยอะขึ้นปีนี้คิดว่าน่าจะเปิดรับพนักงานประจำเพิ่มขึ้นอีกด้วย”


ผมฟังไปด้วยขันประแจไปด้วย แอบอมยิ้มนิด ๆ เพราะได้ยินรุ่นพี่เขาชื่นชมมัน ท่านประธานของที่นี่..........คุณเอย์


“ปิง!” เสียงไอ้วุฒิตะโกนเรียกมาจากอีกฝั่ง ผมชะงักมือจากการขันน็อตให้แน่นหันไปมอง  อากาศร้อนมากประกอบกับชุดที่ใส่เป็นชุดหมี  ผมเผลอเอามือดำๆป้ายใบหน้าไปอีกแล้ว

มันกวักมือเรียกผมไว ๆ แต่ผมไม่สนใจ มันเลยปรบมือเรียกอีกครั้ง คราวนี้ดังกว่าเดิมอีกสามเท่าผมรีบวิ่งออกไปหามันพี่ปอนด์หัวเราะผมใหญ่เลย

“ไอ้เหี้ย ช้า โทรศัพท์มึงแม่ง”

“เอ๊า กูจะรู้?” ผมรีบถอดถุงมือออกเหวี่ยงใส่หัวมัน แล้วคว้าเอาหูโทรศัพท์มาแนบไว้ พี่ที่เขารับสายให้คือยิ้มร่าให้พวกผมเลย

“สวัสดีครับ พิชย ครับ” เออใครวะรู้ได้ไงว่าผมทำงานที่นี่

“............”

“ฮัลโหลครับ” ผมกรอกเสียงลงไปอีก แต่คือทางนั้นเงียบ ผมกำลังคิดว่าน่าจะมีอะไรผิดพลาดเพราะนี่เป็นเบอร์ภายในไม่น่ามีสายเรียกเข้ามาที่ผม เพราะผมเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่เป็นวันแรก กำลังจะอ้าปากถามพี่ที่เป็นคนรับสาย ว่าเขาถามหาผมแน่หรือเปล่าเสียงนึงจากปลายสายก็ดังแทรกขึ้นก่อน

“......ปิงกูหิวข้าว”

ผมชะงักทุกอย่างทันที น้ำเสียงแผ่วเบาแต่นุ่มทุ้ม ทำเอาหูผมบอดจากเสียงรอบข้างมาก เสียงที่เปล่งออกมาจากโทรศัพท์เด่นชัดดังสะท้อนก้องอยู่ในใจ ผมรู้แน่ว่าเป็นเสียงของใคร คืออึ้งมาก ทำอะไรไม่ถูก

“ขึ้นมากินข้าวด้วยกันนะ จะเที่ยงแล้ว” น้ำเสียงที่อ่อนล้า เต็มไปด้วยความสำนึกผิดกับอะไรสักอย่าง น้ำเสียงที่แผ่วเบาไม่เต็มเสียงดี  ผมรีบตั้งสติ มือไม้คือสั่น ตัดสินใจวางสายแล้วเดินกลับมาหาพี่ปอนด์ ทำงานของผมต่อไป ระหว่างนั้นก็คอยฟังนะว่าจะมีคนเรียกผมไปรับสายอีกไหม แต่คือทุกอย่างก็เงียบไป จนกระทั่งเกือบจะเที่ยง

“พิชยะ”

“ครับ” ผมหันไปหา เห็นหัวหน้าศักดาเดินเข้าไปคุยอะไรบางอย่างกับพี่ปอนด์ พักนึงก็เดินเข้ามาหาผม

“เดี๋ยวออกไปกับผมหน่อยนะ ไปชุดนี้เลยก็ได้ไม่เป็นไร”

“ไปไหนครับ” ผมลุกขึ้นถอดถุงมือทิ้งไว้ที่ชั้น แล้วรีบก้าวเดินตามหัวหน้าออกไป คือแกเดินเร็วมากเพราะว่าตัวสูงใหญ่ ผมนี่ก็ไม่ได้ตัวเล็กนะแต่ยังต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามแก

“หัวหน้าจะพาผมไปไหนเหรอครับ” เราเดินตัดออกมาที่ตึกสำนักงาน หัวหน้ากดลิฟต์เรียกชั้นบนสุด ผมรีบหันมองทันที


ห้องบนสุดคือห้องของประธาน......................ห้องของพี่เอย์


“เมื่อกี้คุณเอย์โทรลงมาหาผม บอกให้พาคุณขึ้นไปพบ กำชับให้ผมเดินมาส่งคุณให้ถึงที่หน้าห้องท่าน  คงกลัวว่าคุณจะหลงน่ะ”

ผมแอบถอนใจ เอนตัวพิงที่ผนังลิฟต์แก้วสวยงามมองต่ำลงไปเห็นโชว์รูมรถเบื้องล่างมีแต่รถยุโรปสวยงามที่เด็กผู้ชายอย่างผมใฝ่ฝัน ผมนึกไว้อยู่แล้วตั้งแต่เมื่อวานเรื่องที่ถูกขอแลกตัวมาทำงานที่นี่ รู้ดีว่าเป็นเพราะใคร ทั้งเรื่องที่ผมเจอมันนั่งคุยอยู่กับแม่ผมที่ร้านนั่นอีก

ผิดไหมครับ....ผมแค่รู้สึกว่าผมเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยมานานแล้วกับการรอคอย ผมอยากจะหยุดพักตัวเองสักช่วงนึง  ผมรู้พี่เอย์กำลังพยายามจะทำอะไร เรื่องของเราไม่ว่าเหตุผลของมันจะคืออะไรขอผมหยุดพักสักหน่อยก่อนได้ไหม ผมเหนื่อยมามากจริง ๆ ผมรู้ว่ามันอยากจะอธิบาย อยากจะบอกเล่าถึงเหตุผลของมัน แต่คือผมยังไม่พร้อม ผมเคยถามตัวเองนะว่าตอนนี้ความรู้สึกของผมคืออะไร คำว่ารักยังมีความหมายกับผมอยู่อีกไหม ผมเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเราสองคนครั้งหนึ่งเคยรักกันคือมันนานมากแล้วจริง ๆ
   

ติ๊ง!


เมื่อลิฟต์เปิดออก ผมค่อยก้าวเดินอย่างช้า ๆ ตามหลังหัวหน้าฝ่ายผมไป ทางเดินที่คุ้นเคย หนทางที่กำลังมุ่งไปสู่ห้องของท่านประธานใหญ่ของที่นี่

“สวัสดีครับคุณภีม ผมพาพิชยขึ้นมาแล้วครับ ปิงนี่คุณภีมเลขาของท่านประธาน รู้จักกันไว้”

ผมยกมือขึ้นไหว้ คุณภีมน่าจะอายุพอๆกับหัวหน้าศักดา หล่อเหลาสวมแว่นดูภูมิฐาน

“สวัสดีครับคุณพิชย ขอบคุณมากครับพี่ศักดา” เขายกมือขึ้นรับไว้ผมแล้วหันไปกล่าวขอบคุณหัวหน้าศักดา ผมรู้สึกแปลกใจนิดๆคือเมื่อวานผู้ชายตัวเล็ก ๆ อีกคนที่จัดเนคไทจัดทรงผมให้พี่เอย์ไม่ใช่คนๆนี้ ผมนึกว่าเขาคนนั้นเป็นเลขาของพี่เอย์เสียอีก

“คุณพิชยเชิญเลยครับ ท่านประธานรออยู่แล้ว” คุณเลขาท่าทางรีบร้อน เคาะประตูห้องบานใหญ่แล้วเปิดเข้าไป คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเงยหน้าขึ้นมองผมทันที

ผมรู้....ถ้าผมตัดสินใจก้าวเข้าไป ประตูด้านหลังจะถูกปิดลงทันทีและจะมีเพียงพี่เอย์กับผมเท่านั้นที่เหลืออยู่ภายในห้องนี้

“คุณพิชยครับ” ผมยังยืนค้างนิ่งอยู่แบบนั้น จนคุณภีมต้องเรียกผมอีกครั้งผมถึงรู้สึกตัว ค่อยก้าวเข้าไปด้านใน ประตูใหญ่ด้านหลังถูกปิดลงอย่างที่คิดไว้จริง ๆ พี่เอย์ยืนมองผมอยู่ขณะที่ผมกวาดตามองดูรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง ผมเข้าห้องนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว รู้สึกว่าแอร์ในนี้เย็นเฉียบ ทั้งที่ผมอยู่ในชุดหมีของพวกช่างฟิตยังรู้สึกได้เลยว่าเย็นมาก 

พี่เขาค่อยก้าวออกมาหา ในมือ  ถืออะไรอยู่สักอย่าง

“ทำไมเป็นถึงโปรแกรมเมอร์แล้วยังต้องมาทำงานซ่อมรถแบบนี้” เสียงพี่เอย์คือเบามาก ดวงตาคมมีแต่ความเศร้าสร้อย กวาดตามองดวงหน้าผม เรายืนชิดกันมากจริง ๆ

“แก้มมึงมอมแมมไปหมด” มันพูดแล้วยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าจะมาเช็ดรอยเปื้อนที่ใบหน้าให้ผม ผมรีบก้าวถอยหลังแล้วปัดมือมันออก มันเลยยืนนิ่งถือผ้าเช็ดหน้าเก้ออยู่แบบนั้น

“ไม่ทราบว่าคุณเอย์เรียกผมขึ้นมา มีธุระอะไรครับ” ผมถามไปแบบเรียบ ๆ ควบคุมระดับน้ำเสียงไว้เต็มที่  รู้ว่ามันยืนก้มหน้านิ่ง กำผ้าเช็ดหน้าอยู่แบบนั้น แต่จะเรียกผมขึ้นมาเพราะจะมาแค่เช็ดหน้าให้คงไม่ใช่แน่ ๆ

“โกรธกูมากเหรอ เกลียดกูแล้วใช่ไหม”

“ถ้าคุณยังพูดเรื่องเก่า ๆ อีกผมจะขอตัวลงไปทำงานต่อนะครับ”

“ปิง” มันก้าวเข้ามาหา ผมรีบถอยหลัง พี่เอย์คว้าแขนผมไว้

“คุณเอย์ครับ ตอนนี้อยู่ในเวลาทำงาน ผมเป็นพนักงานของคุณ ผมพิชยครับ กรุณาเรียกชื่อจริงผมด้วย ถ้าคุณมีธุระจะสั่งให้ผมทำในเวลางานผมทำให้ได้ แต่นอกเหนือจากเรื่องงานแล้วผมเสียใจนะครับผมคงไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับคุณหรอกครับ” พี่เอย์บีบแขนผมแรงขึ้นมาก คล้ายกับว่ามือมันเริ่มจะสั่น ดวงตาเต็มไปด้วยแววตัดพ้อผมมากมาย

“มึงไม่ยอมเรียกกูว่าพี่เอย์ แล้วยังไม่อนุญาตให้กูเรียกมึงว่าปิงด้วย?”

“............”

พี่เอย์เสียงสั่นมาก ผมรีบหลบสายตามัน มันจ้องผมจนมันพอใจ ผมนิ่งอย่างเดียวผมไม่ตอบ บรรยากาศระหว่าเราคือชวนอึดอัดมาก ผมมองเห็นห้องเล็กๆด้านในห้อง ๆ นี้เลยเผลอมองไป สงสัยเหมือนกันว่ามันคือห้องอะไร

“มองหาใคร” เสียงมันถามขึ้น ผมสะดุ้งดึงสายตาตัวเองกลับมา

“ไม่มีใครอยู่ในห้องนั้นหรอก มึงข้องใจเรื่องอะไรถามกูได้นะ”

“ปะ....เปล่าครับ” เอาจริง ๆ เลยนะผมแอบคิดนิดนึงว่าผู้ชายตัวเล็กๆดูน่าทะนุถนอมคนนั้น อาจจะอยู่ภายในห้องนั้น

“ปิง?”

“ผมแค่กำลังสงสัย คุณเปลี่ยนเลขาแล้วเหรอครับ”

“เปลี่ยนเลขา?”

“เมื่อวานผมว่าที่ผมเจอไม่ใช่คุณภีมที่นั่งอยู่หน้าห้องคุณตอนนี้ เป็นอีกคน ตัวเล็กๆ”

ผมถามออกไปแล้วอยากตบปากตัวเองคือผมเป็นคนแบบนี้จริงนะอยากรู้อะไรผมจะถามเลย นิสัยเสียไม่เปลี่ยน ที่น่าอายคือผมเห็นมันอมยิ้มนิดๆด้วยนะไม่รู้คิดอะไรบ้าบอหรือเปล่า คือผมก็แค่ถามแค่สงสัยไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย

“ถ้ามึงหมายถึงกัส เขาไม่ได้ทำงานที่นี่หรอก เขาเป็นเลขากูอยู่ที่อัศวคอนสตรัคชั่น ถามทำไมมึงสนใจเขาเหรอ”

ผมหันขวับทันที ใครจะไปคิดอะไรแบบนั้นมั่วเหอะ  “ก็แค่แปลกใจน่ะครับกะว่าถ้าเจอจะคุยเรื่องแผนงานวางระบบสักหน่อย”

“มึงคุยกับกูสิจะไปคุยกับเขาทำไม  กูเป็นผู้ใช้งานนะ มึงต้องออกแบบระบบจากความต้องการของผู้ใช้ไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ล่ะครับ ผมเกรงใจ” ผู้ใช้โคตรเอาแต่ใจแบบคุณทางที่ดีผมห่างไว้สักหน่อยจะดีกว่า  ผมก้าวถอยออกมาอีกคือรู้สึกว่าเราสองคนจะใกล้กันเกินไปแล้ว พี่เอย์รีบก้าวตามผมใช้ความเร็วขยับออกไปยืนอยู่อีกด้านคือแสดงออกให้รู้เลยว่าผมไม่อยากอยู่ใกล้มัน

มันจ้องผมนิ่งเลย

“ผมว่าคุณรีบพูดธุระของคุณดีไหมครับ ผมจะได้ลงไปทำงานต่อสักที”

ผมรีบเข้าเรื่องขยับ ๆ ไปจนตอนนี้เกือบจะอยู่ชิดบานประตูแล้ว  เสียงสูดลมหายใจยาวดังขึ้น ก่อนที่ตัวมันจะเดินอ้อมกลับไปนั่งลงที่โต๊ะประจำตำแหน่งของตัวเอง  ผ้าเช็ดหน้าที่มันกำไว้ถูกโยนลวกๆลงบนโต๊ะ มันเอนตัวพิงพนักยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง


มาดท่านประธานฉายชัดต่อหน้าต่อตาผมคนนี้.......แววตาของพี่เอย์เปลี่ยนเป็นแข็งขึ้นหน่อยนึง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2014 22:20:09 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29


http://www.youtube.com/v/FYbMWeeX5us



มาดท่านประธานฉายชัดต่อหน้าต่อตาผมคนนี้.......แววตาของพี่เอย์เปลี่ยนเป็นแข็งขึ้นหน่อยนึง


“นี่เป็นคำสั่งจากประธานใหญ่ของที่นี่ ต่อไปนี้ทุกๆเที่ยงตรงกูจะต้องเห็นหน้ามึงนั่งรอกินข้าวพร้อมกูอยู่ที่ห้องอาหารเล็กของที่นี่ ออกจากห้องนี้ไปเลี้ยวซ้ายอยู่ข้าง ๆ ห้องรับรอง  อาหารว่างของกูจะเสิร์ฟที่บ่ายสามโมงเย็นคนที่ต้องเอามันเข้ามาให้กูทุกครั้งต้องเป็นมึง และสุดท้าย กูจะเป็นคนไปส่งมึงกลับบ้านเองทุกครั้งหลังเลิกงาน เพราะฉะนั้นหกโมงเย็นของทุกวันให้มารอกูอยู่ที่ห้อง ๆ นี้เดี๋ยวกูจะสั่งเลขาไว้”

คำสั่งเอาแต่ใจร่ายยาวจนผมฟังไม่ทัน ไม่รู้ว่ามันคิดไว้ล่วงหน้าหลายวันมากไหม แต่ก็พอจะจับใจความได้สามข้อหลัก ๆ

ผมส่ายหน้าปฏิเสธทันที  “ผมขอปฏิเสธทั้งหมดครับ”

“ไหนว่าถ้าเป็นเรื่องงาน ในเวลาทำงานมึงสามารถทำให้กูได้หมดทุกอย่างไง”

“แต่เรื่องที่คุณใช้ให้ผมทำ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเลย ทั้งกินข้าวเที่ยง ทั้งยกของว่าง แล้วยังเรื่องกลับบ้านอะไรนั่นอีก ผมทำให้คุณไม่ได้หรอกครับ” มันเกินไปมากๆเลย

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อม ๆ กับเลขามันเปิดเข้ามา  “คุณเอย์ครับ อาหารพร้อมที่ห้องเล็กแล้วครับ”

“จัดเพิ่มเป็นสองที่ ต่อไปพิชยจะขึ้นมาทานข้าวกับผมทุกวัน คุณภีมจัดการให้ผมด้วย”

“ตั้งแต่วันนี้เลยเหรอครับ”

“ใช่ ตั้งแต่วันนี้เลย”

“ครับผม”

หลังจากปะตูปิดลงผมแทบจะกระโจนใส่มัน คือหน้าผมหงิกแล้วก็งอมากนะบอกเลย มันเรื่องอะไรที่ต้องมาบังคับผมให้ขึ้นมากินข้าวกับมันทุกวัน ที่นี่มีแคนทีนใหญ่มากอาหารก็ท่าทางจะอร่อยผมก็อยากจะกินกับพรรคพวกเพื่อนฝูงผมดิ่ ไม่งั้นจะสนิทกันได้เมื่อไหร่ เกิดมามัวแต่นั่งกินบริการเสิร์ฟมันอยู่เนี่ย เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงผมคงจะหดหายหมด

แล้วที่สำคัญมากอีกอย่างก็คือมันเล่นบอกเลขามันแบบนั้น พี่เขาไม่สงสัยผมแย่หรือไงผมเป็นใครผมมีสิทธิ์อะไรถึงขนาดท่านประธานต้องให้มานั่งกินข้าวร่วมด้วย เราเป็นอะไรกันเหรอ? คือเรื่องมันจบไปนานแล้วนี่ยังจะมารื้อฟื้นเพื่อ? แล้วดูชุดที่ผมสวมอยู่ตอนนี้เสียก่อน ชุดหมีเปื้อน ๆ อ่ะ หน้าก็ดำ ดีหน่อยที่มือสะอาดเพราะผมจะสวมถุงมืออยู่เสมอเวลาทำงาน

“ผมไม่ว่างหรอกนะครับ”

“แต่นี่เที่ยงแล้ว”

“ผมไม่ทำ”

“ปิง”

“ผมไม่ชอบการถูกบังคับ ผมรักงานช่างฟิต ผมเป็นโปรแกรมเมอร์คุณก็รู้ ถ้าผมไม่รักงานช่างจริง ๆ ผมคงคิดจะลาออกไปนานแล้ว ถ้าคุณยังคิดจะบังคับผม พรุ่งนี้ผมจะทำเรื่องลาออกจากที่นี่ทันทีเลยครับ” แววตาและน้ำเสียงของผมแน่วแน่และจริงจัง พี่เอย์นิ่งงันไปเลย มันจ้องผมแล้วถอนใจ ผมดื้อนะถ้าบอกไม่แล้วคือไม่อ่ะ

เราสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้วด้วย ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็แค่เจ้านายลูกน้อง

บรรยากาศระหว่างนั้นเงียบกริบ ผมเงียบมันเองก็เงียบ พี่เอย์หยิบปากกาสีทองออกจากแท่นเสียบหรูหราบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก

“ทำงานให้กูชิ้นนึง” มันเลื่อนกระดาษแผ่นนั้นส่งให้ ผมเดินเข้าไปหาหยิบขึ้นมาดูช้า ๆ


อีเมลแอดเดรส ??


“แฮกข้อมูลทั้งหมดในแอดเดรสนี้ให้กูที กลับไปทำที่ออฟฟิศมึงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำที่นี่”

“เมลของใครครับ ผมถามได้หรือเปล่า”

“เดี๋ยวมึงก็รู้เอง”

“แล้วคุณจะใช้ข้อมูลวันไหน”

“เร็วที่สุด”

ผมเงยหน้ามอง เก็บกระดาษแผ่นนั้นยัดเข้ากระเป๋าชุดหมี ถามมันว่ามีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม พี่เอย์ส่ายหัวเอาแต่นั่งมอง ผมเลยขอตัวออกมา







เย็นวันนั้นผมกลับถึงบริษัทเกือบหนึ่งทุ่มพี่เชนจ้องหน้าผมใหญ่ คือพี่เขายังไม่รู้ว่าผมถูกย้ายไปประจำที่อัศวออโต้คาร์แล้ว

“ประชุม?” ผมเดินเอาถุงขนมมาตั้งลงที่โต๊ะอาหาร พี่เชนเดินมาที่โต๊ะค้นๆดู ผมซื้อขนมที่เซเว่นมากองไว้เยอะมาก พี่ท่านชอบกินขนมเล่นตอนดึก ๆ หมากฝรั่งนี่สารพัดยี่ห้อ อ้อ ลืมบอกคุณไปพี่เชนเลิกบุหรี่ได้แล้วนะครับ เพราะผมไฟท์พี่เขาบ่อยซื้อลูกอมซื้อหมากฝรั่งให้กินตลอด พี่เชนบอกขี้เกียจรำคาญผมบ่นเลยเลิกซะ

“เปล่าครับพี่ ตอนนี้ผมกับไอ้บาสแล้วก็ไอ้วุฒิถูกย้ายไปทำงานที่อู่ของอัศวออโต้คาร์แล้วครับ”

“เฮ้ย จริงป่ะเนี่ย” ผมรู้ดิ่พี่เชนคงตกใจแหละ พี่เขาหยุดนิ่งทุกอย่างแล้วหันมามองผมเลย ปากนี่ยังคาบมากฝรั่งไว้

“จริงครับ มีคำสั่งมาเมื่อวาน ผมลืมเล่าให้พี่ฟัง เมื่อเช้าก็รีบ ๆ เลยไม่ได้บอก”

“แล้วทำไมถึงต้องเป็นพวกมึง มันแปลกไหมวะปิง”

“...........”

“มึงเล่ามาดีกว่า กูว่ามันไม่ธรรมดาแล้วนะความสัมพันธ์ของพวกมึงสามคนกับท่านประธานคนนั้นน่ะ คุณเอย์ตั้น อายุพอๆกับกูนี่แหละสามปีที่แล้วจบวิศวจากจุฬา แล้วไปต่อที่นิวยอร์ก ทำงานอยู่ที่นั่นหนึ่งปี ก่อนกลับมารับตำแหน่งประธานของอัศวออโต้คาร์ ทั้งที่ควรจะไปประจำอยู่ที่อัศวคอนสตรัคชั่นซึ่งทำงานเกี่ยวกับงานวิศวรรมโดยเฉพาะแต่ก็ไม่ไป  มีพี่ชายเป็นดาราชื่อดัง แล้วที่สำคัญเขาเป็นหลานชายคนโปรดของคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลอัศวเหมมินทร์”

พี่เชนจ้องหน้าผมนิ่งน้ำเสียงคือคาดคั้น ผมค่อย ๆ ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ พี่เขาเองก็นั่งลงด้วย

“แล้วคนธรรมดาอย่างมึงไปเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลสูงศักดิ์แบบนั้นได้ยังไงวะปิง”

ในที่สุดผมก็ต้องเล่าเรื่องราวคร่าวๆระหว่างผมกับพี่เอย์ให้พี่เชนฟัง คือไม่อยากจะปิดหรอกครับพี่เชนดีและจริงใจกับผมมาก รักผมเหมือนน้องชายคนนึงเลย พี่เชนมีพี่สาวแค่คนเดียว ฐานะทางบ้านเรียกว่าดีเลยเป็นญาติห่าง ๆ กับพี่พิม ถึงจะบอกว่าแค่นับถือกันมาไม่ใช่เครือญาติจริง ๆ แต่พี่พิมกับพี่เชนรักกันเหมือนพี่น้องว่าไงว่าตามกันไว้ใจซึ่งกันและกัน ในวันที่พี่เชนชวนผมให้ร่วมหุ้นด้วยทั้งที่เป็นแค่หุ้นลมพี่พิมไม่มีต่อว่าสักคำ ซ้ำยังสนับสนุน พี่ทั้งสองคนรักและไว้ใจผมมาก เพราะฉะนั้นเรื่องของผมที่อาจจะต้องมีส่วนข้องเกี่ยวกับบริษัทผมก็ควรจะต้องเล่าให้พี่เขาได้รับรู้ไว้บ้าง

เฉพาะบางส่วนที่สามารถจะเล่าได้

“พี่เชนรังเกียจผมไหมครับ”

คำพูดแรกที่ผมถามพี่เขาหลังจากที่เล่าเรื่องราวทั้งหมด พี่เชนนิ่งอึ้งแดกไปเลย

“คือผมก็ผู้ชายคนนึงอ่ะพี่ แค่ว่าตอนนั้นผมชอบผู้ชายเหมือนกันแค่นั้นเอง คือผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังคิดอะไร ความรู้สึกมันห้ามกันยากพี่ก็รู้ ตอนนั้นผมมีโอกาสได้อยู่ข้าง ๆ พี่เขาคือผม คือ......

“พอแล้วมึงไม่ต้องพูดแล้ว” พี่เชนลุกขึ้น หันหลังให้ยกมือเสยผมสองสามทีเดินหายเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วกลับออกมาใหม่ หย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ผมอีกครั้ง

“โทษทีนะ กูแค่ตกใจ  เพราะว่ามึงไม่เหมือนเลยสักนิด คือกูดูยังไงมึงก็ผู้ชายเหมือน ๆ กับกู ถ้าถามว่ากูรังเกียจมึงไหมตอบได้ทันทีเลยว่า ‘ไม่’  มึงเป็นน้องชายคนสำคัญของกู ไม่มีทางที่กูจะเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้มาขีดคั่นความสัมพันธ์ของพวกเรา แล้วที่สำคัญที่สุดนะปิง”

“อะไรครับ” พี่เชนวาดวงแขนขึ้นมาคล้องเอาคอผมไว้ ผมดีใจพี่เชนเข้าใจผม เราสองคนนั่งชิดกันพี่เขาโยกตัวผมเบา ๆ ทำท่าเหมือนเด็กแล้วก้มลงมากระซิบ

“มึงเจ๋งโคตรที่ปราบท่านประธานคนนั้นได้ มึงเห็นไหมวันนั้นจู่ ๆ คอมก็ร่วงลงมาจากโต๊ะ กูสงสัยอยู่แล้วเชียวแต่ก็พยายามตัดประเด็นมึงออกไป ที่แท้หึงโหดนี่เอง หึหึ”

“พี่เชนครับไม่ใช่แบบนั้นพี่ คุณเอย์เขาไม่มาหึงผมหรอก ที่สำคัญคือเขาจะมาหึงผมทำไม? หึงกับใคร? ผมกับเขาห่างกันไปนานมากแล้วครับ ผมก็บอกพี่ไปแล้วนี่ว่าเราไม่ได้ติดต่อกันมาสามปีกว่าแล้ว”

“เด็กเอ๊ยเด็กถ้าเขาอยากจะจบกับมึงจริง จะย้ายมึงไปทำงานที่บริษัทเขาทำไมกันว๊าา...” พี่เชนยีหัวผมเล่นอย่างเคย ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้  คำพูดพี่เชนไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคิด

“ผมกับคุณเอย์จบกันนานแล้วจริงพี่ ผมไม่โกหกหรอก”

“เข้าใจแล้วครับ จบแล้วก็จบดิ่วะมึงจะอธิบายอะไรนักหนา ทำอย่างกับกูเป็นแฟนใหม่มึงต้องอธิบายเพราะกลัวว่ากูจะเข้าใจผิดงั้นแหละ”

“เฮ้ยผมเปล่า” ผมรับปฏิเสธ ยกแขนหนักๆที่พาดคอผมอยู่ออก พี่เชนหัวเราะหึหึ ยิ่งแกล้งล็อคคอผมแน่นกว่าเก่าเสียอีก

เสียงฟ้าร้องคำรามมาจากด้านนอก ดูท่าว่าวันนี้ฝนอาจจะตก คิวผมนอนเฝ้าออฟฟิศอีกต่างหาก ไม่รู้วันนี้พี่เชนจะกลับหรือจะนอนค้างที่นี่ด้วยกัน

ผมทำอาหารง่าย ๆ เป็นผัดแครอทใส่เต้าหู้ แล้วก็แกงจืดไข่ เราสองคนนั่งทานข้าว พี่เชนเดินไปเปิดเพลง เสียงดนตรีดังเบา ๆ คลอเคล้าบรรยากาศช่วงหัวค่ำคือผ่อนคลายมาก

“เดี๋ยวคืนนี้กูต้องกลับไปค้างที่บ้าน มึงอยู่คนเดียวโอเคนะ”

“ครับ” ผมตอบรับแอบผิดหวังนิดๆเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ถ้าพี่เชนค้างด้วยผมจะได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษก่อนนอน ผมเริ่มจะคล่องแล้วนะ สำเนียงนี่คือก๊อปปี้คุณพี่มาเปี๊ยบ เคยลองพูดให้พี่พิมฟังด้วย รายนั้นหัวเราะใหญ่บอกผมกับพี่เชนทำไมพูดสไตล์เดียวกันเลย ผมเลยบอกโปรแกรมเมอร์สไตล์ไง พี่เชนเบะปาก

“อะไรวะกูไม่ค้างด้วยแค่นี้ร้องไห้เหรอมึง ตาแดงเชียวนะ”

“เรื่องเหอะ” พี่เชนกินเสร็จแล้ว พูดแหย่ผม ผมเลยลุกขึ้นเอาจานไปวางลงล้างที่อ่างล้างจานใกล้ ๆ กัน กลิ่นฝนลอยมาแตะถึงปลายจมูกทั้งที่อยู่ในห้องแอร์แท้ ๆ ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนๆแว่วเข้ามา

“พี่เชนครับผมว่าถ้าพี่จะกลับอยู่แล้วรีบหน่อยก็ดีนะพี่ สามทุ่มกว่าแล้วเดี๋ยวฝนทำท่าว่าจะตกกว่าจะถึงบ้านอีก”

“อือฮึ  งั้นเดี๋ยวจะออกไปเลยมึงอยู่ได้ โอเคนะ”พี่เชนคว้าเอากระเป๋ากับเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมาพาดไว้ที่แขนก่อนหยิบกุญแจรถแล้วเข้ามาขยี้หัวผมอีกครั้ง

“เดี๋ยวผมออกไปส่งพี่” พี่เชนส่งยิ้มอบอุ่น วันนี้ตอนขามาผมเห็นรถพี่เขาจอดอยู่ด้านหน้าไม่ได้ขับเข้ามาจอดในบริษัท ก็มีคิดๆไว้อยู่นะพี่เขาคงจะกลับบ้าน

“กูไปแล้วนะปิง มีอะไรด่วนโทรตามกูได้เลย เข้าใจใช่ไหม”

“ครับพี่” พี่ขาเอาแจ๊คเก็ตขึ้นสวม ผมก็ยืนมอง พี่เชนพับ ๆ แขนเสื้อขึ้นไป พอถึงไอ้ข้างขวาที่พี่เขาไม่ค่อยถนัดเพราะต้องใช้มือซ้ายพับพี่ท่านเลยยื่นแขนข้างนั้นมาให้ผม ผมรู้งานรีบพับๆๆขึ้นไปให้เสมอกับอีกข้าง

“ไปแล้วมึง พรุ่งนี้เจอกัน” มือใหญ่ยีลงที่หัวผมอีกครั้งเบา ๆ ก่อนก้าวขึ้นรถแล้วขับตีโค้งรถมาจอดลง ผมเลิกคิ้วถามว่าลืมอะไร พี่เชนกดกระจกลงตะโกนไล่ผมให้รีบเข้าตึกไป


ผมเลยรีบวิ่งปรื๊ดเข้าไปแล้วล็อคประตู คือจริง ๆ ก็มีพี่ยามสองคนเฝ้าที่ด้านนอกแต่พี่เชนจะบอกเสมอว่าห้ามไว้ใจใคร เราต้องล๊อคห้องทุกครั้งที่จะนอนหรือนั่งทำงานเพราะบางที่พลั้งเผลอเราไม่รู้จักตื้นลึกหนาบางของเขา ผมก็เออทำตามนะ ผมยืนอยู่ด้านในล๊อคประตูกระจกด้านหน้าให้แน่นหนากำลังจะขยับผ้าม่านรูดปิด ดั๊นไปสังเกตว่ามีรถบีเอ็มสีขาวคันคุ้นตามากจอดอยู่ไม่ไกล คือจอดอยู่ด้านหน้าเลยนั่นแหละเมื่อกี้ตอนออกไปส่งพี่เชนนี่ผมไม่ได้สังเกตเลยนะ


ใจผมนึกหวั่นคิดไปถึงใครบางคนแน่แล้ว แต่พี่เขาไม่เคยมาที่นี่ ไม่น่าจะรู้ว่าผมจะค้างที่ไหนวันไหนยังไง ผมเลยลองเปิดม่านมองแบบชัด ๆ คือเป็นพี่เอย์จริงด้วย ลงมายืนข้างรถตั้งแต่เมื่อไหร่? เสียงฟ้าร้องคำรามมาอีก แย่ชะมัดทำตัวแบบนี้เกิดฝนตกขึ้นมาผมไม่เรียกเข้ามาหลบนะบอกไว้เลยไม่ใช่นิยายน้ำเน่า


ผมปิดไฟด้านหน้า ไม่สนใจคนที่ยืนพิงรถอยู่ด้านนอก เดินเข้ามาล้างจานล้างแก้วของผมต่อ ฟังเพลงไปเรื่อยๆ เช็ดครัวเช็ดโต๊ะไป พอทุกอย่างเรียบร้อยผมเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่โต๊ะทำงาน เอาเฉพาะอันที่คิดว่าจะใช้แล้วเดินขึ้นไปที่ห้อง กะว่าคืนนี้จะยิงยาวเพราะมีงานเขียนโปรแกรมค้างอยู่ เลยคิดว่ากว่าจะได้นอนอาจจะดึก แต่ก็ไม่แน่เพราะผมทำไว้เยอะแล้วเหมือนกันเหลือแก้ไขต่ออีกนิดหน่อยเท่านั้น  อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเปิดเพลงเบา ๆ จากมือถือเสียบเข้าลำโพงที่ต่อเอาไว้รอบห้อง เพลงเบา ๆ ช้า ๆ เก่าๆความหมายดี ๆ ผมชอบฟังนะ เมื่อก่อนจะฟังแต่เพลงเพื่อชีวิต เพลงลูกทุ่ง เดี๋ยวนี้มีฟังเพลงสากลตามที่เชนบ้างเพลงไทยสากลธรรมดาก็ฟังบ่อย กลายเป็นว่าผมฟังได้ทุกประเภทอ่ะ


ผมนั่งทำงานจนลืมไปเลยว่ามีใครบางคนยืนพิงรถคันสวยอยู่ด้านหน้า เสียงฟ้าร้องคำรามผ่านเข้ามากระทบโสต ผมสะดุ้งรู้สึกตัว นึกได้ในทันที ไม่รู้ป่านนี้คนที่ยืนรอมันจะกลับไปแล้วหรือว่ายัง ผมคิดแล้วคิดอีกก่อนตัดสินใจลุกไปที่หน้าต่าง ห้องผมอยู่ชั้นสามนะสูงมากเหมือนกันแต่ก็พอจะมองเห็นชัด เพราะเมื่อกี้รถพี่เอย์จอดได้ตำแหน่งตรงห้องนอนผมพอดี


แหวกม่านเปิดออกเป็นช่องเล็ก ๆ เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งในชุดทำงานเมื่อตอนกลางวัน เนคไทถูกถอดออกแล้ว แขนเสื้อสองข้างพับขึ้นไปนิดๆ พี่เอย์กึ่งนั่งกึ่งยืนพิงอยู่ข้างรถในมือ  ถือโทรศัพท์กำไว้เพราะแสงของมันที่ลอดออกมา  พี่เขาเงยหน้ามองขึ้นมาที่ห้องนี้ ผมคิดว่ามันมองไม่เห็นผมหรอก เพราะว่าถ้าหากว่าเห็นตอนนี้เราสองคนจะสบสายตากันพอดี


ผมกำลังจะตัดสินใจเดินกลับมานั่งทำงานต่อ แต่แล้วจู่ ๆมือที่กำโทรศัพท์มือถือไว้ของมันชูขึ้น หน้าจอมือถือถูกจับพลิกให้วางอยู่ในแนวนอน มือถือซัมซุงเครื่องใหญ่ที่มันชอบใช้เป็นประจำ ผมไม่รู้ว่ามันโชว์ข้อความอะไรให้ผมดู เสียงฟ้าร้องคำรามมาอีกระรอกแต่ฝนก็ยังไม่ตกลงมา พี่เอย์เงยหน้ามองมาที่ผมในมือยังชูโทรศัพท์ไว้สูงมาก มันชูจนสุดแขนแต่ผมคนนี้ก็ยังมองไม่เห็นอยู่ดี ว่ามีข้อความอะไรเขียนอยู่ที่หน้าจอนั่น ผมรู้แต่ว่าเป็นตัวอักษรวิ่งแต่ไม่สามารถอ่านได้เพราะคือมันไกลมากและตัวหนังสือคือเล็ก


ผมจ้องมองดูมันแล้วคิด ภาวนาขอให้มันเลิกทำอะไรแบบนี้เพราะผมมองไม่เห็นหรอกว่าในนั้นเขียนอะไร สิ่งไร้ประโยชน์จะทำไปเพื่ออะไร ต่อให้มันชูจนปวดแขนไปหมด หรือแหงนมองจนหน้ามืดผมคนนี้ก็ไม่ลงไปเปิดให้มันอยู่แล้ว


ผมได้ยินเสียงไลน์ผมเด้งเลยเดินไปหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นชื่อของใครสักคนที่ผมเพิ่งจะกดตอบรับไปเมื่อสองสามวันก่อน ข้อความที่ส่งมาคือ (อีเมลแอดเดรส)   ผมสะกิดใจขึ้นมาทันทีนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่พี่เอย์ยื่นอีเมลแอดเดรสให้ผมแล้วบอกให้กลับไปแฮก  รีบคว้าเอากระเป๋าหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆนั้นขึ้นมาดูเทียบกัน สรุปคือมันเป็นแอดเดรสเดียวกัน ผมลุกขึ้นไปแอบดูมันอีก พี่เอย์ยังชูมือถือค้างไว้อยู่แบบนั้น ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะสื่ออะไร พี่เอย์กำลังทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์มากๆก็แค่นั้น ผมโมโหความรั้นของมัน ทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะปิดโปรแกรมที่กำลังทำอยู่ เข้าอีกหน้าจอเพื่อทำการค้นหารหัสแฮกอีเมลที่มันฝากให้ทำ คือกำลังคิดว่านี่มันมาทวงงานผมดึกๆดื่น ๆ ขนาดนี้คือคุณต้องการอะไร??


เวลาผ่านไปหลายนาที ผมเพียงรอว่ารหัสตัวไหนที่สามารถใช้เปิดเข้าไปได้ เครื่องค่อนข้างเร็วแต่อย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลา แฮกข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่สุดท้ายล็อคอินรหัสได้เรียบร้อย


ผมเคาะปุ่มเอ็นเทอร์ พรืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เต็มหน้าจอ


ผมตาค้างนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าในนั้นมีอะไร



Letter พันหนึ่งร้อยเก้าสิบฉบับ เรียงวันที่เป็นระเบียบตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน โดยที่จดหมายฉบับแรก เป็นวันที่ที่ผมจำได้แม่นยำมากที่สุด   วันที่ผมกับมันต้องห่างไกลกัน วันที่ผมนั่งร้องไห้อย่างหมดอายอยู่ในห้องของมัน กินข้าวผัดไหม้ ๆ กับไข่ดาวดำๆทั้งน้ำตา....วันนั้นคือวันที่หัวใจของผมแตกสลายลง



ผมเลื่อนเมาส์ช้า ๆ คลิกเข้าไปดูที่จดหมายฉบับนั้น ตัวอักษรทุกตัวเรียงร้อยปรากฏแก่สายตา... ฉบับแล้วฉบับเล่า





“ตอนนี้ที่เมืองไทยคงจะเป็นวันใหม่แล้ว  มึงยังร้องไห้อยู่ไหมปิง เมื่อวานนี้ตื่นแล้วสงสัยรึเปล่าว่ากูหายไปไหน กูอยู่ที่นิวยอร์กนะ ไม่ต้องห่วงกู ไม่ต้องตามหา หมาปิงครับ กูอยู่กับมึงตลอดเวลาอยู่แล้ว หัวใจเราสองคนวางอยู่ข้างกันเสมอ ไม่ว่าตอนนี้ตัวกูจะอยู่แสนไกลแค่ไหน แต่ใจกูคนนี้ขอฝากไว้ที่มึงแค่คนเดียวเท่านั้น”





“หมาปิง เห็นข้าวผัดกุ้งที่กูผัดวางไว้ให้แล้วใช่ไหม ตลกไหมครับ กูทำไม่ค่อยเป็นแต่ก็ยังอยากจะทำให้มึงได้กิน ขอโทษนะไข่ดาวก็ดำไปหมด  ถ้าไงกินข้าวแล้วอย่าลืมกินยาด้วยตัวมึงอุ่น ๆเดี๋ยวจะไม่สบาย”





“ปิงครับ วันนี้กูไปลงเรียนเพิ่มที่สถาบันสอนภาษา ขากลับลองใช้ซับเวย์ วิ่งแทบไม่ทันตอนที่เขาประกาศเรียก หิ้วกระเป๋าเต็มสองมือเลยคงต้องหากระเป๋าใบที่ใหญ่กว่าเดิมแล้ว ถ้ามึงอยู่ข้าง ๆ ด้วยก็คงดีจะได้ให้เลือกแบบที่มึงชอบให้กูใช้สักใบ”





“ปิงครับวันนี้กูตื่นสายนิดหน่อย  เพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย  รู้สึกหิวข้าวจนปวดท้องเดินลงด้านล่างดูว่าจะมีอะไรกินบ้างไหม เพื่อนคนไทยทำแต่มาม่ามาหลายวันแล้ว คิดถึงข้าวผัดกุ้งของมึงมากที่สุด อากาศเริ่มเย็น ๆ หนาวววว”





“หมาปิง วันนี้กูโทรหาซ่าร์มันบอกมึงโทรถามเรื่องกูด้วย  ปิงครับกูสบายดี ตอนนี้กูเรียนอยู่ที่นิวยอร์กคิดถึงมึงมาก สามปีกูก็กลับแล้ว กูคิดถึงมึงนะ รักเสมอ”





“ปิงครับ วันนี้กูลองแวะซุปเปอร์ที่นี่ดู มองเห็นมะเขือเทศลูกโต เห็นแครอทที่มึงชอบ ถ้าตอนนี้เราสองคนอยู่ที่นี่ด้วยกัน กูจะโอบไหล่มึงไว้แล้วบอกกับมึงว่า วันนี้อยากกินข้าวผัดมะเขือเทศ  มึงต้องหันมาส่งยิ้มให้กูแล้วบอกใส่แครอทลงไปด้วยดีไหมครับพี่เอย์”





 
“วันนี้มหาลัยเปิดเรียนเป็นวันแรก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ยังไงกูก็ไม่ชินเสียที เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง กลับมาต้องอ่านเพิ่มเติมเองอีกเยอะเลย พักเหนื่อยโดยการกดอ่านแมสแสจของมึง ตอนนี้ที่เมืองไทยกี่โมงแล้วนะ หมาปิงมึงกำลังทำอะไรอยู่ ได้แวะไปที่ห้องของเราบ้างไหม ผ่านไปหลายเดือนแล้ว.......มึงเลิกร้องไห้หรือยัง”





“หนาวจังปิงครับ วันนี้กูก็ออกไปดูดาวมานะ ไม่รู้ว่าจะใช่ดาวดวงเดียวกันกับที่มึงมองอยู่ทางนั้นไหม อย่างน้อย ๆ เราสองคนก็ยังอยู่ภายใต้ผืนฟ้าแผ่นเดียวกันใช่ไหม ยิ้มให้กูสิปิง ยิ้มแล้วมองขึ้นมา กูกำลังมองดาวดวงนั้นอยู่ มึงเองก็กำลังมองที่ดาวดวงนั้นเหมือนกันใช่ไหม”






“หมาปิงตอนนี้ที่นี่เข้าหน้าหนาวอีกแล้ว คืนนี้มีหิมะตกลงมาด้วยนะ  ที่เมืองไทยตอนนี้คงจะหนาวมากเหมือนกันใช่ไหม ช่วงกลางคืนมึงต้องห่มผ้าหนา ๆ นะรู้ไหมครับ วันนี้ได้ออกไปช่วยแม่กับพี่ขมที่ร้านหรือเปล่า ทานข้าวให้เป็นเวลาด้วยนะ”






“เที่ยงคืนกว่าแล้ว กูกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ คิดถึงมึงมาก ปกติจะเปิดดูรูปในโทรศัพท์วันนี้เลยตัดสินใจปริ๊นส์ออกมา ใส่กรอบตั้งไว้ที่โต๊ะ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย คิดถึงหมาจะได้มองเลยไม่ต้องไปกดมือถือค้างไว้อีก บอกตัวเองว่าสู้ ๆ ใกล้จะสอบเต็มทีแล้ว”




“เวลาผ่านไปช้ามากเลย สองปีทำไมรู้สึกว่าโคตรนานทั้งที่ตอนอยู่กับมึงวัน ๆ นึงแปปเดียวเท่านั้นจริง ๆ   วันนี้กูออกไปดูสถานที่ฝึกงาน เป็นบริษัทใหญ่มากอยู่นอกเมืองออกไปนิดเดียว มีวิศวกรคนไทยคอยแนะนำกูกับเพื่อน ๆ ด้วย พี่เขาดีกับกูมาก”





“ปิงครับ ตอนนี้มึงคงจะเรียนจบปริญญาตรีแล้วใช่ไหม ทำงานที่ไหนเหรอ? ส่งข่าวมาบอกกูหน่อยได้ไหม ข้อความที่มึงไม่ได้ส่งมานานปีนึงแล้ว ทุกวันนี้กูเปิดอ่านอยู่แต่ข้อความเก่า ๆ ของมึง อ่านทุกวันซ้ำๆ กูบอกตัวเองอยู่เสมอว่ามึงยังไม่ลืมกูหรอก มึงแค่ไม่ว่างเท่านั้น กินข้าวแล้วใช่ไหมหมา  มึงอ้วนขึ้นหรือเปล่าหรือว่าผอมลง ผมล่ะยาวขึ้นบ้างไหมแวะไปซอยออกบ้างนะ มึงชอบบ่นว่าร้อนเวลาเตะบอลจะได้ไม่รำคาญ”






“ในที่สุด เหลืออีกแค่สัปดาห์เดียว การรอคอยที่เนิ่นนานจะได้จบลงเสียที ถ้ากลับวันนี้เลยได้กูก็อยากจะทำ คิดถึงมึงจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว แต่ต้องรอส่งเรื่องปริญญาบัตรเลยต้องยืดเวลาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ คอยดูนะถ้าไปถึงที่นั่นกูจะรีบไปหามึงเลยทันที มึงอยากได้อะไรไหมกูจะซื้อกลับไปด้วย เมื่อวานไปเลือกซื้อกระเป่าให้แม่มึงแล้ว มีเสื้อสเวตเตอร์ของพี่ขมด้วยนะ ส่วนของมึง....ไม่บอกดีกว่าซื้อแล้วแหละแต่จะเก็บไว้เป็นความลับก่อน”





“ปิงครับมึงอยู่ไหนเหรอ??  ตอนนี้กูกลับมาแล้วนะแต่มึงหายไปไหนเหรอ?  กูไปตามหามึงทุกที่ๆมึงเคยอยู่และเคยไป ที่ร้าน  ที่บ้าน  ที่หอ  ที่สนามบอล  ที่สะพานพุทธ ทำไมกูถึงไม่เจอมึงเลยครับ??  มึงย้ายบ้านย้ายร้านไปอยู่ที่ไหนแล้ว สามปีทำไมอะไรๆถึงได้เปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้.....ได้โปรดเถิดหัวใจ  ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยผมด้วย....ผมต้องทำยังไงถึงจะได้เจอกับหมาปิงของผมอีก...ได้โปรดช่วยผมที....ผมหามันไม่เจอ หัวใจของผม.......”




ครืน ~  ครืนน ~


ผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งตัวชาอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานแค่ไหน เสียงฟ้าร้องปลุกให้ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาที่มองจอภาพพร่าเบลอไปหมด เป็นเพราะหยดน้ำตาใสที่กำลังเอ่อล้นออกมา


ผมลุกขึ้นเดิน ลากขาไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ตัวทั้งตัวหนักอึ้ง หัวใจของผมเจ็บปวดมากมายจริง ๆ ความรู้สึกอะไรที่เอ่อล้นอยู่ภายในตีกันให้วุ่นวายไปหมด


ผมหลับตาลงแน่นภาวนาให้ใครคนนั้นกลับไปแล้ว ก่อนที่ผมจะแหวกผ้าม่านเป็นช่องเล็กๆแล้วมองลงไปอีกครั้ง


คุณเชื่อไหม....คนอย่างพี่เอย์คนนั้น คนอย่างคุณเอย์ตั้น อัศวเหมมินทร์ คนๆ นั้น ยังยืนมองผมอยู่ที่เดิม สายตาที่ส่งขึ้นมาแน่วแน่และมุ่งมั่น  แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผมคนนี้ถึงกับกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมาอย่างหมดอาย ในมือที่เคยชูหน้าจอโทรศัพท์มือถือค้างไว้ บัดนี้เปลี่ยนเป็นไอแพดจอใหญ่ยกชูขึ้นไว้เพื่อให้ผมได้มองเห็น



ข้อความตัวหนังสือขนาดใหญ่โต ชัดเจน....



V



V



V



V



V



V



V



V




“ขอโอกาส”







อยากเพียงหมุนเวลาให้เดินกลับไปเหมือนในวันวาน

อยากจะขอ...เปลี่ยนผันเรื่องราวที่เคยเป็นไป

อยากกลับไปบอกเธอ

บอกว่าฉันเสียใจเพียงใด

และอยากจะขอให้เธอกลับมารักฉันดังเดิม....





Tbc.


# ขนมปังกาแฟคัมแบคเวลลล  คืองานร้อนมากเสพแล้วระวังลวกหัวใจนะคะ  คึคึ ตรง ๆ เลยนะตันมาสองวันค่ะเมื่อคืนฟังเพลงแล้วเห็นมีเม้นท์เรียก  แหม่..ตอนนั้นอยากบอกมากว่าเรายังไม่ได้แต่งเล้ยยยเพื่อนเราคือนั่งหัวเราะเรามากก๊ากกลั่นห้อง ตันมากค่ะนึกอะไรไม่ออก  เลยรวบรวมสมาธิใหม่แล้วนึกถึงทุกคนที่รอ ทุกๆกำลังใจที่ทิ้งไว้ให้กัน ตั้งท่าประหนึ่งกำลังประดิษฐ์วิทยานิพนธ์ 555  ที่สำคัญได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนๆนักอ่านส่งเพลงมาให้ค่ะ คือดี คือชอบ เราฟังปุ๊บไอเดียร์เกิดพล๊อตเกิด แต่งปรื๊ดดดดเดียวฉลุยเมื่อคืนนี้เอง  วันนี้ก็ทวนแล้วอ่านให้เพื่อนฟัง มันโอเราโอ ก็คือลงค่ะ

# ไม่รู้ว่าตอนหน้าหมาปิงจะให้โอกาสพี่เอย์ได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างไหมนะ?? ไว้คิดก่อน ใครมีเพลงอะไรดีๆ บอกมานะ บางทีเราคิดเองก็ตัน ฟังเพลงเปิดไอเดียร์ได้ค่ะ

# ขอบคุณที่รักและเอ็นดูปิงกับพี่เอย์ ช่วยดูแลกันต่อไปด้วยนะคะ :mew1:

ปล. มีนักอ่านหลายท่านที่หวั่นใจกับดราม่า ไม่กล้าอ่านแต่ก็ยังน่ารักคืออุตส่าห์ทิ้งกำลังใจไว้ให้ คือเราซึ้งค่ะ ตอนนี้ไม่ม่าหรอก ไม่ร้องไห้แล้ว กลับมาอ่านกันต่อนะคะ  :a2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2014 09:45:11 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
 :z13:
หมาปิงให้โอกาศพี่เอย์เถอะนะ สงสารพี่เอย์และก็สงสารตัวเองด้วย ฮือออออออออออ
ตอนหน้าเคลียร์กันแล้วใช่ไหม เข้าใจกันสักทีเถอะ คนอ่านปวดตับบบ  :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2014 12:39:00 โดย GintoniC »

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สงสารพี่เอย์  :hao5:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
พี่เอย์ขอโอกาศ จะได้โอกาศ หรืออากาศกลับไปกันนะ ลุ้นๆ  :hao5:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ซักทีหมาปิงคนรอลุ่นจนนอนไม่หลับแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อร้าสกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พี่เอย์ววววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
หมาปิงงงงง รีบให้โอกาสพี่เอย์เถอะะะะ เราอยากฟินแล้ววว

ออฟไลน์ O0PiCo0O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :a5:พี่เอย์มาแหวกแนวนะ ก็...น่าใจอ่อนอยู่ :mew2:
คืนดีกันเหอะ อยากเห็นหวานๆล่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ต่างคนต่างรอ คนหนึ่งรอการติดต่อกลับมา
ส่วนอีกคนรอเวลาที่จะได้เจอกัน

ปิงจะให้โอกาสพี่เอย์หรือไม่
ก็อยากให้พี่เอย์ได้อธิบายอะไรบ้าง
แล้วจะตัดสินใจยังไง ก็เคารพการตัดสินใจของปิง
ถามใจตัวเองดีดีนะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ร้องไห้หนักกว่าบันทึกของหมาปิงอีก

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
ฮรื้อออออออออออ พี่เอย์  เอาไปเลยค่ะ เอาไปเลย  มีอะไรน้องยกให้หมดเลย เทใจหมดหน้าตักให้พี่เอย์แล้ว :sad4:
หมาปิงว่ายังไง  อย่าใจแข็งกับพี่เอย์ต่อเลยนะ  แต่พี่เอย์กรุณาอธิบายเหตุผลให้ปิงฟังอย่างช้า ๆ และชัด ๆ เถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มันไม่ต้องปิดบังกันต่อไปแล้วหนิ  งานนี้ห้ามปากหนักแล้วนะ เห็นแล้วใช่มะว่าเวลาหมาปิงมันบทจะเย็นชา มันทำได้ดีแค่ไหน เค้าอยากได้โมเม้นท์เอย์ปิงกลับมา  o9
ส่วนพี่เชนตอนนี้ก็หล่อเหมือนเดิม อิอิ

ออฟไลน์ jamlovenami

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอ๊ยยยย น้ำตาซึมเลยอ่ะ (เผลอกัดปากตัวเอง.....เจ็บชิบๆเลย TT)

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด