DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 615328 ครั้ง)

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
รอจ้าาา

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
สู้ศนะน้องปุย ท่องไว้ทำได้ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

FIVE






        ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ผมต้องหลบหนีไปอยู่ที่ห้องพี่หมอวีร์จนกว่าร่างกายตัวเองจะเป็นปกติ แม้จะเคยทรมานและเจ็บปวดอย่างหนักมาแล้วหนึ่งครั้ง ก็ไม่ได้ช่วยให้ครั้งต่อๆมารู้สึกดีหรือชินชากับสิ่งที่พร้อมจะฉีกทั้งร่างกายของผมให้ขาดสะบั้นและแตกสลายทั้งร่างและวิญญาณ สิ่งที่อาจารย์จอนห์นี่ได้ฝึกให้กับผม ทั้งเรื่องสมาธิ และการเข้าถึงอีกส่วนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในกายผมมันไม่ง่ายเลย อาจารย์จอนห์นี่ให้ผมจับตัวตนอีกหนึ่งร่างให้ได้ ถ้าผมสัมผัสมันได้ผมจะควบคุมมันได้ ผมก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้นที่ผมจะสามารถทำได้ก็คือววันที่พระจันทร์เต็มดวง วันที่ความเป็นมนุษย์ที่หลับใหลได้ตื่นขึ้นมาและพร้อมจะอาละวาดจนกว่าจะได้เป็นอิสระ

        ความน่าสงสารก็คือผ่านมาสองครั้งแล้ว แต่ผมไม่สามารถจับสัญญาณอะไรได้เลย สุดท้ายก็ได้แต่นอนหอบหายใจแรงกับร่างกายที่สะบักสะบอมจากความเจ็บช้ำจากภายใน

        “ไหวไหม” พี่หมอวีร์ถามพลางอุ้มผมขึ้นไปนอนบนโซฟา ผมผงกหัวขึ้น ฝืนลืมตาขึ้นมองพี่หมอและรอบๆตัว

        ‘ผมทำห้องพี่หมอเละอีกแล้ว’

        ผมบอกอย่างอ่อนแรง

        “ไม่เป็นไร แค่นี้จ้างแม่บ้านมาเก็บได้” พี่หมอบอก

        ผมฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหว จึงทิ้งหัวลงกับโซฟานุ่มหลับตานอนพักเอาแรง แม้ว่าตอนนี้พี่เติร์ดอาจจะกำลังตามหาผมอยู่ ผมก็ได้แต่ขอโทษและปล่อยให้พี่เติร์ดเป็นห่วงต่อไปจนกว่าเรี่ยวแรงจะกลับมา

        ช่วงกลางดึกหลังจากที่ผมพักฟื้นร่างกายและได้วิตามินจากพี่หมอที่ช่วยให้ผมสดชื่นขึ้นมีแรงขึ้น ผมเดินกลับมาที่ห้อง ระเบียงห้องเปิดทิ้งเอาไว้เผื่อรอผมกลับมา หลังๆมานี้พอพี่เติร์ดรู้ว่าห้ามผมไม่ให้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกไม่ได้ เขาก็จำยอมที่จะไม่ล็อกประตูระเบียงหรือประตูห้องน้ำช่องทางประจำของผมเพื่อให้ผมออกไปเที่ยวเล่นและกลับมาได้อย่างไม่ลำบากหรือออกแรงแงะประตูเองมากนัก

        พี่เติร์ดหลับไปแล้ว ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วขึ้นไปอยู่บนท้องกับหน้าอกของพี่เติร์ด เดินวนเวียนหาที่ๆเหมาะกับตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนลงช้าๆ

        “อืม น้องปุย” พี่เติร์ดรู้สึกตัวตื่น

        ‘เมี๊ยวว’

        ผมขานตอบ

        “กลับมาแล้วเหรอครับ ไปเที่ยวไหนมาหืมเด็กดี” เสียงของเขางัวเงียสุดๆ “นอนนะครับนอน”

        ในค่ำคืนที่แสนจะเหนื่อยล้า แต่ผมก็หลับอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของคนที่ผมรัก




        ผ่านไปสองเดือน การฝึกฝนของผมก็เริ่มจะสำเร็จผมจนอาจารย์จอนห์นี่เอ่ยปากชม ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่างในตัวที่ไหลเวียนรวมกับเลือด เป็นหนึ่งเดียวกับกล้ามเนื้อและโสตประสาททั้งห้า หรือแม้แต่ลมหายใจเข้าออกที่วิ่งผ่านไปทั่วร่างผมก็เริ่มจะสัมผัสได้ และในทุกๆคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ผมยังคงเจ็บและทรมาน แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือพอผมเริ่มจับอีกร่างหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวได้ ผมก็เริ่มที่จะควบคุมร่างกายปัจจุบันไม่ให้ต่อต้านอีกร่าง อาจารย์จอนห์นี่บอกว่าสิ่งที่ทำให้ผมกลายร่างไม่ได้ มันก็เป็นกลไลของธรรมชาติที่ป้องกันเราจากอันตราย คล้ายกับว่าถ้ามีฝุ่นผงจะเข้าตา ดวงตาของเราก็จะปิดฉับในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรเข้าไปทำร้ายดวงตาได้ หรือถ้าบางคนอยากฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจและสุดท้ายก็มักจะไม่เป็นผล เพราะร่างกายก็จะทำทุกทางให้กลับมาหายใจ ตัวของผมเองก็เช่นกัน หากผมสามารถควบคุมให้ร่างกายไม่ต่อต้านจิตวิญญาณของอีกร่างที่พยายามจะแสดงตัวตนได้ ผมก็จะกลายร่างได้ หากผมไม่สามารถยับยั้งได้ ร่างทั้งสองร่างที่อยู่ในร่างเดียวนั้นจะต่อสู้กันจนในที่สุดก็จะเสียชีวิตลงเนื่องจากอวัยวะภายในฉีกขาด

        “วันนี้พอแค่นี้ก็แล้วกันนะปุยเมฆ เธอฝึกมาห้าชั่วโมงแล้วมากกว่านี้ร่างกายจะไม่ไหวเอา” อาจารย์จอนห์นี่เขามาห้ามผมหลังจากที่ปล่อยให้ผมใช้เวลาอยู่กับการฝึกฝนตัวเองในห้องมืดมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยที่ผมยืนกรานที่จะไม่หยุดพักจนกว่าตัวเองจะพอใจ

        ‘อาจารย์ครับ ต้องฝึกอีกกี่วันผมถึงจะกลายร่างเป็นคนได้’

        จะว่าผมใจร้อนก็ได้ แต่ผมอยากกลายร่างเป็นคนได้เร็วๆ ไม่รู้ทำไม แต่ผมคิดว่าถ้าผมอยู่ในร่างของมนุษย์ผมก็อาจจะทำให้พี่เติร์ดสนใจผมได้มากกว่าที่เป็นแค่สัตว์เลี้ยง

        ทุกวันนี้พี่เติร์ดยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่ไม่ใช่ว่าพี่เติร์ดจะไม่มีคนคุยด้วย มีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาหาเขาเพราะสนใจเขา เทียบกับผมที่อยู่กับพี่เติร์ดแค่ในห้อง มีบางครั้งที่พี่เติร์ดจะพาผมออกไปข้างนอกด้วยแต่ก็ไม่บ่อย ผมจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่เติร์ดจะไปถูกใจใครหรือเปล่า

        ผมมองตาอาจารย์อย่างมีความหวัง ท่านมองตอบผมนิ่งๆ เดินเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวผมพร้อมใช้นิ้วเกาบนเส้นขนเบาๆ ผมที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันรู้สึกเคลิ้มไม่น้อยกับสัมผัสที่อ่อนโยน

        “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะปุยเมฆ แต่ว่า...เธอจะต้องใจเย็นๆ ฉันบอกไม่ได้ว่าอีกกี่วันกี่คืนที่เธอยังจะต้องพยายามต่อไป แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเธอมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ อีกไม่นานเธอจะต้องกลายร่างได้แน่ๆ”

        “ครับ ผมจะพยายาม”

        ตราบใดที่ยังกลายร่างไม่ได้ ผมก็ยังต้องฝึกต่อไป

        อาจารย์จอนห์นี่ขับรถมาส่งผมที่หน้าคอนโดพี่เติร์ดเช่นเคยในตอนเย็น ผมไม่รีบกลับขึ้นห้องเลยเดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ด้านล่างคอนโด เพราะคิดว่าวันนี้พี่เติร์ดคงจะกลับเย็น ให้อยู่ห้องคนเดียวผมเบื่อ พอไม่มีเพื่อนเล่นห้องว่างๆก็ไม่น่าอยู่

        เอ๊ะ นั่น...!

        ผมวิ่งตามเจ้าตัวเล็กสีฟ้าที่บินได้ มันบินเร็วมาก ผมต้องวิ่งตามแล้วกระโดดสูงๆเพื่อไล่จับมัน แต่ก็จับไม่ได้สักที เจ้าตัวสีฟ้ามีปีกสวยบินไปเกาะดอกไม้ ผมหยุดเอียงคอมอง ผมอยากเล่นด้วยแต่เจ้าผีเสื้อพวกนี้ชอบบินหนีผมทุกที ซึ่งผมไม่เข้าใจเสียเลยว่าทำไมพวกมันไม่อยากเล่นกับผม

        ผมวิ่งเล่นอยู่ในสวนหย่อมของคอนโดจนเหนื่อยเลยตัดสินใจกลับห้อง จะกลับขึ้นไปที่ห้องพี่เติร์ดจะต้องเดินผ่านลานจอดรถ ผมมองสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวไปด้วย มีมนุษย์บางคนจำผมได้ก็โบกมือทักทายผม ผมเดินต่อไปเรื่อยๆจนได้กลิ่นที่แสนจะคุ้นเคย

        ‘พี่เติร์ดกลับมาแล้ว’

        ผมจำกลิ่นพี่เติร์ดได้ ก็เลยวิ่งไปตามกลิ่นพี่เติร์ด เราจะได้ขึ้นห้องพร้อมกัน ผมเห็นรถพี่เติร์ดมาก่อนตัว ผมรีบวิ่งเข้าไปใกล้ แต่ทว่า...สิ่งที่ผมเห็นเบื้องหน้าไม่เป็นอย่างที่ผมคิด พี่เติร์ดไม่ได้อยู่คนเดียว เขากำลังกอดจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งข้างๆรถของเขา ผมยืนมองในมุมมืดอยู่นาน เห็นทุกการกระทำที่พี่เติร์ดทำกับผู้หญิงสาวสวย ริมฝีปากที่เคยจุ๊บจมูกผม ตอนนี้กลับจูบคนอื่น จุ๊บจมูกและแก้มของคนอื่น มือที่เคยกอดผมกล่อมผมให้หลับฝันดี ขณะนี้กำลังกอดคนอื่นอยู่

        น้ำตาของผมค่อยๆไหล ผมอยากวิ่งออกไปแล้วก็กัดผู้หญิงที่พี่เติร์ดกอด อยากไล่เธอไปไกลๆพี่เติร์ด ไม่อยากให้พี่เติร์ดไปยุ่งกับเธอ แต่ผมเป็นแค่แมวตัวเล็กๆ ผมจะไปทำอะไรได้

        “เคทรักเติร์ดนะ” เสียงหวานใสบอกกับพี่เติร์ด ขาหน้าของผมขยับไปข้างหน้าเมื่อพี่เติร์ดกำลังอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง

        ไม่นะพี่เติร์ด อย่าบอกว่ารักเธอ ห้ามพูด ผมขอร้อง

        “หึหึ พี่จะไปส่งที่บ้านนะครับ”

        ผมหมุนตัวกลับหลัง หลบหนีภาพบาดตาแล้วเลือกที่จะกลับขึ้นห้อง แต่เสียงโทรศัพท์ของพี่เติร์ดดังขึ้นเสียก่อน แล้วก็ไม่รู้ทำไมผมถึงหยุดยืนอยู่กับที่อย่างอยากรู้อยากเห็น แม้สิ่งที่กำลังจะได้รู้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดที่สุดก็ตาม

        “ที่ Gentle roughงั้นเหรอ กี่ทุ่ม เออได้ แต่เดี๋ยวฉันพาใครคนหนึ่งไปด้วย หึหึ เออแฟน จะพาไปเปิดตัว แค่นี้นะ ไว้เจอกับเพื่อน”

        “...!!!”

        แฟน?

        คนรัก?

        ไม่จริงใช่ไหม

        ผมเหมือนถูกคำสาป พี่เติร์ดโอบเอวเธอพาขึ้นรถแล้วขับออกไป ผมมองตามจนสุดท้ายก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดมิด หยาดน้ำตาได้บดบังการมองเห็น ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ขาทั้งสี่ข้างถูกยึดเอาไว้ด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็น ตอกย้ำให้ผมรู้ว่าผมไม่มีทางก้าวไปได้มากกว่านี้ ผมไม่มีทางก้าวออกจากสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วไปยืนแทนที่ผู้หญิงคนนั้น

        ผมเป็นแมว แต่เธอเป็นมนุษย์...มนุษย์ก็ต้องคู่กับมนุษย์ ถ้าผมสามารถกลายร่างเป็นคนได้ในตอนนี้ ผมเองก็อยากบอกพี่เติร์ดเหมือนกันว่าผมรักเขา

        ผมรักพี่ ได้ยินเสียงของผมไหม

        เสียงเล็กๆที่ดังได้แค่ในหัวใจแต่ไม่อาจส่งไปถึงคนที่อยากให้ได้ยิน

     
ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ต่อ



  ผมไปหาพี่หมอวีร์ที่ห้องด้วยร่างที่เหมือนจะไร้วิญญาณเพราะจิตใจทั้งหมดของผมลอยหายไปพร้อมกับพี่เติร์ด ผมหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่หมอวีร์ แรงจะส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในยังไม่มี แต่ประตูค่อยๆเปิดออก ผมเงยหน้ามองเจ้าของห้อง ฝืนแรงส่งเสียงเรียกเบาๆ

        ‘พี่หมอ ช่วยผมด้วย ฮึก’

        พี่หมอทำหน้าตกใจ ก้มตัวลงอุ้มผมขึ้นพาเข้าห้อง ผมร้องไห้อยู่กับอกพี่หมออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจนเหนื่อยโดยที่พี่หมอไม่ได้ถามอะไร และผมก็ไม่มีใจจะเล่า ผมแค่อยากร้องไห้ อยากปลดปล่อยความอัดอั้นที่มันถักทอพันกันยุ่งจนแก้ไม่ออก จนผมหยุดร้องไห้พี่หมอถึงได้เริ่มถาม ผมก็เล่าใหพี่หมอฟังทั้งหมดจนจบ พี่หมอไม่พูดอะไร บอกแค่ว่าให้ผมพักแล้วจะไปอุ่นนมมาให้ผมดื่ม

        ระหว่างที่รอพี่หมอวีร์ไปเอานมในโซนครัวมาให้ผม ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายากลายร่างของผมอยู่ที่พี่หมอวีร์ และเขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักที่วางโทรทัศน์ ผมลอบมองดูว่าพี่หมอกำลังทำอะไรอยู่ ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นไปบนชั้น ออกแรงใช้เท้าเขี่ยตรงที่จับลิ้นชักให้เปิดออก ผมเห็นแล้ว ยาของผมวางอยู่ในกล่องใส่ขนาดเล็ก ผมใช้เท้าเตะมันให้พลิกคว่ำแล้วเปิดออก เกิดเสียงดังเล็กน้อย พี่หมอรีบเดินออกมาดูพร้อมถ้วยใส่นม

        “ปุยเมฆ จะทำอะไร!” พี่หมอเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดผม เขามองผมหน้าเครียดแล้วรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้ ผมไม่รอช้าอ้าปากงับยาเม็ดนั้นเข้าปากแล้วกลืนลงคอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่จะถึงตัวผม

        ‘แค่กๆ’ ผมไอสำลักเพราะยาติดคอ พี่หมอพยายามจะง้างปากผมให้คายยาออกมา แต่ผมไม่ยอม กลั้นใจกลืนจนยาเม็ดใหญ่ไหลลงสู่ท้อง

        “ทำบ้าอะไรปุยเมฆ เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”  พี่หมอวีร์ด่าตวาดใส่ผมเสียงดัง ผมน้อมรับคำต่อว่า แต่ผมไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

        ‘ผมขอโทษ แต่ผมรักเขา’ ผมบอกเสียงแผ่ว

        “แต่ก็ต้องรักตัวเองไหมปุยเมฆ กินเข้าไปได้ยังไง ยามันอันตรายมากก็รู้ไม่ใช่หรือไง”

        ผมรู้ แต่ผมทนไม่ไหวแล้ว ทำไมคนอื่นถึงมีโอกาสที่จะได้ยืนอยู่เคียงเขา แต่ผมไม่สามารถทำได้ เพราะผมเป็นแค่แมว ต่อให้อยากจะสู้ดูสักตั้งก็ไม่อาจทำได้

        “ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะตีซ้ำ ไอ้แมวดื้อ” พี่หมอบ่นผมอย่างมีอารมณ์โมโห

        ผมหลับตาลงเพราะฤทธิ์ยาเริ่มทำปฏิกริยาบางอย่างกับร่างกาย เกิดอาการมึนงงในหัว ห้องเริ่มไม่อยู่กับที่และหมุนเป็นวงกลม จากนั้นภายในร่างกายผมก็เริ่มแปรปรวน อวัยวะภายในเดี๋ยวบีบรัด เดี๋ยวคลายตัวจนเริ่มเจ็บ เป็นความเจ็บปวดที่ผมพบเจออยู่ทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง แต่ไม่นานความทรมานก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีแบบที่ผมไม่เคยเจอ ร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมที่ดิ้นไปมาอยู่บนพื้นแค่ไม่กี่ตาราง ก็ชักกระตุกอย่างรุนแรงจนผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างที่เคยฝึกกับอาจารย์จอนห์นี่ คราวนี้เหมือนผมกำลังจะตายจริงๆ

        “ปุยเมฆ! หยุดๆ เฮ้ย ปุยเมฆ!” เสียงของพี่หมอตะโกนเรียกผม แต่ผมบังคับตัวเองไม่ได้

        ผมเริ่มหายใจไม่ออก มีอะไรบางอย่างมารัดอยู่ที่คอผม จากนั้นเส้นประสาททุกเส้นในร่างก็ขาดสะบัน ผมได้ยินเสียงทุกความเคลื่อนไหวในร่างกาย ผมรับรู้ได้ทุกอย่างก่อนที่ร่างของผมจะกระแทกเข้ากับกำแพงแล้วร่วงหล่นสู่พื้นอย่างจัง

        “ปุยเมฆ!” เสียงพี่หมอดังอยู่ข้างหู

        “ผม...ผมจะตายแล้วใช่ไหม” ผมถาม

        ชาตินี้ผมคงไม่มีวันได้อยู่กับพี่เติร์ดอีกแล้ว

        “ใจเย็นๆ นายยังไม่เป็นอะไร ใจเย็นๆนะ ตอนนี้นายอยู่ในร่างคนแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง” เสียงพี่หมอวีร์ถามอย่างร้อนรน พลางจับตรวจตามร่างกายผมไปด้วย ผมได้ยินว่าผมกลายเป็นคนแล้ว ผมก็ฝืนลืมตาขึ้นแล้วขยับลุกเผื่อที่จะก้มมองดูตัวเอง

        “โอ๊ย” ผมร้องเสียงหลงเพราะแค่ขยับนิดเดียวก็เจ็บร้าวไปทั่วร่าง

        “อย่าเพิ่งลุกสิ”

        ผมทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ได้ยินเสียงพี่หมอบ่นแล้วผมก็ยิ้มออกมาให้พี่หมอบ่นอีกคำโต ผมกำลังดีใจอย่างสุดแสน ตอนนี้ผมกลายเป็นคนแล้วจริงๆ

        แต่แล้วพอนึกถึงพี่เติร์ด นึกถึงภาพที่เขากอดจูบกับผู้หญิงคนนั้นที่เขาเรียกว่าแฟน เรี่ยวแรงที่เหือดหายก็เหมือนจะกลับมาทันควัน ร่างของผมดีดลุกขึ้นโดยไม่ได้สนใจอะไร หันหน้าเข้าหาพี่หมอวีร์ โผเข้าเกาะท่อนแขนใหญ่แน่น

        “พี่หมอ ช่วยผมด้วย ผมต้องไปหาพี่เติร์ด” ผมพูดรัวเร็ว

        “อะไรนะ พูดใหม่สิ”

        “พี่เติร์ดไปที่นั่น กับผู้หญิงคนนั้น ผมต้องไปหาเขา พี่หมอวีร์ ช่วยผมที พาผมไปหาเขาที”

        พี่หมอวีร์เริ่มจะเข้าใจความต้องการของผม เขาถอนหายใจ เปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งขัดสมาธิจ้องหน้าผมนิ่ง

        “ไปทำไม ไปแล้วจะได้อะไร”

        “...” ผมตอบคำถามของเขาไม่ได้

        “ทำไมต้องทำร้ายตัวเองเพื่อเขาขนาดนั้น ฉันไม่เข้าใจ”

        ผมยิ้มให้พี่หมอวีร์และตอบคำถามนั้นทั้งน้ำตา “ชีวิตผมหลังจากที่คุณยายจากไป ต่อมาก็พี่นิกกี้ที่ทิ้งผม ผมก็มีแค่เขา ผมไม่มีใคร เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นทุกอย่างในชีวิตแมวอย่างผม”

        ชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่ตื่นขึ้นมากินข้าว ต้องการการใส่ใจจากคนที่เป็นเจ้าของ ถึงผมจะชอบออกไปเที่ยวเล่น แต่สุดท้ายผมก็ต้องกลับมาหาเจ้าของผม มาให้เขาดูแลหาอาหารให้ทาน และปล่อยให้ผมหลับไปภายใต้การขับกล่อมของเขา ชีวิตผมก็มีเท่านี้ และคงจะเป็นแบบนี้ไปจนกว่าเราจะตายจากกัน แต่ในวันนี้ตอนนี้ผมขอแค่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อความรักของตัวเอง ผมไม่อยากเสียใจในภายหลังที่มีโอกาสแต่ไม่พยายาม

        “พี่หมอวีร์ ช่วยผมหน่อย ได้โปรด” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากดวงตา

        พี่หมอถอนหายใจแล้วยอมตอบตกลงในที่สุด “ก็ได้ แต่ฉันจะถือว่าครั้งนี้เธอติดหนี้ฉันนะ”

        “ขอบคุณครับ”

        พี่หมอชีวิตยาที่ทำให้ผมมีแรงเป็นปกติ แต่เป็นยาอันตรายที่จะใช้ได้แค่ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และพี่หมอยังช่วยหาเสื้อผ้าให้ผมใส่ สำหรับออกไปข้างนอก พี่เขาว่าจะไปที่แห่งนั้นที่เรียกว่าคลับสำหรับให้คนไปเที่ยวสนุกสนานในยามค่ำคืนต้องแต่งตัวให้เหมาะสม

        พี่หมอวีร์ใช้เวลาหาพิกัดของร้านที่ว่านั้นอยู่นานพอควร พี่หมอเล่าว่า มนุษย์กลายร่างถึงจะมีความเป็นมนุษย์ แต่ถ้าเลือกได้ก็จะไม่อยู่ร่วมกลุ่มกับมนุษย์ปกติ และเลือกที่จะไปเที่ยวคลับสำหรับมนุษย์กลายร่างโดยเฉพาะมากกว่า เพราะยามที่เมาบางคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้อาการก็จะออกจนไปถึงกลายร่างเป็นสัตว์โดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับผมนั้นอาการเมาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าเป็นอาการมึนงงเวียนศีรษะผมว่าผมพอจะนึกภาพออก

        “ถึงแล้ว” พี่หมอวีร์จอดรถลานจอด

        ร้านที่พี่เติร์ดมาเป็นสิ่งก่อสร้างสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋าซ้อนทับกันอยู่สามชั้น ด้านนอกประดับไฟหลากสีสันสวยงาม ผู้คนเดินเข้าเดินออกสวนกันเยอะแยะ มีทั้งคนสวยคนหล่อ ทุกอย่างดูใหม่ต่อชีวิตผมและทำให้ผมตื่นตระหนกได้พอควร เพราะเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่คุ้ยเคย ผมไม่เคยเป็นมนุษย์ ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง

        “แล้วจะเอายังไงต่อ” เสียงพี่หมอถาม

        ผมมองไปยังประตูที่คนเดินเข้าออก พี่เติร์ดคงอยู่ในนั้น และถึงผมจะกลัว ถึงผมจะยังเป็นมนุษย์ไม่เนียนเพราะติดการขยับการนั่งแบบแมวอยู่ แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะกินยาที่ช่วยให้กลายเป็นมนุษย์ และในวันหนึ่งผมจะต้องเป็นมนุษย์ให้ได้ เรื่องแค่นี้ผมก็ไม่ควรจะกลัวแล้วล้มเลิกกลางคัน

        “ผม...ขอเข้าไปในนั้นคนเดียว” ผมบอกก่อนจะหันไปมองสบตากับพี่หมออย่างจริงจัง ใบหน้าของพี่หมอวีร์เต็มไปด้วยความกังวล แต่เหตุผลที่ผมไม่ต้องการให้เขาเข้าไปด้วยก็เป็นความรู้สึกคล้ายกับว่าเวลาที่คุณต้องการจะทำอะไรสักอย่างที่งี่เง่า คุณก็ไม่อยากให้ผู้ปกครองหรือคนที่ไม่เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ทำอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผมจึงอยากจะเข้าไปหาพี่เติร์ดเพียงตัวคนเดียว

        ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันไร้สาระและงี่เง่าสิ้นดี แต่ต่อให้คนอื่นจะหาว่าผมบ้าบอกับพี่เติร์ดเกินไปก็ช่างปะไร เพราะเขาไม่ได้มาเป็นผมพวกเขาไม่มีทางเข้าใจในความรู้สึกของผม ว่าพี่เติร์ดมีความสำคัญมากที่สุดแล้วต่อชีวิตผมในปัจจุบันและจะสำคัญตลอดไปในอนาคต

        “ตามใจ” พี่หมอวีร์ถอนหายใจใส่ผมอีกเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าโทรศัพท์มาให้ผม “พกนี้ไว้ ถ้ามีอะไร กดตรงนี้แล้วโทรออกมาที่เบอร์ฉันทันทีเข้าใจหรือไม่” พี่หมอสั่ง

        ผมรับโทรศัพท์มาพลิกดู ลองกดโทรตามที่พี่หมอวีร์บอก จากนั้นเสียงเพลงก็ดังมาจากโทรศัพท์อีกเครื่องที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา

        “แบบนี้ใช่ไหมครับ” ผมถาม

        “ใช่ ฉันจะรออยู่ในรถ เสร็จแล้วก็กลับมา ห้ามไปไหนต่อเองโดยไม่ได้บอกฉันเป็นอันขาด เข้าใจไหม”

        “เข้าใจครับ” ผมพยักหน้ารับแข็งขันให้พี่หมอรู้ว่าผมจะทำตาม

        “ไม่ว่านายคิดจะทำอะไร ฉันก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน” พี่หมอเอนหลังลงกับเบาะที่นั่งพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายขึ้น

        “ขอบคุณครับ” ผมเอ่ย เปิดประตูลงจากรถ เดินห่างออกไปแค่สามก้าวผมก็หันกลับมามองพี่หมอวีร์อีกครั้ง เขามองผมอยู่และส่งยิ้มมาให้ ผมยิ้มตอบและรับกำลังใจจากอีกฝ่ายก่อนจะหันกลับมุ่งหน้าเข้าไปในคลับที่ว่า

        ความรู้สึกแรกที่ผมเข้ามาในคลับนี้คือผมไม่ชอบ คนเยอะเบียดเสียด กลิ่นควันบุหรี่และกลิ่นเหม็นหลายๆอย่างผสมปนเปกันมั่วไปหมดในอากาศจนแทบหายใจไม่ออก แต่มนุษย์พวกนี้เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลยเช่นที่ผมรู้สึก พวกเขายังคงโยกโยกย้ายร่างกายตามจังหวะเพลงอย่างบ้าคลั่ง จนบางครั้งก็มีใครบางคนเหยียบเท้าผม เดินชนผมจนผมเซ และส่งเสียงโหวกเหวกใส่หูผมราวกับคนบ้า

        ผมรีบเดินไปข้างหน้าแล้วสอดสายตามองหาพี่เติร์ด นอกจากนั้นผมก็ยังใช้การดมกลิ่นช่วยในการค้นหาไปด้วย แต่ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะกลิ่นของมนุษย์หลายคนปนรวมกัน มีกลิ่นน้ำหอม กลิ่นควัน และกลิ่นอื่นๆอีกมากมายที่เข้ามาในจมูกผมทำให้ผมหากลิ่นของพี่เติร์ดไม่เจอ ผมเดินวนอยู่หลายรอบจนเท้าระบมจากการถูกเหยียบ ผมเริ่มถอดใจแล้วหันหลังกลับจังหวะนั้นเองที่ผมได้เจอคนที่ผมมาตามหาเสียที

        ผมเห็นพี่เติร์ดแล้ว เขาอยู่ตรงนั้น กำลังเต้นอยู่กับผู้หญิงคนเดียวกับที่ผมเห็นที่ลานจอดรถ พวกเขาใกล้ชิดกันมากจนร่างกายของพวกเขาแนบติดกันไปทุกสัดส่วน ชิดติดกันชนิดที่เรียกได้ว่าพวกเขาแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน ความไม่พอใจวิ่งเข้าก่อกวนความรู้สึกผมเป็นอย่างแรก ถ้าเขากลับห้องไปแล้วมีกลิ่นของผู้หญิงคนนี้ติดตัวกลับไปละก็ ผมจะไม่ยอมให้พี่เติร์ดกอดผมเลย

        จากนั้น ความไม่พอใจก็เปลี่ยนเป็นความเศร้า ผมนึกถึงคำถามของพี่หมอวีร์ที่ถามผมว่า ผมมาที่นี่ทำไม มาแล้วจะได้อะไร มาเพื่อยืนมองพวกเขากอดจูบกันอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าผมเข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้นออกมาจากพี่เติร์ด ไม่ให้เธอเข้าใกล้คนที่ผมรัก ผมจะทำอย่างนั้นได้เหรอ มีหรือที่พี่เขาจะยอมให้ผมทำเช่นนั้น และถ้าผมทำ มีหรือที่เขาจะไม่ชกผมหรือเตะผมเข้าสักที เพราะในตอนนี้ผมเป็นคนที่พี่เติร์ดไม่รู้จัก ไม่เหมือนผมในร่างของแมวที่ต่อให้ข่วนคนที่มาเข้าใกล้เขาหรือทำตัวดื้อเอาแต่ใจขนาดไหน ก็ยังได้รับการลดหย่อนโทษหรือได้รับการตามใจ แต่ในร่างมนุษย์คงไม่มีหวัง ดีไม่ดีพี่เติร์ดอาจจะเกลียดผมไปเลยก็ได้

        สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ ร่างกายถูกเบียดชนไปมาจากคนรอบข้างที่กำลังเต้นกันอย่างบ้าคลั่ง แต่พอเงยหน้าขึ้นมองพี่เติร์ดอีกที พี่เขาก็หายไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่อยู่แล้วด้วย พวกเขาหายไปไหน ผมเริ่มร้อนรน เดินเร็วๆไปยังจุดที่พี่เติร์ดเคยยืนอยู่แล้วหมุนมองรอบตัว แต่ก็ไม่เห็นวี่แววพวกเขาแม้แต่เงา

        ในขณะที่ผมกำลังทำอะไรไม่ถูก แขนของผมก็ถูกดึง ผมหันไปมองอย่างตกใจ เป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก เขาเป็นผู้ชายและเขากำลังยิ้มให้ผม แต่สัญชาตญาณของผมมันบอกว่าคนๆนี้อันตราย ให้ออกห่างโดยด่วน

        “ปล่อยผมนะ” ผมบอก แต่เขาไม่ยอมปล่อย

        “เดี๋ยวสิ คุยด้วยกันหน่อย”

        “ไม่ ผมไม่คุย เราไม่รู้จักกัน” ผมพยายามสะบัดมือออกแต่เขาบีบแขนผมแน่นจนผมเจ็บ กลิ่นไอคุกคามที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นอยากจะวิ่งหนี แต่ก็ทำไม่ได้ ผมได้แต่คิดว่าตัวเองกำลังแย่ การเป็นมนุษย์วันแรกก็ดูเหมือนว่าจะยากเสียแล้ว

        ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเตรียมกดเบอร์พี่หมอวีร์ แต่ว่าคนตรงหน้าก็แย่งไปแล้วกดปิดไปต่อหน้าต่อตาผม เขาจับแขนผมทั้งสองข้างแล้วกระชากผมเข้าหาตัว

        “ปล่อย ผมบอกให้ปล่อย” ผมดิ้นจะหนีจากมือแข็งๆ เสียงเพลงบ้านี่ก็ดังจนผมต้องตะโกน แล้วก็กลายเป็นการเปิดจังหวะให้กับคนไม่ดีตรงหน้าโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผม

        “หืม ว่าอะไร”

        ริมฝีปากของเขาเฉียดแก้มผมแผ่วเบา ร่างของผมสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนกและไม่ชอบ ทันใดนั้นร่างของผมก็ถูกกระชากอย่างจังจนแผ่นหลังผมชนกับแผงอกแข็งๆของคนที่มาช่วย คนที่เป็นเจ้าของกลิ่นกายที่แสนอบอุ่น คนที่ให้ผมนอนซุกหาไออุ่นอยู่ทุกคืนวัน

        “รังแกเด็กหรือไงวะไอ้แพท” เสียงพี่เติร์ดถามคนนิสัยไม่ดีตรงหน้าผมเสียงห้วน ผมแทบไม่ได้สนใจ เอาแต่เงยหน้ามองพี่เติร์ด ภาพพี่เติร์ดที่ผมเห็นตอนเป็นแมวเทียบไม่ได้กับตอนนี้เลยแม้แต่นิด ต่อให้ข้างในนี้จะมืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น แต่ผมกลับมองใบหน้าที่ดูจะอารมณ์เสียของเขาได้เด่นชัด

        พี่เติร์ดหล่อมากกว่าที่ผมเคยเห็น

        “แล้วแกมายุ่งอะไรด้วยวะ เด็กนี่ฉันเจอก่อนนะเว้ย”

        “เจอก่อนแล้วยังไงวะ ดูเหมือนน้องเขาจะไม่เต็มใจเลยนะ” พี่เติร์ดพูดกวนๆ แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามผม ผมส่ายหน้าพรืด

        “ผมไม่เต็มใจ พี่เติร์ดช่วยผมได้” ผมร้องขอ

        พี่เติร์ดอึ้งไปเล็กน้อยเพราะผมหลุดเอ่ยชื่อเขาทั้งๆที่เขาคงคิดว่าเราไม่รู้จักกัน แต่พี่เติร์ดก็ไม่ได้แย้งอะไร กลับหันไปพูดกับคนนิสัยไม่ดีด้วยน้ำเสียงของคนที่เหนือกว่า

        “แกอาจจะเจอน้องเขาก่อนนะ แต่โทษทีวะ ฉันกับน้องเขารู้จักกัน ถ้าแกไม่อยากมีปัญหาก็ถอยออกไปซะ ไม่อย่างนั้นจะมาหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้”

        คนพาลมองหน้าพี่เติร์ดอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ก็ยอมถอยฉากออกไปด้วยความไม่พอใจ “ฝากไว้ก่อนเถอะ”

        ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่หลุดพ้นจากคนที่มาแกล้งได้ และคนที่ช่วยผมไว้ก็เป็นพี่เติร์ด ผมดีใจมากจนอยากจะโผเข้ากอดเขาแน่นๆพลางจุ๊บแก้มขอบคุณสักสองที แต่...ก็ทำไม่ได้

        “อายุยังไม่ถึงทำไมมาเที่ยวแบบนี้ล่ะ มันอันตรายรู้ไหม”

        ผมสะดุ้งเพราะพี่เติร์ดก้มลงมาพูดข้างหูผม ริมฝีปากของเขาแตะใบหูผมด้วย บริเวณที่โดนสัมผัสร้อนฉ่ายังกับโดนไฟลวก

        “เอ่อ...”

        “ว่าไง พี่ถามว่าทำไมมาที่แบบนี้ แล้วเรารู้จักพี่ได้ยังไง หรือว่า...”

        “ปุยเมฆ!”

        ผมกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่เติร์ดถาม แต่เสียงของคุณหมอก็ลอยมาแต่ไกล ไม่นานพี่หมอวีร์ก็แทรกตัวผ่านผู้คนมาถึงตัวผม ในมือของเขากำโทรศัพท์เอาไว้แน่น

        “เกิดอะไรขึ้น” พี่หมอวีร์ถาม ผมไม่ได้ตอบแต่เลื่อนสายตาไปมองพี่เติร์ดแทน ทำให้พี่หมอมองตามจนเจอกับคนที่เป็นเจ้าของผม

        “อ้าวเติร์ด”

        “สวัสดีครับ นี่เด็กพี่เหรอครับ” พี่เติร์ดชี้นิ้วมาทางผม

        พี่หมอมองหน้าผมก่อนจะตอบ “เปล่า นี่น้องชายฉันเอง ชื่อ...ปุย”

        “ปุยเหรอ” พี่เขาทวนชื่อแล้วมองหน้าผมก่อนจะยิ้มหล่อมาให้ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

        สัมผัสที่ลูบศีรษะผมอย่างอ่อนโยนทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก และเวลานี้ผมต้องขอบคุณที่ในนี้เปิดเพลงดังกระหึ่ม ไม่อย่างนั้นพี่เติร์ดจะต้องได้ยินแน่ๆ...เสียงหัวใจเต้นแรงที่ช่างน่าอาย



       
        ........
        ตอนพิเศษที่จะลงในเว็บจบสิ้นเท่านี้นะคะ ไม่มีลงต่อแล้ว ถ้าใครค้างก็ขอโทษด้วย แต่ริริบอกไว้แต่แรกแล้วว่าจะลงแค่ห้าตอนสำหรับน้องปุยเมฆ ที่เหลืออีกสิบสี่ตอนจะอยู่ในเล่มของหนังสือชุดพี่งูเท่านั้น
        ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านผลงานของริรินะคะ จากนี้ก็คงจะไม่ได้มาอัพอะไรอีกแล้ว แต่ยังไงเราก็จะไปเจอกันในเรื่องอื่นๆแทนนะคะ เรื่องพี่เสือริริคงต้องขอเวลาสักเดือนสองเดือนในการแงะพล็อต แงะโครงเรื่อง อ่านทวนที่แต่งซ้ำและศึกษาปมนิยายที่ตัวเองวางไว้ใหม่ ไม่ใช่อะไร ไม่ได้แต่งนาน ลืม! อารงอารมณ์ก็ต้องสร้างกันใหม่ทั้งหมด ไม่งั้นแต่งต่อไม่ได้ มันเป็นงานยาก ใครที่รอพี่เสืออยู่ก็รอกันไปก่อนอีกนิดนะคะ อ่านพี่งูวนไปก่อนก็แล้วกันค่ะ 555
        :pig4: :กอด1:

 
       

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
โอ๊ยยยยย ลุ้นๆรอปุยเมฆกลายเป็นคนได้ด้วยตัวเองไวๆ เป็นการพบกันในร่างคนที่ทำให้เรารู้ว่าพี่เติร์ดกินเด็ก!! รออ่านในหนังสือเลยค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ทั้งโยชิแลยอร์ชมีนิสัยน่ารำคาญมาก แต่เพราะมีนิสัยน่ารำคาญเลยทำให้มีเรื่องราว อาซาพระเอกดี ขี้โมโห
อ่านไปอ่านมาก็คิดว่ายอร์ชนายมันช่าง ยิ่งกว่าโลกสวย  สุดโต่งมาก  เอเดนก็สุดท้ายก็รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมามันไร้ค่าเปล่า ไม่ได้รู้สึกดีที่ฆ่าน้องชายตัวเอง

ออฟไลน์ SaNip015

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
 o13 รักเลยเรื่องนี้

ออฟไลน์ ดึงดาว

  • โตขึ้นหนูอยากเปนไร
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามอ่านจนทัน ชอบแนวแฟนตาซี อาซาหล่ออ่า :mew5:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
สนุกมากค่ะ อารมณ์เหมือนอ่านแฮรี่ พอตเตอร์
พระเอกเท่ นายเอกน่ารัก คู่เอเดนกับยอร์ชก็ซึ้งดี เหมือนเทวดากับซาตาน สุดท้ายซาตานก็กลับใจเพราะเทวดา :mew6:
คู่แมวปุยเมฆก็น่ารักดี
บวกๆค่ะ^^

ออฟไลน์ peppermintt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เพิ่งได้เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ..
เสียดายที่เพิ่งได้มาอ่านเอาตอนนี้  :ling2:
สนุกมากกก ลุ้นสุดๆ น่ารักทุกคู่เลย แต่เราชอบเอเดนยอร์ชเป็นพิเศษ หลงเสน่ห์พ่องูตัวร้ายเข้าแล้ว  :o8:
แต่ตอนพิเศษของสองคู่รองค้างมากๆ.. ตอนนี้หนังสือยังสั่งได้อยู่มั้ยอ่ะคะ อยากได้มากกก  :hao5:
เดี๋ยวตามไปอ่านเรื่องของคาร์เตอร์ต่อ ขอบคุณมากนะคะ ^^

ออฟไลน์ qoxity

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z13: :z13: :katai1: :katai1: :mew2: :mew2:

งื้ออออออน้องปุยยยยยยยย

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
ฉันไม่ได้ทำร้ายนายเลย ไม่เห็นหรือไง  โอ๊ยย ประโยคนี้ของเอเดนมันช่างแทงใจจึ๊กๆ :hao5: :mew6:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
อิมเมจเอเดน หุ่นแซ่บ6ห่อน่ากินมากก :hao6:

ออฟไลน์ PRINCESSPRIME

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลับมาอ่านอีกรอบ
รอหนังสือ ~  :laugh:

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 o13 สนุกค่ะ

ออฟไลน์ patpattle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5:กรี๊ดดด ชอบเรื่องนี้มากค่ะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
สนุกมากกกค่ะ
ชอบความรักของอาซามากกๆ มันดูมากล้นจนอธิบายไม่ถูก
คนที่ถูกรักด้วยความรักที่มากมายขนาดนั้นจะต้องเป็นคนที่โชคดีขนาดไหน
โยชิตอนเป็นงูน่ารักมากก เข้าใจที่อาซาบอกเลยว่าเหมือนหลงรักคนๆเดิมอีกครั้ง
เป็นคู่ที่ความรักชนะทุกสิ่งจริงๆค่ะแม้แต่กาลเวลา
ส่วนคู่ของเอเดนกับพี่ยอร์ชนี่เอาจริงๆคือสงสารเอเดน แต่ก้เข้าใจว่าต้องดัดนิสัยจริงๆแหละ
ชอบในความเด็กไม่รู้จักโตของเอเดนอะ ชแบความทุ่มเทกับอะไรก้ทุ่มสุดตัว
แต่ก้สงสารพอคิดตามยอร์ชเรื่องอายุขัยของมนุษย์ที่สั้นเหลือเกิน
กว่าเอเดนจะพบสมบัติของตัวเองก้เกือบสายไปแล้ว
แล้วพอพบก้มีเวลาแห่งความสุขที่จำกัดขนาดนี้อีก สงสารเลยยอะ
แรกๆแอบคิดว่าเอเดนไม่ได้ร้ายขนาดนั้นหรอก มันต้องมีกลับมาดีสิงี้
เพราะเอเดนน่ะ คือชื่อของสวนบนสวรรค์ของพระเจ้าเลยนะ เอเดนต้องมีความดีซ่อนอยู่สิน่าา
 แล้วก้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ พอกลับใจแล้วน่ารักมากกก
ส่วนคู่สุดท้ายไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่าสงสารปุยเมฆจนแอบโกรธเติร์ด ทั้งๆที่นางก้ไม่ได้ผิดอะไร
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
เรื่องของน้องปุยเป็นอะไรที่เรียกน้ำตามาก

แต่ทำไมเราเชียร์พี่หมอวีร์ น้องปุยจะไม่เสียใจเลยถ้าเลือกผู้ชายคนนี้

เรื่องหลักสนุกครับ ผูกปมได้น่าสนใจครับ

ว่าแต่ฟรินน์น่าจะมีคู่ จูเลียตเลยเหมาะ จะได้มีน้องงูตัวใหม่

ขอบคุณมากครับคุณริริ  :pig4:


เรื่องพี่เสือคาร์เตอร์ลบแล้วหรือครับ?

ออฟไลน์ gibebk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เดินทางกันหลายภพหลายชาติ ยังรักไม่เสื่อมคลาย

ออฟไลน์ Sasiwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากเลยจ้าาา งื้อออออ :mew1: :katai2-1: :ling1:

ออฟไลน์ GustY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปักๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
สนุกมากๆเลยค่ะ
เนื้อหาน่าติดตามมากๆค่ะ  :pig4: o13

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ตามมาอ่านอีกรอบที่
สามเพราะไปอ่านในธัญวบัยไม่อิ่ม  ...555....

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด