DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 616399 ครั้ง)

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
วันนี้จะได้อ่านป่าวเอ่ย....

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
        แวะมาบอกกล่าวถึงกำหนดลงนิยายเรื่องนี้กันนิดหนึ่งนะคะ
        ก่อนหน้านี้จะมาให้วันเว้นวันเพราะมีสต็อคอยู่ ตอนนี้ก็ยังมีแต่เริ่มน้อยละ เพราะตั้งแต่ไปบวชชีพราหรณ์กลับมาก็ยังไม่มีเวลาแต่งเพิ่มเลย ตอนที่แปดเลยจะข้ามวันพรุ่งนี้ไป แล้วจะมาลงให้วันศุกร์ที่27นี้แทนนะคะ เวลาไหนยังไม่รู้ ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด อยากให้รอกันหน่อย ถ้าลงถี่ๆกันตอนนี้เดี๋ยวตอนหลังๆเกิดตันขึ้นมาแล้วแต่งต่อไม่ได้ ทีนี้จะขาดกันไปเป็นอาทิตย์ๆ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอะไรก็ไม่แน่ไม่นอน ถ้าหัวแล่นก็แต่งไว วันไหนว่างๆทั้งวันก็สามารถแต่งจบได้ตอนหนึ่ง แต่ถ้ายุ่งหน่อย หัวไม่ค่อยแล่นก็สองวัน ปมมันเยอะ เลยต้องละเอียดลออในการแต่งไม่ให้พลาดในจุดไหนไป และริริแต่งตามข้อมูลที่พยายามหาได้ ไม่ได้เมคเรื่องขึ้นมาลอยๆ หรือจินตนาการเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นนอกจากแต่งเรื่องก็ยังต้องใช้เวลาหาข้อมูลอีกด้วย เพราะฉะนั้นเลยอยากแจ้งให้ทุกคนทราบ เดี๋ยวจะหาว่าแต่งไปบ้างแล้วแต่ทำไมไม่ลงนิยายต่อ มัวรออะไร ก็รอให้ตอนใหม่ๆมันงอกและจะได้เอาตอนเก่าๆลงเนี่ยแหละคะ

        หลายคอมเม้นเลยที่สงสัยว่ามันมีกี่พวก ทำไมมีหลายพวกจัง เฮ้ยูวววว มันก็ไม่กี่พวกนะ ถ้าดูจากรูปที่ริริลงไม่ต้องอ่านเนื้อเรื่องริริว่าก็น่าจะรู้แล้วปะตัวว่ามีกี่พวก และตัวละครที่ดูเหมือนจะเยอะ แต่ก็ไม่เยอะนะ แฟนตาซีมันก็มักเป็นแบบนี้ บุคคลที่ต้องจำและปรากฏตัวออกไปแล้ว ก็พวกอาซา แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นของพวกฮี พวกฮีออกบ่อยเดี๋ยวก็จำได้แม่น พวกโยชิ มีอยู่ห้าคนเนอะ เพื่อนสอง พ่อกับพี่ชาย ก็จำไม่ยาก พวกนางออกบ่อยอยู่ พวกเจอร์โรมและดาวเสาร์ และสองคนใหม่ที่เพิ่งโผล่มาในตอนที่7ก็คือคาร์เตอร์และเฟลิกซ์ คิดว่าคงเดากันได้ว่าเจอร์โรมและดาวเสาร์เป็นอะไร ถ้าเดาไม่ได้ แนะนำให้กลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น น้องบอกไปแล้วนะพี่ชายยยย!!! ส่วนคาร์เตอร์และเฟลิกซ์ ค่อยไปรู้กันทีหลัง อาจมีโผล่มาอีกนิดหน่อย ไว้ตอนนั้นริริจะแจกแจงให้อีกทีนะ มีแค่นี้เองหลักๆ

        เน้นอีกครั้งว่าริริอยากให้อ่านทุกตัวอักษรนะคะ เพราะอย่างที่บอกไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะใส่เนื้อเยอะกว่าน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าอ่านข้ามไปบรรทัดเดียวและเป็นจุดที่สำคัญก็อาจไม่เข้าใจได้นะ ปมดูเหมือนเยอะ แต่ความจริงไม่เยอะเลย พูดจากใจจริง

        ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านชี้แจงนี้นะคะ จะไม่สัญญาว่านิยายเรื่องนี้จะดีเลิศเลอ แต่จะทำให้ดีที่สุดของที่สุด :katai4:

        เลิฟๆยู
:mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2014 00:22:01 โดย RiRi »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
รับทราบค่ะ เราอ่านเข้าใจนะ อ่านแบบเร็วๆ(ด้วยความตื่นเต้น)รอบนึง แล้วค่อยๆอ่านแบบละเอียดยิบอีกรอบ สนุกดี
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โอเค จิ๊กกะแรต เข้าใจตรงกันแล้วจ้าาา  :กอด1:

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :pig4: เข้าใจจ้า
สู้ๆนะคะ ><\\

ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
โอเชจร้า

จะรอต่อไปนะจ้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามทุกลมหายใจ 555555

 o13 o13

ออฟไลน์ Gaem

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
จะรอนะคะะะ :z2:

เดาเรื่องไม่ถูกแล้วว ถ้าให้เดาคงออกทะเลไปแหง๋ 555555555

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Alphas

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนีสนุกดีน่าติดตาม

ออฟไลน์ Kissing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
มารอๆ สนุกมากกกกกกกก มาเร็วๆนะคะ :hao7:

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบเรื่องนี้มากเลย  ตอนแรกๆอ่านไปหลอนไป

แบบที่บ้านมีต้นไม้เยอะ ช่วงนี้ฝนตก  หลอนไปเลยเรื่องงู

สนุกมาก เนื่องเรื่องน่าสนใจ ปมเยอะมาก 

สู้ๆนะ นักเขียน เป็นกำลังใจให้นะ  ติดตามผลงานจ้า :hao7: :hao3:

เอาไปเลย  +1

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เลิฟยูวค่ะ จุฟๆ มาต่อไวๆน้า

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
EIGHT

           



          Asa

          ผมอยากจะต่อยไอ้ฟรินน์แรงๆสักทีข้อหาทำอะไรไม่ระมัดระวัง แต่มันก็เท่านั้น โยชิสลบไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นไอ้ฟรินน์ชัดแค่ไหนเพราะฝนตกหนักและเม็ดใหญ่จนทำให้เห็นรอบข้างลำบากสำหรับคนธรรมดา และแถวนี้ต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างสูง ผมก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเห็นไม่ชัด

          ผมอุ้มร่างบางขึ้นแนบอก รีบเดินกลับไปที่บ้านด้วยใจที่ระส่ำ กลัวว่าโยชิจะเป็นอะไรมากกว่าที่ผมเห็น มาถึงหน้าบ้านผมก็รีบพาขึ้นห้อง ผิวกายสีขาวนวลซีดไร้สีเลือดจนผมใจคอไม่ดี

          “Hey!…” จูเลียตที่กำลังเดินลงบันไดมาปะหน้ากับผม เธอมองคนในอ้อมแขนผมงงๆ แต่ผมรู้ว่าเธอไม่พอใจ

          “Get out of the way” ผมจะเดินแทรกขึ้นไป แต่จูเลียตขยับบังทางไม่ยอมให้ผมเดิน

          “Human? Who is he?”

          “He is Yoshi, he will stay here with us for a while.

          “Why?”

          “Move!”

          เมื่อเธอยังคงขวางทางผมที่ร้อนใจราวกับไฟสุมอก ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจ เดินกระแทกตัวเธอจนล้มลงกับพื้น ก้าวฉับๆไปที่ห้องนอน ผมไม่แคร์ว่าจูเลียตจะรู้สึกยังไง ในเมื่อเธอไม่เคารพเรื่องส่วนตัวของผม ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจเธอ

          ห้องของผมอยู่ด้านในสุด ผมกระชับร่างเล็กในอ้อมกอดแน่น  ปล่อยมือข้างหนึ่งปิดลูกบิดให้ประตูเปิดออก ผมวางโยชิไว้บนเตียงก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าชุ่มน้ำฝนออก ถึงจะเป็นครั้งที่สองที่ผมได้เห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยของโยชิเต็มๆตา แต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี เรือนร่างผอมบางอย่างเด็กผู้ชายตัวเล็ก แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานเด็กไทยนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมเป็นห่วงว่าเขาจะอาการหนัก ผิวซีดจนแทบไม่มีสีเลือด ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเบนสายตาหนีภาพน่ามอง

          กลัวระงับตัวระงับใจตัวเองไว้ไม่ได้ เผลอทำอะไรคนไม่มีสติเพราะแรงรักแรงปรารถนา

          ผมหาผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามเนื้อตัวโยชิที่มีคาบน้ำฝนและเศษดินติดตามขาตอนที่สลบล้มลงไปกับพื้นให้สะอาด เขาเหมือนเด็กตัวน้อยที่ผมอยากดูแลเฝ้าทะนุถนอมเอาไว้ในอ้อมกอด กกกอดเอาไว้ไม่ให้ห่างกาย แต่ความปรารถนาคงไม่มีวันได้เป็นจริง ทุกอย่างที่หล่อหลอมออกมาเป็นโยชิ ผมรักหมดใจ อยากที่จะเผยความรู้สึกออกไป แต่ก็รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้

          เขาเกลียดงู

          เขาเกลียดในตัวตนที่ผมเป็น

          คงไม่มีอะไรทรมานไปกว่าการต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้โดยที่ไม่สามารแสดงออกหรือบอกออกไปได้

          ถ้าเพียงแต่ผมจะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

          มนุษย์ผู้โง่เขลา ไม่มีพลังวิเศษใดๆ

          ก๊อกๆๆ

          แอ๊ด~

          เสียงเคาะประตูพร้อมเปิดออกในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมรีบตวัดผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าของโยชิป้องกันการถูกมองจากสายตาคนอื่น ไม่ว่าใครผมก็ไม่อนุญาตให้เห็นโยชิในสภาพน่าหลงใหลเช่นนี้ ฟรินน์โผล่หน้าเข้ามา ผมขยับตัวบังโยชิเอาไว้ด้วยความหวงแหน

          “มีอะไร”

          “เอ่อ โยชิเป็นไงบ้าง คือฉันขอโทษนะเว้ย ฉันแค่ออกไปตรวจตราความเรียบร้อย ไม่คิดว่าแกจะพาโยชิเข้ามานี่หว่า”

          “ช่างเถอะ ฝากลงไปบอกปารีสให้ทำอาหารเผื่อโยชิด้วย” ผมสั่ง ไอ้ฟรินน์พยักหน้ารับ สีหน้าติดจะรู้สึกผิดที่ก่อเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของมันเสียทีเดียว ทุกอย่างกะทันหันจนไม่ทันได้ระวังระไว คงต้องรอให้โยชิฟื้นก่อน ถึงจะรู้ว่าเขาเห็นฟรินน์ตอนเป็นงูหรือเปล่า

          “เออ เวสตันบอกว่าเสร็จแล้วให้แกลงไปหาด้วย เรื่องโยชิ” มันคงเห็นว่าผมทำหน้าสงสัยว่าเวสตันเรียกผมเรื่องอะไรจึงได้รีบบอก แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าจะเวสตันไม่ยอมปล่อยให้ผมทำอะไรตามอำเภอใจถ้าหมอนั่นไม่ยินยอม

          “อื้อ” เสียงครางเบาๆดังเรียกความสนใจ ผมมองคนที่นอนกระสับกระส่ายด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ที่ผ่านมาผมจะเฝ้าดูแลเขาทำไม ในเมื่อท้ายที่สุดก็เป็นผมที่ทำร้ายเขา ให้เขาต้องอยู่กับความทรมานและนำพาเขาให้มาเจอกับอันตราย

          ‘มันน่าขยะแขยง หน้าเกลียดน่ากลัว แค่เห็นก็ขนลุกซู่ ถ้าโลกนี้ไม่มีงูก็ดีนะสิ’

          มือที่ยืนออกไปได้เพียงนิดเดียวหวังจะสัมผัสแก้มนุ่มรีบชักกลับ ผมกำมือจนแน่นเพราะกลัวมันจะยื่นออกไปสัมผัสกับคนตรงหน้า กลัวว่าจะทำให้โยชิต้องมีรอยด่างจากผมติดตัวไป

          ผมควรทำอย่างไรต่อไปดี

          ผมเฝ้าดูจนแน่ใจแล้วว่าโยชิไม่มีอาการย่ำแย่จนน่าเป็นห่วง จึงตัดสินใจลงไปหาเวสตัน ในห้องนั่งเล่นไม่ได้มีเพียงเขา แต่ทุกคนในบ้านหลังนี้อยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าเวสตันคิดอะไรถึงเรียกผมมาคุยพร้อมกับปารีสและจูเลียต

          “ฉันคิดว่าเราจะคุยกันส่วนตัว” ผมพูดขึ้น เดินไปนั่งที่โซฟาเดียวที่ว่างอยู่

          “ทุกคนจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วอาซา” เวสตันพูดน่าเครียด แต่ถึงจะอย่างนั้น...

          “ว่ามา” ผมก็ไม่มีทางเลือก

          “เรากำลังจะพูดเรื่องอะไรกัน” ปารีสที่นั่งอยู่ข้างเวสตันพูดขึ้น ผมจุดบุหรี่สูบ แม้สายตาเขียวปั๊ดของจูเลียตกำลังจ้องผมเขม็ง ผมเลือกที่จะเมินเฉย เธอไม่เคยอยู่ในความสนใจของผม ไม่เคย และไม่มีวัน

          “เอาละเรื่องแรกทุกคนรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งข่าวคนตายในสภาพกระดูกป่น ทั้งรูปปั้นคนในสภาพตกใจสุดขีดในทีวีและหนังสือพิมพ์ตอนนี้ ถึงแม้พวกคนธรรมดาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่พวกลีโอ พวกไทกริส โดยเฉพาะพวกไลแคนปรักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นพวกเรา” เวสตันอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น อย่าว่าแต่พวกสามกลุ่มนั้นเลยที่คิดว่าเป็นพวกนากินีอย่างเราทำ เพราะพวกผมก็คิดเช่นกัน แต่เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ

          “แต่ไม่ใช่เรานี่” จูเลียตที่ยืนพิงราวบันไดขึ้นเสียงอารมณ์เสีย เวสตันยกมือเป็นสัญญาณให้จูเลียตหยุดพูด เธอทำตาเขียวใส่เขาก่อนจะเดินมากระแทกตัวลงนั่งกับโซฟาอย่างหงุดหงิด

          “มันก็ใช่ แต่อย่าลืมว่าเรื่องพวกนี้พวกระดับล่างทำไม่ได้ มีแค่พวกระดับสูงอย่างพวกเราเท่านั้น”

          “และกรุงเทพก็มีแค่เราที่เป็นเจ้าถิ่น และดูแลควบคุมพวกชั้นล่าง” ปารีสพูดเสริม

          “เมื่อครั้งก่อนที่ฉันกับอาซาออกไปล่ามัน แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบ เหมือนมันจะรู้การเคลื่อนไหวของเรา” ฟรินน์พูดน้ำเสียงโมโห

          เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมตามรอยสถานที่เกิดเหตุและออกล่าตัวคนทำ แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่าไร้หลักฐานไร้ร่อยรอย ผมไม่ได้กลิ่นพวกชั้นสูงที่พอจะสร้างเรื่องได้ และช่วงนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์คนตายแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งรู้ข่าวว่าไอ้เจอร์โรมพวกไลแคนจับตัวพวกเราที่สร้างเรื่องได้ เวสตันก็เลยส่งปารีสกับฟรินน์ไปแย่งตัวมันมา แต่สุดท้ายก็เหมือนคว้าน้ำเหลว ไอ้งูตัวนั้นมันก็แพะรับบาป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง

          “แล้วเราจะทำยังไง” จูเลียตถามเสียงร้อนรน และไม่ใช่แค่เธอ แต่พวกเราทุกคนก็ต่างร้อนอกร้อนใจกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร แต่นั่นหมายความว่าเราทำผิดกฎเยโรม กฎเบื้องบนที่ว่าด้วยให้มนุษย์ที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้แต่ละเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ปกติอย่างสันติสุข แม้พวกมนุษย์จะไม่รู้เรื่องด้วยก็ตาม

          “หนึ่งคือเราต้องตามล่าหาตัวคนทำให้เจอ สองระวังตัวจากพวกไลแคน โดยเฉพาะนายอาซา มันจ้องเล่นงานนายอยู่ รวมถึงพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นระวังตัวให้ดี แต่พยายามอย่างใช้กำลัง ไม่งั้นเราจะยิ่งตกเป็นเป้า”

          “พวกผู้ชายอย่างเราก็ออกตามหาตัวมัน ส่วนปารีสกับจูเลียตก็คอยสอดแนมดูพวกอื่นว่ามีใครจ้องจะหาโอกาสนี้เล่นงานเราบ้าง” ฟรินน์ออกความคิดเห็น

          “พวกไอ้เจอร์โรมฉันจะจัดการเอง” ผมบอกทุกคน เวสตันพยักหน้าเข้าใจ

          “แล้วเรื่องที่สองละ” ปารีสถามแฟนตัวเอง เขามองตาผมนิ่ง ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่าเรื่องที่เขาจะพูดคืออะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องของโยชิ

          “เรื่องที่สองให้อาซาเป็นคนพูดแล้วกัน” เวสตันโยนมาให้ผม ผมมองหน้าทุกคนในห้องก่อนจะถอนหายใจ

          “ฉันจะขอให้โยชิอยู่ที่นี่สักพัก ไอ้เจอร์โรมต้องการตัวเขาเพื่อแก้แค้นฉัน มันต้องใช้เขาเป็นเหยื่อล่อแน่ๆฉันมั่นใจ และตอนนี้มันเจอโยชิแล้วด้วย เพราะฉะนั้น...”

          “เดี๋ยวนะ โยชิคือใคร” ปารีสเอ่ยขัด เลิกคิ้วสูงมองผมและเวสตันอย่างต้องการคำตอบ พวกผู้หญิงมักเป็นแบบนี้เสมอสงสัยและต้องการคำตอบไปทุกอย่าง และผมค่อนข้างหงุดหงิดกับนิสัยของปารีสและจูเลียตในบางที หรือไม่บางทีผมก็เคมีไม่ตรงกับพวกสิ่งมีชีวิตเพศเมีย

          “โยชิคือคนสำคัญของฉัน ฉันหวังว่าทุกคนจะดูแลเขาเหมือนคนในครอบครัว” จุดนี้ผมจงใจพูดเน้นย้ำกับจูเลียตเป็นพิเศษ ผมรู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม และผมไม่ต้องการให้เธอคิดไม่ดีกับโยชิ

          “และที่สำคัญเลยคืออย่าให้เขารู้ว่าพวกเราเป็นอะไร โดยเฉพาะนายฟรินน์ ระวังตัวหน่อย อย่ากลายร่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ระวังอีก ต่อให้อยู่ในเขตบ้านพักก็ตาม”

          “โอเค ฉันขอโทษ ต่อไปจะระมัดระวัง” ฟรินน์แบมือทั้งสองข้างและยกแขนขึ้นขอโทษขอโพย

          “ฉันก็เตือนนายแล้วนะอาซา สุดท้ายก็เป็นเรื่องจนได้ แต่เอาเถอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงต้องดูแลกันไป” เวสตัสพูด

          “เดี๋ยวนะ ฉันสงสัยว่าทำไมเราถึงบอกเขาไม่ได้ว่าเราเป็นอะไร ในเมื่อเขาสำคัญกับนาย” ผมบอกแล้วว่าผู้หญิงน่ะน่ารำคาญ อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง โดยเฉพาะจูเลียต เธอมองผมตาขวางติดจะประชดประชันและตัดพ้อ

          “แล้วถ้าเด็กนั่นรู้ว่านายเป็นอะไร จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรออาซา” คราวนี้เธอใช้น้ำเสียงเหมือนเป็นต่อพูดกับผม ผมขบกรามแน่น จ้องเธอด้วยสายตาดุดันที่สามารถทำให้เธอสลดลงได้

          “อย่าคิดลองดีกับฉันจูเลียต แม้แต่เธอฉันก็ไม่เว้นถ้ายุ่งกับเขา”

          “ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”

          “ก็ถ้าเธอยังไม่อยากตาย”

          “อาซา!” เธอแผดเสียง ผมตวัดตามองมันนิ่งๆ

          “เขาต้องไม่รู้ ยังไงก็ให้รู้ไม่ได้”

          ถ้าให้รู้แล้วผมจะต้องเสียเขาไปพร้อมทั้งโดนรังเกียจ ก็ปล่อยมันไปแบบนี้นี่แหละ ผมจบการสนทนาของวันนี้โดยการลุกขึ้นเดินกลับห้อง

          “ความลับไม่มีในโลกอาซา สักวันเด็กนั่นก็ต้องรู้ว่านายเป็นอะไร” ไม่สนใจคำพูดของจูเลียตที่ลอยตามหลังมาแม้ว่าผมจะกังวลตามคำพูดนั้นก็ตามที

          “เชื่อคำพูดฉันได้เลย ไอ้เด็กนั่นจะทำให้นายเดือดร้อน!”




ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
 ………………….

          ผมกำลังฝัน มันต้องใช่แน่ๆ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ผมเห็นตัวเองในนั้น เมื่อตอนที่เป็นเด็กประมาณสักห้าขวบได้ ผมวิ่งเล่นรอบบ้านอย่างสนุกสนาน หัวเราะคิกคักเมื่อดอกไม้ที่ถืออยู่มีผีเสื้อบินมาเกาะดอมดมชิมน้ำหวานก่อนจะบินจากไป ผมวิ่งตามอย่างอารมณ์ดี ยิ้มกว้างแบบสุดๆจนเห็นฟันหลอ ก่อนที่ภาพจะเปลี่ยนไป ผมกำลังนั่งยองๆ เบื้องหน้าเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างสีดำมันเลื่อมนอนขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้

          “เอ๋...คุ้นจังเลย เหมือนจะเคยเห็น มันเรียกว่าอะไรนะ ตัวที่ยาวๆแล้วก็ขดได้เลื้อยได้...อ่อ งู! Snake snake โยชิจำได้แล้ว นี่ก็คือคุณงูนี่เอง!”

          “คุณงูบาดเจ็บมาเหรอ รอแปบนะ โยชิจะไปเอายามาทาให้”

          “ต้องทำแบบนี้ ใส่ยาทาแผล โยชิทำได้ พี่ยอร์ชทำให้โยชิบ่อยๆตอนหกล้ม แล้วก็เอาผ้าพันไว้แบบนี้ เรียบร้อยแล้ว หายไวๆนะคุณงู”

          “ขอบใจนะ”

          “เอ๊ะ? คุณงูพูดกับโยชิเหรอ”

          “ใช่ นายใจดีกับฉันจริงๆ”

          “คุณงูก็ทำใจให้ดีๆเหมือนกันนะ”


          ...ภาพเหล่านั้น มันคืออะไร?...


          “คุณพ่อฮะ น้องโยมีเรื่องจะบอก”

          “หืม เรื่องอะไรครับคนเก่ง”

          “น้องโยอยากมีสัตว์เลี้ยง”

          “ฮะๆๆ นึกว่าเรื่องอะไร น้องโยอยากเลี้ยงอะไรล่ะครับ”

          “เดี๋ยวน้องโยไปเอามาให้ดูนะครับ”



          ผมเห็นตัวเองวิ่งหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมบางอย่างในอ้อมกอด งูตัวดำใหญ่กว่าแขนผมนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอด หัวของมันตั้งขึ้นมองหน้าผมนิ่ง


          “โยชิ! ปล่อยมันลงเดี๋ยวนี้ลูก เดี๋ยวมันกัด!!!”

          “คุณงูไม่กัด คุณงูใจดี น้องโยคุยกับคุณงูแล้ว คุณงูบอกว่าอยากจะมาอยู่กับน้องโย”

          “ไม่ได้ลูก ปล่อยมันลง วางมันลงเดี๋ยวนี้!!!”

          “แต่...”

          “ไม่มีแต่โยชิ วางมันลงก่อนที่พ่อจะตี!!!”



          ที่ต่อไปคือในห้องนอนของผม ห้องนอนในบ้านหลังเก่า


          “ฮึกฮึก ฮือ”

          “ไม่ต้องร้องไห้เลยนะโยชิ งูเป็นสัตว์อันตราย ไว้ใจไม่ได้ วันนี้มันไม่กัดลูก แต่งูก็คืองู อรสพิษที่ไว้ใจไม่ได้ ถ้าลูกอยู่ใกล้มัน มันอาจจะกัดลูกได้ทุกเมื่อ”

          “ฮึก ฮือ คุณพ่อใจร้าย คุณพ่อฆ่าคุณงู”

          “พ่อต้องทำ ไม่งั้นมันจะฆ่าลูกนะ”

          “ไม่ฆ่า คุณงูบอกน้องโย คุณงูจะไม่มีวันทำร้ายน้องโย ฮือ”

          “หนูจะไปคุยกับงูได้ไงโยชิ เพ้อเจ้อใหญ่แล้วเรา”

          “แต่คุณงูพูดกับน้องโยจริงๆนะพ่อ”

          “พอๆๆ พ่อของสั่งห้ามไม่ให้เราออกไปวิ่งเล่นข้างนอกหนึ่งอาทิตย์”



          ภาพความฝันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ผมจับรายละเอียดได้ไม่หมด ฝันซ้ำไปซ้ำมาว่าผมเคยจับเคยสัมผัสงู ยิ่งไปกว่านั้นผมยังพูดกับงูได้ เศษความฝันชิ้นเล็กๆไม่ปะติดปะต่อ ผมเริ่มอึดอัดกับสิ่งที่กำลังฝันจนรู้สึกหายใจไม่ออก ในท้องบิดเกร็งจนอยากจะอาเจียน จนกระทั่งภาพความฝันเริ่มจางและมีหมอกขาวมาปกคลุมจนแทบมองอะไรไม่เห็น สิ่งสุดท้ายที่ผมพอจะมองเห็นก็คือ...บ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่งกลางหุบเขาก่อนที่ฉันจะสะดุ้งตัวโยนหลุดออกจากฝันที่ประหลาด

          เหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าและลำคอ อากาศร้อนอบอ้าวแม้ว่าฝนข้างนอกจะยังคงตกหนัก ผมหายใจหอบรุนแรงเหมือนวิ่งมาราธอนมาสักสี่หรือห้าชั่วโมง หายใจไม่ทันจนสำลักอากาศที่กำลังกอบโกยเข้าปอด ในห้องมืดสนิท และคงจะค่ำมืด ไม่รู้ว่าผมสลบไปนานขนาดไหนเพราะสิ่งที่ผมเห็นกับตา

          สิ่งที่ผมเกลียดจับจิตจับใจตัวใหญ่ยักษ์มากกว่าขนาดตัวคน มันมีสีขาวแบบที่มองไกลๆก็สังเกตเห็นได้

          ผมเห็นไม่ชัด แต่คิดว่าผมไม่ได้ตาฝาด

          ไหนจะสิ่งที่ผมเพิ่งฝันอีก เป็นไปได้ไหมว่าผมจะกลัวมากจนเก็บเอาไปฝัน

          ผมครุ่นคิดเรื่องราวในความฝัน แต่หลังจากที่คิดอยู่นานสองนานก็คิดไม่ออก เพราะเมื่อผมพยายามจะปะติดปะต่อความฝันให้เป็นภาพจิ๊กซอร์ที่สมบูรณ์ กลายเป็นว่าผมรู้สึกแต่ความหวาดกลัวจนคิดต่อไปไม่ได้ สุดท้ายผมก็เลิกพยายาม หันมาครุ่นคิดถึงภาพยุ่งเหยิงปนเปที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่จนกกระทั่งตอนนี้ มันสะเปสะปะกระจัดกระจาย รู้ว่ามีอยู่แต่อธิบายไม่ได้ แต่ผมแน่ใจประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นเลยว่าทั้งหมดนี่มันไม่ปกติ

          ไม่มีอะไรปกติ...ทั้งอาซา พวกของเขา เจอร์โรมและดาวเสาร์รูมเมตของผม รวมไปถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้ หรือที่ Midnight และสิ่งที่ไม่ปกติในความรู้สึกถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นก็คือ...ตัวผมเอง

          คิดมาถึงตรงนี้ผมขยับยกผ้านวมขึ้นคลุมหน้าเว้นไว้แค่ดวงตาที่หลุบต่ำ รอบด้านเย็นวาบแปลกๆ ผมไม่ใช่คนขี้กลัวขนาดนั้น ผมชอบดูหนังผี หนังลึกลับสยองขวัญ ซึ่งก็บอกได้ดีว่าผมไม่ใช่คนจิตอ่อน เพียงแต่สิ่งเดียวที่ผมกลัวก็คืองู

          แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูจะอยู่นอกเหนือการควบคุม บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติ และมันอยู่ใกล้ตัวผมมาก หรือไม่มันอาจอยู่ในตัวผม

          “หลับอยู่เหรอ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถาม ตาของผมเปิดพรึ่บ อาซายืนพิงกรอบประตู ผมผุดลุกขึ้นกระโจนลงจากเตียง แต่ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนแทบทรุดลงไปกับพื้น โชคดีที่อาซาพุ่งเข้ามาคว้าตัวผมได้ทัน

          “ฉันมีเรื่องจะถามนาย ฉันเห็น...”

          “เราจะยังไม่พูดอะไรตอนนี้ นายควรจะได้กินข้าวและกินยาเสียก่อน”

          “ไม่อาซา ไม่..ฉันต้องการรู้ตอนนี้ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายกับฉัน และ...”

          “หยุด! โยชิ สงบสติอารมณ์ ไม่ต้องพูดอะไร หายใจเข้าลึกๆ อย่างนั้น...ดี” เขามองตาผม สะกดผมด้วยดวงตาดุจรัตติกาลเอาไว้อยู่หมัด ผมทำตามเขาแบบไม่เกี่ยงงอน ควบคุมลมหายใจและอาการตื่นตระหนกของตัวเองจนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ

          “โอเคไหม...ดีขึ้นหรือเปล่า”

          “อืม” ผมพยักหน้า แม้ความจริงจะไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้น

          “ลงไปข้างล่าง ทุกคนรอนายอยู่”

          เขาหมุนตัวเดินไปที่ประตู ผมก้าวเร็วๆตามสองสามก้าวก็ถึงตัวเขา มือยื่นไปคว้าหมับมือใหญ่ที่เย็นเชียบ อาซาหยุดเดินก้มมองมือผมที่จับมือเขาอยู่ก่อนจะเงยหน้ามองตาผม

          “ถ้านายต้องการ ก็เรียกหามันได้ตลอดเวลา” เขาบีบกระชับมือผมแน่นจนเกิดสายธารที่อบอุ่น คล้ายจะบอกว่า มือของเขาจะมีไว้เพื่อปกป้องและดูแลผมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

          ภายในบ้านหลังนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษหวือหวา ไม่ได้ดูขลังหรืออลังการอย่างตัวตึกเรียนของมหาวิทยาลัย กลับเป็นแค่บ้านสไตล์โมเดิลธรรมดาๆที่ตกแต่งอย่างสวยงาม บนผนังมีรูปวาดเกี่ยวกับพระเยซูหรือเทพเจ้าต่างๆแขวนเรียงราย โคมไฟสีเหลืองนวลทำให้รูปภาพเหล่านั้นดูมีชีวิตชีวา กลิ่นหอมของดอกไม้ที่จัดไว้สวยงามในแจกันวางไว้ทั่วทุกมุมบ้านลอยอบอวล บันไดตรงหน้าทอดยาวมองเห็นประตูทางเข้า ผมเดินตามอาซาช้าๆ เหมือนเขาจะรู้ว่าผมอ่อนแรงไร้ความกระฉับกระเฉง จึงไม่ได้เร่งเร้า สุดทางบันไดเลี้ยวไปทางขวาไม่กี่ก้าวก็จะเจอประตู ทุกคนในห้องอาหารหันมองผม

          หัวโต๊ะคือเวสตันและด้านขวาของเขาคือปารีส ข้างๆเธอคือจูเลียต ตรงข้ามกับปารีสคือฟรินน์ เขายิ้มแห้งๆให้ผม ผมยิ้มตอบ อาซาให้ผมนั่งตรงข้ามกับจูเลียต และเขานั่งข้างผมอีกที ผมรู้ได้ทันทีว่าผมนั่งในที่ของอาซา แต่ก็ไม่ได้คิดเปลี่ยน และผมรู้อีกอย่างเลยตั้งแต่เข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้

          จูเลียตเกลียดขี้หน้าผม

          ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่คนเราก็ต้องเคยเกลียดใครแบบไม่มีสาเหตุบ้างแหละ เพราะฉะนั้นผมจะทำเป็นไม่เห็นแล้วเลิกสนใจท่าทางฮึกฮัดของเธอซะ

          “ดีขึ้นแล้วใช่ไหมโยชิ ทานซุปสักหน่อย มันจะทำให้นายรู้สึกดีขึ้น แฟนของฉันปารีสทำอย่างสุดฝีมือ” เวสตัสพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มบางๆอย่างใจดี ผมยิ้มรับพร้อมกับยิ้มช้อนตักซุปขึ้นกิน

          รสชาติอร่อยและทำให้ผมรู้สึกสดชื่อขึ้นจริงๆจากซุปรสเปรี้ยว ทุกคนลงมือกินมื้อเย็น มีเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมแตะอาหาร คนที่นั่งตรงข้ามผม เธอมองจ้องผมด้วยความไม่พอใจ ผมมองตอบเธอและทุกคนบนโต๊ะรับรู้บรรยากาศมาคุระหว่างผมกับจูเลียตได้

          “ถ้าไม่กินก็ขึ้นไปบนห้องจูเลียต อย่าทำให้คนอื่นต้องกร่อย” เวสตันพูดโดยที่ไม่ได้มองเธอ มือที่จับมีดหั่นสเต็กเนื้อนุ่มอย่างชำนาญพร้อมทั้งใช้ส้อมจิ้มมันเข้าปาก ผมก้มมองอาหารของตัวเอง

          เฮ้อ อาหารคนป่วยชัดๆ

          “ทานเถอะจูเลียต อย่าให้เวสตันโมโห” ผู้หญิงที่ชื่อปารีสเอ่ย ผู้ชายอีกสามคนที่ไม่รวมผมไม่ได้ให้ความสนใจอย่างที่ควรเป็นนัก เหมือนพวกเขาชินเสียแล้ว

          “เหอะ! ทุกคนทำได้ยังไง ทั้งๆที่มีตัวปัญหานั่งอยู่ในบ้าน แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!!”

          ผมเกือบจะเผลอทำช้อนซุปหลุดมือ ที่จูเลียตพูดหมายความว่าอะไร เธอจะบอกว่าผมเป็นตัวปัญหางั้นเหรอ ทั้งๆที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิดเนี่ยนะ

          “หุบปากของเธอแล้วขึ้นห้องไปซะจูเลียต” คราวนี้เวสตัสเงยหน้ามองจูเลียตอย่างดุดัน เธอทำหน้าไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกระแทกเท้าเดินออกจากห้องอาหาร

          ผมมองตาม เวสตันบอกให้ทุกคนทานอาหารต่อได้ แต่ผมหมดความอยากอาหารไปเป็นที่เรียบร้อย

          “ฉันอยากรู้ว่าสิ่งที่จูเลียตพูดหมายถึงอะไร ฉันเป็นตัวปัญหางั้นเหรอ” ผมหันหน้าไปหาอาซา เขาแค่เหลือบตามองผมเท่านั้น

          “ฉันต้องการรู้เรื่องที่ฉันควรรู้เดี๋ยวนี้” ผมทำเสียงแข็ง เสียงช้อนกระทบจาน ความโกรธของผมคงไปสติต่อมรำคาญของปารีสเข้า เธอเหวี่ยงตาเฉี่ยวๆมองผมอย่างดูแคลน

          “เวลากินข้าวเราจะไม่พูดเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ถ้าไม่อยากกินก็ออกไป” ปารีสพูดเสียงนิ่งๆ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยรู้สึกโกรธมากขนาดนี้มาก่อน พวกเขารู้ในสิ่งที่ผมไม่รู้ก็เลยสามารถนั่งนิ่งอยู่ได้นิ แต่คนที่ไม่รู้อย่างผม ผิดหรือยังไงที่จะรู้สึกกระวนกระวายนั่งไม่ติด

          “บอกฉันมาว่ามันไม่มีอะไร ฉันไม่ใช่ตัวอันตรายอย่างที่จูเลียตว่า และฉันไม่ได้เห็นงูยักษ์สีขาวข้างนอกนั่น! และฉันไม่ได้บังเอิญได้ยินนายเรียกมันว่าฟรินน์!” ผมกัดฟันแน่น เหลือบตามองฟรินน์ที่สะดุ้งนิดๆ

          “และข้างนอกนั้นไม่มีอะไรเป็นอันตรายที่ฉันต้องหนี บอกมาสิ ฉันจะได้กลับไปอยู่ตามทางของฉัน ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ให้พวกนายทำหน้ารังเกียจใส่!! บอกมาสิแล้วฉันจะไป!!!” ผมโกรธจนตัวสั่น โวยวายเสียงดังจนคนทั้งโต๊ะอาหารต้องหยุดกินมื้อค่ำ ทำยังกับว่าสน ผมไม่ใช่คนฉลาด แต่ก็พอรู้ว่ามันไม่ปกติ ไม่มีอะไรปกติกับชีวิตผมตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เหมือนกลายเป็นคนตาบอด ไม่รู้อะไร ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างจนผมอยากจะวิ่งหนีไปซะ ผมโกรธจนรู้สึกว่าน้ำตาจะไหล จึงพยายามกลั้นกลืนมันไว้ด้วยการกัดฟันแน่น

          “Please, just trust me…I’lll tell you everything you want to”

          “How can I trust you? When I feel like I don’t even know you”

          “Yoshi!”

          เราทำหน้าบึ้งใส่กัน ก่อนที่เขาจะลุกออกจากโต๊ะอาหารโดยที่ไม่ได้แตะมันสักนิด ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาด แต่เสียงในหัวคอยเอาแต่บอกว่าผมสมควรทำมัน อย่างน้อยก็ให้ตัวเองไม่เป็นกบอยู่ในกะลา ผมคิดแบบนั้น แล้วทำไมถึงได้รู้สึกเสียใจ

          “ไม่ว่านายจะรู้สึกยังไงนะโยชิ” เวสตันเอ่ยขึ้นขัดความเงียบ ผมเลิกมองไปทางประตูห้องทานข้าวแล้วหันไปมองเวสตันที่ทำหน้าคิดหนักไม่ต่างจากคนอื่นนัก

          “แต่คนเดียวบนโลกนี้ที่จะไม่มีทางทรยศนายก็คืออาซา เขาเป็นคนเดียวที่นายควรเชื่อใจยิ่งกว่าพ่อหรือพี่ชายของนายเอง จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ แต่ฉันพูดความจริง”

          ผมลุกตามอาซาออกไป ไม่รู้เขาเดินไปที่ไหน ผมไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นเลย ถึงความรู้สึกจะบอกแบบนั้น ถ้าผมเป็นคนฟังก็คงเจ็บไม่ต่างกัน คิดแล้วก็อยากจะตบปากตัวเอง

          นอกบ้านเงียบกริบ ฝนซาลงแล้วแต่ยังตกอยู่ ได้ยินเสียงใบไม้สีกัน ผมเดาว่าน่าจะเป็นอาซาเลยเดินตามไป มีรอยเท้าอยู่บนดิน ต้องเป็นเขาแน่ๆ ฝนตกแบบนี้ออกมาทำไม ถึงจะงอนหรือโกรธที่ผมพูดไม่ถนอมน้ำใจ ก็ควรจะเดินหนีขึ้นบ้านสิ แบบนี้มันทำให้ผมเป็นห่วง

          “หายไปไหนของเขานะ รอยเท้าก็มาทางนี้ไม่ใช่เหรอ หรือว่า...” ผมมองหนองน้ำเบื้องหน้า เพราะเป็นตอนกลางคืนเลยไม่รู้ว่ามันสวยแค่ไหน รอยเท้าของอาซาสิ้นสุดที่ริมสระน้ำ หวังว่าเขาคงไม่ได้น้อยใจคำพูดของผมจนคิดจะทำอะไรบ้าๆหรอกนะ

          “อาซา! นายอยู่ไหนน่ะ” ผมมองรอบๆก็ไม่เห็นเขา มองจ้องไปที่สระน้ำอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจถอดรองเท้าและกางเกงยีนส์ออกจากตัว กระโดดลงไปในน้ำตามหาอาซา ผมดำผุดดำว่ายเหมือนคนโง่งม แต่ผมกลัวจริงๆ กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป

          “อ๊ะ!” ผมร้องตกใจ ปล่อยอากาศออกหมดปาก สะบัดขาเมื่อมีอะไรบางอย่างเสียดสี ตัวผมเหมือนจะถูกบางอย่างเลื้อยรัด ผมดิ้นหนีสุดแรงเกิดจนเผลอสำลักน้ำ และก่อนที่ผมจะตายจริงๆก็มีบางอย่างประกบปากผมพร้อมทั้งลมหายใจที่ค่อยๆแทรกผ่านเข้ามา ผมกอบโกยอากาศยื้อชีวิตตัวเองเอาไว้ ขยับเบียดริมฝีปากเข้าหาความอ่อนนุ่มที่ช่วยชีวิต ร่างกายถูกโอบรัดด้วยอ้อมแขนอันแสนคุ้นเคย ผมคลี่ยิ้มบางๆเมื่อรู้ว่าคนที่ช่วยผมไว้คืออาซา ริมฝีปากเราไม่ผละห่างจากกันแม้ว่าจะดีดตัวโผล่พ้นผิวน้ำ เขาจูบผมรุนแรงเหมือนจะลงโทษ และผมก็เต็มใจให้เขาทำเช่นนั้นอย่างไม่คิดต่อว่า โทษที่ผมทำก็สมควรได้รับแล้ว

          จ๊วบ~

          “อ๊ะ เจ็บ” อาซากัดปากผมจนได้เลือด ผมหอบตัวโยน ผิวน้ำกระเพื่อมตามแรงขยับเคลื่อนไหว ความอ่อนโยนประทับปลอบประโลมบนรอยแผลแผ่วเบา ไล้ลิ้นเลียหยาดเลือกเบาๆจนแห้งสนิท

          “ตามมาทำไม” เขาทำเสียงแข็ง พูดไปก็พรมจูบไปด้วย น้ำเสียงกับการกระทำช่างตรงกันข้าม

          “ฉันขอโทษ” ผมพูดเสียงแผ่วอย่างรู้สำนึก

          “แต่นายก็พูดถูก นายไม่รู้จักฉัน”

          “ไม่ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น คือ...ฉันอาจจะไม่รู้จักนาย แต่เราทำความรู้จักกันได้” ผมรีบกอดเอวเขาไว้แน่นกลัวว่าเขาจะผละออกห่าง น้ำเย็นมีอิทธิพลทำให้ผมเบียดตัวเขาหาเขา อาศัยตัวเขาเป็นแรงยึดเพื่อให้ยืดตัวได้สูงขึ้นจนหน้าเราเสมอกัน มองเข้าไปในดวงตาสีดำที่ตอนนี้สะท้อนแสงเปล่งประกายยามต้องแสงจันทร์

          “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหมายความแบบนั้น ฉันกลัว ฉันไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ฉันอยากรู้ในสิ่งที่ตัวเองควรจะรู้บ้างเลยเผลอตัวทำนิสัยแย่ๆออกไป อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันขอโทษ” ผมกดจูบที่ปลายคางของเขา ช้อนตาขึ้นมองอาซาด้วยแววตาอ้อนนิดๆแบบที่ชอบทำเมื่อต้องการให้พ่อและพี่ยอร์ชตามใจ

          “นายจะรอใช่ไหม ต่อให้อยากรู้มากแค่ไหนก็จะรอ จะไม่ดื้อกับฉันอีก สัญญาสิ” อาซาพูดนิ่งๆ แต่ผมรู้ว่าเขาจริงจัง ผมลังเลนิดหน่อย แต่พอเขาเริ่มขยับตัวผมก็รีบพยักหน้าตอบตกลงทันที

          “ฉันสัญญา! สัญญาว่าจะไม่เกเร ถึงอยากรู้แค่ไหนก็จะรอให้นายบอก สัญญาอย่างลูกผู้ชายเลย” ผมยืนยันเสียงหนักแน่น

          “ดีมาก เด็กดีของฉัน”

          อ่า...ผมชอบจริงๆที่เขาเรียกผมแบบนี้


…………………………..

          Weston

          “เป็นไงบ้าง พูดความจริงไปแล้วหรือยัง” ผมถาม หลังจากทั้งสองคนทำพ่อแง่แม่งอนใส่กันแล้วโยชิออกไปตาม ก่อนจะกลับมาด้วยสภาพเปียกโชกทั้งคู่ ผมก็ไล่ทั้งสองคนให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และขอให้ปารีสแฟนสาวของผมทำอาหารจานใหม่สำหรับอาซาและโยชิที

          “ยัง”

          “แล้วไม่อาละวาดหรือไง”

          “ก็ไม่ แค่ทำหน้าเป็นเด็กอยากรู้อยากถามตลอดเวลา ถึงจะไม่เอ่ยปากถามแต่ก็ส่งสายตาจะเอาคำตอบเป็นระยะๆจนน่าสงสาร หึหึ” พูดแล้วก็หัวเราะ ผมละทึ่งกับเด็กนั่นจริงๆ ทำอสรพิษร้ายอย่างอาซาให้เชื่องราวกับลูกแกะลูกกวางตัวหนึ่ง

          อาซาเหม่อมองไปไกล แววตามีความเจ็บปวดและอัดแน่นไปด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็มักเก็บไว้กับตัว เขาเป็นเสมือนน้องชายของผม แต่ผมกลับช่วยอะไรเขาไม่ได้เท่าไหร่ ผมพยายามมองให้ออกแต่ก็สูญเปล่า วางมือบนบ่ากว้างที่กำลังสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ตบหนักๆให้กำลังใจ

          “บอกได้ไหม อะไรที่อยู่ในใจนาย อะไรที่นายปกปิดเอาไว้และยังไม่ได้บอก”

          “...”

          “ถ้ายังเห็นว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน  นายบอกกับฉันได้และฉันจะอยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือครอบครัวเราอย่างสุดกำลัง”

          “นายรู้ว่าทำไมฉันถึงบอกโยชิไม่ได้ว่าฉันเป็นอะไร”

          ผมรู้เหตุผลที่อยู่ในสีหน้าที่เจ็บปวดนั่นเป็นอย่างดี มันไม่ใช่แค่เพราะโยชิจะรับไม่ได้ แต่มันหมายถึงความมั่นคงของพวกเรา พวกมนุษย์ต่างเห็นแก่ตัว และถ้าเรื่องของพวกเราเผยแพร่ออกไป พวกเราก็คงไร้แผ่นดินและกลายเป็นเหยื่อของพวกมนุษย์จอมหิวกระหายในอำนาจแบบไม่มีวันจบสิ้น

          “และเราให้ไอ้เจอร์โรมอยู่ใกล้โยชิมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะรู้...” อาซาหยุดพูด เขาหันหน้าหนี ขากรรไกรขบกันแน่นทันที

          “รู้อะไร”

          “รู้ว่าโยชิไม่ใช่แค่มนุษย์ปกติ”

          “เขาเป็นเหมือนเราเหรอ ทำไมฉันไม่รู้สึก!” ผมค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าโยชิเป็นมนุษย์พิเศษอย่างเรา ผมก็ควรจะรู้สึกได้

          “ทั้งใช่และไม่ใช่ และถ้าไอ้เจอร์โรมรู้ โยชิก็ต้องรู้ เพราะมันต้องหาทางบอกเขาแน่ ฉันทนให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เวสตัน นายก็เห็นว่าโยชิกลัวงูขนาดไหน ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร...เขาจะต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเจียนตาย ฉันปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้”

          “แต่มันอาจจะดีถ้าเขารู้ เขาอาจจะเลิกเกลียดและกลัวตัวตนของนายและของตัวเขาเอง แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่าง ทำไมโยชิกลัวงูขนาดนั้น ในเมื่อก่อนหน้านี้เขายัง...”

          “เพราะฉัน...”

          “...”

          “เพราะฉันทำให้เขาต้องกลัว ฉันเป็นคนทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนั้น ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความหวาดกลัว ทั้งหมดก็เพราะฉันที่ทำร้ายเขา!”

          ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

          บางทีไม่ว่าสิ่งมีชีวิตหน้าไหนก็โง่เขลาด้วยกันทั้งนั้น ถึงได้ลืมไปว่า...ความลับไม่เคยมีอยู่ในโลก


         

          .......

          ตอนนี้ยาวมากกกกก มากกว่าทุกตอนที่ผ่านมา 12หน้าครึ่งเกือบ13หน้าเอสี่  :katai4:

          เฮ้อ คนเราทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และมีจุดยืนของตัวเองทั้งนั้น เรื่องราวจะเป็นยังไงไม่รู้ อ้าววว ถ้าอยากรู้ต้องติดตามนะจ้ะ 5555 :katai3:

          แต่งเองนั่งอ่านนั่งเช็ครายละเอียดเองแล้วแบบว่า...มันดาร์กซะเกือบแปดสิบเปอร์เซ็น (หรือมากกว่านี้หว่า) มีหวานอยู่หน่อย หน่อยเดียวจริงๆ แต่ถ้าอะไรลงตัว ระดับความหวานจะพุ่งทะลุปรอทถึงกับเบาหวานขึ้นกันเลยทีเดียว  :m1:

          ปมค่อยๆคลายตัว คิดว่าตอนหน้าโยชิจะรู้ไหวว่าอาซาเป็นอะไร  :m29:

          บางประโยคสนทนาริริขอใช้ภาษาอังกฤษนะคะ เพราะรู้สึกว่าพอเขียนเป็นภาษาไทยแล้วรู้สึกแปร่งๆ ฟีลมันจะคนละอารมณ์เลย แต่ไม่เยอะหรอก นิดหน่อยๆ

          ถึงเนื้อเรื่องจะตื่นเต้นและดาร์กขนาดไหน แต่ด้วยนิสัยหื่นๆของพี่งู ฉากหวานๆปนหวิวก็จะมีโผล่มาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจทุกคนแน่นอนค่ะ คึคึ :hao6:

          ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจนะคะ ^_^ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2014 20:12:38 โดย RiRi »

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
จูบแบบดุเดือดดูดดื่มในน้ำ  แอร๊ยยยยยยยย   :haun4:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:  ให้ดอกไม้น้องโยชิ งูน้อย

ออฟไลน์ howru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
คดีพลิกซะงั้น ช้าหรือเร็วโยชิก็ต้องรู้อยู่ดี
 :z10:

ออฟไลน์ mbpwn_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

แอบฟังอยู่แน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชอบมากค่ะ

ติดตามอยู่เสมอเลย

 o13 o13


meili run

  • บุคคลทั่วไป
ว่าแล้วโยชิ มีอะไรพิเศษๆอยู่

ทั้งรอยคล้ายรอยสักที่อยู่ที่หน้าอก

และคำทะนายที่เคยพูดถึงเมื่อตอนเด็ก

รออ่านเสมอค่ะ



 o13 o13

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ตกใจที่รู้ว่าโยชิไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

โยชิเป็นงูเหรอ

อันนี้สงสัยจริงๆ

เรื่องสนุกและน่าติดตามมากๆ


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ลุ้นโคตรๆๆๆๆๆ

สรุปโยชิเป็นงู   

ติดตามต่อไป รอๆๆนะคะ ชอบมาก

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
รอตอนหน้าดีกว่า มโนเองเดี๋ยวไม่ใช่ 555


ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
มีฉากจูบในน้ำด้วยอ้ะ
ดีๆๆ เอามาคลายเครียด 55555
ว่าแต่โยชิก็เป็นงูหรอ
งี้ถ้ารู้จะช็อกมั้ยเนี่ยโยชิเอ๋ย

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
รอคอยฉากหวานๆ  :hao6:

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1: ขยุ้มหัว+เกาหน้า แก๊กๆๆๆๆๆ
T^T โยชิ โยชิ ทำไงดี ทำไงดี ............. รอตอนต่อไปนะคะ +1เป็ด

ขอบคุณค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เกิดรัยขึ้นอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด