DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 616380 ครั้ง)

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อ๊ากกกกกก มีศัตรู!!!!! หัวใจแล้วววว :ling1:
สรุปว่าสองคนเคยเจอกันตอนเด็กๆสินะ(รึเปล่า)
เริ่มจะเข้มข้นนนนนนขึ้นเรื่อยๆ :m31:
รอตอนต่อไป... :กอด1:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ว่าแล้วโยชิก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกันจริงๆด้วย     :katai4:

ออฟไลน์ nayne

  • miKapleXD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • Super Сasual Dating - Actual Women
อาซา นายไปทำอะไรโยชิ :katai1:
ทำไมรู้สึกหลงรักอาซาอย่างไร้สาเหตุ

เรื่องที่คุณพ่อฆ่าคุณงู ถ้าเป็นเรื่องจริงเราก็ว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ
แต่ทำไมพอเป็นในนิยายคุณพ่อถึงดูโหดร้ายขึ้นมาทันที :hao5:

ออฟไลน์ Kissing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เนื้อเรื่องเข้มข้นและตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ น้องโยจะเป็นงูเหรอนี่
พี่อาซาลงโทษน้องเบาๆหน่อย น้องเจ็บนะ :hao6:
 อดใจรอตอนหน้าไม่ไหวแล้วววววว :ling1

ออฟไลน์ ioohja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :serius2:ลุ้นๆ จะเป็นยังไงต่อน๊า

ออฟไลน์ clock_nuchchee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ใครแอบได้ยินแน่ๆ

ออฟไลน์ oreena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ CheeTah

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
โยชิก็เป็นงูด้วยหรอ โอ่ย อยากใหัสองคนนี้หวานกันเร็วๆจุงเบย

ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
โยชิเป็นทั้งงู และก็เป็นคนด้วย  เป็นยังไงหว่า?????
หรือตอนนี้เป็นคน และจะกลายร่างเป็นงูเมื่อถึงเวลา (เวลาของอะไร?)
แล้วนายอาซาไปทำให้น้องโยชิกลัวงูขั้นรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่??? ทำไปทำไมล่ะเนี่ย

ตอนนี้ หวานน..เพราะโยชิออกตัวแรง แสดงออกโต้งๆเลยว่าอาซาสำคัญกับตัวเองแค่ไหน
ทั้งตามไปง้อ ทั้งกอดแน่น ทั้งจูบคางอ้อน โอ้ยถ้าผมเป็นอาซานะ ไม่ทนแน่ๆ  หุหุ


ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ง่าาาาา  เศร้าาา   พ่องูมาซบเจ้ มามะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ได้ยินใช่ไหม :katai1:

Alphas

  • บุคคลทั่วไป
สนุกจริงๆ ติดตามต่อไป

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :mew1:มีเรื่องให้หนักใจแต่ก็มีความหวานอยู่เหมือนกันจ้า :mew3:

ออฟไลน์ Kissing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao5: หนูโยชิไม่ใช่คน

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ตมสปีดอ่านจนถึงต่อล่าสุดได้ล่ะ
เรื่องนี้ เปิดตอนแรกก็น่าสนใจแล้ว
รอดูกันต่อไปสิ โยชิจะรู้ความลับทั้งหลายเมื่อไหร่และเป็นยังไง
รวมถึงโยชิจะจะออดอ้อนอาชายังไงอีก
กอดมั้งล่ะ จุ๊บคางมั้งล่ะ อาชาทนได้เหรอออ ^^

ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อยากอ่านตอนต่อไปมาก

ค้างค่าาาาาาาา

เป็นกำลังใจให้คนแต่งเน้อ

ออฟไลน์ miaoxian

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โยชิไม่ใช่คนนนน
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ knightprince

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ๊ายยยย เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากคะ เป็นคนนึงที่กลัวงูมาก แต่อ่านเรื่องนี้ละก็แอบสงสารเล็กๆ แต่ก็ยังมีขนลุกตอนที่จินตนาการตาม
สรุปคือโยชิเป็นงูสินะ อยากรู้ว่าจริงๆแล้วอาซาอายุเท่าไหร่กันแน่อะ ดูอยู่มายาวนานมาก เรื่องที่ทำโยชิทนทุกข์ขอเดาว่าที่โยชิเคยบอกว่าโดนงูกัด
ละบางทีอาจจะเพราะไปกัดโยชิเข้าเลยกลายเป็นครึ่งงูงี้ป่าวอะ เดาเอานะ เหมือนแบบโดนแวมไพร์กัดละเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ตื่นเต้นเฟอร์ๆๆ ลุ้นๆ สนุกมากๆ อ่ะริริ มาต่อไวๆ นร้าาา

ออฟไลน์ SWIM

  • ความทรงจำสีเทา
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โยชิเป็นงู ไอย๊ะ !! ><

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
NINE


         

          ความสงสัยเรื่องก่อนๆยังไม่กระจ่าง เรื่องให้ต้องสงสัยเรื่องใหม่ก็ตามมาติดๆ ผมนั่งทานอาหารเช้าร่วมกับคนอื่นๆ ยกเว้นเวสตันและจูเลียตที่ออกไปคุยกันข้างนอก

          “ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่งนะจูเลียต ก็เก็บข้าวของของเธอออกไปซะ”

          “เวสตัน นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!”

          “ทำไมจะไม่ได้ เพราะเธอเป็นเพื่อนกับแฟนฉันน่ะเหรอ นั่นไม่สำคัญเลย ถ้าเธอจะช่วยคิดถึงเรื่องเก่าๆ ตอนที่เธอยังเป็นคนอื่นสำหรับพวกเรา เธอร้องขอความช่วยเหลือในลมหายใจเฮือกสุดท้าย และพวกเรายอมช่วยชีวิตเธอด้วยความเต็มใจ และในเมื่อตอนนี้คนในครอบครัวฉันเดือดร้อน เธอจะไม่ช่วยงั้นเหรอ”

          “แต่ฉัน...”

          “ถ้าเธอยอมรับกฎของฉันไม่ได้ ก็ออกไป ที่นี่ไม่ต้องการคนใจดำไร้น้ำใจ”

          เสียงฝีเท้าเดินกลับเข้ามาในห้องอาหาร ผมเหลือบมองเวสตันที่เดินหน้านิ่งกลับเข้ามากินมื้อเช้าแบบไม่รู้สึกอะไร สักพักจูเลียตก็เดินกระแทกเท้าตามเข้ามา เธอนั่งลงตรงข้ามผมเหมือนเดิม มองหน้าผมเหมือนผมไปฆ่าแม่เธออย่างไงอย่างงั้น

          “ก็ได้...ฉันจะทำ ฉันจะตามติดนายเป็นเงาโยชิ!” จูเลียตกัดฟันกรอด ผมลอบถอนหายใจ มองอาซาที่ทำหน้าไร้ความรู้สึกอยู่ข้างๆ

          เมื่อคืนหลังทานอาหารเย็นเสร็จเขาก็ส่งผมเข้าห้องนอนของเขา ที่อาซายอมสละเตียงฝากหนึ่งให้ผม ผมเห็นว่าบรรยากาศระหว่างเราเริ่มดีขึ้นจึงไม่ได้ถามสิ่งที่สงสัยให้เสียบรรยากาศ

          “ความจริงฉันไปเรียนเองก็ได้นะ” ผมบอกอาซาตอนเดินออกจากบ้านพัก คนอื่นๆเดินนำอยู่ข้างหน้า อาซาบอกผมว่าวันนี้ฟรินน์และจูเลียตจะไปเรียนกับผม เขาว่าสถานการณ์ไม่ค่อยปลอดภัย ผมไม่เข้าใจ อยากจะถามแต่ก็ติดคำพูดของตัวเองเมื่อคืนที่ว่าจะรอให้เขาบอกทุกอย่างกับผมเอง และผมก็ไม่รู้ว่าจะอดทนกับความอยากรู้ของตัวเองได้อีกนานเท่าไหร่

          “ทำตามที่เวสตันว่าเถอะ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ไม่ต้องใส่ใจ”

          “แต่...”

          “ห้ามดื้อ”

          “เฮ้อ...ก็ได้ แล้วเย็นนี้เราจะได้เจอกันใช่ไหม ฉันต้องไปซื้อของสักหน่อย”

          “จูเลียตจะพานายไปซื้อ เอาล่ะ ตั้งใจเรียนนะ แล้วเจอกันตอนเย็นที่บ้าน”

          มือใหญ่ลูบศีรษะผมเบาๆ ผมยิ้มรับแม้ใจจริงอยากให้อาซาเป็นคนไปรับผมที่คณะแล้วพาไปซื้อของก็เถอะ เขาเดินแยกไปเรียน ผมมองตามก่อนจะเดินไปอีกทาง

          “น่าเบื่อ” จูเลียตว่า ผมทำเป็นไม่สนใจ ฟรินน์เดินมาขนาบข้างผม เขายิ้มเป็นกำลังใจให้ ผมไม่รู้นะว่าตัวเองไปเหยียบชายกระโปรงจูเลียตตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอถึงได้ไม่ชอบขี้หน้าผมขนาดหนัก

          ผมค่อนข้างตกใจที่ตัวเองกลายเป็นเป้าสนใจเพียงแค่ฟรินน์และจูเลียตมาพร้อมผม แต่ผมไม่ควรแปลกใจนะ สองคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนดัง คนจำนวนไม่น้อยคงสงสัยว่าผมไปรู้จักมักจี่กับสองคนนี้ได้อย่างไร

          ตลอดคาบเรียนผมแทบจะประสาทกิน ผมพยายามไม่ยุ่งกับจูเลียต แต่เธอพยายามหาเรื่องผมตลอดเวลา ผมบอกให้เธอไปไหนก็ได้ไม่ต้องตามดูผม มีแค่ฟรินน์อยู่ก็พอ และผมยังสัญญาอีกว่าผมจะไม่บอกอาซาหรือเวสตันว่าเธอไม่ได้อยู่ดูผมตลอดเวลาตามคำสั่ง แต่ฟังแล้วเธอกลับหาว่าผมกำลังจะทำให้เธอเดือดร้อน ให้ตายสิ ประจำเดือนเธอไม่มาหรือไงนะ ถึงได้หงุดหงิดง่ายถึงเพียงนี้ นิกกี้และเติร์ดดึงตัวผมออกจากสองคนนั่นเมื่อมีโอกาส นิกกี้ถามผมใหญ่ว่าฟรินน์และจูเลียตมากับผมได้ยังไง ผมเลยโกหกออกไปคำโตว่าทั้งสองคนนี้ว่างและอยากได้ความรู้เพิ่มเติมเลยมานั่งเรียนด้วย และผมก็ยังคงเป็นคนที่หาข้ออ้างได้ห่วยแตกเหมือนเดิม

          ผมไม่ได้พูดคุยกับนิกกี้และเติร์ดอีกเพราะจูเลียตเอาแต่บ่นว่าเสียงพูดคุยของพวกผมมันน่ารำคาญ เราเลยหุบปากฉับ ก้มหน้าก้มตาเรียนไม่สนใจใคร

          ผมแทบไม่ได้ใส่ใจโปรเฟสเซอร์โจเซฟที่กำลังสอนอยู่หน้าชั้นเรียน ผมทำเพียงก้มมองสมุดที่มีตัวอักษรปรากฏอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เนื้อหาที่กำลังเรียน แต่เป็นเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้น

          ...ปานบนหน้าอก...

          ...ความฝัน...

          …แอชยู...

          …ข่าวคนตาย...

          …เจอร์โรม ดาวเสาร์...

          ...ภาษาบ้าบอที่ผับ...

          ...เสียงร้องของคนบนดาดฟ้า...

          ...สิ่งที่ผมกำลังหนี...



          ผมมองลายมือตัวเองบนกระดาษตลอดทั้งคาบเช้า มีอะไรที่ผมพอจะเข้าใจได้บ้าง และใครที่จะให้คำตอบพวกนี้กับผมได้ หรือผมควรรออาซาต่อไปดี รอจนกว่าเขาจะบอก แต่เมื่อไหร่กันล่ะ

          เสียงออดดังหมดเวลา จูเลียตลุกขึ้นทันทีแล้วก็เดินออกจากห้อง ผมเก็บของโดยมีฟรินน์ช่วย

          “เย็นนี้ฉันไม่เข้าเรียนนะโยชิ” นิกกี้เดินมาบอกผม มีเติร์ดทำหน้าเหมือนคนกินยาเบื่อหนูอยู่ข้างหลัง

          “ทำไม” ผมถาม

          “ฉันมีนัดกับเจอร์โรมน่ะ เขาจะพาฉันไปซื้อของให้ปุยเมฆ” เธอบอกสีหน้าเปรี่ยมสุข ฟรินน์ถึงกับจ้องเธอด้วยความสงสัย แน่ล่ะ ก็เธอเพิ่งจะพูดชื่อเจอร์โรมออกมา

          “ไว้ไปหลังเลิกเรียนก็ได้นี่” ผมรั้งนิกกี้ เธอยิ้มสวยอย่างกับนางฟ้าให้ผม

          “ฉันรู้จ้ะโยชิ แต่ว่าเจอร์โรมเขาไม่ได้ว่างตลอด และเขาว่างแค่วันนี้ตอนนี้เท่านั้น ฉันต้องไปจริงๆ” เธอสะพายกระเป๋าแล้วเดินจากไปแบบมีความสุข ผมมองเติร์ดแบบขอความเห็น เขาแค่ยักไหล่แล้วเดินนำออกไปนอกห้องเรียน บางทีผมควรเตือนนิกกี้ว่าอย่าอยู่ใกล้เจอร์โรม

          “เพื่อนนายรู้จักกับเจอร์โรมได้ยังไง” ฟรินน์กระซิบถามผม เราเดินพ้นออกจากนอกห้องเรียน จูเลียตเตรียมจะแว็ดใส่ผมข้อหาที่ออกมาช้า แต่ฟรินน์รีบยกมือห้ามเธอ

          “เธอเจอเขาเมื่อวันก่อนที่ฉันกับนิกกี้ไปผับMagic ด้วยกัน และตอนนี้สองคนนั้นน่าจะกำลังเดทกันอยู่”

          “เดท? เป็นไปไม่ได้ คนอย่างไอ้เจอร์โรมเนี่ยนะเดทกับมนุษย์” ท้ายประโยคฟรินน์เหมือนบ่นพึมพำจนผมฟังไม่ถนัด

          “นายว่าอะไรนะฟรินน์”

          “เปล่า ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเวสตันและอาซาถึงให้ฉันกับจูเลียตตามมาดูนาย” ฟรินน์ทำหน้าเป็นห่วง เขาเสยผมสีเทาควันบุหรี่ของเขาลวกๆ ผมหยุดเดินมองหน้าฟรินน์อย่างจริงจัง หางตาผมเห็นจูเลียตเงยหน้าโคลงหัวไปมาด้วยความรำคาญ

          “กลับไปเถอะจูเลียต ฉันเบื่อที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่เธอคิดว่ารำคาญเป็นคนเดียวหรือไง ฉันก็รำคาญเธอเหมือนกัน ถ้าไม่เต็มใจช่วยก็ไปไกลๆ! เพราะเธอกำลังทำตัวน่าสมเพชให้ฉันคลื่นไส้!!!” คราวนี้ผมเลยใส่เธอเสียยกใหญ่จนนับคะแนนไม่ทัน

          “พอเถอะจูเลียต ฉันเองก็รำคาญเหมือนกัน” ฟรินน์พูดเซ็งๆ จูเลียสทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะเดินหายไป ผมส่ายหน้าตามหลังเธอ เริ่มรู้สึกปวดหัวตุบๆ

          “เฮ้อ ปล่อยเธอไปเถอะ ว่าแต่...เมื่อกี้นายบอกว่านายรู้แล้วว่าทำไมอาซาถึงได้ให้พวกนายมาตามดูฉัน มันหมายความว่ายังไง” ผมเข้าเรื่องต่อ

          “อาซามันไม่ไว้ใจไง บางทีไอ้เจอร์โรมอาจจะเข้าหาเพื่อนเธอโดยใช้ให้เพื่อนเธอเป็นสะพานมาหานายก็ได้ เพราะอย่างนั้นฉันถึงต้องมาคอยตามดูนาย” ฟรินน์อธิบาย ผมขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม

          “แล้วทำไมเจอร์โรมต้องการตัวฉัน ฉันไม่เข้าใจ”

          “เรื่องนั้นนายไปถามไอ้อาซาเองดีกว่านะ ฉันไม่อยากเสี่ยงเวลามันโมโห” เขาหยิบตาทำเป็นเล่นให้ผม

          สุดท้ายก็ไม่มีใครบอกอะไรผมได้อยู่ดี สิ่งที่รู้ใหม่ก็อาจถูกหรืออาจจะผิด ถ้าเจอร์โรมเป็นอันตรายกับผมจริงๆ และเขากำลังหลอกใช้นิกกี้ ผมก็ควรเตือนเธอ แต่นั่นล่ะคือสิ่งที่ยาก ผมไม่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมให้นิกกี้ฟังได้ และนั่นหมายความว่าผมจะไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้เธอเลิกยุ่งกับเจอร์โรม ในทางกลับกัน ถ้าเจอร์โรมสนใจนิกกี้จริงๆ และเขาไม่ได้จะใช้เธอเป็นสะพานเข้าหาผมอย่างที่ฟรินน์ว่า ผมก็ไม่ควรกีดกันสองคนนั้นอย่างยิ่ง

          โอ้ย! มีแต่เรื่องน่าปวดหัว

          ปรากฏว่าคาบบ่ายเติร์ดก็ไม่เข้า บอกแค่ว่าไม่มีอารมณ์เรียน ให้เดาคงไม่พ้นเรื่องที่นิกกี้ออกไปกับเจอร์โรม ผมพยายามจดจ่ออยู่กับเรื่องที่กำลังเรียน แต่ในสภาวะที่มีแต่เรื่องเครียดๆลอยไปลอยมาในสมอง ผมไม่สามารถรับความรู้ได้อย่างเต็มที่

          จูเลียตหายหน้าไปเลย ซึ่งผมอยากจะกราบของพระคุณเธอมากที่ไม่โผล่มากวนประสาทผมให้เสียไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าเธอถูกบังคับ แต่ก็ใช่ว่าผมอยากจะให้เป็นแบบนี้

          “นายไม่ได้มีธุระใช่ไหมฟรินน์ พอดีฉันจะต้องไปซื้อของนอกมหาวิทยาลัยนิดหน่อย” ผมพูดกับฟรินน์หลังเลิกเรียน เขากดโทรศัพท์หยิกๆก่อนจะเงยหน้ามองผม แล้วเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น ผมผายมือเป็นเชิงว่าตามสบาย เขาจึงกดรับสายและเดินออกห่าง

          ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาพ่อบ้างเมื่อวานผมไม่ได้โทรหาพ่อหรือพี่ยอร์ชเลย มีมิสคอลแต่ผมก็ไม่มีเวลาโทรกลับ ป่านนี้เป็นห่วงแย่แล้วมั้ง

          “โยชิ! ลูกพ่อ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อวานไม่โทรมา พ่อโทรไปก็ไม่รับสาย พ่อเป็นห่วงมากเลยรู้ไหม ทำไมหนูเพิ่งจะโทรหาพ่อ” พ่อกดรับสายปุบก็พูดร่ายยาวปับ น้ำเสียงร้อนรนด้วยความเป็นห่วงจนผมรู้สึกผิด

          “พ่อจ๋า ใจเย็นๆนะ โยไม่ได้เป็นอะไร คือ...เมื่อวานเพลียๆเลยเผลอหลับไปแต่หัวค่ำ แล้ววันนี้ก็มีเรียนทั้งวัน แต่พอเลิกเรียนปุ๊บก็โทรหาพ่อทันทีเนี่ยแหละ” ผมโกหกคำโต ผมทำผิดบาป แต่ผมไม่อยากให้พ่อกับพี่ยอร์ชเป็นห่วงผมมากไปกว่านี้

          “หนูไม่เป็นอะไรแน่นะโย ให้พ่อกับพี่ยอร์ชไปหาไหม พี่เขานั่งไม่ติดเลย กลัวหนูจะมีเรื่องมีปัญหา”

          “ไม่เป็นไร พ่อไม่ต้องมาหรอก โยสบายดี แล้วพ่อกับพี่ยอร์ชล่ะ สบายดีใช่ไหม โยไม่อยู่กินข้าวครบมื้อหรือเปล่า” ผมเปลี่ยนเรื่อง

          “แหะๆ ก็ครบนะ”

          “ไม่ครบสินะ”

          “เอาน่า ไม่ต้องสนใจคนแก่อย่างพ่อหรอก ดูแลตัวเองดีๆนะโย พ่อเป็นห่วง”

          “ครับพ่อ เอ่อ...พ่อครับ โยมีอะไรจะถาม”

          คำตอบของบางเรื่องก็ต้องหาจากคนใกล้ๆตัว ทั้งเรื่องปานที่มีแต่พ่อกับพี่ยอร์ชที่รู้ และความฝันเกี่ยวกับงู ผมอยากรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝันจากอาการจิตตก หรือเป็นความจริงที่ผมลืมเลือนไป

          “อะไรเหรอลูก”

          “คือ...ปานที่อกข้างซ้าย มันไม่มีอะไรไม่ดีใช่ไหมพ่อ มันเป็นแค่ปานใช่หรือเปล่า” ผมถาม ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตรงตำแหน่งที่มีปานรูปงูอยู่ รู้สึกกลัวตัวเองตงิดๆ

          “ทำไม มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” พ่อถามเสียงค่อนข้างร้อนรน ผมเม้มปากแน่น เผลอส่ายหน้าทั้งๆที่พ่อคงไม่เห็น

          “เปล่าครับ โยแค่สงสัยเฉยๆก็เลยถาม”

          “มันไม่มีอะไรหรอกลูก อย่าคิดมาก ไว้วางๆพ่อจะไปหานะ พ่อคิดถึงลูกนะ” พ่อรีบตัดบท ผมที่จะถามอีกเรื่องก็เลยต้องหยุด

          “ผมก็คิดถึงพ่อครับ ฝากบอกพี่ยอร์ชด้วยว่าผมคิดถึง”

          ผมวางสายพ่อ มองหน้าจอโทรศัพท์นิ่งจนหน้าจอดับสนิท กล่อมตัวเองว่ามันไม่มีอะไร ก็แค่ปานอย่างที่พ่อบอก คิดแบบนั้นผมก็เบาใจไปได้เรื่อง

          ฟรินน์คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเช่นเดียวกับผม เขาเดินหน้าเครียดเข้ามาใกล้ ผมเลิกคิ้วถาม เขามองหน้าผมเหมือนคนคิดไม่ตกก่อนจะเอ่ยปากพูด

          “ฉันมีธุระต้องไปทำกะทันหัน นายคงต้องไปซื้อของกับจูเลียต ฉันโทรตามเธอแล้ว”

          “ไม่เป็นไร ฉันไปเองดีกว่า ให้เธอไปด้วยฉันอาจจะถูกฆ่าตายระหว่างทาง”

          อย่างน้อยๆก็ทางคำพูดและสายตา

          “เธอจะไม่ทำแบบนั้นฉันสัญญา และนายต้องเชื่อฉัน นายไปคนเดียวไม่ได้โยชิ เข้าใจใช่ไหม” ฟรินน์จับไหล่ของผมไว้ทั้งสองข้าง โน้มหน้าลงมาพูดใกล้ๆ ผมหรี่ตามองก่อนจะถอนหายใจพลางพยักหน้ายินยอม

          “ก็ได้ ฉันเข้าใจ”

          ในเมื่อไม่มีทางเลือก ก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับการอารักขาจากคนที่เกลียดผมเข้าไส้ จูเลียตยืนรอผมหน้ามหาวิทยาลัยพร้อมรถสปอร์ตของเธอ ฟรินน์เดินมาส่งผมถึงที่

          “อย่าก่อเรื่องนะจูเลียต”

          “รู้แล้วน่า” เธอทำเสียงฮึมฮำในลำคอ ผมยักไหล่ให้ฟรินน์ เดินไปขึ้นรถของจูเลียตที่เจ้าของรถนั่งคอยท่าอยู่ในตำแหน่งคนขับ และเสียงเร่งเครื่องยนต์ดังเตือนว่าถ้าผมยังชักช้า ผมอาจได้ไปนอนอยู่ใต้ท้องรถแทนที่จะไปถึงที่หมาย

          “รบกวนด้วยแล้วกัน ฉันซื้อของไม่นานหรอก” ผมพูดอย่างสุภาพ เพื่อแสดงให้จูเลียตรู้ว่าผมไม่ได้คิดร้ายกับเธอและผมเป็นมิตรมากพอให้พูดคุยด้วย จูเลียตแค่หันหัวมองผมนิดหน่อย แล้วก็หันกลับไปจ้องถนนเบื้องหน้า เป็นการปฏิเสธน้ำใจของผมโดยสิ้นเชิง ผมยังคงมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอ และประหนึ่งว่าสายตาเหลือบแลของผมเตือนว่าเธอควรจะมีมารยาทมากกว่าที่ควรเป็น

          “จะไปที่ไหน” เธอถามนิ่งๆ เสียงติดจะแข็ง แต่ก็นับว่าพัฒนาไปในทางที่ดี

          “ร้านขายหนังสือมือสอง ตรงถนน...” ผมส่งกระดาษที่วาดแผนที่ให้เธอดู เธอรับไปมองประมาณห้าวินาที แล้วเหลือบตามองผมแปลกๆ ก่อนจะยัดแผนที่คืนใส่มือผม

          “จะไปทำไมที่นั่น”

          “ไปซื้อหนังสือ”

          เธอคงจะเข้าใจเพราะไม่ได้ถามอะไรต่อ ร้านอยู่ไม่ไกลจากแอชยูมากนัก แต่ต้องเข้าซอยเล็กที่รถไม่สามารถขับสวนกันได้ เป็นทางแบบวันเวย์วิ่งได้ทางเดียว อาคารบ้านเรื่องภายในซอยเป็นตึกเก่าแก่ บ้างก็เป็นไม้ บ้างก็เป็นปูน ในซอยค่อนข้างเงียบ มีร้านค้าอยู่ไม่เท่าไหร่ เท่าที่เห็นมีร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายกาแฟแนวคลาสสิก และข้างหน้านั่นเป็นร้านหนังสือที่ผมกำลังตามหา

          “จอดตรงนี้แหละ แล้วเธอก็ลงไปหาอะไรดื่มรอก่อนละกัน ฉันน่าจะอยู่ในร้านนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง” ผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว เปิดประตูลงจากรถทันที เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึงร้านที่ผมตามหา ตัวร้านสองชั้นสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ผมผลักประตูเข้าไปข้างใน เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังกรุ้งกริ้ง เจ้าของร้านที่กำลังปีนบันไดเหล็กก้มลงมองลูกค้าอย่างผม เขายิ้ม มือดันหนังสือเข้าชั้นแล้วค่อยๆปีนลงมา

          “ต้องการอะไรหรือพ่อหนุ่ม ถามฉันได้นะ” สำเนียงภาษาไทยแปร่งหู และหน้าตาที่ค่อนไปทางต่างชาติยิ้มอ่อนโยน

          “ผมกำลังหาหนังสือเล่มนี้น่ะครับ” ผมยื่นโน้ตที่จดชื่อหนังสือตามที่อาจารย์บอกให้หาอ่านเสริมส่งให้คุณลุงเจ้าของร้าน

          “อ่อ เหลือเล่มสุดท้ายพอดี ตามฉันมา” คุณลุงเดินนำขึ้นชั้นสอง บันไดไม่ค่อยจะแข็งแรง ยามที่ก้าวเท้าแต่ละทีก็ดังเอี๊ยดอ๊าด

          “ไม่ต้องกลัวพ่อหนุ่ม มันแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักคนสิบคนได้เลยล่ะ ฮะๆๆ”

          “ครับ”

          ชั้นสองหนังสือเยอะกว่าชั้นแรกมาก ไม่คิดว่าจะมีร้านแบบนี้อยู่ในตัวเมืองด้วย หนังสือโดยส่วนมากค่อนข้างเก่า คุณลุงแยกไปหาหนังสือที่ซอกด้านใน ผมยืนรออยู่แถวชั้นหนังสือริมนอก กวาดตามองชื่อบนสันหนังสือแต่ละเล่ม แถวนี้มีแต่หนังสือเกี่ยวกับโหราศาสตร์และปรัชญาต่างๆ

          ‘Mysterious Birthmark’

          ผมเปิดหนังสือไปหน้าแรก หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือของประเทศไทย เนื้อหาข้างในเป็นภาษาอังกฤษหมด แต่ละหน้ามีรูปปานแต่ละแบบและมีประวัติบอก ผมแค่กวาดตามองคร่าวๆ คุณลุงเจ้าของร้านเดินเข้ามาใกล้ ผมปิดหนังสือในมือลง

          “สนใจเรื่องนี้เหรอพ่อหนุ่ม” คุณลุงพยักหน้ามาที่หนังสือในมือผม

          “นิดหน่อยครับ”

          “อ่ะนี้หนังสือที่เธอหา เล่มนั้นเป็นหนังสือเก่า ใช้ภาษาอังกฤษโบราณ อ่านยากหน่อย พยายามเข้าล่ะ”

          ผมลงไปจ่ายเงินข้างล่าง คุณลุงแถมหนังสืออ่านเล่นนอกเวลาให้ผมอีกเล่ม ผมเกรงใจจะไม่รับแต่คุณลุงก็คะยั้นคะยอ ผมเลยต้องรับมาพร้อมบอกว่าคราวหน้าจะแวะมาอุดหนุนอีก

          ออกจากร้านท้องฟ้าก็เริ่มมืด ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา หกโมงแล้วเหรอ ผมเดินกลับไปที่รถ หวังว่าผมคงไม่ได้ให้จูเลียตรอนานไปหรอกนะ ไม่งั้นผมคงโดนเธอด่าเละ

          “โอ๊ะ!”

          เดินไม่ระวังและไฟทางก็ไม่มี ผมจึงเหยียบอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง ผมกระโดดขาเดียวเข้าใกล้เสาไฟฟ้า เท้ามือข้างหนึ่งกับเสาไฟ อีกข้างถอดรองเท้าออกดู ที่แท้ก็เศษกระเบื้อง ผมหยิบมันออกจากรองเท้าก่อนจะสวมเท้ากลับเข้าไปอีกครั้ง เดินกระเพลกๆกลับไปที่รถ แต่จู่ๆก็มีใครบางคนรั้งแขนผมเอาไว้

          “โอ๊ย!” เขาจิกแขนผมอย่างแรง ผมหันไปมองด้วยความตกใจ นิ่วหน้าเพราะเล็บของเขากำลังทะลุเข้าไปในผิวหนัง ตาผมขยายกว้าง ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ไว้เคราเท่าที่ผมสังเกตได้จากความมืด เขามองผมด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ผมดึงแขนตัวเองแต่กลายเป็นเพิ่มบาดแผลเสียอย่างนั้น น้ำตารื้อคลอด้วยความเจ็บ ผมใช้มือข้างที่ว่างเหวี่ยงหมัดใส่มันอย่างแรง แต่เหมือนเอามือไปชกกับกำแพงหินเสียมากกว่า ผมเจ็บร้าวที่มือจนคิดว่ากระดูกอยากจะแตก

          “ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยผมที จูเลียต ช่วยฉันด้วย!” ผมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พวกมันยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นๆ มือที่จิกทะลุผิวหนังผมเค้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เลือดจำนวนไม่น้อยไหลลงพื้น ผมพยายามดิ้นเอาตัวรอด ขายกขึ้นถีบไอ้ตัวร้ายแต่มันไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิด ผมคงจะไม่ได้ถูกฆ่าตายที่นี่หรอกนะ

          “แกกล้าดียังไงเข้ามาในเขตเราไอ้พวกอสรพิษโสมม!” มันคำรามเสียงสูงใหญ่ ผมผวาตกใจตามแรงกระชากของมัน

          “โยชิ!”

          ผมแทบอยากจะร้องไห้ทันทีที่ได้ยินเสียงจูเลียต บางอย่างลอยมากระแทกหน้าคนที่จับแขนผมไว้ มันตกใจปล่อยมือผมออก ผมรีบวิ่งหนีทันที จูเลียตอยู่ข้างหน้าผม เธออยู่ในสภาพเหลือรองเท้าส้นสูงข้างเดียว ผมวิ่งไปหลบหลังเธอ ไอ้พวกนั้นเดินเข้ามาใกล้เรามากขึ้นทุกที เธอมองสภาพผมก่อนจะทำหน้าตกใจ จับแขนผมไปดม

          “นายเป็นอะไรโยชิ!?”

          “หมายความว่ายังไง” เลือดไหลออกจากแขนผมมากขึ้นจนรู้สึกได้เพราะกลิ่นคาวคละคุ้งไปทั่วบริเวณ

          “นายโง่หรือไง นายไม่ใช่มนุษย์!” เธอตะคอกเบาๆ แต่ทำเอาผมมึนตึบ ผมคงไม่ได้เมากลิ่นเลือดตัวเองจนได้ยินอะไรเพี้ยนๆใช่ไหม

          “เธอบ้าหรือไงจูเลียต พูดบ้าอะไรของเธอ ฉันเป็นมนุษย์!”

          แฮ่!!!

          “เวรเอ้ย! ถ้านายเป็นตัวถ่วงฉัน ฉันเอานายตายแน่!”

          จูเลียตพูดขู่ผมเสร็จเธอก็ล็อคคอผมแน่น ลากผมกลับขึ้นรถก่อนจะวิ่งไปที่ฝั่งคนขับ เธอสตาร์ทรถตอนที่พวกมันมาถึงตัวรถแล้ว พวกมันแยกเขี้ยวใส่ผม เขี้ยวแบบเขี้ยวจริงๆ ผมไม่ได้ตาฟาด แต่นั่นมันเขี้ยวของสัตว์ชัดๆ จูเลียตขับรถถอยหลังแต่ไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหนเยอะแยะ ล้อมหน้าล้อมหลังเราไปหมด เธอสบถไม่เป็นภาษายกใหญ่ เหยียบคันเร่งพุ่งชนพวกมัน แต่พวกมันอึดกว่าที่คิด ไม่มีใครล้มลงไปตามแรกกระแทก กลับส่งเสียงคำรามหนักขึ้นๆ ใช้มือทุบรถของเธอดังปั้ก เธอเอื้อมมือเปิดคอนโซลรถ หยิบวัตถุอันตรายออกมา ผมมองอึ้งๆ ทำไมจูเลียตถึงต้องพกปืน

          “ย้ายมาขับรถ!” เธอบอกอย่างฉุนเฉียว ผมรีบทำตามอย่างรวดเร็วด้วยความทุลักทุเล เลือดยังคงไหลไม่หยุดและผมเริ่มรู้สึกอ่อนแรง แผลฉกรรจ์ที่ข้อมือรุนแรงมากกว่าที่ผมคิด เพราะมันแสบร้อนเหมือนถูกไฟลามเลีย

          “ยื่นมือมา ไอ้พวกเวรเอ้ย! ถ้ารถฉันมีรอยฉันจะฆ่าพวกแก” เธอกระชากเสียงบอกผมพร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอมัดปิดบาดแผลให้ผม เธอออกแรงเยอะมากผมร้องโอยด้วยความเจ็บ

          “เหยียบให้มิดเลยเข้าใจไหม ฉันจะจัดการพวกมันเอง” เธอกดเสียงต่ำบอกผม ผมพยักหน้า เธอนับเลขให้สัญญาณกับผม ผมก็กดเท้าเหยียบคันเร่งมิด จูเลียตเปิดกระจกแล้วยิงพวกมันโดยไม่ลังเล เสียงปืนดังติดกันหลายต่อหลายนัด ผมตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังคงขับรถชนพวกมัน จนเราสามารถฝ่าวงล้อมของพวกมันมาได้ มือที่กำพวงมาลัยสั่นจนน่ากลัว จูเลียตอัดกระสุนเพลิงเข้าไปใหม่

          ปึก!

          มีบางอย่างอยู่บนหลังคารถ ก่อนที่มันจะกระโดดมาขวางหน้ารถเอาไว้ ผมเผลอเหยียบเบรกกะทันหัน จูเลียตด่าผมที่ทำให้เธอหัวโขกกับกระจกรถด้านหน้า ผมมองสิ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าตาค้าง หมาป่าร่างยักษ์สูงเท่าตึกสองชั้น มันเอามือดันรถเอาไว้ไม่ให้พวกเราขับฝ่าออกไปได้ จูเลียตมองด้านหลังตื่นๆ พวกมันตามมาฝูงใหญ่ ผมกำลังช็อคสุดขีด ออกแรงเหยียบคันเร่งอีกครั้ง แต่เร่งยังไงรถก็ไม่เคลื่อนที่ เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังแสบแก้วหู คนแถวนี้ไม่มีใครสนใจหรือยังไง

          “ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว อาซาจะโทษฉันไม่ได้ ไม่งั้นเราตายกันทั้งคู่แน่” จูเลียตบ่นหัวเสีย มองหน้าผมโกรธๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปเบาะหลัง หยิบเสื้อยืดมาตัวหนึ่ง ออกแรงฉีกจนขาดเป็นวิ่น ก่อนจะใช้ผ้านั้นปิดตาผมเอาไว้

          “เธอทำอะไร!” ผมร้องถามเสียงตื่นตระหนก

          “ถ้าไม่อยากตายก็หยุดพูดมากแล้วหยุดเหยียบคันเร่งซะ! รถฉันมันจะบ่องเท้งแล้ว!” เธอกระชากเสียงใส่ ผมทำตามที่เธอบอกทันที

           “ไม่ว่ายังไงก็ห้ามเปิดตาออกดู ถ้านายขัดคำสั่งฉัน ฉันจะฆ่านาย” เธอเอาปืนในมือขู่ผม ผมรีบพยักหน้าตอบตกลง ผมได้ยินเสียงเปิดประตูปละเสียงกระแทกปิดอย่างแรง ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมควรลงไปช่วยเธอ จูเลียตเป็นผู้หญิง เธอจะไปต่อสู้กับไอ้หมาป่าตัวใหญ่ยักษ์แบบนั้นได้ไง



          ‘อ๊ากกกกกก!!’



          เสียงร้องโหยหวนทุรนทุรายจากความเจ็บปวดปางตายของสัตว์ป่าดังก้องกังวาน ผมรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก เสียงร้องคำรามอย่างทรมานดังขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ด้วยความเป็นห่วงจูเลียต ผมขัดคำสั่งเธอ ดึงผ้าที่ปิดตาออก แต่ผมมองอะไรไม่เห็น กระจกหน้ารถเต็มไปด้วยเลือด ผมแทบอยากจะอาเจียนออกมาด้วยความสยดสยอง ผมเปิดประตูรถออกไปหวังจะไปช่วยจูเลียต



          ‘อ๊ากกกกกกก!!!’



          “...!” ผมเบิกตาโตเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังหยุดหายใจ งูตัวใหญ่พอๆกับหมาป่ากำลังใช่ลำตัวเลื้อยรัดร่างมันแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังเปรี๊ยะ หัวงูอยู่สูงเท่ากับหัวของมัน ดวงตาอสรพิษยักปูดโปนเปล่งแสงจ้องหน้าหมาป่าที่กำลังร้องโหยหวนจนมันหยุดร้องเพราะสิ้นลมหายใจก่อนที่มันจะกลายร่างกลายเป็นผู้ชายตัวใหญ่แต่หน้าเละเหมือนถูกน้ำกรดสาด และมันเป็นคนเดียวกับคนที่จิกเล็บลงบนแขนผม

          ผมทรงตัวแทบไม่อยู่ จังหวะที่งูตัวใหญ่ยักษ์หันมองมาทางผม ตาของมันวาวโรจน์ ผมรีบมุดตัวกลับเข้าไปในรถ ยกมือทุบอกตัวเองให้มันรู้สึกและกลับมาหายใจอีกครั้ง

          มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง ผมต้องฝันไปแน่ๆ

          อสรพิษยักษ์และหมาป่ากลายร่างเป็นคน

          ผมหลับตาแน่นไม่กล้าลืมตามอง ลืมว่าตัวเองต้องออกไปช่วยจูเลียต...ใช่! ผมลืมเธอไปเลย ป่านนี้เธอไม่ถูก...

          ปึก!

          ผมสะดุ้งผวาจนแทบช็อค จูเลียตจ้องผมอย่างโกรธจัด เธอเอื้อมมือคว้าคอผมไว้แน่น ออกแรงบีบจนผมหายใจไม่ออก พยายามดิ้นให้เธอปล่อยผม

          “นายมันตัวปัญหา ฉันสั่งแล้วไงว่าไม่ให้เปิดผ้า! นายอยากตายมากสินะ!!!” แววตาของเธอเรืองรองกลายเป็นดวงตาของอสรพิษตัวนั้น ผมตาเหลือกด้วยความกลัว รู้สึกเย็บวาบไปทั้งร่าง หัวใจที่เหมือนจะหยุดเต้นกลับมาเต้นอีกครั้ง ทั้งเร็วและรัว เธอปล่อยมือออกจากคอผม ผมสำลักไอจนตัวโยน แต่ยิ่งไอก็ยิ่งเจ็บแผลที่แขน และเลือดก็ไหลทะลักมากขึ้นทุกที

          “นี่ไม่ใช่ความผิดฉัน อาซาจะมาโทษฉันไม่ได้ นายแส่ไม่เข้าเรื่องเอง!”




          …….

          บอกเลยว่าถ้าริริเป็นโยชิ ป่านนี้ผูกคอตายใต้ต้นหญ้าไปนานแล้วถ้าต้องมาเจอเรื่องสยองขวัญขนาดนี้  :katai1:เอาล่ะ...ตอนหน้าความจริงจะเปิดเผย น้องโยรู้แล้วพี่อาซาว่าพวกพี่เป็นอะไร รอลุ้นกันเลยว่าน้องว่าทำยังไงเมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริงของพี่งูสุดหล่อของเรา  :hao5:

          เรื่องนี้เราจะไม่ปล่อยให้คนอ่านได้พักหายใจหายคอ ลุ้นระทึกไปทุกตอนเรื่อยๆ คนแต่งก็ตื่นเต้น คนอ่านก็ลุ้น มันดีพะยะค่ะ ฮ่าๆๆๆ :laugh:

          ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นให้นะคะ ดีไม่ดียังไงบอกด้วยนะคะ ริริจะได้นำไปปรับปรุง พยายามจะพัฒนาฝีมือตัวเองแต่ก็ไม่รู้ว่าทำได้ดีแค่ไหน  :กอด1:

          เรามาเอาใจช่วยหนูโยชิและพี่อาซากันดีกว่า ฟ้าหลังฝนยอมงดงามเสมอ เนอะๆ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2014 02:54:45 โดย RiRi »

ออฟไลน์ mbpwn_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

จิ้ม

โยชิ  :hao5:  :hao5: :hao5: :hao5:
จะรู้แล้วจะรู้แล้ว  ฟหกด่าสวฟหกด่าสว   :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ตอนนี้พี่งูออกน้อยอ่ะ  ตอนหน้าขอเต็มๆ    :laugh:

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
กลับมาต่อนะตัวเอง เค้าลุ้นมากอ่ะ :hao5:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เฮ้ออออออ โยชิ ถึงเป็นผช.ลูกก็อ่อนแอกว่าจูเลียตอีกนะ ไม่ต้องลงไปช่วยเค้าหร๊อกกก :เฮ้อ:
แต่ก็นั่นล่ะ ไม่รู้ความจริงตอนหน้าแล้วจะรู้ตอนไหน!!!  :laugh:
เป็นนายเอกสมัยใหม่ ห้ามหนีความจริง เราต้องพุ่งชนอย่างเดียวเท่านั้น :m31:
รอนตอนต่อไป มากกกกกกกก :กอด1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ตอนหน้าหนูโยจะรู้ความจริงแล้ววววว  :hao7:

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ finn~luv

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
สนุกมากเลยยยยย ชอบๆๆ ลึกลับซับซ้อนและลุ้นทุกตอน
อ่านถึงตอนนี้แล้วรู้สึกชื่นชมน้องโยชิ  :hao5: :hao5:
เจอแต่เรื่องลึกลับ แปลกประหลาดเลือดสาดแต่ก็ยังมีสติอยู่ได้  เก่งมากหนู
แต่ไม่รู้หลังจากนี้จะเป็นยังไง น่าจะรู้ตัวจริงของพี่ๆงูแล้วสินะ
ว่าแต่โยชิก็ไม่ใช่มนุษย์เหมือนกันหรอเนี่ย ยิ่งไปกันใหญ่  o22 o22
นอกจากตกใจคนรอบตัว ยังต้องตกใจตัวเองด้วยนะเนี่ย  555555

meili run

  • บุคคลทั่วไป
โยชิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด