DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 616402 ครั้ง)

ออฟไลน์ pamnana

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
มีภาค 2 ด้วยหรอ กี่ตอนเนี่ยเรื่องนี้ :hao7:
อีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อหนิ  :z3:

ออฟไลน์ omelet

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ปกติอ่านเรื่องอื่นๆก่อนหน้านี้อยู่นะคะ แอบเป็นแฟนคลับลับๆ :mew1:

ชอบเรื่องนี้มากนะคะ เราว่าได้ฟีลแฟนตาซีกำลังพอดีค่ะ แต่ตอนแรกรู้สึกงงๆนิดหน่อยกับบรรยากาศ
เพราะเดี๋ยวจะไปทางแฟนตาซีแบบเมกา หรือทางแฟนตาซีเก่าๆคลังๆ แต่พออ่านผ่านไปสักห้าหกตอน
ก็เริ่มจับทางได้คะว่าไปแนวไหน
 
ลุ้นมากเลย อยากอ่านต่ออย่างใจจดจ่อ โดยเฉพาะฉากเรียกเลือด  :m25: 55+ ปมแอบเยอะแต่ก็ค่อยๆคลี่คลายดีค่ะ
ตื่นเต้น รอต่อนต่อไป


//แอบอยากให้น้องโยเป็นงูได้อะ จะได้มุ้งมิ้งกะพี่อาซาได้ร่างงู 555+  :ruready

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
 :hao6: โยชิแซ่บนะเราน้ะ
อยากเห็นตัวเอกเป็นเหมือนพระเอก แปลงเป็นงูได้
ชีวิตจะยาวขึ้นมั้ยอ้ะ (?) จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5: ค้างจัง+1เป็ด 5555+
อยากให้โยชิเป็นงูจะได้อยู่กับอาซานานๆ>||||<♡

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สงสารอาซานะ ช่วงแรกๆ ไม่ค่อยชอบโยชิ รู้สึกว่าเป็นเด็กที่ดื้อ พูดอะไรก็ไม่ฟัง แต่มาช่วงหลังๆ ก็เริ่มน่าเห็นใจและน่าสงสารทั้งคู่ ขอให้รักกันโดยไม่มีอุปสรรคไวๆนะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาดันจ้า

เผื่อได้อ่าน

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
FIFTEEN




         เสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งพิงผนังมุมหนึ่งในห้องนั่งเล่นตีบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง เป็นเวลารับประทานอาหารเย็นของบ้านหลังนี้ และเป็นเวลาระทึกขวัญสำหรับผมในวันนี้เช่นกัน

         ‘ถ้าไม่อยากให้เพื่อนของนายตาย คืนนี้มาหาฉันที่ร้านR ตอนสามทุ่ม

         ห้ามบอกใครทั้งนั้น ไม่งั้นเพื่อนของนายตายแน่

         เจอร์โรม’


         ผมกดอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยใจที่ไม่เป็นสุข ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอาซา หลังจากที่ได้รับข้อความ ดาวเสาร์บอกกับผมว่า เรื่องที่เขาจะพูดกับผมก็คือเรื่องของนิกกี้

        ‘ฉันเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ไอ้เจอร์โรมกำลังทำ ฉันรู้แค่ว่ามันมีปัญหากับไอ้อาซามานานมากแล้ว ปัญหาที่มีแค่พวกมันสองคนเท่านั้นที่รู้ ส่วนที่มันมายุ่งกับนายและเพื่อนของนาย นั่นก็เพราะว่านายเป็นคนสำคัญของไอ้อาซา มันถึงได้เลือกใช้นายเป็นเครื่องมือในการทำร้ายไอ้หมอนั่น ถึงฉันจะไม่เห็นด้วยเพราะนายคือเพื่อนของฉัน แต่ฉันห้ามอะไรไอ้เจอร์โรมไม่ได้ นอกจากความเป็นเพื่อน ฉันก็คือลูกน้องของมัน และพวกฉันเป็นศัตรูกับพวกอาซา เพราะอย่างนั้นสิ่งที่ฉันทำได้ก็แค่เตือนนายให้ระวังตัวเท่านั้น”

         ‘แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับนิกกี้’

         ‘เพราะเธอเป็นเพื่อนของนายยังไงล่ะ คนที่จิตใจดีอย่างนายก็ต้องไปช่วยเพื่อนอยู่แล้ว เจอร์โรมถึงได้ใช้เพื่อนของนายเป็นตัวต่อรองกับนายยังไงล่ะ’

         ‘แล้วฉันควรต้องทำยังไง ตอนนี้นิกกี้อยู่กำลังตกอยู่ในอันตราย’

         ‘เรื่องนั้นฉันบอกไม่ได้หรอก แต่ฉันจะแนะนำอะไรให้อย่าง บางทีคนเราก็ต้องเห็นแก่ตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะถ้าไม่เห็นแก่ตัว อาจเป็นเราที่จะต้องตาย’


         ดาวเสาร์จะหมายความว่า ให้ผมเห็นแก่ตัวปล่อยให้นิกกี้ตายไป เพื่อที่ชีวิตจะได้ปลอดภัยอย่างนั้นเหรอ?

         ผมทำแบบนั้นไม่ได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนิกกี้ด้วยซ้ำ ผมจะให้เธอมาเดือดร้อนแทนได้ยังไง จะให้เธอตายไปโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าๆพวกนี้เลยเนี่ยนะ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก

         ผมก้มหน้ามองข้อความจากเจอร์โรมอีกครั้ง ผมจะไปช่วยนิกกี้ได้ยังไง แม้แต่ที่ตั้งของร้านR ผมยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผมจะเป็นพวกไร้น้ำยา ไม่มีอะไรดีสักอย่าง นอกจากชีวิตซวยๆที่เจอแต่ปัญหา นอกนั้นก็ไม่เห็นว่าคนอย่างผมจะมีอะไรดี ก็แค่คนไร้ประโยชน์

         เสียงเท้าวิ่งลงบันไดตึกตักมาจากชั้นบนของคนหัวสีเทาอ่อนดูจะเป็นอะไรที่คุ้นเคยแม้ผมเพิ่งจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่นาน ฟรินน์วิ่งผ่านหน้าผมไปที่ห้องรับประทานอาหารพร้อมเรียกผมให้ไปกินข้าว เห็นว่าวันนี้ปารีสลงมือทำมื้อเย็นชุดใหญ่เพื่อเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างผม

         “ได้เวลากินข้าวแล้ว นั่งเหม่ออะไร” อาซาท้าวแขนกับพนักโซฟาคร่อมตัวผม โน้มหน้ามาถามใกล้ๆ ผมส่ายหัวก่อนจะลุกตามอาซาไปที่ห้องทานข้าว ผมก้มหน้าหลบตาอาซาตั้งแต่กลับมา เขามองผมเหมือนจะล่วงรู้ความคิดและสิ่งที่อยู่ในหัวผม เพียงแต่เขาไม่พูดมันออกมา ผมเลยไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าว่าผมกำลังคิดอะไร และมีเรื่องอะไรให้ต้องคิด ดังนั่นผมเลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควรบอกเขาดีไหม

         เพราะคำขู่จากเจอร์โรมที่บอกว่าห้ามผมบอกใคร ไม่งั้นนิกกี้เพื่อนของผมจะตาย ผมถึงได้รั้งรอที่จะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับใครสักคนที่พอจะช่วยผมได้ และคนๆนั้นก็คืออาซา แต่เมื่อผมคิดจะพูด ภาพนิกกี้ที่นอนจมกองเลือดก็ลอยมา ถ้าผมบอกอาซาแล้วเจอร์โรมรู้ และฆ่านิกกี้ทิ้ง ผมก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกร ที่แม้ผมจะไม่ได้เป็นคนจ้วงมีดลงไปบนกายของเธอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมคงเป็นคนที่ส่งมีดให้เจอร์โรมปลิดลมหายใจของเธอทิ้ง ราวกับชีวิตเธอไม่มีค่าให้อยู่ต่อ แต่ถ้าผมไม่หาคนช่วย ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปช่วยเพื่อน ผมไม่มีพละกำลังหรือฤทธิ์เดชอะไรไปต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าที่แสนโหดร้าย ที่ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้ นับประสาอะไรกับผม ที่ถ้าไปคนเดียวก็คงไม่ต่างกับเอาชีวิตไปตาย ซ้ำร้ายถ้าอาซารู้เรื่องเข้าทีหลัง ผมก็คงเป็นได้แค่คนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน คนที่คอยแต่จะสร้างปัญหาให้ชาวบ้านคอยตามแก้ไม่จบไม่สิ้น

         ผมไม่มีทางเลือกเลย ไม่ว่าทางไหนก็เลือกยาก ไอ้ครั้นจะไม่เลือกเลยก็ไม่ได้ แต่ถ้าให้เลือก ไม่ว่าทางไหนก็มีแต่เสียกับเสีย ถ้าบอกอาซานิกกี้ก็ไม่รอด ถ้าไม่บอกผมก็อาจจะไม่รอดและอาซาก็ต้องร้อนใจเพราะปัญหาที่ผมก่อ

         ผมเครียดจนอยากจะร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆแล้วก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อยากปัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ห่างตัวโดยที่ไม่ต้องคิดและใส่ใจ แต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ คนเราเมื่อเติบโตขึ้น ความซับซ้อนทางความคิดจะมีมากขึ้น จากที่ไม่ต้องคิดอะไรก็คิดมากขึ้น จากที่แต่ก่อนเคยมองเพื่อนร้องไห้ยามที่แม่ไม่ยอมซื้อของเล่นให้ด้วยความสงสาร แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไรแม้ในมือผมจะมีของเล่นที่พี่ยอร์ชเพิ่งจะซื้อให้และผมก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนคนนั้นอยากได้ของเล่นก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นในตอนนี้ที่ผมโตพอจะมีความคิด ผมก็คงจะคิดว่าผมไม่น่าบอกเพื่อนเลยว่าพี่ยอร์ชซื้อของเล่นให้ เพื่อนจะได้ไม่ต้องอยากได้แล้วก็ทะเลาะกับแม่จนร้องไห้ใหญ่โต ถ้าเพียงแต่ผมจะกลับไปเป็นเด็กก็คงดี จะได้ไม่ต้องมีอะไรให้คิดมากจนหัวใกล้ระเบิด

         ปึก!

         “เจ็บไหม เหม่ออะไรนักหนา” อาซาที่หยุดเดินกะทันหันจนผมไม่ทันตั้งตัวเดินชนแผ่นหลังกว้างอย่างจังหันมาดุผม ผมช้อนตามองด้วยความกลัว กลัวว่าอาซาจะรู้สิ่งที่ผมคิด และมันก็จริงอย่างที่ผมว่า อาซามองผมด้วยแววตาที่สามารถอ่านผมได้ทะลุปรุโปร่ง ผมส่ายหน้าโดยอัตโนมัติ

         “เรามีเรื่องต้องคุยกัน หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เข้าใจไหม”

         ผมไม่ทันได้ตอบอาซาก็เดินนำเข้าไปในห้องอาหาร ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขากำลังโกรธ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งซักไซ้เอาคำตอบจากผม เพราะทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเวลากินข้าวคือเวลาที่ทุกคนจะต้องมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาโดยปราศจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง เวลากินข้าวต้องไม่มีเรื่องเครียดๆบนโต๊ะอาหาร เวสตันไม่ชอบ และทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด

         ผมนั่งลงประจำที่เดิม คือที่ตรงข้ามจูเลียต ด้านข้างเป็นฟรินน์และอาซา อาหารบนโต๊ะเยอะราวกับจะเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องทานก็คือสเต็กที่ค่อนไปทางดิบแบบที่ยังมีเลือดชุ่มฉ่ำ ยกเว้นผมที่กินแบบสุกปกติ ฟรินน์เล่าว่าตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรกเขาต้องทนกินเนื้อสุกๆด้วยความจำใจเพราะไม่อยากให้ผมตกใจกับอาหารการกินของพวกเขา แต่ตอนนี้ผมรู้ความจริงก็น่าจะยอมรับได้แล้ว ก็เลยเปิดเผยเต็มที่ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

         แต่นอกจากสเต็กของแต่ละคนก็ยังมีไก่งวงตัวใหญ่ สลัดผักสำหรับผมโดยเฉพาะและอาหารหน้าตาน่ากินอีกหลายอย่าง ผมคงลงมือจัดการอาหารตรงหน้าให้ราบคาบถ้าหากว่าผมไม่มีเรื่องกลุ้มใจให้ต้องคิด

         แกร๊งๆๆ

         เสียงช้อนสแตนเลสอย่างดีดังกระทบแก้วเรียกให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารสนใจ เวสตันยืนขึ้น ในมือถือแก้วไวน์ชูขึ้นตรงหน้า พร้อมด้วยสุ่มเสียงทุ้มทรงพลังดังเอื้อนเอ่ย

         “ฉันดีใจที่ได้มีวันนี้” เวสตันเริ่มพูด และทุกคนก็ตั้งใจฟัง ยกเว้นผม ที่เหมือนจะตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่ซะทีเดียว

         “วันที่คนที่เป็นทั้งเพื่อนรักและน้องชายของฉันมีความสุขจริงๆเสียที” เวสตันมองมาทางอาซา ทุกคนก็เลยมองตาม กระทั่งจูเลียตเองก็เช่นกัน ก่อนที่ทุกคนจะยิ้มแล้วหันกลับไปทางเวสตันเพื่อฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อ

         “และเป็นวันที่บ้านของเราจะมีสมาชิกครอบครัวคนใหม่ ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ห้ามมีปัญหากันโดยเด็ดขาด เข้าใจตรงกันนะ” ถึงจะพูดไปยิ้มไป และเจือเสียงหัวเราะเบาๆ แต่คงไม่มีใครโง่จนฟังไม่รู้หรอกว่านั่นคือคำสั่งที่ห้ามฝ่าฝืนโดยเด็ดขาด

         “ขอบคุณนายนะโยชิที่ยอมรับอาซา ขอบคุณที่มอบความสุขให้เขา ฉันขอให้พวกนายทั้งคู่มีความสุข” ทั้งแววตาและน้ำเสียงของเวสตันเต็มไปด้วยความอบอุ่น มือที่ถือแก้วไวน์ยกขึ้นอวยพรให้กับผม ตามมาด้วยฟรินน์ที่หันมาพูดกับผมและอาซา

         “ฉันก็ดีใจกับพวกนายมาก อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ ฉันชอบที่บ้านนี้มีนาย” ฟรินน์หมายถึงผม ผมยิ้มรับแม้ว่าจู่ๆจะมีความคิดไม่เข้าท่าว่าผมจะอยู่ที่นี่ได้ตลอดไปจริงหรือเปล่าโผล่เข้ามาในหัว

         “ตั้งแต่วันนี้นายคือครอบครัวของฉัน ดูแลอาซาให้ดีล่ะ” รอยยิ้มของปารีสทำให้ผมรู้สึกว่าเธอคือแม่ของบ้านหลังนี้ ผมไม่เคยอยู่กับแม่ จึงบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกยามที่น้ำเสียงอ่อนโยนขัดกับหน้าตาเปรี้ยวจัดของปารีสพูดและมองผมมันให้ความรู้สึกดีขนาดไหน แต่มันอบอุ่นจนผมคิดว่า ถ้าแม่ยังอยู่ แม่ก็น่าจะพูดเหมือนปารีส และคนสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยให้พูด แม้แต่ผมก็เถอะ

         “ตามนั้น” จูเลียตพูดสั้นๆ แต่ก็เพียงพอแล้ว เพราะผมเองก็ไม่อยากได้คำว่ายินดีหรือคำพูดยาวเหยียดที่ไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริงๆของเธอสักเท่าไหร่

         “ขอบคุณมากที่ยอมรับฉัน” ผมพูดกับทุกคน อาซาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ใช้สายตาสื่อสารกับทุกคนที่รับรู้และเข้าใจเขาเป็นอย่างดี

         บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความสนุกสนานครึกครื้น แต่ก็ยังคงมีจุดบอดอยู่ที่ผม ผมพูดบ้างยิ้มบ้างแต่ก็น้อยครั้งถ้าไม่ถูกถามจี้ ผมเอาแต่หลงทางอยู่ในความคิดของตัวเองเรื่องของนิกกี้อย่างไม่รู้ทางออก

         ถ้าเพียงแต่จะไม่ใช่วันนี้ เวลานี้ที่อีกไม่ชั่วโมงจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น วันนี้คงเป็นีอีกความทรงจำผมจะจำไปตลอดชีวิต ภาพความประทับใจยามที่ทุกคนในที่นี้ยอมรับผมเป็นครอบครัว ไม่ต่างอะไรกับการอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันอย่างมีความสุข มันน่าซาบซึ้งใจจนอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้น้ำตาไหล ถ้าเพียงแต่ไม่มีใครบางคนกำลังถูกทำร้ายเพราะเรา ผมคงยิ้มรับความสุขได้เต็มปากกว่าที่กำลังทำอยู่

         สุดท้ายผมก็ทนฝืนนั่งกินต่อไปไม่ได้ ผมขอตัวลุกออกมาจากโต๊ะอาหาร แสร้งบอกไปว่าอยากเข้าห้องน้ำ ไม่มีใครติดใจอะไรยกเว้นอาซา ผมรู้ว่าเขารู้เรื่องที่ผมกุขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขาผมต่อหน้าทุกคน

         ผมเลี่ยงขึ้นมาบนห้อง ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงครึ่งด้วยซ้ำ ยิ่งเวลาเคลื่อนตัวเข้าใกล้เวลานัดมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก ยิ่งตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควรจะทำยังไงดี ชีวิตของนิกกี้อยู่ในมือของผม มันไม่ง่ายที่จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่คิดว่าสมควร เพราะอันที่จริงแล้วเราไม่สามารถรู้ได้ว่าถ้าเราลงมือทำมันลงไปแล้ว มันจะส่งผลเสียหรือผลดี ไม่อาจรู้ได้เลยจริงๆ

         หมับ!

         “อ๊ะ...อาซา!”

         โทรศัพท์ในมือผมถูกแย่งไปจากมือโดยคนที่ผมเรียกชื่อ อาซาจ้องหน้าผมนิ่ง เขากำลังโกรธจัด ยิ่งตอนที่เขาก้มมองโทรศัพท์ที่โชว์ข้อความพร้อมรูปถ่ายของนิกกี้ สีหน้าและแววตาของเขายิ่งเต็มไปด้วยไฟโทสะ

         “นายคิดจะทำอะไรโยชิ!” เขาพูดลอดไรฟัน ผมได้แต่ก้มหน้าตอบไม่ได้ เพราะผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำอะไร

         “นายคงไม่ได้คิดจะไปหามันคนเดียวโดยที่ไม่บอกฉันหรอกใช่ไหม”

         “...” เป็นอีกครั้งที่ผมให้คำตอบอาซาไม่ได้ เขาเดินเข้ามาจนใกล้พอที่จะคว้าไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้แน่นจนเจ็บ ความอบอุ่นกลายเป็นความหนาวเหน็บที่ยากเกินจะทน

         “ตอบสิโยชิ!” เมื่อเขาพูดออกมา เสียงของเขาเกือบจะเดือดดาล

         “ฉันไม่รู้ ฉันไม่คิดจะทำอะไร ฉันยังไม่รู้!” ผมเหมือนคนสติแตก ผมส่ายหน้าไปมาไม่หยุด จัดระบบความคิดตัวเองไม่ได้ ผมกำลังกลัว กลัวสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น ในหัวผมมีแต่คำว่าชีวิต ลมหายใจและความตาย

         “เฮ้อ ฉันขอโทษ ใจเย็นๆ ฉันจะช่วยนายเอง เพราะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้นายไปคนเดียวแน่สาบานได้”

         “แต่ถ้านายไปเจอร์โรมก็จะฆ่านิกกี้นะ” ผมรีบแย้ง แต่กลับอุ่นใจยามที่อาซาบอกว่าจะไปเป็นเพื่อน

         “ถึงฉันไม่ไปมันก็ฆ่าเธอแน่ๆ มันไม่ปล่อยให้คนที่รู้เรื่องของมันรอด ฉันไม่ได้อยากจะพูดให้นายไม่สบายใจ แต่นายควรรู้ความจริงในจุดนี้ และเรื่องนี้มันมาจากความขัดแย้งระหว่างฉันกับมัน เพราะงั้นคนที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็ควรเป็นฉัน ไม่ใช่นาย”

         สุดท้ายผมก็เป็นแค่คนไม่เอาอ่าว จัดการอะไรไม่ได้สักอย่าง ผมได้แต่คิดน้อยเนื้อต่ำใจในความไร้ประโยชน์ของตัวเอง ถ้าผมแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนรอบข้างได้บ้างก็คงดีกว่านี้ อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องมารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และพาลคิดเลยเถิดไปว่า ต่อให้ไม่มีผมโลกนี้ก็คงไม่เดือดร้อนอะไร


อ่านต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2014 23:34:05 โดย RiRi »

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld

         อาซาลงไปบอกกับทุกคน ผมได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร หรือความจริงผมไม่อยากมองหน้าจูเลียตเสียมากกว่า ผมเดาได้ว่าเธอจะต้องมองผมด้วยสายตาตำหนิที่กล่าวหาว่าผมเป็นคนทำให้ทุกคนเดือดร้อน และถึงผมจะไม่เห็นแต่ผมเดาว่าเป็นแบบนั้นเมื่อได้ยินเสียงพ่นลมหายใจของจูเลียต


        ‘ใช่ว่าฉันอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้! ใช่ว่าฉันเป็นคนก่อปัญหาเสียเมื่อไหร่! อย่ามาโทษฉันเพราะฉันไม่ผิด!!!’


         ผมอยากตะโกนออกไปแบบนั้นใส่หน้าเธอ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ทำ ทั้งๆที่ผมคิดนะ ว่านี่มันคือความผิดของผมเหรอ ผมเป็นคนก่อเรื่องอย่างนั้นเหรอ ผมรู้คำตอบดีว่าผมไม่ได้ทำ แต่ผมไม่อยากคิดหาคำตอบให้มากไปกว่านี้ เพราะสุดท้ายผมก็คงโยนความผิดไปให้อาซากับเจอร์โรม ซึ่งผมไม่อยากทำแบบนั้น ใครๆก็ปกป้องคนที่เรารักด้วยกันทั้งนั้น ผมถึงคิดหาคนผิดไม่ได้ เพราะผมไม่อยากโทษอาซา ถ้าจะโทษ ผมก็ขอโทษโชคชะตาที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ มาเป็นเพื่อนกับนิกกี้และทำให้เธอเจอเรื่องร้ายๆเช่นนี้

         โชคชะตาที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง มันจะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ดีหรือร้ายก็ไม่รู้ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ แต่เมื่อโชคชะตามาถึงตัว เราทำได้แค่เตรียมตัวเตรียมใจรับมือและดิ้นร้นไปตามทางที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว แม้ว่าความจริงเราจะเป็นได้แค่หมากบนกระดานที่ไม่มีค่าจนท้ายที่สุดต้องถูกกำจัดทิ้งก็ตาม

         “แยกย้ายกันไปตามจุด กลบกลิ่นตัวเองจากพวกไลแคนให้มิดชิด อย่าให้มันรู้ตัวว่าพวกเราซุ่มอยู่ แล้วจำไว้ ถ้าฉันยังไม่ได้สั่ง ห้ามใครใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด เว้นแต่พวกมันจะร่นหาเรื่อง รีบแยกย้ายกันซะ” สิ้นคำสั่งของเวสตัน ลูกน้องจำนวนเกือบยี่สิบคนก็แยกย้ายกระจายตัว ผมยืนอยู่ข้างอาซาและคนอื่นๆตรงหน้าบ้าน เวสตันหันมามองผมที่ยืนทำหน้ารู้สึกผิดที่ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนอีกครั้ง

         “อย่าคิดมากเลยโยชิ นายคือครอบครัวของฉัน ถ้าคนในครอบครัวไม่ช่วยเหลือกันยามเดือดร้อนแล้วใครจะช่วย จริงไหม” เขาเดินมายืนอยู่ตรงหน้าผม รอยยิ้มบางๆแต่งแต้มอย่างใจดี ผมหันไปมองอาซาและปารีสก่อนจะตัดสินใจกระทำบางอย่าง

         ผมสวมกอดเวสตันเอาไว้แน่นด้วยความตื้นตันใจ

         “ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ” เวสตันอบอุ่นเหมือนพ่อ เหมือนพี่ยอร์ชและผมรักทุกคนที่นี่

         “ด้วยความยินดี”

         ผมปล่อยตัวเวสตัน ยกมือปาดน้ำตาทิ้ง ผมต้องไม่ร้องไห้ ผมต้องไม่ทำตัวอ่อนแอให้ใครเป็นห่วง พ่อและพี่ยอร์ชเคยสอนไว้ เจ็บได้ ร้องไห้ได้ แต่เป็นลูกผู้ชายห้ามท้อถอย ผมมองทุกคนที่ยืนเคียงข้างผมในตอนนี้ และสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่ทำให้คนในครอบครัวของผมผิดหวัง

         ผมนั่งรถออกจากบ้านพร้อมอาซาและฟรินน์ เวสตันปารีสและจูเลียตไปอีกคัน เรานั่งรถกันไปเงียบๆ ใจผมจดจ่ออยู่แต่กับความคิดของตัวเองจนเกือบลืมว่าไม่ได้มีผมอยู่คนเดียว จนกระทั่งรถมาจอดอยู่ที่มุมถนนมุมหนึ่ง

         ผมหันไปมองอาซาและฟรินน์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง กำลังจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่อาซาดักทางเอาไว้เสียก่อน

         “ไม่ต้องพูดเลย ถ้าจะบอกว่าจะเข้าไปคนเดียวก็เงียบไปเลยนะ ฉันไม่ปล่อยให้นายเข้าไปข้างในนั้นคนเดียว” อาซาใช้ดวงตาสีนิลจ้องผมเขม็งเป็นการดุกลายๆ ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ

         “แล้วถ้าเจอร์โรมมันเล่นตุกติกเพราะฉันพานายมาล่ะ” ใจผมนึกเป็นห่วงนิกกี้ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง เลือดที่ไหลนองจะหยุดหรือยัง เธอจะรู้ไหมว่าผมกำลังมาช่วย ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอเมื่อนึกไปถึงว่าพวกมันจะทำร้ายเธอยังไงบ้าง

         “ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่คนอย่างไอ้เจอร์โรมไม่เคยเล่นตามกติกา ให้ไอ้อาซาเข้าไปเป็นเพื่อนน่ะดีแล้ว จัดการพวกข้างนอกเสร็จขะเข้าไปช่วย” ฟรินน์ช่วยอาซาพูดโน้มน้าวผมอีกคน ผมไม่มีทางเลือกเพราะผมไม่รู้จักเจอร์โรมดีพอ และไม่อยากรู้จักด้วย ทางทีดีเชื่อพวกเขาดีที่สุดแล้ว

         “สัญญาได้ไหมว่าจะช่วยเพื่อนฉัน”

         “แน่นอน เพื่อนนายก็คือเพื่อนของฉัน”

         ผมเชื่ออาซา ผมเชื่อเขา

         อาซาเดินนำผมไปยังร้านที่เจอร์โรมนัด จากจุดที่เราจอดรถไว้ ต้องเดินไปอีกหนึ่งบล็อก เลี้ยวซ้ายก่อนจะเจอร้านที่ว่า เมื่อเดินมาถึงหน้าร้าน ผมเจอคนอยู่สี่ห้าคนยืนคุมหน้าร้าน พอพวกนั้นเห็นอาซาทุกคนก็ยืดตัวตรงทำหน้าเหี้ยมเดินเข้ามา แต่เวสตันกับปารีสและลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งตามมาสมทบกันพวกที่ขวางทางไม่ให้อาซาเข้าไปข้างใน ผมจึงรู้ได้ในทันทีว่าพวกนี้คงเป็นพวกของเจอร์โรม ดีไม่ดีป่านนี้คงมีพวกมนุษย์หมาป่าเข้าไปรายงานเจอร์โรมแล้วว่าผมพาพวกอาซาบุกมาที่นี่ คิดตรงนี้ผมก็ร้อนรน อาซาก็คงคิดไม่ต่างกัน เขาเดินนำผมเข้าไปในร้านที่ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว พวกข้างนอกก็ได้เวสตันกับปารีสเป็นคนจัดการ

         “แล้วฟรินน์กับจูเลียตล่ะ” ผมถามอาซา ตอนที่เขาเดินก้าวขึ้นบันไดมุมในสุดของร้าน ผมค่อยๆก้าวขาเดินตามไม่ให้เกิดเสียง

         “พวกมันไปดูที่ทางออกด้านหลัง” อาซาตอบเบาๆ มือเย็นเฉียบคว้ามือผมไปกุมไว้แน่น ให้ผมอุ่นใจว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้และจะไม่ทิ้งผมไปไหน

         ในร้านเงียบและวังเวง ทันทีที่ก้าวขึ้นพ้นบันไดมายืนอยู่บนชั้นสองของร้าน กลิ่นเลือดก็ตีเข้าจมูกจนแทบอยากจะอาเจียน อาซามองกวาดจนทั่วพื้นที่ชั้นสอง แต่นอกจากโต๊ะที่ล้มระเนระนาดและรอยคราบเลือดเป็นทางยาวลากหายเข้าไปในประตูบานหนึ่ง บนนี้ก็ไม่มีใครสักคน ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าเลือดที่แห้งกรังอยู่บนพื้นคือเลือดของนิกกี้

         “กรี๊ดดดดด”

         เสียงกรีดร้องดังออกมาจากหลังประตูบานนั้น ผมและอาซามองหน้ากันตื่นๆก่อนที่อาซาจะก้าวไปยังบานประตูที่ว่า ผมเดินตามด้วยใจที่เต้นระส่ำ กลัวที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังประตูบานนั้น ไม่รอช้าอาซาเปิดประตูเข้าไป ผมเดินตามใช้สายตามองลอดแขนอาซาที่ยกดันประตูให้เปิดกว้าง

         ฉับพลันที่สายตาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สมองผมหยุดคิดทุกอย่าง ขาก้าววิ่งเข้าไปหาร่างผู้หญิงที่นอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้น ร่างกายผมชาดิกไปทุกสัดส่วน มือที่ประคองร่างบางขึ้นมากอดสั่นเทายากที่จะควบคุม

         ผมตวัดสายตามองเจอร์โรมที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความเกรี้ยวโกรธ เขี้ยวแหลมคมถูกเคลือบไปด้วยเลือดสีแดงฉานจากหญิงสาวที่นอนหายใจโรยริน ดวงตาเบิกกว้างไม่ได้สติในอ้อมแขนของผม ผมมองนิกกี้แล้วรู้สึกสงสาร น้ำตาไหลกับสิ่งที่นิกกี้ต้องเจอ เธอจะต้องเจ็บมากแน่ๆ ผมต้องพาเธอไปหาหมอ

         “นายไม่ทำตามที่ฉันบอกเองนะโยชิ นายโทษฉันไม่ได้” เจอร์โรมพูดแบบไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำ เขากำลังจะฆ่าคนบริสุทธิ์คนหนึ่งตาย เขามันเป็นไอ้ฆาตกร อาซาทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม แต่ถูกพวกของเจอร์โรมกั้นเอาไว้

         “ฆาตกรอย่างนายมีสิทธิ์พูดแบบนี้ด้วยเหรอ นายทำร้ายเธอทำไม! เธอไม่รู้เรื่องด้วย นายทำร้ายเธอทำไม! ไอ้เลว!!” ผมตะโกนใส่หน้าเจอร์อย่างเดือดจัด ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เจอร์โรม หางตาเห็นอาซาสะบัดตัวจากพวกที่เกาะกุมจะเข้ามาห้ามผม แต่ช้าเกินไป ผมเหวี่ยงหมัดใส่หน้าเจอร์โรมเต็มแรงสองทีโดยที่ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งตัว

         “พอโยชิพอ” อาซาที่ดิ้นหลุดลากผมออกห่างเจอร์โรม ผมโกรธจนไม่รู้สึกเจ็บมือที่ต่อยคนเลวอย่างไอ้เวรนั่น ใบหน้าแข็งกร้าวของคนที่ถูกผมต่อยหันมาทางผมช้าๆ ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตำแหน่งที่ถูกซัดไปสองที่ ดวงตาเรียวคมมองผมและอาซาอย่างเชือดเฉือน ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายพร้อมหัวเราะในลำคอ มันยิ่งกระตุ้นให้ผมหมดความอดทน อาซาดันตัวผมให้หลบหลังเขา แล้วขยับเข้าไปประจันหน้ากับเจอร์โรมแทน ลูกน้องคนอื่นๆของเจอร์โรมทำท่าจะเข้าไปรุมแต่เจอร์โรมยกมือห้ามไว้ ผมเลยใช้จังหวะนั้นวิ่งเข้าไปดูนิกกี้ เธอเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เธอไม่รู้ตัวจนผมต้องเอามือแตะที่จมูกเพื่อตรวจดูว่าเธอยังหายใจ แต่ก็เบาเต็มทนจนแทบไม่รู้สึกถึงลมอุ่นที่ออกมาจากจมูกรั้น

         “นิกกี้ ฟื้นสิ ฟื้น!” ผมตบแก้มซีดเรียกให้เธอรู้สึกตัว แต่เธอก็ยังแน่นิ่ง

         “ปล่อยเธอไปไอ้เจอร์โรม แกกับฉันมีปัญหากัน อย่างเอาคนอื่นมาเกี่ยว!”

         “หึหึ ยัยนั่นเป็นเด็กฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้”

         “เพราะแกเล่นสกปรก แน่จริงก็อย่าเอาคนไม่รู้เรื่องมาเกี่ยว ไม่ว่าจะโยชิหรือเพื่อนของเขา”

         “ทำไมฉันต้องทำตามที่แกสั่ง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนที่จะทำให้แกเจ็บปวดเจียนตาย ฉันก็จะทำ!”

         “แกไม่มีศักดิ์ศรี สันดานหมาอย่างพวกแกมันเป็นอย่างนี้เองสินะ ไม่แน่จริงถึงขนาดต้องไปทำร้ายผู้หญิง พวกไลแคนอย่างแกมันไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดีเลยว่ะ!”

         “ไอ้อาซา!”

         “ทำไม ทนฟังความจริงไม่ได้สินะ เหอะ”

         “พูดไปเถอะ เพราะคนที่จะชนะในเกมนี้ก็คือฉัน”

         ผมละสายตาจากคนสองคน เพื่ออุ้มนิกกี้ขึ้น ผมต้องพาเธอไปหาหมอเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเธอจะต้องตายแน่นอน แต่พอผมอุ้มเธอขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่ผมมี เจอร์โรมก็ตวัดสายตามองผมก่อนจะเดินก้าวเข้ามา ผมก้าวถอยหลังหนีได้สองก้าว ตัวของเจอร์โรมก็ถูกอาซาเหนี่ยวไว้จากข้างหลังแล้วก็ชกหน้าเจอร์โรมเต็มแรง จังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดออก ดาวเสาร์และผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบเข้ามาช่วยพวกของตัวเอง อาซาโดนเจอร์โรมถีบเข้าที่เอวอย่างแรง จนเซไปสามก้าว ผมได้แต่มองเพราทำอะไรไม่ถูก แขนที่อุ้มนิกกี้ไว้ก็เริ่มอ่อนแรง เพราเอาเข้าจริงตัวนิกกี้ก็พอๆกับตัวผม เธอแค่ตัวบางกว่าผมนิดหนึ่ง ผิดที่ผมเองที่ตัวเล็กเกินไป ดาวเสาร์มองผมที่กระชับอุ้มนิกกี้ด้วยแววตาคิดหนักก่อนจะออกปากไล่พวกที่อยู่ข้างในไปช่วยพวกข้างนอก

         ดาวเสาร์เดินเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ทำให้เจอร์โรมถึงกับโกรธควันออกหู มองหน้าอาซาและผมอย่างเครียดแค้น พริบตาเดียวเจอร์โรมก็พุ่งมาตรงหน้าผม ออกแรงปัดผมเหมือนปัดแมลงวันตัวหนึ่งที่เกะกะน่ารำคาญ ตัวผมไถลลงตึงล้มลงไปกับพื้น ร่างนิกกี้หลุดออกจากแขนผมกระเด็นห่างจากผมไม่ไกล

         “ในเมื่อนายไม่ทำตามสัญญา ฉันก็คงต้องทำอะไรบางอย่างให้นายรู้ว่าฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย” เจอร์โรมพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาน ร่างสูงในเสื้อหนังทำท่าจะเดินเข้าไปใกล้นิกกี้ที่นอนหายใจแผ่วบนพื้น แต่อาซาพุ่งเข้าไปลากตัวเจอร์โรมออกห่างจากนิกกี้ได้ทันแล้วพวกเขาก็ซัดกันนัว ดาวเสาร์และผู้ชายอีกคนกระโจนเข้าใส่อาซา แต่ถูกฟรินน์และจูเลียตที่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้สกัดเอาไว้ ผมขยับลุกขึ้นแม้จะเจ็บชายโครงมาก แต่พยายามที่จะคลานเข้าหานิกกี้ ผมเม้มปากแน่น จับเธอขึ้นลุกก่อนจะยันเท้าที่สั่นเบาๆลุกขึ้นยืน

         “ฟังฉันไอ้เจอร์โรม เรื่องของแกกับฉันเราจะเคลียร์กันตัวต่อตัว ถ้าแกยังมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่หมาลอบกัด ก็ช่วยทำตามที่บอก เพราะไม่อยากนั้น พวกฉันจะเอาจริง อย่าให้ฉันต้องเตือนแกซ้ำสองว่าหมาป่าอย่างพวกแกสู้พวกฉันไม่ได้!!!”

         “ถุย! อย่ามาสั่งคนอย่างฉัน”

         “ก็ลองดูได้ พวกแกข้างนอกเละเป็นโจ๊กไปแล้ว เหลือก็แต่แกและลูกน้องอีกสองคน ถ้ายังไม่อยากตายหมดตรงนี้ ก็ทำตามที่ฉันบอก!” อาซาจับตัวเจอร์โรมกระแทกกับพนังร้านจนกำแพงร้าว ก่อนจะเดินเข้ามาช่วยผมที่แบกนิกกี้ไว้บนหลัง ผมปล่อยเธอให้อาซาอุ้มแล้วเดินตามติดวิ่งด้วยความรีบร้อน ห่างตาผมมองเจอร์โรมด้วยความโกรธและเกลียดอย่างไม่ต้องปิดบัง ถ้านิกกี้เป็นอะไรผมจะสาปส่งให้เจอร์โรมไม่ตายดี

         เจอร์โรมจะพุ่งเข้ามาหาผมและอาซาเมื่อเราก้าวออกจากประตู แต่ถูกฟรินน์และจูเลียตที่กลายร่างเป็นงูขวางเอาไว้ ผมรีบหันกลับเร่งเท้าเดินตามอาซากลับไปที่รถ ด้านนอกมีร่างหมาป่าหลายตัวล้มตายอยู่ที่พื้นกับงูขนาดเท่าตัวผมหลายสิบตัว ซอยทั้งซอยเงียบเฉียบราวกับป่าช้า ไม่มีมนุษย์หน้าไหนโผล่ออกมาสักคนเดียว อาการนิกกี้แย่ลงทุกที อาซาเลยต้องออกแรงวิ่งกลับไปที่รถ ผมวิ่งตามด้วยอาการเหนิ่ยหอบและหวั่นกลัวกับพวกเวสตันในร่างงู ขึ้นรถได้อาซาก็ขับรถไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที ผมกอดนิกกี้เอาไว้ที่เบาะหลังรถ หัวใจผมแทบจะหยุดเต้น ร้องไห้ภาวนาขอให้เธอเป็นอะไร ขอให้เธอปลอดภัย

         เสียงบีบแตรและเสียงกรนด่าดังระงมทั่วท้องถนน อาซาขับรถแย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยนั่ง แต่เพราะเขากำลังรีบ ปาดซ้ายแซงขวาและเหยียบมิดเท้า ไม่ถึงยี่สิบนาทีเราก็มาถึงโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัย อาซารีบลงจากรถ เปิดประตูหลังแล้วดึงตัวนิกกี้ออกไปส่งให้บุรุษพยาบาลที่เข็นเตียงมารอด้วยความรีบร้อน ก่อนจะเข็นเตียงคนป่วยเข้าไปข้างใน ผมวิ่งตามส่วนอาซาเอารถไปจอด

         บุรุษพยาบาลพานิกกี้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมตามเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ยืนหอบทั้งน้ำตาอยู่ข้างนอก สักพักอาซาก็ตามมา ผมหันไปหาอาซาแล้วกอดเขาไว้แน่น

         “เธอจะต้องไม่เป็นอะไร” อาซากระซิบบอกผม ผมพยักหน้าอยากให้เป็นแบบนั้น ไม่นานคนอื่นๆก็ตามมา ไม่มีใครพูดหรือถามอะไร เวลาผ่านไปห้านาทีเหมือนผ่านไปสักชั่วโมง ผมร้อนรนจนนั่งไม่ติด อาซาต้องกอดผมเอาไว้ไม่ให้ผมเดินไปเดินมาเป็นคนจิตตก

         ขอร้องล่ะ อย่าให้นิกกี้เป็นอะไรเลย อย่าให้เพื่อนผมต้องตาย

         แต่สุดท้ายคำขอของผมคงส่งไปไม่ถึงประเจ้าหรือเทพองค์ใดที่พอจะเมตตาผมและนิกกี้ได้บ้าง

         หมอเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมาด้วยสีหน้าไม่ยินดี บนเสื้อกราวน์สีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ผมหลอกตัวเองว่าผมยังมีความหวัง เดินเข้าไปถามหมอว่าให้แน่ใจว่าเพื่อนของผมยังปลอดภัย เธอไม่ได้เป็นอะไร

         “หมอครับ เพื่อนของผมเป็นยังไงบ้าง!”

         สายตาของหมอแทนคำขอโทษอย่างที่สุด และทันใจนั้นน้ำตาเม็ดโตก็ไหลออกจากตาทันทีที่หมอพูด

         “เธอเสียเลือดมากครับ หมอเสียใจด้วยครับ เพื่อนของคุณเสียชีวิตก่อนจะมาถึงมือหมอ...”

         เสียชีวิต...นิกกี้ตายแล้ว อย่างนั้นเหรอ?

         “อึก...ฮึก ฮือ ไม่จริง ไม่!!!” ผมแทบไม่ได้ฟังว่าหมอพูดอะไรต่อ ร่างผมทรุดลงไปกับพื้น แข้งขาไร้เรี่ยวแรงที่จะทรงตัว มือทั้งสองข้างกำเสื้อของอาซาเอาไว้แน่นเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว ร้องไห้สุดเสียงกับความจริงที่ผมไม่อยากจะยอมรับ

         “โยชิๆ ชู่ว์ อย่าร้อง”

         “นิกกี้ เธอต้องไม่ตายสิ อย่าตายนะ ขอร้องละ อย่าตาย ฮืออ!!!”

         เสียงร้องไห้ดังก้องโรงพยาบาล ผู้คนที่พบเห็นต่างมองกันด้วยความสงสารและเวทนา ชีวิตไม่เคยมีความแน่นอน โชคชะตามักเล่นสนุกยามที่เราไม่รู้ตัวเสมอ แต่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอที่จะพรากชีวิตบริสุทธิ์ไป นิกกี้ทำผิดอะไรถึงต้องเอาชีวิตเธอไปด้วย

         “ฮือ ไม่จริง ฮือ นิกกี้ ฉันขอโทษ ได้ยินไหม ฉันขอโทษ ฮือออ กลับมา...อย่าตายสิอย่าตาย ถ้าเธอตายแล้วใครจะช่วยฉันเวลาที่ถูกไอ้เติร์ดแกล้ง ฮึก ถ้าเธอไม่อยู่แล้วใครจะเลี้ยงปุยเมฆ ฮือ ถ้าเธอไม่อยู่แล้วไอ้เติร์ดมันจะไปสารภาพรักกับใคร อย่าตายสิ กลับมา ได้โปรด ฮือออ”

         “อย่าร้องนะอย่าร้อง เธอไปสบายแล้ว” อาซาปลอบผม แต่ผมไม่ต้องการ ตอนนี้ผมอยากจะไปฆ่าเจอร์โรม เป็นครั้งแรกที่ผมอยากฆ่าคน ผมเครียดจัดจนเกิดอาการชัก อาซารีบเรียกหมอมาดูผม อาการหอบของผมกำลังจะกำเริบ โรคที่ผมไม่ได้เป็นมานับสิบปี ผมกำลังทรมานเพราะหายใจไม่ทันแต่มันคงไม่เท่านิกกี้ เธอคงจะทรมานมากกว่าผมร้องเท่าพันเท่า ความเจ็บปวดของผมยังเทียบเท่าไม่ได้ ผมจะบอกพ่อแม่เธอยังไง ผมจะบอกยังไงว่าผมทำให้ลูกของพวกเขาต้องตาย

         “โยชิ! นายอย่าเป็นอะไรนะ โยชิ!”

         “ฉะ ขอ...ขอโทษ...นิ...กี้...ฉัน...ขอโทษ”

         เพราะผม...ผมทำให้เธอตาย

         หลังจากที่โยชิถูกส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกคน อาซาได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วงจับใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของโยชิดี และก่อนที่จะมีใครต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้ เขาควรจะจบปัญหาความแค้นระหว่างเขากับไอ้เจอร์โรมให้มันสิ้นสุดลงเสียที ไม่มันก็เขาต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เรื่องนี้ถึงจะจบ

         “ทุกคน ฉันฝากดูโยชิด้วย” อาซาหันไปบอกกับคนอื่นๆที่ยืนหน้าเครียดไม่ต่างกัน เวสตัวลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าอาซาด้วยความเป็นห่วง

         “นายคิดจะทำอะไร”

         “ฉันจะไปทำให้เรื่องมันจบ”

         “อย่าวู่วามอาซา มันจะไม่มีอะไรดี” เวสตันเตือน ตอนนี้ภายในตัวอาซาเหมือนมีพายุลูกใหญ่ตีวนอยู่ข้างใน ยากที่จะดับ ยากที่จะหยุดยั้ง จนกว่าความบ้าคลั่งจะปลดปล่อยออกมา



         “ฉันจะไม่ให้โยชิเสียใจฟรี แด่วิญญาณที่ไม่รู้เรื่อง ฉันจะสังเวยชีวิตมันด้วยมือของฉันเอง!!!”


         
………

         เมื่อวานไม่ได้มา วันนี้ก็มาซะมืด ริริติดธุระนิดหน่อย และวันนี้ตลอดเย็นก็นั่งอ่านนั่งแก้ตอนนี้อยู่หลายรอบ บอกเลยว่าทุกตอนที่แต่งแม้แต่ตอนจบ ตอนนี้แต่งยากที่สุดแล้ว ยังมีอีกตอนคือตอนที่อาซากับเจอร์โรมสู้กัน แต่คิดว่าตอนนี้ยากกว่าเยอะ รู้สึกว่ามันยังไม่ลงตัว แต่ตอนนี้ยิ่งแก้ยิ่งเครียด เลยกะว่าหัวโล่งแล้วจะเอามารีไรท์ ใครที่อ่านตรงนี้แล้วคิดว่ามีจุดที่ต้องแก้ไข ยกเว้นคำผิด ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าขาดอะไรไปรบกวนบอกทีนะคะ ริริจะได้ปรับปรุงแก้ไข เครียดกับตอนนี้จริงจัง แต่ถ้ารู้สึกว่าตอนนี้โอเคแล้วก็บอกด้วยนะคะ

         สิบห้าตอนเข้าไปแล้ว เหลืออีกสี่ตอนจบภาคนี้ ลงอีกแปบๆก็เสร็จละ ใกล้เข้าสู่ความหวานที่ทุกคนรอคอย

         ตอนนี้คงไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพราะริริเครียด!!!

         สุดท้าย ขอไว้อาลัยให้แก่นิกกี้ R.I.P

         ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจ และทุกคนที่ตามอ่านตามทวง ริริรักทุกคน กอดดดดดด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2014 23:41:59 โดย RiRi »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:   บางครั้งก็สงสัยเหมือนกันนะ ว่า ดาวเสาร์ ไม่สามารถเลือกได้เลยหลอระหว่างเพื่อนกับความถูกต้อง  บางครั้ง

คำว่าเพื่อน อาจจะต้องมาทีหลังคำว่า ถูกต้องนะ  แต่ก็อย่างว่าแหละ ไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เพราะเป็นลูกน้องของเจอร์โรมด้วย

มันสั่งอะไรก็ขัดไม่ได้อยู่แล้ว   สงสารก็แต่นิกกี้ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรแต่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้   :heaven   

สงสารโยชิที่จะจมดิ่งลงสู่ความรู้สึกผิดที่ว่า ตนทำให้เพื่อนต้องตาย เพราะตนเป็นต้นเหตุ 

อยากให้อิตาเจอร์โรมตายห่าไปเลย   :katai1:  แล้วเอาดาวเสาร์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มแทน อาจจะเวิร์กกว่านี้ 

ปล.ตอนนี้ดาร์กมาอ่ะขอบอก   :sad4:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
ฆ่าไอ้เจอร์โรมเลยอาชา

เลวมากกกกกกกกก :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
 :fire: :fire: ไอ้หมาบ้า...เอามาถลกหนังส่งขายเวียตนามเลยนะ  อาซา.....

ออฟไลน์ Pnomsod

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ไอ้หมาเลว TT
สงสารนิคกี้

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สงสารนิกกี้ คนดีๆต้องมารับเคราะห์ตลอดดดด :sad4:
อยากเห็นโยชิในบทดาร์กเบาๆ ไหนๆก็อาการกำเริบแล้ว ช่วยเอาไอ้ที่ถูกสะกดจิตไว้หายไปด้วยเท้ออออ :z3:
รอตอนต่อไปน้าาาา :กอด1:

ออฟไลน์ chandeliers.nun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๊ากกก เจอร์โรมม ไอ้หมาบ้าาาา  :angry2:

ดาวเสาร์ข่มขืนไอ้เจอร์โรมซะ จะได้หายบ้าาาซะที  :haun4:

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
น้ำตาซึม สงสารทั้งนิกกี้แล้วก้อโยชิ  :o12: :o12:
 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Kissing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
โอ้วมาก็อดดดดดด ไอ้เจอร์โรม แกทำแบบนี้ได้ยังไง!!! :fire:
โฮฮฮฮ นิกกี้...อย่าตายน้า โยชิ ไม่ใช่ความผิดหนูนะลูก อย่าโทษตัวเอง :sad4:
คนผิดคือไอ้หมาบ้าคนเดียว พี่อาซา ฆ่ามันซะ เอาให้ตาย เอาให้เละ!! :z6:
อย่านะอย่าให้พี่เจอหน้า จะจับทำหมาตุ๋นเสียให้เข็ด!!! :m31:
รอตอนหน้านะคะ ขอให้อาซาโชคดี :hao5:
 :mew1:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
บู๊เลือดสาดดดดดดดดดด  นิกกี้ไปแล้ววววววว  :hao5:   แบบทรมาณซะด้วย  ฮรื้อออออ

อาซาจัดการเจอร์โรมให้หนักๆเลย   :z6:   :beat:   :m31:     


+ที่สี่ร้อยของRiRi    :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เจอโรมก้เหี้ยเกิ้นนนา :เฮ้อ:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
สงสารนิกกี้อ่า
คนที่ไม่รู้เรื่องแต่เจอโรมก็ลากเข้ามา
เกลียดมันจริงๆ
ฆ่ามันให้ตายไปเลยอาซา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
สงสารนิคกี้อะ จะเป็นงัยต่อเนี้ย

ออฟไลน์ CheeTah

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
อยากบอกว่าตั้งใจอ่านตอนนี้สุดๆเลย เชื่อว่าคนเขียนพยายามมากอ่ะ ขอซูฮกเลย อยากอ่านตอนหวายๆแล้วเพราะชีวิตเก๊าขาดความหวาน อิอิ

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ให้กำลังใจคนแต่ง ยังไงก็รออ่าน อยู่นะคะ

ออฟไลน์ บี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สงสารนิกกี้ ลุ้นๆ สุดๆๆ มาต่อไวๆๆ นร้าาา

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: เจอร์โรมมมมมมม ไอ้เลว T^T
สงสารโยชิจัง :(
+1เป็ด

ออฟไลน์ knightprince

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฆ่ามันเลยอาซา เอาให้ตายทรมานกว่านิกกี้อีก โยชิพอหนูตื่นขึ้นมา หนูต้องเข้มแข็งนะ
น่าสงสารทั้งนิกกี้ทั้งโยชิเลย  โยชิคงรุ้สึกผิดแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่
อยากเห็นหนูโยชิแบบดาร์กๆ 55555 รอตอนหน้าน้าาา

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ที่อ่านมาขัดใจโยชิหน่อยๆ

แบบว่าเอะอะๆก็ร้อง

ถึงเค้าเป็นเพื่อนกันก็เถอะ

คือหวังมากไปว่าโยชิ ต้องเข้มแข็ง ต้องสู้

ก็อย่างที่คนอื่นเค้าว่านั่นแหละ

โยชิทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ปล ถึงพูดขนาดนี้ก็ติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอนะ แบบว่าชอบ(งงกับคัวเอง)

ออฟไลน์ howru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
สงสารนิกกี้
ขอให้โยชิและอาซาปลอดภัย

meili run

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
เอามันตายไปเลย ไอ้หมาบ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด