[Side Story] ล่ารักหัวใจมาเฟีย : Amen X Maysa : (จบ) ตอนที่10-11 : Pg.22 : 271014
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Side Story] ล่ารักหัวใจมาเฟีย : Amen X Maysa : (จบ) ตอนที่10-11 : Pg.22 : 271014  (อ่าน 375374 ครั้ง)

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4

๑๑
รักอยู่ข้างเธอ









เป็นสุดสัปดาห์ที่ทรมานที่สุดในชีวิตของเมษา เขาไม่มีสมาธิในการเตรียมบทเรียนหรือแม้กระทั่งตรวจการบ้านเด็กๆ คำถามและการตัดสินใจดำเนินอยู่ในทุกช่วงจังหวะการหายใจเข้าออก อาเมนกลับกรุงเทพฯไปตามที่เขาบอก ทิ้งเมษาไว้กับการตัดสินใจที่คิดไม่ตก
   เอาเข้าจริงแล้ว มันไม่เห็นยากเลยสักนิดกับการเลือกที่จะดำเนินความสัมพันธ์นี้ต่อ ใช่ ใครๆก็คิดแบบนั้นได้ เมษาก็ควรคิดแบบนี้เช่นกัน แต่เขากลับไม่มั่นใจ ไม่ใช่แค่เพียงตัวของอาเมน แต่กลับกลายเป็นตัวของเขาเองด้วย เขากลัวและประหวั่นไปหมด พวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในระยะทางที่ไกลกัน อาเมนจะดีแตกวันไหน ทั้งๆที่ตอนแรกเมษาอดไม่ได้ที่จะดีใจ
   ดีใจที่อาเมนยอมทิ้งทุกสิ่งและมาอยู่ด้วยกันที่นี่
   อย่างน้อยถึงไม่แน่ใจในตอนนั้น แต่เขาก็ไม่หวาดกลัวเท่าวันนี้
   ...เพราะในตอนนั้น วันที่อาเมนบอกว่าจะอยู่ข้างกันที่นี่ พวกเขายังมีเวลาให้พิสูจน์กันอีกนาน นานตราบที่เมษาต้องการ ในที่ๆเมษาอยากจะใช้ชีวิตอยู่ ในที่ๆเมษารู้สึกปลอดภัยและไม่มีความทรงจำเลวร้ายคอยหลอกหลอนให้ต้องหวาดกลัว
   เขาไม่อยากเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว
   สุดท้ายต่อให้คิดเยอะแค่ไหน เมษาก็ไม่มีคำตอบให้กับคำถาม ไม่มีการตัดสินใจ ไม่มีแม้กระทั่งความมั่นใจในตัวเองด้วยซ้ำ เขาเริ่มต้นวันทำงานด้วยความห่อเหี่ยวใจ ท่าทางอมทุกข์ของพี่ชายทำให้เมฆเป็นห่วงคอยไถ่ถาม แต่เด็กหนุ่มก็ไม่อยากจะยื่นมือเข้ามายุ่งมากนัก ด้วยเพราะไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
   หลังจากจบวัน เมษาหอบเอาโปสเตอร์ประกอบการสอนเดินกลับเข้ามาในห้องพักครูด้วยท่าทางหมดแรง เขาทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ ดวงตากลมโตจ้องเหม่อลอยกับกองสมุดการบ้าน แม้กระทั่งเสียงเจื้อยแจ้วของบรรดาครูฝึกสอนที่ดังลั่นมาจากระเบียง หรือเสียงเด็กวิ่งไล่จับกันบนทางเดินก็ยังไม่กระทบเข้าโสตประสาทของเขา...
   “เออนี่ อาทิตย์นี้แหละแก อยากดูจะแย่แล้ว”
   เสียงของยัยแก้มดังมาก่อนตัว สนทนากันถึงภาพยนตร์เข้าใหม่ที่บ่นอยากดูมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ยี่หวากับกอล์ฟเดินตามกันเข้ามาในห้องพักครู
   “อ้าว พี่เม...คาบสุดท้ายไม่ได้สอนเหรอ” แก้มถามเมื่อเห็นครูผู้ดูแลของตนนั่งตัวแข็งทื่ออยู่กับโต๊ะ
   เมษาชะงักก่อนกวาดตามองทั้งสาม
   “อ้อ พอดีปวดหัวน่ะ ยืนไม่ค่อยไหวเลยเลิกสอนก่อนเวลาสักสิบนาที” เขาตอบ ทั้งจริงทั้งปด
   “พี่เมไม่สบายเหรอคะ” ยี่หวาขมวดคิ้วมุ่น
   “นิดหน่อยน่ะ ปวดหัวมากกว่า” เขาตอบ
   แก้มรีบปรี่เข้ามานั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามเมษาทันที “ไหวไหมพี่เม กินยาหรือยัง”
   เมษาส่ายหน้า “ยังเลย”
   “งั้นกลับไปนอนพักดีไหมพี่เม หน้าตาก็ดูไม่ค่อยดี ซีดๆนะเนี่ย” กอล์ฟออกความเห็น
   “ไม่เป็นไรหรอกกอล์ฟ พอดีมีนัดด้วย” เมษาบอกอย่างไม่ได้หมายความอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ทำให้ยัยแก้มตาโตได้
   “ใครคะ คุณต้นหรือคุณอาเมน” คำถามของเพื่อนสาวทำเอายี่หวาต้องตีเผียะ
   “นี่ถามอะไรน่ะแก้ม” ยี่หวาเอ็ด
   “เอ๊า! ก็แหม...” เธอเหล่มองเมษาพลางยิ้มเจ้าเล่ห์  “คุณอาเมนก็หายไปตั้งนานนี่น่า อาทิตย์ก่อนคุณต้นทำคะแนนนำลิบเชียว”
   “ไปยุ่งอะไรพี่เมเขา!” ยี่หวามองเพื่อนดุๆ
   “ตกลงรอใครน่ะพี่เม”
   แก้มไม่ลดละ เมษามองครูฝึกสอนจอมสอดรู้อยากอ่อนใจ
   “คุณอาเมน”
   เขาไม่โกหก ตอบไปตรงๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้แก้มตาโตแล้ว ยี่หวากับกอล์ฟก็ดูมีปฏิกิริยาตอบกลับด้วย
   “คุณอาเมนจะมาเหรอ หายไปตั้งนาน” แก้มถาม
   “อืม” เมษาพยักหน้าเอื่อยๆ “ไปติดต่องานที่กรุงเทพฯมาน่ะ”
   “แล้วนี่ตกลงพี่เมจะเลือกใคร โอ๊ย! ยี่หวา เราเจ็บนะ” แก้มร้องโอยเมื่อโดนเพื่อนสาวตีอีกเผียะ
   เมษามองสองสาวทุ่มเถียงกันไปมาแล้วได้แต่ถอนหายใจ เขาส่ายหัวเบาๆ    
   “ไม่เลือกใครทั้งนั้นแหละ”
   “อ้าว...”
   “คุณอาเมนอาจจะไม่มาแล้วนะ...เขาต้องไปสานงานบริษัทที่กรุงเทพฯเต็มตัว” เมษาบอก
   “เห?” ครูฝึกสอนทั้งสามขมวดคิ้วมุ่น
   “แล้วรีสอร์ตที่นี่ล่ะครับ” กอล์ฟถาม
   เมษาหลุบตาลงมองมือตัวเอง “ก็อาจจะไม่ทำต่อ ก็แค่ล้มโครงการ คนอย่างเขาน่ะ เรื่องแค่นี้ไม่ยากหรอก ไม่มีผลกระทบอะไร บทจะมาก็มา...จะไปก็ไป เขาไม่ได้แคร์ที่ตรงนี้มากหรอก”
   เด็กฝึกสอนทั้งสามมองหน้ากันขวับสลับกับมองใบหน้าซึมๆของเมษา ก่อนที่จะกลืนน้ำลายเอื๊อก
   “แน่ใจเหรอครับว่าเขาไม่แคร์”
   เมษานิ่งไปกับคำถาม ได้แต่จ้องหน้าบรรดาเด็กในการดูแลนิ่งๆ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ทำเป็นไม่สนใจ
   “ไปๆ แยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเองได้แล้ว เด็กๆเลิกแล้วเนี่ย”
   บรรดาครูฝึกสอนต่างมองหน้าครูเมคนเก่งด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เมื่อโดนไล่ให้ไปจัดการงานตัวเองจึงจำต้องไป แต่ก็ต้องหูผึ่งอีกครั้งเมื่อเดินไปยังไม่ถึงไหน หน้าประตูห้องพักครูก็มีใครบางคนปรากฏตัวขึ้น
   อาเมนยืนอยู่ตรงหน้ากรอบประตู เขาสอดสายตามองหาเมษาที่ทำเป็นหลุบตามองบรรดาวัตถุบนโต๊ะอยู่ทั้งที่ไม่มีอะไรให้มองหรือจัดการมากมายนัก สักพักเมื่อชายหนุ่มยืนมองจนแน่ใจแล้วว่าเมษาคงไม่เงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนแน่ จึงต้องถอนหายใจแล้วสาวเท้าเข้าไปตรงหน้าโต๊ะทำงานของอีกฝ่าย ก่อนเลื่อนเก้าอี้แล้วทรุดตัวลงนั่ง เมษาจึงยอมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา
   บรรดาครูฝึกสอนทั้งสามนั่งทำอะไรจุ้กจิ้กกันอยู่ที่โต๊ะกลางตัวใหญ่ห่างออกไป ยัยแก้มชะเง้อคอมากที่สุดจนยี่หว่าต้องออกโรงปรามอีกครั้ง ก่อนที่แก้มจะยอมหดคอลงแต่มิวายกระซิบกระซาบกับเพื่อน
   “เฮ้ย วันนี้คุณต้นจะมาหรือเปล่าอ่ะ”    
   “ยุ่งเรื่องพี่เมจริงๆ” ยี่หว่าอ่อนใจ   
   “เห็นว่ากลับเข้าตัวเมืองนี่ ไม่น่ามาหรอก” กอล์ฟเป็นคนตอบพร้อมข้อมูลที่รู้มา
   เมษายังทำทีเป็นจัดของบนโต๊ะไม่เลิก เขาเฉไฉสายตาไปที่อื่น ไม่กล้ามองใบหน้าคนตรงหน้าเท่าไหร่นัก อาเมนรอจนเมษาขยับปึกกระดาษปึกเดิมเป็นรอบที่สาม เขาจึงเอื้อมมือไปดึงข้อมือเล็กเอาไว้ นั่นทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเมษารวนไปหมด ดวงตากลมเบือนหนี ร่างกายแข็งทื่อ เหมือนจะหายใจไม่ออกด้วย
   “คุยกันก่อนไหม เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บของ”
   อาเมนถามขึ้น
   “เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน”
   เมษายอมมองหน้าคนตรงหน้าจนได้ ก่อนที่จะพยักหน้าเบาๆ “อืม”
   อาเมนผุดลุกขึ้น เขารอให้เมษาเดินนำออกจากห้อง เขาจึงสาวเท้าเดินตามไป เมษาเดินผ่านแล้วได้แต่ยิ้มฝาดเฝื่อนให้กับนักเรียนที่วิ่งสวนไปมาและยกมือไหว้ทักทาย เขาพาอาเมนเดินอ้อมไปยังหลังตึกอาคาร ต้นหูกวางต้นใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงบริเวณนั้น เมษาเดินไปหยุดยืนหันหลังอยู่ตรงนั้นอย่างคิดไม่ตก
   อาเมนมองแผ่นหลังเล็กนิ่งๆ เขาดึงบุหรี่ขึ้นจุด กลิ่นเมนทอลเย็นๆลอยขึ้นไปในอากาศ ชายหนุ่มอัดนิโคตินเข้าปอด แล้วยืนรออยู่เช่นนั้น
   “เป็นไงบ้าง”
   เมษาเอ่ยถามขึ้น เขาหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า แต่ก็ไม่ยอมมองหน้าอาเมนอยู่ดี
   “หมายถึงอะไร” อาเมนถามกลับ ไม่ได้นึกจะกวนประสาทจริงๆ
   “ก็...ทุกๆอย่าง”
   อาเมนเงียบไปสักพัก เขาดูดบุหรี่อีกคำ “อาการพ่อก็ดีขึ้น แต่เท่าที่คุยกัน คงไม่กลับมาทำงานอีกแล้ว”
   มาเฟียหนุ่มจ้องหน้าเมษานิ่งๆก่อนพูดต่อ
   “เขาจะวางมือ...ส่วนโครงการใหม่จะยื่นเข้าที่ประชุมวันพรุ่งนี้”
   “คุณจะกลับไปพรุ่งนี้เหรอ” เมษาถาม
   “คืนนี้” ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ “กลับไป......ด้วยกันไหม”
   อาเมนหลุดคำถามออกมาในที่สุด เขามองเมษา สายตาอ้อนวอน...เมษาจ้องแววตาคู่นั้นได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะกลัวตัวเองใจอ่อนยวบและอ่อนแอ
   “บอกตามตรงนะ...” เขากัดเล็บด้วยความรู้สึกกังวลใจ “ผมตอบคุณไม่ได้จริงๆ...ผมกลัว” เมษาตอบไปตามความรู้สึกในใจจริงๆ
   “กลัวอะไร” อาเมนย้อนถาม สายตาคมจ้องนิ่ง
   “คุณเคยคิดไหมว่าเราจะไปกันได้ไกลแค่ไหน” เมษาถามอย่างจริงจัง
   “ไม่รู้เหมือนกัน”
   “แล้วในอนาคตคุณคิดว่าจะมีใครทิ้งใครไปไหม” เมษาถามเสียงพร่า เขาไม่ได้ร้องไห้ ไอ้เรื่องอ่อนแอเช่นนั้นเขาจะไม่ทำแล้ว แต่ตอนนี้มันเจ็บปวดเหลือเกิน อาเมนมองคนตรงหน้าเต็มๆตา
   “ไม่ใช่ฉันแน่”
   “วันนี้คุณก็พูดได้”
   “อย่าตีรวนสิเมษา” อาเมนทอดถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
   “ผมเปล่า” เมษาเถียง “ผมนึกไม่ออกจริงๆ”
   “......”
   “ถ้าเราต้องแยกกันและรอที่จะมาเจอกันเรื่อยๆ” เมษาก้มหน้านิ่ง “ผมกลัว”
   เมษายังคงยืนยันคำเดิม...อาเมนได้แต่จ้องมองด้วยแววตารวดร้าวไม่แพ้กัน
   “ฉันจะกลับมาอีก”
   “......” เมษาเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
   “ได้ไหม”
   “มันเป็นสิทธิ์ของคุณ...” เมษาตอบ “บางทีมันอาจจะดี”
   “มันจะดีขึ้นใช่ไหม”
   อาเมนย้ำถาม เขาจ้องเมษา อยากให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองกันบ้าง แต่มันเลือนลางเหลือเกิน
   เมษาถอนหายใจอย่างเจ็บปวด “ผมจะเดินไปส่งคุณที่รถนะ”
   “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวขออยู่ด้วยสักพัก แล้วจะไป”
   อาเมนว่าออกมา ไหล่ตกลู่ ท่าทางบอกว่าเขาผิดหวัง เสียใจ เมษาฟังคำถามเงียบๆ เจ็บปวดใจไม่แพ้กันกับคนตรงหน้า เขาพยักหน้าเบาๆ ในใจมีแต่เรื่องคิดไม่ตกและยุ่งยากไปหมด พวกเขาเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเงียบๆเหมือนทุกๆครั้ง แต่ใจกลับวูบโหวงราวกับว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ใบไหม้หล่นร่วงปลิวเป็นสาย คล้ายกับพายุจะเข้า อาเมนเหลือบตามองฟ้า เมฆฝนตั้งเค้าครึ้ม คล้ายฝนจะตกลงมาเสียให้ได้...
   “เข้าไปด้านในเถอะ” อาเมนบอก เมษาพยักหน้าก่อนเดินตามกันไปที่อาคารหอพัก เขาส่งอาเมนที่หน้าประตูตึกก่อนเอ่ยขึ้น
   “ผมไปเอาของที่ห้องพักครูก่อนนะ เดี๋ยวจะเดินกลับมา”
   อาเมนขยับปากจะอาสาแทน
   “คุณไม่ต้องไปเป็นเพื่อนหรอกครับ แค่นี้เอง ถึงฝนตกก็ยังเดินตามชายคามาได้ ไม่เปียกหรอก” เมษาบอก “คุณอยู่เป็นเพื่อนเด็กๆเถอะครับ”
   เมษาเดินย้อนกลับไปยังตัวอาคารเรียน เขาสวนกับกอล์ฟที่หอบกระเป๋าเป้กลับไปทางหอพัก พวกเขาทักทายกันนิดหน่อย เมษาเร่งฝีเท้าไปจนถึงห้องพักครู ครูสมานกำลังจะปิดห้อง เขายิ้มเมื่อเห็นเมษาวิ่งเดินมา ก่อนเอ่ยทัก
   “อ้าว ครูเม นี่ครูจะปิดห้องแล้ว ลืมอะไรล่ะ” ครูสมานเอ่ยถาม
   “กระเป๋าน่ะครับ” เมษาว่า ขณะนั้นลมก็พัดแรง “ฝนเหมือนจะตกแล้ว ครูสมานไปก่อนก็ได้ครับ ผมมีกุญแจ เดี๋ยวจัดการปิดเอง”
   “เอางั้นหรือ” ครูอาวุโสกว่าย้ำถามให้แน่ใจ เมษาพยักหน้าหงึก
   “ครับ ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวผมจัดการเอง”
   เมษายิ้มยืนยันคำพูด ครูสมานจึงเดินออกไปทางอาคารหอพัก เมษาเดินเข้าไปในห้องทำงาน เขารวมของใส่กระเป๋า ก่อนเดินออกมาพร้อมกับปิดห้องพักครูและลั่นกุญแจ
   เขาเดินกลับไปทางหอพัก ลมพัดแรงขึ้น จากนั้นฝนหยดแรกก็ตกแหมะลงบนพื้นดิน เมษาจึงเร่งฝีเท้า เขาเดินแนบตัวกับชายคา ก่อนก้าวเข้าไปในอาคารหอพัก เด็กนักเรียนเกือบทั้งหมดอยู่ในหอพักเรียบร้อยแล้ว พวกเด็กๆบางส่วนกลับไปกับรถโรงเรียน ในขณะที่บางส่วนที่รอพ่อแม่มารับก็ติดฝนอยู่ในบริเวณโรงอาหารกับหอพัก
   ยังไม่ถึงเวลามื้ออาหารเย็น ห้องนั่งเล่นของหอพักจึงคึกคักเป็นพิเศษเพราะเกือบทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ กอล์ฟนั่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กๆที่ขอให้สอนการบ้าน ยี่หวากับแก้มน่าจะอยู่ในครัว เมษากวาดตามองก่อนพบว่าอาเมนนั่งเล่นกับเด็กๆอยู่ที่มุมห้อง เด็กๆปีนป่ายตัวเขาราวกับลิงค่าง มีตัวต่อของเล่นวางกองกระจายรอบทิศ
   เมษามองภาพตรงหน้าแล้วเกือบเผลอยิ้มออกมาเสียให้ได้ เขาอยากจะเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ตลอดกาล แต่มันดูยากเหลือเกิน ในเมื่อทุกคนมีทางเดินชีวิตให้ต้องเลือกเดิน ไม่มีอะไรเป็นของของเราได้ตลอดไปสักอย่าง มีพบมีพรากมีจาก เพียงแต่เขาไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นในชีวิตเขาเร็วจนไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ และถ้าเป็นไปได้ เขาอยากให้อาเมนเป็นของเขาตลอดไป...
   ยังจำได้ดีถึงวันแรกที่เขาเจอผู้ชายคนนี้ อาเมนกึ่มเหล้า ออกปากเสนองานให้เขา จะว่าข่มขู่อาจจะเห็นภาพมากกว่า ซึ่งเมษาก็ตกปากรับคำไปเพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีทางหาเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นได้จากที่ไหนอีกแล้ว ชีวิตต่อจากนั้นในบ้านเมืองที่ไม่คุ้นเคยก็ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาด จากนั้นอาเมนก็หายไป แล้วจู่ๆก็เดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง พร้อมกับบอกเขาว่ามันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
   แต่สุดท้ายตลอดไปก็ไม่มีจริง...
   เพราะอาเมนกำลังเดินออกจากชีวิตเขาอีกครั้ง
   แม้จะบอกว่าจะมาเจอกัน แต่เมษาก็รู้ดีว่ามันยากเหลือเกิน เขาเคยเห็นอาเมนทำงาน เคยเห็นกระบวนการทำงานที่หนักหน่วงและยุ่งยากอยู่ตลอดเวลา หากสักวันที่อาเมนเลือกงานและทุ่มเทกับมัน วันนั้นอาเมนอาจจะลืมเขาเพราะพวกเขาไกลกันเหลือเกิน หากถามว่าทำไมเขาไม่ยึดเหนี่ยวอาเมนไว้ เมษาก็ตอบอะไรไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้จริงๆ เมษาคิดว่ามันเป็นความหวาดกลัว เขาเลิกคิดถึงเรื่องการโดนทอดทิ้งอีกครั้งไม่ได้เสียที มันทรมานกับการตัดสินใจด้วยตนเอง
   ถ้าอาเมนบังคับ ฉุดกระชากลากถูเขากลับไป มันอาจจะง่ายกว่านี้...
   แต่อาเมนไม่ทำ เขาไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นอีก เมษารู้ดี
   เขาชอบภาพตรงหน้านี้ อาเมนเหมาะกับการเป็นพ่อคนเหมือนกันในความรู้สึกของเมษา ผู้ชายตัวโตห้อมล้อมด้วยเด็กๆ หัวเราะ พูดคุย และสั่งสอน เกิดอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งขึ้นในใจ เมษาเม้มปากแน่น เขานึกน้อยใจอีกแล้ว เขามีครอบครัวกับอาเมนไม่ได้ มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย
   ฝนตกหนักขึ้น เมษาวางกระเป๋าลง ก่อนทรุดตัวลงนั่งไม่ห่างไปจากชายหนุ่ม
   อาเมนเหลือบมามอง ก่อนพยักเพยิดไปด้านนอก “ฝนตกแล้ว”   
   “อืม” เมษาพยักหน้ารับ “คุณรอจนฝนซาแล้วค่อยขับรถกลับเถอะ ไฟลท์บินกี่โมงเหรอครับ”
   “ห้าทุ่มน่ะ ยังมีเวลาอีกเยอะ” อาเมนยิ้ม นั่นทำให้เมษาต้องยิ้มเจื่อนๆตอบกลับ
   เมษามองดูอาเมนนั่งเล่นกับเด็กๆตลอดเวลาที่เหลือนั่น โดยที่เขาช่วยสอนการบ้านเด็กๆเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น มันเหมือนกับหนังรักน้ำเน่าที่พอฝนหยุดตก เวลาของพวกเขาก็จะหมดลง เมษานึกขันกับความคิดบ้าๆของตัวเอง แต่เขาอยากให้มันเป็นแค่ละครน้ำเน่าจริงๆ
   เพราะทุกวัน...ทุกวันที่ผ่านมาที่เขามีอาเมนอยู่ใกล้ๆ มันทำให้ชีวิตหลังเลิกเรียนของเขาไม่เหมือนเดิม
   ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม
   อาเมนพลิกนาฬิกาขึ้นมองก่อนหันมามองหน้าเมษา ฝนเริ่มซาลงจนแทบไม่ได้ยินเสียงแล้ว
   “อาจจะต้องไปแล้วล่ะ” อาเมนเอ่ยขึ้น “ต้องเข้าเมืองอีก”
   เมษาพยักหน้ารับ เขามองอาเมนล่ำลาเด็กๆแล้วลุกขึ้นยืน เขาจึงลุกตาม จากนั้นเขาจึงเดินไปส่งอาเมนที่ใต้ชายคาที่ชายหนุ่มจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้...
   พวกเขายืนมองฝนที่หยดพรำอยู่นอกชายคา ไอเย็นลอยแตะผิวกาย เมษาถอนหายใจเบาๆ ผินหน้ามองออกไปไกลแสนไกล กระทั่งเสียงของอาเมนฉุดเขาเอาไว้
   “จะกลับมาหานะ”    
   อาเมนบอกอย่างจริงจัง เขามองหน้าเมษานิ่ง
   เมษาหลุบตามองปลายเท้าตัวเองเงียบๆอีกครั้ง “ครับ”
   “ถึงจะไม่อยากรอ แต่ก็...รอกันหน่อยได้ไหม”
   เมษาเงียบ เขาไม่หือ ไม่อือ อาเมนมองคนตรงหน้าแล้วรู้สึกท้อขึ้นมาในใจ
   ชายหนุ่มดึงมือเมษามากุมเอาไว้ ความรู้สึกวูบโหวงอย่างประหลาดในใจเกิดขึ้น
   “ขอกอดหน่อยสิ”
   เมษาไม่ตอบ อาเมนจึงอนุมานเองว่าอีกฝ่ายอนุญาต เขาดึงตัวเมษาเข้ามาใกล้ โน้มตัวเข้าไปสวมกอด ผิวเนื้อนุ่มอุ่น ทำให้หัวใจอุ่นซ่าน อาเมนซบใบหน้าลงกับศีรษะเล็ก
   “ดูแลตัวเองด้วยนะ” อาเมนบอก
   เมษาพยักหน้า “คุณก็...เหมือนกันนะครับ”
   “อืม”
   อาเมนยิ้ม เมษายังไม่ค่อยชินกับรอยยิ้มของเขาเท่าไหร่ เพราะมันพาเอาใจสั่นทุกครั้งไป เขามองผู้ชายตัวโตขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ แล้วสวมหมวกกันน็อค เมษาต้องใบหน้าอีกฝ่ายผ่านช่องกระจกของหมวก ก่อนที่อาเมนจะสตาร์ทรถ แล้วบิดออกตัวไป
   เมษามองดูคาติคันใหญ่วิ่งหายลับไปกับความมืด เขายกมือกอดตัวเองแล้วหมุนตัวเดินกลับไปในอาคารหอพัก เด็กๆเริ่มทยอยเดินกันออกมาเพื่อรับประทานอาหาร เมษาเดินสวนกับเด็กตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะต้องชะงักเมื่อเด็กชายคนนั้นหยุดยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าเมษา คุณครูคนเก่งเลิกคิ้ว มองสมุดการบ้านที่เด็กชายยื่นมาให้
   “อะไรครับเดชฤทธิ์” เขาเอ่ย เด็กน้อยยังคงยิ้มกว้างโชว์ฟันหลอ
   “การบ้านเสร็จแล้วครับครูเม” เด็กน้อยว่าอย่างดีใจ
   “โห เก่งจังเลย” เมษาเอ่ยชม
   “พี่อาเมนสอนบวกเลขด้วยครับ”
   ชื่อของใครบางคนทำเอาเมษาชะงัก ก่อนที่เขาจะฝืนระบายยิ้มให้กับเด็กน้อยตรงหน้า
   “โห งั้นหรือ” เมษารับสมุดมาไว้ในมือ “จะส่งเลยใช่ไหมครับ”
   เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก เมษาเอื้อมมือลูบหัวกลมๆเบาๆก่อนจะบอกให้ไปทานข้าวเย็นได้แล้ว จะได้สวดมนต์พร้อมกับเพื่อน  เขายืนมองเด็กน้อยวิ่งตื๋อไปทางโรงอาหาร ก่อนถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปในตัวหอพัก
   กอล์ฟเดินออกมาพอดีพร้อมกับเด็กๆที่รุงรังอยู่รอบตัว ครูฝึกสอนมองหน้าเมษา แล้วเอ่ยถาม
   “อ้าว คุณอาเมนไปแล้วเหรอครับ”
   “อืม” เมษาพยักหน้าเล็กน้อย “พรุ่งนี้มีประชุมน่ะ”
   “แล้ว...จะกลับมาวันไหนน่ะครับ”
   เมษานิ่ง ตื้อไปหมด “ไม่รู้เหมือนกันกอล์ฟ ถ้าเขาว่าง ก็คงกลับขึ้นมานั่นแหละ”
   “อ๋อ”
   กอล์ฟทอดเสียงเบาเมื่อจับน้ำเสียงของเมษาได้ เขาจึงรีบขอตัว “ผม...พาเด็กๆไปโรงอาหารก่อนนะครับ พี่เมก็รีบมากินข้าวเถอะ เลยเวลามื้อเย็นมาครึ่งชั่วโมงแล้ว”
   “พี่ขอเก็บของก่อนนะ”
   กอล์ฟพยักหน้า ก่อนเดินนำฝูงลิงน้อยออกไปยังโรงอาหาร ยี่หวากับแก้มยืนคอยตักอาหารให้กับเด็กๆของแข็งขัน เขามองจากหน้าต่างออกไป ก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นมาทำท่าจะเก็บสมุดของเดชฤทธิ์ลงไป แต่กระนั้นก็ลังเลใจ แล้วก็หยิบมันขึ้นมาเปิดดู
   เขาไล่เปิดไปที่หน้าการบ้านของวันนี้ เมษาเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าเด็กนักเรียนทำได้ครบทุกข้อ และเหมือนจะถูกทุกข้อด้วย มีรอยทด รอยลบ แสดงว่าคงทำด้วยตัวเองจริงๆและอาเมนก็คงช่วยสอนจริงๆ เขายิ้มออกมากับตัวเองทั้งๆที่ใจวูบโหวง
   เมษาพลิกกระดาษไปอีกหน้าหนึ่ง ไม่มีโจทย์ข้ออื่นแล้ว แต่กระนั้นสายตาก็ต้องชะงักกับหน้าทางขวามือ ลายมือของใครบางคนเขียนอยู่บนนั้นด้วยดินสอ เมษานิ่งอึ้ง......กับข้อความบนนั้นที่ทำให้เอาหัวใจเต้นรัวและมันช่างเจ็บปวดเหลือเกินสำหรับเขาในตอนนี้

   ‘อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป’


    ประโยคสั้นๆที่ราวกับว่ามีกำปั้นที่มองไม่เห็นฮุคเข้าอกซ้ายเต็มแรงจนเจ็บ จุก และชาไปหมดในเวลาถัดมา เขากัดปากแน่น ร่างกายสั่นสะท้านไปหมด เมษาทำอะไรไม่ถูก รู้สึกโง่งม งี่เง่า และเพิ่งตัดสินใจเรื่องที่แย่ที่สุดออกไป
   เขาปิดสมุดลง หัวใจยังไม่ยอมเต้นเป็นจังหวะปกติ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี มันตื้อไปหมด
   เมษาคิดว่ามันคงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เขาจะทำได้ เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หยิบมือถือขึ้นมาเปิดหน้าจอ ไล่หาเบอร์ของมารดา เหมือนน้ำท่วมอก เขา...เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้
   ไม่ใช่ว่าอาเมนกำลังเดินออกไปจากชีวิตเขาอีกครั้ง
   ...แต่เขาเป็นคนปล่อยมืออาเมนให้เดินจากไปอีกครั้งต่างหาก

   

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4
เมษารอสายสัญญาณอยู่สามครั้ง แต่ละครั้งยาวนานสุดขั้วหัวใจ จนกระทั่งมารดารับสายในที่สุด เขาไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรดี ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหม หรือแม้กระทั่งว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้
   (ว่าไงลูก...)
   เสียงมารดาดังขึ้นตามสาย เมษากัดริมฝีปากล่างแน่น
   “แม่...”
   (ว่าไงเม จะกลับมากินข้าวบ้านเหรอลูกวันนี้) เธอถามเมื่อเมษาไม่พูดอะไร
   (เมอยู่ไหนแล้วลูก)
   “......โรงเรียนน่ะครับ”
   เมษาตอบแค่นั้น เขาไม่รู้จะเริ่มพูดอะไร กระทั่งไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าควรจะตัดสินใจอะไรต่อจากนี้
   (แล้วมีอะไรเหรอลูก)
   วรรณนาขมวดคิ้วมุ่นอยู่ที่ปลายสาย เมื่อลูกชายคนโตของเธอแปลกไปกว่าทุกที (เมเสียงแปลกๆนะ)
   “แม่ ถ้าเม...ถ้าเมไปกรุงเทพฯ แม่จะ---”
   เมษาพูดได้แค่นั้นก็เงียบไป
   เสียงกุกกักดังขึ้นปลายสาย ก่อนที่เสียงมารดาจะดังขึ้น เมษาสับสนอย่างปิดไม่มิด
   (เมจะไปกรุงเทพฯทำไมอีกล่ะลูก)  วรรณนาถาม ไม่ได้คาดคั้น แต่เธอประหลาดใจ  (เม...มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าลูก)
   “เปล่า---”
   ยังไม่ทันที่เมษาจะพูดอะไร วรรณนาก็ขัดขึ้น (แม่หมายถึงกับคุณอาเมน เมมีเรื่องอะไรกับเขาหรือเปล่าลูก)
   เมษาปิดตานิ่ง เขาโกหกมารดาไม่ได้เลยสักนิด “เขาอาจจะไม่กลับมาแล้ว”  เมษาพึมพำเสียงสั่นพร่า วรรณนาที่ฟังอยู่ปลายสายมีสีหน้ากังวลใจไม่แพ้ลูกชาย เมื่อเป็นเรื่องของลูก อะไรก็ดูร้ายแรงสำหรับเธอไปหมด
   “ไม่ เขาบอกจะกลับมา แต่เม---”
   “เมไม่รู้ว่ามันดีแล้วใช่ไหมที่ปล่อยให้เขาไปแบบนี้”
   (แล้วทำไมไม่พูดกันล่ะลูก)
   “เม...เมไม่พูดกับเขาเอง” เมษาสารภาพออกมา “เมกลัว กลัวมันต้องเจ็บอีกครั้ง กลัวว่าเราจะไปกันไม่รอด เมไม่อยากทิ้งแม่กับเมฆไป แต่เมก็ไม่รู้ว่าถ้าเมต้องรอเขา เมจะทนได้แค่ไหน”
   (แล้วตอนนี้...ไม่เจ็บหรือลูก)
   คำถามของมารดาทำเอาเมษาเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เจ็บสิ เจ็บมากด้วย เจ็บกว่าที่เคยโดนมาตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ
   (แม่ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน แต่เมคิดว่าการที่เมไม่พูด แล้วปล่อยให้เขาตัดสินใจฝ่ายเดียวมันเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่)
   (ถ้าเรารู้สึกแบบเดียวกัน มันไม่มีใครเหนือกว่าหรอกนะลูก เมก็แค่บอกสิ่งที่เมรู้สึก ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของอนาคต)
   “แต่---”
   เมษายังคงลังเลใจ
   “แล้วแม่ล่ะครับ”
   (เรื่องแม่น่ะไม่ต้องห่วงหรอก เจ้าเมฆก็อยู่ แค่ไปหาหมอตามนัด เมฆมารับแม่ไปได้อยู่แล้ว)  วรรณนาบอก  (อีกอย่าง...)
   (แม่อยากให้เมคิดเรื่องเรียนต่อ อย่าให้แม่หรือน้องเป็นภาระของเม เพราะเราไม่ต้องการอะไรเช่นนั้น)
   (เพราะงั้นถ้าเมอยากจะไปเรียน จะที่กรุงเทพฯ หรือที่ไหน แม่ก็อยากจะสนับสนุนให้ไปนะ)
   เมษาเงียบ เขาพูดอะไรไม่ออก ตื้อในหัวไปหมด ถ้าเขาปล่อยมือแล้วไม่ไล่ตามไปตอนนี้ เขาจะต้องเสียใจกว่านี้ใช่ไหม...
   “แม่ว่าพวกเราจะไปรอดไหมครับ”
   เมษารู้ว่ามันเป็นคำถามที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่เขาเคยถามกับมารดา วรรณนาเงียบไปครู่ใหญ่ เมษาได้ยินเสียงทอดถอนลมหายใจ...
   (คนที่ใช่น่ะ เข้ามาไม่บ่อยหรอกนะเม)
   น้ำเสียงเอื้ออาทรของมารดานำเอาเมษาน้ำตาตก
   (บางทีเขาอาจจะเข้ามาแค่ครั้งเดียวในชีวิตเราเท่านั้นแหละลูก แล้วถ้าเราไม่รั้งเขาเอาไว้ เขาอาจจะหายไปแบบที่ลูกกลัวก็ได้)
   เมษากำโทรศัพท์แน่น เขาเอ่ยขอบคุณมารดาด้วยน้ำเสียงเบาราวกับกระซิบ ก่อนที่จะกดวางสายลง เมษาหย่อนโทรศัพท์เก็บลงในกระเป๋า เขาหยิบสมุดการบ้านขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพลิกไปหน้าสุดท้าย ที่มีลายมือของใครบางคนเขียนเอาไว้...
   และเมษาก็รู้หัวใจตัวเองดีในวินาทีนั้น
   เขาเอง...
ก็อยากอยู่กับอาเมนตลอดไปเช่นกัน
   เมษาผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว นึกโมโหตัวเองที่เล่นแง่กับอะไรก็ไม่รู้ กลัวงั้นหรือ ใครๆก็กลัวทั้งนั้น อาเมนก็คงกลัว พวกเขาแค่ต้องเอาชนะความกลัวและขีดจำกัดโง่ๆของตัวเองเท่านั้น
   คุณครูคนเก่งเร่งฝีเท้าออกไปทางประตูอาคาร สวนกับกอล์ฟที่เดินนำเด็กๆเข้ามาในบ้านพัก เมษาแทบมองไม่เห็นหนุ่มร่างโย่งตรงหน้า หัวใจเขาจดจ่อไปไกลแสนไกล แต่กระนั้นกอล์ฟก็เรียกเขาเอาไว้ด้วยน้ำเสียงและฝ่ามือที่เหนี่ยวศอกเล็กเอาไว้
   “พี่เม...เป็นอะไรหรือเปล่า จะรีบไปไหน”
   กอล์ฟถาม เขามองหน้าเมษาที่ดูสติหลุดไปชั่วขณะ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะปล่อยมือ แล้วไล่ให้เด็กๆเดินเข้าไปด้านใน
   “...กอล์ฟ” เมษาเรียกชื่อครูฝึกสอน
   “พี่เมรีบร้อนจะไปไหนครับ” กอล์ฟถามย้ำ เมษาได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง เหมือนสมองนึกจะประมวลผลไม่ถูก ก็ไม่ทำงานเสียอย่างนั้น
   “พี่จะไปหาคุณอาเมน”
   เขาตอบออกไปในที่สุด กอล์ฟมองหน้าเขาเหมือนรู้อะไรได้โดยไม่ต้องบอก เด็กหนุ่มระบายยิ้ม
   “จะไปยังไงครับเนี่ย” กอล์ฟถาม นั่นทำให้เมษานึกขึ้นได้
   “เอ้อ...” เขาอึกอัก จะไปที่ไซต์งานอาเมน ระยะทางก็หลายกิโลฯพอสมควร
   “เอางี้...” กอล์ฟว่า “พี่เมไปยืมรถเครื่องครูสมานมา เดี๋ยวผมขับไปส่ง”
   “......” เมษายืนนิ่งเหมือนทำอะไรไม่ถูก
   “อย่ายืนเฉยสิครับพี่ เดี๋ยวคุณอาเมนเขาไปแล้วตามไม่ทันนะ---”
   ยังไม่ทันจบประโยคดี ซีอาร์วีคันใหญ่ก็แล่นเข้ามาในพื้นที่โรงเรียน เมษากับกอล์ฟยกมือป้องตากันแสงไฟตัดหมอกโดยอัตโนมัติ กอล์ฟหรี่มามอง ก่อนชะงัก
   “คุณต้นนี่ครับ” เด็กหนุ่มว่า เมษามองตาม เขาไม่ได้พูดอะไร รู้เพียงแค่ว่าเขาจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
   “เดี๋ยวเราค่อยกลับมา ไปกันก่อนเถอะ” เมษารั้งข้อมือของเด็กหนุ่มเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันคุณต้นที่ลงมาจากรถแล้วเห็นคนทั้งคู่พอดี หนุ่มเชียงใหม่เปิดประตูเบาะหลังก่อนหยิบถุงของฝากลงมาแบบที่ทำเป็นประจำพร้อมรอยยิ้มกว้าง เมษายืนนิ่งและมึนงงอยู่ข้างๆครูฝึกสอน เขาใจร้อนรนไปหมด แต่ก็รู้ดีว่าคงเดินหนีไปเช่นนี้ไม่ได้
   “ครูเม กอล์ฟ”
   คุณต้นส่งเสียงเรียกชื่อทั้งคู่ กอล์ฟยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า ก่อนเดินเข้าไปรับถุงของฝากมาอย่างเสียมิได้
   “มายืนตากน้ำฝนอะไรกันตรงนี้ครับ” เขาถาม
   กอล์ฟมองเมษาสลับกับมองคุณต้น “ผมเอาของเข้าไปเก็บที่โรงอาหารก่อนนะครับ”
   เมษาชะงัก เขาจะเอ่ยปากห้าม แต่ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้จะไม่อำนวยเท่าไหร่ เขาจึงหุบปากฉับ แล้วพยักหน้าเบาๆ
   “รีบหน่อยนะกอล์ฟ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ เป็นเชิงว่าให้เมษาเองก็รีบเคลียร์ด้วยเช่นกัน
   “พอดีเข้าเมืองมาน่ะครับ ซื้อขนมมาฝากเด็กๆด้วย แล้วก็ยาจีนเพิ่มเติมของคุณแม่ครูเม” คุณต้นไล่เรียง “อ้อ แล้วก็สุดสัปดาห์นี้ว่างไหมครับ มีร้านอาหารในเมืองอยากให้ครูเมลองไปชิมดู”
   หนุ่มเชียงใหม่เอ่ยถาม เขายิ้มจนตาปิด แต่เมษากลับทำหน้านิ่ง เหมือนจะร้องไห้ออกมาให้ได้เสียงั้น
   “ครูเมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับเนี่ย”
   ท่าทางจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเมษาทำให้คุณต้นต้องเอ่ยถาม เขาขมวดคิ้ว
   “ก็...” ทำท่าจะปฏิเสธ แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เขาควรจะเลิกนิสัยอะไรก็ได้ ตามใจคนอื่นไปเสียทุกอย่างเสียที เพราะตอนนี้ เขาเองก็มีสิ่งที่ต้องวิ่งไล่คว้าเช่นกัน
   “ครับ” เขาตอบออกไปแล้วจ้องหน้าคุณต้นเต็มๆตา
   “อ่า...” คุณต้นดูแปลกใจนิดหน่อย “ให้ผมช่วยอะไรไหม”
   เมษาทำท่าจะสั่นหน้าปฏิเสธ ในเวลานี้รอยยิ้มคุณต้นหายไปแล้ว   เมษาได้แต่เม้มปากนิ่งเงียบ
   “ครูเมครับ มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า”
   คุณต้นถามย้ำ นั่นทำให้เมษาต้องพยักหน้าออกมาในที่สุด เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
   “วันนี้ผมคงไม่สะดวกอยู่คุยด้วยนะครับ” เขาเอ่ย เสียงสั่น “ผมกำลังจะไปหาคุณอาเมน”
   เมษาบอกออกมาในที่สุด เขาค่อยๆเงยหน้าสบตาคุณต้น อีกฝ่ายจ้องมองเขานิ่ง แววตาวูบไหวคล้ายเจ็บปวดอย่างที่บอกไม่ถูกเช่นกัน
   “ผมมีเรื่องต้องคุยกับเขา”
   ในเวลานี้ เมษาจ้องหน้าคุณต้นแบบไม่วางตา เขารู้สึกผิดลึกๆ แต่กระนั้น มันคงถึงเวลาที่เขาจะทำอะไรให้ถูกต้องเสียที
    “ผมขอโทษ แต่ผมต้องไปจริงๆ”
   คุณต้นเองก็จ้องเขานิ่ง เหมือนมีหลายอย่างจะพูดออกมา แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ทำได้แค่ถอนหายใจเท่านั้น
   “ครูเมรู้ใช่ไหมว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ” คุณต้นเอ่ยถาม นั่นทำให้เมษาไม่กล้าทั้งพยักหน้ารับและส่ายหน้าปฏิเสธ
   คุณต้นยังคงจ้องมองเขาโดยไม่ละสายตาไปไหน น้ำเสียงเหมือนเจือด้วยความเจ็บปวด
   “ผมชอบครูเม”
   คำสารภาพทำให้เมษารู้สึกราวกับว่าสิ่งที่อึดอัดมานานมันปลดเปลื้องลงในวินาทีนี้ แต่กระนั้นเอง เขาก็หนักใจที่จะต้องปฏิเสธออกไป หนักใจที่จะต้องบอกความรู้สึกจริงๆออกไป
   เมษาสบตาผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง ไม่มีรอยยิ้มบนหน้าคุณต้นอีกแล้ว
   “คุณต้นเป็นคนดีมากนะครับ คอยช่วยเหลือผมกับเด็กๆมาตลอด”
   “......”
   “คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเลยครับคุณต้น”
   เมษาจำใจตัดรอนด้วยประโยคเช่นนี้ แต่เขารู้สึกเช่นนี้จริงๆ มิใช่เพียงพูดให้มันจบๆไปเพียงเท่านั้น
   เขาได้ยินเสียงลมหายใจของคุณต้น ใบหน้าคมนั่นเบือนหนี ฝ่ามือยกขึ้นลูบใบหน้าเบาๆ
   “ผมเจ็บชะมัดเลยรู้ไหม”
   เมษาไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
   “เมื่อครู่ผมขับรถสวนกับคุณอาเมน เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้”
   คุณต้นพยายามแสร้งหัวเราะแก้จืดเจื่อน แต่มันไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด       “จริงๆผมรู้อยู่แล้วว่าครูเมไม่ชอบผม แล้วก็รู้ด้วยซ้ำว่าคุณมีใครในใจ” น้ำเสียงคุณต้นเศร้าสร้อยจนเมษารู้สึกผิด
   “ผมขอโทษ” เมษาเม้มปากแน่นแทบเป็นเส้นตรง ตอนนั้นเองที่ไฟหน้าจากรถมอเตอร์ไซค์สาดส่องเข้ามา เขาเห็นกอล์ฟประจำที่คนขับอยู่แล้ว
   “ผมขอโทษจริงๆครับคุณต้น แต่---”
   “ขึ้นรถเถอะครับ” คุณต้นยิ้มจางๆมาให้ก่อนเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับออก เมษาชะงัก
   “ผมต้องรีบไป---”
   “ให้ผมไปส่งนะครูเม” ชายหนุ่มเอ่ยขอ ทั้งๆที่รู้สึกร้าวในอกซ้าย
   เมษายังคงลังเล เขามองกอล์ฟสลับกับคุณต้น แต่เสียงทุ้มของคุณต้นก็เอ่ยให้ความมั่นใจอีกครั้ง
   “ไม่ต้องกลัวหรอกครับครูเม ผมไปส่งคุณถึงที่แน่นอน ไม่มีวันพาคุณหนีไปไหน” คุณต้นระบายยิ้ม มันเจือความเจ็บปวดในนั้นจนเมษาพูดอะไรไม่ออก “ให้ผมได้ทำอะไรเพื่อคุณอีกสักครั้งเถอะครับ”
   “คุณต้นทำเพื่อผมเยอะเกินไปแล้วด้วยซ้ำ” เมษาว่าพลางถอนหายใจ เขาส่งสายตาบอกกอล์ฟว่าเขาจะไปกับคุณต้น ก่อนที่จะยอมขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ
   คุณต้นสตาร์ทรถ รถคันใหญ่ออกตัวไปยังถนนหมู่บ้าน เมษานั่งนิ่งในห้องโดยสาร คุณต้นเองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน พวกเขาเงียบ ปล่อยให้บรรยากาศรอบตัวทำหน้าที่ของมัน มันอึดอัดอยู่ในความรู้สึก แต่กระนั้นเมษาก็รู้สึกโล่งใจที่ได้พูดออกไป
   ถนนคดเคี้ยวพาพวกเขาออกจากหมู่บ้านเพื่อไปยังพื้นที่รีสอร์ตที่อยู่เหนือขึ้นไป ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที แต่หัวใจเมษากลับเต้นตึกตักจนน่ากลัว เขาเห็นแสงไฟริบๆอยู่ตรงหน้า ไซต์ก่อสร้างโครงการรีสอร์ตหรูของอาเมน ซีอาร์วีคันใหญ่แล่นเข้าไปในนั้น คุณต้นจอดรถลงใกล้ๆกับเพิงพักอาศัยของคนงาน รถบ้านของอาเมนก็ยังจอดอยู่ตรงนั้น มีขบวนรถตู้และออฟโร้ดหลายคันจอดเรียงกันอยู่ เมษาปลดเข็มขัดนิรภัยออก เขาเห็นผู้ชายตัวโตกำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางลงมาจากรถบ้าน มือเล็กทำท่าจะเปิดประตูรถ แต่มืออีกข้างกลับถูกดึงเอาไว้เสียก่อน
   “......”
   เมษาเงียบ เขาหันไปมองคุณต้น สลับกับมองอาเมนที่ยืนอยู่ตรงหน้าและหันมายังรถที่จอดอยู่
   “สัญญากับผมนะว่าครูเมต้องมีความสุข” คุณต้นเอ่ย นั่นทำให้เมษาน้ำตารื้น “ยิ้มเยอะๆนะครับ รอยยิ้มของครูเมน่ะน่ารักที่สุดแล้วรู้ไหม”
   เสียงทุ้มนุ่มทำเอาหัวใจอุ่นซ่าน เมษาได้แต่พยักหน้ารับเบาๆเท่านั้น ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น
   “ผมรู้เรื่องที่คุณอาเมนต้องกลับกรุงเทพฯแล้วล่ะ เราจอดรถคุยกันเมื่อครู่ แต่ผมไม่ได้บอกคุณเมื่อครู่นี้ เพราะอดดีใจไม่ได้ ว่าถ้าคุณอาเมนไปแล้ว ครูเมจะมองผมบ้าง” คุณต้นยิ้มหงอยๆ “แต่คงไม่มีทางใช่ไหมครับ”
   เมษาไม่กล้าตอบ สัมผัสที่ปลายนิ้วทำเอาเขาน้ำตาตก คุณต้นจึงต้องแสร้งระบายยิ้มเพื่อเมษาแทน “ถ้าครูเมจะไปกับคุณอาเมน ยังไงก็อย่าลืมกลับมาเยี่ยมที่นี่บ้างนะครับ ติดต่อมาบ้าง และถ้าผมไปกรุงเทพฯ เราต้องได้เจอกันนะครับ”
   คุณต้นส่งยิ้มอ่อนโยนและคราวนี้เมษาพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน “แน่นอนสิครับ ผมจะเมินคนอย่างคุณต้นได้ยังไงกัน”
   คุณต้นพยักหน้าเบาๆ “ไปเถอะครับ”
   เมษามองคุณต้นเต็มๆตาอีกครั้งอย่างนึกขอบคุณจากหัวใจ เขาเปิดประตูรถออก ทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้นหญ้าชื้นแฉะ เขาก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะระเบิดอีกครั้ง
   เมษายืนมองผู้ชายตัวโตอีกคนอยู่ตรงนี้ และไร้กำลังที่จะก้าวเข้าไปหา เขานึกโมโหตัวเองที่ทำไมไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจคิดเลย ทั้งๆที่อาเมนอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ
   เมษารอจนกระทั่งอีกฝ่ายวางกระเป๋าลงแล้วสั่งให้ลูกน้องออกไปก่อน อาเมนดูไม่เข้าใจการมาถึงของมากนัก จากนั้นเขาจึงสาวเท้าเดินเข้ามาหาเมษา ใบหน้าคมนิ่งเรียบเหมือนเคย เมษาค่อยๆก้าวเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจมากนัก แต่สุดท้ายแล้วเมษาก็ก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าอาเมนจนได้
   แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เขารู้สึกตีบตันไปหมด...
   อาเมนจ้องมองเขานิ่งๆ ในขณะที่เมษาก็พยายามที่จะมองหน้าอาเมนอีกครั้ง แต่ก็ยากกว่าที่คิด เขาทำได้แค่ก้มหน้ามองปลายเท้าของพวกเขาทั้งสองคนเงียบๆ
   เมษาอยากจะร้องไห้ ตะโกนต่อว่าคนตรงหน้าออกมาดังๆ แต่ก็ไม่ได้ทำ
   “...จะทิ้งกันไปอีกแล้วใช่ไหม”
   เมษารู้ดีว่าเขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว สิ่งที่ทำได้จึงมีเพียงแค่พูดทุกสิ่งที่อยู่ในใจออกไปให้หมดสิ้น เขากำมือแน่น แล้วในที่สุดเขาก็กล้าพอที่จะสบตากับอาเมนอีกครั้ง
   ดวงตาคมคู่นั้นบอกอะไรเขาหลายอย่าง แต่ที่แน่นอนเสียยิ่งกว่าอื่นใด คือความรู้สึกที่บอกกับเมษาว่า พวกเขาต่างเจ็บปวดไม่แพ้กันเลยสักนิด...
   “นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปแบบนี้อีกแล้ว นี่พยายามแล้วหรือไง”
   เขาบริภาษด้วยเสียงสั่นพร่า
   “แล้วคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกละครหรือยังไงกัน มาเขียนอะไรบ้าๆทิ้งไว้”
   เมษายกหลังมือปาดไม่ให้น้ำตาไหล
   “คุณน่ะ ไม่เคยคิดถึงใจผมเลย”
   เขาทำในสิ่งที่แม้แต่ตัวเองยังไม่ทันคาดคิด เมษาโถมตัวเข้ากอดอาเมนแน่น ร่างสูงใหญ่ได้แต่ยืนนิ่งอย่างอึ้งๆ ศีรษะเล็กซุกซบอยู่กับไหล่เขา กลิ่นหอมหวานลอยแตะจมูก เหมือนคนตัวเล็กกว่าจะร้องไห้ออกมาจนได้
   อาเมนนิ่ง เขาพูดอะไรไม่ออก จับต้นชนปลายไม่ค่อยจะได้นัก แต่ก็ยกมือขึ้นโอบรัดร่างผอมบางในอ้อมแขนเอาไว้
   “อย่าร้องไห้สิ แบบนี้ฉันก็ไปไหนไม่ได้พอดี” อาเมนทอดเสียงอ่อนอย่างนึกรักใคร่ เขาลูบศีรษะกลมเบาๆ เมษาสั่นศีรษะไปมากับอกกว้าง
   อาเมนรอจนกระทั่งเมษาสงบและใจเย็นลงในอ้อมกอด เขารัดกายเล็กไว้แน่นราวกับว่าถ้าปล่อยมือไป เมษาอาจจะหายไปตลอดกาล น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
   “คุณคิดว่าเราจะไปกันรอดไหม”
   อาเมนหลุบตามองคนในอ้อมกอด
   “ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ แต่จะทำทุกอย่าง ให้มันเกิดขึ้นให้ได้” มาเฟียหนุ่มตอบ เมษานิ่งอยู่ในอ้อมกอดอุ่น
   “ผมจะไปด้วย...”
   เขากระซิบขึ้นมาเบาๆ แต่อาเมนได้ยินมันชัดเจนทั้งหมด “จะไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดขึ้นได้นานแค่ไหน แต่จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้มันรู้ไป”
   “จะไปด้วยกันจริงๆเหรอ” อาเมนเอ่ยถาม หัวใจเต้นแรง อยากจะรู้สึกดีใจแต่ก็ยังไม่แน่ใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้ามากนัก
   รู้เพียงแค่ว่าเมษาอุ่นเหลือเกินในอ้อมกอดของเขา
   “ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ ผมอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต” เมษาค่อยๆเงยหน้ามองอาเมนอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตสะท้อนใบหน้าคมในนั้นอย่างชัดเจน “แล้วก็ไม่อยากพูดคำว่าเสียดายอีกแล้ว”
   “...ผมเอง ก็อยากจะอยู่กับคุณตลอดไปเหมือนกัน”
   เมษาว่า และนั่นก็เหมือนกับระเบิดเวลาที่เดินถอยหลังมาจนถึงวินาทีสุดท้าย พวกเขาจ้องตากัน เหมือนกับหัวใจพองจนระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษยิ่งนัก การที่รู้สึกเหมือนกันเช่นนี้ มันมีพลังยิ่งนัก...
   “อืม ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าชีวิตนี้จะได้เจอคนที่อยากจะอยู่ด้วยตลอดไป” อาเมนกระซิบบอกเบาๆ เขาดีใจ อาจจะแสดงออกไม่เก่งนัก แต่เขาอยากให้เมษารู้จริงๆว่าเขาดีใจมากแค่ไหน
   “นายเป็นคนนั้นจริงๆเมษา”
   “เป็นรักแรกพบด้วยซ้ำ”
   อาเมนนึกย้อนกลับไปในวันนั้น ที่คลับในตัวเมืองเชียงใหม่ อะไรกันนะที่ทำให้เขาเอ่ยทักเมษาไป จะว่าด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ยังไม่แน่ใจนัก
   “ฉันรักนาย”
   ริมฝีปากอึ่นร้อนกดลงที่หน้าผากมน อาเมนเอื้อมมือปาดน้ำตาที่ฉ่ำดวงตาให้อย่างเบามือ
   “ขอโอกาสอีกครั้ง จะไม่ไปไหนอีกแล้ว”
   เมษาจมลงในอ้อมกอดอุ่นอีกครั้ง เขากอดอาเมนแน่น
   “คุณจะกลับมาเมื่อไหร่” เมษาเอ่ยถาม เขารู้สึกอุ่นหัวใจอย่างประหลาด และรู้ในทันใด ว่าเขาตัดสินใจได้ถูกต้องที่สุดแล้ว
   “พรุ่งนี้ ประชุมเสร็จแล้วจะมารับนะ”
   “......”
   “จะไม่ปล่อยให้ต้องรออีกแล้ว”


   เมษาลงจากรถตู้คันใหญ่ เขาปล่อยมือจากฝ่ามือหนาที่กุมกันมาตลอดทาง ขบวนรถหรูจอดต่อเป็นทางยาวที่ถนนสองเลนหน้าบ้าน เมษาจ้องหน้าคมคร้ามของคนตรงหน้าอย่างรู้สึกแปร่งประหลาด แต่กระนั้น หัวใจก็ถูกเติมเต็มจนหาคำพูดมาอธิบายมันไม่ได้ทั้งหมดอยู่ดี
   พวกเขามองหน้ากันเงียบๆอยู่เช่นนั้น จนเมษาเป็นคนออกปากพูดคนแรก
   “เดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอก” อาเมนยิ้มกับคำเตือนน่ารักนั่น แต่เขาก็ยังยืนปักหลักอยู่หน้าบ้านเมษา
   “นายนั่นแหละเข้าบ้านได้แล้ว” เมษานิ่ง ไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบ อาเมนจุดยิ้มที่มุมปาก ก่อนส่ายหัว
   “นี่เราใจตรงกันจริงๆเหรอเนี่ย” เขาถาม ทำเอาเมษาขมวดคิ้วยุ่ง
   “ถามบ้าอะไร”
   อาเมนหัวเราะออกมาเบาๆ เมษาเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจึงหมุนตัวกลับทำท่าจะเปิดรั้วเข้าบ้าน แต่ทันใดนั้นมืออุ่นๆของใครอีกคนก็รั้งข้อมือเล็กเอาไว้ ก่อนโน้มใบหน้าเข้ามาฉกฉวยโอกาสกับริมฝีปากบาง เมษาตกใจเล็กน้อย แต่กระนั้นก็โอนอ่อนให้อีกฝ่ายตักตวงความหวานไปมากเท่าที่ต้องการ เขายกมือวางลงบนบ่ากว้าง สองมือของอาเมนกอดเอวเขาเอาไว้หลวมๆ พวกเขาจูบกันเนิ่นนาน จากนั้นจึงละริมฝีปากออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง
   อาเมนจ้องลึกลงไปในดวงตาที่สุกใสราวกับกวางน้อย เขาเกลี่ยแก้มนิ่มอย่างเบามือ
   “เจอกันพรุ่งนี้นะ จะรีบกลับมาหา”
   “อืม”
   “ไม่อยากไปแล้ว”
   ท่าทางออดอ้อนทำให้เมษานึกหมั่นไส้ “เดี๋ยวก็เจอกันอีกน่า”
   เมษาส่งสายตาแกมบังคับให้กับคนตัวโต เขาปล่อยมืออาเมน เอ็ดอีดฝ่ายอีกนิดหน่อยแล้วรุนหลังให้ขึ้นรถไป ดวงตากลมมองอีกฝ่ายขึ้นนั่งบนเบาะตาละห้อยแล้วปิดประตูลงก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนตัวออกไปตามเส้นทาง ใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง เมษาได้แต่ก้มลงมองฝ่ามือของตนเอง ความอบอุ่นในปลายนิ้วยังซ่านอยู่ในอกซ้าย นั่นทำให้เมษามั่นใจ...

   พวกเขาไม่มีวันปล่อยให้ใครจากใครไปไหนอีกแล้ว











FIN


จบแล้วคร่าา เย้ๆๆๆๆ ไม่รู้จะถูกใจกันไหมกับการตัดสินใจเช่นนี้ แต่ไคลี่คิดว่ามันสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วนะคะสำหรับคู่นี้
หนังสือส่งพร้อมกันราวกลางเดือน11นะคะ ตอนพิเศษอัดแน่นโคตรๆ ขออวดเลย ตอนพิเศษอาเมนเมษาน่ารักมาก ย้ายตามกันไปที่กรุงเทพฯ55

ใครพลาดซื้อ ถ้ามีหลุดจะประกาศขายหน้าเพจนะคะ แต่ขอพร้อมโอนน้า ^^

เจอกันนิยายเรื่องถัดไปค่า

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
มาต่อแล้วววว (เดี๋ยวมาเม้นค่ะ^^)

Edit : อาเมนมากับดูคาติจนได้ทำเอาช่วงนี้เวลาเห็นดูคาติแถวๆนิมมานฯต้องนึกถึงอาเมนตลอดแล้วก็คิดว่าเมื่อไหร่จะมาต่อนะ? แล้วพอมาต่อก็ตอนจบพอดีเลย^^

เมษา ถามได้โดนใจมาก ที่ว่า "หายหัวไปไหนมา" เนี่ยแทนความรู้สึกคนอ่านที่ถามถึงอาเมนเลยล่ะค่ะ ไอ้ท่าเหวี่ยงๆวีนๆนี่ อาเมนต้องรับบทหนักแน่ๆในอนาคต ส่วนอาเมนตอนที่อ้อนแบบ เอาหัวซบไหล่เมษาเนี่ย น่ารักมาก เหมือนหมาตัวใหญ่ๆเลยล่ะ แบบว่าสิ้นลายไปเลยสินะ

ตอนแรกนึกว่าจะแยกกันซะแล้ว เพราะมีแนวโน้มจะเป็นแบบนั้น ถ้าไม่มีข้อความทิ้งไว้ในสมุดนี่คงจะจบกันจริงๆสินะ อาเมนกลับมาแบบง้อจริงๆ หมดท่าจริงๆด้วย นึกภาพแบบหูลู่หางตกตลอดทั้งตอนได้เลยล่ะค่ะ

ตอนจบแบบนี้ก็โอเคนะคะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป สำหรับอาเมนที่ไว้ท่ามาตลอดแล้วยอมแบบหมดรูปขนาดนี้ (เดี๋ยวรออ่านในเล่มว่าตอนพิเศษจะขนาดไหน รอรับหนังสือนะคะ) ที่จริงถ้าจะจบแบบปลายเปิดกว่านี้ก็ยังโอเคนะ เราว่า

ส่วนสุดท้าย ถ้าถามว่า "เรา(คู่นี้)จะไปรอดไหม?"
เราว่าถ้าอาเมน(ใจ)แข็ง หรือเด็ดขาดได้ประมาณ จอมทัพ นี่ รอดแน่นอน ค่ะ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากๆสำหรับภาคต่อนะคะ แล้วก็จะรอหนังสือนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2014 00:08:07 โดย kuruma »

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
จบแล้ว ยินดีกับคนแต่งมากเลยค่ะ ติดตามตั้งแต่ล่ารักฯภาคหลักลงใหม่ๆ
เขียนดีมากค่ะ ชอบสำนวน ชอบคาแรกเตอ ชอบทุกอย่างของทั้งสองเรื่องเลย
รออ่านเวอร์ชันหนังสือนะคะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
นึกว่าอาเมนจะกินแห้วซะแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
จบเเล้วหรอออยังอยากอ่านต่ออยู่เลยย  สนุกมากกกก ขอตอนพิเศษเยอะๆนะ

ออฟไลน์ fewmeemoi

  • Heal the world
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ไม่อยากให้จบเลยอยากให้หวานกันมากๆก่อนเลยค่อยจบ จบแล้วก้อไม่เปนไร แต่ขอตอนพิเศษ หวานๆ เยอะๆนะ Kylie

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :monkeysad:
เข้าใจเมษา
แต่เราเลือกที่จะไม่กลับไป555
เลยมานั่งอ่านนิยายหงอยๆแบบนี้เป็นปีละ  :ling2:

ออฟไลน์ hikikomori

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-4
อร้างงงงงงงงงง รอหนังสือนะคะ
อยากอ่านตอนพิเศษทุกคู่เลยค่าาาา อิอิ

อาเมนเมษนี่ตอนย้ายตามกันไปต้องน่ารักแน่ๆ ขอมโนไว้ก่อน
เพราะดูแววแล้วเมษาน่าจะได้มิมาพอสมควร แววคุมสามี 555555555

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
จบแล้ววว จึ๊งงงงงงงงงงงงงงง  :o12:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆอีกเรื่อง //กราบขอบคุณงามๆ  o1

จิรอทั้งเรื่องใหม่และตอนพิเศษ (ถ้ามีหลุดๆมาลงในนี้บ้างไรบ้างเนาะ...)  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hope2TheEnd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันสักที รออ่านตอนพิเศษในเล่มนะคะ XD

ออฟไลน์ Adoreyou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กรี้ส ๆๆๆๆๆๆ พลาดจองอ้ะะะ พร้อมโอนด้วยยย  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นจนเหนื่อย

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย
ปริ่มมากกก รอลุ้นมากว่าจะเป็นแบบไหน
สงสารทั้งอาเมน ทั้งเมษา
ในที่สุดก็จะได้อยู่ด้วยกันสักที
หลังจากที่น้ำตาตกในรัวๆๆๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ ^^

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เกือบหัวใจจะวายตายกลัวจบไม่แฮป ลุ้นจนตัวโก่ง อย่าลืมมีตอนพิเศษมาให้บ้างนะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: [Side Story] ล่ารักหัวใจมาเฟีย : Amen X Ma
«ตอบ #676 เมื่อ28-10-2014 09:17:53 »

จบแบบแฮปปี้!เราชอบจบแบบมีความสุขแบบนี้ที่สุด แต่แอบสงสารคุณต้นเบาๆเขาเป็นพระรองที่ยอดเยี่ยมมาก~

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
กรี๊ดดด คู่นี้สุดท้ายก็ไปอยู่ด้วยกันที่ กทม แม้จริงๆใจเราอยากให้อยู่ที่ม่อนแจ่มก็เถอะ นึกว่าเมษาจะได้เป็นคุณนายรีสอตที่โน่นซะอีก สุดท้ายกลับมาเป็นคุณนายมาเฟียเหมือนเดิม อิอิ

เรื่องนี้จบแล้ว แต่ทำไมเรากลับคิดว่ามันเพิ่งเริ่มต้นเอง เหมือน side story ที่ผ่านมาเป็นช่วงขยายเวลาที่เค้าง้อกันอ่ะค่ะ แต่เรื่องของพวกเค้าจริงๆน่าจะเริ่มที่ กทม หรือเปล่า เพราะที่โน่นมีทั้งพ่อและน้องของอาเมนที่ยังไม่รู้ว่าจะเปนยังไงถ้าเจอเมษา และเมษาเองก็น่าจะต้องไปเรียนและเจอเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ และอาจได้เจอกับคุณต้นหรือมิถุนาที่โน่นด้วย

อยากอ่านและอยากรู้ว่าเค้าสองคนจะใช้ชีวิตด้วยกันยังไงในฐานะคู่รักอ่ะค่ะ  เราจะพอมีโอกาสนั้นป่าวคะ

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โอยยยย เสียน้ำตาไปหลายลิตรเลย T^T
ซึ้ง เศร้า เหงา อึดอัด ฟีลลิ่งมาเต็มมากกกกก
เดาตอนจบไม่ได้เลย อ่านไปพักไป ปวดใจมากค่ะ 55
สุดท้ายจบแฮปปี้นี่อยากจะปิดซอยเลี้ยง อาเมน! มิสชั่นคอมพลีทนะ!! กรั่กๆ
หลังจากนี้เราก็จะตั้งหน้าตั้งตารอหนังสือ เพราะเราอยากรู้เรื่องที่เขาย้ายไปกรุงเทพกัน ><
น่ารักอ่ะ!!!

ออฟไลน์ w-for-winnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คู่นี้น่ารักมากๆเลยค่ะ

คนอ่านละลายจนระเหยเป็นไอแล้วลอยไปฟินแลนด์แล้ว

 :o8: :-[ :impress2:

ป.ล. จะรอไคลี่มาต่อเรื่องใหม่น้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ viewfifi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ฟินสุดยอด นึกว่าจะเศร้าซะแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mukkai

  • a Day dreamer
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ฮื่อ คู่นี้ลุ้นมากๆในความรู้สึก
เหมือนจะมีบางอย่างแตกต่างกันมากๆ
แต่มันเข้ากันได้อย่าลงตัว
นึกว่าต้องแยกกันไปเสียแล้ว
เอาจริงๆระยะทางไม่ใช่ปัญหา แต่ระหว่างรอนั่นแหละปัญหา
เมษากลับไปอยู่กรุงเทพ แลัว โฮร๊วว เดี๋ยวเทียวกลับมาบ้านบ่อยๆก็ได้เนอะ(ฮี่ๆ)

ขอบคุณพี่ไคลี่นะคะ :pig4:

ออฟไลน์ schneesturm_fubuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ฟินลื้มมมมมมมมมมมม o13 :-[

ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ได้อยู่ด้วยกันซะทีน๊าาา ดีใจจัง~^^

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อยากอ่านตอนพิเศษษษษษษ ต้องฟินแน่ๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ๊ยยย เล่นเอาน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว  :mew6:

แอบเห็นใจคุณต้น ส่งใครมาให้คุณต้นที เมฆมั้ย เมฆสนใจดูแลคุณต้นมั้ยจ้ะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ดีใจที่จบแฮปปี้
ร้องไห้สุดอ่ะบีบคั้นหัวใจมากตอนแรก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
จบได้ฟินสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao5: :hao5: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด