อิสรภาพของน้องครีม
{ K }♨ “กลับมาแล้วหรอครับ” เสียงไอ้ตัวเล็กดังออกมาทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป และหัวทุยๆของมันก็ถลาออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับแปรงขัดส้วม ใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ผมให้เอาไว้ใส่นอนเพราะเสื้อผ้าที่แม่ผมให้มามันเป็นแต่ชุดเที่ยวนะสิ พาไปซื้อสักหน่อยก็ดีก่อนที่เลือดกำดาวผมจะกระฉูด
“ทำอะไรอยู่ล่ะ ?” ผมเดินไปล้มตัวนอนที่โซฟาเร่งแอร์ เปิด TV วันนี้ไม่มีเรียน ว่างจุงเบยยยยยย!
“ขัดห้องน้ำน่ะครับ สกปรกมากเลย” ผมย่นจมูกนิดหน่อยก็แน่สิ แม่บ้านน่ะอย่าได้มาหวังแตะห้องผมเลย จะก็จับไม้กวาดบ้างบางครั้งแต่ชีวิตวัยรุ่นอย่างมาเอาอะไรมากเลยแค่เวลาแดกเหล้าก็ 24 ชม แล้ว เสื้อผ้าก็ส่งซักเอาสภาพห้องเลยเละนิดหน่อย มีไอ้ตัวเล็กมาก็ดูเหมือนจะว่าดีขึ้น … นิดหน่อยล่ะม้างงงงงงงง
“งั้นหรอ เออนี้เดี๋ยวขัดห้องน้ำเสร็จไปเตรียมตัวไปข้างนอกกับฉัน”
“ไปไหนหรอครับ” ไอ้หนูมานั่งยองๆข้างหน้าผมเอียงคอน้อยๆถามผมเลยเอามือผลักหัวเล็กๆนั้นเบาๆอย่างขำๆ ทำตัวเป็นตุ๊กตาล้มลุกไปได้
“ถามมากน่ะ บอกให้ทำก็ทำสิ”
“คะ ครับ … ผมถามได้ไหมว่าเมื่อเช้าไปไหนมาหรอครับ”
“ไปวางเบ็ดตกปลาน่ะ” ผมคอยอย่างไม่ใส่ใจนักพร้อมกับผลักหัวเด็กให้ไปอีกทางนึง มันบัง TV ผมที่กำลังดูเดินแบบชุดว่ายน้ำอยู่ ดูสินมอย่างตู๊มเลย แต่ก็ต้องถูกบังอีกด้วยหัวทุยของไอ้เด็กขี้สงสัย =_=’
“หื้อ ?”
“ถ้ายังถามอีกก็ซุกอยู่ตรงนี้แหละ!”
“อื้ออออออ” ผมจัดการเอาหัวของไอ้ตัวเล็กซุกลงท้องอย่างขำๆ ไอ้เด็กดิ้นเหมือนหายใจไม่ออก สะบัดหัวไปมา จนหล่นไปได้และก็วิ่งหายเข้าไปในห้องอย่างไว ผมมองตามอย่างขำๆ ไอ้เด็กนี้มันต้องเจอดีซะบ้าง ขี้สงสัยดีนัก
.
.
.
{ C }♨ ผมจับจมูกตัวเองโยกไปมาสองที ยังไม่หายเจ็บเลยที่กระแทกกับพุงของคุณคิงเมื่อกี้ คนอะไรท้องแข็งอย่างกับหิน นิสัยก็ไม่ดีชอบแกล้งผมอยู่เรื่อย ตลอดสองวันที่ผมอยู่กับเขามานี้ เขานิสัยเหมือนเด็กๆจริงๆนะ ชอบแกล้งผมตลอด แม้แต่ตอนผมอาบน้ำก็มาปิดไฟ ตอนผมทำกับข้าวก็มาจี้เอวให้ตกใจ เกือบโดนมีดบาดด้วย แต่เขาก็เป็นคนหัวเราะง่ายและก็ชอบเก๊กใส่ผมแบบแปลกๆ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเก๊กใส่ผมด้วย ขนาดตอนนี้เขาขับรถอยู่กับทำเป็นเก๊กเอานิ้วเคาะพวงมาลัยเร็วร้องเพลงด้วย ไม่เห็นเท่ห์เลยเหมือนพวกติดยามากกว่า ทั้งๆที่หน้าตาคมชัดทุกส่วนขนาดนี้แท้ๆ
“งอนไม่เลิกนะไอ้แสบ” เสียงทุ้มเขาฟังดูล้อเลียนผม ผมเบ้ปากก่อนจะหันหน้าหนี
“ตามใจ ไม่อยากกินไอติมก็ช่างเนอะ”
“ผมไม่ใช่เด็กนะที่จะเอาขนมมาล่อ” ผมพูดเสียงเบา แต่คนหูผีก็ได้ยิน
“แล้วอยากกินไหมล่ะ”
“… ผมไม่มีตังหรอก”
ถึงจะบอกว่าอยากกิน แต่ผมไม่มีเงินสักบาท เพราะเมื่อก่อนได้เงินมาเท่าไรก็ต้องให้ป้าหมด เลยไม่เคยได้กินขนมเลย เห็นเด็กคนอื่นเค้าสะพายเป้โรงเรียนถือขนมเดินกันเป็นกลุ่มๆแล้วอิจฉา เพราะผมต้องหยุดเรียนเพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วย และพอแม่เสียไป ผมก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลย … นึกถึงเพื่อนที่โรงเรียนแล้วก็อยากเจอจัง ป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง
“หักจากเงินเดือนไง” เขาพูดทำลายความคิดผม ก่อนที่จะเปิดเพลงเสียงดังจนผมต้องเอามืออุดหู อะไรจะแกล้งผมได้ตลอดเวลาแบบนี้!!!!
เขาพาผมมาที่ห้าง ซึ่งตอนแรกผมยืนอึ้งอยู่หน้าประตูทางเข้าพักใหญ่แต่ก็โดนคุณคิงลากให้แขนให้เดินตาม ยิ่งกว่าเห็นห้องคุณคิงเขาครั่งแรกซะอีก เพราะผมไม่เคยมาเคยเห็นแต่ใน TV อย่างมากก็ซุปเปอร์เท่านั้นที่ผมมีโอกาสได้ไป ที่นี้มันทั้งใหญ่ คนเยอะมาก ทุกอย่างดูหรูหรา แถมแอร์เย็นกว่าซุปเปอร์มาก ไฟก็สวยเหลืองนวลไปหมด
“ไงอยากกินอะไรก่อนหรือว่าจะเดินก่อน”
คุณคิงก็พาผมมาหยุดอยู่ตรงโซนเสื้อผ้าผู้ชาย ผมก้มมองมือตัวเองที่โดนจับแน่นก่อนจะเงยหน้ามองตาคมที่มองผมเหมือนจะถาม ก็ต้องถอนหายใจออกมานิดๆ บอกไปก็เท่านั้นแหละกับคนแบบนี้ ยิ่งผมบอกว่าให้เขาปล่อยมือ เขาก็ยิ่งจะแกล้งผมมากกว่านี้ ผมไม่อยากทำอะไรน่าอายๆต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้หรอก อย่างมากเขาก็คิดว่าพี่น้องกันนั้นแหละ
“ดูสิเธอ คู่นั้นน่ารักจังเลยเนอะ” แอร๊ะ!!!!!!!
“เอ้อคือปล่อย …”
“ไปเหอะฉันอยากกินปลาดิบ” และผมก็โดนลากตัวปลิวอีกรอบ … เมื่อกี้ผมว่าเขาถามความเห็นผมนะ =_=’
หลังจากที่เสด็จท่านคิงพาผมเข้าร้านที่ราคาที่ทำให้ตะเกียบผมสั่นได้ บอกตรงๆร้านนี้อร่อยมาก แต่ถ้าจะให้กินอีกเงินเดือนของผมคงหมดแล้วแน่ๆ แต่ดูคุณคิงสิรูดการ์ดสบายใจเชียว ฮึ้ย! น่าหมั่นไส้คนรวยจริง รอก่อนเถอะถ้าผมมีร้านเค้กเป็นของตัวเองเมื่อไรนะ ผมจะรวยกว่าคุณคิงให้ดู
“คิดอะไรอยู่ว่ะ หน้าตาเหมือนปวดขี้” ผมหน้ามุ่ยทันทีที่หน้าหล่อๆนั้นก้มมามอง พอ
“กินข้าวเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ” เห็นผมไม่ตอบก็ลากผมให้ยืนขึ้นและจูงมือให้เดินตามออกจากร้านไป ดีหน่อยที่ผมมือไวคว้าเอาใบเสร็จติดมาด้วย เก็บไว้พอเงินดือนออกผมจะได้เอามาคืนเขาถูก เขาลากผมไปโน้นมานี้จนได้ของมาเต็มไม้เต็มมือเราสองคน จนผมปวดขา เขาที่จูงมือผมเดินไปมาอยู่ข้างหน้าคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ได้สนใจผม ผมเลยกระตุกมือให้เขารับรู้
“แปปไอ้บิว” เขาหันมามองผมและบอกคนในสาย ก่อนจะเอามือถือใส่กระเป๋าเสื้อและก้มมาดูผมแบบเต็มตา
“เป็นไรอ่ะ”
“ผมปวดขาแล้ว ขอนั่งพักได้มั้ยครับ” ผมบอก เขาอมยิ้มนิดหน่อยก่อนจะพาผมมานั่งที่ลานน้ำพุแห่งหนึ่งและเอาของวางไว้ข้างๆผม ผมมองเขาที่ยืนคุยโทรศัพท์หันหลังให้ผมเงียบๆ สักพักเขาก็หันมามองผมแบบนัยน์ตาประหลาดๆ เหมือนมีแววดีใจและน่ากลัว
“รอฉันอยู่ตรงนี้แปปนึงนะ”
“ไปไหนหรอครับ” ผมเอียงคอถามเขา
“เหอะน๊า แปปเดียว เดี๋ยวฉันมา” ผมพยักหน้าให้เขา ก่อนที่มือใหญ่ๆจะขยี้ผมของผมเบาๆและใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นก็ค่อยๆเดินออกไป … หวังว่าเขาคงไม่ทิ้งผมนะ
5 นาทีผ่านไป … เขายังไม่มาเลยไปไหนของเขานะ
10 นาทีผ่านไป … คนๆนั้นเขาจะรำคาญผมรึเปล่าเลยกะจะทิ้งผมไว้ที่นี้ …
15 นาทีผ่านไป จิตใจผมเริ่มคิดไปต่างๆนานา น้ำตาเริ่มคลอเบ้า มองไปรอบๆเห็นคนแต่งชุดสวยหล่อเดินผ่านไปมาอย่างวุ่นวาย ไม่เห็นเขาเลยแม้แต่เงา เขาอยู่ที่ไหนน่ะ … เขาจะทิ้งผมจริงๆใช่ไหม
“ฮึก … อ่ะ!” ผมรีบหันไปทันทีที่รู้สึกถึงแรงจับไหล่จากด้านหลัง แต่แล้วสิ่งผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รอยยิ้มใจร้ายของคุณป้า ….
“ว่าไงเด็กไอ้เด็กทรยศ คิดว่าจะหนีฉันได้ตลอดไปงั้นรึ พวกแกจับมัน!!!!” ผมอยากจะวิ่งหนีแต่ชายร่างสูงใหญ่หลายคนกลับมาล้อมผมไว้ คนรอบข้างเริ่มตื่นตระหนกแต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยผมสักคน ฮึก … คุณคิง คุณอยู่ที่ไหน …
{ K }♨“แต่ผมมีข้อเสนอดีๆ สำหรับ ลูกค้า VIP สำหรับป้านะครับ หึหึ”
“ข้อเสนอ ข้อเสนออะไร!!!” ป้าแกตะโกนแตกตื่นพยายามสะพัดไอ้ราชให้ออกหลุด ค่อยๆป้าเดี๋ยวผ้าถุงจะหลุด เดี๋ยวก็ได้สยองกันข้ามคืนหรอก =_=’
“ผมต้องการเด็กคนนั้น คนที่ชื่อครีม” ผมพูดอย่างเด็กเดี่ยว ขอโทษนะไอ้หนูถ้าจะไอ้ป้าเลิกยุ่งกับนายและแก้แค้นในเวลาเดียวกันคงต้องยืมนายเป็นเหยื่อล่อชั้นดีสักหน่อยล่ะ
“เด็กนั้นมันหนีไปแล้ว!!!!”
“และยังไงแต่ด้วยลำพังคนของซ่องที่ป้าทำงานอยู่ก็มีอิทธิพลมากพอและมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศนี้หนา แค่หาเด็กคนเดียวจะไปยากอะไรนักหนา หรือว่าป้าไม่อยากหมดหนี ก็ตามใจนะครับ ไปไอ้ราชกลับ” ไอ้ราชปล่อยบ้าแกและเดินตามผมที่เดินนำลงมาจากบ้านเก่าทรุดโทรมนั้นก่อนที่ป้าแกจะตะโกนเรียกเสียงหลง ผมหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินกลับไปและยื่นซองสีน้ำตาลที่ติดมืออยู่ตลอดเวลาให้
“เซ้นต์ซะนะครับ นี้คือสัญญาของเรา ผมจะยกหนีทั้งหมดให้แลกกับตัวเด็กคนนั้น” ป้าแกไม่ทันอ่านหรอกครับ ควักใบออกมาได้ก็คว้าปากกาในมือผมไปเซ้นต์ทันที นี้แหละนิสัยคนเห็นแก่ตัวแบบสุดขีด หรือพูดง่ายๆคือนิสัยมนุษย์ป้าผู้มีอิทธิพลสูงในสังคมขอแค่อะไรที่ทำให้ตัวเองรอดยอมทำหมด ไม่เคยคิดไตร่ตรองก่อน ผมก็ได้แต่หัวเราะคนเดียว หึหึ
.
.
.
จากเหตุการณ์นั้นที่ผมไปวางเบ็ดเอาไว้เรียบร้อย ผมก็พาไอ้ตัวเล็กออกมาเพื่อให้เหยื่อตะครุบเบ็ดได้ง่ายๆทันที โดยการที่ให้ไอ้บิวใช้อำนาจของบ้านมันค่อยติดตามดูท่าทีของป้าแกไว้ตลอดเวลา และไม่น่าเชื่อเหมือนสวรรค์เข้าข้าง ป้าแกจัดการให้คนของซ่องออกตามไอ้ตัวเล็กอย่างรวดเร็ว และเจอภายในเวลาไม่นาน ที่ห้างใจกลางเมืองที่ผมพาไอ้ตัวเล็กไป
โดยที่ผมคอยคอนโทนกับไอ้บิวตลอดเวลา เมื่อสบโอกาสอันเหมาะควรผมจึงปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กอยู่คนเดียว และมาซุ่มดู สถานการณ์อยู่ไม่ไกลนัก โดยให้ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ของห้างแห่งนี้ คอยล้อมอยู่ใกล้ๆ ไอ้ราชไอ้บิวและไอ้ปิงที่บัดนี้ยืนอยู่ข้างผมต่างตื่นเต้นและพากันเชียร์ยิ่งกว่ามวยลุมพินีต่อยคู่ต่อสู้ร่วงเวทีเสียอีก
“ไอ้เหี้ย กูสงสารเด็กมึงดูดิจะร้องแล้ว” ไอ้ราชว่า
“มึงอยากเคลมเด็กก็บอกไม่ต้องทำมาเป็นสงสารหรอก”
“ใครจะคิดจังไรเหมือนมึงว่ะ”ผมไม่สนใจไอ้ปิงกับไอ้ราชที่ทะเลาะกันแต่ค่อยซุ่มดูอย่างใจจดใจจ่อ
“ไอ้เหี้ยมากันแล้ว!!!!!” ผมแสยะยิ้มเมื่อเห็นอีป้าเดินเข้ามาพร้อมชายอีกประมาน 5-6 คนมาล้อมไอ้ตัวเล็ก … ติดกับดังโปล๊ะ เลยนะครับขุ่นป้า!!!!!!
“รวบตัว!!!!!” ไอ้บิวออกคำสั่งผ่านโทรศัพท์มือถือทันทีที่เห็นท่าว่าไอ้ตัวเล็กกำลังจะถูกอุ้มไป
ทันใดนั้นเองชายกว่า 10 พร้อมอาวุธปืนก็เข้าคุมตัวกับพวกอีป้าทั้งหลาย โดยมีอีป้ายืนทำอะไรไม่ถูกและเตรียมวิ่งหนี ผมรีบกระโจนออกไปคว้าเข้าที่ไหล่ของป้าทันที
“กะ กะ แก!!!!!”
“ว่าไงครับคุณป้า” ผมทำเสียงทีเล่นทีจริงก่อนจะผลักป้าแกไปให้ไอ้ราชและไอ้บิวช่วยกันจับไว้ และเดินไปหาไอ้ปิงที่ยืนดูอาการให้หนูที่ล้มพับไปกับพื้นก่อนจะก้มตัวลงนั่งยองๆเอามือโยกหัวเล็กๆนั้นไปมา
“ฉันปลดโซ่ให้นายแล้วนะ”
เขาเงยหน้ามองผมทั้งที่น้ำตายังนองหน้า และโหมเข้ากอดผมร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว ผมก็โอบกอดเขาอยู่อย่างงั้น ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวขึ้นและเดินออกมา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงมนุษย์ป้าโวยวายกรี๊ดกราดในขณะที่โดนตำรวจรวบตัวใส่กุญแจมือ
ผมผละไอ้ตัวเล็กไปให้ไอ้บิวก่อนจะควักเอากระดาษสีขาวที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงซึ่งมันเป็นสำเนาที่ป้าแกเซ้นต์ไว้เมื่อตอนเช้า ออกมา ยื่นไปให้ป้าแกดู
ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ในสัญญาก็แค่เขียนไว้ว่า ข้าพเจ้าขอสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้หลานชายของข้าพเจ้า เด็กชาย อดิกันต์ XXXX อีกเป็นในระยะ 100 เมตร ถ้าหากข้าพเจ้าไม่ทำตาม ข้าพเจ้ายินดีที่จะติดคุกนาน 20 ปี บลาๆๆๆๆ ซึ่งแน่นอนมันมีผมทางกฎหมายเมื่ออยู่ในกำมือผมและมีผลรุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ใต้อำนาจไอ้บิว แถมมีลายเซ้นต์ชื่อเรียบร้อยเสียด้วย เสร็จโจรสิครับงานนี้
“ถ้าข้องใจ เจอกันในชั้นศาลได้นะครับคุณป้า”
ผมพูดทำลายอาการช็อกของป้า วิธีการเอาคืนของผมต่างจากคนอื่นนิดหน่อยที่จะไม่ทำให้เหยื่อเจ็บทันที แต่จะปล่อยให้ดีใจก่อน และกระชากความหวังอันน้อยนิดออกและเหยียบขยี้ให้จมดินนั้นแหละคือวิธีการของผมถึงจะดูโรคจิตหน่อยๆแต่ก็สะใจดีไม่ใช่น้อย ผมหันหลังเดินกลับมาโอบร่างเล็กๆไว้ในวงแขน ทิ้งทุกอย่างให้ไอ้บิวจัดการ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดร้องของอีป้า เจ้าครีมเหมือนทำท่าจะหันไปมองแต่ผมห้ามเอาไว้ … ไม่ต้องไปสนใจกับคนพันธ์นั้น ไม่ต้องสนอดีตของนาย ไม่ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นใครอีกต่อไป รู้แค่ว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้วก็พอ
ก็บอกแล้วผมมันหล่อและใจดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
7/7/57
============================
มนุษย์ป้าโดนเก็บไปเรียบร้อย เท่ากับว่าตอนนี้น้องถูกปลดโซ่แล้ว
ต่อแล้วพี่คิงกับน้องครีมจะเดินจับมือกันไปในสภาพไหนต่อไปนะ
ความลับที่ตายไปพร้อมกับแม่เขมจะกลับมาอีกไหมหน่อ
ฝากติดตามกันต่อไปนะค่ะ 
ขอบคุณทุกคอมเม้นส์นะค่ะ 
พี่คิงมันวางแผนใหัอิสระกับน้องครีม
แต่ความจริงอีกนัยน์หนึ่งคือจะเคลมเด็กป่ะค่ะ 555
ขอเม้นต์ตรงนี้นิดนึงค่ะ
// ป้าแกไม่ทันอ่านหรอกครับ ควักใบออกมาได้ก็คว้าปากกาในมือผมไปเซ้นต์ทันที นี้แหละนิสัยคนไม่มีการศึกษา ขอแค่อะไรที่ทำให้ตัวเองรอดยอมทำหมด ไม่เคยคิดไตร่ตรองก่อน //
คนที่มีนิสัยยอมทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองรอด
มันไม่ใช่ นิสัยของคนไม่มีการศึกษานะคะ ^^
น่าจะเป็นคนเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน แบบนี้หรือเปล่า
ถ้าเราเข้าใจหรืออ่านอะไรตีความอะไรผิดไป ต้องขออภัยด้วยค่ะ
เราติงเพราะความหวังดีจริงๆ ^^
ขอบคุณค่า เราจัดการแก้ให้แล้วน๊า เราอาจจะใส่อารมณ์มากไปหน่อยตอนเขียน แต่พอมาอ่านอีกทีแล้วมันทำให้ดูไม่ดีจริงๆ
ติเตียนกันได้ตลอดนะค่ะ ไม่โกรธค่ะ ดีซะอีกมีคนคอยเอาใจใส่นิยายของเรา อิอิ ขอบคุณนะค่ะ
รวมถึงคนอื่นก็ติเตียนกันได้นะค่ะน้อมรับคำติชมค่ะ


[/color]