{SPECIAL 2 M & P H}
“ว้าย ตายแล้วตามิ่ง! ได้นอนมั่งหรือเปล่าจ๊ะเนี้ย!!!”
เสียงคุณนายแม่ที่เดินออกมาจากครัวเห็นสภาพผมที่เดินเข้ามาในบ้านท่านผมปรือตาก่อนจะยิ้มแฮะๆให้และยกมือขึ้นไหว้ กว่าจะขับรถมาถึงนี้ได้ต้องรวบรวมสติสตางค์หยุดรถหากระทิงแดงกินไปซะสองขวด หลังจากที่วิกฤตการณ์แห่งประวัติศาสตร์ช็อกโลกของเด็กศิลป์ที่ต้องส่งงานทุกสิ่งทุกอย่างคาบเส้นตาย โฮกฮากร็อกแอนด์โลว์มาก พี่ณเดชอย่างผมเกือบตายคาที่ ขอบตาดำๆของผมฟ้องได้เป็นอย่างดีว่าไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว ส่งงาน 5 ชิ้นทั้งงานดินงานปั้นงานวาดเสร็จก็บึ่งรถมาบ้านน้องเพชรทันทีหลังจากที่ลาไปซะเห็ดงอก ไม่รู้ป่านนี้น้องเพชรจะอาการทรุดรึเปล่า แต่ดูจากคุณแม่แล้วน้องไม่ไม่มีอะไรผิดปกติล่ะมั่ง
“สบายมากครับ แฮะๆ”
“ไปลูกไปนั่งรอที่ห้องรับแขกนะ เดี๋ยวแม่ให้น้องเอาน้ำเย็นๆให้ นะจ๊ะ ปะๆ”
“แล้วน้องเพชรล่ะครับ” ผมหันไปถามคุณแม่ที่ดันหลังผมให้เดินเข้าไปในบ้าน โอ้ยอย่าดันหลังณเดช ณเดชจะล้มมมม หลักยิ่งไม่ดีอยู่ครับคุณแม่
“แหม น้องหัดแกะสลักอยู่กับป้าลินจ้ะ เดี๋ยวแม่เรียกให้นะ”คุณแม่ทำหน้ากลุ้มกลิ่มก่อนจะโบกมือให้ผมเข้าไปนั่งรอเสียก่อน ผมพาตัวเองไปห้องรับแขกก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาสุดหรูในบ้านแอร์เย็นฉ่ำเย็นชื่นใจ อ๊า … สบายจังน๊าบ้านคนรวยเนี้ย
ผมมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีใครเลยล้มตัวนอนบนเนื้อผ้าเย็นๆของโซฟา ยืดกายสุดติ่งกะจะแค่พักหลังแค่แปปเดียว สามวันหฤโหดผ่านมานี้นี้คงเป็นแวบแรกที่ผมได้ล้มตัวนอนแบบเต็มๆหลังจากที่จำศีลอยู่ในถ้ำแห่งอารมณ์ติสมานานแสนนานดั่งพญานาคผู้มีฤทธิ์เดชอาคมแกร่งกล้า อ่ะช่า!!!!
แกร๊ง…ผมลืมตามองเมื่อได้ยินเสียงแก้วกระทบกันก่อนจะเห็นน้องเพชรยืนขมวดคิ้วมองมาที่ผมอย่างสงสัย ผมกระเด้งตัวลุกก่อนจะยกมือไหว้น้องเขา … เอ้ย! แล้วจะไหว้น้องมันทำไมว่ะ น้องสิต้องไหว้เรา ไอ้นี้ก็มารยาทดีเกิ๊น
“เหนื่อยรึเปล่าครับ” น้องเอียงคอถามผมพร้อมกับนั่งลงด้านล่างโซฟา บร๊ะ! นี้เป็นเป็นเจ้าขุนที่ไหนเนี้ย ผมถลาลงไปนั่งขัดสมาธิข้างๆน้องที่นั่งพับเพียบอยู่และยิ้มกว้างให้ น้องผวาตกใจไม่ให้ผมเข้าใกล้ ผมน่าสะพรึงมากสินะ แหม ผมยิ้มแฮะๆ ก่อนจะยอมถอยห่างน้องมาพิงโซฟาน้องที่ก้มหน้าเหลือบขึ้นมามองผมแบบไม่ไว้วางใจ
“ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ใจร้ายนะ”
ผมพูดเบาๆ น้องพึมพำอะไรที่ผมฟังไม่ออก พยายามเข้าไปใกล้แต่น้องขยับหนีผมอีก ผมเลยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา เอื้อมมือไปแปะลงที่กลุ่มไรผมสีน้ำตาลของน้องที่ตัวสั่นงั๊กๆก่อนจะยีหัวแรงๆจนน้องต้องปัดมือผมทิ้งและมองค้อนมาเพราะผมเสียทรง ฮ่าๆๆๆ เห็นม่ะ เด็กคนนี้เหวี่ยงจะตาย เหวี่ยงๆก็ดีออก ดีกว่าซึมๆ อิอิ ต้องยั่วโมโหมากๆน้องจะได้หายไวๆ
“เด็กอะไรหัวก็ฟู หัวสีน้ำตาลเชียว แถมหน้ายังหว๊านหวาน เสียอย่างเดียว ด๊ามดำ ฮ่าๆๆๆ โอ้ย เจ็บ!” ผมโดนตีแขนดังเพี๊ยะก่อนจะลุกขึ้นสะพัดหน้างอนๆเดินหนีไป ผมนั่งหัวเราะกิ๊กก่อนจะหยิบแก้วน้ำที่น้องเอามาเสริฟมากระดกเข้าปากอึกใหญ่ก่อนจะลุกตามน้องไป ผมแหย่โน้นแหย่นี้จนน้องรำคาญหนีเข้าไปในห้องครัวแอบอยู่หลังคุณแม่
“เป็นอะไรน้องเพชรมองพี่เค้าแบบนั้น” น้องงอนมองหน้าผมแบบไม่อยากให้เข้าใกล้ จนคุณหญิงแม่ที่นั่งนวดแป้งอะไรสักอย่างอยู่พูดอย่างขำๆ น้องไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องผมตาไม่กระพริบ น่าร๊ากกกกกกกกก
“เด็กดำ ไปวาดรูปกันนนนนนน!” ห้องเบ้ปากก่อนจะนั่งหันหลังให้ผมคว้าเอาฟักทองไปแกะสลักขวับๆ ไม่สนใจผม หึหึ ผมจุ๊ๆให้คุณแม่ก่อนที่คุณแม่จะพยักหน้าอย่างขำๆและพากันเดินออกไป ผมย่องเข้าไปก่อนจะหยิบถั่วฝักยาวมาอันนึง ก่อนจะย่องๆเข้าไปด้านหลังน้องที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่ หึหึ ไอ้เด็กขี้เหวี่ยงเอ้ย!
“ตะเอง” ผมดัดจริตเสียงอย่างออดอ้อนเอาถั่วฝักยาวสะกิดหลังน้องเบาๆ ไอ้ตัวขี้เหวี่ยงไม่สนใจผม ฮ่าๆๆๆๆ
“โกรธเค้าหรอ ?” น้องหันมามองผมตาขวางปากคว่ำอย่างงอนๆ สงสัยโกรธที่ผมเรียกว่าดำแน่ๆ โอ้ยยยยย น้องเจ้าพระคุณข๊าวขาว ข๊าวววววจั้ว!
“อย่างอนเค้าเลยนะน้องขาวววววววววว! โอ๊ะ! มีดสลักมันคมนะ” ผมถอยตัวล้อฟรีเมื่อน้องหันมาพร้อมมีดสลักในมือหน้างอทำให้นึกถึงผมแมวที่มองมนุษย์เป็นทาส น่ารักจิ่มลิ้มนะจ๊ะพ่อคุณ น้องบุ้ยปากให้ผมก่อนจะหันไปแกะสลักฟักทองของตัวเองต่อ เอ๊ะ นอกจากเหมือนแมวแล้วยังเหมือนแมวขี้หวงอีกด้วย จ๊ะทิงจา ฮ่าๆๆๆ
“ไปเห๊อะ ไปเรียนกันเถอะ” หัวฟูๆของน้องส่ายไปมา อ้าว ดื้อซะแล้ว
“ไม่เอางั้นไปเที่ยวกัน” น้องกระดิกหูแหงะหน้าหันมามองผมนิดๆก่อนจะหันไปแกะสลักต่อ แหมสนใจและทำเป็นไก๋น้า
“ไปไหม ? ไม่ไปพี่กลับแล้วนะ” ผมถามลองเชิงทำท่าจะเดินออกไป และแอบดูอยู่หน้าประตูห้อง น้องแกะสลักอยู่เงียบๆ สักพักก็ค่อยๆหันมามองหน้าประตู วางมีดสลักลงก่อนจะทำหน้ามุ้ยปากแทบจะชิดกับจมูกทำหน้างอนๆ บ่นอะไรออกมาหงุงหงิงอย่างหงุดหงิด และหันไปแกะสลักต่อ ว๊ายๆ อยากเที่ยวก็ไม่บอก อิอิ
ผมย่องเข้าไปด้านหลังก่อนจะรวบเจ้าตัวเล็กขึ้นบ่าเสียงมีดแกะสลักหล่นพื้นดังเคร้ง น้องอุทานออกมาอย่างตกใจอย่ามาร้องไปไอ้น้องชาย เดี๋ยวพี่จะพาไปขึ้นสวรรค์ ฮ่าๆๆๆๆ
.
.
.
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
ผมแหกปากร้องลั่นในขณะที่ไอ้ตัวเล็กนั่งหลับตาปี๋บนเครื่องเล่นทอร์นาโดที่ดรีมเวอร์สวรรค์ของเด็กน้อยทั่งหลายที่ชีวิตหนึ่งจะต้องมาเสียวสยิวถึงจายยยยยยยยยยย ! พี่บอกแล้วว่าจะพามาสวรรค์ สวรรค์ไหมล่ะไอ้น้องเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! เห็นขอบโลกไปเลยไหมล่ะ!!!!
“อ้วกกกกกกกกกกก!”พอลงมาได้ก็ อ้วกพุ่งไปเลยครับโผ้ม สมใจอยากไหมล่ะ ไม่ใช่น้องเพชรหรอกนะ กูเนี้ยแหละครับ !!!!
“ไหวไหมครับ” ดั่งเสียงสวรรค์ของนางฟ้ามาโปรด แต่นางฟ้าของผมยืนหน้าระรื้นถึงจะยังไม่ยิ้มแต่ผมก็มองออกว่าน้องมีคามสุขกว่าใครในตอนนี้ หึหึ แรกกับอ้วกกองนี้พี่ก็ดีใจที่เด็กดำของพี่มีความสุข
พอตั้งตัวได้ก็รับน้ำจากน้องมากลั้วปากลมหายใจจะได้หอมสดชื่นก่อนจะพาน้องไปเล่นโน้นเล่นนี้ต่อ แต่เอาไอ้ที่มันซอร์ฟกว่าเดิมนะ ณเดชไม่ไหวล่ะคร้าบบบบบบ! เดินผ่านลูกโป่งน้องก็ไปยืนมองอยู่นานสองนานจนผมต้องซื้อลูกโป่งสไปเดอร์แมนที่ตัวอ้วนกลมบ๋องแบ๊วกว่าตัวในหนังเป็นล้านเท่าให้น้องเพชร เจ้าตัวพึมพำอะไรสักอย่างก่อนจะรับไป … สงสัยน้องจะสวดมนต์มั่ง ฮ่าๆๆๆ ดรีมเวอร์มีแค่ไหนผมพาน้องเดินจนแทบจะทุกตารางวา เจ้าตัวไม่ปริปากสักคำ เข้าบ้านผีสิงก็มีแต่ผมที่เกาะน้องไปตลอดทางเจ้าตัวเล็กเดินไม่สนใจผีเลย ผมว่าน่าสงสารผีเค้านะครับอุตส่าห์แต่งหน้าตั่งนานเสือกโดนเมินซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆ
ก็ดีนะที่เด็กนี้ไม่กลัวอะไรเลย แต่บางทีเด็กดำของผมก็เลือกที่จะจมอยู่กับอดีตมากเกินไป ก็อย่างว่าอ่ะนะเป็นใครจะลืมได้ตั่งสี่ปีที่ต้องซึมซับความเลวระยำของมนุษย์ต่ำทรามพวกนั้น ก็เหมือนผ้าขาวที่ถูกสาดสีเทสีจนเปื้อนไปหมด ถึงแม้จะมีใครเอามันไปซักหรือป้ายสีขาวทับด้วยพูกัน มันก็คงไม่สะอาดเหมือนดั่งเดิม … แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเสียหน่อย ผมยังยืนหล่ออยู่ตรงนี้ น้องเพชรคือลูกศิษย์ของผม และผมไม่มีวันทิ้งเค้า นั้นคืออารมณ์ติสที่ออกมาจากใจ ณเดชครับผม
“เหนื่อยไหมครับ”
ผมถามน้องที่นั่งมองเด็กตัวน้อยๆกับพ่อกำลังถีบเรือเป็ดอยู่ท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน อย่างเหม่อลอย ในมือถือลูกโป่งสไปร์เดอร์แมนและขนมสายไหมรูปดอกไม้โดยไม่ยอมกินมัน จนมันจะละลายอยู่แล้ว เด็กดำหันมามองผมก่อนจะค่อยๆส่ายหน้าเบาๆและพูดขึ้นเสียงเบาจนผมแทบไม่ได้ยินแต่พอที่จะจับใจความได้
“ขอบคุณมากครับ ที่ทำให้ผมมีความทรงจำดีๆ ต่อไปนี้ผมคงไม่ลืมแล้ว…” ผมยิ้มกว้างก่อนจะเอามือวางบนหัวน้องเบาๆรอบนี้ไม่สะดุ้งหรือหนีแล้วครับ ผมเลยค่อยๆดันหัวเขามาซบที่ไหล่ของผมอย่างนิ่มนวล แก้มนิ่มๆสัมผัสผ่านสาปเสื้อของผมจนรู้สึกได้ว่ามันนุ่มเหมือนขนมโมจิและคงเป็นใส่สตอเบอร์รี่แน่ๆเพราะมันแดง ปลั่งซะขนาดนี้
“พี่ว่านะ บางทีหมออาจจะวินิจฉัยเราผิดก็ได้ … เราอาจจะไม่ได้ป่วย แต่เราไม่ยอมทิ้งอดีตตั่งหาก พี่รู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ต่อจากนี้เรามีชีวิตใหม่ ครอบครัวใหม่ อย่าลืมสิว่าคนทั้งโลกไม่ได้เหมือนกันซะหมด อย่างน้อยก็มีคุณพ่อคุณแม่น้องครีม ไอ้คิง ป้าลิน ทุกคนในบ้านใหญ่ที่พร้อมจะดูแลเรานะ … และถึงแม้น้องเพชรจะไม่มีใคร ก็ยังมีพี่เสมอ จะเป็นให้เอง ทั้งพี่ชาย เพื่อน คนในครอบครัว อาจารย์ พี่จะเป็นให้เอง ไม่ต้องกลัวนะ”
ผมหอมลงกลุ่มผมหอมๆของน้องในวินาทีนั้นน้องไม่ได้พูดอะไรและผมก็ไม่ได้รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปแค่อยากปลอบแค่อยากให้รู้ว่าน้องยังมีผมอยู่ แค่อยากปกป้อง ...
เราสองคนต่างเงียบและซึมซับทุกสิ่งอย่างไว้ในหัวใจ …
=======================
มาแย้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ
กอดทีนะ 
คิดถึงจางเลยยยยยยยยยย
ขอบคุณทุกกำลังใจและขอกำลังใจด้วยนะค่ะ
เจอกันตอนหน้าน๊า ไม่นานเกินรอแต่ขอให้รอหนูหน่อย ฮ่าๆๆๆๆ
มีคำผิดบอกกันได้น๊า มาสั้นไปหน่อย แต่จะพยายามมานะจ๊ะ จุ๊บๆ
เบื่อความทะเล้นของเจ้ามิ่ง เพราะคนเขียนออกจะเรียบร๊อยเรียบร้อย เชื่อม๊ะ อิอิ
