{CH 55 มองข้ามอดีตของเพชร}
ความทรงจำชั่วๆ … ผมเรียกมันว่าแบบนั้นได้ไหม … อยากจะลืมมันไปให้หมดสักที แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่หลับตา ผมกลับปฏิเสธตัวเองไม่ได้สักที ว่ายังจำมันได้ทุกเสี้ยววินาทีได้ขึ้นใจ …หลายต่อหลายครั้งที่ต้องผวาตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึง หลายต่อหลายครั้งที่ไม่กล้าก้าวเข้าไปในสังคมอันโหดร้าย ผมพยายามแล้ว … รู้ทั้งรู้ว่า ณ ตอนนี้ไม่เหมือนเก่า ผมมีครอบครัว มีน้องชายน่ารักที่ชื่อน้องครีมมีพี่ชายสุดโหดแต่ใจดีชื่อ พี่คิง มีคุณแม่ที่สุดแสนจะใจดี คุณพ่อที่สุดแสนเคราพรัก ป้าลินที่ดูแลผมเป็นอย่างดี แล้วก็ยังมีพี่มิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าผู้ชายไม่ได้เหมือนกันทั้งโลก … ผมไม่กังขาในความรักอันบริสุทธิ์ของพวกเขา แต่กลับเป็นผมเอง ที่ยังยึดติดกับทุกสิ่ง … ยังไม่เคยลืมเลือน ความฝันอันโหดร้ายทีเกาะกินหัวใจเหมือนกำแพงเหล็กกล้าที่ไม่มีวันละลาย …
ผมยังจำได้ดี ว่าคนที่ผมรักและเชื่อใจมากที่สุด เคยทำอะไรกับผมไว้บ้าง …
พ่อผมเสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุเมาและขับตั้งแต่ผมอายุได้ 10 ขวบ ผมอาศัยอยู่กับแม่สองคนใน ซอยเล็กๆของเมืองหลวงที่มีความเจริญอันสูงสุดในประเทศไทยแล้ว ความเป็นอยู่ของเราแม่ลูกเป็นไปตามยถากรรมแม่ของผมเป็นบุคคลที่ล้มเหลวในชีวิต กินเหล้าเมายาเล่นการพนัน อบายมุขทุกอย่างที่ทำได้ ผมยังเด็กไม่สามารถแม้แต่จะห้ามปรามเขาได้ ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมที่
ก่อเอาไว้ในชาติที่แล้วต่อไป
ผมทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่พ่อที่เป็นเสาหลักจากไป ด้วยการเป็นลูกจ้างในล้านก๋วยเตี๋ยวและจากรายได้เสริมอีกหลายต่อหลายอย่าง ผมยังจำได้ดีว่าผมเคยร้องไห้หนักแค่ไหนตอนที่หกล้มแขนไปลวกกับหม้อต้มแขนเป็นแผลเป็นจนถึงปัจจุบัน ในตอนนั้นแม่ของผมไม่ได้สนใจผมเลย มีแค่ป้าช้อยในตลาดที่คอยดูแลผมอยู่ห่างๆ หายามาทาหาข้าวให้กิน บางครั้งถ้าแม่ไล่ออกจากบ้าน แกก็มักจะให้ผมไปนอนด้วย แกไม่ลูกมีหลานอยู่ตัวคนเดียว เป็นอย่างงี้อยู่ 3 ปี แกก็จากผมไปอีกคนด้วยโรคไตวายเฉียบพลัน … ผมร้องไห้แทบขาดใจ เพราะรู้ตัวเองดีว่าหมดแล้วคนที่คอยรักและเป็นห่วงผม … ไม่มีใครอีกแล้ว
จากวันนั้นผมก็อยู่ด้วยตัวของตัวเองทนกัดฟันโดนตีบ้างโดนด่าบ้างไปตามภาษา ผมเคยคิดว่าอยากจะหนีไปให้ไกล … แต่ผมก็ทิ้งแม่ไม่ได้ … จนผมอายุ 14 แม่มีสามีใหม่ … นั้นคือจุดเปลี่ยนทุกสิ่งของผม
พ่อคนใหม่ของผม ชื่อนุ้ย เป็นชายร่างอ้วนที่วันๆ ไม่ทำอะไร มีงานเป็นลูกน้องนายทุนหน้าเลือดที่ตามเก็บหนี้คนในตลาด ในตอนแรกเขาทำตัวเป็นพ่อที่แสนดี รักผม ดูแลผมในฐานะของผู้เป็นพ่อ ซึ่งผมไม่เคยได้รักไม่ว่าจะจากพ่อหรือจากแม่ จนผมหลงระเริงและตายใจ
ครืด!!! เสียงฟ้าร้องดังคะนองขึ้นท่ามกลางคืนอันมืดมิด สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ผมที่นอนหลับไปในมุ้งเก่าๆในบ้านหลังโทรม ด้วยความอ่อนเพลียจากการเรียนและทำงานไม่สนใจว่าฝนจะตกหรือหลังคาจะรั่วแต่อย่างใด ในคืนนั้นผมไม่รู้ว่าแม่ของผมไปไหน ผมอยู่กับพ่อเลี้ยงกันสองคน ปกติแล้วเราจะแยกกันนอน แต่ในคืนนั้นพ่อเลี้ยงกับขอมานอนกับผมด้วย ผมก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใดเพราะความเชื่อใจที่มีให้มันมากกว่า ผมเชื่อว่า เขามีความเป็นมนุษย์ที่ดีคนนึง เขาให้ความรักผม เขาให้ของเล่นกับผม … แต่ผมคิดผิด
“เพลง…” เสียงกระซิบและสัมผัสอันหยาบกร้านนั้นทำให้ผมสะดุ้งตื่น
ทันทีผมก็ตระหนักได้ว่าเป็นพ่อเลี้ยงใจทรามของผมเอง ผมตื่นมาด้วยความงุนงงตามภาษาเด็กและผมก็ต้องตกใจเมื่อมือข้างนั้นล้วงเขาไปในเสื้อและมืออีกข้างพยายามที่จะถอดกางเกงของผมออก ผมยังเด็ก ไม่มีแม้แต่แรงที่จะสู้คนที่ตัวใหญ่กว่าถึงสองเท่าตัว … ไม่มีกำลังและอ่อนแอ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเกิดมาเป็นมนุษย์
“พะ พ่อ จะทำอะไร”
“เพลงพ่อรักเอ็ง” เสียงของเขากระซิบข้างหู
เป็นเสียงที่ไม่ได้ทำให้ผมอบอุ่นเลยสักนิดมันมีแต่ความหื่นกระหายในราคี มัวเมาในกรามคนน่าขยะแขยง ผมพยายามที่จะปัดป้องตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผล มือของเขาจับแขนผมล็อก และทำการกระทำดั่งสัตว์ป่า ที่หิวกระหาย …
“พ่อ ยะ อย่า อย่า!!!! อื้ออ!”
ในคืนนั้นมันช่างโหดร้ายและทารุณยิ่งนัก ผมร้องไห้แทบขาดใจเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าที่พบว่าร่างกายของผมบอบช้ำมากแคไหน หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็กระทำเช่นนั้นเรื่อยมาก และหนักขึ้นเรื่อยๆในทุกครั้งที่แม่ไม่อยู่ และผมก็ได้แต่ฝืนทน ผมยังจำได้ ว่าผมไม่สบายในบางครั้งที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าหลังจากเพลิงราคะจบสิ้น แต่ไม่มีใครเลย … ที่เรี่ยวแลผม ไม่มีใครสนใจว่าเด็กคนนึงต้องเจ็บปวดแค่ไหน … ไม่มีใครเลย ถึงอย่างงั้นผมก็ยังรักแม่ผมสุดหัวใจ ไม่ให้เขาได้รับรู้ว่าสามีของเขาทำอะไรกับผมไว้บ้าง เพื่อที่จะให้เขาได้มีความสุขให้อ้อมกอดของผู้ชายคนที่ทำร้ายผม … เป็นอย่างงั้นเรื่อยมาจนเวลาล่วงเลยไป ปีกว่าๆ
เด็กชายเพลงกลายเป็นเด็กไม่มีใครคบ เพราะมีนิสัยประหลาดไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบคุย ไม่ชอบเล่น เรียนเสร็จก็ไปทำงานที่ตลาดทันที พอทำงานเสร็จก็กลับบ้านมาทำงานบ้าน เป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ทั้งแม่และพ่อเลี้ยงในทุกๆอย่างที่พวกเขาพอใจ ดุ ด่า ว่า ตี กระทำการอะไรก็ตามที่พวกเขาเห็นว่าผมสามารถทนได้ ใช่ ผมทนได้ เพราะผมรักแม่ … ที่ผมไม่หนีไปเพราะผมกลัว กลัวว่าแม่จะเหงา กลัวว่าแม่จะเกลียด จะโกรธ กลัวว่าแม่จะร้องไห้ แต่ผมลืมคิดไป …ว่าจิตใจของแม่ตอนนี้ ไม่มีผมหลงเหลืออยู่แล้ว หรือมันจะไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น … ผมก็ไม่รู้
“ไอ้เพลง พรุ่งนี้เอ็งไปลาออกจากโรงเรียนซะ ข้าจะพากลับไปอยู่บ้านนอก” ตอนนี้ ผมไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ได้แต่ทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อกังขา ชีวิตผมขอแค่ได้อยู่ข้างๆแม่ ได้ตอบแทนบ้างก็พอ
ผมลาออกจากโรงเรียน เก็บเสื้อผ้าของตัวเองลงกระเป๋า ด้วยจิตใจที่ไร้ความรู้สึก ไม่มีแม้แต่ความสงสัยในการกระทำของผู้เป็นแม่เพราะยังเชื่อว่าเขาเป็นแม่ของผม แม่ทุกคนย่อมรักลูก แม่ทุกคนย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก แต่เป็นอีกครั้งที่ผมคิดผิดและคงเป็นสิ่งที่ผมเสียใจมาจนทุกวันนี้
“เอ็งขึ้นไปรอข้าบนรถ เดี๋ยวข้าเข้าไปเอาของในบ้านก่อน”
“จ้ะ” ขาเล็กๆของผมก้าวขึ้นไปบนรถตู้คันสีดำติดฟิล์มแน่นทึบ
เมื่อผมขึ้นไปนั่งได้ประตูก็ปิดและล็อกอัตโนมัติ รถตู้คันนั้นขับออกมาด้วยความเร็วสูง … ผมทำอะไรไม่ถูกทั้งโวยวายทั้งทุบตีคนขับ แต่ก็ถูกทำร้ายจนสลบไป
ครั้นเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา นรกก็รอผมอยู่ตรงหน้าแล้ว … ผมกลายเป็นเครื่องมือมนุษย์ราคะโดยสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีอิสรภาพได้ ไม่สามารถมีข้อโต้แย้ง ทำตัวเหมือนขยะที่ไม่มีค่า ไม่มีปากมีเสียง และไม่มีหัวใจ … มีเพียงน้ำตา ที่ยังคงบอกว่าผมยังเป็นมนุษย์ … และไม่นาน น้ำตานั้นก็แห้งเหือดไป … ผมเลือกที่จะปิดกั้นตัวเอง ลืมอดีตทุกอย่าง จำตัวเองไม่ได้ จำทุกคนไม่ได้ ทำหน้าที่เป็นหุ่นยนต์ที่ดีรับใช้สัตว์นรกไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น วันเวลาล่วงเลยไม่นานแสนนานเท่าไหร่ผมไม่เคยจะรับรู้ แสงเดือนแสงตะวัน ไม่มีวันจะได้เห็นมัน มีเพียงเสียงกรีดร้องภายในใจที่ดังก้องอย่างทุกข์ทรมาน …
จนเมื่อผมได้พบน้องครีม … จากเพลงเด็กชายผู้โชคร้าย ถูกชุบประกายอันน้อยนิดให้กลายเป็นเพชร ที่ดูภายนอกอาจจะดูส่องประกายสดใส แต่ภายในมันก็เป็นแค่เพียงโคลนตมอันไร้ค่า … ไม่มีราคาแม้แต่นิดเดียว
แต่ผมยังอยากจะเป็นเพชรมากกว่าเพลงอยู่ดี …
“เพชร…” เสียงใครเรียกชื่อผม … ผมค่อยๆลดมือที่ปิดหน้า ลืมตามองโลกสีเทา ที่รอบข้างไม่มีอะไรเลย …
“น้องเพชร …” อีกแล้วเสียง ของใครกัน ความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยนี้ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ยกมือทั้งสองข้างปาดน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้าง มองซ้ายขวาหาต้นเสียง คิดถึงจัง คิดถึงเสียงนั้นจังเลย
“เพชรครับ นี้พี่มิ่งนะ ฟังพี่หน่อยได้ไหมคนดี” พี่มิ่ง … พี่มิ่ง พี่มิ่งของน้องเพชร ฮึก ผู้ชายคนที่เฝ้าบอกว่ารักผมใช่ไหม คนที่สอนให้ผมรู้ว่าคนทั้งโลกไม่ได้เหมือนกันหมด ฮึก พี่มิ่ง … อยู่ไหนครับ อยู่ไหน เพชรอยากเจอ …
“สองวันแล้วนะครับ … เหนื่อยไหม หิวไหม ร้อนไหม หนาวไหม คิดถึงพี่บ้างไหมครับเด็กดี … พี่คิดถึงน้องเพชรมากเลยนะ ลุกขึ้นมาดุพี่หน่อยสิ พี่ไม่ได้ไปทำงานมาสองวันแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ตื่นขึ้นมาเคาะหัวพี่หน่อย” เสียงนั้นทำให้ผมต้องหัวเราะออกน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพี่มิ่ง คิก ... เค้ายังอารมณ์ดีเหมือนเคยเลยนะ
เมื่อคิดได้แบบนั้นเหมือนโลกสีเทาของผมถูกสายลมประหลาดที่พัดผ่านสลายหมอกควันให้หมดสิ้น รอบข้างผมส่องประกายระยิบระยับคล้ายแสงของเพชรน้ำดี ในขณะที่เสียงของพ่อหนุ่มอารมณ์ดีของผมยังเจื้อยแจ้วเล่าโน้นเล่านี้ไปเรื่อย ผมนั่งลงและหลับตาฟัง บรรยากาศคล้ายมีกลิ่นหอมของดอกไม้บางชนิดที่ทำให้ผมผ่อนคลาย ลืมความทุกข์ทั้งหมดไป น้ำตาที่เคยหลั่งไหลตอนนี้มันแห้งเหือดไปหมดสิ้น … ไม่ใช่เพราะชินชา แต่ผมได้รับการปลอบประโลมอย่างอ่อนโยนด้วยเสียงหัวเราะ …
“ตื่นขึ้นมานะครับเด็กดี พี่คิดถึงเหลือเกิน” ตัวของผมเหมือนได้รับสัมผัสอันอบอุ่นที่ห่อหุ้มไปทั้งร่าง … มันเหมือนแสงอาทิตย์อันอบอุ่น
ทำให้ผมคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาแถมยังเจ้าเล่ห์เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเหมือนเด็กๆของพี่มิ่งจัง … คิดถึงคนที่สอนศิลปะให้ผมที่ดูไร้สาระแต่มันก็สามารถทำให้ผมผ่อนคลายความเครียดไปได้เยอะ คิดถึงเรื่องเล่าตลก ที่พี่มิ่งคอยเล่าให้ผมฟังและดีใจทุกครั้งที่ผมหัวเราะ คิดถึงมนุษย์ที่ชอบพาผมซ้อนซ้ายรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆไปทุกที่ คิดถึงมือใหญ่อันอบอุ่นที่คอยกอบกุมมือของผม และไม่มีวันปล่อยมือไม่ว่าผมจะสะบัดออกแค่ไหนก็ตาม คิดถึงคนที่มองข้ามอดีตของผม … ไม่สนใจ ไม่ซักถาม ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนจากผม … ผมคิดถึงเค้าจังเลย …
“พี่มิ่ง … ผมคิดถึงพี่” ผมพูดออกมาเบาๆ หลับตาลงช้าๆ … ไม่รู้ว่าเขาได้ยินไหม แต่ผมอยากบอกเขา จากใจเพชรในตมโครมที่โสโครกคนนี้ …
.
.
.
“ตื่นขึ้นมานะครับเด็กดี พี่คิดถึงเหลือเกิน”
เสียงกระซิบข้างหูของเพชรที่ดังออกมาจากปากเรียวหนาของมิ่ง หนุ่มอารมณ์ดีที่เต็มไปด้วยความจริงใจ เขาโอบกอดร่างเพียวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่ในห้อง VIPโรงพยาบาลเอกชน มิ่งเองก็ไม่ทำงานทำการเพราะอารมณ์ติสทั้งหมดทั้งมวลหายไปเมื่อได้รู้ข่าวร้ายที่ทำร้ายจิตใจของคนที่เขารัก ทันทีทันใดก็ลากสังขารทรุดโทรมจากการโหมงานหนักตามภาษามาหาในทันใด
เล่าให้ใครฟัง ก็คงด่าว่าเขาทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อที่ไปรักใครไม่รัก ดันไปรักเด็กที่มีรอยแผลในอดีต แต่เขานั้นเลือกที่จะมองข้ามทุกสิ่งและทำตามหัวใจตัวเอง แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยสนสายตาของใครอยู่แล้ว เขาสนใจในสิ่งที่เขาอยากจะสนใจเท่านั้นและตอนนี้มีเพียงหัวใจดวงน้อยๆของคนตรงหน้าเท่านั้น
“พี่มิ่ง… ผมคิดถึงพี่”
“เพชร เพชร เพชรว่าอะไรนะ เพชรฟื้นแล้ว หมอ หมอ หมอ!!!!!” เจ้ามิ่งลนลานไปทั่ว
วางร่างเล็กลงเตียงอย่างเบามือและวิ่งสติแตกออกไปนอกห้อง ทั้งๆ ที่หัวเตียงก็มีเครื่องระบบเรียกพยาบาลอยู่แล้ว ทั้งๆที่พยาบาลที่ดูแลอยู่ประจำย้ำแล้วย้ำอีกว่าไม่จำเป็นต้องวิ่งออกไป เพราะเอือมกับเจ้ามิ่งที่ไม่ว่าเพชรจะขยับมากน้อยแค่ไหนก็วิ่งแหกปากร้องลั่นพยาบาลทำให้คนไข้คนอื่นพลอยตกใจไปด้วย คราวนี้ก็เช่นกัน
“เจ้ามิ่งวิ่งไปไหนลูก!...” คุณแม่สวยที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำร้องเรียกเจ้ามิ่งที่วิ่งสติแตกออกไป ไม่ไว้ลายพระเอกนิยาย
“คุณแม่” เสียงเรียกนั้นทำให้คุณแม่ต้องหันไปมอง ก่อนจะยิ้มแก้มปริและน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นภาพลูก
ชายคนโปรดของตัวเองพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“เพชร เพชรลูกแม่ฟื้นแล้ว เพชรลูกแม่” คุณแม่ปรี่เข้ามาหอมแก้มซ้ายขวาและกอดไว้แนบอก
น้องเพชรที่พึ่งตื่นมาทำหน้างุดงงเพราะยังปรับจูนสติไม่คงที่ แต่ก็ยกแขนเล็กๆนั้นขึ้นกอดตอบมารดาบุญธรรมของตนอย่างรักใคร่เช่นกัน ในใจตอนนี้ของเพชร ไม่ได้ลืมอดีตแม้แต่น้อย เพียงแต่ ณ ตอนนี้ เป็นความทรงจำที่ดีกว่ามากเท่านั้นเอง
“เพชรไม่เป็นไรนะลูก ไหวไหมคะ จำแม่ได้นะ”
“จำได้ครับ เพชรจำได้ทุกอย่าง น้องครีม พี่คิง คุณพ่อ คุณแม่ ป้าลิน ป้าสม ลุงชัย ลุงชาติ พะ…”
“พอแล้วลูกพอแล้ว แม่เชื่อแล้วคะ เดี๋ยวแม่โทรไปบอกน้องครีมก่อนนะลูก หนูนอนอยู่ตรงนี้นะอย่าไปไหน พวกเรารักเพชรนะคะ” แม่สวยยกมือนุ่มนั้นลูบแก้มใสนั้นอย่างอ่อนโยน
เพชรพยักหน้ายิ้มๆ แม่สวยหัวเราะด้วยความดีใจ ก่อนจะวิ่งกึงเดินไปที่กระเป๋าของตนเอง เพชรมองตามคุณแม่ไป ก่อนจะชะเง้อมองไปที่ประตูห้องที่รู้สึกได้ยินเสียงของพี่มิ่งวิ่งตะเลิดออกไป แย่จริงๆ อะไรจะตื่นตูมปานนั้น
.
.
.
“พี่เพชรรรรรรรรรรรรรรรรจ๋า!!!!!”
เสียงเจื้อยแจ้วของน้องครีมดังก่อนที่ประตูจะเปิดซะอีก เจ้ามิ่งที่กำลังออกอ้อนออเซาะน้องเพชรด้วยการเอาอกหัวใจป้อนข้างป้อนน้ำท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของคุณแม่และป้าลินที่นั่งกอดอกมองอยู่ที่โซฟา เดี๋ยวเถอะถ้าทำลูกชายเจ้าของบ้านช้ำขึ้นมาสักนิดละ มีหวังโดนตีแน่ๆ
อาการของน้องเพชรตอนนี้ปกติดีทุกอย่าง หมอใหญ่ได้เข้ามาตรวจถามคำถามเจ้าเพชรสองสามคำก็ให้นอนดูอาการให้น้ำเกลืออีกหนึ่งคืนก็กลับบ้านได้ แถมยังบอกให้ครอบครัว “ภูมิรัตน์ชิรานนท์” ดีใจอีกด้วยว่าน้องเพชรได้ก้าวผ่านความทรงจำเหล่านั้นมาแล้ว เพราะน้องเพชรจำอดีตที่ตัวเองเคยปิดกั้นไว้ได้หมดสิ้น แต่ตอนนี้ น้องเพชรเลือกที่จะลืมมันด้วยตัวของเขาเอง และให้ทุกคนในครอบครัวดูแลน้องเพชรอย่างใกล้ชิดเช่นเคย เป็นสัญญาณว่าอีกไม่นาน น้องเพชรจะได้เข้าสู่สังคมเช่นคนปกติเสียที … คนที่ดีใจมากกว่าครอบครัวน้องเพชรก็เห็นจะเป็นพี่มิ่งนั้นแหละ …
“พี่มิ่งพอแล้วครับ เพชรอิ่มแล้ว ลงไปเถอะเดี๋ยวน้องครีมมาเห็นนะครับ”เพชรพูดจาตะลอมพี่มิ่งเหมือนเด็กน้อย
ใจจริงก็อยากโดนเอาใจนานๆเหมือนกัน แต่ตอนนี้ อยากกอดน้องมากกว่า เดี๋ยวน้องกลับค่อยให้พี่มิ่งเอาใจใหม่ก็ยังไม่สาย แต่ตัวเองก็ชักไม่แน่ใจว่าอยากให้พี่มิ่งกลับไปพักผ่อนซะแล้ว เพราะดูจากสภาพคนตัวใหญ่คงไม่ได้นอนเลยตลอดหลายคืนที่ผ่านมา
“บุ้ย ก็ได้ งั้นพี่ลงไปซื้อขนมมาดีกว่า คุณแม่ป้าลินจะเอาอะไรไหมครับ”
“ต๊ายยยยยยย เพิ่งรู้เหรอว่าแม่อยู่ด้วย ฮ่าๆ ไปเถอะจ๊ะ อ่ะ น้องครีม ระวังลูกพี่เขาไม่สบายอยู่” คุณแม่พูดปรามในจังหวะเดียวกับที่น้องครีมเปิดประตูเข้ามาและพุ่งหาพี่ชายตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงกอดเอาไว้ไม่ปล่อยเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่เก็บความเป็นห่วงปนดีใจเอาไว้ไม่อยู่
พี่คิงเดินเข้ามา พร้อมกับยกมือถือตัวเองขึ้นถ่ายรูปเก็บความน่ารักของน้องครีมไว้ในทันทีน้องครีมทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ ทำให้คนที่ยืนดูอยู่ไม่รู้จะสงสารหรือดีใจไปด้วยดีแต่ที่รู้ๆตอนนี้น้องเพชรอบอุ่นมาก ที่ได้อยู่ในครอบครัวที่น่ารักเช่นนี้ เหมือนได้เกิดใหม่ขึ้นมาจริงๆ จนน้ำตาเม็ดใสไหลออกมาด้วยความดีใจ กอดน้องครีมผู้ให้ชีวิตใหม่เอาไว้แน่น … สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน ยกเว้นเจ้ามิ่งที่ยืนเชิดปากอย่างอิจฉาน้องอยู่ข้างๆพี่คิง จนพี่คิงรับรู้สึกรังสีประหลาดและหันไปตบหัวฟูๆนั้นดังโผล๊ะ เรียกสติสตางค์คนไม่เต็มอย่างเจ้ามิ่งให้กลับมา
“น้องครีมขอโทษ น้องครีมจะไม่ดื้ออีกแล้ว ฮึก อย่าป่วยอีกเลยน๊า น้องครีมอยากกอดพี่เพชร ทำให้พี่เพชรหัวเราะ เพราะงั้น อย่าป่วยอีกเลยน๊า ฮืออออออออออออ”
เจ้าตัวหัวเราะออกมาและยอมเกี่ยวก้อยสัญญากับน้อง กอดน้องเอาไว้แน่นๆ … ต่อจากนี้ ไม่ว่ายังไง พี่เพชรก็จะทำหน้าที่พี่ชายของน้องครีมให้ดีที่สุด พี่เพชรจะไม่สนใจอดีตที่เฝ้าทำร้ายอีกแล้ว พี่เพชรจะพยายามเพื่อน้องครีม พี่มิ่ง และทุกคน …
.
.
.
-มิ่ง- งืออออออออออออออออออออออออออออออออ
“พี่มิ่งกลับไปนอนได้แล้วครับ”
งืออออออออออออออออออออออออออออออออ
“อย่าทำหน้าหมาน้อยแบบนั้นสิ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ กลับไปนอนเถอะ”
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่กลับ ยังไงไอ้มิ่งก็ม้ายกลั๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ไม่มีท๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ผมเกาะน้องเพชรแน่น ณ ตอนนี้ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันหมดแล้ว เพราะคุณแม่ได้ให้พยาบาลพิเศษคอยดูแล เห็นว่าน้องเพชรได้สติแล้วเลยเบาใจลง แต่ผมยังไงก็ไม่กลับ จะอยู่กับน้องเพชร จะอยู่กับน้องเพชรที่รัก เฮ้ รักน้องน้องเพชร เฮ้ น้องเพชรของพี่มิ่ง แฮ่!!!! (จะเชียร์เพื่อ?)
ผมเกาะน้องเพชรแน่นไม่ยอมปล่อย แต่น้องก็ไม่วายไล่ผมอยู่นั้นแหละ น้อยใจแล้วนะ ฮืออออออออออ น้องไม่รักพี่แล้ว ใช่สิ พี่มันไม่หล่อแล้วนี้ โทรมก็โทรมเพราะไม่ได้นอน หัวก็ฟูก็มันไม่ได้สระมา 3 วันแล้วนี้ แต่พี่ก็อาบน้ำนะ หอมให้น้องเพชรที่ตื่นขึ้นมาจะได้กอดได้ทันที ฮืออออออ อย่าไล่พี่สิ พี่ใจจะขาดแย้วววววววว
“อย่าไล่พี่เลยน๊า งือออออออออออออออ” ผมครางหงิงๆ เอาหัวถูกับแขนน้องไปมา เห็นใจไอ้หมาตัวใจตาดำๆนี้เถอะ มันคิดถึงน้องใจแทบขาดขอกอดขอหอม ขอจุ๊บ สักหนึ่งทีจะได้ม้ายยยยยยยยยย
“ผมไม่ได้ไล่นะครับ แต่ตอนนี้พี่โทรมมากเลย” มือเล็กๆของน้องยกขึ้นลูบแก้มของผม ว๊าย! เค้าเขินจัง แต่เค้าก็ชอบมากๆเลย ฮิฮิ มือน้องนุ่มจางงงงงงงงงง
“จะดูแลผม อย่าลืมดูแลตัวเองสิครับ” เสียงนุ่มๆของน้องทำให้ผมไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่สวยคมดุนั้นได้ … ใจไอ้มิ่งจะละลายอยู่แล้วน้องเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
“ก็ได้ ก็ได้ พี่นอนก็ได้ แต่พี่จะนอนกับน้องนะ ฮิฮิ เขยิบไปหน่อยขอนอนด้วย” น้องเพชรบ่นอุบน้อยๆแต่ก็เขยิบไปอีกทางให้ไอ้มิ่งที่เอาหัวดันน้องอยู่ได้จังหวะก็กระโดดขึ้นเตียงปั๊บ คว้าน้องเข้ามากอดปุ๊บ ฮ่าๆๆๆ หอมจางงงงงง นุ่มจางงงงงงงงงง ฟินจางงงงงงงงงงงงงงงง
“เดี๋ยวพยาบาลเข้ามาดุเอานะครับ”
“อย่าไปสนใจเลย นอนเถอะ” ผมพูดและกระชับอ้อมกอดเด็กน้อยเข้าไปอีก
หัวเล็กๆซบลงบนอกผม ในขณะที่ผมเองก็หอมหัวน้องฟินต่อไป ฮิฮิ วันหลังจะคว้าเอาเด็กน้อยไปกอดสักคืนสองคืน … รออีกหน่อยนะที่รัก รอพี่ทำงานเก็บเงินให้มั่นคงกว่านี้หน่อย รับรองว่าพี่จะมารับน้องมิ่งไปอยู่ด้วยในฐานะแฟนอันที่เคราพรักเลยแหละคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
“อย่าเป็นอะไรอีกนะเด็กดี พี่อยู่ตรงนี้น้องเพชรไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ” ไม่มีเสียงตอบกลับจากเด็กน้อยของผม แต่ผมรับรู้ดีว่าตอนนี้น้องเพชรเองก็มีความสุขมากแค่ไหน บางครั้งการหนีหายจากปัญญาก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด มันอยู่ที่มุมมองที่เลือกมองให้เสียมากกว่า วันนี้น้องเพชรได้เรียนรู้แล้วในเรื่องนั้น และจากนี้ตลอดไปเด็กคนนี้จะเข้มแข็งขึ้นเป็นอย่างมาก … ผมเชื่อแบบนั้น
ภายในห้องเงียบสนิทลงในเวลาไม่นาน เด็กน้อยผงกหัวดูคนตัวใหญ่ที่กอดตัวเองไว้แน่นไม่ยอมปล่อยและก็รู้ว่าตอนนี้หมีตัวใหญ่ของเขาหลับสนิทไปแล้ว ไหนเมื่อกี้ใครบอกไม่ง่วงกันแน่นะ น้องหัวเราะคิกอยู่คนเดียว ก็หันมาซบนอนลงด้วยความอบอุ่นใจ … นึกขอบคุณคนตัวใหญ่อยู่ในใจ … ขอบคุณที่ใช้เสียงหัวเราะอัน บริสุทธิ์ปลุกน้องขึ้นมาจากความฝัน ใช้ความอ่อนโยนฉุดน้องขึ้นมาจากความเสียใจ … ขอบคุณทุกอย่างที่ให้กัน …
แก๊ก… “ อ่ะ ขึ้นไปนอน …”
น้องเพชรเอามือจ่อที่ริมฝีปากตัวเองและส่งยิ้มให้พยาบาลสาวที่เดินเข้ามาตรวจเช็คในห้อง พยาบาลได้แต่ถอนหายใจและยิ้มตอบกลับมาก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้น้องเพชรตักตวงความอบอุ่นให้มากที่สุด … จนคล้อยหลับไปอีกคน
====================
มาแง๊ววววววววววววววววววววววววววว
น้องเพชรมีอดีตอันน่าสงสาร T^T
ยังไงการก้าวข้ามไปด้วยตัวเองและทำให้เข้มแข็งมากขึ้น มันก็ดีกว่า ถูกลบเลือนไปแต่ยังกลับมาสร้างความเจ็บปวดให้สม่ำเสมอละนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
เจอกับกระต่ายน้อยตอนหน้าค๊า แง๊วๆ
*** อัพเดตสารบัญถึงตอนล่าสุดแล้วนะคะ ขอบคุณคุณ BlueCherries ที่เตือนนะ 
ฝากเพจนะ
ห้องเก็บนิยาย pa_pa

แถมๆ
พี่เพชรจ๊า น้องครีมขอโทษ น้องครีมจะไม่ดื้อแง๊วว

เจอตาแบบนี้ไป ใครจะไปโกรธลง ฮิฮิ
