Chapter 12
พิมพ์เดินออกจากห้องเก็บของในสตูดิโอผับ เธอมองไปยังทางเข้าผับที่ปรากฏแสงสีทองฉาบวาววับเหนือพื้นดิน พิมพ์ละสายตาจากแสงสีทองนั้น หันมาสนใจกับบรรยากาศภายในร้าน
พิมพ์เดินผ่านเคาน์เตอร์บาร์ไปยังส่วนที่เป็นเวที เธอเห็นเจเน็ทกำลังก้มๆเงยๆอยู่กับชุดเครื่องเสียงบนเวทีนั้น พิมพ์เลือกโซฟาแถวนั้นทิ้งตัวนั่งลงไป ท่อนขาเรียวสวยถูกยกไขว้กันในท่าไขว่ห้าง มือเรียวสวยข้างหนึ่งยกขึ้นเท้าคางกับท่อนขาตัวเอง
“ทำอะไรน่ะ?” ส่งเสียงถามคนที่ก้มๆเงยๆอยู่บนเวที
เจเน็ทเงยหน้าขึ้นมองก่อนกลับไปก้มๆเงยๆต่อ ตอบคำถามพิมพ์ไปพลาง “ปรับโทนเสียงน่ะ ฉันว่าบางจังหวะมันยังไม่ค่อยโอเค”
พิมพ์พยักหน้าน้อยๆ นิ่งมองเจเน็ทที่หมุนนั่นเลื่อนนี่ ต่อสายนั้น เสียบสายนี้ พิมพ์ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้จึงนิ่งมองอย่างสนใจ ระหว่างนั้นก็มีเสียงดนตรีให้ได้ยินเป็นระยะ เสียงสูง-ต่ำ จังหวะช้า-เร็ว …ฟังๆไปมันก็เพลินดี
พิมพ์นั่งมองเจเน็ทเพลินๆก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วสดใสดังเข้ามา พิมพ์หันไปมองที่มาของเสียงนั้น
โซดากำลังเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้สปายฟัง คงเป็นเรื่องที่สนุกไม่น้อยเพราะพิมพ์เห็นสปายหัวเราะลั่นแข่งกับเสียงเจื้อยแจ้วของโซดา พิมพ์เห็นรอยยิ้มสดใสของเด็กทั้งสองคนแล้วอดไม่ได้ที่จะเผลออมยิ้มออกมา
พิมพ์จับจ้องรอยยิ้มหวานที่ฉาบบนใบหน้าของสปาย…พิมพ์อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงเมื่อวันก่อนที่สปายเข้ามาขอโทษพิมพ์
“ผมขอโทษนะครับที่ผมขัดคำสั่งพี่พิมพ์…คุณน้ำแข็งคงกลัวว่าผมจะทำให้เขาเสียลูกค้า”พิมพ์แทบลืมไปแล้วสปายพูดถึงเรื่องอะไร ใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะนึกออก
“ผมทำให้พี่พิมพ์ต้องโดนคุณน้ำแข็งตวาด….ผมขอโทษ”พิมพ์ได้แต่บอกสปายว่าอย่าคิดมากเรื่องคุณน้ำแข็ง แล้วพิมพ์ก็บอกอีกว่าพิมพ์โดนคุณน้ำแข็งตวาดเรื่องงานจนชินแล้ว… ถึงพิมพ์จะบอกสปายอย่างนั้น แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ได้มีสีหน้าดีขึ้นเท่าไรนัก พิมพ์ต้องดุให้สปายหยุดคิดเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นพิมพ์จะโกรธสปายจริงๆ
คิดถึงตรงนี้แล้วพิมพ์ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ …เด็กคนนั้นห่วงความรู้สึกคนอื่นมากเกินไปแล้ว
“โซดา ดูสิว่าใครมา” เสียงที่ดังมาจากประตูทำให้โซดาหันขวับ โซดามองไปยังเพื่อนร่วมงานหนุ่มร่างสูงผู้เป็นเจ้าของเสียงที่กำลังส่งยิ้มมาให้
โซดาเบิกตาน้อยๆ … โซดามองหน้าสปายเลิกลั่ก
เพื่อนร่วมงานหนุ่มเดินหายไปหลังเคาน์เตอร์บาร์ โซดาเดินไปที่ประตู…
“ซี!”
“โซดา!”
โซดายิ้มกว้าง โถมตัวเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น
“มายังไงเนี่ย?” โซดาจับมือเพื่อนสาวแน่น จูงมือซีเข้ามาในร้าน ยกเก้าอี้พลาสติกหัวกลมที่อยู่แถวนั้นมาให้ซีนั่ง ไม่ลืมที่จะยกมาเผื่อตัวเองด้วย
โซดาหันมายิ้มกว้างให้สปายที่ยืนมองอยู่ห่างๆก่อนกวักมือเรียก
“สปาย นี่ซี เป็นเพื่อนคนแรกของฉันทีนี่ ซี…นี่สปาย ที่เราเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆไง” สปายกับซียิ้มทักทายกันเล็กน้อย
สปายปล่อยให้ซีกับโซดาอยู่กันสองคน สปายเดินตรงไปหาเอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์สูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์
“เธอยังไม่ตอบเราเลย ตกลงเธอมาได้ยังไงเนี่ย?” โซดาเอ่ยถามหญิงสาว
“พี่โต้งเขาแวะมาหาคนรู้จักแถวนี้ ฉันเลยถือโอกาสแวะมาที่นี่สักหน่อย”
เอยกแก้วน้ำเปล่ามาให้ซี… โดนซีแซวกลับไปว่าต้อนรับซะเป็นทางการ เอได้แต่ยิ้มเขินไปให้ แซวเล่นกันอีกไม่กี่ประโยค เอก็ขอตัวผละออกไป
พนักงานคนอื่นๆที่รู้จักซีต่างพากันเข้ามาทักทายเรื่อยๆ
พนักงานเก่าหลายคนรู้ดีว่าโซดากับซีสนิทกันมากขนาดไหน
ซีเป็นเด็กสาวที่ทำงานที่สตูดิโอผับก่อนโซดา ด้วยวัยที่เท่ากันทำให้โซดาและซีสนิทกันได้ง่าย แต่ทว่าหลังจากที่โซดาทำงานได้เพียงเดือนเดียว..ซีก็ต้องลาออก
“หลานเราโตขึ้นเยอะเลย” โซดาลูบหน้าท้องหญิงสาวเบาๆ ซีหัวเราะคิกคัก
“ดูสิ ดิ้นใส่เธอใหญ่เลย” ซีว่าพลางวางมือบนหน้าท้องตัวเอง
“หลานเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?” โซดาจับมือซีไว้ ลูบเบาๆที่หลังมือ
“ผู้หญิงน่ะ…ตอนนี้พี่โต้งมันลิสต์ชื่อลูกไว้ยาวเป็นหางว่าว” โซดายิ้มขำ
โต้งที่ซีพูดถึง ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอดีตพี่ชายข้างบ้านของซีที่ตอนนี้พัฒนาเป็นพ่อของลูกในท้องซีไปแล้ว
โซดาพูดคุยกับซีหลายเรื่องตามประสาคนไม่เจอกันนาน เพราะต่างคนต่างมีงานต้องทำจึงไม่สามารถนัดเจอกันได้ง่ายๆ โซดายิ้มแก้มปริ รอยยิ้มบนใบหน้าโซดาทำเอาใครบางคนที่แอบมองจากชั้นสองถึงกับขมวดคิ้ว
เบียร์ยืนอยู่หลังหน้าต่างกระจกทึบในห้องทำงาน นิ่งมองโซดาคุยกับหญิงสาวด้วยท่าทางออกรส
เบียร์ตัดสินใจเดินลงมาด้านล่าง สายตาคมจับจ้องไปยังร่างเล็กของโซดาที่จับมือหญิงสาวแน่น ไม่ทันกระพริบตา โซดาก็โอบร่างของหญิงสาวไว้ในอ้อมกอด เบียร์แทบเข้าไปแยกสองคนนั้นออกจากกัน
เบียร์ลอบมองใบหน้าหญิงสาว เบียร์รู้สึกคุ้นหน้า ถ้าจำไม่ผิด…คงเป็นพนักงานเก่า…แต่เบียร์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเท่าเรื่องที่โซดากำลังกอดหญิงสาวคนนี้
เบียร์เดินโฉบไปใกล้ๆโซดา ทันใดนั้นหญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดเพื่อน ยกมือไหว้อดีตเจ้านาย เบียร์รับไหว้ ส่งยิ้มตอบ เบียร์ไม่ได้เข้าไปไต่ถามพูดคุย เบียร์เพียงแค่อยากรู้ว่าคุยอะไรกัน ทำไมต้องจับมือถือแขนกันขนาดนั้นด้วย!
เบียร์ได้ยินคำว่าลูก…ลูกเหรอ? ลูกใคร?
เบียร์นิ่งมองโซดาที่กำลังยื่นมือไปลูบท้องหญิงสาว ดวงตาคมเบิกกว้าง
ลูกของโซดากับผู้หญิงคนนี้เหรอ?!
…ภาพตรงหน้าทำให้เบียร์คิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ
ร่างสูงเข่าอ่อนขึ้นมากะทันหัน ดีที่คว้าโซฟาใกล้ๆเป็นหลักยึดได้ เบียร์เดินล่องลอยไปยังเวที นึกอยากฟังเพลงกระแทกใจแรงๆสักเพลง
พิมพ์ที่นั่งอยู่แถวนั้นมาตลอดได้แต่มองตามเจ้านายเดินขึ้นไปยืนข้างเจเน็ทบนเวที เจเน็ทถอยห่างออกมา ยกพื้นที่ให้เจ้าของร้าน เบียร์ก้มๆเงยๆหน้าเครื่องเสียงไม่นานก็ผละออก ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังกระหึ่ม เจเน็ทกับพิมพ์มองหน้ากันทันที
…เพลงเด็กพี่มีชู้ของวงไอน้ำดังลั่นร้าน
พิมพ์มองตามเจ้านายที่เดินลงจากเวทีมุ่งหน้าไปที่เคาน์เตอร์บาร์ พิมพ์หัวเราะออกมาเบาๆ หันไปมองเจเน็ทบนเวที รายนั้นพยายามกลั้นขำไม่ต่างกัน
เพลงที่เจ้าของร้านเลือกถูกตั้งค่าให้เล่นวนซ้ำไปซ้ำมา เบียร์กระดกของเหลวสีทองที่เรียกว่าเบียร์เข้าปาก สายตาคมนิ่งมองโซดาไม่วางตา
“เอามาอีก” เบียร์หันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ที่วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่นานเครื่องดื่มสีทองก็มาวางอยู่ตรงหน้า
แสงสีทองที่ฉาบพื้นดินค่อยๆจางหายไป ได้เวลาที่ซีต้องขอตัวกลับบ้าน และโซดาต้องเตรียมตัวทำงาน
โซดาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกหลังจากที่ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดร้าน เจเน็ทต้องคะเนอยู่พักใหญ่ว่าจะเปลี่ยนเพลงเด็กพี่มีชู้ได้ตอนไหน จนกระทั่งลูกค้าเริ่มเข้าร้านเจเน็ทจึงจัดการเปลี่ยนเป็นเพลงรักเพลงอื่นแทน และไม่นานเธอก็ปรับจังหวะเพลงให้หนักขึ้น
พิมพ์ไปต้อนรับลูกค้าที่ประตูร้าน สปายและโซดาเดินรับออเดอร์ตามโต๊ะ
เบียร์นั่งขมวดคิ้วอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์มาเกือบชั่วโมง
พนักงานแต่ละคนวนเวียนผ่านไปผ่านมา ไม่มีใครกล้าบอกเจ้าของร้านว่าเกะกะหรอก
เบียร์นิ่งมองโซดาที่กำลังเดินฝ่าฝูงชน มือน้อยๆประคองถาดเสิร์ฟที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรงๆ.. โซดาเป็นเด็กที่พร้อมขัดคำสั่งเบียร์ตลอดเวลา คำสั่งที่เบียร์เคยห้ามโซดาทำงานจึงกลายเป็นคำสั่งที่มีผลแค่วันปาร์ตี้ครั้งล่าสุดเท่านั้น ทั้งที่เบียร์พยายามห้ามแล้ว จำใจดุก็แล้ว เรียกไปกักตัวไว้ก็แล้ว เขาว่าเขาคงต้องทำอะไรให้มันเด็ดขาดกว่านี้แล้วล่ะนะ
แล้วจะบอกโซดายังไง? ‘ห้ามทำงานนะ แต่ต้องเข้าร้านทุกวัน’ โอ้ย เด็กมันคงคิดว่าเขาบ้า ไม่ก็คงคิดว่าเขาต้องเป็นโรคประสาทไปแล้วแน่ๆ
แล้วดูซิ…ตัวเล็กแค่นี้ต้องมาถือของหนักเดินเบียดคนเยอะแยะ แล้วนั่น! ใครมันลูบเอวโซดาวะ! พับผ่าสิ อย่าให้เห็นเจ้าของมือนะเว้ย!
เบียร์เห็นอย่างนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพเมื่อตอนเย็น… ภาพที่โซดากอดผู้หญิง และผู้หญิงคนนั้นกำลังตั้งท้อง!
ลูกของผู้หญิงคนนั้นคือลูกของโซดาอย่างนั้นเหรอ?!
โซดานี่นะทำผู้หญิงท้อง?!
พิมพ์เดินยิ้มร่าทักทายแขกเรื่อยมาจนถึงที่ที่เบียร์นั่งอยู่
พิมพ์เลิกคิ้ว …ยังอยู่ที่เดิมอีก?
“คุณเบียร์คะ” พิมพ์กลั้นใจเอ่ยเรียก …ลอบมองท่าทางของเจ้านาย
เบียร์หันใบหน้าบึ้งตึงมามองพิมพ์ ทำเอาพิมพ์สะดุ้งน้อยๆ
หงุดหงิด?...
“เอ่อ…คุณเบียร์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เบียร์ยกแก้วแอลกอฮอล์ในมือกระดกเข้าปากก่อนเอ่ยตอบ
“เปล่า”
คำพูดกับท่าทางที่ไม่ได้เข้ากันทำเอาพิมพ์ยู่หน้าน้อยๆ
พิมพ์ไม่คิดหาสาเหตุที่ทำให้คุณเบียร์เป็นแบบนี้ แต่พิมพ์พยายามคิดว่าท่าทางแบบนี้ของคุณเบียร์จะมีอะไรแก้ไขได้บ้าง
…จริงสิ!
“ให้พิมพ์ส่งคนไปให้ไหมคะ?”
พิมพ์มั่นใจว่าน้ำเสียงที่ใช้ไม่ได้เจือแววประชดหรือหงุดหงิดอะไรทั้งนั้น แต่ทำไมคุณเบียร์ต้องตวัดสายตามองพิมพ์แบบนั้นด้วย
“เอ่อ…คุณเบียร์อยากให้ใครขึ้นไป…”
“บอกโซดาให้ไปหาฉันที่ห้องทำงาน”
“คะ?”
“ให้เวลายี่สิบนาที” เบียร์ว่าจบก็ผละจากไป
พิมพ์ชะงักนิ่งอยู่ที่เดิม มองตามแผ่นหลังกว้างของเจ้าของร้าน
…คุณเบียร์ดูแปลกไป ยิ่งช่วงหลังๆนี้ยิ่งแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อก่อนคุณเบียร์สั่งให้พิมพ์ส่งคนไปหาที่ห้องแทบทุกสัปดาห์ มากหน่อยก็สามคนต่อสัปดาห์ หน้าใหม่หน้าเก่าหมุนเวียนกันไป จะว่าไป ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ...ที่คุณเบียร์เรียกหาโซดาแค่คนเดียว
เบียร์นั่งเท้าคางอยู่ที่โต๊ะทำงาน สายตาจับจ้องไปยังประตู เหลือบมองนาฬิกาข้อมือรอบที่แปด
เบียร์ถอนหายใจเบาๆ ตอนนั้นเองที่เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
เบียร์ไม่ต้องเอ่ยอนุญาต ไม่นานประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก
“…คุณเบียร์…มีอะไรหรือเปล่าครับ?” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา ร่างเล็กก้าวเท้าเข้าห้องด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ เบียร์
ถอนหายใจน้อยๆ… ทำไมต้องทำท่าเหมือนกลัวเขาขนาดนั้นด้วยนะ
“มานี่”เบียร์ยืดตัวตรง กวักมือเรียกคนตัวเล็กให้มาหาที่โต๊ะทำงาน
โซดาทำตามคำสั่งทันที ร่างเล็กสาวเท้าเข้าไปพลางคอยดูทีท่าของร่างสูง เมื่อเห็นว่าคนเป็นเจ้านายจะไม่ลุกมาทำอะไรแน่ๆ โซดาจึงกลั้นใจเดินไปหยุดหน้าโต๊ะทำงาน โซดารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อยที่มีโต๊ะทำงานคั่นกลางระหว่างเขากับคุณเบียร์
เบียร์นิ่งมองโซดาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะอีกที
… เบียร์ไม่อยากเชื่อว่าอย่างโซดาจะมีแรงทำผู้หญิงท้องได้!
“เธอ…” เบียร์หยุดกระแอมเล็กน้อย “เธอสบายดีไหมช่วงนี้?”
“ครับ?” โซดาเบิกตาน้อยๆ
เบียร์ยกมือสากเก้าแก้มตัวเองเบาๆ หันไปค้นแฟ้มเอกสารมากางบนโต๊ะ พลางเอ่ยต่อ “ชีวิตปกติดีใช่ไหม?”
โซดาเริ่มขมวดปมคิ้วน้อยๆ
เบียร์พลิกหน้ากระดาษในแฟ้มเอกสารไปมา โซดาเห็นเบียร์พึมพำว่า ’โซดา’ซ้ำไปซ้ำมา
โซดาลอบชะเง้อมองแฟ้มเอกสารในมือร่างสูง
รูปหญิงสาวและชายหนุ่มหลายคนที่ติดอยู่บนหัวกระดาษแต่ละแผ่น พร้อมข้อความที่เขียนด้วยลายมือของแต่ละคนคือสิ่งที่ถูกรวบรวมอยู่ในแฟ้ม …แฟ้มประวัติพนักงาน
“โซดา…”เบียร์หยุดนิ่งที่กระดาษที่มีรูปของคนตรงหน้า
เบียร์ไล่สายตาอ่านไปทีละบรรทัดแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง
“อายุ 16 เหรอ?!” เบียร์อุทานลั่น โซดาสะดุ้งสุดตัว
“เธออายุ 16 ปี จริงๆเหรอ? เอาบัตรประชาชนมาดูซิ” เบียร์วางแฟ้มลงบนโต๊ะ นิ่งมองโซดาที่ลนลานค้นบัตรประชาชนในกระเป๋าตังค์ มือน้อยๆยื่นบัตรสีเหลี่ยมเล็กมาให้
เบียร์นิ่งมองตาค้าง
เฮ้ย! เด็กขนาดนั้นเลยเหรอ?! อายุห่างกับเขาตั้ง 8 ปี!
ทำไมเขาไม่เคยคิดจะอ่านประวัติเด็กคนนี้มาก่อนเลยวะ!
“คะ…คุณเบียร์ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ” มือน้อยรับบัตรสี่เหลี่ยมเล็กมาคืน กำมันแน่นโดยไม่รู้ตัว ลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่…อายุยังไม่ถึง 18 จะโดนไล่ออกไหม … ก็ไหนมีคนบอกว่าที่นี่ไม่จำกัดอายุไม่ใช่เหรอ
เบียร์โบกมือน้อยๆ เป็นเชิง ‘อย่าไปสนใจเรื่องนี้’
“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่เธออายุแค่นี้ เธอจะเลี้ยงลูกเมียได้ยังไง?”
โซดากระพริบตาปริบๆ รู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาด นิ่งอึ้งไปด้วยพยายามคิดว่าคุณเบียร์พยายามจะสื่อถึงอะไร
“เธอพักอยู่กับสปาย แล้วเมียเธอล่ะอยู่ยังไง?”
“อะ…อะไรนะครับ?”
เบียร์ถอนหายใจแรงๆ นิ่งมองโซดา
“เธอไม่ต้องพยายามปิดบังฉันหรอก ฉันรู้หมดแล้ว ฉันไม่ไล่เธอออกเพราะเธอมีลูกหรอกน่า ฉันรู้ว่าเธอต้องหาเงินเลี้ยงลูกเมีย”
โซดาคิดไม่ออกว่าอะไรคือสิ่งที่คุณเบียร์พูดถึง … แค่ไม่บอกว่าจะไล่ออกเพราะโซดาอายุ 16 แค่นี้โซดาก็ดีใจแล้ว
“เอ่อ…คุณเบียร์ครับ คุณเบียร์อาจจะเข้าใจผิด … คุณเบียร์อาจจะหมายถึงพนักงานคนอื่นหรือเปล่าครับ..บางทีอาจจะ…”
“เมียเธอมาหาถึงที่ขนาดนี้…อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นสิ …เมื่อตอนเย็นเธอยังกอดยังจับมือกันอยู่แท้ๆ”
“ครับ?” พลันภาพหญิงสาวร่างเล็กก็ปรากฏในห้วงความคิด วันนี้ตอนเย็น โซดากอดซีแค่คนเดียว แม้ไม่รู้ว่าคุณเบียร์ถามเรื่องนี้ไปทำไม แต่โซดาก็พร้อมตอบคำถามเหล่านั้น
“ถ้าคุณเบียร์หมายถึง…ผู้หญิงที่อยู่กับผมเมื่อเย็น…”
เบียร์แทบไม่รู้ตัวว่ากำลังกลั้นใจฟังคำบอกเล่าจากปากของโซดา
“…ซีเป็นพนักงานเก่าที่นี่น่ะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณเบียร์จำได้หรือเปล่า…” โซดาลอบสบตากับเบียร์เป็นเชิงถาม เบียร์พยักหน้าตอบเบาๆ
“ซีท้องน่ะครับเลยต้องลาออกจากงาน เราไม่ได้เจอกันนานมาก”
“ไม่ได้เจอกันนานมาก?”
“ครับ…เพราะซีไปอยู่กับแฟน แล้วบ้านของแฟนซีก็อยู่ไกล เราเลยไม่ค่อยเจอกัน…”
“เดี๋ยวนะ”… เบียร์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “ซีอยู่บ้านแฟน? หมายถึงพ่อของลูกในท้องน่ะเหรอ?”
“ครับ..”
“ถ้าอย่างนั้น…ก็ไม่ใช่ลูกของเธอ?”
“ผมยังไม่มีลูกหรอกครับ…แม่ของลูก ผมยังหาไม่ได้เลย” โซดายิ้มแหย
เบียร์ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น โซดาสะดุ้งน้อยๆ เหมือนได้ยินคุณเบียร์พึมพำเบาๆว่า “เยส!”
เบียร์กระแอมเบาๆ นั่งยืดตัวตรง
“แน่ใจนะว่าเธอไม่ได้โกหก”
“ครับ…ผมไม่รู้ว่าจะโกหกไปทำไม”
เบียร์หลุดยิ้มออกมา มันต้องอย่างนี้สิ!
เบียร์กลับมาสนใจกับประวัติของโซดา
ในกระดาษสมัครงานไม่มีข้อมูลที่เป็นรายละเอียดมาก ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทั่วไปเช่น ชื่อจริง นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อายุ
เบียร์วางแฟ้มไว้บนโต๊ะก่อนเดินอ้อมโต๊ะตรงไปหาร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ มือหนาตรงเข้าเกี่ยวเอวเล็กไว้ในอ้อมแขน ร่างน้อยๆสะดุ้งสุดตัว มืออีกข้างจับยึดท้ายทอยขาวเนียนด้วยมือข้างเดียว ใบหน้าคมสันโน้มเข้าไปสัมผัสกลีบปากเรียวเล็กแผ่วเบา เลื่อนใบหน้าสูดดมกลิ่นหอมของแก้มเนียนใสทั้งสองข้าง
“เป็นเด็กดีอย่างนี้ต้องให้รางวัล”
“คะ..คุณเบียร์ อื้อ!” โซดาดิ้นขลุกขลัก ไม่สามารถเอ่ยอะไรบอกไปได้อย่างที่ใจคิด ด้วยริมฝีปากหนาคอยแต่จะปิดปากเล็กอยู่ตลอดเวลา โซดาออกแรงดันไหล่กว้างให้ห่างจากตัว แต่ร่างสูงกลับไม่สนใจแรงน้อยนิดนั้นเลย
“คุณเบียร์…อื้อ!…ไม่…อื้ม!”
“ไม่เอาน่า ไม่เห็นเป็นไรเลย… เป็นเด็กดีก็ต้องมีรางวัลให้ไง เวลาไอ้น้ำแข็งเป็นเด็กดี ฉันก็ทำแบบนี้เหมือนกันแหละน่า”
“มุสาวาทา เวรมณี ไอ้เบียร์ มึงอย่าโกหก”
เสียงที่ดังมาจากประตู ทำเอาเบียร์ชะงัก โซดาถอนหายใจยาว มือน้อยๆกำแน่น
เบียร์หันไปมองคนมาใหม่ กำลังจะอ้าปากโต้ตอบ หากแต่โดนเอ่ยขัดเสียก่อน
“กูเคาะประตูแล้ว”
น้ำแข็งเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง โซดายืนกุมมือก้มหน้า เบียร์ยื่นแขนไปโอบไหล่บางไว้
“ตอนเด็กๆกูก็หอมมึงออกจะบ่อยนะเว้ย”
“มึงมีแต่ตบหัวกู อย่างมากก็ลูบหัว ตบไหล่ มึงไม่ถึงกับปากชนแก้มหรือปากชนปากแบบนี้หรอก”
“มึงก็เป็นเด็กดีนะช่วงนี้ งั้นมาให้กูหอมแก้มมึงหน่อยมา”
“พ่อง!”
เบียร์หัวเราะลั่น น้ำแข็งได้แต่ส่ายหน้าหน่ายๆ
“กูไปข้างนอกก็ได้” เบียร์รั้งร่างเล็กในอ้อมแขนให้เดินตามไป โซดาเบิกตากว้าง ร่างเล็กขืนสุดแรง
“ไม่..ไม่ไป”
“ไม่ได้ไปห้องนอนหรอกน่า ไปเดินตรวจร้านกัน”
เบียร์รั้งร่างเล็กให้ตามไปจนได้ แม้ว่าโซดาจะมีท่าทีขัดขืนตลอดก็ตาม
ประตูห้องทำงานปิดลง น้ำแข็งส่ายหน้าน้อยๆก่อนหันมาสนใจกับแฟ้มงานบนโต๊ะ น้ำแข็งเปิดคอมพิวเตอร์ นำข้อมูลจากแฟ้มเอกสารพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ ทำไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
น้ำแข็งละสายตาจากหน้าจอคอมฯ เงยหน้ามองชายร่างใหญ่ที่ก้าวเข้ามา
“ประวัติของสปายครับ” คมวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณครับ” น้ำแข็งคว้าซองสีน้ำตามาไว้ในมือ คมเห็นว่าเจ้านายไม่เอ่ยอะไรต่อจึงขอตัวออกจากห้องไป
น้ำแข็งหยิบสิ่งที่อยู่ในซองมาวางบนโต๊ะ ไม่ได้มีเพียงกระดาษขนาด A4 ยังมีกระดาษแผ่นเล็กขนาดครึ่งA4 ที่เป็นภาพถ่ายด้วย
น้ำแข็งไล่อ่านประวัติของสปายโดยละเอียด
ก่อนหน้านี้น้ำแข็งเคยอ่านใบสมัครงานของโซดาและสปาย แต่ในนั้นไม่ได้บอกรายละเอียดเท่าไร อย่างมากก็แค่ข้อมูลการติดต่อ น้ำแข็งจำได้ว่าเด็กคนนั้นเพิ่งอายุ 16 ปี นอกนั้นน้ำแข็งก็ไม่รู้อะไรเลย
น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่น สายตาคมไล่อ่านทุกตัวอักษร
…เคยอยู่บ้านเด็กกำพร้า ไม่ทราบประวัติพ่อแม่แน่ชัด…
นี่คือเหตุผลที่สปายต้องอยู่กับโซดาแค่สองคนอย่างนั้นเหรอ?
น้ำแข็งไล่อ่านไปเรื่อยๆจนสะดุดกับคำว่า ‘นักเรียนทุน’
คิ้วหนาขมวดแน่นเรื่อยๆโดยที่น้ำแข็งไม่รู้ตัว
ในข้อมูลทั้งหมด มีข้อมูลคร่าวๆของโซดาแนบมาด้วย
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเด็กสองคนนั้นต้องอยู่กันตามลำพัง
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งสองคนเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้า
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสปายเป็นนักเรียนทุน…
น้ำแข็งรู้สึกปวดแปลบในอก…
เขาคิดว่าสปายเป็นเด็กใจแตกไปได้ยังไง? …
เด็กคนนั้นต้องลำบากแค่ไหน ต้องอดทนแค่ไหน ต้องเข้มแข็งขนาดไหน…ถึงจะอยู่ในสังคมได้ สังคมที่เต็มไปด้วยกิเลส ราคะ การดูถูกและการเอาเปรียบ
เด็กคนนั้นทำยังไงเมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้…ทำยังไงเมื่อรู้สึกเศร้า เหงา โดดเดี่ยว
น้ำแข็งกำมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไล่สายตาอ่านข้อความจนครบทุกแผ่น ละสายตาไปสนใจรูปถ่ายที่วางไว้
ภาพถ่ายของสปาย…ดวงตาใสเป็นประกาย รอยยิ้มเต็มแก้มที่น้ำแข็งไม่เคยเห็น
ภาพถ่ายห้องเช่า โรงเรียน ห้องเรียน เพื่อนที่โรงเรียน รวมถึงบ้านเด็กกำพร้า และภาพอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสปาย
น้ำแข็งนิ่งมองภาพหมู่ของนักเรียน ม.ปลาย ดูเหมือนเป็นภาพที่ถ่ายในโอกาสพิเศษของโรงเรียน น้ำแข็งเห็นสปายยืนข้างๆเด็กหนุ่มที่น้ำแข็งคุ้นหน้า น้ำแข็งมั่นใจว่าเด็กหนุ่มร่างสูงในภาพคือโชกุน…
น้ำแข็งหยิบภาพที่เป็นห้องเช่าของสปายขึ้นมา ห้องที่น้ำแข็งเคยเห็นกับตามาแล้ว ในภาพมีสปายกับโซดาอยู่ด้วย…น้ำแข็งเดาว่าพี่คมคงไปแอบถ่ายมาเมื่อเย็นนี้แน่ๆ คงต้องอาศัยจังหวะที่เจ้าของห้องเปิดห้อง น้ำแข็งอมยิ้มให้กับภาพนั้น โซดากำลังถือชามใบน้อย สปายกำลังถือหนังสือคณิตศาสตร์เพิ่มเติม สายตาคมสะดุดเข้ากับกองหนังสือตรงหน้าเด็กคนนั้น
…น้ำแข็งเคยเห็นกองหนังสือนี้ แต่น้ำแข็งไม่ได้ฉุกใจคิดว่ามันคือกองหนังสือเรียน
ถ้าเขาสังเกตมากกว่านี้ ก็คงไม่มองสปายในทางไม่ดีแบบนั้น..
น้ำแข็งนึกถึงคำพูดร้ายๆที่เขาเคยสาดใส่สปาย คำพูดร้ายๆที่ทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆดวงนั้น
สปายเข้มแข็งมากเกินไปแล้ว… สปายทนฟังคำพูดแบบนั้นได้ยังไง ถึงแม้ว่าสปายจะโต้ตอบกลับมาด้วยคำพูดร้ายๆทุกครั้ง แต่เด็กคนนั้นก็ต้องเข้มแข็งมากพอที่จะมีแรงโต้ตอบกลับมา
น้ำแข็งเข้าใจแล้วว่าทำไมสปายถึงหลบหน้าเขา เด็กคนนั้นเจ็บปวดมากพอแล้ว น้ำแข็งไม่อยากทำให้สปายต้องเจ็บปวดมากไปกว่านี้แล้ว
พอแล้วสปาย…เราอย่าทะเลาะกันอีกเลย
แค่ทำงานกลางคืน
น้ำแข็งเป็นคนอบอุ่น(?)นะคะ > < ...ลึกลึ้กกก แอมเชื่ออย่างนั้น T T ไม่รู้เมื่อไรพี่แกจะเผยด้านนั้นออกมา
เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^^