Chapter 18
หน้าจอสมาร์ทโฟนราคาแพงแสดงการโทร.ออก มันวางสายเองอัตโนมัติเมื่อไร้การตอบกลับจากปลายสาย
เบียร์ขมวดคิ้วให้สมาร์ทโฟนในมือก่อนโยนมันไว้ข้างตัว สายตาคมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
บ่ายสาม…
เขาโทร.หาโซดาเป็นชั่วโมง แต่โซดาไม่รับโทรศัพท์เขาสักที!
…เขาทำอะไรให้โซดาโกรธหรือเปล่าวะ?...
หรือน้องจะนอนกลางวัน? หรือว่าออกไปข้างนอก?
น้องทำอะไรอยู่?! ทำไมไม่รับโทรศัพท์!
“เป็นอะไรวะ?” เสียงคนมาใหม่ดังขึ้น เบียร์รับรู้ว่าเป็นเสียงของน้องชาย คนเป็นพี่เพียงเหลือบมองคนเป็นน้องเดินเข้าบ้าน
…ดูจากสภาพแล้ว มันคงเพิ่งกลับจากมหา’ลัย
“โซดาไม่รับโทรศัพท์กู” เบียร์ยู่หน้า
“มึงทำอะไรให้โซดางอนล่ะ?”
เบียร์ขมวดคิ้วน้อยๆ นิ่งมองคนเป็นน้อง
“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อวานที่บริษัทมีปัญหา กูเลยต้องรีบไปดู แล้วกูก็อยู่ที่บริษัทจนเช้า”
“แล้วทั้งวันมานี่มึงทำอะไร?”
“กูไปซื้อของสดกับป้าแหวน”
“ของสด?” น้ำแข็งเลิกคิ้ว
“ใช่ เพราะกูบอกโซดาว่าอยากให้น้องทำแกงจืดให้กิน แล้วกูก็บอกว่าจะซื้อของสดไปให้ แล้วกูก็จะโทร.ถามว่าต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า แต่จนตอนนี้น้องยังไม่รับโทรศัพท์กูเลย”
น้ำแข็งขมวดคิ้วน้อยๆ…
จะว่าไป…วันนี้สปายก็ยังไม่รับโทรศัพท์เขาเหมือนกันแฮะ
“รออะไรอยู่ล่ะวะ ไปหาสิ” น้ำแข็งลุกขึ้น เดินนำพี่ชายออกจากบ้าน
“ถ้าน้องเขางอนกูจริงๆล่ะวะ” เบียร์เดินตามไปติดๆ ไม่สนใจหิ้วของสดในตู้เย็นติดมือไปด้วยเลยสักนิด
“ถ้างอนก็แค่ง้อ งอนเรื่องอะไรก็คุยกันให้รู้เรื่อง”
น้ำแข็งเดินไปขึ้นรถ เข้าประจำที่คนขับของเบนซ์คันหรู เบียร์เข้าประจำที่คนขับของเบนซ์คันงามอีกคัน น้ำแข็งพารถหรูพุ่งทะยานออกจากบ้าน เบียร์ขับตามไปติดๆ
การจราจรแออัดช่วงเย็นยื้อเวลาคนใจร้อนสองคนได้เพียงนิด น้ำแข็งและเบียร์ขับเลนนอกสุดของถนนมาตั้งแต่ออกจากบ้านจนกระทั่งเลี้ยวเข้าคอนโด
น้ำแข็งเดินนำพี่ชายมายังห้องพักของสปายและโซดา
“มึงลองโทร.อีกรอบซิ” น้ำแข็งหันไปสั่งพี่ชาย เบียร์ควักสมาร์ทโฟนโทร.หาโซดาทันที
เงียบกันไปอึดใจ สองหนุ่มขมวดคิ้วแน่น
“ไม่รับเหมือนเดิมว่ะ”
น้ำแข็งควักสมาร์ทโฟนตัวเองโทร.หาสปายบ้าง …ไร้การตอบรับเช่นกัน
สองพี่น้องมองหน้ากันนิ่ง
“ใช้คีย์การ์ดเลย” น้ำเสียงเบียร์จริงจังมากขึ้น คนเป็นน้องควักคีย์การ์ดจากกระเป๋ากางเกงตัวเองออกมา เสียงสัญญาณเปิดประตูดังขึ้น น้ำแข็งผลักบานประตูเข้าไป
ภาพที่ประจักษ์แก่สายตาของเบียร์และน้ำแข็งทำเอาทั้งสองคนขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกมึนตึงไหลเวียนทั่วสรรพางค์กายคล้ายมีคนเอาท่อนจันฟาดกลางศีรษะ
สองพี่น้องกวาดสายตาทั่วห้อง…
แจกันดอกไม้แตกกระจายเกลื่อนพื้น เอกสารกระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง บางแผ่นมีรอยรองเท้าประทับไว้ ทั้งโซฟาและโต๊ะเตี้ยมีรอยรองเท้าเปื้อนเขรอะ ผ้าม่านผืนใหญ่มีรอยฉีกขาด เบียร์เข้าไปใกล้ๆจึงพบว่า…บนผืนผ้าม่านมีรอยเลือดเปรอะอยู่
“เหี้ยอะไรวะเนี่ย?!” น้ำแข็งแผดเสียงลั่น มือหนาลนลานโทร.หาสปายอีกครั้ง พลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงครืดคราดของโทรศัพท์จากในห้อง น้ำแข็งหันซ้ายหันขวาหาที่มาของเสียง
น้ำแข็งนิ่งมองกระเป๋าเป้ …เขาจำได้ดีว่ามันคือกระเป๋าของสปาย
มือหนาลนลานเปิดกระเป๋า …หยิบเครื่องมือสื่อสารที่ยังสั่นไม่หยุดออกมา
…โทรศัพท์ของสปาย…
“นี่มันอะไรกันวะ?!” เบียร์ส่งเสียงมาจากมุมห้อง ในมือกำโทรศัพท์โซดาไว้แน่น
“โซดา! ไม่ตลกนะ! อย่าเล่นแบบนี้ ออกมา!” เบียร์ถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว …แต่ทว่าไม่พบใครเลย
“โซดา! บอกให้ออกมา!” เบียร์แผดเสียงลั่น หอบหายใจหนักๆ มือหนากำแน่น
“โธ่เว้ย!” เบียร์ตรงเข้าถีบโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งแรงๆ
“เฮ้ย! ใจเย็น!” น้ำแข็งเอื้อมมือแตะบ่าคนเป็นพี่ เบียร์ขมวดคิ้ว ถอนหายใจแรงๆ
“กูน่าจะพาไปอยู่ที่บ้านให้รู้แล้วรู้รอด!” เบียร์ร้องลั่น
“ตั้งสติ! ไอ้เบียร์!” น้ำแข็งบีบไหล่คนเป็นพี่ เบียร์พยักหน้าตอบกลับมา เอ่ยเสียงดัง
“กูเชื่อว่าน้องไม่ได้หนีแน่ๆ! กูอยากรู้ว่าใครมันกล้าเอาตัวน้องไป?!” เบียร์จ้องเขม็งมองโทรศัพท์โซดาในมือ
น้ำแข็งกำมือแน่น นิ่งมองกระเป๋าเป้ของสปาย ”กูก็อยากรู้เหมือนกัน..!”
น้ำแข็งและเบียร์รุดจากคอนโดหรูกลับบ้านของตัวเอง เรียกประชุมลูกน้องทุกคนในบ้าน
“สืบมาให้ได้ว่าสปายกับโซดาเคยมีปัญหากับใครบ้าง ตามให้ได้ว่าใครลักพาตัวไป” น้ำเสียงของเบียร์จริงจังจนไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าสบตา
“กระจายตัวเฝ้าทุกที่ที่โซดากับสปายเคยไป เมื่อมีความคืบหน้าให้รีบรายงานทันที” น้ำแข็งเอ่ยสมทบ
ใช้เวลาออกคำสั่งน้อยกว่าทุกครั้ง ลูกน้องทุกคนกระตือรือร้นทำตามคำสั่ง
น้ำแข็งและเบียร์เข้าไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน แว่วเสียงแบ่งงานของคมดังเข้ามาให้ได้ยิน หลังจากนั้นรถยนต์กว่าสิบคันก็ขับออกจากบ้านไป
น้ำแข็งนั่งก้มหน้ากุมขมับ เบียร์ทนนั่งเฉยๆไม่ได้ ได้แต่เดินไปเดินมา
…ป่านนี้น้องจะเป็นยังไง น้องอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่…
เพียวทึ้งศีรษะตัวเองแรงๆหลายที เห็นสมาร์ทโฟนตัวเองวางนิ่งอยู่บนโต๊ะเตี้ยแล้วยิ่งโมโห …เพราะทั้งวันเขามัวแต่สนใจมันไม่ยอมไปหาโซดาตั้งแต่แรก เรื่องเลยเป็นแบบนี้!
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่สุดท้ายก็ต้องคว้ามันมาใช้งานอยู่ดี
เบียร์โทร.หาคนที่มั่นใจว่าต้องช่วยเขาได้ …ถือสายรอไม่นานก็มีการตอบรับ เบียร์กรอกเสียงลงไป
“ไกร กูมีเรื่องให้มึงช่วย”
มืด…
มืดเหลือเกิน…
มองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืด…
สายตาไม่สามารถมองฝ่าความมืดได้ แรงโยกเอนของร่างกายและสัมผัสจากเบาะที่นั่งบ่งบอกว่าโซดากำลังอยู่ในรถ
“สปาย...”โซดาส่งเสียงออกไปแล้วถึงได้รู้ว่าตัวเองเสียงแหบพร่า …ไม่แปลกเพราะเขาพยายามส่งเสียงร้องให้คนช่วยมาตลอดทาง นานแค่ไหนไม่รู้จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็เจอแต่ความมืดมิด
ผ้าปิดตาบนใบหน้าโซดาทำหน้าที่ของมันได้ดีเกินไป โซดารู้ว่ามีผ้าปิดตาตัวเอง แต่โซดาแก้ผ้าปิดตาออกไม่ได้ เพราะข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดไขว้หลังไว้แน่น!
“สปาย…” ส่งเสียงออกไปอีกครั้ง
“โซดา…” มีเสียงตอบกลับมาแล้ว! แต่น้ำเสียงแปลกไปจนคนฟังตกใจ
…ทำไมสปายเสียงสั่นขนาดนั้น!
“โซดา…แกไม่เป็นอะไร..ใช่ไหม..?” น้ำเสียงของสปายสั่นจนโซดาใจเสีย
“สปาย..แกอยู่ตรงไหนน่ะ…” หันซ้ายหันขวาจับทิศทางของเสียง
“อยู่นี่…” เสียงสั่นๆตอบกลับมา
โซดาหันหลัง พยายามเอี้ยวตัวหาสปาย ไม่ต่างจากสปายที่พยายามเอี้ยวตัวหาโซดาเช่นกัน
“ฉัน…มองอะไรไม่เห็น” สปายครางเบาๆ
“ฉันก็มองไม่เห็น”
“ทำอะไรกัน?!” เสียงตวาดดังมาจากด้านหน้า โซดาและสปายชะงักนิ่ง
ทั้งสองคนจำเจ้าของเสียงนี้ได้ดี…
ไอ้เพียว!
“มึงโปะยาสลบยังไงของมึงวะ ทำไมพวกมันฟื้นเร็วแบบนี้?” เพียวหันไปเอาเรื่องกับลูกน้องที่นั่งข้างคนขับของรถตู้
โซดาได้ยินเสียงลูกน้องของไอ้เพียวแก้ตัวกลับมา
…ไม่รู้ว่าโซดาคิดไปเองหรือเปล่า…เสียงมันฟังดูคุ้นๆ
คิดแล้วก็ได้แต่หัวเราะเยาะกับความคิดตัวเอง
…ไม่แปลก…เพราะโซดา”เคย”รู้จักลูกน้องของไอ้เพียวทุกคน
โซดาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่นานเหลือเกินในความรู้สึกของโซดา… แรงหยุดรถพร้อมเสียงเปิดประตูทำให้โซดาเดาว่าคงมาถึงที่หมายของพวกมันแล้ว
“ลงมา”
ไม่นานโซดาก็รู้สึกถึงแรงฉุดที่แขน โซดาได้ยินเสียงสปายร้องเบาๆ
“เดินไป” เสียงสั่งดังมาจากด้านหลัง ไม่ใช่เสียงไอ้เพียว โซดายื้อตัวไว้ ต้องการแน่ใจว่าสปายอยู่ไม่ห่าง แต่ก็เท่านั้น โซดาถูกผลักให้เดินตรงไป
โซดาถูกดันตัวเลี้ยวเข้าไป ทำได้เพียงยืนนิ่ง ไม่รู้ว่าที่ไหน…คงเป็นห้องโสโครกที่โซดาต้องนอนคืนนี้มั้ง…
“อย่าโดนตัวกู!” เสียงสปายดังมาจากด้านหลัง โซดาหันขวับ พยายามเดินเข้าไปหาเสียงนั้น
“สปาย!” โซดาร้องลั่น สปายได้ยินเสียงเพื่อตัวเองก็เดินเข้าหา
โซดาและสปายพยายามยื่นมือหากัน แต่เพราะมือที่ถูกมัดไขว้หลังทำให้ขยับตัวลำบากจึงทำได้เพียงยืนชิดกันไว้
“พวกเธอนอนที่นี่นะ” เสียงที่สั่งโซดามาตั้งแต่ลงจากรถออกคำสั่งอีกครั้ง
“เดี๋ยวสิ…ทำไมรีบส่งเข้านอนจัง ยังไม่ทันได้ทักทายคนรู้จักเลย” เสียงเพียวดังขึ้น โซดาและสปายต่างหันรีหันขวางด้วยความหวาดระแวง
“แก้ผ้าปิดตาพวกมัน” เพียวออกคำสั่ง
พลันแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนสาดเข้าตา สปายและโซดาต้องหรี่ตาปรับแสงชวนแสบตานั้น
ดวงตาใสสองคู่ส่งสายตาเคืองโกรธไปยังร่างสูงใหญ่ของเพียว ไล่สายตามองรอบห้อง ในห้องนี้มีโซดา สปาย เพียวและร่างผอมแห้งของใครอีกคน พลันสปายและโซดาต้องชะงักนิ่งกับร่างผอมแห้งนั้น …ร่างคุ้นตาที่ไม่น่ามาอยู่ตรงนี้ได้
สปายและโซดามั่นใจว่า เวลาแบบนี้คนผู้นี้ต้องถูกกักขังอยู่ในคุก
…ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ไอ้ต้อง!
“มัวแต่มองหน้ากันอยู่นั่นแหละ จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือไง?” เพียวเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกไร้พนักตัวเดียวในห้อง
โซดานึกถึงเสียงที่ออกคำสั่งโซดาตั้งแต่ลงจากรถและเสียงที่พูดคุยกับไอ้เพียวบนรถ…เสียงที่โซดารู้สึกคุ้นหู….ในที่สุดโซดาก็ได้รู้…ว่าเจ้าของเสียงคือใคร …
โซดาขมวดคิ้วแน่น ชั่ววินาทีหนึ่งโซดาเผลอสบตากับต้อง แต่ทว่าคนที่เสหลบตาก่อนคือมัน
โซดารู้สึกถึงแรงเบียดกระแซะจากคนข้างๆ…แรงสั่นจากร่างของสปายส่งมาถึงโซดา
โซดาพยายามสบตากับสปาย…แต่ทว่า สายตาของสปายเอาแต่นิ่งมองต้อง ความชิงชัง ความรังเกียจ ปรากฏอยู่ในสายตาของสปาย
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” โซดาพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ตื่นตระหนก สายตารังเกียจถูกส่งไปยังต้องไม่ต่างจากสปาย
“คิดว่าจะไม่ถามคำถามนี้ซะแล้ว” เพียวหัวเราะเบาๆ “ฉันพามาเอง กะว่าถ้ามีคนรู้จักของพวกเธออยู่ด้วย น่าจะทำให้พวกเธอไม่เหงา” เพียวยกยิ้ม
“อีกอย่างนะ…การทำงานกับคนที่มีความแค้นส่วนตัวนี่งานเดินเร็วนักล่ะ …ฉันแค่บอกมันว่า มันจะทำอะไรพวกเธอเมื่อไรก็ได้ มันก็ตอบตกลงแทบไม่ทัน” เพียวหันไปทางต้อง ต้องเพียงยืนกุมมือก้มหน้า
“ฉันไม่ได้ประกันตัวแกมาให้ยืนนิ่งแบบนี้นะ”
ต้องก้มหน้า เอ่ยตอบเสียงสั่น “…ขอโทษครับ”
เพียวหัวเราะลั่น “หน้าที่แกคือเฝ้าเด็กสองคนนี้ไว้ ระหว่างนั้น อยากจะทำอะไรกับพวกมันก็ตามใจ”
เพียวลุกขึ้น กำลังจะเดินออกไป แต่กลับหมุนตัวเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“ฉันว่า…ให้สปายอยู่กับไอ้ต้องดีกว่า…” เพียวตรงเข้ามาจับแขนโซดา แรงรัดจากฝ่ามือเพียวไม่น้อยนัก โซดากัดฟันแน่น ไม่กล้าเอ่ยถ้อยคำใด กลัวเสียงร้องเล็ดลอดออกมา
“เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลยนะโซดา” เพียวลากตัวโซดาออกไป
“โซดา!” สปายร้องลั่น กำลังจะก้าวเท้าตามแต่ต้องชะงัก ร่างของต้องขวางไว้ทั้งร่าง สปายถอยหลังหนีไปสุดมุมห้อง
“อยะ…อย่าเข้ามานะ….” สปายสบตาต้องนิ่งงัน
ต้องเบือนหน้าหนี หัวเราะขึ้นจมูกเบาๆก่อนเดินออกไปจากห้อง
สปายสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงปิดประตู…
แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนสาดส่องทั่วห้อง
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน สปายไม่เจอใครเลย…
…ห้องนี้มีเพียงเสื่อขาดวิ่นม้วนลวกๆอยู่มุมห้อง สปายนอนบนเสื่อขาดๆได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่!
จากห้องนี้ มองออกไปทางหน้าต่างแทบไม่เห็นแสงไฟจากบ้านหลังอื่น มีเพียงแสงไฟลางเลือนจากถนนแคบๆในซอย ไกลสายตาไปเล็กน้อยมีเพียงความมืดที่ปกคลุมกอหญ้าคาสูงชัน มองดูแล้วแทบไม่ต่างอะไรจากทุ่งหญ้าคาผืนกว้าง
สปายอยากหนีออกไปจากที่นี่! แต่เหล็กดัดตรงหน้าต่างบอกสปายว่าถ้าจะหนีคงทำได้ไม่ง่ายนัก …น้ำใสๆเอ่อคลอหน่วยตา…มืดแปดด้าน
…ป่านนี้โซดาจะเป็นยังไง ไอ้เพียวมันทำอะไรโซดา!
พลันคล้ายได้ยินเสียงกุกกักจากประตู สปายหันขวับ ร่างน้อยๆสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว เสียงกุกกักหน้าประตูเงียบไปแล้ว แต่กระนั้น สปายรู้สึกได้ว่าร่างกายตัวเองยังคงสั่นเทาไม่หยุด
เป็นครั้งแรกที่สปาย…เกลียดการอยู่คนเดียว
ร่างของโซดาถูกผลักเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆห้องหนึ่ง สิ่งแรกที่โซดาเห็นคือความมืด สายตาที่กำลังปรับชินกับความมืดต้องหรี่ตาปรับแสงเมื่อแสงสว่างวาบจากหลอดไฟสาดส่องทั่วห้อง
โซดาถูกโยนลงบนพื้นห้อง เสื่อน้ำมันสีซีดรองรับร่างของโซดาไว้
บานประตูปิดลง โซดากวาดสายตามองรอบห้อง ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้นอกจากโซดาและไอ้เพียว!
“ได้อยู่ด้วยกันสักที” เพียวว่าพลางถอนหายใจเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่นั่งยองๆตรงหน้าโซดา ร่างเล็กกระเถิบหนี เพียวหัวเราะเบาๆ
“ทำอย่างกับไม่เคยอยู่กับฉันสองคน…” เพียวจับข้อเท้าโซดา ลากร่างเล็กๆเข้าหาตัว โซดาหงายหลัง ข้อศอกครูดพื้น …แม้จะเจ็บตัว…แต่ไม่มีเสียงร้องเล็ดลอดออกมาเลยสักนิด
“อย่าโดนตัวกู!” โซดาเอ่ยเสียงสั่น เท้าเล็กดิ้นหนีมือของเพียว มือเล็กๆทั้งสองข้างที่ถูกมัดไขว้หลังไว้ทำให้โซดาขยับตัวอย่างลำบาก
“อยากรู้จริงๆเลย ทำไมเธอต้องหนีฉันไปด้วยนะ ทั้งๆที่ตัวเธอเองเป็นคนเข้ามาขอทำงานกับฉัน” เพียวว่าพลางแก้เชือกที่ข้อมือโซดาออก โซดาได้โอกาส ผลักเพียวออกห่างก่อนวิ่งไปทางประตู แต่แน่นอน…ช้ากว่ามือของเพียวที่ยื่นมารั้งแขนโซดาไว้
“คิดว่าจะหนีได้เหรอ? ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น…” เพียวกระชากร่างโซดาโยนลงพื้น ร่างเล็กก้นกระแทก หงายหลัง พื้นแข็งๆที่รองรับทำเอาโซดาจุกจนต้องงอตัว
“ปล่อยกู!!” โซดาปัดมือเพียวที่ลูบไล้ข้างแก้ม เพียวยกยิ้ม
“ยังนุ่มมือไม่เปลี่ยนเลยนะ…”
โซดากำมือแน่น รัวทุบร่างสูงใหญ่ของเพียวแต่ทว่าเพียวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิด กลับรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างแน่น ขึ้นคร่อมโซดาทั้งร่าง
“มึงจะทำอะไร?!” โซดาร้องลั่น น้ำตาที่กลั้นมาไว้ตลอด ค่อยๆไหลทะลัก
“เช็คของไง!” เพียวกดข้อมือโซดาแนบพื้น สบตากับคนใต้ร่าง
“มึงรู้ไหม! ตอนนั้นที่มึงหนีกูไป กูต้องขาดทุนเท่าไร! ไอ้เสี่ยที่มันซื้อตัวมึงไว้ มันเอาเรื่องกูเกือบตาย!” เพียวตวาดลั่น ใบหน้าไร้รอยยิ้ม แต่ไม่ทันไรก็ปรากฏจุดยิ้มมุมปาก “ตอนนี้กูได้ตัวมึงมาแล้ว… แถมได้ตัวเพื่อนมึงมาอีก …ถ้ากูเอาไปเสนอขายพวกเสี่ยกระเป๋าหนัก มึงว่ากูจะได้เงินเท่าไร?” เพียวหัวเราะลั่น
“…ถ้ามึงอยากได้เงิน กูหาเงินมาคืนมึงก็ได้! แต่มึงต้องปล่อยสปายซะ! สปายไม่เกี่ยว!” โซดาเอ่ยเสียงสั่น
เพียวยกยิ้ม ไม่สนใจคำพูดของโซดาแม้แต่นิด เพียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนหมด ถอดเสื้อเชิ้ตโยนไว้ข้างตัว โซดาเบิกตากว้าง ร่างเล็กดิ้นหนีลนลาน
“จะดิ้นทำไมนักหนา นอนอยู่เฉยๆได้ไหม?” เพียวตรงเข้าปลดกางเกงขายาวของโซดา โซดาทั้งผลักทั้งทุบ แต่ไม่เป็นผล …เชือกเส้นเดิมที่เพิ่งถูกแก้ออก เพียวหยิบมันมาใช้อีกครั้ง เพียวมัดรวบมือทั้งสองข้างของโซดาไว้เหนือศีรษะ
“ไหนดูสิ…ยังทำงานได้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่า” เพียวกระชากกางเกงโซดากองไว้ที่ข้อเท้า เรือนร่างขาวเนียนปรากฏแก่สายตา
“ปล่อยกู! อย่า! ไม่!” โซดาร้องลั่น
เพียวไม่ได้สนใจเสียงร้องนั่นแม้แต่นิด มือหยาบใหญ่ตรงเข้าปลดกางเกงตัวเล็กที่ปิดบังอวัยวะต้องห้าม สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาชวนให้เพียวร้องว้าวเบาๆ
“น่าชมเหมือนเคยเลยนะ” เพียวกระเซ้า โซดาดิ้นพล่าน น้ำตาไหลพราก ใบหน้าใสสะบัดไปมา
เพียวยื่นมือกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่อ่อนตัวอยู่ตรงหน้า โซดาร้องลั่น
“ไม่!!!”
เพียวขยับมือที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่าง ดึงเข้าดึงออกจนสิ่งที่อยู่ในมือค่อยๆผงาดตัวขึ้น
“ไม่เลวนี่” เพียวหัวเราะเบาๆ โซดาหายใจหอบ
เพียวก้มหน้า ลิ้นหยาบตวัดส่วนหัวเข้าปาก โซดาดิ้นพล่าน
“อ่ะ…อึก …หยุด!!!”
เพียวชะงัก เงยหน้าสบตาโซดา
“ว่าไงนะ? หยุด เหรอ? “ เพียวกดนิ้วโป้งลงบนรอยแยกตรงส่วนหัว บดขยี้แรงๆ โซดาสะบัดหน้าไปมา ปรือตามองมือหนาของเพียว เพียวหัวเราะเบาๆอย่างถูกใจ
“อึก…หยุด….กะ….กูบอกให้หยุด!!!”
“จะให้หยุดจริงๆเหรอ?”
เพียวขยับมือ ดึงส่วนที่ตั้งชันเข้าออกแรงๆ เพียวแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆก่อนก้มหน้าใช้ปากครอบครองสิ่งที่อยู่ในมือ เพียวดูดอมไว้ทั้งลำ
“ไม่!!! อ๊ะ!!!”
ร่างเล็กบิดซ้ายขวา สะบัดหน้าไปมา ดวงตาใสปิดสนิท มือเล็กกำแน่น กัดริมฝีปากตัวเองจนของเหลวสีแดงเปรอะมุมปาก
เสียงน่ารังเกียจของผิวเนื้อกระทบริมฝีปากดังเป็นระยะ …เสียงน่ารังเกียจที่โซดาไม่ได้ยินมานาน
โซดาไม่อยากได้ยินมันอีก!
พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น เพียวผละริมฝีปากออก โซดาบิดตัวเร่า
“เข้ามา!” เพียวตะโกนตอบกลับไป
ประตูเปิดออกก่อนเผยร่างของชายชุดดำสองคน …พวกนั้นไม่สนใจร่างโป๊เปลือยของโซดาเลยแม้แต่นิด ไม่สนใจว่าเจ้านายของพวกมันทำอะไรอยู่
“มีอะไร?”
“เด็กผู้หญิงสองคนขู่จะฆ่าตัวตายครับ กำลังอาละวาดอยู่ที่ชั้นสาม”
เพียวย่นคิ้ว “อะไรนักหนาวะ?”
เพียวหันมาสบตากับร่างเล็กที่กำลังบิดไปบิดมาอยู่ใต้ร่าง เพียวยกยิ้ม
“ออกไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”
เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมๆกับที่ร่างของชายชุดดำทั้งสองคนหายลับไป
“โทษทีนะโซดา…ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ “ เพียวผละออกจากร่างเล็ก หยิบเสื้อเชิ้ตมาสวม ไล่ติดกระดุมลวกๆ
“ถ้าเด็กพวกนั้นฆ่าตัวตายขึ้นมา ฉันต้องขาดทุนอีกแน่ๆเลย” เพียวสบตากับโซดา …ไล่สายตามองอวัยวะเบื้องล่างของร่างเล็กที่กำลังชูชันรอการปลดปล่อย
เพียวส่งยิ้มให้ โซดาปรือตามอง…สติที่ไม่เต็มร้อยและความอึดอัดในร่างกายทำให้โซดาเผลอส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เพียว
“อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ” เพียวหัวเราะลั่น
โซดากัดริมฝีปากแน่น รั้งสติเข้าร่าง
“หลับฝันดีนะโซดา…” ประตูปิดลง เพียวออกไปแล้ว…
….ทั้งห้องเหลือเพียงโซดาคนเดียว
ร่างเล็กดิ้นไปมา พยายามชันตัวลุกนั่ง แต่มือทั้งสองข้างที่ถูกมัดรวบเหนือศีรษะทำให้ขยับตัวลำบาก
ความอึดอัดกระจายทั่วสรรพางค์กาย ความรู้สึกของโซดาในตอนนี้มีเพียง…ต้องการปลดปล่อย
โซดาคิดอะไรไม่ออก ปล่อยให้ร่างกายทำตามสัญชาตญาณ
ร่างน้อยๆค่อยพลิกตัวนอนคว่ำ แนบส่วนที่ต้องการปลดปล่อยกับพื้นห้อง สะโพกเล็กบิดเร่า ร่อนซ้ายขวา ขยับสะโพกกดส่วนกลางลำตัวแนบสนิทกับพื้นแรงๆ ร่อนสะโพกขึ้นลง หมุนวนเป็นวงกลม
“อึก…”
ร่างเล็กเกร็งกระตุก บดขยี้ส่วนกลางลำตัวกับพื้นแรงขึ้น ขยับสะโพกขึ้นลงเร็วๆ …รู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณทางออกของท่อนลำ ร่างเล็กขยับสะโพกแรงๆถี่ๆอีกสามครั้งก่อนปล่อยน้ำนมเปรอะเต็มกางเกง
โซดาค่อยๆพลิกตัวนอนหงาย หายใจหอบ มือเล็กกำแน่น หลับตาลง
…ปล่อยให้น้ำใสๆค่อยๆรินไหลจากดวงตา…
แค่ทำงานกลางคืน
โอ้…..พอก่อน เดี๋ยวน้องโซดาเป็นลม
…จริงๆแล้วแอมใจดีนะคะ> < ที่ต้องใจร้ายกับน้องโซดาและน้องสปายเนี่ย…แอมเจ็บปวดมาก T T #วิ่งไปร้องไห้
ตอนนี้ก็….มาเร็วแฮะ #ตกใจตัวเอง
แรงใจและแรงทวงยังได้ผลเสมอนะคะ
ลงนิยายแล้ว~~ ไปวิ่งเล่นได้ ฮ่าๆๆ
เจอกันตอนต่อไปค่ะ