
รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบห้า
“เธอคือสิ่งที่ฉันตามหา คือสิ่งที่ฉันขาดหาย
มาเปลี่ยนชีวิตในวันนี้
เธอคือคนที่ฉันใฝ่ฝัน คือคนที่ฉันเฝ้ารอ
เพียงพอแล้วแค่มีเธอกับฉัน อยู่เคียงข้างกันตลอดไป”
“ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
จะไม่ปล่อยเวลาให้เสียอีกแล้ว
จะใช้เพื่อทำให้เธอได้รู้ว่า
เธอมีความหมายเพียงใดสำหรับฉัน”
“เพราะเมื่อได้พบเธอ เธอเปลี่ยนให้โลกนี้ไม่เหมือนเก่า
เพราะเมื่อได้พบเธอ เธอทำให้ฉันนั้นได้เข้าใจ
เวลาที่เสียไป..ฉันเสียไปเพื่อรอพบใคร”
(สิ่งที่ตามหา Getsunova)
http://www.youtube.com/watch?v=N0pD9fLpKmo

“กู...กูแค่มีความสุข”
ผมเผลอหลุดปากออกไป
ทั้งๆที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำตัวเองให้ “คลีน” เสียก่อนที่จะเผยความในใจออกมาให้วินรับรู้
หน้าแดงๆที่ก้มงุดจนเห็นแต่ใบหูแดงๆอยู่ตรงหน้า
ทำให้ผมต้องใช้พลังงานมากมายในการหักห้ามใจ
เพราะตอนนี้ผมอยากจะรวบตัวบางๆหอมอ่อนๆของวินเข้ามากอดแน่นๆ
แล้วกระซิบข้างหูมันเบาๆ....
ผมอยากสารภาพความรู้สึกดีๆ ผมอยากรู้ว่าวินใจตรงกับผมมั๊ย หรือผมคิดไปเองข้างเดียว
วินก้าวเดินจากไป ผมได้แต่นั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัยตามเดิม
ผมมักจะมองตามหลังวินไปจนลับสายตาแล้วจึงจะขับรถไปที่คณะของตัวเอง
มาถึงนาทีนี้ผมยอมรับว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อวิน มันข้ามขั้นรุดหน้าไปเร็วมาก
และผมก็รู้ว่าปัญหาอุปสรรคของผมที่มันมากมายรอผมอยู่ในอนาคตแน่นอน
แต่ผมก็พร้อมที่จะสู้เพื่อให้ได้วินมาอยู่เคียงข้างครับ
วินเดินไปถึงโต๊ะหน้าคณะก็มีเพื่อนๆเข้ามาทักทาย
วินโดดเด่นเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กับใคร
แต่อีกคนที่สะดุดตาผมในวันนี้...
“ไอ้ปาล์ม”
พวกมันทั้งสองคนดูสนิทสนมกันดีเกินไปนะผมว่า
น่าแปลกที่วินยอมให้ปาล์มกอดคอ
แล้วทำไมไอ้ปาล์มมันต้องกัมตัวลงไปกระซิบข้างหูวิน
แล้วทำไมไอ้วินต้องเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานๆให้ไอ้ปาล์ม
แล้วทำไมไอ้ปาล์มต้องขยี้มือลงไปบนผมนิ่มๆของวินด้วยวะ
ทำไมๆๆๆๆๆๆ
ผมทุบกำปั้นลงกับพวงมาลัยรถอย่างเหลืออด ผมช้าไม่ได้แล้วครับ
ไอ้ปาล์มมันก็ไม่ได้ด้อยกว่าผมมากนัก วินที่เหงาๆเศร้าๆอาจเผลอใจไปกับมันได้

“รุจน์...มึงกับปาล์มถึงไหนแล้ววะ”
ผมถามไอ้รุจน์
ก็ตั้งแต่วันที่มันแยกตัวออกไปห้องพยาบาลกันสองคน มันก็ไม่ยอมเล่าอะไรเลย
“ก็...ก็ไม่มีอะไรนี่”
ไม่มีแต่หน้ามันแดง
“รุจน์...กูขอร้องมึงบอกกูมาตรงๆเหอะว่ามึงสองคน....”
ผมอยากรู้ว่าไอ้ปาล์มมันชอบผู้ชายรึเปล่า
ตั้งแต่รู้จักมันมา ผมว่าผมไม่เคยเห็นมันควงใคร หรือคบใครจริงจังเลยนะ
“กูไม่รู้ว่าปาล์มเขาจะชอบ..ชอบกูรึเปล่า
เราแค่คุยกันแบบเพื่อน แล้วหลังจากวันนั้นก็ได้แค่ทักทายกันธรรมดา”
แววตาผิดหวังของรุจน์ ทำให้ผมไม่อยากพูดถึงสิ่งที่คาใจผมอยู่
“มึง..กลัวไอ้ปาล์มจีบวิน...”
ไอ้ฉัตรมันรู้ทันทุกคนเสมอ
ผมพยักหน้าช้าๆแล้วเหลือบมองหน้าไอ้รุจน์ หน้ามันถอดสีทันทีที่ได้ยิน
“เขม...มึงแน่ใจเหรอว่าวินเป็นเกย์”
ไอ้โอมมันจ้องตาผมอย่างจะจับผิด
“อืมมมม...กูว่าใช่”
พวกผมสนิทกันจนไม่มีความลับต่อกัน
“ยังไงวะ”
ไอ้โซลถาม
“กูจะ..จูบ....”
ผมไม่อยากกินในที่ลับ แล้วมาขยายในที่แจ้ง มันไม่แฟร์กับวิน
“อะไรนะ..มึงกับวิน...”
ไอ้โอมเหมือนจะตกใจเกินเหตุ ผมกลายเป็นฝ่ายหน้าถอดสีเสียเอง
พวกเพื่อนๆมันจะรับได้มั๊ยถ้าผมจะบอกว่า..
“ผมรักวิน”

“ป๊าบ...มึงจะแกล้งไอ้เขมมันทำไมวะ ดูหน้ามันดิ ฮาโคตร..ฮะ ฮะ”
ไอ้โซลตบหัวไอ้โอม คำพูดของมันทำให้ผมใจชื้นขึ้นมา
“พวกมึงจะว่าจะด่าอะไรกูก็ยอม กูจะจีบวิน”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้ล้อเล่น
“เครียด...มึงซีเครียสจริงเหรอวะ...ลุคนี้อย่างแมน”
ไอ้โอมมันทำภาษาวิบัติ
“มึงต้องเคลียร์กับหลิน”
ไอ้ฉัตรมันพูดขึ้นมาลอยๆ
“พวกมึง...รับได้”
ผมถามพวกมันอีกครั้งเอาให้ชัดกันเลยว่าพวกมันจะหนุนหลังผม
“เออ”
พวกมันรับปากพร้อมกับพยักหน้า
“ขอให้ไอ้เขมเป็นเกย์คนสุดท้ายในกลุ่มนะโว๊ย ชายสาม เกย์สองพอแล้ว”
ไอ้โซลมันชี้หน้าเพื่อนไปทีละคน
“กูขอให้มึงเป็นรายต่อไป...เพี้ยง”
ไอ้โอมมันยกมือขึ้นพนมกลางอก แล้วยกขึ้นเหนือหัว

“ป๊าบ...เชี้ยโอม”
ไอ้โอมโดนโบกเป็นครั้งที่สอง
รุจน์ดูเงียบไป มันคงกังวลที่ไอ้ปาล์มมันใกล้ชิดกับวิน ผมก็กลัวไม่น้อยไปกว่ามัน
“รุจน์...มึงกับกู...เรามาสู้ไปด้วยกัน”
ผมยื่นมือไปให้มัน ไอ้รุจน์ขมวดคิ้วดูลังเลเล็กน้อย
“ตกลงเขม...เราจะช่วงชิงคนที่เรารัก”
ไอ้รุจน์ยื่นมือมาจับมือผมแล้วบีบแน่น ผมบีบมือตอบกลับไป
แม้จะยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะทันการมั๊ย
“มึงต้องรีบเคลียร์กับหลิน ก่อนที่ไอ้ปาล์มจะคาบไปแดก”
ไอ้ฉัตรพูดแล้วบุ้ยปากไปด้านหลังผม
ไอ้ปาล์มเดินกอดคอวินเดินตรงมา
มืออีกข้างของไอ้ปาล์มถือหนังสือหลายเล่ม ในขณะที่วินเดินมือเปล่า
“มึงดู...ถ้ามันไม่จีบวินกูให้เตะเลยว่ะ”
ไอ้โอมมันจะพูดสิ่งที่ผมกำลังคิดทำไมนะ
“นั่งด้วยสองคนน้า”
ไอ้วินส่งเสียงและยิ้มหวานๆมาให้ทุกคน ยกเว้นผม ผมรู้มันไม่ได้โกรธอะไรผม
เพราะมันหน้าแดงตอนที่สบสายตานิ่งๆของผม
ผมพยายามปั้นสีหน้าให้ปกติ ทั้งๆที่ภายในใจเริ่มหงุดหงิด
“วิน...อยากกินอะไรครับ”
มันสองคนยังยืนกันอยู่ที่โต๊ะหลังจากวางของลงแล้ว
“อืมมมม...บะหมี่ต้มยำม๊ะ...วินอยากกิน”
เสียงและรอยยิ้มอ้อนๆของวิน...เป็นผมๆก็คงต้องตอบเหมือนไอ้ปาล์ม
“ครับๆ...จัดให้ครับ”
“แล้วปาล์มเอาน้ำไรอ่ะ”
โครงหน้าด้านข้างของวินน่าดูมากครับ เหมือนภาพวาด มันดูอ่อนหวานอ่อนโยน
จนผมอยากตอบว่า...
“น้ำวิน...ได้ป่ะ”

“มึงเป็นไรวะ”
ไอ้โอมกระซิบถามที่เห็นผมสะบัดหัวแรงๆ ขับไล่ความคิดอุบาทว์ของตัวเอง
“คิดลามกสิมึง”
ไอ้ฉัตรตอบแทนผม พร้อมกับรอยยิ้ม..แสยะ
“แสนรู้ว่ะ”
ผมกัดฟันตอบมัน
“ซี๊ดดด...อ่า....หร่อยจัง...ซู๊ดดดด”
เส้นสีเหลืองของบะหมี่ตัดกับริมฝีปากแดงๆอย่างน่าดู
เส้นบะหมี่ที่ถูกดูดหายเข้าไปในปากบางๆที่ห่อปาก
ทำให้พวกผมกลืนน้ำลายเอื้อก
“เขมอยากกินเหรอ”
วินมันลืมตัวเมื่อเงยหน้าขึ้นมาในจังหวะที่ผมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับมัน เผลอกลืนน้ำลายที่สอขึ้นมา
“ปะ...เปล่า..กูไม่อยากกิน”
ผมร้อนหน้าว่ะ
“อ้าว...เห็นกลืนน้ำลาย..คริคริ”
วินมันหัวเราะคิกคักถูกใจ

เสียงหัวเราะของมันใสเหมือนเด็ก ผมชอบจังเวลามันยิ้มหัวเราะ ร่าเริง
มันเป็นคนที่ยิ้มทั้งหน้า ตาและปาก แต่ตอนนี้ปากแดงของมันเจ่อขึ้นมาจากความเผ็ดร้อนของบะหมี่ต้มยำรสจัด
ปากเห่อๆแดงๆมันเลื่อม...น้องกูปวดหนึบ เมื่อคิดไปไกล

ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาหวานๆของมัน ไม่มีวี่แววเสแสร้ง มันดูใสซื่อเหลือเกิน
แล้วคนแบบผมที่โชกโชนมาไม่น้อยจะคู่ควรกับมันมั๊ยนะ
วิน...มึงจะรอกูมั๊ย
“เขม...เขม...วู๊....”
“หืมมมม...”
ผมหลุดจากความคิดของตัวเองที่ล่องลอยไปไกล
“ใจลอยไปหาใครเอ่ย...”
วินที่เรียกผม ถามต่อด้วยการยื่นหน้าและเอียงคอน้อยๆอย่างน่าเอ็นดู
“เย้ย....”
ไอ้วินผงะไปด้านหลัง
เมื่อผมเผลอยื่นมือข้างหนึ่งไปแตะริมฝีปากแดงๆของมัน
ทุกสายตาของคนร่วมโต๊ะจ้องมาที่ผมเป็นจุดเดียว
“มึง...มึงคิดจะทำอะไรวะ”
ไอ้ปาล์มมันชี้หน้าผมแล้วส่งผ้าเช็ดหน้าสีอ่อนของมันให้วิน
“กู..กู...”
ผมไม่เคยต้องตกอยู่ในสภาวะถูกจับผิดแบบนี้

“ไม่มีอะไรหรอกปาล์ม เขมคงจะเช็ดปากให้เราน่ะ”
วินมันแก้ตัวแทนผม หน้าของมันแดงจนเห็นได้ชัด
เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมตามไรผม และปลายจมูก
ผมต้องตั้งสติเมื่อเกือบจะเผลอยื่นมือไปเช็ดเหงื่อที่ปลายจมูกของวิน
นี่ผมเป็นอะไรไป
เข้าใกล้ไอ้วินทีไรเป็นอยากสัมผัสตัวมันอย่างห้ามใจไม่อยู่
เหมือนขั้วแม่เหล็กที่ต่างขั้วกัน มันมักจะถูกดึงดูดเข้ามาหากัน
ผมสะบัดหัวอีกครั้งจนเริ่มมึน
“ไม่จำเป็น ทีหลังมึงไม่ต้องมายุ่งกับวิน”
ไอ้ปาล์มมันพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“นายพูดแบบนี้ได้ไงปาล์ม ทำไมนาย...”
รุจน์ที่นั่งฟังเงียบๆอยู่นานถามขึ้นมาเบาๆ
ผมเห็นใจมันนะที่หลงรักไอ้ปาล์มอยู่ข้างเดียว
“ก็...ก็วินเป็นเพื่อนปาล์ม”
น่าแปลกที่เสียงตอบของปาล์มดูอ่อนแรง
“แล้ว..ถ้าเป็น...เรา...”
ไอ้รุจน์มันจะร้องไห้อยู่แล้วครับ
มันเป็นคนที่จิตใจดีแต่ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย โดยเฉพาะเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับปาล์ม
“ก็...ก็...”
ปาล์มมันลังเล
“โห...ไม่ต้องแย่งกัน ได้ทู้กคน คริคริ”

ไอ้วินมันช่างน่าลากกลับห้องเหลือเกิน ยั่วจริงไรจริง
บางครั้งดูใสซื่อเหมือนผ้าขาว แต่บางครั้งมันก็เหมือนแมวตัวน้อยที่คลอเคลียยั่วยวน
ครั้นพอผมจะเอื้อมมือไปจับ มันก็กระโดดแผล็วหลบหนีหายไป

*****************************************************************************
“วันนี้มึงไปกินข้าวเย็นกับพวกไอ้รุจน์นะ แล้วกลับหอกับพวกมัน กูบอกพวกมันไว้แล้ว”
หลังจากที่วินมันนั่งในรถของผมเรียบร้อยแล้ว ผมก็พูดขึ้นมา
“......”
ไม่มีคำตอบรับจากคนข้างๆ จนผมต้องหันกลับไปมอง
ตาหวานที่เบิกโตขึ้นเล็กน้อย และแววตาตัดพ้อที่ผมเห็น ทำให้ผมใจอ่อน
“นะครับ....กู...เอ่อ...มีธุระ”
โทนเสียงของผม มันกลายเป็นโทนที่มักใช้กับสาวๆโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผมอยากชดเชยให้มัน ผมไม่อยากเห็นหน้าเศร้าๆของมัน
“อื่อ...”
วินมันพยักหน้าแล้วก้มลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่บนตัก

“วินครับ เขมมีธุระจริงๆ แล้วเจอกันที่ห้องนะ”
ผมจับมือวินเอาไว้ ก่อนที่วินจะก้าวลงจากรถ
ผมขับรถมาส่งวินที่ร้านข้าวหน้าม.ที่พวกเพื่อนผมนั่งรออยู่ตามที่ผมสั่ง
“อื่อ..”
วินบิดข้อมือของมันให้หลุดจากมือผม
แต่แรงมดแบบมันไม่มีทางทำได้ ถ้าผมไม่ผ่อนแรงให้
“ปล่อยสิ จะลง”
หน้างอๆ สายตาค้อนขวับ เอ่อ...มันงอนผมเปล่าวะ
“ก็...วินไม่ยอมพูดกับเขมนี่นา”
ผมส่งสายตาอ้อนๆ ซึ่งก็ได้ผล เมื่อวินได้ยินแล้วหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
“ก็...ไม่รู้จะพูดไรอ่ะ”
ริมฝีปากบางมุบมิบ
“วิน...กู...เอ่อ...กู...ชะ..ชอ...บ.....”
ผมเชยคางเรียวของวินให้เงยขึ้นมา
ริมฝีปากตรงหน้ามันดึงดูดผมเข้าไปหา

“ก๊อกๆ....”
เสียงเคาะกระจกด้านที่วินนั่งอยู่
ทำให้ผมกับวินผละออกจากกัน

*****************************************************************************
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และการติดตามครับผม
สิ่งใดที่พอจะเซอร์วิสคนอ่านได้ หากไม่หลุดออกนอกเนื้อเรื่อง
ไอ้หน่อยก็ยินดีตอบสนองครับผม
ขอบคุณ...คุณ Boyslover ครับผม แต่แค่ลิ้งก์ที่แนบมาไอ้หน่อยก็เลือดกำเดาทะลักแล้วครับ
