-->✖<โ ป ร ด จ ง รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ สิ้นปีของเรา [31/12/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<โ ป ร ด จ ง รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ สิ้นปีของเรา [31/12/2562]  (อ่าน 594856 ครั้ง)

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คนมันรักกันน่ะ
มีปัญหาขึ้นมาส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเรื่องดราม่าอะไรหรอก
ห่างกันด้วยความไม่เข้าใจและไม่สบายใจแค่ข้ามวันข้ามคืนก็ยังกับชั่วนิรันดร์
ชีวิตจริงก็ประมาณนี้แหละค่ะ
ไม่ว่าจะคู่ช-ช หรือคู่ช-ญ หรือญ-ญ
เขียนได้นุ่มนวลมากค่ะ
เนื้อเรื่องเรียบๆลื่นๆ
แต่รู้สึกได้ถึงความรักจากในเรื่อง
ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
รักคู่นี้จัง :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หวานมากมายอ่ะ. อ่านไปอิจฉาไปอะไรจะหวานขนาดนั้น.  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
คนรักกันก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง
อย่าปล่อยไว้นาน ดีที่รีบคุยกันให้เข้าใจเนาะ
รอตอนต่อไปปปป

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
พี่เมฆฆฆฆ มีร่างก๊อปปี้มั้ยคะ ขออีืกสักคนนน
ดีจังบรรยากาศเดิมๆกลับมา มีอะไรก็หันหน้าเข้าคุยกันดีกว่าเนอะ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
พี่เมฆอบอุ่นและรักจงรักมากเลย กังวลเรื่องน้องทั้งวัน
และพร้อมจะทำทุกอย่างให้น้องเชื่อใจว่าตัวเองรักมากแค่ไหน
รักก็มั่นใจเชื่อใจในตัวพี่เมฆแล้วนะ ว่าพี่เขารักรักมากขนาดไหน
ดีใจที่ทั้งสองคนคุยกันไม่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อจนมองกันไม่ติด
ดีใจที่เข้าใจกัน และต่างฝ่ายพร้อมที่จะขอโทษอีกคนแบบนี้
รักกันนานๆนะพี่เมฆจงรัก :L1:

 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ิพี่เมฆเขิน  ฮิ้วววว~

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นี่ก็แอบคิดน้า (ทำเสียงน้องแม็ค)
ว่าที่พี่เมฆถามน้องว่าหิวไหม
ไอ้เราก็นึกว่าพี่ถามเพราะถ้าน้องไม่หิวพี่อาจจะกินน้องเองเพราะพี่หิวม๊ากมาก
 :hao6:

แต่สรุปไม่หิวทั้งคู่สินะ55555

น้องน่ารัก ขอโทษก่อนเลย
คือรู้ตัวว่าผิดแล้วขอโทษ ไม่อคติ ไม่ถือศักดิ์ศรี
มันทำให้ความรักของคนสองคนดำเนินไปยาวนาน
เพราะส่วนใหญ่เหมือนพี่เมฆจะเป็นคนพูดมากกว่า
เพราะน้องดูกลัวพี่เมฆเวลาทะเลาะกัน

อิจฉาพี่เมฆจริงๆ
น้องน่ารัก
 :-[

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ค่อยโล่งอกหน่อย 


 :กอด1:

ออฟไลน์ Cream A

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
หมดดราม่าแล้ว หายใจโล่งทันที รักกันๆดีกว่า

พาร์ทนี้พี่เมฆเอาใจไปเต็มๆน่ารักอ้ะ โดดจุ๊บพี่เมฆ  // ผิด  :beat:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -->✖<โ ป ร ด จ ง รั ก>✖<-- ตอนที่ 26 [26/04/2558]
« ตอบ #969 เมื่อ: 26-04-2015 22:50:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
พี่เมฆเขินแก้มแดงเป็นสาวน้อยริรักเชียว
เปิดใจคุยกันก็ดีแบบนี้ อย่าปล่อยเวลาให้เปล่า
ไม่รู้ว่าเราจะรักกันได้นานแค่ไหน รีบๆทำให้ใจตรงกันดีที่สุด

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เยี่ยมมมมม ดีกันนน

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีใจที่ทั้งคู่ต่างพยายามแก้ปัญหาด้วยการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง
ชีวิตคู่มักจบลงเพราะมัวแต่ตั้งแง่เอาแต่ชนะกัน

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
 :o8: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ chen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อุ้ยๆ คุยกันแบบดีๆเบาๆ น่ารักอ่ะ ขอโทษกันทั้ง2ฝ่าย
มีวุฒิภาวะกันทั้งคู่ กับได้โคชปรึกษาดีๆ
ขอเชิญพี่ไอ มาจัดงานแต่งให้สองคนนี้ด่วนๆเลยค่ะ
รอมานานแล้วเนอะจงรัก ส่วนพี่เมฆก็สมหวังมีคนรักรักกันเติมเต็มกันและกันไปเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เขาดีกันแล้วอ่ะ โอ้ยยยเขิน อยากมีคนให้กอดบ้างจังเลย

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
พี่เมฆกับน้องรักเป็นอะไรที่ละมุนมาก

ต่างคนต่างเป็นคนเข้าใจง่าย ยอมรับฟังกัน แบบนี้อยู่ด้วยกันยืดมากแน่ๆจ้า

เนื้อเรื่องไม่หวือหวา แต่ละมุน และมีความรักวิ้งๆอยู่ตลอด

อ่านแล้วกระชุ่มกระชวยใจจริงๆ

คนเขียนแต่งเก่งมาก เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
ประทับใจจจจจจจจจ
เพราะรักกันอยู่แล้ว เพราะตั้งใจจะขอโทษกันอยู่แล้ว
จริงๆก็โตทั้งคู่ คิดได้เยอะกว่าเด็กๆอยู่แล้ว งือออ น้ำตาซึมเลย TT
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีแล้ว

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ดีจังเข้าใจกันแล้ววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -->✖<โ ป ร ด จ ง รั ก>✖<-- ตอนที่ 26 [26/04/2558]
« ตอบ #979 เมื่อ: 29-04-2015 01:36:42 »





ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อย่าเข้าใจผิดกันอีกเลยนะคะทั้งคู่

ออฟไลน์ gwaiplay

  • ♛ Victoria 。
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
พี่เมฆนั๊ลร้ากกกกกก  :-[ :o8:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
จบมาม่า ดีค่ะ นึกว่าจะมาม่าชามโตซะแล้ว
เอาแค่พอมีรสชาตเนอะ จากนี้จงรักก้อเชืีอที่พี่เมฆพุดบ้างนะจ้ะ

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2

ตอนที่ 27 (ตอนจบ)






   เช้านี้เป็นเช้าที่ค่อนข้างเร่งรีบพอสมควรเพราะจงรักและเมฆาตื่นสาย อันมีสาเหตุมาจากเมื่อวานเย็นขณะที่ทั้งสองคนออกไปซื้อของเข้าบ้านที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน จงรักบังเอิญเจอหนังแนวแฟนตาซีที่อยากดูมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสเพราะเจ้าตัวมักจะลืมทุกทีไป นึกได้คราวนี้หนุ่มเจ้าของร้านดอกไม้จึงไม่พลาดถือที่จะซื้อมาเสียเลย ตัวหนังมีด้วยกันถึงสามภาค และแต่ละภาคก็ยาวกว่าสามชั่วโมง ดังนั้นกว่าจะดูจบเรื่องเล่นเอาแทบไม่ได้นอนทั้งคนอยากดูและคนดูเป็นเพื่อน


   ตอนที่เมฆาอาบน้ำจงรักก็รีบลงมาเตรียมแซนวิชทูน่าทามายองเนส เอาไว้ทานคู่กับน้ำเต้าหู้งาดำที่แวะซื้อตรงหน้าหมู่บ้าน มื้อเช้าที่ควรจะได้นั่งกินกันดีๆบนโต๊ะอาหารในครัวจึงต้องย้ายมาทานบนรถระหว่างเดินทางแทน โดยคนที่ทำหน้าที่ขับรถก็ขับไปมองทางไป ส่วนคนที่นั่งข้างๆก็รับหน้าที่ป้อนอาหารให้ทั้งตัวเองและคนขับ ไม่ถึงครึ่งทางน้ำเต้าหู้งาดำกับแซนวิชก็ถูกจัดการจนหมดลงในพริบตา


   ยิ่งสายตลอดเส้นทางที่ผ่านยิ่งแน่นขนัดไปด้วยรถรา จงรักนั่งเงียบฟังข่าวยามเช้าในวิทยุและรายงานเส้นทางจราจร ลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศที่ตีเข้าหาบวกกับอาการง่วงงุนตกค้างจากการพักผ่อนน้อยทำให้เปลือกตาค่อยๆปรือลง ปากหรือก็หาววอดๆจนคนหน้าดุที่คอยชำเลืองมองนึกขำ


   “ง่วงเหรอ” เมฆาอดไม่ได้ที่จะถามทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่

   “นิดหน่อยครับ” จงรักพยักหน้ารับพร้อมกับขยี้ตาน้อยๆ

   “อย่าขยี้สิ เดี๋ยวก็ตาแดงกันพอดี” คนหน้าดุร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง

   “ก็มันง่วงนี่ครับ เมื่อคืนไม่น่านอนดึกเลย”

   “อย่าริบ่นเชียว พี่เตือนแล้วนะว่ามันดึกเกินไป เรานั่นแหละไม่เชื่อเอง”

   “ก็อยากรู้ตอนจบนี่ครับว่าโฟรโด้เอาแหวนไปทำลายได้ยังไง” ถึงจะแบ่งเป็นไตรภาคให้เลือกหยุดดูได้ง่ายๆ แต่จงรักก็ยังหักใจไม่ลงเพราะไม่อยากค้างคาในตอนจบ

   “เดี๋ยววันนี้ค่อยกลับไปดูก็ได้ อันที่จริงก็ทนอีกแค่วันเดียวเอง”

   “ไม่ได้หรอกครับ พี่เมฆลืมแล้วเหรอว่าวันนี้นัดกินเลี้ยงวันเกิดพี่เขม ผมว่ากว่าจะกลับคงดึกแน่ๆ”

   “นั่นสินะ ลืมไปเลย”


   วันนี้เป็นวันเกิดของนายเขม เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งในกลุ่มของเมฆา เจ้าของงานจึงนัดเพื่อนๆสังสรรค์กันที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง โดยที่จงรักเองก็ได้รับเชิญไปด้วย ทั้งในฐานะรุ่นน้องที่รู้จักกันมานาน และฐานะคนรักของเพื่อนสนิท


   “ลืมได้ยังไงกันครับ เมื่อวานพี่เขมเขาอุตส่าห์โทรมาเตือนอีกรอบ” จงรักว่าก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ “จริงสิ รักยังไม่มีของขวัญให้พี่เขมเลย ทำไงดี”

   “ไม่ต้องหรอก ให้อันเดียวกันกับพี่นี่แหละ”

   “พี่เมฆเตรียมของขวัญไว้แล้วเหรอครับ”

   “อืม” เมฆาตอบรับก่อนจะตั้งใจขับรถต่อไปโดยทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก


   ครึ่งชั่วโมงต่อจากนั้นเมฆาก็พาจงรักมาถึงร้าน ทั้งสองคนไม่ได้ร่ำลาอะไรมากมาย คนหน้าดุเพียงกำชับให้จงรักทานข้าวกลางวันให้ตรงเวลาเท่านั้นก่อนจะขับรถไปทำงาน ส่วนจงรักก็ยืนยิ้มหวานโบกมือให้อยู่ที่หน้าร้านจนกระทั่งรถเก๋งสีขาวเคลื่อนไปจนลับตาจึงเข้าไปเปิดร้าน








หลังจากปรับความเข้าใจกันได้ในคืนนั้นตอนนี้เวลาก็ผ่านมาราวเดือนเศษแล้ว สถานการณ์ในชีวิตประจำวันของจงรักและเมฆาดูเหมือนจะกลับมาเป็นปรกติราวกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น แต่จะว่าปรกติเสียทีเดียวก็คงไม่ได้ เพราะคนเราอยู่ด้วยกันทุกวันย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย ทว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนนั้นถือว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น


จงรักที่มักจะไม่ค่อยมีปากมีเสียง ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นมากนักเพราะเดิมมักจะปฏิบัติตัวเหมือนช้างเท้าหลังแบบสุดกู่ ยามนี้หนุ่มตัวเล็กของเมฆาเริ่มจะมีปากเสียงบ้างแล้ว ทั้งเอาใจใส่และฉอเลาะมากขึ้น รวมถึงแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาไม่ปิดบัง จะดีใจ น้อยใจ หรือแม้กระทั่งเอาแต่ใจจงรักก็แสดงออกมาหมด จนบางครั้งเมฆาแทบอยากจะหยิกเจ้าตัวดีให้แก้มโย้เพราะอารามหมั่นเขี้ยวจนทนไม่ไหว


ส่วนเมฆานั้น รายนี้แต่เดิมขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยพูด ปากหนักเป็นที่หนึ่ง คนหน้าดุมักจะพูดหรืออธิบายแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ทว่าตอนนี้กลับพูดเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ได้ปากหนักอีกต่อไปยามอยู่กับจงรัก บางครั้งนั่งทำงานแล้วคิดถึง ชายหนุ่มก็จะโทรมาบอกจงรักว่าคิดถึง หรือบางครั้งนั่งดูทีวีด้วยกันคนหน้าดุก็จะหันมาเซอร์ไพรส์โดยการกอดรัดแล้วกระซิบข้างหูว่ารัก เล่นเอาจงรักต้องคอยระมัดระวังตัวทุกครั้งว่าจะถูกทำให้ตกใจตอนไหน เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ชินที่จะทนนิ่งเฉยไม่เขินอายกับคำว่ารักของเมฆาที่พูดออกมาดื้อๆเสียที ทั้งหมดนี้เป็นผลหลังจากเหตุการณ์คราวนั้นทั้งสิ้น ทว่ามันกลับเป็นผลพวงที่ทั้งคู่ยินดีให้เกิด








ร้านอาหารกึ่งผับที่เขมเลือกอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเมฆาเท่าไหร่นัก หลังเลิกงานเมื่อไปรับจงรักที่ร้านเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงมีเวลาล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ โดยเมฆาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทากับกางเกงขายาวที่ใส่มาทำงานเมื่อเช้า เข้าคู่กับจงรักที่สวมแจ็คเก็ตลายกราฟฟิกสีเทาโทนเดียวกัน ด้านในเป็นเสื้อยืดเรียบๆสีขาวกับกางเกงขายาว


เมฆามองน้องที่พอเซ็ตผมขึ้นไปแล้วดูเด็กลงมากโขแถมยังหล่อขึ้นอีกเป็นกอง ต่างจากปกติที่แต่งตัวเรียบๆธรรมดาไม่โดดเด่น คนหน้าดุได้แต่คิดในใจว่าแบบนี้สงสัยสาวคงหันมองกันพรึบพรับเป็นแน่


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เปล่าหรอก แค่มองว่าพอเราแต่งตัวแล้วดูต่างจากเดิมเยอะเลย”

“แล้วมันดีไหมครับ”

“ดีสิ ดีมากๆเลย” อยากจะบอกว่าดูดีจนเขานึกหวงก็จะดูเป็นเด็กไปหน่อย เมฆาจึงเลิกที่จะเงียบเอาไว้

“แต่ผมว่าสู้พี่เมฆไม่ได้หรอก แค่เอาไทด์ออกธรรมดาไม่ได้เพิ่มอะไรก็ดูดีจะแย่ อย่างนี้สาวๆคงมองกันเยอะแน่เลย” จงรักว่าพลางทำหน้างองุ้ม

“หวงพี่เหรอ”

“หวงสิครับ นั่งใกล้ๆผมเลยนะ”

“ไม่บอกก็นั่งใกล้อยู่แล้วน่า ไม่ต้องห่วงหรอก” ทั้งที่แค่แกล้งถามเล่นๆ แต่คนตัวเล็กกลับตอบจริงเสียอย่างนั้น ทำเอาเมฆาเกือบไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“งั้นเราไปที่ร้านกันเถอะครับ เฮียวินไลน์มาบอกเมื่อกี้ว่าใกล้ถึงแล้ว”

“ไปสิ”


ตอนมาถึงร้านสมาชิกในกลุ่มของเมฆาก็มากันครบแล้วจงรักได้เจอคนคุ้นหน้าอย่างพวกแฟนสาวของเพื่อนพี่เมฆที่ไปค้างเมื่อคราวที่แล้วด้วย แต่ก็มีเพื่อนพี่เขมอีกสองสามคนที่จงรักไม่รู้จัก แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง ทำให้งานปาร์ตี้วันเกิดนี้ค่อนข้างสนุกดีทีเดียว


“แล้วนี่มากันครบแล้วใช่ไหม” พี่เมฆหันไปถามเจ้าของงาน

“ยังเหลือไอ้เสืออีกคน”

“เสือไหนว่ะเขม ทำไมกูไม่เห็นเคยได้ยินชื่อ” วินที่กำลังคุยกับจงรักอย่างออกรสตั้งข้อสงสัยขึ้น

“เพื่อนสมัยมัธยม กูกับมันสนิทกันมาก แต่ช่วงเข้ามหาลัยมันไปเรียนเมืองนอก เพิ่งกลับมาได้ราวๆสองสามเดือนที่แล้ว กูเลยชวนมันมาด้วย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้ากันไม่ได้นะ ไอ้เสือมันเฟรนด์ลี่” ทุกคนดูเข้าใจกันดีไม่ได้มีใครว่าอะไร เพราะเขมเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจะชวนใครมาก็ย่อมได้


ไม่นานนายเสือคนที่เขมบอกก็มาถึง เสือเป็นคนค่อนข้างสูงใหญ่หากเทียบกันก็คงพอๆกับเมฆา เขาเดินเข้ามาทักทายเจ้าของทุกคนทักทายกันด้วยดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่จงรักรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของเขาช่างให้ความรู้สึกน่ากริ่นเกรงอย่างประหลาด จนกระทั่งเสือหันไปหาใครคนหนึ่งที่เพิ่งเดินตามหลังมา แล้วดึงแขนใครคนนั้นให้ออกมายืนข้างหน้าตนเองก่อนแนะนำตัว


“นี่หนึ่งนที เรียกหนึ่งก็ได้ แฟนผมเอง” การปรากฏตัวของหนึ่งนทีทำเอาทุกคนบนโต๊ะถึงกับเงียบสนิท “มีอะไร รู้จักกันอยู่แล้วเหรอ”

“เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันน่ะ ไม่มีอะไรหรอก มึงนั่งเถอะเสือ” เขมเป็นคนแรกที่ช่วยกู้สถานการณ์เอาไว้ได้


จงรักไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาทะเลาะกับพี่เมฆเพราะหนึ่งนทีเป็นต้นเหตุคราวที่แล้วชายหนุ่มได้นำไปเล่าให้เพื่อนฟังหรือเปล่า เพราะดูท่าทางที่ทุกคนแสดงออกมาแล้วค่อนข้างอึดอัดกับการมีอยู่ของหนึ่งนทีพอควร อีกทั้งเฮียวินยังมองหน้าเขาเหมือนให้กำลังใจ จงรักจึงทำใจให้นิ่งไม่คิดอะไร ถือว่าที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป อย่างไรเสียตอนนี้เขากับพี่เมฆก็ไปด้วยกันได้ดีแล้ว หนึ่งนทีเองก็กำลังเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคน ดังนั้นจึงถือว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก


แรกเริ่มทุกคนดูจะอึดอัดอยู่เนืองๆ แต่พอเหล้าเข้าปากบรรยากาศจึงเริ่มเปลี่ยนไป เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืนจงรักเริ่มรู้สึกว่าตัวชักจะไม่ไหวจึงขอตัวไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ คิดผิดทีเดียวที่นั่งข้างเฮียวินเพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้เขาพักบ้างเลย ทั้งชวนคุยแล้วก็เติมเหล้าให้ราวน้ำใสสีอำพันไม่เคยพร่อง


พี่เมฆเองก็ดูจะใส่ใจจงรักมากกว่าที่เคย เนื่องจากตามปรกติชายหนุ่มจะไม่ค่อยแสดงออกมานักยามอยู่ข้างนอกหรือมีคนอื่นอยู่ด้วย แต่จงรักก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะรู้ว่าที่คนรักของเขาทำแบบนั้นเหตุผลคงเป็นเพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก อีกทั้งอยากแสดงให้รู้ว่าพี่เมฆคิดถึงแต่จงรักเพียงคนเดียว


มันอาจจะดูเหมือนคนคิดเข้าข้างตัวเองพอสมควร แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่เมฆทั้งแสดงและพูดให้จงรักได้รับรู้ถึงความจริงใจ ดังนั้นจงรักจึงสามารถที่จะเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นโดยที่ไม่ติดใจสงสัยใดๆอีก


หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จจงรักก็ออกมาล้างหน้าล้างตาที่อ่างล้างมือ ขณะที่กำลังใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำบนใบหน้าและมองสำรวจตัวเองในกระจกให้เรียบร้อย ดวงตาคู่โตก็มองเลยไปพบว่าหนึ่งนทียืนอยู่ที่ข้างหลังของตัวเองตอนนี้


“ช่วงนี้หน้าตาสดใสขึ้นหรือเปล่า” เป็นคำทักทายที่ฟังดูน่าดีใจ แต่จงรักคิดว่ามันเหมือนคำปะชดประชันมากกว่า

“คุณหนึ่งเองก็ดูสดใสขึ้นมากเหมือนกันนะครับ”

“ก็นะ…จะจมปรักอยู่กับความทุกข์คงไม่ได้อะไรขึ้นมา”

“ดีแล้วล่ะครับ”


ทั้งที่เป็นบุคคลที่ควรจะโกรธมากกว่านี้แต่จงรักกลับรู้สึกว่าหนึ่งนทีน่าสงสาร ที่บอกออกไปว่าดีแล้วเขาเองก็คิดว่ามันดีแล้วจริงๆไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดแฝงอยู่ทั้งสิ้น


“รู้ไหม บางทีฉันก็คิดว่าความเป็นคนดีของนายทำให้นายดูน่าหมั่นไส้เอามากๆ แต่ก็เอาเถอะ คนดีๆแบบนายก็เหมาะกับพี่เมฆแล้วล่ะ”

“ขอบคุณครับ” จงรักหมุนตัวกลับมาขอบคุณซึ่งๆหน้า แล้วว่าต่อ “ถ้าคุณหนึ่งไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ”

“เอาสิ” หนึ่งนทีเบี่ยงตัวหลบหลีกทางให้จงรักเดินออกจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันเดินสวนไป หนุ่มร่างบางก็หยิบกุญแจสีเงินดอกหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋า “ว่าแต่…ยังอยากได้นี่คืนอยู่หรือเปล่า”

“ขอคืนด้วยครับ” จงรักจำมันได้ทันทีที่เห็น แววตาคมใสวาววับสะท้อนแสงกับลูกกุญแจดอกเล็ก

“นึกว่าอยากให้ฉันเป็นคนเก็บเองเสียอีก” กุญแจดอกเล็กถูกวางบนมือที่ยื่นมารออยู่ตรงหน้าง่ายๆ

“ขอบคุณที่เอามาคืนครับ”

“ไม่เป็นไร ยังไงก็ฝากดูแลเขาด้วยนะ”

“ถึงคุณไม่บอก มันก็เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”


พูดจบจงรักก็ตั้งท่าจะเดินจากไป แต่ติดที่ร่างสูงใหญ่ของเมฆาเข้ามาขวาง หนุ่มตัวเล็กเบรกจนตัวโก่งก่อนจะชนอกกว้าง แต่ถึงอย่างไรเมฆาก็รวบเอาจงรักเข้าไปปกป้องไว้ในอ้อมกอดอยู่ดี


“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”

“เปล่าครับพี่เมฆ ไม่มีอะไร” จงรักเงยหน้าขึ้นบอกทำให้คิ้วเข้มที่ขมวดแน่นของคนตัวสูงคลายออก

“จริงนะ แล้วทำไมหายกันมานานขนาดนี้” น้ำเสียงที่ใช้กับจงรักต่างกับที่พูดกับหนึ่งนทีเมื่อกี้ลิบลับ

“ผมแค่เอากุญแจมาคืน ไม่ได้ทำอะไรแฟนพี่หรอกนะ อย่ากล่าวหากันทางอ้อมแบบนี้สิพี่เมฆ”

“ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นหายกันมานาน”

“พี่เห็นผมเป็นคนยังไง ถึงจะร้ายบ้างแต่ก็ไม่ได้เลวขนาดนั้นหรอกนะ” หนึ่งนทีว่าอย่างตัดพ้อ รู้ว่าเขามันเคยร้าย แต่ไม่คิดจะให้โอกาสเขาได้กลับตัวบ้างเลยหรือไงกัน

“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้ว เรากลับกันเถอะรัก” เมฆาคลายอ้อมกอดให้จงรักก่อนจะจูงมือน้องแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น








หลังออกมาจากห้องน้ำเมฆาก็พาจงรักเข้าไปบอกลาเพื่อนที่โต๊ะแล้วจูงน้องกลับบ้านจริงๆ ตอนแรกที่ไปถึงเฮียวินเข้ามาหาแล้วถามไถ่อย่างเป็นห่วง แต่เมื่อจงรักยืนยันว่าไม่มีอะไรทุกคนจึงวางใจ ส่วนนายเสือแฟนใหม่ของหนึ่งนทีก็หายไปตั้งแต่ที่เห็นจงรักกลับมา ไม่รู้ก่อนหน้านี้ระหว่างที่จงรักไม่อยู่มีใครพูดอะไรหรือเปล่า ทว่าจงรักก็คร้านจะสนใจอีกต่อไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการที่ได้รู้ว่าพี่เมฆห่วงเขามากแค่ไหน


ระหว่างที่เดินไปลานจอดรถมือใหญ่บีบกระชับมือของจงรักแน่น อันที่จริงก็ไม่ได้ปล่อยเลยตั้งแต่ที่ออกมาจากห้องน้ำ คนตัวสูงก้าวฉับๆคล้ายอยากจะถึงรถให้เร็วที่สุดจนบางช่วงจงรักต้องซอยเท้าถี่เพื่อให้ตามทัน กระทั่งทั้งสองคนก็เข้าไปนั่งในรถในที่สุด


“พี่เมฆเป็นอะไรครับ เมาหรือเปล่า”

“ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก ดื่มไม่เยอะ ติดจะคุยกันมากกว่า”

“ขับรถไหวไหมครับเนี่ย”

“ไหวสิ”

“ไม่เป็นอะไรแน่นะครับ”


อยากถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจเพราะจงรักรู้สึกว่าพี่เมฆดูเหมือนกำลังโกรธอะไรสักอย่างอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่า ทว่าเมฆากลับไม่ยอมตอบคำถามแต่เลือกที่จะตั้งคำถามแทน


“หนึ่งเขาไม่ได้พูดอะไรให้รักรู้สึกไม่ดีจริงๆใช่ไหม มีอะไรต้องบอกพี่นะ อย่าคิดไปเองคนเดียว” ดวงตาคู่ดุในยามนี้ทั้งอ่อนแสงและอ่อนโยนจนจงรักต้องหลุดยิ้มออกมา

“เขาแค่เอากุญแจบ้านมาคืน แล้วบอกให้ช่วยดูแลพี่เมฆดีๆเท่านั้นเองครับ”

“แล้วรักตอบเขาไปว่าอะไร”

“ก็บอกว่า ถึงคุณไม่บอก มันก็เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” จงรักทำท่าขึงขังขณะพูด ก่อนจะยิ้มหวานต่อท้าย “บอกไปแบบนั้นแหละครับ พี่เมฆไม่ต้องคิดมากนะ”

“รู้ไหมว่าพี่กังวลแค่ไหน คนดีของพี่เก่งที่สุด”


หลังจากได้ยินคำชมจงรักก็ถูกดึงเข้าไปรับจูบ ในคราแรกก็ไม่ทันตั้งตัว ทว่าด้วยความที่ไม่ใช่ครั้งแรกริมฝีปากเล็กจึงเผยอออกให้ลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจอย่างรู้งาน กลิ่นขมฝาดของแอลกอฮอล์ยังคงติดอยู่บนปลายลิ้นที่ทำหน้าที่ของมันอย่างช่ำชอง จงรักหอบสะท้านหนักเมื่อถูกกวาดต้อนหนักหน่วงจนหมดทางหนีทีไล่ ยิ่งจุมพิตเนิ่นนานเท่าไหร่คนตัวเล็กก็คล้ายจะถูกทำให้มึนเมาเสียยิ่งว่าดื่มเหล้าดีกรีแรง


มือหนาข้างหนึ่งยึดท้ายทอยน้องเอาไว้มั่นไม่ให้ถอยหนี ส่วนอีกข้างก็ลากไล้เข้าไปใต้ร่มผ้า เสื้อแจ็คเก็ตตัวเก่งถูกถอดทิ้งแล้วโยนไปที่เบาะหลังอย่างไม่ใยดี กระทั่งคนตัวเล็กอยู่ในสภาพที่เกือบเปลือยหมดทั้งตัว มือเรียวจึงดันอกแกร่งเอาไว้แล้วบอกด้วยเสียงเบาหวิว


“ให้ถึงบ้านก่อนได้ไหม ผมกลัวคนเห็น”

“ได้สิ”


คนตัวสูงรับปากแล้วโน้มตัวไปปรับเบาะให้เอนลงจนสุด ทว่าก่อนจะหันกลับมาขับรถ เมฆาก็ยังไม่วายจูบซับน้ำใสๆที่ไหลออกมาตรงมุมปากแดงช้ำของน้องด้วย ผิวหน้าและผิวกายของจงรักแดงก่ำไปหมดด้วยความอาย หนุ่มตัวเล็กต้องนอนงอเข่าเข้าหาตัวเพื่อปิดบังส่วนที่แสดงให้รู้ถึงแรงอารมณ์ซึ่งถูกจุดให้ปะทุขึ้นมา


“รอแปบเดียว ไม่นานก็ถึงบ้านแล้ว”


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนกลางคืนถนนโล่ง หรือเป็นเพราะเมฆาเหยียบคันเร่งจนเกือบมิดกันแน่ ที่บอกว่าไม่นานก็ถึงบ้าน คนหน้าดุก็ใช้เวลาเพียงไม่นานอย่างที่ได้สัญญาไว้จริงๆ เมื่อจอดรถเข้าซองและปิดประตูรั้วเรียบร้อย จงรักที่ถูกสั่งให้นั่งรออยู่ในรถก็ถูกอุ้มเข้าไปในบ้าน แต่คนตัวสูงกลับไม่พาน้องขึ้นไปบนห้องเช่นทุกที เขากลับเลือกเดินไปหยุดตรงโซฟาสีน้ำเงินที่เขาชอบในห้องรับแขกแล้ววางร่างเล็กกว่าลงบนนั้น


เสื้อยืดตัวบางกับกางเกงที่ถูกปลดกระดุมจนหมิ่นเหม่ถูกดึงรั้งออกอย่างรวดเร็ว จงรักส่งมือทั้งสองข้างขึ้นไปคล้องรอบคอแกร่งเอาไว้ขณะที่ร่างกายถูกลากจูบและดูดดุนตั้งแต่ซอกคอ ยอดอก ไปจนถึงสะดือ กระนั้นริมฝีปากร้ายก็ยังไม่ยอมหยุด มันเคลื่อนที่ไปใกล้ส่วนกลางลำตัวก่อนจะหยุดนิ่งบริเวณท้องน้อย จงรักผงกหัวขึ้นมองด้วยความฉงน แล้วก็สบเข้ากับแววตาวามวับซึ่งมองมาที่เขาก่อนอยู่แล้วราวกับจงใจ


 “พี่เมฆ…” เสียงเรียกแหบพร่าร้องเรียกเว้าวอนน่าสงสาร ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ยังตั้งคำถามให้อายทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

“อยากให้ทำต่อไหม”

“อื้อ…พี่เมฆ”

“ว่ายังไง”

“อย่าแกล้งสิ”

“บอกคำตอบมาสิ อยากให้ทำต่อหรือเปล่า”

“อยากครับ…ช.ช่วยรักหน่อย”


จงรักกลั้นความอายแล้วตอบรับด้วยน้ำตาคลอหน่วย คนตัวเล็กแอบเห็นว่าก่อนที่ร่างสูงจะก้มหน้าลงไปเขาจุดยิ้มที่มุมปาก จากนั้นฟันขาวสะอาดก็ขบลงบนปราการชิ้นสุดท้ายแล้วรั้งมันออกด้วยปาก ที่เหลือหลังจากนั้นจงรักก็เกร็งตัวขึ้นไปมองต่อไม่ได้อีกแล้ว เพราะปลายลิ้นนุ่มโรมรันกับร่างกายจนไร้เรี่ยวแรง เมื่อความร้อนเข้าปะทะจุดที่ไวต่อความรู้สึกไม่นานจงรักก็กระตุกตัวเกร็งปลดปล่อย


“อื้อ!~”


ริมฝีปากช้ำเผยอหอบหนักจนอกกระเพื่อม เมฆายันตัวขึ้นปลดอาภรณ์ของตัวเองทิ้งก่อนยกคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก จากนั้นจึงช่วยเตรียมร่างกายน้องจนพร้อมแล้วค่อยๆครอบครองคนตัวเล็กด้วยความเสน่ห์หา

“อ๊ะ!...อ๊ะ”

“รัก…”

“พี่…ม…อื้อ”


ร่างเล็กกว่าควบคุมจังหวะโยกไหวด้วยตัวเองอย่างรู้งานไปตามการชักนำของคนข้างใต้ สองมือเรียวจิกแน่นลงบนกล้ามเนื้อช่วงไหล่ ตากลมโตหยาดเยิ้มจ้องมองดวงตาคมดุไม่กระพริบ ทว่านอกจากแววยั่วเย้าชวนให้ลุ่มหลง ภายในนั้นยังแฝงไปด้วยความรู้สึกรักลึกซึ้งที่มีให้เพียงเมฆาเท่านั้น


เสียงแหบครางไม่ได้ศัพท์ขณะร่างกายทั้งสองสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว แผ่นหลังบางแอ่นโค้งดุจคันศรยามเมื่อเมฆาโหมกายเข้ามาอย่างหนักหน่วงเพื่อปลดปล่อยความต้องการทุกหยาดหยดเข้าไปในร่างกาย


เมฆาถอนกายออกมาก่อนล้มตัวลงนอนให้น้องทับทาบอยู่บนตัว เสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำถูกใช้เป็นตัวแทนของคำรัก ริมฝีปากส่งมอบจุมพิตให้กันไม่รู้หน่าย กระทั่งปรับลมหายใจให้สงบได้จงรักจึงผลอยหลับไปในที่สุด




v
v
v
v
v
v

(มีต่อค่ะ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2015 20:32:56 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2




จงรักรู้สึกตัวตื่นตอนเช้ามืดก็พบว่าตัวเองถูกพาขึ้นมานอนบนห้องแล้ว ร่างกายที่ควรจะเปล่าเปลือยถูกสวมทับด้วยชุดนอนของตัวเองเรียบร้อย ทว่าคนที่ควรอยู่ข้างกายกลับหายไปไหนก็ไม่รู้ ทั้งที่วันนี้เป็นที่พวกเขาพร้อมใจกันลาหยุดเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่ก่อนเทศกาลสงกรานต์แท้ๆ คนตัวสูงก็ไม่น่าจะตื่นเร็วขนาดนี้


คนตัวเล็กฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันแม้จะรู้สึกเสียดๆนิดหน่อยแต่โดยรวมก็ถือว่าปรกติดี ก่อนจะเดินลงไปหาคนรักข้างล่าง สอดส่ายสายตาหาไปทั่วทั้งห้องครัว ห้องรับแขกก็ไม่พบ มองเลยไปเห็นโซฟาสีน้ำเงินที่ถูกใช้เป็นสมรภูมิรักใบหน้าก็รู้สึกร้อนๆขึ้นมาจนต้องไปเดินหาทางอื่น


ตอนที่ออกมานอกบ้านจงรักได้ยินเสียงพี่เมฆกำลังคุยกับใครสักคน คนตัวเล็กจึงเดินอ้อมไปตามเสียง แล้วในที่สุดก็พบคนรักของเขากำลังก้มๆเงยๆอยู่ตรงสนามหญ้า


“เรียบร้อยไหมครับพี่”

“คุณเมฆลองเปิดเทสดูเลยครับ” เมื่อได้ยินคำสั่งเมฆาก็ลุกขึ้นไปบิดก๊อกน้ำที่ซ่อนไว้หลังพุ่มวาสนา ชั่วพริบตาสายน้ำก็พุ่งออกมาจากสปริงเกอร์เป็นละอองฝอยเล็กๆกระจายไปทั่วทั้งสนาม

“ผมว่าใช้ได้แล้วล่ะนะ” คนหน้าดุยิ้มยินดีก่อนหันมาเห็นจงรักที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างไปเท่าไหร่ “ตื่นแล้วเหรอ”

“ครับ” จงรักพยักหน้ารับก่อนเดินเข้าไปหาคนรัก “ทำอะไรกันครับเนี่ย”

“พอดีพี่เห็นว่าเราจะไปเชียงใหม่กันเป็นอาทิตย์ กลัวว่ากว่าจะกลับมาต้นไม้ของเราจะแห้งตายเสียก่อนเพราะอากาศมันร้อน พี่ก็เลยสั่งช่างให้เข้ามาติดสปริงเกอร์ให้ ตัวนี้เป็นแบบตั้งเวลานะ หกโมงเช้ากับหกโมงเย็น”

“ดีจังเลยครับ รักลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย”


จงรักยิ้มแป้นให้คนรักก่อนจะมองไปรอบๆ เขาเห็นว่าเมฆายกกระถางยิปโซลงมาไว้ใกล้ชิงช้าไม้ที่เพิ่งซื้อมาไม่นานนี้ด้วย เมฆามองตามสายตาของน้องไปหยุดที่ต้นยิปโซซึ่งเดิมทีเคยตั้งบนระเบียง เขาจึงอธิบายว่า


“พี่กลัวมันเฉาตายก่อน จะขึ้นไปติดข้างบนด้วยก็ยุ่งยากไปหน่อยเวลามันไม่พอ เอาไว้กลับมาหลังสงกรานต์ค่อยคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไงกับบนระเบียง”

“ต่อไปเอาไว้ข้างล่างก็ได้ครับ ไม่ยุ่งยากด้วย ยังไงผมก็ลงมาที่สนามทุกวันอยู่แล้ว”

“ตามใจเราแล้วกัน”


อุ้งมืออุ่นลูบหัวน้องด้วยความรักใคร่เอ็นดู ก่อนจะสังเกตเห็นว่าชุดนอนที่ใส่ลงมานั้นค่อนข้างบางคอก็ลึก เผยให้เห็นร่องรอยรักที่ถูกทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนรำไร เมฆาจึงปล่อยให้ช่างจัดการเก็บรายละเอียดงานที่เหลือไปก่อน ส่วนตัวเองก็จูงมือน้องเข้าไปในบ้าน พร้อมกับเอ่ยปากบ่นเบาๆ


“คราวหลังห้ามใส่ชุดแบบนี้ออกไปนอกบ้านเด็ดขาดนะ บางจนเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับก็บ้านเราเอง อีกอย่างผมเป็นผู้ชายไม่เสียหายตรงไหนสักหน่อย” จงรักแย้ง

“พี่ไม่ชอบ แถมมีคนอื่นอยู่ด้วยอีกต่างหาก ไปๆขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เดี๋ยวพี่ส่งช่างเรียบร้อยแล้วจะตามขึ้นไป ดูของในกระเป๋าด้วยว่าครบไหม ออกเดินทางตอนบ่ายจะได้ไม่ฉุกละหุก” คนหน้าดุทั้งบ่นทั้งสั่งเสียงขรมทำเอาจงรักถึงกับหน้ามุ่ย ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ากำหนดเดินทางที่ตกลงกันไว้มันเป็นตอนเย็นไม่ใช่หรือ

“เดินทางตอนบ่ายเหรอครับ”

“อืม”

“ไหนพี่เมฆว่าจะไปตอนเย็นไง”

“พี่จะพาไปที่หนึ่งก่อน กว่าจะเสร็จธุระก็คงเย็นๆ จากนั้นเราค่อยขับรถไปเชียงใหม่”

“ไปที่ไหนครับ” จงรักถามด้วยความสงสัย เพราะก่อนหน้านี่เมฆาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาเลย

“เดี๋ยวไปถึงก็รู้เอง ตอนนี้ขึ้นไปอาบน้ำแล้วจัดของก่อนเถอะ”

“อ่า…ก็ได้ครับ” พอถูกสั่งเสียงเรียบแบบนี้ทีไรจงรักก็ไม่อาจขัดใจอีกคนได้เสียที คนตัวเล็กยอมทำตามง่ายๆแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้อง คิดในแง่ดีว่าประเดี๋ยวก็คงรู้เองอย่างที่พี่ว่านั่นแหละ








เมื่อถึงบ่ายโมงตรงก็ได้เวลาล้อหมุน เมฆาพาจงรักขับรถออกนอกเมืองไปตามถนนสายเอเชีย ความจริงก็เป็นเส้นทางขึ้นเหนือนั่นแหละ ทว่าพอผ่านอำเภอบางประอินเมฆาก็เลี้ยวรถเข้าตัวเมืองอยุธยา จงรักแปลกใจนิดหน่อยแต่พอจะเดาได้ว่าอีกคนจะไปไหนจึงไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไร


กระทั่งบ่ายสองนิดๆรถสีขาวก็ไปจอดที่จุดหมายปลายทางแรก นั่นคือวัดเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดโดยมีที่ตั้งติดกับแม่น้ำป่าสัก เมฆาปลดล็อคแล้วลงไปหยิบของท้ายรถ จงรักเดินตามไปดูก็พบสังฆทาน ธูปเทียน ทั้งยังมีพวงมาลัยดอกไม้สดที่ใส่ไว้ในลังน้ำแข็งขนาดเล็กอีกด้วย


“มาทำบุญหรอกเหรอครับ นึกว่าจะพาไปบ้านที่อยุธยาเสียอีก” จงรักรู้อยู่แล้วว่าเดิมทีเมฆามีพื้นเพเป็นคนจังหวัดอยุธยา เมื่อเห็นคนรักบอกว่าจะพาไปทำธุระที่หนึ่งแล้วเข้ามาในเมืองอยุธยาเช่นนี้ เจ้าตัวจึงตีความเอาเองแบบนั้น โดยไม่นึกว่าอีกฝ่ายต้องการจะมาทำบุญก่อนเดินทาง

“บ้านเก่าของพี่ญาติๆเขาแบ่งขายกันไปตั้งแต่ตาเสียแล้วล่ะ ดังนั้นบ้านหลังเดียวที่มีก็คือบ้านของเราที่รังสิต”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

“ทำเสียงหงอยทำไม”

“ก็แค่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นที่ที่พี่เมฆเติบโตมา” จงรักรู้สึกเสียดายจริงเพราะหลายครั้งเขาเคยฝันว่าอยากไปดูบ้านของคนรัก เหมือนกับที่เขาพาเมฆาไปดูบ้านของเขาที่เชียงใหม่ “แต่ช่างมันเถอะครับ เราไปทำบุญกันดีกว่า”

“อื้ม” ชายหนุ่มยิ้มให้คนรักที่แสนจะว่าง่าย ก่อนช่วยกันถือข้าวของแล้วเดินนำไปหาพระคุณเจ้าที่ศาลา


หลังจากถวายสังฆทานเรียบร้อยพระท่านก็สนทนากับเมฆานิดหน่อย ทั้งไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ รวมไปถึงหน้าที่การงาน จงรักจึงเดาว่าแต่ก่อนเมฆาคงมาที่นี่เป็นประจำ ผ่านไปสักพักหลังจากพระท่านกลับกุฏิแล้วเมฆาก็เดินนำน้องมาที่ข้างศาลา คนหน้าดุเรียกเด็กวัดเพื่อถามว่าไม้กวาดทางมะพร้าวกับผ้าขี้ริ้วอยู่ที่ไหน เด็กวัดจึงวิ่งไปเอามาให้ครบชุด


จงรักมองการกระทำต่างๆด้วยความสงสัย ไม่แน่ใจว่าเมฆาจะไปกวาดลานวัดหรือเปล่าเขาจะได้ขอช่วยอีกแรง กำลังคิดว่าจะเอ่ยถาม ทว่าคนหน้าดุก็ยกกล่องโฟมกล่องเล็กที่บรรจุพวงมาลัยดอกไม้สดเอาไว้ให้จงรักถือ แล้วเอ่ยปากไขข้อข้องใจเรื่องที่สงสัยให้กระจ่าง

“ถือเอาไว้นะ เดี๋ยวจะพาไปเจอคนสำคัญของพี่”

“คนสำคัญเหรอครับ”

“อื้ม ตามมาสิ” พูดจบเจ้าตัวก็เดินนำไปอีกเช่นเคย จงรักจึงรีบเดินตามทันที


สถานที่ที่เมฆาบอกว่าจะพาเจอคนสำคัญ คือสถานที่ที่อยู่ด้านหลังสุดของวัด มันร้างไร้ผู้คนและเงียบสงบ เหมาะสมกับเป็นที่สุดท้ายให้คนที่จากไปได้พักผ่อน โกฏิสีขาวน้อยใหญ่ตั้งยอดแหลมเรียงรายเป็นแถวยาวไปจนสุดพื้นที่ จงรักเดินตามแผ่นหลังกว้างไปบนทางเดินสายเล็กที่ปูด้วยอิฐแดง บริเวณรอบๆบ้างก็รกชัฏมีหญ้าแทงสูงออกมานอกรอยแตกของอิฐ บ้างก็สะอาดสะอ้านแสดงถึงความใส่ใจของบุคคลที่อยู่ข้างหลังผู้ล่วงลับ


กระทั่งเลี้ยวขวาแล้วตรงมาจนสุดทางเดิน จงรักก็เห็นโกฏิสีขาวขนาดไม่สูงนักแบบเดียวกันทั้งสี่โกฏิตั้งเรียงอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ เยื้องหลังไปมีต้นสาละต้นใหญ่กำลังผลิดอกชูช่อพร้อมจะออกผล หน้าโกฏิทั้งสี่มีรูปของบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของเมฆาประดับอยู่


คนตัวสูงเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างรูปของหญิงสาวและชายชราที่มีดวงตาแบบเดียวกันกับตัวเอง ก่อนจะยกมือไหว้ จงรักเองก็ทำตามอย่างสงบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อเสียงทุ้มเอื้อนเอ่ย


“ริมสุดด้านนี้คือยายของพี่ ถัดมาเป็น พ่อ แม่ แล้วก็ตาตามลำดับ ยายกับแม่แล้วก็พ่อเสียพร้อมกันตั้งแต่พี่จำความไม่ได้ ตาบอกว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ ส่วนตาพี่เพิ่งมาเสียไปเมื่อสองปีก่อน”

“เสียใจด้วยนะครับ”

“พี่ไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สิ”

“ครับ” จงรักพยักหน้ารับ พยายามสูดลมหายใจเข้าแล้วบังคับตัวเองให้อดทนไว้


จากนั้นจงรักกับเมฆาก็ช่วยกันทำความสะอาดรอบๆบริเวณ ทั้งถอนหญ้า กวาดใบไม้ แล้วปัดถูฝุ่นที่เกาะตามโกฏิจนสะอาดเรียบร้อย จงรักนำไม้กวาดกับผ้าขี้ริ้วไปส่งคืนให้ให้เด็กวัดก่อนกลับมาเห็นเมฆากำลังเอาพวงมาลัยสี่พวงออกจากกล่องโฟม

“รักมานี่สิ”

“ครับ” จงรักเดินเข้าไปหาตามเสียงเรียก

“ถือเอาไว้นะ”

“ครับ” จงรักรับพวงมาลัยพวงหนึ่งมาไว้ในมือ ก่อนจะถูกดึงให้ย่อลงนั่งตรงหน้าโกฏิของคุณตา

“ผมมาหาแล้วนะ อยู่ทางโน้นตาเป็นยังไงบ้าง ได้เจอแม่กับยายแล้วใช่ไหมครับ ผมอยู่ทางนี้สบายดี ตาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ตอนนี้ผมโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนที่ตาอยากให้เป็น รู้หรือเปล่า ผมสามารถดูแลใครที่ผมรักอีกคนได้แล้ว วันนี้ผมก็พาเขามาหาตาด้วย เขาชื่อจงรัก เป็นเด็กดีแล้วก็น่ารักมากๆ ถ้ายังอยู่ตาต้องชอบเขาแน่ๆ จงรักว่าง่ายไม่ได้หัวรั้นเหมือนอย่างที่ตาชอบว่าผมประจำหรอก…”


ถึงตรงนี้ความรู้สึกถวิลหาจนสุดขั้วหัวใจก็เข้าจู่โจม เมฆาไม่มีใคร ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ผู้เป็นตาคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ในวันนี้เขามองดูตัวเองที่โตเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลใครที่เขารักได้ ในส่วนลึกของหัวใจก็ยังอยากที่จะมีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณผู้ที่ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก


ทว่าความจริงคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนความตายที่หลบหนีไม่พ้น ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีคุณตาอยู่ให้ทดแทนคุณแล้ว แต่เมฆาก็อยากให้ท่านหมดห่วง อยากให้ท่านภูมิใจว่าหลานชายคนนี้เติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคงแข็งแรง และพร้อมจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อดูแลคนที่ตัวเองรักเหมือนกับท่าน


เมื่อเห็นเมฆานั่งเงียบไปเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของความทรงจำเก่าๆ จงรักจึงใช้โอกาสนี้กล่าวอะไรบางอย่างขึ้นมา คนตัวเล็กมองตรงไปที่รูปของชายชราจากนั้นก็เริ่มต้นพูด


“สวัสดีครับคุณตา ผมชื่อจงรักนะครับ แม้ผมจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่ผมจะดูแลหลานชายคุณตาให้ดีที่สุดเอง แต่นี้ต่อไปไม่ต้อง…เป็นห่วงอะไรแล้วนะครับ”


แม้ถึงตอนท้ายเสียงจะค่อนข้างสั่นเครือเอามากๆ ทว่าจงรักก็ยังพยายามพูดให้จบ ก่อนจะยกมือไหว้แล้ววางพวงมาลัยไว้ที่หน้ารูปบนแท่นโกฏิของคุณตา เมฆามองน้องด้วยสายตาเปี่ยมรักอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะวางพวงมาลัยอีกสามพวงตรงหน้าแท่นโกฏิของแม่ ยาย และพ่อ


เสร็จจากตรงนั้นพวกเขาก็ลากลับ ตอนเดินออกมาจากแทบไม่มีสัมภาระอะไรให้ถือวุ่นวายอีกแล้ว เมฆาเอากล่องโฟมไปเก็บที่รถ ก่อนจะพาน้องไปนั่งตากลมที่ท่าน้ำข้างวัดเนื่องจากยังมีเวลาอีกมากก่อนขับรถเดินทางขึ้นเหนือต่อ


ช่วงบ่ายแก่แดดร่มลมตกแล้ว วัดเล็กๆแห่งนี้เงียบสงบไม่ค่อยมีคนอย่างวัดใหญ่ๆในตัวเมือง จะมีก็แต่เรือที่สัญจรไปมาบ้างเป็นครั้งคราวในแม่น้ำป่าสัก จงรักนั่งมองผักตบชวาลอยไปติดที่ชายน้ำ มองนกกระยางโฉบลงมาจากขอนไม้เพื่อจับปลาตัวน้อยที่ว่ายขึ้นมาเหนือน้ำ มองแสงระยิบระยับของคลื่นกระทบแดดจนชวนให้ตาพร่า จนสุดท้ายต้องยอมถอนสายตาออกมา เพื่อมองเสี้ยวหน้าคมของคนข้างกายแทน

“พี่เมฆครับ”

“ว่ายังไง”

“ทำไมถึงพาผมมาที่นี่ล่ะ”

“จะพูดยังไงดี พี่ก็…พามาให้ตารู้จักล่ะมั้ง เหมือนแนะนำอะไรทำนองนั้น”

“แล้วพี่เคยพาใครมาอีกนอกจากผมหรือเปล่า”

“ถามทำไม หึงเหรอ”

“จะเรียกว่าหึงก็คงไม่เชิงหรอกครับ แค่อยากรู้มากกว่าว่าตัวเองสำคัญระดับไหน สำคัญกว่าคนอื่นๆที่ผ่านมาหรือเปล่า”

“เป็นเด็กขี้อิจฉาหรือไงหืม?” น้ำเสียงกับแววตาหยอกเย้าจับผิดทำเอาจงรักเกือบหลุดขำพรืดออกมา

“อืม…” จงรักอมลมไว้ที่ข้างแก้มนิดๆ พร้อมกับเตะขาสองข้างให้แกว่งไปมา ก่อนจะยอมสารภาพ “คง…ทำนองนั้นล่ะครับ ว่าแต่ผมไม่เด็กแล้วนะ”

“นี่แหละเด็ก” เมฆาว่าพลางจับหัวน้องโยกเบาๆก่อนจะขยี้ จงรักเบี่ยงตัวหลบเพราะต้องการคาดคั้นคำตอบให้ได้ แต่คงดิ้นหนีมากไปหน่อยรองเท้าผ้าใบสีตองอ่อนคู่เก่งจึงกระเด็นหลุดจากเท้า

“ไม่ต้องเก็บหรอกครับ เดี๋ยวผมเก็บเอง บอกมาก่อนนะ”

“หึ”


แต่ทว่าเมฆาไม่ทำตามคำที่จงรักพูด ชายหนุ่มร่างสูงยังคงเดินไปก้มเก็บรองเท้าที่นอนแอ้งแม้งอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็กลับมายืนตรงหน้าก่อนจะย่อตัวลงนั่งชันเข่า ในขณะที่จงรักนั่งอยู่บนที่นั่งไม้กระดานในศาลาอย่างเก่า

“เดี๋ยวครับ!” จงรักร้องห้ามเมื่อมือหนาข้างหนึ่งคว้าประคองอุ้งเท้าเปลือยเปล่าข้างนั้นเอาไว้

“รู้ไหมพี่ไม่เคยพาใครมาหรอกนะ” เมฆาเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตาแล้วเอ่ยออกมาชัดถ้อยชัดคำ “มีแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักที่นี่ คราวนี้พอใจหรือยัง”

“พอใจแล้วครับ แต่พี่เมฆขึ้นมาบนนี้เถอะ เดี๋ยวรักใส่รองเท้าเอง” จงรักพยายามพยุงไหล่หนาให้ลุกขึ้นมานั่งเสมอกัน แต่เมฆาก็ขืนตัวไว้แล้วค่อยๆบรรจงสวมรองเท้าให้น้องจนเสร็จก่อนจะเอ่ยบางสิ่งบางอย่างออกมา

“รัก”

“ครับ”

“พี่มีอะไรจะบอก”

“อะไรครับ”

“ฟังพี่นะ”

“ผมฟังอยู่”


จงรักไม่แน่ว่าบรรยากาศจริงจังเช่นนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คนตัวเล็กก็ยอมเงียบแล้วตั้งใจฟัง ทั้งที่ในหัวใจค่อยๆ เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีสาเหตุ


“พี่อาจจะเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่วันนี้พี่จะพูดอีก เพราะพี่คิดว่าพี่พร้อมหมดแล้วทั้งหัวใจ” เจ้าของดวงตาคมดุที่มองทอดอ่อนมายังจงรักหยุดสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเอ่ย “รัก”

“ครับ”


“นับจากนี้พี่ขอให้เราโปรดจงรัก โปรดจงเชื่อใจในความรู้สึกที่มอบให้ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่สัญญาว่าจะมีแค่จงรัก จะรักและคิดถึงเพียงจงรักคนเดียวเท่านั้น โปรดอยู่เคียงข้างกันตลอดไปด้วยนะครับ”



จงรักพยักหน้ารับและยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขารู้ว่าคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริงๆหรอก แต่ถ้าพี่เมฆพูดว่าอยากให้จงรักอยู่กับพี่เมฆตลอดไป จงรักก็จะอยู่เคียงข้างจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายเช่นกัน


ไม่มีความรักใดที่สมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น ความรักนั้นต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ ต้องใช้ความพยายามที่จะเข้าใจและปรับจูนเข้าหากัน จึงจะทำให้รักนั้นยืนยาวไปจนตลอดรอดฝั่งได้



“ฝากตัวด้วยครับ”






(จบบริบูรณ์)






‘โปรดจงรัก’
พอเอ่ยถึงชื่อนี้ลำดับแรกคงคิดถึงจงรักที่แอบรักเขามานาน
แต่เอาเข้าจริงๆมันสื่อถึงพี่เมฆด้วยในตอนช่วงหลัง ช่วงที่รักจงรักแล้ว
เราว่าความรักที่สมบูรณ์มันไม่ได้มาจากความรักของคนๆเดียว
แต่มาจากการที่คนสองคนต้องการที่จะให้ความรักและรับความรักตอบจากกันและกัน
มีคนบอกเราว่าชอบชื่อเรื่องชื่อนี้ เราเองก็ชอบค่ะ รู้สึกเหมือนเป็นการขอความรักที่สุภาพและเว้าวอนในหัวใจดีเนอะ

เอาล่ะๆ ในที่สุดนิยายเรื่องแรกในชีวิตก็จบลงอย่างสมบูรณ์จนได้  :hao5:
โปรดจงรักใช้เวลาเขียนยาวนานเกือบปีทีเดียว
ด้วยเนื้อเรื่องเรียบๆเรื่อยๆ บ้างคนอาจรู้สึกยาวยืดยาด บางคนอ่านแล้วรู้สึกว่ามันจบเร็วไปไหม
แต่สำหรับฝนที่เขียนได้ตามพล๊อต ตามเป้าหมายที่วางไว้ เท่านี้ก็ถือว่าพอดีแล้ว
(นี่ยังมีเพิ่มตอนนิดหน่อยตรงช่วงสองแฝดด้วยนะ)

ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ มีแค่คำขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนจบ
ขอบคุณแม้ว่าคุณเพิ่งหาโปรดจงรักเจอ
ขอบคุณที่อ่านงานเขียนของเราจริงๆ
คนอ่านเป็นแรงผลักดันที่สำคัญมากๆนอกเหนือจากพลังจินตนาการของตัวเอง
นี่กล้าพูดได้เลยนะว่าถ้าไม่มีคนอ่าน งานเขียนคงไม่ดำเนินได้จนตลอดรอดฝั่งได้เร็วแบบนี้แน่ๆ
เผลอๆคงใช้เวลาแต่งนานกว่านี้เยอะเลย

ตอนนี้เรื่องราวของพี่เมฆกับจงรักก็แฮปปี้แล้ว ยังไงก็ฝากผลงานชิ้นต่อๆไปด้วยนะคะ
เรารู้ตัวว่ายังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง สัญญาว่าจะพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นค่ะ

สุดท้ายก็มีข่าวมาแจ้งเรื่องการรวมเล่มของโปรดจงรักค่ะ
ตอนนี้โปรดจงรักได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Onederway นะคะ
สำหรับใครที่อยากเก็บโปรดจงรักเอาไว้ในชั้นหนังสือของท่านก็ไปจองได้เลยค่ะ
เราได้เขียนตอนพิเศษเอาไว้ด้วยกันหลายตอนเลย เด็ดๆทั้งนั้นขอบอก 5555
แถมยังมีของแถมให้คนที่พรีออเดอร์หลายอย่างเลยด้วย
พิกัด+รายละเอียกการจอง ไปที่ https://docs.google.com/forms/d/1pa73TRr65LdPb5Fs5tiNsAXybOBGeDKvJ5j7ix0gESY/viewform

ส่วนเพจสำนักพิมพ์ คือ https://www.facebook.com/onederwhy?fref=ts
เข้าไปดูกันก่อนได้นะคะ ในเพจมีภาพดราฟหน้าปกมาให้ยลกันนิดนึงด้วย อิอิ


ขอบคุณอีกครั้ง แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะ


ละอองฝน
(20:10 , 05/05/58)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :n1:

แด่จงรักและพี่เมฆ

 :mc4:

ให้กับจงรักที่รอพี่เมฆมาได้นานขนาดนี้ ในที่สุดก็มีความสุขในชีวิตแล้ว

 :กอด1:

กอดคุณจขกท.ค่ะ ขอบคุณมากเลยสำหรับเรื่องนี้ เลิฟยูวค่ะ

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่านนะครับ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
จบแล้ว สนุกมากค่ะ จะติดตามเรื่องต่อๆไปแน่นอน

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
:heaven

ตอนที่พี่เมฆบอกความในใจกับน้องรัก ทำเราน้ำตาซึมตามไปด้วยเลยค่ะ ซึ้งใจจังเลย~

..ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ของพี่เมฆกับน้องรักมากเลยนะค้าา o1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2015 21:49:50 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อ่าาาาาา จบซะแล้ว.....
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลยค่ะ :L2:
ปกติเราไม่ค่อยอ่านพวกรักข้างเดียวเท่าไหร่ เรื่องนี้เลยเปิดซิงแนวนี้ของเราเป็นเรื่องแรกเลย :ruready
ดีใจที่มาต่อจนจบนะคะ จะรอผลงานเรื่องต่อไป
ขอบคุณค่ะ :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด