พี่ครับ...ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน
ตอนที่36
ข่าวเรื่องพี่นัทก็ดังกระฉ่อนไปทั่วมหาลัยภายในไม่กี่วัน ผมรอผลที่จะออกมาจากเรื่องนี้ว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่เท่าที่รู้มาผู้หญิงที่ชื่อขวัญที่พี่นัทไปมีอะไรด้วยก็ไม่กล้ามามหาลัยเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง ส่วนพี่นัทก็หายเข้าไปกับกลีบเมฆ
“พี่นัทเป็นไงบ้างพี่เอส”
ผมถามขณะที่เราสองคนนั่งทานข้าวกันที่โรงอาหารของคณะผม มีซินดี้และสามนั่งอยู่ข้างๆ
พี่นัทมองหน้าผมแล้วมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
“ไอ้นัทก็อาหารหนักอยู่ เพราะแนนบอกเลิกมันละ เอาแต่เมาอยู่ห้องไม่ไปไหน”
ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามต่อ
“ไม่คิดว่าพี่นัทจะรักจริง”
“ไอ้นัทมันรักแนนจริงๆนะพี มันเจ้าชู้ก็จริงแต่มันก็รู้ว่าใครสำคัญ มันวางแผนอยากแต่งงานกับแนน มันรักแนนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องจบลง”
“แล้วไงอะ ในเมื่อทุกอย่างพี่นัททำตัวเองทั้งนั้น”
“ยังไงไอ้นัทก็ให้แนนเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว กับน้องขวัญมันแค่เล่นๆ”
“หึ พีจะบอกพี่ให้นะ ไม่มีใครดีใจที่ได้เป็นที่หนึ่งหรอก มีแต่คนอยากเป็นที่เดียว คนเดียวตังหากละ”
ผมพูดจบก็ลุกขึ้น จะเดินออกจากโต๊ะแต่โดนพี่เอสจับมือไว้ก่อน ผมหันไปเห็นซินดี้และสามที่มีท่าทีตกใจ
“พีใจเย็นๆสิ”
พี่เอสพูดจบผมสะบัดมือทิ้งแล้วหันไปพูดกับสามและซินดี้
“ไปกันเถอะมึง”
ผมพูดจบก็เดินออกมาจากโรงอาหารทันที ไม่สนใจเสียงเรียกจากด้านหลังเลยสักนิด
ผมเดินไปเรื่อยกำหมัดแน่น ผู้ชายเห็นแก่ตัวเอ้ย !!!
“พี”
เสียงเรียกจากมุมตึก ผมหันไปมองเจอพี่เอ็มยืนสูบบุหรี่หน้าเครียดอยู่ ผมนิ่งแล้วมองพี่เขา
“พี่เอ็มมายืนทำอะไรตรงนี้เงียบๆคนเดียว”
ผมพูดจบพี่เอ็มทิ้งบุหรี่แล้วขยี้ด้วยเท้าก่อนจะหันมามองหน้าผม
“เรื่องที่เกิดขึ้นฝีมือพีหรือเปล่า”
พี่เอ็มมองผมด้วยสายตาคาดคั้น ผมจะอ้าปากพูดแต่กลับโดนกระชากจากด้านหลังซะก่อน
“ที่พีรีบเดินออกมาจะมาหาไอ้นี่ใช่ไหม”
พี่เอสพูดอย่างไม่พอใจ
“ถ้าพีจะออกมาหากูแล้วมึงเสือกอะไร”
พี่เอ็มพูดจบก็กระชากผมออกจากพี่เอสแล้วเข้าไปในอ้อมแขนพี่เอ็มแทน ผมหันไปด้านหลังก็เจอซินดี้และสามที่วิ่งหอบกันมา
“มึงปล่อยพีเดี๋ยวนี้”
พี่เอสจ้องหน้าพี่เอ็มอย่างไม่พอใจ แต่พี่เอ็มก็ไม่สะทกสะท้านกอดเอวผมจากด้านหลังแล้วเอาคางมาเกยไหล่แล้วมองพี่เอ็มเย้ยๆ
“พีบอกไปสิ ว่าอยากให้พี่ปล่อยรึเปล่า”
พี่เอ็มพูดจบผมกระตุกยิ้มหวานให้พี่เอ็มแล้วมองพี่เอสด้วยหางตา
“พี่เอสกลับไปเถอะ พีจะอยู่กับพี่เอ็ม”
ผมพูดจบพี่เอ็มหอมแก้มผมทันที
“ฟอด !!”
“คงได้คำตอบแล้วนะ”
พี่เอ็มหันไปเย้ยพี่เอสต่อ พี่เอสยืมมองเราสองคนอย่างโกรธเคืองแล้วกำหมัดแน่น
“มันไม่จบง่ายๆแน่พี”
พี่เอสพูดจบก็รีบเดินออกไปทันที พี่เอสหายไปจนลับสายตาซินดี้และสามก็รีบวิ่งมาใกล้ตัวผม
“กูคิดว่าจะมึงศึกชิงนางแล้วซะอีก”
ซินดี้มองผมแล้วแอบเบ้ปากเบาๆ
“พีนี่สวยเนอะ ผู้ชายรุมล้อม”
สามที่ตอนนี้สนิทกับพวกเรามากจนไม่แอ๊บละ นางร้ายพอๆกับพวกเรานี่แหล่ะเลยอยู่ด้วยกันได้
“แน่นอน”
ผมหันไปตอบสาม สามและซินดี้เลยพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“แหวะ !!”
ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากด้านหลังเลยหันไปมองพี่เอ็มแล้วพูดขึ้น
“ปล่อยได้ละพี่เอ็ม อย่าเนียนให้มากนัก”
พี่เอ็มยอมปล่อยแต่โดยดี แล้วจะพูดขึ้นแต่ผมยกมือห้ามซะก่อนแล้วหันไปพูดกับสามและซินดี้
“มึงสองคนกลับเลยก็ได้ เดี๋ยวกูไปกับพี่เอ็ม”
“แหม๋ อิดอก เจอผู้ชายแล้วไล่เพื่อน”
ซินดี้หันมาด่าผมทันที ผมก็ได้แต่ยิ้มรับ
สามและซินดี้ก็เดินออกไป ผมกับพี่เอ็มเลยเดินมาขึ้นรถพี่เอ็มกันเงียบๆ ระหว่างทางเราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันแต่เลือกที่จะเดินจับมือกันเงียบๆ
พี่เอ็มขับรถไปที่คอนโดพี่เขา บนรถเราสองคนจับมือกันตลอดทาง ผมมองหน้าพี่เขาจากด้านข้างแล้วเห็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆผม เขาหล่อมากจนไม่จำเป็นเลยที่ต้องมาเสี่ยงอันตรายกับผม แต่เขาเลือกที่จะยังอยู่ข้างๆผม ผมก็คนไม่ใช่พระอิฐพระปูน การที่มีผู้ชายหน้าตาดีมาดีด้วย คอยเอาใจใส่ เสมอต้นเสมอปลาย ผมก็หวั่นไหวเป็นธรรมดา แต่ผมก็พยายามรั้งตัวเองไว้ ไม่ให้รู้สึกดีไปกับสิ่งที่เขาทำให้มากเกินไป เพราะผมกลัวเหลือเกินว่าผลมันจะออกมาในรูปแบบเดิม
“พี่คิดอะไรอยู่”
พี่เอ็มพูดขึ้นทำให้ผมรู้สึกตัว ตอนนี้ถึงคอนโดพี่เขาแล้ว ผมปล่อยมือที่จับกันไว้แล้วทำเป็นจัดกระเป๋าไม่ตอบคำถามพี่เขา
“พียังไม่ตอบพี่นะ”
ผมกำลังจะเปิดประตูออกแต่พี่เอ็มก็ยังรั้งผมด้วยคำพูดของพี่เขา ผมตัดสินใจหันไปมองหน้าพี่เขา แล้วยิ้มให้พี่เขานิดนึง
“พีกำลังคิดว่าพีไม่ควรจะเผลอใจไปมากกว่านี้”
ผมพูดจบจะเปิดประตูรถออกมาแต่กลับโดนพี่เขากระชากจากด้านหลังแล้วหันไปมองหน้าพี่เขา พี่เอ็มจับหน้าผมให้สบตากับพี่เขาโดยตรง เราสองคนประสานสายตากัน สายตาที่พี่เขามองมาเต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย มันเอ่อล้นจนทำให้ใจผมเต้นรัวๆ ผมอยากจะหลบสายตาแต่แรงดึงดูดจากสายตาพี่เขามากเกินไป อันตราย ความรู้สึกของผมอันตรายไปแล้ว
“พี่อยากให้พีเชื่อใจพี่สักครั้ง ให้พี่ดูแลพี อยู่ข้างๆพี พี่สัญญาว่าจะไม่มีใครทำอะไรพีได้”
พี่เอ็มพูดจบผมมองตาพี่เขาแล้วเลื่อนตัวเองเอาปากไปประกบกับปากพี่เขาอย่างแผ่วเบา เราสองคนค่อยๆจูบกันทีละนิด จากจูบที่นิ่มนวล อ่อนโยน ค่อยๆร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความรุ้สึกของผมเหมือนการที่ลอยอยู่บนฟ้าที่นุ่มนวลอ่อนโยนแล้วค่อยๆลงมาเรื่อยๆ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆจนเกือบห้ามใจตัวเองไม่อยู่
“อ่าห์ อื้มมมมมม”
ผมตัดสินใจผละออกจากพี่เขาแล้วมองตาพี่เขา
“เป็นแฟนกับพี่นะ”
พี่เอ็มพูดขึ้น แล้วลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน สายตาพี่เขาที่มองมามันอ่อนโยนจนผมรู้สึกหวั่นไหว
ผมเลือกที่จะหลบสายตาแล้วพูดขึ้น
“อย่าเพิ่งเลยพี่เอ็ม พียังไม่พร้อม”
ผมพูดจบก็เปิดประตูรถออกมาทันที
ผมยังไม่พร้อม ไม่พร้อมที่จะยอมรับความจริงว่าผมรู้สึกดีกับพี่เขามากขนาดไหน
วันนั้นผมเลือกที่จะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน ผมไม่พร้อมที่จะอยู่ใกล้กับพี่เขามากในตอนนี้ ผมกลัว กลัวใจตัวเอง
วันนี้ผมนั่งรถมาที่ชานเมืองจนเกือบถึงจังหวัดสมุทรปราการ มานั่งในร้านเน็ตร้านหนึ่ง เป็นร้านธรรมดา ไม่มีกล้องวงจรปิดอะไร วันนี้ผมเลือกที่จะแต่งตัวเป็นผู้หญิงอีกครั้งเพื่อเซฟตัวเอง ผมเลือกที่นั่งเครื่องหลังๆ แล้วเสียบแฟลชไดร์ฟแล้วเปิดในเว็บบิทชื่อดังเว็บหนึ่ง สมัครสมาชิกแล้วตั้งกระทู้
** คลิปหลุดนักศึกษาม.ดัง แอบไปมีอะไรกันในห้องเก็บของ **
ผมคลิกอับโหลดคลิปจนเสร็จแล้วก็นั่งเล่นสักพักเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต หลังจากอัพคลิปได้30นาทีก็มีคนโหลด แชร์ เข้ามาอ่าน และตอบกระทู้มากกว่าที่ผมคิด ผมเหยียดยิ้มแล้วดึงแฟลชไดร์ฟออกแล้วไปจ่ายตังค์
มึงต้องเจ็บและอับอายขายขี้หน้ากว่าที่กูเคยเจอ
ระหว่างทางนั่งแท็กซี่ผมก็นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกครั้ง
“มึงนั้นน้องพีที่โดนพวกไอ้นัทลงแขกนี่หว่า”
ผมได้เสียงพูดจากคนด้านหลัง ผมนั่งกำหมัดแน่นตัวสั่นไปหมด หลังจากที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาเดือนนึงก็กลับมาเรียนเป็นปกติ ตอนนี้ผมออกมารอพี่เพลงมารับที่ร้านเค้ก โต๊ะข้างหลังคือรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว รุ่นเดียวกับพี่เอสและพี่นัท คงจะรู้จักกัน และรู้เรื่องของผม
“แม่ง น้องพีขาว เอ็กซ์น่าเอาแบบนี้ กูก็อยากลองวะ”
ผมสั่นไปหมด พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้น้ำตาไหล รู้สึกร้อนที่กระบอกตา ผมส่ายหน้ามองรอบๆแล้วรู้สึกกลัวไปหมด เมื่อไหร่พี่เพลงจะมานะ
“โดนไปเยอะนี่หว่าคืนนั้น หลวมหมดแล้วมั้ง ฮ่าๆ”
เสียงหัวเราะจากด้านหลังดังขึ้น ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นแล้วซัดจานเค้กใส่พวกนั้น
“เพล้ง !!”
ผมยืนมองพวกมันตาแดงกล่ำกำหมัดแน่น
“เฮ้ย เป็นไรวะ ทำเป็นรับเรื่องจริงไม่ได้เหรอน้อง”
ไอ้คนที่เปิดประเด็นมองหน้าผมอย่างกวนตีน พนักงานในร้านจะเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่กล้า ผมจะหยิบแจกันทุ่มใส่พวกมันแต่กลับโดนห้ามไว้ซะก่อน
“พี่จัดการเอง”
“พี่เพลง!”
พี่เพลงมาแล้ว พี่เพลงหันมาพยักหน้าให้ผมแล้ว หันไปมองพวกนั้นแล้วเดินเข้าไปกระชากต่อยทันที ไม่ต้องพูดให้มากความ
“ตุ๊บ ตั๊บ”
เสียงต่อยดังขึ้น พวกนั้นมีกันสามคน พี่เพลงคนเดียวแต่พี่เพลงก็ต่อยพวกมันจนพวกมันยอมแพ้ รีบวิ่งออกจากร้านไป
ผมยืนร้องไห้มองพี่เพลงที่หน้าช้ำแล้วมีคิ้วแตกเล็กน้อย
“พี่เพลง ฮือออออ อึก อึก”
ผมปล่อยโฮออกมา พี่เพลงเข้ามากอดผมแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะพี่จะปกป้องพีเอง”
“อึก ฮืออออ พี่ เพลง อึก เจ็บเพราะพี อึก”
พี่เพลงลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนแล้วพูดขึ้น
“แค่นี้จิ๊บเพื่อน้องของพี่”
หลังจากวันนั้นเรื่องของผมก็ดังไปทั่วโรงเรียนว่าผมเคยโดนลงแขกมาก่อน ทำให้หลายๆคนมองผมแปลกๆ บ้างก็มองด้วยความสงสาร บ้างก็มองด้วยความเวทนา บ้างก็มองด้ววความอยากลอง ผมจากเด็กที่สดใสก็เริ่มหม่น เงียบ ไม่พูดกับใคร แต่ก็ดีที่ผมยังมีเพื่อนๆในกลุ่มคอยเขียงข้างมาเสมอ
“ว่าไงจ้ะน้องพี สนใจไปกับพี่ไหมคืนนี้”
ผมหันไปมองรุ่นพี่ม.6 ที่เจอกันในห้องน้ำ มองผมด้วยสายตาหื่นกระหาย พี่เขาก็หน้าตาดีนะ แต่ไม่น่าเหี้ยเลย
“ไม่ครับ”
ผมพูดจบก็พยามเลี่ยงออกจากห้องน้ำ
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยหน่า”
พี่คนนั้นดักผมไม่ให้ออก เพื่อนพี่เขาก็เข้ามาสมทบอีก2คน
“เพื่อนพี่อีก2คนสนใจด้วย 3คนคงไหวเนอะ ขนาด6คนยังผ่านมาได้เลย”
พี่คนนั้นมองผมแล้วเหยียดยิ้มสมเพช ผมยืนกำหมัดแน่น ผมจะไม่ร้องไห้ ผมจะไม่สั่น ผมต้องเข้มแข็ง
“ก็ได้ครับ งั้นไว้เจอกันคืนนี้ นี่เบอร์พี โทรมานะ”
ผมเลือกที่จะใจเย็นแล้วแก้ปัญหาด้วยสมอง แกล้งจดเบอร์ผิดๆไปแล้วยิ้มหวาน พวกนั้นไม่ทันสนใจผมมากมัวแต่สนใจเบอร์โทรผมก็รีบเดินออกมา ผมรีบวิ่งขึ้นห้องเรียนทันที
เหตุการณ์ในวันนั้นสอนให้ผมรู้ว่า ผมต้องเข้มแข็ง ผมต้องร้าย ผมต้องทันคน มันหมดยุคของนางเอกเจ้าน้ำตาแล้ว
เพราะโลกนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนโลกสวยแล้วจริงๆ
____________________________________________________________
มาต่อแล้วครับ คนเขียนแอบหายไปนาน เพราะติดธุระ
ขอบคุณสำหรับทุกคอเม้นต์และทุกคนที่อ่านนะครับ