==Jungle : ผืนป่าสีดำ By นางมารปีกขาว - - ==ตอนที่35 รักหรือไม่รัก END 9/7/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==Jungle : ผืนป่าสีดำ By นางมารปีกขาว - - ==ตอนที่35 รักหรือไม่รัก END 9/7/58  (อ่าน 46161 ครั้ง)

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ค้างค่ะ คิวบู้ค้างคาแบบเบรกหัวทิ่มเลย เหอๆ บู้มันส์......จบตอน
โหยยย~ พี่คาโลนี่โหดคงเส้นคงว่ามาก ฮ่าๆๆ ชอบจริงๆเลย~
สงครามของคนกับมนุษย์หมาป่า ใครจะชนะกันแน่น้า แล้วจะจับชะนี
เอ้ย! หมาตัวเมียไปไม? ทำลูก? ขาย? ดูเล่น? ล้อตัวผู้ออกมาฆ่า? น่าสงสัยจริง
ต้องรบกวนให้คนเขียนมาต่อให้จบซะแล้ว อิอิอิ มาต่อไวๆน้า ><

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ตามมาอ่าน NC ค่ะ#ผวั่ะ!(เอาใหม่)  ติดตามอ่านมาตั้งแต่ตอนเอาลงที่เด็กดี พอดีพึ่งอ่านตอนล่าสุดแล้วเห็นว่าฝากนิยายไว้ที่อื่นด้วยเลยเซิร์ทดู  ปรากฏว่า อ้า!!!มาอยู่ที่บ้านม่วงของพวกเราเหล่าชาวเป็ดนี่เอง

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 12 การปะทะกันของหมาและคน (3)                                         05/02/2557    22/05/2557






   ภาพแนวป่าเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ เสียงสายน้ำแว่วมาพร้อมเสียงเห่า  เสียงขู่และเสียงปืน พวกนั้นตามมาทันที่ริมแม่น้ำงั้นเหรอ แบบนี้ท่าจะไม่ดีจริงๆซะแล้วสิ


   “ฉันจะลง”ว่าจบคนพูดก็กระโดดทิ้งตัวลงจากหลังหมาไม่สนใจว่าตัวเองจะหล่นกระแทกพื้นจนกลิ้งเข้าไปในโพรงหญ้า  เจ้าหมานั้นชะงักไปหน่อยก่อนจะวิ่งถลาเข้าไปในวงต่อสู้ที่ได้ยินเสียงปืน เสียงเห่า เสียงขู่ดังสนั่น


   คาเซอริโอผุดลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะวิ่งไปยังบริเวณที่ต่อสู้  เบื้องหน้าคือริมฝั่งแม่น้ำคีอานูฟที่ขณะนี้เต็มไปด้วยหมาร่างเท่าม้าตัวเต็มวัยเกือบ 20 ตัวที่กำลังต่อสู้กับมนุษย์ที่อยู่ในวงล้อมโดยพวกมันส่วนหนึ่งกำลังลำเลี้ยงหมาสาวๆที่ดูเหมือนคนเมาให้ลงไปในเรือแคบๆ


   “บัดซบเอ๊ย”คาเซอริโอกระชับปืนในมือแน่นก่อนจะออกวิ่งอ้อมไปหามุมที่ทำให้เขายิงได้ชัด  มุมที่จะสอยพวกมันก่อนจะออกเรือ


   “ให้ตายสิถ้ามีไรเฟิลสักกระบอกหละก็”แผ่นหลังพิงเข้ากลับต้นไม้  ปืน 1 กระบอกกระชับแน่นด้วยสองมือ ก่อนจะค่อยๆยกเล็งไปยังเป้าหมาย ระยะห่างขนาดนี้มันเสี่ยงเกินไป แต่ถ้าเขาไม่เสี่ยงก็ไม่มีทางชนะแน่


ปัง!!


   กระสุนนัดแรกเจาะทะลุหัวฝีพายด้านหลังล้มคอพับลงกับพื้นพวกที่อยู่บนเรือผุดลุกขึ้นปืนในมือกระชับแน่นดวงตาสอดส่ายหาที่มาของลูกกระสุน


ปัง!!


   กระสุนนัดที่สองเจาะทะลุอกเจ้าคนข้างๆจนล่วงลงน้ำ  พวกมันตื่นตระหนกมากขึ้นและพยายามจะยิงกระสุนสวนเข้ามาในแนวป่า  ถูกพวกหมาบ้าง  โดนต้นไม้บ้างแต่เจ้าพวกหมาปีศาจดูจะไม่ตื่นตระหนกกับเสียงปืนของเขาแสดงว่าเจ้าบ้าซาลูกิต้องบอกอะไรสักอย่างแล้ว


ปัง!!


   กระสุนนัดที่ 3 เจาะเข้าที่ไหล่แทนสมอง


   “บ้าเอ้ย”ฝ่ามือกำทุบต้นไม้ด้วยความหงุดหงิด  คิดถึงเจ้าลูกรักอีกกระบอกเสียดายหยิบติดมือมาจากที่นู่นไม่ได้ แม๊กกาซีนที่ว่างเปล่าถูกปลดออกเตรียมบรรจุกระสุนใหม่


ปัง!!


   ต้นไม้ด้านข้างถูกถากเป็นทางยาวตามแนวกระสุน  ร่างหมอบต่ำตามสัญชาตญาณดวงตาสีเทาตวัดมองที่มาของกระสุนนัดแรกซึ่งตอนนี้เรียกห่ากระสุนให้ตามมาด้วย


   “นรกเฮ้ย”พวกมันมาดักหลังได้ยังไง  วิ่งฝ่าออกมาจากวงล้อมงั้นเหรอ  เป็นไปไม่ได้หรือว่าพวกมันจงใจ  ทิ้งคนเอาไว้ด้านนอกแบบนี้ก็เท่ากับพวกหมานั้นโดนล้อมเป็นแบบนี้แย่แน่


ปัง!!!


เฮ๊ง  โบ๋ว


   ไม่ทันไรเสียงปืนก็รัวขึ้นพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด  รัวได้ขนาดนี้คงไม่พ้นปืนกล เขาต้องหามันให้เจอก่อนที่เจ้าหมาบ้าพวกนั้นจะพรุนเป็นพรมเช็ดเท้า


   กระสุนที่ถูกบรรจุใหม่จนเต็มถูกใส่กับเข้าที่  เขาถนัดปืนสองกระบอกมากกว่า 1 กระบอกหละนะ


ปัง  ปัง!!


   เสียงรัวกระสุนดังขึ้นพร้อมเสียงของหนักกระแทกพื้น เจ้ากลุ่มคนที่ยิงเขาล้มลงกระแทกพื้นเป็นใบไม้ร่วง


   “คราวหลังจะยิงใครหันหลบซะบ้างนะเจ้าพวกโง่”ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะก้าวไปตรวจศพช้าๆ  3 ศพนอนนิ่งเลือดอาบ


   “บ้าเฮ้ย  หาปืนที่มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไงนะ”ปืนในมือถูกเบี่ยงออกไปด้านขวากระสุนสองนัดเจาะทะลุร่างคนที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาดูเพื่อน


   “แบบนี้สิค่อยน่าสนุก  ยืมนะ” Coltในมือถูกเก็บลงซองข้างเอวก่อนจะฉวยเอา MICRO TARVO x95ขึ้นมาจากพื้น ลงทุนค้นตัวหน่อยก็ได้แม๊กกาซีนเพิ่มมาอีก 1


   ขายาวๆรีบก้าวไปตามทางที่ได้ยินเสียงปืนกล  ปืนกลกับมาเฟียแบบเขาไม่ใช่ของที่เข้ากันได้เท่าไหร่แต่ครั้งนี้อาจจะต้องตัดปัญหานั้นทิ้งไปก่อนถ้าไม่อยากตายแบบศพไม่สวย


ปัง ปัง  ปัง!!


   สงครามสาดกระสุนเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่เขาเห็นเงาคนผ่านๆ มีเสียงของหนักตกกระทบพื้นพร้อมเสียงรัวของกระสุน แผ่นหลังหนารีบอาศัยต้นไม้เป็นแนวกำบังก่อนจะอาศัยจังหวะยิงกระสุนออกไปจนหมดแม๊กและหยิบแม๊กใหม่มาใส่แทนเมื่อกระสุนฝั่งนั้นเงียบไป


   “ไอ้มือปืนกลมันไปอยู่ไหนนะ”


ปัง!!


   “อุ๊บ”ไหล่กว้างสะบัดตามแรงกระสุน ขายาวรีบถีบตัวเองเข้าไปหลบหลังต้นไม้ต้นใหม่  แผลที่โดนกระสุนถากมีเลือดซึมออกมาแต่เจ้าของกลับไม่มีเวลาสนใจเมื่อเสียงฝีเท้า  เสียงตะโกนโหวกเหวกและเสียงปืนใกล้เข้ามา  ทำได้เพียงยิงปืนสวนออกไปเท่านั้น


แก๊ก!!


   “บัดซบ”ปืนที่หมดกระสุนถูกปาทิ้งไปด้านข้าง Colt 2 กระบอกถูกกระชับไว้ในมือก่อนเจ้าของจะพุ่งตัวออกจากที่กำบังพร้อมสาดกระสุนใส่ 1 ร่าง 2 ร่างที่ร่วงลง


แก๊ก!!!
   กระสุนหมด


   “นรกของแท้”ดวงตาสีเทาเบิกกว้างยามมองเห็นปืนกลสีดำในมืออีกฝ่ายอยู่ตรงหน้า


ปัง!! 


กรร!!


   “อ๊าค”เสียงร้องโหยหวนพร้อมหยดเลือดที่สาดกระเซ็นเมื่อมือปืนถูกกรามใหญ่กัดเข้ากลางลำตัวแล้วเหวี่ยงไปกระแทกต้นไม้จนหักขาด2 ท่อน ปล่อยให้คนที่เกือบชะตาขาดมองตามซากแล้วเบิกตาค้าง


   “แก”ดวงตาสีเทามองสบกับดวงตาใส่แจ๋วที่จ้องมองมา ดวงตาสีน้ำตาลดวงเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อตอนสู้กับเจ้างู  ดวงตาเดียวกับที่มองเขาก่อนจะงาบขึ้นหลัง  ดวงตาเดียวกับที่จ้องเขาด้วยประกายสดใสตอนอยู่ในถ้ำ  ตัวเดียวกับที่วิ่งหายไปทั้งคืน


ปัง!!


   กระสุน 1 นัดพุ่งเจาะทะลุท่อนขาหลังหนาใหญ่เรียกคาเซอริโอขึ้นมาจากผวังดวงตาสีเทาตวัดมองเลือดสีสดที่อาบเลอะท่อนขารวมกับหยดเลือดส่วนอื่นๆ


   “อย่า”เสียงร้องห้ามเหมือนจะไปไม่ถึงเมื่อเงาร่างสูงใหญ่กระโจนพรวดเข้าหาคนยิง  เสียงกระสุนดังสนั่นท่ามกลางเสียงร้อง คาเซอริโอผุดลุกขึ้นจากพื้นวิ่งออกไปยังต้นไม้ฉวยเอา MICRO TARVO อีกกระบอกยิงไปยังเจ้า2 คนที่กำลังเล็งปืนไปยังหมาป่าสีน้ำตาลขาวตัวยักษ์


   “แกเสียสติไปแล้วรึยังไงห๊ะ”คนพูดตวาดเสียงสูงกับการกระทำที่บ้าระห่ำนั้น  กระโจนเข้าหาคนที่ถือปืน  มันบ้าหรือเสียสติไปแล้วรึไง


   “แกก็รู้จักปืนแล้วพุ่งเข้าไปทำไม  ทำไมไม่หลบห๊ะ”มือขาวๆจิกทึ้งเส้นขนตรงช่วงอกแต่สิ่งที่ได้กลับมาจากความกราดเกรียวคือลิ้นสีชมพูสดที่แลบเลียใบหน้าเขาด้วยความอ่อนโยนเท่านั้น


   “แกมันโง่"ฝ่ามือทั้งสองข้างปล่อยเส้นขนที่กำอยู่ถอยออกห่างไม่ให้มันมีโอกาสเลียได้อีก ไอ้บ้าเฮ้ย  หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังทำอะไรบ้าๆ


   “แกหลบๆไปซะ  เกะกะ”ว่าพลางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำลายแล้วประทับปืนในมือก่อนจะก้าวไปตามเสียงปืนกลที่ยังดังอยู่เป็นระยะ


   พลปืนกล 1 ผู้ช่วยอีก 2 เล่นของหนักไม่เบา


   “เฮ้ย”ดวงตาสองคู่หันมามองตามเสียงแต่ยังไม่ทันขยับหันปืน กระสุน 1 นัดก็เจาะทะลุหัวผู้ช่วยฝั่งขวา เลือดสีแดงสดทะลักจากรูกลมกลางหน้าผาก อีกนัดเจาะเข้าที่อกคนฝั่งซ้าย ฝังอีกนัดซ้ำเข้าลำคอ พลปืนกลร่างยักษ์หันตามเสียงปืนนัดแรกแต่ช้าเกินกว่ามัจจุราชที่ก้าวย่างมาตรงหน้า


   “ระยะเผาขนแบบนี้หละถนัดที่สุด”


ปัง!!


   กระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกเจาะทะลุหน้าผากเกลี้ยงก่อนทะลุออกด้านหลังหัวทิ้งเพียงรอยเลือดกระเซ็นเปื้อนหน้าคนยิงและเศษสมองสีขาวทะลักเปื้อนพื้นหญ้า


   “เล่นหนักเหมือนกันนี้”ขายาวก้าวผ่านซากศพเข้าไปหน้าปืนกลที่วางประทับบนฐานตั้งยิงที่ก่อบังเกอร์ง่ายๆก่อนขายาวๆจะถีบโครมจนล้มลงกับพื้นกระทบกับห่อผ้าสีดำเสียงเหมือนโลหะกระทบกันเรียกความสนใจจากเคาเซอริโอให้เดินเข้าไปรื้อค้นกล่องตรงหน้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก


   “มีของดีเหมือนกันนี้หว่า”มือขาวๆคว้าเอาเจ้ากระบอกสีดำยาวขึ้นมาก่อนเดินอ้อมไปหามุมเหมาะๆ  เมื่อไม่มีมือปืนกลพวกหมาๆก็ดูเหมือนจะได้เปรียบขึ้นมาเล็กน้อย  แต่เพราะบาดแผลที่มีกันเต็มตัวและจำนวนศัตรูที่เหลืออยู่มากสถานการณ์อาจพลิกได้เพราะแบบนี้แหละเขาถึงได้เป็นตัวแปร หากทำสำเร็จพวกสาวๆก็คงรอด  หากไม่ก็คงตาย


   “บอกพวกนั้นทีว่าอย่างขวางทาง”ปากสั่งการเจ้าหมาที่ยืนอยู่ข้างหลังก่อนจะจัดท่าโดยอาศัยซากบังเกอร์เก่าของพวกมันเป็นฐาน เสียงหอนยาวดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับหมาป่าที่กำลังสู้อยู่หลบเบี่ยงออกไปจากวิถีปืน


   “แบบนั้นหละหนูๆ”ดวงตาสีเทามองนิ่งไปยังเรือ 2 ลำที่เริ่มลอยออกห่างจากแผ่นดิน ลำแรกห่างจากขอบฝั่งเกือบถึงกลางลำน้ำ ช่วงกว้างกว่าแม่น้ำคีอานูฟที่เขาเจอในครั้งแรก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาหรอกถ้ามีเจ้าหนูนี้อยู่ในมือ


ปัง!!  ปัง!!   ปัง!!


   กระสุน 3 นัดที่ทิ้งระยะห่างกันเพียงชั่วครู่พุ่งไปที่เรือกลางแม่น้ำ นัดแรกเจาะเข้าที่หัวคนด้านหลังสุด ยังไม่ทันจะล้มลงกระสุนนัดที่สองก็เจาะเข้ากลางหน้าผากอีกคนที่หันมามอง นัดสุดท้ายจึงเจาะเข้าข้างแก้มอีกคนได้พอดี


   “เสร็จไปหนึ่ง”ลำเรือที่ปราศจากคนคุมลอยนิ่งๆไปกลางลำน้ำ  สาวๆบนลำเรือนั่งนิ่งเหมือนคนเมา  เข็มยานั้นคงเป็นยากดประสาทที่ฤทธิ์แรงน่าดู


   “ลำที่สอง”


ปัง!!   ปัง!!   ปัง!!   ปัง!!


   กระสุนกลุ่มที่ 2 เจาะทะลุเป้าหมายทั้งกลางลำตัว กลางช่องอก ส่งพวกมันลงน้ำไป 2 คน 2 คนที่เหลือก็ตายสนิท เพราะการตายของลำที่แล้วทำให้พวกมันขยับตัวไม่อยู่นิ่งเลยพลาดหัวไปน่าเสียดายจริงๆ


   “ก็เหลืออีกนิดหน่อยสินะ”การต่อสู้หยุดชะงักไปชั่วครู่เมื่อฝ่ายมนุษย์เริ่มเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด แต่ดวงตาสีเทาก็ยังไม่ละออกจากเป้าหมายที่คราวนี้กลายเป็นลำที่กำลังจะลอยออกจากฝั่ง เจ้าคนที่กำลังหันหน้ามาทางนี้ท่าจะเหมาะ


ปัง!!


   “หยุด  ถ้าไม่หยุดฉันยิงแน่”เสียงขู่ของคนที่เริ่มพลาดท่าเมื่อคนด้านหลังโดนกระสุนไร้ที่มาเจาะเข้ากลางหน้าผากจนล้มลง


   “บอกให้มันออกมาไม่งั้นฉันยิง”


   “ชินริ”เส้นผมสีน้ำตาลยาวของตัวประกันยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง   ร่างบอบบางนั้นยืนโงนเงนอยู่ในวงแขนที่ล๊อคคอเธอเอาไว้พร้อมเอาปืนจ่อ


งี๊ด!!


   เสียงแหลมๆดังขึ้นข้างหูพร้อมลมหายใจร้อนๆที่เป่าลงมา


   “เฮ้อ  วุ่นวายซะจริง”คาเซอริโอขยับลุกออกจากที่ขยับมือเหวี่ยง MICRO TARVO ไปไว้ด้านหลัง หากมองด้านหน้าก็คงเห็นเพียงสายเชือกเก่าที่คล้องพาดไหล่อ้อมหายไปข้างเอว


   “ยอมแล้วๆมาคุยกันดีๆ ดีกว่าไหม”คาเซอริโอส่งเสียงออกไปก่อนตัว  มือทั้งสองข้างยกขึ้นข้างบ่า  ก้าวออกไปช้าๆพร้อมเจ้าหมาตาสีน้ำตาลนั้น


   “แก  แกเป็นคนยิงพวกนั้นงั้นเหรอ”เจ้าคนตัวหนาที่จับชินริเป็นตัวประกันหันมาถามเขาที่เดินออกไปโดยที่บรรดาหมาๆต่างหลีกทางให้  พวกคนที่เหลือรีบวิ่งไปรวมตัวหลังเจ้านั้นและจับผู้หญิงอีก 3 คนขึ้นมาเป็นตัวประกันโชคดีที่เรือ2 ลำลอยอยู่กลางน้ำไม่งั้นเขาคงจะปวดหัวแน่ๆ


   “อยากให้ฉันทำให้ดูอีกทีไหมหละ  กับพวกแกแค่ 10 คนแป๊บเดียวก็เสร็จ”


ปัง!!


   “หุบปากเน่าๆแกไปซะ”กระสุน 1นัดเจาะลงพื้นดินหยุดปลายเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้าพร้อมเสียงขู่คำรามที่ดังขึ้นจากโดยรอบ ดวงตาสีเทาตวัดมองคนยิงที่ยืนถือปืนอยู่ข้างๆ ปืนสีดำที่เริ่มสั่นน้อยๆ


   “มารยาทไม่ดีเลยนะ  แกควรสั่งสอนลูกน้องหน่อยว่าตอนนี้เรากำลังเจรจากันอยู่”คาเซอริโอหันกลับไปพูดกับเจ้าตัวที่จับชินริเอาไว้  ในบรรดา 10 คนที่ยืนอยู่ดูน่าจะเป็นหัวหน้า และในบรรดา 10 คนนั้นไม่มีเจ้าริวจิ ตลอดทางในป่าเขาก็ไม่เจอและหวังว่าจะไม่โผล่มาเพื่อให้เรื่องยุ่งยากขึ้นไปอีก


   “หึ  ฉันก็เห็นว่ามันทำตัวน่ารักออก”เจ้าตัวยิ้มขำโดยมีพวกที่เหลือหัวเราะเป็นลูกคู่


   “แล้วแกจะเอาไง”คาเซอริโอตัดสินใจยิงคำถามเพื่อตัดบทอะไรที่มันไม่สมควรจะยาวออกไปก่อนจะกวาดตามองหมาๆรอบตัว เจ้าซาลูกิที่อยู่มุมสุดขยับตัวเดินห่างออกไปช้าๆ เจ้าตัวสีดำขนหนาตัวใหญ่มองเขาก่อนจะครางเสียงต่ำในลำคอ


   “พวกมันทำอะไร”เสียงถามดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม


   “ไม่รู้สิ  ในเมื่อฉันเป็นคนไม่ใช่หมา”คาเซอริโอยิ้ม
 

   “แก  บอกให้พวกมันถอยไปซะ ไม่งั้นฉันจะยิงนังนี้”เจ้าตัวหัวหน้าพูดขู่


   “ฉันบอกแกไปแล้วนะว่าฉันเป็นคนพูดกับหมาไม่รู้เรื่อง”


   “แล้วแกมาช่วยพวกมันทำไม”เจ้าคนที่อยู่ทางซ้ายพูดขึ้นบ้าง


   “ใครบอกแบบนั้นกัน”


   “แกยิงพวกเรา”


   “ก็แล้วไง ฉันแค่อยากยิง”


   “งั้นแกคงไม่สนสินะว่านังนี้จะเป็นยังไง”เจ้าตัวหัวหน้ากดเสียงเย็นก่อนจะแนบปืนเข้าที่ขมับขาวมากขึ้น  ร่างที่โงนเงนเงยขึ้นมาสบตาเขาก่อนจะยิ้มให้  ยิ้มเหมือนวันแรกที่เขาเจอกัน


   “จะทำอะไรก็ทำสิ”


   “แก….”


ปัง!!

   ปืนกลางหลังถูกคว้าขึ้นจับทั้งๆยังไม่สิ้นเสียง กระสุน 1 นัดเจาะทะลุกลางศีรษะเลือดสีแดงสดไหลอาบพื้นพร้อมร่างบอบบางที่ล้มลง ปากกระบอกปืนมากกมายถูกชี้มาตรงหน้าพร้อมเงาสีดำที่พาดผ่านม่านตา


ปัง!!   ปัง!!   ปัง!!


   “อ๊าคค”เสียงปืนดังสนั่นพร้อมเสียงขู่คำราม เสียงเนื้อที่ถูกฉีกกระชากชั่วเสี่ยววินาทีที่เสียงเริ่มเงียบลงพร้อมเสียงโหยหวน ภาพเงาดำที่พาดผ่านสว่างขึ้นเมื่อเงาสูงใหญ่นั้นทรุดลง  ภาพเบื้องหน้าคือแม่น้ำเลือดที่ละเลงด้วยเลือดมนุษย์ที่ตอนนี้เป็นเพียงร่างที่ถูกกระชากจนขาดเป็นชิ้นๆ


   “ไอ้หมาโง่”ปืนในมือถูกทิ้งลงพื้นเพื่อประคองหัวใหญ่ๆนั้นขึ้นมา สบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตที่หรี่ปรือลงช้าๆ


   “เฮ้ย  เฮ้ย”













    ตอนใหม่มาแล้วคะ  ถือเป็นตอนที่ 3.3 ส่งครบทุกตอนย่อยแล้ว  ดีใจที่มาถึงหน้า 2 สักที งือ นึกว่าจะจบเรื่องในแค่หน้าเดียวซะแล้ว

    สำหรับตอนนี้เราจะเห็นฉากบู๊สนั่นและความบ้าดีเดือดของคาโลและพ่อหมา  แต่ก็มีแอบหวานกันนิดๆให้นักเขียนกระชุ่มกระช่วยกับฉากหวานๆแบบนี้ที่นานๆจะโผล่มาที  แต่ตอนนี้อาจหวานน้อยไป  ตอนหน้าเลยขอหวานมากกว่านี้  หยุดพักเรื่องรบๆกันชั่วคราวคะ

    ปล. เรื่องจับเหล่าตัวเมียเเละเด็กๆนั้น นางมารเตรียมคำตอบไว้แล้วคะ  แต่จะไม่เฉลยนะคะ คำตอบนั้นคงต้องรออีกสักนิด

     ปลล.  ที่นี้ถือเป็นบ้านอีกหลังไม่ใช่กรุนะคะ  นางมารมีกรุอีกที่หนึ่งเป็น blog ที่เอาไว้เก็บโดยเฉพาะ  ที่นี้ลงเพราะอยากแบ่งปันคะ ส่วนที่นี้จะลงวื้อหวาแค่ไหนนั้นขอคิดอีกทีคะ  เพราะที่นี้นักอ่านเป็นผู้ใหญ่กว่าที่โน้น แถมกฏก็ยังต่าง  เอาไว้พอถึงตอนนั้นก็จะได้รู้กันนะคะ
:mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2014 01:08:52 โดย tamako »

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เฮ้ยยย เกิดไรขึ้น จะมีใครตายมะเนี่ย? ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
ฉากบู๊มันส์หยดสุดๆเลย อยากอ่านต่อแล้ว มาอัพไวๆน้า~

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
กระหน่ำเลือดสาด



รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 13 อ้อน...                                                                                        24/02/2557 
                                                                                      22/05/2557




           บรรยากาศหลังสงครามบอกได้คำเดียวว่าเละเกินคำบรรยาย  หากไม่ได้มาเห็นด้วยตาเขาคงบรรยายหรือนึกภาพได้ยากเพราะจากที่เคยผ่านงานมาไม่ว่าจะงานฆ่าหรืองานยิงถล่มกันกลางเมืองก็ไม่มีงานไหนเละได้ขนาดนี้ 


     มาเฟียคืองานใต้ดินที่ต้องทำเงียบๆ  กลบกลิ่นให้มิดแม้จะมีบ้างที่ยิงกันเปรี้ยงปร้างกลางเมืองแต่ก็ต้องทำแบบหลบๆหรือไม่ก็ทำในเมืองหรือสถานที่ที่สามารถโบยไปว่าพวกนักเลงเจ้าถิ่นตีกันเองหรือไม่ก็เมืองที่ยัดใต้โต๊ะปิดปากกันได้แต่แบบที่เล่นขนาดนี้เขาก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน


   ไม่มีกฎหมาย  ไม่มีการปิดปาก ไม่ต้องยัดใต้โต๊ะ  ไม่ต้องเก็บศพทำลายหลักฐานแค่ฆ่าเพื่อเอาตัวรอด  ฆ่าเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและเพื่อนพ้อง  บอกไม่ถูกว่าแบบไหนดีกว่ากันระหว่างการฆ่าแบบมาเฟียและการฆ่าแบบสัตว์ป่าเพราะสำหรับเขาแล้วจุดลงเอยสุดท้ายก็เหมือนกัน เก่งกว่าก็รอด อ่อนแอกว่าก็ตาย


   เหมือนอย่างที่ริมแม่น้ำคีอานูฟที่ตอนนี้ฝั่งด้านหนึ่งเต็มไปด้วยเศษชิ้นเนื้อจากศพ  เสียงร้องโอดครวญจากพวกที่ยังมีลมหายใจและเลือดแดงฉานที่ยังไหลรินลงแม่น้ำ  พวกปีศาจหมาเป็นฝ่ายชนะแต่ก็บอบช้ำไม่น้อย พวกที่ยังพอยืนไหวก็ออกแรงงับแล้วลากเพื่อนพ้องที่บาดเจ็บหนักเข้าป่าตรงกลับกลุ่ม  บางตัวที่เจ็บไม่มากก็พยายามคืนร่างเป็นมนุษย์แล้วขี่หลังเพื่อนไป  พวกสาวๆเองก็ถูกลากเข้าฝั่งด้วยหมาอาสาสมัครที่ว่ายท่าลูกหมาตกน้ำไปลากขึ้นมา


   “เละได้ถึงที่สุดจริงๆนะ”ดวงตาสีเทากวาดมองริมแม่น้ำก่อนเท้าในรองเท้าสานจะก้าวพรวดไปตรงกองซากมนุษย์ข้ามชิ้นส่วนช่วงเอวที่ถูกขย้ำจนขาด มองเห็นลำไส้สีขาวๆกองเกะกะรวมอยู่กับแอ่งเลือด


   “ฟันคมดีจริงๆแหะ”ริมฝีปากสีส้มสดยกยิ้มก่อนจะล่วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงลงทุนค้นตัวเพราะอาจเจอสิ่งที่มีประโยชน์


กรร!!


   เสียงขู่คำรามดังขึ้นข้างตัว คาเซอริโอทำเพียงปลายตามองก่อนจะหยิบเอากิ่งไม้เปื้อนเลือดแถวนั้นขึ้นมาเขี่ยไส้ยาวๆนั้นให้พ้นทางแล้วฉวยเอาด้ามปืนสีดำขึ้นมา


   “ฉันขอแล้วกัน พวกแกคงไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าไหร่”ปากว่าไปมือก็เช็คสภาพปืนในมือที่อาบด้วยเลือดไปพลาง


   “เจ้าเป็นมนุษย์แบบที่ข้าไม่เคยเจอมาก่อน”เสียงพูดจากด้านหลังเรียกให้ดวงตาสีเทาหันไปมองก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง


   “แก..”คนตรงหน้าเขาคือผู้ชายหุ่นดีที่มีเพียงแผ่นหนังปิดของสงวนเอาไว้  เส้นผมสีดำยาวๆนั้นคงเงาสลวยดูดีถ้าไม่มีคราบเลือดเกาะกรัง ดวงตาสีแดงแบบนั้นเจ้าหัวหน้าสินะ


   “มีอะไร”คาเซอริโอถามเรียบๆก้าวข้ามส่วนของแขนที่ขาดรุ่งริ่งตั้งแต่ส่วนของไหล่ย่อตัวลงค้นตัวเจ้าคนที่นอนร้องโอดโอย  จับมือที่คว้าจับข้อเท้าด้วยแรงแค้นดึงออกจนได้ยินเสียงดังกึกและเสียงร้องโอดโอยที่สนั่นกว่าเดิมแต่ไม่มีมือมาคว้าจับให้รำคาญอีก


   “ข้าอยากคุยกับเจ้า”ดวงตาสีเทาเหลือบมองคนพูดก่อนจะเหลือบมองหมาสีน้ำตาลขาวเจ้าของเสียงขู่ที่ตอนนี้ถอยออกไปรวมกลุ่มกับพวกที่กำลังจะเดินทางกลับ


   “อืม”


   “เดินไปคุยไปแล้วกัน  เดี๋ยวจะยุ่งถ้าพวกนั้นมา”คาเซอริโอถอนหายใจออกมาเมื่อเดินรื้อค้นจนครบก่อนจะเดินลงไปล้างมือที่แม่น้ำแล้วตามเจ้าคนที่ยืนรออยู่ไปช้าๆ  ใจจริงเขาก็อยากรีบกลับหรอกนะแต่เหมือนสถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวยซะแล้ว


   “เจ้าคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาสินะ”ดวงตาสีเทาทำเพียงเหลือบมองคนพูดที่เปิดประเด็นได้ชวนหัวเราะเป็นที่สุด


   “ฉันก็แค่คนธรรมดามีสองมือสองขาเหมือนพวกแกในร่างมนุษย์นั้นหละ”


   “ไม่มีมนุษย์เดินดินทั่วไปทำแบบเจ้าได้  ข้าว่าเจ้ารู้ดีว่าข้าหมายถึงอะไร”ดวงตาสีแดงนั้นมองสบเขาก่อนจะยกเศษผ้าจากไหนไม่รู้ขึ้นมาซับเลือดที่หัว คงจะเป็นแผลจากการต่อสู้นั้นแหละ


   “หึ”คาเซอริโอทำเพียงเปล่งเสียงในลำคอ  เดินไปเรื่อยๆรอดูว่าเจ้าหมาตรงหน้าจะพูดอะไร


   “ในฐานะหัวหน้ากลุ่มข้าอยากถามว่าเจ้ายังยืนยันคำเดิมเมื่อเราพบกันครั้งแรกหรือไม่”ขายาวๆหยุดชะงักก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาช้าๆแล้วก้าวต่อไป


   “ฉันยังยืนยันคำเดิม  ฉันต้องการออกไป”คนฟังยกยิ้มที่มุมปาก  ดวงตาสีแดงคู่นั้นยังคงมองตรงไปข้างหน้า


   “เช่นนั้นก็คงดีไม่น้อย  หากเจ้าได้จากไปดีๆ”คิ้วสีทองขมวดลงเล็กน้อย  จากไปดีๆงั้นเหรอ


   “แล้วคิดว่ายังไงหละ จะยอมปล่อยฉันไปดีๆหรือจะหาเรื่องกันสักยกก่อนดี”


   “หากข้าอยากรั้งเจ้าไว้ เจ้าคงไม่อยู่สินะ”คนฟังชะงัก  มองสบแผ่นหลังของคนพูดที่ตอนนี้หยุดเดินและหันมายิ้มให้เขาด้วยแววตาที่มั่นคงคู่นั้น


   “ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกต้องรั้งฉันไว้”คาเซอริโอออกเดินอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าป่ารอบๆเริ่มมีเสียงดังสวบสาบ  สงสัยพวกกินซากจะเริ่มเคลื่อนไปที่ริมน้ำแล้วแน่ๆ


   “หึ  ตัวข้านั้นมีเหตุผลของข้าเอง แต่ก็คงจะไม่มีใครในกลุ่มที่สามารถรั้งเจ้าเอาได้สินะ ชายผู้มุ่งมั่น”คนฟังหมุนคิ้วด้วยความหงุดหงิดเมื่อคนพูดชักเริ่มจะตีรวนทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ


   “ฉันยังยืนยันคำเดิม”


   “นั้นสินะ  ถ้าเช่นนั้นช่วยจากไปเพียงแค่เจ้าได้หรือไม่”คาเซอริโอทำเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิดเมื่อคำพูดมันชักจะลากเรื่อยโยกไปโยกมาแบบที่คนถนัดฝ่ายบู๊แบบเขาเริ่มไม่ชอบ


   “ฉันก็ไม่ไม่คิดจะเอาอะไรติดไปอยู่แล้ว  เรื่องของพวกแกก็เป็นเรื่องของพวกแกไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”


   “เช่นนั้นข้าสมควรดีใจที่เรื่องของพวกข้ายังคงเป็นความลับ”คาเซอริโอเริ่มคลายหัวคิ้วได้บ้างเมื่อเรื่องที่คุยดูจะเป็นอะไรที่เข้าท่าสมกับที่หัวหน้ากลุ่มสมควรพูด คงกลัวว่าเขาจะเอาความลับของกลุ่มไปเปิดเผยสินะ จากที่คุยกันในครั้งแรกก็พอรู้แล้วว่าเจ้าพวกบ้านั้นไม่อยากเก็บเขาเอาไว้แต่ก็ต้องยั้งมือเอาไว้ก่อนเพราะมีเรื่องยุ่งๆในกลุ่มกับเรื่องที่เขาช่วยชินอูเอาไว้จึงได้แต่จับตาอยู่ห่างๆ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาคงทำให้เจ้าพวกนั้นต้องคิดกันใหม่เพราะจะจัดการเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เขาคงไม่ยอมเป็นหมูในอวยให้พวกมันจัดการง่ายๆหรอก


   “ความลับของพวกแกไม่มีค่าอะไรกับฉัน  ฉันไม่นิยมชมชอบล่าหมาอย่างพวกมัน  ล่าหัวคนซะยังจะสนุกกว่า”


   “ได้ยินแบบนั้นข้าก็ดีใจ  พูดถึงเรื่องล่าคน ข้าควรขอบใจเจ้าเรื่องแผนที่แต่ดูเหมือนเราจะประมาทไปไม่น้อย”


   “ก็คงจะแบบนั้น ไม่งั้นพวกมันคงไม่ยกโขยงเข้าไปถึงกลุ่มแกได้หรอก”คาเซอริโอพูดเรื่อยๆ


   “กากบาทบนแผนที่นั้นพวกแกคงไปตรวจสอบมาแล้วสินะ”


   “เราตรวจสอบกันเป็นประจำนั้นแหละ”ลมหายใจของคนฟังสะดุดไปชั่วครู่ก่อนจะปรับให้เป็นปกติสีหน้ายังคงเรียบเรื่อยแต่สมองกับแล่นฉิว  ตรวจสอบกันเป็นประจำหมายความว่ากากบาทพวกนั้นไม่ใช่จุดนัดพบของหนอนแต่เป็นจุดลาดตระเวนของพวกหมา  คิดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้นึกกรุ่นโกรธในใจ  ข้างหนึ่งคือโกรธเจ้าหมาในถ้ำที่ไม่ยอมพูดอะไรให้กระจ่างแต่จะไปว่ามันก็ไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องภายในเขาเป็นคนนอก  อีกส่วนที่โกรธคือโกรธตัวเขาเองที่หลงกลไปกับแผนที่  นั้นสินะใครมันจะเขียนจุดนัดพบพวกนั้นไว้โต่งๆกันหละแต่คิดอีกแง่หากพวกมันรู้จุดลาดตระเวนพวกนั้นก็หมายความว่าเจ้าหนอนคนนั้นได้ข้อมูลมาจากพวกหมาที่ไปลาดตระเวนหรือไม่ก็หนอนมีมากกว่า  1 ตัว


   “รู้แบบนั้นแล้วทำไมพวกแกถึงยังออกไป”


   “พวกนั้นรู้จุดลาดตระเวนก็เท่ากับรู้จุดที่หละหลวมนั้นแหละ”พูดแบบนี้ก็แสดงว่าเจ้าหัวหน้ามันก็ฉลาดไม่เบา มันออกไปลาดตระเวนทั้งในจุดที่เคยลาดตระเวนและในจุดบอดที่พวกนั้นสามารถหลบเลี่ยงเข้ามาได้


   “แต่ก็ไม่ดีพองั้นสินะ”คาเซอริโอเปรย  แม้เจ้าหัวหน้าจะสามารถลาดตระเวนได้ถูกจุดแต่ก็ช้าเกินไปไม่ทันการณ์  พื้นที่มันกว้างเกินไปและอีกฝ่ายรู้ความเคลื่อนไหวเร็วเกินไป  แน่หละมันไม่ใช่แผนที่ดีที่สุดแต่ก็เป็นแผนป้องกันที่ดีแผนหนึ่ง  หากหาพวกมันเจอก่อนย่อมเป็นผลดี  แต่ข้อเสียของมันก็คือฝ่ายศัตรูเปลี่ยนแผนทันทีเช่นกันเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลง นั้นเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าในกลุ่มพวกนี้มีหนอน


   “ในกลุ่มคงมีคนทรยศจริงดังที่เจ้าพูด”คาเซอริโอขมวดคิ้วฉับเมื่อรู้สึกว่าเจ้าหมาในถ้ำมันจะเปิดปากเล่าเรื่องที่เขาคุยกับมันให้หัวหน้ามันรู้เกือบหมดไม่สิอาจจะบอกไปหมดเลยด้วยซ้ำ


   “หึ  แล้วรู้ตัวรึยังหละ”คาเซอริโอถามหยั่งเชิงแต่คนถูกถามก็ทำเพียงเงียบและก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น แปลไม่ได้ว่ารู้หรือไม่รู้  แต่สำหรับเขาแล้วการที่พวกมันไม่รู้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า


   “ข้าคงต้องคอยจับตาเจ้าอย่างใกล้ชิดเสียแล้วสิ”คำพูดที่วกกลับมาเหมือนเงื่อนที่รัดตัวทำให้คนฟังอดทำหน้าเบื่อไม่ได้ นั้นหมายความว่าเขากำลังจะโดนจับตามองเพิ่มขึ้นเพราะดันรู้อะไรมากไปนั้นเอง


   “คงต้องขอให้เจ้าย้ายไปอยู่กับซาเวียร์”


   “ห๊ะ”คาเซอริโอแทบยกมือขึ้นกุมขมับแค่อยู่กับมันวันเดียวก็แทบจะเส้นเลือดในสมองแตกและมือก็ร่ำๆจะยกปืนขึ้นยิงเปรี้ยงปร้างแทบจะทุกๆ 5 นาที


   “ข้าเองก็อยากให้เจ้ามาอยู่กับข้าหรอกนะแต่ซาเวียร์คงไม่ยอม  ข้ายังไม่อยากมีเรื่องกับมือดีคนนี้ซะด้วยสิ”คาเซอริโอหมุนคิ้ว ให้เขาไปอยู่กับเจ้าหัวหน้าเนี่ยนะหึ  แต่ให้ไปอยู่กับเจ้าหมานั้นมันก็เข้าทางพอดี  เสี่ยงหน่อยแต่คุ้มค่าพอสมควรถ้าเขาไม่บ้าจนเป่าสมองมันไปซะก่อน


   “ฉันจะไปอยู่กับเจ้าหมานั้นแต่จะดีมากหากช่วยบอกมันให้อยู่นิ่งๆซะบ้างก่อนที่ฉันจะยิงมันทิ้ง”


   “ข้าเชื่อว่าซาเวียร์คงทนกับเจ้าได้ แต่หากเจ้าเปลี่ยนใจจะมาอยู่กับข้าก็ได้นะ”


   “แก..”คาเซอริโอคำรามในลำคอ ทนกับเขางั้นเหรอเขามากกว่าหละมั้งที่ต้องทนกับนิสัยหมาๆของมันนะ


   “ทีเบอริส”เสียงเรียกดังมาจากพุ่มไม้ก่อนคนพูดจะโผล่หัวออกมา  หน้ากวนๆยียวนแบบนี้มีตัวเดียวเจ้าวูฟเทอรีน


   “หืม ข้ากำลังจะไปเดี๋ยวนี้หละ  อ๋อคาโลข้าขอบอกเจ้าไว้อย่าง สำหรับชาวปีศาจอย่างพวกเราการเลือกคู่ครองไม่ได้จำเป็นจะต้องเลือกเพียงเพศตรงข้าม หากพึงใจที่จะชอบ ที่จะรัก ไม่ว่าใครชาวเราก็พร้อมที่จะมอบใจให้  หากเจ้าคิดจะไปแต่ตัวอย่างที่ปากพูดจริงโปรดระวังตัวไว้บ้างเพราะเสน่ห์ของเจ้าถูกใจใครมากมายกว่าที่เจ้าคิด”เจ้าหมาตาแดงนั้นยกยิ้มก่อนจะเดินจากไปโดยมีเจ้าวูฟเทอรีนที่มองเหมือนเขาไปยิงญาติมันตายเดินตามไป


   “ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้หมาปากบัดซบ”คาเซอริโอเตะหินแถวนั้นระบายความหงุดหงิดเมื่อพบว่าความหมายของคำว่าไปแค่ตัวของมันนอกจากเรื่องความลับบ้าบอคอแตกแล้วยังหมายรวมถึงเรื่องงี่เง่าพวกนี้ด้วย  เหอะ  เสน่ห์เหรอเสน่ห์ของลูกปืนกับลำแข้งเขาก็ไม่คิดว่าจะมีเจ้าหน้าโง่ตัวไหนมันมาตกหลุม  คิดไปถึงตรงนี้ก็เหมือนหน้าเจ้าหมาบ้านั้นจะลอยขึ้นมา  นรกเอ่ย  งี่เง่าดีแท้


   เขาทำได้เพียงยกนิ้วขึ้นเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดก่อนจะผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติแล้วบ่ายหน้าเข้ากลุ่มไปทำตามสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก



=============================



   บ้านพักของหมอฮิโตะตอนนี้เหมือนสถานพยาบาลขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากสงครามที่ผ่านมา เสียงร้องโอดโอยดังไปทั่วแต่ดูจากสภาพโดยรวมแล้วเหมือนจะเจ็บกันไม่มากเท่าไหร่ที่หนักๆก็มีบ้างแต่เทียบแล้วก็น้อยนับว่าอึดกันไม่เลวทีเดียว


   ดวงตาสีเทากวาดมองไปรอบๆก่อนขายาวจะก้าวเข้าไปในกระโจมสีขาวที่สร้างขึ้นมาลวกๆ  พวกสาวๆที่ถูกลักพาตัวไปมารวมตัวกันอยู่ในกระโจมถูกจัดให้นอนบนพื้นโดยมีผ้าสีน้ำตาลตุ่นๆปูรองไว้


   “เป็นยังไงบ้าง”ขายาวๆทรุดลงนั่งข้างหญิงสาวก่อนจะถือโอกาสมองสำรวจใบหน้าหน้าเกลี้ยงเกลาที่บัดนี้เปรอะด้วยคราบฝุ่นและดูอิดโรย


   “ข้าไม่เป็นแล้วคะ”


   “ขอโทษนะ”ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยที่ข้างขมับตรงจุดที่ถูกปืนจี้มีคราบเขม่าและรอยไหม้ขึ้นชัด


   “อ๊ะข้าไม่เป็นไรจริงๆคะ  ขอบคุณท่านมากนะคะที่ช่วยข้าไม่งั้นข้าคง”หญิงสาวปฏิเสธเร็วๆพร้อมหน้าที่เหมือนจะซับสีเลือดขึ้นมาบ้าง


   “หึ เพราะฉันต่างหากเธอถึงเจ็บตัวชินริ”วินาทีที่เจ้านั้นเอาปืนจี้หัวชินริไว้เขาเองก็ตกใจไม่น้อยหากเป็นคนอื่นเขาคงไม่ไยดีแต่นี้เป็นเธอที่คอยช่วยเขาเอาไว้ เขาไม่มีทางจะใจดำทิ้งได้ลงคอ แม้จะตอบว่าไม่สนใจที่ชินริถูกจับแต่นั้นมันก็แค่คำโกหกเพราะหากมันรู้ว่าเธอมีความสำคัญกับเขาแผนต่างๆคงไม่สำเร็จ  แผนที่เขาเอาเธอเข้ามาเสี่ยง 


   เขาจงใจยั่วให้มันโมโหให้มันโกรธและวินาทีที่มันเบี่ยงปืนจากหัวชินริมาเป็นหัวเขาก็เป็นวินาทีที่เขายิงเจาะกะโหลกมัน  มันเป็นแผนที่เสี่ยงและเขาก็ไม่คิดจะบอกเพราะบางที่หากชินริรู้ว่าเขาเอาไปล่อลูกปืนมีหวังเขาอาจโดนตบสักฉาดหรืออาจมากกว่านั้นเพราะหากมันไม่โกรธแล้วหันปืนมาทางเขาแต่ยิงชินริแทนเธอนั้นแหละที่จะตายเพราะแผนบ้าๆของเขา


   “เจ็บตัวเล็กน้อย แต่เทียบกับที่ท่านคาโลช่วยทุกคนไว้ข้าก็คิดว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยงคะ”หญิงสาวยิ้มกว้าง  รอยยิ้มกว้างที่ทำให้โลกสดใสเหมือนวันแรกที่เราเจอกันและเหมือนตอนที่ทำให้เขาคิดแผนสุดระห้ำนี้ขึ้นมา  แต่ความคิดที่ว่าเขาคือผู้ช่วยชีวิตทุกคนไว้มันออกจะดูยกย่องเกินไปหน่อย เขาแค่คิดจะช่วยเจ้าหล่อนไม่ได้คิดจะช่วยคนอื่น ที่ทำมันก็แค่สถานการณ์พาไปกับผลพลอยได้ทั้งนั้น


   “ยังมึนหัวอยู่ไหม”


   “เหลือนิดหน่อยคะ  แต่ยาของท่านริวจิช่วยได้มากทีเดียว”


   “งั้นเหรอ  แล้วยังต้องกินยาอีกรึเปล่า”


   “กินคะช่วงนี้คงต้องกินยาเรื่อยๆนี้ก็ได้เวลากินยาแล้วแต่เหมือนท่านริวจิจะกำลังยุ่งๆ”


   “งั้นเหรอ รออยู่นี้นะเดียวฉันไปเอายามาให้”คาเซอริโอลุกขึ้นก่อนจะบ่ายหน้าออกจากกระโจมสาวเท้าเข้าหาแผ่นหลังที่ก้มๆเงยๆอยู่กับกองไฟและกลุ่มสมุนไพรขนาดย่อม  มือคว้าหมับเข้าที่แขนซึ่งพันผ้าที่ขาวไว้แล้วออกแรงบีบ


   “โอ๊ยท่าน ข้าเจ็บนะ”ใบหน้าเรียวเล็กหันมามองก่อนดวงตาสีดำคู่นั้นจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย


   “โทษทีฉันไม่นึกว่าจะได้แผลกับเขาด้วย  ไปทำอะไรมาหละ”คาเซอริโอปล่อยมือออกจากแขนนั้นก่อนจะถามเรียบๆ


   “ข้าหกล้มนะขอรับ  ท่านต้องการอะไรรึเปล่าขอรับ”


   “อ๋อ พอดีมาเอายาให้ชินรินะ”


   “อ๊ะ  รอสักครู่นะครับ”คนตัวเล็กหันกลับไปที่หม้อยาอีกครั้งเปิดโอกาสให้นิ่งคิด  หกล้มงั้นเหรอเป็นคำโกหกที่ไม่น่าฟังเอาซะเลยนะ 


   “ได้แล้วขอรับ”


   “ขอบใจ”คาเซอริโอรับถ้วยสีน้ำตาลไหม้ในมือมาถือไว้กลิ่นเหม็นของน้ำยาในถ้วยทำให้คนฟังหน้าเบ้นึกดีใจที่เขาไม่ได้เป็นคนกินยานี้เอง


   “เฮ้ย ชินอู”เจ้าของชื่อหยุดชะงักขาที่กำลังก้าวเข้าไปในกระโจมเมื่อโดนเรียก ดวงตาสีน้ำตาคู่คมหันมามองคนเรียกก่อนจะตีหน้ามุ่ยแบบที่ชอบทำเป็นประจำเมื่อเจอหน้าเขา  เจ้าเด็กโข่งที่เขาแทบไม่เจอหน้าอายุก็ไม่เท่าไหร่แต่ทำเก่งออกไปทำงานกับพวกรุ่นๆเป็นประจำ


   “นี้ยาพี่สาวแกเอาไปให้ทีฉันจะไปดูเจ้าหมาซาเวียร์สักหน่อย  รู้ไหมว่ามันอยู่ไหน”


   “ท่านชาเวียร์อยู่ในบ้านหมอฮิโตะ  กำลังจะผ่าตัดแต่คราวหลังจะเรียกชื่อใคร..”


   “เฮ้ยๆ  เอาน่าบ่นเป็นคนแก่ไปได้เจ้าเด็กนี้”มือขาวขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาสั้นจนยุ่งแล้วเดินจากไป ไม่สนใจเสียงบ่นโวยวายของหมาเด็กที่สูงไม่ถึงคอเขา  ผ่าตัดเลยงั้นเหรออาการมันหนักขนาดนั้นเชียว


   ขายาวๆก้าวฉับไปที่บ้านหมอฮิโตะเหลือบมองบานประตูที่วางเอียงพิงพนังอยู่ในสภาพเดิมกับที่เขามาก่อนหน้านี้ สงสัยจะพังเพราะแรงถีบของเขาหละมั้ง ช่างมันก่อนแล้วกันเดี๋ยวค่อยหาเวลามาดูให้


   “เป็นไงบ้างหมอ”ใบหน้าของหมอหน้าขาวหันมามองคนเรียกด้วยใบหน้าที่พราวด้วยเหงื่อ เสื้อคลุมสีขาวๆที่เหมือนเสื้อกราวหมอถูกถอดออกวางไว้ด้านข้างเพื่อความคล่องตัว


   “คาโล”เสียงเรียกคุ้นหูดังแทรกคำตอบของหมอหน้าขาว ดวงตาสีเทาตวัดมองเจ้าของเสียงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าคลุมปิดช่วงล่างไว้หมิ่นเหม่และบาดแผลประปรายตามแผ่นอกและแผ่นหลัง  ที่หนักสุดคงจะเป็นแผลที่ต้นขาซ้ายซึ่งมีเลือดไหลซึมออกมาคงเป็นแผลเดียวกับที่เขาเห็นมันถูกยิง  ส่วนอีกทีคือแผลที่ไหล่ด้านขวายังคงมีเลือดซึมออกมาแต่น้อยกว่า


   “ว่าไงหมอ”


   “อ๊ะครับ  แผลอื่นๆไม่เท่าไหร่แค่แผลถากๆแต่แผลที่ต้นขาซ้ายถูกยิงทะลุครับ  ถ้าห้ามเลือดได้ไม่น่าจะมีปัญหาแต่แผลที่ไหล่ด้านขวากระสุนฝังครับคงต้องผ่าออก”หมอหน้าขาวหันมาตอบเร็วๆก่อนจะหันไปสาละวนกับโต๊ะตัวเตี้ยที่เต็มไปด้วยมีดและผ้าพันแผลโดยมีเจ้าคน(หมา)ตัวยักษ์อย่างเจ้าเยอร์เซ็พ ยืนเฝ้าอยู่ใกล้ๆเหมือนหมาเฝ้าเจ้าของ


   “ไง”


   “เจ้าปลอดภัยใช่ไหม”เจ้าหมาถามเสียงจะติดกังวล


   “เออ สบายดี”คาเซอริโอตอบปัดๆหากเทียบกันแล้วมันเจ็บกว่าเขาเยอะ ตอนที่เห็นมันเอาตัวเข้าบังกระสุนให้เขา เขาคิดไม่ถึงว่ามันจะบ้าระห้ำได้ขนาดนั้น  อดวูบในอกไม่ได้เมื่อเห็นร่างใหญ่นั้นล้มตรงหน้าแต่พอเห็นว่ามันยังหายใจดีอยู่เขาจึงได้ผละไปไม่ได้มาดูมันแต่แรก  มันตอบได้ฉะฉานแบบนี้น่าจะไม่เป็นไรแล้วหละมั้ง


   “ดีแล้ว ข้ากลัวว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป”


   “หึ  ก่อนจะห่วงฉันห่วงตัวเองก่อนดีกว่าไหม  เดี๋ยวจะโดนผ่าแล้วนี้โชคดีนะ”คาเซอริโอตบไหล่เจ้าหมาโข่งแรงๆก่อนจะหมุนตัวเตรียมออกจากห้องเพื่อหลีกทางให้หมอถ้าไม่ติดว่ามือร้อนๆเอื้อมมาคว้ามือเขาเอาไว้ก่อน


   “อะไร”ดวงตาสีเทาเหลือบมองมือใหญ่ที่คว้ามือเขาเอาไว้ด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บเรื่อยยาวไปจนเจอเข้ากลับดวงตาสีน้ำตาใสที่ตอนนี้ทอประกายออดอ้อนเหมือนหมาอ้อนเจ้าของ


   “อย่าเพิ่งไปได้ไหม”


   “อยู่ทำไม อยู่ไปก็เกะกะหมอเปล่าๆ”


   “อยู่เป็นกำลังใจให้ข้าไง”เหมือนคนฟังสำลักน้ำลายกะทันหัน มือที่ถูกจับไว้สะบัดออกราวกับถูกของร้อน  ดวงตาสีเทาตวัดมองอีก 2 ชีวิตที่ยังทำหน้าที่ของตัวเองเงียบๆ


   “เหอะแกประสาทกลับรึไง  อยากได้กำลังใจก็ไม่ขอจากคนอื่นโว๊ยไม่ต้องมาขอกับฉัน”


   “แต่ข้าอยากได้กำลังใจจากเจ้าคนเดียวนี่”


   “แก”คนฟังถลาเข้าหาคนเจ็บคิดจะต่อยปากมอมๆนั้นสักหมัด


   “อย่าครับคุณคาโลคุณซาเวียร์เจ็บอยู่นะครับ”หมอฮิโตะรีบถลาเข้ามาห้ามเมื่อคนหน้าขาวถลาจะวิ่งเข้าไปวางมวยกับคนเจ็บ


   “อึ่ย  ฝากไว้ก่อนเถอะแก”คาเซอริโอถอยออกมา 1 ก้าวยืนสูดหายใจเข้าออกลึกๆให้ใจเย็นลง


   “ถ้าไม่เหลือบากกว่าแรงคุณคาโลช่วยอยู่ข้างในได้ไหมครับผมจะผ่าตัดเอากระสุนออก ที่นี่ไม่มียาชาเหมือนที่โลกเราคงต้องผ่าสด  ถ้าได้คุณอยู่ด้วยคุณซาเวียร์คงดีไม่น้อย”ดวงตาสีเทามองสบคนพูดก่อนจะเรื่อยไปถึงเจ้าหมาที่ยังนั่งทำหน้าอ้อนๆอยู่บนเตียง


   “เออ ก็ได้”คาเซอริโอถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดตัวเองที่เผลอใจอ่อน


   “ขอบคุณมากนะครับเดี๋ยวผมจะรีบทำรีบเสร็จนะครับ”


   “อืม”


   “เข้ามาใกล้ๆได้ไหม”


   “อะไรของแก”ดวงตาสีเทาดุตวัดมองคนพูดที่ได้คืบจะเอาศอก


   “ข้าแค่อยากให้เจ้าอยู่ใกล้”


   “โวย  อยู่ตรงไหนมันก็เหมือนกันนั้นแหละ”


   “เจ้านี้ใจร้ายเป็นบ้า  ทั้งๆที่ข้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดีตอนที่เจ้าบาดเจ็บทั้งคอยเช็ดตัว คอยป้อน..”


   “พอๆแค่เข้าไปใกล้ก็พอใช่ไหม”คาเซอริโอรีบก้าวเท้าไปประชิดข้างเตียงทันควันก่อนที่ปากหมาๆนั้นจะปูดเรื่องที่ไม่ควรปูดออกมามากกว่านี้


   “หึหึ  เจ้านี้ใจดีจังนะ”


   “เออ  เฮ้ย”มาเฟียหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าหมาที่นั่งอยู่บนเตียงเอี้ยวตัวมากอดเอวเขาหมับ


   “ปล่อยเว้ย”มือขาวๆพยายามงัดเอาหมามือกาวที่เกาะหนึบที่เอวออก


   “อยู่อย่างนี้ก่อนไม่ได้เหรอ  อย่างน้อยข้าจะได้เจ็บน้อยลง เห็นแก่ที่ข้าคอยช่วยดูแลเจ้า”ใบหน้าคมเงยขึ้นจากช่วงเอวมองสบดวงตาสีเทาที่แทบจะมีไฟลุกพรึ่บด้วยแววตาออดอ้อน


   “แบบนี้ได้ไหมหมอ”ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบรับเจ้าหมานั้นก็หันไปถามหมอเสร็จสรรพแถมยังเนียนกอดเขาไม่ปล่อย


   “อะ  เอ่อก็ได้ครับ”หมอหน้าขาวที่ตอนนี้หน้าแดงระเรื่อพยักหน้าหงึกๆพยายามหลบตาของทั้งคู่


   “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”คาเซิอริโอบอกเสียงเบาตาจ้องกลุ่มผมสีน้ำตาลที่ตอนนี้กำลังซุกอยู่กับช่วงท้อง เขาใจอ่อนอีกจนได้สินะ


   “งั้นผมเริ่มนะครับ”เสียงหมอฮิโตะดังมาพร้อมกับตัวที่ขยับเข้ามาด้านหลังในมือคือมีดที่ดูเหมือนมีดผ่าตัด  อ้อมแขนที่เอวรัดแน่นรู้สึกได้ถึงแรงจับที่เสื้อด้านหลัง


   “อึ่ก”เสียงร้องดังออกมาจากลำคอเมื่อมีดกรีดลงที่แผลเพื่อเปิดปากแผลให้กว้างขึ้น


   “ทนเจ็บหน่อยนะครับ”เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าหมอเมื่อมีดกดลึกลงพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาตามรอยกรีดโดยมีผู้ช่วยหมออย่างเยอร์เซ็พที่คอยยื่นเปลี่ยนผ้าซับเลือดให้


   “ผมจะเอากระสุนออกแล้วนะครับ”


   “หือ”เสียงครางหนักๆในลำคอดังขึ้นพร้อมแรงรัดที่แน่นจนเขารู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ปริปากบ่นอะไรออกไปทำเพียงยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบผมสีน้ำตาลเบาๆเหมือนปลอมประโลมเมื่อมีดปลายแหลมคว้านลงไปในแผลเพื่องัดเอากระสุนออกท่ามกลางเลือดสีสดที่ไหลออกมาเป็นระยะ


   “อีกนิดเดียวครับ”เสียงดังกริกเบาๆเมื่อปลายมีดกระทบกับกระสุนก่อนหมอหนุ่มจะออกแรงงัดให้กระสุนหลุดออกมาด้านนอก


   “เรียบร้อยแล้วครับ”ใบหน้าขาวยิ้มกว้างรีบวางกระสุนปืนเลือดลงแล้วหันไปคว้าผ้ามาห้ามเลือด ไม่มีเสียงตอบรับจากคนเจ็บที่คงสลบไปตั้งแต่เริ่มคว้านกระสุนออกแต่ถึงจะสลบไปแล้วมือสองข้างก็ยังเกาะเขาไม่ปล่อย  เจ้าหมาโง่แกกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะ













         มาส่งตอนใหม่ตามกำหนด ในเวลาของวันใหม่ที่ตาคนเขียนใกล้จะปิดคะ o19

         นี้ถือว่าเป็นตอนที่ชื่อตอนสั้นมากๆที่สุด  หวานน่ารักสุดๆตอนหนึ่งของเรื่องคะ เริ่มมีกลิ่นอายหวานๆกันมาบ้างแล้วหลังจากที่บู๊กันสนั่นเลือดสาดไปกันหลายตอน หวังว่าสีชมพูจางๆในตอนนี้จะช่วยลบรอยเลือดในตอนก่อนๆหน้าได้บ้างนะคะ

         ตอนหน้าความหวานลดลงเล็กน้อยแต่ความหื่นเพิ่มขึ้นหน่อยหนึ่ง  ฮ่าๆ อยากรู้ว่าจะเป็นแบบไหนติดตามกันได้ในตอนหน้าคะ  ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านและคอมเม้นให้กำลังใจนางมารคะ :m3:

   

ออฟไลน์ t_cus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หุๆๆ เห็นคนเขียน สปอย์ตอนหน้าแล้วอยากอ่านขึ้นมาทันที  :hao6:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โอ๊ย~ เจ็บแทนเลยนะเนี่ย แต่ตอนนี้หวานจริงไรจริง 5555
ชอบจัง เลือดสาดเสร็จก็หวาน รอตอนหื่นอยู่นะคะ อิอิอิ >___<
มาต่ออีกไวๆน้า เราจิปูเสื่อรอฉากหื่น > [] <

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
มดขึ้นหน้าจอ หนุ่มล่ำบึ๊กขี้อ้อน เจอไม้นี้เข้าไปมาเฟียหนุ่มน้อย(หรือหนุ่มเหลือน้อยก็ไม่ทราบ ประสบการณ์ฆ่ามากเกิณอายุจริงๆ)ถึงกับใจอ่อนยอมให้แต๊ะอั๋งเล็กๆน้อยๆเลย

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 14 บางทีหมาก็มีนิสัยประหลาดที่คนไม่มีทางเข้าใจ?           01/04/2557
                              22/05/2557
                              11/06/2557
                              15/09/2557





   เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นหินอ่อนดังก้องไปทั่วทางเดิน แต่คงไม่ดังไปกว่าเสียงหัวใจของเจ้าของฝีเท้าที่ออกแรงวิ่งตรงไปยังประตูบานหนาสีเปลือกไม้


ปัง!!!


“ดอน”ดวงตาสีเทากวาดมองคนบนเตียงก่อนขายาวๆจะสาวเข้ามาใกล้แล้วเริ่มการจ้อง และคิ้วสีทองก็ขมวดฉับเมื่อมองเห็นว่าไหล่ข้างซ้ายของใครอีกคนถูกคล้องไว้ด้วยผ้าสีขาว ส่วนขมับข้างเดียวกันก็มีผ้าก๊อซแปะเอาไว้


   “มาแล้วเหรอคาโล”


   “ก็เออนะสิ  แล้วนี้อย่าบอกนะว่าแขนหักกับถูกยิงเฉี่ยวหัว”คนพูดพูดไปตามที่คิด  เพราะเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อนเขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่ารถของดอนกลุ่มบอนซาลิโนถูกยิ่งถล่ม ในขณะที่มือขวาอย่างเขากำลังทำเรื่องเก็บกวาดอีกที่ทำให้เขาต้องรีบบึ่งรถมาที่คฤหาสน์แบบไม่สนกฎจราจร


“ก็แค่ล้มแล้วไหล่ซ่นกับหัวแตกเท่านั้นเอง”คนที่นั่งอยู่บนเตียงยิ้มตอบ


   “ไม่แค่เท่านั้นเองครับดอน รถของคุณเพิ่งถูกยิงถล่มมา  กระสุนโดนแขนทะลุคุณกระโดดหลบกระสุน ไหล่เลยกระแทกกับพื้นทำให้กระสุนเฉี่ยวหัวแทนที่จะทะลุเข้าไปตรงๆ”ดวงตาสีเทาตวัดไปมองคนพูดที่ขยับแว่นตรงดั้งจมูกด้วยความเคยชินแบบที่เขานึกหมั่นไส้และอดจะหาเรื่องไม่ได้ทุกครั้งไป  แต่อาจจะยกเว้นที่ครั้งนี้เขาดันรู้สึกเห็นด้วยกับเจ้ามือซ้ายนั้นขึ้นมา


“พูดเป็นเรื่องใหญ่ไปได้เทโซ”


   “เรื่องใหญ่ครับ  การที่คุณถูกยิงถล่มในขณะที่มาพักร้อนและคาเซอริโอไม่อยู่ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี”


   “พวกกาโต้หรือออโลวัสงั้นสิ”แม้เขาจะไม่ค่อยฉลาดการวางแผนหรือคิดได้เร็วเท่าเจ้ามือซ้ายแต่เหตุใหญ่ๆแบบนี้ไม่มีกลุ่มไหนหรอกที่กล้า นอกจากเจ้าเสือสองกลุ่มนั้น


   “ยังสรุปไม่ได้หรอกนะ”เสียงตอบจากมือซ้ายหากฟังผ่านๆเหมือนคนพูดจะไม่แน่ใจ แต่สำหรับคนที่อยู่กับมันมานานจนเห็นว่าไส้มันมีกี่ขดอย่างเขารู้ดีว่ามันก็แค่พูดเหมือนไม่ใส่ใจไปอย่างนั้นแหละ ทั้งๆที่ความจริงก็รู้แต่ก็ชอบอมพะนำให้เขาคิดเองและเต้นตามเกมของมัน


   “เดี๋ยวเอากระสุนกรอกปากก็สรุปได้เองนั้นแหละ”พูดจบคนพูดก็หันหลังเตรียมออกจากห้องเพื่อไปหาข้อสรุป


   “เดี๋ยวก่อนคาโล”ปลายเท้าที่กำลังก้าวออกจากเตียงชะงักแล้วหันกลับมามองดอนที่จ้องเขานิ่ง


   “ขอคุยหน่อยได้ไหม”


“ถ้างั้นผมไปรอด้านนอกนะครับ”มือซ้ายโค้งหัวนิดๆก่อนจะเดินออกจากห้องไปเหลือทิ้งไว้เพียงเขาและดอนที่นั่งอยู่บนเตียง


   “นั่งก่อนสิคาโล”เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ข้างเตียง  ในตอนนี้ใจเขาร้อนเหมือนโดนไฟลนแค่เห็นว่าคนตรงหน้าเจ็บ แต่เขาก็ต้องนั่งเงียบๆทำตัวเป็นลูกน้องที่ดี เพียงเพราะผู้ชายคนนี้เอ่ยปาก


   “งานที่ทำเป็นยังไงบ้าง”


   “เรื่องนั้นมันสำคัญที่ไหนกัน ตอนนี้การหาตัวว่าใครทำมันสำคัญที่สุดไม่ใช่รึไง”


   “ฉันไม่น่าถามเลยนะ  นายนะยังไงก็ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว”


   “อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องได้ไหมเล่า”


   “คนที่พยายามเปลี่ยนเรื่องนะมันนายต่างหาก  หรือว่าไม่จริง”ถอยคำง่ายๆที่ทำให้คนอย่างเขาหุบปากฉับไม่กล้าพูดไม่กล้าเถียง เพราะสำหรับคนๆนี้แล้ว ไม่ว่าจะบอกให้ทำอะไรเขาก็พร้อมจะทำให้ทุกอย่าง


   “ขอโทษครับดอน”


   “เอาน่าอย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นสิ  ถึงมันจะเป็นบุคลิกนายตอนนี้ไปแล้วก็เถอะ  ฮ่าๆ”มือหนาแบบผู้ชายตบปุบๆลงบนไหล่เรียกให้ดวงตาสีเทาเงยขึ้นมองคนหัวเราะที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจากเมื่อก่อนเลย ไม่ว่าเมื่อไหร่คนๆนี้ก็ดูอารมณ์ดีและสามารถเปล่งประกายได้เสมอ


   “หือ”เสียงงึมงำจากด้านข้างทำให้เหตุการณ์ในหัวพร่ามัวและจางหายไปเหมือนความฝัน ดวงตาสีเทากวาดมองคนที่เคยนอนเหยียดยาวอยู่ข้างๆแต่ตอนนี้กลับมานอนซุกอยู่บนตักเขา


   “จะออกไปดีๆหรือให้ถีบออก”ดวงตาสีน้ำตาลมองสบเหมือนยังไม่ตื่นเต็มตาก่อนจะปิดลงอีกครั้ง  เรียกความหงุดหงิดให้เกิดขึ้นในใจคนที่ถูกอาศัยเป็นหมอนหนุนหัว


   “ถ้าแกหายดีแล้วก็เลิกสำออยสักที”คนที่เผลอนั่งหลับผุดลุกขึ้น ไม่สนใจว่าหัวสีน้ำตาลนั้นจะหล่นกระแทกกับพื้นถ้ำหรือไม่


   “โอ๊ย ทำอะไรของเจ้านะ ข้าเจ็บนะ”


   “เขี่ยหัวหมาออกจากตัว”พูดพลางก็ปิดตัวไล่ความเมื่อยขบเมื่อสำนึกตัวได้ว่าเผลอหลับไปพักใหญ่จนฝันบ้าๆนั้น พอมองดูหมาที่เมื่อคืนนอนซมด้วยพิษไข้ตอนนี้กลับสามารถขยับเขยื้อนตัวได้เหมือนจะหายดีขึ้นมาทันตาก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้


   “เจ้านี้ใจร้ายกับผู้มีพระคุณอย่างนี้เสมอเลยรึไง”หมาที่ลากสังขารกลับไปนอนบนกองฟูกหนังสัตว์ได้แล้วเปิดปากพูด


   “ผู้มีพระคุณ ใคร  แกเหรอ”


   “ก็ใช่นะสิ ถ้าไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใครที่เอาตัวบังไอ้ลูกแหลมๆที่พุ่งออกมาจาก  เออ ปืนนั้นแทนเจ้านะ”เจ้าหมาตัวยักษ์พูดไปหน้ามุ่ยไปได้เหมือนสาวน้อยขี้งอนที่ไม่ได้เจียมเลยสักนิดว่ามันไม่ใช่สาวน้อย แต่กลับเป็นหมาที่มีผ้าพันแผลเต็มตัว ไอ้ท่าทางหน้าหงิกทำปากยื่นนั้นจึงไม่ได้ดูน่ารักแต่ดูน่าเตะจนเกินบรรยาย


   “หึ  แล้วใครขอให้แกเอาตัวมาบังกระสุนแทนฉันกัน”


   “นี้เจ้า..”หน้าคนพูดสะบัดพรืดก่อนจะพลิกตัวตะแครงหนีเหมือนงอน แม้จะขยับไม่ถนัดแต่ก็พยายามจนสามารถตะแครงทั้งตัวหนีไปได้


   “เฮ้อ ไอ้หมาบ้า”คาเซอริโอถอนหายใจด้วยความปลงก่อนจะสาวเท้าไปทางห้องน้ำ ในหัวก็คิดเรื่อยเปื่อยไปถึงเรื่องที่มันช่วยเขาไว้เมื่อวาน มันช่วยเขาไว้อีกแล้ว กี่ครั้งแล้วนะ  การช่วยเหลือแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ความเป็นมาเฟียสอนให้เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเองหากล้มให้คนอื่นเข้าช่วยคงไม่แคล้วกลายเป็นบุญคุณที่คนไม่ชอบเนรคุณใครแบบเขาต้องลำบากแน่ๆและก็เหมือนเจ้าหมานั้นจะอยากมีบุญคุณกับเขาซะเหลือเกิน แล้วการขอทวงบุญคุณของมันก็ทำให้เขาอยากซัดมันสักหมัดให้หายเคือง


   “หันหน้ามาฉันจะเช็ดตัวให้”คาเซอริโอพูดก่อนจะวางอ่างดินเผาในมือลงข้างๆเจ้าคนที่นอนตะแครงซ้ายให้เขา  โชคดีที่มันยังสำนึกได้ว่าตัวเองเจ็บไหล่ขวาเลยงอนจะสะบัดไปทางซ้ายแทน


   “เจ้าพูดจริงนะ”ใบหน้าคมนั้นหันมาตามเสียงเรียกทันที


   “แกจะงอนให้นานกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง”


   “อะไรคืองอน แล้วเจ้าจะเช็ดตัวให้ข้าจริงๆนะ”


   “เออ  ลุกนั่งไหวรึเปล่า”


   “อืม  คิดว่าไหว”เจ้าหมาใช้มือซ้ายดันพื้นก่อนจะประคองตัวลุกนั่งแม้จะทุลักทุเลไปบ้างแต่ก็ทำสำเร็จด้วยดี สามารถลุกขึ้นมานั่งตรงๆได้ทำให้ผ้าที่คลุมท่อนเอวไว้ล่วงลงหมิ่นเหม่จนเขาอดจะเอื้อมมือจัดผ้าให้คลุมดีๆเหมือนเดิมไม่ได้


   “ปิดทำไมหละร้อนออก”


   “ถ้าอยากให้ฉันเช็ดตัวให้ก็หุบปากแล้วนั่งเงียบๆ”คาเซอริโอขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเมื่อเริ่มจะไม่ไว้ใจเจ้าหมาที่นั่งหน้าระรื่นและชอบฉวยโอกาส  แม้จะไม่เคยจีบผู้ชายและโดนผู้ชายจีบ แต่จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาก็ทำให้เขาคิดได้อย่างเดียวว่า เจ้าหมานี้กำลังคิดเรื่องอุบาทกับเขาอยู่ แล้วเรื่องอะไรที่จะต้องเปิดช่องให้มัน ในเมื่อมันเป็นตัวผู้และเขาก็ชอบผู้หญิงหรือไม่ก็พวกตัวเมียถ้าเป็นพวกนั้นเขาไม่หาผ้าปิดให้เมื่อยหรอก


   “หือ  หึ”เจ้าหมาส่งเสียงในลำคอเหมือนตอบรับโดยไม่เปิดปากแม้แต่น้อย  ช่างเชื่อฟังจนน่าเอ็นดูจริงๆ


   มือขาวๆตามเชื้อชาติเอื้อมหยิบผ้าดิบในอ่างดินเผาก่อนจะบิดหมาดๆแล้วตะปบลงบนผิวหน้าที่ผงะไปเล็กน้อยเพราะความรุนแรงให้คนทำแอบยิ้มสะใจ ก่อนจะค่อยๆเช็ดผ้าบนหน้าผากเกลี้ยงเกล้าเท่าที่มือของผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักเพียงการฆ่าและยิงปืนจะอ่อนโยนได้


   นี้อาจเป็นครั้งแรกที่เขาใส่ใจจะสังเกตเจ้าหมาตรงหน้าให้ชัดๆแน่นอนว่าเขาเจอหน้ามันบ่อยจนเริ่มเอียน แต่เอาเข้าจริงเขากลับไม่เคยจะสังเกตมันจริงๆจังๆเลยสักครั้ง


   เจ้าหมาตรงหน้ารูปร่างสูงใหญ่แบบที่ตัวผู้ส่วนมากในกลุ่มเป็น แต่ถ้าคิดแบบไม่ลำเอียงก็จะรู้ว่ามันจัดอยู่ในกลุ่มที่ตัวสูงใหญ่มากๆ สูงใหญ่กว่าเขาพอสมควรจนหน้าหมั่นไส้  ผิวทั่วตัวเป็นสีแทนสม่ำเสมอ ผมสีน้ำตาลที่ปกติฟูเหมือนขนหมาตอนนี้กลับโดนเหงื่อและความชื้นทำให้มันลู่ลงจนเขารู้ว่าผมมันค่อนข้างหยิกยาวเคลียลำคอ  คิ้วเข้มหนาสีน้ำตายุ่งๆ  ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตใต้เบ้าตาคมที่ตอนนี้ก็มองสบเขาด้วยประกายใสแจ๋ววาววับ จมูกโด่งเป็นสัน  ปากที่ค่อนข้างหนาแต่พอประกอบกับเครื่องหน้ากลับดูเข้าใจกันได้ดีถ้าหากไม่มองแบบลำเอียง ใบหน้าเหลี่ยมได้รูปนั้นก็ดูดีจนหน้ากระทืบ


   “ยิ้มอะไร”


   “หือ  อือ”หมาที่ถูกถามไม่ตอบ ทำเพียงยกยิ้มกว้างปิดปากเงียบส่งเสียงในลำคอตามคำสั่งเท่านั้น


   “ชิ”มือขาวๆจับผ้าจุ่มลงน้ำอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่บิดกลับแปะป้าบเข้าบนคอหนาและออกแรงเช็ดจนคอหนาๆนั้นขึ้นสีแต่ก็ดันมองไม่ชัดเพราะผิวสีแทนและเจ้าตัวไม่ส่งเสียงว่าเจ็บทำเพียงหุบยิ้มลงเล็กน้อยเขาจึงได้เบามือลงแล้วเช็ดไล่จากคอหนาไปที่ไหล่กว้างแน่นหนั่นด้วยกล้ามเนื้อ  หลีกเลี่ยงจุดที่โดนพันด้วยผ้าพันแผล  ลูบไปตามแนวกล้ามเนื้ออกที่เขาแอบอิจฉามันเล็กน้อย เพราะแม้เขาจะมีแต่ก็ไม่ได้มากจนขึ้นเป็นลูกชัดเจนเหมือนมันแต่ถึงจะขึ้นเป็นลูกขนาดนั้นกลับไม่ดูน่าเกลียด มันลงตัวกันดีกับกล้ามท้องที่เรียงกันเป็นลูก ไล่เรียงจากช่วงอกไปตามแนวกล้ามท้องจนถึงสะดือสีแทนสะอาด  มีไรขนสีน้ำตาลจางๆที่แผ่ตัวยาวหายไปใต้แนวผ้าคลุม


   “หือ  อ๊า”


   “ครางทำบ้าอะไรว่ะ”เสียงครางข้างหูทำเอาสะดุ้งเผลอผงะออกจากมันอย่างหมดท่า


   “กะ  ก็มันเสียวอ๊ะ”


   “แก  ไอ้หมานรก”ที่อย่างนี้ดันอ้าปากตอบ โว๊ย  กระทืบมันสักทีน่าจะดี


   “อย่า ข้าเจ็บอยู่นะ”เจ้าหมายกมือห้ามก่อนเขาจะได้ถีบสักป้าบ  เท้าที่ยกขึ้นแล้วจึงต้องยกลง  ทิ้งผ้าลงอ่างนับเลขในใจให้เย็นลงแล้วเดินอ้อมไปข้างหลัง


   “ห้ามส่งเสียงแปลกๆอีก ไม่งั้นฉันจะถีบแกให้คว่ำเลย”ขู่เสร็จเจ้าหมาก็พยักหน้ารับคอแทบหักเขาจึงแปะผ้าลงบนแผ่นหลังกว้างแล้วรีบๆถูให้เสร็จก่อนจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน


   “นั่งนิ่งๆเดี๋ยวฉันเปลี่ยนผ้าพันแผลให้”


   “เออ  แล้วข้างล่าง”


   “หือ  นี้แกอยากให้ฉันเช็ดให้ว่างั้น”


   “ได้ก็ดีนะ”


ป้าบ!!


ฝ่ามือหนาๆเน้นๆประทับป้าบลงบนหัวทุยจนเอียงไปข้างด้วยแรงตบแบบไม่ออมแรง


   “นี้เจ้า มันเจ็บนะ”


   “ตอบแทนปากเน่าๆของแกไง”


   “ใครบอกว่าข้าปากเน่า  ข้าก็แค่พูด..”


   “หุบปากถ้ายังอยากให้ฉันช่วยต่อ”เจ้าหมาตัวโตอ้าปากค้างก่อนจะหุบปากแล้วอ้าใหม่อีกรอบแต่พอสบกับดวงตาสีเทาที่วาววับก็ตัดสินใจหุบปากลงแล้วนั่งนิ่งๆ


   คาเซอริโอหยิบเอาอุปกรณ์ทำแผลที่หมอฮิโตะฝากขึ้นมาดู มีผ้าพันแผลที่ทำมาจากผ้าดิบสีขาวพับใหญ่วางเอาไว้กับถ้วยใบเล็กที่ใส่บางอย่างที่เหมือนใบไม้บดละเอียดเอาไว้


   ผ้าพันแผลที่ไหล่ขวาถูกแกะออกอย่างระมัดระวัง  คิ้วสีเข้มนั้นขมวดลงเล็กน้อยเมื่อเขาดึงผ้าชิ้นในสุดที่ติดกับแผลออก  แผลถูกยิงที่ไหล่จนต้องผ่ากระสุนออกยังคงบวมเล็กน้อย  ใบไม้สีเขียวๆที่แปะอยู่บนแผลก็แห้งกรอบจนเขาต้องช่วยเอาน้ำราดช่วยล้างใบเก่าๆออกจนมองเห็นแผลที่มีด้ายสีดำเย็บปิดอยู่ชัดเจน  แผลปิดไปแล้วไม่มีเลือดไหล่ซึมและเหมือนจะเริ่มสมานตัว  พวกปีศาจนี้มันมีอะไรประหลาดให้พิศวงเรื่อยๆ  มือขาวเอื้อมหยิบถ้วยยาก่อนจะโป๊ะลงบนแผลเบาๆแต่เจ้าหมาตัวใหญ่ก็ยังสะดุ้ง  พอแปะยาลงบนแผลเสร็จก็ต้องเอาผ้าพันแผลมาพันทับเพื่อให้ยาไม่ไหลออก  เป็นเรื่องลำบากสำหรับคนที่ไม่ถนัดทำแผลพอสมควรไหนจะตัวหนาๆของมันที่เขาต้องเอื้อมมือไปจนเกือบสุดแขนเพื่อให้สามารถพันแผลตรงช่วงอกกันไม่ได้ผ้าพันแผลเลื่อนได้สำเร็จ


   “เอาหละ..”ถ้อยคำถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเอียงคอมาพบกับดวงตาสีน้ำตาลที่มองอยู่ในระยะใกล้  ดวงตาที่เหมือนมีประกายดึงดูดให้เขาจ้องมองโดยไม่ผลักมันออกปล่อยให้ดวงตานั้นเคลื่อนมาใกล้ ไม่ยอมหลบจนเห็นดวงตานั้นในระยะประชิดรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใบหน้าและสัมผัสหยุ่นๆที่ริมฝีปาก  ไม่รู้เพราะอะไรร่างกายถึงได้แข็งทื่อ อาจเป็นเพราะดวงตาคู่นั้นหรือสัมผัสคลึงเคล้าที่ริมฝีปากเขาจึงนิ่งงันจนกระทั้งเผอเรอให้สัมผัสอุ่นแฉะแทรกเข้ามาในโผลงปากกวาดต้อนไปทั่ว ในขณะที่ตาสองคู่ยังสบกันนิ่งและเขาเป็นฝ่ายที่เริ่มขยับลิ้นตอบสนอง


   “อืม”สัมผัสในโพรงปากรัวเร้าเร็วขึ้น  มันอุ่น  นุ่มนิ่ม และทำให้ใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกบางอย่าง  รุนแรงจนเหมือนจะหลอมละลายเปิดโอกาสให้โดนตักตวง เนิ่นนานจนรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่กอดประคองแผ่นหลัง


   “หือ  หยุดได้แล้ว”คนที่เพิ่งได้สติรีบผละออกห่าง   หอบหายใจด้วยความตระหนก เหลือบมองเจ้าหมาตัวโตที่แอบเลียริมฝีปากตัวเองพร้อมด้วยแววตาวาบวับ


   “ฉันจะออกไปข้างนอก”ว่าเสร็จก็หมุนตัวขวับ รู้สึกร้อนจนอยากออกไปสูดอากาศ  ขายาวๆก้าวฉับแต่หูก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาที่ลอยมาตามสายลม


ปั๊ก!!


   “บ้าเฮ้ย”หมัดขาวๆกระทบกับลำต้นไม้จนกิ่งสั่นสะเทือน  มืออีกข้างที่ว่างเผลอยกขึ้นแตะริมฝีปากที่เมื่อกี้เขากับมันเพิ่ง..


   “มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ”ดวงตาสีเทาส่อประกายสับสน  ประกายที่คนอย่างคาเซอริโอไม่เคยชอบใจจนต้องขยี้ผมสีทองของตัวเอง ขาสองข้างออกเดินแล้วกลายเป็นวิ่งเพื่อให้สมองโล่ง  เลิกคิด  ไม่ต้องคิดแล้วคาโล  เลิกคิดอะไรบ้าๆได้แล้ว


   “อ้าว  คุณคาโลมาเอายาเหรอครับ”เสียงทักพร้อมร้อยยิ้มกระจ่างใสทำให้ฝีเท้าหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองคนพูดที่ยังคงยิ้มกว้าง


   “หมอ”


   “ครับ  คุณคาโลมาเอายาให้คุณซาเวียร์ใช่ไหมหละครับ”


   “อะ  อ้อยา ใช่ๆ”


   “งั้นรอเดี๋ยวนะครับ  ผมไปหยิบยาก่อน”ตัวเล็กๆบางๆเดินหายเข้าไปในบ้านต้นไม้ทำให้เขาเขารู้ตัวขึ้นมาว่าตัวเองอยู่ที่หน้าบ้านหมอฮิโตะ นี้เขาเหมอจนเผลอวิ่งมาถึงนี้เลยงั้นเหรอ  ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ


   “อ๊ะ  ยาได้แล้วครับ  มียาทาแผลทำกับผ้าพันแผล ทำตอนเย็นอีกทีแผลก็น่าจะหายดีแล้วหละครับ พวกเขาสมานแผลไวมากจนผมเองยังทึ้ง ส่วนนี้ยาทานนะครับกลับไปก็ทานได้เลยนะครับ  ถ้าไม่มีไข้แค่นี้ก็น่าจะพอ แล้วคุณซาเวียร์มีไข้ไหมครับ”


   “ไม่  ไม่มีแล้ว”ความทรงจำเมื่อคืนวิ่งกลับเข้าสู่สมองเมื่อวานเจ้าหมานั้นไข้ขึ้น  เหงื่อออกเต็มตัว  ส่งเสียงงึมงำทั้งคืนมาดีขึ้นเอาตอนเช้าเขาถึงได้เผลอหลับแถมยังฝันบ้าๆจนเกิดเหตุการณ์บ้าๆนั้นขึ้น 


   “คุณคาโลเป็นอะไรรึเปล่าครับ”ดวงตากลมๆใต้กรอบตาชั้นเดียวมองสบ คนที่เขารู้สึกว่าวันนี้ดูแปลกๆไป


“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก  ไปนะ”มือฉวยเอาถาดยามือถือไว้เองก่อนจะหมุนตัวกลับไปตามทางเดิน ยังไงก็ต้องกลับไปอยู่ดีสินะ  หลบไม่ได้ด้วย  ไม่สิไม่ควรหลบ  เขาจะหลบไปทำไมหละ


   “อ๊ะเจ้า  คาโล”


“หืม”ดวงตาสีเทาหันมองคนที่รีบสาวเท้าเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง


   “แก  ซาลูกิ”


   “จำได้ด้วยสินะ”


   “ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมนี้  แกมีอะไร”


   “เออ  ข้าเอาเจ้าหนูนี้มาคืนนะ”ก้อนสีดำขยุกขยุยในมือถูกส่งมาตรงหน้าพร้อมเสียงเหาเล็กๆ ทำให้คาเซอริโอรู้ตัวว่าเขาเผลอลืมมันไปถนัดแต่ก็นั้นหละ มันเคยหายไปนานๆแต่ก็สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยตลอด


   “อืม ขอบใจนะ”มือขาวเอื้อมไปรับเจ้าก้อนดิ้นได้มา ตัวเล็กๆดิ้นไปมาประท้วงจนเขาต้องวางมันลงพื้น และโดนเขี้ยวเล็กๆนั้นกัดเอา


   “เฮ้ย เออรู้แล้วน่าอย่ามาทำใจน้อยเป็นพวกผู้หญิงหน่อยเลยแกนะ”สะบัดขาพอเป็นพิธีมันก็ยอมปล่อยแล้วเปลี่ยนเป็นดมๆตามตัวเขาแทน


   “เออ คือ..”ดวงตาสีเทาเงยขึ้นสบเจ้าคนที่ยืนนิ่งบิดไปมาเหมือนพวกคิดไม่ตกตรงหน้า


   “มีอะไร”


   “เออ  ข้าเพิ่งรู้มาว่าเจ้าไปอยู่กับซาเวียร์งั้นเหรอ”


   “หืม  ก็ใช่”


   “ทำไมหละ  ทำไมเจ้าถึง..”


“เจ้าหมานั้นเป็นคนขอหัวหน้าแกเอง อย่าบอกนะว่าแกลืม”


   “แต่ตอนนั้นเจ้าอยู่กับชินริ”


   “หัวหน้าแกอยากให้ฉันไปอยู่กับเจ้าซาเวียร์ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรด้วย”


   “ใหญ่สิ ก็ซาเวียร์นะ..”


   “เจ้าหมานั้นมันทำไม”คิ้วของคนถามกดลึกเมื่อเจ้าหัวนกแก้วยืนนิ่งหุบปากสนิทแต่กลับกระสับกระส่ายเหมือนคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก


   “ช่างเถอะ แล้วนี้เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า”


   “ไม่  สบายดี”


“ดีแล้ว  ข้าดีใจนะที่เจ้าไม่เป็นอะไร”ซาลูกิยิ้มกว้างในขณะที่คนฟังขมวดคิ้วฉับ  มีอะไรบางอย่างแปลกไป


“แกไม่สบายรึเปล่า”


   “ห๊ะ  ไม่ ข้าสบายดีแค่เมื่อยตัวนิดหน่อย เจ้าเป็นห่วงข้างั้นเหรอ”ดวงตาสีดำของคนพูดเป็นประกายวาบขึ้นมา


“เปล่า  แค่เห็นแกดูแปลกๆไปเหมือนพวกเออ..ช่างเหอะ”จะบอกว่ามันดูแปลกๆไปเหมือนพวกบ้าที่กินยาลืมเขย่าขวดก็ดูจะแรงไปนิด มั้ง


   “ข้าแปลกไป  แปลกไปตรงไหนกัน”คาเซอริโอถอนหายใจ นี้มันยังไม่รู้ตัวอีกงั้นเหรอ


“แปลกสิ  ตอนแรกแกยังอยากเอานิ้วแกจิ้มไส้ฉันอยู่เลย  แต่ตอนนี้กลับมาถามว่าฉันสบายดีไหม ยังไงก็แปลก”


   “งั้นเหรอ  ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าเข้าใจแบบนั้น แต่ว่าข้าก็ไม่ได้เกลียดมนุษย์หรอกนะ”


   “หือหึ  ดีใจนะที่ได้ยินแบบนั้น”


   “เออ งั้นเหรอ”นิ้วยาวๆนั้นยกขึ้นเกาหัวตัวเองแก๊กๆ  แปลกไปจริงๆนั้นแหละแต่ก็ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรที่เขาต้องเก็บมาใส่ใจหละมั้ง


   “เจ้ามาอยู่ที่นี้เอง”เสียงทักจากอีกข้างทำให้คาเซอริโอต้องหันไปมองและพบว่าวันนี้มันอาจจะเป็นวันรวมญาติอะไรสักอย่างของพวกหมาๆก็ได้


   “อ๊ะ  หัวหน้า”


   “เจ้าก็อยู่ด้วยงั้นเหรอซาลูกิ”


   “ครับ”คนตรงกลางเริ่มขมวดคิ้วเมื่อการรวมตัวของพวกหมาเหมือนจะเป็นการรวมตัวโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่การร่วมตัวของพวกมันเอง


   “ข้ากำลังจะไปหาเจ้าอยู่พอดีไม่นึกว่าจะเจอเจ้าอยู่ที่นี้”


   “ไปหาฉัน”


   “อืม  แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกซะที่เดียวหรอกนะ  ข้าคิดว่าจะไปเยี่ยมซาเวียร์และถือโอกาสไปดูเจ้าด้วยว่าสบายดีไหม”


   “อืม”คาเซอริโอตอบรับสั้นๆแต่ในใจกลับคิดไปถึงว่าวันนี้มีหมามาถามเขาว่าเขาสบายดีไหมถึงสองตัวแล้ว


“แต่ก็ดีแล้วหละ  เจ้ากำลังจะกลับสินะ งั้นข้าขอเดินไปด้วยคนแล้วกัน”


   “อืม”


“เจ้าจะไปกับข้าหรือเปล่าซาลูกิ”


   “อ๊ะ ไม่ครับ เออ งั้นข้าขอตัว”เจ้าหมาหัวนกแก้วหันมามองเขาก่อนจะเดินจากไป


   “อืม แบบนี้ท่าจะไม่ดีเท่าไหร่แหะ”เจ้าตัวหัวหน้าพึมพำบางอย่างกับตัวเอง


“งั้นเราไปกันเถอะคาโล”

   
“อย่ามาออกคำสั่งฉันด้วยหน้าแบบนั้นนะ”

   
“โอ้  ขอโทษด้วย”เจ้าตัวยกยิ้มแบบที่คนมองได้แต่ขมวดคิ้วฉับ เขาไม่ชอบรอยยิ้มแบบนั้นเลย มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดเพราะเจ้าบ้านั้นมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่  ปิดบังเงื่อนงำบางอย่างที่ไม่อยากให้เขารู้  ชอบพูดด้วยคำพูดกำกวมและกวนโมโหเป็นที่สุด  เหมือนกันจริงๆกับเขาคนนั้น  เหมือนจนเกินไป











        มาส่งตอนใหม่แล้วคะ  เหมือนการสปอยตอนต่อไปจะได้ผลนะเนี่ย

        สำหรับตอนนี้เรามีฉากหื่นเล็กอย่างฉากเช็ดตัวที่มีเสียงครางคลอเบาๆ  :hao6: :hao6: ฮ่า ๆหลายคนนอาจคิดว่ามันน้อยไปแต่นี้มันพึ่งเริ่มต้นคะ  อย่าเพิ่งรีบประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ  คาเซอริโอกับซาเวียร์จูบกันแล้ว  :hao7: :hao7: ก้าวหน้ากันจริงๆ

      พอคู่นั้นก้าวหน้าก็เหมือนจะมีหมาที่ 3 เฮ้ย  มือที่ 3 เข้ามาแทรกซะแล้ว ซาลูกเราก็ออกตัวแบบไม่ธรรมดา  แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจคะ

      ปล. ที่เห็นตัวเลขวันที่จำนวนมากนั้นคือวันที่แก้ไขและ rewrite ตอนนี้คะเป็นตอนที่แก้ไขเยอะกว่าตอนอื่นมากจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กรี๊ดดด!!!!! น่ารักมากๆเลย ทำไมตอนนี้มันหวานแบบนี้
มีเช็ดตัว มีคราง มีจูบ แค่นี้ก็ฟินตัวลอยแล้ว >_____<
มีหมาที่3แบบนี้ พี่คาโลคงหนักอกหนักใจน่าดู ทั้งคู่นี่กินกันไม่ลง
แต่เราเชียร์พ่อซาร์เวียร์นะ นางออกตัวแรงตั้งแต่ต้นเลย ชอบๆๆๆ
อ่านเพลินสุด สนุกมากๆเลยค่า มาอีพอีกไวๆน้า จะรอน้า > 3 <


ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ตอนนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปสินะ

อืมๆเดาไม่ได้เลย งั้นรอตอนต่อไป  :hao7:

ออฟไลน์ paojijank

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอ้ ตอนใหม่ขอบคุณค่ะ
คาซิโอเริ่มเสน่ห์แรงแล้ว ว่าแต่คิดถึงพ่องูไม่มีบทแล้วเหรอ

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
การ์ดเริ่มอ่อนลงแล้วนะ ยอมให้จูบง่ายๆแบบนี้อ่ะ ฮิ้ว.ว.วว.ว.ว...ว. :hao7:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 15 ทักทายเพื่อนเก่า? ที่กลับมา               27/05/2557
                              06/06/2557



   ต้นไม้หนาใหญ่โบกกิ่งก้านสาขาตามแรงลมที่กรรโชกอยู่ด้านบน  ลำต้นสีน้ำตาลแก่เต็มไปด้วยร่องรอยข่วนของเล็บมากมายที่อยู่สูงเกือบครึ่งต้นก่อนจะไล่เรื่อยต่ำลงมา  รอยที่แสดงถึงอายุของต้นไม้ที่อยู่คู่มากับกลุ่มหมาปีศาจกลุ่มนี้


พลั่ก!!
   

   กำปั่นหนักๆกระทบกับเปลือกต้นไม้ก่อนเศษเปลือกไม้บางส่วนจะล่วงลงพื้น  แรงกระแทกส่งให้เกิดความเจ็บที่มือแต่กลับไม่สามารถระบายความอึดอัดที่เกิดขึ้นในหัวใจตอนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย


   “หืม นานๆครั้งจะเห็นเจ้ามีท่าทางเคร่งเครียดเช่นนี้นะ”เสียงทักจากด้านหลังทำให้ดวงตาสีดำคู่คมเฉียงหันไปมองคนทัก


   “แซมเบอร์”ปากสีสดเอื้อนเอ่ยเรียกชื่อสหายสนิทแต่กลับไม่ยอมเอ่ยเรียกอีกคนที่เพื่อนเกาะเกี่ยวอยู่ข้างตัว


   “อ่าห๊ะ ก็ข้านั้นแหละแล้วเจ้าหละนึกอะไรขึ้นมาถึงได้มาต่อยต้นไม้เล่น”


   “ไม่มีอะไร”มือหนายกลงจากโคนต้นเหลือบมองคนที่เพื่อนโอบเอวไว้เพียงเล็กน้อย


   “หึหึ คิดจะหลอกข้ายังเร็วเกินไปนะ  ไปพวกนั้นเริ่มตั้งวงกันแล้ว”


   “ตั้งวง  ในเวลาแบบนี้งั้นเหรอ”


   “ก็เวลาแบบนี้นะสิ  เวลาแห่งการฉลองหวังว่าเจ้าคงไม่เครียดเรื่องอื่นจนลืมเรื่องนี้ไปหรอกนะ ซาลูกิ


   “อ่า นั้นสินะ”เจ้าของชื่อซาลูกิถอนใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายในตนเอง นั้นสินะเวลานี้พวกเขาสมควรฉลองกันสักนิดหลังจากช่วยพวกตัวเมียออกมาได้ ขายาวก้าวเดินตามเพื่อนที่ตัวสูงไล่เลียกันไปช้าๆ ดวงตาที่ทองตรงไปข้างหน้าทำให้เผลอสบตาเข้ากับดวงตาชั้นเดียวเรียวเล็กนั้นเข้าโดยบังเอิญ


   “โอ้ นั้นซาลูกินี้  นานแล้วนะที่ไม่ได้ตั้งวงกับเจ้า”เสียงทักดังขึ้นก่อนคนทักจะเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆตบหนักที่ไหล่ทั้งสองข้างอย่างหยอกล้อก่อนจะลากตัวซาลูกิเข้าไปกลางวงเหล้าขนาดย่อมที่ประกอบไปด้วยหมาปีศาจตัวผู้ราว 5 รวมที่มาใหม่อีก 3 ก็กลายเป็น 8


   “นั่งๆข้ามีเรื่องสนใจอยากถามเจ้าเยอะเลย”มือหนากดไหล่ซาลูกิให้นั่งลงกับขอนไม้ที่ถูกจัดให้ตั้งล้อมวงเหล้าที่ขณะนี้มีกวางตัวใหญ่ย่างไฟส่งกลิ่นหอมอยู่


   “เรื่องถามข้างั้นเหรอ”


   “ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าเครียดแบบนั้น เอากินๆ”น้ำสีใสในกระบอกไม้ขนาดสั้นถูกส่งเข้ามือแรงๆจนน้ำในแก้วไหวกระเพื่อมแทบจะหกออกมาด้านนอก


   “เฮ้ยๆ  อย่าให้หกเชียวเสียดายของแย่”เสียงประท้วงดังมาจากหมาปีศาจในร่างมนุษย์ที่ค่อนข้างเตี้ยแต่ร่างนั้นก็ประกอบด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่น


   “อย่าบอกข้านะว่านี้เหล้าเจ้า”เสียงหยอกจากซาลูกิดังขึ้นเมื่อเห็นท่าทางหวงน้ำในแก้วอย่างออกนอกหน้า


   “อ๊ะแน่นอน  ข้าหมักเองกับมือ”รอยยิ้มจุดขึ้นทั้งบนปากคนพูดและคนถาม  ซาลูกิทำเพียงยิ้มขำก่อนจะยกเหล้ารสแรงกระดกเข้าปาก  รสเข้มร้อนไหลลงคอไปช้าๆแต่ถึงอย่างนั้นคนดื่มยังต้องสำลักจากรสชาติแปลกที่แฝงเข้ามาในเหล้า


   “นี่เหล้าอะไร”คนที่ไอจนหน้าแดงเปิดปากถามเพื่อนที่ตอนนี้นั่งหัวเราะจนน้ำตาไหล


   “ฮ่าๆก็แค่เหล้าธรรมดาที่ข้าหมักเองน่า”


   “ตอบข้ามาก่อนที่ข้าจะจับกรอกปากเจ้าวาเทส”ว่าพลางผุดลุกขึ้นให้เจ้าของชื่อวาเทสทำหน้าสยองเล่นๆ


   “ก็นะ  แค่ตะขาบนั้นแหละ”


   “ตะขาบ”คนได้ยินส่วนผสมทำหน้าพิลึกก่อนจะส่งแก้วคืนเจ้าของ


   “ไม่ลองสักหน่อยหละ”เจ้าของเหล้ายังคงยิ้มร่าแต่คนฟังอย่างซาลูกิแทบกินไม่ลง  ไม่ใช่เพราะความอันตรายเพราะอย่างวาเทสสามารถนำสัตว์ทุกชนิดมาใช้ในการทำเหล้าดองของตัวเองได้อย่างน่าเหลือเชื่อและแทบทุกอย่างก็ไม่เคยมีพิษหรือก่อให้เกิดอันตรายทั้งๆที่บางอย่างก็เกิดจากความคิดแปลกๆของวาเทสเองทั้งนั้น แต่ซาลูกิก็ไม่อยากลองเพราะมันแปลกเกินไปและไม่รับประกันผลข้างเคียงนั้นหละ


   “ขอแบบธรรมดาแล้วกัน”ซาลูกิบอกผ่านก่อนจะได้แก้วเหล้าแบบธรรมดามาในที่สุด


   “ไม่ลองอะไรใหม่ๆหน่อยรึไง”เสียงทักจากแซมเบอร์ดังขึ้น เจ้าตัวนั่งห่างออกไปอีกมุมหนึ่ง มือหนึ่งถือแก้วเหล้าส่วนอีกมือก็กอดเอวคนข้างตัวไว้แน่น


   “ไม่หละ  ตอนนี้ข้าอยากอยู่เงียบๆมากกว่า”ซาลูกิส่งเสียงตอบก่อนจะมองน้ำสีใสที่ไหวกระเพื่อมในมือ


   “เจ้าไม่เหมือนอยากอยู่เงียบๆคนเดียว แต่จำใจต้องอยู่เงียบๆมากกว่านะ”คนที่นั่งเงียบมาตลอดวงเหล้าเอ่ยขึ้น


   “ปากเจ้ายังคงร้ายเหมือนเดิมนะจายา”ซาลูกิยกยิ้มขณะเหลือบมองเพื่อนอีกคนที่นั่งเงียบได้ตลอดเสมือนไร้ตัวตนแต่กลับรู้เรื่องต่างๆดีกว่าใคร


   “เจ้าพูดเหมือนซาลูกิอกหักอย่างนั้นแหละ”เสียงถามดังขึ้นจากวาเทส


   “ก็อาจจะ”เจ้าของเรื่องยังคงนิ่งเงียบ อกหักงั้นเหรอ ไม่หรอกก็ข้ายังไม่ได้รักจะอกหักได้อย่างไรกัน


   “เจ้าบอกมีเรื่องจะถามข้าไม่ใช่รึชิลู”ซาลูกิหันไปถามเพื่อนคนที่ลากไหล่เขาเข้ามาในกลุ่ม


   “อ๋อใช่  พอดีข้าจะถามเจ้าเรื่องมนุษย์นั้นนะ”


   “มนุษย์ เจ้าหมายถึงคาโลงั้นเหรอ”ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อชื่อบางคนถูกเอ่ยออกมา


   “ก็นั้นแหละคือพวกข้าอยากรู้เรื่อง เออ ประมาณว่าที่เจ้ากับมนุษย์นั้น..”คนพูดทำหน้าคล้ายคนพูดไม่ออกไปทุกขณะ


   “ที่ข้ากับคาโลร่วมต่อสู้ด้วยกันงั้นเหรอ”


   “ใช่  เราสงสัยเรื่องนั้นแหละ  เจ้าเองก็น่าจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพวกมนุษย์ดีไม่แพ้ใคร”จายาพูดขึ้นบ้าง


   “ไม่เอาน่ามนุษย์ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกคนหรอกจริงไหม”แซมเบอร์เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนจะกดจูบลงที่ขมับคนข้างกาย


   “ข้าเห็นด้วยกับแซมเบอร์”ซาลูกิเอ่ยตอบในที่สุด


   “เจ้าเชื่อใจหรือหลงใหลกันแน่”


   “จายานี่เจ้า..”กายสูงเพรียวผุดลุกขึ้นยืนกะทันหันถ้อยคำเหมือนสบประมาทแล่นริ้วจนกรุ่นโกรธ


   “ใจเย็นน่า  จายาแค่พูดไปงั้นแหละ ใช่ไหม”


   “ข้าพูดตามที่เห็น หากเจ้าไม่ได้คิดเห็นเช่นนั้นก็ไม่ควรร้อนตัว  สำหรับข้ามนุษย์กับเราอยู่ร่วมกันยาก เจ้าอย่าลืมว่าที่เราล้มตายทุกวันนี้ส่วนมากเพราะใคร ไม่ใช่มนุษย์งั้นเหรอ  แต่หากเจ้ายืนยันเรื่องมนุษย์คนนั้นก็ตามใจเจ้า ข้าแค่อยากเตือนให้เจ้าระวังเอาไว้บ้างหากทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าเห็นภายนอก ในฐานะเพื่อน ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ที่เสียใจ”


   “โทษที ข้าขอตัวก่อนแล้วกัน”ซาลูกิเอ่ยลาเสียงเรียบก่อนจะแยกออกจากกลุ่มไปโดยไร้เสียงคัดค้าน เขารู้ว่าจายานั้นหวังดีถึงจะปากร้ายแต่จายาก็เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กที่ไว้ใจได้และภักดีต่อกลุ่ม คำเตือนของเจ้านั้นยังไงก็ละเลยไม่ได้แต่แม้สมองจะสั่งแบบนั้นแต่ใจกลับเชื่ออีกอย่าง  เขาเชื่อในตัวคาโลว่าเจ้านั้นไม่เหมือนมนุษย์คนอื่น  ทั้งกล้า บ้าบิ่น และซื่อตรงไร้เล่ห์เหลี่ยมใดๆ และอาจจะเพราะนิสัยแบบนี้หละมั้งที่เขายอมมองเจ้านั้นใหม่ มองโดยไร้อคติว่าคาโลคือมนุษย์ที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วๆไป






..................................................................................


   “ฮัดชิ่ว”เสียงจามที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสะท้อนก้องไปในโพรงถ้ำ


   “เจ้าไม่สบายงั้นเหรอ”ดวงตาสีเทาคู่คมตวัดมองคนถามก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด  พอเจ้าตัวหัวหน้าไปเจ้าตัวลูกน้องก็ทำหน้าระริกระรี่ทั้งๆที่พออยู่ต่อหน้าหัวหน้ามันก็ทำตัวได้สมกับวัยดีหรอกแต่พอเหลือแค่เขากับมันและเจ้าหมาอีก 1 ตัวก็เหมือนมันจะกลับไปกวนประสาทได้เหมือนเดิม


   “ไม่ใช่เรื่องของแก”คาเซอริโอบอกปัดก่อนจะเอามือลูบขนเจ้าลูกหมาสีดำที่นั่งคลอเคลียอยู่ข้างขา


   “นี่คาโล”ดวงตาสีเทาเหม่อมองออกนอกร่องแตกของถ้ำที่สามารถมองเห็นกลุ่มดาวระยิบระยับได้แทนการจ้องเจ้าหมาตัวยักษ์ที่ทำให้เส้นเลือดในสมองเต้นยิกๆ


“นี่คาโล  คาโล”   


   “โว๊ย  อะไรหนักหนา..”คำพูดต่อไปถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อริมฝีปากของคนพูดปะทะเข้าเต็มแก้มใครอีกคน


   “หึ หึ  นี่เจ้าฉวยโอกาสกับข้างั้นเหรอ”


ผลั่ก!!


   หัวทุยหนาสะบัดไปตามแรงฟาดของฝ่ามือทันควัน


   “นี่เจ้า”หมาปีศาจในร่างคนยกมือขึ้นกุมหัวข้างที่โดนทำร้าย


   “ถอยไปนั่งไกลๆเลยไป”คาเซอริโอแยกเขี้ยวเผลอแปบเดียวจากที่นั่งอยู่คนละมุมถ้ำไหงกลายเป็นว่าเจ้าหมานั้นดันมานั่งซะชิดพอเขาหันไปถึงได้กลายเป็นเอาปากไปแนบแก้มมันเต็มๆได้


   “แต่ข้าอยากอยู่ใกล้ๆเจ้านี่”ไม่ว่าเปล่าแต่มันดันขยับเข้ามาใกล้จนน่าหวาดเสียว คิดจะขยับหนีก็กลัวจะเสียมาดเลยตัดสินใจเอาขาไปยันตัวมันไว้แทน


   “เฮ้ย”เจ้าของขาร้องเสียงหลงเมื่อมือใหญ่จับหมับเข้าที่ข้อเท้าแล้วกระชากจนตัวหนาๆของคาเซอริโอไถลหวืดและมีตัวมันคร่อมอยู่ด้านบน


   “แก ไอ้หมาโรคจิต”คนที่โดนเอาเปรียบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเมื่อทั้งสองข้างถูกมือหนานั้นๆจับยึด ขาสองข้างก็โดนขามันทับไว้ ล่อแหลมไม่น่าไว้ใจเป็นที่สุด


   “อืม แบบนี้ไกล้ชิดดีออก”


   “ลุก”คาเซอริโอขู่เสียงเขียวเมื่อระยะห่างระหว่างตัวเขากับหมาโรคจิตใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆและไอร้อนผ่าวจากร่างกาย


   “ไม่”เสียงปฏิเสธดังมาก่อนสัมผัสนุ่มหยุ่นจะทาบทับริมฝีปาก ดวงตาสีเทาของคาเซอริโอเบิกกว้างแต่พอจะเบี่ยงหน้าหนีกลับรู้สึกเจ็บเพราะโดนกัด ระยะห่างที่ยังพอมีก็กลายเป็นไม่มีเมื่อเจ้าหมานั้นทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งตัว


   “หือ”ถ้อยประท้วงไม่อาจดังออกนอกริมฝีปากที่พยายามอย่างหนัก ซ้ำยังกลายเป็นเปิดโอกาสให้ลิ้นชื้นล้วงเข้ามาภายใน แม้ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าหมาบ้านั้นมันจูบได้เก่งเหลือเชื่อ เก่งจนต้องเป็นฝ่ายไล่ต้อนลิ้นมันกลับเพื่อไม่ให้เสียเชิงเลยกลายเป็นว่าทั้งลิ้นเขาและมันพัวพันกันจนแทบแยกไม่ออก ใบหน้าที่ปรับเอียงให้ได้องศาทำให้การประลองลิ้นล้ำลึกยิ่งขึ้น  ยิ่งนานไปก็เหมือนสมองจะเริ่มขาวโพล่นจดจ่ออยู่เพียงความรู้สึกบนปลายลิ้นที่ถูกดูดกลืนจนร้อนฉ่าและสัมผัสของฝ่ามือหนาที่วางพาดลงบนหน้าท้อง


   “หือ”


ผลั่ก!!


   “โอ๊ย นี่เจ้า ข้าเจ็บนะ”เจ้าหมาที่ถูกผลักกระเด็นโวยเสียงดังมือกุมหัวที่กระแทกกับพื้นถ้ำเอาไว้แน่น


   “แก ไอ้หมาบ้า คิดจะทำอะไรห๊ะ”คาเซอริโอโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเมื่อสำนึกสุดท้ายที่รู้สึกได้คือมือหนาๆของมันที่กำลังจะล้วงเข้าไปในกางเกง พอคิดถึงตรงนี้ขนในกายก็พากันลุกพรึ่บ ร้อนๆหนาวๆเหมือนจะเป็นไข้


“ก็ทำให้เจ้าเป็นของข้าไง”คำตอบเรียบง่ายพร้อมใบหน้ายิ้มระรื่นและดวงตาสีน้ำตาลพราวระยับทำให้คาเซอริโอได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างในสมองปริขาด ขายาวๆจึงได้ย่างสามขุมเข้าหาพร้อมร้อยยิ้มก่อนจะเตะเสยเข้ากลางคางเหลี่ยมปล่อยเจ้าหมาให้ร่วงหงายหลังน๊อคแบบไม่ต้องนับ มือคว้าเอาเจ้าลูกหมาขนสีดำแล้วสาวเท้ายาวๆออกจากปากถ้ำไม่สนใจจะเหลียวดูผลงาน


   “โว๊ย  อะไรของมันกันหนักหนาว่ะ”ฝ่าเท้าเตะโครมเข้ากลางลำต้นไม้จนใบไม้ร่วงกราวให้เอามือปัดออกจากหัวด้วยความหงุดหงิด  เกิดบ้าอะไรขึ้นทำไมเขาต้องยอมมันขนาดนั้น  เปลืองตัวขนาดนั้นถ้าเป็นผู้หญิงเขาไม่เสร็จมันไปแล้วรึไง  ไม่สิ ไม่เขาเป็นผู้ชาย ไม่เคยคิดชอบผู้ชายด้วยกันแม้จะแกล้งเจ้าหมอฮิโตะได้เพราะมันก็หน้าสวยเกือบจะเหมือนผู้หญิงแต่เจ้าหมาตาสีน้ำตาลนั้นไม่เหมือนกัน มันไม่มีส่วนไหนที่เหมือนผู้หญิง กล้ามก็เท่านั้น ตัวใหญ่ก็เท่านั้นดูยังไงก็ไม่ใช่แบบที่เขานึกชอบ  เขายังชอบผู้หญิงอกใหญ่ก้นบึ้มแล้วทำไม


   “หึย มันเกิดบ้าอะไรขึ้นว่ะ”คำถามที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้คนพูดเลยได้แต่เดินย่ำข้ามน้ำตกเย็นๆไม่สนใจน้ำที่พัดแรงจนเซหรือความสูงที่มากขึ้นถึงกลางอกทำเพียงย่ำข้ามไปจนถึงฝั่งตรงข้ามหันมองกลับไปไม่เห็นอะไรตามมาด้วยถึงได้ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ


งี๊ด!!


   เสียงเล็กๆจากหมาขนฟูที่ดังขึ้นทำให้คาเซอริโอนึกได้ว่าฉวยเอามันติดมือมาด้วย ตัวเล็กๆที่สั่นอยู่ในมือข้างเดียวของเขาทำให้คิ้วสีทองขมวดฉับก่อนจะกวาดมองไปรอบๆ  ลมเย็นๆที่พัดกระทบกายทำให้หนาวสะท้านแต่กลับไม่มากเท่าเสียงเสียดสีของใบไม้ที่ทำให้มาเฟียอย่างเข้าตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังประมาท เพราะเหตุการณ์นรกแตกเมื่อครู่ทำให้เขาเดินข้ามน้ำตกมาโดยไม่ระวังตัวไม่ระวังสักนิดว่าตอนนี้เขากำลังถูกจ้องโดยบางอย่าง  ดวงตาสีดำคู่โตจ้องมาจากเงามืดของราวป่า  ดวงตาสีดำที่ทำให้นึกถึงบางอย่างที่เคยเจอมาและไม่คิดอยากจะเจออีกเป็นครั้งที่ 2


   “ชิบหายแล้ว”
   
   


















        สวัสดียามค่ำคะ  มาส่งตอนใหม่ในช่วงดึกๆอีกแล้ว

        สำหรับตอนใหม่นี้ตั้งชื่อตอนไว้สั้นๆตามเนื้อหาตอนบนๆของเรื่อง  ยกบทเด่นให้ซาลูกิไป  ตอนกลางเป็นฉากหวานน้ำตาลขึ้นของพ่อหมาน้อยกับมาเฟียหนุ่ม มีจูบนิด หอมแก้มหน่อยที่ทำให้ได้รู้ว่าพ่อหมาของเราก็ไม่ได้ซื่อไปซะหมด 

        จบฉากหวานๆเราก็ทำการทิ้งท้ายด้วยปริศนาดวงตาสีดำ ของใครกันนะ ที่เราจะมาเฉลยในตอนหน้า  ขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเม้นแล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ

ออฟไลน์ AoMSiN555

  • กรูบ้า.....อย่าทักกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 o13. อะไรจะออกมาละอีกเนีย?  รอต่อไปนะ อิอิ. ขอบคุณที่มาต่อนะ  :ruready

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 16 สัญชาตญาณที่สั่งให้หลีกเลี่ยง                                             11/06/2557   
                                    17/06/2557





   เสียงใบไม้ที่ถูกพัดปลิวสลับกับเสียงเสียดสีของกิ่งไม้ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงเต้นของหัวใจในตอนนี้  ดวงตาสีดำคู่นั้นเขามองเห็นมันและแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด


   ขาขวาค่อยๆขยับไปด้านหลังอย่างช้าๆ มือเอื้อมลงต่ำไปยังซองมีดที่ข้างขา  ทุกอย่างล่าช้าแต่อันตราย


ฟุบ


   ร่างกายถีบตัวออกจากที่เดิมตามสัญชาตญาณ  ดวงตาสีเทาคู่คมจ้องเขม็งยังตำแหน่งที่ตัวเองเคยยืนอยู่  กระต่ายป่าสีน้ำตาลตัวเล็กกระโดดไปแทนที่เขา หัวเล็กๆนั้นส่ายไปมาก่อนจะกระโดดหายไป  ทั้งๆที่ควรวางใจแต่ในใจลึกๆกลับบอกว่าไม่ใช่บางทีเจ้ากระต่ายนั้นอาจกกำลังหนีอะไรบางอย่างแบบเขาก็ได้


แกร๊ก


   “โอ๊ะ  ขอโทษที ข้าทำให้เจ้าตกใจงั้นเหรอ”คมมีดดาบยาววาววับอยู่บนลำคอขาวของคนแปลกหน้า ลมหายใจถี่กระชั้นตามจังหวะหัวใจที่บีบรัด


   “แกเป็นใคร”คาเซอริโอถามเสียงเข้มขณะตั้งตัวอยู่ในท่าระวังภัย ผู้ชายตรงหน้าตัวสูงประมาณเขา ผมสีดำยาว หน้าเรียว ดวงตาสีดำเฉียงจมูกโด่ง ผิวขาวเหลือง ร่างกายที่ค่อนข้างผอมและมีเพียงแผ่นหนังที่ปิดของสงวนเอาไว้แบบที่พวกปีศาจทั่วไปชอบทำ


   “อ๊า ข้าแค่บังเอิญผ่านทางมานะ  พอดีกำลังจะมีพายุเห็นแสงไฟลิบๆเลยว่าจะขอหลบพายุสักหน่อย”


   “ฉันถามว่าแกเป็นใคร”คาเซอริโอยังคงยืนยันคำถามเดิมไม่สนใจประโยคบอกเล่ายาวยืดที่คนหรือตัวอะไรสักอย่างตรงหน้าร่ายออกมา สัญชาตญาณสั่งว่าเขาควรรีบไปจากที่นี้ได้แล้ว


   “ใจเย็นน่าลดมีดลงก่อนดีไหม”คนพูดยิ้มระรื่น  คาเซอริโอฉีกยิ้มรับแต่กลับเสือกคมมีดเข้าชิดจนคมสีเงินวาวนั้นสัมผัสกับผิวเนื้อ เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาตามรอยบาด


   “แกสมควรตอบคำถามฉันก่อนที่จะไม่มีหัวไว้ตอบคำถาม”


   “มั่นใจเหลือเกินนะ”ดวงตาสีดำทอประกายแข็งกราว ริมฝีปากหุบยิ้มลงทันที
 

   “ฉันทำอย่างที่พูดได้แน่”


   “เหมือนที่เคยบ้าบิ่นทำเอาไว้ตอนนั้นสินะ”


   “ซ๊อควิ่ง”คาเซอริโอตะโกนเสียงดังลั่น สบตากับเจ้าหมาตัวน้อยเพียงครู่ก่อนขาทั้ง  2 ข้างจะออกวิ่งไปคนละทางกับเจ้าซ๊อค หางตาสีเทาทันเห็นไอ้ตัวแปลกหน้าฉีกยิ้มแสยะก่อนที่ขาทั้ง 2 ข้างจะยืดยาวและปรากฏเกร็ดสีน้ำตาลสลับดำขึ้นมาทั่วทั้งขารวมทั้งบริเวณแผลยาวที่ข้างขาขวานั้นด้วย


   “เวรเฮ้ย”ขาทั้งสองข้างออกแรงวิ่งเต็มกำลังไปทิศตรงข้ามกับเจ้าหมาขนปุย หวังว่ามันจะตามใครหรือหมาสักตัวมาช่วยเขาทันเพราะตอนนี้ในหัวของคาเซอริโอไม่มีคำว่าชนะ มีเพียงแค่ทำยังไงให้ถ่วงเวลาให้ได้นานที่สุด  เจอกันครั้งที่แล้วเขาฝากแผลไว้บนหางของมันได้ ในสภาพที่เขาบาดเจ็บและมีเจ้าหมาชินอูช่วย ถึงตอนนี้เขาไม่ได้บาดเจ็บแต่ก็ไม่มีคนช่วย สถานการณ์ไม่ต่างกับครั้งที่แล้วหรืออาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเพราะคราวนี้ไอ้งูโรคจิตนั้นมาด้วยแววตาอาฆาตเต็มร้อย ต้องโทษไอ้หมาเวรนั้นที่ทำเรื่องบ้าๆนั้นกับเขาทำให้เขาเตลิดมา ความผิดมัน มันก็ต้องรับผิดชอบมาช่วยเขา ไม่สิคนอย่างเขายังไงก็ต้องเอาตัวรอดเองให้ได้ไม่สมควรเป็นหนี้ใครอีก


   “ชิบ”เงาร่างสูงกระโดดพุ่งตัวข้ามท่อนไม้เก่าที่ล้มขวางทาง   แผ่นหลังหนากระแทกเข้ากับลำต้นไม้ด้านหน้าเป็นกำบัง มือคว้าเจ้าลูกรักสีดำมะเมื่อมขึ้นมาแทนมีดด้ามยาว เสียงใบไม้ที่ไหวตามแรงลมทำให้การได้ยินเสียงเจ้างูตัวนั้นยากเข้าไปใหญ่


ฟ่อ


ปัง


   ร่างทั้งร่างพลิกตัวหงายไปด้านหลังพร้อมกระสุนที่วิ่งออกจากลำกล้องทะลุเปลือกไม้เฉียดปลายหัวทู่สีน้ำตาลทองไปเพียงนิ้ว  ลิ้นสองแฉกสีแดงสดแลบเลียออกมานอกปากก่อนปลายหัวจะโค้งต่ำลงแล้วพุ่งตัวมาหาเขา


   “ให้มันได้แบบนี้สิวะ”คาเซอริโอกัดฟันกรอดผุดลุกขึ้นจากพื้น กระโดดข้ามก้อนหินเตี้ย ตามองเห็นเพียงต้นไม้ที่เคลื่อนผ่านด้วยความเร็วด้านหน้า หูต้องคอยจับเสียงเลื้อยด้านหลังที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงพายุที่กำลังจะมาถึง


แปะ


   “โว๊ย มันอะไรกันหนักหนาว่ะ”คาเซอริโออยากเงยหน้าตะโกนด่าฟ้าที่ดันส่งฝนลงมาได้ทันเวลาแต่สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือวิ่ง วิ่งต่อไปข้างหน้าเท่านั้น


ฟุ่บ


   “เฮ้ย”ร่างเอี้ยวตัวไปด้านขวาตามสัญชาตญาณ ทันการก่อนที่เขี้ยวยาวนั้นจะฝังลงที่ต้นไม้ด้านซ้าย ชั่วอึกใจที่ปากกว้างอ้าออก ทิ้งรอยเขี้ยวเป็นแนวยาวไว้บนต้นไม้  ไม่มีพิษสินะแบบนี้คงไม่โดนกัดแล้วพิษเข้าหัวใจแต่คงโดนงับทีเดียวแล้วกลืนลงท้องมากกว่า


   “ฉันว่าเราน่าจะเปิดการเจรจากันนะ”คาเซอริโอออกปากเพื่อหาทางรอด แน่หละเขาเป็นมาเฟียไม่ใช่พระเอกหนังถึงจะเก่งพอยิงงูยักษ์ตัวเท่ารถบรรทุกให้ตายได้ก่อนที่มันจะเขมือบหัวเขาเข้าไป ต่อให้มั่นใจในฝีมือการยิงปืนของตัวเองแค่ไหน แต่งูปีศาจกับคนมันก็ดูจะห่างชั้นกันเกินไปหน่อย เพราะฉะนั้นทางรอดทางไหนหาได้ก็สมควรทำ


ฟ่อ


   “โอเค ไม่คุยก็ไม่คุยสิว่ะ”ขาสองข้างดันถีบตัวเองไปด้านซ้าย มือกระชับด้ามปืนก่อนจะลั่นไกเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หัวกลมๆนั้นพุ่งเข้าตำแหน่งเดิมของเขา  กระสุนสีเงินเจาะเฉียดปลายหัวทู่สะกิดเลือดสีแดงให้พุ่งกลืนกับน้ำฝน ตาสีดำวาววับหันควับตามเจ้าของปืน


ปัง


   กระสุนจากคนที่นอนพังพาบอยู่บนพื้นพุ่งทะลุเหนือตาข้างขวา หัวกลมๆนั้นชะงักเพียงเสี่ยววินาทีก่อนจะฉกลงพื้นข้างตัว ปลายเกร็ดแหลมเกี่ยวเอาแขนข้างซ้ายจนเลือดซิบ ขาสองข้างถีบตัวออกจากจุดเดิมไม่ทันได้ยืนขึ้นหัวกลมทู่นั้นก็หันกลับมา


ปัง ปัง


   กระสุนวิ่งทะลุเยื่อยุปากด้านในจนหัวงูสะบัด เลือดสีแดงสดซึมออกมานตามร่องปากที่อ้ากว้าง สบโอกาสให้มาเฟียข้างเขาถีบตัวขึ้นจากพื้นเฉอะแฉะแล้ววิ่งผ่านพายุอีกครั้ง


   เสียงต้นไม้เล็กๆด้านหลังที่ถูกโค่นเมื่องูยักษ์นั้นเลื้อยผ่านดังกลบเสียงพายุภายในหัวคาเซอริโอได้หมดสิ้น ปอดทั้งสองข้างถูกซี่โครงบีบรัดจนเจ็บ หลังปวดแปลบจากแรงกระแทก ขาทั้งสองข้างลื่นไถลไปบนพื้นโชคยังดีที่เขาพยุงตัวเอาไว้ได้ก่อนล้มหน้าทิ่ม


   “เฮ้ย”เท้าสองข้างชะงักกึก เศษดินจากปลายเท้าร่วงกราวลงไปในหลุมมืดที่มองไม่เห็นก้น


   “ชิบหายของจริงแล้ว”ร่างทั้งร่างหมุนกลับ  ปืนในมือลั่นไก


ปัง ปัง  ปัง


   ปลายหัวกลมทู่สะบัดตามแรงกระสุนที่เฉี่ยวตามใบหน้า หนึ่งนัดเจาะทะลุตาข้างขวาแต่ก็ไม่อาจหยุดงูที่พุ่งเข้ามาได้


   “เฮ้ย”


กรร


   ปลายปากที่กำลังจะงับคอคาเซอริโอกระเด็นเบี่ยงออกไปเมื่อช่วงคอหนาถูกกัดจนจมเขี้ยวด้วยหมาตัวใหญ่ขนสีน้ำตาล


   “ไอ้หมาโง่”หมอโง่ในความคิดของคาเซอริโอกัดคองูยักษ์จนจมเขี้ยว  ขาสี่ข้างออกแรงจิกพื้นในขณะที่เหวี่ยงหัวไปมาจนคองูสะบัด เจ้างูยักษ์ที่เริ่มเสียเปรียบดิ้นพรวดก่อนหางยาวๆจะขดม้วนตัว


   “ระวัง”คมเขี้ยวถอนออกก่อนที่หางงูนั้นจะทันถึงตัว ร่างสูงใหญ่กระโดดถอยไปตั้งหลักพร้อมๆกับงูที่ถูกกัดจนคอเหวอะค่อยๆชันหัวขึ้นมด้วยดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียว หัวกลมส่ายไปมามองสลับระหว่างเขากับเจ้าหมานั้น ชั่วเสียววินาทีแต่เหมือนนานเป็นชั่วโมงเมื่อหัวนั้นพุ่งมาหาเขา


   “เฮ้ย”ร่างทั้งร่างผงะหงาย แล้วล่วงลงไปในความมืด ทันเห็นเจ้างูตัวใหญ่ที่ล่วงพาดลงมาครึ่งตัวถูกเจ้าหมาสีน้ำตาลกัดกลางตัวจนจมเขี้ยวก่อนจะสะบัดจนเนื้อขาดวิ่น


   น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นว่ามันตายหรือเปล่าแต่ก็คงเจ็บพอดู เหลือแค่เขานี้หละที่อาจจะไม่รอด ไม่สิ ต่อให้เหลือแค่วิญญาณยังไงก็ต้องกลับไป กลับไปหาคนๆนั้นที่เป็นเจ้าของทุกอย่าง หึ ทั้งๆที่ในเวลาแบบนี้ เวลาที่คิดถึงใครคนนั้นแต่ทำไมกลับรู้สึกหงุดหงิดที่ได้ยินเจ้าหมานั้นหอนเหมือนจะขาดใจกันนะ


ตูม









                      มาต่อตอนใหม่แบบสั้นๆ และค้างได้อีก 55 นางมารไม่ได้ตั้งใจให้ค้างนะคะแต่มันเป็นไปเองตามบทของเรื่อง

    ตอนนี้พ่อหนุ่มคาโลของเราตกตามน้ำตูมไปแล้ว คงต้องตามต่อว่าจะเป็นยังไง  ส่วนตอนหน้าพบกับตอนร่างกายที่ทำงานสวน

ทางกับหัวใจ :hao6: ชื่อต่อแบบว่าเอิ่ม  ฮ่าๆแล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
จิ้มก่อนเดี๋ยวมา  :z13:

////////////////

แบบนี้แสดงว่าต้องแยกกันชั่วคราวสินะ

คาโลจะไปโผล่ที่ไหนนะ อยากรู้แล้ว

รีบมาต่อนะจ๊ะ  :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2014 10:50:41 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ เกลียวคลื่น

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบๆ จะมีกี่คนกันที่หลงเสน่ห์คาโล
  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ไม่นะ!! คาโลที่ร๊ากกกกกกกกกก   :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Fuzz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โอ้มายคาร์โล กรรมเวรแท้ๆเลย สู้ๆนะ รอดกลับมาให้ได้นะ
พ่องูนี่ก็เหลือเกินจริงๆ มาตามจองเวรถึงที่ พี่หมามาทันเวลา
แต่คาโลก็ตกลงไปในหลุมจนได้ เฮ้อ~ จะเจอไรอีกน้า อยากรู้ๆ
มาต่ออีกนะ มาไวๆน้า ค้างมากเลยอ่ะ รอๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตอนที่ 17 ร่างกายที่ทำงานสวนทางกับหัวใจ                                     17/06/2557
                              28/06/2557
                              05/10/2557





ปัง


   กระสุนสีเงินจากปากของเพชฌฆาตพุ่งทะลุกลางหน้าผากของเหยื่อเคราะห์ร้าย ดวงตาสีทองเบิกกว้างประกายตาสุดท้ายของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก่อนที่เจ้าของร่างจะสิ้นลมหายใจล้มหงายลงกับพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงสดและเศษชิ้นเนื้อสมองที่สาดกระจายเปื้อนไปทั่วโกดังเก่า เมื่อหัวหน้าเปิดเกมลั่นไกลูกน้องทั้งหลายจึงสนองด้วยการส่งเหยื่อที่เหลือรอดลงนรก


   “ผ้าเช็ดหน้าครับ”ผ้าเช็ดหน้าสีเทาเข้มถูกส่งมาให้อย่างสุภาพจากคนที่เป็นเสมือนเงา


   “อืม ขอบใจ”มือขาวเอื้อมรับผ้าเช็ดหน้าก่อนจะเช็ดคราบเลือดสีแดงสดที่กระเซ็นเปื้อนใบหน้าตัวเองออก  เฮ้อแย่ชะมัดไม่น่าไปยิงระยะเผาขนแบบนั้นเลยให้ตายสิ เปื้อนไปหมด


   “ผมว่าครั้งหน้าคุณควรจะถอยกระบอกปืนออกมาสักหน่อยนะครับ”คำบอกกล่าวสุภาพที่ไม่ชินหูทำให้คาเซอริโอหันไปมองคนพูด เจ้าเด็กบ้าคนหนึ่งที่ยืนยิ้มกว้างสองมือล้วงกระเป๋า เท้าข้างหนึ่งกระดิกดิกๆแบบกวนประสาทได้ขัดกับคำพูดเป็นที่สุด


   “ผมก็แค่ห่วงว่าแม่บ้านที่คฤหาสน์จะเป็นลมเพราะเลือดที่เปื้อนเสื้อคุณก็เท่านั้น”


   “พวกนั้นคงชินแล้วหละ”มือขาวเสือกผ้าเช็ดหน้าคืนเจ้าของที่ทำเพียงใช้นิ้วคีบขึ้นมาแล้วเอาไปวางปิดหน้าศพเอาไว้ด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด


   “เฮ้ย ไปกันได้แล้ว”เสียงออกคำสั่งเรียบๆแต่ดังก้องไปทั่วโกดังร้างริมท่าเรือที่ใช้เป็นสถานที่ฆ่าบรรดาผู้ทรยศ  เจ้าลูกน้องไม่รักดีที่หาทางรวยทางลัดด้วยการยักยอกยาเสพย์ติดของคนอื่นมาใส่ในเรือขนสินค้าของบอนซาลิโน  เป็นการหยามหน้าที่ดอนรับไม่ได้และหน้าที่ของเขาคือเก็บพวกมันทั้งกลุ่มให้เงียบที่สุดก่อนที่เจ้าพวกคู่อริที่กล้าหยามหน้าดอนจะไหวตัวทัน แต่ก็นั้นหละคงไม่ทันหรอกในเมื่อเขาเก็บมันไปก่อนหน้านี้แล้ว เหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี


   “อ๊า  แย่ละสิฝนตกอีกแล้วสิเนี่ย”เสียงบ่นหงุงหงิงจากเจ้าคนที่ยืนข้างๆทำให้ดวงตาสีเทาเงยหน้ามองฟ้าด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหยิบเอาบุหรี่ในอกเสื้อออกมาจุดสูบ


   “ร่มครับ”ร่มสีดำถูกยื่นมาเหมือนคนถือจะกางให้แต่คาเซอริโอทำเพียงสาวเท้าออกไปด้านนอกโกดังเดินตากฝนในระยะสั้นๆเพื่อไปขึ้นรถสีดำที่จอดเปิดประตูรออยู่เท่านั้น


   “หว่าคุณเนี่ยนะยังระห่ำเหมือนเดิม รู้ไหมครับว่าฝนของอิตาลีนะเป็นฝนกรดเพราะโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ดีต่อสุขภาพแล้วยังบุหรี่...อ๊ะ ขอบคุณครับ”คำบ่นยาวเหยียดหยุดชะงักเมื่อเขายืนบุหรี่ไปตรงหน้า  มันรับไปจุดสูบอย่างรวดเร็วก่อนจะพ่นควันแข่งเขาในรถที่กำลังมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์  หยุดประโยคยาวๆที่ไม่รู้ว่ามันไปขุดมากจากไหน แล้วไอ้ความคิดที่ว่าเขาระห่ำเพราะเดินตากฝนนั้นก็ปัญญาอ่อนได้ถึงขีดสุด ไม่รู้มันไปจำมาจากใครทั้งที่เขาก็ไม่เคยสอนให้มันเป็นแบบนั้นสักนิด


“ถ้าแกพูดให้น้อยกว่านี้มันคงดีนะ เฟอร์ดิน”


   “ผมแค่เป็นห่วงคุณนะครับ”ดวงตาสีเทาปลายตามองคนพูดก่อนจะพ่นควันออกมาด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่ไอ้เด็กตรงหน้าทำเพียงหัวเราะคิกคักเหมือนคนเมากัญชาในบุหรี่  เจ้าเด็กที่จ้องเขาด้วยดวงตารื้นน้ำตาในวันนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าเด็กกวนประสาทที่น่าจะโดนถีบสักวันหละหลายรอบอย่าง เฟอร์ดินา เกลเบียล เฟอร์โร่ ซิสิอาโน  เจ้าเด็กชื่อยาวที่คอยกวนประสาทเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน


   “โอ๊ะ  ถึงแล้ว”เจ้าเด็กในแจ๊คแกตดำรีบถลาลงจากรถอ้อมมาเปิดประตูให้เขาก่อนที่คนข้างคนขับจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองซะอีก


   “ดีนะครับเนี่ยที่ฝนหยุดตกแล้ว”


   “เออ”คาเซอริโอรับคำสั้นๆก่อนจะสาวเท้ายาวๆเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีเจ้าเด็กชื่อยาว เจ้าคนขับรวมคนนั่งข้างคนขับมือซ้ายขวาของเขาตามมาด้วยเท่านั้น


   “อ้าวมาแล้วเหรอคาโลนั่งก่อนสิ”ชายที่นั่งโขกหมากรุกหันมาพูดโดยไม่มองก่อนบรรดาเมดสาว เจ้าเทโซและคนติดตามอื่นๆจะถอยออกไปเหลือแค่เขากับดอนที่นั่งเผชิญหน้ากันโดยมีกระดานหมากรุกที่ดอนกับเทโซเล่นไว้คั่นกลาง


   “เรียบร้อยดีสินะ”ใบหน้าขาวเงยขึ้นจากกระดานหมากรุกก่อนจะแย้มรอยยิ้มมุมปาก


   “ครับ”


   “หืม นั้นสินะก็เธอเป็นคนทำงานนี้น่า แต่เสื้อนะอย่าให้เปื้อนบ่อยนักสิ ฉันสงสารแม่บ้าน”


   “งั้นเดี๋ยวผมทิ้งไปเลยแล้วกัน”


   “ไม่เอาน่า ฉันว่าเสื้อสูทตัวนี้ก็เหมาะกับเธอออก”คาเซอริโอถอนหายใจรับคำพูดนั้น


   “แล้วเฟอร์ดินา เป็นยังไงบ้าง”


   “ก็ดี”


   “หืม”คิ้วสีทองเลิกสูงเหมือนต้องการคำอธิบายที่มากกว่าก็ดีของเขา


   “ใจแข็งดี เชื่อฟังคำสั่ง แต่ปากมากทำเกินหน้าที่ไปหน่อย”


   “อืม  ยังไงก็ฝากเธอด้วยแล้วกันนะ  เขายังเด็กคงทำเรื่องลำบากให้เธอพอสมควร”


   “เหอะ”


   “เดินด้วยกันสักตาไหม”


   “คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบเกมกระดานที่ใช้สมองเท่าไหร่”


   “เอาน่าลองสักหน่อย”ดวงตาสีเทากวาดมองกระดานสี่เหลี่ยมที่ชวนลายตาก่อนจะหยิบเจ้าหมากดำที่มีหัวแหลมๆเดินตรงไปข้างหน้าโดยกระโดดข้ามหัวหมากขาวไป


   “เฮ้ บิชอปเดินตรงๆได้ยังไงหละ เฮ้อ ฉันชักเชื่อแล้วสิว่าเธอไม่เคยชอบกระดานพวกนี้เลยตั้งแต่เด็กจนโต”คาเซอริโอเบ้หน้าให้คนพูดที่ยังจำเรื่องที่เขาไม่ถนัดได้แต่ก็ยังบังคับให้ทำอยู่เสมอ  เอาแต่ใจไม่มีใครเกินแต่ก็คงเป็นเพราะเขาเองที่ยอมตามใจไปซะทุกเรื่อง





..............................................................





   เสียงร้องของนกที่เขาไม่รู้จักชื่อดังแทรกเข้ามาในหูพร้อมกับความหนาวเหน็บที่มาเยือนจนต้องซุกร่างเขาหาไออุ่นด้านหลัง  รู้สึกหนักๆที่ช่วงแขนกับขาแต่มันก็อุ่นจนไม่อยากลืมตามองจนกระทั่งบางอย่าแฉะๆหยุ่นๆเลียลงมาบนหน้า


   “เฮ้ย หยุด”มือขาวจัดการดันเจ้าปากแหลมและจมูกสีน้ำตาลนั้นไปให้พ้นหน้าตัวเองแต่กลายเป็นว่าจากเลียหน้าเขาดันโดนเลียมือจนชุ่มแทน


   “โว๊ย หยุดทำตัวสมสายพันธุ์ตัวเองได้แล้ว”การเลียแบบแทบเอาน้ำลายชโลมหยุดชะงักก่อนที่จมูกแหลมๆนั้นจะดุ้นมือเขาและพยายามหาทางเข้ามาใกล้หน้าเขาอีกครั้ง


   “แกนี้มัน”คาเซอริโอรีบดันตัวออกจากตำแหน่งเดิมเมื่อเริ่มจะคิดได้ว่าการเอามือห้ามของตัวเองไม่เป็นผล


   ดวงตาสีเทาคู่คมกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะขมวดคิ้วฉับเมื่อเหตุการณ์ล่าสุดเริ่มกลับเข้ามาในหัว จำได้ว่าตัวเองกระโดดหน้าผาหนีงูแล้วหล่นลงน้ำ ทำไม ตอนนี้ถึง....ใบหน้าคมหันควับกลับไปด้านหลังก่อนจะมองเห็นแม่น้ำสายเล็กๆที่ทอประกายล้อแดดสีส้มแล้วหันกลับมา ทันก่อนที่จมูกยาวๆนั้นจะโดนหน้าเขาอีกรอบ  อย่าบอกนะว่าไอ้ความอุ่นๆที่เขารู้สึกได้คือตัวโตๆของหมาข้างหน้า


   “หยุดอยู่ตรงนั้น ฉันจะไปอาบน้ำ”ขายาวถีบตัวเองขึ้นจากพื้นแต่ก็ยืดตัวได้ไม่เต็มความสูงเพราะที่ๆเขาอยู่คือโพรงต้นไม้ขนาดยักษ์ที่เจ้าหมานั้นพาเขามาหลบฝน


   พอเดินออกมาด้านนอกเขาถึงได้เห็นว่าตามใบหญ้ายังคงมีหยดน้ำเหลืออยู่ประปรายแสดงว่าพายุเพิ่งหยุดไปไม่นาน  ทั้งๆที่แดดก็อ่อนลงจนเหมือนช่วงบ่ายนี่แสดงว่าเขาหลับไปนานพอสมควรเลยสินะ


   น้ำเย็นที่สัมผัสปลายเท้าทำให้สมองกลับมาสดชื่นได้เต็มร้อยอีกครั้ง อาการระบมตามร่างกายก็เหมือนจะกลับมาแต่ยังไม่เท่ากับอาการขัดยอกที่ทำให้ต้องบิดร่างกายไล่ความเมื่อยขบและเดินเอื้อยๆลงน้ำ ปล่อยให้ระดับน้ำลอยสูงขึ้นเรื่อยๆแล้วตัดสินใจปล่อยให้ตัวเองจมลงในกระแสน้ำเย็นเฉียบ สมองหวนคิดกลับไปถึงความฝันก่อนตื่นขึ้นมา เขาฝันถึงดอน ฝันถึงผู้ชายคนนั้นที่เป็นเป้าหมายในการกลับไปของเขา  เขามาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วนะ  นานเท่าไหร่แล้วที่เขาออกห่างจากผู้ชายคนนั้น


ซ่า


   “เฮ้ย  แค๊กๆ ทำบ้าอะไรของแกวะ”คาเซอริโอโว๊ยเสียงลั่นเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกระชากขึ้นจากน้ำจนสำลักไอเพราะไม่ทันตั้งตัว


   “เจ้านั้นแหละทำบ้าอะไร ลงไปอยู่ในน้ำนั้นทำไม”ข้อมือแข็งแรงสองข้างบีบไหล่เขาจนเจ็บ แต่มันก็ไม่น่าแปลกเท่าดวงตาสีน้ำตาลแข็งกราวคู่นั้น ดวงตาที่ทอประกายกราดเกรี้ยว


   “แค่ไปทำให้หัวมันเย็นลงแค่นั้น”


   “เจ้า..”


   “เออ ฉันยังไม่คิดทำอะไรโง่ๆอย่างฆ่าตัวตายหรอกนะ”


   “ข้าแค่กลัวเจ้าจะเป็นอะไรไป”


   “เหอะ ชีวิตฉันเป็นของฉันไม่ต้องให้ใครมาห่วง”คาเซอริโอสะบัดตัวออกจากมือนั้นเมื่อเห็นว่าการยืนคุยกับมันกลางน้ำเย็นๆและลมแรงๆเริ่มจะทำให้หนาวขึ้นมาจริงๆ


   “ขอแค่ข้าได้ห่วงเจ้าไม่ได้รึไง”อ้อมแขนจากด้านหลังพร้อมคำที่กระซิบข้างหูทำให้ร่างทั้งร่างหยุดชะงักปล่อยให้อ้อมแขนนั้นรัดแน่นขึ้น  สัมผัสหยุ่นที่ข้างใบหูกลับไม่ได้ทำให้เขาสะบัดมันออก


   “ปล่อยได้แล้วฉันหิว”


   “เจ้าอยากกินอะไร”


   “แกจะไปหามันให้ฉันรึไง”


   “อืม ทุกอย่าง ขอแค่เจ้าบอกมา”


   “หึ  เอาแบบที่กินได้มาก็พอ  ปล่อย”


   “สัญญากับข้าก่อนว่าเจ้าจะขึ้นจากน้ำ”


   “เออ  ปล่อยได้รึยัง”คาเซอริโอรีบรับปากเมื่อลมเย็นๆเริ่มทำเขาขนลุก  เจ้าหมาในร่างคนปล่อยเขาเป็นอิสระลมเย็นที่พัดมาทำเอาสะท้านจนต้องรีบสาวเท้าตามเจ้าหมาที่วิ่งนำหน้าเพื่อไปก่อกองไฟ


   “เจ้ากินนี้รองท้องไปก่อนเดี๋ยวข้ามา  รอไม่นานหรอก”ผลไม้หน้าตาประหลาดบ้าง คุ้นตาบ้างถูกยืนส่งมาให้ทั้งพวง


   “ขอบใจ”


   “หืม เจ้าว่าอะไรนะ”


   “ฉันบอกว่าขอบใจ  พอใจรึยัง”


   “อืม พอใจแล้วหละ”เจ้าหมาตัวโตยิ้มตาแทบปิด ดวงตาคู่นั้นกลับมาทอประกายแวววาวอีกครั้ง


   “พอใจแล้วก็ไปสักที”


   “อย่าไปไหนนะแล้วข้าจะรีบกลับมา”


   “เออ สั่งยังกับฉันเป็นเด็ก ชิ ”ท้ายประโยคเหมือนเสียงกระซิบที่อีกคนไม่มีทางได้ยินเมื่อเจ้าตัวรีบกระโดดพุ่งทะยานสี่ขาก่อนร่างจะเปลี่ยนกลายเป็นหมาปีศาจตัวใหญ่แล้วกระโจนหายไปในแนวป่า


   คาเซอริโอหันกลับมามองกองไฟขนาดย่อมที่เจ้านั้นก่อเอาไว้ก่อนจะเอาไม้เขี่ยเพื่อให้ไฟโหมแรงขึ้น  เจ้าบ้านั้นดีกับเขาเกินไปแล้ว ทั้งช่วยชีวิต ทั้งดูแล ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ


   ผลไม้ที่ได้มากินไปยังไม่ถึงครึ่งท้องเจ้าหมาตัวใหญ่ก็กลับมาพร้อมกับซากกวางตัวเขื่องในปาก พอคายมันลงที่พื้นคาเซอริโอก็ต้องรีบหลบสายตาเมื่อร่างมนุษย์ของมันยืนโทงๆให้เห็นตรงหน้า


   “นี่แกไม่มีเสื้อผ้าใส่รึยังไงกัน”


   “ข้ารีบวิ่งออกมานะ ไม่ได้ถือติดมาด้วย แต่ข้าชินแล้วหละ”แกชินแล้วแต่ฉันยังไม่ชินโว๊ย


   “เจ้ามีมีดใช่ไหม ข้ายืมก่อนนะ”คาเซอริโอหันควับตามเสียงทันเห็นมันหยิบมีดยาวของเขาออกมาจากมุมหนึ่งแล้วเดินหายออกไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับไม้ท่อนยาวจัดการกวางตัวโตจนมันขึ้นมาส่งกลิ่นหอมอยู่บนกองไฟได้ นี้เขาประมาทจนเผลอปล่อยอาวุธทิ้งให้ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเพียงกางเกงตัวเดียวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  เขาไว้ใจมันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่


   “น่าจะได้แล้วหละ”มีดที่เคยเอาไว้ป้องกันตัวกลายเป็นมีดทำครัวที่ยื่นออกไปตัดเนื้อส่วนสะโพกเป็นชิ้นแล้ววางไว้บนใบไม้บางอย่างก่อนจะยื่นส่งมาให้เขา


   “กินสิ”คาเซอริโอแบ่งเนื้อชิ้นยักษ์ออกเป็นชิ้นที่พอกัดได้ก่อนจะเอาเข้าปาก  ความร้อนของเนื้อแผ่ซ่านตัดกับความเย็นของอาการศยามใกล้ค่ำ  เนื้อกวางธรรมดาที่รสชาติไม่ปรุงแต่งแต่กลับอร่อยลิ้น


   “อืม  ก็พอกินได้”


   “หืม งั้นกินเยอะๆนะ”เจ้าหมาพ่อครัวยิ้มร่าก่อนจะตัดเนื้ออีกหลายชิ้นมาวางบนใบไม้ของเขา


   “เฮ้ย พอก่อน เดี๋ยวก็กินไม่หมดหรอก”


   “หืม แต่เจ้าต้องกินเยอะๆนะเจ้าไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว”


   “เออ  แต่ยังไงฉันก็ไม่กินเยอะขนาดนั้นหรอก แกก็กินๆเข้าไปบ้าง”


   “เป็นห่วงข้าเหรอ”


   “ฉันแค่เสียดายของ”


   “หือหึ”เจ้าหมาบ้าส่งเสียงในลำคอก่อนจะยิ้มกว้างทั้งๆที่เนื้อเต็มปาก  คาเซอริโอทำเพียงถอนหายใจแล้วจ้องเข้าไปในเปลวไฟ  มองเปลวไฟที่ไหวระรัวเพราะลมเย็นก่อนที่พายุฝนจะกระหน่ำลงมา  อากาศหนาวเย็นขึ้นแต่เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่สนใจอากาศหนาวเย็นที่เริ่มแทรกเข้ามาเพราะความฝันและภาพเหตุการณ์ต่างๆยังวิ่งวนอยู่ในหัวจนกระทั่งอะไรอุ่นๆบางอย่างมาซ้อนที่ด้านหลังและรัดแน่นขึ้นจนเริ่มเจ็บ


   “ปล่อย”


   “ไม่”ถอยคำฟังดูอู้อี้เพราเจ้าคนพูดเอาแต่ซุกอยู่บนไหล่พร้อมกับอ้อมแขนที่รัดแน่นขึ้น


   “ปล่อยฉันซาเวียร์”อ้อมแขนด้านหลังอ่อนแรงลงแบบที่เขาต้องการแต่มันก็มาพร้อมกับแรงสะท้านจากร่างกายที่สั่นเทา


   “มองข้า  ได้โปรดมองข้า”มือใหญ่สองข้างประคองหน้าให้เขากลับไปมอง  ตรงหน้าเขาไม่ใช่เจ้าหมาตัวโตที่ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นทอประกายสดใส  แต่กลับเป็นดวงตาสีน้ำตาลคู่หนึ่งที่กำลังเว้าวอนเขา


   “คาโล  มองแค่ข้าได้โปรด”ถ้อยคำเรียบๆที่เขาเองก็รู้ความหมายของมันดี  ความหมายที่ทำให้เขาต้องหลบสายตาคู่นั้น


   “หือ”ริมฝีปากสีส้มเย็นถูกครอบครองด้วยริมฝีปากอีกคู่ที่ปิดทาบทับลงมา ความหยุ่นร้อนที่ขยับไหวอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นและเริ่มเจ็บจนต้องเอื้อมมือไปจิกเส้นผมสีน้ำตาลนั้น


   “ปล่อยฉัน”


   “ไม่”ริมฝีปากหนาปิดทับลงมาอีกครั้งพร้อมน้ำหนักที่โถมจนร่างทั้งร่างล้มปะทะกับพื้นดินแข็ง  ปล่อยให้ริมฝีปากถูกขบเม้มและเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนๆนั้นแทรกเข้ามาด้านใน  สงครามปลายลิ้นที่เริ่มขึ้นทำให้สมองขาวโพลนดึงเขาออกจากความคิดวุ่นวายและความฝันให้หัว  สมองที่ว่างเปล่าทำให้จดจ่ออยู่กับปลายลิ้นที่ขยับไหวในโพรงปาก  ความอุ่นร้อนท่ามกลางพายุฝนที่กระหน่ำจากด้านนอก


   “คาโล  คาโล”เสียงแหบพล่าดังกระซิบจากริมฝีปากที่เพิ่งผละห่างก่อนสัมผัสเปียกร้อนจะแนบลงที่ลำคอ ขบเม้มและดูดเลียจนร่างกายร้อนผ่าว


   “คาโล  คาโลของข้า”เสียงอ่อนๆริมหูเหมือนเสียงกระซิบจากพวกภูติพรายที่ทำให้ทั้งร่างอ่อนแรงลง  ทำให้ดวงตาสีเทาที่แข็งกราวไหวระริกและมือทั้งสองข้างเอื้อมไปรั้งลำคอหนาให้แนบชิดมากขึ้น  บางทีเขาคงห่างหายจากเรื่องพวกนี้มานานเกินไปแล้วสินะ


   “อ๊ะ”เสียงประหลาดเปล่งออกมาจากลำคอเมื่อสัมผัสเจ็บจี๊ดบนไหล่แล่นริ้วขึ้นมาจนถึงสมองแต่ไม่ทันได้โวยวายสัมผัสอุ่นร้อนจากลิ้นที่ประทับลงบนริมฝีปากก็ทำให้เขาไม่ว่างพอจะประท้วง  ลิ้นร้อนๆที่กวาดคว้านไปทั่วกำลังทำให้เขามึนเบลอมือหนาตรงสีข้างกำลังทำให้ร่างทั้งร่างร้อนผ่าว


   “คาโลของข้า”ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระก่อนทั้งร่างจะสะท้านเฮือกเมื่อริมฝีปากอุ่นแนบเข้าที่ฐานคอแล้วไล่ต่ำลงไปตรงช่วงอกก่อนจะวกไปทางด้านซ้าย


   “อย่า อ๊ะ”เสียงประหลาดที่ออกจากปากทำให้ร่างทั้งร่างสะท้านเฮือก มือสองข้างพยายามผลักไหล่หนาออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะร่างกายอ่อนแรงทันที่ที่ยอดอกข้างหนึ่งถูกดูดหายเข้าไปในปาก แรงดูดรุนแรงจนแผ่นอกขาวๆนั้นแดงซ้ำ ปลายยอดเปลี่ยนเป็นสีสดก่อนจะแข็งค้างเมื่อลิ้นร้อนๆเลียตรงปลาย แรงหอบหายใจทำให้แผ่นอกไหวสะท้านล่อลวงให้ริมฝีปากดูดดึงจุดแต้มด้วยแรงที่มากขึ้น ขณะที่อีกข้างก็ถูกฝ่ามือหน้าเค้นคลึงจนกล้ามอกขาวขึ้นสีเรื่อเป็นรอยนิ้วมือ


“หือ พอ  พอแล้ว”แม้ปากจะร้องห้ามไปแบบนั้นแต่เจ้าหมานั้นกลับทำเพียงย้ายจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งแล้วดูดกลืนมันเข้าไปในปากจนแผ่นหลังสะท้านเฮือกสายฟ้าแล่นปราบไปทั่วร่างมือที่จิกทึ้งเส้นผมสีน้ำตาลนั้นไม่ทำให้มันเบาลงสักนิดแต่กลับดูดดึงจนได้ยินเสียงหน้าอายดังแข่งกับพายุฝนด้านนอก


   ริมฝีปากสีจัดผละออกจากออกด้านขวาก่อนจะไต่ต่ำลงไปตามแนวกล้ามท้องทิ้งรอยสีกุหลาบไว้บนกล้ามอกและกล้ามท้องสีขาวที่ตอนนี้ไหวสะท้านเหมือนคนออกกำลังหายอย่างหนัก  มือสองข้างถูกใช้เค้นคลึงยอดอกที่ตอนนี้เปียกแฉะและแดงเรื่อจนเหมือนจะปริแตก


   “อ๊ะ อ๊า”เสียงน่าอายดังออกจากริมฝีปากก่อนที่เจ้าของเสียงจะเม้มปากเน้นและเปลี่ยนเป็นจิกทึ้งเส้นผมสีน้ำตาลแรงๆ สัมผัสอุ่นร้อนบางอย่างกำลังรุกรานแก่นกายเขาผ่านกางเกงผ้าเนื้อหนาสีตาล ปลายฟันคมขบเบาๆพอให้สะท้านมือที่พยายามผลักไสก็กลายเป็นอ่อนแรงเพราะจุดสำคัญที่ตกเป็นเหยื่อให้เจ้าหมาบ้ามันละเลงลิ้น ข้อเสียของผู้ชายแทบทุกคนที่เมื่อส่วนสำคัญถูกรุกรานก็ยากจะห้ามปรามไม่ให้ไปต่อ


   “อ๊ะ”


   “สวย”


   “หุบปากนะ”ริมฝีปากสีส้มตวาดแต่เสียงก็ไม่ได้ดังไปกว่าการกระซิบเมื่อกางเกงถูกกระชากลงจนอวัยวะบางอย่างถูกปลดปล่อยให้ออกสัมผัสอากาศเย็นภายนอก แต่ไม่นานมันก็ถูกโอบล้อมด้วยปลายนิ้วแข็งๆและสัมผัสหยุ่นๆที่รุกรานส่วนปลาย


   “อ๊า”ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านก่อนจะเกร็งเขม็งเมื่อโพรงปากอุ่นร้อนครอบลงไปตามความยาว


   “หือ ไอ้หมาบ้า  อย่า ละ  อ๊ะ”เสียงหวีดร้องหวานหูดังออกมาไม่ขาดสายเมื่อส่วนกลางตัวถูกครอบครองสัมผัสอุ่นร้อนและปลายผมที่ระเรื่อยไปมาเมื่อเจ้าของขยับปากขึ้นลง  ความรู้สึกดีที่วิ่งพล่านจนเผลอกดให้ริมฝีปากนั้นจมลึกมากขึ้น  กล้ามเนื้อหน้าท้องและช่วงอกเกร็งจนขึ้นลูก  มือข้างหนึ่งคว้าจับมือหนาที่ยังขยี้อกขาวไม่ปราณี  ลำคอขาวที่ประดับด้วยรอยสีกุหลาบแหงนหงายไปด้านหลังจนเส้นเอ็นปูดโปน เส้นผมสีทองเกลี่ยเรื่อไปบนพื้นดินเมื่อเจ้าของร่างถูกส่งไปถึงห่วงสุดของอารมณ์


   “หือ”เสียงครางดังอยู่ในลำคอเพราะเจ้าของเม้มปากเน้นแต่ร่างกายที่เกร็งกระตุกและหยาดน้ำมากมายที่ถูกฉีดพ่นออกมาก็ทำให้รู้ว่าร่างทั้งร่างถูกส่งสู่เป้าหมายโดยริมฝีปากที่ดูดกลืนทุกอยาดหยดแห่งความสุขสมเข้าไป


   “ ปะ ปล่อยฉัน”


   “ไม่”ริมฝีปากที่เพิ่งปล่อยส่วนสำคัญให้เป็นอิสระแย้มยิ้ม ผละมือทั้งสองข้างออกจากอกขาวถูกที่เค้นคลึงจนแดงไปดึงกางเกงผ้าเนื้อหนาจนคนตรงหน้านอนเปลือยเปล่าท่ามกลางเปลวไฟที่ไหวระริก


   “แกจะทำอะไร  อย่านะ เฮ้ย”มือผวาคว้าจับไหล่หนาเมื่อขาทั้งสองข้างถูกกระชากเข้าหา แผ่นหลังถูกกระชับก่อนตัวจะลอยขึ้นจากพื้นถูกพาไปวางบนแผ่นใบไม้แผ่นใหญ่ที่มันหามาปูให้เขา


   “ข้าก็จะกินเจ้านะสิ คาโล”ประกายตาสีน้ำตาลคู่นั้นพราวระยับในขณะที่คนมองอย่างเขาเริ่มสั่นสะท้าน  เปลวไฟที่มอดลงถูกโหมขึ้นเพื่อเริ่มบทรักฉบับเต็มอีกครั้งและอีกครั้ง















      โอ๊ย  เหนื่อยคร๊า  ส่งตอนใหม่นี้เหนื่อยจริงๆ  ยาวไปไหน

      เริ่มต้นตอนเป็นการย้อนไปในอดีตของคาโลสมัยยังเป็นมาเฟียหนุ่มสุดโหด ถือโอกาสเปิดตัวหนุ่มน้อยหนึ่งในตัวละครใหม่ไปด้วยในตัว  หนุ่มน้อยที่เพิ่งโผล่มาเขาจะสำคัญยังไง

      ตอนต้นมาแบบบู๊ทำไมตอนกลางๆถึงได้อึนด้วยบรรยากาศหนักหน่วงขนาดนั้นก็ไม่รู้  เจ้าหมาของเราทำตาอ้อนตาเศร้าได้แล้วนะคร๊า  แต่ตอนท้ายๆที่แบบว่า ....  :hao6:ขอให้สนุกกับการอ่านนิยาย  ขอบคุณสำหรับทุกเเรงใจแล้วพบกันใหม่ตอนหน้าคะ

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
กรี๊ด ตัดฉับๆๆๆ อ้า......  :ling1:

ออฟไลน์ Fuzz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
มาต่อเร็วเร็วนะคะ อยากเสียเลือด  :hao7:  :pighaun:

ออฟไลน์ ncnck.p

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ค้างมากกก ตัดกันงี้ได้ไงงงง :ling1: :ling1:

รอต่อไปค่าาา :katai5:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กรี๊ดๆๆๆๆๆ โดนแล้วววว พี่คาโลโดนกินซะแล้ววววว
เป็นของซาร์เวียร์แบบสมบูรน์แบบ โอ๊ย ฟินค่ะฟิน ฟินมากๆเลย
ทำไมตอนกลางๆมันหน่วงขนาดนี้ก็ไม่รู้นะเนี่ย หน่วงจนเราซึมเลย
อดีตมา ปมมา คนเยอะก็ปัญหาเยอะ เฮ้อ~ รักพ่อหมาเร็วๆนะพี่คาโล
มาต่ออีกน้า มาอีกไวๆน้า คิดถึง > ^ <

ออฟไลน์ อินะซัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
ค้าง ง ง  ขอNCแบบจัดเต็มได้ป่ะ   :haun4: :haun4:
มาต่อเร็วๆน้า า า  :hao6: :hao6: เหอ เหอ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
เอ้ากำลังจะโดนกินแล้ว


จะรอดหรือยังไงเนี่ยค้างงงงง


รออ่านตอนต่อไปค้าบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด