~InLaw~ (คดีที่ 11 ใต้น้ำ 100% ) 30/06/59 P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~InLaw~ (คดีที่ 11 ใต้น้ำ 100% ) 30/06/59 P.7  (อ่าน 52987 ครั้ง)

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คืออ่าไป ทำไมเราจิ้น ท่านสิ้นฟ้ากับรุ่นพี่วะ ฮ่าๆ โมเม้นนี้ใช่ป่ะรุ่นพี่เมะ ท่านอัยการเคะ :hao7:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
เต็มสิบชอบสิ้นฟ้าแล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ Tun_Bow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คือเรารู้สึกท่านสิ้นฟ้าน่ารักอ่ะเหมาะเป็นเคะให้รุ่นพี่
งงว่าเรื่องนี้ใครพระเอก นายเอก อัยการก็เคะ น้องเต็มสิบก็เคะ หรือจริงๆแล้วนายเอกคือ สิ้นฟ้า พระเอกคือพี่เพชร
ส่วนน้องเต็มสิบเป็นตัวประกอบ :laugh:

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ท่านอัยการเปลี่ยนเป็นนางเอกแทนน้องสิบดีกว่าไหมเนี่ย
เราเชียร์พี่ทนายได้กินอัยการ

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 4
เรื่องลับ...ระดับชาติ (1)


บางครั้ง ถ้าเราไม่ได้ไปอยู่ ในจุดๆนั้น ที่เขายืนอยู่ เราอาจจะไม่เข้าใจ ว่าทำไม เขาถึงตัดสินใจ...เช่นนั้น


‘อัยการสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาอาชญากรค้าอาวุธเถื่อน ระดับประเทศ...แม้จะจับได้คาสนามบิน ก็ตาม’

ทุกพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์เล่นประเด็นนี้อย่างหนัก รวมถึงสื่อทางโทรทัศน์ ตามช่องต่างๆด้วย
ท่านอัยการผู้ช่วยสิ้นฟ้า นั่งเงียบ ระหว่างผมกับเขาไม่มีใครมองหน้าใครมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ต่างนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง


ทุกอย่าง มันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ภายในชั่วข้ามคืนเดียว
.
.
.
หลายวันก่อนหน้านี้

“ทำงานกับสิ้นฟ้าเป็นยังไงบ้าง?”ผมนั่งตัวเกร็งขึ้นมานิดหน่อย เหงื่อผมเริ่มไหลย้อย ทั้งที่ในห้องนี้ ถูกเปิดแอร์ด้วยระดับความเย็นที่อุณหภูมิต่ำ แต่นั่น ไม่ได้ทำให้ใจผมเย็นลงเลย

“กะ ก็ดี...ครับ”ผมตอบกลับไป

“ก็ดี...ดียังไง?” ตอนนี้ความรู้สึกผมคือ เหมือนกับเป็นผู้ต้องหาที่กำลังถูกสอบปากคำอยู่เลยครับ แล้วไอ้คำถามที่ถามกลับมาว่า ดียังไง? ผมก็ไม่รู้จะสรรหาคำบรรยายมาบอกยังไงซะด้วยสิ...

“ท่านอัยการผู้ช่วยสิ้นฟ้า ก็ดูแลดี เอ่อ ดีมากๆครับ อนุญาตให้ผมติดตามไปทุกที่ บางครั้งก็พาไปทานอะไรอร่อยๆ ท่านอัยการผู้ช่วยสิ้นฟ้า รู้จักร้านอาหารที่ไปทานแล้วแบบลืมไม่ลงเยอะมากๆครับ”

คนฟังยกหัวคิ้วขึ้นนิดหน่อย เหมือนๆ เหมือนกันชะมัด ...

“ให้ติดตามไปทุกที่...งั้นเหรอ?”

“เอ่อ อันที่จริง ผมเป็นฝ่ายขอตามไปเองมากกว่า”

“ไม่เหนื่อยใช่ไหม?”เขาถาม พร้อมกับจ้องตาผม นัยน์ตาสีดำสนิทคมเฉี่ยวนั่น ดูดุ แต่ก็มีความอบอุ่น...ไม่ใช่สิ มันดูหลากหลาย แบบ...ต่อให้นั่งจ้องตาก็ดูไม่ออก ว่าเป็นคนยังไง

“ไม่ครับ” ผมตอบกลับออกไปอย่างมั่นใจ

“ดีแล้ว...ต่อแต่นี้ก็ฝากลูกชายฉันด้วย”พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ครับ...ท่านอัยการสูงสุด”ผมตอบรับอีกครั้ง

เราสองคนคุยกันต่ออีกไม่นาน ส่วนมากจะเป็นเรื่องเรียนของผม และท่านอัยการสูงสุดยังแนะแนวทางการศึกษาต่อให้ผมอีก ผม

กล่าวขอบคุณท่าน ก่อนที่จะออกจากห้องมา


ผมขอเรียกมันว่า ‘ห้องเย็น’ เย็นยะเยือกเลยทีเดียว T^T



เดินเอื่อยๆ กลับมายังห้องทำงานของผู้ช่วยอัยการ แต่ก็ต้องชะงักอยู่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงคุยกันเล็ดลอดออกมา คนหนึ่งนำเสียงดูท่าทางหัวเสียนิดหน่อย ส่วนอีกคนหัวเราะ อย่างอารมณ์ดี ผมจำเสียงของทั้งสองคนได้ดี

คนที่มีน้ำเสียงแสดงอาการหัวเสีย คือท่านอัยการของผมเอง ส่วนอีกคน ที่หัวเราะ อย่างขบขัน คือน้ำเสียงของคนที่ช่วงนี้ ชอบมาที่นี่เป็นประจำ อย่างกับคนไม่มีการมีงานทำ


...ทนายเพชร...


คำถามคือ...ผมควรจะเข้าไปดีไหมนะ?



“อ้าว! น้องเต็มสิบ มายืนสูดกลิ่นประตู ห้องเพื่อนพี่ทำไมจ๊ะ?” พี่หมอ ที่มาจากส่วนไหนของโลกไม่รู้ ทักด้วยน้ำเสียงร่าเริง ผมไม่ได้สูดกลิ่นประตูซะหน่อย แค่เอาหน้าแนบประตูเท่านั้น เองเว้ย! เหอะ เหอะ

“นั่นสิ นั่นสิ” พี่สารวัตร ที่เดินมาด้วยกันทำหน้าสงสัย


ตึ้ง!

“แอ๊ก! เจ็บ!” อยู่ดีๆประตูห้องก็เปิดออกมา ทำให้ผมที่ยืนพิงประตูอยู่ ล้มก้นกระแทก พื้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“เฮ้ย!”คนเปิดออกมาร้องด้วยน้ำเสียงแปลกใจนิดหน่อย “ได้ยินเสียงเอะอะข้างนอก แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีใครยืนพิงประตูอยู่” ท่านอัยการว่า


ออ...เหรอ?
แล้วตอนล้มลงไป ท่านจะหลบทำไมครับ...รับผมสักนิดก็ไม่มี T^T


“แล้วพวกนายมาทำไม มีธุระอะไรกัน...”ท่านอัยการถาม

“อ้าว คุณเพื่อนครับ เพื่อนมาหาเพื่อน จำเป็นต้องมีธุระด้วยเหรอ?”พี่สารวัตรว่า

“นั่นสิ นั่นสิ” พี่หมอ เสริม...


“งั้นพี่กลับก่อนนะ”ทนายเพชร เดินออกมาจากห้อง บอกกับท่านอัยการ

“อ้าว พี่เพชร สวัสดีครับ”พี่หมอ และท่านสารวัตร สวัสดีพร้อมกัน

“สวัสดีหมวด สวัสดีน้องหมอ”

“ผมสารวัตรแล้วครับพี่”

“อ้าว งั้นเหรอ?”

“ไหนจะกลับ ก็รีบๆไปสิ”ท่านอัยการเอ่ยปากไล่

“ครับ”ทนายเพชรว่า “งั้นพี่กลับก่อนนะทุกคน” แล้วเจ้าตัวก็เดินออกไป


“พี่เพชร แกมาทำไมวะ”สารวัตรถาม

“มันก็โผล่ไปทั่วอะแหละ”ท่านอัยการก็ตอบออกไปแบบง่ายๆ

“วันนี้กูกับไอ้หมอ ว่าจะไปดูหนังเว้ย เรื่องนี้เข้าใหม่น่าดูชิบ สนม่ะ?” พี่สาวัตรว่า ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ดูภาพตัวอย่างภาพยนตร์

“อ้อน มันหน่อยสิน้องเต็มสิบ”

เอ่อ...

“ไปนะครับ... ผมยังไม่เคยไปดูหนังกับท่าน กับพี่สารวัตร แล้วก็พี่หมอเลย”ท่านอัยการสิ้นฟ้า หันมามองหน้าผมนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

“งั้นขอเคลียร์งานที่เหลือก่อนแล้วกัน...มาช่วยกันเลย”


กว่าจะช่วยกันเคลียร์งานเสร็จก็เกือบทุ่ม แล้วครับ ก็เลยเลือกห้างที่ใกล้ๆ กับสำนักงานอัยการหน่อย แต่ผู้ชายเดินด้วยกันสี่คน ชวนกันไปดูหนัง นี่มันก็แปลกๆดีแหะ แถมแต่ละคนนี่บุคลิกก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อย่างผมนี่แปลกสุดมาในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ส่วน อีกสามคนอยู่ในเสื้อเชิ้ทคนละสีตัวเดียวกับที่ใส่ทำงานกันในวันนี้ กับกางเกงยีนส์เข้ารูปที่แอบเปลี่ยนก่อนออกมานี่ เท่ สุดๆ ไม่แปลกใจเลยที่เดินผ่านใคร ใครก็มองอย่างห้ามไม่ได้

“ใครชวนไปต่อแถวซื้อตั๋วเลย ไปเลย!”พี่หมอพูดพร้อมกับดันหลังท่านสารวัตร

“จ้า...จ้า”ท่านสารวัตรรับคำ ก่อนที่เราจะเดินมานั่งรอที่ร้านไอติมใกล้ๆ เพราะเท่าที่ดูรอภาพยนตร์กว่าหนังจะฉายก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมงก็เลย หาอะไรรองท้องกันก่อน



“เอ่อ ขอถ่ายรูป ด้วยได้ไหมคะ”มีเด็กสาววัยมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกผมที่โต๊ะ ก่อนจะขอท่านอัยการถ่ายรูป “คือพวกหนูตามข่าว เอ่อ...ของคุณจากหน้าหนังสือพิมพ์อะคะ...คุณเป็นอัยการใช่ไหมคะ”ท่านอัยการพยักหน้าน้อยๆ

“กรี๊ดดดดดด ใช่จริงด้วย ขอถ่ายรูปนะคะ”พวกเธอขอย้ำอีกรอบ ท่านอัยการจึงตอบตกลง

“เป็นไอดอลของเด็กไปแล้วนะครับท่าน”พี่หมอเอ่ย แซวๆ

“ก็ฉันหล่อ”

“ปิดประเด็นด้วยความหมั่นไส้!”

หลังจากนั้น พวกผมที่นั่งอยู่เฉยๆ ก็โดนขอถ่ายรูปด้วย รวมถึงท่านสารวัตร ที่เดินเข้ามาทีหลังก็ยังไม่รอด

“พวกหนูขอเอาไปลงเฟสนะคะ”สาวน้อยอีกนางหนึ่งเอ่ยขึ้น “เอ่อ พวกพี่ๆเล่นเฟสกันไหมคะ พวกหนูจะได้แท็กให้”

อุบ๊ะ...เด็กสมัยนี้ เนียนดีนะครับ

ท่านอัยการส่ายหน้า พี่หมอกับสารวัตรก็เหมือนกัน ช่างเหอะ พวกนี้ห่างไกลจากโลกโซเชี่ยล ผมเลยให้เฟสผมไป ซึ่งในเฟส มีแต่รูปหมาและแมว และภาพถ่ายอาร์ตๆ ตามประสา อยากเอาไปปู้ยี้ปูยำ ก็เอาไปเลย

“ขอบคุณนะคะ”

แล้วสาวๆกลุ่มนั้น ก็ขอตัวออกไป

ก็น่ารักดีครับ เด็กสมัยนี้
.
.
.


 “อะไรกันเนี่ย?” ผมอุทานออกมาเบาๆ ท่านที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ เงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างสงสัย

“เอ่อ คือ แบบว่า...”ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง

“ครับ?”

“ท่านจำเด็กที่ผมให้เฟสไปเมื่อวานได้ไหมครับ” ทำหน้านึกนิดหน่อยก่อนจะส่ายหน้า ลืมง่ายจริง จูนสมองท่านด่วนครับ “คือจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ ผมพึ่งรู้ว่าเด็กคนนั้น เป็นเน็ทไอดอล และเธอเอารูปผมกับท่านไปลง แล้วแท็กมาหาผม เฟสผมที่มันไม่เคยมีอะไรตอนนี้ รู้สึกฮอท ขึ้นมาทันทีเลยครับ”พูดอธิบายให้ท่านอย่างเรียบๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ดู ว่ามีคนมาขอเป็นเพื่อนผมเข้าหลักหลายพัน และมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ปฏิเสธไปหมดนะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนผมไม่รับหรอก มันเลยขึ้นว่าติดตามผมแทน

“อ่า~ ฉันนี่หล่อจริงๆ” นั่นใช่ประเด็นไหมละท่าน “แต่นายนี่หน้าตาเอ๋อชะมัด แนะนำปรับปรุงด่วน”

“คร๊าบ คร๊าบ”

‘รูปใครวะ?’ ไอ้ฟรังมันเม้นท์ถาม แท็กชื่อผม เพราะมีคนมาเม้นท์ใต้ภาพท่านอัยการเยอะมากกกกกกก เพราะเจ้าของเฟสที่แท็กมา เปิดเป็นสาธารณะ ส่วนมากก็ถามว่าเขาคือใคร

‘เจ้านายกูเอง...’ผมเม้นท์ตอบ ไม่ลืมแท็กชื่อมันด้วย

‘เชี่ย! หล่อโคตร กูเป็นผู้ชาย กูอายเลยวะ’ไอ้ฟรังมันเม้นท์กลับมาอีก

‘หล่อมากๆคะ หล่อทั้งคู่ พี่หมอ กับพี่สารวัตรก็หล่อ เดี๋ยวเอารูปลงให้ทีหลังนะคะ’เจ้าของเฟส แท็กชื่อผม แล้วก็ชื่อไอ้ฟรัง

‘ขอบคุณครับ’แท็กชื่อเจ้าของเฟสไป



อืม...ผมคิดอะไรได้อย่างหนึ่งละ


แช๊ะ!

เอามือถือแอบกดชัตเตอร์ตอนคนบางคนกำลังก้มหน้าก้มตา ทำงาน เรียบร้อย ก่อนจะอัพลงเฟสไป โพสหัวข้อภาพว่า

‘ตั้งใจมาก จนลืมทานข้าว...ไม่ดีนะครับ’


เท่านั้นละ ยอดไลค์กระหน่ำเข้ามาไม่มีหยุด

ฮึ...ฮึ ผมไม่น่าโพสเป็นสาธารณะเลย ว่างั้นไหมครับ?



“โรคจิต หรือไง ยิ้ม กับมือถือก็เป็น”ท่านว่า
.
.
.
“ก็ท่าน น่ารักนี่ครับ”^_^ พูดพร้อมกับยิ้มให้

“...”









“ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โลกมีไอติม...”อัยการสิ้นฟ้า ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น พูดขึ้น ช้อนก็ตักไอติม ที่เจ้าตัวได้ซื้อจากเซเว่นหน้าคอนโด ขึ้นเข้าปาก “ร้อนชะมัด...” ร่างสูงบ่น เข้าเดือนธันวาคมแท้ๆ หน้าหนาว มันน่าจะอากาศดีกว่านี้บ้าง เจ้าเด็กนั่น ก็ติดสอบ ไม่มีใครมากวน เห็นหน้าดำคร่ำเครียด ทั้งๆที่ก็ติวให้แล้วไม่รู้จะเครียดอะไรนักหนา ไม่รู้ว่าไม่เชื่อฝีมือการติวของเขาหรือยังไง

ถ้าเขาได้เป็นใหญ่ เขาจะตั้งกระทรวง ไอติม

แล้วนี่ มาวกกลับเข้าเรื่องของกินได้ยังไง?


“น่าเบื่อชะมัด...”ว่าพรางหย่อนก้นลงบนเก้าอีกในสวนสาธารณะ ใกล้ๆคอนโด ที่เจ้าตัวเผลอเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงที่นี่ได้ยังไงก็ไม่รู้

แกร๊ก!

“อยู่นิ่งๆ แล้วตามฉันมาดีๆ...”เสียงเย็นๆกระซิบ เบาที่ข้างๆหูเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับความเย็นจากกระบอกปืนที่กดลงมายังหลังต้นคอ “ฉันมีบางอย่าง อยากให้แกช่วย”

“ฉันจะช่วยอะไรแกได้...”เขาตอบเบาๆกลับไป

“ฉันคิดว่าแกน่าจะช่วยได้...ตามมา!”ร่างใหญ่นั่น กระชากต้นแขน พร้อมกับพาเขาเดินไปยังรถเก๋งสีดำ สายพันธ์ญี่ปุ่นที่เห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน แล้วยัดร่างของอัยการหนุ่ม เข้าไปยังตัวรถทันที


“หลับไปสักครู่นะครับ...ท่านอัยการ”

เสียงที่คุ้นเคยกระซิบ ก่อนที่สติของเขาจะลางเลือนไป




“อืม...ไม่รับโทรศัพท์”ผมบ่นกับตัวเอง เมื่อตอนนี้ ผมโทรไปหาเบอร์เดิมๆหลายสิบรอบ ทั้งที่ก็นัดกันไว้แล้วว่าผมจะมาหาที่คอนโด เพื่อจะทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่เมื่อมาถึงคอนโด ซึ่งผมเข้าไปข้างในไม่ได้ เลยต้องโทรเรียก แต่ปลายสายก็ไม่มีท่าทีที่จะรับเสียที

“อ่อ พี่สารวัตรเหรอครับ ท่านอัยการได้อยู่กับพี่ไหม?”ผมตัดสินใจโทรหาท่านสารวัตร

‘พี่อยู่กับไอ้หมอ นี่ วันหยุดของมันนิ นอนตายอยู่คอนโดมั้ง’

“ตอนนี้ผมก็อยู่ที่คอนโด ของเขาครับ นัดกันไว้ แต่โทรไปหาก็ไม่รับโทรศัพท์ผมเลย...”

‘หลับอยู่รึเปล่า?’

“ผมก็หวังให้เป็นอย่างนั้น...แต่ ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลยครับ”

‘เอาเป็นว่าใจเย็นๆนะน้องเต็มสิบ เดี๋ยวเอาโทรศัพท์ไปให้ยามคุยกับพี่ เขาน่าจะจำพี่ได้อยู่ เดี๋ยวให้ยามพาไปที่ห้องของไอ้ฟ้าให้’

“ครับ...ครับ”

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปหายาม ให้ยามคุยโทรศัพท์กับท่านสารวัตรคุยกันไดสักพักพี่ยามที่ท่าทางใจดี ก็พาผมไปขอกุญแจและคีย์การ์ดสำรอง ก่อนจะพาผมขึ้นมายังชั้นบนสุดของคอนโด

“ห้องนี้แหละครับ”

“ขอบคุณนะครับ”
.
.
.
ตื๊ด~~~...ตื๊ด~~~

เสียงโทรศัพท์ยังคงสั่น ผมกดวางสาย ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือ ที่วางทิ้งไว้บนหลังตู้เย็นนั่น บ่งบอกว่าเจ้าตัวต้องมาเปิดหาของกินในตู้เย็น ก่อนจะออกไปที่ไหนสักที่ ผมกดโทรศัพท์โทรหา พี่สารวัตร


“เจ้าของห้องไม่อยู่ เห็นแต่โทรศัพท์มือถือที่ลืมทิ้งไว้ครับพี่...”

‘มันไปไหนของมัน?’

“ไอติม ในตู้เย็น ไม่เหลือ แอร์และโทรทัศน์ในห้องเปิดทิ้งไว้ คงกะว่าตัวเองคงไปไหนไม่นาน อาจจะไปที่ไหนใกล้ๆ ผมคิดว่าเขาต้องลงไปซื้อของ อาจจะเป็นซื้อไอติมที่เซเว่น ข้างหน้าคอนโด”

‘เต็มสิบ...’

“แต่ถ้าเขาออกไปได้ไม่นาน...ผมก็ต้องเห็นเขาสิ”

‘เดี๋ยวพี่กับไอ้หมอ ไปหา’

“ครับ”




ไปไหน...ของเขากันนะ







.............................
ยังไม่ได้แก้ คำผิด หรือตรวจเช็คอีกรอบ
ถ้าเจอต้องขออัยด้วยนะคะ
หายไปนาน ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วคะ อาจจะไม่ได้ลงถี่ๆ
เพราะเดินสายติว ทั้งติวให้เขา และให้เขาติวให้เรา
เหนื่อยพอตัว เอาเป็นว่าจะพยายามอัพเรื่อยๆนะคะ


สิ้นฟ้า : ที่นี่ที่ไหน...ความหล่อของผมเป็นพิษสินะ ถึงต้องจับผมมา...
เต็มสิบ : เดี๋ยวสิท่าน ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ส่งข่าวผมด่วน!


คดีนี้ท่าจะยาว
มีคำถามที่ว่า เต็มสิบ ชอบท่านอัยการ แล้วใช่ไหม?
แล้วคิดว่ายังไงกันละคะ ตอบ!

ขอบคุณที่ติดตามคะ see u >>>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2014 00:07:17 โดย Kissa_O »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โดนจับตัวไปยังจะคิดเรื่องความลงความหล่ออยู่อีกน่ะท่านอัยการ

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ซืนทั้งคู่ครัช สองคนนี้แต่ มุ่งประเด็นไปหาพี่หมอกับพี่สารวัตแทน ก๊ากกก นะๆคู่กัน ฮ่าๆ
ท่านอัยการโดนพาไปไหนนนนน :ling1:

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 4
เรื่องลับ...ระดับชาติ(2)


นัยน์ตาคมเฉี่ยวกระพริบ ปริบปริบ พร้อมกับสลัดหัวฟูๆของตัวเองไปมา อย่างคนติดอาการมึนงง ก่อนจะมองไปรอบๆ

“เชี่ยละ!”เผลออุทาน ออกมาเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่นัยน์ตาจะหันไปสบตากับคนที่นั่งระบายยิ้มอยู่ตรงข้าม อย่างเหมือนคนอารมณ์ดี แบบน่าหมั่นไส้ เอาเป็นว่า เขาเห็นมันตั้งแต่กระพริบตาปริบๆ ตั้งแต่ครั้งแรกแล้วละ แต่ทำเป็นเมิน เฉยๆ

“ที่นี่ที่ไหน”ท่านอัยการถามคนตรงหน้า

“ก็เห็นๆอยู่ว่า อยู่บนเครื่องบิน”ว่าหน้าตายพร้อมกับระบายรอยยิ้มน่าหมั่นไส้

“ว่าความที่อเมริกา มันได้เงินดีขนาดมีเครื่องบินส่วนตัว ไว้ลักพาคนอื่นมาหรือไง?”

“ขอโทษ ที่ต้องลักพาตัวมา...แต่ ถ้าไปชวนมาดีๆ ฟ้าก็คงไม่มากับพี่ใช่ไหมละ?”

“ถ้าหลงใหล ในความหล่อ และหน้าตาดีของฉันขนาดนั้น ฉันก็พอจะเคลียร์คิวให้ได้อยู่...”

“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้พี่ก็ได้ตัวมาแล้วนี่”

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ ! พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องยื่นตัวเข้ามาใกล้ เดี๋ยวถีบ” เขาเงื้อเท้าขึ้น คนนั่งตรงข้ามชะงัก ก่อนจะหัวเราะขำๆ “นี่กำลังจะพาไหน?”

“ไม่คิดหรือไง ว่าที่ความสูงกว่า สามหมื่นฟุต จะเป็นที่กักขังชั้นดี?”

“ลงทุนดีเนอะ”ท่านอัยการ เหน็บแนมกลับไป “เอาเรื่องจริง”

“พี่มีเรื่องให้ช่วย”

“เสมือนไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่...ใช่ไหมทนายเพชร”

“เพราะอย่างงั้นละ ถึงต้องให้ช่วย”ทนายเพชรว่า พร้อมกับยื่นแฟ้ม บางอย่างมาให้ แต่สิ้นฟ้า ก็ยังไม่รับ

“ฉันต้องมั่นใจก่อน ว่าสิ่งที่ฉันกำลังจะเปิดอ่านมัน จะไม่พาฉันไปซวย...”

“พี่ไม่รับปาก”

“โอเค จริงใจดี”สิ้นฟ้าว่า พรางรับแฟ้มนั่นมา ก่อนจะเปิดดู

“เออร์คลิน จอร์น เป็นผู้ต้องหาค้าอาวุธเถื่อน ที่พวกเรากำลังตามจับอยู่...”ทนายเพชรอธิบาย “ที่ให้ฟ้ามาช่วย เราต้องการที่จะได้ความร่วมมือ ระหว่างประเทศ ในการนำจับคนๆนี้”

“ทำอย่างกับว่ามัน จะขนอาวุธเข้าประเทศฉันอย่างงั้นแหละ”

“นั่นคือจุดผ่านที่ง่ายที่สุด เพื่อจะส่งอาวุธให้เข้าสู่อิสราเอล...”

“เท่าไหร่?”อัยการยกคิ้วขึ้นถาม

“ก็มากพอ ที่จะ ก่อสงครามได้”ทนายเพชร ถอนหายใจออกมาเบาๆ“แต่ถ้าเราจับ เออร์คลิน จอร์น ได้ก่อน การขนอาวุธ ก็จะลำบากมากยิ่งขึ้น...บางครั้ง มันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย”


ทั้งคู่เงียบไปสักพักหนึ่ง คนตัวเล็กกว่ามีแววตาครุ่นคิด


“ตกลง”เจ้าตัวกล่าวออกมาอย่างเรียบๆ

“ไว้เสร็จงานนี้ พี่จะเลี้ยงไอติม”






ตืด~~~~  ตืด~~~~~

เสียงโทรศัพท์มือถือ ท่านสารวัตรสั่น ทำให้ผมและพี่หมอ หันควับไปมองทันที ตอนนี้ ผมมาอยู่ ที่สถานีตำรวจ เพื่อ รอการติดต่อจากท่านอัยการ

หรือไม่ เลวร้ายที่สุด คนร้ายก็น่าจะติดต่อมามั่ง

“ฮัลโหล...”ท่านสารวัตรรับโทรศัพท์ ก่อนจะอุทาน เสียงดังลั่นโรงพัก “เชี่ยฟ้า! มึงอยู่ไหน ตอนนี้ กูจะพลิกแผ่นดิน หามึงอยู่แล้วรู้ไหม!”คำพูดของท่านสารวัตรทำให้ผมและพี่หมอยืนขึ้น อย่างลืมตัว เมื่อสารวัตรเห็น เลยเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้เราได้ยินด้วย

‘...’ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย จนพี่สารวัตรเกือบจะตะคอกไปอีกรอบ ปลายสายก็ขัดขึ้นมาก่อน ‘กูมีอะไรให้มึงช่วย’

“ทำไมวะ มึงถูกลักพาตัวไปเหรอ คนร้ายต้องการอะไร มันทำอะไรมึงหรือเปล่า มันข่มขืนมึงไหม หน้าตายิ่งล่อเสือล่อตะเข้ อยู่ด้วย มึงปลอดภัยใช่ไหมวะ”

‘สัส!’ก็สมควรโดนด่าอยู่อะนะ ‘กูปลอดภัยดี ตูดกูก็ปลอดภัยดีด้วย ฟังกูนะ เดี๋ยวกูจะส่งบางอย่างให้ทางอีเมลล์ ทำตามที่กูบอกในนั้น’

“หายไปไหนก็ไม่บอกไก้แต่สั่งๆๆๆๆๆๆ นะมึง ความลับเหรอวะ”

‘ระดับหนึ่ง…ออ เต็มสิบ ก็อยู่ที่นั่นด้วยใช่ไหม?’

ทุกคนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะขานรับ

“ครับ”
.
.
.
‘ขอโทษ เอ่อ...ที่ผิดนัด’
.
.
.
“ครับ”
.
.
.
“แล้วตอนนี้ มึงอยู่ไหนวะ” เมื่อเห็นพวกเราเงียบกันทั้งคู่ ท่าสารวัตรเลยแทรกขึ้นมา

‘USA’

“ออ USA”...”ห๊า!!! USA สหรัฐอเมริกา อะนะ มึงทำไมไปโผล่ที่นั่น ได้วะ”

‘เรื่องมันยาววะ เดี๋ยวมึงได้อ่านเมลล์ที่กูกำลังจะส่งไปให้ มึงคงเข้าใจเอง งั้นแค่นี้ก่อนละ...แล้วเจอกัน’

ตู๊ด........ตู๊ด.......ตู๊ด

“บ้าชะมัด!”ท่านสารวัตรสบถ

ก็บ้าจริงๆนั่นแหละนะ

“งั้นเดี๋ยวกู พาเต็มสิบ ไปส่งก่อน กูสัมผัสได้ว่ามึงมีงานต้องทำ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็เรียก แล้วกัน”พี่หมอบอก ก่อนจะชวนผมออกไป ผมไหว้ลาท่านสารวัตร แล้วเดินตามพี่หมอ มายังนิว บีทเทิล สีขาว ที่จอดไว้หน้าโรงพัก

“อย่างอนไอ้ฟ้ามันเลยนะ เต็มสิบ”พี่หมอเอ่ยขึ้นในขณะที่สายตาคมสวยจ้องมองไปยังท้องถนน ริมฝีปากยิ้มอย่างอบอุ่น เหมาะสมกับคนเป็นหมอ

 “ผมไม่ได้งอนครับ”ผมเอ่ยออกมาเบาๆ ตามความรู้สึก

“งั้น แล้วทำไม?ทำหน้าอย่างนั้นละ”

“ผม...ผมก็แค่ดีใจ...ดีใจที่เขาปลอดภัย”


แต่ลางสังหรณ์มันก็ร้องบอก...ว่าผมกำลังจะสู้ใครบางคนไม่ได้






“หลับไปแล้วแหะ”ร่างสูง ใบหล้าหล่อเหลาคมเข้ม เอ่ยขึ้น พร้อมกับนั่งลงบนเตียงที่มีอีกร่างหนึ่ง นอนหลับขดตัวราวกับเด็กน้อยอยู่ ใบหน้าหล่อเหลา ยกยิ้มอ่อนโยน พร้อมกับยื่นมือไปลูบจับผมสีดำยุ่งๆ แต่นุ่มมือนั่น ก่อนมือใหญ่จะเลื่อนมาลูบเบาๆที่แก้มใสอมชมพู แล้วมือมันก็เผลอเลอ ไปจับลูกคลำเบาๆที่ริมฝีปากแดงๆนั่น

“ถ้าพี่จูบฟ้าจะโกรธไหมนะ”

“ไอ้เด็กอัยการนั่น มันคงจะกระทืบนายแน่”เสียงมาดกวน สำเนียงภาษาอังกฤษสไตล์อเมริกัน เอ่ยออกมาจากร่างสูงใหญ่ ที่ยืนอยู่หน้าประตู “ท่าทางมันเอาเรื่องอยู่” ใช่ตั้งแต่ตอนอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวนั่น ตอนที่แนะนำตัว เมือเจ้าตัวรู้ว่าเขาเป็นคนเอาปืนจ่อขู่ในตอนนั้น เด็กนั่น มันก็แทบจะกระโดด มาถีบเขา โดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเอง ตัวเล็กกว่าเขา

“เห็นหน้าเด็กๆอย่างนี้ สิ้นฟ้า เขาก็เป็นน้องนายแค่สามปีเองนะ สตีเฟ่น อายุไอ้เด็กอัยการที่นายว่า ก็จะสามสิบในอีกไม่กี่วันนี้แล้วนะ”ทนายเพชรเอ่ยออกมาอย่างขำๆ เมื่อนึกถึงตอนน้องรหัสของเขา จะเอาเท้าไปยันเพื่อนชาวต่างขาติร่างยักษ์ ดีนะ ที่เขาจับเอาไว้ทัน ไม่งั้น มีหวังได้เกิดมวยอากาศ บนเครื่องบินแน่ๆ

“ก็ยังเด็กกว่าฉันอยู่ดี...ให้เกณฑ์สูงสุด ก็ระดับมัธยม”

“ฉันว่าถ้าเจ้าตัวรู้นายก็คงโดนกระทืบ เหมือนกัน”

“หึ งั้นฉันไปนอนละ จะสวีท กับ ฮันนี่ ของนายก็ตามใจ ไม่กวนละ”

“อืม...ขัดจังหวะชะมัด”ทนายเพชรตอบออกไปเบาๆ เพื่อนชาวต่างชาติ สตีเฟ่น หัวเราะ แล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี
ทนายเพชรล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนที่จะกระชับร่างที่เล็กกว่า เข้ามาในอ้อมกอด กดริมฝีปากของตัวเองลงไปบนหว่างคิ้วของคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเบาๆ


มันอาจจะดี ที่ได้กลับมาพบกันอีก หรือมันอาจจะเลวร้ายกว่าเดิมก็ได้ ที่ได้มาพบกัน ใครจะไปรู้


“ราตรีสวัสดิ์”

เขาเอ่ยออกมาเบาๆ






“ฉันไม่ใช่เกย์!!!”สิ้นฟ้าตะโกนก้อง ใส่ผู้ที่ได้ชื่อว่าพี่รหัสของตัวเอง ดังลั่น  จนทำให้นักศึกษาที่อยู่บริเวณนั้น หันมามองอย่างแปลกใจ

เพชรได้เพียงแต่จ้องนัยน์ตาที่ผิดหวัง ระคนเสียใจ และหลากหลายอารมณ์ ของน้องรหัสตรงหน้า

เขาผิดเอง ที่มาสารภาพ และบอกรัก ก่อนที่เขาจะไป ก่อนที่เขาจะเรียนจบ เขาชอบน้องรหัสตัวเองมาตั้งแต่ที่สิ้นฟ้า เข้ามาตอนปี
หนึ่ง ทีแรกก็เพราะสะดุดชื่อ ที่ค่อนข้างอัปมงคลนั่น ด้วยความที่เขาต้องดูแล เด็กเกรียนๆ ทำให้เขาและสิ้นฟ้าสนิทกันมากในตอนนั้น

มากจนกลายเป็นความรัก

เสียแต่เจ้าตัวคิดแค่เพียง แค่ เขาเป็นพี่


จนวันนี้ วันที่สารภาพ แม้แต่ความเป็นพี่ก็คงไม่เหลือ

“พี่ขอโทษ...”เพชร เอ่ย ได้ แค่นั้น ก่อนจะผละออกมา โดยไม่หันไปมองน้องรหัสของตัวเอง เพราะไม่อยากเห็นสายตานั่น


สายตาที่แสดงออกว่าผิดหวัง ในตัวเขามากมายแค่ไหน



หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็เรียนต่อเนติบัณฑิต จบได้ในเวลาแค่ปีเดียว ก่อนที่จะสอบตั๋วทนายได้ในครั้งเดียวผ่าน
ไม่กี่ปี น้องรหัสของเขาก็ตามมาติดๆ

หลายครั้ง ที่ต้องเจอกันในชั้นศาล ในฐานะทนาย ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ เรื่อยมา

แต่ทั้งสองคน ก็ไม่เคยได้คุยกัน นอกชั้นศาลเลย สักครั้ง

จนวันที่ทนายเพชร ตัดสินใจไปเรียนต่อ ที่อเมริกา และคิดจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น





.
.
.
“ฉันเกลียดนาย...”เสียงพรึมพรำเบาๆ จากคนที่หลับในอ้อมแขน ทำให้คนที่กอดอยู่ ที่คิดอะไรเพลินๆขมวดคิ้ว ด้วยความสงสัย

“ฉันไม่ใช่เกย์...”


“ให้ตายสิ...พี่ก็ไม่ใช่”เขาตอบกลับไปเบาๆ ก่อนจะกอดให้แน่นขึ้น



.............................................................
อีพวก ไม่ยอมรับความจริง ทั้งคู่ เดี๋ยวแม่จัด 3P ให้เลย
ใครอ่านตอนนี้ คงจะเห็นแววพระเอกนายเอก แล้วสินะ หุ...หุ
 
เต็มสิบ : ผมพระเอก
สิ้นฟ้า : เตี้ยอย่างนาย รุกใครไม่ได้หรอก ฉันต่างหากพระเอก หล่อ และตุงมากเคยได้ยินไหม?
เพชร :  :m20:
สารวัตร : อิพวกไม่รู้ชะตากรรม...
หมอ : เฮ้ยๆ นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันได้มาพูดตรงนี้ละ ดีใจจัง >//<
สตีเฟ่น : ?...(ไม่อยากพูดอะไร เพราะเป็นแค่ตัวปลากรอบ)


ข้อมูลตัวละคร
เต็มสิบ : 175 cm 60 kg
สิ้นฟ้า : 183 cm  71 kg
เพชร : 192 cm 85 kg
สารวัตร : 189 cm 79 kg
หมอ : 176 cm 60 kg
แถม
สตีเฟ่น : 199 cm 95 kg (สิ้นฟ้าจะสู้หมอนี่เหรอลูก...๐[ ]๐)
น้ำนิ่ง : 160 cm 44 kg
ฟรัง : 180 cm 65 kg
พาย : 174 cm 60 kg
ท่านอัยการสูงสุด : 185 cm 80 kg


แอบมาอัพเบาๆ
ขอบคุณที่ติดตามคะ




ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สิ้นฟ้าได้ทั้งคู่
เต็มสิบเคะ. เพชรเมะ.
เชียร์เต็มสิบนะค่ะ

ออฟไลน์ Wannida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :impress2:  หายไปนานอ่าาาา   :serius2:
แต่ดีใจที่มาต่อออออ   :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ส่อแวว 3 เศร้าอีกล่ะ
ท่านอัยการเอ้ย ตัวเล็กกว่าเขานิดเดียว แต่ซ่าส์ตลอด
ต้องให้พี่เพชรสั่งสอน
หนูสิบ ลางสังหรณ์แม่งมาก

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
กุว่าแล้วไง เรด้ามันกระดิก ที่แท้มีซัมติงกันมาก่อน อ๊ากกก ชอบทนายเพชร ไม่เอาโยนมาทางนี้เดวรับให้ หุหุ :haun4:
3 ก็ไม่ขัด แต่อิทนายผู้ช่วยสินฟ้ามหาสมุทร นิก็เล่นตั๊ววว เล่นตัว เนอะ ไม่ใช่เกย์ เดะๆไม่รู้ชะตากรรมตัวเองซะแล้ว
พี่หมวดก็เท่จุงง :o8:

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
3P ก็ดีนะได้อรรถรสไปอีกแบบ^_^
เรื่องนี้ท่านอัยการขอ2 ได้ทั้งพี่เพชรและน้องสิบ 555

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชอบ มาต่อไวไว
สิ้นฟ้าฮีได้หลายอารมณ์จริง สุดยอด55555 คนอ่านจิ้นไปไกล

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้ทั้งคู่เลยทั้งเต็มสิบและทนายเพชร

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จัดสามพีเลย เต็มสิบเคะ เพชรเมะ  o13
แต่ชอบน้องเต็มสิบมากกว่า ชอบเคะที่ปกป้องเมะ น่ารักดี

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เค้าเชียรพี่ฟ้ากับเต็มสิบนะ!!!!!!!

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

คดีที่ 4
เรื่องลับ...ระดับชาติ(3)

เสียงกลืนน้ำ อึก อึก ราวกับคนกระหายน้ำดังมาจาก อัยการหนุ่มรูปหล่อ  ที่เปิดตู้เย็น ยกกระดกทั้งขวดขนาดใหญ่ อย่างไม่เกรงใจใคร วันนี้เป็นวันที่ สามแล้วที่เขามาอยู่ส่วนไหนสักที่บนเกาะแมนฮัตตัน ในนิวยอร์ก ซึ่งเขาไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนจริงๆ เพราะตั้งแต่เขาถูกลากให้มาอยู่ที่นี่ ก็ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย จึงกำหนดพิกัดตัวเองไม่ได้สักเท่าไหร่

‘อย่าออกไปไหนนะ นี่คือคำสั่ง’แล้วไอ้คนสั่งมันก็หายตัวไป พร้อมกับเพื่อนชาวต่างชาติของมัน

 เหอะ! อย่างกับเขาจะออกไปไหนได้ หลักฐานแสดงตัวตนว่ามีที่ยืน บนแมนฮัตตัน ไม่มีอะไรสักอย่าง ขืนออกไปเดินเตร็ดเตร่ มีหวังโดนจับแหง๋มๆ แม้แต่กระทั่งเสื้อผ้ายังต้องใส่ของมัน รู้สึกไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง นอกจากชั้นใน และของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย ที่หมอนั่นอุตส่าไปหาซื้อมาให้ ในซุปเปอร์ฯ ที่เขาคาดว่าคงมีอยู่แถวนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกล

เอ...หรือว่าจะปล่อยให้โดนจับ ส่งสถานทูต ดี จะได้กลับบ้าน แล้วก็จะได้ไม่ต้องช่วยงานหมอนั่น

ไม่เอา! ไม่เอา! เขารับปากไว้แล้วนิ เขามีความรับผิดชอบพอ

เขาเปิดแฟ้มของ ‘เออร์คลิน จอร์น’ ดูอีกรอบ ซึ่งมันเป็นหนึ่งในหลายๆรอบที่เขาเปิดดูและเปิดอ่านทุกตัวอักษร จนตอนนี้ เขาแทบจะจำได้ ว่าทุกๆบรรทัด เว้นวรรคตรงไหนมั่ง

“แปลกแหะ...ถ้าเราเป็นทนาย เราจะมายุ่งกับเรื่องพวกนี้ทำไม”



.
.
.



“เอ่อ สตีเฟ่น นายเป็นทหารของสหรัฐฯใช่ไหม ?”สิ้นฟ้า ถามขึ้น สตีเฟ่นยกคิ้วอย่างแปลกใจเบาๆ ที่ไอ้หนูอัยการของเขา หาเรื่องที่จะคุยกับเขาก่อน

“เยส...”หนุ่มฝรั่ง นัยน์ตาน้ำข้าวตอบ

“คบกับ  ทนายเพชร มานานยัง?”

“คบในแง่ไหนละ  เพื่อน ?...หรือว่า...?”สตีเฟ่นตอบด้วยมาดกวนๆ

“พูดอย่างกับว่า คบกันในฐานะ อื่นด้วยอย่างนั้นแหละ”สิ้นฟ้าพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบนิ่ง

“โอ๊ะ! ภาษาอังกฤษ นายเพราะดีนะ สำเนียงอังกฤษแท้เลยละสิ”

“สัส!”สิ้นฟ้าแอบสบถด่าเบาๆ เล่นเอาสตีเฟ่นหัวเราะเสียงดัง

“ ถามว่าคบกันมานานหรือยัง ก็ตั้งแต่สมัยเรียนละมั้ง เพชร คือ เดสทินี่...”

“พูดอะไรน่าขนลุกชะมัด”ทนายเพชรแทรกขึ้น พร้อมกับยกอาหารมาเสิร์ฟ “ฟ้า ครับ...”

“ครับ?”

“ตอนนี้ทางเราเช็คเที่ยวบินของเออร์คลิน จอร์น พี่ได้เที่ยวบินของหมอนั่นที่แน่นอนแล้ว หมอนั่นจะออกเดินทางไปในวันอาทิตย์นี้...”

“อืม...งั้นฉันขอยืมโทรศัพท์ โทรบอกไอ้หมวดมันอีกรอบ จะได้นัดแนะ เวลากันได้ถูก ขอข้อมูลของเที่ยวบินนั้นด้วย...”

ทนายเพชรพยักหน้าเข้าใจ ก่อน จะเอ่ยต่อ “เอ่อ คือ พรุ่งนี้ เราก็ว่างกันใช่ไหม?”

“ตั้งแต่มานี่ฉันรู้สึกว่าว่างทุกวัน”พูดพร้อมกับหยิบขาไก่ทอดเข้าปาก

“ส่วนฉันไม่ว่าง...ว่าจะแวะไปหาลูกเมียที่บ้านหน่อย”สตีเฟ่นว่า และเขารู้ทันพร้อมกับเข้าใจว่าเพื่อนรักต้องการอะไร

“ห๊า นายมีลูกเมียแล้วเหรอ?”สิ้นฟ้าถามออกมาด้วยความสงสัย

“แน่นอน ลูกชายฉันกำลังน่ารักด้วย”พูดพร้อมกับทำท่าทางเคลิบเคลิ้ม

“ว่าแต่นายถามทำไม”สิ้นฟ้าเมิน สตีเฟ่น ที่พยายามจะอ้าปากเม้าท์ต่อเกี่ยวกับลูกชายของเขาหันมาถาม เพชร เล่นเอาสตีเฟ่นอาปากค้างนิ่ง สะดุดจนลืมสิ่งที่จะพูดต่อไป

“ออ เอ่อ...”

“ว่า...?”พูดพร้อมกับเอาสายตาคมๆจ้องมอง

.
.
.

“ถ้าฟ้าไม่ว่าอะไร...เราไปเดทกันไหม?”

“ไม่เว้ยยยยยย!”

“ที่ไทม์สแควร์ มีร้านไอศครีมอร่อย ถ้าไป พี่จะเลี้ยง!”

“เย้ ! งั้นไปกันเลย!”

.
.
.



วันรุ่งขึ้น เพชร ตื่นแต่เช้า ปลุกสิ้นฟ้าที่ยังงัวเงีย ให้ลุกไปอาบน้ำ พร้อมโปรยคาถา ด้วยชื่อไอศกรีม ขนมอร่อยๆ ตามร้านต่างๆ

.
.
.


”ทำไม ไหงไอศกรีมของฉัน กลายมาเป็นผลงานของปิกัสโซ่ ใน เมโทรโพลิทัน ได้ละเนี่ย”สิ้นฟ้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงยานคาง เมื่อตอนนี้เขาเข้ามาอยู่ในตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมโทรโพลิทัน  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เซ็นทรัลปาร์ค เป็นแหล่งรวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย อย่างน้อยคนหนึ่งที่รู้จักก็ปิกัสโซ่ นี่ละ ยิ่งจ้องผลงานยิ่งรู้สึกได้รับแรงบัลดาลใจในการสร้างผลงาน
แต่เลวเหอะ ! เขาเป็นนักกฎหมาย จะมาต้องการแรงบัลดาลใจไปสร้างผลงานอะไร จากสิ่งพวกนี้ละ!

“ชอบผลงานของปิกัสโซ่ เหรอ?”

“ให้ตายเหอะ ก็รู้จักอยู่แค่คนเดียว...”สิ้นฟ้าว่าพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ

“รู้ไหม ผลงานของปิกัสโซ่ ในช่วงระหว่างปี 1901 – 1904 เรียกว่ายุคสีน้ำเงิน สีที่ฟ้าชอบไงละ ช่วงนั้นปิกัสโซ่อยู่ภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง ผลงานของเขาเลยออกลักษณะที่อึมครึมไปหน่อย”

“งั้นแสดงว่ายุคนั้น ปิกัสโซ่ นี่มีระดับในการเลือกสีสุดๆ เออ ว่าแต่นาย ไปหาพวก Passport กับพวกเอกสารมาจากไหน?” เขาถามถึงไอ้พวกหลักฐานแสดงตัวตนที่ทำให้เขามีที่ยืน ไม่รู้คนตรงหน้าไปทำอีท่าไหน เอกสารที่จำเป็นทุกอย่างก็ถูกยื่นมาให้เขาตั้งแต่เมื่อเช้า

“ก็เตรียมไว้นานแล้ว ยังไง ตอนกลับประเทศ ฟ้าจำเป็นจะต้องใช้” 

“นายคงไม่ได้ไปขโมยมาจากคอนโด ฉันใช่ไหม”พูดทีเล่นทีจริง พรางหรี่นัยน์ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ “แล้วมั่นใจได้ไงว่า ฉันจะใช้เอกสารพวกนี้ในการขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้อย่างไม่มีปัญหาอะไร...”

“คำถามแรก พี่ขอตอบว่า พี่คงไม่มีปัญญา ขึ้นไปขโมยมาจากห้องฟ้าหรอก ส่วนคำถามที่ สองเอกสารทุกอย่างเป็นเอกสารจริง เพราะฉะนั้นปัญหาในการขึ้นเครื่องไม่มีแน่นอน...”

.
.
.

ออ...แล้วปัญหาคือทำได้ยังไง?

.
.
.

“อเมริกา ทั้งประเทศนี่มันใหญ่นะ และโลกนี้มันก็กว้างใหญ่มากมาย...”ทนายเพชรเปรยออกมาเบาๆ “คนเราขวานขวยในการสร้างรากฐานความมั่นคงแตกต่างกัน และพี่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากจะมีรากฐานที่มั่นคงเป็นของตัวเอง อยากจะทำฐานนั่นให้สูงกว่าใคร สูงจน แม้กระทั่งพระเจ้า ยังต้องเอียงหูมาฟัง...”

“ด้วยวิธีไหนละ” เขาได้คำตอบเป็นเพียงแค่รอยยิ้มของทนายเพชรกลับมา

.
.
.

“นี่ นี่ ระหว่าง เจ้าวัวกระทิงนี่ กับฉันใครบึก!กว่ากัน”

“แล้วทำไมต้องเอาหัวไปชนมันอย่างนั้นด้วยละฟ้า o[ ]o”ทนายเพชรพูดขึ้น พร้อมกับทำหน้าอึ้งแล้วขำ

“ก็ดูดิ ว่าใครจะแกร่งกว่ากัน ย๊า!!!” ร้องซะคนที่เดินแถวนั้น และต่อแถวถ่ายรูปกับเจ้าวัวกระทิงดุแห่งวอลสตรีท หันมายิ้มให้
“เย้!!! ไอเลิฟ วอลล์ สตรีท” พูด พร้อมกับทำมือแสดงสัญลักษณ์ ว่ารัก มากมาย ส่งให้คนที่มองมา เล่นเอาคนที่มองมา ยิ้ม...แล้วส่ายหัว  “น่ารักจังเลยเจ้ากระทิง เอากลับบ้านได้ไหม?” พูดพร้อม กับเอาแก้มถูๆไถๆ

“ถ่ายรูปดีกว่าเนอะ”พยายามเปลี่ยนเรื่อง
ทนายเพชร ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตรงหน้า ที่ไม่ได้มีท่าทีพยายามเก็ก อะไรเลย เพราะมัวแต่สนใจเจ้าวัวกระทิง

“มากี่รอบๆ ก็ตื่นเต้นกับหมอนี่ทุกครั้ง”สิ้นฟ้าพูด พร้อมกับเดินหนีออกมา เพื่อให้คนที่ต่อแถวรอ ได้เข้าไปถ่ายรูป

“หืม...”

“ก็เจ้ากระทิงนี่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งของคนอเมริกัน แถมท่วงท่าของมันนี่ เดาไม่ออกว่าจะจู่โจมมาลักษณะไหน ดูเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้...และที่สำคัญ”เงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่คนที่ตัวเล็กกว่าจะหันหน้ามายิ้ม เจ้าเล่ห์ แล้วพูด “ไข่แม่งใหญ่มาก เขาว่าลูบแล้วจะรวย แต่ก็ยังไม่เคยกล้าลูบสักที”

 “ฮะ ฮ่ะ ฮะ ฮะ”ทนายเพชรหัวเราะ กับท่าทางเจ้าเล่ห์ปนเสียดายของคนตรงหน้า

หลังจากนั้นทั้งสอง ก็เดินเล่นมาเรื่อยๆ จนมาถึง  9/11Memorial and Museum หรือ Ground Zero ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสระน้ำ 2 สระขนาดกว้างเท่าฐานตึกและมีน้ำตกที่อยู่รอบขอบสระ สระที่ว่าถูกสร้างขึ้นในตำแหน่งที่ตึก เวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ถล่มลงมา สระน้ำทั้งสอง สะท้อนเงาของของตึกที่รายล้อม พร้อมกับเสียงน้ำที่ตกลงมา กลบเสียงทุกอย่างของเมือง ที่ดูวุ่นวาย ทำให้รู้สึกดำดิ่งเข้าสู่ความสงบ








 “เวลคัม ทู Center of the universe!!!!”

สิ้นฟ้าพูดขึ้นเมื่อเขามายืน อยู่ท่ามกลางแสงสี จอโฆษณาขนาดใหญ่มากมายติดอยู่ตามบริเวณโดยรอบ  และป้ายไฟหลากหลาย ที่ไทม์สแควร์ ศูนย์กลางของเมืองนิวยอร์ก แสงสีของที่นี่  สว่างไสวตลอดทั้งคืน

“ไอศกรีม ที่ว่าอร่อยในไทม์สแควร์ คือ ไอศครีมของแม็คฯ เนี่ยนะ ไม่ต้องมาขำเลย หลอกกันชัดๆ”บ่น บ่นไป แต่ก็นั่งตักกินอย่างเอร็ดอร่อย “ฉันเห็นนายถ่ายรูปฉันซะทุกอิริยาบถ ไม่คิดที่จะถ่ายตัวเองบ้างเหรอ...”

“อืม พี่มีความสุข ที่จะถ่ายรูปฟ้ามากกว่า”

“งั้นก็ถ่ายไว้เยอะๆนะ เพราะ ฉันคือซุปเปอร์สตาร์แห่งบรอดเวย์”

“จัดไป...”

เดินล่อน ดูร้านต่างๆได้สักพัก ร่างสูง ก็ดึงแขนลาก ร่างที่เล็กกว่า เดินมาตามถนน ไปยังที่แห่งหนึ่ง

.
.
.



“ว๊าวววววว!!!”สิ้นฟ้าถึงกับเอ่ยปากร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ถึงเขาจะเคยมาที่นิวยอร์ก แต่ก็ไม่เคยมาเที่ยวในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสอย่างนี้สักที  ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่จัดงานทางด้านวัฒนธรรมและบันเทิงกลางเมืองนิวยอร์ก และที่สำคัญในช่วงใกล้คริสต์มาสอย่างนี้จะมีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่มาตั้งแสดง ทำให้ลานสเก็ตน้ำแข็งส่องแสงเป็นประกาย สะท้อนแสงของแสงจากต้นคริสต์มาส ดูสวยงามระยิบระยับราวกับ…เพชร...

“ชอบใช่ไหมละ”

“หลังจากที่ทัวร์มาทั้งวันมาเจออะไรในยามค่ำคืนอย่างนี้ มันก็...หายเหนื่อย”

“เสียดายนะ ที่เรามีเวลาน้อย พี่อยากพาฟ้าไปเที่ยวหลายๆที่”

“แค่นี้ก็สนุกแล้ว...”

“อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งไหม?”

“ไม่อะ คนเยอะ หนาวด้วย”

.
.
.

“งั้นพี่กอดได้ไหม...”ท่านอัยการหันมามองคนพูดนิดหน่อย ก่อนจะอ้าแขน เพื่อรอให้คนที่ขอเข้ามากอด “แปลกใจนะเนี่ย...”ทนายเพชรว่า ก่อนจะเข้าไปกอดสิ้นฟ้าและกระชับไว้แนบอกของตัวเอง

“ฉันหล่อ และยินดีเผื่อแผ่ ความอบอุ่นให้ สำหรับคนที่ขาดความอบอุ่น”

.
.
.

“จ้าจ้า”



.
.
.








ทนายเพชร สวมหมวกไหมพรมให้แก่คนตรงหน้า ก่อนจะกระชับผ้าพันคอ ผืนหนาบนลำคอขาวๆของสิ้นฟ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ย

“เราคงต้องแยกกันสักพัก พี่กับสตีฟจะไปรอที่สนามบินเพื่อไปประสานงานกับเพื่อนของฟ้าที่นู่นก่อน ส่วนฟ้า ดูจอร์น อย่าให้คลาดสายตา”

“โอเค”สิ้นฟ้าตอบเรียบๆ

“แค่ดูเท่านั้น รับปากพี่”

“อืม...น่า เชื่อมือได้ จะส่งผู้ต้องหาให้ถึงมือแน่ๆ”

“งั้นพี่ไปก่อนนะ อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจะมีรถมารับฟ้าไปสนามบิน พี่ฝากเรื่องที่เหลือด้วยละ”

“อืม...”สิ้นฟ้าพยักหน้า ก่อนที่เพชรจะผละออกไป “นี่..เดทเมื่อวานน่ะ”
เพชรชะงักเท้า ที่กำลังจะไป เมื่อได้ยินเสียงเบาๆ ของสิ้นฟ้า

“ไม่เห็นมีอะไรจะน่าประทับใจเลย”พูดพร้อมกับหลบสายตา

“เอ่อ...คือพี่ขอทะ...”

“ไว้คราวหลังก็พยายามด้วยกันใหม่นะ”

“อืม ได้สิ”รอยยิ้ม ดีใจปรากกฎอยู่บนใบหน้าของทนายเพชร

“ไปสิ ยิ้มอยู่ได้!”

“อะ เอ่อ งั้นพี่ไปนะ”

“รีบๆเลย”



...................................................
พาร์ทนี้พาไปเที่ยวกันก่อน ถ้ามีอะไรผิดพลาดในการนำเที่ยว แมนฮัตตันต้องขออภัยนะคะ
เพราะถ้าให้นึกที่เที่ยวบนเกาะ ที่ผุดขึ้นมาในหัวเท่าที่นึกได้ ก็มีแต่พิพิธัณฑ์=.,= ฮาาา~~
พาร์ทหน้าเราจะมาปิดคดีกันคะ  เรื่องนี้ไม่ 3P นะ(พูดพร้อมกับหัวเราะ แบบโรคจิต)

เต็มสิบ :นางก็ยังโอนเงินค่าตัวมาให้ผมอยู่เรื่อยๆนะ ผมว่าไม่ใช่ผมหรอกที่ถูกกำจัด
สิ้นฟ้า : ค่าตัวฉันเป็นเหมาจ่ายอะ T^T (ทำหน้าตาคนยังไม่ได้เงิน)
เพชร :นางยังไม่จ่ายค่าตัวผมเลย...
สารวัตร : :เฮ้อ:
หมอ :นางรักเต็มสิบมากอะไรก็ทุ่มให้เต็มสิบหมดแหละ แม้แต่เงิน พวกเรามันก็แค่ตัวประกอบ
สตีเฟ่น :...ตัวประกอบ...

สิ้นฟ้า : หรือว่ามันจะเป็นแผนของนาง ที่รีบๆจ่ายค่าตัวนายให้หมด แล้วจะได้กำจัดนายออกไป(หันไปพูดกับเต็มสิบ)
เต็มสิบ :  o22


ข้อมูลตัวละคร Blood Type
สิ้นฟ้า : B
เต็มสิบ : A
เพชร : AB ข้อมูลเพิ่มเติม คริสต์โรมันคาทอลิก
สารวัตร : O
หมอ : A

แถม
สตีเฟ่น : B
น้ำนิ่ง : O
ฟรัง : O
พาย : A
ท่านอัยการสูงสุด : B


ขอบคุณที่ติดตามคะ

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ม่าย น้องฟ้าาา กลายเป็นหนุ่มน้อยเมื่ออยู่กับพี่เพชร?

แล้วเต็มสิบของฉันเล่า?

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :z3: :z3: :z3: พี่เพชรรร พระเอกใช่ไหมมมม เป็นเดทที่น่ารักสุดๆเลยอะสำหรับสิ้นฟ้าแม่งเหมือนเด็กฮ่าๆ ชอบคู่นี้ๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น้องเต็มสิบของแม่ หายไปแล้ว ม่ายย :z3:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เต็มสิบหายทั้งตอนเลย T^T

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เรื่องนี้ใครพระเอกใครนายเอก งง

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 4
เรื่องลับ...ระดับชาติ(ปิดคดี)




“ไอ้เลวพี่เพชร”สิ้นฟ้าสบถเบาๆเป็นภาษาบ้านเกิด  เมื่อได้ที่นั่งบนเครื่องบิน ไม่นาน ร่างสูงของชายวัยกลางคนก็เดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขา เล่นเอา เขาต้องหันหน้าไปมอง หลายๆรอบ

เออร์คลิน จอร์น!

ไอ้ที่บอกว่าให้จับตาดูนะ มันจำเป็นต้องใกล้ชิดกันขนาดนี้เลยเหรอ!?

“เฮ้ !นายไม่ใช่คนอเมริกา กำลังจะกลับบ้านเหรอ?”ไม่นั่งเปล่า หมอนั่งยังหันมาชวนเขาคุยอีก สิ้นฟ้า หันไปยิ้มตอบให้น้อยๆ ก่อนที่เออร์คลิน จอร์นจะพูดต่ออีก “นายมาเรียนไฮสคูลที่อเมริกาเหรอ ดีจังเลยน๊า อายุน่าจะพอๆกับลูกชายฉัน นี่ฉันก็ว่าจะกลับไปเยี่ยมเมียกับลูกที่นั่น แล้วก็ว่าจะทำเรื่องให้ลูกชายมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกา”

เขาหันไปยิ้มอ่อนๆ ให้


แต่! เดี๋ยวนะ!? เมื่อกี้ว่าไง?



“นายว่าอะไรนะ กำลังจะกลับไปเยี่ยมภรรยา กับลูก...”

“ใช่ เห็นส่งอีเมลมาว่านารี เอ่อ ภรรยาของฉันน่ะ ไม่ค่อยสบาย ฉันเลยค่อนข้างเป็นห่วง เลยรีบเคลียร์งาน รีบไปเยี่ยม...”

.
.
.

ไม่ได้ ไปดูลาดเลาเส้นทางขนส่งอาวุธที่จะค้าขายกันหรือไง? หรือว่ากำลังโกหก...

.
.
.

แต่ใครจะมาบอกละ ว่าตัวเองค้าอาวุธเถื่อน และมีจุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการมาดูลาดเลา?
แล้วถ้าเออร์คลิน จอร์น ไม่ได้โกหกละ...
แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องจับตาดู และ ส่งเป้าหมาย ให้ถึงมือตำรวจเพื่อทำการสืบสวนอยู่ดี เพราะไม่ว่ายังไงประวัติของคนๆนี้ ที่เพชรให้เขาดู ก็เป็นอาชญากรระดับชาติดีๆนี่เอง
แต่ว่าทำไม...ถึงผ่านออกนอกประเทศได้ง่ายขนาดนี้ ทั้งที่ ทางสหรัฐอเมริกาเอง ก็น่าจะรู้ เรื่องนี้ด้วย ระงับการออกนอกประเทศ แล้วหาทางจับกุมตัวที่นั่น มันจะไม่ง่ายกว่าเหรอ ?
เออร์คลิน จอร์น มาที่นี่ เพื่ออะไรกันแน่...

.
.
.

ไม่ถึงหกชั่วโมง เครื่องบินที่เขานั่งมา ก็ได้ทำการลงจอดที่ท่าอากาศยาน สิ้นฟ้าเดินลงจากเครื่องเอื่อยๆ นัยน์ตายังคงจับจ้องที่ร่างของชายวัยกลางคน

สิ้นฟ้า หยิบโทรศัพท์ ที่ได้มาจากเพชร แล้วกดที่เบอร์เฉพาะฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญญาณ ให้ทางนั้นเตรียมตัว เข้าจับกุม
ผู้ต้องหา...เออร์คลิน จอร์น





ตืดดดด~~ ตืดดดด~~~

เสียงโทรศัพท์ของทนายเพชรดัง เป็นสัญญาณ ว่า เครื่องที่ท่านอัยการโดยสารมาได้ทำการลงจอดแล้ว จึงหันไปบอกสารวัตร ตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่เดินปนไปตามฝูงชน เริ่ม จับจ้องหาเป้าหมาย ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มองหาเป้าหมายเช่นกัน ทั้งที่ไม่ใช่ตำรวจ

เอาตรง ตรง ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นชะมัด

ทนายเพชรที่มาสมทบกับพวกเรา ก่อนหน้านั้น อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ แว่นตาดำ ยืนกอดอก พิงเสาท่าทางสบายๆ
แต่...

เออ....หล่อครับ ต้องยอมรับ

แต่ด้วยความหมั่นไส้เป็นการส่วนตัว หลังจากที่ได้ฟังเรื่องเล่าว่า เอาท่านอัยการของผมไปอยู่ด้วยตั้งหลายวัน ผมก็ไม่อยากจะเข้าใกล้แล้วครับ

“พบเป้าหมายแล้ว...”เสียงวอดังขึ้นเบาๆจากท่านสารวัตร “เตรียมจับกุม”




“อย่าขยับ เออร์คลิน จอร์น!”หนึ่งในตำรวจเข้าประชิดตัว “เฮ้ย!!” ก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจ  เมื่อเออร์คลิน จอร์น สะบัดตัวออก

“หยุด! นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ”ท่านสารวัตรว่า พร้อมกับยกปืนขึ้น เล็งไปที่เป้าหมาย ผู้คนในสนามบินตกใจ ต่างรีบถอยห่าง เออร์คลิน จอร์น หยุดนิ่ง ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น

“อะไรกัน คุณตำรวจ ทำอะไรน่าแตกตื่น...”เออร์คลิน จอร์นว่า

“เราขอจับกุมคุม ในฐานะผู้ต้องหาค้าอาวุธเถื่อน ข้ามชาติ คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด เพราะคำพูดของคุณ จะถูกนำไปใช้ในชั้นศาล”นายตำรวจท่านหนึ่งเอ่ย ก่อนจะเข้าไปจับกุม และใส่ข้อมือ ก่อนที่สารวัตร และตำรวจท่านอื่นๆจะเดินเข้าไปคุมตัวผู้ต้องหา




“นึกว่า จะมีอะไรน่ากลัว กว่านี้ซะอีก...”พี่หมอ เอ่ย ออกมาขำๆ “ดีแล้วที่จับได้ง่ายๆ”

“ครับ”ผมตอบกลับไป

“มีคนเห็น สิ้นฟ้าไหม?”ทนายเพชรเดินเข้ามาถาม เออ นั่นสิ...

ผมกับพี่หมอพยายามมองหา

“เดี๋ยวกูไปดูแลผู้ต้องหาก่อนนะ”ท่านสารวัตรเดินเข้ามาบอก

“เออๆ เดี๋ยวกูรอไอ้ฟ้าก่อน”พี่หมอตอบท่านสารวัตร ก่อนที่ท่านสารวัตรจะเดินแยกออกไป

“หมอ มากับพี่หน่อยสิ”ทนายเพชรหันมาพูดกับพี่หมอ

“คะ ครับ?”

“พี่รู้แล้วว่าสิ้นฟ้าอยู่ที่ไหน...”

“งั้นผมขอไปด้วย” ผมรีบเสนอตัวขึ้นมาทันที

“งั้นก็ไปกันเถอะ”ทนายเพชรเอ่ย ก่อนจะเดินนำออกไป

.
.
.


จาก Find My iPhone ของ เพชร แสดงให้เห็นว่า พิกัดของโทรศัพท์มือถือ ที่เขาให้สิ้นฟ้าเอาไว้ กำลัง มุ่งหน้าไปทาง สถานีตำรวจนครบาล
.
.
.




..........................................................
ยังไม่จบนะ
เอามาลงเรียกน้ำย่อย ยามพักเที่ยง :katai5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เรื่องคดีน่าติดตาม แต่สถานะของตัวละครชักไม่แน่ใจ
สรุปคุณอัยการจะคู่กับคุณทนาย แล้วจะเอานักศึกษาฝึกงานไปทิ้งไหน

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

คดีที่ 4
เรื่องลับ...ระดับชาติ (ปิดคดี)


ร่างยักษ์สูงใหญ่ ตามแบบของคนสัญชาติอเมริกัน กำลังตั้งที่วัดทิศทางลม เมื่อได้ที่แล้ว จึงหันมาหยิบ กระเป๋าหนังสีดำ ขนาดใหญ่ ก่อนจะเปิดมันออก เผยให้เห็นอุปกรณ์ชิ้นส่วน ของปืนไรเฟิลซุ่มยิง ที่เขามั่นใจว่า เป็นปืนที่แม่นยำที่สุด ของกองทัพสหรัฐฯ เสียแต่มัน ไม่ได้ถูกทำมาให้ใช้งาน สำหรับภารกิจทางการทหารทั่วไป แต่ถ้าเอามาใช้โดยวิธีนี้ เขา ก็คงบอกได้เลย ว่าไม่มีทางพลาด

เขาประกอบชิ้นส่วน มันอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะตั้งปืน พร้อมกับส่องกล้องเช็คบริเวณโดยรอบ ด่านล่างของตัวตึกอีกตึกหนึ่ง ที่อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล จากตึกที่เขาอยู่

.
.
.

 ตึกของสถานีตำรวจนครบาล

.
.
.

“อ่า~~~”เขาเผลอร้องขึ้นเบาๆ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เขามองผ่านกล้อง เห็นรถตำรวจสองสามคันขับเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าตึกของสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย กำลังค่อยๆทยอยกันลงมาจากรถ และนั่นไง เป้าหมายของเขา ก็กำลังลงมา

“ขอโทษนะจอร์น” เขาเอ่ยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเล็งไปที่เป้าหมาย นิ้วหนาพอตัว ค่อยๆ กดลงไปยังไกของปืน อย่างช้าๆ และระมัดระวัง เขาต้องรีบยิงออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เหยื่อของเขา จะถูกคุมตัวเข้าไปในตัวอาคาร

“อย่าขยับน๊า~~~ อย่าขยับน๊า~~~”พูดพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี

.
.
.

“หยุด! นายนั่นแหละที่อย่าขยับ”เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากเบื้องหลังเขา เล่นเอาปลายนิ้วชี้ของเขาหยุดชะงัก รวมถึงตัวเขาด้วย

“ชิส์”เผลอสบถออกมา เมื่อมองผ่านกล้องไป เหยื่อของเขาถูกคุมตัวหายเข้าไปในสถานีตำรวจซะแล้ว เขายกมือขึ้นท่วมหัว ก่อนจะหันหลังกลับไปมองผู้มาเยือน “นายทำฉันเสียสมาธินะไอ้หนูอัยการ”

“หุบปากไปเถอะสตีเฟ่น! นายถูกจับแล้ว...”สิ้นฟ้าตะโกนออกมา พร้อมกับเล็งปืนไปยังเพื่อนชาวต่างชาติของทนายเพชร

“ในข้อหาอะไร?”

“พยายามฆ่า...”อัยการสิ้นฟ้าเว้นวรรค “.หรือไม่ก็...ค้าอาวุธเถื่อน”

สตีเฟ่นหัวเราะออกมาเสียงดัง

“แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”

“ฉันก็แค่เดาเอาว่า ตึกไหน ที่เหมาะกับการซุ่มยิง ไปยังหน้าสถานีตำรวจนครบาลที่สุด”สตีเฟ่น เลิกคิ้วขึ้นด้วยความถูกใจนิดหน่อย

“นายมาคนเดียวเหรอ ไอ้หนูอัยการ?”

“ถ้าฉันมาคนเดียวแล้วยังไง...?”

“ที่ฉันถาม...”สายตาของสตีเฟ่น หันมองเลยไปยันด้านหลังของสิ้นฟ้า “เพราะ ฉันคิดว่า คงมีคนมาเพิ่ม...”

“วางปืนลงซะสิ้นฟ้า...”เสียงเย็นติดเรียบนิ่ง เอ่ยขึ้นอยู่เบื้องหลัง ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่าเป็นเสียงของใคร เพียงแต่เขาไม่นึกว่า จะตามมาเร็วขนาดนี้ และไม่นึกว่าจะเอาตัวประกันมาด้วย

.
.
.

“ออ เนี่ยนะเหรอการวางรากฐานของนาย อย่างที่นายเคยว่า...”ท่านอัยการเอ่ยเสียงเย็น ปืนในมือยังคงหันไปทางชาวต่างชาติ ร่างยักษ์ที่ยืนยิ้มน้อยๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไรเฟิลที่เหมาะแก่การลอบสังหาร ถูกยกขึ้นพาดบ่า

“เอาปืนลงซะฟ้า...”เสียงนิ่งๆ ของทนายเพชรสั่ง พร้อมกับทำท่าจะลั่นไกปืนที่จ่อหัวพี่หมออยู่จากด้านหลัง ผมเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่พี่หมอส่ายหน้า ทำให้ผมต้องยืนนิ่ง ส่วน ท่านอัยการสิ้นฟ้าค่อยๆลดปืนลง มันเป็นความผิดของผม ที่ไม่น่าให้เขาเดินตามหลังเข้ามายังตัวอาคาร...

“ปล่อยเพื่อนฉันซะ”ท่านอัยการพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ติดเรียบนิ่ง

“พรุ่งนี้...”ทนายเพชรเว้นวรรคคำพูดของตัวเองก่อนจะเอ่ยต่อ “ส่งตัวเออร์คลิน จอร์นมาให้พี่ แล้วพี่จะส่งตัวเพื่อนฟ้ากลับไปให้ อย่างปลอดภัย คืนนี้ กลับบ้านไปซะ แล้วพี่จะโทรไปบอกสถานที่นัดอีกที”

“มาเฟีย...”ท่านอัยการสิ้นฟ้าเปรยออกมาพร้อมกับยิ้มเยาะ “คำนี้หรือเปล่าที่พอจะใช้จำกัดความพวกนายได้...เออร์คลิน จอร์นพ่อค้าอาวุธ เป็นเพียงแค่นายหน้า แต่เรื่องจริงคือมีพวกนายต่างหากที่อยู่เบื้องหลัง เป็นราชาเงา เป็นมาเฟีย ค้าอาวุธจากกองทัพสหรัฐอย่างแท้จริง ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าพวกนายขัดแย้งอะไรกัน แต่ก็คงเป็นเรื่องที่สาหัสพอดูจนถึงขั้นต้องฆ่ากันเอง แต่ระดับทนายเพชร ผู้ฉลาด หวังกำจัดหมาก โดยหลอกใช้ อัยการและตำรวจในประเทศที่สาม จับตัวเออร์คลิน จอร์นให้...เมื่อเออร์คลิน จอร์น เดินทางมาถึงสถานีตำรวจนครบาล เมื่อไหร่ กระสุนจากยอดตึกนี่ จะเจาะเข้าสู่กะโหลกของหมอนั่นทันที...ทำไม? จะต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก อ๊ะ !  ไม่ต้องตอบก็พอจะเดาได้อยู่ เพราะนายไม่อยากให้เป็นคดีที่ยุ่งยากในสหรัฐฯ เลยมาเลือกประเทศนี้แทน...ฉันพูดถูกไหม?”

“เดา เก่งนี่ เฮ้! เพชร ฉันกำจัดเด็กนี่ได้ไหม?”ชายต่างชาติร่างยักษ์ว่า แต่ก็ถูกทนายเพชรขัดขึ้นมาก่อน

“จอร์น เป็นคนดี ทำดีเสมอมา ถ้าเขาไม่คิด จะปูดเรื่องของพวกเราให้ FBI รู้ แต่ถึงจะบอก FBI ไป มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรอยู่ดี แต่มันแสดงให้เห็นถึงความไม่ซื่อของเขา ในฐานะ นายหน้า ที่ต้องทำงานในเรื่องออกหน้าค้าขายแทนพวกเรา เป็นหมากที่ต้องกำจัด ฉันวางแผนให้จอร์น เดินทางมาที่นี่ โดยแกล้งเป็นภรรยาของเขา ส่งอีเมลล์ อ้างว่าภรรยาสุดที่รักของเขากำลังไม่สบาย แล้วฉันก็โผล่ไปให้นายเห็น พยายามเข้าหานาย และเอาตัวนายมาช่วย เพราะถ้าดึงพวกนายมาใช้งานในประเทศนี้ได้ อะไรๆมันก็ง่ายขึ้น นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องให้พวกนายช่วย”ทนายเพชรอธิบายช้าๆ

“เหอะ!”ท่านอัยการยิ้มเยาะ

“แต่นายก็เก่งนะ ที่ไหวตัวได้ ไม่งั้นนายคงไม่มายืนตรงจุดนี้ได้หรอก ใช่ไหม อัยการสิ้นฟ้า? รู้ตัวตั้งแต่ตอนไหนละ...?”

“ตั้งแต่ รู้เรื่องตั๋วเครื่องบินของเออร์คลิน คงไม่มีอาชญากรที่กำลังจะถูกจับตัวคนไหนหรอก ที่จะมาโดยสารเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป ข้อมูลที่นายให้มา มันโกหก...”

“รู้ตั้งแต่แรกเลยงั้นสิ?...เออร์คลิน จอร์น เป็นนายหน้าพ่อค้าอาวุธจริงๆ แต่เขายังไม่ได้มีหมายจับจากทางการหรอก...เขาถึงออกนอกประเทศไปไหนมาไหนได้ตามสะดวก”

“แล้วภรรยากับลูกของ เออร์คลิน ละ!?”

“...ฉันเสียใจ กับครอบครัวนี้...”

“ฉันเกลียดนาย...”

“คำพูดที่นายพูดว่าเกลียดฉัน สักกี่ล้านครั้ง มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันสะดุ้งสะเทือนหรอก”ผมเงยหน้า ขึ้นไปมองคนที่พูดประโยคนี้ ในความรู้สึก คือมันเจ็บยิ่งกว่าบอกกันว่าเกลียดตรงๆเสียอีก แต่คนพูดกับนิ่งสงบ และเยือกเย็น “ทำตามที่ฉันบอก นั่นคือ นายมั่นใจได้เลยว่าจะได้ตัวเพื่อนรักของนายคืน...”

“บ๊าย บาย ไอ้หนู มีความพยายาม แต่ก็ยังอ่อนหัด ฮะฮะฮ่า”ชาวต่างชาติคนนั้น พูดพร้อมกับหัวเราะดังลั่น ก่อนโยนกระเป๋าใบใหญ่ที่บรรจุปืน ลงไปยังด้านล่าง ซึ่งตรงนั้น มีถังขยะขนาดใหญ่ของเทศบาลตั้งไว้อยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป

“แล้วเจอกัน”ทนายเพชรพูดแค่นั้น ก่อนจะหันหลังกลับ และลากพี่หมอไปด้วย


เมื่อทนายเพชร จากไป ผู้ที่ได้ชื่อว่าอัยการได้แต่หัวเราะดังลั่น แบบที่ผมรู้สึกว่าเขากำลังสมเพศตัวเอง อยู่บนชั้นดาดฟ้า

.
.
.

“พรุ่งนี้ ฉันจะขนตำรวจไปจับหมอนั่น”ท่านสารวัตร ประจำสถานี ตำรวจนครบาลพูดขึ้นด้วยความเจ็บใจ

“เพื่ออะไร?”ท่านอัยการสิ้นฟ้าเปรยเรียบๆ “ถึงจะจับมา ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”

“หมายความว่าไง?”

“ทางเราจะโดนสหรัฐฯบีบ ให้ส่งตัวพวกเขาคืน”ท่านอัยการอธิบายเรียบๆ “รากฐานที่มั่นคงและสูง...แม้กระทั่งพระเจ้ายังต้องเอียงหูมาฟัง”

“หมายความว่าไงวะ”

“หมายความว่า คนกลุ่มนั้น จะต้องมีอิทธิพลมาก จนกระทั่งทางการสหรัฐฯ หรือแม้แต่ประธานาธิบดี ยังต้องช่วย ผมเข้าใจถูกไหมครับ? ถ้าผมเดาจากที่ท่านอัยการเล่า ชายที่ชื่อสตีเฟ่น เป็นคนของกองทัพสหรัฐจนถึงขั้น ขนอาวุธออกมาขายได้ ก็คงจะมีอำนาจในกองทัพมากพอควร ส่วนทนายเพชร ก็เรื่องของกฎหมายสินะครับ ผมเดาว่าคนกลุ่มนี้ ต้องแทรกซึมไปในทุกองค์กร อย่างน้อยในองค์กรหรือหน่วยงานหนึ่งๆ จะต้องมีพรรคพวกของพวกเขาสักสองถึงสามคน ...”

“อย่างนี้ มันก็เหมือนสร้างรากฐาน ที่ลงทุนไม่มาก แต่ทำงานกันเป็นทีม เพื่อกินทุกอย่างจากทุกหน่วยงาน อย่างนี้เหรอวะ?”สารวัตรเปรยอย่างคิดตาม “แต่อย่างนี้ช่องโหว่ มันก็เยอะนะ จะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่มีการทรยศ...เฮ้ย ไม่สิก็เห็นๆกันอยู่ แล้ว ถ้ารู้จักคัดสรรแต่ตัวเป้งๆเท่านั้นมาใช้งาน...โหยยย...กูนึกภาพออกเลยวะ แค่สร้างขึ้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่ในเงามืด หาพรรคพวก กระจายอำนาจไปตามองค์กรหรือหน่วยงานต่างที่สำคัญ ไม่ต้องมากคน แต่เอาแค่ระดับที่ใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น เฮี้ยยยยยยยยย! นี่มันเรื่องอะไรกันวะ!!!”สารวัตรพูดพรางทึ้ง ศรีษะของตัวเอง

“คนๆ นั้น น่ากลัวจริงๆนะครับ” ผมพูดออกไป

“อย่างนี้ เราก็มีแต่ต้อง ทำตามที่มันบอกสินะ ถึงจะช่วยไอ้หมอได้...” ท่านสารวัตรพูดออกมา

“มีอยู่วิธีหนึ่ง...”ท่านอัยการเปรยกับตัวเอง

“ยังไงวะ!?”ท่านสารวัตร ถามอย่างร้อนรน ผมคิดว่า ถ้ามีวิธีไหนที่ช่วยพี่หมอได้ ท่านสารวัตร คงยอมทำทุกอย่าง

“แต่กูจะไม่ใช้วิธีนี้...”


.
.
.


“ส่งตัวไอ้หมอมาซะ”ท่านสารวัตรพูด เมื่อพวกเรามายืนอยู่ต่อหน้า ทนายเพชร และผู้ชายที่ชื่อสตีเฟ่น พร้อมกับ ดันหลัง เออร์คลิน จอร์น ให้เดินออกไป ส่วนทนายเพชร ก็ดันหลังให้พี่หมอให้เดินมาหาพวกเรา

“ขอบใจพวกนายมากที่ช่วยฉัน”เออร์คลิน จอร์น พูด สตีเฟ่นยกยิ้ม พร้อมกับพูดเสียงเย็น

“ช่ายยยยยย~~~พวกฉันมาช่วยนาย”


ปั้ง!


ปืนพกในมือถูกยกขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ลั่นไกเพียงแค่นัดเดียว เจาะเข้ากลางกะโหลก ของเออร์คลิน จอร์น ที่กำลังเดินเข้าไปหา ร่างหนาของเออร์คลิน ค่อยๆทรุดลง พร้อมกับที่ทนายเพชร ค่อยๆ ยกปืนลงเช่นกัน


“เรื่องศพเดี๋ยวพวกฉันจัดการเอง ส่วนนาย สิ้นฟ้า นายไปทำยังไงก็ได้ ให้เรื่องไม่ใหญ่มากก็พอ จะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ ตามสบายนายเลย”ทนายเพชรเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ท่านอัยการที่นั่งพิงที่ขอบดาดฟ้า มองอยู่ไม่ไกล เพียงแค่มอง แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรตอบ“หมดธุระแล้ว งั้นฉันก็ขอลา...”

“จะไปตายที่ไหนก็ไปซะ!”ท่านสารวัตรสบถออกมาด้วยความโมโห

ทนายเพชรไม่ได้เอ่ยตอบอะไร ก่อนจะเดินหันหลังกลับไป


“ออ...ฟ้า”เจ้าตัวหันกลับมามองที่ท่านอัยการ “ถ้าเราสลับบทกัน ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะไม่ปล่อยไป แล้วฆ่าซะ...นายใจดีเกินไป...”


.
.
.


นั่นคือ วิธี ที่ท่านอัยการ ไม่ทำ

.
.
.

ผมเดินเข้าไปหาท่าน วางมือที่มือของท่าน มันเย็นเฉียบ เย็นจนผมกลัว ตัวท่านไม่แสดงอารมณ์อะไร รวมถึงสายตาของท่านที่มองไปไกล ไกลในแบบที่ผมอยู่ใกล้แค่นี้ ท่านคงมองไม่เห็น

“ขอฉันอยู่คนเดียวสักพัก...”

นั่นคือคำขอของท่าน ที่ผมต้องทำตาม






ร่างสูงเดินเข้ามาในคอนโดหลังจากขอตัวแยกออกมาจากเพื่อนและเด็กฝึกงานของตัวเอง ใบหน้าราวกับรูปสลักชั้นดี ไม่แสดงอารมณ์ ไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดๆ แม้จะมีคนเดินเข้ามา แล้ว กล่าว Merry Christmas กับเขาก็ตาม รู้เพียงอย่างเดียว คือต้องเดินถึงห้องของตัวเอง และเขาจะพัก จะทิ้งตัวลงนอน ปล่อยให้ทุกอย่างมันหลับไปพร้อมๆกับเขา

เขาทำดีที่สุดแล้ว

พยายามยิ้ม ทำตัวเหมือนเด็กๆระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ทั้งที่ความสงสัย เต็มไปหมดอยู่ในสมอง

ถูก...ถูกอย่างที่ว่า เขาควรจะฆ่าซะ เขามัน...ใจดี...และใจอ่อนเกินไป จนปล่อยให้มาถึงจุดๆนี้

เขาอยากจะนอน อยากจะหลับแล้ว

.
.
.

เหนื่อยแล้วละ มันรู้สึกเหนื่อยที่ใจ

.
.
.

แกร๊ก!

เขาพยายามไขประตูห้อง และจับลูกบิดเตรียมหมุน แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นถุงกระดาษ ห้อยอยู่ที่ลูกบิดของประตู สิ้นฟ้า หยิบออกมา ก่อนจะเปิดดูของด้านใน

สงสัยจะเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ที่มีใครสักคนในคอนโดที่แอบปลื้มเขา แอบเอามาห้อยไว้

เขาหยิบมันออกมาดู...

สโนว์บอล ?

เด็กผู้ชายสองคน เดินจับมือกันอยู่ด้านในลูกกลมๆสีใส ท่ามกลางหิมะสีขาว เขาลองเขย่า ประกายระยิบระยับสีน้ำเงิน ฟุ้งกระจายโดยทั่ว

 ระยิบระยับ ราวกับ...




อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา




Happy birthday, My Heavens fall.
Diamond~
















............................................

มีขวดขว้างขวด มีมีดขว้างมีด คร่าาาา อิฉันพร้อมรับละ
กองอวยเพชร มีใจสลายมั่งไหม 55555
ถามว่าใครเป็นพระเอกเรื่องนี้ ก็เพชร นี่ละ ไม่มีใครหรอก
เรื่องนี้จะเล่าผ่านเต็มสิบ ตัวเอกคือสิ้นฟ้า พระเอก คือเพชร นะคะ
นอกนั้นตัวประกอบ!

เต็มสิบ : นางละเมอหรือเปล่า? ที่จะให้ทนายเพชรเป็นพระเอก
สิ้นฟ้า : ...
เพชร : ค่าตัวผมแพงนะ
ท่านสารวัตร : ตัวประกอบ ตัวประกอบ ตัวประกอบ แม่งย้ำดีนัก เดี๋ยวพ่อจับเชือดเลย!!
หมอ : ขนาดถูกจับตัวไป ยังไม่มีบทพูดเลย จะเอาอะไรกับนาง จ้างมาให้ยืนนิ่ง ถูกปืนจ่อหัว
สตีเฟ่น : เรื่องนี้ใช้ตัวละคร แล้วทิ้ง ตายเป็นว่าเล่นเลย นางซาดิส หรือเปล่าวะ

เพชร : เฮ้ย ! ผมรู้แล้วว่าลืมอะไร!!
สตีเฟ่น : อะไรวะ?
เพชร : ผมลืมทวงโทรศัพท์ คืนจากฟ้า... ฟ้า ฟ้า แพ็คแล้วส่งไปรษณีย์มาให้พี่หน่อย
สิ้นฟ้า : ...
เพชร : โทษที พี่ล้อเล่น =.,=




ขอบคุณที่ติดตามคะ >>> see U

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :z3:
ไม่จริง ทำไม๊ เต็มสิบฉันล่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด