คดีที่ 7
เด็กสาว...เก้าศพ(1)
ตืด~~~~~~~ ตืด~~~~~~~
“พี่คะ พี่ต้องช่วยหนูนะ”
..........................................................
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบคุณในวันนี้”ชายหนุ่มตัวเล็กหน้าสวยเอ่ยขึ้น ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก “ไม่ทราบว่าที่บาดเจ็บตอนนั้น หายดีหรือยังครับ” ทั้งน้ำเสียงและการเว้นวรรคจังหวะของคำพูด มันทำให้คนๆนี้ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล ใบหน้าที่ดูเสมือนเปื้อนยิ้มตลอดนั่น กลับรู้สึกถึงตัวตนที่น่าจะมีอะไรบางอย่างแอบแฝง
เจ้าตัวเขาดูน่าค้นหา...ต้องบอกอย่างนี้สินะ
“หายดีแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง”อัยการหนุ่มเอ่ยตอบกลับไป พร้อมกับยิ้มให้
“เราต้องร่วมงานกันอีกนาน ไม่ให้ผมเป็นห่วงคุณแล้วจะให้ผมเป็นห่วงใคร ใช่ไหมครับ?”
อาจจะเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน...
“เรื่องที่คุณถูกทำร้ายวันนั้น...”
“ช่างเหอะ ฉันไม่รีบ”สิ้นฟ้าพูดพร้อมกับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าคุณต้องการคนคุ้มกัน?”
“ขอบคุณ สำหรับความหวังดีนะ แต่ฉันว่านาย อย่ากังวลเรื่องของฉันให้มากเลย ทางฝั่งของนาย ก็ใช่จะวุ่นวายน้อย กว่าทางฉันสักเท่าไหร่”
“แต่...”
“เอาเป็นว่า ยังไงฉันก็รู้ตัวดี...ว่าฉันเป็นทรัพยากร เรียกอย่างนี้ถูกไหม ? เอ่อ...โทษที ฉันไม่ได้ระชดนะ”
“ผมคิดว่า คุณเปรียบตัวเอง เป็นจิ๊กซอว์ ชิ้นหนึ่ง ดีกว่านะครับ เพราะทุกชิ้นมันสำคัญเท่าๆกัน ถ้าขาดหายไปชิ้นใดชิ้นหนึ่ง มันก็เติมเต็มไม่ได้ ที่ผมมาหาคุณวันนี้ นั่นคือผมห่วงคุณจริงๆ และผมยอมให้คุณเป็นอะไรไปไม่ได้”ร่างเล็กเอ่ยตอบ พร้อมกับเอนไปพิงพนักโซฟา ใบหน้าขาวๆ ติดขึ้นสีชมพูระเรื่อนั่น ยังยกยิ้ม แต่น้ำเสียงเรียบเฉย
“แล้วฉันจะต้องอยู่ในเกมนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดก็คงต้องอยู่จนกว่าเกมจะจบ เท่านั้นละครับ”
ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง
“ดูเสมือนจะมีคนมา งั้นผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า”ชายหนุ่มร่างเล็กพูด พร้อมกับเตรียมตัวยืนขึ้น ก่อนจะเดินไปที่ประตูพร้อมกัน
“ดิน!”สิ้นฟ้าเอ่ยเรียกชื่อของเจ้าตัว ทำให้ร่างเล็กชะงักมือที่จะเปิดประตูนิดหน่อย ก่อนหันมามองเขา พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“ระวังตัวด้วยละ”
“คุณเองก็เช่นกัน”
“อ้าว...”ผมร้องขึ้นอย่างสงสัย เมื่อประตูเปิดออก แต่กลับไม่ใช่ท่านอัยการเป็นคนเปิด ใครกัน หน้าตาน่ารักน่าหยิกชะมัด เล่นเอาผมค้างเลย
“มาหาท่านอัยการเหรอ เขาไปสิ ผมจะกลับแล้วละ”
“อะ เอ่อ ครับๆ”ผมตอบรับ อย่างรู้สึกอยู่ในความเหม่อลอยนิดๆ เพราะใบหน้านั่น ก่อนจะเอียงตัวหลบ ให้คนๆนั้นเดินออกไป เข้ามาในห้องก็เห็นท่านอัยการยืนมองอยู่
“ขึ้นมาได้ไงเนี่ย”นั่นสิ ผมขึ้นมาได้ไง ปกติ มันต้องมีคีย์การ์ด
โอเค บอกความจริงก็ได้
“ติดสินบนยามให้เปิดประตูให้ครับ”
“ร้ายกาจขึ้นทุกวันนะ นายนะ”
“โฮ่ ได้มาจากท่านอัยการทั้งนั้นเลยละ” ตอบออกไปด้วยความมั่นใจสุดๆ จนท่านอัยการทำหน้าเหวอ “ว่าแต่ คนเมื่อกี้ใครกันครับ หน้าตาน่ารักสุดๆ กิ๊กท่านเหรอ ผมหึงนะ”
“เพื่อนน่ะ”
“เพื่อน?”
“อืม...”
“ไม่ยักรู้ว่าท่านมีเพื่อนที่หน้าตาน่ารักอย่างนี้ พี่หมอกับพี่สารวัตร ไม่เห็นเคยพูดถึงเลย”ผมบ่นหงุบหงิบ
“นี่สองคนนั้น มันเล่าอะไรให้ฟังบ้างเนี่ย!?”
“ก็ทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านอัยการนั่นแหละ เพราะสองคนนั้น เป็นกองอวยผม และแอนตี้ ทนายเพชร”ท่านอัยการจะรู้ไหมว่าทั้งพี่หมอ และท่านสารวัตร หาหนทางกีดกัน ทนายเพชรสุดๆ ขนาดวันนี้ ยังโทรไปบอกทนายเพชรเลยว่าท่านอัยการจะไปตลาดน้ำแห่งหนึ่ง ให้รีบตามไป นี่ไม่รู้ว่าจะหลงเชื่อไหม แต่ผมว่าทนายเพชร คงไม่โง่โดนหลอกง่ายหรอก
“งั้นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนนี้ ทนายเพชรโทรมาถามฉันว่า อยู่ที่ตลาดน้ำหรือเปล่า?เป็น ฝีมือพวกนายใช่มะ” ถามพร้อมกับส่งสายตากดดัน
“เอ่อ...” เค้า ไม่ได้ เห็นด้วย นะ
“ฉันก็เลยบอกว่า ใช่ ฉันอยู่ที่ตลาดน้ำ”
“อะ เดะ”
“ป่านนี้คงถึงแล้วมั้ง เดี๋ยวโทรไปฝากซื้อลูกชุบ กับขนมหวานกลับมาก่อน”
“ห๊า!”
“ก็ให้โดนแกล้งซะมั่ง...สะใจดี”
นี่สิ ปีศาจตัวจริงอยู่ตรงนี้ครับ
“งั้นผมไปทำอาหารดีกว่า” หนีได้ ให้รีบหนีครับ นั่นคือคติของผม
.
.
.
“ลูกชุบ ใช่ๆ เอาทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เอามาให้หมด...อืม ไอติมกะทิ ก็อยากกินนะ แต่กว่าจะมาถึงละลายหมดกันพอดี ...ร้อนไหม? งั้นเหรอ...อืม...”
ผมที่ทำอาหารอยู่ในครัว ได้ยินเสียงท่านอัยการคุยโทรศัพท์เบาๆ แอบถอนหายใจเล็กน้อย เพราะบางครั้งก็รู้สึกอึดอัดนะ แต่ทำยังไงได้ละ ผมมันก็...ใจไม่แข็งพอด้วยสิ อ่อนแอชะมัด
“เต็มสิบ อยากกินขนมอะไรเป็นพิเศษไหม?”
“ไม่ครับ...ท่านกินอะไร ผมก็กินอันนั้นละ”
.
.
.
“ฝีมือ ยอดเยี่ยมเสมอ”ท่านเอ่ยปากชม เมื่อเรามานั่งทานอาหารด้วยกัน ผมไม่ได้ทำอาหารเก่งอะไรมากมายหรอก อย่างมากก็แค่อาหารพื้นๆทั่วไป อย่างแกงจืด ข้าวผัด ไข่ทอด อะไรพวกนี้ ที่เด็ดสุดที่ทำได้ ก็มีแค่ต้มยำกุ้ง ส่วนอาหารวันนี้ ผมลองไปหาวิธีการทำมา ก็เลยได้เป็นฉู่ฉี่ปลาหมึก ไข่เจียววุ้นเส้นหมูสับ กับปลาสามรส ดูท่าทางท่านจะชอบมากๆ เคี้ยวซะแก้มป่องเลย
น่ารัก น่ารัก เกินไปแล้ว!!!!!!
ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้ตัวเล็ก หรือหน้าตาจิ้มลิ้มอะไรมากมาย ออกจะหล่อ สูง และแมนมากด้วยซ้ำ แต่ทำไมมันดูน่ารักในสายตาผมได้ขนาดนี้นะ
เฮ้อ...
“นี่สินะที่เขาเรียกว่าหลง ไม่ว่าคนๆนั้นจะทำอะไรก็ดูน่ารักน่าคลั่งไคล้ไปหมด”ผมเปรย เบาๆ ท่านอัยการชำเรืองมองผมหน่อยๆก่อนจะทานอาหารไป อย่างคนมีความสุขกับการกิน
เมื่อหลังทานอาหารเสร็จ ท่านอัยการสิ้นฟ้า ก็เป็นคนอาสา ล้างจานเองครับ ส่วนผมก็มานั่งเล่นเกมโอเทลโล่ ออนไลน์แข่งกับผู้คนในเน็ต แข่งไปแข่งมา เพลินครับ มองไปที่นาฬิกาก็เกือบสามทุ่มกว่าละ พอมองไปที่ท่านอัยการ ก็เห็นท่านนั่งหัวหมุนกับกองกระดาษขนาดใหญ่ ที่โต๊ะโซฟา หน้าจอโทรทัศน์อยู่
ผมมองไปที่โทรทัศน์
“อืม...การเมืองประเทศเรานี่ดูท่าจะร้อนแรงขึ้นทุกวันนะครับ”ผมพูดเมื่อมองไปยังจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ที่ฉายข่าวผู้ชุมนุมประท้วงทางการเมืองมากมาย เพื่อเรียกร้องอะไรหลายๆอย่าง บางกลุ่มต่อต้านคอรัปชั่น บางกลุ่มเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องประชาธิปไตย หรืออะไรหลายๆอย่างตามที่ยกมากล่าวอ้าง บางครั้ง ยิ่งตามดูข่าวก็รู้สึกยิ่ง งง ยังแอบคิดอยู่เลยว่า...ก็ไม่เห็นจะมีทางเลือกไหนที่ดีกว่ากันสักเท่าไหร่เลย
“มันก็ร้อนแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละมั้ง...”ท่านเปรยเรียบๆ พรางใช้เพียงแค่หางตามองดูข่าวในโทรทัศน์ “การเมืองในประเทศนี้นะ มันก็วนอยู่แต่กับรูปแบบเดิมๆนั่นแหละ ประท้วง แล้วอีกสักพักก็จะมีพระเอกออกโรงมาปิดท้าย ด้วยการรัฐประหาร ยิ่งกระตุ้นให้รู้สึกรุนแรงมากเท่าไหร่ การรัฐประหารก็จะกลายเป็นฮีโร่มากขึ้นเท่านั้น ประวัติศาสตร์ทางการเมืองไม่เคยสอนอะไรให้กับคนในประเทศนี้หรอก น่าจะชินกันได้แล้ว”
“ผมว่าหลายๆคนอาจจะได้เรียนรู้ แต่ทำอะไรไม่ได้มากกว่า”
“ก็คงอย่างนั้น...”
ครืด~~~~ ครืด~~~~
เสียงโทรศัพท์มือถือ บนโต๊ะสั่น
“อืม...เดี๋ยวลงไปรับ”ท่านว่าเบาๆ
สงสัยทนายเพชรคงจะมาแล้วมั้ง นี่ก็ดึกแล้ว ผมน่าจะได้เวลากลับแล้วมั้ง ออ ไม่ต้องห่วงการเดินทางของผมจะอันตรายหรอกครับ ที่อยู่หอผม กับ คอนโดท่านอัยการนี่ ห่างกันแค่รถไฟฟ้าสถานีเดียว ผมเลยชอบมาหมกตัวอยู่กับท่านบ่อยๆ
“งั้นผม ว่า ผมกลับเลยดีกว่า”
“เอางั้นเหรอ”
“ครับ”
เราทั้งสองคนลงลิฟต์มายังชั้นล่าง ก็เห็นทนายเพชร นั่งรออยู่ที่โซฟา ในโซนรอของบุคคลภายนอก
“ปกติ ก็หาทางขึ้นไปได้ ไม่เห็นต้องให้ลงมารับนิ่”ท่านอัยการบ่น
“พี่ก็แค่อยากให้ฟ้า เดินลงมาหาพี่มั่ง” เขาพูด ก่อนจะหันมามองผม “เต็มสิบ...”
“มีปัญหาอะไรครับ”ไม่ได้ตั้งใจหาเรื่อง แต่ปากเจ้ากรรมมันพาไป
“เปล่า เพียงแค่คิดว่านายมาอยู่กับฟ้า บ่อยเกินไปนะ”
“ก่อนคุณจะมาผมก็มาอยู่ของผมประจำ”
“ขนมของเค้าล๊า~~~”
“งั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
“นี่ใช่ไหมห่อขนม ไปละ!”
“หลังจากนี้ก็มาให้น้อยๆลงหน่อยละกัน”
“คุณมีสิทธิอะไรมาห้ามผมละ”
“...”
“มีสิทธิก็แล้วกัน!”
“งั้นเหรอ งั้นผมก็มีสิทธิ เพราะผมเป็นเด็กฝึกงานของท่านอัยการ”
“ได้ข่าวว่าหมดโปรแล้ว”
“ผมจะไปขอขยายเวลาฝึกงานเดี๋ยวนี้ละ”เอาสิ ผมไม่ยอมแพ้หรอก
“คืนนี้ ฉันจะนอนกับสิ้นฟ้า”
“งั้นผมก็จะนอนด้วย”
.
.
.
“นี่จะไม่ยอมใช่มะ”
“เรื่องไรจะยอมละ”
อะเดะ! ว่าแต่ท่านอัยการหายไปไหน
“สิ้นฟ้า!”
“ท่านอัยการ!!!”
“พวกนายนี่น๊า เถียงกันเป็นเด็กๆ”ท่านพูดขึ้น เมื่อเรามาถึงห้อง
“ท่านก็ไม่น่า ทิ้งพวกเราไว้ข้างล่างนี่ครับ ผมเลยต้องไปติดสินบน ยาม อีกรอบเลย กว่าจะได้ขึ้นมา”
“ดีแล้วที่ยามเขาไม่ไล่เตะ พวกนายสองคนออกไป หนวกหูน่ารำคาญ รบกวนผู้อยู่อาศัยคนอื่นมากๆ”
“เอ่อ พี่ขอโทษ”
“ผมก็ขอโทษด้วยครับ”
“งั้นมากินขนมกันดีกว่า”ท่านอัยการผู้ช่วยสิ้นฟ้าพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อน จะเดินเข้าไปในส่วนของห้องครัว
“สงบศึกชั่วคราว”
“ก็ได้...”
หลังจากนั้น พวกเราก็มานั่งกินขนม พร้อมกับดูการ์ตูนแอนนิเมชั่นกันครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนินจา ที่พระเอกมันหน้าหนวดอะแหละ ดูเป็นภาคเดอะมูฟหวี่เอา ได้ข่าวว่า เรื่องนี้คนเขียน เขียนใกล้จบแล้ว ผมว่า ถ้าจบไป มันจะกลายเป็นตำนาน อีกบทหนึ่งของวงการการ์ตูนแน่ๆ การ์ตูนเรื่องนี้ ผมนี่โตมาพร้อมกับมันเลย ดูตั้งแต่เด็กยันโต
หลังจากนั้นก็ผลัดกันไปอาบน้ำ ก่อนที่จะเข้านอนกัน
แต่ปัญหามันอยู่ที่
“ฉันว่าเตียงมันเล็กไป สำหรับผู้ชายสามคนนะ”ท่านอัยการบ่น “ฉันรู้สึกว่ากำลังโดนเบียด...T^T”
“เตียงมันไม่ได้เล็กไปหรอก แต่เต็มสิบ เขยิบไปเลยอย่ามาเบียดฟ้า”
“ทนายเพชรแหละ ขยับไปเลย แล้วมือนั่นน่ะ กรุณาเอาออกจากตัวท่านอัยการด้วย”
“งั้นขานายก็อย่าเอามาพาดที่ขาของฟ้าสิ”
“มานอนกับท่านผมก็พาดของผมอย่างนี้ประจำ”
“นี่จะไม่ยอมจริงๆใช่มะ”
“เรื่องอะไรจะยอมละ”
“แล้วทำไมฉันต้องมานอนตรงกลางให้พวกนายสองคนเถียงกันใส่ฉันด้วยเนี่ย ห๊า!”
24.00 น.
ครืด~~~ ครืด~~~~ครืด~~~
“ฟ้า ครับ เสียงโทรศัพท์ของฟ้าหรืเปล่า?”น้ำเสียงนุ่มๆติดงัวเงีย ถามขึ้น ก่อนที่นัยน์ตาคมกริบของสิ้นฟ้าจะกระพริบปริบๆ กระเด้งตัวลุกนั่ง แล้วมองไปยังโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ที่โต๊ะข้างหัวเตียงซึ่งส่องแสงสว่าง พร้อมกับสั่นเสียงดัง จะลุกไปเอาก็ไม่ได้ เพราะร่างเล็กของเต็มสิบกอดเขาเอาไว้ซะเต็มวงแขน ทนายเพชรจึงเอื้อมมือไปหยิบมาให้ ก่อนเขาจะกดรับ
“พี่คะ พี่ต้องช่วยหนูนะ”
เสียงสั่นๆจากปลายสายดังเข้ามา
“พี่คะ...”
“เกิดอะไรขึ้น...”
12.39 น.
เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าเราจะเดินทางขับรถขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์มาถึงยังจุดนี้ เมื่อมาถึง ความวุ่นวายโดยรอบปรากฏให้เห็นยังเบื้องหน้า ยังถนนที่อยู่เบื้องล่างและถนนที่ผมยืนอยู่ แม้จะเป็นเวลาเกินเที่ยงคืนมาแล้วก็ตาม ท่านอัยการในชุดนอนปาจามาสีฟ้า มีเพียงเสื้อกันหนาวสีเทา คลุมทับอีกชั้นเดียว เดินเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนจะถูกนำตัวเข้าไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมๆกันกับผมและทนายเพชร ที่อยู่ในชุดนอนคล้ายๆกันเดินตามเข้าไปด้วย
ภาพรถเก๋งสีดำที่ด้านหน้ามีสภาพยับเยิน พร้อมกับรถตู้ที่นอนหงายท้องกลางถนนปรากฏอยู่ไม่ไกลจากสายตา เจ้าหน้าที่ตำรวจและพยาบาล หน่วยกู้ภัย ระดมกำลังช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บ อย่างเร่งรีบ ผมเดินมาเกาะขอบปูนของทางด่วนโทรลล์เวย์มองลงไป
ยังด้านล่าง ที่มีความวุ่นวายยิ่งกว่าด้านบนเสียอีก
เพราะ หน่วยกู้ภัย กำลัง เอาผ้าคลุมศพผู้เสียชีวิต
...ที่กระเด็นตกลงไปจากการปะทะกันของรถตู้และรถเก๋ง บนทางด่วนโทรลล์เวย์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องสู้กับกระแส ของคนที่มุงดูและนักข่าว อีกทั้งต้องเร่งทำเวลาในการเคลียร์พื้นที่ อย่างระมัดระวังที่สุด โดยเฉพาะการจราจรที่อยู่บนถนนด้านล่างที่ถูกปิด จนรถที่ยังคงมีการสัญจรอยู่ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้
ผมเห็นเด็กผู้หญิงที่ดูอายุคงไม่น่าจะเกิน 18 ปีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาท่านอัยการ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองท่านเท่านั้น ส่วนท่านอัยการก็เพียงแค่มองเธอกลับไปเช่นกันไม่แม้แต่ที่จะเดินเข้าไปหา ส่วนเด็กสาวที่เห็นท่านอัยการมองกลับไปก็หยุดที่จะเดินตรงมาหาท่านเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่พยาบาลจะมาเอาตัวเธอออกไป
“ไอ้ฟ้า!”เสียงท่านสารวัตรดังเข้ามาก่อนที่จะเห็นตัวเสียอีก “ฉันว่ากำลังจะโทรตามแกอยู่ ไม่นึกว่าจะมาอยู่ตรงนี้แล้ว...ไอ้หมอก็กำลังวุ่นวายกับคนเจ็บที่กำลังถูกลำเรียงส่งไปโรงพยาบาล ส่วนน้องสาวมึง...”
“ช่างเหอะ”
“ห๊ะ!?”
“ไม่ต้องรายงานแล้ว...”
“แต่น้องสาวมึง...”
“เด็กนั่น ก็แค่คนที่เกิดมาจากพ่อคนเดียวกัน ไม่ใช่น้องสาวฉันซะหน่อย...”
.................................
:katai5:แอบมาอัพ บอกว่าจะหายไปนาน ก็หายไปเป็นเกือบเดือนเลย หุหุ
คดีนี้เล่นไปแล้ว กลัวถูกฟ้องร้อง ยังไงก็ไม่รู้คะ 555+ เปลี่ยนสีรถให้แล้วนะเออ (นิยายเธอจะอยู่รอดไหมห๊า!?)
เอาเป็นว่า เคยบอกตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้วว่าคดีต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องส่วนมากได้รับแรงบัลดาลใจจากคดีที่เคยเกิดขึ้นจริง
และให้จิ้นว่าเกิดที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดที่ไทย เอาเป็นว่า อย่าเครียดตามนิยายนะคะ
ส่วนคดีที่ 7 นี้ เราจะเสนอในด้านมุมมองของทางด้านผู้กระทำความผิดคะ
อาจมีบางฉากอาจจะขัดใจบางท่าน แต่เพื่อให้นิยายมันเดินต่อไปได้ ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนเลยนะคะ
ดีใจที่ตัวเองมีเวลากลับมาอัพนิยายเสียที
สิ้นฟ้า : บทฉันนี่มัน ร้ายกาจตลอด!
เต็มสิบ : บทผมนี่ก็ช้ำ หน่วงๆตลอดครับท่านอัยการ อย่าเครียดไปเลย
ทนายเพชร : นางชอบทำร้ายจิตใจพวกเราเนอะ
เต็มสิบ :ช่ายยยย 
See Ya ม๊วฟฟฟฟฟ คะ >>>>ดูซีรี่ย์มากไปเลยติดมา