- The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร [แจ้งข่าว P.15 : 02/06/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร [แจ้งข่าว P.15 : 02/06/61]  (อ่าน 115028 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2018 12:09:28 โดย ชมพูพาล »

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร Prologue+Ch.1
«ตอบ #1 เมื่อ18-07-2014 17:45:21 »

-The Murderer - แฟนผมเป็นฆาตกร

Prologue : “ฉันไม่ให้นายตายหรอก!”

เปลวไฟกำลังลามไล้ไปทั่ว

ร้อน...

เจ็บ...

ผมกำลังจะตาย...

“ไม่ต้องกลัวนะ!”

เสียงหนึ่งตะโกนอย่างเร่งร้อน พร้อมสัมผัสอ่อนโยนที่โอบประคองผมขึ้นพาดบ่า ความร้อนจากเปลวไฟยังคงแผดเผาทุกสิ่ง ต่อให้สติดีแค่ไหนก็รู้ว่าการเดินเข้ามาโทงๆ โดยไม่หาวิธีป้องกันอย่างเขาคนนี้มันฆ่าตัวตายชัดๆ

“ฉันไม่ให้นายตายหรอก!”

เสียงนั้นเอ่ยอย่างแข็งกร้าว ฟังดึงดัน ดื้อรั้น แต่กระนั้นก็สั่นพร่า ราวภาวนาให้เป็นจริง

...แต่ผมกำลังจะตาย

“ฉัน...ไม่ให้นายตาย!”


--------------------------

Chapter 1  : “ในที่สุดก็เจอ...”

เป็นอีกวันที่น่าเบื่อหน่าย

คิดพลางฉีกยิ้มให้สาวสวยวัยรุ่นซึ่งเดินผ่านมาเป็นรอบที่สาม เจ้าหล่อนอายุราวสิบห้าสิบหกปี แต่กลับแต่งหน้าเข้มเหมือนอายุสามสิบ ยิ่งมองผ่านแสงสลัวแบบนี้ช่างชวนสะดุ้งเหลือเกิน

ผมตัดสินใจโบกมือทักด้วยรอยยิ้มไปหนึ่งที

ไม่ใช่พิศวาท แต่เพราะไม่อยากเห็นเจ้าหล่อนแสร้งเดินผ่านเป็นครั้งที่สี่ และนั่นก็ทำให้เด็กสาวเผยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าหาผมราวพร้อมตะครุบเหยื่อ

“สวัสดีค่ะ...ขอดื่มด้วยสักแก้วนะคะ”

ไม่ว่าเปล่ายังมานั่งเบียดบนเก้าอี้ตัวเดียวกับผม น้ำเสียงคล้ายเหม่อลอย คงกำลังมึนได้ที่เชียวล่ะ

“ฉันชื่อลิเดีย แล้วคุณ...”

“เจย์เดน...” ผมตอบด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะยื่นมือจับตอบเพื่อการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “เจย์เดน เวอแกน ตำรวจแผนกสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมผิดกฎหมาย ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

เด็กสาวผงะ พยายามดึงมือออก แต่ผมฉวยจับไม่ปล่อย พร้อมกันนั้นก็กรอกเสียงบนบลูทูดขนาดจิ๋วซึ่งซ่อนไว้ใต้เส้นผมสีบลอนด์

“จับกุมได้...”

สิ้นคำ ห้องพักขนาดเล็กสำหรับการซ่องสุมเพื่อเล่นยาเสพติดก็ถูกถีบประตูออกพรวด ตำรวจในเครื่องแบบนับสิบนายถืออาวุธเข้าจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหาล้วนอยู่ในสภาพมึนเมาได้ที่ ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ผมส่งตัวลิเดียกับนายตำรวจคนหนึ่ง ก่อนจะถอยฉากออกมาสูบบุหรี่ข้างนอกราวไม่ใช่งานของตัวเอง

เฮ้อ...น่าเบื่อ น่าเบื่อเป็นบ้า

“ขอบคุณที่ทำงานหนักครับ คุณเวอแกน”

เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีนี้ออกมากล่าวกับผม แต่ดวงตากลับแฝงความตำหนิ

“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ย”

ผมเหม่อมองควันสีขาวจากริมฝีปากสีซีดของตนเองที่ค่อยๆ จางหายไปในอากาศ

“ครับ...”

น้ำเสียงนั้นราวอดกลั้นเต็มแก่ แต่ช่วยไม่ได้ เขาเป็นคนมาง้อผมเอง เพราะหน้าที่ปกติของผมคือการนั่งจัดเรียงเอกสารที่มีคนโยนๆ มาก็เท่านั้น ผิดกับไอ้เด็กนี่ที่ขยันผลงาน เพียงพริบตาก็ได้เป็นสารวัตร ยศสูงกว่าผมที่อายุมากกว่าสามปีซะอีก
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อ เลียม อะไรสักอย่างนี่ล่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ตอนผมย้ายไปเข้าไปแรกๆ ก็เที่ยวเอาของฝากมาให้เป็นประจำ แต่ตอนนี้เหมือนจะลดๆ ไปบ้างแล้ว

“หึ”

ผมหลุดขำเมื่อเห็นไอ้เด็กเลียมทำหน้าปั้นยาก เพราะแบบนี้ถึงต้องมาง้อผม เนื่องจากปาร์ตี้ผิดกฎหมายครั้งนี้คัดเฉพาะเหล่า ‘วัยรุ่น’ ทำให้เขาไม่สามารถเข้ามาสอดแหนมเพื่อให้สัญญาณได้ กลับกัน แม้ตอนนี้ผมจะอายุยี่สิบแปด แต่หน้ายังเด็กละอ่อนกว่าหมอนี่เยอะ เรียกว่าหน้าเด็กที่สุดในกรมก็คงไม่ผิด อีกทั้งเมื่อก่อนก็มีผลงานในการเป็นนกต่อมากมาย เขาจึงต้องขอร้องให้ผมช่วยเหลือ และกว่าผมจะรับปาก ก็ทำให้เขาแทบหมดความอดทนควักปืนมายิงหลายต่อหลายครั้ง

“ขอเตือนในฐานะรุ่นพี่ไว้อย่างนะ...”

เพราะเขาทำให้ผมหัวเราะได้ในรอบหลายปี จึงต้องตอบแทนสักหน่อย

“รุ่นพี่ที่ป่านนี้ก็ยังไม่ได้เลื่อนยศน่ะเหรอครับ”

หึ...ไอ้เด็กนี่มันจี้เส้นจริงๆ ว่ะ

ผมดูดบุหรี่แรงๆ ก่อนจะพ่นควันใส่หน้าไอ้เด็กอวดดี เรียกเสียงไอเบาๆ ชวนให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อย

“ยิ่งสูงยิ่งหนาว...ถ้าไม่อยากถูกเด็ดปีกก็อย่าทำตัวเด่นมากนัก จำไว้ไอ้หนู”

ว่าพลางเอื้อมมือตบข้างศีรษะเลียมสามทีอย่างเวทนา ก่อนจะกระชับเสื้อโค้ทกันลมเดินผละออกไปโดยไม่หันหลังกลับ เชื่อว่าตอนนี้เจ้าเด็กเลียมคงหัวเสีย และอาจจะเลิกเอาของมาให้ผมสักที  ไอ้เด็กนี่มันโรคจิต โดนตอกกลับก็ยังวิ่งเข้าหาเหมือนกระหายชัยชนะ ทำให้ชีวิตว่างสุดกู่ของผมถูกทำลาย

แต่หลังจากนี้คงสงบสุขเหมือนเดิม

...เป็นหมาหัวเน่า

ผมหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อคิดถึงตรงนี้ ก่อนจะเหลือบตามองภาพสะท้อนจากเงากระจกของร้านข้างทาง ภาพที่ฉายชัดคือชายหนุ่มรูปร่างผอมบางไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่น ผมสีบลอนด์ซีดไม่เป็นทรงราวไม่ได้ไปร้านตัดดีๆ หลายปี ใบหน้าซูบตอบ ตาสีขี้เถ้าลึกโหล ดูเหมาะกับการเป็นนกต่อในสายอาชญากรรมสุดๆ

หลายครั้งที่เห็นภาพนั้นผมมักอดถามตัวเองไม่ได้

นั่นใคร...

ก่อนคำตอบจะปรากฏออกมาในเสี้ยวนาที

นั่นคือ...

“คุณเจย์เดน?”

ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็มีมือปริศนาวางบนไหล่ พร้อมเสียงกระซิบข้างหูคล้ายเป็นเชิงถามแต่น้ำเสียงกลับมั่นใจสุดๆ จากภาพสะท้อนเผยให้เห็นเด็กหนุ่มอายุราวยี่สิบต้นๆ ยืนซ้อนหลังผม ทำท่าราวจะโอบกอดในอากาศหนาวจัดของช่วงเกือบสิ้นปี

โอเค ผมยอมรับว่าชอบความอบอุ่นนั้น เพราะคนที่วันๆ เอาแต่สูบบุหรี่และดื่มเหล้ามีสุขภาพย่ำแย่สุดๆ เวลาเดินท่ามกลางถนนขาวโพลนหลังหิมะตกเป็นอันต้องตัวสั่นทุกที

เสียอย่างเดียว...

“นายเป็นใคร”

ผมไม่รู้จักหมอนี่!

เด็กหนุ่มเบิกตาเล็กน้อยเมื่อผมหันไปเผชิญหน้า แต่กระนั้นก็ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ หล่อกว่าไอ้เด็กเลียมที่ได้ชื่อว่าเนื้อหอมที่สุดซะอีก

“จำผมไม่ได้เหรอครับ...จริงสิ มันผ่านไปตั้งเจ็ดปี”

อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มขื่น ดวงตาประกายผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นก็รีบยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะถอดผ้าพันคอตัวเองมาคล้องให้ผมเมื่อการยืนขาแข็งนานๆ ทำให้หน้าเริ่มซีด

เจ็ดปี?

ผมสะท้านในอก เพิ่งรู้สึกว่าผมสีจินเจอร์แฮร์นั้นคุ้นตาไม่เบา เจ็ดปีที่แล้ว ตัวผมในตอนนั้นช่างแตกต่างจากตอนนี้ เป็นเหมือนเลียม มีความหวัง มีความฝัน และมีความมุ่งมั่นที่พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง

นึกแล้วช่างน่าอาย...

“ผม...คาร์เรย์ แอคเวล เด็กที่คุณช่วยจากคดีไฟไหม้เมื่อเจ็ดปีก่อนไงครับ”

วูบหนึ่ง ราวมีประกายแสงชำแรกความเฉยชา เรียกคืนความรู้สึกเมื่อหวนถึงอดีต

“นาย...นายเองเหรอ!?”

หากเลียมมาเห็นผมตอนนี้คงตกใจ เพราะผมไม่เคยยิ้มกว้างด้วยความดีใจขนาดนี้ และไม่เคยแสดงท่าทีลุกลนอย่างตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน

คดีไฟไหม้นั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันลืม เพราะมันคือคดีแรกนับตั้งแต่ผมสมัครเป็นตำรวจตามรอยผู้เป็นพ่อ เป็นคดีที่ผมได้รับคำชื่นชมอย่างที่สุด เป็นใบเบิกทางในอาชีพสายนี้ที่ทุกคนต่างจดจำ

ผมสามารถช่วยชีวิตเหยื่อจากเหตุฆาตกรรมอย่างไม่กลัวตาย ชนิดที่ว่าถ้าเป็นตัวผมในตอนนี้คงไม่มีวันบ้าบิ่นได้ขนาดนั้น ต้นแขนขวาผมยังมีรอยแผลไฟไหม้อยู่เลย และเมื่อสังเกตดูชัดๆ อีกฝ่ายยามไร้ผ้าพันคอเองก็มีรอยแผลไฟไหม้ช่วงลำคอที่ลากไล้ไปด้านหลังภายใต้สาบเสื้อ เป็นสิ่งยืนยันอย่างดี

หลังเหตุการณ์นั้นเด็กที่รอดตายมาได้ต้องเข้าห้องไอซียูหลายวัน ซึ่งผมก็ตามเฝ้าทุกวันหลังเลิกงาน ไม่อยากให้คนที่ตัวเองแลกชีวิตช่วยตกตายไปทั้งอย่างนั้น จึงเฝ้าสวดภาวนาไม่ให้ชีวิตน้อยๆ ถูกปลิดไปตามพ่อ แม่ และพี่สาวที่โดนฆาตกรใจหยาบฆ่าทิ้งแถมยังจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม

ความพยายามของผมเป็นผล ในวันที่สาม เด็กชายเริ่มมีสติ ผมจึงสามารถตามไปเฝ้าในห้องผู้ป่วยสักที ผมชวนคุย ชวนเล่น ชวนทำทุกอย่างให้เด็กน้อยหายโศกเศร้า แถมยังช่วยติดต่อหาญาติคนอื่นๆ เพื่อมารับไปเลี้ยงดูอีกด้วย

จนกระทั่งผ่านไปสองสัปดาห์ ญาติซึ่งไม่อาจมีลูกได้ก็ยินดีมารับเด็กชายเป็นลูกบุญธรรม ก่อนจะพาไปอยู่ด้วยอีกเมืองหนึ่ง ผมและเขาจึงไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็ยังจดจำได้ดี เขาคือความทรงจำที่สำคัญของผม เป็นความภาคภูมิใจเดียวที่ผมสามารถยืดอกบอกคนอื่นได้ว่ารอยแผลไฟไหม้นี่คือแผลแห่งเกียติยศ

เพราะชีวิตหลังจากนั้น...

ไม่ต่างจากนรกทั้งเป็น!

“ในที่สุดก็ได้เจอ...” คาร์เรย์กอบกุมมือทั้งสองของผมไว้อย่างไม่กลัวจะถูกบุหรี่จี้ “คุณเจย์เดน ผมตามหาคุณมานานเหลือเกิน”
เขาเป็นคนเดียวที่ผมยอมให้เรียกชื่อจริงอย่างไม่อิดออด เพราะผมเป็นคนคะยั้นคะยอเองเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว

“นั่นสินะ...ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอนายในที่แบบนี้”

ผมเผยยิ้มขื่น ความดีใจแทนที่ด้วยความอับอาย เขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นผู้มีพระคุณกลายเป็นชายไร้ความสามารถ วันๆ เอาแต่ถอนหายใจทิ้ง สภาพโทรมแทบไม่เป็นคน ขนาดผมยังทุเรศตัวเองซะด้วยซ้ำ

คาร์เรย์เห็นผมเมื่อสมัยก่อนจากส่วนไหนของชายผอมโซคนนี้กันนะ

“ผมไม่มีวันลืมคุณหรอกครับ” ราวรู้ความคิด เด็กหนุ่มจึงคลี่ยิ้มบาง ทาบริมฝีปากบนหลังมือของผมอย่างอ่อนโยน “ผมไม่มีวันลืม คุณเจย์เดนคือผู้ช่วยชีวิต คือทุกสิ่งทุกอย่าง คือ...”

“คือ?”

จู่ๆ คาร์เรย์ที่สูงกว่าเกือบช่วงศีรษะโอบไหล่ผมพาเดินข้ามถนนไปอีกฝากฝั่ง

“ไปคุยกันต่อที่บ้านพักของผมกันเถอะครับ อยู่ใกล้ๆ นี่เอง คุณดูหนาวจะแย่แล้ว”

เพราะเป็นความจริง ผมจึงเดินตามอย่างว่าง่าย พอดีกับรถคุ้นตาของเลียมขับผ่านหน้าไป ผมเห็นดวงตาของไอ้เด็กเวรจ้องถลึงผ่านกระจกซะด้วยซ้ำ หมอนั่นคงคาดไม่ถึงว่าผมจะยอมให้ใครที่ไหนเดินจูงมือข้ามถนนแบบนี้
นึกแล้วมันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละ

ผมมองมือของคาร์เรย์ที่กุมแน่น ก่อนบีบกระชับจนอีกฝ่ายหันมามองผมอย่างแปลกใจ

“หนาวน่ะ...” ผมตอบอ้อมแอ้ม ไม่กล้าสารภาพว่ารู้สึกดีเหลือเกินที่ได้กอบกุมมือกับใครสักคนที่เชื่อใจ ตัวผมตลอดเจ็ดปีมานี้ช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน

คาร์เรย์ยิ้มกว้าง ดวงตาประกายระยับ ผมเพิ่งสังเกตว่าเขามีตาสีเขียวอมเทา แลดูอ่อนโยนไม่ต่างจากท่าทางแสนสุภาพและเป็นกันเอง

“คุณเจย์เดน”

“หือ?”

“วันนี้...ค้างที่บ้านผมนะครับ”

น่าแปลก เป็นครั้งแรกที่ผมไม่อยากกลับไปห้องพักเก่าโทรมราคาไม่กี่หลักของตัวเอง...ห้องที่มีผมเพียงคนเดียว ไร้ซึ่งความทรงจำสำคัญใดๆ มีเพียงการแค่กิน อยู่ นอนหลับ ไม่มีจุดมุ่งหมายโดยสิ้นเชิง

เทียบกันแล้วผมอยากฟังเรี่ยวราวของคาร์เรย์มากกว่า อยากรู้ว่าหลายปีมานี้เขาเป็นอย่างไร เขายังคงเป็นเด็กน้อยน่ารักที่เรียกชื่อผมเจือแจ้วอยู่หรือไม่

ยังคง...ชื่นชมผม ยังเชื่อมั่นในตัวผมอยู่ใช่มั้ย

ตัวผมที่ไม่มีอะไรเลยคนนี้

“เอาสิ”



...แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นผมที่เล่าจ้อซะได้

“ไอ้หมอนั่น...เพื่อนรักของพ่อ...มันป้ายสี มันกล่าวโทษพ่อ จนพ่อต้องฆ่าตัวตาย!”

ทำไมถึงกลายเป็นผมที่ฟูมฟาย?

“พ่อไม่ต่อต้าน ไม่แม้แต่จะโต้แย้ง ทำไม...ทำไมถึงไม่ทำอะไร แต่กลับเลือกที่ผูกคอตาย ทิ้งเพียงจดหมายแค่คำว่า ‘ลาก่อน’ ฮึก...เราเหลือกันแค่สองคน ยากจนแค่ไหนก็มีความสุข ฉันเลือกเป็นตำรวจก็เพราะพ่อ ตั้งใจทำงานขนาดนี้ก็เพราะพ่อ แต่สุดท้าย...เพื่อนรักที่สุดก็หักหลัง พรากเอาทุกอย่างไปจากฉัน!”

อ่า...ภาพตรงหน้าช่างพร่ามัวเหลือเกิน คาร์เรย์นั่งตรงข้ามผม ในมือถือขวดเหล้าคุ้นตา

นั่นต้องเป็นสาเหตุที่ผมร้องไห้เป็นบ้าอยู่แน่ๆ

แม้รู้ดีผมก็ยังจมดิ่งในห้วงอดีต หลังจากคาร์เรย์ถูกพาตัวไป ผมก็มีชีวิตอย่างภูมิใจแค่หนึ่งปีเท่านั้น...ก่อนจะต้องหนีหัวซุกหัวซุน เพราะจู่ๆ คดีค้ายาในระบบราชการกลับถูกป้ายสีมาที่พ่อ...ทั้งที่ผู้ทำคือเพื่อนรักของท่าน คนที่เคยรักผมไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ของตัวเอง แน่นอนว่าตอนนั้นผมยังเป็นเด็กหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยความฝัน เชื่อว่าความยุติธรรมจะจัดการทุกอย่าง

เชื่อว่าท้ายที่สุดพ่อผมจะได้รับการปลดปล่อย

แต่แล้ว ในวันที่ตำรวจเข้าจับกุม สิ่งที่พบกลับมีเพียงร่างไร้วิญญาณของพ่อที่ตาเหลือกน้ำลายฟูปาก คอหักพับเล็บจิกงอ เป็นสภาพการตายอย่างทรมานของการขาดอากาศหายใจ

จนตอนนี้ภาพนั้นยังปรากฏชัด สิ่งแรกที่รู้สึกคือความเสียใจ...แน่นอน ผมเสียใจแทบบ้า และยิ่งเสียใจเมื่อจดหมายลาตายไม่มีอะไรกล่าวถึงผมเลย ผมเป็นลูกพ่อไม่ใช่เหรอ? ผมทำตามพ่อทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดผมกลับถูกทิ้ง ไม่มีแม้คำลา ราวกับตัวตนของผมสำหรับพ่อไม่ได้สำคัญแม้แต่น้อย

คำว่าลาก่อนนั้นมอบให้ใครกันแน่!

ในงานศพ เพื่อนรักของพ่อมาร่วมงาน คดีถูกปิดลงตั้งแต่พ่อผมฆ่าตัวตาย ทางการยืนยันว่านั่นคือการหนีความผิด แต่ผมรู้ดีว่าไม่ใช่ ทว่ากลับไม่อาจหาหลักฐานเอาผิดได้ พ่อตายลง...ลบชีวิต ลบทุกสิ่งทุกอย่าง ผมได้แต่วิ่งไล่ในความมืดและความสิ้นหวัง ไม่ว่าจะไล่ตามเท่าไหร่ก็พบแต่ทางตัน

ก่อนเส้นทางนั้นจะถูกพังด้วยคำขู่ฆ่า ทำให้ผมต้องวิ่งย้อนกลับออกมาแบบหัวซุกหัวซุน

...ผมทำอะไรไม่ได้เลย

“ฉันหนี...หนีไปให้ไกล ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตัวฉันที่เฝ้าฝันเป็นตำรวจมาตลอดจะทำอาชีพอะไรกับเขาได้ สุดท้ายก็ต้องตายรังกับเรื่องเดิม...พบเจอการทรยศหักหลังในที่ๆ ทุกคนเชื่อว่ายุติธรรมที่สุด...”

ผมกรอกของเหลวในมือเข้าปาก ยิ่งสร้างความมัวเมาให้ทบทวี ในใจหวนนึกถึงอดีต

หลังจากที่ผมหนีมาจากเพื่อนรักของพ่อ ผมก็ไปสมัครเป็นตำรวจอีกเมืองหนึ่ง ที่นั่นให้การต้อนรับดี อีกทั้งผมยังมีผลงานดีเด่นติดตัว จึงได้รับความเอ็นดู แต่แล้ว...ผู้บัญชาการกลับถูกใจผม แน่นอนว่าผมขัดขืน และนั่นก็ทำให้เข้าใจความรู้สึกของพ่อครั้งแรกว่าการถูกป้ายสีเป็นยังไง...

ผมถูกจับเข้าคุกหนึ่งปีเต็ม ข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งที่สามารถประกันตัวได้ แต่กลับไม่มีใครช่วยเหลือ คนที่เอ็นดูผมนักหนา ต่างหนีหาย รุ่นพี่ที่เชื่อใจ กลับบอกว่าถ้ายอมไปแต่แรกเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ มันทำให้ทดท้อ หลังถูกปล่อยตัวออกมา ผมก็ถูกโยกย้ายทันทีเป็นการปิดปาก

แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน...ก็ล้วนพบเจอแต่การหักหลัง

ท้ายที่สุดเมื่อมาตายรังที่เมืองนี้ ผมจึงปล่อยสภาพตัวเอง ไม่คบค้ากับใคร ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่สนใจ ได้เรียนรู้ว่าการทำให้คนเกลียด บางครั้งกลับปลอดภัยยิ่งกว่าการทำให้คนชอบพอเสียอีก

ทุกสิ่งทุกอย่างช่าง...

“มันเน่าเฟะ...เน่าเฟะ!”

ผมกระแทกแก้วกับโต๊ะอย่างแรง คล้ายได้ยินเสียงเพล้ง คาร์เรย์ผุดลุกอย่างตกใจ

“ชู่...อย่ากำเศษแก้วแบบนั้นสิครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อน ราวกำลังปลอบเด็กน้อยขี้แย ขณะเดียวกันก็พยายามยื้อแย่งบางสิ่งที่ทิ่มแทงเรียกให้สติของผมแจ่มชัดขึ้น “คุณเจย์เดน...คุณเลือดออกแล้วนะ”

“ช่างมันสิ” ผมตอบอย่างเฉยชา แต่ยังคงได้ยินเสียงสะอื้นของตัวเอง

“ช่างได้ยังไง คุณเป็นคนสำคัญของผมนะ ผมไม่ยอมให้คุณทำร้ายตัวเองแบบนี้หรอก” คาร์เรย์ว่าเสียงดุ แต่กลับเป็นคำต่อว่าที่น่ารัก...ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ อย่างน้อยตอนที่อีกฝ่ายก้มหน้าจริงจังเพื่อแงะเศษแก้วจากมือผม มันช่างช่วยปลอบประโลมใจที่กราดเกรี้ยวให้สงบลงอย่างบอกไม่ถูก

ไม่มีใครแสดงท่าทีเป็นห่วงผมจากใจจริงเช่นนี้มานานเหลือเกิน

ไม่สิ

ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คนที่ทำให้ผมยอมเชื่อว่า ‘หวังดี’ กับผมจริงๆ ช่างน้อยเหลือเกิน

“อ่ะ” คาร์เรย์เงยหน้าขึ้น สบตากับผมที่ยื่นหน้าไปพอดี แต่ผมไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่มองเขานิ่งๆ อย่างหาคำตอบเท่านั้น

“ผมไม่ทรยศคุณหรอกครับ” คาร์เรย์ยิ้มจาง ช่วยพันแผลที่มือของผมให้อย่างอ่อนโยน “ผมไม่มีวันทรยศคุณ”

คำนั้นช่วยย้ำเตือนถึงคำถามในใจ มันทำให้ผมสะท้อนในอกไม่ต่างจากความตื้นตัน

ทำไม...ถึงได้รู้ความในใจของผมกันนะ

ทำไม...ถึงได้กลับมาอีกครั้ง

ทำไม...ถึงยังบอกว่าผมเป็นคนสำคัญ

ผมหลับตาลงเมื่อคาร์เรย์เป็นฝ่ายโน้มหน้าเข้าใกล้ ก่อนสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากจะปัดเอาความคิดเหล่านั้นเลือนจางไม่ต่างจากถูกล้างสมอง

“เพราะผมรักคุณ...รักมานานแล้ว”


-------------------------

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวดาร์ก ดราม่า sm พอประมาณค่ะ
เป็นการลงนิยายครั้งแรกของเราเลย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!//ไม่รู้จะพูดอะไร ตื่นเต้นนน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2014 12:54:32 โดย ชมพูพาล »

ออฟไลน์ heroza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #2 เมื่อ18-07-2014 21:00:56 »

ขอมาเข้าร่วมสนับสนุนความSMค่ะ

รอติดตามๆ

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #3 เมื่อ18-07-2014 22:23:40 »

น่าสนใจ  :z1: :z1:

Minkexohh

  • บุคคลทั่วไป
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #4 เมื่อ18-07-2014 23:03:43 »

ติดตามๆ

ออฟไลน์ BlueJay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #5 เมื่อ18-07-2014 23:34:23 »

พอเห็นคำว่าSMความอยากติดตามพุ่งพรวดเลย :hao6:

ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #6 เมื่อ19-07-2014 00:51:39 »

ดราม่าคงไม่มากชิมิ SMไม่มีปัญหาจัดมาโลด แต่มาม่าเยอะๆมันจะทำให้ผมท้องอืด ฮือๆ

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #7 เมื่อ19-07-2014 07:30:04 »

ดราม่าได้อีกสุดๆๆๆเลยรอต่อนะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร
«ตอบ #8 เมื่อ19-07-2014 12:30:13 »

อุ๊ เริ่มเรื่องก็หดหู่ซะแล้ว

สงสารนายเอก  :mew6:

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Chapter 2 : “รัก...จนแทบคลั่ง”

“รัก...”

“รักมาก...”

“รักมากเหลือเกิน...”

“ผมรักคุณ...เจย์เดน”




เมื่อลืมตาอีกครั้ง คำบอกรักมากมายราวความฝันนั้นก็ยังติดตรึง

ถูกรักจนแทบหลอมละลาย…

ให้ตายสิ ผมไม่เคยรู้สึกราวถูกเติมเต็มเท่านี้มาก่อน ราวกับตายแล้วฟื้นขึ้นมาอีกครั้งยังไงยังงั้น

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

เมื่อพลิกตัวไปด้านข้าง ก็พบกับเด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้าทรงเสน่ห์ที่ยื่นหน้ามาจุ๊บเบาๆ บนริมฝีปาก ท่าทางแสดงความรักแบบเด็กๆ และรอยยิ้มเผล่เมื่อผมไม่ขัดขืนนั้นทำให้รู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างพูดไม่ถูก...ผมไม่นึกรังเกียจ แม้ความเจ็บปลาบที่ด้านหลังและเศษซากกระดาษทิชชู่รวมทั้งถุงยางซึ่งกระจายเต็มพื้นนั้นเป็นหลักฐานอย่างดี ว่าเมื่อคืน...ผมมีอะไรกับเด็กหนุ่มที่อ่อนกว่าผมถึงเจ็ดปี แถมเขายังเป็นคนที่ผมช่วยชีวิตจากกองเพลิง!

ผมเผลอลูบรอยแผลไฟไหม้ที่ลากไล่จากข้างลำคอขวาของเขาจนถึงช่วงไหล่เลยไปด้านหลังกว่าครึ่ง สำหรับคนอื่นอาจรู้สึกว่ามันช่างน่ากลัว แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช่างเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ คงไม่ต่างกับเขาที่เมื่อคืนพร่ำจูบแผลเป็นบนต้นแขนของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มันผิดรึเปล่านะ...เสี้ยวหนึ่งในใจทักท้วง หากแต่เมื่อถูกคาร์เรย์รั้งเอวเข้าไปกอดแนบอก กระซิบเสียงเบาว่าให้นอนต่ออีกสักครึ่งชั่วโมง ผมก็หลับตาอย่างว่าง่ายพลางปัดความคิดนั้นทิ้งโดยไม่ไยดี

ช่างมันเถอะ

ช่างมัน...ในเมื่อคาร์เรย์รักผม จะเป็นยังไงก็ช่าง ผมแค่ต้องการความรักนั้น ไม่งั้นเจย์เดน เวอแกนคงไม่ต่างจากร่างไร้วิญญาณเช่นเดิม ผมทนมามากพอแล้ว

อย่าให้ผมตื่นจากฝันนี้เร็วเกินไปก็พอ



“มือเป็นอะไร”

ภาพน่ารักน่าเอ็นดูของคาร์เรย์ที่ทำหน้าบึ้งเมื่อผมปฏิเสธไม่ให้มาส่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานแล้วกระซิบว่าวันนี้จะทำข้าวเย็นให้ทานถูกแทนที่ด้วยหน้าดุๆ ของไอ้เด็กเวรเลียม

ทำเอาอารมณ์ดีๆ แบบนานทีปีหนของผมหายลับไปกับตา

“ไม่ใช่เรื่องของนาย” ผมว่าพลางโคลงศีรษะไปอีกทาง เอาขาสองข้างวางพาดกับโต๊ะ เอนหลังนั่งด้วยสีหน้าผ่อนคลายแสนสบาย แน่นอนว่าหากมีคนมาเห็นย่อมถูกตำหนิ แต่โต๊ะของผมอยู่ในสุด แถมยังมีฉากกั้นอีกต่อ นั่นหมายความว่าผมจะนั่งทำทุเรศแค่ไหนก็ได้ ตราบใดที่ไม่มีใครเดินเข้ามาเห็น...อย่างไอ้เด็กเลียม

ความจริงหมอนี่ห่างจากผมแค่สามปี แก่กว่าคาร์เรย์ซะอีก แต่ที่ผมชอบเรียกมันว่าได้เด็กเวร ก็เพราะนิสัยของมันทำให้ผมนึกถึงตัวเองสมัยก่อน และอดนึกไม่ได้ว่าหากถึงจุดที่ถูกผลักตกลงมา ไอ้เด็กนี่จะตั้งตัวยังไง

แต่ทุกครั้งที่นึกได้แบบนี้ ผมเป็นต้องหงุดหงิดงุ่นง่าน เพราะเลียมเป็นลูกชายของผู้บัญชาการในเมืองนี้ ย่อมไม่มีทางโดนป้ายสียามมีความผิด เป็นแพะรับบาปอย่างที่ผมและพ่อโดนอย่างสมัยก่อนหรอก

หึ มันช่าง ‘เวร’ ดีจริงๆ!

“...จะพูดดีๆ ด้วยกันสักครั้งไม่ได้รึไงนะ”

วันนี้มาแปลกแฮะ

ผมเลิกคิ้วอย่างยียวนเมื่อไอ้เด็กเวรถือวิสาสะลากเก้าอี้มานั่งข้างผม แล้วยังถือแฟ้มคดีของปาร์ตี้มั่วสุมเมื่อวานส่งให้อีกด้วย

“คุณได้รับการชื่นชมมากนะ เบื้องบนเองก็พอใจมาก”

ผมไม่แม้แต่จะเปิดดูรายละเอียด เสริมต่อในใจว่าคนที่เป็นแพะรับบาปชั่วชีวิตอย่างผม กับอีแค่เป็นนกต่อเล็กๆ น้อยๆ นะง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะอีก ที่สำคัญ...ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์ชวนดึงดูดให้คนอื่นเข้าหา โดยเฉพาะกับคนเพศเดียวกัน ขนาดสภาพโทรมอย่างกับไม้เสียบผีแบบนี้แค่ยิ้มสักหน่อยก็มีคนยิ้มตอบกลับมาแล้ว เหมาะแก่การล้วงข้อมูลสุดๆ

และเมื่อวานก่อนที่ลิเดียจะเข้ามาให้ท่า ผมก็ไปติดต่อขอซื้อตัวอย่างยาจากเจ้าของห้อง รวมทั้งได้ข้อมูลผู้ค้ายารายอื่นๆ มาเพียบ แต่ไม่รู้ว่าไอ้การชื่นชมที่ว่า จะช่วยลดภาพลักษณ์ของผมที่ย่ำแย่สุดขีดของผมในตอนนี้ได้แค่ไหน

เพราะตอนย้ายมาประจำที่นี่ช่วงแรกๆ เสน่ห์ที่ว่าก็ทำให้ผมได้รับการดูแลอย่างดีจากพวกรุ่นพี่ ก่อนที่คนเหล่านั้นจะถูกผมปฏิบัติอย่างหยาบคายจนกลายเป็นเกลียดขี้หน้าไปเลย

ใช่...เกลียดน่ะดีแล้ว

แม้เมื่อวานจะโดนมอมเหล้าจนเมา เล่าอดีตของตัวเองให้คาร์เรย์ฟังซะเยอะ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมปิดปากเงียบ ราวจิตสำนึกสั่งให้เก็บกักในส่วนลึกที่สุด

เพราะเมื่อคืนไม่ใช่การมีอะไรกับผู้ชาย ‘ครั้งแรก’ ของผม

“...เขาเป็นใครเหรอ”

ผมเลิกคิ้วเมื่อจู่ๆ ไอ้เด็กเวรก็ถามลอยๆ เหมือนพูดกับอากาศ

“ผู้ชายคนเมื่อวาน...ที่จับมือคุณข้ามถนน เขาเป็นใคร”

หึ ไอ้เด็กนี่มันขยันทำให้ผมขำซะจริง!

“จะรู้ไปทำไม” ผมเอียงคอถามอย่างยียวน อันที่จริงท่านี้เมื่อบวกกับขอบตาคล้ำๆ แล้วจะน่าถีบมาก แต่เพราะเมื่อคืนผมนอนหลับเต็มตื่นในรอบหลายปี หน้าตาจึงดูสดชื่นกว่าเดิมเยอะ ทำให้ไอ้เด็กเลียมไม่ค่อยรู้สึกรู้สาเท่าไหร่

“คุณ...ดูสนิทสนมกับเขามาก”

“แน่ล่ะ” ผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “ก็เขาเป็น ‘คนรัก’ ฉันนี่”

“!!!”

ไอ้เด็กเวรลุกพรวด ก่อนจะเดินหนีไปโดยไม่หยิบแฟ้มคดีไปด้วย เห็นแล้วผมก็กลั้นขำแทบตาย หึ! เด็กเอ๋ยเด็กน้อย คิดว่าผมไม่รู้รึไงว่าการที่พยายามชวนคุยและชักชวนให้ผมทำคดีใหญ่เพื่อช่วยสร้างผลงานนั้นเพราะอะไร คงไม่มีคนโง่คนไหนซื่อบื้อขนาดไม่รู้ว่าการที่มีคนเข้าหาเกินจำเป็นทั้งที่มีคนเกลียดเป็นร้อยนั้น...คิดกับเขามากกว่าเพื่อนร่วมงาน!!

แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจเลียมหรอกนะ อย่างน้อยก็เพราะมีเขาอยู่นี่ล่ะ ผมถึงยังนั่งถอนหายใจทิ้งไปวันๆ แบบนี้ได้โดยไม่ถูกไล่ออกไปสักที

ทว่าเมื่อเทียบกับคาร์เรย์แล้ว...ฝ่ายหลังมีค่าทางจิตใจผมมากกว่า ถึงผมจะไม่รักเขา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีที่เขารักผม ฉะนั้นจึงไม่ลังเลเมื่อต้องยืนยันความสัมพันธ์

แล้วอีแบบนี้จะโดนเตะโด่งมั้ยนะ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้เลียมช่วยพูดกับเบื้องบนให้ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากไอ้เด็กเวรโดนหักอกโดยสิ้นเชิง จะแค้นแล้วหาเรื่องเด้งผมออกรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำยังไงดีนะ อืม...ผมทำอะไรไม่เป็นซะด้วยสิ หากเปลี่ยนไปนั่งถอนหายใจทิ้งที่บ้านของคาร์เรย์ คนรักของผมจะว่ามั้ยนะ

คาร์เรย์คงพูดเป็นเชิง ‘ดีเลยครับ ผมจะได้มีเวลากับคุณเต็มที่’ แหงๆ!

ขนาดจะมาทำงานเมื่อเช้า หมอนั่นยังเซ้าซี้แทบตายเหมือนห่างกันไม่กี่ชั่วโมงจะขาดใจอย่างนั้นล่ะ ตอนนั่งกินข้าวด้วยกันคาร์เรย์เล่าคร่าวๆ ว่าญาติที่รับเขาไปอยู่ด้วยนั้นมีฐานะดี ทำให้เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ นั้นกำลังฝึกงานเพื่อรับช่วงตำแหน่งประธานคนต่อไป...ไม่สิ ครอบครัวของหมอนี่ฐานะดีอยู่แล้วต่างหาก ที่โดนฆ่าทิ้งก็เพราะผลประโยชน์เรื่องทรัพย์สิน จนป่านนี้ก็ยังจับฆาตกรไม่ได้ เป็นคดีที่ค้างคาในใจผมมาตลอด

แต่มันก็ผ่านไปตั้งเจ็ดปีแล้ว

ผมโคลงศีรษะอย่างขอไปที ก่อนจะหยิบแฟ้มของเลียมว่าจะเดินไปให้สักหน่อย เพราะในเร็ววันนี้ไอ้เด็กเวรคงไม่กล้าโผล่หน้ามาหาเรื่องผมอีกแน่

แต่แล้วผมก็ต้องชะงัก...เพิ่งสังเกตว่าไอ้เด็กเวรถือหนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ติดมือมาด้วย

หน้าแรกนั้นพาดหัวข่าวตัวโตจนแทบแยงตา

แต่นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับภาพผู้ตายตอนมีชีวิตในกรอบเล็กๆ ข้างกับศพไหม้เกรียม

‘พิสูจน์แล้ว! ศพซึ่งถูกมัดและเผาทั้งเป็นเมื่อวันก่อนคือสารวัตรใหญ่xxx คาดว่าโดนฆ่าปิดปากเพื่อปกปิดรูปคดี อ่านต่อได้ที่...’
...เขาคือเพื่อนรักของพ่อที่ผมเพิ่งเล่าให้คาร์เรย์ฟังเมื่อคืน!!



“ถือซะว่าเขาชดใช้กับสิ่งที่ทำกับของพ่อของคุณไงครับ เจย์เดน”

คนรักแสนดีที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่หนึ่งวันก็ตกลงปลงใจถือสปาเกตตี้คาโบนาร่าสองจานออกจากห้องครัว กลิ่นหอมโชยทำให้ผมพลอยหิวไปด้วย แต่นั่นไม่ทำให้ผมเผลอยิ้มเท่ากับภาพคาร์เรย์สวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินเข้ม ท่าทางทะมัดทะแมง ไม่เหมือนชายหนุ่มสวมสูทผูกเนคไทค์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน

“อย่าสิ” ผมว่าอย่างไม่จริงจังนักเมื่ออีกฝ่ายถือโอกาสหอมแก้มระหว่างเสิรฟ์จานบนโต๊ะ คาร์เรย์หัวเราะรวน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

“เหมือนฝันเลย” คนรักเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง “คุณไม่รู้หรอกว่าผมตามหาคุณมานานแค่ไหน ผมรีบปรับตัวให้เข้ากับแม่บุญธรรมก็เพื่อจะได้มีเวลาหาคุณ รีบตั้งใจเรียนให้จบก็เพื่อจะได้มาใช้ชีวิตกับคุณ แต่ไม่ว่าจะหาที่ไหนก็ไม่พบ...ถ้าไม่จ้างนักสืบก็ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้จะได้เจออีกมั้ย”

คาร์เรย์พูดเป็นครั้งที่สิบ นับตั้งแต่ตอนเช้าที่เขาพร่ำบอกว่ารักผมมากมาย แม้จะผ่านไปเจ็ดปี แต่เขายังคงจดจำทุกอย่างของผม ไม่ว่าจะเป็นมือที่ช่วยอุ้มเขาจากกองเพลิง น้ำเสียงที่ช่วยปลอบประโลม หน้าตา ท่าทาง รอยยิ้ม หรือกระทั่งดวงตาที่จับจ้องเขาด้วยความห่วงใย ทุกอย่างล้วนหล่อหลอมให้คาร์เรย์ไม่อาจสลัดผมหลุดจากใจ และยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อแยกจาก

รู้ตัวอีกทีเขาก็ไม่อาจมองใครได้ลึกซึ้งเท่ามองผมอีกแล้ว

“แม่บุญธรรมของนายไม่ว่ารึไง”

ผมถามพลางใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตี้แก้เขิน ความรู้สึกของคาร์เรย์ท้วมท้นเกินกว่าจะรับไว้ แต่ผมก็ยินดีจะรับมาทั้งหมด ไม่มีใครทุ่มเทให้ผมเท่าเขาอีกแล้ว...กระทั่งพ่อแท้ๆ ยังไม่รักผมเท่าเขาด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นจะทิ้งผมไปได้ยังไง

“คุณแม่ไม่ว่าอะไรหรอกครับ” วูบหนึ่ง ราวดวงตาของคาร์เรย์แอบเก็บซ่อนความลับบางอย่าง ไม่ใช่ว่าแอบทะเลาะกันไปยกหนึ่งหรอกนะ “คุณไม่ต้องห่วงหรอก...ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีหน้ามาพบคุณ”

“หึ” ผมแค่นยิ้มขื่น ใครกันแน่ที่ไม่มีหน้ามาพบ จนตอนนี้ผมก็ยังอดสมเพชสภาพตัวเองไม่ได้ “นายคงผิดหวังเมื่อเจอฉัน”

“ผมดีใจต่างหาก” คาร์เรย์ยิ้มพลางใช้ส้อมจิ้มเบค่อนมาจ่อที่ปากของผม “คุณยังน่าหลงใหลเหมือนเดิม...เป็นเจย์เดน เวอแกนของผมคนเดียว”

...ช่างเป็นประโยคที่แสดงความเป็นเจ้าของจนผมรู้สึกอึดอัด

ไม่เพราะคนพูดคือคาร์เรย์ แต่เพราะประโยคนั้นทำให้ผมนึกถึงอดีตบางอย่าง

 “คุณคงไม่รู้หรอก” เมื่อผมไม่ยอมกิน คาร์เรย์ก็ยิ้มอย่างไม่ถือสาก่อนจะวกส้อมเข้าปากตัวเอง “ไม่เคยรู้...ว่าผมน่ะรักคุณมากแค่ไหน”

ดวงตาสีเขียวอมเทานั้นประกายวาวระยับ แม้จะกำลังเคี้ยวด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่รอยยิ้มมุมปากบนดวงหน้าหล่อเหลากลับชวนให้รู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัว

“ผมรักคุณ รัก...จนแทบคลั่ง!



มีบางอย่างผิดปกติ

ผมลืมตามองเพดาน อากาศหนาวจากภายนอกไม่อาจทำอะไรผมที่อยู่ในอ้อมกอดอุ่นของคาร์เรย์ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อวานหลับสนิทไปในอ้อมกอดนี้แท้ๆ แต่คืนนี้ผมกลับนอนไม่หลับ...ไม่ว่าจะข่มตาหลับแค่ไหนก็ไม่หลับ จนได้แต่เหม่อมองรอบข้าง คาร์เรย์หายใจเป็นสม่ำเสมอ มุมปากประดับรอยยิ้มจางแสนสุข

‘คุณไม่ต้องห่วงหรอก...ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีหน้ามาพบคุณ’

เขาทำตามที่พูดจริงๆ เช้าวันนี้ผมนึกว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ที่เขาจะมีเสื้อผ้าขนาดของผมเก็บเอาไว้ แต่ในวันนี้ตอนคาร์เรย์อาบน้ำ ผมก็รู้ว่าไม่ใช่...ตู้เสื้อผ้ากว่าครึ่งมีสำหรับของเขา...และของผม ของทุกอย่างล้วนมีเป็นคู่ แก้วน้ำ จานชาม แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ขนาดชั้นในก็ยังมีแยกไว้ราวกับเตรียมพร้อมเพื่อให้อยู่ด้วยกัน

เขายังไม่พูดออกมา แต่จากการกระทำในตอนนี้ก็เชื่อว่าผมคงไม่สามารถกลับไปห้องพักเก่าๆ ในเร็ววันนี้แน่

ผมควรรู้สึกยังไงดีนะ ควรจะดีใจรึเปล่าที่เขาทำให้ผมถึงขนาดนี้ แสดงความมุ่งมั่นว่าเขาจะไม่มีวันทรยศผม และพร้อมที่จะใช้ชีวิตด้วยกันไปตราบนานเท่านาน

ผมควรจะดีใจ

แต่ว่า...ท่าทางของเขาในช่วงมื้อเย็น กลับทำให้สัญชาตญานบางอย่างร้องเตือน!

ยิ่งได้อ่านข่าวซึ่งบอกถึงการตายของของเพื่อนรักพ่อ...การถูกเผาทั้งเป็น...ผมก็ยิ่งรู้สึกเย็นยะเยือกจนไม่อาจพูดคำใด...ก่อนจะขอใช้คอมพิวเตอร์ของเขาโดยอ้างว่าเล่นอินเตอร์เน็ตแก้เซ็ง แต่ความจริงสืบหาถึงคนรู้จักที่สังหรณ์ใจไม่ดีเอาซะเลย และก็จริงเสียด้วย ดูเหมือนว่าช่วงหนึ่งเดือนก่อนที่คาร์เรย์จะมาพบผม...นายตำรวจที่เคยร่วมงานด้วยในสมัยก่อนต่างตายราวใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะเป็นที่ที่ผมย้ายไปประจำแค่ไม่กี่เดือน หรือกระทั่งคนที่เคยลวนลามผมแค่ไม่กี่ครั้ง ต่างก็ถูกฆ่าตายด้วยสาเหตุหลากหลาย บ้างเป็นอุบัติเหตุ บ้างเป็นการการปล้นชิง บ้างก็โดนลูกหลง ทุกเหตุการณ์ล้วนแตกต่างทั้งที่ทางและความเกี่ยวเนื่อง หากไม่ใช่ผม...ก็คงไม่มีใครรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

‘ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว’

มันน่าเหลือเชื่อเกินไปว่าจะเป็นฝีมือของคาร์เรย์เพียงคนเดียว!

การที่เมื่อคืนวานเขามอมเหล้าผมก็เหมือนกัน...ตอนแรกผมนึกว่าเขาเพียงต้องการรู้เรื่องในอดีตของผมเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น แต่มานึกดูดีๆ...เมื่อคืนเขาถามราวรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่แล้ว เสียแต่ต้องการคำยืนยันจากผม คล้ายกำลังประมวลว่า ‘จัดการ’ ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่

ผมนึกดีใจเป็นครั้งแรกที่ไม่เผลอพูด ‘เรื่องนั้น’ ออกมา

เพราะท่ามกลางความตายนับสิบราย ผมไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อย เหลือเพียงความเวทนาที่ต้องมาตายด้วยวิธีการโหดร้าย แต่หากเป็นคนคนนั้น...ผมคงไม่ยอมง่ายๆ แบบนี้

ควรจะทำยังไงดีนะ

ผมควรจะถามเขาตรงๆ หรือจะยอมเก็บเงียบไว้แบบนี้ เพราะไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างก็ล้วนเป็นผลดีกับผมทั้งนั้น

ความเคียดแค้นในใจถูกบรรเทาลง...บ่งบอกว่าผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย

และผมเองก็ไม่อยากปล่อยมือจากความรักที่กองแทบเท้าเสียด้วย

ไม่เป็นไรหรอก...

ผมพยายามปลอบตัวเอง อย่างไรเสียทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว ผมไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ และไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าถ้าย้อนกลับไป ผมจะห้ามไม่ให้คาร์เรย์ลงมือรึเปล่า

ไม่เป็นไร...

ผมพยายามข่มตา ซุกหน้ากับอ้อมกอดอุ่นที่ไม่มีวันทำร้ายตัวเอง

ใช่...ตราบใดที่เขารักผม ก็ไม่เป็นไรหรอก...


-----------------------

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ อ่านคอมเม้นแล้วดีใจ เพิ่งลงนิยายในเล้าครั้งแรกเลย  :o8:
เรื่องนี้มีชายหนุ่มหล่อๆ ให้เลือกสองคนค่ะ
หล่อใสกวนตีนยุติธรรมอย่าง "เลียม"
กับหล่อยันฯรักมั่นแต่โหดแท้ อย่าง "คาร์เรย์"
แต่ไม่ว่าจะเลือกใครเจย์เดนก็ได้กินหญ้าอ่อนอยู่ดี น่าอิจฉาแต้ๆ  :hao5:
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ มาร่วมกันฝ่าฟันไปพร้อมกับหนุ่มๆ ทั้งสามกันเถอะ! ย่ะ!!   :fire:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2014 12:58:44 โดย ชมพูพาล »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มณีอัปสร เทมาวี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบคาร์เรย์ แบบ ชอบคนโหดรักมั่นอ่าาาาาาา
อีกอย่างคาร์เรย์ดูจิตดี :z1:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รักจนคลั่ง รักคนเดียว คนอื่นฆ่าทิ้ง! แต่คุณต้องอยู่กับผม เป็นของผม
ชอบจัง อารมณ์แบบนี้  :-[ :-[

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ละ เลือกไม่ถูก  :jul1:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
หล่อยันฯรักมั่นแต่โหดแท้ อย่าง "คาร์เรย์" เลือกคนนี้

มันชวนลุ้น ชวนเสียว ชวนระทึกดีจริงๆ

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คาร์เรร์ นายนี่จิตอะ :sad4:
สงสัยค่ะ คนที่นายเอกชอบนี่ใคร
ที่เขาไม่ยอมให้แตะต้องอะ

ออฟไลน์ yongsulewa

  • 나는 상처를 줬어.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Aly-Q

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ต้องชอบหล่อยันฯรักมั่นสุดโหด คาร์เรย์ อยู่แล้ว
มาต่อไวๆนะ

ตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ Zliezen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
รักจนแทบคลั่ง.....ดูโรคจิตมากอ่ะ แต่ชอบ

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
ดูท่าแล้วนายเอกเรื่องนี้คงไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ

เพราะเขาว่ากันว่า 'กินเด็กแล้วเป็นอมตะ'  :m20:

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
ว้าวววววว! ผมหาแนวฆาตกรรมแบบตะวันตกแบบนี้มานานแล้ว ชอบมากครับ สัญญาว่าจะติดตามไปจนจบ
เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูโคนันเลย ซับซ้อนดี
ภาษาคนแต่งดีมากครับ พรรณนาออกมาได้เห็นภาพ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นักเขียนส่วนใหญ่อยากทำให้ได้ แต่ไม่ค่อยสำเร็จนัก ซึ่งคนเขียนทำมันได้อย่างงดงามมากครับ
อยากให้คนเขียนบอกหน่อยได้ไหมครับว่าเหตุการณ์เกิดประเทศไหน ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ประเทศไทยละ
มีจุดเล็กๆ ที่ขอเสนอความคิดเห็นหน่อยนะครับ
คนเขียนใช้คำซ้ำค่อนข้างเยอะ เช่นคำว่า แต่ ทั้งที่ และ โดย กับ ซึ่ง ตราบเท่า...
ทำให้เวลาอ่านรู้สึกขัดใจหน่อยหนึ่ง แต่โดยรวมยังถือว่าสนุกมาก กับแนวเรื่องแบบนี้ ^ ^
อ้อ เพิ่มเติมอีกนิด
คาเรย์ กับเจย์เดน กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วรักกันเลย หมายความว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแฟนกันเหรอครับ ผมงงนิดหน่อย
ไม่เข้าใจว่าเจย์เดนไวไฟไปไหม แบบแค่นี้ก็ตามเขาไปเสียแล้ว
มาต่อไวๆ นะครับ ผมรออ่านอยู่ วู้ฮู


มีคำผิดนะครับ

Chapter 1

1.ไม่ใช่พิสวาท แต่เพราะไม่อยากเห็นเจ้าหล่อนแสร้งเดินผ่านเป็นครั้งที่สี่ และนั่นก็ทำให้เด็กสาวเผยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าหาผมราวพร้อมตระครุบเหยื่อ
- พิศวาท กับ ตะครุบ

2.ก่อนจะกำชับเสื้อโค้ทกันลมเดินผละออกไปโดยไม่หันหลังกลับ
- กระชับ

3.ผมสะท้อนในอก เพิ่งรู้สึกว่าผมสีจิงเจอร์แฮร์นั้นคุ้นตาไม่เบา
- สะท้าน กับ จินเจอร์


Chapter 2

1.ถ้าไม่จ้างนับสืบก็ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้จะได้เจออีกมั้ย
- นักสืบ

2.ต่รอยยิ้มมุมปากบนดวงหน้าหล่อเหลากลับชวนให้รู้สึกเย็บเยียบไปทั้งตัว
- เย็นเยียบ


+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ  :L2:

ออฟไลน์ Firebird

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เลือกคาเรย์ ดีกว่า โหดแต่ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
แต่อาจเพราะบทเลียมยังน้อย ตอนนี้ยังไงก็ขอเลือกคาเรย์ก่อน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ตอนแรกชอบเลียม
แต่ไปๆมาๆชอบคาร์เรย์ละ ชอบเด็กโหด  :-[

ออฟไลน์ pattyyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบคาร์เรย์ ชอบพระเอกจิตๆ  :z1: แต่ก็สงสารเลียม เอาเป็น 3P ได้ไหมนิ 555555555 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ชอบพระเอกจิตๆเหมือนกัน เร้าใจดี ชอบบบบบบบ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เหมือนชื่อเรื่อง
กำลังจะบอกว่า เป็น คาร์เรย์ นะ  :katai5:
ปล.เดาถูกป่าวหว่า? ติดตามครับ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ส่วนคิดว่าเรื่องที่เจย์เดนปิดไว้คาร์เรย์น่าจะรู้อยู่แล้วแน่ๆ
ว่าแต่ใครคือตัวละครปริศนาตัวนั้นนะ?
ปล.ตอนเธอกอดฉัน หัวใจเธอกอดใครที่รัก~♫
                   
                           ขับร้องโดย "คาร์เรย์"

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
รักจนแทบคลั่งซึ่งสุดๆๆๆ

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ชอบคาเรย์
แต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า หรือเพราะอ่านแนวพวกนี้อยู่แล้ว
ตอนจบบถ้าไม่ใช่คาเรย์ตาย หรือนายเอกตาย ก็เลียม ผู้แสนดีเป็นพระเอกแทน =_=;;

แบบกลางๆเรื่องนายเอกจะหวั่นไหว สับสน ตีตัวห่างจากพระเอกไปอยุ่กับพระรอง

อืมมมม.......เอาเป็นว่าเอาใจช่วยคาเรย์ละกันค่ะ
ขออย่าให้เป็นแบบที่เคยอ่านๆมาเลย ไม่งั้นคงทำใจไม่ได้

แต่ชื่อเรื่องก้บอกอยุ่แล้วนี่เนอะ ว่าใครเป้นพระเอก
แฟนผมเป็นฆาตกร.....><

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด