- The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร [แจ้งข่าว P.15 : 02/06/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - The Murderer- แฟนผมเป็นฆาตกร [แจ้งข่าว P.15 : 02/06/61]  (อ่าน 114933 ครั้ง)

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
พ่อหนุ่มเมอเดอร์ของเฮาบทน้อยไปนี๊ดดดด

แต่สนุกมากค่ะ o13

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
สนุกสนานมากมายรอติดตามต่อนะเรฟๆๆๆ

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Chapter 5 : “ผมเลยไม่ฆ่า...ไงครับ”

วันนี้เลียมไม่มาทำงาน

ตอนแรกผมคิดว่าเพราะเขาถูกพ่อตำหนิ เรื่องที่ยอมเอาใจผมขนาดสำเนาเอกสารราชการ อาจพ่วงเรื่องชอบผมจนไม่แยกแยะสิ่งที่ควรทำ แต่เมื่อเขากลับมาทำงานในตอนเที่ยง แถมยังชวนผมไปทานข้าวด้วยกัน ผมก็รู้ว่าคิดผิด

“เมื่อคืนพ่อผมประสบอุบัติเหตุ”

เลียมเล่าระหว่างสั่งอาหารที่ร้านข้างกรมตำรวจ มีหลายคนทักเขาอย่างสนิทสนม และถามถึงอาการของท่านผู้บัญชาการ ซึ่งเลียมก็แต่ได้ตอบว่าหายห่วง และส่งสัญญาณมือเป็นเชิงอย่ารบกวน เพราะผมเริ่มทำหน้ามุ่ยทุกทีตามประสาคนไร้ปฏิสัมพันธ์

“เห็นว่าถูกขว้างหินใส่จนกระจกแตกเซตกข้างทาง ยังดีที่ไม่คว่ำ แค่มึนๆ หัวแตกเย็บเกือบยี่สิบเข็ม แต่แก่ปูนนี้แล้วจะใจร้ายให้มาทำงานก็ยังไงอยู่ แม่เลยบังคับให้พ่อนอนพยาบาลดูอาการอีกสองวัน ทำเอาเมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอนเลย”

ว่าจบไอ้เด็กเวรก็มองหน้าผมเหมือนอยากจะอ้อน นี่คิดว่าทำหน้าเหนื่อย หางตาตก สภาพโทรมแค่คืนเดียวจะเรียกคะแนนสงสารได้รึไง ท่าทางอุบัติเหตุเมื่อคืนจะทำให้ท่านผู้บัญชาการลืมเตือนลูกชายตัวดีสินะว่าควรเลิกป้อล้อผมสักที

“แล้วจับคนที่ขว้างหินได้รึเปล่า”

เลียมเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อผมดูเป็นห่วงพ่อเขามากกว่าที่คิด

“ไม่ได้หรอก ก็เล่นปาแล้วชิ่ง พ่อเองก็เซแท่ดๆ ซะขนาดนั้น อย่าว่าแต่ดูทะเบียนรถเลย แค่จะลืมตาก็ยังลืมไม่ขึ้น กล้องวงจรปิดเองก็จับไม่ได้ คาดว่ามีการเตรียมการอย่างดี คงเป็นพวกมืออาชีพที่รับจ้างทำร้ายคนไม่ชอบขี้หน้า เป็นหนึ่งในคู่กรณีของพ่อแหงๆ”

น่าแปลก ที่ผมนึกถึงคาร์เรย์เป็นคนแรก

เมื่อคืนหลังจากร้องไห้จนน้ำแทบหมดตัว ผมก็ถูกคาร์เรย์รีดน้ำอีกต่อจนสลบเหมือด จิตใจและร่างกายอ่อนล้าสุดขีด แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกตัวตอนโทรศัพท์ของเขาดัง คาร์เรย์จูบหน้าผากผมก่อนจะเดินออกไปคุยข้างนอก แม้จะไม่ได้ยิน แต่ผมรู้ดีว่าโทรศัพท์กลางดึกย่อมไม่ใช่เรื่องงาน

แต่เป็นเรื่องส่วนตัว...

“เจย์เดน ไม่ยักรู้นะว่าคุณห่วงพ่อผมขนาดนี้” ไอ้เด็กเวรเริ่มนิสัยเสียเมื่อเห็นผมเงียบไปนาน แถมยังมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าแปลกๆ ผ่านไปไม่ถึงวัน ดูท่าไอ้เด็กนี่จะลืมซะแล้วว่าเพิ่งอกหัก

“เวอแกน” ผมแก้อย่างเหนื่อยหน่าย “เลียม ถามจริงเถอะ นายชอบเป็นมือที่สามรึไง ถ้าพ่อนายรู้ฉันจะซวยเอานะ”

“ใครว่าผมเป็นมือที่สาม” ไอ้เด็กเวรเลิกคิ้วทำหน้าใสซื่อ นับวันยิ่งน่าถีบ “ผมเป็นเพื่อนกับคุณต่างหาก แล้วพ่อผมเกี่ยวอะไรด้วย จริงสิ รถพ่อผมจอดแถวที่พักของคุณเลยนี่...อย่าบอกนะว่าพ่อรู้เรื่องเมื่อวานแล้ว!?”

ผมตบหัวไอ้เด็กเวรแทบไม่ทันเมื่อร้องอุทานซะลั่น อยากให้คนทั้งร้านรู้ไปด้วยรึไงวะ

“เออ ไอ้ห่วย” ผมต่อว่าอย่างไร้ความปราณี ก่อนจะเสริมต่อไปยก “แถมยังขู่ว่าจะย้ายฉันไปที่ทุรกันดานเพื่อดัดนิสัยนายด้วย ไม่ทราบว่า ‘เพื่อน’ เลียมจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงล่ะครับ”

บอกแล้วว่าเสริม ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคำเพิ่มขึ้นมาจากความจริง เล่นเอาไอ้เด็กเวรหน้าเสียไปครู่ใหญ่

“แย่ล่ะ พ่อพูดจริงทำจริงซะด้วย”

ไอ้เด็กหงอพ่อเอ๊ย!

“โอ๋ๆ อย่าโกรธผมสิ เรื่องแค่นี้ผมจัดการสบายมาก แค่สร้างผลงานสักหน่อยพ่อก็ยอมอ่อนให้แล้ว อืม...งั้นเริ่มจากการจับมือปาหินก่อนเป็นไง ถ้าจับได้พ่อต้องปลื้มมากแน่ๆ”

ผมแอบสะดุ้งในใจ

“เหอะ ไอ้ห่วยอย่างนายน่ะเหรอ”

“โอเค ผมยอมรับว่าเมื่อวานรีบไปหน่อย แถมคุณยังเร่งให้เอามาภายในสิบนาที ถูกจับได้ก็สมควรแล้ว แต่ทำงานร่วมกันมาตั้งปี คุณก็น่าจะรู้นี่ว่าผมตามสืบเรื่องพวกนี้เก่งแค่ไหน”

ความเงียบของผมไม่ต่างจากการยอมรับกลายๆ เลียมได้เลื่อนยศเร็วมาก เพราะเขามีความสามารถในการจัดการ การตามสืบ การจับจุด และการสังเกตที่เยี่ยมยอด หากตั้งใจจริงๆ ก็สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์หลายอย่างได้ทันที ถ้าเป็นมิตรนับว่าเพื่อนแท้ แต่ถ้าเป็นศัตรูนับว่าอันตราย

“ทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ผมตามสืบเรื่องนี้เลยนะ คุณรู้รึไงว่าใครเป็นคนลงมือ”

นั่นไงล่ะ ไม่ทันไรไอ้เด็กเวรก็เริ่มจับสังเกตผมได้แล้ว

“ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ” ผมถามทีเล่นทีจริง พิสูจน์ใจไปเลยว่าเลียมจะเอายังไงกันแน่

“งั้นผมก็ไม่สืบ” ผิดคาด ไอ้เด็กเวรยอมวางมือ แถมยังเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลายอีกต่างหาก “ถ้าผมทำผิดเพื่อปกป้องคุณอีกต้องโดนพ่อฆ่าทิ้งแน่ ในเมื่อเป็นแบบนั้นสู้ไม่รู้อะไรเลยยังดีกว่า เฮ้อ...อากาศดีนะว่ามั้ย”

...ไอ้เด็กเวรเอ๊ย!

ผมมองเลียมที่เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วแล้วคาดเดาอารมณ์มันแทบไม่ทัน แต่หมอนี่ก็นับเป็นคนจริงคนหนึ่ง ไม่กลัวอะไรเหมือนผมแต่ก่อน หรือเรียกอีกอย่างว่าใจกล้าหน้าด้าน ฉะนั้นยังพอเชื่อถือคำพูดได้บ้าง

“นี่...เรื่องที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันผมเอาจริงนะ”

ระหว่างนั่งเงียบๆ ชมบรรยากาศไปพลาง กินอาหารไปพลาง ไอ้เด็กเลียมก็พูดออกมาลอยๆ

“นายจะทำได้จริงๆ รึไง” ผมย้อนอย่างยียวน แต่ในใจนึกนับถือว่าหมอนี่เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าคุยยาก แต่พอปรับความเข้าใจก็ยอมรับได้ง่ายดี

“เอาไว้ทำให้คุณเลิกกับแฟนสำเร็จ ผมค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ไง”

...ไอ้เด็กเวร!!




“ใช่ครับ ผมจ้างให้คนไปทำร้ายเขาเอง”

คาร์เรย์พูดเสียงนุ่มขณะหั่นเนื้อปลาย่างให้ผม ตอนนี้พวกเราอยู่ที่บ้าน กำลังเตรียมกินอาหารที่ถูกวางจนเต็มโต๊ะ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะอีกฝ่ายชวนผมทำอาหารด้วยกัน แต่เนื่องจากไม่รู้จะทำอะไร เขาจึงสั่งให้ลูกน้องไปซื้อมามั่วไปหมด พอมาลองทำก็เลยออกมามั่วไปหมดด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกทำง่ายๆ อย่างของทอด ไม่ก็พวกยัดทุกอย่างลงไปต้มในหม้อเดียว

“...ฉันบอกว่าไม่ต้องไม่ใช่เหรอ” ผมพูดอย่างไม่จริงจังนัก เพราะไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดจนเกินไป การที่คาร์เรย์ชวนผมเข้าครัวก็เพื่อให้ลืมเรื่องเศร้าจากเมื่อวาน แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะอาหารที่ผมทำให้เมื่อเช้ารสชาติแทบกินไม่ได้ ถึงจะเป็นแค่อเมริกันเบรกฟาสง่ายๆ ก็ยังทำไส้กรอกไหม้และขนมปังแข็งโป๊ก ผมซึ่งรู้สภาพตัวเองดีจึงตอบตกลงแทบไม่ทันเพื่อฝึกฝนฝีมือ เพราะภาพของคาร์เรย์ที่กินทุกอย่างจนหมดทั้งที่ไม่น่าจะกินได้นั้นทำให้ผมรู้สึกสะพรึงมากทีเดียว

“ผมเลยไม่ฆ่า...ไงครับ”

คาร์เรย์ยังคงยิ้มหวาน แถมยังหยิบซอสมะเขือเทศให้ผมอย่างรู้ใจ

ผมกล่าวขอบคุณเบาๆ ก่อนจะตักมีทบอลให้เขาบ้าง เรียกรอยยิ้มร่าจนหัวใจเต้นแรง คงเพราะวันนี้เขาควบคุมการทำอาหารทุกอย่าง จึงรับรองคุณภาพได้ว่ากินแล้วไม่ตายแน่นอน

คาร์เรย์เคยเล่าให้ฟังว่าเพราะแม่บุญธรรมของเขานั้นทำอาหารเก่ง เขาที่ต้องปรับตัวจึงพลอยได้ความสามารถนี้มาด้วย นับว่าเป็นข้อดีที่ผมชอบมากเลยล่ะ

“นายออกคำสั่งตั้งแต่ตอนไหน”

“ตั้งแต่ตอนที่คุณขอเข้าห้องน้ำ สีหน้าไม่ค่อยดีนั่นแหละครับ”

คาร์เรย์หมายถึงระหว่างทางกลับที่ผมให้เขาแวะร้านข้างทางสักที่ เพราะเด็กหนุ่มยกเลิกงานมาดักรอผม จึงหิวท้องร้องอยู่คนเดียว แน่นอนว่าผมเองก็สั่งของกินเล่นมาแก้เหงา แต่กินไปกินมาก็รู้สึกคลื่นไส้แปลกๆ จึงขอเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง
เป็นนิสัยแย่ๆ ของผมที่เครียดนิดหน่อยจะเริ่มปั่นป่วนกระเพาะ แต่ถ้าอาการหนักก็น้ำตาไหลท่าเดียว

“เพราะคุณบอกว่าไม่เกี่ยว ผมจึงไม่ทำอะไรมาก แค่ทำให้เจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ เหมือนที่เขาทำให้คุณเจ็บ”

เล็กๆ น้อยๆ ที่เย็บไปเกือบยี่สิบเข็มน่ะเหรอ!?

ผมไม่สามารถโต้แย้งตรรกะนั้นได้ เพราะอย่างไรเสียเขาก็ทำเพื่อผม และที่สำคัญ...เมื่อวานผมก็เจ็บมากจริงๆ
แม้จะไม่เกี่ยวกับพ่อของเลียม แต่ผมก็ไม่สามารถเอาอารมณ์ไปลงกับคนที่ตายไปแล้วได้ จะเรียกว่าพาลก็ช่าง ยังไงซะผมก็ไม่ใช่คนดี และพ่อของเลียมก็ใช่ว่าจะชอบหน้าผมซะเมื่อไหร่

อย่างน้อยก็ยังไม่ตาย...

“วันนี้คุณก็ดูสนิทสนมกับเลียมนะครับ”

จู่ๆ หัวข้อสนทนาก็ถูกเปลี่ยนกะทันหัน ทำเอาผมเกือบสักลักน้ำแกง

“ไม่มีอะไรหรอก หมอนั่นพูดเรื่องพ่อตัวเอง ฉันนึกในใจว่าคงเป็นฝีมือนาย ก็เลยเข้าไปตีสนิทเพื่อถามรายละเอียดน่ะ”

“มาถามผมก็ได้นี่ครับ” คาร์เรย์ตัดพ้ออย่างน้อยใจ สบตาจริงจังแต่กลับทำหน้าหงอย ดูอ้อนได้น่ารักกว่าที่ไอ้เด็กเวรทำเมื่อเช้าหลายเท่า

“ถามนายกับถามเลียม มันคนละคำถามกันนี่นา” ผมเลยปลอบโดยการหยิกแก้มใสๆ นั้นไปหนึ่งที ให้ตายสิ แก้มของเด็กอายุยี่สิบเอ็ดมันต่างกับคนแก่อายุยี่สิบแปดจริงๆ แฮะ

“จะต่างกันสักแค่ไหนเชียว” คาร์เรย์ยังคงบ่นอุบอิบ น่าแกล้งอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นคนอื่นผมคงทำทีเล่นทีจริง แต่พอนึกได้ว่าแค่ผมหน้าเปลี่ยน พ่อของเลียมก็หัวแตกไปคน ถ้าลามปามถึงคนลูกด้วยก็น่าสงสารไปแล้ว

“ฉันถามเลียมเรื่องการสืบหาตัวคนร้ายไง” ท้ายที่สุดผมก็ตอบตรงๆ “ถ้านายโดนจับไปฉันก็แย่น่ะสิ”

“แย่ยังไงเหรอครับ”

คาร์เรย์เริ่มอารมณ์ดี ถามผมด้วยความอยากรู้เหมือนเด็กๆ

“แย่ตรงที่ไม่มีคนบอกรักทุกวันไง”

โอย อายตัวเองชะมัด อายุปาจะสามสิบอยู่แล้วยังต้องมานั่งพูดพล่ามเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เหมือนเด็กวัยรุ่น แต่ดูเหมือนคำนั้นจะได้ผลดี เพราะคาร์เรย์ยิ้มกว้าง ดวงตาเผยความสุขเปี่ยมล้นจนผมเองก็เผลอยิ้มตามไปด้วย

...ในใจอุ่นวาบอย่างประหลาด

“ผมรักคุณ”

“รู้แล้วน่า”

“ผมรักคุณ”

“รู้แล้วไง”

“ผมรักคุณ”

คำบอกรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าในมื้ออาหาร ทำให้ทุกอย่างแทบกลายเป็นหวานเลี่ยน ตัวผมเองที่แม้จะพูดเป็นเชิงรับรู้อย่างขอไปที ก็ได้แต่หลบหน้าตั้งหน้าตั้งตากินอย่างระงับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวในใจอย่างเชื่องช้า…

คาร์เรย์เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้นับจาก ‘คนคนนั้น’ บางทีบาดแผลเมื่อหลายปีก่อนคงได้รับการเยียวยาแล้วจริงๆ

ผมคงเริ่มรักเขาเข้าแล้วจริงๆ...



-----------------------

ตอนนี้สั้นไปหน่อย...จะพยายามชดเชยคราวหน้านะคะ  :sad11:
ปล.คาร์เรย์จิตแต่รักจริง รักจริงจังมากๆ ซะด้วย...//แต่อย่างน้อยก็เชื่อฟังเจย์เดนนะ  :mew2:



ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
แหม่ จะว่าไปก็น่าอิจฉาเจย์เดนอยู่นะ คาร์เรย์รักมากขนาดนี้ แต่เอาแบบพอดีๆนะ คาร์เรย์จิตเกิน :laugh:
แต่ทั้งคู่ดูเหมาะกันดีนะ :-[

ลีลาวดี

  • บุคคลทั่วไป
คุณพี่เจย์เดน จะชิว ไปไหนค่ะเนี่ย
ขนาดสุดที่รัก ไปไฝว้กับเขามา คุณพี่ยังกินข้าว เฉย :ruready

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
คาเรย์เป็นพระเอกชิมิตามชื่อเรื่อง

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
คาร์เรย์น่ารัก :-[ แบบจิตๆ ชอบแหะ

เจย์เดน เป็นโชคนะ ที่ได้แฟนอย่างคาร์เรย์ 5555

ออฟไลน์ heroza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แล้วเมื่อไหร่จะบอกรักกลับนะ ท่าทางถ้าพ่อหนุ่มรักโหดได้ยินคงคลั่งรักมากกว่าเก่าเป็นร้อยๆเท่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
รักแบบจิตๆ แอบหลอน

แต่ก็ชอบ  :katai3:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
คาร์เรย์น่ารักแบบจิตๆดีนะ

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
 :ling1: :ling1: :ling1:ง่าาา :z3: :z3:มาต่อเร็วๆน๊าาาาาาา :katai4:ชอบมากๆเลยติดงอมแงม :katai2-1: :impress3:

ออฟไลน์ knightprince

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ชอบคาร์เรย์อะ ชอบมากกกก จิตๆ แต่น่ารักนะ รักจริงจังมากกกกก
เลียมก็น่ารักดี แต่ไม่ใช่แนว ต้องเจย์เดนกะคาร์เรย์เนี่ยแหละ สุดยอดดดด

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คาเรย์น่ารักอ่ะ>\\\\\<

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
แฟนข้า ใครอย่าแตะ :ruready

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ไม่ใช่แค่คาร์เรย์จิตนะ เจย์เดนก็จิต จิตทั้งคู่ คู่รักโรคจิต ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
น่าสงสารเลียมไปรักคนจอแดน

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :hao5:   นึกตอนจบไม่ออกเลยจริงๆ

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Chapter 6 : “ทำไมถึงฆ่าอีกแล้วล่ะ”

หัวบุหรี่สีแดงวาบตัดกับพื้นขาวโรยหิมะอย่างสิ้นเชิง

ผมมองกลุ่มควันอ่อยอิงกึ่งเหม่อลอย อากาศหนาวทำให้ต้องซุกมือหนึ่งในเสื้อโค้ทอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางผ่อนคลายไม่ต่างจากการชมวิวแก้เซ็ง

แต่ถ้ามองไปด้านหลังผม จะพบว่าเจ้าหน้าที่หลายนายกำลังทำงานหน้าเครียด สาเหตุเพราะเช้าวันนี้มีคดีน่าปวดหัว ผู้เคราะห์ร้ายเป็นชายวัยกลางคน จากการตรวจเลือดพบว่ามีแอลกอฮอล์สูงในระดับผิดปกติ หรือก็คือเมาหัวทิ่ม ผู้แจ้งความเป็นแฟนสาว บอกว่าเมื่อคืนคนรักมีนัดกับใครสักคน คาดว่าคงกลับดึก แต่เมื่อเช้าตรู่ กลับมีศพลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำด้านหลัง ห่างจากบ้านพักไปเกือบกิโลฯ เชื่อว่าไม่เมาหัวทิ่มจริงๆ ก็คงถูกฆาตกรรม

“สรุปๆ ไปว่าตายเพราะความประมาทก็จบ”

ตำรวจนายหนึ่งพูดกับเพื่อนร่วมงาน เพราะเขาพยายามเก็บร่องรอยหลักฐานเกือบสามชั่วโมง แต่ก็ไม่เจอเบาะแสของคนที่ผู้ตายนัดออกมาแม้แต่น้อย เลียมสันนิษฐานว่าทั้งสองคงจะนัดกันที่อื่น  แล้วค่อยนำศพมาทิ้งไว้ตรงนี้

“ไม่เท่ากับว่าต้องคลำหาให้ทั่วรึไง” นายตำรวจอีกนายบ่น วันนี้เลียมดูขยันขันแข็งเป็นพิเศษ คงคิดจะสร้างผลงานเพื่อเอาใจพ่อ เป็นเด็กหนุ่มไฟแรงก็ดีอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีต้องดูไฟเพื่อนร่วมงานด้วย เพราะในอากาศหนาวจัดหลังหิมะตกตลอดคืนแบบนี้ จะไปหาหลักฐานที่ไหนได้ งมเข็มในมหาสมุทรชัดๆ!

“หนาวมั้ย”

ตายยากชิบเป๋ง

ผมมองเลียมที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้ากระตือรือร้น ผิดกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ต่างจากผีตายซาก แน่นอนว่าผมถูกทุกคนมองด้วยความโมโห เพราะมาทั้งทีแต่ไม่ช่วยอะไรสักอย่าง เอาน่า...ผมก็ไม่ได้อยากมานักหรอก ถ้าไม่ติดว่าเมื่อเช้าโดนไอ้เด็กเวรพูดลอยๆ ใส่จนตาสว่าง

‘คนที่ตายคือคนที่ปาหินใส่รถพ่อ’

เท่านั้นแหละ ผมรีบกระโดดขึ้นรถแทบไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็ถูกพามาทิ้งไว้ตรงนี้ ผมเลยหามุมเหมาะๆ จุดบุหรี่สูบ ดูความสวยงามของพื้นหิมะอันขาวโพลนที่ตอนนี้ถูกเจ้าหน้าที่เหยียบย่ำไม่เหลือสภาพ

“ผมนึกว่าคุณเลิกบุหรี่แล้วซะอีก”

ไอ้เด็กเวรยังชวนคุย ผมเลยเลิกคิ้วยียวนหนึ่งที ก่อนจะหันไปมองอย่างอื่นเช่นเดิม อืม...นายตำรวจคนอื่นๆ เริ่มอู้กันแล้ว

“หรือเพราะหนาว?”

ถูกเผง

นับตั้งแต่เจอคาร์เรย์ ไอ้นิสัยเสเพลติดเหล้าสูบบุหรี่ก็ลดน้อยลงไปโข อาจเพราะเขาชอบจูบปากผมซ้ำๆ ชอบกอด ชอบซุกไซ้ผมไม่ต่ำกว่าสามครั้งต่อวัน ผมเลยไม่อยากให้มีกลิ่นบุหรี่ติดตัว ส่วนไอ้เรื่องดื่มนี่ก็มีบ้าง แต่เป็นการดวลกันเล่นๆ กับอีกฝ่าย ดื่มแก้หนาว ดื่มเพื่อความเฮฮา ไม่ใช่ดื่มเป็นบ้าแก้เหงาเหมือนเมื่อก่อน

“รู้ได้ยังไงว่าคนตายใช่คนคนนั้น”

พอสูบบุหรี่หมดม้วน ผมที่หนาวจนปากแข็งก็เริ่มเข้าเรื่องเข้าราวได้สักที

“เดาน่ะ”

...ไอ้เด็กเวร!

นี่ผมเสียเวลานั่งเล่นนอนเล่นในที่ทำงานเพราะการเดาเนี่ยนะ บ้าชะมัด!

“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียน่า” เลียมว่าพลางส่งกระป๋องกาแฟที่เพิ่งกดจากตู้เครื่องดื่มไม่ใกล้ไม่ไกลให้ แน่นอนว่าไม่ได้เอามาดื่ม แต่เอามาอังมือต่างหาก “เมื่อวานตอนผมไปดูกล้องวงจรปิดรอบสถานที่เกิดเหตุ ผมนั่งจับเวลาคร่าวๆ ตอนที่พ่อโดนปาหิน และจำลองว่าตัวเองเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ดู จากนั้นก็นำมาเทียบกับถนนทางเข้าออกในระแวกนั้น โชคดีแล้วล่ะเพราะแถวที่พักของคุณค่อนข้างเปลี่ยว แล้วยังเป็นถนนเส้นเล็ก พอกล้องจับภาพชายคนนี้ได้ในเวลาใกล้เคียงที่สุดผมเลยขึ้นป้ายต้องสงสัยไว้ก่อน”

ไอ้เด็กเวรว่าพลางคลี่ยิ้มกว้าง

“อันที่จริงก็ยังมีอีกเกือบสิบรายน่ะนะ แต่ผมตัดผู้หญิงและคนแก่ออก พวกที่แต่งตัวทำงานอย่างดีก็ตัดทิ้ง เพราะถ้าไม่ร้อนเงินจริงๆ คงไม่รับจ้างทำร้ายตำรวจแน่ๆ ตัดไปตัดมาก็เหลือแค่ไม่กี่คน แต่พอเกิดเหตุในวันนี้ ก็เลยยิ่งมั่นใจ”

ให้ตายเหอะ!

ผมอยากจะสบถจริงๆ นะ รู้อยู่ว่าไอ้เด็กเวรมันฉลาด แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดมีเวลาว่างนั่งจับเวลาและนั่งดูกล้องวงจรปิดรอบเมืองขนาดนี้!

“แต่วิธีนี้ไม่นับว่าเป็นหลักฐานอะไร ผมถึงเรียกว่า ‘เดา’ ไงล่ะ”

เลียมยิ้มให้ผม แต่ผมทำหน้าบูดตอบ จริงอยู่ว่าการซุ่มเวลาไม่ต่างจากการคาดเดา และไม่สามารถใช้ในการจับตัวผู้ต้องหาได้ เพราะมีโอกาสผิดตัวสูง แถมถ้าถูกฟ้องร้องกลับ ไอ้เด็กเวรจะโดนพ่อด่าระยำย่ำแย่กว่าเดิม

“ไหนบอกจะวางมือไง” ผมนึกอยากจะสูบบุหรี่ขึ้นมาจริงๆ ซะแล้ว ไม่ใช่เพื่อแก้หนาวด้วย

“ผมแค่ทำเพื่อความปลอดภัยต่างหาก เกิดภาพในกล้องเป็นคุณขึ้นมา ผมจะได้ช่วยลบทิ้งให้ไง” เลียมว่าอย่างเอาใจ แต่ผมไม่ยักดีใจสักนิด ไม่รู้ว่าหมอนั่นทำจริงอย่างที่พูด หรือแค่อ้างเพื่อให้ผมเกลียดขี้หน้าน้อยลงกว่าเดิม

“เอาเป็นว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ ผมได้ข้อมูลของชายคนนี้โดยบังเอิญ ว่าจะเอาทิ้งอยู่แล้วหากไม่ติดว่ามีคดีเข้ามาซะก่อน แล้วคุณคิดว่า...คนที่เพิ่งรับจ้างไปทำร้ายผู้บัญชาการ จู่ๆ จะกินเหล้าตกบ่อตายรึเปล่าล่ะ เจย์เดน”

“เวอแกน” ผมแก้พลางนวดขมับ สังหรณ์ลึกๆ ว่าคงเกี่ยวกับคาร์เรย์แหงแซะ สงสัยเย็นต้องกลับไปถามเขาอีกแล้ว บ้าชะมัด ไม่มีวันไหนที่เราจะมีบทสนทนาสมเป็นคู่รักธรรมดาๆ บ้างรึไงนะ จริงอยู่ว่าผมช่วยปิดความผิดให้เขา เพราะเขาทำเพื่อผม แต่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกเสียทีเดียว

มันกำลังตกตะกอน ค่อยๆ สะสมในใจทีละน้อย

ก็ไม่แปลกนักหรอก ในเมื่อผมยังเป็นคน ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างนี่นา

แต่ก็เพราะแบบนี้ เมื่อคาร์เรย์ทุ่มเทความรักให้จนหมดหัวใจ คนธรรมดาอย่างผมจึงพร้อมจะหลับหูหลับตาได้เหมือนกัน

“อยากให้สรุปว่าเป็นอุบัติเหตุรึเปล่าล่ะ”

“แลกกับอะไร” ผมเงยหน้ามองไอ้เด็กเวรที่นับวันก็ยิ่งเวรขึ้นทุกทีด้วยใบหน้าคิ้วขมวด ยื่นข้อต่อรองแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

“เย็นนี้ไปเยี่ยมคุณพ่อกับผม”

“ไม่”

ผมปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด หากเป็นแต่ก่อนยังพอไหว แต่ตอนนี้แค่เห็นหน้าพ่อของเลียม ผมก็จะนึกไปถึงซองเอกสาร และเมื่อนึกถึงสิ่งนั้น ข้อความทุกอย่างก็จะปรากฏ ไม่เว้นกระทั่งสำเนารับรองที่ยืนยันว่าผมเป็นแค่ลูกบุญธรรม...

แค่นึกผมก็รู้สึกสะท้านน้อยๆ ในใจ แม้ทุกอย่างจะถูกเผาไฟจนหมดสิ้น แต่กลับยังฉายชัดในความทรงจำ

“เฮ้ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นหรอกน่า” เลียมเลิกลั่ก เขาถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อผมยกมือปิดตาครู่หนึ่ง อันที่จริงแค่ทำสมาธิ ผมไม่บ้าร้องไห้ต่อหน้าเด็กเวรหรอกนะ

“โอเค ครั้งนี้ผมจะยอมก่อน คุณติดหนี้ผมหนึ่งครั้งแล้วกัน”

“ตามสบาย” ผมละมือออก เผยใบหน้ายียวนไร้ซึ่งความโศกเศร้า ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ไอ้เด็กเวรอ้าปากค้าง แต่ไม่ทันพูดต่อผมก็เดินไปรอในรถเตรียมกลับที่ทำงานแล้ว

ได้ยินเสียงถอนหายใจดังไล่หลัง ก่อนเลียมจะหันไปเรียกรวมตัวทุกคน จากนั้นจึงสั่งแยกย้าย สรุปคดีว่าเป็นการดื่มเหล้าแก้หนาวจนพลัดตกลงไปตายนั่นเอง

อันที่จริง ต่อให้เลียมไม่ยื่นข้อเสนอ เขาก็หาหลักฐานจับตัวคาร์เรย์ไม่ได้หรอก

แต่ที่ผมกังวล ไม่ใช่ว่าเลียมจะจับคนรักเข้าคุก แต่กลัวว่าไหวพริบของเขาจะทำให้ฉุกใจและเริ่มเชื่อมโยงเข้ากับคาร์เรย์ และเมื่อนั่น...คนที่ตายคนต่อไปคงไม่ใช่ใครอื่นไกล

ถึงผมจะเกลียดขี้หน้าเลียม แต่ก็ไม่อยากให้ไอ้เด็กนี่ตายหรอกนะ

อย่างน้อยในหนึ่งปีมานี้ก่อนจะมาเจอคาร์เรย์...เลียมก็เป็นคนเดียวที่คุยกับผมมากที่สุด เอาใจใส่มากที่สุด...และจริงใจมากที่สุด
แม้จะน่ารำคาญไปหน่อยก็เถอะ!



“สนุกมั้ยครับ”

ผมที่กำลังนั่งกินป็อปคอร์นระหว่างดูหนังแก้เบื่อชะงักเมื่อคาร์เรย์เดินเข้ามาหอมแก้ม ตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มแล้ว...คาร์เรย์มีประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังกินข้าวเย็นเสร็จเขาจึงเก็บตัวอยู่ในห้องเงียบเกือบสองชั่วโมง และเพิ่งออกมาแหย่ผมเล่นแถมยังนั่งเบียดบนโซฟาตัวเดียวกันอีกต่างหาก

เด็กหนุ่มรั้วเอวผมขึ้นมาวางบนตักเหมือนเบาหนักหนา จากนั้นก็กอดหมับไม่ยอมปล่อย แถมยังซุกหน้ากับศีรษะผมดังฟอด

“หอมจัง”

“ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จนี่นา” ผมตอบพลางขยับตัวนั่งดีๆ เพราะกลัวอีกฝ่ายเหน็บกิน ก่อนจะเอียงถุงป็อปคอร์นในมือเป็นเชิงถาม
แต่คาร์เรย์ดันอ้าปากด้วยท่าทางน่ารักเป็นคำตอบซะงั้น

อืม...มีแฟนเด็กต้องหมั่นเอาใจสินะ ผมป้อนป็อปคอร์นใส่ปากคนรัก แต่พอจะป้อนตัวเองมือที่กอดผมหนึบหนับไม่ยอมปล่อยก็ถือป็อปคอร์นมาจ่อปากแล้ว

“พลัดกันไงครับ” คาร์เรย์ยิ้มหวาน เห็นแบบนั้นผมก็ยอมกินแบบทุลักทุเล ป้อนเด็กน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถูกเด็กป้อนนี่สิมันน่าอายแปลกๆ

หลังจากกินป็อปคอร์นไปจนหมดถุง ผมก็นั่งผึ่งพุงเอนตัวพิงคาร์เรย์ซะเต็มคราบ พอดีกับหนังที่เริ่มเข้าสู่ฉากไคลแมกซ์ ยิงกันสนั่นหวั่นไหวแบบโอเวอร์เกินจริงจนผมปิดปาดหาว

“ง่วงแล้วเหรอครับ”

“เปล่า มันน่าเบื่อน่ะ” ผมว่าพลางตัดสินใจเปลี่ยนช่องไปดูข่าว ประจวบเหมาะกับการออกจากโรงพยาบาลของผู้บัญชาการหน้าคุ้นตา จริงสิ ครบสองวันที่เลียมบอกแล้วนี่นะ

“คาร์เรย์”

“มีอะไรเหรอครับที่รัก”

อ่า...ความตั้งใจแทบอ่อนยวบเมื่อถูกเรียกเสียงหวานหยด ผมซึมซับความรู้สึกนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจถามเสียงจริงจัง เพราะแม้จะถูกกอดอยู่แบบนี้ แต่ความค้างคาในใจก็ทำให้ผมไม่ผ่อนคลายเต็มที่

“ทำไมถึงฆ่าอีกแล้วล่ะ”

คาร์เรย์เกร็งตัวชั่ววูบ หากไม่นั่งทับอยู่แบบนี้คงไม่รู้สึก

“...ตกลงผลประโยชน์ไม่ลงตัวนิดหน่อยน่ะครับ” นิ่งอยู่นานก่อนจะตอบเสียงเรียบ ท่าทางเหมือนไม่อยากให้ผมถามซอกแซกมากนัก เขาคงคิดไม่ถึงว่าผมจะรู้ล่ะมั้ง ความจริง...หากเลียมไม่บอก ผมก็คงไม่สนใจซะด้วยซ้ำ

“จริงเหรอ”

คาร์เรย์ซุกหน้ากับไหล่ของผมเป็นคำตอบ สองมือโอบกอดแน่นขึ้น ท่าทางเหมือนเด็กน้อยทำอะไรผิดที่ไม่กล้าสู้หน้าผู้ใหญ่

“คาร์เรย์ นายปิดบังอะไรฉันรึเปล่า”

“...ผมฆ่าปิดปาก” เด็กหนุ่มพูดอู้อี้เพราะยังซุกหน้านิ่ง “นัดเขาออกมารับเงิน ทำให้สลบ จากนั้นก็ฉีดแอลกอฮอล์ใส่ร่างกาย ก่อนจะนำไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ”

กลายเป็นผมซะอีกที่นั่งตัวเกร็ง แทบจะลุกหนีออกมา แต่คาร์เรย์กลับกอดแน่นไม่ปล่อย

“คนคนนั้นเป็นพวกติดยาอยู่แล้ว รอยเข็มจึงพอกลมกลืนไปได้ แถมเมื่อคืนยังหิมะตกหนัก ไม่มีใครเห็นหรอกครับ ไม่มีหลักฐานมาถึงผมแน่นอน แต่ถ้ายังปล่อยเอาไว้ คนติดยาพรรคนั้นอาจนำเรื่องนี้มาต่อรองกับผมได้ ผมไม่อยากเสี่ยง”

หลังสารภาพมาจนหมด คาร์เรย์ก็เงยหน้าขึ้น มือซึ่งกอดผมแน่นสั่นระริก ไม่ต่างจากดวงตาที่มองผมด้วยความหวาดกลัวบางอย่างหมดใจ

“เกลียดผมมั้ย...”

เสี้ยวนาทีนั้น ความรู้สึกแย่ๆ ในใจของผมคล้ายถูกบรรเทาลง แทนที่ด้วยความอุ่นวาบในอก มันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนผมได้แต่ถอนหายใจปลงตกออกมา

บ้าชะมัด ผมควรจะว่าเขาสักยกสองยกสิ แม้เหตุผลจะฟังขึ้น แต่ในความรู้สึกกลับเหมือนมีบางสิ่งไม่ถูกต้อง เป็นความรู้สึกที่ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ทว่า...

“ไม่เกลียดหรอกน่า” ผมเงยหน้าประทับริมฝีปากกับเขาแผ่วเบาอย่างปลอบโยน “แต่อย่าลุกไปตอนกลางคืนแบบนั้นอีกล่ะ ฉันหนาวนะรู้มั้ย”

“ครับ ผมจะไม่ให้คุณนอนหนาวคนเดียวอีกเด็ดขาด” คาร์เรย์กอดผมแน่นอย่างมีความสุข คงคาดไม่ถึงว่าผมจะเป็นพวกความรู้สึกไวขนาดนั้น

หึ ถ้าไม่ติดว่าต้องนอนกอดตัวเองทุกวัน หวาดหวั่นว่าจะมีคนถามมาขู่ฆ่า หรือกลัวที่จะถูก ‘คนคนนั้น’ ตามเจอ ผมก็คงไม่ประสาทไวตอนกลางคืนขนาดนี้

“ว่าแต่...คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นคนลงมือ”

เลียม

ผมตอบในใจ แต่ไม่โง่พอจะเอ่ยชื่อออกมา

“ก็นายเล่นหายไปตอนกลางดึก ตื่นเช้ามาก็มีคดีคนตาย ฉันเลยเดาซุ่มน่ะสิ”

“ผมน่าระแวงขนาดนั้นเลยเหรอครับ” คาร์เรย์พูดอย่างน้อยใจ ปกติทำแล้วน่ารัก แต่ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกหมั่นไส้แปลกๆ เลยดีดนิ้วใส่หน้าผากหมอนั่นไปหนึ่งที

“ทีนายยังให้คนตามดูฉันเลยไม่ใช่รึไง”

“ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่นา” คาร์เรย์รีบง้อเมื่อเห็นผมหน้าบูด หอมแก้มซ้ำๆ จนผมต้องยกมือกันก่อนจะช้ำไปกว่านี้

“ห่วงหรือหวงกันแน่” ผมว่าพลางกอดอกอย่างจริงจัง ปฏิเสธหลายต่อหลายครั้งว่าไม่คิดอะไรแท้ๆ นึกแล้วก็อดโมโหไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่กลับมาทีไร เป็นต้องนั่งถกประเด็นเรื่องเลียมทุกที

“ทั้งห่วง...”

เพื่อปลอบประโลมขุ่นมัว คาร์เรย์จึงจูบไหปลาร้าผมอย่างอ่อนโยน

“ทั้งหวง...”

ก่อนจะไล่มาถึงหลังหูจนรู้สึกจั๊กจี๋

“และทั้งหึงเลยล่ะ”

จากนั้นค่อยมาจบที่ริมฝีปาก เสียแต่ไม่แค่แตะเบาๆ เพราะคราวนี้พวกเราจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนคาร์เรย์จะดันตัวผมนอนลงบนโซฟาอย่างเชื่องช้า สร้างอารมณ์วูบไหวจนสมาธิกระเจิง

...เอาอารมณ์โมโหผมกลับมานะ บ้าที่สุด!


--------------------------

มองซ้ายมองขวา มีคนรอคอยหนุ่มฆาตกรคนนี้มั้ยคะ  :mew2:
อาทิตย์ที่ผ่านมาติดธุระหลายอย่างเลยต้องมาลงวันศุกร์แทน อ่า...วันศุกร์แสนสุขเพราะมีวันหยุดรอคอยอีกสองวันติด ฮืออ สวรรค์!!!

ถึงจะไม่ตอบเม้น แต่เราอ่านทุกคอมเม้นท์นะคะ มีคนชอบพ่อหนุ่มฆาตกรเยอะกว่าที่คิด ดีใจจังเลย  :-[
มาร่วมติดตามไปด้วยกันนะคะ!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ควรให้คาเรย์รู้ถึงคนคนนั้นๆนะ

จะได้ไม่ต้องกลัวมันตามมาอีก  :laugh:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
กลัวโดนจับจังเลย เลียมมีไหวพริบจนน่ากลัว  :mew2:

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ doll@love

  • >3<~
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมพระเอกคนนี้จะมุ้งมิ้งแบบssจังเนี่ย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เลียมฉลาดอ่ะไม่อยากให้เลียมหรือคาเรย์ตาย

3pเต๊อะ เราจะได้ไม่ใจสั่น

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ชอบนักล่ะ ไอ้หนุ่มคลั่งรัก :o8:
เลียมนี่น่าหวาดเสียวจริงๆ ว่าจะโดนเก็บเข้าซักวัน  :katai1:
แต่เจย์เดนแพ้ทางเด็กนะ อิอิ :haun4:

ออฟไลน์ Toycar

  • only yesterday
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หลงเข้ามาอ่านน  พออ่านแล้วว งื๊ออ คาร์เรย์น่ารักก ><        สัมผัสได้ถึงความจิตของทุกตัวละคร

Barabelle

  • บุคคลทั่วไป
 :katai2-1:

น่ารักแบบจิตๆกันดีจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องจะไปทางไหนต่อละเนี่ย พ่อคุณเล่นฆ่าซะจะหมดเรื่องเลยทีเดียว

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เลียมเก่งนะนี่  :katai2-1: เดาได้มีเหตุผล

คาร์เรย์ก็โหดตลอด เจย์เดนก็ยอมอยู่เรื่อย.

อยากรู้  คนนั้น ของเจย์เดนเร็วๆอ่ะ  :hao4: ใครหนอ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด