[เรื่องสั้น] Every time Café โทษที! ไม่มีตังค์จ่าย Merry X'mas2016!!! [26/12/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Every time Café โทษที! ไม่มีตังค์จ่าย Merry X'mas2016!!! [26/12/59]  (อ่าน 45711 ครั้ง)

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่ารัก รอนะคะ
เจเจลักหลับปะเนี่ย
อิอิ หมาน้อยเอ้ย

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เรื่องจริงรึว่าฝันไป  พรุ่งนี้เช้าก็รู้...   :mew3:

น่ารักดีค่ะ  รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :L2:   :pig4:

ออฟไลน์ yogurtjung

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-11
หมาจริงๆแกล้งรึเปล่าคะ 555 รอตอนต่อไปนะจ๊ะ

ออฟไลน์ แก้วเจ้าจอม

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
รอติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไรหนอ... อยากอ่านจัง  :hao4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
คนแต่งหายยยยย
รออยู่น้าาาา
ตกลงนี่มันนิยายรายเดือนป้ะเนี่ยย
ถ้าใช่ขอโควต้าเดือนนี้หน่อยค่าา จะหมดเดือนแล้วว
คิดถึงงงงอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2015 23:01:37 โดย MSeraph »

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
คนเขียนหายไปไหนละครับผม

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกก น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก
ติดตามมาตั้งแต่เรื่องของอาร์แล้วครับ

โอ้ย น่ารักอะ อ่านไปยิ้มไป ชอบเรื่องเบาๆแบบนี้มากอะ
สำนวนคนแต่งก็ถูกใจผมจัง

จะรออ่านต่อนะครับ

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 5






“กริ๊งงงงงงงง!!!” เสียงนาฬิกาปลุกจากโต๊ะที่หัวเตียงดังลั่นทำให้ผมต้องรีบเด้งตัวขึ้นไปปิดอย่างรวดเร็วจนรู้สึกหน้ามืดเพราะกลัวคนข้างๆจะสะดุ้งตื่น ในตอนที่ความรู้สึกเลือนรางผมรู้สึกเหมือนมีอะไรผละออกไปจากตัวผมตอนตื่น ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเจย์ แต่เมื่อหันไปมองเขากำลังนอนหลับสนิทโดยหันหลังให้ผมอยู่…สงสัยจะคิดไปเอง

ผมค่อยๆก้าวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาและเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ลืมดึงผ้าห่มที่ร่นลงไปถึงเอวขึ้นคลุมให้กับคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมต้องตื่นเช้าเป็นประจำบางครั้งนาฬิกาปลุกก็ไม่ค่อยจะจำเป็นเท่าไหร่ เพราะรู้ตัวอีกทีผมก็มักจะตื่นเวลาเดิมทุกๆวันแถมส่วนใหญ่ยังตื่นก่อนนาฬิกาปลุกด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนวันนี้ผมจะหลับสนิทไปหน่อย

ผมล้างหน้าก่อนจะมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ผมรู้สึกว่าผมเริ่มยาวขึ้นนิดหน่อย แต่ผมก็ขี้เกียจจะไปร้านตัดอยู่ดี ถึงจะอยู่ถัดไปแค่ไม่กี่ซอยก็เถอะ มือคว้าหนังยางสีดำขึ้นมารวบผมไว้ครึ่งศีรษะแบบที่ชอบทำประจำ(คาดว่าถ้าผมไม่ไปตัดเร็วๆนี้มันจะมัดรวบได้ทั่วทั้งศีรษะอย่างแน่นอน) แต่วันนี้มันทำให้ผมเห็นรอยอะไรบางอย่างบริเวณต้นคอ

ร้อนจ้ำสีแดงหลายจุดบริเวณต้นคอและหน้าอกทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น เพราะไม่รู้สึกคันหรือเจ็บเลยไม่รู้ตัวว่ามีรอยพวกนี้อยู่ ผมใช้ปลายนิ้วลูบบริเวณรอยพวกนั้นเบาๆ …แมลงแปลกๆต้องมาอาศัยอยู่บนที่นอนแน่ๆ ดูเหมือนผมจะต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้วล่ะ



ผมเดินอย่างเงียบๆมาจนถึงห้องครัวชั้นล่างและเริ่มค้นวัตถุดิบในการทำขนมวันนี้และได้พบว่าวัตถุดิบทั้งหมดพร่องไปเกินกว่าครึ่งแล้ว โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ร้านเปิดถึงแค่ช่วงเที่ยงเท่านั้น ผมคงจะต้องออกไปซื้อของเข้ามาเพิ่มสำหรับวันต่อไปแล้วล่ะ…

“เจเจ?? ตื่นเช้าจัง” ขณะที่กำลังร่อนแป้งสายตาก็เหมือนไปเหมือนเด็กหนุ่มที่ยืนพิงประตูห้องอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“โกหก ไหนว่าไม่มีชุด” เขาตอบกลับมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ผมเพิ่งสังเกตว่าเจ้าตัวไม่ได้ใส่ชุดนอนลายหมีน่ารักแบบเมื่อคืนแล้ว แต่เป็นเสื้อยืดพอดีตัว(ที่ดูเหมือนจะคับนิดหน่อย)กับกางเกงสามส่วนที่ผมคุ้นๆว่าจะเป็นของตัวเอง

“อ๊ะ เปล่านะ พี่ไม่เคยบอกว่าไม่มีนา หึหึ หิวรึยัง พี่ทำอะไรให้กินมั้ย” ผมแก้ตัวก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเลี่ยงความผิด(?)

เจย์บ่นงึมงำอะไรซักอย่างในลำคอก่อนจะเดินเข้ามาและลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆโต๊ะทำขนมโดยไม่พูดอะไร ดูเขาจะสนใจการทำขนมไม่น้อย ผมให้เขาช่วยทำบ้างและก็อดขำกับท่าทีของเขาไม่ได้ และเจย์จะหันมาทำตาขวางใส่ผมทุกครั้งที่หลุดขำออกไป

การทำขนมไปสอนเด็กหนุ่มที่ทำขนมไม่เป็น(แม้แต่แป้งเจย์ก็ยังจำสับสน)ไปด้วยก็สนุกดีแต่มันก็ทำให้ผมทำขนมได้ช้ากว่าปกติอยู่มากทีเดียว กว่าจะเสร็จและยกมาวางหน้าร้านได้ก็ก่อนที่ลูกค้าคนแรกจะเข้ามาแค่ไม่กี่นาที

ความวุ่นวายภายในร้านเริ่มมากขึ้นเมื่อเข็มนาฬิกาชี้เวลาเจ็ดโมงครึ่ง ถึงจะเป็นวันหยุดแต่ก็มีหลายบริษัทที่ยังทำงานอยู่รวมถึงเด็กๆที่ต้องออกมาเรียนพิเศษกันแต่เช้า ถึงคนจะน้อยกว่าวันธรรมดาแต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าไม่เหนื่อย



“ไปไหน” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังเมื่อผมพลิกป้ายแสดงสถานะปิดร้านและเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

“ไปซุปเปอร์มาร์เกตใกล้ๆนี่เอง…ไปด้วยกันมั้ย” เจย์นิ่งคิดไม่นานก็พยักหน้าเบาๆเป็นการตอบตกลง ผมเช็คความเรียบร้อยของกลอนประตูหน้าต่างตามคำบอกของเจย์เป็นรอบที่สองก่อนที่เราจะเดินออกมาจากร้านได้ ผมสังเกตว่าเจย์ดูจะหงุดหงิดเป็นพิเศษเมื่อผมละเลยการล็อกกลอนประตูหน้าต่าง แต่ก็ดีนะครับเพราะมันทำให้เขาพูดมากขึ้น…พูดมากขึ้นเพราะบ่นผมน่ะนะ…


ไม่ถึงสิบนาทีเราก็มาหยุดยืนหน้าซุปเปอร์มาร์เกตขนาดกลางมีความสูงสองชั้นที่วันนี้ดูเหมือนคนจะเยอะเป็นพิเศษ อาจเพราะเป็นวันหยุดและช่วงต้นเดือนด้วย ผมหยิบเศษกระดาษเล็กๆที่จดรายการที่ต้องการซื้อเอาไว้ขึ้นมาดู เกินกว่าครึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำขนม ส่วนที่เหลือเป็นของสดและของใช้จำเป็นเล็กน้อย

ผมเดินตรงไปยังแผนกขายวัตถุดิบทำขนมก่อนเป็นอันดับแรกและเลือกซื้ออย่างตั้งใจจนลืมอีกคนที่มาด้วยไปเสียสนิท อาจเพราะผมมาคนเดียวเป็นประจำทำให้ผมลืมสนใจคนที่เดินตามอยู่ข้างหลัง พอรู้ตัวอีกทีเขาก็หายไปไหนก็ไม่รู้

"ไปไหนของเขา.." ผมพึมพำเบาๆขณะสอดส่ายสายตามองหาร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แต่ก็ต้องละสายตาหันกลับไปมองตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นด้านหลัง

"คุณมิณ"ชายหนุ่มเชื้อสายต่างชาติในชุดสูทเรียบร้อยร้องทักผม ในมือหิ้วตะกร้าใบเล็กที่ข้างในใส่ของใช้จำเป็นสองสามอย่าง

"คุณรอน?" ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ไม่นึกว่าจะเจอเขาในที่แบบนี้

"บังเอิญจัง มาซื้อของทำขนมเหรอครับ"

"ครับ อาทิตย์ก่อนผมไม่ได้มาซื้อ คราวนี้วัตถุดิบเลยขาดน่ะครับ"

"แล้วจะทำขนมอะไรครับ" เขาชำเรืองมองของในรถเข็นของผมอย่างสนใจ แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจนักว่ามันคืออะไรบ้าง

"อืม พรุ่งนี้ผมกะจะอบคุกกี้ครับ ส่วนวันต่อไปผมจะทำครัวซอง อ่า... แต่ผมยังคิดเมนูวันถัดไปไม่ออกน่ะ" ผมยิ้ม ยกมือขึ้นเกาแก้มแก้เก้อเพราะผมไม่เคยคิดเมนูขนมล่วงหน้าได้เกินสองวันเลยซักครั้ง

"หึหึ คุณนี่ถ้าเป็นเรื่องขนมละก็ดูตั้งใจมากๆเลยนะครับ"

"ฮะๆ ก็ผมเป็นเจ้าของร้านขนมนี่ครับ" ผมหัวเราะตามเขาและเราก็เริ่มหัวเราะพร้อมๆกัน

ตั้งแต่ผมรู้จักกับเขามา รอนเป็นคนนิสัยดีมากเลยทีเดียว ไม่เคยถือตัวกับใครๆรวมถึงผมที่เป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ เขาและคุณวิคเตอร์เป็นหนึ่งในลูกค้าประที่ผมสนิทด้วยมากที่สุด นั่นทำให้ผมรู้สึกโชคดีแทนองค์กรที่ได้คนเก่งๆแถมนิสัยดีแบบทั้งสองคนไปร่วมงานด้วย

"คุณมิณ...ขอโทษนะครับ ที่คอ..." เขาชี้มือวนๆแถวคอตัวเองพร้อมกับส่งสายตาเป็นคำถามมาให้ผม

"อ๋อ นี่เหรอครับ ผมว่าผมน่าจะโดนแมลงกัดนะ แต่ก็ไม่ยักกะคัน"

"ขอโทษนะครับ" เขาว่าพลางขยับเข้ามาใกล้ พร้อมกับมือที่ปัดปอยผมบริเวณต้นคอของผมขึ้นเบาๆ


"ฉึบ!!!!" เสียงวัตถุบางอย่างตัดผ่านอากาศเสียงดังเฉียดปลายจมูกผมไปเล็กน้อย มันคือหนังสือเตรียมสอบมหาวิทยาลัยเล่มหนาลอยกั้นระหว่างหน้าผมกับมือของรอน...ใช่ และเจ้าของก็คือคนที่เพิ่งจะทำให้ผมต้องตามหา

"เฮ่!?" รอนอุทานอย่างตกใจปนหงุดหงิดพร้อมหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนคั่นกลางผมและเขาอยู่

"อย่าแตะ" เจย์พูดเสียงรอดไรฟันด้วยแววตาหงุดหงิด

"นี่..!!!"

"เออ รอนครับ ใจเย็นๆก่อน นี่น้องผมเอง" ผมรีบห้ามก่อนที่พวกเราจะเป็นเป้าสายตามากกว่านี้ เพราะเสียงการพูดคุยที่ดังกว่าปกติและคนที่เป็นจุดดึงดูดสายตาคนอื่นๆถึงสองคน...แน่นอนว่าไม่รวมผม

คนสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาดูดีจนดึงดูดสายตาลูกค้าและพนักงานหญิงเกือบค่อนซุปเปอร์มาร์เกต และยิ่งมายืนด้วยกันแบบนี้ รอนดูมีเสน่ห์แบบชายหนุ่มวัยทำงานที่ดูจริงจังแต่ก็มีแววขี้เล่น ส่วนเจย์ถึงจะอายุยังน้อยแต่เขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่ดูดีเอามากๆ แบบที่เด็กสาวสมัยนี้ชอบเรียกว่าสไตล์เกาหลีอะไรประมาณนั้น

"น้อง? คุณมิณมีน้องด้วยเหรอครับ?"

"เออ ก็ ไม่เชิงน่ะครับ" ผมยิ้มแห้งๆตอบกลับไปหลังจากได้สายตาเป็นคำถามส่งมา

"ผมต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ ช่วงนี้เขาเครียดๆ" ผมเหลือบมองหนังสือเล่มหนาในมือของเจย์

"...ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นน้องคุณมิณล่ะก็ อืม..ผมคงต้องไปแล้ว พรุ่งนี้ผมจะแวะไปกินคุกกี้นะครับ" เขาชำเรืองมองเจย์อย่างเคืองเล็กน้อย ว่าหลังจากยกนาฬิกาข้อมือเรือนแพงขึ้นมาดู ผมขอโทษเขาอีกครั้งก่อนแยกย้ายกันและหันมาให้ความสนใจเด็กหนุ่มที่ยืนทำหน้าบูดอยู่ข้างๆ

"เจเจ..."

"พอเลย หยุดบ่น!"

"หยุดอะไร พี่ยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"

"..."

"นี่ รู้มั้ย คุณรอนเป็นลูกค้าที่ร้านนะ เธอทำอย่างนั้นมันไม่ดีรู้มั้ย แถมเขายังอายุมากกว่าเธอตั้งเยอะ แบบนั้น..."

"ไม่ฟังๆๆๆ" เจย์ร้องพร้อมกับวางของในมือลงในตะกร้ารถและยกมือขึ้นอุดหูทั้งสองข้างเหมือนเด็กเล็กๆกำลังงอแงเพราะโดนแม่ดุ ...แต่ปัญหาคือคนตรงหน้านี้ดันเป็นเด็กม.ปลายตัวโข่งน่ะสิ

"เจเจ...."

"...."

"เฮ้อ.. คราวหน้าอย่าทำแบบนั้นอีกนะ เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ เข้าใจมั้ย"

"...ฮึ" เขาส่งเสียงขึ้นจมูกพลางเสมองไปอีกทาง เฮ้อ นี่ผมกำลังโดนงอนอยู่รึเปล่านะ


"อะ นี่เธอซื้อเสื้อผ้ามาทำไมน่ะ ยังจะไม่กลับบ้านเหรอ" ในตะกร้ารถเข็นมีของเพิ่มมาเล็กน้อย เสื้อผ้าสองสามชุด ของใช้ส่วนตัว และถุงจากร้านหนังสือ

"อืม...ทำไม จะไม่ให้อยู่รึไง"

"เปล่าๆ เธอจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้แหละ แต่ต้องบอกที่บ้านก่อนนะ"

"เออ โทรบอกแล้ว" เขาตอบเสียงห้วน ผมหรี่ตามองเขาอย่างพิจารณาแต่ก็โดนเขาเบียดตัวเข้ามาทำหน้าที่เข็นรถแทนซะก่อน



ผมเดินซื้อของต่อตามรายการที่จดไว้โดยมีเจย์เข็นรถตามมาเงียบๆ ผมซื้ออาหารและผักสดไปไม่มากเพราะที่ร้านยังมีอยู่ แถมวันนี้ยังเดินมา ซื้อของเยอะจะเป็นภาระเปล่าๆ

การซื้อของที่แผนกผักสดวันนี้ทำให้ผมรู้ว่าเจเจแยกความแตกต่างระหว่างผักชีกับขึ้นฉ่ายไม่ออก(ตลกมากครับ เขาบอกว่า ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นความแตกต่างอยู่ดี) แถมยังเป็นเด็กที่เกลียดการกินผักสีเขียวแทบทุกชนิดแต่แปลกที่เขาชอบกินพวกผักที่มีสีสันเช่น แครอทกับมะเขือเทศ

"เย็นนี้ทำข้าวผัดดีมั้ย ชอบกินรึเปล่า" ผมถามขณะที่เราเดินทอดน่องเอื่อยๆบนทางเท้าเพื่อกลับร้าน ในมือผมหิ้วถุงสองใบ ต่างจากเจย์ที่ของวันนี้เกือบทั้งหมดเขาเป็นคนหิ้ว แถมไม่ยอมแบ่งผมอีกต่างหาก

"...อื้อ ไข่ดาวด้วยนะ ไข่แดงไม่สุก"

"ได้สิ แต่ต้องไข่แดงสุกๆนะ"

"หา? ก็เมื่อกี้บอกว่าไม่สุกไง" เจย์หันควับมาขมวดคิ้วใส่ผมทันที

"ไม่ได้ๆ ไข่แดงไม่สุกมันอันตรายนะ"

"อันตรายอะไร"

"ก็ไข้หวัดนกไง แต่กินของไม่สุกยังไงก็ไม่ดีอยู่แล้วล่ะ"

"จะบ้ารึไง ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นกันหรอก"

"อื้ม ตกลงนะ ข้าวผัดกับไข่ดาวสุกๆ" ผมยิ้มกว้างและเร่งฝีเท้าให้เดินนำออกไป

"เฮ่ย! ก็บอกว่าไม่สุกไง" เสียงฝีเท้าย่ำหนักๆไล่ตามมาพร้อมเสียงบ่นงึมงำที่ผมทำเป็นไม่ได้ยิน



ตลอดทั้งเย็นเราเถียงกันเรื่องไข่ดาวสุกหรือไม่สุก ถึงแม้เจย์จะพยายามมายืนใกล้ๆตอนที่ผมทำอาหารเพื่อกดดันให้ผมทอดไข่ดาวไม่สุกก็เถอะแต่เขาก็ต้องยอมแพ้ให้กับน้ำมันร้อนๆที่แตกออกจากกระทะและยอมไปนั่งเงียบๆบนโต๊ะอาหารแต่โดยดี ลามไปถึงเถียงกันเรื่องที่เขาไม่ยอมกินผักสีเขียว เพราะเจย์เขี่ยถั่วที่ผมใส่ลงไปในข้าวผัดทิ้งทั้งหมด เขาให้เหตุผลว่าสีเขียวไม่น่าจะเป็นสีของอาหารเพราะมันดูไม่น่าอร่อย แต่สุดท้ายเขาก็ยอมกินไข่ดาวแบบสุกๆแถมกินถั่วไปอีกนิดหน่อยเพราะทนฟังผมบ่นไม่ไหว

คืนนั้นผมนอนได้สบายตัวมากขึ้น ไม่รู้สึกเหมือนมีมดมากัดเหมือนคืนก่อน แต่ความรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกอะไรซักอย่างรัดก็ยังคงอยู่ อาจเพราะมีเจย์อยู่ด้วยก็เลยนอนเบียดกันรึเปล่าผมก็ขี้เกียจจะคิดจึงปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปและจมลึกลงในความมืดมิดของการนอนจนรุ่งสาง และผมก็ไม่คิดจะใส่ใจเรื่องแบบนั้นอีก …บางทีอาจจะเพราะผมเริ่มอายุมากขึ้นกระดูกกระเดี้ยวไม่ค่อยจะดี เลยรู้สึกอึดอัดรึเปล่านะ…?




วันนี้เป็นวันอาทิตย์ภายนอกร้านจึงดูคึกคักเป็นพิเศษทั้งครอบครัวที่พากันออกไปเที่ยวพักผ่อนและเด็กวัยรุ่นรวมกันเป็นกลุ่มเดินไปมา ตรงข้ามกับร้านอีกฟากหนึ่งของถนนเป็นตึกสูงใหญ่ของบริษัทชื่อดังแต่พื้นที่ติดกันเป็นสวนสาธารณะเล็กๆที่ได้รับความนิยมจากเด็กๆแถวนี้เป็นอย่างมาก และวันนี้ก็เต็มเหมือนทุกๆวันหยุดที่ผ่านมา

ผมเหลือบมองเจย์ที่ยึดที่นั่งติดกระจกใสหน้าร้านตั้งแต่ช่วงเช้า บนโต๊ะคือหนังสือเตรียมสอบเล่มหนาและเครื่องเขียนสองสามอย่าง สายตาเหม่อมองออกไปข้างนอกโฟกัสที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้าม เด็กๆกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน รอบๆตัวมีผู้ปกครองหลายคนบ้างก็ยืนคุยกันบ้างก็เล่นกับเด็กๆ เป็นภาพที่น่ารัก แต่สายตาที่เจย์มองออกไปกลับให้ความรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก

“หิวรึยัง…ตอนเช้าเธอกลับไปที่บ้านเหรอ” ผมถามพร้อมกับวางคุกกี้ลงบนโต๊ะ เจย์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมามองผม

“อืม กลับไปเอาชุดนักเรียน”

“ที่บ้านเธอไม่ได้ว่าอะไรใช่มั้ย ที่มาค้างที่อื่นแบบนี้"

ไม่หรอก” เขาตอบเบาๆและก้มหน้าลงอ่านหนังสือที่ค้างไว้ต่อ ในขณะที่ผมกำลังจะพูดต่ออยู่นั้นเสียงกระดิ่งจากประตูร้านก็ดึงความสนใจของผมให้หันไปมอง เด็กผู้ชายตัวเล็กน่าจะอายุประมาณเจ็ดขวบเดินเข้ามาในร้านอย่างสนอกสนใจ ดวงตากลมโตใสแจ๋วจับจ้องแผ่นป้ายที่สกรีนเมนูขายดีของร้านไม่วางตา

“สวัสดีครับ อยากทานขนมอะไรเอ่ย” ผมเดินเข้าไปทัก เด็กชายไม่พูดอะไรแต่ชี้นิ้วมือเล็กๆไปที่ผ่านป้ายที่จ้องอยู่เมื่อครู่ เป็นเมนูคาปูชิโน่ปั่นโปะด้วยวิปครีมและผงกาแฟโรยหน้า เมนูขายดีประจำช่วงนี้

“ผมมีเงินเท่านี้ ผมกินได้มั้ยครับ” ในมือของเด็กชายกำธนบัตรสีแดงไว้จนยับยู่ยี่

“ได้สิ แต่เธอไม่อยากลองกินชอกโกแลตเย็นดูเหรอ” ผมยิ้มและยกตัวเด็กตัวเล็กขึ้นนั่งบนเก้าอี้หน้าบาร์ส่วนตัวเองก็เดินอ้อมไปอยู่ที่ประจำหลังเคาน์เตอร์

“ไม่ครับ ผมอยากกินกาแฟ”

“ทำไมล่ะครับ กาแฟน่ะขมมากๆเลยนะ”

“อ๊ะ..ขมเหรอ..แต่คุณแม่ผมกินทุกวันเลย ทำไมคุณแม่ไม่ขมล่ะ” ใบหน้าเล็กๆเงยหน้ามองผม คิ้วบางเหนือดวงตากลมโตขมวดลงอย่างสงสัย

“ก็เพราะคุณแม่โตแล้วไง แต่เธอยังเด็กอยู่ แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ พี่ชื่อมิณนะ”

“ชื่อซันครับ”

“อื้ม กาแฟน่ะเป็นเครื่องดื่มของผู้ใหญ่นะ เด็กๆแบบซันกินมันไม่ดี”

“ไม่ดียังไงเหรอครับ”

“เออ…มันก็…” คราวนี้เป็นผมที่เป็นฝ่ายเงียบ ถึงผมจะชอบเด็กๆแต่การรับมือกับคำถามของเด็กน้อยไร้เดียวสาเป็นอะไรที่ผมไม่ถนัดเอาเสียเลย

“นายก็จะความจำเสื่อมแถมจะโง่ด้วยน่ะสิ” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของที่กระแทกตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆพร้อมกับส่งสายตายียวนไปให้เด็กตัวเล็กที่ต้องแหงนหน้ามองเขาจนคอตั้ง

“เจเจ!! ทำไมพูดแบบนั้น” ผมร้องตามด้วยความรู้สึกอยากหยิบอะไรสักอย่างมาตีเขา

“อะไร ก็มันเรื่องจริง” เขายักไหล่ทำท่าไม่รู้ไม่รู้

“ไม่จริง พี่โกหก ถ้ากินแล้วความจำเสื่อม ทำไมแม่ยังจำผมได้ล่ะ” เด็กน้อยว่าอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็เพราะนายยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกไง!”

“ไม่จริง ผมโตแล้ว!!”

“อ้อ เหรอ” เจย์ลากเสียงยาวพร้อมกับเหล่ตามองเด็กตัวเล็กข้างๆอย่างดูแคลน ส่งผลทำให้คนถูกมองเริ่มเบะปาก

“เหอะ ขี้แย”

“เจเจ!! อย่าแกล้งน้อง!” ผมร้องแต่คราวนี้มาพร้อมกับช้อนกาแฟที่ตีลงบนแขนเขา

“โอ๊ย! มันเจ็บนะ!” ผมเมินเจย์ที่กำลังทำหน้าบูดและยกแก้วชอกโกแลตเย็นพร้อมวิปครีมมาวางลงตรงหน้าของซัน

“โอ๋ อย่าสนใจพี่เขาเลยนะ มากินชอกโกแลตเย็นดีกว่า กาแฟน่ะเป็นเครื่องดื่มของผู้ใหญ่ เด็กๆกินมันไม่ดี อีกอย่าง มันอร่อยสู้ชอกโกแลตไม่ได้หรอก” ผมยิ้ม

“…ว้าวว อร่อยจริงๆด้วย” เด็กชายว่าหลังจากจิบชอกโกแลตไปหนึ่งอึก

“หึหึ ใช่มั้ยล่ะ วันนี้พี่เลี้ยงแล้วกันนะ เอาเงินไปหยอดกระปุกออกสินซะล่ะ” ผมลูบหัวเด็กชายเบาๆส่วนเจ้าตัวก็พยักหน้ารัวๆจนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นสะบัดไปมา ก่อนจะวางชอกโกแลตอีกแก้วลงตรงหน้าเด็กโข่งที่อยู่ข้างๆ

“ฮื้อ ไม่เอาอ่ะ จะกินกาแฟ”

“ไม่ได้ พี่บอกแล้วไงว่าเด็กๆไม่ควรกิน”

“นี่โตแล้ว ไม่ใช่เด็ก!” เหมือนเด็กตัวโตตรงหน้าจะงอแงซะแล้วสิ

“นี่ๆ พี่มิณครับ เด็กๆกินกาแฟไม่ดีใช่รึเปล่า” ซันใช่มือกระตุกแขนเสื้อผมแล้วกระซิบเบาๆ

“อื้ม ใช่แล้ว”

“งั้นพี่ชายคนนี้ก็เป็นเด็กไม่ดีใช่มั้ยครับ” เด็กตัวเล็กยิ้มกว้างและชี้ไปทางเจเจที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้าไม่ถูก ทั้งๆที่เป็นฝ่ายแกล้งเขาก่อนแท้ๆเลยน้า

“นี่!! ไอ้เปี๊ยก!”

“อุ๊บ! ฮ่าๆๆ เจเจเป็นเด็กไม่ดีนะที่กินกาแฟ น้องยังรู้เลย เพราะฉะนั้นกินชอกโกแลตเย็นนี่เลยนะ” ผมกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นสีหน้าของเขา

เจยกัดฟันกรอดมองผมเหมือนคาดโทษก่อนจะดึงแก้ชอกโกแลตไปดื่มอึกใหญ่ ส่งผลให้วิปครีมเนื้อนุ่มติดอยู่เต็มริมฝีปากและบางส่วนไปติดอยู่ที่ปลายจมูกโด่งนั่นด้วย

“อ๊ะ พี่กินมูมมามจัง” ซันว่าและขยับออกห่างแต่ไม่ลืมส่งกระดาษทิชชูไปให้

“ฮะๆ ฮ่าๆ เจเจตลกจัง” ผมหัวเราะจนรู้สึกปวดท้องไปหมดและรับรู้ได้ถึงน้ำตาที่ซึมอยู่บริเวณหัวตา

“นี่!! หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ!!” เจย์ถลึกตามองมาทางผมอย่างกินเลือดกินเนื้อ




ฮะๆ เขาจะรู้มั้ยนะว่าการทำสีหน้าแบบนั้นโดยมีวิปครีมติดอยู่ที่ปลายจมูกมันดูไม่น่ากลัวเลยซักนิด




หึ!! ไม่สนใจเจเจเลยนะ พี่มิณ!! เจย์จะงอนแล้วนะ

........................................


สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะะะะะ!!! :mc4: :mc4:
จริงๆแล้วคนเขียนไม่ได้หายไปไหนนะคะ ก็ยังคงซุ่ม(ย้ำว่าซุ่ม) แต่นิยายอยู่เงียบๆนี่ล่ะค่ะ

แต่ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดเท่าไหร่ กะว่าจะลงก็ไม่ได้ลงซักที (อู้นั่นเอง) :hao3:

วันนี้เข้ามาถึงกับงงเลยค่ะที่มีบอร์ดเรื่องสั้นขึ้นมา ตอนแรกเข้ามาไม่ได้สนใจอะไรเลย มุ่งตรงจะอัพนิยายค่ะ สรุปหาเรื่องตัวเองไม่เจอ :sad4:

นี่รีเฟสดูอีกรอบถึงรู้ค่ะว่ามีบอร์ดใหม่ (ฮา)

ยังไงก็ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามเหนียวแน่นหนึบไม่ไปไหนนะคะ

พี่มิณกับน้องเจย์กลับมาแล้วน้าาา :mc4:

ป.ล.ทำไมรู้สึกว่า ยิ่งเขียนไป พี่มิณยิ่งขี้แกล้งขึ้นทุกวันเลยนะเนี่ย :laugh:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เยยยย้ มาแล้ว กำลังคิดถึงอยู่เลยค่ะ  :mc4:
ขอตัวไปอ่านแป๊บ

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เกือบลืมเรื่องนี้ไปซะแระ ขอบคุณคนแต่งน้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
หายนานมากเลย แต่น่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ยังน่ารักเหมือนเดิม. น้องเจย์นี่คงหลับสบายเนอะมีหมอข้างอุ่นๆแบบนี้. หึงแรงอีกด้วย
พี่มิณจะหลับลึกไปแล้วเค้าทำอะไรก็ไม่รู้เรื่อง 555
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ รอนะ ตอนต่อไปปีหน้าใช่ไหมเนี่ย.

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ยังไงก็น่ารัก ชอบที่สุด พี่มิณนี่ใจดีตลอด

เหตุผลของเจย์ก็เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย

เชียร์ทั้งคู่อยู่น้า คนเขียนด้วย สู้ๆ :z7: :110011:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พี่มินหลับลึกไปแล้วว
ถ้าเจเจหน้ามืดปล้ำขึ้นมาแล้วใส่ชุดคืนเหมือนเดิม
ก้จะคิดว่าฝันอยู่รึป่าวเนี่ย
5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2015 22:55:56 โดย MSeraph »

ออฟไลน์ ~PopPin[Pim]~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao6: คุณมิณณณณ!!! หลับลึกไปแล้วววววว สบายน้องเจย์เลยทีนี้ :laugh:

ติดตามค่ะ! เจเจน่าร้ากกกก หึงก็บอกว่าหึงสิ อย่าพาลคุณพี่ 5555

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
คุณเจ้าของร้านถ้าหากโดนเด็กปล้ำขึ้นมาจะรู้ตัวไหมคะเนี่ย ซื่อเกิ๊น!
แต่แบบนี้นี่แหละถึงได้น่ารัก

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจเจน่ารักจังเลย  :m1:
มาต่อเร็วๆน้าา เก๊าเราอยู่  :m13: :m5:

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 6






ผมลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจหลังจากแสงไฟสีส้มอ่อนภายในร้านกาแฟดับลงก่อนจะหมุนตัวเดินทอดน่องไปตามทางเท้าที่สะท้อนแสงไฟจากถนนและร้านค้า


ถึงแม้บ้านผมจะอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควรแต่ผมก็ชอบจะเดินมากกว่าและทุกๆครั้งมักจะจบที่ครึ่งทางและโบกแทกซี่กลับเสมอ...วันนี้ก็เช่นกัน


"ถ้าฉันไม่มีธุระด่วนให้ต้องรีบกลับมา ฉันคงไม่รู้ว่าแกกลับบ้านดึกขนาดนี้" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลังจากโซฟารับแขกที่ปกติจะไม่มีใครนั่งอยู่

"...."

"แกไปไหนมา" ชายผมสีดอกเลาหวีจนเรียบแปร้ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสื้อผ้ายังคงเป็นสูทราคาแพงที่แทบมองไม่เห็นรอยยับ..และผมมองว่ามันน่าหงุดหงิด

"เรื่องของผม" สองเท้าของตัวเองรีบก้าวขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นสองอย่างรวดเร็วและไม่ได้หันกลับไปมองอีก


ผมไม่ชอบคนที่หายไปจากชีวิตและอยู่ๆก็กลับมาทำเป็นรู้ไปซะทุกอย่าง เจ้ากี้เจ้าการไม่เข้าเรื่อง ..ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่รู้อะไรเลย และคงไม่คิดที่จะสนใจ ที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นเพียงแค่หน้าที่ที่จำเป็นจะต้องรับผิดชอบเท่านั้น

"ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นตั้นไปชั้นจะเปลี่ยนคนขับรถ!! และแกจะต้องไปกลับตรงเวลาทุกวัน!!" เสียงตะโกนเหมือนคำรามดังไล่หลังมาพร้อมกับฝีเท้าที่ก้าวเดินลงน้ำหนักอย่างแรง



ผมปิดประตูห้องอย่างรุนแรงพร้อมกับคว้าหูฟังขึ้นมาสวมและเร่งเสียงจนสุด นั่นไม่ได้ช่วยให้เสียงทุบประตูเบาลงแต่อย่างน้อยก็ช่วยทำให้ผมไม่รู้ว่าเสียงโวยวายของคนอีกฝั่งหนึ่งพูดว่าอะไร

เสียงเพลงร็อคจังหนักหน่วงกระแทกใส่สองหูจนรู้สึกรำคาญแต่ผมก็ไม่คิดจะถอดมัน..
ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกถึงสถานที่หนึ่ง...และคนๆหนึ่ง ...ถึงจะชอบทำตัวน่ารำคาญ ขี้บ่นแถมยังชอบกวนโมโห



...แต่ทุกครั้งที่ผมได้อยู่ที่นั่นผมกลับสบายใจทุกครั้ง...





ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยชุดเดิมของเมื่อวานแถมมาด้วยอาการปวดหูอย่างรุนแรง ผมขว้างหูฟังไปที่มุมหนึ่งของห้องอย่างไม่ใส่ใจและลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ

วันนี้ผมไม่เห็นเงาคนที่จู่ๆก็โผล่มาตอนดึกแต่กลับมีคนขับรถคนใหม่สองคนยืนอยู่หน้าประตูบ้านแทน ผมกรอกตาขึ้นอย่างรำคาญและก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลังโดยมีชายฉกรรจ์สองคนนั่งอยู่ที่เบาะหน้า

แรกๆผมไม่มีปัญหากับการต้องไปและกลับบ้านตรงเวลาถึงแม้ว่าบางทีผมจะสร้างปัญหาด้วยการเอ้อระเหยอยู่ในโรงเรียน ไม่ยอมออกไปที่รถ หรืออยู่ในห้องน้ำนานๆเพื่อที่จะไม่ต้องไปโรงเรียนเช้า แต่เมื่อผ่านไปได้สามวันผมก็เริ่มหงุดหงิด และวันนี้ก็เกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้ว ความอดทนของผมได้หมดลง..


ผมกระโดดข้ามรั้วคอนกรีตสูงราวสองเมตรของโรงเรียนออกมาสู่ตรอกแคบๆด้านข้าง เลี่ยงที่จะออกประตูหลักทั้งสองของโรงเรียนเพราะเจ้าคนขับรถสองคนนั่นต้องยืนเฝ้าอยู่แน่นอน

ผมเดินทอดน่องไปตามริมทางเลี้ยวเข้าซอยโน้นออกซอยนี้อย่างไร้จุดหมายจนนาฬิกาบอกเวลาหกโมงเย็น ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ผมแวะเล่นบาสที่สนามบาสเล็กๆที่ชอบมาประจำ เด็กๆกรูกันเข้ามาถามว่าผมหายไปไหนมาตั้งหลายวัน ซึ่งก็ได้รับคำตอบปัดๆกลับไป ..ผมไม่ค่อยอยากพูดถึงมันนัก

เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬารสหวานไหลลงผ่านลำคอหลังจากผมดื่มลงไปอึกใหญ่ ความคึกคักของย่านธุรกิจนี้เริ่มเบาบางลงแต่ดูเหมือนร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งยังคงเปิดต้อนรับลูกค้าอยู่ เงาคนหลายเงาเคลื่อนไหวอยู่ในร้าน หลากหลายอริยาบท แต่ผมกำลังจับจ้องคนๆหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้ ชายหนุ่มผิวขาวซีดและผมยาวประบ่ามัดรวบไว้ครึ่งศีรษะ เจ้าตัวกำลังเหม่อมองออกไปข้างนอก...

ผมควรจะรีบกลับบ้านหรือไปที่ไหนก็ได้เพียงแต่ต้องออกไปจากตรงนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงห้ามสองขาของตัวเองไม่ให้ก้าวเข้าไปในร้านนั่นไม่ไหว

บางทีชีวิตของเรานั้นคงต่างกันเกินกว่าจะรู้จักกันได้...ความจริงแล้วผมกับเขาไม่ควรเจอกันตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่ความบังเอิญบ้าๆและฝนบ้าๆในคืนนั้น




รถแทกซี่หยุดลงหน้ารั้วสีขาวที่คุ้นตามาตั้งแต่เด็ก สิ่งก่อนสร้างด้านในยังคงเปิดไฟสว่างแม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว ลมพัดแรงขึ้นจากตอนเย็นคาดว่าอีกไม่นานจะมีพายุลูกใหญ่พัดผ่านบริเวณนี้ ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะก้าวเข้าไปด้านใน

"ไปไหนมา"

"..."

"ฉันถามว่าแกไปไหนมา!!!!!"เสียงตะโกนราวกับคำรามดังขึ้น การที่เขาอยู่ตรงนี้ผมคิดไว้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าในใจลึกๆจะไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

"...."

"ฉันสั่งแกว่ายังไง!?"

"ผมไม่ใช่ลูกน้องที่ต้องทำตามคำสั่ง"

"อ๋อ งั้นแกคิดว่าแกเป็นลูกฉันแล้วจะทำยังไงก็ได้งั้นสิ!?"

"...."

"แกคิดว่าไอ้เด็กไร้ความรับผิดชอบไรระเบียบวินัยอย่างแกฉันจะไว้วางใจที่ทำธุรกิจต่อจากฉันรึไง!"

"เหอะ! ธุรกิจบ้าบอนั่นไม่เห็นจะอยากได้ตรงไหน หาคนทำต่อไม่ได้ก็ขายทิ้งไปเซ่!!"

"เจย์!!! แกรู้มั้ยว่าพูดอะไรอยู่!!?" เขาผุดลุกขึ้นจากโซฟาและก้าวออกมาสองก้าวจนใกล้กับผมมากขึ้น เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนอยู่บริเวณหน้าผาก ดวงตาคมจ้องเขม็งมาทางผม

"รู้!! ก็พูดถึงธุรกิจห่วยๆของบ้านเราไง หึ! แต่มันคงไม่ห่วยเท่าไหร่มั้ง อาจสำคัญขนาดที่ปล่อยให้มีคนตายก็ไม่สนใจอะไรเลยมั้ง!!!"

"พลั๊วววว!!!" ผมรู้สึกถึงสมองที่มึนงงชั่วขณะก่อนความเจ็บจากการล้มลงกระแทกกับพื้นจะดึงสติกลับมา ในโพรงปากเจือกลิ่นคาวเลือดจางๆ เหนือตัวผมคือชายที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่เมื่อครู่

ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมโดยที่ไม่มีใครขยับหรือพูดอะไรออกมา มีเพียงสายตาสองคู่ที่จ้องสบกัน รู้สึกเหมือนความรู้สึกหลายอย่างกำลังขมวดรวมกันและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มปริแตก...



ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าก้าวขาออกมาจากที่ที่เรียกว่า 'บ้าน' ตอนไหน รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ผมกำลังวิ่งไปบนทางเท้าข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเปียกชื้นที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

ผมหวังว่ามันจะเป็นสายฝนที่ร่วงโรยลงมาอยู่ในตอนนี้...ไม่ใช่สิ่งแสดงออกถึงความอ่อนแอของตัวเอง...



ทางเดินที่ผมไม่เคยเดินจนสุดทาง ตอนนี้ผมกลับทำได้ ผมเงยหน้ามองแผ่นไม้เก่าๆสลักชื่อร้านกาแฟที่มีหลอดไฟส่องให้พออ่านออก แต่ตอนนี้ภาพตรงหน้ามันช่างพร่าเรือนจากสายฝนตกกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ แต่ขาทั้งสองข้างมันไม่ยอมก้าวต่อไป ข้างในร้านนั้นมืดสนิท...ไม่รู้ว่าผมกำลังหวังอะไรอยู่

ผมหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้หน้าร้านที่ถึงจะมีกันสาดยื่นออกมาแต่ก็แทบจะช่วยกันฝนไม่ได้เลย ในวันที่ฝนตก...ผมไม่ชอบที่จะอยู่คนเดียว....






"แกร็ก" เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองอย่างตกใจ ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าผม เขาเบิกตากว้างในตอนแรกก่อนจะยิ้มกว้างออกมา...

เขานั้นเป็นคนที่แสนจะแปลกประหลาด...เพราะเขาสามารถเป็นทั้งคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดและคนที่อยากเจอที่สุดได้ในเวลาเดียวกัน....




"...เจเจ"









วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักทั้งวัน...

"แม่ฮะ เจย์อยากไปโรงเรียน"

"ไม่ได้นะจ๊ะ เจย์ไม่สบายต้องนอนพักนะ"

"...แต่...เจย์หายแล้ว เจย์อยากไปเล่นกับเพื่อนๆ.."

"หึหึ เจย์ชอบไปโรงเรียนมากเลยเหรอครับ หือ?"

"ครับ เจย์ชอบโรงเรียน เจย์มีเพื่อนเยอะแยะเลย คุณแม่ไปส่งเจย์นะครับ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ไปทันแน่ๆ"

"โอเค ก็ได้จ่ะ แม่จะไปส่งนะ แต่เจย์ต้องกินยาก่อนน้า"

"อ้ามมมม ได้ครับ เจย์กินยาๆ"



"จับมือแม่นะครับ ข้ามถนนอันตรายนะ..อ้ะ เข้ามาในร่มอีกครับ เดี๋ยวเปียกฝนเอา"

"ครับ...คุณแม่ ทำไมคุณพ่อไม่มาส่งเจย์กับแม่ล่ะ"

"คุณพ่อทำงานอยู่ กำลังยุ่งมากๆๆเลย"

"อือ...งั้นเหรอครับ..."

"อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิครับ พ่อรักพวกเรามากนะ รู้มั้ย?"

"รู้ครับ แม่ชอบบอกเจย์ตลอด แต่ทำไมพ่อชอบทิ้งเจย์กับแม่ไว้สองคนล่ะ..."

"เปล่าซักหน่อย พ่อเขาแค่มีงานต้องทำ เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องทำงานจ่ะ ส่วนเจย์เป็นเด็กก็ต้องตั้งใจเรียนนะ เข้าใจมั้ยครับ?? หือ??"

"ครับ! เข้าใจแล้ว เจย์จะตั้งใจเรียนนะฮะ...อ๊ะ! ไฟเขียวแล้ว รีบข้ามไปโรงเรียนกันเถอะครับ"
"ดะ เดี๋ยว! เจย์!!! ระวังลูก!!!!"


เสียงหยดฝนตกกระทบพื้นเสียงดังแต่ก็น้อยกว่าเสียงบีบแตรของรถและเสียงตะโกนโวยวายของคนรอบข้าง...

"เอี๊ยดดดดดดดด โคร่มมมมม!!!!"


ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ...ผมนั่งมองสองมือของตัวเอง...ที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด...








"เฮือกก!!" ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาแทบจะทั่วร่าง แม้กระทั่งแผ่นหลังก็ยังรู้สึกเปียกชื้นทั้งที่วันนี้อากาศเย็นสบาย หัวใจเต้นถี่รัวจนรู้สึกเจ็บข้างในอก รับรู้ได้ถึงม่ายตาที่เบิกกว้างและลมหายใจหอบถี่ของตัวเอง

รอบตัวคือห้องโถงชั้นสองของตึกสูงสี่ชั้นที่มีชั้นล่างเป็นร้านกาแฟส่งกลิ่นหอมขึ้นมาถึงบนนี้ ผมยันกายลุกขึ้นจากโซฟาบุนวมที่ใช้เป็นที่นอนชั่วคราว บางสิ่งที่เย็นชื้นไหลตกจากหน้าผากมาบนตัก

มันเป็นผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำหมาดๆที่คนๆหนึ่งน่าจะเอามาวางแปะไว้ ยกมือขึ้นลูบหน้าพลางเสยผมที่ยาวปรกลงมาขึ้น

...ผมไม่ได้ฝันถึงเรื่องนั้นมานานแล้วจนคิดว่าตัวเองลืมมันไปได้...แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น คงเพราะผมได้เจอกับคนๆหนึ่งที่เหมือนแม่มาก...และตอนนี้เขาก็กำลังเดินขึ้นบันไดมาหาผม

"ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกดีขึ้นมั้ย" ถามและนั่งลงบนพื้นที่ว่างเล็กน้อยบนโซฟา แขนผอมบางวางถาดขนมและแก้วนมบนโต๊ะ

"ดีขึ้นอะไร ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย"

"ไม่จริง เมื่อกี้พี่ขึ้นมาเธอตัวร้อนจี๋เลย" เขาว่าอย่างรวดเร็วพร้อมยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผากประกอบคำพูด

ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ไม่ใช่เด็กๆแล้วยังจะมาทำท่าทางแบบนั้นอีก..ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ได้พักหนึ่งผมถึงได้รู้ว่าเขาอายุมากกว่าผมอยู่เยอะทีเดียว ถ้าไม่ได้ยินจากปากเจ้าตัวว่าตอนนี้เขาเกือบจะสามสิบแล้วผมคงจะคิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มเพิ่งเรียนจบมาเปิดร้านกาแฟไปอีกนาน

"หึ!"

"หือ? ทำไมทำเสียงแบบนั้น เออ นี่ จะให้พี่ไปส่งไปโรงเรียนมั้ย?"

"หา?" จู่ๆก็ถามอะไรของเขาออกมาน่ะ

"ก็...พี่เพิ่งนึกได้ว่าผู้ปกครองต้องไปส่งเด็กที่โรงเรียนนี่นา ไปรับด้วย หลายวันมานี่เธอไปคนเดียวตลอด เพราะงั้นพี่เลยคิดว่าจะไปรับไปส่งเธอล่ะ" เขาพูดด้วยแววตามุ่งมั่นและกระตือรือร้น

"ไร้สาระ! ไม่ใช่เด็กอนุบาลซักหน่อย!"

"อ้าว แต่..."

"จะนอนแล้ว" ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

"อะ อืม..." เขายิ้มและเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ภาพเงาสะท้อนของเขายังคงอยู่ในสายตาผมก่อนจะค่อยๆเลือนลางไป...แต่สัมผัสอุ่นๆขอฝ่ามือนั้นยังคงอยู่ ผมรู้สึกได้แม้ว่าสติจะพร่าเรือนเต็มที...

แค่ไปโรงเรียน...มันไม่สำคัญขนาดต้องให้ใครไปส่งหรอก...




ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทไร้แสงดวงดาวเนื่องจากทั้งเมฆฝนกลุ่มใหญ่และมลภาวะที่ชาวเมืองปล่อยออกมาตลอดทั้งวัน

เหลือบมองนาฬิกาและมันเลยเวลาที่ร้านจะปิดมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมนวดขมับเบาๆก่อนจะหยิบคุกกี้ในถาดเมื่อตอนบ่ายขึ้นมากินจนหมด ตามด้วยนมที่เคยอุ่นแต่ตอนนี้เย็นชืด

เสียงฝีเท้าย่ำลงเบาๆตามบันไดและยิ่งเดินลงไปมากเท่าไหร่เสียงพูดคุยสองเสียงก็ยิ่งแว่วเข้าหูมากขึ้น แต่ผมฟังไม่ออกว่าเรื่องอะไร ...ใครมาหาทั้งๆที่ร้านปิดแล้วแบบนี้?

เท้าเหยียบลงที่บันไดขั้นสุดท้ายแสงไฟจากในร้านทำให้ผมที่เดินมาตามทางเดินมืดสลัวต้องหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะเพ่งมองภาพตรงหน้า

ผมรู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก้อนอะไรบางอย่างไหลขึ้นมาจุกอยู่ที่คอจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ รับรู้เพียงแต่ม่านตาของตัวเองที่เบิกกว้างและเสียงพูดที่สั่นจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง

หลายวันแล้วที่ผมไม่ได้กลับไป และไม่ได้นึกถึงเรื่องของเขา

ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่เจ้าของผมสีดอกเลาที่ไม่เคยผ่านการย้อมสีดำเพื่อปกปิดเส้นผมขาวตามวัยกำลังนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ในมือถือแก้วกาแฟที่มีควันลอยอ้อยอิ่ง ดวงตาคมเข้มเบนมาทางผมเช่นเดียวกับดวงตาอีกคู่ของคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ ต่างกันที่ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าคนนั้นกำลังส่งยิ้มกว้างสดใสปนความเอ็นดูมาทางผม แต่อีกคนที่ส่งยิ้มมา... ดวงตานั้นกลับไม่ได้ยิ้มไปกับริมฝีปากบางเฉียบที่ยกโค้งขึ้นเล็กน้อยนั่นซักนิด







".....พ่อ....."



........................................



ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
น้องเจย์คงไม่เตลิดไปไหนอีกนะ :hao5:


 :กอด1: :L2: :pig4:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling1:  อ้าก พ่อตามมาเจอแล้ว.

ฮือเศร้าได้อีก อย่าเลยนะคะเรื่องสั้นไม่ควรดราม่าค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
คุณสะใภ้ กับคุณพ่อตา ดูเข้ากันได้ดีนะ
เจเจหมดห่วงไปได้เรื่องนึงละ 55555555
พ่อตามมาเจอแล้วแบบนี้จะทำยังไงเนี่ย
ถ้าให้เดาเจเจก้คงอยู่ต่อและไม่กลับชัวร์ๆ
....รอคอยต่อไปอย่างยาวนานนน.... 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2015 22:30:26 โดย MSeraph »

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
โอ๊ยยยยย ลุ้นไปอีก เจเจสู้ๆนะหนู

ออฟไลน์ ~PopPin[Pim]~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โธ่ น้องเจย์มีปมเรื่องคุณแม่นี่เอง สู้เขานะเจเจจจจ
พี่มิณดูแลน้องด้วยน้าาา :hao7:

รอนะคะ o13

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ต่อสิๆๆๆ อย่าหายไปเลย

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
รีบๆมาต่อน้าาาาา อยากอ่านแล้ววววว คุณพ่อมาหาแล้ว เจจะทำไงเนี่ยยยย :ling1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อยากอ่านอี๊กกก!!! รอนะคะ. :hao5:

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มานอนรอเจเจค่า  :katai5:

ออฟไลน์ antseng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอาแล้วไง เอาแล้วไง


รออ่านต่อไปนะคะ...




ᆪ:ling1: :ling1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: ถึงยังไงคุณพี่ก็เต็มใจเลี้ยงลูกหมาอยู่แล้วไม่ใช่หรา

ออฟไลน์ IVY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Extra "คุณมิณ"





"คุณมิณ"

"อาร์ พี่บอกให้เรียกพี่มิณไง" ผมหันไปดุเด็กหนุ่มที่ยืนเช็ดกระจกอยู่หน้าร้านแบบไม่จริงจังนักก่อนจะเดินไปเก็บโต๊ะกาแฟใกล้ๆที่ลูกค้าเพิ่งจะลุกออกไป


ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายที่ลูกค้าจะไม่มากนัก วันนี้ผมไม่ได้เปิดแอร์สายลมอุ่นๆยามบ่ายจึงพัดเข้ามาถึงข้างในร้าน ให้ความรู้สึกน่านอนอย่างปฏิเสธไม่ได้

ผมชื่อมิณ หรือ เรมิณ แต่ผมก็ชอบให้คนเรียกสั้นๆ รู้สึกการเรียกชื่อเต็มจะดูเป็นทางการเกินไปขัดกับบุคลิกของตัวเอง อีกอย่างที่ผมไม่ค่อยจะชอบคือการที่เด็กๆชอบเติมข้างหน้าชื่อว่า 'คุณ' .. ผมชอบให้พวกเขาเรียกว่าพี่มากกว่า

แต่ช่วงนี้ดูเหมือนว่าผมจะมีเด็กดื้อเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง...




"กรุ้งกริ้ง~"
หลังจากเข้าครัวไปอบคุกกี้เพิ่มอีกสองถาดและเค้กอีกหนึ่งก้อนเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนที่...ผิดระเบียบเหมือนเดิม

ตอนนี้เป็นเวลาก่อนเลิกเรียนเล็กน้อยและเขาจะกลับมาในเวลานี้เสมอ

"เจเจแต่งตัวไม่เรียบร้อย"ผมแกล้งพูดเสียงเข้มแต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยสนใจนักสังเกตได้จากที่เขาเหล่มองผมเล็กน้อยและเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์อย่างไม่ใส่ใจ …ผมเหมือนจะได้ยินเสียงแว่วๆ

"ขี้บ่น"

เจย์มาอยู่ที่ร้านผมได้สามวันแล้วและผมก็ยังไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่เขามาอยู่ที่นี่ เขาเป็นเด็กดีถึงแม้จะไม่ค่อยพูดและปากร้ายไปบ้างแต่เขาเป็นคนมีน้ำใจแถมยังใส่ใจคนอื่นและดูจะอ่อนไหวในบางครั้ง

ผมยิ้มขำเมื่อเห็นเขากำลังพยายามเทฟองนมที่ตีจนขึ้นฟูลงบนโกโก้เย็นอย่างเก้ๆกังๆ

"มานี่สิ พี่ช่วย" เขามองผมที่เทฟองนมลงไปอย่างตั้งใจ ตาคมโตนั้นเบิกกว้างเล็กน้อยเหมือนเด็กเล็กๆเจอของเล่นชิ้นใหม่

เจย์ให้ผมช่วยสอนวิธีชงเครื่องดื่มและทำขนมให้ แต่หลังจากที่เขาทำคุกกี้ผมไหม้ไปหนึ่งถาดและใส่เกลือลงไปแทนน้ำตาลในเค้กแล้วผมถึงคิดได้ว่าคงจะต้องเริ่มสอนเขาจากการทำเครื่องดื่มก่อน


เขายังเด็กอยู่จริงๆ...


"อื้อ! ทำอะไรของคุณ" เขาร้องเบาๆเมื่อผมยกมือขึ้นยีหัวเขาเล่น

"ก็เธอน่ารักดี" ผมยิ้ม

"...."

"แต่... พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกพี่มิณ ทำไมเรียกคุณล่ะ" ผมจำได้ว่าผมบอกเขาตั้งแต่วันแรก แต่ทุกวันนี้เขาก็ยังไม่เคยเรียกผมว่าพี่เลยซักครั้ง

"แล้วทำไมจะเรียกไม่ได้"เขาหน้าบึ้ง

"ก็..พี่อายุมากกว่าเธอไง อีกอย่างเรียกคุณมันดูห่างเหินนี่นา"

"..."

"แล้วก็..."




"คุณมิณ" เสียงเรียกจากประตูร้านทำให้ผมค้างคำพูดเอาไว้และหันไปมอง ชายหนุ่มลูกครึ่งกำลังยิ้มกว้างและเดินเข้ามาใกล้

"คุณรอน วันนี้เลิกงานเร็วเหรอครับ" ปกติเขาจะมาช่วงที่ร้านใกล้ปิดเสมอ

"อ๋อ เปล่าครับ ผมจะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศน่ะ ก็เลยมาลา"ชายหนุ่มกล่าวพลางทิ้งตัวลงนั่งหน้าเคาน์เตอร์

"หือ? คุณจะไม่กลับมาแล้วเหรอครับ" ผมเบิกตากว้าง การที่อยู่ๆลูกค้าประจำจะหายไปแบบนี้ผมก็อดใจหายไม่ได้ ถึงแม้การทำงานสายธุรกิจอย่างเขาการเดินทางคงไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งการย้ายที่ทำงานไปต่างประเทศนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา รอนได้ยินที่ผมถามก็ระล่ำระลักตอบอย่างรวดเร็ว
 
"ไม่ครับ ไม่ ผมแค่ไม่รู้กำหนดกลับน่ะ ผมติดใจกาแฟของคุณแล้วล่ะ จะไม่กลับมาได้ยังไง"

"อ๋อ ...ขอบคุณนะครับ" ผมยิ้มพลางถอนหายใจ

"หึหึ คุณมิณ คุณจะคิดถึงผมรึเปล่า"

"ฮะๆ คิดถึงสิครับ คุณมาที่นี่ประจำนี่นา" ผมหัวเราะเบาๆทำให้รอนยิ้มกว้างออกมา



"บึ้ง!!" เสียงก้นแก้วเปล่ากระแทกลงบนเคาน์เตอร์ทำให้ผมชะงัก ดวงตาคมเข้มของเจย์กำลังจ้องมองมาทางผมอย่างไม่พอใจ ในมือของเขาถือแก้วโกโก้ที่ดื่มจนหมดแล้วเอาไว้

"เจย์?" เขาเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรงก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดไป


"หึหึ เด็กๆนี่อ่านง่ายนะครับ" ผมหันกลับมาสนใจคนหน้าเคาน์เตอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ

"ว่าไงนะครับ?"

"เด็กคนนั้นดูเขาจะติดคุณมากๆเลยนะ"

"...."

"คุณน่าจะพูดอะไรบ้าง อย่าปล่อยให้เขาคิดไปเองสิครับ"

"ผมเหรอ? ผมต้องพูดอะไรน่ะ" ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ

"หึหึ คุณมิณ คุณเป็นคนใจดี แต่บางครั้งมันก็อาจจะทำให้คนอื่นคิดเกินเลย...อ่า ผมต้องไปแล้ว" หลังจากประโยคที่ผมไม่เข้าใจรอนก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนทำท่าจะลุกขึ้น

"จะไปแล้วเหรอครับ ไม่ทานอะไรก่อนเหรอ"

"ผมต้องรีบไปสนามบินน่ะครับ" เขาหันมายิ้ม ผมสังเกตเห็นรถแทกซี่คันหนึ่งจอดติดเครื่องเทียบอยู่หน้าร้าน

"ครับ งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะครับ"




หลังจากออกไปส่งรอนที่ริมถนนและยืนมองจนท้ายรถแทกซี่ลับตาไป ผมก็กลับเข้ามาในร้านอีกครั้งเพื่อเตรียมรับมือกับลูกค้าในช่วงเวลาเลิกงาน

และวันนี้ช่วงเวลาหลังสี่โมงถึงหกโมงเย็นก็ยังคงวุ่นวายเหมือนเดิม...

เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วจนตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกกลายเป็นสีเข้ม ลูกค้าในร้านเริ่มบางตาลง ทำให้ผมนึกถึงบางเรื่องที่ลืมไปชั่วขณะหนึ่ง


"เจเจ.."ผมเรียกเด็กหนุ่มที่ตอนคว่ำหน้านิ่งกับโซฟาตัวยาวบนชั้นสองของร้านแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากเจ้าตัว

"หิวรึยัง พี่จะทำอะไรให้กิน"

"...."

"ข้าวผัดดีมั้ย?"

"...."

"หรือจะกินแกงจืดกับไข่เจียวแบบที่เธอชอบดี"

"...."

"เจเจ...เป็นอะไร ทำไมไม่คุยกับพี่ล่ะ" ผมทิ้งตัวลงนั่งบนที่ว่างเล็กบนโซฟา ..รู้ว่าเขาไม่ได้หลับ
"ถ้าเธอไม่คุยกับพี่ พี่จะใส่คะน้าลงในอาหารทุกอย่าง แม้แต่ไข่เจียวเลยนะ!" ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเล็กๆ จริงๆแล้วผมไม่ได้โกรธเขาหรอก แต่แค่อยากจะแกล้งดูเท่านั้นแหละ ..เจย์ไม่ค่อยชอบกินผักสีเขียวและที่ดูเหมือนจะเกลียดที่สุดก็คือคะน้าเทศนี่ล่ะ หึหึ

ร่างบนโซฟากระตุกเล็กน้อยก่อนจะนิ่งเงียบไปเหมือนเดิม

"เฮ้อ...งั้นพี่จะทำข้าวผัดให้กินนะ" ผมว่าและทำท่าจะลุกออกไป เขากำลังอารมณ์แปรปรวนเพราะฮอร์โมนวัยรุ่นรึเปล่านะ ผมเองก็ผ่านวัยนั้นมาหลายปีแล้วด้วยสิ

"...ไม่ชอบ" เสียงทุ้มต่ำอู้อี้จากโซฟาตอบกลับมาเป็นครั้งแรกแต่ก็เบาเกินกว่าที่ผมจะได้ยินชัดเจนทำให้ต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

"หือ? ว่าไงนะ"

"ผมไม่ชอบ!! ทำไมใครๆก็เรียกคุณได้ แต่ทำไมผมเรียกไม่ ..อ๊ะ!" ช่วงท้ายประโยคหายเข้าไปในลำคอเมื่อเขาพลิกตัวผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพบว่าปลายจมูกของพวกเราแทบจะชนกัน

"ขะ ขะ เข้ามาใกล้ทำไม!!?" เขาร้องก่อนจะถอยตัวไปจนติดกับที่วางแขนของโซฟา

“ก็…เธอพูดเบา พี่ไม่ได้ยิน”

"...."

"แล้วเมื่อกี้ที่เธอ.."

"ช่างเถอะ" เจย์ตัดบทและถอยห่างออกไป

"อ้าว แต่เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ"

"...."

"ที่เรียน'คุณ'เพราะบางคนพี่ไม่ค่อยสนิท อีกอย่างจะให้ผู้ใหญ่ด้วยกันมาเรียก 'พี่' มันก็แปลกๆไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเด็กๆเรียกล่ะก็ !น่ารักกว่าเยอะเลย" ผมพูดและหันไปยิ้มแต่อีกคนไม่ได้ยิ้มตามกลับตอบเสียงแข็ง

"...ไม่ใช่เด็ก"

"เธอเด็กกว่าพี่นี่นา"

"ผมไม่ใช่..น้องคุณ"

"ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆก็เรียกพี่ได้นี่" ผมยังเถียงต่อไม่ลดละ เห็นเจย์ทำหน้าเหมือนคนเหลืออดเต็มทีก่อนจะโพล่งออกมา

"ผมไม่ได้อยากเป็นน้องคุณ!!!"

"...."

"...."
"แล้ว..เธออยากเป็นอะไรน่ะ?" ผมขมวดคิ้ว งุนงง จะให้เขาเป็นหลานแล้วเรียกผมว่า อา หรือ น้า ผมก็ไม่ค่อยจะชอบใจกับคำนำหน้าที่แก่ลงเท่าไหร่ด้วยสิ แต่ถ้าจะให้เป็นลูกยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ใครจะไปมีลูกอายุห่างกันสิบปีกันล่ะนี่???

เจย์เงียบไปหลายอึดใจดวงตาสีดำเบิกกว้างเล็กน้อยเหมือนกำลังอึ้ง สุดท้ายเขาก็กระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะอ้าปากพูดออกมา

"ให้ตาย...ทึ่มชะมัด"

"....ห้ะ?!"

"คุณอายุเท่าไหร่กันแน่!? ทึ่มจริงๆ" เขาพูดเน้นชัดๆก่อนจะลุกพรวดและเดินไปทางบันได
คราวนี้เป็นผมที่กระพริบตาปริบๆพูดไม่ออกแทน

"..เจย์...เจเจ!! เธอว่าพี่ทึ่มเหรอ!? กลับมานี่นะ อย่าเดินหนีสิ"

"ทึ่ม!" เสียงทุ้มแว่วมาจากในครัว






"เจย์!!!




........................................

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

แหมมม เขียนไปเขียนมา รู้สึกว่าคุณมิณทั้งกวนทั้งขี้แกล้งเลยนะคะเนี่ย :m20:

แวะเอาตอนพิเศษมาฝาก และขอบคุณนักอ่านที่ยังติดตามเรื่อยมานะค้าาา :3123: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด