วันที่ 5 วันนี้เด็กหนุ่มตัดสินใจโดดเรียน
เขาเหนื่อยมาทั้งคืนกับการเก็บกวาดสิ่งที่ไอ้โจ๊กทำเอาไว้ ซากของไอ้แม็คที่ถูกแทะไปครึ่งหนึ่ง กล่องใบเดิมเล็กไปเสียแล้ว ไม่สามารถที่จะใส่ทั้งศพ และใส่ทั้งไอ้โจ๊กได้ในคราวเดียว เขาจึงเอาชุดนักเรียนของไอ้แม็คสวมให้ไอ้โจ๊กเพื่อเป็นการอำพราง แม้จะไม่ค่อยแนบเนียนนักก็ตามที แล้วจำยอมให้ไอ้โจ๊กเดินตามเขากลับบ้าน ถึงจะยังมืดแต่ก็เสี่ยงต่อการถูกเห็นอยู่ดี คราวหลังเห็นทีจะต้องวางแผนกันให้รอบครอบและรัดกุมกว่านี้
คนจะสงสัยรอยเลือดไหม เด็กหนุ่มรู้สึกเป็นกังวล กลัวว่าเรื่องจะสาวมาถึงตัวได้ ที่เขาทำคือแค่เช็ดมันให้แห้งเท่านั้น แต่ร่องรอยนั้นก็ดูจะไม่จางหายไปง่าย ๆ ต่อให้เป็นพื้นไม้ แต่ก็ต้องมีคนสังเกตเห็นรอยด่างอยู่ดี
“กินซะโจ๊ก ก่อนที่มันจะเน่าแล้วก็ส่งกลิ่น คงอีกหลายวันกว่ามึงจะได้กินเนื้อคนอีก”
เขาปล่อยมันไว้กับซากที่เหลืออยู่บนห้องใต้หลังคา ก่อนจะอาบน้ำและหลับเป็นตาย ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเคาะประตูในตอนเช้า แม่ของเด็กหนุ่มมีท่าทีเป็นกังวล และชั่งใจอยู่นานก่อนจะเคาะประตูห้องซึ่งไร้เสียงตอบกลับ ไม่ใช่เรื่องไอ้ชดที่หายไป แต่เป็นเรื่องที่ลูกชายเธอนั้นมีท่าทีแปลก ๆ
ปกติเธอจะออกไปทำงานก่อนเขา โดยเตรียมข้าวเช้าทิ้งเอาไว้ให้ แต่วันนี้เธอกลับสองจิตสองใจ ใจหนึ่งอยากถาม อีกใจหนึ่งก็กลัว ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในบ้านในสองสามวันมานี้ ใช่ว่าเธอจะไม่สังเกตเห็น
ทั้งของสดในตู้เย็นที่หายไป
เสียงพูดคุยในห้อง
และเมื่อคืนนี้ลูกชายของเธอหายไปกลางดึก และกลับมาก็อาบน้ำอยู่เป็นชั่วโมง
ไหนจะกล่อง.........
เธอเห็นลูกชายหอบหิ้วกล่องใบนั้น ใบเดียวกันกับที่เคยเห็นในวันที่ฝนตก กับอะไรบางอย่าง
เธอเกือบจะแอบขึ้นไปดูอยู่แล้วเชียว แต่ก็กลัวเกินกว่าจะทำเช่นนั้น
และถ้าไม่ติดว่าไอ้ชดเพิ่งจะหายไปเพียงแค่สามวัน เธอคงจะฟุ้งซ่านไปอีกว่าลูกชายของเธออาจมีเอี่ยว
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
"กล้า........สายแล้วนะลูก วันนี้หนูไม่ไปเรียนหรือ?"
"......................."
"กล้า.....นอนเหรอลูก"
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
ในที่สุดเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบสนองเธอ ด้วยความกลัวที่มีมากกว่าความอยากรู้ เธอจึงยอมถอยไปโดยดี ยังไงเสียเธอก็คงไม่กล้าถามเขาตรง ๆ และต่อให้ถามไป เธอก็ไม่รู้ว่าคำตอบนั้นจะเป็นสิ่งที่เธออยากได้ยินหรือเปล่า
เธอได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีกเลย
.
.
.
.
.
ต้นกล้าตื่นอีกทีก็เกือบบ่ายโมง
ไอ้โจ๊กฉีกยิ้มร่าโชว์เขี้ยวแหลมรออยู่บนห้องใต้หลังคา ทันทีที่เขาขึ้นไป มันก็วิ่งเข้ามากอดเขา เด็กหนุ่มตกใจจนเกือบจะถีบมันกระเด็น ก็ดูเขี้ยวแหลม ๆพวกนั้นสิ มันน่ากลัวมากกว่าน่ารักนะ
“แดกเกลี้ยงเลยนะมึง.....สูงขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยคงตัวเท่ากู”
“กิ๊”
“มึงว่าแม่จะสงสัยไหม”
“ซงงงงงงงสายยยยยยย”
เขาคุยกับมัน ขณะที่กำลังเก็บซากกระดูกที่ปราศจากเนื้อของไอ้แม็ค ศพนี้ก็คงต้องโยนลงบ่อเกรอะอีกเช่นเคย เขาฉีดสเปรย์ดับกลิ่น ละอองนั้นฟุ้งกระจายไปทั่ว แล้วไอ้โจ๊กก็ดูจะไม่ชอบเอาเสียเลย
“อย่าโวยวายน่า ไม่ฉีดก็เหม็นแย่.....นี่ถ้ากูถูกตำรวจจับนะโจ๊ก มึงห้ามกินแม่กูนะ จะไปแดกใครก็เรื่องของมึงเถอะ”
เด็กหนุ่มพูดติดตลก แต่ในใจก็คิดไปถึงไหนต่อไหน หลังจากฆ่าคนไปแล้วสองศพ เขาก็รู้สึกเหมือนแบกความผิดบาปเอาไว้บนบ่าทั้งสอง ต่อให้เถียงว่าไอ้โจ๊กเป็นคนฆ่า แต่สุดท้ายเขาเองก็มีส่วนในการตายเต็ม ๆ
“ป่ะ.....ลงข้างล่างกันดีกว่า มึงมันก็ดีตรงนี้ ว่าง่าย ไม่สร้างปัญหา สั่งให้เงียบก็เงียบ”
“กิ๊”
“ห้ามให้แม่เห็น แล้วก็ห้ามทำร้ายแม่ด้วย เข้าใจไหม”
“เค้าใจ่” มันตอบเขาด้วยสำเนียงประหลาดอย่างเคย
“เข้าใจ!!!” เด็กหนุ่มทวนคำให้มันฟัง ไอ้โจ๊กพยายามเปล่งเสียงเลียนแบบนายของมัน
“เข่าใจ???”
“ช่างเถอะ....เดี๋ยวอีกหน่อยมึงก็พูดคล่องเองแหละ”
หลังจัดการกับศพไอ้แม็ค ต้นกล้าก็เปิดทีวีดูกับเจ้าสัตว์ประหลาด มันขึ้นนั่งบนโซฟาข้าง ๆเขาโดยที่ไม่ต้องสั่ง แถมยังนั่งเท้าคางเลียนแบบเขาอีกต่างหาก มันจ้องภาพในจอสีเหลี่ยมด้วยดวงตาเป็นประกาย เวลาที่มันทำหน้าแบบนี้ ต้นกล้าก็อดเอ็นดูมันไม่ได้ เด็กหนุ่มเห็นมันเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว
“กินคราวนี้แล้วจะอยู่ไปได้อีกกี่วันวะ”
“กิ๊”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....กูให้เต็มที่วันครึ่งอ่ะ.....เผลอๆไม่ถึง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“หัวเราะตามกูเหรอ”
“กิ๊กิ๊กิ๊”
“นอกจากแม่......ลูกเต๋า......ก็มีมึงนี่แหละ ที่อยู่ข้างกู แต่แม่ก็ไม่เคยช่วยอะไรกูได้เลย ส่วนลูกเต๋ากูก็เลิกคบเขาไปแล้ว เหลือแต่มึง ตอนนี้กูเหลือแค่มึงแล้วนะ ไอ้คู่หู”
เจ้าสัตว์ประหลาดจ้องหน้าต้นกล้าด้วยสายตาออดอ้อน มันเข้าใจเด็กหนุ่ม ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นความรู้สึกที่สื่อออกมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็เหมือนมัน โดดเดี่ยวและไร้ค่า มันเคยเข้าใจว่าตัวเองเกิดมาเพื่อกิน แต่มาบัดนี้มันรู้แล้ว ว่ามันสามารถรู้สึกและเป็นได้อีกหลายอย่าง เป็นเพื่อน เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ เป็นที่เพิ่ง
ถ้ามันเข้าใจความหมายของคำว่ารัก มันคงพูดได้เต็มปากว่ามันรักต้นกล้าเข้าให้แล้ว(แน่นอน.....ถ้ามันพูดได้) และมันยินดีที่จะสละทุกอย่างที่มีเพื่อเด็กคนนี้
“เฮ้ย....ไอ้โจ๊ก.....นี่มึงมีไข่นี่หว่า.....เป็นตัวผู้นี่หว่าเฮ้ย.....บ๊ะ.....ผ่านไปไม่เท่าไหร่โตเป็นหนุ่มแล้วสิมึง”
“......”
“นี่ไง.....ตรงนี้ไง....ไข่ของมึง”
ต้นกล้าเพิ่งสังเกตเห็นเพศของมันก็คราวนี้ อวัยวะเพศผู้ของไอ้โจ๊กเพิ่งปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง ไม่ต่างจากของมนุษย์เท่าไหร่ เพียงแต่ตอนนี้มันยังเป็นแค่องคชาติของเด็กทารกแรกเกิดเท่านั้น ต้นกล้าเกาไข่สองใบของมันเล่นอย่างหยอกเย้า ไอ้โจ๊กหัวเราะเอิ๊กอ๊าก มันรู้สึกจั๊กกะจี้ ต้นกล้าเล่นกับมันเหมือนเล่นกับเด็กอยู่พักใหญ่ พอเกาคางมันก็ทำท่าเคลิ้ม เกาพุงให้มัน มันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ตอนนี้เขาชินกับเสียงหัวเราะสยองของมันแล้ว
“กูมีเสื้อผ้าตอนเด็ก ๆ อยู่ในห้องเก็บของ เดี๋ยวกูเอามาใส่ให้มึงนะ”
เขาจับมันแต่งตัวด้วยชุดเก่า ๆของเขา ตอนนี้ไอ้โจ๊กดูใกล้เคียงเด็กผู้ชายวัยกำลังหัดเดิน เด็กหนุ่มสังเกตเห็นว่าพัฒนาการของไอ้โจ๊กนั้นรวดเร็ว และดูคล้ายมนุษย์ มันโตขึ้น....ไม่ใช่ตัวใหญ่ขึ้น ทว่ายืดขยายจากทารกค่อย ๆเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ ทั้งสัดส่วนและความสูง อีกไม่กี่วันมันคงจะโตจนเกือบเท่าเขา แล้วถึงตอนนี้เขายังจะซ่อนมันเอาไว้ได้อีกไหม
ไม่รวมถึงสมองของมันที่เรียนรู้ได้รวดเร็ว แล้วถ้ามันโตไปมากกว่านี้ แค่เนื้อมนุษย์จะยังเพียงพอสำหรับมันหรือไม่
ต้นกล้ากำลังคิดหาทางออก ถ้ามันเป็นอันตรายกับเขา เขาจะจัดการกับมันอย่างไรดี แทงด้วยมีด หรือว่าใส่ยาพิษในเนื้อให้มันกินดีล่ะ.......
หรือจะสอนให้มันล่าเหยื่อด้วยตัวเอง
หรือสอนให้มันอยู่อย่างมนุษย์ รู้จักควบคุมความกระหาย ก่อนที่มันจะสูงเท่าตึกแปดชั้น
อันไหนมันง่ายกว่ากันนะ
แล้วพวกของไอ้เสือยังเหลืออยู่อีกกี่คน
ห้องเรียนทั้งห้องจะพอสำหรับมันไหม
หรืออาจจะต้องกินทั้งโรงเรียนถึงจะพอ
“ถ้ามึงหิว....มึงต้องอดทนนะโจ๊ก กินแค่ของที่กูหามาให้มึงไปก่อน รับรองว่ายังมีให้มึงกินอีกเยอะ”
"เข้าใจ"
"พูดได้แล้วนี่หว่า เกือบเหมือนคนแล้วนะมึงอ่ะ"
เด็กหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แล้วเริ่มค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เขาสมัครอีเมล์ใหม่ ดาวน์โหลดโปรแกรมเพื่อป้องกันการสืบค้นเลขไอพี จากนั้นจึงสมัครเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์เป็นภาพของเน็ตไอดอลสาวน้อยคนหนึ่ง
ในแก๊งค์ของไอ้เสือ.....มีอยู่คนหนึ่งที่บ้าผู้หญิงมากกว่าใคร
ไอ้ปุ่น......มันคงคิดว่าตัวเองนั้นหล่อเสียเต็มประดา เอาจริง ๆแก๊งค์ไอ้เสือมันก็หน้าเหี้ยเหมือนนิสัยหมดทุกคนนั่นแหละ เว้นแต่ไอ้เสือที่พอจะดูเป็นผู้เป็นคนบ้าง แต่มันก็เลวที่สุดเช่นกัน ถึงคุมคนอื่นๆได้อยู่
ไม่ทันจะถึงหนึ่งชั่วโมงที่เขากดแอดเพิ่มเพื่อนเข้าไป ไอ้ปุ่นก็กดรับเขา
พร้อมกับส่งข้อความมาทักทาย
[สวัสดีครับ.....ชื่อไรอ่ะเตง(ตัวเอง)]
ต้นกล้าเอื้อมมือไปลูบหัวของไอ้โจ๊ก ขณะที่ตาของเขายังไม่ละไปจากหน้าจอ
“คราวนี้คงต้องเปลี่ยนที่หากินใหม่เสียแล้วว่ะโจ๊ก”[สวัสดีจ้ะ เราชื่อดาด้า เรียนอยู่หญิงล้วน]
.
.
.
.
.
.
to be con
ต่อไปคงพาโจ๊กออกงานได้เนอะ