หวง
อารมณ์หึงหวงเป็นอารมณ์ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และผมรู้สึกไม่ชอบใจเลยที่เป็นแบบนี้ แต่ผมก็เกลียดที่มีคนมาให้ความสนใจกับมันมากเกินความพอดี จนควบคุมความรู้สึกนึกคิดตัวเองไม่ได้แบบนี้
“ชื่ออะไรนะ”
“ดาวค่ะ”
“งั้นให้ช่วยจัดของไปก่อน ทำความรู้จักกับสินค้าได้ดีแล้วค่อยออกมาช่วยขายหน้าร้าน”
“ครับ”
ผมรับคำมันก่อนจะเดินนำดาวออกไปดูสถานที่ทำงานของตัวเอง เริ่มจากเช็คของหลังร้านแล้วค่อยขยับมาจัดเรียงของขึ้นชั้น และถ้าเธอสามารถทำความรู้จักสินค้าได้ดีพอก็จะได้เลื่อนขั้นมาขายของหน้าร้านแทน มันตั้งกฎพวกนี้ไว้ ยิ่งกับใครที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่วก็จะได้รับงานที่สบายมากขึ้นไปอีก นั่นคือการขายของผ่านหน้าเว็บไซค์
ร้านของเราขายสาขาไปแล้วสามสาขาในจังหวัดนี้ นั้นก็เพราะความขยันและตั้งใจของมัน ยิ่งกับสาขาที่กำลังจะเปิดในอีกหลายจังหวัดใหญ่ ๆ มันยิ่งต้องพยายามมากกว่าที่ทำอยู่ บางทีผมก็อยากให้มันได้พักบ้าง เลยบอกให้มันหยุดคิดเรื่องที่จะขยายสาขา แต่มันกลับตอบกลับมาด้วยคำพูดที่ทำให้ผมต้องเถียงไม่ออก
“เผื่อสักวันไม่มีกู มึงจะได้อยู่เองได้”
ผมไม่ชอบคำ ๆ นี้ แต่ก็รู้ตัวว่าพูดอะไรไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายก็ได้แต่ตอบกลับไปด้วยคำพูดเลี่ยน ๆ ที่ตัวเองยังต้องนึกเขินไม่หาย
“ไหนคุณบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผมไงครับ”
“...”
“เพราะฉะนั้น ก็อย่าทิ้งผมไปไหนเลยนะครับ”
“งั้นถ้ากูตาย มึงก็ตายตามกูไปสิ”
“...”
“เหมือนกับที่กูจะทำ ทันทีที่มึงไม่อยู่แล้ว”
มันก็เป็นเสียอย่างนี้ ชอบพูดอะไรให้ผมต้องนึกได้ใจอยู่ตลอดว่ามันรักนักหนา จนเผลอเอาแต่ใจตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
“คุณทิวคะ สินค้าตัวนี้ต้องจัดคู่กับตัวนี้ใช่ไหมคะ”
“อ๋อ เอ่อครับ” ผมครางรับ ก่อนจะยื่นมือไปช่วยดาวจัด “ไม่ต้องพิถีพิถันมากหรอก แค่ระวังอย่าให้มีฝุ่นเกาะก็พอ”
“อ๋อค่ะ”
กวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะเดินกลับเข้ามาทำบัญชีในห้องต่อ ไม่รู้ตอนนี้มันโผล่ไปอยู่ตรงส่วนไหนของร้านแล้ว คงจะหลบไปคุยโทรศัพท์เรื่องงานที่บริษัทเหมือนเคยนั่นแหละ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมห่วง ทั้งกิจการของตัวเอง ทั้งจะต้องสืบต่อกิจการของพ่ออีก ไม่รู้มันจะแบกรับภาระทุกอย่างเอาไว้คนเดียวอย่างนี้ไปจนถึงเมื่อไร
“ทำหน้านิ่วอีกแล้ว” ไม่ทันได้คิดอะไรต่อ มันก็เดินเข้ามาถึงตัวผมแล้ว “เป็นอะไร”
“เปล่าครับ”
“เปล่าอะไร” มันว่าแล้วใช้นิ้วคลึง ๆ ที่หัวคิ้วผม “คิ้วมึงไหลมากองรวมกันหมดแล้ว”
“...”
“พักเที่ยงแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
“แต่..” ผมหันไปมองกองเอกสารที่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลยในวันนี้
“กินเสร็จแล้วค่อยกลับมาทำต่อ”
“แต่มันยังไม่เที่ยงเลยนะครับ”
“อีกแค่สิบนาที”
“ครับ ๆ” เมื่อเห็นว่าคงจะขัดอะไรไม่ได้ ผมเลยเลือกจะตามใจมัน “ไปร้านใกล้ ๆ แถวนี้ก็พอนะครับ”
“รู้แล้ว”
คงไม่ได้มีแค่ผมที่ต้องทำตามใจมัน เพราะตอนนี้มันเองก็กำลังตามใจผมอยู่เหมือนกัน
.
.
.
“คุณนัทคะ ช่วยดาวดูรายการสินค้าตรงนี้หน่อยได้ไหมคะ” พนักงานใหม่ที่เราเพิ่งรับวิ่งเข้ามาหามันทันทีที่มาถึงร้าน “ดาวงง ๆ กับรายการสินค้าสองตัวนี้”
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ” ผมขอแยกตัวเข้ามาทำงานในห้องก่อน เมื่อรู้สึกว่าไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าสักเท่าไร
“อืม”
มันรับคำแค่สั้น ๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจเอกสารในมือที่ดาวยื่นมาให้ ผมเลยเดินแยกตัวกลับเข้ามาทำงานของตัวเองในห้อง ขณะพยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดความคิดแย่ ๆ ในหัวออกไป
“อย่าทำตัวงี่เง่านักเลยทิว”
ความคิดและอารมณ์พวกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับผมเลยสักนิด
“ตรงนี้เหรอคะ แล้วถ้าเป็นตัวนี้”
“เธอสามารถจะวางเรียงกันได้แบบนี้ทั้งสามชิ้น เพราะถ้าลูกค้าสนใจจะซื้อสินค้าตัวนี้ ก็ต้องหยิบตัวนี้ไปด้วยอีกชิ้นอยู่แล้ว”
“อ่อ..”
“และชิ้นนี้ราคาไม่สูงมาก ไม่ยากเลยที่ลูกค้าจะตัดสินใจหยิบเพิ่มไปได้อีกชิ้น”
“คุณนัทเก่งจังเลยนะคะ ดาวอยากเก่งให้ได้แบบคุณนัทบ้างจัง”
“มันก็แค่เป็นสิ่งที่ฉันเรียนมา” ผมแอบมองมันที่ตอนนี้หันกลับไปสนใจสิ่งอื่นแล้ว “ว่างแล้วก็ไปช่วยคนอื่นที่หน้าร้านเถอะ”
“ให้ดาวช่วยคุณนัทที่นี่ก็ได้นะคะ”
“บอกให้ทำอะไรก็รีบไปทำ ไม่ต้องพยายามทำในสิ่งที่มันนอกเหนือคำสั่ง”
“เอ่อ..”
“คุณนัททำอะไรอยู่ครับ” ผมเอ่ยปากถามแบบตั้งใจที่จะขัดจังหวะ “ไม่ร้อนเหรอครับ”
“หึ” มันหัวเราะในลำคอขณะก้มลงมองแขนตัวเองที่ถูกผมเกาะ “เช็คของ”
“ให้ผมช่วยนะครับ”
“บัญชีมึงเสร็จแล้วหรือไง”
ผมนิ่งไปเมื่อถูกถามอย่างนั้น ก็จะให้ตอบว่ายังไง จะให้ผมตอบว่ายังทำไม่เสร็จ เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่ไม่เห็นมันอยู่ใกล้ ๆ และยิ่งรู้สึกไม่สบายใจหนักมากขึ้นไปอีก เมื่อคิดได้ว่ามันอาจจะมาขลุกอยู่หลังร้านกับเด็กใหม่ที่พยายามทำตัวสนิทสนมกับมันจนเกินเหตุก็ได้แบบนี้
“รู้แล้ว เดี๋ยวกูตามไป”
“ครับ ?”
“เช็คของพวกนี้อีกไม่กี่ชิ้นก็จะเสร็จแล้ว มึงกลับเข้าไปทำงานของตัวเองต่อเถอะ อย่าคิดมาก”
“ผม..”
“หึ ๆ”
สุดท้ายผมก็ต้องแบกความอายจากการกระทำของตัวเองกลับมาที่ห้องอย่างที่มันบอก นึกแล้วก็ได้แต่มุดหน้าตัวเองลงที่โต๊ะเพราะหวังว่าจะลบล้างความอายลงได้บ้าง
นี่ผมเผลอปล่อยให้ตัวเองทำอะไรลงไปกัน
“เลิกมุดหน้ากับโต๊ะได้แล้ว”
“คุณนัท”
“จะอายอะไรนักหนา”
“ผมเปล่า..”
“อย่าปฏิเสธเลย” มันว่าแล้วเดินเข้ามาใกล้ ๆ “จะพูดให้กูดีใจหน่อยไม่ได้เหรอ”
“...”
“กูดีใจนะที่เห็นมึงทำแบบนั้น”
“คุณนัท..”
“อย่างที่กูเคยบอก” มันยกมือขึ้นมาลูบหัวผม “ค่อย ๆ รักกู”
“...”
“แค่วันละนิดก็ยังดี”
“คุณนัท” ผมยกแขนขึ้นกอดมัน “ผม..”
“กูไม่ได้เร่งมึง”
“...”
“ก็แค่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้างก็แค่นั้น”
“...”
“เหมือนอย่างวันนี้”
“ผมรู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ แหละครับ” ผมสารภาพ เพื่อให้มันได้รับรู้ถึงความรู้สึกของผมกลับไปบ้าง “ยิ่งเห็นเด็กคนนั้นทำท่าสนใจคุณ ผมยิ่ง..”
“กูรู้”
“...”
“เพราะงั้นกูถึงพยายามแสดงออกให้มันชัดเจน”
“...”
“มึงก็รู้ว่ากูรักมึง”
“ขอบคุณนะครับ”
“อย่าคิดมาก”
ผมได้แต่ตอบกลับมันไปเบา ๆ ในใจ ว่าจะพยายาม
.
.
.
“ปีใหม่ทั้งทีพวกเราไปทำกิจกรรมร่วมกันบ้างก็ดีนะคะ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก เห็นด้วยไปกับสิ่งที่พนักงานในร้านพูด “ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา ยังไม่เคยไปไหนหรือกินอะไรกันครบทีมเลยสักครั้ง”
“แล้วอยากไปไหนกันล่ะ” ผมเอ่ยปากถามเอง เมื่อเห็นว่ามันไม่มีทีท่าจะสนใจอะไร “ลูกทะเลกันอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเมืองภูเขา ไปชมหมอกกันบ้างดีไหม”
“อูย..ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะคุณทิว แค่พาไปปิ้งย่างอะไรริมหาดก็พอใจแล้วค่ะ”
“ใช่ค่ะ เพราะปีใหม่ทั้งทีเราก็ยังอยากอยู่กับครอบครัว”
“อ่า..งั้นเหรอ” ผมยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อเมื่อบรรดาสาว ๆ พูดอย่างนั้น “แล้วจะไปที่ไหนกันดีล่ะ”
“บ้านคุณนัทได้ไหมคะ” พวกเราหันไปมองหน้าดาวกันเป็นจุดเดียวทุกคน นี่ดาวรู้ด้วยเหรอว่าบ้านของผมกับมันอยู่ที่ไหน ทั้ง ๆ ที่พนักงานในร้านบางคนที่ทำงานมาตั้งหลายปียังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ “เอ่อคือ..พอดีวันนั้นดาวขับรถผ่านแถวนั้น ก็เลยเห็นคุณนัทกับคุณทิวน่ะค่ะ”
“ไปกินที่ร้านดีกว่า” มันพูดขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรดาว “หาร้านติดทะเลบรรยากาศดี ๆ สักร้าน”
“...”
“จะต้องไม่ต้องเหนื่อยเตรียมของเอง เหนื่อยเก็บกวาดอีก” มันบอกเมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบเสียงไป “ตกลงตามนี้”
แล้วผมก็ต้องเป็นคนเลือกหาร้าน โทรจองโต๊ะ ก่อนจะตัดสินใจพาทุกคนไปเลี้ยงในเย็นวันนั้นเลย เมื่อมันพูดว่าอยากจะหยุดยาวในช่วงวันปีใหม่เพื่อจะได้อยู่กับผมสองคนแบบเป็นส่วนตัว
“ว้าว คุณทิวจองโต๊ะติดริมทะเลด้วยเหรอคะเนี้ย”
ผมส่งยิ้มเป็นคำตอบไปให้ ก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นบรรดาสาว ๆ แย่งกันนั่งติดริมทะเล “จะแย่งกันทำไม นั่งตรงไหนก็ยังได้รับลม ยังเห็นทะเลเหมือนกันหมดอยู่ดี”
“มันเป็นความภาคภูมิใจที่สามารถเอาชนะคนอื่นได้น่ะค่ะคุณทิว” ผมหันไปมองเมื่อดาวพูดออกมาอย่างนั้น “ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้”
“ตลกดีนะครับ” ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อดาวทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ มัน
“มานั่งตรงนี้” ผมหันไปมองมันที่ขยับตัวให้ผมทั้งที่เก้าอี้ของมันแทบจะไม่เหลือที่แล้ว “หรือจะแยกไปนั่งกันเองอีกโต๊ะ”
“นั่งตรงนี้ก็ได้ครับ”
แล้วผมก็ต้องพาตัวเองไปนั่งลงเบียดกับมันบนเก้าอี้ตัวเดียว ถึงมันจะไม่ถึงขั้นต้องนั่งตักกัน แต่ขาข้างหนึ่งของผมก็วางพาดบนขามันไปแล้ว
“ให้ดาวสั่งเด็กเอาเก้าอี้มาเพิ่มดีไหมคะ”
ผมต้องหุบปากที่กำลังจะตอบรับความมีน้ำใจของดาวไป เมื่อถูกมันแย่งตอบกลับไปก่อนว่า “ไม่เป็นไร”
“สั่งอาหารกันเลยดีกว่าครับ” ผมบอกทุกคนก่อนจะหันมาถามคนข้างตัว “เหมือนเดิมนะครับ”
“อืม”
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ทุกคนก็ชวนกันพูดคุยระหว่างรอก่อนจะเปลี่ยนเสียงหัวเราะครื้นเครงเมื่ออาหารทยอยมาเสิร์ฟแล้ว ผมหยิบกุ้งหยิบปูมาใส่จานเพื่อแกะให้ตัวเองและมันเหมือนทุกที ทำด้วยความเคยชินโดยลืมไปว่าวันนี้มีคนอื่น ๆ มาด้วย
“คุณทิวดูแลคุณนัทดีจังเลยนะคะ”
ผมชะงักมือที่กำลังแกะเปลือกกุ้งแล้วหันไปส่งยิ้มเขิน ๆ ให้กับดาว “ทำมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ”
“ดูเป็นพี่น้องที่รักกันดีจังเลยนะคะ”
ผมไม่รู้ว่าดาวพูดออกมาด้วยเจตนาที่อยากจะประชดหรือเปล่า แต่ที่ผมมั่นใจเลยก็คือ การกระทำระหว่างเราที่แสดงออกต่อหน้าคนอื่นนั้น เราไม่เคยแสดงออกมาในแง่ความเป็นพี่น้องอย่างที่สถานะทางสังคมของเรามันบอกอย่างนั้นเลยสักนิด ยิ่งกับคำพูดและการกระทำหลาย ๆ อย่างที่มันทำกับผม มันยิ่งไม่ใช่
“ปลาหมึก” มันวางเนื้อปลาหมึกลงมาในจานผม “ชอบไม่ใช่เหรอ”
“ขอบคุณครับ”
“หวานกันจังเลยนะคะ”
จีเอ่ยปากแซวเหมือนตั้งใจจะประชดดาว ที่ผมรู้ก็เพราะว่าเราค่อนข้างจะสนิทกัน จีเป็นคนตรง ๆ ออกจะห้าวเกินผู้หญิงมากไปด้วยซ้ำ จีเป็นคนขยันไม่เคยปฏิเสธงาน ไม่ว่าจะหนักหรือจะเบาแค่ไหนจีก็ตั้งใจทำโดยไม่บ่นสักคำ ยิ่งกับเรื่องของน้ำใจ จียิ่งมีมากเสียจนผมนับถือ
“คุณทิวชอบปลาหมึก แล้วคุณนัทล่ะคะ” ดาวยังพยายามจะคุยกับมัน “ต้มยำทะเลนี่ก็น่าอร่อย ให้ดาวช่วยตัก..”
“ตักให้ตัวเองกินไปเถอะ” มันโพล่งออกมาทั้งที่ดาวยังพูดไม่จบ “สนใจแต่เรื่องของตัวเองก็พอ”
“ปูครับ” ผมพูดขัดจังหวะ เมื่อเห็นว่ามันเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว “คุณนัท”
“กลับเถอะ”
“ครับ ?”
“จีช่วยจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ที” มันไม่สนใจผม แต่หันไปยื่นเงินให้จี “ขาดเหลืออะไรก็สั่งกันเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ไม่มากไปเหรอคะ” จีถามขณะยื่นมือมารับเงิน
“ที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อขนมกินกันที่ร้านคราวหลังก็ได้”
ผมยิ้มไปกับความใจดีของมัน ก่อนจะถูกดึงแขนให้ลุกขึ้นเดินตามมันออกมาขึ้นรถ “คุณนัทครับ”
“กูไม่อยากอยู่ให้หงุดหงิดจนเผลอไล่ใครออก”
“...”
“เข้าใจหน่อยนะ”
“ครับ” ผมยิ้มไปกับใบหน้าบึ้ง ๆ ของมัน “ไว้ผมกลับไปต้มข้าวต้มทะเลให้ทานดีกว่านะครับ”
“...”
“เมื่อเช้าผมรื้อตู้เย็นดู เจอกุ้งกับปลาหมึกเหลืออยู่”
“อืม”
“ขอบคุณนะครับ”
ขอบคุณที่ห่วงใยความรู้สึกของผม ขอบคุณที่แสดงออกให้ผมเห็นอย่างชัดเจนเสมอว่าคุณรัก
Ma-NuD_LaW
งงๆ ที่วันนั้นมันอัพไม่ขึ้น .. น่าจะมีปัญหาที่เครื่องคอมผมอ่ะ
ลงตอนพิเศษอีกตอน พร้อมแจ้งเรื่องรวมเล่มนะครับไอดีซื้อขายของสำนักพิมพ์
[PRE-ORDER] Bitch or Friend?
โดย Ma-NuD_LaW (ลิงภูเขา)
ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม - 15 พฤศจิกายน 2558
หนังสือจะสามารถทยอยจัดส่งได้ช่วงประมาณเดือนธันวาคมนะคะ
หนังสือมีจำนวน 1 เล่ม ราคา 360 บาท
ของแถมในเล่มจะมีที่คั่นค่ะ
***กรุณาโอนเงินภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558***
ตอนพิเศษในเล่ม
- 0880 (ลงในเว็บ)
- หวง (ลงในเว็บ)
- บ้านของแม่
- ช็อกโกแลต
- รัก
- ลายเซ็นต์
- ขี้อิจฉา
- วันธรรมดา
ดูรายละเอียดตามนี้เลยค่า >>>
http://haiihouse.lnwshop.com/product/8/bitch-or-friend