“อื้อ..”
“ผม..ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือสอบเลยนะครับ..”
“คุณนัท อื้อ..”
ไม่สนใจจะฟัง..ไม่คิดจะรับรู้ด้วยซ้ำว่าผมต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง มันเอาแต่ลากผมขึ้นเตียง..ไม่ก็ตามป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวผมไม่ยอมหยุด นี่มันจะยึดเวลา..ยึดชีวิตของผมไปแบบนี้เพื่ออะไร
.
.
“ทำไมถึงทำท่าเหมือนไม่อยากไป..” มันถามตอนแวะพามิวเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน “ทั้งที่ตอนเด็กๆ กูเห็นมึงนั่งจ้องทะเลไม่ยอมหยุด..”
“...”
“ทิว !!”
“ผมเปล่าครับ..” ผมบอกมันแบบเบื่อๆ “ผมแค่กลัวจะอ่านหนังสือไม่ทัน..”
“กูก็เห็นมึงขนหนังสือมาแล้ว..”
“คุณนัทอยากดื่มอะไรไหมครับ..กาแฟไหม” ผมถาม..พยายามเปลี่ยนเรื่อง “ผมจะลงไปซื้อให้”
“ไม่ต้อง !!”
มันไม่พูดอะไรอีก..แค่นั่งจ้องหน้าผมผ่านกระจกมองหลังเงียบๆ จนกระทั่งมิวมา ผมขยับตัวเข้าไปชิดหน้าต่างมากขึ้น..เมื่อมันออกรถ มองริมถนนโล่งๆ ที่แทบไม่มีไม้ยืนต้นด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองในใจ..
ผมเบื่อ..เบื่อที่จะต้องทนให้มันบังคับจิตใจผมแบบนี้..
.
.
“ทิวนอนห้องเล็กก็แล้วกันนะ..เดี๋ยวมิวนอนห้องเดียวกับนัท” มิวบอกเมื่อได้กุญแจบ้านพักมาแล้ว..
“ครับ..”
มันเหลือบตามามองผมเล็กน้อย..ก่อนจะหันไปช่วยมิวถือกระเป๋าไปที่บ้านพัก ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง..ก่อนจะยกกระเป๋าแล้วเดินตามมันไปเงียบๆ บ้าง บรรยากาศที่นี่ดีมากครับ..จัดว่าดีมาก แต่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้รู้สึกอยากจะเห็นเท่าไร เพราะผมเบื่อ..เบื่อคนที่บังให้ผมต้องมาด้วย
.
.
“งั้นแยกย้ายกันไปพักผ่อน..แล้วเย็นๆ ค่อยออกไปหาอะไรกินพร้อมกันนะ..”
“ครับ”
ผมรับคำ..ก่อนจะปลีกตัวเข้าห้องตัวเองไป อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเย็น เรามาทะเลพัทยากัน..เพราะมิวออกปากอยากมาเที่ยวทะเลใกล้ๆ เพื่อคลายเครียดก่อนลุยอ่านหนังสือสอบเท่านั้น
“อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเย็น..”
ผมพึมพำบอกตัวเอง..แล้วทิ้งตัวลงนอนหลับตานิ่งบนเตียง คิดว่าถ้าจะหลับก็หลับไปเลย..หรือถ้าไม่ก็ขอพักสายตาสักพัก ก่อนจะลุยอ่านหนังสือที่หยิบใส่กระเป๋ามาด้วยแล้วกัน
.
.
“ตื่น !”
“อืม..” ผมส่งเสียงในลำคอ..รู้สึกหงุดหงิดกับแรงเขย่าบนตัวเล็กน้อย “คุณนัท !”
“เออ !” มันผละออกจากตัวผม “จะกินไหมข้าว..ถ้าจะกินก็รีบลุก”
“ครับ..”
ผมลนลานลุกจากที่นอน..ก่อนจะรีบเดินเข้าไปล้างตาล้างตาที่ในห้องน้ำ แล้วรีบออกมาสบทบกับมัน มิวดูหน้าตึงเล็กน้อย..คงไม่พอใจที่ต้องมายืนรอผมแบบนี้
“ขอโทษนะครับ..” ผมก้มหัวลงเล็กน้อย
“รีบไปกันเถอะ..มิวหิวแล้ว”
มันหันมาส่งสายตามาให้เหมือนคาดโทษ..ก่อนจะลากแขนผมให้รีบเดินตามมิวไป ผมจ้องมองข้อมือตัวเองที่ถูกมันดึงไว้ด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจ มันจะมีสักครั้งไหม..จะมีสักครั้งหรือเปล่าที่ผมจะได้ทำอะไรโดยที่ไม่ต้องถูกบังคับแบบนี้ !
.
.
“ผมว่าคุณมิวดื่มเยอะไปแล้วนะครับ..” ผมเอ่ยปาก..เมื่อเห็นว่ามิวเริ่มจะทรงตัวไม่ไหวแล้ว “คุณนัท..”
“...” มันมองหน้าผมเงียบๆ ไม่พูดอะไร..ดูมันจะไม่สนใจอะไรเลย แม้กระทั่งมิวที่ตอนนี้แทบจะเลื้อยขึ้นไปนั่งบนตักมันแล้วด้วยซ้ำ
“มิวยังไม่เมา..” คนเมาก็ยังเอาแต่พูดว่าตัวเองไม่ได้เมา “ขอดื่มอีกนิดหนึ่งนะทิว..”
“กลับไปดื่มที่ห้องดีไหมครับ..” ผมบอก..เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเมาที่ห้องก็ยังอุ้มพาไปนอนได้ง่ายๆ “นะครับคุณนัท”
“หึ” มันหัวเราะในลำคอ..ก่อนจะหันไปซุบซิบอะไรกับมิวสองคน “รีบจ่ายเงินแล้วตามไปที่รถ”
ผมยื่นมือไปรับกระเป๋าตังค์ที่มันโยนมาให้..ในขณะที่มันหันไปพยุงมิวให้ยืนขึ้นแล้วพาไปที่รถก่อน ผมเลยรีบเรียกพนักงานให้มาเก็บเงิน..ก่อนจะรีบตามมันไปที่รถทันที
ตลอดทางมิวก็เอาแต่ส่งเสียงอ้อแอ้..อ้อนมันไป ทั้งกอดทั้งหอม..นัวเนียกันจนแทบจะได้เสีย ผมนั่งมองภาพพวกนั้นด้วยความสงสาร..สงสารพ่อแม่ของมิวน่ะครับ ที่ลูกสาวทำตัวแย่ๆ แบบนี้ แต่พอมาคิดดูจริงๆ มิวเองก็น่าสงสารเหมือนกัน..น่าสงสารที่มาหลงรักคนอย่างมันแบบนี้
.
.
“เก็บกวาดให้เรียบร้อยแล้วก็ไปนอนซะ”
“ครับ..”
ทันทีที่มันปิดประตูห้อง..ผมก็หันมาตั้งหน้าตั้งตาเก็บข้าวของที่มิวปัดหล่นกระจัดกระจายไปเมื่อมาถึง มิวเมามากแล้วครับ..แทบไม่มีสติด้วยซ้ำ มันเลยต้องลากเข้าไปนอนแบบนั้น..
“หึ..”
ผมส่งเสียงในลำคอ..ก่อนจะหยิบซองถุงยางที่ยังไม่ได้แกะขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟา ไม่รู้ว่ามันจะมีสำรองอยู่หรือเปล่า..เพราะที่หล่นเรี่ยราดอยู่นี่ก็สองชิ้นเข้าไปแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ..ผมไม่คิดจะแคร์อยู่แล้วว่ามิวจะท้องหรือเปล่า เผลอๆ มิวอาจจะนึกขอบคุณผมด้วยซ้ำ..เพราะถ้าท้องมิวก็จะได้แต่งงานกับมันได้เร็วขึ้น..
น่าตกใจในความคิดแบบนี้ของตัวเอง..ความคิดที่ดูเลวร้ายเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ นี่ผมสามารถทนเห็นคนๆ หนึ่งหมดอนาคตไปต่อหน้าต่อตาได้เลยจริงๆ เหรอ..
“แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับผมนี่นา..”
ดีซะอีก..ถ้ามันต้องแต่งงานกับมิวจริงๆ มันอาจจะเลิกยุ่งกับผมไปเลยก็ได้ เท่าที่คิดๆ ดู..มันก็มีแต่ข้อดีทั้งนั้น ไม่เห็นจะมีข้อเสียอะไรกับผมเลย..
.
.
ผมออกมาเดินเล่นที่ชายหาด..หลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จ เดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดนั่งมองดูทะเลที่ตอนนี้มืดจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร
ทะเลสีคล้ำ..ที่มีแต่คลื่นลมรุนแรงในยามค่ำคืน ทำให้ผมหงุดหงิดในหัวใจแปลกๆ ผมไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มเกลียดทะเลตั้งแต่ตอนไหน..ทั้งที่ตอนเด็กๆ ผมยังมีความสุขมากเมื่อครอบครัวมันใจดีพาเด็กเก็บมาเลี้ยงอย่างผมมาเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรก
“มานั่งทำอะไรตรงนี้..” ผมหันไปมองมันที่เดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม “ดึกขนาดนี้แล้วคงไม่มีใครมานั่งรอให้มึงมาอ่อยหรอก..”
“...”
“เป็นอะไร..ออกจากห้องมาทำไมดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
“...”
“ไอ้ทิว !”
“แค่มานั่งรับลมน่ะครับ..”
“หึ..”
ผมนั่งเงียบๆ ต่อไป..ไม่คิดจะสนใจอะไรมันอีก เอาสิ..อยากนั่งก็นั่งไป ผมเองก็อยากรู้ว่ามันจะทนได้สักกี่น้ำ..และถ้าเกิดผมอยากจะนั่งอยู่นี่จนถึงเช้า มันจะทนนั่งกดดันผมได้ถึงตอนนั้นหรือเปล่า..
“ไม่อยากมาที่นี่หรือไง..”
“...”
“กูถามได้ยินไหม !”
“เปล่าครับ..” ผมยกเข่าขึ้นมากอดเอาไว้ “ก็แค่คิดถึงทะเลที่กระบี่..”
“หืม..”
“เป็นทะเลที่แรกที่ผมเคยเห็น..” ผมบอกแล้วนึกถึงครั้งแรกที่ได้เห็นทะเลใกล้ๆ แบบนี้
“งั้นเหรอ..”
“...”
“ลุก !” จู่ๆ มันก็ลุกขึ้นยืน..ก่อนจะพยายามดึงผมให้ลุกขึ้นตาม “กูบอกให้ลุกไง !”
“จะไปไหนครับ..”
“...” มันไม่ตอบอะไร..ทำแค่ลากผมให้เดินตามมันไป
“คุณนัท..”
“ก็มึงอยากไปกระบี่ไม่ใช่หรือไง”
“แต่..แต่คุณมิว..”
“ช่างมันสิ..”
ผมไม่ได้พูดได้ถามอะไรอีก..ทำได้แค่นั่งนิ่งๆ ตอนมันเริ่มออกรถ ผมหันไปมองมันที่กำลังขับรถแบบไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร..ก่อนจะหันกลับมามองถนนตรงหน้าอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่เผลอผุดขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว
ไม่รู้สิครับ..ว่าทำไมในหัวผมตอนนี้มันคิดอะไรบางอย่างแปลกๆ ออกมาได้แบบนี้ก็ไม่รู้
Ma-NuD_LaW
ต่อไปใครพูดว่าสั้น .. จะโดน
ตอนนี้ยาวกว่าปกติแล้วนะ
สุดท้าย..อย่าทำร้ายคนเขียน..และอย่าเม้นดักทาง